ข่าวความคืบหน้าโครงการทางรถไฟสายนครพนม

[Wisarut]

คมนาคมเร่งเดินหน้ารถไฟทางคู่ 2 เส้นทาง คาดชงเข้า ครม.เดือน พ.ค.-มิ.ย.นี้
Thai PBS
26 มีนาคม 2560 19:58



รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเผยจะเร่งเดินหน้าโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ และช่วงบ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม คาดว่าเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาในเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายนนี้

วันนี้ (26 มี.ค.2560) นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการเปิดงานวันคล้ายวันสถาปนาการรถไฟครบรอบ 120 ปีว่า รัฐบาลมีแผนที่จะเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งและการเดินทางด้วยระบบราง จากเดิมร้อยละ 2 เป็นร้อยละ 10 ซึ่งจะประหยัดต้นทุนด้านพลังงานและสามารถขนส่งในปริมาณที่มากขึ้น ส่วนแผนแม่บทการพัฒนารถไฟระยะที่ 1 ซึ่งมีรถไฟทางคู่เส้น 5 เส้นทาง ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกำกับการจัดซื้อจัดจ้าง (ซูเปอร์บอร์ด) ในการปรับแก้ทีโออาร์ คาดว่าน่าจะสามารถสรุปผลได้ในสัปดาห์นี้

สำหรับแผนแม่บทการสร้างทางรถไฟระยะที่ 2 เป็นรถไฟทางคู่เส้นทางใหม่อีก 2 เส้นทาง คือช่วงเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ และช่วงบ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภาพัฒน์ฯ คาดว่าจะสามารถเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาในเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายนนี้

ขณะที่การตั้งบริษัทบริหารสินทรัพย์ของการรถไฟ บอร์ดการรถไฟรายงานว่า คณะกรรมการ คนร.ได้ให้ความเห็นชอบว่าควรมีการจัดตั้งบริษัทลูกเพื่อบริหารทรัพย์สิน ซึ่งจะเป็นบริษัทแรกที่มีการพิจารณาจัดตั้ง ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาในการจัดตั้งเพื่อดูแลทรัพย์สินให้เกิดประโยชน์ เพื่อที่หากสร้างรถไฟฟ้าเส้นทางสายใหม่ๆ จะสามารถพัฒนาตัวสถานีและการพัฒนาเมืองให้เกิดประโยชน์สูงสุด

https://www.youtube.com/watch?v=Ep8U8Gh-sQE
//------------

คมนาคมเดินหน้ารถไฟทางคู่
เดลินิวส์
อาทิตย์ที่ 26 มีนาคม 2560 เวลา 13.18 น.


“อาคม”ประกาศแผนพัฒนารถไฟไทย ลงทุนระบบการขนส่งทางรางเพิ่ม 10% จูงใจประชาชนใช้บริการ







ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม พร้อมด้วยนายพิชิต อัคราทิตย์  รมช.คมนาคม นายวรวิทย์  จำปีรัตน์ ประธานกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)  คณะกรรมการฯ รฟท. และนายอานนท์  เหลืองบริบูรณ์   รักษาการผู้ว่ารฟท. ร่วมเปิดงานวันคล้ายวันสถาปนาการรถไฟ ครบรอบ 120 ปี

นายอาคม  กล่าวว่า   ระบบขนส่งทางรางในไทยยังได้รับความนิยมค่อนข้างน้อยคิดเป็นสัดส่วนเพียง 2%  เมื่อเทียบกับการขนส่งทางถนนโดยรถยนต์ ซึ่งภายในปีนี้ทางกระทรวงฯ มีแผนจะเพิ่มการขนส่งทางรางให้สูงมากขึ้น คิดเป็นสัดส่วน 5-10%   โดยจะเดินหน้าการก่อสร้างโครงการต่าง ๆ  เช่น  รถไฟทางคู่  5เส้นทางได้แก่  1.เส้นทาง ช่วงนครปฐม-หัวหิน ระยะทาง 169  กม.  วงเงิน 19,000 ล้านบาท 2.ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 116 กม. วงเงิน 23,000 ล้านบาท 3.ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ 132 กม. วงเงิน 28,000 ล้านบาท 4.ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์   84 กม. วงเงิน 9,800 ล้านบาท และ5.ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 167 กม. วงเงิน 16,000 ล้านบาท  โดยอยู่ระหว่างร่างสัญญา เพื่อเริ่มเปิดประมูลใหม่

