Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311280
ทั่วไป:13262560
ทั้งหมด:13573840
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวเกี่ยวกับ "ที่ดิน" ของ "รฟท."
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวเกี่ยวกับ "ที่ดิน" ของ "รฟท."
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 136, 137, 138 ... 197, 198, 199  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
nutsiwat
2nd Class Pass
2nd Class Pass


Joined: 03/03/2011
Posts: 684
Location: สถานีเรณูนคร

PostPosted: 05/07/2017 1:00 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
บอร์ด ร.ฟ.ท.เคาะพัฒนาที่ดินแสนล้าน ทำเลทอง “กม.11-แม่น้ำ” เปิด PPP หาเอกชนร่วมทุน
โดย MGR Online
5 กรกฎาคม 2560 06:26 น. (แก้ไขล่าสุด 5 กรกฎาคม 2560 09:37 น.)

บอร์ด ร.ฟ.ท.อนุมัติแผนพัฒนาเชิงพาณิชย์ที่ดิน 2 แปลงใหญ่ “แม่น้ำ-กม.11” โดยให้ปรับลดขนาดลงทุนบางส่วนเพื่อเป็นไปได้ในการลงทุน คาดชงคมนาคมและ สคร.เดินหน้าเปิด PPP หาเอกชนร่วมลงทุน พร้อมเตรียมชง คนร.ตั้งบริษัทลูก “พัฒนาสินทรัพย์” เร็วๆ นี้

นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รองอธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) ในฐานะรักษาการผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ร.ฟ.ท. เมื่อวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมาได้มีมติเห็นชอบแผนการพัฒนาที่ดินเชิงพาณิชย์ของการรถไฟฯ 2 แปลงใหญ่ คือ ที่ดินสถานีแม่น้ำ เนื้อที่ 277.5 ไร่ และโครงการพัฒนาพื้นที่นิคม กม.11 เนื้อที่ 359 ไร่ โดยบอร์ดมีความเห็นให้ ร.ฟ.ท.ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย และนำเสนอต่อคณะอนุกรรมการกลั่นกรอง หากไม่มีความเห็นแย้งใดๆ ให้นำเสนอต่อไปยังกระทรวงคมนาคมเพื่อเข้ากระบวนการการร่วมลงทุนเอกชน (PPP) ตามพระราชบัญญัติการให้เอกชนเข้าร่วมลงทุน พ.ศ. 2556 ซึ่งจะเร่งนำเสนอต่อ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ซึ่งคาดว่าจะเปิดประมูลได้ในต้นปี 2561 โดยขณะนี้ ร.ฟ.ท.เสนอแนวทางการจัดตั้งบริษัทลูกพัฒนาสินทรัพย์เสนอไปยังกระทรวงคมนาคมแล้ว และคาดว่าจะเสนอคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ได้เร็วๆ นี้

รายงานข่าวแจ้งว่า โครงการพัฒนาที่ดินเชิงพาณิชย์ของ ร.ฟ.ท.มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการหารายได้จากทรัพย์สินของการรถไฟฯ และชดเชยภาระขาดทุนสะสมขององค์กร โดยบอร์ดให้เพิ่มรายละเอียดรูปแบบการพัฒนาที่มีขนาดเล็กลงเป็นตัวเลือกเพิ่มเติมด้วยเพื่อความหลากหลายในการประมูล ขณะที่กระทรวงคมนาคมจะนำไปผสมผสานกับการศึกษาของไจก้าด้วย

สำหรับพื้นที่บริเวณสถานีแม่น้ำ ขนาด 277.5 ไร่ ประเมินมูลค่าทรัพย์สินไว้ที่ 13,317.24 ล้านบาท และประเมินมูลค่าก่อสร้างโครงการ และสาธารณูปโภค ซึ่งไม่รวมค่าตกแต่งภายในและการปรับภูมิทัศน์ 88,780 ล้านบาท โดยผลการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบเบื้องต้นของโครงการพัฒนาในพื้นที่ทั้งหมด แบ่งเป็นการพัฒนา 5 พื้นที่ ประกอบด้วย โซน 1 Gateway Commercial Park มีพื้นที่รวมทั้งหมด 77.13 ไร่ มีศักยภาพพัฒนาเป็นพื้นที่เพื่อการพาณิชยกรรม ที่พักอาศัย และบริการประเภทของอาคาร ประกอบด้วย ห้างสรรพสินค้า สำนักงาน โซน 2 Iconic Marina มีพื้นที่รวมทั้งหมด 44.00 ไร่ เป็นโรงแรม สำนักงาน ศูนย์ประชุมสัมมนา

โซน 3 Cultural Promenade มีพื้นที่รวม 78.25 ไร่ เช่น ร้านค้า ศูนย์กิจกรรมทั้งด้านบันเทิง ด้านการสร้างสรรค์ ร้านอาหารภัตตาคาร สปา โซน 4 Riverfront Residence มีพื้นที่รวม 55.63 ไร่ กลุ่มคอนโดมิเนียม กลุ่มอาคารพักอาศัย โซน 5 Affordable Community มีพื้นที่ 22.50 ไร่ เป็นที่พักของพนักงานและบุคลากรของการรถไฟฯ

ส่วน กม.11 พื้นที่รวม 359 ไร่ การศึกษาจะนำ 279 ไร่ให้เอกชนพัฒนา แบ่งเป็น 5 โซน ได้แก่ โซน 1 ออฟฟิศ เนื้อที่ 65 ไร่ โซน 2 ศูนย์แสดงสินค้าและโรงแรม 88 ไร่ โซน 3 โรงพยาบาลนานาชาติ 20ไร่ โซน 4 ที่พักอาศัย 40 ไร่ โซน 5 เป็นบ้านพักพนักงานการรถไฟฯ 66 ไร่


