RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311288
ทั่วไป:13270557
ทั้งหมด:13581845
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รถไฟฟ้าขนส่งมวลชนขอนแก่น
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รถไฟฟ้าขนส่งมวลชนขอนแก่น
Goto page Previous  1, 2, 3, 4, 5, 6 ... 15, 16, 17  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44616
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 11/09/2017 2:57 pm    Post subject: Reply with quote

คาดปลายปีนี้เปิดประมูลสร้างรถไฟฟ้ารางเบาเมืองขอนแก่น
โพสต์ทูเดย์ 11 กันยายน 2560 เวลา 09:25 น.

ติดเครื่องรถไฟฟ้าขอนแก่นสองเส้นทาง 3 หมื่นล้าน เตรียมเปิดประมูลช่วงเหนือ-ใต้ 1.5 หมื่นล้านภายในปลายปีนี้ ผุดไอเดียใช้รถบีอาร์ทีทดลองวิ่ง

นายเข็มชาติ สมใจวงษ์ ประธานหอการค้าจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า ความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้ารางเบา (LRT) จ.ขอนแก่น วงเงิน 15,000 ล้านบาท เส้นทางเหนือ-ใต้นั้นมีสัดส่วนเอกชนลงทุน 100% จึงสามารถดำเนินการประมูลควบคู่ไปกับการเสนอตามขั้นตอนเพื่อให้รัฐบาลพิจารณาได้ควบคู่กันไป

อย่างไรก็ตามขณะนี้โครงการอยู่ระหว่างการศึกษาของมหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) คาดว่าจะสามารถเปิดประมูลโครงการและเสนอที่ประชุมคระรัฐมนตรี(ครม.)ได้ภายในปลายปีนี้ ก่อนเริ่มก่อสร้างโครงการในช่วงต้นปีหน้า โดยมีกำหนดการแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการในปี 2563

ขณะที่โครงการต่อเนื่องในเส้นทางที่ 2 เชื่อมต่อตะวันออก-ตะวันตกของเมืองขอนแก่น วงเงิน 15,000 ล้านบาทนั้นจะเริ่มเปิดประมูลในปี 2563 ภายหลังจากเส้นทางแรกดำเนินการแล้วเสร็จ ส่วนด้านบริษัทรับจ้างเดินรถนั้นจังหวัดขอนแก่นได้ดำเนินการจดทะเบียนเพื่อก่อตั้งบริษัท ขอนแก่น ทรานซิทซิสเท็มส์ฯ หรือ เคเคทีเอส (KKTS) ประกอบด้วยผู้ถือหุ้นจาก 5 เทศบาลซึ่งเป็นเส้นทางที่รถไฟฟ้ารางเบาวิ่งผ่าน ได้แก่ เทศบาลนครขอนแก่นเทศบาลเมืองศิลา เทศบาลตำบลเมืองเก่า เทศบาลตำบลสำราญ และเทศบาลตำบลท่าพระ

ด้านนายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย ประธาน เจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) หรือ CHO เปิดเผยว่า ขณะนี้โครงการรถไฟรางเบาจ.ขอนแก่น (LRT) แนวเหนือ-ใต้ สำราญ-ท่าพระ มีระยะทางรวม 26 กิโลเมตร วงเงิน 15,000 ล้านบาทนั้นอยู่ระหว่างการศึกษาและออกแบบโครงการโดยมหาวิทยาลัยขอนแก่น(มข.) คาดว่าจะแล้วเสร็จและเสนอฉบับสมบูรณ์ในวันที่ 2 ต.ค.นี้ เพื่อเปิดประมูลในช่วงปลายปีนี้ก่อนลงนามสัญญาเอกชนภายในเดือนมี.ค. 2561 โดยในเดือนธ.ค.นี้ทางเทศบาลขอนแก่นจะเชิญนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มาเป็นประธานทำพิธีตอกเสาเข็มโครงการ

สำหรับค่าโดยสารในผลการศึกษาเบื้องต้นจะมีราคาเริ่ทต้นสถานีแรกที่ 15 บาท ไปจนถึงราคา 25 บาทตลอดสาย ขณะที่คาดการณ์ปริมาณผู้ใช้ต่อวันอยู่ที่ 60,000 เที่ยวต่อวัน ส่วนด้านโครงการรถไฟฟ้ารางเบาอีก 4 เส้นทางนั้น จะให้ที่ปรึกษาอย่างมข.ดำเนินการศึกษาและออกแบบ เส้นทางต่อเนื่อง1 เส้นทางเพื่อเชื่อมตะวันออกและตะวันตกของจังหวัด วงเงิน 15,000 บาทให้แล้วเสร็จภายในปีหน้า

อย่างไรก็ตามหลังจากเปิดบริการรถไฟฟ้ารางเบาสายแรกแล้ว จังหวัดจะใช้รถโดยสารบีอาร์ที ทดลองวิ่งบริการในแนวเส้นทางรถไฟฟ้ารางเบาที่จะก่อสร้างอีก 4 สายเพื่อสำรวจความต้องการและเสียงตอบรับ ก่อนดำเนินโครงการต่อไป แต่ทั้งนี้ยังคงเป้าหมายแผนเดิมไว้คือจะก่อสร้างเส้นทางรถไฟฟ้าเชื่อมตะวันออกและตะวันตกซึ่งผ่านสนามบินขอนแก่น เป็นเส้นทางที่สองต่อจากโครงการแรกแล้วเสร็จ

แหล่งข่าวสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่ง และจราจร(สนข.) เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมได้สั่งเร่งโครงการรถไฟรางเบาขอนแก่น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาจะได้ข้อสรุปภายใน 2 เดือน คาดว่าจะสามารถเสนอ คณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร .) ให้พิจารณาเห็นชอบภายในเดือนพ.ย.นี้เพื่อเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป ส่วนด้านการร่วมทุนแบบพีพีพีจะเป็นรูปแบบใดนั้นต้องส่งเรื่องให้หน่วยงานที่รับผิดชอบพิจารณาต่อไป

----

LRT ขอนแก่นเคาะราคาค่าโดยสาร 15-25 บาท ตอกเสาเข็ม ธ.ค.นี้
MGR Online เผยแพร่: 11 ก.ย. 2560 12:06:00

นายเข็มชาติ สมใจวงษ์ ประธานหอการค้า จ.ขอนแก่น เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินโครงการก่อสร้างระบบขนส่งมวลชนรถไฟฟ้ารางเบา (แอลอาร์ที) เส้นทางที่ 1 สายเหนือ-ใต้ช่วงบ้านสำราญ-บ้านท่าพระ จ.ขอนแก่น 16 สถานี วงเงิน 15,000 ล้านบาท ว่า จะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี และเปิดประมูลภายในปลายปีนี้ เริ่มก่อสร้างต้นปี 61 กำหนดแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการปี 63 ส่วนโครงการต่อเนื่องในเส้นทางที่ 2 เชื่อมต่อตะวันออก-ตะวันตกของเมืองขอนแก่น วงเงิน 15,000 ล้านบาท จะเริ่มเปิดประมูลปี 63

สำหรับหน่วยงานที่บริหารจัดการเดินรถนั้น จ.ขอนแก่น ได้จดทะเบียนก่อตั้งบริษัท ขอนแก่น ทรานซิทซิสเท็มส์ หรือ เคเคทีเอส (KKTS) ประกอบด้วยผู้ถือหุ้นจาก 5 เทศบาล ซึ่งเป็นเส้นทางที่รถไฟฟ้ารางเบาวิ่งผ่าน ได้แก่ เทศบาลนครขอนแก่น เทศบาลเมืองศิลา เทศบาลตำบลเมืองเก่า เทศบาลตำบลสำราญ และเทศบาลตำบลท่าพระ

นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) หรือ CHO ผู้ร่วมก่อตั้งเคเคทีเอส กล่าวว่า โครงการรถไฟรางเบา จ.ขอนแก่น สายเหนือ-ใต้ มีระยะทางรวม 26 กิโลเมตร วงเงิน15,000 ล้านบาท คาดว่า มข.จะศึกษาแล้วเสร็จ และเสนอฉบับสมบูรณ์ในวันที่ 2 ตุลาคมนี้ เพื่อเปิดประมูลช่วงปลายปีนี้ ก่อนลงนามสัญญาเอกชนภายในเดือนมีนาคม 61 และในเดือนธันวาคมนี้ ทางเทศบาลขอนแก่นจะเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานทำพิธีตอกเสาเข็มโครงการ
สำหรับราคาค่าโดยสาร เบื้องต้นผลการศึกษาระบุว่า จะมีราคาเริ่มต้นสถานีแรกที่ 15 บาท ไปจนถึงราคา 25บาทตลอดสาย ขณะที่คาดการณ์ปริมาณผู้ใช้ต่อวันอยู่ที่ 60,000 เที่ยวต่อวัน

