ข่าวรถไฟฟ้าสีเขียวเข้ม(หมอชิต-สะพานใหม่) และเขียวอ่อน(แบริ่ง-ปากน้ำ)

Wisarut · Posted: 08/12/2016 7:29 pm Post subject:

เช้านี้แอดมินนำภาพความก้าวหน้าสถานีสำโรง โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ มาฝากค่ะ โดยสถานีสำโรงจะเป็นจุดเชื่อมต่อจากสถานีแบริ่ง
https://www.facebook.com/MRTA.PR/posts/1771568049726588

Wisarut · Posted: 12/12/2016 1:47 am Post subject:

รถไฟฟ้าสายสีเขียว แบริ่ง-สมุทรปราการสะดุด เคลียร์หนี้กทม.-รฟม.ยังวุ่น
โดย ฐานเศรษฐกิจ -
ออนไลน์เมื่อ 11 ธันวาคม 2559

ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,215 วันที่ 8 – 10 ธันวาคม 2559

รถไฟฟ้าเส้นทางนี้แม้ว่างานการก่อสร้างทั้งส่วนต่อขยายโซนใต้ ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการที่กลุ่มบริษัท ช.การช่าง จำกัด(มหาชน) รับดำเนินการจะคืบหน้าไปมากแล้วก็ตาม เช่นเดียวกับส่วนต่อขยายโซนเหนือ ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ที่กลุ่มบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล็อปเมนต์ จำกัด(มหาชน) อยู่ระหว่างเริ่มก่อสร้าง โดยเฉพาะการเร่งรัดในบริเวณพื้นที่ตั้งแต่หน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลลาดพร้าวไปถึงวงเวียนหลักสี่ที่ถือว่าการจราจรหนาแน่นจึงเริ่มดำเนินการก่อน เพื่อให้เปิดบริการช่วงสถานีหมอชิตไปยังสถานีเซ็นทรัลลาดพร้าวในธันวาคมปี 2560

แต่ที่ลุ้นกันมาตลอดว่าจะทดลองเดินรถจากสถานีแบริ่ง-สถานีสำโรง ระยะ 1 สถานีในวันที่ 5 ธันวาคม 2559 นี้ก็กลายเป็นฝันสลายไปแล้ว คงจะไปลุ้นกันอีกทีในวันที่ 1 มีนาคม 2560 กับการเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการสำหรับรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีแบริ่ง-สถานีสำโรง

ปมปัญหาที่ส่งผลให้เกิดความล่าช้าในครั้งนี้เป็นเพราะการเคลียร์ปัญหาระหว่างการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)กับกรุงเทพมหานคร(กทม.) ยังไม่ลงตัวต่อกรณีภาระหนี้ที่รวมทั้ง 2 ช่วงคิดเป็นมูลค่ากว่า 6 หมื่นล้านบาท ซึ่ง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกทม.ก็ออกมาแสดงชัดเจนว่า “ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย” เพราะไม่รู้จะไปหาเงินที่ไหนเนื่องจากมหาศาลจริงๆ อีกทั้งนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ก็ออกมาแสดงความชัดเจนว่าหาก กทม.ไม่จ่ายก็พร้อมจะดึงเรื่องคืนมาให้ รฟม.ดำเนินการเอง โดยจะว่าจ้างให้บีทีเอสเดินรถ

สำหรับรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2559 กระทรวงคมนาคมได้ประชุมคณะกรรมการประเมินมูลค่าหนี้สินและทรัพย์สิน พร้อมพิจารณากำหนดขั้นตอนการโอนหนี้สินและทรัพย์สินระหว่างกันก่อนที่จะเร่งโอนให้กทม.รับไปดำเนินการ

Advertisement
ทั้งนี้กระทรวงคมนาคมได้นำเสนอเรื่องให้คณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก(คจร.) พิจารณา (ตามมติ คจร. ครั้งที่ 1/2559 เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2559) ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)พิจารณา เมื่อ ครม.มีมติเห็นชอบแนวทางการโอนโครงการ กทม. ชำระเงินค่าเวนคืนให้ รฟม. 3,412 ล้านบาท ส่วน รฟม. ดำเนินการโอนอสังหาริมทรัพย์ที่ได้มาจากการเวนคืนที่ดิน รวมทั้งส่งมอบผลการศึกษาที่เกี่ยวข้องทั้งหมดให้ กทม. ส่วน รฟม. ดำเนินการตามกระบวนการของระเบียบกระทรวงการคลังเพื่อส่งเงินคืนให้รัฐต่อไป

ปัจจุบันงานโยธาในเส้นทางนี้ที่เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2555 เสร็จเกือบ 100% ส่วนงานระบบรถไฟฟ้าและเดินรถ คณะกรรมการประสานการเดินรถประชุมครั้งแรกไปเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2559 ซึ่งมีแผนเปิดให้บริการในปี 2561 โดยระยะแรกจะเร่งเปิดให้บริการช่วงสถานีแบริ่ง-สถานีสำโรงในวันที่ 1 มีนาคม 2560 ในส่วนช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต งานโยธาเริ่มดำเนินการเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2558 ผลการดำเนินการคืบหน้าแล้วกว่า 15.38% เร็วกว่าแผน 3.05% งานระบบรถไฟฟ้าและเดินรถรอผลการเจรจาส่วนต่อขยายสายสีเขียวใต้ โดยแผนการเปิดให้บริการในปี 2562