พื้นที่ แม่น้ำ ตรงส่วนที่เป็นที่เก็บซากรถสินค้าเก่าๆ ที่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา น่าจะให้เอกชนได้เช่าพื้นที่เพื่อทำอะไรก็ได้บนพื้นที่นั้น อาจจะไม่เกิดรายได้ให้กับ รฟท. ส่วนซากรถไฟที่ถูกทิ้งร้างไว้ อาจจะนำไปทำเป็นปะการังเทียมก็ได้ครับ และมีพื้นที่บางส่วนให้กับ รฟท. เป็นที่พักขบวนรถสินค้าและรถน้ำมันที่จะเข้ามายังคลังน้ำมัน ปตท. และท่าเรือครับ
_________________
Laughing Laughing Laughing Laughing
--------------------------

สถานีต่อไป สถานีเรณูนคร
next station Renunakorn
Back to top
View user's profile Send private message Yahoo Messenger MSN Messenger
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42702
Location: NECTEC

PostPosted: 19/07/2017 11:02 am    Post subject: Reply with quote

ซูเปอร์บอร์ดสั่งคมนาคมบี้การรถไฟฯ พัฒนาที่ดินนำรายได้ล้างหนี้คลังแสนล้าน
ข่าวสด
วันที่ 17 กรกฎาคม 2560 - 20:49 น.

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ว่า ความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาตามแผนฟื้นฟู 7 รัฐวิสาหกิจ ที่ประชุมคนร. กำชับทั้ง 7 แห่ง ทำแผนดำเนินงานให้มีความยั่งยืนระยะยาว และมอบหมายให้กระทรวงคมนาคม กำกับให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เร่งดำเนินการตามแผนการพัฒนาที่ดินไม่ได้ใช้ให้เกิดประโยชน์ (Non-Core) และให้จัดตั้งบริษัทบริหารทรัพย์สินขึ้นมาดูแล Non-Core ภายใน 3 เดือน รวมทั้งให้มีแนวทางการนำรายได้ที่ได้รับจากการพัฒนาที่ดินมาชำระหนี้สินของรฟท. ที่มีกับกระทรวงการคลังอยู่กว่า 1 แสนล้านบาท

และคนร.ยังให้ รฟท. สร้างความชัดเจนเกี่ยวกับรูปแบบ ผู้รับผิดชอบหลัก และแผนการบริหารจัดการรถไฟสายสีแดง รวมถึงแผนการบริหารที่ดินมักกะสัน เสนอคณะกรรมการกลั่นกรองภายในเดือนส.ค. 2560

ส่วนความคืบหน้าองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ต้องเร่งดำเนินการจัดหารถเมล์เอ็นจีวีให้ได้ภายในปีนี้ และจัดหารถเมล์ในประเภทอื่นๆ เช่น รถเมล์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า โดย คนร. กำชับ ขสมก. พิจารณาความเหมาะสมและความคุ้มค่าในการจัดหารถโดยสารแต่ละประเภท

ด้านบมจ. การบินไทย ในปี 2560 การบินไทยมีอัตราการขนส่งผู้โดยสาร (CabinFactor) ดีขึ้นและสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 82.8% โดยคนร. ขอให้การบินไทย เร่งเพิ่มรายได้จากผู้โดยสารและเร่งนำระบบการบริหารรายได้และโครงข่ายที่อยู่ระหว่างการพัฒนามาใช้

สำหรับความคืบหน้าธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) มีความคืบหน้าดีที่สุด โดยจะขอดูการดำเนินการของธนาคารถึงเดือน ก.ย. 2560 ว่าเป็นอย่างไร ก่อนพิจารณาให้ออกจากแผนฟื้นฟู


ส่วนธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) ดำเนินการโอนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ในส่วนของลูกค้าที่ไม่ใช่มุสลิมไปยังบริษัทบริหารสินทรัพย์ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย จำกัด (IAM) แล้ว 5 หมื่นล้านบาท และยังอยู่ระหว่างการสรรหาพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญ และให้ไอแบงก์จัดทำแผนปฏิบัติการระยะเร่งด่วนเพื่อให้สามารถดำเนินการได้ต่อเนื่องในระหว่างการสรรหาพันธมิตร รวมทั้งเร่งฟื้นฟูไม่ว่าจะหาพันธมิตรได้หรือไม่ แต่ต้องลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ให้ได้

ขณะที่บมจ. ทีโอที และบมจ. กสท โทรคมนาคม คนร. รับทราบและสั่งการให้ทั้ง 2 แห่งจัดตั้งบริษัทลูก คือบริษัทโครงข่ายบรอดแบนด์แห่งชาติ จำกัด (NBN) ในการดำเนินธุรกิจเคเบิ้ลใยแก้วใต้น้ำและอินเตอร์เน็ตดาต้าเซ็นเตอร์และบริษัท โครงข่ายระหว่างประเทศและศูนย์ข้อมูลอินเทอร์เน็ต จำกัด (NGDC) ในการดำเนินธุรกิจอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ให้ได้ภายในเดือน ก.ค.นี้ และเปิดบริการให้ได้ในวันที่ 1 พ.ย. 2560

นายเอกนิติ กล่าวว่า ที่ประชุม คนร. ยังรับทราบแนวทางการแต่งตั้งกรรมการรัฐวิสาหกิจใหม่ ซึ่งจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบในวันที่ 18 ก.ค. 2560 สาระสำคัญเพื่อให้การสรรหากรรมการรัฐวิสาหกิจเป็นไปอย่างโปร่งใส สอดคล้องกับแนวทางปฏิรูปและการกำกับกิจการที่ดี โดยการนำสมรรถนะหลักและความรู้ที่จำเป็น (skill matrix) มาใช้ในการสรรหากรรมการรัฐวิสาหกิจ ซึ่งจะทำให้กรรมการมีความรู้ ความเชี่ยวชาญ มีความสามารถที่ตรงกับความต้องการของแต่ละแห่ง

โดยให้ สคร.ประสานกับผู้บริหารของรัฐวิสาหกิจกำหนดสมรรถนะแต่งตั้งกรรมการของแต่ละแห่ง ซึ่งทุกรัฐวิสาหกิจจะต้องกำหนดด้านการเงิน บัญชี กฎหมาย ไอที เพื่อใช้ในการขับเคลื่อนและเพิ่มประสิทธิภาพพัฒนารัฐวิสาหกิจ
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44517
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 20/07/2017 7:28 am    Post subject: Reply with quote

ชาวชุมชนบ่อสีเสียดบุกสถานีรถไฟตรัง ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมการรถไฟ
ช่อง 8 วันที่ลงข่าว 20 กรกฎาคม 2560 เวลา 05:34 น.

