Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311238
ทั่วไป:13181768
ทั้งหมด:13493006
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม(บางซื่อ-รังสิต และ บางซื่อ-หัวลำโพง)
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม(บางซื่อ-รังสิต และ บางซื่อ-หัวลำโพง)
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 46, 47, 48 ... 147, 148, 149  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42631
Location: NECTEC

PostPosted: 15/04/2017 7:34 am    Post subject: Reply with quote

ร.ฟ.ท.ปรับเป้าผู้โดยสารสายสีแดง หวั่นซ้ำรอยสีม่วง เตรียมตั้ง บ.ลูกเดินรถเอง
โดย MGR Online
14 เมษายน 2560 09:03 น. (แก้ไขล่าสุด 14 เมษายน 2560 13:37 น.)

ร.ฟ.ท.เตรียมแผนเดินรถสายสีแดงและบริหารความเสี่ยง จ่อเสนอ “คมนาคม” และ คนร. ขอเดินรถเอง บอร์ดสั่งทำข้อมูลเพิ่ม ปรับเป้าประมาณการณ์ผู้โดยสารปี 63 เหลือ 1.1-1.4 แสนคน/วัน จากเดิมคาดมี 2 แสนคน/วัน พร้อมแผนพัฒนาเชิงพาณิชย์และการตั้งบริษัทลูกเดินรถ แยกบริหารเหมือนเอกชนเพื่อความคล่องตัว “พิชิต” ขอดูรายละเอียดก่อนชง คนร.พิจารณา

นายพิชิต อัคราทิตย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเดินรถไฟฟ้าชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-รังสิต และบางซื่อ-ตลิ่งชัน ว่าขณะนี้การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) อยู่ระหว่างสรุปรายละเอียดรูปแบบการบริหารจัดการการเดินรถสายสีแดง เพื่อเสนอกระทรวงคมนาคม โดยเบื้องต้นคาดว่า ร.ฟ.ท.จะเสนอขอเดินรถสายสีแดงเอง ซึ่งในฐานะผู้กำกับดูแลจะพิจารณารายละเอียด ในเรื่องการบริหารจัดการว่าจะมีประสิทธิภาพมากพอหรือไม่ การเดินรถจะทำให้เป็นภาระกับ ร.ฟ.ท.ในอนาคตหรือไม่ เนื่องจากต้องยอมรับว่าเรื่องเดินรถเองหรือให้เอกชนเข้ามาเดินรถ ล้วนมีข้อท้วงติงทั้ง 2 รูปแบบ ซึ่งกระทรวงคงต้องพิจารณาเร็วๆ นี้ เพื่อเสนอต่อไปยังคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) หรือซูเปอร์บอร์ด ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานต่อไป

ทั้งนี้ ในการให้บริการรถไฟสายสีแดงนั้น มี 2 ส่วน คือ การบริหารจัดการด้านโครงสร้างพื้นฐาน และการบริหารด้านการเดินรถ ซึ่งการเดินรถมีทางเลือก ทั้งรูปแบบที่ ร.ฟ.ท.เดินรถเอง หรือให้เอกชนเข้ามาเดินรถ ซึ่งกรณีที่ ร.ฟ.ท.จะเดินรถเอง ร.ฟ.ท.จะต้องมีการเปลี่ยนรูปแบบการบริหารจัดการให้มีความเป็นเอกชนมากขึ้น ซึ่งการจัดตั้งบริษัทลูก ด้านการบริหารการเดินรถ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วย เพราะการเดินรถจะต้องมีความคล่องตัวในการจัดหาบุคลากร การจัดการงบประมาณ และต้องมีข้อกำหนดใน เรื่อง KPI เพื่อชี้วัด และสามารถเทียบเคียงได้กับการบริหารงานของเอกชน

“ตอนนี้ ร.ฟ.ท.ยังไม่สรุปเรื่องรูปแบบและรายละเอียดการบริหารจัดการ เสนอมาที่ผมเลยว่า ร.ฟ.ท.จะมีศักยภาพในการเดินรถสายสีแดงได้หรือไม่ หากดูแล้วเห็นว่าทำได้จะเสนอ คนร.ต่อไป”

ด้านนายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รักษาการผู้ว่า ร.ฟ.ท.กล่าวว่า ร.ฟ.ท.ได้ทำแผนงานเสนอที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ร.ฟ.ท.ที่มีนายวรวิทย์ จําปีรัตน์ เป็นประธาน เมื่อวันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยบอร์ดได้เห็นชอบในหลักการตามแผนเดิม คือ ร.ฟ.ท.จะเป็นผู้บริหารการเดินรถไฟชานเมืองสายสีแดงเอง โดยให้ทำข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อเตรียมสรุปเสนอไปยังกระทรวงคมนาคมพิจารณาตามขั้นตอนก่อนเสนอ คนร.ต่อไป โดยมีเป้าหมายเปิดเดินรถสายสีแดงในปี ในเดือนมิถุนายน 2563

แหล่งข่าวจาก ร.ฟ.ท.กล่าวว่า รถไฟชานเมืองสายสีแดงเป็นโครงข่ายที่สำคัญ แนวเส้นทาง ถือเป็น โครงสร้างพื้นฐานหลัก เป็น Backbone ที่จะมีการต่อเชื่อมได้กับหลายโครงการ ถือเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ชาติ ดังนั้นรัฐควรบริหารอง เพราะการให้เอกชนบริหารอาจจะมีปัญหาในอนาคตได้ โดยก่อนหน้านี้ คนร.ยังไม่มั่นใจในขีดความสามารถของ ร.ฟ.ท.ในการบริหารการเดินรถ ซึ่ง ร.ฟ.ท.ได้ศึกษาทบทวนประมาณการจำนวนผู้โดยสารใหม่ จากเดิมที่คาดว่าเมื่อเปิดเดินรถในปี 2563 จะมีผู้โดยสารประมาณ 200,000 คน/วัน ปรับเป็น 140,000 คน/วัน ซึ่งจะทำให้มีกำไรเล็กน้อย

ทั้งนี้ บอร์ด ร.ฟ.ท.ให้ทำข้อมูลเพิ่มเติม เช่น คาดการณ์ปริมาณผู้โดยสารสูงไปหรือไม่ เนื่องจากบางสถานีไม่ได้เป็นชุมชน เข่น สถานีรังสิต และแผนบริหารความเสี่ยงต่างๆ และมีตัวอย่างของรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่ปริมาณผู้โดยสารจริงต่ำกว่าประมาณการณ์มาก

