RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311232
ทั่วไป:13180088
ทั้งหมด:13491320
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวเกี่ยวกับ "ที่ดิน" ของ "รฟท."
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวเกี่ยวกับ "ที่ดิน" ของ "รฟท."
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 133, 134, 135 ... 197, 198, 199  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 17/11/2016 11:29 pm    Post subject: Reply with quote

ร.ฟ.ท.เปิดหน้าดินย่านพหลโยธิน ดันแผนพัฒนาแปลง A ควบคู่สร้างสถานีกลางบางซื่อ
โดย ฐานเศรษฐกิจ -
ออนไลน์เมื่อ17 พฤศจิกายน 2559
ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,210 วันที่ 17 – 19 พฤศจิกายน 2559

“วุฒิชาติ” เร่งสปีดแผนพัฒนาที่ดินย่านพหลโยธินกว่า 2,300 ไร่ควบคู่แผนพัฒนาสถานีกลางบางซื่อหลังแผนย้ายบขส.ชัดเจนแล้ว จ่อปรับขนาดที่ดินแปลง C ลดลง เดินหน้าแผนพัฒนาตลาดจตุจักร ยํ้าชัดต้องดีกว่าปัจจุบัน

นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า ขณะนี้เร่งผลักดันแผนการพัฒนาย่านพหลโยธินและสถานีกลางบางซื่อให้สอดคล้องกับการเปิดให้บริการรถไฟสายสีแดง และสถานีกลางบางซื่อที่มีแผนเปิดให้บริการประมาณปี 2562-2563 นอกจากนั้นยังจะมีโครงการแอร์พอร์ตลิ้งค์ส่วนต่อขยาย ช่วงพญาไท-บางซื่อ-ดอนเมือง ที่เตรียมเปิดประมูลในปี 2560 พร้อมกับรถไฟสายสีแดงมิสซิ่งลิ้งค์ ช่วงพญาไท-บางซื่อ-ดอนเมือง และมักกะสัน-หัวหมาก ที่จะเริ่มก่อสร้างคาดว่าปลายปีหน้าด้วยเช่นกัน

ประการสำคัญแผนการย้ายบริษัทขนส่งจำกัด(บขส.) ชัดเจนแล้วหลังจากที่ก่อนหน้านี้มีแผนจะย้ายไปอยู่ยังหลายแห่ง โดยจะขออยู่ที่เดิมเพียงแต่จะปรับขนาดพื้นที่ลดลงจากเดิมประมาณ 70 ไร่เหลือประมาณ 20-30 ไร่เท่านั้น โดยจะมีการประชุมร่วมกันกับบขส.และร.ฟ.ท.ในเรื่องนี้เพื่อนำเสนอกระทรวงคมนาคมเห็นชอบต่อไป

“เช่นเดียวกับแผนพัฒนาสถานีกลางบางซื่อที่จะเร่งผลักดันแปลง A ให้เปิดประมูลได้ก่อนนั้นก็อยู่ระหว่างการเร่งสรุปรายละเอียดให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงปัจจุบันที่บขส.ยังอยู่ที่เดิมแต่ขนาดเล็กลง ดังนั้นก็จะต้องปรับขนาดพื้นที่แปลง C ลงอีก จึงต้องมีการปรับแบบตามผลที่ศึกษาไว้เดิม”

Advertisement

นอกจากนั้นยังสั่งเดินหน้าแผนการพัฒนาตลาดนัดจตุจักรโดยเฉพาะศักยภาพพื้นที่ที่เหมาะจะเข้าปรับปรุงในช่วงหมดฤดูฝนนี้ทั้งในเรื่องสุขอนามัย ห้องน้ำ ห้องสุขา เพื่อจะยกระดับมาตรฐานและคุณภาพให้ได้มาตรฐานกว่าปัจจุบันนี้

“แม้ว่าจะได้ชื่อว่าเป็นตลาดที่มีชื่อเสียงระดับโลกก็ตามแต่เนื่องจากก่อสร้างมานานจึงถึงช่วงเวลาที่จะต้องปรับปรุงให้ดีขึ้น โดยเฉพาะกายภาพของพื้นที่เนื่องจากปริมาณห้องน้ำไม่เพียงพอ อีกทั้งฤดูร้อนที่กำลังจะมาถึงเมื่อหมดฤดูหนาวนี้ไปแล้วคาดว่าจะส่งผลกระทบตามมาแน่ๆจึงต้องเร่งปรับปรุงเพื่ออำนวยความสะดวกในช่วงนี้ ประการสำคัญอาคารอินสแควร์และอาคารทาวน์สแควร์ที่ยังก่อสร้างค้างเติ่งไม่แล้วเสร็จไม่สามารถเปิดให้บริการผู้ค้าได้เนื่องจากติดปมปัญหาการฟ้องร้องก็จะเข้าไปติดตามผลให้สามารถเปิดบริการโดยเร็วต่อไป”

ด้านแหล่งข่าวระดับสูงของสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมให้นำผลการศึกษาแผนการพัฒนาย่านพหลโยธินและสถานีกลางบางซื่อไปบูรณาการร่วมกับการขนส่งเนื่องจากเมื่อเปิดให้บริการปริมาณการจราจรจะเพิ่มขึ้น จะกระทบผลการเชื่อมโยงหรือไม่อย่างไร โดยจะมีการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนนี้หลังจากนั้นจึงจะนำเสนอบอร์ดร.ฟ.ท.และนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเร่งผลักดันต่อไป

“เดิม บขส.ได้รับงบ 500 ล้านบาทไปดำเนินการย้ายออกจากพื้นที่ปัจจุบัน แต่ล่าสุดกลับเปลี่ยนใจขออยู่ที่เดิมแต่ปรับขนาดลดลงเหลือประมาณ 20-30 ไร่ ดังนั้นจึงต้องปรับขนาดของแปลง C ลดลงตามไปด้วย พร้อมกับจะต้องปรับแผนเรื่องตัวเลข เวลาดำเนินการให้สอดคล้องเปรียบเทียบกับแผนเดิม แต่ทั้งหมดนั้นจะต้องสามารถให้เกิดการเชื่อมโยงแล้วเสร็จทันกับการเปิดให้บริการสถานีกลางบางซื่อ ทั้งแผนขนส่งมวลชนระบบรองย่านพหลโยธินและสถานีกลางบางซื่อ ตลอดจนสะพานทางเดินยกระดับในพื้นที่สถานีกลางบางซื่ออีกด้วย ทั้งนี้คาดว่าจะสรุปชัดเจนเพื่อเสนอครม.เห็นชอบในปลายปีนี้หรือต้นปี 2560”
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 23/11/2016 10:25 am    Post subject: Reply with quote

เบื้องลึกไม่ย้าย "ขนส่งหมอชิต" ดึง 2 แสนคนป้อนเมืองใหม่-ฮับบางซื่อ
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
updated: 23 พฤศจิกายน 2559 เวลา 08:15:58 น.