ชาวชุมชนบ่อสีเสียด อำเภอเมืองตรัง รวมตัวกันที่สถานีรถไฟตรัง เพื่อยื่นหลังสือเรียกร้องต่อการรถไฟแห่งประเทศไทย หลังได้รับความเดือดร้อน จากการรถไฟแห่งประเทศไทย ทำหนังสือแจ้งให้รื้อถอนที่อยู่อาศัย และที่ทำกินในพื้นที่เขตรถไฟ

ชาวบ้านชุมชนบ่อสีเสียด ตำบลนาท่ามเหนือ อำเภอเมืองตรัง ประมาณ 100 คน ได้รวมตัวกันเดินทางไปที่สถานีรถไฟตรัง ตำบลทับเที่ยง อำเภอเมืองตรัง เพื่อยื่นหนังสือข้อเรียกร้อง ต่อการรถไฟแห่งประเทศไทย

หลังมีหนังสือจากรถไฟแห่งประเทศไทย แจ้งให้รื้อถอนที่อยู่อาศัย และที่ทำกินในพื้นที่เขตรถไฟ อ้างว่า ชาวบ้านบุกรุกทางรถไฟ และบดบังทัศนียภาพ และมีคำสั่งจากสำนักงานบังคับคดีจังหวัดตรัง ให้รื้อถอนภายในเดือนกรกฎาคมนี้

ทั้งนี้ ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน จึงพากันมาเรียกร้อง 3 ข้อ ประกอบด้วย

1.ให้การรถไฟแห่งประเทศไทยสั่งการเจ้าหน้าที่ในท้องถิ่น ในสังกัดหยุดทำการไล่รื้อติดหมายไล่รื้อ หรือดำเนินคดีกับชาวบ้านทุกกรณีทันที

2.ชุมชนยื่นเช่าที่ดินที่อยู่อาศัยในระยะยาว ภายใต้โครงการบ้านมั่นคง กับเครือข่ายสลัม 4 ภาค

3.ขอให้การรถไฟแห่งประเทศไทย อนุญาตให้ชาวบ้าน สามารถซ่อมแซมที่อยู่อาศัยได้ชั่วคราว และหนังสือดังกล่าวได้ยื่นเสนอกับการรถไฟแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2560 ที่ผ่านมา ให้เป็นผลกับการเรียกร้องของชาวบ้าน

โดยมีนายวิรัตน์ คงดี นายสถานีรถไฟจังหวัดตรัง เป็นตัวแทนผู้รับมอบหนังสือ พร้อมรับปากว่า จะรีบส่งหนังสือไปยังการรถไฟแห่งประเทศไทยให้เร็วที่สุด เพื่อพิจารณาและดำเนินการต่อไป

ขณะที่นายเจริญพงศ์ มาชู ปลัดอำเภอเมืองตรัง ซึ่งทำหน้าที่ดูแลศูนย์ดำรงธรรมอำเภอเมืองตรัง ได้มาร่วมเป็นสักขีพยาน ในการ รับ - ส่ง หนังสือด้วย ท่ามกลางการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย ของทหารจากค่ายพระยารัษฎานุประดิษฐ์ และ อาสาสมัครฝ่ายปกครอง
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44517
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 02/08/2017 7:28 pm    Post subject: Reply with quote

คมนาคม เล็งชง ครม.เสนอย้ายขนส่งหมอชิตไปอาคาร BKT ในปี 66, วางเป้าเปิดสถานีกลางบางซื่อปี 63
ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 2 สิงหาคม 2560 18:32:04 น.

นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ด้านโครงสร้างพื้นฐาน เปิดเผย ภายหลังประชุมคณะกรรมการบูรณาการการพัฒนาพื้นที่สถานีกลางบางซื่อและพื้นที่ต่อเนื่องว่า เป็นไปตามนโยบายของ นายพิชิต อัคราทิตย์ รมช.คมนาคม ที่ได้มอบหมายให้คณะกรรมการดำเนินการวางแผนในการพัฒนาพื้นที่สถานีกลางบางซื่อ เพื่อให้สามารถเปิดให้บริการต่างๆ ได้อย่างเชื่อมต่อ

โดยมีผู้แทนจาก สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กรมธนารักษ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) กรุงเทพมหานคร (กทม.) กรุงเทพธนาคม ร่วมกันผลักดันแผนงานโครงการให้แล้วเสร็จ

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มอบหมายให้ สนข.วางตารางการทำงานให้แผนงานโครงการแล้วเสร็จ ซึ่งจะแบ่งเป็น 3 ช่วง ได้แก่
1. เป้าหมายเปิดให้บริการสถานีกลางบางซื่อในปี 63 ในการให้บริการในภาพรวมจะเป็นอย่างไร กิจกรรมใดบ้างที่จะต้องแล้วเสร็จ และการเชื่อมโยงการเดินทางของประชาชนที่จะมาใช้บริการหลายแสนคนต่อวัน เพื่อให้สถานีกลางบางซื่อ เป็น Transportation Hub โดยไม่มีปัญหาอุปสรรค

2. ภายในปี 2566 จะย้ายสถานีขนส่งหมอชิตแห่งใหม่ไปอยู่ที่อาคารบางกอกเทอร์มินัล(BKT) บริเวณชั้น 4-5 (ศูนย์ซ่อมบำรุงรถไฟฟ้า BTS) แผนการบริหารจัดการจราจร ภายในพื้นที่สถานีกลางบางซื่อ ถนนพหลโยธิน จะมีแผนอย่างไร และกรณีมีการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ ในย่านบางซื่อ การเชื่อมต่อเดินทางจะเป็นอย่างไร และอนาคตจะมีการก่อสร้างอีก ดังนั้นต้องบูรณาการแผนการทำงานในพื้นที่เดียวกัน และ 3. เป็นการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์บริเวณสถานีกลางบางซื่อ ที่มีทั้งหมด 3 โซน คือ A ,B และ C