ดังนั้น คาดการณ์ผู้โดยสารสายสีแดงที่ปรับใหม่ ที่ 140,000 คน/วัน ถือว่าค่อนข้างต่ำอยู่แล้วซึ่งกรณีที่ยังต่ำกว่าประมาณการ คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 110,000 คน/วัน ซึ่งยังอยู่ในจุดคุ้มทุน (Break even point) เนื่องจากแนวเส้นทางมีโครงข่ายเชื่อมต่อ เช่น รถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) เชื่อมต่อได้ที่บริเวณงามวงศ์วาน หลักสี่ จะเกิดการส่งต่อผู้โดยสาร และระบบตั๋วร่วม จะทำให้การใช้ระบบรางมีความสะดวกมากขึ้น นอกจากนี้ จะมีแผนการพัฒนาเชิงพาณิชย์ต่างๆ เพื่อทำให้มีรายได้อุดหนุนด้านการโดยสารอีกด้วย ซึ่ง ร.ฟ.ท.จะจัดตั้งบริษัทลูกด้านการเดินรถขึ้นมาทำหน้าที่ เพื่อให้แยกการบริหารออกจาก ร.ฟ.ท.มีความคล่องตัวเหมือนเอกชน
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42631
Location: NECTEC

PostPosted: 15/04/2017 10:02 pm    Post subject: Reply with quote

จับตา19เม.ย.คนร.เคาะรถไฟฟ้าชานเมืองสีแดงให้รฟม.หรือเอกชนบริหาร
มติชน
วันที่: 14 เมษายน 2560 เวลา: 19:00 น.


นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กล่าวว่า ขณะนี้การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)ยังไม่ได้เสนอแผนการบริหารรถไฟชานเมืองสายสีแดง มาให้สคร.พิจารณา อย่างไรก็ตามรฟท.ยังมีเวลาถึง 19 เมษายนที่จะเสนอแผนการบริหารรถไฟสายสีแดงนี้ เนื่องจากในวันดังกล่าวจะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(คนร.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และที่ประชุมจะพิจารณาแผนการบริหารรถไฟสายสีแดงว่าสมควรจะให้ รฟท.เป็นผู้บริหาร หรือให้บริษัทเอกชนเข้ามาเป็นผู้บริหารการเดินรถไฟสายนี้แทน รฟท.

“คนร.เคยมีมติให้เอกชนเข้ามาประมูลการบริหารการเดินรถไฟสายสี เนื่องจากมีกรณีการบริหารการเดินรถไฟ แอร์พอร์ตเรียลลิ้งค์ที่เป็นบริษัทลูกของ รฟท. เป็นผู้บริหารงาน ซึ่งเกิดปัญหาด้านประสิทธิภาพการเดินรถในหลายด้าน แต่ รฟท. ขอว่าจะไปจัดทำแผนการบริหารมาเสนอ คนร.พิจารณา โดย คนร.ตั้งโจทย์ว่า หากรฟท.เป็นผู้บริหารการเดินรถไฟสายสีแดง จะต้องมีประสิทธิภาพมากกว่าที่จะให้เอกชนเป็นผู้ดำเนินการเอง”นายเอกนิติกล่าว

สำหรับโครงการรถไฟสายสีแดง หรือระบบรถไฟชานเมือง ซึ่งแบ่งเป็นสองช่วงคือ เส้นทางบางซื่อตลิ่งชัน และเส้นทาง บางซื่อ-รังสิต รวมระยะทางกว่า 41 กิโลเมตร ใช้เงินลงทุนรวมกันราว 7.55 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะกลายเป็นเส้นทางที่สำคัญในการดึงคนจากนอกเมือง ทั้งด้านเหนือและด้านใต้ เข้าสู่ใจกลางเมือง
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44335
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 28/04/2017 9:14 pm    Post subject: Reply with quote

ด่วน!เครนยักษ์หน้าวัดดอนเมืองร่วงทับคนงานดับ3ศพ
คมชัดลึก 28 เม.ย. 60
.
วันที่ 28 เมษายน เวลา 20:35 น.เกิดอุบัติเหตุเครนก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงกำลังยกแผ่นปูนขึ้นที่สูงพลิกคว่ำ ทับคนงาน เสียชีวิต 3 คน บนถนนสรงประภา หน้าวัดดอนเมือง

Click on the image for full size

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44335
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 29/04/2017 9:48 am    Post subject: Reply with quote

การรถไฟฯ แจงเหตุเหล็กรองรับแผ่นปูนหล่นทับคนงานเสียชีวิต
PPTV HD36 08:27น. 29 เม.ย. 2560

การรถไฟฯแจงเหตุเหล็กรองรับแผ่นปูนของบริษัท อิตาเลี่ยนไทยฯหล่นทับคนงาน เสียชีวิต 3 ราย สาเหตุเบื้องต้นเกิดจากอุปกรณ์โยงยึดอาจขาด

การรถไฟฯ แจงเหตุเหล็กรองรับแผ่นปูนหล่นทับคนงานเสียชีวิต
เมื่อคืนนี้ (28 เม.ย.60) นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย พร้อมผู้บริหารได้เดินทางไปที่เกิดเหตุ บริเวณหน้าวัดดอนเมือง ซึ่งเป็นจุดก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง ได้เกิดเหตุเหล็กรองรับแผ่นปูนหล่น ทำให้คนงานเสียชีวิต 3 ราย สำหรับรายชื่อคนงานที่เสียชีวิต 3 รายนั้นประกอบด้วย นายไมตรี สุภาสิวัฒน์ นายสงัด เทพสันทัด และนายสันติพงษ์ แซ่ว่าง ทั้งหมดเป็นคนงานของบริษัทอิตาเลี่ยนไทยฯ ซึ่งเป็นโครงสร้างในส่วนของ support launcher ที่ติดตั้งอยู่บนเสา กท.24+402 ร่วงหล่นลงมาทับคนงาน โดยเบื้องต้นคาดว่าเกิดจากอุปกรณ์โยงยึดขาด

ส่วนสาเหตุ วันนี้ (29 เม.ย.60 ) เวลา 09.00 น. ผู้เชี่ยวชาญจากสภาวิศวกรและเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมผู้บริหารรถไฟ จะลงพื้นที่สอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

----

สั่งอิตาเลียนไทยฯ พักก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง พร้อมตั้ง กก.สอบเครนหล่นทับคนงานตาย 2
โดย MGR Online 29 เมษายน 2560 08:56 น. (แก้ไขล่าสุด 29 เมษายน 2560 09:12 น.)