หลังเงื้อง่าอยู่นาน ในที่สุดแผนย้ายสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพหรือหมอชิต 2 ไปอยู่ที่ใหม่ก็ล่มกลางคัน พลันที่กรมธนารักษ์เตรียมเดินเครื่องเมกะโปรเจ็กต์คอมเพล็กซ์กว่า 2.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งในแผนพัฒนาจะเจียดพื้นที่ประมาณ 1 แสน ตร.ม.ให้ "บขส.-บริษัท ขนส่ง จำกัด" ย้ายกลับไปที่เดิมตามที่มีข้อตกลงกันไว้เมื่อหลาย 10 ปีที่ผ่านมา

จึงเป็นที่มาบทสรุปสุดท้าย "บขส." ขอ "ร.ฟ.ท.-การรถไฟแห่งประเทศไทย" ปักหลักอยู่ที่เดิมต่อ แต่ลดไซซ์สถานีขนส่งจากเดิม 75 ไร่ เหลือ 50 ไร่ พร้อมปรับบทบาทเป็นสถานีย่อยรองรับการเดินทางของประชาชนในภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือเป็นหลัก

จากเดิม "คมนาคม" มีนโยบายให้ส่งมอบพื้นที่คืนให้ ร.ฟ.ท.ภายในปี 2561 เพื่อใช้พื้นที่สร้างสถานีกลางบางซื่อของรถไฟชานเมืองสายสีแดงช่วงบางซื่อ-รังสิต โดยให้ บขส.ไปใช้พื้นที่ด้านข้างซึ่งเป็นอู่รถ ขสมก.ขนาด 16.7 ไร่แทน และโยก ขสมก.ย้ายไปอยู่ใต้ทางด่วนที่ ร.ฟ.ท.จัดที่ไว้ให้ 7.5 ไร่ใกล้กับศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง

ซึ่งที่ผ่านมา "บขส." เตรียมเม็ดเงินร่วม 2 พันล้านบาทซื้อที่ดินและสร้างสถานีแห่งใหม่ในย่านรังสิต โดยจ้าง "สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง" ศึกษาออกแบบรายละเอียด กำหนดใช้พื้นที่ 80 ไร่ ในรัศมีด้านเหนือของถนนพหลโยธิน จะก่อสร้างเป็นอาคารผู้โดยสารแห่งใหม่ รองรับจำนวนเที่ยววิ่งได้ 2,260 เที่ยวต่อวัน และผู้โดยสาร 28 ล้านคนต่อปี

แต่หลังออกประกาศให้เอกชนเสนอที่ดินไป 3 ครั้งก็คว้าน้ำเหลว เมื่อพื้นที่ติดปัญหาไฟฟ้าแรงสูง ทำให้ดีลซื้อที่ดินถูกพับ จากนั้น "บขส." เสนอแผนจะย้ายไปอยู่สถานีรังสิตที่ยังมีที่ดินเหลือพัฒนา 45 ไร่ แต่ไป ๆ มา ๆ แผนก็ล้มอีก จนล่าสุดมีข้อยุติจะอยู่ที่เก่า แต่ปรับเวลาเช่ากับ ร.ฟ.ท.ใหม่

"ออมสิน ชีวะพฤกษ์" รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ให้ร.ฟ.ท.หารือกับ บขส.เนื่องจากไปตรวจการย้ายรถตู้ข้ามจังหวัดไปอยู่ที่ บขส.แล้วเห็นว่าถ้าย้ายไปรังสิต ทำให้ประชาชนจะไม่สามารถเดินทางต่อเชื่อมกับระบบขนส่งอื่นสะดวก อีกทั้งงบประมาณย้าย บขส.มีแค่ 80 ล้านบาท ดังนั้นการอยู่ที่เดิมจะทำให้ บขส.ประหยัดงบฯก่อสร้างกว่า 2,000 ล้านบาท

"การมีขนส่งหมอชิตไว้ตรงนี้ ก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะ บขส.มีคนมาใช้บริการวันละ 2.2 แสนคนต่อวัน จะช่วยเพิ่มคนเข้า-ออกในพื้นที่สถานีกลางบางซื่อที่รถไฟจะพัฒนาโซน A จำนวน 35 ไร่ รูปแบบเชิงพาณิชย์ มีโรงแรม สำนักงาน ศูนย์การค้า ที่จอดรถ มูลค่า 9,363 ล้านบาท ในอนาคตจะเป็นศูนย์กลางการเดินทางด้านระบบรางทั้งในเมืองและระหว่างเมือง ไม่ว่ารถไฟฟ้าใต้ดิน บีทีเอสและรถไฟ"

นายออมสินกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ โซน C เนื้อที่ 105 ไร่ อยู่บนพื้นที่ของสถานีขนส่งหมอชิตปัจจุบัน จะกันพื้นที่ไว้สำหรับสถานีย่อย บขส. ส่วนที่เหลือจะพัฒนาเป็นเมืองใหม่ มีแหล่งที่อยู่อาศัย แหล่งงานและการพักผ่อนหย่อนใจ มูลค่าลงทุน 34,076 ล้านบาท ทั้ง 2 แปลงให้เอกชนลงทุน PPP ตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 2556 จะเริ่มได้ในปี 2560 แล้วเสร็จปี 2564

"มีเอกชนหลายรายสนใจ เช่น กลุ่มเซ็นทรัลสนใจพื้นที่โซน A รวมถึงญี่ปุ่นก็สนใจจะพัฒนารอบสถานีกลางบางซื่อรูปแบบเชิงพาณิชย์ รับกับรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-พิษณุโลกเหมือนโมเดลต้นแบบที่ญี่ปุ่นจะพัฒนาเมืองและเชิงพาณิชย์ควบคู่ไปกับรถไฟ"แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมกล่าว

นายวุฒิชาติกัลยาณมิตรผู้ว่าการ ร.ฟ.ท.กล่าวว่า รอ บขส.ทำแผนบริหารจัดการสถานี ซึ่งที่ปรึกษาทั้ง 2 ฝ่ายทำงานร่วมกัน หลังจากหารือกันแล้ว มีข้อสรุปให้พื้นที่ บขส.จำนวน 50 ไร่ คาดว่าเซ็นสัญญาใหม่ไม่เกิน ธ.ค. 2559

พล.ต.อ.อำนาจ อันอาตม์งาม รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บขส.เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า อัตราค่าเช่าที่ของ ร.ฟ.ท.อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงจากปัจจุบันจ่ายให้ ร.ฟ.ท.ปีละ 22-23 ล้านบาท เป็นระยะเวลา 15 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการทำสัญญาเช่าพื้นที่ใหม่ หลังหารือกับรถไฟจากพื้นที่ปัจจุบันมี 80 ไร่ จะปรับเหลือแค่ 50 ไร่ ส่วน 30 ไร่ ต้องคืนให้รถไฟเพื่อทำการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์โซน C