โดยแนวเส้นทางช่วงแบริ่ง – สมุทรปราการ โครงสร้างแบบยกระดับตลอดเส้นทาง ระยะทาง 13 กิโลเมตร เริ่มต้นต่อเนื่องจาก BTS ส่วนต่อขยายสายสุขุมวิท ตอนที่ 1 ช่วงอ่อนนุช – แบริ่ง บริเวณซอยสุขุมวิท 107 (แบริ่ง) ไปตามแนวเกาะกลางของถนนสุขุมวิท ผ่านคลองสำโรง ผ่านแยกเทพารักษ์ แยกปู่เจ้าสมิงพราย จนถึงจุดสิ้นสุดโครงการบริเวณหน้าสถานีไฟฟ้าย่อยบางปิ้ง ส่วนช่วงหมอชิต-คูคต โครงสร้างทางวิ่งยกระดับ จำนวน 16 สถานี ระยะทาง 19 กิโลเมตร แนวเส้นทางเริ่มต้นต่อเนื่องจาก BTS ที่สถานีหมอชิต ข้ามดอนเมืองโทลล์เวย์บริเวณห้าแยกลาดพร้าว ผ่านแยกรัชโยธิน แยกมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ไปสิ้นสุดที่บริเวณสถานีคูคต ซึ่งเป็นที่ตั้งของอาคารจอดรถ

Wisarut · Posted: 13/12/2016 12:42 pm Post subject:

รฟม.ระบุรื้อย้ายสะพานข้ามแยกรัชโยธินเป็นไปตามแผน มั่นใจเสร็จตามกำหนด
โดย MGR Online
11 ธันวาคม 2559 14:41 น.

นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ช่วยผู้ว่าการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการรื้อย้ายสะพานข้ามแยกรัชโยธิน ซึ่งเริ่มงานเมื่อต้นเดือนธันวาคม ที่ผ่านมา ว่า ภาพรวมเป็นไปตามแผนและกำหนดการที่วางไว้ มั่นใจว่าจะเสร็จตามกรอบเวลาราว 2 เดือน

//-------------

โยนกันวุ่นปมลดค่าโทลเวย์แก้รถติดแยกรัชโยธิน
เดลินิวส์
อังคารที่ 13 ธันวาคม 2559 เวลา 20.17 น.

ประชุมแก้รถติดแยกรัชโยธินโยนกันวุ่น ตร.เสนอทดลองให้รถขึ้นโทลล์เวย์1-2 เดือน
รฟม.เกี่ยงไม่มีงบจ่ายชดเชยให้

นายสมศักดิ์ ห่มม่วง ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะทำงานการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาจราจรว่า ที่ประชุมได้หารือถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาการจราจร โดยเฉพาะบริเวณที่มีการรื้อสะพานข้ามแยกรัชโยธิน เนื่องจากกีดขวางแนวก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว (ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่) ซึ่งพบว่า การจราจรติดขัดมาก และติดทั้งวัน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงมีข้อเสนอว่า หากมีการเปิดให้รถสามารถขึ้นไปใช้ทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ได้ ก็น่าจะช่วยแก้ปัญหาการจราจรติดขัดได้

ที่ประชุมจึงมอบให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) หรือ ดอนเมืองโทลล์เวย์ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ไปหารือร่วมกันในรายละเอียด เพื่อให้ได้ข้อสรุปเรื่องนี้โดยเร็ว

นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ในเบื้องต้นอาจต้องมีการทดสอบให้รถได้ทดลองใช้ทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ก่อนประมาณ 1-2 เดือน เพื่อประเมินสถานการณ์ว่าช่วยแก้ปัญหาการจราจรติดขัดได้จริงหรือไม่ หากพบว่าสามารถแก้ได้จริง ก็ต้องมาพิจารณาว่าจะมีการชดเชยค่าใช้บริการทางยกระดับดังกล่าวอย่างไร เพราะผู้บริหารดอนเมืองโทลล์เวย์ยืนยันชัดเจนว่า เป็นบริษัทมหาชน ไม่สามารถพิจารณายกเว้นค่าผ่านทาง เพราะจะมีปัญหากับผู้ถือหุ้นได้ จึงมีข้อเสนอว่าอาจจะต้องให้ รฟม. เข้ามารับภาระเงินอุดหนุนดังกล่าว เพราะปัญหาเกิดจากโครงการของ รฟม.

ด้าน พลเอกยอดยุทธ บุญญาธิการ ประธานคณะกรรมการ รฟม. กล่าวว่า รฟม. ไม่ได้จัดสรรงบประมาณ หรือตั้งงบประมาณในส่วนนี้ไว้ ยกเว้นว่ารัฐบาลจะจัดงบประมาณสนับสนุนมาให้ อย่างไรก็ตามเรื่องการแก้ปัญหาจราจร เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องหาทางแก้ไข ซึ่งในส่วนของ รฟม. นั้น
ที่ผ่านมาก็ทำหน้าที่อำนวยความสะดวกดูแลเรื่องการก่อสร้างต่างๆ ไม่ให้มีการใช้พื้นที่เกินความจำเป็น และทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด.

