RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311234
ทั่วไป:13180285
ทั้งหมด:13491519
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน)
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน)
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 207, 208, 209 ... 542, 543, 544  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 21/02/2017 1:42 am    Post subject: Reply with quote

ไฮสปรีดเทรน "กทม.-หัวหิน" สะดุด
เดลินิวส์
จันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา 22.00 นใ

ไฮสปรีดเทรน กทม.-หัวหิน สะดุด โดนทำมาร์เก็ตซาวดิ้งใหม่ ขณะที่กทม.-ระยอง สั่งเพิ่มข้อมูลพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์เพิ่ม

แหล่งข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพฯ-หัวหิน ระยะทาง 211 กิโลเมตร(กม.) วงเงิน 9.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการภายใต้ พ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ.2556 ว่า การเปิดประมูลอาจจะล่าช้ากว่าเป้าหมายที่วางไว้

แม้ว่าขณะนี้ รฟท. จะนำเสนอรายละเอียดโครงการไปยังสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ( สคร.) แล้ว แต่ สคร. เห็นว่าการเปิดรับฟังความคิดเห็น (มาร์เก็ตซาวดิ้ง) จากหน่วยงานภาคเอกชนและนักลงทุนที่ใช้วิธีการส่งหนังสือเวียนไปสอบถาม ยังไม่ครอบคลุมครบถ้วน โดย สคร. ขอให้ รฟท. กลับไปทำมาร์เก็ต ซาวดิ้ง เพิ่มเติมเป็นครั้งที่ 2 เพื่อให้ความเห็นครอบคลุมครบถ้วนตามที่มาตร 20 ของพ.ร.บ.ร่วมทุนฯ คาดว่าจะใช้เวลาอีก 2 เดือนจะเปิดทำมาร์เก็ตซาวดิ้งได้

แหล่งข่าวจาก รฟท. กล่าวถึงโครงการเส้นทางกรุงเทพฯ-ระยอง ระยะทาง 193.5 กม. วงเงินลงทุนประมาณ 1.52 แสนล้านบาทว่า ขณะนี้ยังไม่ได้ส่งเรื่องไป สคร.พิจารณา

เนื่องจาก นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม สั่งให้ รฟท. กลับไปทำรายละเอียดเกี่ยวแผนการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์เพิ่มเติม โดยเฉพาะแผนพัฒนาพื้นที่บริเวณชุมทางชีจรรย์ ที่มีพื้นที่มากถึง 500 ไร่ และอื่นๆ เพราะเกรงว่า คณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (พีพีพี) อาจจะมีการสอบถามรายละเอียด

ซึ่งหาก รฟท. มีการจัดเตรียมข้อมูลไว้พร้อมก็จะทำให้โครงการสามารถผ่านการพิจารณาได้โดยเร็ว
โดยเวลานี้ รฟท.ทำข้อมูลเสร็จเรียบร้อยและเสนอมาให้กระทรวงพิจารณาแล้ว
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 21/02/2017 5:56 pm    Post subject: Reply with quote

เล็งผุดไฮสปีดเส้น กรุงเทพฯ-มาเลย์ รมว.คมนาคมบินหารือเดือนหน้า-ดึงญี่ปุ่นร่วมศึกษา
ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด
20 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา

'คมนาคม' เล็งชงรถไฟฟ้า 'หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์' 8 พันล้านบาทให้ ครม.เห็นชอบได้ภายในเดือนพ.ค.นี้ พร้อมตั้งเป้าศึกษารถไฟความเร็วสูงเชื่อมกรุงเทพฯกัวลาลัมเปอร์ ไทยตั้งเป้าถกกับมาเลย์เดือนหน้าเพื่อลงนามเอ็มโอยู

นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ส่งโครงการรถไฟทางคู่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า (รถไฟไฟฟ้า) ช่วงหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ มูลค่า 7,941.80 ล้านบาท ให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) พิจารณาแล้ว ถ้าคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. เห็นชอบคาดว่าจะเสนอให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาได้ในเดือนมี.ค. และเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ในเดือนพ.ค.นี้

โครงการรถไฟทางคู่ ช่วงหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ มีขนาดราง 1 เมตร ระยะทาง 48 กิโลเมตร บรรจุอยู่ในแผนปฏิบัติการด้านคมนาคมขนส่งระยะเร่งด่วน (Action plan) ปี 2560 ของกระทรวงคมนาคม อีกทั้งเป็นโครงการนำร่องในการนำระบบไฟฟ้ามาใช้ขับเคลื่อนเช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ

นอกจากนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้หารือกับญี่ปุ่นเพื่อขอให้ช่วยศึกษาความเหมาะสมโครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) เส้นทางกรุงเทพฯ-กัวลาลัมเปอร์ คาดว่านายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม จะหารือกับฝั่งประเทศมาเลเซียในเดือนหน้า จากนั้นอาจลงนามในกรอบความร่วมมือระหว่างไทย-มาเลเซีย และญี่ปุ่นเพื่อนำไปสู่การศึกษาความเหมาะสมต่อไป

"การรถไฟฯ ไทยและมาเลเซียต้องคุยเรื่องกรอบการศึกษา เสร็จแล้วญี่ปุ่นต้องตอบตกลงว่าจะเข้ามาช่วยเหลือและลงนามในเอ็มโอยูหรือไม่ ถ้าทุกอย่างตกลงกันได้ก็อยากให้เริ่มศึกษาภายในรัฐบาลชุดนี้และปีนี้น่าจะเริ่มศึกษาได้ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับทางญี่ปุ่นเป็นหลัก" นาย พีระพลกล่าว

สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-พัทยาระยอง ระยะทาง 193.5 กิโลเมตร วงเงิน 1.53 แสน ล้านบาทนั้น กระทรวงคมนาคมขอข้อมูลเพิ่มเติมเรื่อง การพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์เพื่อให้โครงการมีความคุ้มค่ามากขึ้น คาดว่า สนข.จะเสนอให้กระทรวงพิจาณาได้ใน เดือนนี้ และเสนอให้ สคร.พิจารณาต่อไป

ส่วนรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-หัวหิน ระยะทาง 211 กิโลเมตร วงเงิน 9.5 หมื่นล้านบาท อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ถ้าคณะกรรมการพีพีพีเห็นชอบก็จะเปิดประมูลต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 04/03/2017 3:12 am    Post subject: Reply with quote

กรมโยธาอัพเดตผังเมืองทั่วปท. คุมกำเนิดพื้นที่รอบสถานีไฮสปีดเทรน รัศมี 1.5 กม.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
23 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา 14:27:15 น.