โดยพื้นที่ 50 ไร่ จะปรับปรุงพื้นที่ใช้สอยให้เพียงพอต่อการเดินรถ จะสร้างอาคารขนาด 2 ชั้น ปรับพื้นที่ลานจอดรถทัวร์ รถตู้สาธารณะ และอาคารผู้โดยสาร คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 500 ล้านบาท จากแผนเดิมจะสร้างบนที่ดิน 16.7 ไร่ ลงทุน 1,500 ล้านบาท เท่ากับประหยัดจากเดิม 1,000 ล้านบาท ในอนาคตหากการก่อสร้างพื้นที่บริเวณหมอชิตเดิมของกรมธนารักษ์แล้วเสร็จ จะมีพื้นที่ให้ บขส.ทำเป็นจุดจอดรถตู้อีก 40,000 ตร.ม.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 26/11/2016 11:40 pm    Post subject: Reply with quote

ยังไร้มาตรฐาน!เช่าที่ดินรถไฟมีแต่ปัญหา ออมสิน"สั่งสำรวจพื้นที่และสัญญาทั่วประเทศใหม่
โดย MGR Online
26 พฤศจิกายน 2559 11:08 น.

"ออมสิน"สั่ง ร.ฟ.ท. สำรวจที่ดินทั่วประเทศ ที่มีปัญหาการเช่า รวมถึงไม่มีสัญญาเช่า เพื่อ ดำเนินการให้ถูกต้องเป็นมาตรฐานเดียวกัน ชี้มีที่ดินมากต้องดูแลให้ดี ขณะที่ล่าสุด ต้องช่วยไกล่เกลี่ย ปัญหา ผู้เช่ากลุ่มโครงการประชาพิทักษ์ ที่สถานีหัวหินร้องเรียนว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากสัญญาเช่า


นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) สำรวจตรวจสอบที่ดินที่าีอยู่ทั่วประเทศ ที่มีการให้เช่า ว่ามีจำนวนเท่าไร มีที่ดินที่มีข้อพิพาท ไม่มีสัญญาเท่าไร บุกรุกเท่าไร ทั้งนี้ เพื่อให้การกำกับดูแลพื้นที่ที่อยู่ในความรับผิดชอบของการรถไฟฯ เป็นไปอย่างเหมาะสม มีสัญญาเช่าที่ถูกต้องเป็นมาตรฐานเดียวกัน โดยเริ่มสำรวจในพื้นที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นอันดับแรก จากนั้นให้กลับมารายงานถึงแนวทางการดำเนินการและการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นต่อกระทรวงคมนาคมต่อไป เนื่องจากการรถไฟฯ มีที่ดินที่อยู่ในความรับผิดชอบทั่วประเทศเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ เนื่องจากล่าสุดได้มีผู้เช่าที่ดินรถไฟ บริเวณสถานีรถไฟหัวหิน ร้องเรียนว่าไม่ได้รับคสามเป็นธรรม จนเกิดข้อพิพาทขึ้น โดยกลุ่มโครงการประชาพิทักษ์ ระบุว่า ทำการเช่าที่ดินเปล่าจากการรถไฟฯ พื้นที่3,438 ตารางเมตร เพื่อก่อสร้างเป็นศูนย์การค้าประชาพิทักษ์พล่าซ่า บริเวณสถานีรถไฟหัวหิน เป็นเวลา 6 ปี ซึ่งเริ่มสัญญาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2553- กุมภาพันธ์ 2556 และการรถไฟฯได้ต่อสัญญาเช่าให้อีกรอบเป็นเวลา 3 ปี ซึ่งสิ้นสุดสัญญาในเดือนกุมภาพันธ์ 2559 ที่ผ่านมา แต่พบว่าผู้เช่าไม่ดำเนินการก่อสร้างตามสัญญา การรถไฟฯ จึงปรับเป็นเงิน 800,000 บาท

ซึ่งกรณีดังกล่าวรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมได้ช่วยไกล่เกลี่ยและได้มีการประชุมร่วมระหว่างการรถไฟฯ กับผู้เช่า และให้ผู้เช่าดำเนินการให้ถูกต้องตามสัญญา คและให้การรถไฟฯ พิจารณาตามที่ได้มีการหารือตกลงกัน เพื่อให้เกิดสัญญาเช่าที่ถูกต้องต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 12/12/2016 11:47 pm    Post subject: Reply with quote

คลังชงแผนบริหารที่ดินร.ฟ.ท. มั่นใจช่วยเพิ่มรายได้ถึง1หมื่นล้าน
ไทยโพสต์
13 ธันวาคม - 00:00

จ่อชง คนร.พิจารณาแผนยกเครื่องที่ดินว่างเปล่า ร.ฟ.ท. 3.9 หมื่นไร่ จัดระเบียบ 3 กลุ่ม มั่นใจช่วยเพิ่มรายได้การรถไฟปีละ 6 พันล้านบาท ลุ้นอนาคต 6-7 ปี ทะยานแตะ 1 หมื่นล้านบาท

นายอำนวย ปรีมนวงศ์ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะทำงานกำกับติดตามการพัฒนาที่ดินไม่ได้ใช้ประโยชน์จากการเดินรถของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) หรือ non-core เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.2559 ที่ประชุมคณะทำงานได้พิจารณาและสรุปแผนที่ดินของ ร.ฟ.ท.ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์จำนวน 3.9 หมื่นไร่ ระยะเวลา 5 ปี (ปี 2560-2564) ซึ่งแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย 1.ที่ดินรกร้างว่างเปล่า ไม่เคยมีสัญญาเช่า 2.32 หมื่นไร่ จำนวน 11 แปลง ได้แก่ พื้นที่แปลงใหญ่มูลค่าโครงการมากกว่า 1 พันล้านบาท และต้องเข้าคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (พีพีพี) ทั้งสถานีบางซื่อ ซึ่งจัดเป็น 4 โซน A, B, C และ D โดยโซน A จะสามารถดำเนินการได้เร็วที่สุดภายใน 18 เดือน หรือเซ็นสัญญาได้สิ้นไตรมาสที่ 2 ของปี 2561

