View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42623
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44319
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 28/04/2016 5:41 pm Post subject: |
|
|
รถไฟทางคู่และรถไฟสายใหม่
เสริมศักยภาพการแข่งขันด้วยการตอบโจทย์การลดต้นทุนขนส่งสินค้าภายในประเทศ
โดย ฐานเศรษฐกิจ - 28 เมษายน 2559
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ออกบทวิเคราะห์เรื่องรถไฟทางคู่และรถไฟสายใหม่
เสริมศักยภาพการแข่งขันด้วยการตอบโจทย์การลดต้นทุนขนส่งสินค้าภายในประเทศ
ประเด็นสำคัญ
โครงการรถไฟทางคู่และรถไฟสายใหม่ จะเป็นการพลิกโฉมการขนส่งสินค้าภายในประเทศของไทย จากเดิมที่ต้องพึ่งพิงการขนส่งทางถนนเป็นหลักไปสู่การขนส่งในรูปแบบผสมผสาน โดยการขนส่งทางรางซึ่งมีต้นทุนที่ถูกกว่าทางถนนจะเข้ามาช่วยลดต้นทุนการขนส่งสินค้าภายในประเทศต่อหน่วยลง
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า การพัฒนารถไฟทางคู่และรถไฟสายใหม่จะสามารถลดต้นทุนการขนส่งสินค้าลงได้ โดยเมื่อรถไฟทางคู่ระยะที่ 1 แล้วเสร็จ ในปี 2564 จะสามารถลดต้นทุนการขนส่งสินค้าภายในประเทศลงได้ประมาณร้อยละ 5.7 ต่อปี และเมื่อรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 และรถไฟสายใหม่แล้วเสร็จ ในปี 2567 จะสามารถลดต้นทุนการขนส่งสินค้าภายในประเทศลงได้ประมาณร้อยละ 9.7 ต่อปี
โครงการรถไฟทางคู่ มีความชัดเจนขึ้นหลังจากที่รถไฟทางคู่ระยะที่ 1 ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย เริ่มดำเนินการก่อสร้างได้แล้วเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2559 ที่ผ่านมา นับเป็นโครงการรถไฟทางคู่ช่วงแรกที่สามารถดำเนินการก่อสร้างได้ ทั้งนี้ โครงการรถไฟทางคู่เป็นการก่อสร้างรถไฟทางใหม่อีก 1 เส้นทางคู่ขนานกับเส้นทางรถไฟเดิม เพื่อแก้ปัญหาความคับคั่งของการเดินรถและลดระยะเวลาสับหลีกขบวนอันเป็นอุปสรรคให้การขนส่งทางรถไฟล่าช้า สืบเนื่องมาจากภาครัฐได้มียุทธศาสตร์ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานรถไฟ อันเกิดจากความพยายามผลักดันการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ (Multimodal Transport) โดยปรับเปลี่ยนรูปแบบการขนส่งทางถนนเป็นหลักไปสู่การขนส่งในรูปแบบผสมผสาน ซึ่งมีต้นทุนการขนส่งต่อหน่วยที่ถูกกว่า เพื่อลดต้นทุนโลจิติกส์โดยรวมของประเทศลง เนื่องจากปัจจุบันต้นทุนโลจิสติกส์ต่อ GDP ของไทยมีสัดส่วนร้อยละ 14.2 ซึ่งนับว่ายังสูงอยู่เมื่อเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้ว
รถไฟสายทางคู่และรถไฟสายใหม่ปลดล็อกข้อจำกัดรถไฟไทยในการขนส่งสินค้า
การขนส่งภายในประเทศของไทยพึ่งพาการขนส่งทางถนนสูงถึงร้อยละ 90 โดยมีสาเหตุมาจากการมุ่งเน้นพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมเฉพาะทางถนนเพียงด้านเดียวมาเป็นระยะเวลานาน จนกระทั่งทำให้มีเส้นทางถนนครอบคลุมระยะทางรวมกว่า 115,760 กิโลเมตร และแม้ว่าประเทศไทยจะมีเส้นทางรถไฟครอบคลุมพื้นที่ 47 จังหวัด โดยมีระยะทางรวม 4,035 กิโลเมตร แต่เป็นรถไฟทางเดี่ยวสูงถึงร้อยละ 91.2 ในขณะที่ รถไฟทางคู่และทางสามมีสัดส่วนเพียงร้อยละ 8.8 