โครงการรถไฟสายตาก และหนองบัวลำภู

[Wisarut]

คุณรู้หรือยัง ..... หนองบัวลำภูกำลังจะมีสถานีรถไฟ ซึ่งตอนนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณากับ "2 เส้นทาง 4 ทางเลือก" ประจำปีงบประมาณ 2559 หรือปีหน้าที่จะถึงนี่เอง มาลองวิเคราะห์กันเล่นๆดูครับว่าเส้นไหนเหมาะสมที่สุด
หมายเหตุ : ชื่ออำเภอ ชื่อสถานีบ้างแห่งอาจจะพิมพ์ผิดบ้าง ตกหล่นบ้าง ผู้พิมพ์จึงขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

**************************************************************************************************************************************

แนวเส้นทางเลือกสายทาง จัตุรัส - ชัยภูมิ - หนองบัวลำภู - เลย
แนวเส้นทางเลือกที่ 1
- ผ่าน 4 จังหวัด 15 อำเภอ รวมระยะทาง 333 กิโลเมตร
จุดเริ่มต้นอยู่ที่สถานีรถไฟจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ ผ่านอำเภอจัตุรัส อำเภอบ้านเขว้า อำเภอเมืองชัยภูมิ อำเภอคอนสวรรค์ อำเภอแก้งคร้อ อำเภอภูเขียว เข้าสู่จังหวัดขอนแก่น อำเภอชุมแพ อำเภสีชมพู เข้าสู่จังหวัดหนองบัวลำภู ผ่านอำเภอศรีบุญเรือง อำเภอเมืองหนองบัวลำภู อำเภอนากลาง อำเภอนาวัง เข้าสู่จังหวัดเลย ผ่านอำเภอเอราวัณ อำเภอวังสะพุง อำเภอเมืองเลย สิ้นสุดโครงการที่อำเภอเมืองเลย
- มี 30 สถานี ประกอบด้วย บ้านกอก หนองบัวบาน บ้าเขว้า ชัยภูมิ ห้วยบง โคกมั่งงอย ช่องสามหมอ แก้งคร้อ หลุบคา กวางโจน ภูเขียว ชุมแพ นาจาน ศรีสุข วังเพิ่ม นากอก เมืองใหม่ หัวนา บ้านพร้าว หนองบัว หนองบัวลำภู นาคำไฮ ด่านข้าง นาเหล่า ผาอินทร์แปลง หนองหญ้าปล้อง วังสะพุง นาโป่ง น้ำหมาน และเมืองเลย

- แนวเส้นทางผ่านพื้นที่ในเมืองและผ่านเมือง 3 จังหวัด ได้แก่ อำเภอเมืองชัยภูมิ อำเภอเมืองหนองบัวลำภู และอำเภอเมืองเลย ซึ่งมีประชากรหนาแน่นและเป็นแหล่งที่ตั้งของโรงงานอุตสาหกรรมจำนวนมาก ก่อสร้างได้ง่ายและรวดเร็ว เนื่องจากมีความยาวของโครงสร้างที่เป็นสะพานหรืออุโมงค์สั้นกว่า แต่มีการเวนคืนที่ดินมากและมีค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างเนื่องจากมีระยะทางยาว

แนวเส้นทางเลือกที่ 2
ผ่าน 4 จังหวัด 13 อำเภอ รวมระยะทาง 297 กิโลเมตร
- จุดเริ่มต้นของโครงการอยู่ที่สถานีรถไฟจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ ผ่านอำเภอจัตุรัส อำเภอบ้านเขว้า อำเภอเมืองชัยภูมิ อำเภอหนองบัวแดง อำเภอเกษตรสมบูรณ์ อำเภอภูเขียว เข้าเขตจังหวัดของแก่นช่วงอำเภอชุมแพ อำเภอสีชมพู เข้าสู่จังหวัดหนองบัวลำภูผ่านอำเภอศรีบุญเรือง เจ้าสู่จังหวัดเลย ผ่านอำเภอผาขาว อำเภอหนองหิน ผ่านอำเภอวังสะพุง อำเภอเมืองเลย สิ้นสุดโครงการที่อำเภอเมืองเลย จังหวัดเลย
- มี 26 สถานี ประกอบด้วย บ้านกอก หนองบัวบาน โนนแดง ห้วค้อน กุดซุมแสง บ้านเดื่อ โนนกอก สระโพนทอง บ้านหัน ภูเขียว ชุมแพ นาจาน ศรีสุข วังเพิ่ม นากอก หันนางาม โนนสะอาด ท่าข้างคล้อง โนนปอแดง บ้านเพิ่ม หนองหิน ศรีสงคราม วังสะพุง นาโป่ง น้ำหมาน และเมืองเลย