"อาคม"สั่งอิตาเลียนไทยฯ พักการก่อสร้างสายสีแดง พร้อมตั้งกก.สอบสวนเหตุ เครนหล่นทับคนงานเสียชีวิต 2 ราย ขณะที่ ผู้เชี่ยวชาญจากสภาวิศวกรฯ,ตำรวจ และผู้บริหารรถไฟฯ ลงพื้นที่สอบสวนหาสาเหตุร่วมกันวันนี้ (29 เม.ย.)

จากเหตุเครนของบริษัท อิตาเลี่ยนไทย ดีเวล๊อปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หล่นทับคนงาน เมื่อคืนวันที่ 28 เม.ย.ในส่วนที่เป็นการก่อสร้างโครงสร้างในส่วนของsupport launcher ที่ติดตั้งอยู่บนเสา กท.24+402 บริเวณหน้าโรงเรียนวัดดอนเมือง ถ.กำแพงเพชร 6 แขวงดอนเมือง เขตดอนเมือง กทม.จนทำให้คนงาน ของบริษัทอิตาเลี่ยนไทยฯ เสียชีวิต 3 ราย นั้น นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รักษาการผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) พร้อมผู้บริหารได้เดินทางไปที่เกิดเหตุแล้ว โดยพบสาเหตุเบื้องต้นเกิดจากอุปกรณ์โยงยึดอาจขาด

โดยวันนี้ (29 เมย.60 ) เวลา 09.00 น. ผู้เชี่ยวชาญจากสภาวิศวกรฯ และเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมผู้บริหารรถไฟฯ จะลงพื้นที่สอบสวนหาสาเหตุร่วมกันที่แท้จริงต่อไป

ทั้งนี้ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้สั่งการให้สั่งพักการก่อสร้าง พร้อมตั้งกรรมการสอบสวน และพักงานวิศวกรควบคุมงานดังกล่าว และให้บริษัทอิตาเลียนไทย แถลงความรับผิดชอบ และแสดงแผนความปลอดภัยในการก่อสร้างรถไฟสายสีแดง ทั้งหมด

สำหรับ โครงการก่อสร้างระบบรถไฟชานเมือง(สายสีแดง)ในช่วงดังกล่าว เป็นสัญญา 2 (งานโยธาสำหรับทางรถไฟ ช่วงบางซื่อ-รังสิต) มีบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD เป็นผู้รับจ้าง มูลค่าสัญญา 21,235,400,000 บาท เริ่มสัญญาวันที่ 4 มี.ค. 2556-10 ก.พ. 2560 (ระยะเวลาก่อสร้าง 1,440 วัน) เบื้องต้นจะขยายเวลาก่อสร้างออกไปกรณีขึ้นค่าแรง ซึ่งร.ฟ.ท. มีเป้าหมายเปิดเดินรถในปี 2563

ซึ่ง บริษัทอิตาเลียนไทยฯ รับผิดชอบงานก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้ายกระดับ จำนวน 6 สถานี ประกอบด้วย สถานีบางเขน สถานีทุ่งสองห้อง สถานีหลักสี่ สถานีการเคหะ สถานีดอนเมือง และสถานีรังสิต ประกอบไปด้วย งานก่อสร้างทางวิ่งรถไฟฟ้ายกระดับ และระดับพื้นดินระยะทาง 20.15 กิโลเมตร งานก่อสร้างถนน และระบบ ระบายน้ำ งานปรับปรุง และรื้อถอนโครงสร้างเดิมของโครงการโฮปเวล และงานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อรองรับการต่อขยายในอนาคต ของสถานีวัดเสมียนนารี และสถานีหลักหก
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42631
Location: NECTEC

PostPosted: 30/04/2017 12:39 am    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
ด่วน!เครนยักษ์หน้าวัดดอนเมืองร่วงทับคนงานดับ3ศพ
คมชัดลึก 28 เม.ย. 60


ด่วน!! เครนรถไฟฟ้าสายสีแดง หน้าวัดดอนเมืองถล่ม ทับคนงานเสียชีวิต 3 ราย
มติชน
วันที่: 28 เมษายน 2560 เวลา: 21:44 น.

เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 28 เมษายน ร.ต.อ.ทศพร ดุดง รองสว.(สอบสวน)สน.ดอนเมือง รับแจ้งเหตุเครื่องจักร หล่นลงมาจากสถานที่ก่อสร้างรางรถไฟฟ้า ส่งผลให้มีคนงานเสียชีวิต 3 ราย บริเวณหน้าโรงเรียนวัดดอนเมือง ถ.กำแพงเพชร 6 แขวงดอนเมือง เขตดอนเมือง กทม. จึงรายผู้บังคับบัญชาทราบก่อนไปตรวจสอบพร้อมพ.ต.อ.สุรเชษฐ์ บัณฑิตย์ ผกก.สน.ดอนเมือง พ.ต.ท.รังสรรค์ สอนสิงห์ รองผกก.(สอบสวน)สน.ดอนเมือง ฝ่ายสืบสวนสน.ดอนเมือง น.ส.วรรณดี สนชัย ผู้อำนวยการเขตดอนเมือง เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.)และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุอยู่บนถนนกำแพงเพชร 6 อยู่ใต้รางรถไฟฟ้าที่กำลังก่อสร้าง พบเครื่องจักรทำจากโลหะขนาดใหญ่สีส้ม 2 ชิ้นประกบติดกัน ลักษณะหล่นลงมาจากข้างบนขวางถนนทั้งสองฝั่ง ใกล้กันพบผู้เสียชีวิต 3 รายเป็นคนงานของบริษัทอิตาเลียนไทยทั้งหมด ทราบชื่อนายไมตรี สุภาศิวัฒน์ อายุ 25 ปี นายสงัด เทพสันทัด และนายสันติพงษ์ แซ่ว่าง ทั้งหมดเป็นคนงานที่อยู่ข้างบนหล่นลงมาพร้อมกับเครื่องจักร