ของเส้นทางรถไฟทั้งหมดทั่วประเทศ อีกทั้งหัวรถจักรที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ใช้เดินขบวนขนส่งสินค้าในปัจจุบันมีอายุการใช้งานมานานหลายปีและสามารถทำความเร็วได้เพียง 39 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งถือเป็นประเด็นสำคัญที่ทำให้การขนส่งทางรถไฟไม่เป็นที่นิยมจนกระทั่งมีสัดส่วนเพียงร้อยละ 1.1 ของการขนส่งสินค้าภายในประเทศทั้งหมด โดยประเด็นดังกล่าว สะท้อนได้จากการจัดอันดับโครงสร้างพื้นฐานของ World Economic Forum 2015-16 ที่ประเทศไทยถูกจัดอันดับโครงสร้างพื้นฐานทางถนนไว้ที่อันดับที่ 51 ในขณะที่โครงสร้างพื้นฐานทางรางเป็นอันดับที่ 78 จะเห็นได้ว่าการมีความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานทางถนนเพียงอย่างเดียว ก่อให้เกิดความไม่สมดุลของการขนส่งสินค้าภายในประเทศ ส่งผลให้ต้นทุนการขนส่งสินค้าโดยรวมสูง เนื่องจากการขนส่งทางถนนนับว่าเป็นการขนส่งที่มีต้นทุนสูงเป็นอันดับสองรองจากการขนส่งทางอากาศ
ทั้งนี้ การขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบมีหลักการมุ่งเน้นการปรับเปลี่ยนจากการขนส่งทางถนนไปยังทางราง เนื่องจากมีต้นทุนการขนส่งต่อตัน-กิโลเมตร ที่ต่ำกว่าทางถนนถึงร้อยละ 30 อีกทั้งการขนส่งทางน้ำซึ่งมีต้นทุนต่ำที่สุดโดยถูกกว่าการขนส่งทางถนนถึงร้อยละ 73 ยังมีข้อจำกัดทางด้านภูมิศาสตร์ กล่าวคือ จำเป็นต้องพึ่งพิงแม่น้ำสายหลักของประเทศซึ่งมีเส้นทางไหลผ่านจำกัดเพียงบางพื้นที่เท่านั้น
แนวนโยบายพัฒนารถไฟทางคู่ แบ่งเป็นการพัฒนารถไฟทางคู่ระยะที่ 1 ระยะที่ 2 และการพัฒนารถไฟสายใหม่ 2 เส้นทาง โดยเมื่อโครงการรถไฟทางคู่และรถไฟสายใหม่แล้วเสร็จ จะทำให้ประเทศไทยมีเส้นทางรถไฟครอบคลุมเพิ่มขึ้นเป็น 54 จังหวัด และมีเส้นทางต่อเนื่องไปยังด่านการค้าชายแดนในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จากเดิมที่มีเส้นทางรถไฟไปยังด่านปาดังเบซาร์ในภาคใต้เท่านั้น โดยรถไฟไทยจะมีระยะทางรวมทั้งสิ้น 4,176 กิโลเมตร เป็นรถไฟทางคู่และทางสามคิดเป็นร้อยละ 74.8 ของเส้นทางรถไฟทั้งหมด นอกจากนี้ ยังได้มีโครงการจัดหาหัวรถจักรใหม่อีกประมาณ 100 คัน ซึ่งสามารถทำความเร็วกรณีลากจูงสินค้าได้สูงสุดถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รวมทั้งได้มีโครงการปรับปรุงระบบอาณัติสัญญาณเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเดินรถที่มากยิ่งขึ้น โดยไม่เพียงแต่ภาครัฐที่ได้มีการเตรียมความพร้อมในการพัฒนาการขนส่งทางรางเท่านั้น แต่ได้เริ่มเห็นสัญญาณจากภาคเอกชนบางรายที่มีการร่วมมือกับรฟท. ในการซื้อหัวรถจักรลากจูงมาใช้ในกิจการของตนเองเพื่อนำมาวิ่งขนส่งสินค้าประเภทปูนซีเมนต์บ้างแล้ว |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44319
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
|
Back to top |
|
|
ksomchai
1st Class Pass (Air)
Joined: 08/04/2009 Posts: 6384
Location: เมืองทองเนื้อเก้า มะพร้าว สัปรด สวยสดหาด เขา ถ้ำ งามล้ำน้ำใจ ป่าชุ่มน้ำผืนใหญ่ แหล่งวางไข่ปลาทู
|
Posted: 29/04/2016 12:46 pm Post subject: |
|
|