ส่วนโครงการรถไฟฟ้ารางเบาอีก 4 เส้นทางนั้น จะให้ มข.ดำเนินการศึกษาและออกแบบ โดยเส้นทางที่ 2 เพื่อเชื่อมตะวันออกและตะวันตกของจังหวัด ซึ่งจะผ่านสนามบินขอนแก่นด้วย วงเงิน 15,000 บาท จะเร่งให้ศึกษาแล้วเสร็จภายในปี 61

อย่างไรก็ตาม หลังจากเปิดบริการรถไฟฟ้ารางเบาสายแรกแล้ว ทางจังหวัดจะใช้รถโดยสารบีอาร์ทีทดลองวิ่งบริการในแนวเส้นทางรถไฟฟ้ารางเบาที่จะก่อสร้างอีก 4 สาย เพื่อสำรวจความต้องการและเสียงตอบรับ ก่อนดำเนินโครงการต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44616
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 16/09/2017 3:24 pm    Post subject: Reply with quote

KKTS ออกประกาศเชิญชวนประกวดราคา 'รถไฟฟ้ารางเบาขอนแก่น' วงเงินกว่า 1.3 หมื่นล้านบาท
Arrow http://www.khonkaenlink.info/home/news/4886.html

Click on the image for full size

บริษัท ขอนแก่น ทรานซิท ซิสเต็ม จำกัด ได้ออกประกาศเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2560 เพื่อเชิญชวนประกวดราคาและยื่นข้อเสนอ งานโครงการก่อสร้าง ระบบขนส่งมวลชน ระบบรถรางเบา สายเหนือ-ใต้ ต้นแบบในเมืองภูมิภาค จังหวัดขอนแก่น โครงการขอนแก่น Smart City (ระยะที่ 1) โดยมี 3 โครงการหลักคือ

1. งานจ้างเหมาออกแบบ และก่อสร้าง งานโยธา และโครงสร้าง พร้อมทั้งการผลิต และการติดตั้ง ระบบขนส่งผู้โดยสารรางเบา (Light Rail Transit) ประเภท TRAM และการพัฒนาเมือง (TOD) ราคากลางวงเงินไม่เกิน 13,707,000,000 บาท

2. งานจ้างเหมาปฏิบัติการเดินรถ การบำรุงรักษา และบริหารจัดการพื้นที่สถานี และส่วนเกี่ยวเนื่อง ระบบขนส่งผู้โดยสารรางเบา (Light Rail Transit) ประเภท TRAM และการพัฒนาเมือง (TOD)

3. งานจ้างที่ปรึกษาอิสระ ตรวจสอบ ควบคุม และรับรอง ระบบขนส่งผู้โดยสารรางเบา (Light Rail Transit) ประเภท TRAM และการพัฒนาเมือง (TOD)

ทั้งนี้ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.kkts.co.th/1024 (ภาษาไทย) และ https://www.kkts.co.th/1033 (ภาษาอังกฤษ)

สำหรับบริษัท ขอนแก่น ทรานซิท ซิสเต็ม จำกัด เป็นบริษัทจำกัดของ 5 เทศบาล โดยมีเทศบาลนครขอนแก่น เทศบาลเมืองศิลา เทศบาลตำบลเมืองเก่า เทศบาลตำบลสำราญและเทศบาลตำบลท่าพระ รวมกันจัดตั้งบริษัทจำกัดเพื่อดำเนินการระบบขนส่งมวลชนระบบรางเบาสายเหนือ-ใต้ ต้นแบบในเมืองภูมิภาค จังหวัดขอนแก่น โครงการขอนแก่นSmart City (ระยะที่ 1) ทั้งนี้เทศบาลทั้ง 5 เทศบาลดังกล่าวได้จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทขึ้นเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2560 มีทุนจดทะเบียนเริ่มแรกจำนวน 5,000,000 บาท เพื่อดำเนินการโครงการข้างต้น

Click on the image for full size

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44616
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 17/10/2017 6:53 pm    Post subject: Reply with quote

กทพ.ลุยศึกษาทางด่วนในขอนแก่น
เดลินิวส์ อังคารที่ 17 ตุลาคม 2560 เวลา 11.00 น.

กทพ.บุกอีสาน วางแผนแม่บท สร้างด่วนขอนแก่น 4 เส้นทาง แก้จราจรติดขัด-รับรถไฟฟ้ารางเบา

รายงานข่าวแจ้งว่า ในการประชุมคณะกรรมการ(บอร์ด)การทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.)  เมื่อเร็วๆนี้  กทพ.ได้เสนอแผนแม่บทการศึกษาก่อสร้างทางด่วนในจ.ขอนแก่น เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรบริเวณตัวเมืองที่ปัจจุบันมีเพิ่มมากขึ้นซึ่งกทพ.ได้จ้างมหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) เป็นที่ปรึกษาโครงการศึกษาความเหมาะสมและความคุ้มค่าของโครงการคาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการศึกษาอีกสักระยะ เพื่อให้ได้แนวเส้นทางที่ชัดเจนและงบประมาณที่จะใช้ในการลงทุนก่อสร้าง

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่าโครงการดังกล่าวเป็นส่วนสำคัญในการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานของ จ.ขอนแก่นเพื่อรองรับโครงการรถไฟฟ้ารางเบาที่จะเกิดขึ้นในอนาคตตลอดจนอำนวยความสะดวกให้กับผู้สัญจรและการขนส่งสินค้าอีกด้วย หลังจากนี้กทพ.จะลงพื้นที่เพื่อเข้าไปสำรวจแนวเส้นทางและดูแผนศึกษาความเป็นไปได้โดยจะเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากเอกชน (Market Sounding) ถึงความสนใจลงทุนโครงการดังกล่าวควบคู่ไปกับเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นประชาชน(Public Hearing) เพื่อรับฟังเสียงตอบรับในแต่ละแนวเส้นทางจากนั้นจะสรุปผลการศึกษาทั้งหมดเสนอเข้าที่ประชุมบอร์ดกทพ.พิจารณาเห็นชอบก่อนเสนอกระทรวงคมนาคมต่อไป

รายงานข่าวแจ้งอีกว่าสำหรับแผนการก่อสร้างทางด่วนขอนแก่นนั้น กทพ. เตรียมศึกษาไว้ 4 แนวเส้นทาง คือ 1.เชื่อมการเดินทางระหว่างทิศเหนือและทิศใต้ของเมืองขอนแก่น ระยะทาง22.5กม. 2.เชื่อมการเดินทางระหว่างทิศเหนือ ทิศใต้และทิศตะวันออกของเมืองขอนแก่น ระยะทาง 14 กม. 3.เชื่อมการเดินทางระหว่างพื้นที่ฝั่งตะวันตกของเมืองขอนแก่นระยะทาง8.5 กม. และ 4.เชื่อมการเดินทางระหว่างพื้นที่ฝั่งตะวันออกของเมืองขอนแก่นระยะทาง7 กม.

สำหรับโครงการรถไฟฟ้ารางเบา (LRT) จ.ขอนแก่นวงเงิน 15,000 ล้านบาท โดยเส้นทางเหนือ-ใต้นั้นจะสามารถเปิดประมูลโครงการและเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้ภายในปลายปีนี้ และก่อสร้างต้นปี 61โดยมีกำหนดการแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการในปี 63ขณะที่โครงการต่อเนื่องในเส้นทางที่ 2เชื่อมต่อตะวันออก-ตะวันตกของเมืองขอนแก่น วงเงิน 15,000ล้านบาทนั้นจะเริ่มเปิดประมูลในปี 63
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44616
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 19/10/2017 1:35 pm    Post subject: Reply with quote

เอกชน 20 รายรุมชิงเค้กรถไฟรางเบาขอนแก่น 1.5 หมื่นล้าน
โพสต์ทูเดย์ 19 ตุลาคม 2560 เวลา 08:58 น.

