Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311232
ทั่วไป:13180099
ทั้งหมด:13491331
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวเกี่ยวกับ "ที่ดิน" ของ "รฟท."
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวเกี่ยวกับ "ที่ดิน" ของ "รฟท."
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 117, 118, 119 ... 197, 198, 199  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 07/08/2015 5:56 pm    Post subject: Reply with quote

ดึงกลุ่มทุนเช่า50ปีสถานีบางซื่อ รถไฟเปิดขุมทรัพย์พัฒนา3โซน3หมื่นล.ปั้น"ฮับเอเชีย"
วันที่ 06 สิงหาคม พ.ศ. 2558 เวลา 17:05:24 น.




การรถไฟฯ เร่งตีปี๊บที่ดินรอบสถานีกลางบางซื่อ 218 ไร่ รับรถไฟฟ้าสายสีแดง ดึงเอกชนไทยอสังหาฯ-ค้าปลีก-โรงแรม ธุรกิจใต้ปีกเจ้าสัวเมืองไทย มาครบทั้ง"ทีซีซีแลนด์-ซีพี-บีทีเอสกรุ๊ป-สิงห์เอสเตท" พ่วงนักลงทุนต่างชาติ จีน ญี่ปุ่น ฮ่องกง มาเลเซีย จุดพลุคอนโดฯ-โรงแรม-ศูนย์การค้า-ศูนย์แสดงสินค้า เปิดทางเช่ายาว 50 ปี ต่อสัญญาอีก 50 ปี คาดใช้เงินลงทุน 30,800 ล้าน แบบเสร็จสิ้นปีนี้ เริ่มหาเอกชนร่วมลงทุนปลายปี′59



แหล่งข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ได้เชิญบริษัทเอกชนไทยและต่างชาติกว่า 100 บริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯ ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ศูนย์การค้า โรงแรม และศูนย์ประชุม เช่น บมจ.แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์, บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท,บมจ.ศุภาลัย, บมจ.แสนสิริ, บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้ง, บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์, บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์, บมจ.สิงห์เอสเตท, กลุ่มซีพี, กลุ่มทีซีซีแลนด์, กลุ่มเดอะมอลล์, กลุ่มเซ็นทรัล, บมจ.ช.การช่าง, บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ เป็นต้น ส่วนบริษัทเอกชนจากต่างประเทศ เช่น จีน ญี่ปุ่น ฮ่องกง มาเลเซีย เป็นต้น

มาร่วมงานทดสอบความสนใจ หรือ Market Sounding วันที่ 5 ส.ค. 2558 เพื่อเสนอแนะรูปแบบการพัฒนาที่ดินย่านบางซื่อ จำนวน 218 ไร่ อยู่ใกล้กับสถานีกลางบางซื่อของรถไฟฟ้าสายสีแดงช่วงางซื่อ-รังสิตที่กำลังสร้าง กำหนดเปิดบริการปลายปี 2560 หรืออย่างช้าปี 2561-2562

"เปิดให้เอกชนเสนอแนะการพัฒนาที่เหมาะสม ส่วนการลงทุนยังไม่สรุป รอฟังข้อคิดเห็นเอกชนจะให้เช่า 30 ปี 40 ปี และ 50 ปี หรือร่วมลงทุนรูปแบบ PPP ตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนปี 2556 แต่มีแนวโน้มจะให้เอกชนเช่า 50 ปี ต่ออีก 50 ปี เพราะ 30 ปีคงจะไม่คุ้ม" แหล่งข่าวกล่าว

เปิด 3 โซน 3 หมื่น ล.

สำหรับที่ดิน 218 ไร่ จะแบ่งพัฒนาเป็น 3 โซน มูลค่าลงทุนรวม 30,800 ล้านบาท ได้แก่ โซนเอ พื้นที่ 35 ไร่ อยู่ด้านหลังศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ทางบริษัทที่ปรึกษาเสนอให้พัฒนาเป็นอาคารสำนักงาน โรงแรม การขนส่งรูปแบบต่อเนื่อง เพราะอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าบางซื่อ และอนาคตจะเป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางระบบราง มูลค่าลงทุน 6,800 ล้านบาท โซนบี พื้นที่ 78 ไร่ อยู่ใกล้ตลาดนัดจตุจักร ทางที่ปรึกษาเสนอแนะให้พัฒนาเป็นอาเซียนมอลล์ มีศูนย์การค้า และศูนย์แสดงสินค้า เพราะจะเชื่อมกับตลาดจตุจักรและตลาด อ.ต.ก. มูลค่าการลงทุน12,000 ล้านบาท และโซนซี พื้นที่ 105 ไร่ ใกล้กับสถานีขนส่งหมอชิต และศูนย์รถเมล์ ขสมก.

เมื่อหักพื้นที่สถานีขนส่งหมอชิตที่ขอใช้พื้นที่ 16 ไร่ และพื้นที่ก่อสร้างทางด่วนขั้นที่ 2 จะเหลือพื้นที่พัฒนาได้จริง ประมาณ 85 ไร่ ขณะที่พื้นที่มีข้อจำกัดเพราะเป็นพื้นที่ก่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุง จะมีรางรถไฟอยู่ด้านล่าง และจากข้อจำกัดดังกล่าวจึงได้เชิญเอกชนมาหลายส่วน ทั้งคอนโดมิเนียม อาคารสำนักงาน โรงแรม โรงพยาบาล ศูนย์กีฬา เพื่อหารือการพัฒนาให้เหมาะสมมูลค่าการลงทุน 12,000 ล้านบาท

สำหรับพื้นที่โซนซี อนาคตจะพัฒนาต่อเนื่องกับที่ดิน กม.11 พื้นที่ 359 ไร่ในย่านเดียวกัน ที่บริษัทบีทีเอสฯสนใจจะลงทุนก่อสร้างรถไฟฟ้าโมโนเรล คอนโดมิเนียม รองรับพนักงาน ร.ฟ.ท.และผู้มีรายได้ปานกลางเช่ายาว 10-30 ปี จำนวน 10 อาคาร ประมาณ 1 หมื่นยูนิต พื้นที่ใช้สอย 42 และ 56 ตร.ม. และยังมีพื้นที่เชิงพาณิชย์ เช่น ศูนย์การค้า โรงพยาบาล