ผมลองเข้าไปดู พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างทางคู่ในเส้นทางรถไฟสายใต้ ช่วงประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร พ.ศ. ๒๕๕๙[/b][/color]
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2559/A/033/49.PDF
(วันที่ประกาศ ๒๑ เมษายน ๒๕๕๙)
สังเกตุว่า ช่วงที่อยู่ในเขต จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เวนคืนบริเวณที่จะสร้างสะพาน ข้ามทางรถไฟนะ ครับ
ส่วนในเขต จ.ชุมพร เวนคืนพื้นที่แก้รัศมีทางโค้ง ด้วยหลายจุด
โชคดี ครับ ที่บ้านผม ไม่มีผลกระทบอะไร ส่วนที่บ้านกรูด ดูในแผนที่ท้ายประกาศ ทำสะพานข้ามทางรถไฟที่ใหม่เลยนะ ครับ
ด้านทิศใต้ของสะพานวังพลู น่าจะทำทางลอด ใต้สะพานส่วนทางตัดข้ามทางรถไฟเดิม(หน้าวัดดอนยาง) ไม่แน่ใจว่าจะปิดหรือเปล่า
ถ้าปิดคาดว่าจะมีคนมาประท้วงแน่นอน _________________
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44319
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 29/04/2016 2:46 pm Post subject: |
|
|
หน้าวัดดอนยาง ใกล้สถานีบ้านกรูด ผมคิดว่าทีมบริษัทที่ปรึกษาคงออกแบบทางตัด และนำเสนอให้ชาวบ้านดูในตอนรับฟังความคิดเห็นของประชาชนแล้ว แต่ไม่มีแบบเผยแพร่ออนไลน์เลยครับ เลยไม่ทราบว่าจะมีลักษณะอย่างไร ตอนนี้ใช้เครื่องกั้นอยู่ครับ เส้นทางนี้มีทั้งเทศบาล วัด โรงเรียน |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42623
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42623
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44319
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 04/05/2016 7:44 pm Post subject: |
|
|
ดัน 5 สัญญาประมูลรถไฟทางคู่ รวมมูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท
โดย ฐานเศรษฐกิจ - 4 พฤษภาคม 2559
ร.ฟ.ท.เร่งดัน 5 สัญญาประมูลรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง กว่า 700 กม.รวมมูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท ยันใช้ 1 เส้นทาง/ 1 สัญญา ลุ้นอีก 2 สัญญาปลายปีนี้ ช่วงมิสซิ่งลิ้งค์และแอร์พอร์ตลิ้งค์พญาไท-บางซื่อค่ากว่า 6 หมื่นล้าน ด้านซิโน-ไทย ยันพร้อมลุยงานประมูลโซนภาคใต้ จอง 3 สัญญารถไฟทางคู่ เผยแบล็คล็อคในมือแล้วกว่า 5 หมื่นล้านบาท
นายกมล ตั้งกิจเจริญไชย รองผู้ว่ากลุ่มบริหารรถไฟฟ้า การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผย ฐานเศรษฐกิจ ว่าขณะนี้มีความชัดเจนเรื่องการประมูลโครงการรถไฟทางคู่มากขึ้นแล้ว โดยเฉพาะเส้นทางประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 167 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 1.7 หมื่นล้านบาทที่คณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติประกวดราคาเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2559 ที่ผ่านมาหลังจากนั้นจึงเร่งประกาศเอกสารประกวดราคาคาดว่าจะดำเนินการได้ในเดือนพฤษภาคมนี้ และหาตัวผู้รับจ้างพร้อมเซ็นสัญญาให้แล้วเสร็จในเดือนสิงหาคม 2559