นอกจากนี้ยังมีรถไฟทางคู่เส้นทางใหม่อีก2เส้นทาง ได้แก่
1.ช่วงเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 326 กม. วงเงิน 77,000 ล้านบาท และ
2.ช่วงบ้านไผ่ –มุกดาหาร-นครพนม ระยะทาง 355 กม. วงเงิน 60,512 ล้านบาท

ซึ่งอยู่ในแผนแม่บทการสร้างทางรถไฟระยะที่2  สามารถเชื่อมประเทศเพื่อนบ้านและวิ่งจากภาคตะวันออก-ภาคตะวันตกด้วย  รวมทั้งมีโครงการรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพ-เชียงใหม่,กรุงเทพ-ระยอง,กรุงเทพ-หัวหิน ซึ่งจะเป็นการเพิ่มทางเลือกการเดินทางให้กับประชาชนมากขึ้น

นายอานนท์ กล่าวว่า  รฟท.  ได้พัฒนาบริการรูปลักษณ์ใหม่ด้านการบริการประชาชนได้รับความสะดวก ปลอดภัย เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านการนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศแบบใหม่เข้ามาใช้งาน โดยการให้บริการจองและซื้อตั๋วโดยสารด้วยระบบอินเตอร์เน็ตหรืออีทิคเก็ต  www.thairailwayticket.com ตลอด 24 ชม. พร้อมชำระค่าโดยสารผ่านบัตรเครดิตและบัตรเดบิตได้ทันที 

[Mongwin]

"อาคม" ขนเมกะโปรเจ็กต์โรดโชว์อีสานชงทางคู่สายใหม่ "บ้านไผ่-นครพนม" เสนอ ครม.มิ.ย.นี้
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ 24 เม.ย 2560 เวลา 13:55:34 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 24 เม.ย.2560 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานเปิดงานการเสวนาและนิทรรศการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับแผนงาน โครงการผลการดำเนินงานของกระทรวงฯและยุทธศาสตร์ โครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ.2558-2565 และส่งเสริมพัฒนาความรู้ด้านการคมนาคมขนส่งและความปลอดภัย ภายใต้ชื่อ "Thailand Transport 2017 Better Connect, Better Life" ครั้งที่ 3 จ.ขอนแก่น

นายอาคมกล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอให้หัวหน้าส่วนราชการต่างๆ ให้ความสำคัญในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ และการสร้างการรับรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ประชาชนเกี่ยวกับการปฏิบัติราชการของหน่วยงานที่อยู่ในความรับผิดชอบ เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และให้ถือเป็นตัวชี้วัดสำคัญในการประเมินผลการปฏิบัติราชการของหัวหน้าส่วนราชการทุกแห่ง

รวมทั้งรัฐบาลได้กำหนดนโยบายในการพัฒนาและปรับปรุงระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของประเทศทุกรูปแบบ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเดินทางของประชาชนและการขนส่งสินค้าทั้งในประเทศและระหว่างประเทศให้มีความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

ซึ่งกระทรวงคมนาคม มีแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่ง ทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ และทางราง กำหนดแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของไทย และแผนปฏิบัติการด้านคมนาคมขนส่ง ระยะเร่งด่วน 2560 (Action Plan) ตามกรอบยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (2560–2579) และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (2560-2564)

"ภาคอีสานเมื่อเทียบกับสัดส่วนประชากร ถือว่ามีโครงข่ายถนนที่สมบูรณ์มากที่สุด เชื่อมการเดินทางระหว่างจังหวัดและระหว่างภาค"