นายพีระพล กล่าวว่า การย้ายสถานีหมอชิตไปอาคาร BKT นั้น กรมธนารักษ์จะพิจารณาและนำเรื่องเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อทำสัญญา ได้รับแจ้งว่าจะเสนอ ครม.ได้ภายในเดือน ต.ค.นี้ จากนั้นจะออกแบบ 18 เดือน ก่อสร้าง 5 ปี จะต้องรอให้ BKT และกรมธนารักษ์ ลงนามสัญญาสัมปทานพัฒนาพื้นที่กันก่อน จากนั้นจะหารือในรายละเอียดในการพัฒนาพื้นที่ร่วมกันในส่วนของการใช้พื้นที่ 112,000 ตารางเมตร สำหรับรถ บขส. ซึ่งเป็นไปตามข้อตกลงเดิม ในการย้าย สถานี บขส.ออกจากหมอชิตเก่า ซึ่งคาดว่าอาคาร BKT จะก่อสร้างเสร็จปี 66

ขณะที่ จะต้องทำแผนย้าย บขส.ให้สอดคล้อง โดยมี 2 ส่วน รถสายสั้น ระยะทาง 250-300 กม.ส่วนหนึ่งจะอยู่ที่สถานีกลางบางซื่อ โดยจะเปลี่ยนแนวคิด เป็นแบบการจอดรับ-ส่ง ประมาณ 5 นาที (Sharing Gate) โดยภายในสถานีกลางบางซื่อจะมีจอบอกตารางรถ บขส. แต่ละเส้นทาง จอดช่องใด ส่วนอู่จอดถาวรอยู่ระหว่างพิจารณา แต่ต้องอยู่นอกสถานีในรัศมี 5 กม. ส่วนรถสายยาวจะไปใช้พื้นที่อาคาร BKT ใช้แนวคิด Sharing Gate เช่นกัน แต่สามารถจอดรถได้นานกว่า แต่ละชานชลาอาจจะมีเวลาจอด 15 นาที และมีจอบอกตารางเส้นทางและชานชลาภายในตัวสถานี และสามารถเชื่อมต่อการเดินทางกับรถไฟฟ้าและรถไฟทางคู่ได้ เป็นทางเลือกในการเดินทางที่สะดวกมากขึ้น อาจจะมีพื้นที่รับไม่ถึง 50 ช่องจอด

อย่างไรก็ตาม ช่วงปลายเดือน ส.ค.นี้ ทางองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งประเทศญี่ปุ่น (JICA) ซึ่งได้ให้ความช่วยเหลือศึกษาการพัฒนาพื้นที่สถานีกลางบางซื่อเชิงพาณิชย์จะ นำผลการศึกษารายงานต่อนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม ซึ่งจะนำแผนมารวมกันกับสนข.น่าจะเกิดความชัดเจนยิ่งขึ้น
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42702
Location: NECTEC

PostPosted: 03/08/2017 11:29 am    Post subject: Reply with quote

คมนาคม สั่ง สนข. ทำกรอบเวลาพัฒนาพื้นที่สถานนีกลางบางซื่อ คาด 2 เดือนสรุปผล
ข่าวสด
วันที่ 2 สิงหาคม 2560 - 16:51 น.
วางกรอบพัฒนาสถานีบางซื่อ! รองรับผู้โดยสารหลายแสนคน
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์
3 สิงหาคม 2560 - 05:30

นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ รองปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ที่ประชุมมอบให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กลับไปจัดทำแผนการการดำเนินโครงการสถานีกลางบางซื่อ ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 3 ช่วง ระยะสั้น กลาง และยาว ดังนี้ 1. ระยะสั้นคือ ในปี 2563 ที่จะเปิดให้บริการสถานีกลางบางซื่อ โดยต้องไปศึกษาว่าควรจะต้องมีการเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์อะไรก่อนได้บ้าง และควรวางโครงข่ายการเชื่อมต่อการเดินทางในระบบสาธารณะทั้งหมดว่าจะต้องวางแผนก่อสร้างอะไรก่อนบ้าง เพื่อให้ประชาชนสามารถเดินทางเชื่อมต่อได้ทุกระบบ เนื่องจากในอนาคตคาดว่ามีประชาชนเข้ามาใช้บริการที่สถานีกลางหลายแสนคน

2. ระยะกลางคือในปี 2566 ที่ บริษัท บางกอกเทอร์มินอล จำกัด หรือบีเคที ผู้รับสัมปทานพื้นที่ บริเวณโรงซ่อมบีทีเอส จากกรมธนารักษ์ จะก่อสร้างอาคารบีเคที ซึ่งส่วนของอาคารในชั้น 3 และ 4 จะเป็นพื้นที่จอดรถแห่งใหม่ ของ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) จะแล้วเสร็จ โดยจะต้องดูว่าภายในจะต้องมีการจัดทำระบบขนส่งอะไรบ้างเพื่อรองรับการให้บริการช่วงแรกของอาคาร โดยขณะนี้กรมธนารักษ์อยู่ระหว่างจัดทำรายละเอียดโครงการก่อสร้าง เสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติให้มีการลงนามในสัญญาก่อสร้าง คาดว่าจะลงนามกับบีเคทีได้ในเดือนต.ค. นี้ จากนั้นจะเข้าสู่ขั้นตอนการออกแบบก่อสร้างอีก 18เดือน และเริ่มดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายใน 5 ปี

โดยในส่วนนี้ สนข. ต้องจัดทำแผนการย้ายบขส. ออกจากสถานีกลางให้มีความชัดเจน โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ รถโดยสารสายสั้น หรือรถโดยสารสาธารณะที่วิ่งระหว่าง กทม.กับ ตจว. ที่มีระยะไม่เกิน 250-300 ก.ม. และรถสายยาวที่อยู่ห่างจาก กทม. เกินกว่า 300 ก.ม. เบื้องต้นกระทรวงเห็นชอบให้ใช้พื้นที่บริเวณสถานีกลางบางซื่อตามเดิม แต่จะไม่มีการจัดพื้นที่จอดรถไว้ให้ จะใช้ระบบจอดชั่วคราว 5-10 นาทีต่อเที่ยวบริเวณชานชลา เพื่อให้รถสามารถเข้ามารับและส่งผู้โดยสารเท่านั้น ซึ่งมีระบบคล้ายๆ กับภายในสนามบินในปัจจุบัน