ศึกษาเสร็จปีนี้-พัฒนาปีหน้า

ส่วนขั้นตอนหลังจากรับฟังข้อเสนอของเอกชน แหล่งข่าวกล่าวว่า จะสรุปเสร็จ ก.ย.นี้ จากนั้นเร่งศึกษารายละเอียดให้เสร็จสิ้นปี 2558 คาดว่าจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) และออกประกาศร่างทีโออาร์เชิญเอกชนมาพัฒนาโครงการปลายปี 2559 การพิจารณาจะทำตามขั้นตอน พ.ร.บ.ร่วมทุนปี 2556 จะเริ่มพัฒนาปี 2560-2562 พร้อมกับรถไฟฟ้าสายสีแดงเปิดใช้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงการพัฒนาที่ดิน 218 ไร่ เป็นนโยบายเร่งด่วนของนายออมสิน ชีวะพฤกษ์ ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) ร.ฟ.ท. ก่อนหน้านี้ นายออมสินกล่าวว่า ให้ ร.ฟ.ท.ศึกษารายละเอียดพัฒนาเชิงพาณิชย์รอบสถานีกลางบางซื่อ 218 ไร่ มาพัฒนาก่อนเพราะไม่ติดโยกย้ายชุมชนเหมือนแปลงอื่น จึงมีแนวโน้มที่จะพัฒนาได้รวดเร็วและเพิ่มรายได้ให้ ร.ฟ.ท. จากปัจจุบันมีรายได้พัฒนาที่ดินเฉลี่ย 1,500 ล้านบาทต่อปี

"ย่านบางซื่อและพหลโยธินมี 2,325 ไร่ รถไฟพัฒนาแล้ว 39 แปลง แต่เก็บรายได้ค่าเช่ายังไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย จะนำพื้นที่รอบสถานีกลางบางซื่อมาพัฒนาต่อยอดสร้างรายได้เพิ่ม เหมือนโมเดลของญี่ปุ่น" นายออมสินกล่าวและว่า

คอนเซ็ปต์การพัฒนาจะเป็นศูนย์กลางพาณิชยกรรมครบวงจร มีศูนย์การค้า ร้านค้า สำนักงาน และโรงแรม ที่เป็นจุดศูนย์รวมนัดพบของคน เพราะที่นี่เป็นชุมทางของการเดินทางของคนทุกภาค ไม่ว่าจะไปเหนือ ใต้ หรืออีสาน สถานีกลางบางซื่อในอนาคตจะเป็นศูนย์กลางของการเดินทาง ทั้งรถไฟชานเมือง รถไฟทางไกล รถไฟฟ้า รถ บขส. รถเมล์ จะให้เอกชนลงทุนระยะยาว 30 ปี 40 ปี 50 ปี อยู่ที่ข้อเสนอของเอกชน รถไฟไม่ต้องลงทุนแค่นำที่ดินให้เอกชนลงทุน

ปั้นฮับระบบรางใหญ่สุดในเอเชีย

นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการการรถไฟฯ เปิดเผยว่า อยู่ระหว่างจัดทำโครงการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์บริเวณสถานีกลางบางซื่อ เป็นศูนย์กลางการเดินรถไฟ เพื่อบริหารจัดการพื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเป็นการเพิ่มมูลค่าทรัพย์สินของ ร.ฟ.ท. จะนำแนวคิด TOD (Transit Oriented Development) การบูรณาการพัฒนาเศรษฐกิจของเมืองสำหรับพื้นที่พาณิชยกรรมกับการคมนาคมขนส่งเข้าด้วยกัน มาใช้เป็นแนวทางในการศึกษาโครงการ ปัจจุบันกำลังศึกษาศักยภาพพื้นที่ วิเคราะห์ความเหมาะสมการตลาด และการออกแบบพัฒนาพื้นที่จะเสร็จ ก.ย.นี้

"พื้นที่รอบสถานีกลางบางซื่อมีศักยภาพสูงพัฒนาเชิงพาณิชย์ เมื่อรถไฟสีแดงเสร็จจะเป็นศูนย์กลางการเดินทางและคมนาคมขนส่งของกรุงเทพฯและภูมิภาคต่าง ๆ มีทั้งรถไฟฟ้าใต้ดิน บีทีเอส รถไฟทางไกล รถไฟความเร็วสูง รวมถึงรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์เชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง สุวรรณภูมิ และอู่ตะเภา หากโครงการสำเร็จจะเป็นการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ครั้งแรกของ ร.ฟ.ท. ที่จะเพิ่มมูลค่าของที่ดินเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งขนาดใหญ่ให้ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้"
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 11/08/2015 7:29 pm    Post subject: Reply with quote

รฟท.ชวนเอกชนพัฒนา 218 ไร่ ปั้นสถานีกลางบางซื่อเป็นฮับรถไฟอาเซียน


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
9 สิงหาคม 2558 07:26 น. (แก้ไขล่าสุด 9 สิงหาคม 2558 07:44 น.)

นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ ประธานคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึง โครงการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์บริเวณสถานีกลางบางซื่อว่า มีเป้าหมายให้เป็นศูนย์กลางการเดินรถไฟ และให้เป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองรับการเดินทางด้วยระบบรางทั่วประเทศ

ทั้งนี้ จากการรับฟังความคิดเห็นจากนักลงทุนจากในและต่างประเทศ มีความสนใจเข้ามาร่วมโครงการ โดยรฟท. แบ่งการพัฒนาพื้นที่รอบสถานีกลางบางซื่อจำนวน 218 ไร่ จะแบ่งออกเป็น 3 โซน คือ โซนเอ จะพัฒนาเป็นสมาร์ท บิสซิเนส คอมเพล็กซ์ (Smart Business Complex) โซนบีพัฒนาเป็น อาเซียน คอมเมอร์เชียล แอนด์ บิสซิเนส ฮับ (ASEAN Commercial and Business Hub) โซนซีจะพัฒนาเป็น สมาร์ท เฮลธี แอนด์ ไวแบรนท์ ทาว์น (Smart Healthy and Vibrant Town) งบประมาณลงทุนรวม 68,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ โซนดี จะพัฒนาเป็นจุดเปลี่ยนถ่ายและศูนย์กลางสำหรับเชื่อมการเดินทาง

ทั้งนี้คาดว่าจะขออนุมัติคณะรัฐมนตรีให้ใช้กระบวนการ พ.ร.บ.ร่วมทุนระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน หรือพีพีพี ช่วงปลายปีนี้ และจะเปิดให้บริการได้ในปี 2562 ส่วนการพัฒนาที่ดินจะพัฒนาในทุกโซน โซนละ 5 ปี
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 13/08/2015 1:31 am    Post subject: Reply with quote

ปลุกฮับบางซื่อ 7 หมื่นล้าน บิ๊กอสังหาได้คืบเอาศอกขอเช่า 100 ปี
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
11 สิงหาคม 2558 เวลา 12:50:33 น.