ส่วนสถานีอื่นที่เข้าร่วมคณะกรรมการพีพีพีเป็นที่ดินแปลงใหญ่ ยังมีสถานี กม.11, สถานีแม่น้ำ ,สถานีตึกแดง, สถานีที่ จ.ขอนแก่น, จ.เชียงใหม่, หลักสี่ และสถานีศาลายา ขณะที่สถานีอื่นที่โครงการต่ำกว่า 1 พันล้านบาท มี 25 สถานี ที่จะดำเนินการ และที่ดินรกร้างว่างเปล่าในส่วนที่เหลือ ได้มอบหมายให้ ร.ฟ.ท.ไปสำรวจในแต่ละสถานีว่าสามารถนำมาใช้ประโยชน์ทำอะไรได้บ้าง ให้จัดทำแผนและจ้างเอกชนมาดำเนินการ

ขณะที่กลุ่ม 2 จะเป็นกลุ่มที่มีสัญญาเช่า จำนวน 1.59 หมื่นไร่ แบ่งเป็น 2 กลุ่มย่อย ได้แก่ สัญญาที่เกิน 1 พันล้านบาท ใกล้สิ้นอายุสัญญา 3 แปลง ได้แก่ โรงแรมรถไฟหัวหิน สนามกอล์ฟหัวหิน และโรงแรมอิสติน มักกะสัน จะทำการต่อสัญญา ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ร่วมทุนพีพีพี ใช้เวลา 18 เดือนในการทำการศึกษาต่อสัญญาเดิม และจะปรับค่าเช่าใหม่ทั้งหมด ยกเว้นพื้นที่เกษตรกรรม ส่วนที่เหลือทั้งที่มีและไม่มีสัญญา ค้างค่าเช่า จะพิจารณาใหม่หมด และกลุ่มที่ 3 พื้นที่บุกรุก จะทำรูปแบบประชารัฐ จะให้การเคหะแห่งชาติเข้ามาพัฒนา ปรับปรุงให้เป็นพื้นที่อยู่อาศัยกับผู้อาศัยเดิมให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

"แผนพัฒนาที่ดินของการเดินรถ ร.ฟ.ท.ไม่ได้ใช้ประโยชน์ จำนวน 3.9 หมื่นไร่ 5 ปี จะเสนอให้คณะอนุกรรมการกลั่นกรองของคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) พิจารณาวันที่ 19 ธ.ค.นี้ และให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เสนอไปยัง คนร.ชุดใหญ่ มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในวันที่ 28 ธ.ค.2559" นายอำนวยกล่าว

นายอำนวยกล่าวว่า หากสามารถดำเนินการได้ตามแผน 5 ปี จะทำให้รายได้ของ ร.ฟ.ท.เพิ่มขึ้นเป็น 6 พันล้านบาทต่อปี จากปัจจุบันรายได้ของ ร.ฟ.ท.อยู่ที่ 2.5 พันล้านบาทต่อปี และคาดว่าในอนาคตอีก 6-7 ปี รายได้ของ ร.ฟ.ท.จะเพิ่มสูงถึง 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะสามารถกู้สถานะ ร.ฟ.ท.ได้ในระดับหนึ่ง เพราะผลขาดทุนของ ร.ฟ.ท.ในแต่ละปีอยู่ที่ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท หากได้มีรายได้เพิ่มเข้ามาจากแผนดังกล่าว จะทำให้เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพขององค์กรมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม แผนพัฒนาที่ดินการเดินรถ ร.ฟ.ท.ไม่ได้ใช้ประโยชน์นี้ ไม่รวมแผนพัฒนาที่ดินมักกะสัน ของ ร.ฟ.ท.ที่จะนำมาโอนให้กระทรวงการคลังบริหารจัดการเพื่อแลกหนี้กว่า 6 หมื่นล้านบาท.
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44324
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 13/12/2016 8:39 am    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
คลังชงแผนบริหารที่ดินร.ฟ.ท. มั่นใจช่วยเพิ่มรายได้ถึง1หมื่นล้าน
ไทยโพสต์
13 ธันวาคม - 00:00

"คลัง" จุดพลุ PPP นำร่องที่ดินว่างเปล่า ร.ฟ.ท. 3 หมื่นไร่ พัฒนาลงทุน คาดโกยหมื่นล้าน
โดย MGR Online 13 ธันวาคม 2559 08:06 น.

รองปลัด "คลัง" จ่อชง "คนร." พิจารณาแผนยกเครื่องที่ดินว่างเปล่า "ร.ฟ.ท." จำนวน 3.9 หมื่นไร่ หวังจัดระเบียบ 3 กลุ่ม ลงทุน ppp มั่นใจช่วยเพิ่มรายได้การรถไฟปีละ 6 พันล้าน คาดในอีก 6-7 ปี รายได้ทะยานแตะ 1 หมื่นล้าน

นายอำนวย ปรีมนวงศ์ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะทำงานกำกับติดตามการพัฒนาที่ดินไม่ได้ใช้ประโยชน์จากการเดินรถของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) หรือ non-core เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.2559 ที่ประชุมคณะทำงานได้พิจารณาและสรุปแผนที่ดินของ ร.ฟ.ท.ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์จำนวน 3.9 หมื่นไร่ ระยะเวลา 5 ปี (ปี 2560-2564) ซึ่งแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย 1.ที่ดินรกร้างว่างเปล่า ไม่เคยมีสัญญาเช่า 2.32 หมื่นไร่ จำนวน 11 แปลง ได้แก่ พื้นที่แปลงใหญ่มูลค่าโครงการมากกว่า 1 พันล้านบาท และต้องเข้าคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (พีพีพี) ทั้งสถานีบางซื่อ ซึ่งจัดเป็น 4 โซน A , B , C และ D โดยโซน A จะสามารถดำเนินการได้เร็วที่สุดภายใน 18 เดือน หรือเซ็นสัญญาได้สิ้นไตรมาสที่ 2 ของปี 2561

ส่วนสถานีอื่นที่เข้าร่วมคณะกรรมการพีพีพีเป็นที่ดินแปลงใหญ่ ยังมีสถานี กม.11, สถานีแม่น้ำ ,สถานีตึกแดง, สถานีที่ จ.ขอนแก่น , จ.เชียงใหม่ , หลักสี่ และสถานีศาลายา ขณะที่สถานีอื่นที่โครงการต่ำกว่า 1 พันล้านบาท มี 25 สถานี ที่จะดำเนินการ และที่ดินรกร้างว่างเปล่าในส่วนที่เหลือ ได้มอบหมายให้ ร.ฟ.ท.ไปสำรวจในแต่ละสถานีว่าสามารถนำมาใช้ประโยชน์ทำอะไรได้บ้าง ให้จัดทำแผนและจ้างเอกชนมาดำเนินการ