กรมโยธาอัพเดตผังเมืองทั่วปท. คุมกำเนิดพื้นที่รอบสถานีไฮสปีดเทรน รัศมี 1.5 กม. เปิดสัมปทานเอกชนพัฒนาจุดละ 1 หมื่นล้าน

งานสัมมนาประจำปีของ 3 สมาคมวงการอสังหาริมทรัพย์ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2560 ณ โรงแรมสวิส เลอคองคอร์ด หัวข้อหลัก "อสังหาริมทรัพย์ ดัชนีหลักชี้เศรษฐกิจปี 2017" โดยการสัมมนาภาคบ่ายหัวข้อ "ผังเมืองรวมและรถไฟฟ้ามีความสำคัญอย่างไร...ต่อการพัฒนาอสังหาฯ ในอนาคต" นั้น

นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง เปิดเผยว่า ผังเมืองรวมจังหวัด สีจะไม่เหมือนเดิม โดยสีเขียวจะไม่มีอีกแล้วเพราะไมใช่พื้นที่เกษตรทั้งหมด อาจเป็น อบต. อบจ. ชุมชนเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งนักลงทุนโดยเฉพาะญี่ปุ่น พอเห็นสีเขียวพากันถอยหนีหมด ของใหม่กรมใช้สีเบจทดแทน มี 10 กว่าจังหวัดที่เริ่มทำ

เรื่องแรกที่กรมทำ "ปรับปรุง พ.ร.บ.ผังเมือง" ปรับปรุงทั้งฉบับ หลักการใหญ่ กฎกระทรวงผังเมืองรวม ชุมชน ขอปรับเปลี่ยนซึ่งกฤษฎีกาเห็นด้วยแล้ว ใช้เป็นประกาศกระทรวงมหาดไทยแล้ว ที่ผ่านมาการขอปรับปรุงเร่งสุดๆ ใช้เวลา 2 ปี ถ้าไม่เร่งรัดต้องใช้เวลา 3-4 ปี ได้หรือกับคณะกรรมการกฤษฎีกามีการตั้งคณะกรรมการพิจารณาแต่ความเห็นไม่ตรงกับกรม ทำให้ล่าช้าเกือบ 1 ปี สิ่งที่ได้คือประกาศกระทรวงมหาดไทย ใช้แทนกฎกระทรวง

สำหรับผังเมืองในประเทศไทย มีผังประเทศกับผังนโยบาย โดยผังประเทศรัฐบาลมอบหมายให้ทำเสร็จใน 1 ปี ซึ่งได้ต่อรองว่าตัวแผนที่อาจทำเสร็จได้แต่ตัวสาระขอเวลา 2 ปี มองอนาต 50 ปีหน้าประเทศไทยเป็นอย่างไร เบื้องต้นรัฐบาลให้มหาดไทยรวบรวมอินฟราสตรัคเจอร์ทั้งหมด ไม่ว่าสนามบิน ท่าเรือ สายส่ง สิ่งก่อสร้างทุกอย่างของทุกหน่วยงานต้องรวมอยู่ในผังเมือง คาดเดือนพฤษภาคมทำได้จบ จะเห็นหน้าตาประเทศไทยในเรื่องกายภาพ เช่น สนามบิน ระบบรถไฟ โดยทำงานร่วมกับหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง

"ผังภาค" ซูมจากผังประเทศ แบ่ง 6 ภาคจากเดิมมี 4 ภาค บอกบทบาทแต่ละภาค

"ผังจังหวัด" ทำมา 11 ปีเป็นการควบคุมพื้นที่กว้างๆ เพราะผังเมืองชุมชน คิดว่ามีประมาณ 4% ของประเทศ อีก 96% ไม่มีผังเมืองรวม ผังเมืองชุมชน ดังนั้น ผังจังหวัดจึงมีบทบาทในการเข้ามารองรับ

"ผังเมืองรวม-ผังเฉพาะ" เป็นไปตามกฎหมาย ที่แก้ไขไปแล้วคืออายุผังเมืองไม่มีวันสิ้นสุดอายุ จากเดิมให้มีอายุ 5 ปี ต่ออายุได้ 1 ปีสองครั้ง รวม 7 ปี เมื่อเกณฑ์ใหม่ออกมาเราจะไม่เป็นตัวถ่วงความเจริญ

"ผังเฉพาะ" เปรียบเหมือนมาสเตอร์แพลนการพัฒนาพื้นที่ เช่น ถนนกว้างเท่าไหร่ สวนสาธารณะรูปร่างหน้าตาอย่างไร ซึ่งต้องออกเป็น พ.ร.บ. โดยตั้งแต่ปี 2518 ไม่เคยออกมาบังคับใช้ได้เลย ทำให้แทบเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ ได้พยายามขอปรับผังเมืองเฉพาะให้เป็นกฎกระทรวง เพราะอย่างน้อยที่สุดยังทำได้มากกว่าผังเฉพาะที่ต้องออกเป็น พ.ร.บ.

