View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
|
Posted: 04/09/2015 5:00 pm Post subject: |
|
|
ลุ้นผังเมืองใหม่ตลิ่งชัน รับรถไฟฟ้าชี้ทำเลทองดันราคาที่ดินพุ่งเท่าตัว
ฐานเศรษฐกิจ BUSINESS, REAL ESATE
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 35 ฉบับที่ 3084 วันที่ 3-5 กันยายน พ.ศ. 2558
เอกชนขานรับแนวคิดกทม.ปรับผังเมืองใหม่ตลิ่งชัน-ภาษีเจริญ สอดรับโครงข่ายรถฟ้าสายสีเขียวเชื่อมบางหว้า-ตลิ่งชัน คอลลิเออร์ส ชี้อนาคตทำเลทองตลาดที่อยู่อาศัย ด้านกูรูอสังหาฯ ฟันธงดันราคาที่ดินขยับขึ้นเท่าตัวทะลุ 1 แสนบาท/ตร.ว.แน่ พร้อมแนะสร้างโครงข่ายคมนาคมเสริมรองรับการเดินทางสู่รถไฟฟ้า
1MP33-3084-A
นายสุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยกับ ฐานเศรษฐกิจ ว่า ปัจจุบันพื้นที่ส่วนใหญ่ของเขตตลิ่งชัน และภาษีเจริญถูกกำหนดในผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร ฉบับ พ.ศ.2556 ว่าเป็นที่ดินประเภทอนุรักษ์ชนบทและเกษตรกรรม (เขตสีขาวมีกรอบและเส้นทแยงสีเขียว) ทำให้มีข้อกำหนดค่อนข้างมากต่อการพัฒนาที่ดิน เพราะไม่สามารถพัฒนาเป็นอาคารคอนโดมิเนียม ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ หรือทาวน์เฮาส์ได้ โดยกฎหมายระบุให้โครงการบ้านจัดสรรต้องมีขนาดที่ดินหน่วยละไม่น้อยกว่า 100 ตร.ว. ทำให้โครงการบ้านจัดสรรใน 2 เขตนี้ ส่วนใหญ่จึงเป็นโครงการที่มีราคาแพง เนื่องจากราคาที่ดินในปัจจุบันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
จากการสำรวจโครงการบ้านจัดสรรที่เปิดขายอยู่ในปัจจุบัน พบว่าตลาดที่อยู่อาศัยรวม 2 เขตนี้แยกได้เป็นบ้านเดี่ยวจำนวน 1,008 หน่วย ขายได้ 55% ทาวน์เฮาส์ 749 หน่วย ขายได้ 42% อีกจำนวนประมาณ 70 หน่วย เป็นบ้านแฝด และอาคารพาณิชย์ ทั้งนี้ยังแยกได้ว่าเป็นโครงการบ้านเดี่ยวที่มีราคาขายเริ่มต้นหน่วยละประมาณ 9.5 ล้านบาทไปจนถึงกว่า 50 ล้านบาท มีมากถึง 580 หน่วย มียอดขาย 55% ส่วนของทาวน์เฮาส์ระดับราคาขายค่อนข้างสูงเช่นกัน เพราะทาวน์เฮาส์ที่มีราคาขายมากกว่า 3 ล้านบาทขึ้นไปมีมากถึง 693 หน่วย มียอดขายประมาณ 45% เท่านั้น แสดงให้เห็นว่าบริเวณนี้เป็นย่านที่มีที่อยู่อาศัยราคาแพง
ทั้งนี้ ในอนาคตเขตตลิ่งชันและภาษีเจริญ อาจจะมีโครงการทาวน์เฮาส์ หรือบ้านเดี่ยวที่มีขนาดที่ดินต่ำกว่า 100 ตร.ว.เกิดขึ้น รวมทั้งคอนโดมิเนียมมีจำนวนมากกว่าในปัจจุบัน เพราะว่าทางกรุงเทพมหานครจะมีการพัฒนาเส้นทางรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายบางหว้า ตลิ่งชัน ตามแนวถนนราชพฤกษ์ที่ขยายมาจากสถานีบางหว้าในปัจจุบัน ซึ่งในเขตตลิ่งชันยังมีสถานีปลายทางของเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีแดง บางซื่อ ตลิ่งชันอีก ทำให้เขตตลิ่งชันต่อไปจะเป็นปลายทางของเส้นทางรถไฟฟ้า 2 สาย ดังนั้นทางกรุงเทพมหานครจึงมีแผนที่จะปรับเปลี่ยนสีผังเมืองของเขตตลิ่งชัน และภาษีเจริญบางส่วนให้สอดคล้องกับความเจริญที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะในพื้นที่รอบๆ สถานีรถไฟฟ้า และพื้นที่ตลอดแนวเส้นทางส่วนต่อขยายจากบางหว้ามาตลิ่งชัน แต่ต้องรอให้ผังเมืองปัจจุบันหมดอายุก่อนในปีพ.ศ.2561 ซึ่งถ้าสามารถเปลี่ยนสีผังเมืองให้สอดคล้องกับความเจริญในขณะนั้นได้จริง จะทำให้พื้นที่นี้มีศักยภาพเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว กลายเป็นทำเลทองแห่งอนาคตอีกแห่งที่น่าจับตามองในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านายสุรเชษฐ กล่าว
ด้านนายวสันต์ คงจันทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โมเดอร์น พร็อพเพอร์ตี้ คอนซัลแตนท์ จำกัด กล่าวว่า การปรับสีผังเมืองเพื่อให้สอดรับกับความเจริญหลังโครงการรถไฟฟ้าเปิดให้บริการ โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ตลิ่งชัน จะช่วยให้ราคาที่ดินขยับตัวเพิ่มสูงขึ้น จากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 5-6 หมื่นบาทต่อตร.ว.เป็นมากกว่า 1 แสนบาทต่อตร.ว. เหมือนพื้นที่เพชรเกษมที่ปัจจุบันราคาขายอยู่ที่ประมาณ 3 แสนบาทต่อตร.ว. เนื่องจากมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน หรืออย่างแนวถนนราชพฤกษ์ที่มีราคาในปัจจุบันอยู่ที่ 1.5-2 แสนบาทต่อตร.ว.