ขณะที่กลุ่ม 2 จะเป็นกลุ่มที่มีสัญญาเช่า จำนวน 1.59 หมื่นไร่ แบ่งเป็น 2 กลุ่มย่อย ได้แก่ สัญญาที่เกิน 1 พันล้านบาท ใกล้สิ้นอายุสัญญา 3 แปลง ได้แก่ โรงแรมรถไฟหัวหิน สนามกอล์ฟหัวหิน และโรงแรมอิสติน มักกะสัน จะทำการต่อสัญญา ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ร่วมทุนพีพีพี ใช้เวลา 18 เดือนในการทำการศึกษาต่อสัญญาเดิม และจะปรับค่าเช่าใหม่ทั้งหมด ยกเว้นพื้นที่เกษตรกรรม ส่วนที่เหลือทั้งที่มีและไม่มีสัญญา ค้างค่าเช่า จะพิจารณาใหม่หมด และกลุ่มที่ 3 พื้นที่บุกรุก จะทำรูปแบบประชารัฐ จะให้การเคหะแห่งชาติเข้ามาพัฒนา ปรับปรุงให้เป็นพื้นที่อยู่อาศัยกับผู้อาศัยเดิมให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

"แผนพัฒนาที่ดินของการเดินรถ ร.ฟ.ท.ไม่ได้ใช้ประโยชน์ จำนวน 3.9 หมื่นไร่ 5 ปี จะเสนอให้คณะอนุกรรมการกลั่นกรองของคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) พิจารณาวันที่ 19 ธ.ค.นี้ และให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เสนอไปยัง คนร.ชุดใหญ่ มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในวันที่ 28 ธ.ค.2559 นี้"

ทั้งนี้ หากสามารถดำเนินการได้ตามแผน 5 ปี จะทำให้รายได้ของ ร.ฟ.ท.เพิ่มขึ้นเป็น 6 พันล้านบาทต่อปี จากปัจจุบันรายได้ของ ร.ฟ.ท.อยู่ที่ 2.5 พันล้านบาทต่อปี และคาดว่าในอนาคตอีก 6-7 ปี รายได้ของ ร.ฟ.ท.จะเพิ่มสูงถึง 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะสามารถกู้สถานะ ร.ฟ.ท.ได้ในระดับหนึ่ง เพราะผลขาดทุนของ ร.ฟ.ท.ในแต่ละปีอยู่ที่ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท หากได้มีรายได้เพิ่มเข้ามาจากแผนดังกล่าว จะทำให้เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพขององค์กรมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม แผนพัฒนาที่ดินการเดินรถ ร.ฟ.ท.ไม่ได้ใช้ประโยชน์นี้ ไม่รวมแผนพัฒนาที่ดินมักกะสัน ของ ร.ฟ.ท.ที่จะนำมาโอนให้กระทรวงการคลังบริหารจัดการเพื่อแลกหนี้กว่า 6 หมื่นล้านบาท
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 13/12/2016 1:59 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:

"คลัง" จุดพลุ PPP นำร่องที่ดินว่างเปล่า ร.ฟ.ท. 3 หมื่นไร่ พัฒนาลงทุน คาดโกยหมื่นล้าน
โดย MGR Online 13 ธันวาคม 2559 08:06 น.


เคาะแผน รฟท. 5 ปีพัฒนาที่ดินเพิ่มมูลค่า
เดลินิวส์
จันทร์ที่ 12 ธันวาคม 2559 เวลา 18.02 น.
ชง คนร.เคาะแผน 5 ปี ที่ดินไม่ได้ใช้ประโยชน์ รฟท.สิ้นเดือนนี้ หวังสร้างรายได้หมื่นล้าน กู้สถานะได้ในระดับหนึ่ง


นายอำนวย ปรีมนวงศ์ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะทำงานกำกับติดตามการพัฒนาที่ดินไม่ได้ใช้ประโยชน์จากการเดินรถของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)  เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะทำงานได้พิจารณาและสรุปแผนที่ดินของการเดินรถ รฟท.ไม่ได้ใช้ประโยชน์จำนวน 39,000 ไร่ 5 ปี ตั้งแต่ปี 60-64 และเสนอให้คณะอนุกรรมการกลั่นกรองของคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) พิจารณาวันที่ 19 ธ.ค.นี้ เพื่อให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เสนอไปยัง คนร.ชุดใหญ่ มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในวันที่ 28 ธ.ค.59

ทั้งนี้ หากสามารถดำเนินการได้ตามแผน 5 ปี จะทำให้รายได้ของ รฟท.เพิ่มขึ้นเป็น 6,000 ล้านบาทต่อปี จากปัจจุบันรายได้ของรฟท.อยู่ที่ 2,500 ล้านบาทต่อปี และคาดว่าในอนาคตอีก 6-7 ปี รายได้ของ รฟท.จะเพิ่มสูงถึง 10,000 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถกู้สถานะ รฟท.ได้ในระดับหนึ่ง เพราะผลขาดทุนของ รฟท.ในแต่ละปีอยู่ที่ประมาณ 10,000 ล้านบาท หากได้มีรายได้เพิ่มเข้ามาจากแผนดังกล่าว จะทำให้เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของ รฟท.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 13/12/2016 9:09 pm    Post subject: Reply with quote

nutsiwat wrote:
Mongwin wrote:


อย่างไรก็ดีสำหรับโครงการเมืองต้นแบบสามเหลี่ยม มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน มีมติเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2559 ได้อนุมัติให้มีการดำเนินงบประมาณระหว่างปี 2560 ถึง 2563 งบประมาณทั้งหมด 5,175,389 ล้านบาท โดยมีการคัดเลือกพื้นที่ใน 3 อำเภอประกอบด้วย อ.หนองจิก จ.ปัตตานี อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส และ อ.เบตง จ.ยะลา โดยมีเป้าหมายให้ อ.หนองจิก เป็นเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมแปรรูปการเกษตร อ.สุไหงโก-ลก เป็นศูนย์กลางการค้าขายชายแดนระหว่างประเทศ และ อ.เบตง เป็นเมืองต้นแบบการพัฒนาที่พึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน ซึ่งทั้งหมดถือเป็นการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เป็นพื้นที่เศรษฐกิจเฉพาะ และกระตุ้นให้เกิดการลงทุนรวมทั้งยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่


อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส น่าจะเหมาะที่จะเป็นศูนย์กลาง ทั้งด้านการคมนาคม การเชื่อมต่อกับประเทศมาเลเซีย เพราะ อ.สุไหงโกลก มีเส้นทางที่สะดวก มีทางรถไฟที่สามารถจะเเชื่อมต่อกับประเทศมาเลเซีย และใกล้สนามบินนราธิวาสครับ น่าจะเป็นจุดยุทธศาสตร์ในการเป็นศูนย์กลางการค้าขายชายแดนระหว่างประเทศได้ครับ

โพสต์ซ้ำ ครับ
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 23/12/2016 12:58 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
คลังชงแผนบริหารที่ดินร.ฟ.ท. มั่นใจช่วยเพิ่มรายได้ถึง1หมื่นล้าน
ไทยโพสต์
13 ธันวาคม 2559 - 00:00