จากการสอบถามนายรัฐกร จิตศรีพิทักษ์เลิศ อายุ 41 ปี วิศวกรผู้ควบคุมงานกล่าวว่าตัวที่หล่นลงมาเรียกว่า “ทรัค” มีไว้สำหรับค้ำยันและรับน้ำหนักแผ่นปูนรางรถไฟฟ้า และอีกชิ้นคือตัวค้ำยัน โดยปกติแล้วทรัคจะต้องเลื่อนไปตามรางเหล็กสีส้มเพื่อเลื่อนจากเสาหนึ่งไปอีกเสาหนึ่ง ระหว่างที่ทรัคกำลังเลื่อนไป จู่ๆ รางเหล็กเกิดรับน้ำหนักไม่ไหวทรัคจึงหล่นลงมาพร้อมคนงาน 3 คนที่กำลังควบคุมอยู่ด้านบนเสียชีวิต

ต่อมาพล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมเปิดเผยว่าเบื้องต้นทราบว่าอุปกรณ์ที่ร่วงลงมาเป็นตัวรับน้ำหนักจะมีตัวยึดแต่ขณะเคลื่อนที่กลับไม่มี อย่างไรก็ตามสาเหตุขณะนี้ยังไม่สามารถบอกได้เนื่องจากต้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเฉพาะทางเข้าตรวจสอบ คงต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ หากพบว่าเป็นความบกพร่องของผู้ใดก็ต้องดำเนินคดีทั้งหมด


รฟท. เตรียมเอาผิด อิตาเลียนไทยเพราะเกิดเหตุซ้ำซาก 6 ครั้ง ตาย 8 คน
https://www.youtube.com/watch?v=HUzSDvM2fJo

รฟท.จ่อสอบ'อิตาเลี่ยนไทย' เครนรถไฟฟ้าพังทับคนงาน
เดลินิวส์
ศุกร์ที่ 28 เมษายน 2560 เวลา 22.33 น.

รฟท.เตรียมตั้งคณะกรรมการสอบมาตรการความปลอดภัย บริษัท อิตาเลี่ยนไทยฯ หลังเกิดอุบัติเหตุสลด เครนสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดงหน้าวัดดอนเมือง หล่นทับคนงาน ดับสลด 3 ศพ เหตุรางเหล็กรับน้ำหนักไม่ไหว


จากกรณี เกิดอุบัติเหตุเครนสร้างรถไฟฟ้าขนาดใหญ่หล่นลงมาจากสถานที่ก่อสร้างรางรถไฟฟ้า สายสีแดง บางซื่อ-รังสิต ส่งผลให้มีคนงานเสียชีวิต 3 ราย บริเวณหน้าโรงเรียนวัดดอนเมือง ถนนกำแพงเพชร 6 (โรคัลโรด) แขวงสีกัน เขตดอนเมือง ทำให้คนงานของบริษัทอิตาเลียนไทย เสียชีวิตอย่างน่าสลดใจทันที 3 ราย

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 28 เม.ย. พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. เปิดเผยว่า เบื้องต้นทราบว่าอุปกรณ์ที่ล่วงลงมาเป็นตัวรับน้ำหนักจะมีตัวยึดแต่ขณะเคลื่อนที่กลับไม่มี อย่างไรก็ตาม สาเหตุขณะนี้ยังไม่สามารถบอกได้เนื่องจากต้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเฉพาะทางเข้าตรวจสอบ คงต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ หากพบว่าเป็นความบกพร่องของผู้ใดก็ต้องดำเนินคดีทั้งหมด



ต่อมา นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และ นายทนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐ รองผู้ว่าการ รฟท. ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ โดย นายทนงศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ต้องรอการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าเกิดจากอะไร เช่นการยกสิ่งของที่มีน้ำหนักมากเกินไป เกินที่คานยึดปูนรับน้ำหนักไหว ส่วนการดำเนินงานของรฟท.ในฐานะผู้ควบคุมสัญญาก่อสร้างได้เตรียมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบอุบัติเหตุดังกล่าวพร้อมเรียกบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ผู้ควบคุมงานการก่อสร้างสัญญาที่ 2 เข้าตรวจสอบมาตรการป้องกันอุบัติเหตุ

เนื่องจากการทำสัญญาการก่อสร้างแต่ละโครงการ รฟท.ให้ความสำคัญและเน้นย้ำเกี่ยวกับความปลอดภัยเป็นอย่างมาก โดยต่อจากนี้จะต้องตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยสัญญาที่เหลืออีกด้วย ส่วนการลงโทษปรับผู้รับเหมาและมาตรการการเยียวยาผู้เสียชีวิต รฟท.จะพิจารณาดูหลักเกณฑ์ต่างๆภายในสัญญาและเยียวยาให้ได้รับประโยชน์สูงสุด   



สำหรับโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดงช่วงบางซื่อ-รังสิต แบ่งเป็น 3 สัญญา  โดย สัญญาที่ 1 งานก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อ อาคารซ่อมบำรุง และสถานีจตุจักร มีกลุ่มกิจการร่วมค้าเอสยู (บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น และ บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น) เป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง มูลค่างาน 34,141 ล้านบาท 

ขณะที่ สัญญาที่ 2 งานทางวิ่งรถไฟยกระดับและระดับดิน พร้อมอาคารสถานี 6 สถานี ได้แก่ บางเขน ทุ่งสองห้อง หลักสี่ การเคหะ ดอนเมือง และรังสิต มี บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ เป็นผู้ก่อสร้าง มูลค่างาน 24,587 ล้านบาท และ สัญญาที่ 3 งานติดตั้งระบบไฟฟ้าและเครื่องกลรวมรถไฟฟ้า “การรถไฟแห่งประเทศไทย” เซ็นสัญญากับกลุ่ม MHSC (มิตซูบิชิ เฮฟวี่-ฮิตาชิ-สุมิโตโม) ผู้ผลิตจากประเทศญี่ปุ่นได้สำเร็จแล้ว ทั้งนี้มีแผนเตรียมเปิดให้บริการภายในปี 63.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42631
Location: NECTEC

PostPosted: 30/04/2017 12:40 am    Post subject: Reply with quote

“ไจก้า” เล็งแบล็กลิสต์! “อิตาเลี่ยนไทย” เซ่นทรัคร่วงทับคนงานดับ
สปริงนิวส์
วันเสาร์ 29 เมษายน 2560 5:32 pm

รักษาการผู้ว่าการ รฟท. ยอมรับ ไจก้า เตรียมพิจารณาขึ้นบัญชีดำ บริษัทอิตาเลี่ยนไทย ทุกโครง การที่ไจก้าให้เงินกู้ รวมทั้งโครงการลงทุนอื่นของรัฐที่ใช้เงินกู้จากไจก้า หลังอุปกรณ์โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดงหล่นทับคนงานเสียชีวิต

นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รักษาการผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. เปิดเผยกับสปริงนิวส์ว่า กรณีเหตุ launcher อุปกรณ์ก่อสร้างที่ใช้ในโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดงของ บริษัทอิตาเลี่ยนไทยฯที่กำลังก่อสร้างอยู่หล่นลงมาทับคนงานเสียชีวิต บริเวณหน้าโรงเรียนวัดดอน เมืองเมื่อคืนที่ผ่านมา

หลังจากที่การรถไฟ ฯได้ลงพื้นที่ตรวจสอบหาสาเหตุ ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ หรือ วสท. เจ้าหน้าที่ตำรวจ และ เขตพื้นที่กรุงเทพมหานครวันนี้แล้ว ต้องใช้เวลาสรุปสาเหตุที่ชัดเจนก่อนคาดว่าใช้เวลาอย่างน้อย 7 วันจึงจะทราบสาเหตุในเบื้องต้นได้ หลังจากนั้น บริษัทฯ จะต้องมีการกำหนดมาตร การป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำ รวมถึงมาตรการควบคุมด้านความปลอดภัย ซึ่งระหว่างการสรุปสาเหตุและจัดทำมาตรการป้องกัน บริษัทอิตาเลี่ยนไทยจะต้องหยุดการปฏิบัติงานไปจนกว่าจะมีผลสรุปสาเหตุออกมาชัดเจนและมีแผนป้องกันเกิดเหตุซ้ำ

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่งผลให้องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น หรือ ไจก้า ในฐานะผู้ให้กู้ลงทุนโครงการรถไฟสายสีแดง เตรียมพิจารณาขึ้นบัญชีดำ บริษัทอิตาเลี่ยนไทย ทุกโครง การที่ไจก้าให้เงินกู้ รวมทั้งโครงการลงทุนเมกะโปรเจ็กต์อื่นของภาครัฐที่ใช้เงินกู้จากไจก้า จะต้องเพิ่มความระมัดระวังเรื่องความปลอดภัยสูงสุด แต่เพื่อความเป็นธรรมของผู้รับสัมปทานจะต้องหาสาเหตุที่ชัดเจนก่อนว่าเกิดจากสาเหตุใด เช่น ประมาทเล่นเล่อ อุปกรณ์ชำรุด หรือ ปัญหาเทคนิคด้านวิศวกรรมของอุปกรณ์

นายอานนท์ กล่าวอีกว่าหลังจากรายงานสถาน การณ์ที่เกิดขึ้นให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนา คมรับทราบ ได้สั่งการให้หยุดก่อสร้างทันทีเพื่อหาสาเหตุที่ชัดเจนและบริษัทอิตาเลี่ยนไทยต้องรับผิดชอบความเสียหายและผู้เสียชีวิต นอกจากนี้ยังกำชับให้หน่วยงานที่ดำเนินโครงการลงทุนโครง สร้างพื้นฐานภายใต้กระทรวงคมนาคมทั้งหมด มีความรอบคอบและเพิ่มเข้มงวดด้านความปลอดภัยการทำงานให้มากขึ้น

สำหรับการก่อสร้างโครงการฯที่เกิดเหตุ เป็นสัญญา 2 คือ งานโยธาสำหรับทางรถไฟ ช่วงบางซื่อ-รังสิต มูลค่าสัญญากว่า 21,235 ล้านบาท ซึ่ง รฟท. มีเป้าหมายเปิดเดินรถในปี 2563

“ไจก้า” เตรียมแบล็กลิสต์อิตาเลี่ยนไทยหลังเกิดเหตุซ้ำซาก รฟท.ถกด่วน วางบทลงโทษหากทำคนตายอีก
วันเสาร์ 29 เมษายน 2560 เวลา: 20:12 น.


นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รักษาการผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. เปิดเผยกับหนังสือพิมพ์มติชน ถึงกรณีมีอุปกรณ์ก่อสร้างโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดงบางส่วนเกิดปัญหา จนมีพนักงานเสียชีวิตถึง 3 คน โดยมีบริษัทอิตาเลี่ยนไทย ดิเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับผิดชอบนั้น ส่งผลให้องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น หรือ ไจก้า ในฐานะผู้ให้กู้ลงทุนโครงการรถไฟสายสีแดง เตรียมพิจารณาขึ้นบัญชีดำ(แบล็กลิสต์) บริษัทอิตาเลี่ยนไทย ทุกโครง การที่ไจก้าให้เงินกู้ลงทุน รวมถึงกรณีที่ใจก้าทำสัญญาร่วมทุนก่อสร้างในประเทศอื่นๆ ด้วย เพราะถือว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นบ่อยครั้งมาก เพราะเมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ก็เกิดอุบัติเหตุคานเหล็กหล่นทับรถยนต์ จากโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งเป็นของบริษัทอิตาเลี่ยนไทยเช่นกัน รวมถึงเหตุการณ์อี่นๆ ด้วย

“ในส่วนของรฟท. ก็จะมีการประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายในเร็วๆ นี้ เพื่อหาแนวทางป้องกัน รวมถึงบทลงโทษกรณีเกิดอุบัติเหตุลักษณะนี้ขึ้นอีก เช่น หากเกิดอุบัติเหตุหนึ่งครั้งจะทำอย่างไร จะถูกติดแบล็กลิสต์หรือไม่ หรือจำนวนกี่ครั้ง จะไม่มีสิทธิประมูลหรือร่วมโครงการกับรฟท. อีก เพราะถือว่าชีวิตคนเป็นเรื่องสำคัญ และมาตรฐานการก่อสร้างของบริษัทขนาดใหญ่ นอกจากมาตรฐานของผลงานแล้ว ต้องให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญด้วย แต่บทลงโทษจากรฟท. จะเป็นอย่างไร ขอประชุมก่อน เนื่องจากยังมีหลายโครงการที่ต้องก่อสร้าง อย่างไรก็ตาม ตนได้รายงานให้นายอาคม เติมพิทยารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนา คมรับทราบแล้ว พร้อมทั้งได้สั่งการให้หยุดก่อสร้างทันที เพื่อหาสาเหตุที่ชัดเจนก่อน นอกจากนี้ บริษัทอิตาเลี่ยนไทยต้องรับผิดชอบความเสียหายและผู้เสียชีวิต”นายอานนท์ กล่าว
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42631
Location: NECTEC

PostPosted: 01/05/2017 11:11 am    Post subject: Reply with quote


ความก้าวหน้าการก่อสร้างสถานีกลสงบางซื่อ
https://www.youtube.com/watch?v=AOAhCorbwws
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42631
Location: NECTEC

PostPosted: 01/05/2017 12:05 pm    Post subject: Reply with quote

ตร.ออกหมายจับ “วิศวกร-คนขับเครน-ผู้ช่วยวิศวกร” คดีคานเหล็กไซต์ก่อสร้างรถไฟฟ้าถล่ม
โดย ทีมข่าวอาชญากรรม
30 เมษายน 2560 19:11 น. (แก้ไขล่าสุด 30 เมษายน 2560 19:56 น.)