แต่สิ่งที่ต้องคำนึงถึงหลังการปรับสีผังและการขยายเส้นทางรถไฟฟ้า คือเรื่องของระบบโครงข่ายการคมนาคมต่างๆ ที่จะอำนวยความสะดวกให้กับคนในพื้นที่ได้เข้าถึงบริการรถไฟฟ้าอย่างแท้จริง เนื่องจากในปัจจุบันบางเส้นทางไม่มีแม้กระทั่งรถบริการสาธารณะในการขนส่งนายวสันต์ กล่าว
สอดคล้องกับ นายอิสระ บุญยัง นายกกิตติมศักดิ์และที่ปรึกษา สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า พื้นที่ฝั่งธนบุรี ถือเป็นพื้นที่ที่ใช้เวลาในการเดินทางเข้าสู่ย่านในกลางธุรกิจได้ในเวลาอันรวดเร็ว แต่ยังขาดระบบโครงข่ายคมนาคมที่มาเชื่อมโยงสู่พื้นที่ต่างๆ ซึ่งถ้าจะให้พื้นที่หลังปรับสีผังเกิดประโยชน์สูงสุด ทางกรุงเทพมหานคร จำเป็นต้องสร้างระบบโครงข่ายเชื่อมโยงแบบครบวงจรหรือมีการเชื่อมโยงระบบขนส่งจากรถไฟฟ้าสายหนึ่งไปยังอีกสายหนึ่ง |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
|
Posted: 02/02/2016 12:48 am Post subject: |
|
|
Wisarut wrote: | Home Buyers Fanpage wrote: | รายงานสดจากโรงแรมรอยัลซิตี้ ปิ่นเกล้า สรุปแนวเส้นทางส่วนต่อขยายสายสีลม จากบางหว้า-ตลิ่งชัน ระยะทาง 7.5 กม. มีจุดเริ่มต้นต่อจากสถานีบางหว้า วิ่งไปทางทิศเหนือตามแนวถนนราชพฤกษ์ โดยจะใช้พื้นที่แนวเกาะกลางของถนน จนไปสิ้นสุดที่บริเวณทางลาดลงของสะพานข้ามรถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน (บางซื่อ-ตลิ่งชัน) หน้าซอยราชพฤกษ์ 24 มีสถานี 6 แห่ง ใช้งบ 1.5 หมื่นล้านบาท คาดเริ่มก่อสร้างปี 2562 แล้วเสร็จปี 2565 by....นิตยสารบ้านพร้อมอยู่ |
สถานีทั้ง 6 มีพิกัดดังนี้
S13 สถานีบางแวก ซอยราชพฤกษ์ 6 - ซอยเพชรเกษม 36
S14 สถานีบางเชือกหนัง ตรงสะพานข้ามคลองบางเชือกหนัง
S15 สถานีบางพรหม - ถนนบางพรหม ตัดกะ ถนนพรานนก - พุธมณฑลสาย 4
S16 สถานีอินทราวาส หน้าโครงการ The Circle ราชพฤกษ์
S17 สถานีบรมราชชนนี ด้านใต้แยกบรมราชชนนี - ไปขนส่งสายใต้ใหม่ลงที่นี่
S18 สถานีตลิ่งชัน - หน้าซอยราชพฤกษ์ 24
https://www.facebook.com/Homebuyersfanpage/posts/681920585275457 |
อานิสงส์สายสีเขียว ตอน3 ดันบางหว้า-ตลิ่งชันทำเลทอง สจส.เคาะ 6 สถานีเสร็จปี 65
โดย ฐานเศรษฐกิจ -
ออนไลน์เมื่อ 5 สิงหาคม 2558
ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 35 ฉบับที่ 3075 วันที่ 2 5 สิงหาคม พ.ศ. 2558
