ข่าวและภาพรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน

[Wisarut]

BEM ยันไม่รับเดินรถ1สถานีถึงปี72 จ่อปลดล็อคมติครม.ผนวกรวมน้ำเงินต่อขยาย
โดย MGR Online
2 พฤษภาคม 2559 08:24 น.

เจรจางานเดินรถ1 สถานี (เตาปูน-บางซื่อ) ยืดเยื้อ ทำส่วนต่อขยายสีน้ำเงินสะดุด กก.PPP เลื่อนประชุม จี้รฟม.สรุป ล่าสุด กก.มาตรา 13 เจรจา BEM ยืนกรานไม่รับเงื่อนไขเดินรถ1สถานีถึงปี 72 เตรียม สรุปเสนอ"รฟม.-อาคม"พิจารณา คาดชงครม.ปลดล็อคมติเดิม โยก1 สถานีผนวกรวมกับส่วนต่อขยายแทน

รายงานข่าวจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเดินรถ ช่วงเตาปูน-บางซื่อ ระยะทาง 1 กม. หรือโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง สัญญา 5 (งานเดินรถ 1 สถานี) ว่า เมื่อวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา คณะกรรมการ มาตรา 13 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยเอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 35) ที่มีนายสัจจพงศ์ สนั่นเสียง รองผู้ว่าฯรฟม.(ปฏิบัติการ) เป็นประธาน ได้เจรจากับบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ตามมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันที่ 19 เม.ย.ที่ให้ระยะเวลางานเดินรถ 1 สถานีดังกล่าว เท่ากับระยะเวลาสัญญาสัมปทานของรถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคลที่จะครบสัญญาในปี 2572

โดยหลังจากคณะกก.มาตรา 13 แจ้ง บริษัท BEM ให้รับทราบมติครม. ทาง เอกชนยืนยันว่า ไม่สามารถดำเนินการตามได้ เนื่องจากการรับจ้างเดินรถช่วงเตาปูน-บางซื่อ ถึงปี 2572 ไม่คุ้มค่าในการดำเนินงานและมีผลต่อการจัดซื้อรถไฟฟ้า ดังนั้นคณะกก.มาตรา 13 จะได้สรุปผลการเจรจาเสนอรฟม.เพื่อเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและครม.ต่อไป

"การเจรจาถือว่าสรุปแล้ว โดยคณะกก.มาตรา 13 ได้พิจารณารายละเอียดเหตุผลประกอบอย่างรอบคอบ ศึ่งขอบเขตหน้าทีาของกก.มาตรา13 นั้นจะพิจารณาและเจรจาเฉพาะในส่วนงานเดินรถ 1 สถานี เท่านั้น จะไม่เจรจาไปถึงเรื่องอื่นๆ"แหล่งข่าวกล่าว
ด้านนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า เนื่องจาก การเจรจาเดินรถ 1 สถานีช่วงเตาปูน-บางซื่อ ยังไม่ได้ข้อยุติ ทำให้กระทบต่อการพิจารณาส่วนของงานระบบรถไฟฟ้าและการเดินรถ โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงหัวลำโพง-บางแคและบางซื่อ-ท่าพระ ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายการ ให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (คณะกรรมการ PPP)

แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมาคณะกรรมการ PPP ต้องเลื่อนการประชุม เพราะไม่สามารถพิจารณาการเดินรถส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินได้ เนื่องจากต้องรอผลเจรจางานเดินรถ1 สถานีที่ยังไม่ได้ข้อยุติ ซึ่งข้อเสนอเดิม BEM ยอมรับเดินรถ 2 ปี ขัดแย้งกับมติครม.ที่มห้เดินรถ 1 สถานีถึงปี 2572 ซึ่ง หาก BEM ไม่รับเงื่อนไขรับจ้างเดินรถถึงปี 2572 ทางบอร์ดรฟม. ได้รัดประชุมเร่งด่วนในวันนี้ (2 พ.ค.) เพื่อพิจารณา พร้อมทำรายงานข้อแนะนำ เสนอมายังรมว.คมนาคม เพื่อเสนอครม. พิจารณาโดยเร็ว

อย่างไรก็ตาม กรณีBEM ไม่รับเงื่อนไขรับเดินรถ1 สถานี ถึงปี 2572 อาจจำเป็นต้องปรับส่วนของ1 สถานีช่วงเตาปูน-บางซื่อ ไปรวมกับสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย โดยครม.จะต้องปลดล็อคมติเดิมเรื่องเดินรถ1 สถานี ถึงปี 2572 ด้วย ซี่งจะทำให้คณะกรรมการ PPP พิจารณาสีน้ำเงินส่วนต่อขยายได้

[Wisarut]

บอร์ด รฟม.ชง ครม.รวมเดินรถ 1 สถานีกับสัมปทานน้ำเงินต่อขยาย
โดย MGR Online
2 พฤษภาคม 2559 16:38 น. (แก้ไขล่าสุด 2 พฤษภาคม 2559 17:30 น.)


พลเอกยอดยุทธ บุญญาธิการ ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟฟ้าขนส่งแห่งประเทศไทย (รฟม.) แถลงหลังประชุมบอร์ดรฟม.วาระพิเศษเร่งด่วน เมื่อ วันที่ 2 พ.ค. ถึงผลการเจรจาต่อรองกับบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ในการเดินรถ ช่วงเตาปูน-บางซื่อ ระยะทาง 1 กม.

