Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311235
ทั่วไป:13181107
ทั้งหมด:13492342
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน)
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน)
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 208, 209, 210 ... 542, 543, 544  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42625
Location: NECTEC

PostPosted: 12/04/2017 10:55 am    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
เคลียร์แบบก่อสร้าง รถไฟไทย-จีน ขยับแผนตอกเข็ม ส.ค. ยันใช้วัสดุผลิตในประเทศ
โดย MGR Online 11 เมษายน 2560 18:39 น.


ตอนนี้จีนบ่นว่ามาตรฐานเหล็กข้ออ้อยไทย เน้นคาร์บอนสูง ซึ่งผิดกะที่จีน นิยมผลิต เคราะห์ดี ที่ไทยบอกว่า พอผลิตเหล็กข้ออ้อยคาร์บอนต่ำแบบที่จีนต้องการ (สงสัยจากโรงเหล็กไทยน็อกซ์ หรือ สยามยามาโต้) เพื่อลดค่าขนส่ง - งานนี้ ใช้วัสดุที่ไทยทำได้ ให้มากที่สุด เพื่อลดค่าขนส่ง

//-----------------

“อาคม”เผยรถไฟไทย-จีนคาดลงนามเดือนมิ.ย.ได้ 2 สัญญา
ฐานเศรษฐกิจ
11 เมษายน 2560


นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าภายหลังการร่วมหารือและลงนามบันทึกผลการประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟ ระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 17 ที่เมืองคุนหมิง สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ 10 เม.ย.2560 ว่า ที่ประชุมได้มีการปรับแผนเพื่อให้เข้ากับสภาพการใช้งานในปัจจุบัน ทั้งนี้ มีความคืบหน้าเรื่องของการร่างสัญญา EPC -2.1 สัญญาออกแบบ และ EPC-2.2 สัญญาควบคุมงาน ได้ข้อสรุปร่วมกันเกือบ 100 % โดยจะเหลือบางส่วนเท่านั้น คาดว่าทั้ง 2 ส่วนนี้จะสามารถสรุปได้ภายเดือน เมษายน 2560 สำหรับแบบก่อสร้างจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ระยะทาง 3.5 กิโลเมตร และ 11 กิโลเมตร ทั้งนี้ ได้มีการยืนยันว่าจะต้องใช้วัสดุอุปกรณ์ในประเทศไทย

อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 สัญญานี้ คาดว่าจะสามารถลงนามได้ประมาณเดือนมิถุนายน 2560 และจะเปิดประกวดราคาหาบริษัทผู้รับเหมาในประมาณเดือนกรกฎาคม -สิงหาคม 2560 โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มก่อสร้างโครงการในช่วงแรกได้ประมาณ เดือนสิงหาคม 2560 ทั้งนี้ โครงการก่อสร้างจะใช้ระยะ 4 ปี นับจากการเริ่มก่อสร้างช่วงแรก

สำหรับระยะทาง ประกอบด้วย
ตอนที่ 1 ระยะทาง 3.5 กม. (สถานีกลางดง-ปางอโศก) /
ตอนที่ 2 จากปากช่อง-คลองขนานจิตร ระยะทาง 11 กม. /
ตอนที่ 3 แก่งคอย-โคราช ระยะทาง 119 กม. / และ
ตอนที่ 4 กรุงเทพฯ-แก่งคอย ระยะทาง 119 กม. โดยมูลค่าโครงการ 179,412 ล้านบาท

นอกจากนี้ สำหรับความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง เส้นกรุงเทพฯ-ระยอง ที่ผ่านมากระทรวงคมนาคม ได้รับนโยบายรัฐบาล เพื่อดำเนินการโครงการดังกล่าวให้รองรับเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC โดยจะเป็นลักษณะการเชื่อมต่อ 3 สนามบิน คือ สนามบินดอนเมือง สนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินอู่ตะเภา โดยเป็นการเชื่อมต่อจากโครงการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิ้งค์ โดยกระทรวงคมนาคมรับมติที่ประชุมมาเพื่อดำเนินการศึกษารายละเอียด ซึ่งในวงเงิน 100 ล้านบาท ทั้งนี้ การศึกษานั้นจะต้องดูความเหมาะสมว่าหากจะต้องเชื่อมต่อไปยังสนามบินอู่ตะเภาจะต้องมีมูลค่าลงทุนเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ มีรายละเอียดเพิ่มอย่างไร และการเชื่อมต่อมายังสนามบินสุวรรณภูมินั้น จะใช้ระบบแอร์พอร์ตเรลลิ้งค์หรือไม่ สำหรับกรอบดำเนินงานมอบหมายให้หาบริษัทที่ปรึกษาโครงการ 1 เดือน และจะต้องได้ข้อสรุปเรื่องของบริษัทผู้รับเหมาภายในปลายปี 2560


Last edited by Wisarut on 12/04/2017 11:02 am; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42625
Location: NECTEC

PostPosted: 12/04/2017 11:00 am    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
คมนาคมเล็งยุบรวมไฮสปีด-รถไฟแอร์พอร์ตลิงค์
กรุงเทพธุรกิจ 13 มีนาคม 2560

รวมสัมปทานไฮสปีด-แอร์พอร์ตลิงก์! กก.EEC ชู Single Operator เชื่อม 3 สนามบินแบบไร้รอยต่อ
โดย MGR Online
11 เมษายน 2560 19:14 น. (แก้ไขล่าสุด 12 เมษายน 2560 00:03 น.)