กทม.เคาะแล้ว 6 จุดก่อตั้งสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสส่วนต่อขยายบางหว้า-ตลิ่งชัน บนถนนราชพฤกษ์ระยะทางเกือบ 8 กิโลเมตร บิ๊กสจส.ยันไม่มีการเวนคืน ลงทุนประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท หากได้รับอนุมัติ คาดเริ่มก่อสร้างได้ปี 62 แล้วเสร็จในปี 65 ใช้ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 3 ปี
นายทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) กรุงเทพมหานคร(กทม.) เปิดเผยในการประชุมรับฟังความคิดเห็นสาธารณะครั้งที่ 2 โครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานครส่วนต่อขยายสายสีลมหรือสายสีเขียวตอนที่ 3 (บางหว้า-ตลิ่งชัน) ว่า หลังจากใช้ระยะเวลาศึกษา 10 เดือน บริษัทที่ปรึกษาได้นำเสนอผลการศึกษารวมทั้งการคัดเลือกเส้นทางที่เหมาะสม โดยได้คัดเลือกแนวเส้นทางที่มีศักยภาพไว้ 3 แนวเส้นทาง ประกอบด้วยแนวเส้นทางที่ 1 (ถ.ราชพฤกษ์) รวมระยะทางประมาณ 7.5 กิโลเมตร จำนวน 6 สถานี แนวเส้นทางที่ 2 (ถ.ราชพฤกษ์-ถ.พรานนก-ถ.พุทธมณฑลสาย 1) รวมระยะทางประมาณ 11 กิโลเมตร จำนวน 8 สถานีและแนวเส้นที่ 3 (ถ.ราชพฤกษ์-สถานีสายสีแดงตลิ่งชัน) รวมระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร จำนวน 6 สถานี
จากการพิจารณาความเหมาะสมตามเกณฑ์การคัดเลือก 3 ด้านคือ 1. ด้านวิศวกรรมและจราจร 2.ด้านเศรษฐกิจและการลงทุน 3. ด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม โดยแนวเส้นทางที่เหมาะสมที่สุดคือแนวเส้นทางที่ 1(ถ.ราชพฤกษ์) มีจุดเริ่มต้นที่จุดเชื่อมต่อกับโรงจอดปัจจุบันของรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่บริเวณสถานีบางหว้า (S12) วิ่งไปทางทิศเหนือตามแนวถนนราชพฤกษ์โดยใช้พื้นที่ที่เกาะกลางถนนผ่านทางแยกตัดถนนบางแวก(ซอยจรัญสนิทวงศ์ 13)และทางแยกตัดถนนพรานนก-พุทธมณฑลสาย 4 จากนั้นจะยกระดับข้ามทางแยกตัดทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนีและทางพิเศษสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ด้านตะวันตกที่กำลังก่อสร้างตามแนวเขตทางรถไฟจนสิ้นสุดที่บริเวณทางลาดลงของสะพานข้ามรถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน(ช่วงตลิ่งชัน-บางซื่อ)หน้าซอยราชพฤกษ์ 24
สำหรับแนวเส้นทางที่ 1 นี้ มีระยะทางรวม 7.5 กิโลเมตร จำนวน 6 สถานี ได้แก่
สถานีบางแวก(S13) ตั้งอยู่บริเวณปากทางเข้าซอยราชพฤกษ์ 6(ซ.บางเพลี้ย)
สถานีบางเชือกหนัง(S14) ตั้งอยู่บริเวณจุดตัดถนนบางแวกและซอยจรัญสนิทวงศ์ 13
สถานีบางพรม(S15) ตั้งอยู่บริเวณจุดตัดถนนพรานนก-พุทธมณฑลสาย 4
สถานีอินทราวาส(S16) ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าโครงการThe Circle ราชพฤกษ์ 5.