Click on the image for full size

เอกชน 20 รายรุมชิงเค้กรถไฟรางเบาขอนแก่น 1.5 หมื่นล้าน คาดได้ตัวพ.ย.ก่อนลุยตอกเสาเข็มโครงการ ด้านสนข.เร่งเสนอแผนเข้ากระทรวงคมนาคมปลายปีนี้

นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น เปิดเผยว่า ความคืบหน้าโครงการก่อสร้างระบบขนส่งมวลชนรางเบา (แทรม) สายเหนือ–สายใต้ วงเงิน 15,000 ล้านบาท ระยะทาง 22.6 กม. มี 16 สถานี หลังจากที่เปิดประกาศขายซองประกวดราคา เมื่อวันที่ 18-29 ก.ย. นั้นมีเอกชนสนใจซื้อรายละเอียดและกำหนดการการประกวดราคายื่นข้อเสนอ จำนวน 20 ราย ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะผู้บริหารของบริษัทขอนแก่นทรานซิทซิสเต็ม (เคเคทีเอส) จำกัด ซึ่งบริษัทเอกชนที่สนใจซื้อแบบไปจะต้องเสนอการลงทุนรวมทั้งรูปแบบบริษัทที่เหมาะสม คาดว่าภายในปลายเดือน ต.ค.-ต้นเดือน พ.ย. จะทราบตัวเอกชนที่ชนะในการเสนอซื้อแบบและลงทุนต่อไป

นายธีระศักดิ์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้เดียวกันบริษัทฯ ต้องรอผลการศึกษาของ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ศึกษาแล้วเสร็จภายใน ต.ค. นี้ แล้วนำเสนอกระทรวงคมนาคม และ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป ทั้งนี้ทางบริษัทฯ จะเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อรายงานความคืบหน้าและรูปแบบการดำเนินงานโครงการดังกล่าว รวมทั้งบริษัทฯ ขอเจรจาผ่านกรมธนารักษ์จังหวัดขอนแก่นในการขอใช้พื้นที่ของศูนย์วิจัยข้าว 200 ไร่ มาพัฒนาเป็นศูนย์ซ่อมบำรุง เพื่ออนุมัติให้ใช้พื้นที่ จากนั้นบริษัทฯ ลงนามกับบริษัทเอกชนที่ชนะการประมูล คาดว่ากระบวนการทุกอย่างเสร็จสิ้นภายในปี 60 นี้ ซึ่งตามแผนเริ่มสร้างได้ต้นปี 61 แล้วเสร็จและให้บริการได้ในปี 63 </p><p>แหล่งข่าวจาก สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่ง และจราจร (สนข.)เปิดเผยว่าความคืบหน้าการศึกษาโครงการก่อสร้างระบบรถไฟรางเบา (LRT) นั้นใกล้ที่จะได้ฉบับสมบูรณ์แล้วเหลือเพียงให้ที่ปรึกษากลับไปจัดทำรายละเอียดเพิ่มเติมเรื่องแนวเส้นทางและสถานี คาดว่าจะเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการสนข.ให้พิจารณาเห็นชอบผลการศึกษาภายในพ.ย.นี้ก่อนส่งผลการศึกษาโครงการเข้าสู่กระทรวงคมนาคมในเดือนธ.ค.เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการจัดระบบการ จราจรทางบก(คจร.)ต่อไป

แหล่งข่าวกล่าวต่อว่าอย่างไรก็ตามทางภาคเอกชนของจังหวัดขอนแก่นได้ดำเนินการศึกษาและแนวเส้นทางควบคู่ไปกับสนข.ด้วยซึ่งตามสิทธิ์แล้วเอกชนสามารถดำเนินการศึกษา ร่างเอกสารประกวดราคา(ทีโออาร์)และเปิดประมูลโครงการเองได้แต่ทว่ายังไม่มีกฎหมายรองรับในการก่อสร้างและบริหารจัดการพื้นที่ตลอดแนวก่อสร้างรถไฟ ดังนั้นจึงต้องจับตาดูการออกร่างกฎหมายกระจายอำนาจส่วนท้องถิ่นฉบับใหม่ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) คาดว่าจะประกาศใช้ในช่วงปลายปีนี้ โดยในเนื้อหากฎหมายใหม่นั้นจะมีการให้อำนาจส่วนปกครองท้องถิ่นอาทิ เทศบาลหรือองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) มีอำนาจในการบริหารจัดการพื้นที่ภายในจังหวัดเพื่อส่งเสริมการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะทั้งระบบราง ทางบกและทางน้ำ ซึ่งจะเป็นการเปิดช่องให้แต่ละจังหวัดสามารถบริหารพื้นที่การก่อสร้างและตอกเสาเข็มโครงการรถไฟรางเบาได้ง่ายและรวดเร็วมากขึ้นโดยไม่ติดข้อกฎหมาย
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42743
Location: NECTEC

PostPosted: 20/10/2017 4:20 am    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
เอกชน 20 รายรุมชิงเค้กรถไฟรางเบาขอนแก่น 1.5 หมื่นล้าน
โพสต์ทูเดย์ 19 ตุลาคม 2560 เวลา 08:58 น.



แห่ซื้อแบบรถไฟฟ้าขอนแก่น20ราย
พฤหัสบดีที่ 19 ตุลาคม 2560 เวลา 13.00 น.

เอกชนแห่ซื้อแบบลงทุนสร้างรถไฟฟ้ารางเบาขอนแก่น 20 ราย คาดปลายเดือน ต.ค.-ต้นเดือน
พ.ย.60 ทราบเอกชนที่ชนะการประมูล เริ่มสร้างต้นปี 61 ให้บริการปี 63


รายงานข่าวจากสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) แจ้งความคืบหน้าโครงการศึกษาออกแบบรายละเอียดระบบขนส่งสาธารณะในเขตจังหวัดขอนแก่นและผลกระทบสิ่งแวดล้อมหรือรถไฟฟ้ารางเบาขอนแก่นว่า การศึกษาใกล้เสร็จสมบูรณ์เหลือเพียงให้ที่ปรึกษากลับไปจัดทำรายละเอียดเพิ่มเติมเรื่องแนวเส้นทางและสถานีคาดว่าจะเสนอที่ประชุมคณะกรรมการกำกับโครงการฯ
ของ สนข.พิจารณาเห็นชอบภายในเดือนพ.ย.นี้ก่อนส่งกระทรวงคมนาคมเดือน ธ.ค. 60
เพื่อเสนอคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก(คจร.) และเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.)
เห็นชอบต่อไป

ทั้งนี้ภาคเอกชนจ.ขอนแก่นได้ศึกษาแนวเส้นทางควบคู่ไปกับสนข.ด้วยซึ่งตามสิทธิ์แล้วเอกชนสามารถศึกษาร่างเอกสารข้อกำหนดและขอบเขตงาน(ทีโออาร์)และเปิดประมูลโครงการเองได้แต่ยังไม่มีกฎหมายรองรับการก่อสร้างและบริหารจัดการพื้นที่ตลอดแนวก่อสร้างจึงต้องจับตาดูการออกร่างกฎหมายกระจายอำนาจส่วนท้องถิ่นฉบับใหม่ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) คาดว่าจะประกาศใช้ช่วงปลายปีนี้โดยเนื้อหากฎหมายใหม่นั้นจะให้อำนาจส่วนปกครองท้องถิ่นอาทิเทศบาลหรือองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)มีอำนาจบริหารจัดการพื้นที่ภายในจังหวัดเพื่อส่งเสริมการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะทั้งระบบรางทางบกและทางน้ำซึ่งจะเปิดช่องให้แต่ละจังหวัดสามารถบริหารพื้นที่การก่อสร้างและตอกเสาเข็มโครงการรถไฟรางเบาได้ง่ายและรวดเร็วมากขึ้นโดยไม่ติดข้อกฎหมาย

ด้านนายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่นเปิดเผยความคืบหน้าโครงการระบบขนส่งมวลชนรางเบา (แทรม) ต้นแบบในเมืองภูมิภาค ของ จ.ขอนแก่นว่า หลังเปิดขายทีโออาร์ให้เอกชนยื่นข้อเสนอลงทุนโครงการรถไฟฟ้ารางเบาจ.ขอนแก่น เส้นทางแนวเหนือ-ใต้ ถนนมิตรภาพช่วงบ้านสำราญ-บ้านท่าพระ ระยะทาง 22.6กม. 16 สถานี วงเงินลงทุน 15,000 ล้านบาท ปรากฎว่ามีเอกชนสนใจซื้อเอกสาร 20 รายอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะผู้บริหารของบริษัทขอนแก่นทรานซิทซิสเต็ม (เคเคทีเอส)จำกัด ผู้บริหารโครงการ โดยผู้สนใจซื้อแบบต้องกลับไปเสนอรูปแบบการลงทุนที่เหมาะสมคาดว่าภายในปลายเดือน ต.ค. - ต้นเดือน พ.ย.จะทราบถึงเอกชนที่ยื่นข้อเสนอที่ดีที่สุดและได้รับคัดเลือกเป็นผู้ลงทุนก่อสร้างโครงการ