ออกหมายจับ 3 บุคคลเกี่ยวข้องเหตุคานรถไฟฟ้าถล่มทับคนงานดับ
โดย MGR Online
30 เมษายน 2560 19:38 น.


หมายจับ3ผู้รับผิดชอบ คานเหล็กรถไฟฟ้าถล่ม
โดย ผู้จัดการรายวัน
30 เมษายน 2560 21:45 น. (แก้ไขล่าสุด 1 พฤษภาคม 2560 06:16 น.)

MGR Online - บช.น.ออกหมายจับ “วิศวกร-คนขับเครน-ผู้ช่วยวิศวกร” คดีคานเหล็กไซต์ก่อสร้างรถไฟฟ้าถล่มหน้าโรงเรียนวัดดอนเมือง มีผู้เสียชีวิต 3 ราย ฐานกระทำการโดยประมาทและการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

วันนี้ (30 เม.ย.) ที่ห้องประชุม ศปก.สน.ดอนเมือง พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. เดินทางมาประชุมติดตามความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุคานเหล็กของรถไฟฟ้าสายสีแดงหล่นลงมาบนถนนกำแพงเพชร 6 บริเวณหน้าโรงเรียนวัดดอนเมือง แขวงและเขตดอนเมือง กทม. เป็นเหตุให้คนงานที่ทำงานอยู่ด้านบนตกลงมาพร้อมชิ้นส่วนอุปกรณ์ก่อสร้าง เสียชีวิต 3 ราย เมื่อช่วงค่ำวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยมี พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ บัณฑิตย์ ผกก.สน.ดอนเมือง พ.ต.ท.รังสรรค์ สอนสิงห์ รอง ผกก.(สอบสวน) สน.ดอนเมือง พ.ต.ท.ภาคภูมิ บุญเจริญพาณิชย์ สว.สส.สน.ดอนเมือง และ พ.ต.ต.เทพพรศักดิ์ กากแก้ว สว.(สอบสวน) สน.ดอนเมือง เข้าร่วมประชุม

พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวภายหลังการประชุมว่าวันนี้ได้มากำหนดแนวทางการสอบสวน เบื้องต้นพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นแล้ว 3 ราย ควบคุมตัวไว้ได้แล้ว 2 ราย จากการสอบสวนทราบเพียงว่าคนขับเครนจบการศึกษา ป.6 ส่วนผู้ช่วยวิศวกรจบ ม.6 แต่รายละเอียดอื่นๆ ทั้งสองคนขอให้การในชั้นศาลก่อนยื่อหลักทรัพย์ขอประกันตัวออกไป ส่วนผู้ต้องหาอีกรายได้เร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ติดตามตัวมารับทราบข้อกล่าวหาให้ได้เร็วที่สุดซึ่งคาดว่าจะได้ตัวในเร็วๆ นี้

ผบช.น.กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนหาความเชื่อมโยงถึงผู้กระทำผิดรายอื่นๆ เป็นลำดับชั้นสูงขึ้นไปเรื่อยๆ หากพบการกระทำผิดจะดำเนินการทางกฎหมายทันทีทั้งทางแพ่งและอาญา และยังมอบหมายให้ทางทีมพนักงานสอบสวนหาข้อมูลว่า ที่ผ่านมาเกิดเหตุคนงานเสียชีวิตที่ไหนบ้างเพื่อนนำมาประกอบสำนวนส่งให้ศาลพิจารณาต่อไป

สำหรับผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ 3 ราย คือ นายพรชัย เบ้าทุมมา อายุ 37 ปี ชาว จ.ขอนแก่น เป็นคนขับเครน, นายรัฐกร จิตศรีพิทักษ์เลิศ อายุ 40 ปี เป็นวิศวกรผู้ควบคุมงาน ชาว กทม. และนายบุญสืบ พานคำ อายุ 48 ปี ชาว จ.สระบุรี เป็นผู้ช่วยวิศวกรควบคุมงาน หมายจับศาลอาญาเลขที่ 1063/2560 ลงวันที่ 29 เม.ย. 2560 1064/2560 ลงวันที่ 29 เม.ย. 2560 และ 1065/2560 ลงวันที่ 29 เม.ย. 256 ตามลำดับ ในข้อหากระทำการโดยประมาทและการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ทั้งนี้ นายพรชัยและนายบุญสืบได้ขอยื่นประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวนวงเงินคนละ 150,000 บาท ส่วนนายรัฐกร เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป

//-----------------

ออกหมายจับ3จับกุมได้2ราย คดีคานเหล็กสร้างรถไฟฟ้าถล่ม3ศพ
กรุงเทพธุรกิจ
30 เมษายน 2560

คดีคานเหล็กสร้างรถไฟฟ้าถล่มเซ่น3ศพ! นครบาลออกหมายจับ3จับกุมได้2ราย ประกันตัวไปแล้ว ผงะคนขับเครนจบป.6 ส่วนผู้ช่วยวิศวกรจบแค่ม.6 เผย "วิศวกร" ควบคุมงานยังล่องหน
จากกรณีเกิดเหตุอุปกรณ์ก่อสร้างคานเหล็ก ของรถไฟฟ้าสายสีแดง หล่นลงมาบนถนนกำแพงเพชร6 บริเวณหน้าโรงเรียนวัดดอนเมือง แขวงและเขตดอนเมือง กรุงเทพฯ จนทำให้คนงานที่ทำงานอยู่ด้านบนตกลงมาพร้อมชิ้นส่วนอุปกรณ์ก่อสร้าง เสียชีวิต 3 ราย เมื่อช่วงค่ำวันที่ 28 เม.ย. ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 14.15 น. วันที่ 30 เม.ย. ที่ห้องประชุม ศปก.สน.ดอนเมือง พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. ได้เดินทางมาประชุมติดตามความคืบหน้าทางคดีโดยมี พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ บัณฑิตย์ ผกก.สน.ดอนเมือง พ.ต.ท.รังสรรค์ สอนสิงห์ รอง ผกก. (สอบสวน) สน.ดอนเมือง พ.ต.ท.ภาคภูมิ บุญเจริญพาณิชย์ สว.สส.สน.ดอนเมือง และพ.ต.ท.เทพพรศักดิ์ กากแก้ว สว.(สอบสวน)สน.ดอนเมือง เข้าร่วมประชุม