สถานีบรมราชชนนี(S17) ตั้งอยู่บริเวณจุดตัดถนนบรมราชชนนี และ
สถานีตลิ่งชัน(S18)ตั้งอยู่บริเวณหน้าซอยราชพฤกษ์ 24 จุดตัดรถไฟฟ้าสายสีแดง
เบื้องต้นคาดว่าจะใช้งบประมาณการก่อสร้าง 1.5 หมื่นล้านบาท เนื่องจากโครงการนี้ไม่มีการเวนคืนเพราะใช้พื้นที่เกาะกลางของถนนราชพฤกษ์ อย่างไรก็ดีหลังจากรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะแล้วทางบริษัทที่ปรึกษาจะรวบรวมเพื่อสรุปรายละเอียดเพื่อนำเสนอผู้บริหาร รวมทั้งจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ)โครงการประเภทคมนาคมทางบกของสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(สผ.) หากได้รับการอนุมัติคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ประมาณปี 2562 แล้วเสร็จในปี 2565 ใช้ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 3 ปี
ทั้งนี้ในอนาคตโครงการดังกล่าวจะสามารถเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายอื่นๆรวม 3 สายคือ
1. สายสีแดงอ่อน(ตลิ่งชัน-บางซื่อ)
2. สายสีเขียวอ่อน(ยศเส-บางหว้า)และ
3. สายสีนํ้าเงิน(บางซื่อ-หัวลำโพง-ท่าพระ-พุทธมณฑลสาย 4) อย่างไรดีในการคาดการณ์ปริมาณผู้โดยสารในปี 2564 จะมีผู้โดยสารประมาณ 81,400 คนต่อวันและจะเพิ่มขึ้นเป็น 199,000 คนต่อวันในปี 2595 |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44329
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 12/02/2016 9:36 am Post subject: |
|
|
เคที สร้างสะพานถาวรข้ามคลองด่าน ใต้สถานี บีทีเอสวุฒากาศ สิ้นปีไม่ต้องใช้บัตรผ่านอีก
มติชนออนไลน์ วันที่: 11 ก.พ. 59 เวลา: 19:09 น.
เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ นายมานิต เตชอภิโชค กรรมการผู้อำนวยการบริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด (เคที) เปิดเผยว่า จากกรณีที่ เมื่อปี 2558 กทม. ได้ผ่อนปรนให้ประชาชนเดินผ่านสถานีรถไฟฟ้าวุฒากาศเป็นการชั่วคราว เพื่อข้ามคลองด่านที่อยู่ด้านล่างสถานี ระหว่างถนนราชพฤกษ์และถนนวุฒากาศ ระหว่างรอการสร้างสะพานข้ามคลองด่านถาวร ไม่เช่นนั้นประชาชนต้องขึ้นมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ซึ่งตั้งแต่วันแรกที่ผ่อนปรนให้เดินผ่านสถานีโดยการขอบัตรผ่าน เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2558 จนถึงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2559 มีประชาชนมาขอใช้บริการจำนวนมาก รวมจำนวน 68,409 คน ถ้าคิดเป็นค่ามอเตอร์ไซค์รับจ้าง เที่ยวละ 15 บาท รวมเป็นเงินกว่า 1 ล้านบาท ทั้งนี้เพื่อเป็นการแก้ปัญหา เคทีจึงได้ร่วมกับบริษัทระบบขนส่งกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)หรือบีทีเอส กรมทางหลวงชนบท(ทช.)สำนักการระบายน้ำ สำนักการโยธา สำนักการจราจรและขนส่ง สำนักงานเขตจอมทองและธนบุรี ตลอดจนชุมชนที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ร่วมกันทำกิจกรรมก่อสร้างสะพานข้ามคลองด่านถาวร ในโครงการ ปันน้ำใจข้ามคลองด่าน โดยจะเริ่มก่อสร้างภายในเดือนมีนาคมนี้ คาดว่าน่าจะก่อสร้างเสร็จในปลายปี 2559 ซึ่งจะทำให้ประชาชนสัญจรได้สะดวกมากขึ้น
นายมานิต กล่าวว่า ทั้งนี้การผ่อนปรนให้ประชาชนเดินผ่านสถานีชั่วคราวนั้น เกิดขึ้นเนื่องจากมีกระแสข่าวรถไฟฟ้าบีทีเอสเก็บเงิน 10 บาท เป็นค่าผ่านทางสถานีวุฒากาศ ซึ่งมีการแชร์อย่างแพร่หลายในโซเชียลมีเดียเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งข้อเท็จจริงคือพื้นที่ดังกล่าวไม่มีสะพานข้ามคลองด่านมาตั้งแต่เดิม จนเมื่อมีการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าช่วงตากสิน บางหว้า ผู้รับเหมาได้สร้างสะพานข้ามคลองชั่วคราวให้กับคนงาน ทำให้ประชาชนสามารถใช้งานได้ด้วย แต่เมื่อโครงการเสร็จจึงได้รื้อสะพานออก หลังจากนั้นหากจะข้ามคลองด่านไปมาระหว่างถนนราชพฤกษ์ และถนนวุฒากาศ ต้องขึ้นมอเตอร์ไซค์รับจ้างและทางสะดวกที่สุดคือ เดินผ่านสถานี ซึ่งการเข้าออกสถานีได้ต้องถือบัตรโดยสารเท่านั้น ซึ่งเป็นไปตามระเบียบปฏิบัติของระบบการขนส่งมวลชน และต่อมา กทม. ก็ได้ผ่อนปรนให้ประชาชนเดินผ่านสถานีได้ แม้จะไม่มีบัตรโดยสารก็ตาม |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