- แนวเส้นทางมีระยะทางสั้นกว่าแนาวเส้นทางเลือกที่ 1 และไม่ผ่านพื้นที่ในเมือง จึงมาการเวนคืนที่ดินและค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างน้อยกว่า แนาวเส้นทางผ่านพื้นที่ไกลเมืองและบางช่วงผ่านพื้นที่ภูเขา จึงมีปริมาณผู้โดยสารและปริมาณการขนส่งสินค้าน้อยกว่า อีกทั้งยังมีความยาวของโครงสร้างที่เป็นสะพานหรืออุโมงค์มากกว่าแนวเส้นทางเลือกที่ 1 ทำให้ก่อสร้างได้ยากกว่า และใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างมากกว่า

แนวเส้นทางเลือกสายทาง ลำนารายณ์ - เพชรบูรณ์ - เลย - หนองบัวลำภู
แนวเส้นทางเลือกที่ 3
ผ่าน 4 จังหวัด 15 อำเภอ รวมระยะทาง 392 กิโลเมตร
- จุดเริ่มต้นของโครงการอยู่ที่สถานีรถไฟลำนารายณ์ จังหวัดลพบุรี มุ่งหน้าขึ้นไปทางทิศเหนือเข้าจังหวัดเพชรบูรณ์ อำเภอศรีเทพ อำเภอวิเชียรบุรี อำเภอบึงสามพัน อำเภอหนองไผ่ อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ อำเภอหล่มสัก อำเภอหล่มเก่า เส้นทางช่วงนี้จะคู่ขนานไปกับถนนทางหลงหมายเลข 21 เข้าสู่จังหวัดเลย ผ่านอำเภอภูหลวง อำเภอวังสะพุง อำเภอเมืองเลย อำเภอนาด้วง ลัดเลาะไปตามไหล่เขาและมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกเข้าจังหวัดหนองบัวลำภู ผ่านอำเภอนาวัง อำเภอนากลาง สิ้นสุดโครงการที่อำเภอเมืองหนองบัวลำภู จังหวัดหนองบัวลำภู
- มี 35 สถานี ประกอบด้วย ศิลาทิพย์ คลองกระจัง ศรีเทพ พุเตย สระประดู่ สามแยก บึงสามพัน บ้านโภชน์ หนองไผ่ นาเฉลียง นายม บ้านโคก เพชรบูรณ์ ดงมูลเหล็ก ข้างตะลูด ลานบ่า บ้านโสก หล่มเก่า หินฮาว ตาดกลอย เลยวังไสย์ ภูหอ ทรายขาว วังสะพุง นาโป่ง น้ำหมาน เมืองเลย น้ำสวย ท่าสะอาด นาด้วง วังปลาป้อม นาแก นากลาง นาคำไฮ และหนองบัวลำภู
- แนวเส้นทางในช่วงแรกผ่านพื้นที่เมืองและอำเภอเมือง 3 จังหวัด ได้แก่ อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ อำเภอเมืองเลย และอำเภอเมืองหนองบัวลำภู สามารถรองรับปริมาณผู้โดยสารและปริมาณการขนส่งสินค้าได้เป็นจำนวนมาก เนื่องจากผ่านพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่นในอำเภอภูหลวงและอำเภอวังสะพุง แนวเส้นทางผ่านพื้นที่ภูเขาน้อยกว่า ทำให้มีความยาวของโครงสร้างที่เป็นสะพานหรืออุโมงค์น้อยกว่า สามารถก่อสร้างได้ง่าย มีค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างน้อย และใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างน้อย