นั่นคือ ผังเมืองพยายามปรับเพื่อไม่ให้เป็นตัวถ่วงการพัฒนาประเทศ รวมทั้งภัยพิบัติซึ่งได้รับมอบหมายให้ทำผังเมืองป้องกันภัยพิบัติ อย่างน้ำท่วมภาคใต้ เมื่อฝนตกแล้วทำอย่างไรให้น้ำไหลระบายลง โดยที่ พ.ร.บ.ผังเมืองปี 2518 เก่าแก่มากแล้ว ต้องปรับปรุงให้ทันสมัย ดั้งนั้น ผังเมืองรวม ชุมชน ต้องมาดูเรื่องป้องกันภัยพิบัติด้วย

มาดูอีก 50 ปีประเทศจะเป็นอย่างไร เริ่มจาก "กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล" กรมทำงานร่วมกับ กทม. โดยที่การพัฒนาบางครั้งเราแยกไม่ออกระหว่างกรุงเทพฯ กับปริมณฑล เพราะการเติบโตของเมืองขยายแนวราบอย่างรวดเร็ว เดิมเซ็นเตอร์มีไข่ดาว 5-6 ฟอง มองว่าน่าจะเป็นไข่ใบเดียวกัน หมายความว่า รอยต่อระหว่างผังสีไม่ต่อเนื่องกัน ไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น

ขณะนี้ กรมได้ว่าจ้างที่ปรึกษาในการวางผัง กทม.-ปริมณฑล รวบรวมผังเมืองที่มีอยู่มาต่อกัน เช่น ด้านทิศเหนือของ กทม.กับปทุมธานี สีผังเมืองไม่ต่อเนื่องกัน ต่อไปจะเป็นผังเดียวกัน นำไปสู่การปรับปรุงผังรวมแต่ละจังหวัด ได้สั่งการเจ้าหน้าที่กรมว่า ผังเมืองปริมณฑลต้องทำแบบกรุงเทพมหานคร คือต้องทำแบบผังเมืองจังหวัดแต่รูปแบบเป็นผังเมืองชุมชน

ผังจังหวัด 73 จังหวัด ขณะนี้ประกาศแล้ว 50 จังหวัด เร็วๆ นี้อีก 5 จังหวัด อยู่ในกฤษฎีกาอีก 18 จังหวัด คาดว่าภายในเดือนมีนาคมนี้

"ผังเมืองรวมชุมชน" มีประกาศแค่ 233 ผัง รออีก 248 ผัง ถ้าเราวางผังเมืองรวมอำเภอได้ จะเป็นจิ๊กซอว์ประเทศไทยได้ วางแผนปี 2565 จะวาง 768 อำเภอวางผังเมืองรวมอำเภอได้ครบ

องค์ประกอบผังมีทั้งแลนด์ยูส พื้นที่โล่ง ทางระบายน้ำไม่ควรตั้งถิ่นฐาน สวนสาธารณะ ถนน รถไฟ สนามบิน ท่าเทียบเรือ และเรื่องสำคัญคือกิจการสาธารณูปโภคอื่นๆ เป็นตัวเพิ่มขึ้นมา, การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ, การพัฒนาของรัฐที่สำคัญ, รถไฟรางคู่, รถไฟใต้ดิน ต้องนำมาประกอบการวางผังด้วย ฯลฯ

เรื่องเหล่านี้กรมออกเองไม่ได้ ต้องรับฟังความคิดเห็นของเอกชนในแต่ละจังหวัด เน้นกระบวนการมีส่วนร่วม ลงพื้นที่มากขึ้น เพราะได้รับการต่อว่าในเรื่องการติดประกาศประชาชนไม่รู้เรื่อง

"รถไฟความเร็วสูง"​ กรมมีหน้าที่ 2 เรื่อง และเสนอตัวทำอีก 1 เรื่อง เริ่มจากการทำผังเมืองรวม เพราะไฮสปีดเทรนมาเมืองเปลี่ยนแน่นอน ไม่ว่าสายเหนือ กรุงเทพฯ-พิษณุโลก มีหลายเมืองหน้าตาจะเปลี่ยน สิ่งแรกที่เราทำคือปรับผังเมืองให้สอดคล้อง

ทำในเรื่องการวางผังในพื้นที่เฉพาะ มองว่าเมื่อมีสถานีรถไฟเกิดขึ้น บริเวณโดยรอบต้องมีลักษณะคล้ายเมืองใหม่ ถ้าจำเป็นต้องใช้เครื่องมือกรมที่มีอยู่ อาจต้องออก พรบ.ผังเฉพาะ รวมถึงบริเวณพื้นที่โดยรอบสถานีรถไฟความเร็วสูง อาจขัดใจดีเวลอปเปอร์ประเภทที่เดินก้าวเดียวถึงคอนโดฯ เพราะมองว่าสิ่งที่รัฐลงทุนไป บริเวณไข่แดง รัศมีที่รถไฟมีผลต่อผู้ใช้คือ 1.5 กม. หรือ 9 ตาราง กม. ประมาณ 5,000-6,000 ไร่ ต้องการสัก 10% หรือ 500-600 ไร่ ไร่ละ 20 ล้าน

ดังนั้น แต่ละสถานีน่าจะได้ผลตอบแทนรัฐกลับคืนมาสัก 1 หมื่นล้าน ชดเชยในสิ่งที่รัฐลงทุนไป อาจเป็นการร่วมลงทุน TOD หรือสรรหาเอกชนมาพัฒนา ตอนนี้เราวางแผนซึ่งทำตั้งแต่รัฐบาลท่แล้ว เพียงแต่รอยืนยันจาก สนข. รอตำแหน่งที่ตั้ง วางไว้หมดแล้วทุกเมือง ทั้งสายเหนือไปพิษณุโลก สายอีสานไปโคราช สายตะวันออกไประยอง

"เขตเศรษฐกิจพิเศษ" มีกลุ่มชายแดน 10 จังหวัด 12 พื้นที่ (เชียงรายมี 3 พื้นที่) แบ่งระยะที่หนึ่ง ตราด แม่สอด สระแก้ว สงขลา มุกดาหาร หนองคาย (เดิมอยู่ในระยะสอง) ความคืบหน้าตอนนี้ มี 3 พื้นที่ "ตราด-แม่สอด-สระแก้ว" เป็นรูปธรรมมากสุด การนิคมอุตสาหกรรมลงพื้นที่แล้ว ในขณะที่หนองคาย-มุกดาหารไม่คืบหน้าเท่าที่ควร