|
Posted: 08/07/2016 12:56 pm Post subject: |
|
|
BTS ช่วงบางหว้า-ตลิ่งชัน เสริมโครงข่ายเดินทางกทม.ฝั่งตะวันตก
โดย ฐานเศรษฐกิจ - 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2559
ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,172 วันที่ 7 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2559
BTS ช่วงบางหว้า-ตลิ่งชัน เสริมโครงข่ายเดินทางกทม.ฝั่งตะวันตก
โครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร ส่วนต่อขยายสายสีลม ตอนที่ 3 (บางหว้าตลิ่งชัน) อยู่ภายใต้การบริหารของกรุงเทพมหานคร(กทม.)โดยสำนักการจราจรและขนส่ง(สจส.) เป็นเจ้าของโครงการอยู่ระหว่างการเร่งผลักดันเพื่อเติมเต็มโครงข่ายการเดินทางพื้นที่กรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตกให้สมบูรณ์ โดยมีพื้นที่โครงการอยู่ในเขตตลิ่งชัน และเขตภาษีเจริญ รวมจำนวน 11 แขวง
พื้นที่ดังกล่าวนี้ปัจจุบันมีหมู่บ้านจัดสรร ศูนย์อาหารร้านค้ากระจายจำนวนมาก แต่พบว่ายังขาดระบบขนส่งมวลชนในการเชื่อมต่อการเดินทาง ทำให้ประชาชนต้องเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนบุคคล จึงเกิดปัญหาการจราจรติดขัดบนถนนราชพฤกษ์ โดยเฉพาะช่วงชั่วโมงเร่งด่วนและวันหยุด หากมีสามารถสร้างส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าบีทีเอสจากสถานีบางหว้าไปถึงตลิ่งชันก็จะช่วยบรรเทาปัญหาการจราจรในโซนพื้นที่นี้ได้เป็นอย่างดี
โดยจากผลการศึกษาได้กำหนดจุดเริ่มต้นบริเวณจุดเชื่อมต่อกับโรงจอดรถปัจจุบันของรถไฟฟ้าสายสีเขียว(บีทีเอส) ส่วนต่อขยายสายสีลมตอนที่ 2 (สะพานตากสินเพชรเกษม) ที่บริเวณบางหว้า แล้ววิ่งไปทางทิศเหนือตามแนวถนนราชพฤกษ์ โดยใช้พื้นที่เกาะกลางถนน มีความกว้างเกาะกลางประมาณ 5-5.5 เมตร ผ่านทางแยกตัดผ่านถนนบางแวก ซอยจรัญสนิทวงศ์ 13 ผ่านทางแยกตัดถนนพรานนก-พุทธมณฑลสาย 4 จากนั้นจะยกระดับข้ามทางแยกตัดถนนบรมราชชนนี และยกระดับเพื่อข้ามทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอก ด้านตะวันตก ที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.)กำลังก่อสร้างไปตามแนวเขตทางรถไฟสายใต้ ก่อนไปสิ้นสุดที่บริเวณปากทางเข้าซอยราชพฤกษ์ 24 ซึ่งในจุดนี้มีโครงการรถไฟสายสีแดง (บางซื่อ-ตลิ่งชัน)ให้เชื่อมโยงได้อีกด้วย มีจำนวน 6 สถานี ประกอบด้วย
สถานีบางแวก
สถานีบางเชือกหนัง
สถานีบางพรม
สถานีอินทราวาส
สถานีบรมราชชนนี และ
สถานีตลิ่งชัน รวมระยะทาง 7.5 กิโลเมตร
เบื้องต้นคาดว่าจะใช้งบประมาณราว 1.3 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นค่างานโยธา จำนวน 1 หมื่นล้านบาท ค่าติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม จำนวน 3,019 ล้านบาท และค่าบริการทางวิศวกรรมจำนวน 698 ล้านบาท ซึ่งตามแผนหากเริ่มก่อสร้างในปี 2561 จะแล้วเสร็จในปี 2563 จากการคาดการณ์ปริมาณผู้โดยสารในปี 2564 (ที่เปิดบริการ) จะมีกว่า 8.7 หมื่นคนต่อวัน
รถไฟฟ้าเส้นทางนี้คงจะช่วยบรรเทาการจราจรฝั่งธนบุรีและยังเปิดพื้นที่การพัฒนาเชิงพาณิชย์แห่งใหม่ได้ในพื้นที่กรุงเทพมหานครโซนตะวันตก ส่วนในอนาคตหากรัฐบาลสนับสนุนสร้างส่วนต่อขยายไปเชื่อมกับรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่ถนนรัตนาธิเบศร์ก็จะเป็นอีกหนึ่งเส้นทางเชื่อมโยงด้วยรถไฟฟ้ากับจังหวัดนนทบุรีให้เป็นพื้นที่เดียวกันได้อย่างกลมกลืนมากยิ่งขึ้น |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44329
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 10/08/2016 3:24 pm Post subject: |
|
|
ท้วงกรุงเทพฯทำรางบีทีเอสสถานีตากสินไม่สร้างตอม่อ
โพสต์ทูเดย์ 10 สิงหาคม 2559 เวลา 13:11 น.