นอกจากนั้นเส้นทางที่เหลือซึ่งประกอบไปด้วยเส้นทางนครปฐม-หัวหิน ระยะทาง 165 กิโลเมตร วงเงินลงทุนกว่า 2 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะเสนอประกวดราคาเดือนมิถุนายนนี้ เส้นทางมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 2.9 หมื่นล้านบาท จ่อเสนอครม.เป็นคิวต่อไป เส้นทางหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 90 กิโลเมตร วงเงินลงทุนกว่า 1 หมื่นล้านบาท เส้นทางลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 148 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 2.4 หมื่นล้านบาท รวมระยะทางทั้งสิ้นกว่า 700 กิโลเมตร คิดเป็นเม็ดเงินรวมกว่า 1.02 แสนล้านบาท
เช่นเดียวกับอีก 2 เส้นทางที่อยู่ระหว่างการนำเสนอครม.คือ โครงการรถไฟสายสีแดงอ่อนช่วงบางซื่อ-พญาไท-มักกะสัน-หัวหมากและสายสีแดงเข้มช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง ระยะทาง 25.9 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 4.4 หมื่นล้านบาท(มิสซิ่งลิ้งค์) และแอร์พอร์ตลิ้งค์ส่วนต่อขยายช่วงพญาไท-บางซื่อ ระยะทาง 11 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 2 หมื่นล้านบาท
ด้านนายภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน) กล่าวถึงความพร้อมของการข้าร่วมประมูลรถไฟทางคู่ในพื้นที่โซนภาคใต้ว่าปัจจุบันซิโน-ไทยฯกำลังก่อสร้างสนามบินภูเก็ต ส่วนงานระบบรางนั้นยืนยันความพร้อมรับงานไม่ว่าจะเป็นรถไฟทางคู่ เส้นทางนครปฐม-หัวหิน,หัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์,ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ส่วนรถไฟความเร็วสูง(นครปฐม-หัวหิน) นั้นคาดว่าจะต้องใช้ระยะเวลาอีกหลายปีจึงยังมีเวลาเตรียมความพร้อม
รถไฟทางคู่ซิโน-ไทยคงจะเข้าร่วมแข่งประมูลทุกสัญญา หวังว่าจะได้รับทั้ง 3 สัญญาใน 3 เส้นทางภาคใต้หากเป็น 1 เส้นทางต่อ 1 สัญญา โดยอุปกรณ์ปฏิบัติการดำเนินการจะต้องใช้จากส่วนกลางไปดำเนินการ ขณะนี้งานโครงการรถไฟฟ้าแล้วเสร็จแล้วหลายเส้นทาง จึงมีความพร้อมเต็มที่ ส่วนกรณีแหล่งวัตถุดิบจะต้องหาในพื้นที่โดยจะต้องเช็คราคาให้ชัดเจน
ปัจจุบันซิโน-ไทยมีปริมาณงานในมือ (แบล็คล็อค) ประมาณ 5.5หมื่นล้านบาท ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา หากรัฐบาลสามารถเร่งผลักดันโครงการต่างๆออกมาได้ตามแผนแบล็คล็อคปีนี้ก็คงจะใกล้เคียงกับที่กำหนดไว้หรือไม่เกิน 1 แสนล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างก่อสร้างเส้นทางรถไฟทางคู่ ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย และกำลังเซทต้นทุนโครงการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 เช่นเดียวกับโครงการมอเตอร์เวย์ของกรมทางหลวง ที่มีไม่น้อยกว่า 40 สัญญา ซึ่งจะต้องรอดูว่าจะสามารถเร่งผลักดันออกมาเร็วหรือช้าเท่านั้น โดยเฉพาะกรณีที่สามารถเปิดประมูลได้ ส่วนรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสีเหลืองคงต้องรอปี 2560-2561 ให้ชัดเจนก่อน เช่นเดียวกับสายสีส้มยืนยันเข้าร่วมประมูลด้วยอย่างแน่นอน
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,154 วันที่ 5 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44319
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44319
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
|
Back to top |
|
|
|