สำหรับโครงการลงทุนในระยะเร่งด่วนปี 2560 ในพื้นที่ภาคอีสาน ประกอบด้วย
1.การสร้างศูนย์การขนส่งสินค้านครพนม อยู่ระหว่างประกวดราคา วงเงิน 1,053 ล้านบาท
2.สถานีขนส่งสินค้าภูมิภาค ในจังหวัดชายแดน จำนวน 2 จังหวัด ได้แก่ หนองคาย มุกดาหาร และจังหวัดหลัก จำนวน 3 จังหวัด มีขอนแก่น อุบลราชธานี นครราชสีมา จะให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุน
3.โครงการพัฒนาจุดพักรถบรรทุกตามเส้นทางหลัก
4.โครงการมอเตอร์เวย์ สายบางปะอิน-นครราชสีมา ระยะทาง 196 กม. กำลังสร้างคืบหน้ากว่า 3%
5.โครงการรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง ได้แก่ ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น กำลังสร้างคืบหน้า 21.09%, ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ กำลังเปิดประมูล วงเงิน 29,449 ล้านบาท, ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี วงเงิน 37,431 ล้านบาท, ช่วงขอนแก่น-หนองคาย วงเงิน 26,663 ล้านบาท และช่วงบ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม วงเงิน 60,353 ล้านบาท เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.)
6.โครงการรถไฟความเร็วสูง สายกรุงเทพฯ-นครราชสีมา-หนองคาย จะเริ่มช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 250 กม. เงินลงทุน 229,614 ล้านบาท
และ 7.โครงการปรับปรุงท่าอากาศยานสกลนคร อยู่ระหว่างดำเนินการประกอบด้วยก่อสร้างทางขับ ลานจอดเครื่องบิน เสริมผิวทาง และขยายอาคารที่พักผู้โดยสาร วงเงิน 528 ล้านบาท จะแล้วเสร็จในปีนี้ และขยายสนามบินขอนแก่นเพิ่ม วงเงิน 2,000 ล้านบาท จะเร่งแผนเร็วขึ้นเป็นปี 2561

ทั้งนี้ขอชื่นชมพลังของเอกชนจังหวัดขอนแก่นที่รวมตัวกันพัฒนาเมือง นอกจากรถเมล์วิ่งระหว่างสนามบินกับสถานีขนส่งแห่งที่ 3 ยังมีรถไฟรางเบาที่จะลงทุนเพื่อแก้ปัญหาจราจร

[Wisarut]

จนถึงบัดนี้ คนกาฬสินธุ์ ยังดันทุรัง วิ่งเต้นจะให้ รถไฟ สายไปนครพนม ผ่านกาฬสินธุ์ ให้ได้ ทั้งๆ ที่ ตอนนี้ ทางไปจากบ้านไผ่ ผ่าน มหาสารคาม ร้อยเอ็ด มุกดาหาร ไปนครพนม ก็เหลือแต่การอนุมัติงบประมาณ ให้ทำแล้ว - ออกจะแย่เต็มที - ให้ คนที่ ให้ ทางช่วงบ้านไผ่ไปนคนพนมเป็นรุปเป็นร่าง ได้ผู้รับเหมา ทำทาง จนเห็นเป็นรุปธรรมก่อน จากนั้น ให้ ทำทางแยก จาก สำราญ ผ่านกาฬสินทธ์มาบรรจบที่มหาสารคามจึงจะสมเหตุสมผลดีกว่า
http://dpsthai.com/2017/06/10/%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87/

[Wisarut]

[Mongwin]

ขอนแก่นเพิ่มประสิทธิภาพการคมนาคม วันที่ 17 สิงหาคม 2560 ข่าวเที่ยง #NBT2HD
Newsnbt Thailand Published on Aug 17, 2017

อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น กำลังจะเป็นชุมทางรถไฟที่สำคัญที่เชื่อมโยงการขนส่งระบบราง ได้แก่ รถไฟทางคู่ชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น โครงการก่อสร้างทางรถไฟสายบ้านไผ่ไปนครพนมที่กำลังจะเกิดขึ้น


https://www.youtube.com/watch?v=LqKPdVInI6o

----

ยุทธศาสตร์โลจิสติกส์ : เชื่อมไทยสู่ CLMV
เรื่องโดย Nation TV | ภาพโดย Nation TV17 สิงหาคม 2560 13:08 น.

วันนี้เนชั่นทีวีจัดสัมมนา "ยุทธศาสตร์โลจิสติกส์ :เชื่อมไทยสู่ CLMV" ครั้งที่ 3 ซึ่งช่วงเช้าได้รับเกียรติจากรัฐมนตรีคมนาคม อาคม เติมพิทยาไพสิฐ ปาฐกถาพิเศษเรื่อง ผ่าแผนยุทธศาสตร์โลจิสติกส์ไทย วางยุทธศาสตร์ชาติสู่ CLMV ติดตามรายละเอียดจากคุณฐานิตา บุญหล้า