นายธีระศักดิ์ กล่าวต่อว่าขณะเดียวกันบริษัทฯ ต้องรอผลการศึกษาออกแบบรายละเอียดโครงการของสนข.ก่อน และจะเข้าพบรมว.มหาดไทย และรมว.เกษตรและสหกรณ์เพื่อรายงานความคืบหน้าและรูปแบบการดำเนินโครงการอีกทั้งต้องเจรจากรมธนารักษ์จ.ขอนแก่นขอใช้พื้นที่ของศูนย์วิจัยข้าว200ต
ไร่ มาพัฒนาเป็นศูนย์ซ่อมบำรุง หากทั้งหมดเรียบร้อยเคทีทีเอสจะลงนามบริษัทเอกชนที่ชนะการประมูลได้ภายในสิ้นปีนี้เพื่อเริ่มก่อสร้างต้นปี61 - เปิดให้บริการปี 63
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44616
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 31/10/2017 7:24 am    Post subject: Reply with quote

นายกเทศมนตรีฯให้สัมภาษณ์ความคืบหน้า LRTและการรองรับรถไฟรางคู่
วันจันทร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2560 เวลา 13.30 น. ณ ห้องนายกเทศมนตรีนครขอนแก่น
https://www.facebook.com/pg/kkmuni.Activity/photos/?tab=album&album_id=1966975303524659

นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย จังหวัดขอนแก่น ประเด็นการติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างระบบขนส่งมวลชนรางเบา LRT ของบริษัท 5 เทศบาล (บริษัท KKTS จำกัด) ซึ่งมี4 แนวทาง ดังนี้

แนวทางแรก เริ่มต้นจากผลการศึกษาซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ในเดือนพฤศจิกายน 2560 ที่เสนอเข้าบอร์ดของสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ในการพิจารณาขอความเห็นชอบ เมื่อผ่านความเห็นชอบจาก สนข.แล้วนั้น จะเข้าสู่การนำเสนอในคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่อขออนุมัติให้บริษัท5 เทศบาล คือ บริษัท KKTS เป็นผู้ดำเนินการ ในขณะเดียวกันระหว่างรอผลการศึกษาและการขออนุมัติดำเนินการควบคู่ไปพร้อมกัน

แนวทางที่สอง คือ หัวใจสำคัญของโครงการ คือ รายได้เชิงพาณิชย์ที่มาสนับสนุนโครงการฯ เรียกว่า “TOD” คือ การพัฒนาพื้นที่ที่อยู่รอบบริเวณสถานีขนส่ง พื้นที่ใหญ่ใจกลางเมืองที่เป็นเป้าหมายในการพัฒนานั่นก็คือ สถานีวิจัยข้าวที่อยู่ตรงข้ามโรงพยาบาลขอนแก่นรามซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 200 กว่าไร่ เนื่องจากรายได้จากค่าโดยสารนั้นได้เพียง 60 % หมายความว่าจะขาดรายได้อยู่ 40 % จึงมีความจำเป็นที่จะต้องพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ ดังนั้นหัวใจสำคัญของโครงการนี้จะต้องได้ที่ดินแปลงนี้มา ในปัจจุบันเทศบาลนครขอนแก่นจะต้องดำเนินการอีก 2 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 ขั้นตอนขอใช้ที่ดินจากศูนย์วิจัยข้าว โดยเทศบาลนครขอนแก่นจะดำเนินการขอคำปรึกษาจากรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย และนำเรียนรัฐมนตรีกระทรวงเกษตร หากทางผู้ใหญ่เห็นชอบในกระบวนการแลกเปลี่ยนที่ดินก็จะสามารถขับเคลื่อนโครงการได้ ซึ่งทางบริษัท KKTS จะต้องทำเรื่องเช่าที่จากกรมธนารักษ์เพื่อขอพัฒนาโครงการดังกล่าวฯ

แนวทางที่สาม เทศบาลนครขอนแก่นอยู่ระหว่างประกาศประกวดราคาเพื่อหาผู้รับจ้างทำโครงการ ซึ่งผู้รับจ้างจะต้องเสนอรูแบบแผนการลงทุน ไม่ว่าจะเป็น รูปแบบของการเงิน การก่อสร้าง เป็นต้น มีผู้ยื่นซื้อซองจำนวน 20 ราย ขณะนี้คณะกรรมการกำลังพิจารณาในรายละเอียด ระหว่างดำเนินการนี้จะต้องรอผลการพิจารณาเรื่อง การขอใช้ที่ดินศูนย์วิจัยข้าวควบคู่กันไปด้วยฉะนั้น

แนวทางที่สอง และแนวทางที่สามจะต้องรอผลไปพร้อมๆกันและทำคู่ขนานกันไปด้วย

แนวทางที่สี่ คณะทำงานที่ทางจังหวัดแต่งนั้น โดย นายสมศักดิ์ จังตระกูล เข้ามาดำเนินการต่อจะเข้าสู่การประชุม ครม. หากมีความจำเป็นที่จะต้องเสนอไปยังกระทรวงจะนำเข้าสู่การประชุมของ กรมกลางจังหวัด จะเห็นว่าความคืบหน้ายังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง

นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในขณะนี้รอเพียงการพิจารณาในการอนุมัติ การขอใช้ที่ดินศูนย์วิจัยข้าวเท่านั้นเอง หากให้ประมาณการในการดำเนินการของโครงการฯจะสามารถดำเนินการในช่วงต้นปี 2561 (ช่วงไตรมาสที่ 1 ตอนปลาย) กรณี หากไม่มีสิ่งใดติดขัด นับว่าเป็นเรื่องดีที่ในขณะนี้ท่านผู้ใหญ่ทราบเรื่องนี้เป็นอย่างดีและหลายท่านให้การสนับสนุน ซึ่งทางเทศบาลนครขอนแก่นจะต้องเข้าพบหลายหน่วยงาน เช่น รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม เนื่องจากการดำเนินการโครงการนี้ไม่ได้ดำเนินการภายใต้การดูแลของกระทรวงคมนาคมซึ่งเทศบาลนครขอนแก่นเป็นผู้ดำเนินการเอง จึงต้องขอคำปรึกษาจาก กระทรวงมหาดไทยอีกด้วย และจะต้องขอรับการสนับสนุนผู้ที่มีความรู้ความสามารถจากกระทรวงคมนาคมมาร่วมเป็นที่ปรึกษาของบริษัท KKTS เพื่อในการทำงานเป็นไปตามระเบียบกฎหมายอย่างถูกต้องเพราะว่าระบบขนส่งมวลชนรางเบา LRT เป็นเรื่องใหม่ที่ไม่เคยมีหน่วยงานไหนเคยทำมาก่อน นายกเทศมนตรีฯยังได้เน้นย้ำเพื่อให้พี่น้องประชาชนชาวขอนแก่นมีความมั่นใจในการขับเคลื่อนโครงการระบบขนส่งมวลชนรางเบา LRT ประการสำคัญของโครงการนี้สิ่งสำคัญ คือ การขอใช้ที่ดิน หากไม่ติดขัดสิ่งใดน่าจะได้เริ่มโครงการประมาณไตรมาสแรก ของปี 2561 แน่นอน

ทังนี้ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น ยังให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับ โครงการรถไฟทางคู่ที่กำลังดำเนินการก่อสร้างอยู่ในขณะนี้ สามารถแยกมุมมองได้เป็น สองประเด็น คือ