บอร์ด รฟม.ชงรวมเดินรถ 1 สถานีช่วงเตาปูน-บางซื่อกับสีน้ำเงินต่อขยาย ระบุดีที่สุด ขณะที่รวมกับสายเฉลิมรัชมงคลหวั่นแก้สัมปทานยุ่งยาก หลังเจรจา BEM ไม่ได้ข้อยุติ “ยอดยุทธ” เผยเร่งเสนอ “อาคม” ชง ครม.ให้ทัน 3 พ.ค.นี้ ชี้หาก BEM รับปากหากได้งานส่วนต่อขยายจะเร่งเปิด 1 สถานีปลายปีนี้ก่อน แต่หากเป็นรายอื่นได้สัมปทาน เปิดเดินรถต้องรอยาวถึง 3 ปี

พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟฟ้าขนส่งแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยภายหลังประชุมบอร์ดรฟม.วาระพิเศษเร่งด่วน วันที่ 2 พ.ค. ว่าที่ประชุมได้พิจารณาผลการเจรจาต่อรองระหว่างคณะกรรมการ มาตรา 13 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยเอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 35) ที่มีนายสัจจพงศ์ สนั่นเสียง รองผู้ว่าฯรฟม. (ปฏิบัติการ) เป็นประธาน กับบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ในการเดินรถช่วงเตาปูน-บางซื่อ ระยะทาง 1 กม.เมื่อวันที่ 29 เม.ย. โดย BEM ยืนยันรับจ้างเดินรถแค่ 2 ปี ตามผลเจรจาเดิม ซึ่งบอร์ดได้พิจารณาข้อมูลบริษัทที่ปรึกษา ทั้งตัวเลขผู้โดยสาร ค่าใช้จ่าย รายได้ พบว่าหากรัฐต้องลงทุนในส่วนของ 1สถานีเองจะไม่คุ้มค่า

จึงมีมติเสนอ 2 ทางออก คือ 1. รวมงานเดินรถช่วงเตาปูน-บางซื่อเข้ากับการเดินรถสายเฉลิมรัชมงคลโดยเจรจากับBEM เพื่อแก้สัญญาสัมปทานและผลประโยชน์กันใหม่ เนื่องจากต้องขยายการเดินรถต่อจากบางซื่อไปถึงเตาปูน ซึ่งการแก้ไขสัญญาสัมปทานมีความยุ่งยาก หรือ 2. รวมเดินรถช่วงเตาปูน-บางซื่อเข้ากับการเดินรถสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย โดยจะเร่งสรุปเสนอกระทรวงคมนาคม เพื่อเร่งนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 3 พ.ค. หรืออย่างช้าในสัปดาห์หน้า

โดยมติ ครม.เมื่อวันที่ 28 ต.ค. 2557 ให้ กก.มาตรา 13 เจรจาตรง BEM ว่าจ้างเดินรถช่วงเตาปูน-บางซื่อ ระยะเวลาเดินรถ สิ้นสุดถึงปี 2572 เท่ากับสัญญาสัมปทานของรถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล ซึ่งครั้งแรก BEM ระบุว่า จ้างเดินรถ 1 สถานีต้องต่อรถอย่างน้อย 2 ขบวน ซึ่งมีจำนวนน้อยทำให้ต้นทุนตัวรถสูง ถึง 400 ล้านบาทต่อขบวนจากปกติเฉลี่ย 200 ล้านบาทต่อขบวน ในขณะที่ รฟม.ต้องการให้เก็บค่าโดยสารช่วง 1 สถานีที่ 2 บาท ซึ่งเมื่อเทียบกับต้นทุนจะทำให้ขาดทุนถึงปี 72 ประมาณ 2,000 ล้านบาท เนื่องจากอัตราจริงต้องเก็บที่ 9.50 บาท ดังนั้น รัฐต้องชดเชยหรือรับภาระในส่วนนี้ ทาง BEM เสนอรับจ้างเดินรถ 1 ปี ค่าจ้าง 52 ล้านบาท โดยจะเดินสายเฉลิมรัชมงคลวิ่งต่อให้ 1 สถานี แต่ ครม.ไม่เห็นด้วย จึงต้องเจรจาใหม่และเสนอเป็นเดินรถเพิ่มเป็น 2 ปี ซึ่ง ครม.เมื่อวันที่ 19 เม.ย.ตีกลับผลการเจรจา

“บอร์ด รฟม.เสนอ 2 ทางเลือกพร้อมข้อมูลประกอบที่ครบถ้วนอยู่ที่ ครม.จะตัดสินใจ หาก 1 สถานีได้ข้อยุติใน พ.ค.นี้จะทำให้คณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (คณะกรรมการ PPP) พิจารณาการเดินรถสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงหัวลำโพง-บางแค และบางซื่อ-ท่าพระ หากดูโครงสร้างของสายสีน้ำเงินส่วนเฉลิมรัชมงคล และส่วนต่อขยายจะเชื่อมต่อกันเป็นวงกลม โดยที่สถานีเตาปูนซี่งเชื่อมกับสายสีม่วง ระบบสายสีน้ำเงินจะอยู่ชั้น 2 ส่วนสายสีม่วงจะอยู่ชั้น 3 อย่างไรก็ตาม ผมยืนยันว่าการทำงาน รฟม.ไม่ล่าช้า พยายามเร่งรัด โดยรถไฟฟ้าสายสีส้ม, ชมพู, เหลือง จะเปิดขายซองประกวดราคาก่อสร้างในเดิน มิ.ย.นี้” พล.อ.ยอดยุทธกล่าว

ด้านนายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล ผู้ว่าฯ รฟม.กล่าวว่า ข้อเสนอเรื่องการเดินรถสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ต่อคณะกรรมการ PPP คือ ขอเปลี่ยนจาก PPP Gross Cost (รัฐลงทุน 100% และจัดเก็บค่าโดยสาร โดยจ้างเอกชนทำหน้าที่เดินรถ) เป็น PP Net Cost (รัฐเป็นผู้ลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน ส่วนเอกชนรับสัมปทานเดินรถและเก็บค่าโดยสารโดยแบ่งส่วนแบ่งรายได้ให้รัฐ) และเสนอให้รวมเดินรถ 1 สถานีไปด้วย ซึ่งหากคณะ กก. PPP เห็นชอบจะสรุปเสนอผลต่อ ครม.และหลัง ครม.เห็นชอบ รฟม.จะตั้ง กก.มาตรา 35 ตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 2556 ได้ภายใน 2 สัปดาห์ ซึ่งคณะ กก.มาตรา 35 จะพิจารณาว่าจะเปิดประกวดราคาหรือใช้วิธีเจรจากับ BEM ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเปิดประกวดราคาหรือเจรจา หากเป็น BEM รายเดิมที่ได้งานเดินรถสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ทาง BEM จะเร่งเปิดเดินรถ 1 สถานีให้ก่อนภายในปลายปี 2559 แต่หากเป็นรายอื่นที่ได้รับสัมปทานจะต้องรออีกอย่างน้อย 3 ปีจึงจะเปิดเดินรถได้
https://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=dW_XTrVzZQE