แนวเส้นทางเลือที่ 4
ผ่าน 4 จังหวัด 15 อำเภอ รวมระยะทาง 396 กิโลเมตร
- จุดเริ่มต้นของโครงการอยู่ที่สถานีรถไฟลำนารายณ์ อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี มุ่งหน้าขึ้นไปทางทิศเหนือเข้าจังหวัดเพชรบูรณ์ อำเภอศรีเทพ อำเภอวิเชียรบุรี อำเภอบึงสามพัน อำเภอหนองไผ่ อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ อำเภอหล่มสัก อำเภอหล่มเก่า เส้นทางช่วงนี้จะคู่ขนานไปกับถนนทางหลวงหมายเลข 21 เข้าสู่จังหวัดเลย ผ่านอำเภอด่านซ้าย อำเภอภูเรือ อำเภอเมืองเลย อำเภอนาด้วง ลัดเลาะไปตามไหล่เขาและมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกเข้าสู่จังหวัดหนองบัวลำภู ผ่านอำเภอนาวัง อำเภอนากลาง สิ้นสุดโครงการที่อำเภอเมืองหนองบัวลำภู จังหวัดหนองบัวลำภู
- มี 30 สถานี ประกอบด้วย ศิลาทิพย์ คลองกระจัง ศรีเทพ พุเตย สระประดู่ สามแยก บึงสามพัน บ้านโภชน์ หนองไผ่ นางเฉลียง นายม บ้านโคก เพชรบูรณ์ ดงมูลเหล็ก ข้างตะลูด ลานนำ ด่านซ้าย หนองบัว เมืองเลย นำ้สวย ท่าสะอาด นาด้วง วังปลาป้อม นาแก นากลาง นาคำไฮ และหนองบัวลำภู

- แนวเส้นทางในช่วงแรกผ่านพื้นที่เมืองและอำเภอเมือง 3 จังหวัด เช่นเดียวกับแนวเส้นทางเลือกที่ 3 และแนวเส้นทางส่วนใหญ่ผ่านพื้นที่ภูเขาและพื้นที่ที่มีประชากรน้อยกว่าแนวเส้นทางเลือกที่ 3 ทำให้มีปริมาณผู้โดยสารและปริมาณการขนส่งสินค้าน้อยกว่า อีกทั้งยังมีโครงสร้าางที่เป็นสะพานหรืออุโมงค์มาก ทำให้ก่อสร้างได้ยาก ใช้เวลาในการก่อสร้างนาน และมีค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างสูง — ที่ เทศบาลเมืองหนองบัวลำภู

https://www.facebook.com/tessabanmueangnongbualamphu/photos/a.742048105854915.1073741841.730368257022900/867694926623565/?type=3&theater

[ksomchai]

ลองกดลิงค์เข้าไปดู

https://www.facebook.com/tessabanmueangnongbualamphu/photos/a.742048105854915.1073741841.730368257022900/867694926623565/?type=3&theater

สถานัีรถไฟหนองบัวลำภู (ป้ายอีกด้านหนึ่งเป็นสถานีนากลาง) ที่เห็น คือสถานีอะไรหนอ แต่ผมเข้าใจว่าเป็นสถานีบ้านโป่ง ครับ
_________________

[Mongwin]

ขอบคุณพี่สมชายมากครับ

ภาพสถานีบ้านโป่งจริง ๆ ด้วยครับ และภาพต้นฉบับเป็นภาพที่ผมถ่ายมาเองครับ เมื่อวันที่ ๒๐ ต.ค. ๒๕๕๓

ภาพต้นฉบับอยู่ที่ีนี่ครับ http://www.panoramio.com/photo/43520879

[Mongwin]

ส่วนภาพนี้ ถ่ายเมื่อ ๙ ก.ค. ๒๕๕๗ ครับ

[nutsiwat]

[Mongwin]

เพชรบูรณ์ร้อง รมว.คมนาคมหนุนงบทำอีไอเอ-สำรวจทางรถไฟ ชี้เหมาะสม-คุ้มค่า
มติชนออนไลน์ วันที่: 20 มี.ค. 60 เวลา: 12:00 น.