//---------------

ถกโทลล์เวย์รอบใหม่หั่นค่าผ่านทาง ลดผลกระทบรื้อรัชโยธิน-รฟม.คาดมีนาคมสร้างอุโมงค์
โดย ฐานเศรษฐกิจ -
ออนไลน์เมื่อ 15 ธันวาคม 2559
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,218 วันที่ 15-17 ธันวาคม 2559

รฟม.เร่งรื้อสะพานข้ามแยกรัชโยธิน คาด 2 เดือนแล้วเสร็จ ถึงจะสร้างผนังอุโมงค์ซึ่งเริ่มเจาะเดือนก.พ.-มี.ค.ปีหน้า บก.จร.เตรียมหารือโทลล์เวย์ ขอความร่วมมือคิดส่วนลดพิเศษแก่ผู้ใช้ทางช่วงด่านลาดพร้าว

นายธีรพันธ์ เตชะศิรินุกูล รองผู้ว่าการ(กลยุทธ์และแผน) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า การเจรจาร่วมกับบริษัททางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) หรือโทลล์เวย์ เกี่ยวกับการขอส่วนลดพิเศษช่วงใช้บริการจากด่านลาดพร้าวได้หรือไม่ อย่างไร โดยจะมีการหารือร่วมกันอีกครั้งในเร็วๆนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนที่ได้รับผลกระทบจากการรื้อย้ายสะพานข้ามแยกรัชโยธินเพื่อก่อสร้างอุโมงค์และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต

สำหรับปมปัญหาผลกระทบด้านการจราจรช่วงแยกรัชโยธินนั้น ขณะนี้ยอมรับว่าแนวโน้มดีขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากประชาชนค่อยๆปรับตัวและปรับเส้นทางการเดินทางของตนเองไปใช้เส้นทางเลี่ยงในถนนสายอื่นและซอยแยกกันในช่วงที่มีการก่อสร้างนี้ โดยรฟม.ได้ประสานกับจราจรในพื้นที่อย่างต่อเนื่องจึงสามารถรับมือได้และไม่เกิดผลกระทบมากตามที่คาดการณ์ไว้

ด้านพล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผู้บัญชาการตำรวจจราจร(บก.จร.) กล่าวว่า สภาพจราจรโดยรวมพื้นที่แยกรัชโยธินยังเป็นปกติ ขณะนี้สถานีตำรวจนครบาลพหลโยธินได้คอยอำนวยความสะดวกให้การเดินรถตามปกติ โดยเฉพาะโดยสารขสมก.ที่จะเลี้ยวในช่วงแยกรัชโยธินยังเลี้ยวได้ตามปกติ

“ยังไม่มีการปรับแผนใด ๆยังคงปฏิบัติตามปกติ โดยจะดูสถานการณ์ในช่วงนั้นๆอีกครั้งโดยเฉพาะช่วงเร่งด่วนทั้งวันหยุดและวันปกติยังเป็นปกติ โดยเฉพาะเส้นทางถนนรัชดาภิเษกจะมีหางแถวยาวแต่ก็ได้เร่งระบายตามจังหวะ ดังนั้นโดยภาพรวมจึงยังรับมือได้ทั้งช่วงเช้า-เย็นและช่วงปกติ คาดว่าประชาชนคงจะปรับตัวได้แล้วหันไปใช้เส้นทางเลี่ยงหรือเผื่อเวลาเดินทางกันมากขึ้น”

นอกจากนั้นผบก.จร.ยังกล่าวถึงความคืบหน้าผลการหารือบริษัทดอนเมืองโทลล์เวย์ว่ายังไม่ได้ข้อยุติต่อกรณีการเจรจาในการเข้าใช้บริการช่วงด่านลาดพร้าวว่าจะขอส่วนลดพิเศษเป็นการเฉพาะ แต่อาจจะเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆจนกว่าสถานการณ์ในพื้นที่รัชโยธินและ 5 แยกลาดพร้าวดีขึ้นหรือกลับสู่ภาวะปกติ ทั้งนี้คาดว่าจะมีการหารือร่วมกันอีกครั้งในสัปดาห์หน้านี้

ด้านนายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ช่วยผู้ว่าการรฟม.ในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายบริหารโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว เส้นทางหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต กล่าวว่า การรื้อสะพานข้ามแยกรัชโยธิน เริ่มอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมาคาดว่าจะใช้ระยะเวลาไม่เกิน 2 เดือนนี้หรือประมาณเดือนมกราคม 2560 โดยจะรื้อช่วงทางลาดทั้ง 2 ด้านก่อน หลังจากนั้นจึงจะดำเนินการรื้อช่วงกลางสะพาน เพื่อจะทำให้รื้อย้ายได้รวดเร็วและง่ายขึ้น