คลังชงแผนพัฒนาที่ดินรถไฟหารายได้หมื่นล้าน
TNN24
13 ธันวาคม 2559 , 10.42 น. 336


กระทรวงการคลังเสนอแผนพัฒนาที่ดินการรถไฟ 3.9 หมื่นไร่ให้รัฐบาลอนุมัติ หวังนำมาพัฒนาเชิงพาณิชย์ หารายได้เพิ่มหมื่นล้านบาท

วันนี้ (13ธ.ค.59) นายอำนวย ปรีมนวงศ์ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะทำงานกำกับติดตามการพัฒนาที่ดินไม่ได้ใช้ประโยชน์จากการเดินรถของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า จะเสนอแผนการพัฒนาที่ดิน 5 ปีของ รฟท.ที่ไม่ได้ใช้เดินรถ 3.9 หมื่นไร่ ให้คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) เห็นชอบในวันที่ 28 ธ.ค.นี้ หากทำได้ตามแผนจะทำให้รายได้เพิ่มขึ้นเป็น 6,000 ล้านบาท จากปัจจุบันอยู่ที่ 2,500 ล้านบาท และในปีที่ 6 เป็นต้นไปรายได้จะมากกว่า 10,000 ล้านบาท

สำหรับการพัฒนาที่ดินแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย

1.ที่ดินรกร้างว่างเปล่า ไม่เคยมีสัญญาเช่า 2.32 หมื่นไร่ ซึ่งมีพื้นที่แปลงใหญ่มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท และต้องเข้าคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (พีพีพี) ได้แก่ สถานีบางซื่อ สถานี กม.11 สถานีแม่น้ำ สถานีตึกแดง สถานีที่ จ.ขอนแก่น เชียงใหม่ หลักสี่ และสถานีศาลายา ก็จะดำเนินการให้เอกชนเข้ามาพัฒนาเชิงพาณิชย์มากขึ้น

ขณะที่กลุ่มที่ 2 จะเป็นกลุ่มที่มีสัญญาเช่า จำนวน 1.59 หมื่นไร่ เช่นโรงแรมรถไฟหัวหิน สนามกอล์ฟหัวหิน และโรงแรมอีสติน มักกะสัน ซึ่งจะทำการต่อสัญญาตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนพีพีพีและจะปรับค่าเช่าใหม่ทั้งหมดทุกสัญญา ยกเว้นพื้นที่เกษตรกรรม

ด้านกลุ่มที่ 3 เป็นที่ดินที่ถูกบุกรุก จะทำรูปแบบประชารัฐ โดยจะให้การเคหะแห่งชาติเข้ามาพัฒนา ปรับปรุงให้เป็น ที่อยู่อาศัยกับผู้อาศัยเดิมให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

//-----------------

เปิดแผนที่ดิน ร.ฟ.ท.พัฒนา4หมื่นไร่หวังรายได้ปีละ 1 หมื่นล้าน
พิกัดข่าวเช้า
NowTV26
วันที่ 13 ธันวาคม 2559

คณะทำงานกำกับติดตามการพัฒนาที่ดิน ที่ไม่ใช่ที่ดินเพื่อการเดินรถ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ได้สรุปจัดทำแผนการใช้ประโยชน์จากที่ดินดังกล่าว ของ ร.ฟ.ท.ที่มีอยู่ 39,000 ไร่ ช่วง 5 ปี (2560-2564) มีทั้งการพัฒนาที่ดินผืนใหญ่และการปรับสัญญาการเช่า โดยหวังเพิ่มรายได้ปีละ 1 หมื่นล้านภายใน 10 ปีข้างหน้า
นายอำนวย ปรีมนวงศ์ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะทำงานกำกับติดตามการพัฒนาที่ดินของ ร.ฟ.ท.กล่าวว่า แผน 5 ปีนี้จะทำให้ ร.ฟ.ท.มีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 5-6 พันล้านบาทต่อปี ในช่วงปีท้ายๆ ของแผน จากปัจจุบันมีรายได้จากค่าเช่าที่ดินเพียง 2.5 พันล้านบาทต่อปี และภายใน 10 ปีข้างหน้า หรืออย่างเร็วอาจจะภายใน 6-7 ปี รายได้จากการพัฒนาที่ดินและค่าเช่าจะเพิ่มเป็น 1 หมื่นล้านบาทต่อปี ซึ่งจะสามารถชดเชยกับการขาดทุนที่การรถไฟที่ปัจจุบันมีการขาดทุนปีละประมาณ 1 หมื่นล้านบาทได้

ปัจจุบันการรถไฟมีที่ดินทั้งหมด 2.49 แสนไร่ แต่เป็นที่ดินที่ไม่ใช่เพื่อการเดินรถจำนวน 39,000 ไร่ โดยคณะทำงานได้แยกออกเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.ที่ว่างเปล่า ยังไม่เคยมีการจัดให้เช่ามาก่อน จำนวน 23,200 ไร่ 2. พื้นที่ที่มีสัญญาเช่า จำนวน 15,900 ไร่ และ 3.พื้นที่บุกรุก จำนวน 252 ไร่

-ที่ดินในกลุ่มแรก 23,200 ไร่ เป็นที่ดินแปลงใหญ่ที่จะเปิดให้เอกชนมาประมูลร่วมพัฒนา มีมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านบาท มีอยู่ทั้งหมด 11 แปลง เช่น ที่ดินบริเวณสถานีกลางบางซื่อ ที่ดินสถานีรถไฟแม่น้ำ สถานีรถไฟ กม.11 (หลัง ปตท.สำนักงานใหญ่) ที่ดินในจังหวัดขอนแก่น และเชียงใหม่

-ที่ดินในกลุ่มที่ 2 จำนวน 15,900 ไร่นั้น จะปรับปรุงค่าเช่าใหม่ หลังจากหมดสัญญาเช่าในปัจจุบัน โดยเจรจาเพื่อต่อสัญญากับผู้เช่ารายเดิมก่อน โดยจะทำก่อนหมดสัญญา 5 ปี แปลงที่ดินที่มีความสำคัญ มีมูลค่าสูงกว่าพันล้านบาทและกำลังหมดอายุสัญญาเช่า เตรียมที่จะต้องทำการต่อสัญญาเช่าใหม่ มี 3 แปลง ที่ดินของโรงแรมรถไฟหัวหิน,ที่ดินสนามกอล์ฟหัวหิน และที่ดินที่เป็นที่ตั้งของโรงแรม อิสติน ที่มักกะสัน

-ส่วนที่ดินบุกรุก 252 ไร่นั้น จะนำมาพัฒนาเป็นโครงการประชารัฐ โดยสร้างที่อยู่อาศัยในแนวสูง มีระบบสาธารณูปโภคต่างๆ รองรับ ให้กับกลุ่มที่อยู่อาศัยเดิม ซึ่งส่วนนี้จะไม่ได้มุ่งหวังกำไร แต่ทำเพื่อชุมชน
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 17/01/2017 12:17 pm    Post subject: Reply with quote

ชงแผนพัฒนาชุมทางหาดใหญ่ หากเกิดยกระดับทางรถไฟ ผุดขุมทรัพย์ใจกลางเมือง
มติชน
วันที่: 17 มกราคม 2560 เวลา: 10:30 น.