วันที่ 20 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้าหลังจากพลเอกธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ตอบรับทางจังหวัดเพชรบูรณ์ซึ่งขอให้ช่วยผลักดันทางรถไฟมาเพชรบูรณ์ โดยขอให้มีการสำรวจออกแบบพร้อมจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA) รวมทั้งขอให้ศึกษาเส้นทางรถไฟสายตะพานหิน-นาเฉลียง(อ.หนองไผ่)อีกเส้นทาง ล่าสุดนายพิบูลย์ หัตถกิจโกศล ผุู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้มีหนังสือด่วนที่สุดลงวันที่ 17 มีนาคม 2560 ถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เกี่ยวกับขอรับการสนับสนุนงบประมาณ โครงการสำรวจออกแบบและจัดทำรายงานผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม(EIA) การก่อสร้างเส้นทางรถไฟสายลำนารายณ์-เพชรบูรณ๋์-หล่มเก่าและศึกษาความเหมาะสมการก่อสร้างทางรถไฟสายตะพานหิน-นาเฉลียง(อ.หนองไผ่) จากการรถไฟแห่งประเทศไทย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2561 งบประมาณรวม 200 ล้านบาท


โดยการสนับสนุนงบฯดังกล่าวเป็นลักษณะบูรณาการเชิงยุทธศาสตร์ ภายใต้แผนงานบูรณาการเสริมสร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจภายในประเทศ หรือแผนภาคประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2561 ไปยังสำนักงบประมาณ ขณะเดียวกันทางจังหวัดเพชรบูรณ์ยังมีหนังสือแจ้งไปยังการรถไฟแห่งประเทศไทยให้ขอความเห็นชอบตามขั้นตอนแล้ว อย่างไรก็ตามในท้ายหนังสือดังกล่าวยังระบุด้วยว่า การก่อสร้างทางรถไฟสายลำนารายณ์-เพชรบูรณ์-หล่มเก่า เป็นโครงการที่การรถไฟแห่งประเทศไทยศึกษาความเหมาะสมไว้แล้ว ซึ่งผลการศึกษาสรุปว่าผลตอบแทนด้านเศรษฐศาสตร์มีความคุ้มค่า และสามารถพัฒนาโครงข่ายเชื่อมโยงไปยังภูมิภาคอื่นๆได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย

อนึ่งเมื่อปี 2558 ชาวเพชรบูรณ์ได้สร้างประวัติศาสตร์โดยการรวมพลังเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน โดยพากันออกมาร่วมรณรงค์ขับเคลื่อนให้มีเส้นทางรถไฟผ่านเพชรบูรณ์ ร่วมกับทางองค์กรภาคเอกชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นภายในจังหวัด เนื่องจากทางการรถไฟแห่งประเทศไทยกำหนดให้มีการศึกษาแนวเส้นรถไฟสายจตุรัส-ชัยภูมิ-เลย-หนองบัวลำภู กับแนวเส้นทางสายลำนารายณ์-เพชรบูรณ์-เลย-หนองบัวลำภู เพื่อจะขยายระบบรางสร้างเส้นทางสายใหม่ เชื่อมโยงสู่ประตูเศรษฐกิจภาคอีสาน ซึ่งผลการศึกษามีข้อสรุปหากก่อสร้างตามแนวเส้นทางลำนารายณ์-เพชรบูรณ์-หล่มเก่า มีความคุ้มค่าในการลงทุน แต่หากก่อสร้างตลอดทั้งสายต้องใช้งบฯมากไม่คุ้มค่า

[Wisarut]

[Mongwin]

เตรียมเสนอ ครม. พิจารณา รถไฟทางคู่ภาคเหนือ
สำนักข่าวไทย Breaking News 25 ธ.ค. 2017 20:20:42

“ปรเมธี” เลขาธิการ สศช. เผยที่ประชุมยุทธศาสตร์ภาคเหนือเตรียมเสนอ ครม. พิจารณาโครงการรถไฟทางคู่ เส้นทางลพบุรี-เชียงใหม่ และเส้นทางเชียงใหม่-เชียงของ ในเดือน มี.ค.61 และมีข้อเสนอสร้างเส้นทางรถไฟเส้นใหม่ จาก อ.ลำนารายณ์ จ.ลพบรี-เพชรบูรณ์ เพื่อเชื่อมโยงโครงข่ายรถไฟทางคู่ภาคเหนือและรถไฟความเร็วสูง และแผนสร้างมอเตอร์เวย์เชียงใหม่-เชียงราย โดยเร่งรัดแผนเริ่มก่อสร้างให้เร็วกว่าปี 65

[Mongwin]

“บิ๊กตู่” โปรยงบภาคเหนือตอนล่าง ดึงคันเร่ง 3 โครงการน้ำ-ราง-สนามบิน
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ วันที่ 25 ธันวาคม 2560 - 18:25 น.