[Wisarut]

รฟม.ได้ข้อยุติบางซื่อ-เตาปูน
พิกัดข่าวค่ำ
Now TV26
วันที่ 02 พฤษภาคม 2559
บอร์ด รฟม.มี 2 แนวทางแก้ไขปัญหาส่วนต่อเตาปูน-บางซื่อคือแก้ไขสัมปทานเดิมหัวลำโพง-บางซื่อให้วิ่งต่อมาอีก 1 สถานีและให้ผู้ได้รับสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินวิ่งช่วงส่วนต่อด้วยโดยจะเสนอ ครม.พิจารณาเลือกแนวทางในวันพรุ่งนี้
คณะกรรมการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยหรือบอร์ดรฟม.พิจารณาผลการเจรจาต่อรองกับบริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพและแนวทางในการดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงเตาปูน–บางซื่องานสัญญาที่ 5 จากกำหนดการเดินรถอย่างเป็นทางการของสายสีม่วงบางใหญ่-เตาปูนในวันที่ 6 สิงหาคมจะทำให้รถไฟฟ้าระหว่างสถานีเตาปูน-บางซื่อไม่มีขบวนรถวิ่งเพื่อเชื่อมต่อกันจึงจำเป็นต้องเร่งหาผู้เดินรถใน 1 สถานีนี้
พลเอกยอดยุทธบุญญาธิการประธานบอร์ด รฟม.ระบุว่ามติในที่ประชุมได้มี 2 แนวทางที่เตรียมเสนอให้กระทรวงคมนาคมและคณะรัฐมนตรีพิจารณาคือเจรจาสัญญาสัมปทานเดิมช่วงหัวลำโพง-บางซื่อให้ต่อขยายไปถึงสถานีเตาปูนซึ่งต้องแก้สัญญาเดิมของรถไฟฟ้าสายสีม่วงและข้อเสนอที่ 2 เอา 1 สถานีไปรวมกับสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายโดยในเดือนพฤษภาคมนี้คณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของภาครัฐหรือ PPP จะได้ข้อยุติคัดเลือกผู้ได้รับสัมปทานเดินรถได้หากบริษัทใด ได้สัมปทานเดินรถสายสีน้ำเงินต้องมาวิ่งช่วงสถานีเตาปูน-บางซื่อก่อนในช่วงรอสายสีน้ำเงินยังไม่เปิดให้บริการ
โดยในวันนี้ (2 พ.ค.) จะเสนอให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาและจะเสนอให้ ครม.พิจารณาในวันที่ 3 พฤษภาคมนี้
ส่วนข้อเสนอของบริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ หรือ BEM เมื่อวันที่ 19 เมษายน ที่จะช่วยเดินรถให้ก่อน2ปีช่วงที่รอรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเปิดให้บริการในที่ประชุมมีความเห็นตรงกันไม่สามารถดำเนินการได้เนื่องจากขัดกับมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2557 ที่ให้ รฟม.ให้เจรจากับบริษัท BEM ให้เดินรถจากสถานีเตาปูน-บางซื่อถึงปี 2572 ประกอบกับข้อเสนอจ้างเดินรถ 1 สถานีจำนวนเงิน 52 ล้านบาทต่อปีโดยรัฐจะเป็นผู้เก็บค่าโดยสารซึ่งจะทำให้ชดเชยเงินน้อยลงแต่กระทรวงคมนาคมได้ตีกลับข้อเสนอ
โดย BEM ได้ให้เหตุผลที่ไม่สามารถเดินรถช่วงเตาปูน-บางซื่อได้ถึงปี 2557 ได้นั้น เนื่องจากต้นทุนในการต่อขบวนรถใหม่ สูงถึง 400 ล้านบาทต่อขบวน ถ้าเก็บค่าโดยสาร 2 บาทต่อสถานี จะทำให้ขาดทุน ปีละ 2,000 ล้านบาท หาก BEM ได้สัมปทานเดินรถสายสีน้ำเงิน จะเดินรถช่วงเชื่อมต่อให้ก่อน โดย BEM จะออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด

[Mongwin]

ครม.ให้รวมการเดินรถไฟฟ้าเตาปูน-บางซื่อในสัมปทานสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 3 พฤษภาคม 2559 16:53:26 น.

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ให้รวมการเดินรถไฟฟ้าช่วงต่อเชื่อม สถานีเตาปูน-บางซื่อ จำนวน 1 สถานี ระยะทาง 1 กิโลเมตร ที่เป็นส่วนต่อขยายออกมาจากรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน หรือ MRT ไปไว้กับสัมปทานการเดินรถไฟฟ้าสีน้ำเงินส่วนต่อขยายช่วงบางซื่อ-ท่าพระ และหัวลำโพง-บางแค หลังจากการเจรจากับ บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) ซึ่งเป็นผู้เดินรถ MRT ไม่ประสบความสำเร็จ

ทั้งนี้ การหาเอกชนมาเดินรถสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายจะนำเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (PPP) ในสัปดาห์หน้าเพื่อพิจารณาตัดสินใจว่าจะใช้รูปแบบการเจรจากับ BEM ซึ่งเป็นเอกชนรายเดิม หรือเปิดประมูลใหม่