หลังเสร็จสิ้นการประชุม พล.ต.ท.ศานิตย์ เปิดเผยว่า วันนี้ได้มาชี้แนะแนวทางการสอบสวน เบื้องต้นได้ให้พนักงานรวบรวมหลักฐานออกหมายจับเพื่อแสดงให้พี่น้องประชาชนเห็นทางเจ้าหน้าที่เห็นความสำคัญของคดีและเห็นใจญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิต โดยขณะนี้ออกหมายจับแล้ว 3 ราย เป็นผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดย 2 ใน 3 จับกุมได้แล้ว จากการสอบสวนทราบแค่ว่า คนขับเครนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ส่วนผู้ช่วยวิศวกรจบมัธยมศึกษาปีที่ 6 แต่รายละเอียดอื่นๆทั้ง 2 ขอให้การในชั้นศาลและถูกประกันตัวออกไป ส่วนอีกรายได้เร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ติดตามตัวมารับทราบข้อกล่าวหาให้ได้เร็วที่สุด ซึ่งคาดว่าจะได้ตัวในเร็วๆนี้

ทั้งนี้ ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนหาความเชื่อมโยงถึงผู้กระทำผิดรายอื่นๆ เป็นลำดับชั้นสูงขึ้นไปเรื่อยๆ หากพบการกระทำผิดจะดำเนินการทางกฎหมายทันทีทั้งทางแพ่งและอาญา และยังมอบหมายให้ทางทีมพนักงานสอบสวน หาข้อมูลว่า ที่ผ่านมาเกิดเหตุคนงานเสียชีวิตที่ไหนบ้าง เพื่อนำมาประกอบสำนวนส่งให้ศาลพิจารณาต่อไป

มีรายงานว่าพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ 3 รายคือนายพรชัย เบ้าทุมมา อายุ 37 ปี ชาวอ.สีชมพู จ.ขอนแก่น เป็นคนขับเครน นายรัฐกร จิตศรีพิทักษ์เลิศ อายุ 40 ปี เป็นวิศวกรผู้ควบคุมงาน ชาวกทม. และนายบุญสืบ พานคำ อายุ 48 ชาวอ.หนองแค จ.สระบุรี เป็นผู้ช่วยวิศวกรควบคุมงาน หมายจับศาลอาญาเลขที่ 1063/2560 ลงวันที่ 29 เม.ย. 2560 1064/2560 ลงวันที่ 29 เม.ย. 2560 และ 1065/2560 ลงวันที่ 29 เม.ย. 256 ตามลำดับ ในข้อหา “กระทำการโดยประมาทและการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย” ทั้งนี้นายพรชัย และนายบุญสืบ ได้ขอยืนประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวนวงเงินคนละ 150,000 บาท ส่วนนายรัฐกร เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42631
Location: NECTEC

PostPosted: 01/05/2017 12:10 pm    Post subject: Reply with quote

การรถไฟฯ แจงข่าวไจก้า ระบุยังไม่มี “แบล็กลิสต์” อิตาเลียนไทยฯ
โดย MGR Online
1 พฤษภาคม 2560 09:14 น. (แก้ไขล่าสุด 1 พฤษภาคม 2560 09:35 น.)

ร.ฟ.ท.เผยยังไม่หารือไจก้าถึงมาตรการลงโทษ บ.อิตาเลี่ยนไทย
โดย MGR Online
1 พฤษภาคม 2560 09:36 น.

ผู้ว่าการการรถไฟฯ ยันไจก้ายังไม่แบล็กลิสต์อิตาเลียนไทยฯ และการรถไฟฯ ยังไม่ได้หารือกับไจก้า หรือมีหนังสือจากไจก้ามาแต่อย่างใด ตามที่มีข่าว พร้อมเร่งหาข้อสรุปและอุบัติเหตุและการป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำอีก

จากกรณีที่มีข่าวปรากฏอยู่ตามสื่อต่างๆ ในประเด็นทางองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศญี่ปุ่น (ไจก้า) เตรียมขึ้นบัญชีดำ (แบล็กลิสต์) บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD ผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-รังสิต สัญญา 2 กรณีเกิดอุบัติเหตุในระหว่างการก่อสร้างจนมีพนักงานเสียชีวิตถึง 3 รายนั้น นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รักษาการผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ชี้แจงว่า

ขณะนี้การรถไฟฯ ยังไม่มีการพูดคุยหารือใดๆ ร่วมกันกับไจก้า ถึงมาตรการหรือบทลงโทษที่จะดำเนินการกับผู้รับจ้างบริษัท อิตาเลียนไทยฯ อีกทั้งยังไม่ได้รับหนังสือแจ้งเตือนอย่างเป็นทางการจากไจก้าตามที่ปรากฏเป็นข่าวตามสื่อต่างๆ

ในส่วนของการแจ้งให้บริษัท อิตาเลียนไทยฯ หยุดการก่อสร้างนั้น ในขณะนี้จะสั่งหยุดงานเฉพาะงานติดตั้งชิ้นส่วนโครงสร้างทางวิ่งรถไฟยกระดับ (Launcher) จนกว่าจะได้ข้อสรุปถึงสาเหตุของอุบัติเหตุ พร้อมทั้งกำหนดแนวทางการป้องกันและแก้ไขเพื่อความปลอดภัยในการก่อสร้างและไม่ให้เกิดเหตุดังกล่าวขึ้นอีก

//---------------------

การรถไฟฯ ชี้แจงยังไม่ได้หารือกับไจก้า เรื่องแบล็กลิสต์บริษัท อิตาเลี่ยนไทย
ทีมพีอาร์ รฟท.
30 เมษายน 2560