“บิ๊กตู่” โปรยงบภาคเหนือตอนล่าง ดึงคันเร่ง 3 โครงการน้ำ-ราง-สนามบิน ดันท่าอากาศยานเชียงใหม่ แห่งที่ 2 รองรับนักท่องเที่ยว 35 ล้านคน แก้น้ำท่วม-แล้งลุ่มแม่น้ำยม 1.4 พันล้าน ชงรถไฟเส้นทาง เด่นชัย-เชียงของ ลพบุรี-เชียงใหม่ เข้า ครม.มี.ค.62 “ไฮสปีดเทรน” กรุงเทพ ฯ-เชียงใหม่ ส่ออืด ทบทวนความคุ้มค่า 4 แสนล้าน

เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2560 ที่ห้องประชุมศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ 2 มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม จังหวัดพิษณุโลก นายปรเมธี วิมลศิริ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศส.) แถลงผลการประชุมระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกับผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้แทนภาคเอกชน ผู้บริหารท้องถิ่นและผู้แทนเกษตรกรภาคเหนือ ระหว่างเดินทางไปประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) อย่างเป็นทางการ จังหวัดพิษณุโลก-สุโขทัย ระหว่างวันที่ 25-26 ธันวาคม 2560 ว่าที่ประชุมได้รับทราบข้อเสนอเพื่อนำไปพิจารณา 6 ด้าน ประกอบด้วย

1.ด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ได้แก่ 1.1 การพัฒนาโครงข่ายการขนส่งทางอากาศ (1) เร่งรัดโครงการก่อสร้างท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่แห่งที่ 2 เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวเต็มศักยภาพในปี 2573 จำนวน 35 ล้านคน ในพื้นที่ศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) เชื่อมต่อจังหวัดเชียงใหม่-ลำพูน อำเภอบ้านทิ (2) ปรับปรุงพัฒนาท่าอากาศยาน ประกอบด้วย การขยายทางวิ่งท่าอากาศยานลำปาง แพร่ น่าน และพิษณุโลก ทั้งหมดอยู่ในแผนการขอกรอบวงเงินงบประมาณในปี 2562

1.2 การพัฒนาโครงข่ายการขนส่งทางบก (1) โครงการมอเตอร์เวย์เชียงใหม่-เชียงราย ซึ่งต้องเจาะภูเขาและอุโมงค์ ถึงแม้จะร่นระยะเวลาในการเดินทางได้เร็วขึ้น แต่ก็ต้องใช้งบประมาณเพิ่มขึ้น มากกว่าการขยายช่องจราจร 4 เลน ตามแผนของกระทรวงคมนาคม ทั้งนี้กระทรวงคมนาคมจะต้องไปศึกษาความคุ้มค่าอีกครั้ง (2) สร้างศูนย์การขนส่งสินค้าไปสู่การขนส่งหลายรูปแบบ (Multi Modals Transportation Logistics Center) ซึ่งอยู่ในแผนในปีงบประมาณ 2562 และการเวนคืนที่ดิน


(3) พัฒนาระบบรถไฟฟ้ารางเบา จังหวัดเชียงใหม่ หรือ Light Rail Transit System (LRL) โดยรัฐบาลลงทุนเอง หรือ ร่วมทุนกับเอกชน (Public Private Partnership : PPP) ยังไม่ได้ข้อสรุป อย่างไรก็ตามรัฐบาลเห็นว่า รูปแบบการลงทุนควรเป็น PPP โดยจะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการ PPP ต่อไป ทั้งนี้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งทางบกและจราจจร (สนข.) ได้ศึกษาเส้นทางทั้งใต้ดินและบนดิน 34 กิโลเมตรและบนดินทั้งหมด 41 กิโลเมตร