นับว่าเป็นโปรเจ็กต์ที่น่าจับตาไม่น้อย เมื่อ "ร.ฟ.ท.-การรถไฟแห่งประเทศไทย" จะเนรมิต "สถานีกลางบางซื่อ" 218 ไร่ ให้เป็นฮับธุรกิจและที่อยู่อาศัยแห่งใหม่ของเอเชีย

แต่ยังเป็นที่กังขาด้วยสไตล์การทำงานแบบการรถไฟฯ แถมใช้เม็ดเงินลงทุนสูง อาจจะทำให้โปรเจ็กต์นี้ไปไม่ถึงฝั่งฝัน

"ผมเป็นคนริเริ่มโครงการตั้งแต่วันแรกมานั่งเป็นบอร์ด ไอเดียมาจากสถานีโตเกียวของญี่ปุ่น จะเร่งพัฒนาก่อนคือโซน A จะเชิญเอกชนประมูล พ.ค. 59 แล้วเสร็จปีོ เพราะต้องดำเนินการตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนปีུ จะเร่งทุกอย่างให้เร็วขึ้นอีกให้ทันกับรถไฟสายสีแดงเปิดใช้ปีེ" คำยืนยันจาก "ออมสิน ชีวะพฤกษ์" ประธานบอร์ด ร.ฟ.ท.

พร้อมสาธยายว่า พื้นที่ทั้งหมดมี 305 ไร่ แบ่งพัฒนา 4 โซน พัฒนาเชิงพาณิชย์ 3 โซน มูลค่าลงทุน 6.8 หมื่นล้านบาท แยกเป็นค่าก่อสร้าง 30,800 ล้านบาท ที่เหลือเป็นค่าดำเนินการทางการเงิน

จะใช้เวลาพัฒนา 15 ปี แบ่งเป็น 3 ระยะ ช่วง 5 ปีแรก เริ่มที่ "โซน A" 35 ไร่ อยู่ห่างจากสถานี 50-100 เมตร เหมาะพัฒนาเป็นศูนย์กลางธุรกิจครบวงจร อาคารสำนักงานและธุรกิจบริการ เช่น โรงแรม 3-4 ดาว ศูนย์อาหาร มูลค่าลงทุน 1 หมื่นล้านบาท

ระยะ 10 ปี เป็น "โซน B" 78 ไร่ อยู่ด้านตะวันออกของสถานี ห่างจากตลาดนัดจตุจักร 700 เมตร เหมาะพัฒนาเป็นย่านพาณิชยกรรม ศูนย์การค้า ศูนย์แสดงสินค้า มูลค่าลงทุน 2.4 หมื่นล้านบาท

และระยะยาว 15 ปี เป็น "โซน C" 105 ไร่ อยู่บริเวณสถานีขนส่งหมอชิต 2 และสวนสาธารณะ 3 แห่ง เหมาะพัฒนาที่อยู่อาศัยหรือเมืองใหม่ มีทั้งโรงพยาบาล โรงเรียน สปอร์ตคอมเพล็กซ์ มูลค่าลงทุน 3.4 หมื่นล้านบาท และ "โซน D" 87.5 ไร่เป็นพื้นที่เปลี่ยนถ่ายการเดินทาง เช่น ที่จอดรถ และทางเดินเชื่อม (Sky Walk)

ขณะที่เสียงสะท้อนจากนักธุรกิจภาคอสังหาฯ ศูนย์การค้า โรงแรม ศูนย์แสดงสินค้าและโรงพยาบาล ผ่านเวทีทดสอบความสนใจ (Market Sounding) วันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่างมองว่าทำเลที่ตั้งมีศักยภาพ แต่รูปแบบโครงการยังไม่ชัด ที่สำคัญเงินลงทุนสูง ต้องใช้เวลาดำเนินการหลายปีถึงจะคุ้มทุน

"นริศ เชยกลิ่น" หัวเรือใหญ่ บมจ.สิงห์ เอสเตทกล่าวว่า เป็นโอกาสสำคัญของประเทศไทยที่จะเปิดโซนพัฒนาใหม่ ถ้าสามารถผลักดันขยายระยะเวลาเช่าที่ดินจาก 30 ปี เป็น 99 ปีอย่างมักกะสัน จะมีเอกชนสนใจมากขึ้น และยังดึงดูดนักลงทุนต่างชาติด้วย ทำให้ลงทุนได้เต็มที่ เนื่องจากโครงการใช้เงินลงทุนสูง

"อยากให้กำหนดเวลาพัฒนาแต่ละโซน ให้ชัดและพัฒนาเป็นอะไร ดูแล้วมีธุรกิจที่คล้ายกันอยู่ จะแข่งขันกันเอง การลงทุนจะไม่สำเร็จ และขอให้รัฐลดภาษีที่ดิน"

ด้าน "พรนริศ ชวนไชยสิทธิ์" นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์มองว่า ไอเดียพัฒนาของรถไฟยังคลุมเครือ และจุดขายแต่ละโซนยังไม่แรง เช่น จะสร้างคอนโดมิเนียมให้เช่า ในบริเวณใกล้เคียงมีคอนโดมิเนียมที่ขายขาดอยู่แล้ว ควรสร้างจุดเด่นของพื้นที่ให้ที่ดินมีมูลค่าเพิ่ม เพราะเอกชนต้องลงทุน 6-7 เท่าของโครงการ

ส่วนผู้แทน "รสา กรุ๊ป" ระบุว่า สนใจพัฒนาอาคารสำนักงานและโรงแรมระดับ 3-4 ดาว
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 13/08/2015 1:40 am    Post subject: Reply with quote

ธนารักษ์รื้อสัญญาเช่าที่ราชพัสดุ เร่งเจรา รฟท.ส่งมอบที่ดินมักกะสันให้เร็วขึ้น
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
10 สิงหาคม 2558 เวลา 21:11:43 น.


นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า อีกไม่เกิน 4 เดือนข้างหน้า จะมีข้อสรุปการบริหารจัดการที่ราชพัสดุทั้งหมด รวมถึงการให้เช่าพื้นที่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยขณะนี้กรมธนารักษ์อยู่ระหว่างจัดทำแผนทั้งหมด

ทั้งนี้ สำหรับที่ราชพัสดุที่ให้เช่าอยู่ในปัจจุบัน ก็จะมีการตรวจสอบว่า ผู้เช่าใช้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์หรือไม่ หรือสัญญาไหนให้เช่าแล้วไม่คุ้มค่า เพื่อหาจ้อสรุปว่าต้องปรับปรุงสัญญาเช่าอย่างไร หรือต้องประมูลใหม่หรือไม่ ทั้งนี้ เพื่อให้กรมธนารักษ์มีมูลค่าเพิ่มจากการให้เช่า

นายจักรกฤศฏิ์ กล่าวด้วยว่า กรณีที่ดินมักกะสันของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ก็เช่นเดียวกันที่จะมีความชัดเจนใน 4 เดือน โดยหลังจากนี้ ดรมจะขอใช้เงินจากกองทุนเพื่อการร่วมทุนระหว่างรัฐและเอกชน มาใช้จ้างที่ปรึกษาศึกษารายละเอียดการพัฒนาพื้นที่

ขณะเดียวกันจะประสาน รฟท. ส่งมอบพื้นที่ให้แก่กรมธนารักษ์เร็วขึ้น อย่างเช่น เฟสแรก 140 ไร่ เดิมภายใน 2 ปี เป็นภายใน 1 ปีครึ่ง เพื่อให้สามารถเปิดประมูลหาเอกชนมาลงทุนเชิงพาณิชย์ได้เร็วขึ้น หรือเฟส 2 ก็เป็นภายใน 2-3 ปี จากเดิม 5 ปี เป็นต้น
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44324
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 17/08/2015 5:09 pm    Post subject: Reply with quote

โยกบชก.รถไฟจากยศเสไปบางซื่อ สร้างที่พักสูงย่านกม.11ให้คนร.ฟ.ท.
วันจันทร์ ที่ 17 สิงหาคม 2558 ฐานเศรษฐกิจ

“วุฒิชาติ” โยกกองบัญชาการร.ฟ.ท.จากยศเสมาไว้ที่ตึกแดงบางซื่อ บนพื้นที่ 105 ไร่เพื่อรับแผนพัฒนาสถานีกลางบางซื่อ เตรียมพื้นที่ย่านกม.11 ให้ ปตท.สร้างอาคารที่พักอาศัยสูง 17 ชั้น ให้คนรถไฟใช้งบ 500 ล้านบาท ส่วนค่าเช่าย่านกม.11 ปตท.ต้องจ่ายที่ 1,300 บาท แลกสัญญาเช่า 30 ปี ร.ฟ.ท.แบไต๋ไม่อยากให้ผ่อนนาน ต้องการเงินไปล้างหนี้

นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า เพื่อให้สอดคล้องแผนพัฒนาสถานีกลางบางซื่อเป็นศูนย์กลางคมนาคมระบบรางแห่งใหม่ ทางร.ฟ.ท.มีแนวคิด จะโยกกองบัญชาการร.ฟ.ท.ที่ปัจจุบันอยู่ที่ยศเสหัวลำโพงมาสร้างที่พื้นที่ 105 ไร่ย่านตึกแดงบางซื่อ ใกล้บริษัทปูนซิเมนต์ไทย ซึ่งเดิมตามแผนการศึกษาของบริษัทที่ปรึกษาจัดพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ก่อสร้างที่พักอาศัยให้กับพนักงานร.ฟ.ท. โดยจะจัดพื้นที่ย่านกม.11 ใกล้กับอาคารกลุ่มปตท. ก่อสร้างที่พักอาศัยพนักงานร.ฟ.ท.แทนโดยปตท.สนับสนุนงบประมาณไม่เกิน 500 ล้านบาท

สำหรับค่าเช่าพื้นที่ย่านกม. 11 ย่านพหลโยธินของบริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน)นั้น ในการเจรจาครั้งล่าสุดกับ ปตท.นั้นได้ความชัดเจนในระดับหนึ่งแล้วคือ วงเงินค่าเช่า 1,300 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ 1.ค่าก่อสร้างอาคารที่อยู่อาศัย จำนวน 17 ชั้น รองรับได้ 200 หน่วย ใช้งบประมาณไม่เกิน 500 ล้านบาท 2.ค่าปรับภูมิทัศน์โดยกรอบวงเงินขณะนี้ใช้ไปแล้วประมาณ 154 ล้านบาท และ 3.งบในส่วนที่เหลือทั้งหมดจัดเป็นค่าเช่าที่ปตท.ต้องจ่ายให้ร.ฟ.ท. มีกำหนดระยะเวลาเช่า 30 ปี

“งบประมาณทั้ง 3 ส่วนนั้นเป็นไปตามที่คณะกรรมการซึ่งแต่งตั้งขึ้นมาประกอบด้วยตัวแทนของร.ฟ.ท.และปตท.เจรจากันก่อนที่ผมจะเข้ามารับตำแหน่งผู้ว่าการร.ฟ.ท.แล้ว โดยเบื้องต้นแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักคือค่าเช่าค่าปรับภูมิทัศน์และค่าก่อสร้างอาคารพักอาศัยพนักงานร.ฟ.ท. ซึ่งข้อตกลงนี้ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ”

แต่ล่าสุดทาง ปตท.ขอให้ร.ฟ.ท.พิจารณาเพิ่มเติมในรายละเอียดที่เกี่ยวข้องอีก 2-3 ประเด็น โดย ปตท. ขอเช่าพื้นที่จอดรถให้กับพนักงานปตท.ส่วนหนึ่งในพื้นที่บริเวณอาคารพักอาศัยย่านกม.11 อีกด้วย ซึ่งร.ฟ.ท.เห็นว่าสามารถแบ่งพื้นที่ย่านกม.11ให้ส่วนหนึ่งได้ คาดว่าจะใช้พื้นที่ 2-5 ไร่ ส่วนความคืบหน้าว่าจะเซ็นสัญญากับปตท.ได้เมื่อไหร่นั้นคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 1-2 เดือนนี้ก่อนเสนอกระทรวงคมนาคมเห็นชอบต่อไป