คณะกรรมการ EEC จัดงบ 100 ล้านเร่ง “คมนาคม-ร.ฟ.ท.” ศึกษารถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน พร้อมประมูลคัดเลือกผู้ให้บริการภายในสิ้นปี 60 “อาคม” ระบุนโยบาย Single Operator บริหารการเดินรถเชื่อม 3 สนามบินแบบไร้รอยต่อ พร้อมสั่งชะลอแอร์พอร์ตลิงก์ต่อขยายพญาไท-บางซื่อ-ดอนเมือง

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมรับมติคณะกรรมการนโยบายพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่เห็นชอบให้ปรับปรุงแผนงานขนส่งมวลชนทางราง โดยให้ใช้รถไฟความเร็วสูงในการเชื่อมการเดินทาง 3 สนามบิน คือ อู่ตะเภา-สุวรรณภูมิ-ดอนเมือง พร้อมจัดสรรงบประมาณ 100 ล้านบาทสำหรับดำเนินการศึกษา โดยหลักการจะศึกษาแนวเส้นทางรถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพฯ-ระยอง กรณีต้องเชื่อมเข้าสนามบินอู่ตะเภา จะมีค่าลงทุนเท่าไร มีความเหมาะสมอย่างไร ส่วนการเชื่อมเข้าสู่สนามบินสุวรรณภูมิ ควรจะใช้ระบบรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ที่มีเส้นทางเข้าสนามบินสุวรรณภูมิอยู่แล้ว โดยใช้สถานีลาดกระบังเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-ระยอง กับรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์หรือไม่ และช่วงที่เชื่อมไปสู่สนามบินดอนเมืองจะใช้ระบบอะไร โดยขณะนี้ต้องชะลอโครงการแอร์พอร์ตเรลลิงก์ส่วนต่อขยาย “พญาไท-บางซื่อ-ดอนเมือง” ไว้ก่อนเพื่อนำข้อมูลทั้งหมดมาประกอบการศึกษาดังกล่าว

โดยจะคัดเลือกที่ปรึกษาให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือนนี้เพื่อเร่งการศึกษาโดยเร็ว ซึ่งคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) อนุมัติจัดจ้างที่ปรึกษาแล้ว ทั้งนี้ คณะกรรมการ EEC กำหนดให้สรุปการศึกษาและคัดเลือกผู้รับงานในการบริหารรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินภายในสิ้นปี 2560

“ต้องรอการศึกษาก่อนว่ารูปแบบที่เหมาะสมสำหรับการบริหารดังกล่าวควรจะเป็นอย่างไร ซึ่งฝ่ายเลขาฯ EEC เสนอให้เป็น Single Operator ในการบริหาร ดังนั้น หากยึดแนวทางศึกษาโครงการเดิม จากกรุงเทพฯ-ระยอง จะเป็นระบบรถไฟความเร็วสูง ผู้บริหารโครงการจะต้องเป็นรายเดียวกับรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ ช่วงพญาไท-มักกะสัน-สุวรรณภูมิ หมายความว่าผู้ให้บริการรถไฟความเร็วสูงจะต้องเป็นผู้ให้บริการ รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ด้วย ซึ่งจะมีหลายวิธีในการบริหารการเดินรถแบบไร้รอยต่อ สำหรับการเชื่อม 3 สนามบิน โดยสามารถพิจารณาเรื่องการเชื่อมต่อระหว่างระบบก็ได้ ซึ่งจะมีความคุ้มค่ากว่าการใช้ระบบเดียววิ่งตลอดเส้นทาง เชื่อม 3 สนามบิน EEC ไม่ได้ห้าม” นายอาคมกล่าว

โดยตลอดแนวเส้นทางระหว่าง 3 สนามบินจะมีสถานีรถไฟที่สำคัญ สามารถพัฒนาพื้นที่รอบสถานีในเชิงพาณิชย์ ได้แก่ สถานีกลางบางซื่อ, สถานีลาดกระบัง, สถานีมักกะสัน, สถานีพญาไท
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42625
Location: NECTEC

PostPosted: 21/04/2017 8:28 pm    Post subject: Reply with quote

“บิ๊กตู่”ถก ป.ย.ป. วางฤกษ์ตอกเสาเข็มรถไฟไทย-จีน ส.ค.60 เล็งแก้กม.พีพีพี ลดขั้นตอนร่วมทุน
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
21 เมษายน 2560 เวลา 17:31:01 น.

“บิ๊กตู่” ถก ป.ย.ป. วางฤกษ์ตอกเสาเข็ม รถไฟไทย-จีน ส.ค.60 เล็ง แก้กม.พีพีพี ลดขั้นตอนร่วมทุนเหลือ 6-9 เดือน ให้การบ้าน “ดร.กบ”รับมือ “เวิลด์แบงก์” ประเมินทำธุรกิจยาก-ง่าย “สมคิด” ชง สังคยานากม.-ยกเครื่องสภาพัฒน์ รับแผนชาติ-ปฏิรูปประเทศ

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม แถลงผลการประชุมคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติและการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) ครั้งที่ 1/2560 ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธาน ว่า คณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินเชิงยุทธศาสตร์ (มินิ-คาบิเนต) ได้รายงานสรุปผลการดำเนินการว่า มีการลงนามสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้า สายสีน้ำเงินแล้วและจะเปิดเดินรถเชื่อมสายสีน้ำเงิน-สีม่วงในเดือนสิงหาคม 2560 ในส่วนโครงการรถไฟไทย-จีน จะเริ่มก่อสร้างช่วงแรกในเดือนสิงหาคม 2560 นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้มอบสํานักงานบริหารนโยบายของนายกรัฐมนตรี (PMDU) ที่มีนายอำพน กิตติอำพน เป็นผู้อำนวยการ ติดตามการจัดอันดับความยากง่ายในการประกอบธุรกิจ (DoingBusiness) และจากมีการแก้ไขกฎหมายจำนวน 4 ฉบับเพื่อเตรียมรับการตรวจสอบและประเมินของธนาคารโลกในเดือนพฤษภาคม 60

ทั้งนี้ภายในระยะ 2 เดือนข้าวหน้า จะปลดล็อคขับเคลื่อนและเร่งรัดนโยบายสําคัญ ตาม Agenda อีก 5เรื่อง ได้แก่ 1.การขับเลื่อนด้านการศึกษา 2.โครงการขยายโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงให้ครอบคลุมทั่วประเทศ (อินเทอร์เน็ตหมู่บ้าน) 3.ความคืบหน้าในการดำเนินการระบบการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) 4.การขับเคลื่อนด้านสาธารณสุข 5.การบริหารจัดการน้ำ