ส่วนรถสายยาวจะจัดให้มีการจอดรับและส่งเฉพาะที่อาคารบีเคที ซึ่งเป็นอาคารจอดรถแห่งใหม่เท่านั้น และ 3. ระยะยาว คือช่วงการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ จะต้องจัดทำแผนว่าจะมีพัฒนาจะพัฒนารูปแบบใด แบ่งออกเป็นประเภทใดบ้าง

นายชยธรรม์ พรหมศร รองผู้ อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและ จราจร (สนข.) กล่าวว่า สนข. จะกลับไปศึกษาว่าควรจะเร่งรัดดำเนินโครงการใดก่อนบ้าง เพื่อให้รองรับการเปิดให้บริการสถานีกลางในแต่ละช่วงเวลา เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับผู้ที่จะเข้ามาใช้บริการ เช่น การให้บริการเชิงพาณิชย์ช่วงแรกควรจะมีอะไรบ้าง ซึ่งเบื้องต้นอาจจะต้องมี เช่น ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร ห้องน้ำ เป็นต้น รวมทั้งการพัฒนาระบบเชื่อมต่อการเดินทางให้สมบูรณ์ครอบคลุมได้ทุกระบบ คาดว่าจะใช้เวลาศึกษาประมาณ 2 เดือน จะสามารถนำกลับมาเสนอให้กระทรวงพิจารณาได้อีกครั้ง

ส่วนแผนการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ในภาพรวมนั้น องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น หรือ ไจก้า จะนำผลการศึกษาความเหมาะสมเบื้องต้นมาเสนอให้นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม พิจารณาในช่วงปลายเดือน ส.ค. นี้ ซึ่งสนข. จะต้องนำมาบูรณาการกับการจัดทำแผนของ สนข. ต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42702
Location: NECTEC

PostPosted: 03/08/2017 11:30 am    Post subject: Reply with quote

เปิดสถานีกลางบางซื่อปี 63 คค.สั่งแบ่งเฟสจัดขนส่งเชื่อม-ย้ายหมอชิตปี 66
โดย MGR Online
2 สิงหาคม 2560 18:39 น. (แก้ไขล่าสุด 2 สิงหาคม 2560 19:04 น.)

“คมนาคม” สั่ง สนข.วางแผนรองรับการเปิดสถานีกลางบางซื่อปี 63 เน้นการใช้ประโยชน์พื้นที่และบูรณาการแต่ละโครงการเข้าด้วยกัน พร้อมระบบเชื่อมต่อให้ประชาชนสะดวกที่สุด ขณะที่ยันย้ายสถานีหมอชิตไปอาคาร BKT ในปี 66 คาดธนารักษ์ชง ครม. ต.ค.นี้ ก่อนเดินหน้าเซ็นสัมปทาน เผย บขส.ต้องเปลี่ยนแนวคิด จัดช่องจอดรับ-ส่งแบบรวดเร็วเพื่อใช้พื้นที่ให้น้อยที่สุด

นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ด้านโครงสร้างพื้นฐาน เปิดเผยภายหลังประชุมคณะกรรมการบูรณาการการพัฒนาพื้นที่สถานีกลางบางซื่อ และพื้นที่ต่อเนื่องว่า จากนโยบายของ นายพิชิต อัคราทิตย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ให้ดำเนินการวางแผนพัฒนาพื้นที่สถานีกลางบางซื่อเพื่อให้สามารถเปิดให้บริการต่างๆ ได้อย่างเชื่อมต่อ ซึ่งที่ประชุมได้มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) วางตารางการทำงานให้แผนงานโครงการต่างๆ แล้วเสร็จ ซึ่งแบ่งเป็น 3 ช่วง ได้แก่ 1. เปิดให้บริการสถานีกลางบางซื่อในปี 2563 การให้บริการในภาพรวมจะเป็นอย่างไร โครงการใด กิจกรรมใดบ้างที่จะต้องแล้วเสร็จ และการเชื่อมโยงการเดินทางของประชาชนที่จะมาใช้บริการหลายแสนคนต่อวัน เพื่อให้สถานีกลางบางซื่อเป็น Transportation Hub โดยไม่มีปัญหาอุปสรรค

2. ภายในปี 2566 สถานีขนส่งหมอชิตแห่งใหม่จะย้ายไปอยู่ที่อาคารบางกอกเทอร์มินัล (BKT) บริเวณชั้น 4-5 (ศูนย์ซ่อมบำรุงรถไฟฟ้า BTS) แผนการบริหารจัดการจราจร ภายในพื้นที่สถานีกลางบางซื่อ ถนนพหลโยธินเป็นอย่างไร และกรณีมีการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ในย่านบางซื่อ ต้องบูรณาการแผนการทำงานในพื้นที่เดียวกัน 3. เป็นการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์บริเวณสถานีกลางบางซื่ออีก 3 โซน คือแปลง A, B และ C

ในส่วนของการย้ายสถานีหมอชิตไปอาคาร BKT นั้น ได้รับแจ้งว่ากรมธนารักษ์จะเสนอ ครม.ในเดือน ต.ค.นี้ จากนั้นจะออกแบบ 18 เดือน ก่อสร้าง 5 ปี ซึ่งจะต้องรอให้ BKT และกรมธนารักษ์ลงนามสัญญาสัมปทานพัฒนาพื้นที่กันก่อน จากนั้นจะหารือในรายละเอียดในส่วนของการใช้พื้นที่ 112,000 ตารางเมตรสำหรับรถ บขส.ซึ่งเป็นไปตามข้อตกลงเดิม