กรมทำสองเรื่อง 1.หาพื้นที่ให้เอกชน หรือการนิคมฯ ไปเริ่มพัฒนา มีการเปลียีนแปลงพื้นที่ของรัฐมาเป็นที่ราชพัสดุ บางพื้นที่การนิคมฯ เข้าดำเนินการ บางพื้นที่ให้เอกชนเช่า 2.การวางผังเมืองซึ่งทำได้ช้า จงได้ออกประกาศกระทรวงมหาดไทย ลักษณะคล้ายผังเมือง แต่ไม่ได้ใช้สี หากแต่ใช้สัญลักษณ์ลายต่าง ๆ ควบคู่กับการจัดทำผังเมือง

การวางผังพื้นที่เฉพาะ ในเขตศก.พิเศษ เช่น แม่สอด กำหนดย่านพาณิชยกรรม ที่อยู่อาศัย สถานที่ราชการ สวนสาธารณะ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องอุตสาหกรรม การค้าชายแดน การขนส่ง เช่น พื้นที่สีน้ำตาลอ่อนในบางตำบล ไม่ได้คลุมทั้งอำเภอ ในขณะที่ระยะที่สองยอมรับว่าไม่คืบหน้าเท่าที่ควร บางพื้นที่มีปัญหาราษฎรบุกรุก

"สระแก้ว สงขลา" ออกประกาศผังเมืองชั่วคราว หนองคายรอ รมต.ลงนาม, มุกดาหารก็รอประกาศ ส่วนระยะที่สองอยู่ในขั้นตอนยกร่างประกาศกระทรวง
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44325
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 13/03/2017 10:00 pm    Post subject: Reply with quote

คมนาคมเล็งยุบรวมไฮสปีด-รถไฟแอร์พอร์ตลิงค์
กรุงเทพธุรกิจ 13 มีนาคม 2560

"คมนาคม" เล็งยุบรวมโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงกรุงเทพฯ-ระยอง และรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์เข้าด้วยกัน

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมอยู่ระหว่างทบทวนโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพฯ-พัทยา-ระยอง ระยะทาง 193.5 กิโลเมตร วงเงิน 152.528 ล้านบาท เพราะมีบางช่วงซ้อนทับกับโครงการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงค์ส่วนต่อขยาย ช่วงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ-ท่าอากาศยานอู่ตะเภา จ.ชลบุรี และ จ.ระยอง

เบื้องต้นการดำเนินโครงการรถไฟทางเร็วสูงมี 2 ทางเลือก แนวทางแรกคือรถไฟความเร็วสูงและรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงค์ ส่วนต่อขยายจะใช้ระบบรางร่วมกัน เพราะมีขนาดราง 1.345 เมตรเท่ากัน แต่รถไฟความเร็วสูงจะสิ้นสุดแค่สถานีรถไฟลาดกระบังและต้องต่อรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงค์ เพื่อเดินทางไปยังท่าอากาศยานดอนเมือง

แนวทางที่ 2 ให้รถไฟความเร็วสูงและรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงค์ ใช้ระบบรางร่วมกันทั้งหมดและจะจัดระบบจราจรใหม่เพื่อให้รถไฟความเร็วสูงสามารถเดินรถถึงสถานีกลางบางซื่อ

"ต้องการให้ได้ข้อสรุปเรื่องนี้เร็วที่สุด แนวโน้มคือต้องการให้รถไฟความเร็วสูงไปที่สถานีกลางบางซื่อ คืออาจจะรวมตัวรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต ลิงค์และรถไฟฟ้าความเร็วสูง กรุงเทพฯ-ระยอง เข้าด้วยกันมันจะได้สะดวก เพราะตามหลักการแล้วรถไฟฟ้าความเร็วสูงต้องไปถึงสถานีกลาง" นายอาคม กล่าว
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 14/03/2017 7:27 am    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
คมนาคมเล็งยุบรวมไฮสปีด-รถไฟแอร์พอร์ตลิงค์
กรุงเทพธุรกิจ 13 มีนาคม 2560


เป็นความคิดที่ดี แต่ คงต้องเสียค่า upgrade ทางรถไฟ Airport Link ให้รองรับรถไฟความไวสูงได้ ก็ดีแล้ว ดีกว่าจอดที่ลาดกระบังตามคำแนะนำของที่ปรึกษา ที่น่าถีบนัก
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1722659587748099&set=a.213819491965457.68088.100000122231436&type=3&theater
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44325
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 27/03/2017 11:13 am    Post subject: Reply with quote

ญี่ปุ่นขอแยกรางไฮสปีด! ลั่นไม่ใช้ร่วมจีน ส่วนไฮสปีดระยอง-ใช้รางร่วมรถไฟฟ้า
มติชนออนไลน์ วันที่: 27 มี.ค. 60 เวลา: 10:12 น.

นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ รองปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า หลังจากการประชุม ครม.ด้านคมนาคมร่วมกันระหว่างไทยกับญี่ปุ่น ทางฝ่ายญี่ปุ่นเสนอว่าต้องการแยกระบบรางของโครงการรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ เป็นรางเฉพาะของรถไฟชินคันเซ็น เพื่อใช้ระบบอาณัติสัญญาณควบคุมความปลอดภัยและง่ายต่อบริหารการเดินรถ ในเส้นทางชุมทางบ้านภาชี-สถานีกลางบางซื่อระยะทางรวม 88 กม. จากเดิมที่จะใช้รางร่วมกันกับโครงการรถไฟไทย-จีน ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชศรีมา ส่งผลให้ในช่วงดังกล่าวจะมีเส้นทางรถไฟ 3 รางคือ รางรถไฟไทย-ญี่ปุ่น รางรถไฟไทย-จีน และเส้นทางรถไฟรางคู่ ดังนั้นวงเงินของโครงการรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-เชียงใหม่จะต้องเพิ่มขึ้นด้วย จากการแยกรางดังกล่าว

นายพีระพลกล่าวว่า ทั้งนี้ ผลการศึกษาโครงการดังกล่าว คาดว่าจะได้ฉบับเต็มช่วงเดือนมิถุนายนนี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ตามแนวรถไฟฟ้าความเร็วสูง รวมถึงการออกแบบสถานีให้เข้ากับการพัฒนาเมืองตามรายทางด้วย คาดว่าจะเสนอโครงการดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุม ครม.เพื่อพิจารณาช่วงเดือนกันยายนนี้” นายพีระพลกล่าว