ผลกระทบด้านบวก
1) สามารถลดต้นทุนการขนส่ง ซึ่งเป็นปัญหาหลักของประเทศไทยเนื่องจากเป็นการขนส่งทางถนน เป็นปัญหาในการบำรุงรักษาถนนหนทางที่จะต้องใช้งบประมาณมากมายมหาศาลซึ่งมีรายจ่ายมากกว่าการขนส่งทางราง ฉะนั้นการขนส่งรถไปทางคู่จะเกิดความประหยัด มีความสะดวกสบาย รวดเร็ว ในส่วนของผู้ประกอบการสามารถลดต้นทุนได้มากขึ้นด้วย
2) ส่งผลถึงอัตราการเจริญเติบโตของจังหวัดขอนแก่นและในประเทศ
3) ส่งเสริมความเป็นจังหวัดขอนแก่นในความเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์
ไม่เพียงรถไฟทางคู่จะมาทางนี้สายเดียว ยังมีอีกสายหนึ่งต้นทางจะมาจากบ้านไผ่จังหวัดขอนแก่น ผลประโยชน์ที่ได้พร้อมกับโครงการระบบขนส่งมวลชนรางเบา LRT ในขณะนี้มีหน่วยงานที่จะให้ขอนแก่นเป็นศูนย์กลาง เช่น กรมขนส่งจะตั้งสถานีขนถ่ายสินค้า การท่าเรือแห่งประเทศไทย จะตั้งท่าเรือบกแก่ผู้ประกอบการสินค้าส่งออกสามารถมาขนส่งที่ขอนแก่นแล้วส่งไปยังท่าเรือได้โดยตรง การรถไฟ จะมีสถานีขนถ่ายสินค้าของรถไฟโดยมีคอนเทนเนอร์ยาร์ด ทางกระทรวงคมนาคมได้มอบหมายให้ สนข.เป็นผู้ประสานงานกับทุกหน่วยงานที่กำลังจะมีโครงการในจังหวัดขอนแก่นอย่างบูรณาการร่วมกัน เช่น รถไฟรางคู่จะไม่ได้จบที่ขอนแก่น เฟสต่อไปก็คือจากขอนแก่น ไปหนองคาย เพื่อจะไปเชื่อมเวียงจันทร์ ไปยังประเทศจีนตอนใต้ 2 มอเตอร์เวย์ อาจจะมีจากโคราชไปขอนแก่น หรือไปหนองคายในวันข้างหน้า จะต้องดูความเหมาะสมและโอกาสต่อไป 3 การทางพิเศษแห่งประเทศไทย มีการพูดถึงการออกแบบศึกษาทางพิเศษที่จะคอร์ทข้ามเมืองขอนแก่น

เห็นได้ว่า จังหวัดขอนแก่นกำลังก้าวสู่ความสำคัญ ด้านสถานีขนถ่ายสินค้า ศูนย์กลางสินค้า รถไฟต่างๆ และอีกมากมาย ส่งผลให้ สนข. ที่กำลังดำเนินการโครงการต่างเหล่านี้ ในส่วนผลกระทบด้านลบจากการก่อสร้างรถไฟรางคู่ ตอนนี้ปัญหาที่ยังแก้ไม่ตกก็คือ คนที่โดนรื้อบ้าน แล้วเค้าจะไปอยู่ที่ไหน หน่วยงานที่จะต้องเข้ามาดูแลเยียวยาโดยตรงจะเป็นหน่วยงานใดบ้าง ทางเทศบาลและพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบก็พยายามส่งเรื่องขึ้นไป แล้วก็ต้องหาวิธีช่วยเหลือกันเอง เราก็พยายามร่วมมือกับ พอช. ของกระทรวงพัฒนาสังคม โดยประชาชนที่ได้รับผลกระทบรวมตัวกันตั้งเป็นกลุ่ม แล้วก็เก็บเงินออมไว้ 10% แล้วก็กู้ได้ 100% กู้มาทำอะไร กู้มาซื้อที่มาสร้างบ้าน แล้วจะได้งบพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ถนน ไฟฟ้า ประปา ซึ่งทำมาได้แล้วทั้งหมด 3 เฟส แต่มันไม่ได้ตอบสนองความต้องการของกลุ่มคนเหล่านี้จริงๆ ถึงแม้อัตราการผ่อนอาจจะไม่สูงมากนักอาจจะเป็นภาระอันยิ่งใหญ่หรือเกินกำลัง ผมคิดว่าหน่วยงานภาครัฐอาจจะต้องมีที่ดินของรัฐแปลงหนึ่งเพื่อมาลงทุนสร้างให้ เทศบาลสามารถที่จะมาขอเช่า เพื่อให้พี่น้องประชาชนเหล่านี้มาเช่าต่อ หลักคิดได้ แต่พอถึงโครงการมันเป็นไปไม่ได้ ประการสำคัญหนึ่งคือ ที่ของรัฐแปลงหนึ่งใครจะยอมให้ การรถไฟที่เป็นเจ้าของโครงการก็ไม่พร้อมจะให้ที่ดิน ซึ่งมันก็เดินไม่ได้กับการที่จะช่วยคนที่ยากจนจริงๆ อีกประการหนึ่งคือ เมื่ออัตราการจราจรหนาแน่นขึ้น คนเดินทางสะดวกขึ้น คนเดินทางมากขึ้น ก็ส่งผลกระทบกับการจราจรในเขตเทศบาล คราวนี้จะมี3 ต่าง ก็จะมากขึ้นด้วย คือ ต่างด้าว ต่างประเทศ ต่างเมือง ก็จะมาอยู่ในขอนแก่นมากขึ้น ปัญหาของเมืองมหานครก็คือ ขยะ จราจร น้ำท่วม ก็จะหนักหนาสาหัสมากขึ้น เพราะการก่อสร้างมากขึ้น การสร้างปิดทางน้ำมากขึ้นปัญหาเหล่านี้ก็จะตามมาเป็นทวีคูณ

ดังนั้น ปัญหาใหญ่ของเทศบาล คือ การเตรียมการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ถนนที่ใช้นานกว่าจะชำรุด แต่กลับกลายเป็นชำรุดเร็วขึ้น แล้วในด้านงบประมาณซ่อมบำรุงก็จะมากขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งเรื่องท่อระบายน้ำที่วางมากว่า 30 ปี บางแห่งก็ทรุดตัว จะเห็นได้ว่าน้ำท่วมอยู่บ่อยๆ ซึ่งเทศบาลนครขอนแก่นยังเป็นที่รองรับและเป็นพื้นที่เชื่อมกับท่อระบายน้ำเข้าในเขตเทศบาลเป็นส่วนใหญ่ ส่งผลให้เทศบาลฯต้องมีการบริหารจัดการบำบัดน้ำเสียอย่างเป็นระบบที่กว้างขึ้นอีก บวกกับเรื่องงบประมาณที่ต้องเพิ่มขึ้นด้วย เมื่อจำนวนคนเมืองมากขึ้น ก็ต้องมีขยะมากขึ้นเท่าตัว ในทุกวันนี้เทศบาลฯ ในวิธีการจ้างกำจัด ถึงแม้จะเริ่มต้นที่ตันละ 250 บาท นั่นหมายถึงว่าเทศบาลฯจะมีภาระค่าใช้จ่ายกับเรื่องการบริหารจัดการเรื่องเหล่านี้เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นถนนที่เสียหายมากขึ้น การบำรุงรักษาซ่อมแซมถนนหนทาง การทำถนนใหม่ หรือการรื้อเพื่อสร้างใหม่ แต่ข้อจำกัดที่หนักที่สุดก็คือเรื่องงบประมาณ แม้ว่าเทศบาลนครขอนแก่นจะมีงบประมาณเป็นพันล้าน แต่งบในการพัฒนาปีหนึ่งอยู่หลักร้อยล้านเท่านั้นเอง ซึ่งไม่มีวันตอบสนองได้ทัน

ท้ายสุดนี้ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น กล่าวสรุปถึงผลกระทบอย่างองค์รวม ถึงแนวทางการปฎิบัติการวางแผนพัฒนาเทศบาลนครขอนแก่นคราวละ 4 ปี ถึงอย่างไรจะต้องมีการปรับปรุงแผนทุกๆ ปี เพื่อให้เกิดความทันสมัยและทันต่อเหตุการณ์ปัจจุบัน เพราะเมืองที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ปัญหามันซับซ้อนขึ้น ความต้องการก็ซับซ้อนขึ้น แต่ระเบียบกฎหมายก็ไม่มีการปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้มีความทันสมัย ให้เกิดความคล่องตัวในการทำงานของภาครัฐ ส่งผลให้เป็นปัญหาอย่างมากในการทำงานในปัจจุบัน
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44616
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 02/11/2017 5:32 pm    Post subject: Reply with quote