ขณะที่จะต้องทำแผนย้าย บขส.ให้สอดคล้อง โดยมี 2 ส่วน รถสายสั้น ระยะทาง 250-300 กม. ส่วนหนึ่งจะอยู่ที่สถานีกลางบางซื่อ โดยจะเปลี่ยนแนวคิดเป็นแบบการจอดรับ- ส่งประมาณ 5 นาที (Sharing Gate) โดยภายในสถานีกลางบางซื่อจะมีจอบอกตารางรถ บขส.แต่ละเส้นทาง จอดช่องไหน ส่วนอู่จอดถาวรนั้นอยู่ระหว่างพิจารณา แต่ต้องอยู่นอกสถานีกลางบางซื่อ รัศมี 5 กม. ส่วนรถสายยาวจะไปใช้พื้นที่อาคาร BKT แนวคิด Sharing Gate เช่นกัน แต่สามารถจอดรถได้นานกว่า โดยจะมีรูปแบบ Sharing Gate เช่นเดียวกัน แต่ละชานชาลาอาจจะมีเวลาจอด 15 นาที และมีจอบอกตารางเส้นทาง และชานชาลาภายในตัวสถานี และสามารถเชื่อมต่อการเดินทางกับรถไฟฟ้าและรถไฟทางคู่ได้ เป็นทางเลือกในการเดินทางที่สะดวกมากขึ้น อาจจะมีพื้นที่รับไม่ถึง 50 ช่องจอดน่าจะเพียงพอ

อย่างไรก็ตาม ช่วงปลายเดือน ส.ค.นี้ทางองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งประเทศญี่ปุ่น (JICA) ซึ่งได้ให้ความช่วยเหลือศึกษาการพัฒนาพื้นที่สถานีกลางบางซื่อเชิงพาณิชย์จะนำผลการศึกษารายงานต่อ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งจะนำแผนมารวมกันกับ สนข. น่าจะเกิดความชัดเจนยิ่งขึ้น
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44517
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 16/08/2017 6:15 pm    Post subject: Reply with quote

ผู้ค้าจตุจักร ร้องรถไฟกีดกันไม่ให้ซ่อมแซมร้านค้า
เดลินิวส์ พุธที่ 16 สิงหาคม 2560 เวลา 16.54 น.

ตัวแทนผู้ค้าจตุจักรรวมประมาณ 20 ยื่นหนังสือร้องเรียนและขอความเป็นธรรม ห้ามไม่ให้ร้านค้าที่ไม่ได้จ่ายค่าเช่าสทำการซ่อมแซมแผงค้าที่ชำรุด ขณะที่อัตราค่าเช่าที่เป็นธรรมยังไม่ได้ข้อสรุป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  เมื่อวันที่ 16 ส.ค.) เวลา  10.30 น.นายสงวน ดำรงไทย  ตัวแทนกลุ่มผู้ค้าตลาดนัดจตุจักร ได้นำตัวแทนผู้ค้าจตุจักรรวมประมาณ 20 คนได้เดินทางมายังกระทรวงคมนาคม เพื่อเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนและขอความเป็นธรรม ต่อนายพิชิต อัคราทิตย์ รมช.คมนาคม ซึ่งกระทรวงได้มอบหมายให้นายวรเดช หาญประเสิฐ ผู้ตรวจราชการ มารับหนังสือร้องเรียนแทน
 
นายสงวน   กล่าวว่า กลุ่มผู้ค้ากำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก เนื่องจากเมื่อเร็วๆ นี้ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารจัดการพื้นที่ตลาดนัดจตุจักร ได้ออกคำสั่งด้วยวาจาห้ามมิให้ร้านค้าที่ไม่ได้จ่ายค่าเช่าสถานที่ในอัตราค่าเช่าที่การรถไฟแห่ประเทศไทย(รฟท.) กำหนด ทำการซ่อมแซมแผงค้าที่ชำรุด  เช่น ห้ามซ่อมแซมหลังคาแม้ว่าจะมีฝนรั่วหลายจุดในช่วงนี้  ห้ามซ่อมประตูที่พังเสียหาย  หรือห้ามซ่อมแซมเครื่องปรับอากาศที่เสีย โดยอ้างเหตุผลว่าร้านค้าดังกล่าวติดค้างค่าเช่าพื้นที่กับ รฟท.  แม้ว่าขณะนี้อัตราค่าเช่าที่เป็นธรรมยังไม่มีข้อสรุป เพราะอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาคดีของศาล  

“ผู้ค้ามองว่าแนวทางที่ตลาดปฏิบัติต่อผู้ค้าเป็นการขาดจริยธรรมคุณธรรม หลักธรรมมาภิบาลเป็นอย่างมาก ดังนั้นผู้ค้าจึงได้เดินทางมายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมจาก รมช.คมนาคม ในฐานะที่กำกับดูแล รฟท. ให้ช่วยเหลือผู้ค้าด้วย รวมทั้งขอให้ประกาศยกเลิกห้ามซ่อมแซมร้านค้าที่เสียหายเช่นกัน”

นายสงวน  กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ กลุ่มผู้ค้าเคยฟ้องร้อง รฟท.ต่อศาลปกครองสูงสุด กรณีที่รฟท. มีการปรับขึ้นค่าเช่าพื้นที่จากเดือนละ240บาท เป็นเดือนละ3,157 บาท  ตั้งแต่ช่วงปี 55 ซึ่งเป็นช่วงที่ รฟท. เข้ามารับผิดชอบบริหารจัดการตลาดนัดจตุจักรแทนกรุงเทพมหานคร เพราะมองว่าเป็นอัตราที่ไม่เป็นธรรม โดยขณะนี้เรื่องยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของศาล คดียังไม่สิ้นสุด แต่ล่าสุด ผอ.ตลาดฯกลับออกมาประกาศว่าห้ามทำการซ่อมแซมพื้นที่ร้านค้า
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44517
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 27/08/2017 8:53 pm    Post subject: Reply with quote

ปรับแผนโครงการขยายถนนสุทธาวาส เร่งให้แล้วเสร็จปลายปีนี้ เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาจราจรและเชื่อมโยงโครงข่ายถนนย่านฝั่งธนบุรี
กองประชาสัมพันธ์ กทม. วันเสาร์, 26 สิงหาคม 2560 20:47