“วิธีปาดทางเท้าเพื่อขยายผิวถนนสามารถอำนวยการจราจรได้อย่างมาก ขณะนี้ถือว่าปัญหาจราจรเบาบางลงไปมาก ส่วนเมื่อรื้อสะพานแล้วเสร็จก็จะเร่งติดตั้งผนังกั้นอุโมงค์ทางลอดทันที คาดว่าจะเริ่มได้ในเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม 2560 โดยอุโมงค์บริเวณแยกรัชโยธินจะมีลักษณ์เช่นอุโมงค์แยกบางพลัด แยกบรมราชชนนีคือรูปแบบอุโมงค์เปิดหน้าดิน ช่วงการก่อสร้างจึงมีการเปิดหน้าดิน เช่นเดียวกับการก่อสร้างอุโมงค์ช่วงแยกมไหศวรรย์นั่นเอง โดยจะใช้ระยะเวลาก่อสร้างอุโมงค์ราว 2 ปี คาดว่าจะดำเนินการอย่างเต็มที่ในช่วงปิดเทอมนี้”

ทั้งนี้สำหรับการก่อสร้างอุโมงค์ลอดแยกรัชโยธินตามแนวถนนรัชดาภิเษก มีขนาด 4 ช่องจราจร(ไป 2 ช่อง กลับ 2 ช่อง) ความยาว 1,085 เมตร พร้อมกับการก่อสร้างสะพานข้ามแยกรัชโยธินไปตามแนวถนนพหลโยธิน ขนาด 2 ช่องจราจรเพิ่มเติม(ไป 1 ช่อง กลับ 1 ช่อง) ความยาวประมาณ 500 เมตร

Wisarut · Posted: 18/12/2016 2:54 am Post subject:

ปิด 2 เลนอุโมงค์แยกหลักสี่ คืนจันทร์ที่ 19 ธ.ค. 5 ทุ่มถึงตี 4-รื้อรัชโยธินคืบเร็วกว่าแผน
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์
17 ธันวาคม 2559 05:01

นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ช่วยผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ในฐานะผู้อำนวยการโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต เปิดเผยว่า หลังจากผู้รับเหมาปิดรื้อถอนสะพานข้ามแยกรัชโยธิน ตั้งแต่วันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา ยังไม่พบปัญหาอุปสรรคใดๆ จึงทำให้การรื้อถอนเร็วขึ้น จนถึงขณะนี้คืบหน้าประมาณ 13% ถือว่าเร็วกว่าแผน และคาดว่าการรื้อถอนสะพานจะแล้วเสร็จก่อนกำหนด จากเดิมจะแล้วเสร็จสิ้นเดือน ม.ค. 2560 เป็นกลางเดือน ม.ค. 2560 โดยใช้เวลา รวมทั้งสิ้นประมาณ 45 วัน จากเดิม 60 วัน ทั้งนี้ หลังจากรื้อเสร็จแล้วก็จะปรับพื้นที่บริเวณเชิงสะพาน ฝั่ง สน.พหลโยธิน ซึ่งเป็นคอขวดทำเป็นผิวจราจรให้รถวิ่งได้ชั่วคราวระยะหนึ่ง ระยะทางประมาณ 100 เมตร เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัด จากนั้นจึงจะเริ่มขั้นตอนการก่อสร้างอุโมงค์ทางลอดแยกทันที

นายสุรเชษฐ์กล่าวว่า เนื่องจากแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียว ก่อสร้างคร่อมอุโมงค์ทางลอดหลักสี่ จึงต้องมีการตรวจสอบความปลอดภัย โดยผู้รับเหมาจะดำเนินการติดตั้งเครื่องมือทางด้านวิศวกรรมเพื่อตรวจวัดความสั่นสะเทือนภายในอุโมงค์ จึงมีความจำเป็นต้องปิดช่องทางลอดอุโมงค์หลักสี่ ฝั่งขาเข้า ทิศทางจากสะพานใหม่มุ่งหน้าแยกเกษตร จำนวน 2 ช่องทาง โดยให้ใช้ช่องทางเข้าวงเวียนหลักสี่แทน วันที่ 19 ธ.ค.2559 ตั้งแต่เวลา 23.00-04.00 น. ส่วนอุโมงค์ทางลอด ฝั่งขาออก เปิดให้ใช้ตามปกติ ทั้งนี้ การเบี่ยงการจราจรเพื่อการดำเนินการก่อสร้างอาจทำให้ผู้ใช้เส้นทางไม่ได้รับความสะดวกในการเดินทางและอาจจะมีเสียงดังรบกวนในวันเวลาดังกล่าว ดังนั้น หากไม่มีความจำเป็น โปรดหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว และ รฟม.ต้องขออภัยมา ณ โอกาสนี้ สำหรับการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ผลงานภาพรวมคืบหน้าประมาณ 18% เร็วกว่าแผน 3%.

Wisarut · Posted: 23/12/2016 1:19 am Post subject:

รฟม.กางบัญชีหนี้โอนเดินรถสีเขียว ลุ้น ม.ค.นี้ สภา กทม.ไม่รับหนี้-ล้มเจรจาเดินรถเอง
โดย MGR Online
22 ธันวาคม 2559 18:25 น. (แก้ไขล่าสุด 22 ธันวาคม 2559 20:26 น.)