คมนาคมท้วงสร้างรางสถานีรถไฟฟ้าตากสินเพิ่ม 1 ราง ไม่มีตอม่อ หวั่นมีปัญหาความไม่ปลอดภัย
นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน อธิบดีกรมทางหลวงชนบท เปิดเผยว่า กรมเตรียมทำหนังสือถึงกรุงเทพมหานคร (กทม.) ให้พิจารณาทบทวนแบบก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานรถไฟฟ้าบีทีเอส บริเวณสถานีสะพานตากสิน (S6) รองรับการวางรางรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอีก 1 ราง เพื่อแก้ปัญหาคอขวดในการเดินทาง เนื่องจากแบบก่อสร้างที่ กทม.ออกแบบไว้นั้น กทม.ได้แจ้งให้ทราบก่อนหน้านี้ว่า จะไม่มีการสร้างตอม่อเพื่อรองรับโครงสร้างสะพานใหม่ เพราะ กทม.อ้างว่ามีค่าใช้จ่ายสูง ซึ่งกรมเกรงว่าจะมีปัญหาความไม่ปลอดภัยได้
ในเดือน ส.ค.นี้ กรมจะส่งหนังสือสอบถามไปที่ กทม. เพราะก่อนหน้านี้ กทม.ได้แจ้งว่าจะไม่มีการสร้างตอม่อเพื่อรองรับโครงสร้างสะพานใหม่เพิ่มเติม แต่จะใช้วิธีทุบปีกสะพานข้างสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสตากสินในปัจจุบันออก และนำพื้นที่ไปใช้วางรางเพิ่ม ซึ่งกรมเกรงว่าจะกระทบต่อการจราจรและโครงสร้างของสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน จึงจะต้องช่วยตรวจรูปแบบงานก่อสร้างใหม่นายพิศักดิ์ กล่าว
นายพิศักดิ์ กล่าวว่า นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม ได้สั่งการให้กรมเข้าหารือกับ กทม.ในการวางรูปแบบงานก่อสร้างบริเวณสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสตากสิน เพื่อให้สอดคล้องกับการแก้ไขปัญหาคอขวดรถไฟฟ้าของ กทม.และต้องมีความเป็นไปได้ทางด้านวิศวกรรม
นายอาคม กล่าวว่า ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตามความคืบหน้าการปรับปรุงสถานีรถไฟฟ้าบริเวณสถานีสะพานตากสิน (S6) ซึ่งในที่ประชุมกระทรวงได้ขอให้ กทม.ปรับแบบก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าสะพานตากสินที่จะมีการวางรางเพิ่มอีก 1 ราง เพื่อให้โครงสร้างมีความปลอดภัย
----
ทุบสะพานตากสินไม่คืบ กทม.ไม่ส่งแบบ ทช.ระบุเทคนิคยังไม่ชัดเจน
โดย MGR Online 10 สิงหาคม 2559 13:00 น. (แก้ไขล่าสุด 10 สิงหาคม 2559 15:59 น.)
อาคม สั่ง ทช.หาทางออก เลี่ยงทุบสะพานตากสินและแก้ปัญหาคอขวดรถไฟฟ้าบีทีเอส โดยไม่ต้องยกเลิกสถานีสะพานตากสิน พร้องเร่ง กทม.ส่งรายละเอียดด้านเทคนิคและวิศวกรรมกรณีปรับแบบก่อสร้างใหม่ โดยขอทุบสะพานตากสินข้างละ 1.80 เมตร เพื่อใช้วางรางบีทีเอสเพิ่ม ระบุไม่มั่นใจทางเทคนิคจะทำได้
นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการปรับปรุงสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีสะพานตากสิน (S6) ว่าเมื่อวันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เรียกประชุมผู้เกี่ยวข้องเพื่อติดตามความคืบหน้าซึ่งก่อนหน้านี้ ทช.ได้ประชุมร่วมกับผู้แทนกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในเดือน ก.พ.และ มี.ค. 2559 รวม 3 ครั้ง แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป เนื่องจาก กทม.ยังไม่ส่งรายละเอียดเพิ่มเติมเข้ามาให้พิจารณา โดย รมว.คมนาคมได้มอบหมายให้ ทช. และสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) พิจารณาแนวทางในการดำเนินการที่เหมาะสมร่วมกับ กทม. พร้อมทั้งให้ ทช.พิจารณาหาทางออกที่ไม่ต้องทุบสะพานตากสิน เพื่อหารือกับ กทม.เพิ่มเติมด้วย