ตามที่มีข่าวปรากฏอยู่ตามสื่อต่างๆ ในประเด็น “ไจก้า” เตรียมแบล็กลิสต์อิตาเลี่ยนไทยหลังเกิดอุบัติเหตุในระหว่างการก่อสร้างโครงการระบบรถไฟชานเมือง(สายสีแดง)ช่วงบางซื่อ-รังสิต จนมีพนักงานเสียชีวิตถึง 3 คน นั้น

นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. ขอเรียนชี้แจงเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ การรถไฟฯ ยังไม่มีการพูดคุยหารือใดๆ ร่วมกันกับ Jica ถึงมาตรการหรือบทลงโทษที่จะดำเนินการกับผู้รับจ้างบริษัท อิตาเลียนไทยฯ อีกทั้งยังไม่ได้รับหนังสือแจ้งเตือนอย่างเป็นทางการจาก Jica ตามที่ปรากฏเป็นข่าวตามสื่อต่างๆ

ในส่วนของการแจ้งให้บริษัท อิตาเลียนไทยฯ หยุดการก่อสร้างนั้น จะสั่งหยุดงานเฉพาะงานติดตั้งชิ้นส่วนโครงสร้างทางวิ่งรถไฟยกระดับ (Launcher) จนกว่าจะได้ข้อสรุปถึงสาเหตุของอุบัติเหตุพร้อมทั้งกำหนดแนวทางการป้องกันและแก้ไข เพื่อความปลอดภัยในการก่อสร้างและไม่ให้เกิดเหตุดังกล่าวขึ้นอีก


Last edited by Wisarut on 02/05/2017 11:00 am; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42631
Location: NECTEC

PostPosted: 01/05/2017 12:12 pm    Post subject: Reply with quote

ชดเชยคนงานเหยื่อคานสีแดงรายละ 5.4 แสนบาท พบเหตุเลื่อนเครนถอยหลังทำให้ตัวยึดขาด
โดย MGR Online
29 เมษายน 2560 21:10 น. (แก้ไขล่าสุด 30 เมษายน 2560 08:53 น.)

รองผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท. พร้อมด้วยนายกวิศวกรรมสถานฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบเบื้องต้นเครนที่ใช้ติดตั้งทางรถไฟสายสีแดงหล่น จากมีการดึงเครนถอยหลังและเพิ่มแรงดึงตัวยึดจึงเกิดขาด ด้านผู้รับเหมาจ่ายชดเชยผู้เสียชีวิตรายละ 540,000 บาท

วันนี้ (29 เมษายน 2560) นายประเสริฐ อัตตะนันทน์ รองผู้ว่าการกลุ่มระบบรถไฟฟ้า และ ดร.ธเนศ วีระศิริ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ร่วมตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุโครงสร้างในส่วนของ SUPPORT ของ LAUNCHER ที่ใช้สำหรับการติดตั้งทางรถไฟยกระดับ ซึ่งนายประเสริฐได้ชี้แจงถึงการเกิดอุบัติเหตุว่า เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. ขณะที่ผู้รับจ้าง ITD (สัญญา 2) กำลังเดิน Truss No.3 (Launcher) จาก Pier 364 ไปยัง Pier 365 เพื่อเตรียมการติดตั้ง Viaduct Segment ช่วง P363-P364 เกิดเหตุ LCB (โครงสร้างเหล็กสำหรับรองรับ Truss ซึ่งยึดบนหัวเสาโดย PT Bar 4 เส้นฝังในหัวเสา) ซึ่งวางบนหัวเสา P364 ร่วงหล่นลงมาพร้อมคนงาน 3 คนที่ปฏิบัติงานควบคุมการติดตั้ง Truss อยู่บนหัวเสา ทำให้คนงานร่วงหล่นลงมาเสียชีวิตทั้งหมด

จากการสอบถามผู้ควบคุม Truss ได้รายละเอียดว่า ในระหว่างการเดินหน้า Truss เกิดเหตุมีการติดขัดของ roller ทำให้ Truss ไม่สามารถเดินหน้าได้ ผู้ควบคุมจึงได้บังคับเดิน Truss ถอยหลังแต่ Truss ยังคงติดขัดอยู่ เมื่อเพิ่มแรงดึงถอยหลังมากขึ้น ซึ่งอุปกรณ์ดังกล่าวไม่สมควรที่จะบังคับให้เดินถอยหลัง จึงทำให้เกิดแรงดึงตัว LCB มาทางด้านหลังทำให้ PT Bar ที่ยึด LCB กับหัวเสาขาด อุปกรณ์ LCB ทั้งชุดพร้อมคนงาน 3 คนซึ่งมี Safety Belt ยึดเกาะกับ LCB ร่วงหล่นลงมาจากหัวเสาเสียชีวิต คือ นายสงัด เทพสันทัด อายุ 50 ปี นายไมตรี สุภาศิวัฒน์ อายุ 33 ปี และนายสันติพงษ์ แซ่ว่าง อายุ 22 ปี ผู้เสียชีวิตจะได้รับเงินชดเชยจากผู้รับจ้างและกองทุนทดแทน รายละประมาณ 540,000 บาท

ส่วนการดำเนินการก่อสร้าง การรถไฟฯ ได้ให้ทางบริษัทฯ หยุดงานอุปกรณ์ประเภทเดียวกันทั้งหมดจนกว่าผลการสอบสวนหาสาเหตุจะแล้วเสร็จ และต้องมีการเรียกบริษัทฯ ชี้แจงรายละเอียดที่เกิดขึ้นและนำเสนอมาตรการป้องกันมิให้เกิดเหตุขึ้นอีก

อย่างไรก็ดี การรถไฟฯ จะกำชับผู้รับจ้างโครงการในทุกโครงการก่อสร้างของการรถไฟฯ ให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันความปลอดภัยในการปฏิบัติงานอย่างเคร่งครัด รวมถึงการตรวจสอบและติดตามในเรื่องดังกล่าวให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนและสวัสดิภาพของผู้ปฏิบัติงานในโครงการเป็นหลัก ในนามของการรถไฟแห่งประเทศไทย ขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์การสูญเสียที่เกิดขึ้นอย่างสุดซึ้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อครอบครัวและญาติผู้เสียชีวิตมา ณ ที่นี้
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 46, 47, 48 ... 147, 148, 149  Next
Page 47 of 149

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©