“คมนาคม” ถกร่วม รฟม.-กทม. เข็นโอนเดินรถสายสีเขียวใต้ (แบริ่ง-สมุทรปราการ) พร้อมเคลียร์หนี้สินจบใน พ.ค. 60 ด้าน กทม.รับหลักการชำระคืนรวม 2.141 หมื่นล. โดยเตรียมเสนอสภา กทม.อนุมัติใน ม.ค. 60 พร้อมเจรจาคลัง จัดทำร่างข้อบัญญัติการกู้เงิน เชื่อ ม.ค.นี้ รู้เดินหน้าโอนหรือล้มโต๊ะเจรจา ขณะที่มั่นใจ สภา กทม.ไม่น่ามีปัญหาเพราะทำเพื่อประโยชน์ประชาชน ด้าน รฟม.วางแผนสำรอง เจรจา จบไม่ทันเปิดเดินรถ 1 มี.ค. 60 ขอคิดค่าใช้ทางก่อน หากยกเลิกพร้อมเดินรถเอง

นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการประเมินมูลค่าหนี้สิน และทรัพย์สินและพิจารณากำหนดขั้นตอนการโอนหนี้สินและทรัพย์สิน โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ว่าล่าสุดทางการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้ส่งบัญชีทรัพย์สินต่างๆ ให้กรุงเทพมหานคร (กทม.) ตรวจสอบรายละเอียดแล้ว โดยทั้งสองฝ่ายได้เห็นชอบกรอบวงเงินโครงการรวมที่ 21,415.457 ล้านบาท โดยเป็นส่วนที่ รฟม.ได้จ่ายออกไปแล้ว 3,543.778 ล้านบาท ซึ่ง กทม. ต้องชำระเป็นก้อนแรก ส่วนที่เหลือประมาณ 17,559.33 ล้านบาทจะเป็นเงินต้น (เงินกู้ระยะยาว) ค่าดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียมต่างๆ ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2559 ทาง กทม.และกระทรวงการคลังจะพิจารณารายละเอียดการชำระคืนร่วมกัน

ทั้งนี้ กทม.รับหลักการทั้งหมดเสนอต่อที่ประชุมสภากรุงเทพมหานคร ในเดือน ม.ค. 2560 ซึ่งเป็นไปตามมติคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ให้โอนการเดินรถโอนทรัพย์สินและหนี้สิน รถไฟฟ้าสายสีเขียวใต้ (แบริ่ง-สมุทรปราการ)และเขียวเหนือ (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) ให้ กทม. โดยจะดำเนินการโอนสายสีเขียวใต้ก่อน ในขณะเดียวกัน คณะกรรมการประเมินมูลค่าหนี้สินและทรัพย์สินฯ จะประชุมในต้นเดือน ม.ค. 60 อีกครั้งเพื่อสรุปข้อเท็จจริงทั้งหมดทั้งประเด็นทางข้อกฎหมาย กรอบวงเงิน, ขั้นตอนและวิธีการโอน รายงานต่อที่ประชุม คจร.ที่คาดว่าจะประชุมในเดือน ม.ค. 2560

โดยในเดือน ม.ค. 2560 จะมีความชัดเจนเรื่องการโอนสายสีเขียวว่าจะเดินหน้าต่อไปหรือไม่ เนื่องจากหากสภา กทม.รับทราบจะเข้าสู่ขั้นตอนต่อไปคือในเดือน มี.ค. 2560 ทาง กทม.จะต้องนำเสนอร่างข้อบัญญัติการกู้เงินของ กทม.ให้กระทรวงการคลังเพื่อดำเนินการจัดหาเงินกู้ชำระคืน โดยประเมินว่าจะสรุปรายละเอียดและเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ในเดือน เม.ย. แต่หากสภา กทม.รับหลักการโดยมีเงื่อนไขมากจนไม่สามารถโอนแล้วเสร็จทันกำหนดเปิดเดินรถซึ่ง กทม.กำหนดว่าจะมีการทดลองเดินรถก่อน ช่วง 1 สถานี จากแบริ่ง-สำโรง วันที่ 1 มี.ค. 2560 ทาง รฟม.ได้เสนอแผนสำรองโดยในระยะสั้นระหว่างการโอนยังไม่เรียบร้อยจะคิดค่าเช่าใช้โครงสร้างพื้นฐานในช่วงดังกล่าวไปจนกว่าจะโอนเรียบร้อย และมีแผนระยะยาวกรณีที่การโอนล้มเหลวกรณีสภา กทม.ไม่รับหลักการ ทาง รฟม.จะเดินรถเอง

“ในเดือนมกราคม 2560 จะรู้แล้วว่าการโอนเดินรถสีเขียวให้ กทม.จะเดินหน้าไปได้หรือไม่ เพราะปัญหาตอนนี้คือต้องรอให้สภา กทม.เห็นชอบกรอบการหารือทั้งหมดก่อน จากนั้นทาง กทม.ต้องออกร่างข้อบัญญัติเงินกู้เพื่อชำระเงินคืน คาดว่าทางสภา กทม.น่าจะไม่มีปัญหาเพราะเป็นการดำเนินการเพื่อประชาชน ส่วนทางด้านการเงินที่ต้องชำระคืนนั้นเป็นส่วนที่ กทม.ต้องหารือกับคลัง ซึ่งกรณีเงินก้อนแรก 3,543 ล้านบาทนั้นจะเป็นส่วนที่ต้องจ่ายให้ รฟม.22 ล้านบาท และจ่ายคืนคลัง 3,500 ล้านบาทเศษ ทางสำนักงบประมาณจะดูระเบียบที่เกี่ยวข้อง ถ้า กทม.ไม่ชำระในวันที่โอน ต้องดูว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง” รองปลัดกระทรวงคมนาคมกล่าว