ทั้งนี้ จากที่มีผู้แทนกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจริมแม่น้ำเจ้าพระยาและชุมชนในเขตบางรัก ได้มีหนังสือถึงกระทรวงคมนาคมเมื่อปี 2558 คัดค้านการทุบสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สะพานตากสิน (S6) เพื่อรองรับส่วนต่อขยายสายสีสม (ตากสิน-บางหว้า) โดยล่าสุด กทม.ได้เสนอปรับแบบก่อสร้างใหม่โดยคงสถานีตากสินไว้ แต่จะต้องรื้อชานชาลาที่พักผู้โดยสารปัจจุบันออกเพื่อขยายพื้นที่ชานชาลาเพิ่มเพื่อให้วางรางได้อีก 1 ราง ซึ่งจะใช้พื้นที่สะพานตากสินข้างละ 1.80 เมตร และขยายสะพานด้านแม่น้ำออกเพื่อทดแทนส่วนที่ถูกทุบ
โดยในส่วนของ ทช.นั้น เห็นว่าในด้านวิศวกรรมไม่น่าจะดำเนินการได้ ดังนั้นจึงให้ กทม.ทำแบบรายละเอียด รายการคำนวณทางวิศวกรรมต่างๆ ทั้งการวิเคราะห์แบบจำลอง การวิเคราะห์น้ำหนักบรรทุก ผลกระทบทางกาบภาพของสะพานก่อนและหลังการเปลี่ยนแปลงขั้นตอนและวิธีการก่อสร้าง ซึ่ง กทม.มีบริษัทที่ปรึกษาและออกแบบดำเนินการ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติมตามที่ ทช.ขอไป จึงทำให้ยังไม่สามารถพิจารณาใดๆ ได้
เมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ทช.ได้ทำหนังสือสอบถามไปยัง กทม.แล้วครั้งหนึ่ง แต่ กทม.ยังไม่ได้ส่งรายละเอียดเข้ามา หลังจากนี้จะทำหนังสือสอบถามไปยัง กทม.อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม รมว.คมนาคมมีความกังวลในประเด็นรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีสะพานตากสิน เนื่องจากมีสภาพเป็นคอขวดที่กระทบต่อระบบโดยรวม และหากไม่เร่งแก้ไขหรือทางออกจะเกิดปัญหาสำหรับระบบรางในอนาคตได้ ซึ่ง ทช.จะต้องเร่งหารือ กทม. รวมถึงหาทางออกในรูปแบบอื่นที่ไม่ต้องทุบสะพานตากสิน เพราะในด้านเทคนิคและวิศวกรรมเชื่อว่าจะมีผลกระทบอย่างมาก ในขณะเดียวกัน ทาง กทม.จะต้องยอมรับในค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นด้วย |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
|
Posted: 09/06/2017 1:46 pm Post subject: |
|
|
อัพเดทความคืบหน้าขยายบีทีเอสสถานีสะพานตากสิน
เตรียมเสนอแบบทช. ขยายบีทีเอสตากสิน
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์
26 พฤษภาคม 2560 05:40
กทม.เตรียมแจงรูปแบบขยายสถานีสะพานตากสินเพิ่มเติม ยืนยันไม่กระทบโครงสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา คาดปี 61 เริ่มก่อสร้าง
รถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีลม หรือรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม เป็นรถไฟฟ้าที่เดินรถทั้งหมด 2 เส้นทาง คือ เส้นทางสุขุมวิท และ เส้นทางสีลม โดยเส้นทางสายสีลมจะเริ่มจาก สถานีสยาม และไปสิ้นสุดที่ สถานีบางหว้าในปัจจุบัน
ทั้งนี้ ตัวสถานีสะพานตากสิน เป็นการสร้างตัวสถานียกระดับจากสะพานตากสิน 2 สะพานที่ขนานกัน ทำให้การก่อสร้างตัวสถานีสะพานตากสินนั้น เป็นการสร้างแบบชานชาลาข้างเพียงรางเดียว ด้วยพื้นอันจำกัดที่กว้างเพียง 16.5 เมตร และใช้ระบบการเดินรถผ่านจากสถานีตากสินไปยังสถานีอื่นๆด้วยการ สับราง
และเนื่องจากสะพานตากสิน ตามแผนแม่บท พ.ศ. 2538 จะต้องมีการทุบสถานีทิ้งเพื่อทำรางรถไฟฟ้าจากสถานีสุรศักดิ์ไปสถานีกรุงธนบุรีแทน แต่เพื่อป้องกันปัญหาการเรียกร้องจากประชาชน กทม.จึงปรึกษากับกรมทางหลวงชนบทที่เป็นเจ้าของสะพานตากสิน เรื่องขยายเลนสะพานอีก 1 เลนทั้งสองข้าง เพื่อขยายชานชาลาของสถานีและสร้างรางรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอีก 1 ราง แต่ทางกรมทางหลวงชนบทไม่เห็นด้วยกับวิธีนี้ บีทีเอสจึงแก้ปัญหาโดยใช้รถไฟฟ้าที่มีความยาวมากขึ้น และใช้การสับรางเหมือนเดิม