(4) ก่อสร้างทางหลวงแนวใหม่ (เชียงใหม่-เลี่ยงเมืองลำพูน) (5) พัฒนาโครงการข่ายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 101 จังหวัดกำแพงเพชร-สุโขทัย-อุตรดิษถ์-แพร่-น่าน-พะเยา-เชียงราย เพื่อเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวมรดกโลก และ (6) ขยายช่องทางจราจร 3-4 ถนน ได้แก่ 1) ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 106 เป็น 4 ช่องทางจราจร และสำรวจออกแบบช่วง อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง-อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน เชื่อมต่อไปยังอำเภอแม่สะเรียง-อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน 2) ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1091 อำเภอจุน-อำเภอปง-อำเภอเชียงม่วน-จังหวัดน่าน 3) ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 115 กำแพงเพชร-พิจิตร-พิษณุโลก และ 4) ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 21 หล่มสัก-เพชรบูรณ์-ทาลี่-เลย ทั้งนี้บางช่วงยังมีการต่อต้านจากประชาชนในพื้นที่

1.3 การพัฒนาโครงข่ายการขนส่งทางบก (1) การก่อสร้างสะพานเชื่อมโยงเศรษฐกิจภูมิภาค ทางหลวงหมายเลข 1026 ตอนผาเวียง-ปากนาย เพื่อบรรจบทางหลวงหมายเลข 1339 ตอนน้ำปาด-ปากนาย และ (2) เส้นทางสายแม่สอด-ตาก เชื่อมทางหลวงหมายเลข 12 เพื่อเชื่อมโยงระเบียงเศรษฐกิจตะวันตก

1.4 การพัฒนาโครงข่ายการขนส่งทางราง เห็นชอบผลักดันระบบรางเส้นใหม่ เส้นทางเด่นชัย-เชียงของ ลพบุรี-เชียงใหม่ และ คาดว่าจะเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในเดือนมีนาคม 2561 นอกจากนี้ภาคเอกชนเสนอรถไฟทางคู่ เส้นทางลพบุรี-เพชรบูรณ์ ด้วย

ขณะที่รถไฟความเร็วสูงเส้นทาง กรุงเทพ ฯ – พิษณุโลก – เชียงใหม่ ผลการศึกษาของญี่ปุ่น ลงทุนสูง ประมาณ 4 แสนล้าน จึงต้องพิจารณาเรื่องคุ้มค่าการลงทุน ผลตอบแทน เนื่องจากหากเปรียบเทียบกับรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เส้นทาสง กรุงเทพ ฯ – หนองคาย ซึ่งผลประโยชน์ตอบแทนทางเศรษฐกิจชัดเจน

2.ด้านการบริหารจัดการน้ำภาคเหนือ โดยเฉพาะลุ่มแม้น้ำยม เสนอโครงการขนาดเล็ก เช่น ฝาย และ โครงการปรับปรุงประตูระบายน้ำตอนล่างเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ โดยกรมชลประทานจะขออนุมัติงบประมาณเพิ่มเติม วงเงิน 1,400 ล้านบาท ผ่านคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำ

3.ด้านการเกษตรและแปรรูป โดยขอรับการสนับสนุน “โครงการเกษตรอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออกภาคเหนือ” โดยใช้ผักผลไม้ที่สร้างรายได้สูงเพื่อนำร่อง ได้แก่ กล้วยหอม สัปปะรด กระเจี๊ยบ มะม่วง ข้าว ไผ่ และพืชสมุนไพร คาดว่าจะมีเกษตรกรร่วม 5,000 ราย สร้างรายได้ 9,000 ล้านบาท ยกระดับเป็นพืชส่งออกและแปรรูป

4.ด้านการค้าและการลงทุน (1) การอำนวยความสะดวกการผ่านแดนโดยการทำ Visa on Arrival (VOA) ณ ด่านชายแดนและเมียนมา กระทรวงต่างประเทศรับไปพิจารณา (2) การทำความตกลงทวิภาคีการเปิดเดินรถส่วนบุคคลเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างไทย-เมียนมาได้ (3) การอนุญาตให้รถขนส่งของเมียนมาเข้ามาขนส่งสินค้าในฝั่งไทยด้านด่านแม่สอด จังหวัดตาก (4) ศึกษาเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันตก (West Economic Corridor : WEC) ในพื้นที่ จังหวัดตาก พิษณุโลกและสุโขทัย ทั้งนี้อยู่ในเส้นทางยุทธศาสตร์ East-West Economic Corridor อยู่แล้ว