ในงานสัมนา "ยุทธศาสตร์โลจิสติกส์ :เชื่อมไทยสู่ CLMV " ครั้งที่ 3 นายอาคมได้บอกถึงแผนยุทธศาสตร์ด้านการคมนาคมขนส่งของไทย โดยกระทรวงคมนาคมจะเร่งเดินหน้ายกระดับโครงสร้างการคมนาคมทั้ง ทางบก ทางราง ทางน้ำ ทางอากาศให้สามารถเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านได้ในอนาคต

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม อาคม  เติมพิทยาไพสิฐ กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อเรื่องเรื่อง ผ่าแผนยุทธศาสตร์โลจิสติกส์ไทย วางยุทธศาสตร์ชาติสู่ CLMV" โดยนายอาคม บอกว่า  กระทรวงคมนาคม เร่งยกระดับการคมนาคมขนส่ง ทั้งทางบก ทางราง ทางน้ำ และทางอากาศ เชื่อมต่อประเทศเพื่อนบ้าน โดยเตรียมโครงการ ก่อสร้างรถไฟทางคู่ 2 เส้นทางใหม่ ได้แก่ เส้นทางบ้านไผ่- มุกดาหาร-นครพนม และเส้นทางเด่นชัย-เชียงราย ที่จะสามารถเชื่อมต่อไปยังสปป.ลาว เวียดนาม และจีนได้ในอนาคต คาดว่าจะเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้ภายในสิ้นปีนี้ ใช้เวลาก่อสร้าง 3-4 ปี พร้อมทั้งเดินหน้าโครงการรถไฟทางคู่ในประเทศ เป็นทางเลือกการขนส่งสินค้าของผู้ประกอบการ ให้มาใช้ระบบขนส่งทางรางมากขึ้น จากเดิมที่ใช้อยู่เพียง 4-5% เท่านั้น และตั้งเป้าลดต้นทุนการขนส่งสินค้าเหลือ 12% จากปัจจุบันที่ 14%

สำหรับการขนส่งทางถนน จะอำนวยความสะดวกมากขึ้น เช่นการขยายช่องจราจร การตัดเส้นทางเชื่อมต่อไปยังท่าเรือและประเทศเพื่อนบ้าน โดยจะมีการออกใบอนุญาตขนส่งสินค้าข้ามประเทศ และปรับปรุงกฎหมายอำนวยความสะดวกต่อผู้ประกอบการให้ขนส่งสินค้าให้มากขึ้น ลดต้นทุน และลดความเสียหาย

นอกจากนี้ ในวันนี้ กระทรวงคมนาคม ได้หารือโครงการความร่วมมือรถไฟ ไทย-จีน ร่วมกับคณะทำงานทั้ง 2 ประเทศ  โดยมีการหารือเรื่องงานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านโยธา  และการควบคุมงาน ซึ่งขณะนี้ยังมีความเห็นไม่ตรงกันเรื่องค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน โดยจะเร่งหารือให้แล้วเสร็จ และลงนามสัญญา พร้อมกับงานออกแบบโครงสร้างพื้นฐาน ในวันที่ 4-5 กันยายนนี้"

[Mongwin]

อีสาน 6 จังหวัด เฮ! ต.ค. คมนาคมชง ครม. สร้างรถไฟทางคู่ บ้านไผ่-นครพนม 6.5 หมื่นล้าน
TVPool online 18 สิงหาคม 2560 00:33 น.

นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะรองโฆษกกระทรวง เปิดเผยถึงผลการประชุมพิจารณรายละเอียดการดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วง บ้านไผ่-นครพนม 354 กิโลเมตร วงเงิน 65,738 ล้านบาท ว่า กระทรวงหารือร่วมกับเจ้าของโครงการคือการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

โดยที่ประชุมมีมติให้ รฟท. ไปจัดทำข้อมูลเพิ่มเติม 3 ประเด็น

1. แนวเวนคืนที่ดินเพื่อสร้างทางให้เวนคืนเท่าทีจำเป็นตามมาตรฐานคือประมาณ 80 เมตร

2. ปรับปรุงสมมุติฐานทางการเงินเพื่อให้สอดคล้องกับโครงการรถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพฯ-หนองคาย ซึ่งเรื่องดังกล่าวมีการศึกษามาตั้งแต่ปี 2554 ทำให้ปัจจุบันเป็นตัวเลขเก่าแล้ว

3. การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ตลอดแนวเส้นทาง โดยให้ผนวกเอาพื้นที่ว่างซึ่งเป็นของราชพัสดุ และหน่วยงานรัฐอื่นๆ เข้ามาอยู่ในโครงการด้วย เพื่อให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจที่ครอบคลุม รวมทั้งต้องดูไม่ให้แนวเส้นทางขวางทางน้ำคือแม่น้ำชี เพื่อป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ในแนวเส้นทาง

ซึ่ง รฟท. ชี้แจงว่าออกแบบเป็นทางยกระดับอยู่แล้วในช่วงดังกล่าว โดย รฟท.จะต้องจัดทำข้อมูลเพิ่มเติม เสนอให้ที่ประชุมอีกครั้งในช่วงกลางเดือนก.ย. นี้

Cr. ข่าวสด

[Mongwin]

อีสาน 6 จังหวัด เฮ! ต.ค. คมนาคมชง ครม. สร้างรถไฟทางคู่ บ้านไผ่-นครพนม 6.5 หมื่นล้าน
ข่าวสดออนไลน์ วันที่ 18 สิงหาคม 2560 - 18:18 น.

นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะรองโฆษกกระทรวง เปิดเผยถึงผลการประชุมพิจารณรายละเอียดการดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วง บ้านไผ่-นครพนม ระยะทาง 354 กิโลเมตร วงเงิน 65,738 ล้านบาท ว่า กระทรวงหารือร่วมกับเจ้าของโครงการคือการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

โดยที่ประชุมมีมติให้ รฟท. ไปจัดทำข้อมูลเพิ่มเติม 3 ประเด็น
1. แนวเวนคืนที่ดินเพื่อสร้างทางให้เวนคืนเท่าทีจำเป็นตามมาตรฐานคือประมาณ 80 เมตร
2. ปรับปรุงสมมุติฐานทางการเงินเพื่อให้สอดคล้องกับโครงการรถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพฯ-หนองคาย ซึ่งเรื่องดังกล่าวมีการศึกษามาตั้งแต่ปี 2554 ทำให้ปัจจุบันเป็นตัวเลขเก่าแล้ว และ
3. การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ตลอดแนวเส้นทาง โดยให้ผนวกเอาพื้นที่ว่างซึ่งเป็นของราชพัสดุ และหน่วยงานรัฐอื่นๆ เข้ามาอยู่ในโครงการด้วย เพื่อให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจที่ครอบคลุม รวมทั้งต้องดูไม่ให้แนวเส้นทางขวางทางน้ำคือแม่น้ำชี เพื่อป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ในแนวเส้นทาง ซึ่ง รฟท. ชี้แจงว่าออกแบบเป็นทางยกระดับอยู่แล้วในช่วงดังกล่าว โดย รฟท.จะต้องจัดทำข้อมูลเพิ่มเติม เสนอให้ที่ประชุมอีกครั้งในช่วงกลางเดือนก.ย. นี้

“โครงการนี้ เป็นการก่อสร้างรถไฟทางคู่เส้นทางใหม่ คาดว่าจะเสนอโครงการให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติ และอออกพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดินได้ในเดือนต.ต. นี้ หลังจากนั้นเปิดประมูล เริ่มก่อสร้างปลายปี 2561 ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 7 ปี เริ่มจากปี 2560-2566 เปิดให้บริการได้ในปี 2566”

รายงานข่าวแจ้งว่า รถไฟทางคู่เส้นดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาโครงข่ายรถไฟตามแนวระเบียงเศรษฐกิจด้านตะวันออก-ตะวันตก ตอนบน มีเส้นทางผ่าน 6 จังหวัดภาคอีสาน คือ ขอนแก่น-มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร มุกดาหาร และนครพนม โดยจะมีทั้งหมด 32 สถานี มีลานบรรทุกตู้สินค้า 3 แห่ง มีย่านกองเก็บตู้สินค้า 3 แห่ง มีถนนยกข้ามทางรถไฟ 81 แห่ง มีถนนลอดใต้ทางรถไฟ 255 แห่ง พร้อมก่อสร้างรั้วสองข้างทางตลอดแนวเส้นทางรถไฟ ซึ่งจะเพิ่มความรวดเร็วและความปลอดภัยในการให้บริการ

โดยประเมินไว้ว่า ในปี 2566 จะมีผู้โดยสารใช้บริการ 12,365 คนต่อวัน และในปี 2596 จะเพิ่มขึ้นเป็น 26,931 คนต่อวัน คิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นประมาณ 2.63% ต่อปี