//-----------------------------------------

'คมนาคม'เตรียมแผนหากตกลงปมรถไฟฟ้าสายสีเขียวไม่ได้
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
วันที่ 22 ธันวาคม 2559, 19:15

"คมนาคม" เตรียมจัดทำแผนระยะสั้น-ยาวรองรับ หากไม่สามารถตกลงโอนทรัพย์สินรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้ กทม. ทันกำหนด เม.ย. 60

นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการประเมินมูลค่าหนี้สิน และทรัพย์สิน และพิจารณากำหนดขั้นตอนการโอนหนี้สินและทรัพย์สินระหว่างกัน โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ เปิดเผยถึงความคืบหน้าโอนรถไฟฟ้าสีเขียวของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ให้กรุงเทพมหานคร (กทม.) ว่า รฟม.ได้จัดส่งบัญชีหนี้สินให้ กทม.แล้ว โดยมีกรอบวงเงิน ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2559 รวมทั้งสิ้น 21,403.561 ล้านบาท โดยกำหนดให้กทม.จะต้องชำระเงินคืนก้อนแรกให้รฟม. 3,557.053 ล้านบาท พร้อมการการโอนสิทธิให้ กทม ซึ่งรฟม. จะต้องส่งเงินคืนคลัง 3,534.736 ล้านบาท และเก็บไว้เป็นรายได้ รฟม. 22.31 ล้านบาท

ส่วนหนี้เงินกู้ระยะยาวอีก 17,535.820 ล้านบาท นั้น กทม.จะต้องหารือกับกระทรวงการคลัง เพื่อหาแนวทางในการผ่อนชำระต่อไป โดยกทม. จะต้องนำบัญชีหนี้สินเสนอเข้าสู่ที่ประชุมสภา กทม. ในช่วงต้นเดือน ม.ค.60 เพื่อพิจารณาว่าจะมีการรับโอนโครงการตามเงื่อนไขของรฟม. หรือไม่

ทั้งนี้ รฟม. ได้จัดทำแผนระยะสั้น และระยะยาวไว้แล้ว หากไม่สามารถตกลงโอนทรัพย์สินได้ตามกำหนดเวลาในเดือน เม.ย.60 แผนระยะสั้นหาก กทม. ต้องการเปิดเดินรถ 1 สถานีก่อนที่จะมีการโอนทรัพย์สินเกิดขึ้น หรือยังดำเนินก่อนโอนทรัพย์สินไม่แล้วเสร็จ รฟม. จะเปิดให้กทม. เช่ารางเดินรถไปก่อนจนกว่าจะจ่ายเงินก้อนแรกและมีการโอนสิทธิ์ ส่วนแผนระยะยาวคือหากไม่สามารถโอนทรัพย์สินได้ ทาง รฟม.ในฐานะเจ้าของโครงการพร้อมจะเข้ามาบริหารการเดินรถเอง ในรูปแบบของการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (พีพีพี) ทั้งนี้คงต้องรอดูผลการประชุมสภา กทม. ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร จากนั้นจะประชุมคณะกรรมการฯ เพื่อหารืออีกครั้งในเดือน ม.ค.60

นายพีระพล กล่าวว่า คณะกรรมการฯ จะสรุปข้อเท็จจริงที่ได้ดำเนินการประชุมทั้ง 4 ครั้ง ไม่ว่าจะเป็น เรื่องข้อกฎหมาย กรอบวงเงิน ขั้นตอนวิธีการต่างๆ และกรอบการดำเนินงาน รายงานให้ที่ประชุม คจร. รับทราบในต้นเดือน ม.ค.60 ด้วย

สำหรับขั้นตอนการดำเนินการของ กทม.นั้น ภายใน ธ.ค.2559 จะเสนอผู้ว่า กทม. ขอความเห็นชอบ และเสนอที่ประชุม สภา กทม.ในเดือน ม.ค. 2560 และหากเห็นชอบการโอน ภายใน ก.พ.2560 กทม. ต้องเสนอกระทรวงมหาดไทยเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่อขอความเห็นชอบหลักการกู้เงิน และ มี.ค.2560 เสนอที่ประชุมสภา กทม.เพื่อพิจารณาร่างข้อบัญญัติ กทม.เกี่ยวกับการกู้เงิน และดำเนินการประกาศในราชกิจจานุเบกษา และภายใน เม.ย.2560 ประสานสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.)เพื่อดำเนินการเตรียมกู้เงิน จากนั้นกระทรวงคมนาคมจะเสนอ ครม.ขอความเห็นชอบโอนทรัพย์สินให้ กทม.ภายใน พ.ค.2560 จะต้องรอผลประชุมของสภา กทม. ในเดือน ม.ค.2560 และคณะทำงานจะได้นัดประชุม ม.ค. อีกครั้ง