นายวิษณุกล่าวว่า ขณะที่คณะกรรมการเตรียมการปฏิรูปประเทศ ได้เสนอให้นายกรัฐมนตรีขับเคลื่อนวาระปฏิรูป 27 วาระของสภาขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศ (สปท.) ให้สำเร็จภายใน 1 ปี นอกจากนี้ สปท.ได้เสนอให้รัฐบาลขับเคลื่อน 4 เรื่องสำคัญ ได้แก่ 1.เรื่องตลาดคนจนให้มีขึ้นทุกจังหวัด รวมถึงการฟื้นฟูแหล่งน้ำชุมชน 2.การประกันภัยการเกษตร โดยมอบให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงการคลังรับผิดชอบ 3.การจัดตั้งศาลสิ่งแวดล้อม โดยจะหารือกับศาลถึงความพร้อมเนื่องจากปี 1 มีคดีสิ่งแวดล้อมนับหมื่นคดี และ 4.การผ่อนคลายมาตรการตามกฎหมายพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ.2556 หรือ กฎหมายพีพีพี เนื่องจากมีความเข้มงวดเกินไป ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการชักจูงนักลงทุนมาลงทุน

“สปท.เห็นว่าเมื่อไปขันน็อตจนตึงเพื่อป้องกันการทุจริตจึงต้องคลายล็อคการร่วมลงทุนให้เกิดความผ่อนคลายลดขั้นตอนบางขั้นตอนจากเดิมใช้เวลา 20 เดือน ให้เหลือ 6 -9 เดือน เพราะปัจจุบันถึงแม้จะใช้มาตรา 44 ปลดล็อคได้บางโครงการ แต่ในอนาคตใครทำให้เกิดขึ้นกับทุกโครงการจะดีกว่า โดยรัฐบาลจะนำไปศึกษาต่อไป”

นอกจากนี้นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้เสนอให้ที่ประชุมแก้ไขกฎหมายสำนักงานพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สภาพัฒน์ รวมถึงการปรับรูปแบบ เปลี่ยนชื่อใหม่ โดยที่ประชุมมอบหมายให้ตนเองและนายอำพน กิตติอำพน อดีตเลขาธิการคณะรัฐมนตรีและอดีตเลขาธิการสภาพัฒน์ เป็นที่ปรึกษา

“สภาพัฒน์เป็นหน่วยงานสำคัญ ที่ผ่านมาทำงานอยู่ 2 อย่าง หนึ่ง เป็นผู้วางแผน ทำแผน ติดตามแผน ด้านเศรษฐกิจและสังคมของชาติ สอง เป็นมันสมองให้ความเห็นรัฐบาลในโครงการต่าง ๆ แต่ต่อไปนี้สภาพัฒน์ต้องมีหน้าที่เพิ่มอีก 2เรื่อง ได้แก่ เป็นฝ่ายเลขานุการเรื่องยุทธศาสตร์ชาติ และ เป็นฝ่ายเลขานุการเรื่องการปฏิรูปประเทศ 11 ด้าน เพราะฉะนั้นสภาพัฒน์ต้องใหญ่ขึ้น บทบาทมากขึ้น คนมากขึ้น หน้าที่มากขึ้น รับผิดชอบมากขึ้น จะทำงานแบบเดิมไม่ได้”

นายวิษณุทิ้งท้ายว่า ในที่ประชุมยังได้รายงานเรื่องที่ไม่ได้กำหนดกรอบระยะเวลาในการดำเนินการตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบ เช่น กฎหมายเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของประชาชนและชุมชนในท้องถิ่นในการอนุรักษ์การใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้สอดคล้องกับอํานาจหน้าที่ที่เพิ่มขึ้นของอปท.ตามรัฐธรรมนูญฯ ให้กระทรวงมหาดไทย กฎหมายว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล ให้สำนักงานศาลยุติธรรม สำนักงานศาลปกครอง เป็นต้น เป็นผู้ดำเนินการ
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42625
Location: NECTEC

PostPosted: 27/04/2017 12:18 pm    Post subject: Reply with quote

ไฮสปีดเทรน 2 เส้นสะดุด! ต้องรับฟังความเห็นเอกชนใหม่
ข่าวสด
วันที่ 26 เมษายน 2560 - 15:30 น.


นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานกระทรวงคมนาคม ปี 2560 ว่า สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) เส้นทาง กรุงเทพฯ-หัวหิน และกรุงเทพฯ-ระยอง นั้น สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) สั่งให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กลับไปเปิดรับฟังความคิดเห็นจากนักลงทุนใหม่ เพราะการรับฟังความเห็นแบบเดิมด้วยการสอบถามความเห็นผ่านจดหมาย ผิดเงื่อนไขการร่วมทุนแบบพีพีพี

ทั้งนี้ การรับฟังความคิดเห็นครั้งใหม่จะมีการสอบถามความเห็นและข้อเสนอแนะจากนักลงทุนให้ครบทุกมิติ เพื่อให้โครงการสอดคล้องกับความต้องการและดึงดูดให้เข้าร่วมลงทุน เนื่องจากเป็นการลงทุนแบบร่วมทุน คาดว่าจะรับฟังความเห็นแล้วเสร็จและสรุปเสนอ สคร. พิจารณาได้ช่วงต้นเดือนมิ.ย.นี้

นอกจากนี้ รฟท. อยู่ระหว่างจัดทำทีโออาร์ว่าจ้างที่ปรึกษาเพื่อศึกษาความเหมาะสมโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน คือ ดอนเมือง สุวรรณภูมิ และอู่ตะเภา ตามมติคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียบเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งมีพ.ล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เพื่อดำเนินการควบรวมโครงการรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-ระยอง และรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ที่พบว่ามีเส้นทางบางส่วนที่ทับซ้อนกัน

นายพีระพล กล่าวต่อถึงโครงการรถไฟความเร็วสูง ไทย-จีน ว่า รฟท. จะเสนอผลสรุปโครงการให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาช่วงต้นเดือนพ.ค. ส่วนรถไฟไทย-ญี่ปุ่น จะต้องหารือกับญี่ปุ่นอีกครั้งว่าจะเสนอรายงานผลการศึกษาความเหมาะสมโครงการให้ไทยทันตามกำหนดในเดือนมิ.ย. หรือไม่

ส่วนโครงการจัดซื้อรถเมล์ไฟฟ้าจำนวน 200 คันขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) นั้นตน เร่งรัดให้ ขสมก. เร่งจัดทำทีโออาร์ให้สามารถนำเสนอให้กระทรวงพิจารณาได้ภายในเดือนพ.ค. เพื่อนำผลสรุปโครงการเสนอให้ครม. พิจารณาอนุมัติโครงการให้ได้ในช่วงต้นเดือนมิ.ย.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42625
Location: NECTEC

PostPosted: 01/05/2017 7:29 pm    Post subject: Reply with quote

ซาวเสียงเอกชนใหม่! ลงทุน PPP 2 แสนล้าน ไฮสปีดระยอง-หัวหิน
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
1 พฤษภาคม 2560 เวลา 10:15:33 น.


นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ รองปลัดกระทรวงคมนาคมด้านโครงสร้างพื้นฐาน เปิดเผยว่า ได้ติดตามโครงการลงทุนระยะเร่งด่วนปี 2559-2560 วงเงินลงทุนกว่า 2.2 ล้านล้านบาท จำนวน 56 โครงการยังเดินหน้าตามแผนงาน มี 8 โครงการอยู่ระหว่างก่อสร้าง อาทิ ทางคู่จิระ-ขอนแก่น, ท่าเทียบเรือชายฝั่ง A แหลมฉบัง, มอเตอร์เวย์พัทยา-มาบตาพุด, บางปะอิน-โคราชและบางใหญ่-กาญจนบุรี, รถไฟฟ้าสายสีส้มศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี, สนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 ส่วนอยู่ขั้นตอนประมูลมีสายสีชมพูแคราย-มีนบุรีและสีเหลืองลาดพร้าว-สำโรง คาดว่าจะเซ็นสัญญาภายในเดือน พ.ค.นี้

รถไฟทางคู่ 5 เส้นทางหลังปรับทีโออาร์ใหม่ กำลังเปิดประมูลสายหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ 90 กม. วงเงิน 8,500 ล้านบาท แยกเป็นงานโยธาและระบบราง 1 สัญญา และงานระบบอาณัติสัญญาณ 1 สัญญา จะได้ผู้รับเหมา ก.ค.นี้ ส่วนลพบุรี-ปากน้ำโพ, มาบกะเบา-จิระ, ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร และนครปฐม-หัวหิน จะทยอยรับฟังความคิดเห็นทีโออาร์ พ.ค. และได้ผู้รับเหมา ส.ค.นี้

"พ.ค.นี้การรถไฟฯจะเปิดทดสอบความสนใจเอกชนเข้ามาลงทุนรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-ระยอง ระยะทาง 193.5 กม. วงเงิน 152,528 ล้านบาท และกรุงเทพฯ-หัวหิน ระยะทาง 211 กม. วงเงิน 94,673 ล้านบาท เพื่อประกอบการเสนอสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และบอร์ด PPP ภายใน มิ.ย.นี้ เพราะต้องทำข้อมูลใหม่ทั้งหมด ส่วนการรวมระบบแอร์พอร์ตลิงก์กับรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อม 3 สนามบินคือ ดอนเมือง สุวรรณภูมิ และอู่ตะเภา รองรับการพัฒนาเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรือ EEC การรถไฟฯได้งบฯ 100 ล้านบาท ศึกษารายละเอียด จะใช้เวลาประมาณ 10 เดือน"
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44331
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 04/05/2017 10:58 am    Post subject: Reply with quote

คมนาคมตีกลับรถไฟเร็วสูงไทย-จีนให้รฟท.ศึกษาเพิ่ม
โพสต์ทูเดย์ 03 พฤษภาคม 2560 เวลา 21:47 น.

คมนาคมตีกลับโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ให้จัดทำข้อมูลเพิ่ม-ประเมินผลกระทบจากสถานการณ์ต่างๆ

นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รักษาการผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมได้ตีกลับให้ รฟท.ไปศึกษารายละเอียดโครงการรถไฟความเร็วสูง ไทย-จีน เส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 252.5 กิโลเมตร วงเงิน 1.79 แสนล้านบาท เนื่องจากรายงานดังกล่าว ยังไม่สมบูรณ์ 100% เพราะยังขาดการประเมินความเป็นไปได้ของสถานการณ์ต่างๆ รวมถึงผลกระทบที่จะตามมา เช่น ถ้าผู้โดยสารต่ำกว่าเป้า 10%จะส่งผลกระทบต่อรายได้อย่างไร หรือถ้าผู้โดยสารต่ำกว่าเป้าหมาย 20% จะส่งผลอย่างไร

นายอานนท์กล่าวต่อว่า รถไฟจะเร่งจัดทำข้อมูลเพิ่มเติมและนำเสนอโครงการให้คณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. เห็นชอบอีกครั้งเพื่อเสนอกลับมายังกระทรวงก่อนส่งต่อให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป โดยคาดว่าจะนำเสนอบอร์ดให้พิจารณาได้เร็วที่สุดช่วงปลายเดือนพ.ค. นี้

แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาบอร์ด รฟท.ได้เห็นชอบโครงการรถความเร็วสูง ไทย-จีน มาแล้วครั้งหนึ่ง แต่กระทรวงคมนาคมได้สั่งให้ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและให้นำเข้าบอร์ด เพื่อขอเห็นชอบใหม่ เนื่องจากต้องการให้พิจารณาข้อมูลที่ได้ศึกษาเพิ่มเติมทั้งหมด เพื่อความรอบคอบและสมบูรณ์ของโครงการ
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42625
Location: NECTEC

PostPosted: 05/05/2017 8:36 pm    Post subject: Reply with quote

ลุ้นผลศึกษา‘ไจก้า’ พัฒนาสถานีไฮสปีด
ออนไลน์เมื่อ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2560
ตีพิมพ์ใน จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,258 วันที่ 4 - 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2560


“อาคม” ลุ้นไจก้าเผยผลการศึกษาแนวทางการพัฒนาสถานีไฮสปีดเทรนเส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ คาดชัดเจนรูปแบบกลางปีนี้ นักวิชาการผังเมืองแนะจับตายุทธศาสตร์ญี่ปุ่นพัฒนาไฮสปีดเทรนเชื่อมเชียงใหม่-อยุธยา-พัทยา-ระยอง ผลิตป้อนให้ญี่ปุ่น