ด้านพล.ท.ชาญชัย ภู่ทอง ประธานอนุกรรมการบริหารทรัพย์สิน ร.ฟ.ท.กล่าวเสริมถึงความคืบหน้าผลการเจรจาค่าเช่าที่ดินบริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) สำนักงานใหญ่ ย่านกม.11 พหลโยธินว่า เรื่องนี้สรุปผลการหารือร่วมระดับรัฐมนตรีทั้ง 2 กระทรวงและบอร์ดทั้ง 2 หน่วยงานเรียบร้อยแล้ว พบว่าค่าเช่า ปตท. สำนักงานใหญ่ รวมมูลค่าแล้ว 1,300 ล้านบาท ร.ฟ.ท.ยินยอมให้แยกผ่อนชำระ แต่ไม่ให้ระยะเวลายาวนาน โดยร.ฟ.ท.ยังต่อรองว่าของบเพื่อใช้ปลดหนี้ก่อนจำนวนหนึ่ง

“อนุทรัพย์สินร.ฟ.ท.เห็นว่าพื้นที่อาคารปตท.สำนักงานใหญ่ปัจจุบันไม่จำเป็นต้องทุบทิ้ง ส่วนพื้นที่ย่านตึกแดงซึ่งอยู่ใกล้กับบริษัทปูนซิเมนต์ไทยนั้นตามผลการศึกษาเดิมจะกำหนดให้เป็นพื้นที่ก่อสร้างอาคารที่พักอาศัยเพื่อให้เป็นสวัสดิการกับครอบครัวพนักงานร.ฟ.ท. ล่าสุดพื้นที่ดังกล่าวผู้บริหารร.ฟ.ท.ได้มีนโยบายจะใช้เป็นพื้นที่ก่อสร้างกองบัญชาการร.ฟ.ท. ที่จะย้ายมาจากย่านยศเส-หัวลำโพง ส่วนพื้นที่ที่จะก่อสร้างอาคารที่พักอาศัยของพนักงานร.ฟ.ท.ก็จะไปหาพื้นที่ใหม่โซนใกล้เคียงกม.11 ทดแทนโดยร.ฟ.ท.ออกแบบให้สามารถอยู่ได้ 200 ครอบครัว ซึ่งปตท.ขอเช่าพื้นที่ส่วนหนึ่งเพื่อใช้เป็นที่จอดรถให้กับพนักงาน ใช้งบไม่เกิน 500 ล้านบาท รูปแบบคือสร้างตึกสูงไม่เกิน 20 ชั้น ส่วนกรณีการปรับภูมิทัศน์โดยรอบ ปตท.-กม.11 นั้นขณะนี้คืบหน้าประมาณ 90%” พล.ท.ชาญชัยกล่าว สำหรับที่ดินของ ร.ฟ.ท. ย่านกม.11 พหลโยธินที่ บริษัท ปตท.เช่าใช้นั้น มีอาคารปตท.สำนักงานใหญ่ และอาคารเอ็นเนอร์ยีคอมเพล็กซ์ บนพื้นที่ 23 ไร่ ครบกำหนดสัญญาไปเมื่อเดือนมีนาคม 2556 ที่ผ่านมา

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 35 ฉบับที่ 3079 วันที่ 16 – 19 สิงหาคม พ.ศ. 2558
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 18/08/2015 3:47 am    Post subject: โค่นป่าได้แม้กระทั่งในที่ดินรถไฟแถวแม่เมาะ Reply with quote

เหิมหนัก! มอดไม้ลำปางลอบตัดไม้ 2 ข้างทางรถไฟยาวกว่า 2 กม.-มีตีตรา“จอง”ด้วย


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
17 สิงหาคม 2558 18:19 น.


ลำปาง - มอดไม้ลำปาง ยังเหิมหนัก ลอบตัดไม้หวงห้ามสองข้างทางรถไฟระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร กระจายเกลื่อนกว่า 100 ท่อน พบบางส่วนตัดแบ่งเป็นท่อน ตีตรา “จอง” เอาไว้เสร็จสรรพ

วันนี้ (17 ส.ค.) เจ้าหน้าที่สายตรวจปราบปรามว่าด้วยการกระทำผิดป่าไม้ สายที่ 1 ลำปาง, เจ้าหน้าที่ส่วนป้องกันและปราบปรามไม้ภาคเหนือ, เจ้าหน้าที่ กอ.รมน.ลำปาง และทหารจากค่ายฝึกรบพิเศษที่ 3 ประตูผา, ตำรวจ ศปทส.ภ5 เจ้าหน้าที่กำลังหน่วยป้องกันและรักษาป่า นำโดยนายดนุศักดิ์ หมื่นโฮ้ง หัวหน้าสายตรวจปราบปรามว่าด้วยการกระทำผิดป่าไม้ สายที่ 1 เข้าตรวจสอบ บริเวณสองข้างทางรถไฟระหว่างบ้านสบป้าด หมู่1 ต.สบป้าด อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง หลังรับแจ้งว่า มีการลักลอบตัดไม้หวงห้ามกระจายเกลื่อนสองข้างทาง

พบว่ามีต้นไม้ประดู่ ไม้สมอแห ไม้ยมหินและไม้หวงห้ามอื่น ทั้งขนาดใหญ่-ขนาดกลาง และขนาดเล็ก ถูกโค่นล้มเป็นระยะทางยาวกว่า 2 กิโลเมตร รวมกว่า 100 ต้น ทั้งยังตัดออกเป็นท่อนรอการชักลาก บางท่อนมีการกรีดเป็นตัวอักษรคำว่า “จอง” ไว้ด้วย และบางส่วนถูกลักลอบชักลากออกไปแล้ว

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดอายัดไม้ทั้งหมดและลำเลียงออกจากพื้นที่ เพื่อนำไปตรวจสอบและส่งดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 21/08/2015 3:31 am    Post subject: Reply with quote

“ผู้ว่าฯร.ฟ.ท.”โยกย้ายล็อตใหญ่รื้อฝ่ายทรัพย์สิน จัดทัพทีมทำงานใหม่ แก้ปมงานไม่เดินงบค้างท่อ


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
19 สิงหาคม 2558 19:14 น.