นายอาคม เปิดเผยว่า ครม.รับทราบผลการเจรจาระหว่างคณะกรรมการมาตรา 13 กับ BEM โดยให้ความเห็นชอบการยกเลิกมติ ครม.เดิม 3 ครั้งเมื่อปี 53 ที่อนุมัติให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนตาม พ.ร.บ.ร่วมการงานกับเอกชน พ.ศ.2535 และปี 57 อนุมัติให้เจรจากับเอกชนให้เดินรถ 1 สถานีจากสถานีเตาปูน-สถานีบางซื่อโดยให้ระยะเวลาเดินรถสิ้นสุดปี 57 และล่าสุด 19 เม.ย.59 ที่ยืนยันตามมติ ครม.ดังกล่าวและให้กลับมาเจรจากับเอกชนอีกครั้ง

แต่ในวันนี้ได้นำเสนอว่าการเจรจากับเอกชนเพื่อให้เดินรถ 1 สถานีดังกล่าวถึงปี 72 เท่ากับกำหนดสิ้นสุดสัมปทานเดิมนั้น ไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากเอกชนประเมินว่าจะไม่คุ้มกับการลงทุน

ดังนั้น ครม.จึงสั่งการให้นำการเดินรถ 1 สถานีดังกล่าวไปรวมกับสัมปทานการเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายช่วงหัวลำโพง-บางแคและบางซื่อ-ท่าพระ โดยกระทรวงคมนาคมจะนำเสนอต่อคณะกรรมการ PPP ในสัปดาห์หน้าเพื่อพิจารณาว่าจะเปิดประมูลใหม่ หรือจะให้เจรจากับ BEM ที่เดินรถในสายสีน้ำเงินอยู่แล้ว โดยจะให้เอกชนเข้าร่วมทุนเป็น PPP Net Cost ซึ่งเป็นรูปแบบที่รัฐลงทุนงานก่อสร้างและเอกชนจัดหาขบวนรถและบริหารการเดินรถ จากเดิม PPP Gross Cost หรือว่าจ้างเอกชนเดินรถเพียงอย่างเดียว

อย่างไรก็ตาม ระหว่างนี้รถไฟฟ้าสายสีม่วง บางใหญ๋-บางซื่อ ใกล้เปิดให้บริการแล้ว ทางกระทรวงคมนาคมจึงมอบหมายให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) จัดหาการเดินรถช่วงต่อเชื่อมระหว่างสถานีเตาปูนไปสถานีบางซื่อเป็นการชั่วครวก่อน ซึ่งมีทางเลือก 2 แนวทาง คือจะให้มีการบริการรถ shutter bus ซึ่งจะใช้รถเมล์หรือจะใช้รถไฟของการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) ให้บริการจากสถานีบางซ่อนไปสถานีบางซื่อ ขณะที่จะเร่งให้ผู้ที่ได้สัญญาเดินรถสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายเดินรถในส่วนสถานีเตาปูนไปสถานีบางซื่อให้ได้ก่อนเป็นอันดับแรก คาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการอย่างน้อย 15 เดือน

ด้านนายพีระยุทธ สิงห์พัฒนกุล ผู้ว่าการ รฟม.กล่าวว่า รฟม.จะหารือกับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และ รฟท.เพื่อสรุปค่าใช้จ่ายที่จะนำรถมาวิ่งระหว่างสถานีบางซื่อ-สถานีเตาปูน และจะเสนอเรื่องเข้าคณะกรรมการ รฟม.จากนั้นจะเสนอให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาต่อไป โดยเยื้องต้นหากใช้รถของ ขสมก.จะจัดรถไว้ 12 คันรองรับการเดินทางในเส้นทางดังกล่าว

ส่วนการเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายนั้น หากคณะกรรมการ PPP พิจารณาแนวทางใดแล้วก็จะนำเสนอต่อครม. เมื่อ ครม.มีมติแล้ว ทางรฟม.จะเร่งจัดตั้งคณะกรรมการมาตรา 13 ภายใต้ พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ ขึ้นมาดำเนินการจัดทำร่างทีโออาร์หากตัดสินใจเปิดประมูลเพื่อทำงานได้เลย หรือจะเร่งรัดการเจรจาโดยตรงกับผู้เดินรถรายเดิม

ทั้งนี้ ผู้ที่จะให้บริการเดินรถสายสีนำเงินส่วนต่อขยายจะใช้รถไฟฟ้า 28 ขบวน รวมการเดินรถ 1 สถานีบางซื่อ-สถานีเตาปูน ซึ่งทำให้เกิดความคุ้มค่าการลงทุนหากเปิดประมูลเพื่อเดินรถ 1 สถานีใช้รถไฟฟ้า 2 ขบวนซึ่งจะมีต้นทุนสูงกว่า โดยสถานีเตาปูนออกแบบมาให้เป็นสถานีเชื่อมต่อ (Interchange) ระหว่างสายสีน้ำเงินกับสายสีม่วง ซึ่งขณะนี้สถานีบางซื่อได้ก่อสร้างเสร็จแล้ว ทั้งนี้ สถานีเตาปูนจะมี 2 ชานชลาสำหรับรถไฟฟ้าสายสีม่วง และรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน

นายพีระยุทธ กล่าวว่า ในเดือน มิ.ย.นี้ รฟม.จะเปิดให้ประชาชนทั่วไปทดลองนั่งรถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงบางใหญ่-บางซื่อ โดยวันที่ 10 พ.ค. กรรมาธิการคมนาคม จะทดลองนั่ง พร้อมดูสถานีเตาปูนจุดเชื่อมต่อ ทั้งนี้ หลังเปิดเดินรถสายสีม่วงอย่างเป็นทางการในวันที่ 6 ส.ค.จะเก็บค่าโดยสาร กม.ละ 2 บาท สามารถใช้ตั๋วโดยสารเชื่อมต่อกับสายสีน้ำเงินได้ โดยราคาค่าโดยสายทั้งสายสูงสุดอยู่ที่ 70 บาท เริ่มต้นที่ 16 บาท