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ขณะนี้เร่งติดตามความคืบหน้าผลการศึกษาขององค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น(ไจก้า) ที่ดำเนินการศึกษารูปแบบการพัฒนาพื้นที่แต่ละสถานีในโครงการรถไฟความเร็วสูงเส้นทางกรุงเทพฯ-พิษณุโลก-เชียงใหม่เพื่อให้โครงการมีมูลค่าและคุ้มค่าด้านการลงทุนจากการพัฒนาพื้นที่แต่ละสถานีให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

ล่าสุดกระทรวงคมนาคมได้มีการประชุมร่วมกับไจก้าในการศึกษาแผนแม่บทระบบรางระยะที่ 2 หรือ M-MAP 2 ว่า ในเดือนกันยายนนี้ทางไจก้าจะนำทีมงานเข้ามาเวิร์กช็อปตัวโครงการที่กรุงเทพมหานคร โดยทางไจก้าต้องการที่จะเร่งรัดการจัดทำแผนให้ฝ่ายไทย ซึ่งก็สอดคล้องกับที่ฝ่ายไทยต้องการเสนอแผนแม่บทให้กับคณะรัฐมนตรี(ครม.) ก่อนที่จะลงพื้นที่เพื่อสำรวจและจัดทำรายละเอียดแต่ละโครงการ คาดว่าจะใช้ระยะเวลาราว 1 ปี โดยเนื้อหาหลักในการศึกษาครั้งนี้ก็เพื่อตรวจสอบว่าโครงการรถไฟฟ้า 10 สายที่มีอยู่เพียงพอต่อระบบโครงข่ายหรือไม่ และหากมีการขยายของเมืองออกไปอีกต้องเพิ่มเส้นทางรถไฟฟ้าอีกกี่เส้นทาง ซึ่งอาจไม่ตรงตามกับแผนเดิมที่เคยทำไว้

นอกจากนี้ทางไจก้ายังได้มาเสนอแผนการเชื่อมต่อเส้นทางรถไฟฟ้ากับทั้ง 3 ท่าอากาศยานหลักของไทย ซึ่งขณะนี้ก็ยังเป็นเพียงแค่รับฟังเท่านั้น เพราะต้องรอให้ที่ปรึกษาของการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) ทำการสำรวจและออกแบบให้แล้วเสร็จเสียก่อน คาดว่าจะไม่เกินเดือนมิถุนายนนี้ หากผลการศึกษาสอดคล้องกันก็อาจมีความร่วมมือระหว่างฝ่ายไทยและญี่ปุ่นในโครงการนี้ แต่ในเบื้องต้นโครงการรถไฟความเร็วสูงเส้นทางกรุงเทพฯ- ระยองก็คงต้องชะลอออกไปก่อนเพื่อรอผลการศึกษาให้แล้วเสร็จ

"ไจก้าได้นำเสนอแนวคิดการเชื่อมโยงรถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพฯ - ระยอง และกรุงเทพฯ - เชียงใหม่ เข้าด้วยกันอีกทั้งยังจะเป็นการเชื่อมโยงพื้นที่อุตสาหกรรมของจังหวัดอยุธยา ผ่านกรุงเทพมหานครและภาคตะวันออก นอกเหนือจากช่วยสนับสนุนด้านการท่องเที่ยว รวมทั้งเป็นการพัฒนารถไฟความเร็วสูงทั้ง 2 เส้นทางให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยการใช้โครงสร้างที่มีอยู่แล้วของ Airport Rail Link ให้เกิดประโยชน์สูงสุด"

ด้านรศ.มานพ พงศทัต ศาสตราภิชาน ภาควิชาเคหะการ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่ารัฐบาลจะต้องลงลึกในรายละเอียดแผนยุทธศาสตร์รถไฟความเร็วสูงของญี่ปุ่นให้ลึกซึ้งโดยเฉพาะการพัฒนาแนวเส้นทางนอกเหนือจากจะเกิดประโยชน์ต่อโครงการด้านการคมนาคมขนส่งแล้วยังเชื่อมโยงเชียงใหม่ที่มีนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นไปท่องเที่ยวแต่ละปีจำนวนมาก อีกทั้งยังมีนักธุรกิจญี่ปุ่นและมีโครงการที่อยู่อาศัยของญี่ปุ่นหลายโครงการทั้งเชียงใหม่ พระนครศรีอยุธยา ชลบุรีและระยอง

นอกจากนั้นยังเชื่อมโยงกับแหล่งอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นที่อยู่ในโซนพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาอีกหลายโครงการซึ่งเป็นอู่ข้าวอู่น้ำของไทย นอกเหนือจากพื้นที่กรุงเทพมหานครยังเชื่อมกับพื้นที่พัทยา ชลบุรีที่มีกลุ่มบริษัทญี่ปุ่นอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมในโซนพื้นที่ภาคตะวันออกจำนวนมาก โดยเฉพาะการอำนวยความสะดวกให้ขนส่งออกสู่ท่าเรือแหลมฉบังไปยังประเทศต่างๆได้อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น

"ฝ่ายญี่ปุ่นมาดำเนินการให้ฟรีแต่คงอยากให้บริษัทต่างๆในญี่ปุ่นได้รับสิทธิ์ดำเนินโครงการนี้บ้างทั้งการก่อสร้างหรือด้านอื่นๆ อาทิการก่อสร้าง การผลิตขบวนรถ ฯลฯ นอกเหนือจากการอำนวยความสะดวกให้นักธุรกิจ นักท่องเที่ยวและประชาชนชาวญี่ปุ่นในปประเทศไทย ดังนั้นผังเมืองต้องให้สอดคล้องกับแผนการพัฒนา เพราะเป็นการพัฒนาในผังพื้นที่เฉพาะอาจจะไม่เหมือนกับที่ญี่ปุ่นดำเนินการในญี่ปุ่นได้ทั้งหมดเพราะไทยยังคงมีเอกลักษณ์ในแต่ละพื้นที่แตกต่างกันไป อาทิ เชียงใหม่ สุโขทัย อยุธยา จึงต้องหารือร่วมกับผังเมือง นักธุรกิจ นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ให้ชัดเจน เปิดรับฟังความเห็นประชาชนให้ได้ข้อสรุปแล้วจึงเร่งผลักดันต่อไป"
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44331
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 24/05/2017 7:04 pm    Post subject: Reply with quote

ใกล้ตอกเข็ม “รถไฟไทย-จีน” มิ.ย.ชง ครม.-เปิดประมูล ส.ค.
โดย MGR Online 24 พฤษภาคม 2560 16:57 น. (แก้ไขล่าสุด 24 พฤษภาคม 2560 17:52 น.)