Wisarut · Posted: 25/12/2016 11:59 pm Post subject:

ประชาสัมพันธ์ความก้าวหน้าโครงการฯ
ภาพความก้าวหน้าการดำเนินงานก่อสร้างทางวิ่งรถไฟฟ้า ได้เตรียมติดตั้งชิ้นส่วนแผ่นป้องกันการตก(PARAPET) โดยได้ดำเนินการผลิตที่โรงงานแล้ว ที่บริเวณสถานีกรมทหารราบที่ 11 (N16) และบริเวณสถานีสะพานใหม่ (N20) โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ภาพถ่ายเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2559 การดำเนินงานยกติดตั้งชิ้นส่วนโครงสร้าง จะดำเนินงานช่วงเวลา 22.00 น.- 05.00 น หากทำให้ไม่ได้รับสะดวกในการสัญจร รฟม.และโครงการฯ ต้องขออภัยมาในโอกาสนี้
ขอขอบคุณภาพถ่ายจากที่ปรึกษา PCGRN
https://www.facebook.com/Greenlinenorth/posts/1827405854207421

Wisarut · Posted: 27/12/2016 6:25 pm Post subject:

เสนอสภา กทม.ขอ 3.5 พัน ล.
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์
27 ธ.ค. 2559 05:45

ผู้ว่า กทม. ขอให้ สภา กทม. อนุมัติ งบ 3557 ล้านบาทเพื่อมาจ่ายค่ารถไฟฟ้า สายเขียวจากแบริ่งไปปากน้ำ งวดแรก

Wisarut · Posted: 04/01/2017 12:03 am Post subject:

ขืน กทม.ชักช้า รฟม.ทําเอง โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์
3 มกราคม 2560 05:01

Wisarut · Posted: 23/01/2017 6:24 pm Post subject:

สมราคา! อิตาเลียนไทยฯ รื้อสะพานแยกรัชโยธินเสร็จเร็วกว่าแผน เร่งขุดอุโมงค์ทางลอดเปิดใช้ปี′62
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
updated: 23 มกราคม 2560 เวลา 17:12:28 น.

การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว (เหนือ) ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต แจ้งความคืบหน้าในการดำเนินงานรื้อย้ายสะพานลอยข้ามแยกรัชโยธิน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งงานสัญญาที่ 1 มีบมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเม้นต์เป็นผู้ก่อสร้าง ที่แล้วเสร็จเร็วกว่าแผนงาน เตรียมพร้อมเร่งดำเนินงานก่อสร้างอุโมงค์ทางลอดเป็นลำดับต่อไป

การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว (เหนือ) ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต แจ้งความคืบหน้าในการดำเนินงานรื้อย้ายสะพานลอยข้ามแยกรัชโยธิน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งงานสัญญาที่ 1 มีบมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์เป็นผู้ก่อสร้าง ที่แล้วเสร็จเร็วกว่าแผนงาน เตรียมพร้อมเร่งดำเนินงานก่อสร้างอุโมงค์ทางลอดเป็นลำดับต่อไป

นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ช่วยผู้ว่าการ รฟม. ในฐานะผู้อำนวยการโครงการ เปิดเผยว่า รฟม.ได้เริ่มดำเนินงานรื้อย้ายสะพานฯ ตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม 2559 ที่ผ่านมา และกำหนดระยะเวลาในการรื้อย้ายประมาณ 2 เดือน (ตามแผนงานรื้อย้ายสะพานฯ จะแล้วเสร็จภายในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2560)

ล่าสุด รฟม.ได้เร่งรัดการดำเนินงานรื้อย้ายสะพานฯ อย่างเต็มที่ อีกทั้งยังได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน จนทำให้สามารถดำเนินงานรื้อย้ายสะพานฯ แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2560 ซึ่งเร็วกว่าแผนงานที่วางไว้ และเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและผู้บริหาร รฟม.ที่ต้องการเร่งรัดการดำเนินงานก่อสร้างฯ ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อลดผลกระทบด้านการจราจรแก่ประชาชนให้ได้มากที่สุด

สำหรับขั้นตอนต่อไป รฟม.จะเร่งดำเนินงานก่อสร้างโครงสร้างอุโมงค์ทางลอด ขนาด 4 ช่องจราจร ซึ่งมีความยาว 1,085 เมตร ลึก 7.50 เมตร กว้าง 16.80 เมตร โดยช่วงแรกจะเริ่มดำเนินก่อสร้างผนังอุโมงค์ทางลอดบริเวณกลางแยกรัชโยธินก่อนพร้อมกับดำเนินการรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภคใต้ดิน และก่อสร้างหลังคาอุโมงค์เพื่อคืนพื้นผิวจราจรบริเวณกลางสี่แยกรัชโยธิน

ตามแผนงานจะดำเนินงานในช่วงแรกแล้วเสร็จประมาณกลางเดือนพฤษภาคม 2560 นอกจากนี้ รฟม.จะเร่งดำเนินการก่อสร้างอุโมงค์ทางลอดส่วนที่เหลือทั้ง 2 ฝั่ง คือฝั่งศาลอาญารัชดาฯและฝั่งธนาคารไทยพาณิชย์สำนักงานใหญ่ ให้แล้วเสร็จและเปิดใช้ได้ภายในต้นปี 2562 เพื่อลดผลกระทบด้านจราจรและให้ประชาชนได้ใช้งานอุโมงค์ทางลอดตามแผนงานที่วางไว้โดยเร็วต่อไป