นายพีระพลกล่าวว่า ปัจจุบันกระทรวงคมนาคมอยู่ระหว่างพิจารณาทบทวนโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพฯ-พัทยา-ระยอง ระยะทาง 193.5 กม.วงเงิน 152,528 ล้านบาท เนื่องจากมีบางส่วนของโครงการทับซ้อนกับเส้นทางรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ส่วนต่อขยาย ช่วงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ-ท่าอากาศยานอู่ตะเภา ซึ่งทางคณะกรรมการนโยบายพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ต้องการให้รถไฟความเร็วสูงและรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ค์ ใช้ระบบรางร่วมกันทั้งหมด เพื่อให้รถไฟความเร็วสูงสามารถเดินรถถึงยังสถานีกลางบางซื่อโดยผู้โดยสารไม่ต้องเปลี่ยนขบวนรถ

แหล่งข่าวกระทรวงคมนาคมกล่าวถึงความคืบหน้าโครงการรถไฟไทย-จีนว่า ยังอยู่ระหว่างหารือรายละเอียด ล่าสุด การหารือในร่างสัญญาที่ 1 ด้านการออกแบบรายละเอียดมีความคืบหน้ากว่า 90% หากรายละเอียดของร่างสัญญาที่ 1 มีข้อยุติจะหารือร่างสัญญาที่ 2 การว่าจ้างที่ปรึกษาควบคุมงานต่อไป โดยช่วงปลายเดือนมีนาคม ไทยและจีนจะประชุมทางไกลร่วมกัน เพื่อหารืออย่างเป็นทางการควบคู่ไปกับการหาข้อสรุปเรื่องปัญหาที่ทางฝ่ายจีนต้องส่งวิศวกรมาประชุมและสอบเป็นภาคีพิเศษกับสภาวิศวกรไทย ให้สอดรับกับมาตรฐานก่อสร้างของไทย ขณะนี้จีนกำลังพิจารณาอยู่ว่าจะส่งมาหรือไม่ ถ้าทางจีนไม่ส่งบุคลากรมาจะส่งผลให้ออกแบบก่อสร้างโครงการไม่ได้ จนในที่สุดต้องล้มเลิกโครงการนี้ไป หากได้ข้อสรุปว่าเดินหน้าต่อทางกระทรวงคมนาคมจะเร่งขอความคิดเห็นโครงการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเดือนเมษายนนี้ เพื่อเสนอ ครม.ในเดือนพฤษภาคม
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 28/03/2017 6:46 pm    Post subject: Reply with quote

เจรจามาราธอน! เลื่อนตอกเข็มยาว "รถไฟไทย-จีน" ติดหล่มถอดแบบก่อสร้าง-ราคา
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
updated: 28 มีนาคม 2560 เวลา 13:20:16 น.


รถไฟไทย-จีนติดบ่วงแบบ-ราคา เลื่อนตอกเข็มระยะแรกกลางดง-ปางอโศกไม่มีกำหนด จากเป้าเดิม มี.ค.นี้ เตรียมถกต่อครั้งที่ 17 ก่อนสงกรานต์

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ"ว่า จะเลื่อนการก่อสร้างรถไฟไทย-จีน หรือไฮสปีดเทรนเส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 253.5 กม. เงินลงทุน 179,412 ล้านบาท ซึ่งรัฐบาลไทยและจีนมีข้อสรุปร่วมกันจะเริ่มก่อสร้างช่วงแรก 3.5 กม. จากสถานีกลางดง-ปางอโศกในเดือนมี.ค.นี้ เนื่องจากฝ่ายจีนยังออกแบบรายละเอียดก่อสร้างและประเมินราคาเพื่อนำไปสู่การขั้นตอนการเปิดประมูลไม่แล้วเสร็จ



"รถไฟไทย-จีนไม่เงียบ กำลังเร่งออกแบบอยู่ จะประชุมครั้งที่ 17 ก่อนสงกรานต์ที่ประเทศจีน การทำงานไม่ได้หยุด งานแบบไม่ใช่งานหมูๆ ต้องถอดรหัสโค้ดก่อสร้างเป็นภาษาไทย เพื่อนำมาคำนวณเป็นราคากลางก่อสร้าง เหลือ 10-20% จะเสร็จ ทำให้ไทม์ไลน์ก่อสร้างเฟสแรกขยับนิดหนึ่ง จากเดิม มี.ค. ยังบอกไม่ได้จะเป็นเดือนไหน เพราะต้องรอแบบจากจีนที่ส่งให้พิจารณา ถ้าไม่ส่งก็เริ่มขั้นตอนต่อไปไม่ได้"

พร้อมกันนี้จะต้องเร่งดำเนินการร่างสัญญางานระบบและรถไฟฟ้าความเร็วสูง(EPC2) แยกเป็น 3 ส่วน คือ ค่าที่ปรึกษาออกแบบการก่อสร้าง ค่าจ้างผู้ควบคุมงานทั้งการก่อสร้างและระบบรถ และงานระบบเหนือโครงสร้างพื้นฐาน

สำหรับแบบรายละเอียดส่วนที่เหลือฝ่ายจีนจะเร่งรัดให้เสร็จ ประกอบด้วย ตอนที่ 2 ปากช่อง-คลองขนานจิตร ระยะทาง 11 กม. ตอนที่ 3 แก่งคอย-นคราชสีมา ระยะทาง 110 กม. ตอนที่ 4 กรุงเทพฯ-แก่งคอย ระยะทาง 110 กม.

ทั้งนี้รถไฟไทย-จีนได้ใช้เวลาดำเนินการมา 2 ปี นับจากเซ็น MOC เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.2557 และเซ็นกรอบความร่วมมือหรือ FOC ร่วมกัน 2 ฉบับ ฝ่ายไทยสามารถเจรจาลดค่าก่อสร้างเฟสแรกช่วงกรุงเทพฯ-โคราช จากเดิม 2.2 แสนล้านบาท เหลือ 179,412 ล้านบาท ประหยัดไปได้กว่า 4.5 หมื่นล้านบาท หรือประมาณ 18.4%

แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า การดำเนินการในส่วนของฝ่ายไทย อยู่ระหว่างทำข้อมูลภาพรวมทั้งโครงการเสนอคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติ จะทำคู่ขนานไปกับการขออนุมัติรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาของคณะกรรมการชำนาญการ (คชก.)