[Wisarut]

แก๊งฝรั่งแอบเข้าไปพ่นสีในโรงเก็บรถไฟฟ้าใต้ดิน พระราม 9 เพราะไม่มียาม

แสบยิ่งนัก! ฝรั่งปีนรั้วศูนย์บำรุงรถไฟฟ้าย่านพระราม 9 ใช้กระป๋องสีพ่นเลอะเทอะเต็มขบวน
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 7 พฤษภาคม 2559 20:50
10,206 ครั้ง





โคตรแสบ! ชายต่างชาติปีนรั้วศูนย์ซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าย่านพระราม 9 ลงมือพ่นสีข้างขบวนรถ ตรวจสอบพบก่อเหตุทั่วเอเชีย รวมแล้วทั้งสิ้น 6 ประเทศ...

เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในสังคมออนไลน์กำลังมีการพูดถึงกระทู้เว็บไซต์พันทิป หัวข้อ "คิดยังไงกับกรณีฝรั่งมือบอน พ่นสีขบวนรถไฟ MRT” โดยผู้โพสต์อ้างว่า เห็นคลิปดังกล่าวในเฟซบุ๊กเมื่อช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา เป็นเหตุการณ์ขณะชายต่างชาติจำนวน 2-3 คน ปีนรั้วกำแพงศูนย์ซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าใต้ดิน ย่านพระราม 9 และทำการใช้กระป๋องสีพ่นไปบริเวณข้างตัวรถไฟฟ้า จากนั้นได้ถ่ายภาพเก็บไว้และรีบปีนรั้วออกอย่างรวดเร็ว ก่อนขึ้นแท็กซี่จากไป ซึ่งผู้โพสต์ได้แสดงความเป็นห่วงระบบรักษาความปลอดภัย เพราะหากมีคนแอบปีนรั้วและเข้าไปทำมากกว่าพ่นสี อาจเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นได้


ผู้ใช้งานชาวไทย เห็นคลิปแล้วไม่สบายใจ เกิดคำถามต่อระบบรักษาความปลอดภัย
จากการตรวจสอบไปยังเฟซบุ๊ก The Grifters ซึ่งเป็นต้นทางของคลิปวิดีโอดังกล่าวพบว่าถูกโพสต์เมื่อ 26 เมษายน ที่ผ่านมา โดยมีข้อความแปลเป็นภาษาไทยได้ใจความว่า "นับตั้งแต่เปิดใช้งานอย่างเป็นทางการมาตั้งแต่ปี 2004 ขบวนรถไฟใต้ดิน MRT ของกรุงเทพ ทั้งสายสีแดง สีม่วง และสีเหลือง ถือเป็นเป้าหมายของนักพ่นกำแพงทั่วโลก เนื่องด้วยที่ตั้งรกร้างที่ซ่อนของงูพิษ และเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยที่คอยคุ้มกันแน่นหนา นักพ่นกำแพงหลายรายพยายามที่จะลอบเข้าไปพ่นสี แต่น้อยมากที่จะประสบความสำเร็จ ขณะที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ให้ความสนใจกับหญิงสาวและสาวประเภทสองชาวไทย แต่ UTAH และ ETHER ตั้งใจใช้กำลังกายนี้เพื่อวาดภาพ”


นอกจากนี้ ยังพบว่า 6 ประเทศในละแวกเอเชียได้ถูกกลุ่ม UTAH & ETHER ลักลอบเข้าไปยังศูนย์ซ่อมบำรุงรถไฟฟ้า เพื่อทำการพ่นสีสเปรย์ข้างตัวรถ ไล่ตั้งแต่ ตุรกี อินเดีย ไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ โดยบางแห่งถึงขั้นต้องใช้คีมตัดลวด ซึ่งภาพเหตุการณ์ทั้งหมดถูกอัพโหลดเก็บไว้ในเว็บไซต์ http://utahether.com ตั้งแต่ช่วงเมษายน 2559 ที่ผ่านมา

ด้านฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสายสีม่วง เปิดเผยกับสายตรวจโซเชียล ไทยรัฐออนไลน์ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูล โดยคาดว่าจะให้คำตอบได้ภายใน 1-2 วันนี้


สำหรับประเทศสิงคโปร์ เคยเกิดเหตุการณ์ทำนองนี้มาก่อนในช่วงเดือนมีนาคม 2558 โดยครั้งนั้นผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาย 2 คนชาวเยอรมัน ได้พยายามหลบหนีไปยังประเทศออสเตรเลีย แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ศาลสิงคโปร์ได้ลงโทษจำคุกคนละ 4 เดือนในข้อหาลักลอบเข้าไปในอู่รถไฟ และอีก 5 เดือนในข้อหาพ่นสีสเปรย์ซึ่งถือเป็นการทำลายทรัพย์สินของสิงคโปร์ รวมทั้งหมด 9 เดือน นอกจากนี้ ศาลยังสั่งลงโทษโบยด้วยหวายคนละ 3 ครั้ง.

https://www.youtube.com/watch?v=a5iMjOdW0Rw

คิดยังไงกับกรณีฝรั่งมือบอน(?)พ้นสีขบวนรถไฟ MRT
http://pantip.com/topic/35124987

[Wisarut]

'ศานิตย์'สั่งหาชาวต่างชาติ เหตุพ่นสีสเปรย์รถไฟฟ้าใต้ดิน
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
วันที่ 08 พฤษภาคม 2559, 19:41

รรท.ผบช.น. สั่งหาตัวชาวต่างชาติ ก่อเหตุพ่นสีสเปรย์รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ชี้นครบาลรปภ.ยังไม่ดีพอ


พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รรท.ผบช.น.) เปิดเผยถึงกรณีคลิปเผยแพร่ที่มีกลุ่มชาวต่างชาตินั่ง Taxi ใช้สีสเปรย์พ่นที่รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ซึ่งจอดอยู่ที่อู่พระราม 9 โดยพฤติการณ์ดังกล่าวอาจจะทำให้มองภาพลักษณ์การดูแลความปลอดภัย ความมั่นคง ยังไม่ดีพอ

จึงขอให้ทุกกองบังคับการตำรวจนครบาล เพิ่มความเข้มในการปฏิบัติและกำหนดมาตรการการดูแลสถานที่สำคัญๆ ในเขตพื้นที่ เพื่อป้องกันมิให้มีเหตุการณ์เช่นนี้อีก สำหรับกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุ มีการสั่งการให้พยายามสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีโดยด่วน ทั้งนี้ ให้รายงานผลการปฏิบัติให้ทราบทุกระยะ

[Wisarut]

ตั้งกรรมการเดินหน้าแก้ปัญหารอยต่อรถไฟฟ้าสีม่วง-น้ำเงิน
Written by: กอง บก.ข่าวเศรษฐกิจ
ข่าวเศรษฐกิจ
สำนักข่าวไทย
วันที่ 11 พฤษภาคม 2559 12:15 PM

กระทรวงคลัง 11 พ.ค.- คณะ PPP สั่งตั้งคณะกรมการมาตรา 35 นำรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินหลังรวม 1 กิโลเมตร เพื่อเร่งหาผู้เดินรถสายสีน้ำเงิน

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการ นโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (คณะกรรมการ PPP) หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) สั่งการให้นำส่วนต่อขยายของรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่มีปัญหาการเดินรถไฟฟ้าส่วนต่อเชื่อมสถานีเตาปูน-บางซื่อระยะทาง 1 กิโลเมตร โดยให้นำไปรวมกับสัญญาการเดินรถสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงบางซื่อ-ท่าพระและหัวลำโพง-บางแค เพื่อเร่งสรรหาผู้เดินรถในช่วง 3 ปี ข้างหน้า หลังจากนำรอยต่อที่มีปัญหาระยะทาง 1 กิโลเมตร เป็นส่วนหนึ่งของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยยาย

นายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรม PPP วันนี้จึงเห็นชอบให้แต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมดำเนินการในกิจการของรัฐ (คณะกรรมการตามมาตรา 35) ภายในเดือนพฤษภาคมนี้ เพื่อกำหนดเงื่อนไขและวิธีการคัดเลือกการประมูล โดยคณะกรรมการชุดดังกล่าว เช่น ประธานบอร์ด รฟม. เป็นประธาน กรรมการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข่น อัยการสูงสุด สำนักงบประมาณ สคร. เป็นกรรมการ หลังจากนั้นต้องรอที่ประชุมหารือวิธีการคัดเลือก หากเลือกวิธีการเจรจากับรายเดิม คือ บริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) จะใช้เวลาไม่นานเพียง 15 เดือน จะเปิดเดินรถได้ หากเปิดประมูลคัดเลือกผู้เดินรถรายใหม่ จะใช้เวลาประมาณ 3 ปี เมื่อคัดเลือกผู้เดินรถได้แล้วจะเสนอที่ประชุม ครม. พิจารณาในครั้งต่อไป

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กล่าวว่า รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายวงเงินลงทุน 84,000 ล้านบาท เมื่อรวมรถไฟฟ้าสถานีเตาปูน-บางซื่อระยะทาง 1 กิโลเมตร เข้าเป็นส่วนหนึ่งของสายสีน้ำเงิน เพื่อให้การเดินรถมีความต่อเนื่อง จึงเลือกใช้แนวทาง PPP Net cost โดยภาคเอกชนผู้ให้บริการเดินรถเป็นผู้รับความเสี่ยงและรับประโยชน์จากการเดินรถ ระยะเวลา 30 ปี โดยภาคเอกชนผู้ผ่านการคัดเลือกจะต้องเร่งดำเนินการในช่วง สถานีเตาปูน-บางซื่อระยะทาง 1 กิโลเมตร เนื่องจากสายสีม่วงต้องเร่ิมเปิดให้ประชาชนทดลองใช้ในช่วงเดือนสิงหาคมนี้.-สำนักข่าวไทย

[Wisarut]

บอร์ดPPPเคาะเอกชนร่วมลงทุน"รถไฟฟ้าสีน้ำเงิน" ต่อขยาย8.4หมื่นล้าน-เดินรถเชื่อม"เตาปูน-บางซื่อ"
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
วันที่ 11 พฤษภาคม 2559 เวลา 16:48:08 น.


บอร์ด PPP เคาะเปิดเอกชนร่วมลงทุนรถไฟฟ้าสีน้ำเงินต่อขยายพร้อมเดินรถเชื่อมต่อสถานี "เตาปูน-บางซื่อ" ชี้หลังจากนี้ รฟม. ตั้งเร่งตั้งคณะกรรมการตามมาตรา 35 มาชี้ขาด "เปิดประมูลใหม่" หรือ "เจรจา" รายเดิม คาดใช้เวลา 15 เดือนจึงจะเดินรถได้

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (คณะกรรมการ PPP) ที่มีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุม วันนี้ (11 พ.ค.) ได้เห็นชอบในหลักการของการให้เอกชนร่วมลงทุนในโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย (ช่วงหัวลำโพง - บางแค และช่วงบางซื่อ - ท่าพระ) ตามข้อเสนอของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ที่กำหนดให้มีการเดินรถแบบต่อเนื่อง (Through Operation)

"สายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย จะทำให้การเดินทางเป็นวงกลมได้ ซึ่งวันนี้ คณะกรรมการ PPP เห็นชอบให้เสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยให้ทาง รฟม. ไปทำข้อมูลเพิ่มเติมก่อน" นายอภิศักดิ์กล่าว