และ (5) เร่งรัดดำเนินการเพิกถอนเส้นทางในการก่อสร้างถนนเพื่อการคมนาคมและการค้าระหว่างประเทศไปยังจุดผ่อนปรณบ้านห้วยต้นนุ่น จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งอยู่ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยเวียงเหล้าและป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่เงา-แม่สำเพ็ง ระยะทาง 9.7 กม. 365 ไร่ เพื่อยกระดับเป็นจุดผ่านแดนถาวรในอนาคต ดังนั้นจึงให้กระทรวงกลาโหมและสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ไปพิจารณาศึกษาร่วมกันอีกครั้ง เนื่องจากมีข้อติดขัดเรื่องความไม่ชัดเจนของเขตแดน

นอกจากนี้เอกชนยังขอให้พิจารณาสนับสนุนการจัดงานแสดงสินค้าศักยภาพการเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปมูลค่าเพิ่มสูงภาคเหนือ (Northern Thailand Food Valley & Fruit Expo) และ (2) การจัดงานแสดงสินค้าและจับคู่ธุรกิจภาคเหนือในระดับนานาชาติ (Northern Thailand GMS Trade Fair and Business Forum) โดยกระทรวงพาณิชย์รับไปพิจารณาดำเนินการ

5.ด้านการแพทย์ การบริการผู้สูงอายุและสังคม เนื่องจากภาคเหนือมีอัตราผู้สูงอายุสูง หรือร้อยละ 20 ของประชากรทั้งประเทศ จึงต้องมีโครงการดูแลผู้สูงอายุแบบครบวงจร การผลักดันนโยบายเมืองสมุนไพร (Herb City)

6.ด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยว เนื่องจากการท่องเที่ยวในภาคเหนือไปได้ดี ซึ่งนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เน้นการส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยบูรณาการระหว่างกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬากับกระทรวงคมนาคมเพื่อเชื่อมโยงเครือข่ายคมนาคมระหว่างภูมิภาคกับการท่องเที่ยวตามจุดต่าง ๆ

[Mongwin]

“สมคิด” สั่งเชื่อมถนนรถไฟเข้าเมืองรอง-อีอีซี
สปริงนิวส์ วันศุกร์ 5 มกราคม 2018 6:53 pm

รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ สั่งเพิ่มเส้นทางคมนาคมเข้าเมืองรอง ทั้งรถไฟและถนน โดยเร่งรัดโครงการให้อยู่ในปีงบประมาณ 2562

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี มอบนโยบายให้กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่ง และจราจร และการรถไฟแห่งประเทศไทย ทำแผนการลงทุนคมนาคม ปีงบประมาณ 2562 ที่จะเริ่มใช้เดือนตุลาคมนี้ ให้เน้นเชื่อมเส้นทางระหว่างจังหวัด และเมืองรองมากขึ้น

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม บอกว่า การเชื่อมต่อเมืองรองและเมืองหลัก รวมถึงเชื่อมเส้นทางในพื้นที่สำคัญ เช่น ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรือ อีอีซี โดยโยกโครงการพัฒนาถนนจากปีงบ 2563-2565 มาปี 2562 วงเงิน 48,490 ล้านบาท เพราะ อีอีซี ยังมีปัญหาจราจร และการจะทำเส้นทางรถไฟไปยังนิคมอุตสาหกรรม จะไม่คุ้มค่าเท่ากับการทำถนน ส่วนโครงการอื่น ๆ เช่นรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินยังเดินหน้าโครงการตามแผน

ส่วนรถไฟทางคู่เส้นทางใหม่ ที่จะมีเส้นทางเชื่อมเมืองรองมี 2 เส้นทาง คือ เส้นทางบ้านไผ่-นครพนม และช่วง เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ และก่อนหน้านี้ องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น หรือ ไจก้า ได้ศึกษาเพิ่มเส้นทางจากบ้านไผ่ ไปนครสวรรค์ และแม่สอดด้วย รวมทั้งจะพิจารณาเส้นทางอื่นในอนาคต เช่น ขอนแก่น-บุรีรัมย์ และยโสธร-ขอนแก่น ซึ่งจะเชื่อมต่อกับแนวเส้นรถไฟความเร็วสูง