Mongwin · Posted: 24/01/2017 12:32 pm Post subject:

รถไฟฟ้าบีทีเอสช่วงสมุทรปราการ-บางปู
โดย ฐานเศรษฐกิจ - 24 January 2560

คณะรัฐมนตรี(ครม.)เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2553 ได้มีมติรับทราบผลการประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก(คจร.) เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2553 ที่มีมติเห็นชอบแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลโดยกำหนดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการในระยะเวลา 20 ปีแรก(เปิดบริการภายในปี 2572) จำนวน 12 เส้นทาง ระยะทางรวม 503 กิโลเมตร ซึ่งรวมถึงโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงสมุทรปราการ-บางปู ในความรับผิดชอบของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.)

รถไฟฟ้าเส้นทางนี้จะเป็นการต่อขยายโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ตามแนวเกาะกลางถนนสุขุมวิท เพื่อขยายพื้นที่ให้บริการรถไฟฟ้า และเพิ่มปริมาณผู้โดยสารของทั้งระบบ ปัจจุบันช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการอยู่ระหว่างการก่อสร้าง

แนวเส้นทางช่วงสมุทรปราการ-บางปู เริ่มต้นจากบริเวณสถานีไฟฟ้าย่อยบางปิ้งซึ่งเป็นพื้นที่โรงจอดและซ่อมบำรุง วิ่งไปตามแนวเกาะกลางของถนน โดยจุดสิ้นสุดโครงการอยู่ก่อนถึงแยกถนนตำหรุ-บางพลี ประมาณ 500 เมตร รวมระยะทาง 9.2 กิโลเมตร รูปแบบโครงสร้างทางวิ่งยกระดับตลอดแนวเส้นทาง มีแผนเริ่มก่อสร้างในปีนี้และให้บริการประมาณปี 2564

รถไฟฟ้าเส้นทางนี้มีจำนวน 5 สถานี ได้แก่ E24 สถานีสวางคนิวาส (ช่วงซอยเทศบาลบางปู 59 ใกล้กับสวางคนิวาส ศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู สภากาชาดไทย) E25 สถานีเมืองโบราณ(ซอยเทศบาลบางปู 65 เมืองโบราณ) E26 สถานีศรีจันทร์ประดิษฐ์ (ซอยเทศบาลบางปู 96 ทางเข้าวัดศรีจันทร์ประดิษฐ์) E27 สถานีบางปู(ซอยเทศบาลบางปู 77 ทางเข้าสถานตากอากาศบางปูและนิคมอุตสาหกรรมบางปู) E28 สถานีตำหรุ(ซอยเทศบาลบางปู 108 ก่อนถึงแยกถนนตำหรุ-บางพลี ประมาณ 500 เมตร)

โครงการดังกล่าวนี้นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ยังมีนโยบายเร่งรัดเช่นเดียวกับช่วงคูคต-ลำลูกกาซึ่งหากรวมทั้ง 2เส้นทางจะมีวงเงินลงทุนรวม 25,690 ล้านบาท คือจากสมุทรปราการ-บางปู ระยะทาง 9.5 กิโลเมตร เงินลงทุน 13,701 ล้านบาท และช่วงคูคต-ลำลูกการะยะทาง 7 กิโลเมตร เงินลงทุน 11,989 ล้านบาท โดยมีแผนจะเสนอ ครม. อนุมัติโครงการเพื่อประมูลและก่อสร้างในปี 2560 นี้

ความคืบหน้าขณะนี้ รฟม.อยู่ระหว่างการพิจารณาทบทวนปรับกรอบวงเงินค่าก่อสร้างใหม่ให้เป็นราคาปัจจุบัน เนื่องจากวงเงินที่ระบุไว้นั้นได้ทำการศึกษาไว้ตั้งแต่ปี 2555 หลังจากนั้นจะเร่งสรุปรายละเอียดโครงการเพื่อเสนอกระทรวงคมนาคมให้ความเห็นชอบต่อไป เนื่องจากทั้ง 2 โครงการมีการออกแบบรายละเอียดและการศึกษาสิ่งแวดล้อม(EIA) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หาก ครม.อนุมัติสามารถเปิดประมูลก่อสร้างได้ทันทีในปี 2561

ดังนั้นประชาชนในพื้นที่สมุทรปราการที่จะเดินทางเข้ามายังเขตชั้นในเมืองกทม. คงต้องอดใจรอสักนิดเพราะขณะนี้อยู่ระหว่างการเร่งเปิดให้บริการจากสถานีแบริ่ง-สำโรงช่วงเดือนมีนาคมนี้ จะช่วยให้การเดินทางสะดวกรวดเร็วมากขึ้นก่อนที่จะทยอยเปิดให้บริการจนครบทุกสถานีต่อเนื่องกันไป

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,229 วันที่ 22 – 25 มกราคม 2560