ใกล้ตอกเข็ม “รถไฟไทย-จีน” มิ.ย.ชง ครม.-เปิดประมูล ส.ค.
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนายหวัง เสี่ยวเทา รองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน ประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 18 ที่ กรุงเทพ วันที่ 23 พฤษภาคม 2560

ร.ฟ.ท.ชงบอร์ด 29 พ.ค.นี้ขออนุมัติโครงการรถไฟไทย-จีน กรุงเทพฯ-โคราช มูลค่า 1.79 แสนล้าน “อาคม” ขีดเส้นเร่งชง ครม. มิ.ย.นี้ เปิดประมูลก่อสร้างตอนแรก 3.5 กม. ส.ค. คาดตอกเข็ม ก.ย.

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 18 ที่กรุงเทพฯ ว่า โดยรวมได้ข้อสรุปแล้ว โดยเฉพาะขั้นตอนการปฏิบัติต่างๆ คงยังเหลือรายละเอียดอีกไม่มาก ซึ่งฝ่ายเทคนิคของทั้งสองฝ่ายจะเร่งหารือให้ได้ข้อสรุปโดยเร็ว ซึ่งจีนต้องการให้ไทยเร่งรัดการนำเสนอโครงการเพื่อขอนุมัติ โดยคาดว่าจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ในเดือน มิ.ย.นี้ โดยจะเป็นการนำเสนอภาพรวมโครงการ เส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา-หนองคาย โดยจะดำเนินการช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 252.5 กม. มูลค่า 179,412.21 ล้านบาทเป็นเฟสแรก

ทั้งนี้ ยังคงเป้าหมายที่จะเปิดประมูลก่อสร้างตอนที่ 1 ระยะทาง 3.5 กม. (สถานีกลางดง-ปางอโศก) ค่าก่อสร้างประมาณ 200 ล้านบาทภายในเดือน ส.ค.นี้ และจะเร่งให้ผู้รับเหมาเข้าพื้นที่ในเดือน ก.ย.ทันที

โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) จะเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) ขออนุมัติโครงการในวันที่ 29 พ.ค.นี้ หลังจากที่ได้มีการปรับปรุงรายละเอียดขั้นตอนการปฏิบัติงานให้มีความชัดเจนมากขึ้น หลังจากนั้นจะเสนอคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (บอร์ด สศช.) ก่อนเสนอ ครม. ซึ่งฝ่ายไทยได้ยืนยันกับจีนว่าจะเสนอขออนุมัติโครงการให้ได้ภายในวันที่ 30 มิ.ย.เพื่อเริ่มต้นโครงการตามแผนงาน ส่วนสัญญา 2.1 ถือเป็นกุญแจที่จะทำให้การออกแบบตอนที่ 2 (ปากช่อง-คลองขนานจิตร) ระยะทาง 11 กม. ตอนที่ 3 (แก่งคอย-โคราช) ระยะทาง 119 กม. ตอนที่ 4 (กรุงเทพฯ-แก่งคอย) ระยะทาง 119 กม. ตามไปได้ต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ฝ่ายจีนยังเป็นห่วงกรณีรายงานการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ซึ่งช่วงกรุงเทพฯ-บ้านภาชี EIA อนุมัติแล้ว แต่ช่วงบ้านภาชี-โคราชยังไม่ผ่าน EIA ซึ่งเป็นจุดก่อสร้างของตอนที่ 1, 2 โดยได้ทำรายงานและทำข้อมูลเพิ่มเติมต่อคณะกรรมการผู้ชำนาญการ (คชก.) ไปรวม 4 ครั้งแล้ว

รวมถึงสัญญางานออกแบบ (EPC 2.1) ซึ่งคาดว่าจะสรุปรายละเอียด ภาระค่าใช้จ่าย และเป็นไปตามระเบียบของไทยได้ภายในเดือน ก.ค.นี้ หลังจาก ครม.อนุมัติโครงการ โดยคณะทำงานสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนข้อมูลกันแล้ว ดังนั้น เมื่อสามารถลงนามในสัญญางานออกแบบกันได้ ทางจีนจะเร่งออกแบบในตอนที่ 2, 3, 4 ต่อเนื่อง ขณะนี้จะเร่งทยอยเปิดประมูลก่อสร้างตอนที่ 2, 3, 4 ตามลำดับ

สำหรับเงื่อนไขทั่วไปของร่างสัญญาออกแบบนี้ การขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรควบคุมและวิชาชีพสถาปัตยกรรมควบคุมของฝ่ายจีนนั้น ได้ทำความเข้าใจกับจีนแล้วว่า ทางสภาวิศวกร และสภาสถาปนิกของไทยจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ ซึ่งในเรื่องนี้จะต้องเรียบร้อยภายในเดือน ก.ค.

นายอาคมกล่าวว่า ในส่วนของค่าก่อสร้างระยะทาง 3.5 กม.ที่จะเปิดประมูลเร็วๆ นี้นั้น ทางกระทรวงการคลังจะพิจารณาแหล่งเงินกู้ซึ่งอาจจะเป็นงบประมาณ หรือเงินกู้ในประเทศ โดยผู้รับจ้างจะเน้นผู้รับเหมาไทย ขณะที่อุปกรณ์ที่ต้องนำเข้า เช่น ระบบอาณัติสัญญาณ ตัวรถนั้นอาจจะมีการใช้เงินกู้ต่างประเทศ ซึ่งยังมีเวลาพิจารณา
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42625
Location: NECTEC

PostPosted: 25/05/2017 1:59 am    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
ใกล้ตอกเข็ม “รถไฟไทย-จีน” มิ.ย.ชง ครม.-เปิดประมูล ส.ค.
โดย MGR Online 24 พฤษภาคม 2560 16:57 น. (แก้ไขล่าสุด 24 พฤษภาคม 2560 17:52 น.)