ล่าสุดทางกทม.ที่มีการแจงรูปแบบการขยายสถานีสะพานตากสินเพิ่มเติม โดยไม่ให้ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา และกำลังอยู่ในขั้นตอนรวบรวมเอกสาร รายละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบในการก่อสร้าง และรายละเอียดในการปรับปรุงสถานีรถไฟฟ้า เพื่อเสนอต่อกรมทางหลวงชนบทเป็นลำดับถัดไป
ซึ่งการปรับปรุงตัวสถานีสะพานตากสิน ทางกทม.ได้วางแผนไว้ให้รถไฟฟ้ายังสามารถเดินรถได้ตามปกติในระหว่างที่มีการปรับปรุงสถานี และเน้นทำงานในช่วงเวลากลางคืน โดยงบประมาณประเมินไว้ 400-600 ล้านบาท และมีค่ารื้อสถานี 70 ล้านบาท ซึ่งทั้งหมดนี้จะได้ข้อสรุปอีกทีไม่เกินปลายปี 2560 และจะเริ่มดำเนินการได้ในปี 2561 |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44329
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 18/07/2017 7:48 am Post subject: |
|
|
แก้ปัญหาคอขวดบีทีเอสตากสินสิ้นปีนี้
คมชัดลึก 19 ก.ค. 60
นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน อธิบดีกรมทางหลวงชนบท เปิดเผยว่าปลายเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา กรมฯได้เห็นชอบหลักการปรับปรุงสถานีรถไฟฟ้าตากสินตามที่บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) หรือ บีทีเอสซี เสนอ เพื่อแก้ไขปัญหาคอขวดของรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงสนามกีฬาแห่งชาติ-บางหว้า หรือรถไฟฟ้าบีทีเอส สายสีลม
โดยขั้นตอนหลังจากนี้ บีทีเอสซีจะต้องจัดทำรายละเอียดการออกแบบ กรอบระยะเวลาการก่อสร้างและขั้นตอนการจัดจราจรเพื่อเสนอให้กรมฯเห็นชอบอีกครั้ง โดยกระทรวงคมนาคมจะแถลงข่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บีทีเอสซี เปิดเผยว่า บีทีเอสซี และกรุงเทพมหานคร (กทม.) กำลังรอหนังสือยืนยันมติกรมทางหลวงชนบทอย่างเป็นทางการ เมื่อได้รับหนังสือแล้วจะเร่งออกแบบรายละเอียดเพื่อเสนอให้กรมทางหลวงชนบทพิจารณาโดยเร็ว รวมถึงจะหารือกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) เรื่องรายละเอียดการดำเนินงานและภาระค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น
สำหรับขั้นตอนการอนุมัติโครงการหลังจากนี้คงใช้เวลาไม่นาน เพราะเห็นชอบหลักการเรียบร้อยแล้ว เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเริ่มก่อสร้างได้ภายในปลายปีนี้
โดยการก่อสร้างจะเริ่มจากการปรับปรุงช่องจราจรบนสะพานตากสินให้เสร็จก่อน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหากับผู้ใช้รถยนต์ จากนั้นจึงขยายรางรถไฟฟ้าและสถานีบีทีเอสตากสิน โดยคาดว่าทั้งหมดจะใช้เวลาประมาณ 1 ปีครึ่งถึง 2 ปีแล้วเสร็จ ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาคอขวดของรถไฟฟ้าสายสีเขียวได้
ปัจจุบันรถไฟฟ้าสายสีเขียวทั้งหมดมีผู้ใช้บริการกว่า 1แสนคนต่อวัน และมีอัตราการเติบโตราว 5% ต่อปี แต่พบว่ารถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงสนามกีฬาแห่งชาติ-บางหว้ามีปัญหาความแออัดอย่างมาก แต่ไม่สามารถเพิ่มความถี่ของขบวนรถเพื่อรองรับผู้โดยสารได้ เพราะปัญหาคอขวดบริเวณสถานีตากสินส่งผลให้ขบวนรถต่อรอการสับหลีก
รายงานข่าวแจ้งว่า การปรับปรุงสถานีบีทีเอสตากสินจะเริ่มจากการก่อสร้างทางเบี่ยงบนสะพานตากสินข้างละ 1.80 เมตร ระยะทาง 230 เมตร เพื่อไม่ให้เสียช่องการจราจรทางถนน จากนั้นจะรื้อชานชลาบีทีเอสเดิมออกเพื่อก่อสร้างรางคู่จากเดิมเป็นรางเดี่ยว ก่อสร้างชานชลา 2 ฝั่ง จากเดิมมี 1 ฝั่ง พร้อมปรับปรุงทางขึ้นลงให้เป็นตามมาตรฐาน โดยงบประมาณทั้งหมดอยู่ที่ราว 1,000 ล้านบาท |
|
Back to top |
|
|
|