ขณะเดียวกันในปี 2566 จะมีปริมาณการขนส่งสินค้า จำนวน 8.4 แสนตันต่อปี ในปี 2596 จะมี 1.60 ล้านตันต่อปี คิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นประมาณ 2.16% ต่อปี โดยสินค้าดังกล่าวแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ
1. สินค้าเกษตรแปรรูป เช่น ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ข้าว น้ำตาล และยางพารา
2. สินค้าปูนซีเมนต์ผง และ
3. สินค้าอุปโภคบริโภค ทั้งนี้ ในส่วนของอัตราผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ (อีไออาร์อาร์) อยู่ที่ 12.05%

[Mongwin]

คมนาคมเร่งทางคู่ บ้านไผ่-นครพนม มูลค่า65,738ล้าน
ไทยโพสต์ Saturday, August 19, 2017 - 00:04

คมนาคมเดินหน้าทางคู่เส้นใหม่ บ้านไผ่-นครพนม มูลค่า 65,738 ล้านบาท สั่ง รฟท.พิจารณาเวนคืน-พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ตลอดแนว พร้อมเสนอ ครม.อนุมัติ ต.ค.เริ่มก่อสร้างปี 2561 และเปิดใช้บริการปี 2566

นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะรองโฆษกกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมเพื่อพิจารณารายละเอียดการดำเนินโครงการก่อสร้างทางรถไฟ สายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม ระยะทาง 355 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 65,738 ล้านบาท ว่า ที่ประชุมได้สั่งการให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) พิจารณารายละเอียดต่างๆ ของโครงการให้มีความชัดเจนอีกครั้ง

คือ 1.การพิจารณาแนวทางการเวนคืนที่ดินตามแนวเขตทางรถไฟที่จะมีการก่อสร้าง โดยขอให้กำหนดพื้นที่เวนคืนเฉพาะที่มีความจำเป็น 2.การปรับสมมติฐานทางการเงินเพื่อให้สอดคล้องกับโครงการรถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพฯ-หนองคาย เนื่องจากเรื่องดังกล่าวได้มีการศึกษามาตั้งแต่ปี 2554 จึงต้องปรับปรุงเพื่อให้เป็นปัจจุบันมากขึ้น และ 3.ให้พิจารณานำที่ราชพัสดุ และพื้นที่ว่างตามแนวเขตทางมารวมกันเพื่อพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดย รฟท.จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จและส่งรายละเอียดให้ที่ประชุมรับทราบในวันที่ 15 ก.ย.นี้

นายสรพงศ์กล่าวว่า โครงการดังกล่าวเป็นการก่อสร้างรถไฟทางคู่เส้นทางใหม่ ซึ่งตามแผนดำเนินงานจะสามารถเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติ และออกพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดินได้ในเดือน ต.ค.นี้ ภายหลัง ครม.อนุมัติแล้ว รฟท.สามารถดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อหาผู้รับเหมาเข้ามาก่อสร้าง โดยคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ประมาณปลายปี 2561 แล้วเสร็จและเปิดบริการปี 2566

นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ รองปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า โครงการดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการศึกษารายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) แต่กระทรวงคมนาคมสามารถดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อเสนอ ครม.อนุมัติโครงการควบคู่กันไปได้.

[black_express]

เพิ่งจะโวยวายนะครับ เฮียวิศ คงพอๆ กับขอให้รถด่วนพิเศษจอดที่บ้านตัวเองนั่นแหละ ทั้งๆ ที่ตัวเองนั่งเครื่องโลว์คอสโน่น

[Mongwin]

เคาะทางคู่บ้านไผ่ 6.5 หมื่นล.
โพสต์ทูเดย์ 19 สิงหาคม 2560 เวลา 09:35 น.