เตรียมเสนอโครงการรถไฟไทย-จีนเข้าครม.มิ.ย.นี้
กรุงเทพธุรกิจ
24 พฤษภาคม 2560
"รมว.คมนาคม" เตรียมเสนอโครงการรถไฟไทย-จีนให้ที่ประชุม ครม.พิจารณาภายใน มิ.ย. พร้อมเปิดประมูลตอนแรก ส.ค.นี้

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เผยผลประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 18 ที่กรุงเทพว่า น่าจะนำเสนอภาพรวมโครงการเส้นทางกรุงเทพ-นครราชสีมา-หนองคาย ซึ่งจะดำเนินการช่วงกรุงเทพ-นครราชสีมา ระยะทาง 252.5 กม. มูลค่า 179,412.21 ล้านบาทก่อน ให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาได้ในเดือน มิ.ย.นี้ หลังจากในการประชุมล่าสุดสามารถได้ข้อสรุปในภาพรวมแล้ว โดยเฉพาะขั้นตอนการปฎิบัติต่างๆ คงยังเหลือรายละเอียดอีกไม่มาก ซึ่งฝ่ายเทคนิคของทั้ง 2 ฝ่ายจะเร่งหารือให้ได้ข้อสรุปโดยเร็ว

ทั้งนี้ยังคงเป้าหมายที่จะเปิดประมูลก่อสร้างตอนที่ 1 ระยะทาง 3.5 กม. (สถานีกลางดง-ปางอโศก) ค่าก่อสร้างประมาณ 200 ล้านบาทภายในเดือน ส.ค.นี้ และจะเร่งให้ผู้รับเหมาเข้าพื้นที่ในเดือน ก.ย.ทันที

"ในส่วนของค่าก่อสร้างระยะทาง 3.5 กม.ที่จะเปิดประมูลเร็วๆ นี้ ทางกระทรวงการคลังจะพิจารณาแหล่งเงินกู้ซึ่งอาจจะเป็นงบประมาณหรือเงินกู้ในประเทศ โดยผู้รับจ้างจะเน้นผู้รับเหมาไทย ขณะที่อุปกรณ์ที่ต้องนำเข้า เช่น ระบบอาณัติสัญญาณและตัวรถดดยสารนั้นอาจจะมีการใช้เงินกู้ต่างประเทศ ซึ่งยังมีเวลาพิจารณา" รมว.คมนาคม กล่าว

รมว.คมนาคม กล่าวว่า ฝ่ายจีนยังเป็นห่วงกรณีการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ซึ่งช่วงกรุงเทพ-บ้านภาชี EIA อนุมัติแล้ว แต่ช่วงบ้านภาชี-โคราช ยังไม่ผ่าน EIA ซึ่งเป็นจุดก่อสร้างของตอนที่ 1, 2 โดยได้ทำรายงานและข้อมูลเพิ่มเติมต่อคณะกรรมการผู้ชำนาญการ (คชก.) ไปรวม 4 ครั้งแล้ว รวมถึงสัญญางานออกแบบ (EPC2.1) ซึ่งคาดว่าจะสรุปรายละเอียดภาระค่าใช้จ่าย และเป็นไปตามระเบียบของไทยได้ภายในเดือน ก.ค.นี้ โดยคณะทำงานทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนข้อมูลกันแล้ว ดังนั้นเมื่อสามารถลงนามในสัญญางานออกแบบกันได้ ทางจีนจะเร่งออกแบบในตอนที่ 2, 3, 4 ต่อเนื่อง พร้อมทั้งเร่งทยอยเปิดประมูลก่อสร้างตอนที่ 2, 3, 4 ตามลำดับ

สำหรับเงื่อนไขทั่วไปของร่างสัญญา 2 การขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรควบคุมและวิชาชีพสถาปัตยกรรมควบคุมของฝ่ายจีนนั้นได้ทำความเข้าใจกับจีนแล้วว่า ทางสภาวิศวกรและสภาสถาปนิกของไทยจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ ซึ่งในเรื่องนี้จะเรียบร้อยภายในเดือน ก.ค.นี้

//-----------------


เข็นอีกเฮือก! รถไฟไทย-จีน"อาคม"ย้ำหมุดชงครม.อนุมัติ200ล้าน สร้างเฟสแรก3.5กม. เซ็นสัญญาก.ค.นี้

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
24 พฤษภาคม 2560
เวลา 18:15:56 น.


เข็นอีกเฮือก! รถไฟไทย-จีน "อาคม" ย้ำหมุดชงครม.อนุมัติ 200 ล้าน สร้างเฟสแรก 3.5 กม. มิ.ย. เซ็นสัญญา ก.ค.นี้

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 18 เป็นการติดตามความก้าวหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 250 กม. วงเงิน 179,412 ล้านบาท

ผลสรุปฝ่ายจีนขอให้ฝ่ายไทยเร่งรัดเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อเร่งดำเนินการช่วงที่ 1 จากสถานีกลางดง-ปางอโศก ระยะทาง 3.5 กม. วงเงิน 200 ล้านบาท ซึ่งไทยคาดว่าจะเสนอ ครม.ในเดือน มิ.ย.60 และลงนามสัญญาการออกแบบรายละเอียดช่วงที่ 1 ภายในเดือนก.ค.60

ขณะเดียวกัน ไทยขอให้จีนเร่งดำเนินการออกแบบช่วงที่ 2 ระยะทาง 11 กม. ช่วงที่ 3 ระยะทาง 110 กม. ช่วงที่ 4 ระยะทาง 110 กม. เพื่อให้สามารถทยอยเปิดการประมูลได้ต่อเนื่อง

สำหรับโครงการรถไฟไทย-จีน ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา รายงานผลการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ช่วงกรุงเทพฯ-บ้านภาชี ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือช่วงบ้านภาชี-นคราชสีมา อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการผู้ชำนาญการ (คชก.)