โปรเจกต์ปีหน้า คมนาคม ผุดรถไฟฟ้า 'ภูเก็ต-ขอนแก่น-โคราช-เชียงใหม่'
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 2 พ.ย. 2560 14:33

คมนาคม ลุยเพิ่ม 8 โปรเจกต์ปีหน้า งบ 1.03 แสนล้าน ผุดรถไฟฟ้าภูมิภาค ประเดิมภูเก็ต-ขอนแก่น-โคราช-เชียงใหม่ ด้านสมคิด กำชับจัดลำดับสำคัญลงทุน เน้นสนับสนุนเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก...</p><p>เมื่อวันที่ 2 พ.ย. นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ในปี 61 เตรียมลงทุนเพิ่มอีก 8 โครงการ คาดใช้งบประมาณราว 1.03 แสนล้านบาท ประกอบด้วย โครงการรถไฟฟ้าภูมิภาค 4 โครงการใน จ.ภูเก็ต จ.ขอนแก่น จ.นครราชสีมา จ.เชียงใหม่, โครงการทางด่วนมอเตอร์เวย์ 2 โครงการ สายรังสิต-บางปะอิน และสายกรุงเทพฯ-มหาชัย, โครงการปรับปรุงสนามบินขอนแก่น และสนามบินกระบี่, โครงการท่าเรือบกที่ จ.ขอนแก่น

ส่วนโครงการที่จะดำเนินการต่อเนื่องจนถึงปี 61 จะมีรวมทั้งสิ้น 51 โครงการ แยกเป็น โครงการที่เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) และคณะกรรมการ PPP จำนวน 24 โครงการ และอยู่ระหว่างประกวดราคา 27 โครงการ โดยเป็นโครงการต่อเนื่อง 43 โครงการ งบลงทุน 1.27 ล้านล้านบาท ส่วนอีก 8 โครงการใหม่ในปี 61 จะใช้งบลงทุน 1.03 แสนล้านบาท สำหรับการก่อสร้างรถไฟฟ้าภูมิภาค จะเริ่มในหัวเมืองหลักที่มีประชากรหนาแน่นและมีบทบาททางเศรษฐกิจ ซึ่งต่อจาก 4 โครงการแรก ในอนาคตจะมีการลงทุนเพิ่มเติมที่ จ.อุดรธานี และ จ.พิษณุโลก

ขณะที่ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การทำงานของกระทรวงคมนาคมมีความคืบหน้า ส่งผลต่อความเชื่อมั่น และการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยได้กำชับให้จัดลำดับความสำคัญของโครงการลงทุน เน้นโครงการที่สนับสนุนเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งโครงการระบบขนส่งทางรางนั้นจะร่าง TOR ให้เสร็จภายในปี 60 ส่วนโครงการสนามบิน ท่าเรือ จะร่าง TOR ให้เสร็จภายในไตรมาสแรกปี 61 ส่วนการก่อสร้างรถไฟทางคู่ 9 เส้นทางมีความคืบหน้าไปตามแผนงานที่กำหนดไว้ ขณะที่การตั้งศูนย์ซ่อมอากาศยาน ทางแอร์บัสกับ บมจ.การบินไทย (THAI) จะลงนามร่วมกันในอีกไม่กี่สัปดาห์นี้

นอกจากนี้ได้มอบหมายให้ 3 หน่วยงานด้านการบินไปหารือการจัดสรรที่จะเป็นผู้บริหารสนามบินภูมิภาคให้ได้ข้อยุติภายในเดือน พ.ย.นี้ เบื้องต้นทาง บมจ.ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) ได้เสนอขอบริหารสนามบินอย่างน้อย 15 แห่ง จากที่กรมท่าอากาศยานดูแลอยู่ 29 แห่ง
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42743
Location: NECTEC

PostPosted: 03/11/2017 2:02 am    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
โปรเจกต์ปีหน้า คมนาคม ผุดรถไฟฟ้า 'ภูเก็ต-ขอนแก่น-โคราช-เชียงใหม่'
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 2 พ.ย. 2560 14:33



“สมคิด”พอใจแผนลงทุนคมนาคมเบิกจ่ายทะลุเป้า สั่งสร้างรถไฟฟ้าแก้รถติด4หัวเมืองหลักปีหน้านำร่องภูเก็ต
วันที่ 2 พฤศจิกายน 2560 - 22:22 น.
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมติดตามการดำเนินงานของกระทรวงคมนาคม เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2560

นายสมคิดกล่าวภายหลังการประชุมว่า กระทรวงคมนาคมมีผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจ โดยเฉพาะโครงการลงทุนขนาดใหญ่ ตาม Action Plan 2560 มีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก สามารถเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2560 สูงกว่าเป้า 90%

โดยจะเบิกจ่ายงบประมาณในปีนี้อีก 1.16 ล้านล้านบาท และปีงบประมาณ 2561 จำนวน 800,000 ล้านบาท ส่งผลให้เศรษฐกิจของไทยขยายตัวดีขึ้น ทำให้นักลงทุนต่างชาติมีความเชื่อมั่นในการเข้ามาลงทุนในประเทศ


ส่วนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมรองรับการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) เป็นโครงการสำคัญที่กระทรวงคมนาคม ต้องเร่งดำเนินการเป็นอันดับแรก โดยเฉพาะโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมโยง 3 ท่าอากาศยาน ได้แก่ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานอู่ตะเภา การพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ขอให้เร่งรัดดำเนินการให้เป็นรูปธรรมภายในสิ้นปี 2560 ทั้งนี้ การดำเนินโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ ขอให้พิจารณาจัดลำดับความสำคัญในการดำเนินงาน

โดยมอบให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เร่งรัดดำเนินโครงการต่าง ๆ ให้เป็นไปตามแผนงาน และคาดว่าโครงการรถไฟไทย – จีน ช่วงกรุงเทพฯ – นครราชสีมา จะสามารถเริ่มการก่อสร้างได้ประมาณปลายเดือนพฤศจิกายน หรือต้นเดือนธันวาคม 2560

นอกจากนี้ ให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เร่งรัดดำเนินโครงการระบบขนส่งมวลชนทางราง เมืองหลักในภูมิภาค 4 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต ขอนแก่น นครราชสีมา และเชียงใหม่ โดยเฉพาะจังหวัดภูเก็ต ให้เร่งรัดการก่อสร้างภายในปี 2561 และให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ทำการศึกษาเพิ่มเติมอีก 2 จังหวัด ได้แก่ อุดรธานี และพิษณุโลก เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรและส่งเสริมการท่องเที่ยวในภูมิภาค

ขณะเดียวกันยังเร่งลงนามความร่วมมือบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และแอร์บัส ในการดำเนินโครงการก่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน (Maintenance, Repair and Overhaul : MRO) ณ ท่าอากาศยานอู่ตะเภา ได้ภายในปี 2560 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นการจัดทำ Aviation Hub

พร้อมมอบให้ 3 หน่วยงานหลักด้านการบิน ได้แก่ กรมท่าอากาศยาน สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย และบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมกันพิจารณาหาแนวทางการบริหารจัดการท่าอากาศยานในภูมิภาค จำนวน 28 แห่ง ที่เหมาะสม โดยให้ได้ข้อสรุปภายในเดือนพฤศจิกายน 2560



ส่วนการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (Thailand Future fund) ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ในโครงการทางพิเศษสายพระราม 3 – ดาวคะนอง – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก ขณะนี้ผลการศึกษาและกระบวนการขั้นตอนการจัดทำกำลังจะแล้วเสร็จ คาดว่า จะสามารถเปิดขายให้แก่นักลงทุนได้เมื่อตลาดหุ้นของไทยมีแนวโน้มไปในทางที่ดีขึ้น

พร้อมให้กรมทางหลวงดำเนินการพัฒนาที่พักริมทางหลวง (Rest Area) ตามเส้นทางหลักให้มีความสวยงาม เป็นจุดจำหน่ายสินค้าท้องถิ่น สินค้าเกษตรกรรม และสามารถพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว นอกจากนี้ ให้กรมทางหลวงชนบทดำเนินการพัฒนาเส้นทางไปสู่แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวในภูมิภาคของไทย

ด้านนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงฯ มีแผนปฏิบัติการลงทุนด้านคมนาคมขนส่ง (Action Plan) พ.ศ. 2561 เพื่อการขับเคลื่อนแผนงานต่อเนื่องจากปี 2559 และ 2560 โดยโครงการที่ต่อเนื่องมาจากปี 2560 ประกอบด้วย โครงการที่อยู่ระหว่างการเสนอคณะรัฐมนตรีและคณะกรรมการ PPP จำนวน 24 โครงการ โครงการที่ประกวดราคาแล้วเสร็จ สามารถเริ่มการก่อสร้างได้ จำนวน 27 โครงการ รวมทั้งสิ้นจำนวน 51 โครงการ

โดยในปี 2561 มีโครงการใหม่ จำนวน 8 โครงการ ประกอบด้วย โครงการทางยกระดับอุตราภิมุข รังสิต – บางปะอิน โครงการทางยกระดับบน H35 กรุงเทพฯ – มหาชัย โครงการพัฒนาธุรกิจท่าเรือบก (Dry Port) โครงการพัฒนาท่าอากาศยานกระบี่และท่าอากาศยานขอนแก่น ระบบขนส่งมวลชนทางรางจังหวัดขอนแก่น นครราชสีมา และเชียงใหม่ ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีได้ให้ความสำคัญเนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีขนาดใหญ่ มีประชากรจำนวนมาก และมีปัญหาการจราจรหนาแน่น
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44616
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 08/11/2017 7:59 am    Post subject: Reply with quote

คืบหน้ารถไฟรางคู่และรถไฟฟ้ารางเบา จ.ขอนแก่น วันที่ 7 พฤศจิกายน 2560 ข่าวเที่ยง
Newsnbt Thailand Published on Nov 6, 2017

ในช่วง 1- 2 ปีที่ผ่านมา ศูนย์กลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อย่างจังหวัดขอนแก่น ถือว่าเปลี่ยนแปลงไปมาก โดยเฉพาะระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งที่รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณมาเพื่อพัฒนาในส่วนภูมิภาคให้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น


https://www.youtube.com/watch?v=sXnxWnlIRcg
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42743
Location: NECTEC

PostPosted: 08/11/2017 3:41 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
คืบหน้ารถไฟรางคู่และรถไฟฟ้ารางเบา จ.ขอนแก่น วันที่ 7 พฤศจิกายน 2560 ข่าวเที่ยง
https://www.youtube.com/watch?v=sXnxWnlIRcg


รถไฟฟ้ารางเบาขอนแก่น รอแค่อนุมัติให้ใช้ที่ดิน หากไมติดขัดเริ่มได้ปี ๖๑
นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๓ ฉบับที่ ๒๔๖๖ วันจันทร์ที่ ๖ - วันศุกร์ที่ ๑๐ เดือนพฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๐

เมื่อไม่นานมานี้ นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่จังหวัดขอนแก่นถึงประเด็นการติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างระบบขนส่งมวลชนรางเบา LRT ของบริษัท ๕ เทศบาล (บริษัท KKTS จำกัด) ซึ่งมี ๔ แนวทาง ดังนี้

แนวทางแรก เริ่มต้นจากผลการศึกษาซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ในเดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๐ ที่เสนอเข้าบอร์ดของสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ในการพิจารณาขอความเห็นชอบ เมื่อผ่านความเห็นชอบจาก สนข.แล้วนั้น จะเข้าสู่การนำเสนอในคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่อขออนุมัติให้บริษัท๕ เทศบาล คือ บริษัท KKTS เป็นผู้ดำเนินการ ในขณะเดียวกันระหว่างรอผลการศึกษาและการขออนุมัติดำเนินการควบคู่ไปพร้อมกัน

แนวทางที่สอง คือ หัวใจสำคัญของโครงการ คือ รายได้เชิงพาณิชย์ที่มาสนับสนุนโครงการฯ เรียกว่า “TOD” คือ การพัฒนาพื้นที่ที่อยู่รอบบริเวณสถานีขนส่ง พื้นที่ใหญ่ใจกลางเมืองที่เป็นเป้าหมายในการพัฒนานั่นก็คือ สถานีวิจัยข้าวที่อยู่ตรงข้ามโรงพยาบาลขอนแก่นรามซึ่งมีพื้นที่ประมาณ ๒๐๐ กว่าไร่ เนื่องจากรายได้จากค่าโดยสารนั้นมีเพียง ๖๐% หมายความว่า จะขาดรายได้อยู่ ๔๐% จึงมีความจำเป็นที่จะต้องพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ ดังนั้นหัวใจสำคัญของโครงการนี้จะต้องได้ที่ดินแปลงนี้มา ในปัจจุบันเทศบาลนครขอนแก่นจะต้องดำเนินการอีก ๒ ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ ๑ ขอใช้ที่ดินจากศูนย์วิจัยข้าว โดยเทศบาลนครขอนแก่นจะดำเนินการขอคำปรึกษาจากรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย และนำเรียนรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรฯ หากเห็นชอบในกระบวนการแลกเปลี่ยนที่ดินก็จะสามารถขับเคลื่อนโครงการได้ ซึ่งทางบริษัท KKTS จะต้องทำเรื่องเช่าที่จากกรมธนารักษ์เพื่อขอพัฒนาโครงการดังกล่าวฯ

แนวทางที่สาม เทศบาลนครขอนแก่นอยู่ระหว่างประกาศประกวดราคาเพื่อหาผู้รับจ้างทำโครงการ ซึ่งผู้รับจ้างจะต้องเสนอรูแบบแผนการลงทุน ไม่ว่าจะเป็น รูปแบบของการเงิน การก่อสร้าง เป็นต้น มีผู้ยื่นซื้อซองจำนวน ๒๐ ราย ขณะนี้คณะกรรมการกำลังพิจารณาในรายละเอียด ระหว่างดำเนินการนี้จะต้องรอผลการพิจารณาเรื่อง การขอใช้ที่ดินศูนย์วิจัยข้าวควบคู่กันไปด้วย ฉะนั้นแนวทางที่สอง และแนวทางที่สามจะต้องรอผลไปพร้อมๆ กันและทำคู่ขนานกันไปด้วย และแนวทางที่สี่ คณะทำงานที่ทางจังหวัดแต่งนั้น โดยนายสมศักดิ์ จังตระกุล เข้ามาดำเนินการต่อจะเข้าสู่การประชุม ครม. หากมีความจำเป็นที่จะต้องเสนอไปยังกระทรวงจะนำเข้าสู่การประชุมของกรมการจังหวัด จะเห็นว่าความคืบหน้ายังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง
นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น กล่าวเพิ่มเติมว่า ในขณะนี้รอเพียงการพิจารณาในการอนุมัติ การขอใช้ที่ดินศูนย์วิจัยข้าวเท่านั้น หากให้ประมาณการในการดำเนินการของโครงการฯจะสามารถดำเนินการในช่วงต้นปี ๒๕๖๑ (ช่วงไตรมาสที่ ๑ ตอนปลาย) กรณี หากไม่มีสิ่งใดติดขัด นับว่าเป็นเรื่องดีที่ในขณะนี้ผู้ใหญ่ทราบเรื่องนี้เป็นอย่างดี และหลายท่านให้การสนับสนุน ซึ่งเทศบาลนครขอนแก่นจะต้องเข้าพบหลายหน่วยงาน เช่น รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม เนื่องจากการดำเนินการโครงการนี้ไม่ได้ดำเนินการภายใต้การดูแลของกระทรวงคมนาคมซึ่งเทศบาลนครขอนแก่นเป็นผู้ดำเนินการเอง จึงต้องขอคำปรึกษาจากกระทรวงมหาดไทยอีกด้วย และจะต้องขอรับการสนับสนุนผู้ที่มีความรู้ความสามารถจากกระทรวงคมนาคมมาร่วมเป็นที่ปรึกษาของบริษัท KKTS เพื่อในการทำงานเป็นไปตามระเบียบกฎหมายอย่างถูกต้องเพราะว่าระบบขนส่งมวลชนรางเบา LRT เป็นเรื่องใหม่ที่ไม่เคยมีหน่วยงานไหนเคยทำมาก่อน

นายกเทศมนตรีฯ ยังได้เน้นย้ำเพื่อให้พี่น้องประชาชนชาวขอนแก่นมีความมั่นใจในการขับเคลื่อนโครงการระบบขนส่งมวลชนรางเบา LRT ประการสำคัญของโครงการนี้สิ่งสำคัญ คือ การขอใช้ที่ดิน หากไม่ติดขัดสิ่งใดน่าจะได้เริ่มโครงการประมาณไตรมาสแรกของปี ๒๕๖๑ แน่นอน