วันที่ 17 มกราคม นพ.เกรียงศักดิ์ หลิวจันทร์พัฒนา ประธานกลุ่มพัฒนาหาดใหญ เปิดเผยว่า กลุ่มพัฒนาหาดใหญ่ทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ผ่านทาง พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และผู้อำนวยการศูนย์บริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เกี่ยวกับโครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่ ช่วงสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา ให้พิจารณาเพิ่มเติมในโครงการยกระดับรางรถไฟและสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่

นพ.เกรียงศักดิ์เปิดเผยว่า ร.ฟ.ท.ได้ให้กลุ่มบริษัทที่ปรึกษาดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้ ความเหมาะสม และออกแบบโครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่ช่วงสุราษฎร์ธานี ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา ซึ่งโครงการจะเริ่มก่อสร้างในปี 2561 จะแล้วเสร็จปี 2563 และจะเปิดดำเนินการในปี 2564

“ผลการศึกษาของบริษัทที่ปรึกษา ร.ฟ.ท. ช่วงสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ สถานีเมืองสงขลา ระยะทาง 30 กม. มีการออกแบบรางรถไฟและสถานียกระดับจากผืนดิน 5 สถานี มีสถานีบ้านคลองแห บ้านเกาะหมี อ.หาดใญ่ สถานีน้ำน้อย เขารูปช้าง และสถานีเมืองสงขลา อ.เมือง จ.สงขลา มูลค่าการลงทุน 10,200 ล้านบาท” นพ.เกรียงศักดิ์กล่าว

นพ.เกรียงศักดิ์เปิดเผยว่า สถานีชุมทางรถไฟหาดใหญ่ เป็นชุมชนที่อยู่อาศัยและเป็นย่านธุรกิจการค้า ศูนย์กลางใจเมืองนครหาดใหญ่ 2 ฝั่ง ยังไม่ยกเอามาทำการศึกษา ในโครงการยกระดับทางรถไฟรางคู่ ก่อนเข้าตัวเมืองและออกตัวเมืองหาดใหญ่ ตลอดจนยกระดับสถานีชุมทางรถไฟหาดใหญ่เหนือจากผิวดิน หากโครงการได้ทำการยกระดับ มีระยะทางยาวประมาณ 5 กม. กว้าง 80 ตร.ม. สามารถขยายความยาวอีกจำนวนหนึ่งทั้งทางขาเข้าและขาออก สามารถจะแก้ปัญหาได้มาก จะเป็นจุดเปลี่ยนของการพัฒนาเมืองหาดใหญ่แล้ว ประโยชน์จะรวมเมืองหาดใหญ่ 2 ฝั่งเข้าด้วยกัน อำนวยความสะดวกในการสัญจร ธุรกิจการค้าขยายตัวไปฝั่งหาดใหญ่ใน ถึงสนามบินนานาชาติหาดใหญ่ แก้ไขปัญหาการจราจรในชั่วโมงเร่งด่วนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“สร้างพื้นที่ใต้รางรถไฟเพิ่มขึ้น 400,000 ตร.ม. มีสถานที่จอดรถใต้ทางรางรถไฟ 3,000 คัน เป็นการเพิ่มพื้นที่จราจรในตัวเมืองหาดใหญ่ที่กำลังแออัด และจะเป็นการพัฒนาพื้นที่เป็นสถานที่การค้า ค้าขาย ตลาดพืชผัก ผลไม้ ต้นไม้ ดอกไม้ สัตว์เลี้ยง สินค้าพื้นเมือง ตลาดเสื้อผ้า ศูนย์อาหารไทย จีน อิสลาม เวทีแสดงดนตรี ตลาดไนท์บาซาร์ และศูนย์เช่าพระ เพิ่มพื้นที่สีเขียว สวนหย่อม สถานที่พักผ่อนใต้ทางยกระดับและส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยว” นพ.เกรียงศักดิ์กล่าว

ส่วนปัญหาสลัมสองฝั่งทางรถไฟ นพ.เกรียงศักดิ์กล่าวว่า รถไฟสร้างแฟลตเพื่อที่อยู่อาศัย แปลงสภาพใหม่ให้คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และสามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมลึกและขังนานฝั่งหาดใหญ่ในได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างสถานีรถลอยฟ้านานาชาติ ที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองหาดใหญ่ และเป็นการสร้างความพร้อมเมืองหาดใหญ่ ที่จะพัฒนาเป็นมหานครแห่งหนึ่งของประชาคมอาเชียน (เออีซี) สร้างเมืองใหม่ เมืองเศรษฐกิจการค้าเพิ่มขึ้นอีก 1 เมืองกลางใจเมืองหาดใหญ่ ในเชิงพาณิชย์จะมีผลตอบแทนอย่างมหาศาล


นอกจากนี้ นพ.เกรียงศักดิ์กล่าวว่า รัฐบาลมี 2 ทางเลือกที่จะดำเนินการคือ รัฐบาลเลือกลงทุนเองหรือให้เอกชนลงทุน หากให้เอกชนลงทุน จะต้องมอบสัมปทานให้ผู้ลงทุนในระยะ 50 ปี ใช้เงินสัมปทานประมาณ 20,000 ล้านบาท ประมาณปีละ 200 ล้านบาท มีเอกชนลงทุนจำนวนมากเข้ามาแข่งขันในการประมูล

“โครงการยกระดับรางรถไฟ ในของพื้นที่อู่ซ่อมและคลังขนส่งสินค้า ย้ายไปสถานีรถไฟบางกล่ำ ซึ่งอยู่ใกล้กับการนิคมอุตสาหกรรมภาคใต้ ฉลุง อ.หาดใหญ่จะเป็นจุดอิมปอร์ตเอ็กซ์ปอร์ต เป็นแหล่งทำเลทองของเมืองหาดใหญ่ ใช้เงินลงทุนประมาณ 15,000 ล้านบาท ได้ผลตอบแทนประมาณปีละ 6,000 ล้านบาท รัฐบาลสามารถเก็บภาษีได้ประมาณปีละ 1,000 ล้านบาท” นพ.เกรียงศักดิ์กล่าว
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 17/01/2017 12:27 pm    Post subject: Reply with quote

"พิชิต"ดึงเอกชนบริหารพอร์ตที่ดินรถไฟ 4 หมื่นไร่
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
17 มกราคม 2560 เวลา: 07:31:26 น.