"วุฒิชาติ”โยกย้ายผู้บริหารและพนักงานรถไฟรวม 23 คน เพื่อขับเคลื่อนการทำงานหลังผ่านครึ่งปี พบงานไม่เดิน ติดปัญหาหลายส่วน เผยถือโอกาสแต่งตั้งแทนผู้เกษียณอายุในก.ย.นี้เลย เพื่อไม่ต้องเสียเวลา วงในเผยปัญหาทั้งด้านจัดซื้อจัดจ้าง ส่งผลงบค้างท่อ และรื้อใหญ่ฝ่ายบริหารทรัพย์สิน

นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด)บอร์ดร.ฟ.ท.ครั้งที่ 13/2558 เมื่อวันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา ที่มีนายออมสิน ชีวพฤกษ์ เป็นประธาน ได้มีมติเห็นชอบแต่งตั้งโยกย้ายผู้บริหารร.ฟ.ท. ระดับรองผู้ว่าฯและผู้ช่วยผู้ว่าฯ ตามที่เสนอ เพื่อให้การบริหารงานมีความคล่องตัวมากขึ้นและเป็นการจัดทีมการทำงานที่จะส่งผลดีต่อการขับเคลื่อนงานที่จะกระชับมากขึ้น ซึ่งการปรับเปลี่ยนโยกย้ายผู้บริหารหลายตำแหน่งเป้าหมายเพื่อให้การทำงานดีขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งอาจเป็นปัญหาเรื่องโครงสร้างและขั้นตอนการทำงาน อีกทั้งผู้บริหารหลายคนจะเกษียณอายุในเดือนก.ย. 2558 นี้ จึงถือโอกาสปรับเปลี่ยนบุคคลที่เหมาะสมให้เข้ามาทำงานเลย เพื่อไม่ต้องรอจนถึงเดือนก.ย.นี้

รายงานข่าวจาก ร.ฟ.ท.แจ้งว่า สาเหตุหลักของการโยกย้ายครั้งนี้ เนื่องจากงานด้านจัดซื้อจัดจ้างและงานด้านแผนยุทธศาสตร์ ไม่ก้าวหน้า หลายโครงการติดขัด ส่งผลให้งบประมาณค้างท่อ ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย โดยเฉพาะงานด้านบริหารทรัพย์สินซึ่งร.ฟ.ท.มีสัญญาเช่าที่ดินจำนวนมากทำให้ที่ผ่านมาเป็นแหล่งผลประโยชน์ โดยเมื่อวันที่ 11 ส.ค. 2558 นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าฯร.ฟ.ท.ได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายพนักงาน เพื่อให้การปฎิบัติงานดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ประกอบด้วย 1. นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการหน่วยธุรกิจการเดินรถ (นักบริหาร 14) ไปดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าฯการ กลุ่มยุทธศาสตร์และอำนวยการ 2. นายวิโรจน์ เตรียมพงศ์พันธ์ รองผู้ว่าฯการ กลุ่มยุทธศาสตร์และอำนวยการ (นักบริหาร 14) ไปดำรงตำแหน่ง รองผู้ว่าการหน่วยธุรกิจการเดินรถ 3. นายปาณฑพ มาลากุล ณ อยุธยา หัวหน้าหน่วยธุรกิจการเดินรถ (นักบริหาร 14) ไปดำรงตำแหน่งหัวหน้าหน่วยธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน 4.นายเทิดชัย เพ่งไพฑูรย์ หัวหน้าหน่วยธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน (นักบริหาร 14)ไปดำรงตำแหน่ง หัวหน้าหน่วยธุรกิจการเดินรถ 5. นางสาวโมฬีมาศ ฉัตราคม ผู้ช่วยผู้ว่าการ 3 (นักบริหาร 13) ไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายพัสดุ 6. นายทวีศักดิ์ สุทธิเสริม ผู้อำนวยการฝ่ายการพัสดุ (นักบริหาร 13) ไปดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้ว่าการ 3 และ 7. นางสิริมา หิรัญเจริญเวช ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารทรัพย์สิน (นักบริหาร 13) ไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายการพาณิชย์ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 11 ส.ค. 2558 เป็นต้นไป

นอกจากนี้ยังมีคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายเลื่อนระดับพนักงาน 5 คน เช่น สลับตำแหน่งระหว่างรองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารทรัพย์สินและหัวหน้าสำนักงานขนส่งคอนเทนเนอร์ เป็นต้น และคำสั่งอีกชุดเป็นการแต่งตั้งโยกย้ายพนักงาภายใต้หน่วยธุรกิจบริหารทรัพย์สิน อีก 11 คน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 13 ส.ค. 2558
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 30/08/2015 1:18 am    Post subject: Reply with quote

คดีผู้ค้าฯ ฟ้อง ร.ฟ.ท.เก็บค่าที่แพงไม่จบ ศาล ปค.สูงสุดสั่้งศาลฯ ชั้นต้นพิจารณาใหม่


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
28 สิงหาคม 2558 14:26 น. (แก้ไขล่าสุด 28 สิงหาคม 2558 14:59 น.)



ศาลปกครองสูงสุดสั่งศาลปกครองชั้นต้นพิจารณาใหม่ คดีผู้ค้าตลาดนัดจตุจักรฟ้องการรถไฟฯ เก็บค่าที่แพง โดยให้เพิ่มผู้ฟ้องอีก 169 คนเป็นผู้เสียหาย

ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษายกคำพิพากษาศาลปกครองชั้นต้น ในคดีที่นายสงวน ดำรงค์ไทย และผู้ค้าในตลาดนัดจตุจักรรวม 789 ราย ยื่นฟ้องการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) นายยุทธนา ทัพเจริญ นายจรัสพันธ์ วัชโรทัย ขอให้เพิกถอนประกาศของการรถไฟฯ จำนวน 5 ฉบับที่เกี่ยวข้องกับการขึ้นค่าเช่าแผงค้า การชำระเงินค่าเช่าและการลงนามสัญญาเช่าของผู้ค้าในตลาดนัดจตุจักร และมีคำสั่งให้ส่งสำนวนคดีคืนไปใยังศาลปกครองชั้นต้นเพื่อให้มีคำพิพากษาใหม่ เนื่องจากศาลปกครองสูงสุดพบว่า ที่ศาลปกครองชั้นต้นมีคำพิพากษาคดีในช่วงปี 2556 เป็นการมีคำพิพากษาก่อนที่ศาลปกครองสูงสุดจะมีคำสั่งกลับคำสั่งศาลปกครองชั้นต้นให้รับคำร้องสอดของผู้ฟ้องคดีที่ 621-789 ไว้พิจารณา ซึ่งมีผลทำให้ผู้ฟ้องคดีที่ 621-789 เป็นผู้ฟ้องคดีร่วมด้วย ทำให้การดำเนินกระบวนพิจารณาในชั้นการแสวงหาข้อเท็จจริง การสสรุปสำนวน การนั่งพิจารณาคดี และการพิพากษาคดี ของศาลปกครองชั้นต้น ผู้ฟ้องคดีที่ 621-789 มิได้เข้าร่วมเป็นคู่กรณีด้วย และผลของคำพิพากษาศาลปกครองชั้นต้นก็มิได้กล่าวถึงผู้ฟ้องคดีกลุ่มดังกล่าวจึงเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีไปโดยมิได้ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง 2542 และระเบียบของที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีปกครอง 2543 ในส่วนที่ว่าด้วยการทำคำพิพากษา