สำหรับเงินลงทุนมาจากหลายแหล่งทั้งเงินกู้ในประเทศและเงินกู้จากจีนเพื่อซื้อระบบอาณัติสัญญาณและตัวรถเนื่องจากใช้ระบบเทคโนโลยีของจีน ล่าสุดฝ่ายจีนยังคงเสนอกู้เงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ ในอัตราดอกเบี้ย 2.3% สกุลหยวนในอัตราดอกเบี้ย 2.8% ซึ่งที่ประชุมได้ให้จีนทำข้อเสนอเพิ่มเติม เพื่อให้สมดุลกับอัตราดอกเบี้ยที่จีนเสนอประกอบการพิจารณาของกระทรวงการคลังต่อไป เพราะกระทรวงการคลังกำหนดเพดานดอกเบี้ยไม่เกิน 2%

อนึ่งเมื่อวันที่ 9 ธ.ค.2559 นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ เดินทางไปสาธารณรัฐประชาชนจีนประชุมคณะกรรมการร่วมด้านเศรษฐกิจและการค้า ครั้งที่ 5 ได้เซ็นบันทึกข้อตกลง (MOC) เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับจีนและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวว่าโครงการนี้จะก่อสร้างตั้งแต่กรุงเทพฯ-หนองคายแบ่งการดำเนินการเป็น 2 ตอน จะเริ่มช่วงกรุงเทพฯ-โคราชเป็นระยะแรกในปี 2560 ส่วนช่วงโคราช-หนองคายจะเดินหน้าคู่ขนานกันไปเพื่อให้โครงการต่อเนื่อง

ทั้งนี้รถไฟไทย-จีนได้รับการผลักดันจากรัฐบาลคสช.มาเป็นะระยะเวลา 2 ปี นับจากเซ็น MOC เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.2557 และเซ็นกรอบความร่วมมือ หรือ FOC ร่วมกัน 2 ฉบับ ฝ่ายไทยสามารถเจรจาลดค่าก่อสร้างเฟสแรกช่วงกรุเทพฯ-โคราชจากเดิม 2.2 แสนล้านบาทเหลือ 179,412 ล้านบาท ประหยัดไปได้กว่า 4.5 หมื่นล้านบาท หรือประมาณ 18.4%
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44325
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 31/03/2017 7:45 am    Post subject: Reply with quote

ประชุมไทย-จีน9-10 เม.ย. คาดสรุปแบบรถไฟเร็วสูง เคาะราคากลาง 3.5 กม.
โดย MGR Online 31 มีนาคม 2560 07:16 น.

ไทย-จีน นัดประชุมร่วมครั้งที่ 17 ถกไฮสปีด "กรุงเทพ-โคราช" วันที่ 9-10 เม.ย.นี้ ที่คุนหมิง "อาคม"เร่งคณะทำงาน สรุปแบบก่อสร้าง3.5 กม. ถอดรหัสวัสดุเป็นของไทยและสัญญาจ้างที่ปรึกษา ขณะที่จีนยอมส่งวิศวกรสอบใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรของไทยแล้ว

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จะมีการประชุมในโครงการความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ในการพัฒนารถไฟความเร็วสูง ช่วง กรุงเทพ-นครราชสีมา (ไฮสปีดเทรน) ระยะทาง 252.5 กม. มูลค่า 179,412.21 ล้านบาทของคณะกรรมการร่วม ครั้งที่ 17 ระหว่างวันที่ 9-10 เม.ย.2560 ที่ คุนหมิง ประเทศจีน เพื่อเจรจาหาข้อสรุปในเรื่องการออกแบบก่อสร้างเส้นทางตอนที่ 1 ระยะทาง 3.5 กม. (สถานีกลางดง-ปางอโศก) ,ร่างร่างสัญญาการเจรจา ร่างสัญญาEngineering Procurement and Construction (EPC-2 ) สัญญางานออกแบบ ,สัญญาควบคุมงาน ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล และกฎหมายไทย รวมถึงการออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรของไทย ให้กับวิศวกรจีนออกแบบโครงการ

ทั้งนี้ เบื้องต้นได้สั่งการให้คณะทำงานสองฝ่าย ประชุมร่วมกันให้ได้ข้อสรุปในเดือนมี.ค.นี้ ก่อนที่คณะกรรมการร่วมชุดใหญ่จะประชุมครั้งที่ 17เช่น การถอดแบบก่อสร้าง ระยะทาง 3.5 กม. โดยปรับรหัสมาตรฐานวัสดุก่อสร้างของจีน มาเป็นรหัสมาตรฐานของไทย ซึ่งมีความก้าวหน้าไปมากแล้ว และตัวรายละเอียด ร่างสัญญาจ้างออกแบบ รวมถึงประเด็นวิศวกรจีนที่ ออกแบบต้องสอบผ่านใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศกรของไทย ซี่งทางจีนตกลงที่จะดำเนินการตามกฎหมายไทย โดยสภาสภาวิศวกรไทย พร้อมอำนวยความสะดวก หลักการคือจสอบระดับหัวหน้าวิศวกรของจีนเพื่อออกใบรับรองเท่านั้น ไม่ได้ให้วิศวกรจีนที่ออกแบบทุกคนต้องมาสอบ

แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมกล่าวยอมรับว่า การถอดแบบรหัสวัสดุก่อสร้าง ต้องใช้เวลามาก เนื่องจากมีรายละเอียดของงานค่อนข้างมากและต้องเป็นการออกแบบรายละเอียด (Detail & Design) เพื่อใช้ในการกำหนดราคากลางในTOR ประมูล นอกจากนี้ มาตรฐานวัสดุของจีน ต้องแปลงมาเป็นมาตรฐานวัสดุไทยนั้น ต้องตรวจด้วยว่า วัสดุนั้นมีในประเทศไทยหรือไม่ เพราะบางตัวอาจจะเป็นวัสดุที่มีในจีน แบบนี้คงไม่ได้