นอกจากนี้ คณะกรรมการ PPP ได้ติดตามความคืบหน้าของอีก 4 โครงการภายใต้มาตรการ PPP Fast Track ของกระทรวงคมนาคม ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู (ช่วงแคราย - มีนบุรี) และโครงการรถไฟฟ้าสีสายเหลือง (ช่วงลาดพร้าว - สำโรง) โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 35

ของพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 (พ.ร.บ. ร่วมลงทุนฯ) ตามกำหนดระยะเวลาของ PPP Fast Track และโครงการ Motorway สายบางปะอิน - นครราชสีมา และสายบางใหญ่ - กาญจนบุรี ซึ่งกรมทางหลวงคาดว่าจะเสนอกระทรวงคมนาคมได้ในเดือน พ.ค. 2559

"สายสีน้ำเงินต่อขยาย เมื่อเรียบร้อยจะทำให้ผู้ลงทุนเกิดความมั่นใจ เพราะเป็นเส้นที่เป็นแกนหลัก ซึ่งเมื่อเดินต่อไปได้ก็จะทำให้เกิดความมั่นใจอย่างสูง" นายอภิศักดิ์กล่าว

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กล่าวว่า มติ ครม. เมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีการให้ยกเลิกให้สายสีม่วงเดินรถช่วง 1 กิโลเมตร (เตาปูน-บางซื่อ) แล้วให้รวมกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายแทน ซึ่งคณะกรรมการ PPP ก็เห็นควรให้เอกชนมาร่วมลงทุนส่วนต่อขยายนี้ตามที่ รฟม. และกระทรวงคมนาคมเสนอ

"ให้เป็นการเดินรถแบบต่อเนื่อง เนื่องจากทางกระทรวงคมนาคมกับ รฟม. ยืนยันว่าจะเป็นประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน" นายเอกนิติกล่าว
นายเอกนิติ กล่าวอีกว่า สำหรับการเดินรถโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินในภาพรวม วงเงินลงทุนรวมของโครงการทั้งหมดจะอยู่ที่ประมาณ 84,000 ล้านบาท โดยให้เอกชนเป็นผู้ลงทุนงานระบบรถไฟฟ้า และให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการฯ แบบ PPP Net Cost โดยเอกชนเป็นผู้รับผลประโยชน์และความเสี่ยงจากค่าโดยสารในการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงของโครงการฯ เป็นระยะเวลา 30 ปี บวกกับลงทุนระบบอีก 3 ปี รวมเป็น 33 ปี และภาครัฐไม่มีภาระทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อการสนับสนุนภาระทางการเงินและการลงทุนของภาคเอกชน

ทั้งนี้ ให้เอกชนดำเนินการติดตั้งระบบรถไฟฟ้าช่วงเตาปูน - บางซื่อ ให้แล้วเสร็จและสามารถเริ่มเดินรถเป็นลำดับแรกก่อน ซึ่งจุดนี้จะมีความสัมพันธ์กับการเดินรถสายสีม่วงที่จะเปิดให้บริการ ส.ค. 2559 นี้ โดยทางคณะกรรมการ PPP ก็มีความเป็นห่วง แต่ก็ได้รับการยืนยันจาก รฟม. ว่าจะดำเนินการภายใน 15 เดือน ดังนั้นก็ต้องมีระยะเวลาให้ รฟม. เตรียมเรื่องการเชื่อมต่อ เพราะในช่วง 15 เดือนนี้ ต้องใช้เวลาในการหาเอกชนมาร่วมลงทุน" นายเอกนิติกล่าว

นายเอกนิติ กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมให้ รฟม. รับข้อสังเกตต่าง ๆ ไปดำเนินการตามกฎหมายได้เลย เช่น การตั้งคณะกรรมการตามมาตรา 35 ในการร่างทีโออาร์ คัดเลือกเอกชน และหารือกับคณะกรรมการตามมาตรา 43 คือคนที่กำกับดูแลสัญญาของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินสายเฉลิมรัชมงคลที่ต้องเชื่อมต่อกัน โดยต้องเร่งดำเนินการโดยเร็ว

นายอภิศักดิ์ กล่าวเสริมอีกว่า คณะกรรมการตามมาตรา 35 จะไปตัดสินใจว่า จะมีการเปิดประมูล หรือเจรจากับรายเดิมต่อไป ซึ่งนอกจากผลประโยชน์ต่อภาครัฐแล้ว ก็ต้องคำนึงถึงประโยชน์ต่อประชาชนโดยรวมทั้งหมด

"ทาง รฟม. บอกว่าจะใช้เวลาดำเนินการไม่เกิน 15 เดือน โดยระหว่างที่ยังไม่สามารถเดินรถเชื่อมต่อได้ ทาง รฟม. บอกว่าจะจัดรถบัสวิ่งระหว่างสถานี ขณะเดียวกันเขาก็บอกว่าได้คุยกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) บอกว่ามีรถที่สามารถวิ่งไปบางซื่อได้ ก็คงช่วยบรรเทาชั่วคราวก่อนได้ อย่างไรก็ดี ได้ฝากว่า ให้ทำเหมือนกรณี BTS คือเมื่อมีการสร้างไปแล้วเสร็จกี่สถานีก็ให้ทยอยเดินรถไปเรื่อยๆ ไม่ต้องให้เสร็จทีเดียว" รมว.คลังกล่าว

นายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล ผู้ว่าการ รฟม. กล่าวว่า ทาง รฟม. จะเร่งแต่งตั้งคณะกรรมการตามมาตรา 35 โดยเร็ว ซึ่งจะมีกรรมการประมาณ 9 คน โดย รฟม. เป็นประธาน แล้วประกอบไปด้วยอัยการสูงสุด สำนักงบประมาณ สคร. เป็นต้น ขณะที่การใช้รถรับส่งชั่วคราวระหว่างสถานีน่าจะต้องใช้เวลาราว 15 เดือน นับตั้งแต่มีการเซ็นสัญญาแล้วเป็นต้นไป

[Wisarut]

บอร์ดรฟม.มีมติเอกฉันท์ ‘รณชิต’พ้นมลทิน ไม่มีความผิดวินัยร้ายแรง ให้กลับมาทำงานต่อ
มติชน
วันที่ 11 พฤษภาคม 2559 เวลา: 18:51 น.

เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม แหล่งข่าวจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) แจ้งว่า ในการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม. ในวันเดียวกัน ที่ประชุมมีการพิจารณากรณีคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงที่มีมติให้ไล่นายรณชิต แย้มสอาด ที่ปรึกษา รฟม.ออกจากตำแหน่ง โดยบอร์ด รฟม.มีมติเป็นเอกฉันท์ว่า นายรณชิตไม่มีความผิดวินัยร้ายแรงตามที่มีการกล่าวหา แต่เห็นว่าเป็นความผิดวินัยเล็กน้อย มีเหตุอันควรให้ลดโทษ เนื่องจากที่ผ่านมาได้ประกอบคุณงามความดีไว้ โดยให้มาทำงานใน รฟม.ร่วมกันเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด
“รฟม.จะมีการทำหนังสือว่ากล่าวตักเตือนและให้มีการงดโทษ โดยเรื่องดังกล่าวจะไม่มีการลงบันทึกในประวัติส่วนบุคคลของนายรณชิตแต่อย่างใด” แหล่งข่าวกล่าว

สำหรับนายรณชิตถูกคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง เนื่องจากเมื่อครั้งนายรณชิตเป็นรักษาการผู้ว่าการ รฟม. ได้ตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงนายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล ผู้ว่าการ รฟม.คนปัจจุบันกับพวก เมื่อครั้งนายพีระยุทธเป็นรองผู้ว่าการ รฟม. หลังจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) มีหนังสือให้ รฟม.รายงานความคืบหน้ากรณี สตง.แจ้งให้ รฟม.ตรวจสอบข้อเท็จจริงการดำเนินการโครงการก่อสร้างส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สัญญาที่ 2 ช่วงสนามไชย-ท่าพระ ซึ่งนายพีระยุทธถูกตั้งกรรมการสอบวินัย เนื่องจากมีการตรวจสอบพบว่าโครงการดังกล่าวส่งผลให้ รฟม.เกิดความเสียหายจากการต้องเพิ่มมูลค่างานอีก 290 ล้านบาท และต้องขยายเวลาการก่อสร้างอีก 90 วันโดยไม่มีการแจ้งต่อบอร์ด รฟม.

ต่อมาเมื่อนายพีระยุทธขึ้นเป็นผู้ว่าการ รฟม.ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงนายรณชิต โดยระบุข้อกล่าวหาว่า มีการปกปิดข้อเท็จจริง และทำหนังสือโต้ตอบกันไปมากับ สตง.กรณีการเปลี่ยนแปลงงาน ทำให้ รฟม.เกิดความเสียหาย 290 ล้านบาท โดยไม่มีการรายงานให้คณะกรรมการ รฟม.ทราบ ถือว่าเป็นการรายงานเท็จ จึงมีมูลว่าเป็นการกระทำที่ผิดวินัย กระทั่งคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม.มีมติดังกล่าว

[Wisarut]

ขยายเวลา 3 ปี-เงิน 500 ล. อุโมงค์ กทม.ช้าทำวุ่น
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์
14 พฤษภาคม 2559 เวลา: 05:01
1,039 ครั้ง

ช.การช่างขอเคลมสายสีน้ำเงิน

พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ ประธานบอร์ดการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย รฟม. เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ด รฟม. เมื่อวันที่ 11 พ.ค. ได้รับทราบความคืบหน้าการพิจารณาขยายเวลาก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงหัวลำโพง-บางแค และบางซื่อ-ท่าพระ ในส่วนของสัญญา 5 (งานระบบราง) ซึ่งมีบริษัท ช.การช่าง จำกัด เป็นผู้รับจ้าง ขอชดเชยเวลาจากที่สิ้นสุดเดือน มิ.ย.2559 ออกไปอีก 3 ปี และค่าก่อสร้างเป็นเงินประมาณ 500 ล้านบาท ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อยุติ โดยคณะอนุกรรมการ ที่มีนายมณฑล สุดประเสริฐ บอร์ด รฟม.เป็นประธาน อยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียดและตรวจสอบแต่ละรายการที่ได้รับผลกระทบจากการส่งมอบพื้นที่ล่าช้า ว่ามีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอย่างไร และให้เป็นไปตามข้อเท็จจริงมากที่สุด โดยจะต้องให้ความเป็นธรรมกับ 2 ฝ่ายตามที่สัญญาระบุไว้ โดยระหว่างที่การเจรจาไม่ยุติ อาจจะต้องขยายเวลาให้ผู้รับจ้างไปก่อน 180 วัน เพื่อไม่ให้กระทบต่อการทำงานและเบิกเงินค่างานได้

พล.อ.ยอดยุทธกล่าว การก่อสร้างสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย มีปัญหามานานแล้วที่บริเวณสามแยกไฟฉายและสี่แยกท่าพระที่ติดการก่อสร้างอุโมงค์ของ กทม.ที่ล่าช้า ทำให้งานรถไฟฟ้าล่าช้าไปด้วย จึงกระทบต่อสัญญาก่อสร้างของผู้รับเหมาในแต่ละสัญญา ซึ่งตามมาตรฐานสากลเมื่อ รฟม.ส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างให้ผู้รับเหมาล่าช้าจะต้องขยายสัญญา ระยะเวลาก่อสร้างและชดเชยค่าดำเนินงานเพิ่มเติมให้ จึงตั้งคณะอนุกรรมการ ตรวจสอบขึ้น เพื่อให้เป็นไปตามข้อเท็จจริง.