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คำพิพากษาดังกล่าวสร้างความผิดหวังให้แก่กล่มผู้ค้าจตุจักรกว่า 300 คนที่เดินทางมาติดตามรับฟังคำพิพากษา เพราะต่างก็มีความหวังว่าคำพิพาษาศาลปกครองสูงสุดที่ออกมาในวันนี้จะเพิกถอนประกาศการขึ้นค่าเช่าแผงของการรถไฟฯ และปัญหาเรื่องดังกล่าวน่าจะข้อยุติ ทำให้นายวิชาญ ดวงฤทธิ์ ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากผู้ค้าต้องอธิบายให้ผู้ค้าฯ ทราบว่า ศาลปกครองสูงสุดยังไม่ได้มีคำพิพากษาใดๆ ในคดีนี้ แต่ให้ศาลปกครองชั้นต้นกลับไปดำเนินกระบวนการนำผู้ฟ้องคดีที่ 621-789 รวม 169 คนเข้ามาเป็นผู้ฟ้องคดีด้วย และคิดว่าคงไม่นานก็จะมีคำพิพากษาออกมา

อย่างไรก็ตาม คำสั่งศาลปกครองสูงสุดในวันนี้ไม่มีผลเปลี่ยนแปลงการค้าขายของผู้ค้าฯ เพราะยังมีมาตรการคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาที่ศาลสั่งให้การรถไฟฯ ให้ผู้ค้าจตุจักรค้าขายได้ต่อไป และยังจ่ายค่าเช่าในอัตราเดิมคือ 890 จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด

สำหรับคำพิพากษาศาลปกครองชั้นต้นในคดีนี้ ได้สั่งเพิกถอนประกาศการรถไฟฯ จำนวน 5 ฉบับดังกล่าวที่ให้ผู้ค้าต้องจ่ายค่าเช่าแผงในอัตราเดือนละ 3,157 บาทต่อเดือน เนื่องจาก ร.ฟ.ท.ไม่มีอำนาจบริหารตลาด ทำได้แค่ขนส่งรถไฟและกิจการเกี่ยวข้องเท่านั้น อีกทั้งระเบียบ ร.ฟ.ท.ให้เก็บได้แค่เดือนละ 890 บาทเท่านั้น ประกาศดังกล่าวจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย
Back to top
View user's profile Send private message
nutsiwat
2nd Class Pass
2nd Class Pass


Joined: 03/03/2011
Posts: 684
Location: สถานีเรณูนคร

PostPosted: 31/08/2015 11:54 am    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
รฟท.ชวนเอกชนพัฒนา 218 ไร่ ปั้นสถานีกลางบางซื่อเป็นฮับรถไฟอาเซียน


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
9 สิงหาคม 2558 07:26 น. (แก้ไขล่าสุด 9 สิงหาคม 2558 07:44 น.)

นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ ประธานคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึง โครงการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์บริเวณสถานีกลางบางซื่อว่า มีเป้าหมายให้เป็นศูนย์กลางการเดินรถไฟ และให้เป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองรับการเดินทางด้วยระบบรางทั่วประเทศ

ทั้งนี้ จากการรับฟังความคิดเห็นจากนักลงทุนจากในและต่างประเทศ มีความสนใจเข้ามาร่วมโครงการ โดยรฟท. แบ่งการพัฒนาพื้นที่รอบสถานีกลางบางซื่อจำนวน 218 ไร่ จะแบ่งออกเป็น 3 โซน คือ โซนเอ จะพัฒนาเป็นสมาร์ท บิสซิเนส คอมเพล็กซ์ (Smart Business Complex) โซนบีพัฒนาเป็น อาเซียน คอมเมอร์เชียล แอนด์ บิสซิเนส ฮับ (ASEAN Commercial and Business Hub) โซนซีจะพัฒนาเป็น สมาร์ท เฮลธี แอนด์ ไวแบรนท์ ทาว์น (Smart Healthy and Vibrant Town) งบประมาณลงทุนรวม 68,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ โซนดี จะพัฒนาเป็นจุดเปลี่ยนถ่ายและศูนย์กลางสำหรับเชื่อมการเดินทาง

ทั้งนี้คาดว่าจะขออนุมัติคณะรัฐมนตรีให้ใช้กระบวนการ พ.ร.บ.ร่วมทุนระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน หรือพีพีพี ช่วงปลายปีนี้ และจะเปิดให้บริการได้ในปี 2562 ส่วนการพัฒนาที่ดินจะพัฒนาในทุกโซน โซนละ 5 ปี


ต่อไปตรงพื้นที่ย่านบางซื่อ และย่านพหลโยธินจะเป็นฮับรถไฟอาเซียนแล้ว และยังจะเป็นศูนย์กลางการคมนาคมที่ใหญ่ที่สุดในแถบภูมิภาคนี้ เพราะมีการเดินหลายรูปแบบอยู่ ณ ที่จุด ๆ เดียวกัน และมีการก่อสร้างที่พักให้กับพนักงานของ รฟท. โรงพยาบาล สถานชอปปิ๊ง และอีกหลายโครงการ และรวมถึงมีการก่อสร้างโมโนเรลที่กระจายประชาชนจากศูนย์กลางแห่งนี้สามารถเดินทางต่อไปยังรอบ ๆ นอกได้อีกด้วย ดีมากครับ
_________________
Laughing Laughing Laughing Laughing
--------------------------

สถานีต่อไป สถานีเรณูนคร
next station Renunakorn
Back to top
View user's profile Send private message Yahoo Messenger MSN Messenger
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 01/09/2015 11:11 am    Post subject: Reply with quote

คลังเช่ามักกะสันล้างหนี้รฟท.


โดย ASTVผู้จัดการรายวัน
31 สิงหาคม 2558 18:22 น.