ส่วนการออกใบอนุญาตผู้ประกอบการวิชาชีพวิศวกร ล่าสุดคณะทำงานฝ่ายเทคนิคอยู่ในระหว่างการหารือเรื่องใบอนุญาตของทั้ง 2 ฝ่าย โดยได้รับความร่วมมือจากสภาวิศวกรและสภาสถาปนิก ซึ่งจะต้องปฎิบัติตามกฎหมายของประเทศไทย
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42625
Location: NECTEC

PostPosted: 25/05/2017 10:36 am    Post subject: Reply with quote

ลุ้นส.ค.ประมูลรถไฟไทย-จีน เตรียมจี้ผู้รับเหมาเข้าพื้นที่เร่งสร้างช่วงแรก3.5กม.
ไทยโพสต์
25 พฤษภาคม 2560 - 00:00

คมนาคม เตรียมเสนอรถไฟไทย-จีนเข้า ครม.พิจารณา มิ.ย.60 เผยยังคงเป้าหมายเดิมเปิดประมูล ตอนแรกระยะทาง 3.5 กม.ในเดือน ส.ค. มั่นใจ ก.ย.นี้ผู้รับเหมาเข้าพื้นที่ เผยค่าก่อสร้าง 200 ล้านบาท ด้าน รฟท.แจงเจาะอุโมงค์พระพุทธฉาย ระยะทาง 1.2 กม.โครงการทางคู่ฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอยคืบ

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เผยผลประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 18 ที่กรุงเทพฯ ว่าภายในเดือน มิ.ย.60 นี้ จะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)พิจารณาภาพรวมโครงการเส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา-หนองคาย ซึ่งจะดำเนินการช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 252.5 กม. มูลค่า 179,412.21 ล้านบาทก่อน หลังจากในการประชุมล่าสุดสามารถได้ข้อสรุปในภาพรวมแล้ว โดยเฉพาะขั้นตอนการปฏิบัติต่างๆ คงยังเหลือรายละเอียดอีกไม่มาก ซึ่งฝ่ายเทคนิคของทั้ง 2 ฝ่ายจะเร่งหารือให้ได้ข้อสรุปโดยเร็ว

ทั้งนี้ยังคงเป้าหมายที่จะเปิดประมูลก่อสร้างตอนที่ 1 ระยะทาง 3.5 กม. (สถานีกลางดง-ปางอโศก) ค่าก่อสร้างประมาณ 200 ล้านบาทภายในเดือน ส.ค.นี้ และจะเร่งให้ผู้รับเหมาเข้าพื้นที่ในเดือน ก.ย.ทันที ส่วนผู้เข้าร่วมประมูลต้องเป็นผู้ประกอบการไทยเป็นหลัก แต่ก็สามารถมีผู้ร่วมทุนเป็นต่างชาติได้

"ค่าก่อสร้างระยะทาง 3.5 กม.นั้นทางกระทรวงการคลังจะพิจารณาแหล่งเงินกู้ ซึ่งอาจจะเป็นงบประมาณหรือเงินกู้ในประเทศ โดยผู้รับจ้างจะเน้นผู้รับเหมาไทย ขณะที่อุปกรณ์ที่ต้องนำเข้า เช่น ระบบอาณัติสัญญาณและตัวรถโดยสารนั้นอาจจะมีการใช้เงินกู้ต่างประเทศ ซึ่งยังมีเวลาพิจารณา" นายอาคมกล่าว

นายอาคมกล่าวว่า ฝ่ายจีนยังเป็นห่วงกรณีการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ซึ่งช่วงกรุงเทพฯ-บ้านภาชี นั้นผ่าน EIA อนุมัติแล้ว แต่ช่วงบ้านภาชี-โคราช ยังไม่ผ่าน EIA ซึ่งเป็นจุดก่อสร้างของตอนที่ 1, 2 โดยได้ทำรายงานและข้อมูลเพิ่มเติมต่อคณะกรรมการผู้ชำนาญการ (คชก.) ไปรวม 4 ครั้งแล้ว

รวมถึงสัญญางานออกแบบ (EPC 2.1) ซึ่งคาดว่าจะสรุปรายละเอียดภาระค่าใช้จ่าย และเป็นไปตามระเบียบของไทยได้ภายในเดือน ก.ค.นี้ โดยคณะทำงานทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนข้อมูลกันแล้ว ดังนั้นเมื่อสามารถลงนามในสัญญางานออกแบบกันได้ ทางจีนจะเร่งออกแบบในตอนที่ 2, 3, 4 ต่อเนื่อง พร้อมทั้งเร่งทยอยเปิดประมูลก่อสร้างตอนที่ 2, 3, 4 ตามลำดับ

สำหรับเงื่อนไขทั่วไปของร่างสัญญา 2 การขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรควบคุมและวิชาชีพสถาปัตยกรรมควบคุมของฝ่ายจีนนั้นได้ทำความเข้าใจกับจีนแล้วว่า ทางสภาวิศวกรและสภาสถาปนิกของไทยจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ ซึ่งในเรื่องนี้จะเรียบร้อยภายในเดือน ก.ค.นี้

นายจิรุตม์ วิศาลจิตร ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม ในฐานะโฆษกฯ กล่าวว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) อยู่ระหว่างดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ในเส้นทางรถไฟสายชายฝั่งทะเลตะวันออก ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย ระยะทางรวมประมาณ 106 กิโลเมตร โดยเมื่อวันที่ 17 พ.ค.60 ได้ดำเนินงานเจาะอุโมงค์รถไฟลอดใต้เขาพระพุทธฉาย ระยะทาง 1.2 กิโลเมตร เสร็จเรียบร้อย

สำหรับความคืบหน้าการดำเนินงานสัญญาที่ 2 มีแผนงานสะสม 63.93% ผลงานที่ทำได้ 57.50% ช้ากว่าแผน 6.43% เนื่องจากปัญหาการขออนุญาตเข้าพื้นที่ และสภาพภูมิอากาศ.
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 208, 209, 210 ... 542, 543, 544  Next
Page 209 of 544

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©