อย่างไรก็ตาม เป้าหมายจะต้องเปิดประมูลเริ่มการก่อสร้างช่วง 3.5 กม.ให้ได้ก่อน จากนั้น การออกแบบและถอดรหัสในตอนที่ 2 (ปากช่อง-คลองขนานจิตร) ระยะทาง 11 กม.ตอนที่ 3 (แก่งคอย-โคราช) ระยะทาง 119 กม.ตอนที่4 (กรุงเทพฯ-แก่งคอย) ระยะทาง 119 กม. จะทำได้เร็วและทยอยประมูลได้
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 11/04/2017 10:42 am    Post subject: Reply with quote

สั่งเร่งไฮสปีดเทรน ร่วมก่อสร้าง-เดินรถ
ออนไลน์เมื่อ 11 เมษายน พ.ศ. 2560
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,251วันที่ 9 - 12 เมษายน พ.ศ. 2560

“อาคม” สั่งร.ฟ.ท. เปิดทางเอกชนแข่งประมูล 2ไฮสปีดเทรนเชื่อมตะวันออกและสายใต้ เผยรูปแบบร่วมลงทุนเช่นรถไฟฟ้าสายสีชมพู-เหลืองมุ่งประเคนเอกชนแบบเหมาเข่งทั้งลงทุนก่อสร้าง จัดหารถและบริหารจัดการเดินรถ 30 ปี ล่าสุดมีลุ้นสคร. เสนอคณะกรรมการพีพีพีเคาะประมูลเม.ย.-พ.ค. นี้ด้านบีทีเอสยังลุ้นเงื่อนไขร่วมลงทุนและขอดูแผนธุรกิจให้ชัดเจนก่อน

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ”ว่าตามที่ได้ส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคร.) พิจารณาโครงการรถไฟความเร็วสูงเส้นทางกรุงเทพฯ-ระยอง และกรุงเทพฯ-หัวหินก่อนเสนอเรื่องให้คณะกรรมการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (คณะกรรมการพีพีพี) พิจารณาและเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.)พิจารณาอนุมัติดำเนินการนั้นคาดว่าจะทราบผลการพิจารณาใน 1-2 เดือนนี้หลังจากนั้นการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.)ในฐานะเจ้าของโครงการจะต้องรับเรื่องไปดำเนินการเปิดประมูลหาผู้ร่วมลงทุนโดยเร็วต่อไป คาดว่าหากครม.อนุมัติภายในเดือนนี้ก็จะสามารถเปิดประมูลในช่วงกลางปีนี้ได้ทันที

โดยการนำเสนอประมูลในครั้งนี้ยังคงยึดรูปแบบการร่วมลงทุนเช่นเดียวกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) และสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) ที่เอกชนจะเป็นผู้ลงทุนงานโยธา จัดหารถและบริหารจัดการเดินรถ ระยะเวลา 30 ปีส่วนภาครัฐลงทุนด้านการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน โดยโครงการความเร็วสูงทั้ง 2 เส้นทางภาคเอกชนสนใจการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ดังนั้นจึงเปิดทางให้เอกชนสามารถปรับจุดสถานีให้เกิดประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย

ด้านนายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) กล่าวว่ายังรอดูรายละเอียดที่ภาครัฐจะประกาศออกมาว่าจะมีความชัดเจนมากน้อยอย่างไร รัฐจะช่วยเหลืออย่างไรบ้างเนื่องจากโครงการไฮสปีดเทรนทั้ง 2 เส้นทางลงทุนสูงกว่ารถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลือง หลักแสนล้านบาท จำนวนผู้โดยสารมากน้อยแค่ไหนยังไม่อาจทราบได้ในขณะนี้

“รัฐช่วยเฉพาะค่าเวนคืนเท่านั้นคงจะไม่เพียงพอแน่ๆ เนื่องจากสายสีชมพูและสายสีเหลืองรัฐยังต้องเข้ามาช่วยในค่างานโยธาส่วนหนึ่งด้วย ประกอบกับไฮสปีดเทรนนั้นต้นทุนการเดินรถสูงมาก เช่นเดียวกับค่าบำรุงรักษา หากรายละเอียดน่าสนใจมีความคุ้มค่าด้านการลงทุนโดยเฉพาะการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และเชิงพาณิชย์พื้นที่รายรอบโครงการบีทีเอสจะเข้าร่วมแข่งประมูลด้วยอย่างแน่นอนแต่การพัฒนาที่ดินคงไม่ได้เป็นตัวหลักของการพัฒนาไฮสปีดเทรนทั้ง 2 โครงการแต่ขอดูแผนธุรกิจและเงื่อนไข ที่รัฐจะให้ความช่วยเหลือให้ชัดเจนก่อน”
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44325
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 11/04/2017 8:14 pm    Post subject: Reply with quote

เคลียร์แบบก่อสร้าง รถไฟไทย-จีน ขยับแผนตอกเข็ม ส.ค. ยันใช้วัสดุผลิตในประเทศ
โดย MGR Online 11 เมษายน 2560 18:39 น.

ปรับแผนรถไฟไทย-จีน เจรจาครั้งที่ 17 ถอดแบบ 3.5 กม.เคลียร์ สเปกวัสดุมาตรฐานเป็นสากล ตั้งเป้าเปิดประมูลได้ใน ก.ค. ตอกเข็มใน ส.ค. “อาคม”ถกเสปกยันใช้วัสดุในประเทศทั้งหมด ด้านร.ฟ.ท.เร่งสรุปรายงานปรับปรุงตัวเลขผู้โดยสารหลังตัดตอนสร้างช่วงกรุงเทพ-โคราชก่อน เร่งชงครม. ในมิ.ย.นี้ก่อนลงนามสัญญาจ้างออกแบบและคุมงาน