ASTVผู้จัดการรายวัน - ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจที่มีนายกฯ เป็นประธาน ไฟเขียวกระทรวงคลังแก้ปัญหาหนี้สินรถไฟโดยรับสิทธิในการเช่าที่ดินมักกะสันในระยะเวลา 99 ปี เพื่อชำระหนี้ 61,846 ล้านบาท ให้กระทรวงคมนาคมไปสั่ง รฟท.ส่งมอบพื้นที่ภายใน 2 ปี ส่วนอุปสรรคทางด้านกฎหมายให้คลังกับมหาดไทยไปแก้

นายกุลิศ สมบัติศิริ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ครั้งที่ 7/2558 ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน คนร. รับทราบการแก้ไขปัญหาในภาพรวม ทั้ง 7 แห่ง มีความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาตามแผนการแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะปัญหาหนี้สินรถไฟโดยการนำที่ดินแปลงมักกะสันเพื่อชำระหนี้ โดยให้กระทรวงการคลังได้รับสิทธิในการเช่าที่ดินย่านมักกะสันของ รฟท. ในระยะยาวจำนวน 99 ปี เพื่อชำระหนี้คงค้างมูลค่าประมาณ 61,846 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้การบริหารสัญญาเช่าเป็นไปอย่างต่อเนื่องและมีความคุ้มค่าในการลงทุน รวมถึงเป็นประโยชน์สูงสุดต่อภาครัฐและกำชับให้กระทรวงคมนาคมกำกับดูแลให้ รฟท. เร่งดำเนินการส่งมอบพื้นที่ภายใน 2 ปี
ทั้งนี้ เพื่อรองรับการดำเนินการโอนสิทธิการใช้ประโยชน์ที่ดินของ รฟท. เป็นระยะเวลา 99 ปี ซึ่งติดปัญหา พ.ร.บ. ว่าด้วยการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชยกรรมและอุตสาหกรรม พ.ศ.2542 ที่กำหนดระยะเวลาไว้ไม่เกิน 50 ปี ได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังและกระทรวงมหาดไทยต้องเร่งดำเนินการแก้ไขโดยเร็ว โดยแก้ไขกฎหมายแบับนี้ไปยัง สนช.
ส่วนปัญหาของธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.) ให้ ธอท. เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้และการหาพันธมิตรร่วมทุน สำหรับ ธพว. ซึ่งมีหนี้ NPL ลดลง ขอให้ดำเนินการตามวัตถุประสงค์การจัดตั้งองค์กรอย่างเคร่งครัด และให้เปิดหน่วยบริการนำร่องในเขตพัฒนาเศรษฐกิจจังหวัดตาก
ขณะที่ ขสมก. ให้กระทรวงคมนาคมศึกษาโครงการในเรื่องการจัดหารถโดยสารให้เหมาะสม เช่น การจัดหารถพลังงานไฟฟ้า การปรับปรุงรถเดิมให้มีประสิทธิภาพ สำหรับการปฏิรูปเส้นทางขอให้กำกับให้เป็นไปตามแผน กรณีของ รฟท. รวมถึงเห็นชอบการแก้ไข
คนร.ยังได้เห็นชอบในหลักการของร่างแผนพัฒนาระบบรัฐวิสาหกิจตามที่คณะอนุกรรมการกำหนดยุทธศาสตร์รัฐวิสาหกิจเสนอ เพื่อเป็นการกำหนดทิศทางการพัฒนารัฐวิสาหกิจทุกแห่งและรวมถึงนโยบายการกำกับดูแลในภาพรวม ซึ่งร่างแผนดังกล่าวเป็นการจัดทำเพื่อรองรับกฎหมายว่าด้วยการกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจ ที่จะประกาศใช้ในอนาคต และกำหนดให้ดำเนินการจัดทำฉบับสมบูรณ์ควบคู่ไปกับการเสนอกฎหมายการกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจ และให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน
ความคืบหน้าการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการเปิดเผยข้อมูลโครงการก่อสร้างภาครัฐ (Multi-Stakeholder Group) สำหรับโครงการความโปร่งใสในการก่อสร้างภาครัฐ (CoST) คณะอนุกรรมการ CoST ได้มีมติให้ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานนำร่องโครงการ CoST ดำเนินการเปิดเผยข้อมูลเชิงรุกเพิ่มเติมอันได้แก่ 1) การจัดซื้อจัดจ้าง (Procurement) 2) การบริหารจัดการสัญญา (Implementation) และ 3) การสิ้นสุดโครงการ (Project Completion) ทั้งนี้ให้ปรับเปลี่ยนข้อมูลที่เปิดเผยบนเว็บไซต์ โดยให้คงเปิดเผยเฉพาะโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ปีงบประมาณ 2554 –2560) เนื่องจากเป็นโครงการที่มีความคืบหน้าในการดำเนินการในปัจจุบัน และจัดตั้ง Assurance Team เพื่อเข้ามาทำหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่ได้มีการเปิดเผย
นอกจากนี้ คนร.ยังเห็นชอบแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเตรียมความพร้อมการจัดตั้งบรรษัทวิสาหกิจแห่งชาติ มีอนุกรรมการ 7 คน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นที่ปรึกษาคณะอนุกรรมการฯ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นประธาน และ ผอ.สคร. เป็นกรรมการและเลขานุการ เพื่อทำหน้าที่ 1) กำหนดแผนงานและกรอบระยะเวลาในการจัดตั้งบรรษัทฯ 2) กำหนดรูปแบบการกำกับดูแลและความเชื่อมโยงระหว่างบรรษัทฯ และรัฐวิสาหกิจที่อยู่ในการกำกับ 3) โครงสร้างและอัตรากำลังของบรรษัท 4) กำหนดค่าตอบแทนและสิทธิประโยชน์ให้กับคณะกรรมการและบุคลากรของบรรษัท 5) กำหนดงบประมาณในการดำเนินงานของบรรษัทฯ
คนร.ได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมการกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจฯ จัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นจากภาคส่วนต่างๆ รวมทั้งหารือกระทรวงการคลังเกี่ยวกับการโอนหุ้นของรัฐวิสาหกิจไปยังบรรษัทรัฐวิสาหกิจแห่งชาติ และประชาสัมพันธ์เพื่อทำความเข้าใจกับสาธารณชน ซึ่ง สคร. ได้ดำเนินการจัดการรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างกฎหมายการกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจ ให้แก่สหภาพแรงงานและผู้บริหารสูงสุดของรัฐวิสาหกิจ ซึ่งทุกฝ่ายเห็นด้วยในหลักการ.
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 117, 118, 119 ... 197, 198, 199  Next
Page 118 of 199

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©