"พิชิต" ปฏิรูปการรถไฟฯ สั่งตั้งบริษัทลูกพัฒนาสินทรัพย์ใน 3 เดือน ดึงมืออาชีพจากภาคเอกชน เช่าที่ดินทั่วประเทศกว่า 3.9 หมื่นไร่ ปั๊มรายได้เพิ่มปีละ 1 หมื่นล้านบาท หวังล้างขาดทุนแสนล้าน เร่งแผนเดินรถและเชิงพาณิชย์เชื่อมระเบียงเศรษฐกิจ EEC

นายพิชิต อัคราทิตย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้เร่งให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ปฏิรูปทรัพย์สิน จัดตั้งบริษัทพัฒนาสินทรัพย์ ภายใน 3 เดือน โดยรถไฟถือหุ้น 100% และจ้างเอกชนมาบริหารจัดการ เพื่อนำทรัพย์สินของรถไฟที่ไม่ใช่การเดินรถมีอยู่กว่า 39,428.97 ไร่ ในใจกลางเมืองและตลอดแนวเส้นทางรถไฟ ปัจจุบันและทางคู่ในอนาคต สร้างรายได้เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ทำรายได้แค่ 3,000 กว่าล้านบาท/ปี เป็นอย่างน้อย 10,000 ล้านบาท/ปี

"ที่ผ่านมารถไฟมีรายได้จากให้เช่าที่ดินน้อยมาก เพราะผลตอบแทนด้านอสังหาริมทรัพย์ต่ำกว่ามาตรฐานตลาดอยู่ที่ 1% ขณะที่ราคาตลาดจากหน่วยงานอื่นทรัพย์สินสามารถสร้างรายได้ 4-5% ต้องประเมินตรงนี้ใหม่ รวมถึงอัตราค่าเช่าด้วย จะต้องอิงจากราคาตลาด"

สำหรับพื้นที่แปลงใหญ่จะเปิดให้เอกชนร่วมทุนมีจำนวน 11 แปลง ได้แก่ พื้นที่บางซื่อ (ย่านพหลโยธิน) จำนวน 2,325 ไร่, กม.11 จำนวน 270 ไร่, สถานีแม่น้ำ 277 ไร่, ขอนแก่น 56 ไร่, เชียงใหม่ 60 ไร่, สถานีหลักสี่ 7 ไร่ และศาลายา 16 ไร่ จะเร่งสถานีบางซื่อแปลง A จำนวน 35 ไร่มาพัฒนาก่อน ตอนนี้อยู่ในการพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.)

ส่วนย่าน กม.11 อยู่ในระหว่างการทบทวนปัญหาจราจรบนถนนกำแพงเพชร คาดว่ารถไฟจะเสนอให้กระทรวงคมนาคมในช่วง เม.ย.นี้ และสถานีแม่น้ำคาดว่าจะส่งให้กระทรวงคมนาคมในช่วง เม.ย.-พ.ค. ส่วนพื้นที่ต่างจังหวัด อย่างเชียงใหม่และขอนแก่น จะประกวดราคาหาที่ปรึกษาศึกษาความเหมาะสมประมาณสิ้นเดือน ม.ค.และได้ที่ปรึกษาเดือน ก.พ.-มี.ค.นี้



ขณะที่พื้นที่แปลงเล็กอีก 8 แปลง ได้แก่ กาญจนบุรี 35 ไร่ นครราชสีมา 35 ไร่ อรัญประเทศ 100 ไร่ กรุงเทพฯ ตรงถนนวัฒนธรรมประมาณ 1-2 ไร่ จะเปิดประมูลภายในเดือน มิ.ย.นี้

ด้านพื้นที่มักกะสัน หลัง ร.ฟ.ท.จะพัฒนาเอง ให้ทำรายละเอียดการลดหนี้มาให้พิจารณา ตามที่คณะกรรมการ คนร.สั่งให้ทำเพิ่มเติม อีกทั้งจะเร่งหารือกับกระทรวงการคลังโดยเร็ว ซึ่งรถไฟอาจจะใช้เครื่องมือ "ใช้รายได้ในอนาคต ล้างหนี้ บริหารจัดให้ดี" แทนการยกหนี้ให้กระทรวงการคลัง เพราะการยกหนี้เป็นการตัดบัญชี ไม่ได้ชดใช้ด้วยเงิน การบริหารจะได้กระแสเงินสด อาจจะมากกว่าที่ยกหนี้ให้กระทรวงการคลัง

"ปัจจุบันรถไฟมีหนี้ไม่ร่วมแอร์พอร์ตลิงก์อยู่กว่า 103,197 ล้านบาท เริ่มทยอยชำระไปบ้างแล้ว แต่ก็ต้องเพิ่มกระแสเงินสดหรือรายได้ให้มากขึ้น ไม่ให้ก่อหนี้ขึ้นอีก ในการปรับโครงสร้างหนี้ไม่ยาก รถไฟมีศักยภาพในการนำทรัพย์สินที่มี ไม่ว่าจะเป็นบางซื่อ กม.11 สถานีแม่น้ำ เป็นที่ดินที่อยู่ใจกลางเมือง สร้างรายได้ให้กับรถไฟได้" นายพิชิตกล่าวและว่า

ขณะเดียวกันจะปฏิรูปการเดินรถ ทำการตลาดแบ่งกลุ่มผู้โดยสารให้สามารถบริการได้ตรงตามความต้องการ ให้กลุ่มลูกค้ารายได้ที่มากดูแลกลุ่มลูกค้ารายได้น้อย เชื่อมต่อระหว่างรางและโหมดการเดินทางอื่น เพิ่มความสะดวกสบาย เช่น ทำที่จอดรถใกล้สถานี เป็นต้น และส่งเสริมให้มีการขนส่งสินค้าทางรางเพิ่มขึ้น ให้รถไฟทำหน้าที่เชื่อมโลจิสติกส์ยกระดับพื้นที่ภาคตะวันออก ตามนโยบายพัฒนาระเบียงเขตเศรษฐกิจตะวันออก (EEC) ให้รถไฟเสนอแผนการเดินรถ พัฒนาพื้นที่อสังหาริมทรัพย์แนวรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-พัทยา-ระยองให้พิจารณาโดยเร็ว

ปัจจุบันการเดินรถไฟขาดทุน7,500ล้านบาทรถไฟแอร์พอร์ตลิงก์ขาดทุน280-300 ล้านบาท ทำให้ต้องขอเงินรับสนับสนุนทุกปี
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 133, 134, 135 ... 197, 198, 199  Next
Page 134 of 199

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©