(26 ส.ค.60) เวลา 12.00 น. นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ติดตามโครงการก่อสร้างขยายผิวจราจรถนนสุทธาวาสและสะพานข้ามถนนจรัญสนิทวงศ์ โดยมีนายประชา พัฒนรัฐ ผู้อำนวยการเขตบางกอกน้อย พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่เขตบางกอกน้อย สำนักการโยธา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่ ณ บริเวณถนนสุทธาวาส เขตบางกอกน้อย

รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า วันนี้ได้ลงพื้นที่ติดตามโครงการก่อสร้างขยายผิวจราจรถนนสุทธาวาสและสะพานข้ามถนนจรัญสนิทวงศ์ จากการรายงานของสำนักงานเขตบางกอกน้อยเกี่ยวกับการดำเนินการรื้อย้ายบ้านที่รุกล้ำแนวขยายถนนสุทธาวาสตั้งแต่บริเวณคลองวัดไชยทิศจนถึงคลองชักพระ พบว่ามีอาคาร บ้าน และสิ่งปลูกสร้างอยู่ในที่ดินริมทางรถไฟ จำนวน 36 หลัง ซึ่งเป็นอาคารพักอาศัย จำนวน 4 หลัง เป็นเพิงหลังคาสำหรับจอดรถ จำนวน 18 หลัง เป็นอาคารร้านค้า จำนวน 14 หลัง ที่ผ่านมาสำนักงานเขตบางกอกน้อยได้ทำหนังสือแจ้งให้เจ้าของอาคารมาแสดงตัวหรือมาพบเจ้าหน้าที่ภายใน 7 วัน เพื่อที่จะทำการออกคำสั่งตามกฎหมายควบคุมอาคารแก่บุคคลที่มาแสดงตัว หากไม่มีเจ้าของอาคารมาแสดงตัวจะทำการออกคำสั่งแจ้งการรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อให้ดำเนินการรื้อถอนอาคารต่อไป

สำหรับโครงการก่อสร้างขยายผิวจราจรถนนสุทธาวาสและสะพานข้ามถนนจรัญสนิทวงศ์ ขณะนี้กรุงเทพมหานครได้ดำเนินการวางท่อระบายน้ำจากช่วงตั้งแต่ถนนจรัญสนิทวงศ์ถึงคลองชักพระในฝั่งขวาของถนนด้านที่ติดกับทางรถไฟสายใต้ ซึ่งเหลือความยาวท่อระบายน้ำที่ต้องดำเนินการอีกเพียงประมาณ 200 ม. แต่ติดขัดเนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีบ้านเรือนประชาชนที่รุกล้ำแนวขยายถนนสุทธาวาส ส่วนในฝั่งซ้ายของถนนได้ดำเนินการวางท่อระบายน้ำและสร้างบ่อพักเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะได้ปรับผิวจราจรต่อไป อย่างไรก็ตามเพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนในระหว่างการก่อสร้างผู้รับจ้าง ได้ปรับและจัดทำแผนใหม่การทำงานใหม่ พร้อมทั้งเตรียมงานก่อสร้าง โดยจะเริ่มงานในช่วงต้นเดือน ก.ย.60 และเร่งให้แล้วเสร็จในสิ้นปีนี้ ซึ่งเมื่อโครงการก่อสร้างขยายผิวจราจรถนนสุทธาวาสและสะพานข้ามถนนจรัญสนิทวงศ์แล้วเสร็จ จะสามารถบรรเทาปัญหาจราจรติดขัด ตลอดจนเชื่อมโยงโครงข่ายถนนเพิ่มประสิทธิภาพการจราจรในพื้นที่ฝั่งธนบุรีและพื้นที่ใกล้เคียงให้มีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42702
Location: NECTEC

PostPosted: 05/09/2017 10:16 am    Post subject: Reply with quote

ชาวชุมชนบ่อบัว เมืองแปดริ้ว ฮือปิดถนนหลังน้ำประปาไม่ไหล 4 วัน
โดย: MGR Online
เผยแพร่: 4 กันยายน 2560 22:12:00

ฉะเชิงเทรา - ชาวชุมชนบ่อบัว เมืองแปดริ้ว (บริเวณสถานีรถไฟแปดริ้วในยุคเริ่มแรก เมื่อ 24 มกราคม 2450 ก่อนทืี่จะทีสถานีรถไฟฉะเชิงเทรา ที่กม. 61 ขึ้นมาทดแทนเมื่อ 1 มกราคม 2467) ฮือปิดถนนเหตุไม่พอใจน้ำประปาไม่ไหล 4 วัน ระบุเดือดร้อนหนัก เหตุถูกกลั่น แกล้งจากข้อพิพาทกลุ่มนายทุนผู้ได้รับสัมปทานในที่ดินของการรถไฟฯ จนถูกฟ้องร้องขับไล่ ส่งผล จนท.หลายหน่วยงานต้องลงพื้นที่เจรจา ด้านการประปาแปดริ้ว รับปากเตรียมจ่ายน้ำให้หลังแก้ไขปัญหาท่อแตก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 17.00 น.วันนี้ ( 4 ก.ย. )ชาวบ้าน กว่า 80 คน ที่อาศัยอยู่บริเวณ ถนนนรกิจเลียบทางรถไฟ ด้านหลังตลาดสดบ่อบัว เขตเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา ได้รวมตัวกันนำยางรถยนต์ออกมาปิดกั้นเส้นทางจราจร จนทำให้ยานพาหนะที่กำลังสัญจรอยู่บนถนนไม่สามารถขับผ่านไปได้ ทั้งนี้เพื่อเรียกร้องให้ เจ้าหน้าที่บ้านเมือง เข้ามาแก้ไขปัญหาน้ำประปาไม่ไหลนานถึง 4 วัน จนทำให้ชาวบ้านในชุมชนกว่า 300 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน

นายสุวัฒน์ วงษ์ศรี อายุ 55 ปี ชาว ต.หน้าเมือง อ.เมือง ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นแกนนำกล่าวว่า เชื่อว่าสาเหตุที่น้ำประปาไม่ไหลมาจากบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งได้รับสัมปทานในที่ดินของการรถไฟ และกำลังมีปัญหาฟ้องร้องขับไล่ที่ดินเพื่อให้ชาวบ้านออกจากพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย จึงทำการตัดน้ำตัดไฟ ให้ชาวบ้านที่ยังคงอาศัยอยู่ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นการกลั่นแกล้ง รังแก

พร้อมบอกว่า หากในเวลา 19.00 น. น้ำประปายังไม่ไหล วันพรุ่งนี้จะทำการเผายางรถยนต์ และปิดรางรถไฟสายตะวันออกที่มุ่งหน้าสู่ท่าเรือแหลมฉบัง

อย่างไรก็ดี ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การนำยางรถยนต์ปิดขวางเส้นทางการสัญจรบนถนนสายดังกล่าว ทำให้ยานพาหนะ ไม่สามารถผ่านจุดที่มีการชุมนุมได้ ทำให้การจราจรในเขตตัวเมืองฉะเชิงเทรา ติดขัดสะสม และติดขัดอย่างหนักในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน ทำให้ พ.ต.ต.ภูเบศร์ เขจรลัย สวป. สภ.เมืองฉะเชิงเทราพร้อมด้วย ร.ต.อ.อัณณพ จันทร์ภักดี รองสวป. ร้อยเวรงานป้องกันและปราบปราม ต้องกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจเดินทางเข้าเจรจาเพื่อขอเปิดเส้นทาง ซึ่งกลุ่มชาวบ้าน ก็ยินยอมเปิดเส้นทางให้เพียง 1 ช่องทาง

กระทั่งมีการประสานเจ้าหน้าที่ทหารชุดประสานงานและรักษาความสงบเรียบร้อย อ.เมืองฉะเชิงเทรา นำโดย ร.อ.อนุกูล วงษ์แม่น้อย สังกัด ร้อย รส. ร.111 พัน 1 และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง นำโดย นายเอก อิทธิยาภรณ์ ปลัดอำเภอฝ่ายปกครอง และ พ.ต.อ.ณรงค์เดช ทัพพะจายะ ผกก. สภ.เมืองฉะเชิงเทรา เข้า เจรจากับชาวบ้าน เพื่อประสานงานไปยังการประปาส่วนภูมิภาคฉะเชิงเทรา ให้เปิดจ่ายน้ำแก่ชาวบ้าน โดยได้รับคำชี้แจงจากการประปา ว่าสาเหตุของน้ำไม่ไหลเกิดจากท่อน้ำประปาขนาดใหญ่แตก และยังมีปัญหาเรื่องกระแสไฟฟ้าดับเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา จึงทำให้ไม่สามารถจ่ายน้ำได้ พร้อมรับปากว่าจะเพิ่มแรงดัน และจ่ายน้ำเข้ามาสู่ชุมชนบ่อบัว โดยเร็ว จึงทำให้ชาวบ้านยอมสลายการชุมนุม
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44517
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 06/09/2017 7:31 am    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
ชาวชุมชนบ่อบัว เมืองแปดริ้ว ฮือปิดถนนหลังน้ำประปาไม่ไหล 4 วัน
โดย: MGR Online
เผยแพร่: 4 กันยายน 2560 22:12:00

แจงเหตุน้ำประปาชุมชนบ่อบัวไม่ไหล เพราะท่อแตก-ปรับปรุงโรงกรองน้ำ
ช่อง 8 วันที่ลงข่าว 6 กันยายน 2560 เวลา 04:21 น. 211

การประปาส่วนภูมิภาค จังหวัดฉะเชิงเทรา ชี้แจงกรณีที่ น้ำประปาชุมชนบ่อบัวไม่ไหล เนื่องจากมีการปรับปรุงโรงกรองน้ำสวนสน เพื่อทำการซ่อมแซมบำรุงระบบ และท่อประปาแตก
จากกรณีที่เมื่อเย็นวันที่ 4 กันยายน 2560 ชาวบ้านชุมชนบ่อบัว เขตเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา เกือบ 100 คน รวมตัวกันที่บริเวณถนนนรกิจ เลียบทางรถไฟ เขตเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา พร้อมนำยางรถยนต์มาขวางถนน ไม่ให้รถสามารถวิ่งได้ เพื่อเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่รับฟัง และช่วยแก้ปัญหาความเดือดร้อน เนื่องจากชาวบ้านในชุมชน จำนวนกว่า 300 ครัวเรือน กำลังได้รับความเดือดร้อน เพราะน้ำประปาไม่ไหลมานาน 4 วันนั้น

การประปาส่วนภูมิภาค จังหวัดฉะเชิงเทรา ได้ชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า สาเหตุเนื่องจากการประปาส่วนภูมิภาค จังหวัดฉะเชิงเทรา ได้ดำเนินการปรับปรุงโรงกรองน้ำสวนสน เพื่อทำการซ่อมแซมบำรุงระบบ เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2560 จึงทำให้ต้องหยุดจ่ายน้ำ ซึ่งการประปาได้มีการประชาสัมพันธ์ แจ้งหยุดจ่ายน้ำชั่วคราวล่วงหน้าแล้ว

ขณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 3 และ 4 กันยายน 2560 ท่อประปาแตก จึงต้องหยุดจ่ายน้ำ เพื่อซ่อมท่อ ดังนั้น เมื่อดำเนินการซ่อมท่อแล้วเสร็จ จำเป็นต้องส่งน้ำให้เต็มระบบในเส้นท่อก่อน จึงจะสามารถปรับแรงดัน เพื่อบริการน้ำประปาได้ตามปกติ และทางการประปาส่วนภูมิภาคจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้จ่ายน้ำให้ชุมชนบ่อบัวตามปกติ ตั้งแต่วันที่ 4 กันยายน 2560 แล้ว

อย่างไรก็ตาม ทางการประปาส่วนภูมิภาค จังหวัดฉะเชิงเทรา ได้ลงพื้นที่ชี้แจ้งให้ประชาชน ที่ได้รับผลกระทบเข้าใจแล้ว
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 136, 137, 138 ... 197, 198, 199  Next
Page 137 of 199

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©