คมนาคมจ่อชง ครม.โครงการรถไฟทางคู่บ้านไผ่-นครพนม 6.5 หมื่นล้านบาท หลังทบทวนค่าเวนคืน-แผนพัฒนาอสังหาฯ

นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองโฆษกกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงบ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม ระยะทาง 355 กิโลเมตร ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้รายงานผลการศึกษาพบว่า วงเงินดำเนินโครงการอยู่ที่ 65,738 ล้านบาท โดยขณะนี้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริหารกิจการ (บอร์ด รฟท.) แล้วอยู่ระหว่างเสนอมาที่ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เพื่อขอความเห็นชอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีภายในเดือน ต.ค.นี้

ทั้งนี้ จะต้องนำเข้าสู่กระบวนการออกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตเวนคืนที่ดิน เพื่อเริ่มต้นตอกเสาเข็มการก่อสร้างในปี 2561 และเปิดให้บริการในปี 2567

ขณะที่ด้านการจัดทำรายงานผล กระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) นั้นอยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูลเพิ่มเติม คาดว่าจะแล้วเสร็จเพื่อเสนอกระทรวงคมนาคมได้ภายในกลางเดือน ก.ย.

นายสรพงศ์ กล่าวว่า ตามที่กระทรวงคมนาคมได้สั่งการให้ รฟท.นำแผนโครงการดังกล่าวกลับไปจัดทำรายละเอียดเพิ่มเติมเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันเนื่องจากแผนการศึกษาเดิมได้จัดทำมาตั้งแต่ปี 2554 แล้ว ดังนั้นจึงได้ให้ไปปรับปรุงข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งประกอบไปด้วย 1.ตัวเลขวงเงินค่าเวนคืนพื้นที่ และแนวเวนคืนเส้นทางให้เหมาะสม

2.การปรับตัวเลขผลตอบแทนของโครงการและผลตอบแทนเชิงเศรษฐกิจใหม่ให้สอดคล้องกับแผนพัฒนารถไฟฟ้าความเร็วสูงเนื่องจากตัวเลขดังกล่าวต้องปรับเพิ่มขึ้นจากปัจจัยสนับสนุนของเส้นทางรถไฟฟ้าความเร็วสูง 3.การพัฒนาที่ดินเชิงพาณิชย์ ตามเส้นทางรถไฟนั้นต้องพิจารณาการใช้ประโยชน์จากพื้นที่หลวง ทั้งที่ดินราชพัสดุและที่ดินของราชการ ให้เข้ามาผนวกกับแผนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ตามแนวเส้นทาง

สำหรับประเด็นด้านปัญหาน้ำท่วมทุกปีตามแนวเส้นทางการก่อสร้างในขณะนี้นั้น ทางกระทรวงคมนาคมได้สั่งการให้ รฟท.ไปศึกษาแนวเส้นทางที่ไม่กีดขวางทางระบายน้ำ พร้อมวางแผนก่อสร้างเพื่อรับมือปัญหาน้ำท่วมในอนาคตเพราะเป็นสิ่งที่กระทรวงให้ความสำคัญ อย่างไรก็ตามในบางช่วงของแนวเส้นทางรถไฟนั้นจะมีทางยกระดับด้วย

ทั้งนี้ โครงการรถไฟทางคู่ช่วงบ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม ระยะทาง 355 กม.ประกอบไปด้วย 32 สถานีและลานบรรจุสินค้า 3 แห่ง มีถนนยกระดับข้ามทางรถไฟในแนวตรง (Overpass) จำนวน 81แห่ง และถนนลอดใต้ทางรถไฟ (Underpass) อีก 245 แห่ง พร้อมรั้วกั้นตลอดสองข้างทาง ตัดผ่านพื้นที่ภาคอีสานรวมทั้งสิ้น 5 จังหวัด ได้แก่ จ.ขอนแก่น มหาสารคาม มุกดาหาร นครพนมและสกลนคร

อย่างไรก็ตาม ในปี 2566 ประเมินว่าจะมีผู้โดยสารใช้บริการ 12,365 คน/วัน และในปี 2596 จะเพิ่มขึ้นเป็น 26,931 คน/วัน คิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นประมาณ 2.63% ต่อปี ขณะเดียวกันในปี 2566 จะมีปริมาณการขนส่งสินค้าจำนวน 8.4 แสนตัน/ปี ในปี 2596 จำนวน 1.60 ล้านตัน/ปี คิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นประมาณ 2.16% ต่อปี โดยสินค้าดังกล่าวแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.สินค้าเกษตรแปรรูป เช่น ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ข้าว น้ำตาล และยางพารา 2.สินค้าปูนซีเมนต์ผง และ 3.สินค้าอุปโภคบริโภค ทั้งนี้ในส่วนของอัตราผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ อยู่ที่ 12.05%

https://www.posttoday.com/biz/gov/509855