สำหรับโครงการรถไฟทางคู่ที่กำลังดำเนินการก่อสร้างอยู่ในขณะนี้นั้น นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น กล่าวว่า สามารถแยกมุมมองได้เป็น สองประเด็น คือ ผลกระทบด้านบวก ๑) สามารถลดต้นทุนการขนส่ง ซึ่งเป็นปัญหาหลักของประเทศไทยเนื่องจากเป็นการขนส่งทางถนน เป็นปัญหาในการบำรุงรักษาถนนหนทางที่จะต้องใช้งบประมาณมากมายมหาศาลซึ่งมีรายจ่ายมากกว่าการขนส่งทางราง ฉะนั้นการขนส่งรถไปทางคู่จะเกิดความประหยัด มีความสะดวกสบาย รวดเร็ว ในส่วนของผู้ประกอบการสามารถลดต้นทุนได้มากขึ้นด้วย ๒) ส่งผลถึงอัตราการเจริญเติบโตของจังหวัดขอนแก่นและในประเทศ ๓) ส่งเสริมความเป็นจังหวัดขอนแก่นในความเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ ไม่เพียงรถไฟทางคู่จะมาทางนี้สายเดียว ยังมีอีกสายหนึ่งต้นทางจะมาจากบ้านไผ่จังหวัดขอนแก่น ผลประโยชน์ที่ได้พร้อมกับโครงการระบบขนส่งมวลชนรางเบา LRT ในขณะนี้มีหน่วยงานที่จะให้ขอนแก่นเป็นศูนย์กลาง เช่น กรมขนส่งจะตั้งสถานีขนถ่ายสินค้า การท่าเรือแห่งประเทศไทย จะตั้งท่าเรือบกแก่ผู้ประกอบการสินค้าส่งออกสามารถมาขนส่งที่ขอนแก่นแล้วส่งไปยังท่าเรือได้โดยตรง การรถไฟจะมีสถานีขนถ่ายสินค้าของรถไฟโดยมีคอนเทรนเนอร์ยาร์ด ทางกระทรวงคมนาคมได้มอบหมายให้ สนข.เป็นผู้ประสานงานกับทุกหน่วยงานที่กำลังจะมีโครงการในจังหวัดขอนแก่นอย่างบูรณาการร่วมกัน เช่น รถไฟทางคู่จะไม่ได้จบที่ขอนแก่น เฟสต่อไปก็คือจากขอนแก่นไปหนองคาย เพื่อจะไปเชื่อมเวียงจันทน์ไปยังประเทศจีนตอนใต้ ๒ มอเตอร์เวย์ อาจจะมีจากโคราชไปขอนแก่น หรือไปหนองคายในวันข้างหน้า จะต้องดูความเหมาะสมและโอกาสต่อไป ๓ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย มีการพูดถึงการออกแบบศึกษาทางพิเศษที่จะคอร์ทข้ามเมืองขอนแก่น

“เห็นได้ว่า จังหวัดขอนแก่นกำลังก้าวสู่ความสำคัญ ด้านสถานีขนถ่ายสินค้า ศูนย์กลางสินค้า รถไฟต่างๆ และอีกมากมาย ส่งผลให้ สนข. ที่กำลังดำเนินการโครงการต่างเหล่านี้ ในส่วนผลกระทบด้านลบจากการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ตอนนี้ปัญหาที่ยังแก้ไม่ตกก็คือ คนที่โดนรื้อบ้าน แล้วเขาจะไปอยู่ที่ไหน หน่วยงานที่จะต้องเข้ามาดูแลเยียวยาโดยตรงจะเป็นหน่วยงานใดบ้าง ทางเทศบาลและพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบก็พยายามส่งเรื่องขึ้นไป แล้วก็ต้องหาวิธีช่วยเหลือกันเอง เราก็พยายามร่วมมือกับ พอช. ของกระทรวงพัฒนาสังคม โดยประชาชนที่ได้รับผลกระทบรวมตัวกันตั้งเป็นกลุ่ม แล้วก็เก็บเงินออมไว้ ๑๐% แล้วก็กู้ได้ ๑๐๐% กู้มาทำอะไร กู้มาซื้อที่มาสร้างบ้าน แล้วจะได้งบพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ถนน ไฟฟ้า ประปา ซึ่งทำมาได้แล้วทั้งหมด ๓ เฟส แต่มันไม่ได้ตอบสนองความต้องการของกลุ่มคนเหล่านี้จริงๆ ถึงแม้อัตราการผ่อนอาจจะไม่สูงมากนักอาจจะเป็นภาระอันยิ่งใหญ่หรือเกินกำลัง ผมคิดว่าหน่วยงานภาครัฐอาจจะต้องมีที่ดินของรัฐแปลงหนึ่งเพื่อมาลงทุนสร้างให้ เทศบาลสามารถที่จะมาขอเช่า เพื่อให้พี่น้องประชาชนเหล่านี้มาเช่าต่อ หลักคิดได้ แต่พอถึงโครงการมันเป็นไปไม่ได้ ประการสำคัญหนึ่งคือ ที่ของรัฐแปลงหนึ่งใครจะยอมให้ การรถไฟที่เป็นเจ้าของโครงการก็ไม่พร้อมจะให้ที่ดิน ซึ่งมันก็เดินไม่ได้กับการที่จะช่วยคนที่ยากจนจริงๆ อีกประการหนึ่งคือ เมื่ออัตราการจราจรหนาแน่นขึ้น คนเดินทางสะดวกขึ้น คนเดินทางมากขึ้น ก็ส่งผลกระทบกับการจราจรในเขตเทศบาล คราวนี้จะมี ๓ ต่าง ก็จะมากขึ้นด้วย คือ ต่างด้าว ต่างประเทศ ต่างเมือง ก็จะมาอยู่ในขอนแก่นมากขึ้น ปัญหาของเมืองมหานครก็คือ ขยะ จราจร น้ำท่วม ก็จะหนักหนาสาหัสมากขึ้น เพราะการก่อสร้างมากขึ้น การสร้างปิดทางน้ำมากขึ้นปัญหาเหล่านี้ก็จะตามมาเป็นทวีคูณ”นายกเทศมนตรีฯ กล่าว

นายธีระศักดิ์ กล่าวอีกว่า ดังนั้น ปัญหาใหญ่ของเทศบาล คือ การเตรียมการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ถนนที่ใช้นานกว่าจะชำรุด แต่กลับกลายเป็นชำรุดเร็วขึ้น แล้วในด้านงบประมาณซ่อมบำรุงก็จะมากขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งเรื่องท่อระบายน้ำที่วางมากว่า ๓๐ ปี บางแห่งก็ทรุดตัว จะเห็นได้ว่าน้ำท่วมบ่อยๆ ซึ่งเทศบาลนครขอนแก่นยังเป็นที่รองรับและเป็นพื้นที่เชื่อมกับท่อระบายน้ำเข้าในเขตเทศบาลเป็นส่วนใหญ่ ส่งผลให้เทศบาลฯ ต้องมีการบริหารจัดการบำบัดน้ำเสียอย่างเป็นระบบที่กว้างขึ้นอีก บวกกับเรื่องงบประมาณที่ต้องเพิ่มขึ้นด้วย เมื่อจำนวนคนเมืองมากขึ้น ก็ต้องมีขยะมากขึ้นเท่าตัว ในทุกวันนี้เทศบาลฯ ในวิธีการจ้างกำจัด ถึงแม้จะเริ่มต้นที่ตันละ ๒๕๐ บาท นั่นหมายถึงว่า เทศบาลฯ จะมีภาระค่าใช้จ่ายกับเรื่องการบริหารจัดการเรื่องเหล่านี้เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นถนนที่เสียหายมากขึ้น การบำรุงรักษาซ่อมแซมถนนหนทาง การทำถนนใหม่ หรือการรื้อเพื่อสร้างใหม่ แต่ข้อจำกัดที่หนักที่สุดก็คือเรื่องงบประมาณ แม้ว่าเทศบาลนครขอนแก่นจะมีงบประมาณเป็นพันล้าน แต่งบในการพัฒนาปีหนึ่งอยู่หลักร้อยล้านเท่านั้นเอง ซึ่งไม่มีวันตอบสนองได้ทัน
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3, 4, 5, 6 ... 15, 16, 17  Next
Page 5 of 17

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©