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ผลการประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 17 ณ เมืองคุนหมิง สาธารณรัฐประชาชนจีนเมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา ในเรื่องร่างสัญญางานออกแบบ (EPC1) ,สัญญาควบคุมงาน (EPC 2) จะเสร็จในเดือนเม.ย.นี้ ขณะที่การถอดแบบก่อสร้างและรหัสวัสดุมาตรฐานสากล ในตอนที่ 1 ระยะทาง 3.5 กม. (สถานีกลางดง-ปางอโศก) ซึ่งรายละเอียดต่างๆ ได้มีการถอดรหัสเป็นสากล สามารถเทียบเคียงราคากลางได้ โดยให้ใช้วัสดุก่อสร้างที่ผลิตภายในประเทศไทย ซึ่งเหลือรายละเอียดเรื่องเดียวคือ คือ ข้อแตกต่างสเปกคุณภาพเหล็ก ซึ่งจีนออกแบบใช้เหล็กที่มีส่วนประกอบของคาร์บอนต่ำ ซึ่งเป็นมาตรฐานยุโรป ขณะที่เหล็กข้ออ้อยที่ผลิตในไทยมีคาร์บอนสูงกว่า ซึ่งเมื่อเป็นมาตรฐานรถไฟความเร็วสูง ดังนั้นได้สรุปให้ปรับการผลิตเหล็กข้ออ้อยในประเทศโดยลดคาร์บอนลง ซึ่งไม่มีปัญหาสามารถสั่งผลิตพิเศษในประเทศไทยได้ และไม่ได้กระทบต่อโครงสร้างใดๆ
ซึ่งการผลิตเหล็กข้ออ้อย ในประเทศไทย มีมาตรฐาน มอก. ซึ่งมีคาร์บอนเป็นส่วนประกอบสูงกว่า ที่จีนออกแบบไว้นิดหน่อย ซึ่งไทยนั้นสามารถผลิตเหล็กข้ออ้อยโดยลดส่วนประกอบคาร์บอนลงมาให้เป็นไปตามมาตรฐานที่จีนออกแบบได้ ไม่มีปัญหา ไม่ต้องซื้อเหล็กจากจีน โดยจีนจะเข้ามาทดสอบคุณภาพ คุณสมบัติวัสดุต่างๆ อีกครั้ง ซึ่งมีความก้าวหน้าที่สามารถถอดราคากลางสำหรับเปิดประกวดราคาก่อสร้างได้

ทั้งนี้แผนงานล่าสุด การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ได้ปรับปรุงรายงานโครงการรถไฟความเร็วสูง เส้นทางหนองคาย-นครราชสีมา-แก่งคอย-ท่าเรือมาบตาพุด ระยะทาง 845.27 กม.และเส้นทางแก่งคอย-กรุงเทพฯ ระยะทาง 118.14 กม.กรณีที่จะดำเนินการในช่วง กรุงเทพ-นครราชสีมา ระยะทาง 252.5 กม. มูลค่า 179,412.21 ล้านบาทก่อน ซึ่งต้องปรับตัวเลขประมาณการณ์ผู้โดยสาร และจะนำเสนอไปยังสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) รวมถึงสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คาดว่าภายในเดือนพ.ค.-มิ.ย.นี้จะดำเนินการเรียบร้อย และจะลงนามในสัญญางานออกแบบ ,สัญญาควบคุมงาน ได้ในเดือนมิ.ย.เช่นกัน โดยตั้งเป้าจะเปิดประมูลหาผู้รับจ้างก่อสร้างในตอนที่ 1 ระยะทาง 3.5 กม. ในเดือนก.ค.และเริ่มก่อสร้างในเดือนส.ค.นี้

อย่างไรก็ตาม เมื่อถอดแบบระยะทาง 3.5 กม.แล้ว จะมีส่งแบบในส่วน 11 กม.หรือ ตอนที่ 2 (ปากช่อง-คลองขนานจิตร) ตามด้วย ตอนที่ 3 (แก่งคอย-โคราช) ระยะทาง 119 กม.ตอนที่4 (กรุงเทพฯ-แก่งคอย) ระยะทาง 119 กม.) จะทยอยส่งมาภายใน 6 เดือน ดังนั้นการออกแบบจะมีความต่อเนื่อง ซึ่งในเดือนก.ค.จะเริ่มกระบวนการคัดเลือกผู้รับจ้างก่อสร้างในตอน 3.5 กม.ได้ และจะเร่งรัดตอนที่2 ระยะทาง 11 กม. ซึ่งร.ฟ.ท.จะเร่งรัดตรวจแบบต่อไป

“ตามแผนงานคาดว่าจะไม่มีปัญหา ขณะที่ได้เสนอผลการศึกษา EIA คู่ขนานไปด้วย ส่วนปัญหาวิศวกรจีนที่ออกแบบจะต้องมาสอบใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรของไทยได้ตกลงกันแล้ว อยู่ในขั้นตอนการส่งวิศวกรจีนมาอบรมตามมาตรฐานของสภาวิศวกรไทยกับสภาสถาปนิกไทย ซึ่งเมื่อถอดแบบราคากลาง 3.5 กม.เรียบร้อย ในส่วนของ11 กม. จะตามไป ซึ่งหากเป็นไปได้ อาจจะเปิดประมูลพร้อมกัน ซึ่งหารือกับจีนแล้วว่า การก่อสร้างในแต่ละตอนควรมีความต่อเนื่องกัน”นายอาคมกล่าว

สำหรับการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA) นั้น ในช่วง กรุงเทพ-บ้านภาชี EIA อนุมัติแล้ว แต่ช่วง บ้านภาชี-โคราช ยังไม่ผ่าน EIA ซึ่งเป็นจุดก่อสร้างของตอนที่ 1 ,2 โดยได้ทำรายงานและข้อมูลเพิ่มเติมต่อคณะกรรมการผู้ชำนาญการ (คชก.) ไปรวม 4 ครั้งแล้ว เนื่องจากมีการปรับแนวเส้นทางบ้างจากแนวเดิม จะเร่งประสานกับกระทรวงทรัพยากรฯ เพื่อขอให้เร่งรัด อนุมัติ EIA ให้ทันกับการก่อสร้าง เนื่องจากหากประมูลแล้วจะยังลงนามสัญญาไม่ได้ จนกว่า EIA จะผ่าน แต่เชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหา
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 207, 208, 209 ... 542, 543, 544  Next
Page 208 of 544

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©