View previous topic :: View next topic
Author
Message
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44332
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 03/11/2017 5:18 pm Post subject:
PPP เห็นชอบเอกชนร่วมลงทุนในโครงการศูนย์การขนส่งชายแดน จ.นครพนม
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ วันที่ 3 พฤศจิกายน 2560 - 17:05 น.
PPP เห็นชอบให้โครงการให้เอกชนร่วมลงทุนในโครงการศูนย์การขนส่งชายแดน จังหวัดนครพนมดำเนินการตาม พ.ร.บ. PPP และรับทราบการพัฒนาพื้นที่บริเวณสถานีกลางบางซื่อแปลง A ของการรถไฟฯ ช่วยเพิ่มรายได้ที่ไม่ใช่รายได้หลัก (Non Core) พร้อมทั้งเร่งรัดเดินหน้าโครงการตามมาตรการ PPP Fast Track 8 โครงการ ให้เป็นไปตามกำหนด
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ กรรรมการ
และเลขานุการคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (คณะกรรมการ PPP)
เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการ PPP ครั้งที่ 5/2560 เมื่อวันศุกร์ที่ 3 พฤศจิกายน 2560 ณ กระทรวงการคลัง
โดยมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ซึ่งมีผลการประชุมสรุปได้ดังนี้
1.คณะกรรมการ PPP มีมติเห็นชอบให้โครงการให้เอกชนร่วมลงทุนในโครงการศูนย์การขนส่งชายแดน
จังหวัดนครพนม ที่กรมการขนส่งทางบกเสนอ มูลค่าโครงการประมาณ 1,218 ล้านบาท ให้ดำเนินการ
ตามพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 ซึ่งโครงการดังกล่าวสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบโลจิสติกส์และพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจชายแดน
2. คณะกรรมการ PPP มีมติรับทราบการให้เอกชนร่วมลงทุนในโครงการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์แปลง A
(ขนาดพื้นที่ประมาณ 32 ไร่) บริเวณสถานีกลางบางซื่อของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) โดยมีมูลค่าลงทุนก่อสร้างประมาณ 11,573.56 ล้านบาท ตามที่ รฟท. เสนอ โดยให้เอกชนลงทุนทั้งหมดในรูปแบบสร้าง บริหาร โอน (Build Operate Transfer: BOT) เพื่อพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ตามหลักการของการพัฒนาพื้นที่รอบสถานีระบบขนส่งมวลชน (Transit Oriented Development (TOD)) เพื่อสนับสนุนการเป็นศูนย์กลางการเดินรถไฟ โดยมีระยะเวลาดำเนินธุรกิจ 30 ปี และระยะเวลาก่อสร้าง 4 ปี ทั้งนี้ โครงการนี้จะช่วยสนับสนุนให้พื้นที่บริเวณศูนย์พหลโยธินกลายเป็นศูนย์กลางการเดินทาง และย่านธุรกิจแห่งใหม่ด้านทิศเหนือของกรุงเทพมหานคร ซึ่งนอกจากจะช่วยอำนวยความสะดวกในด้านการเดินทางให้แก่ประชาชน แล้วยังช่วยเพิ่มรายได้ที่ไม่ใช่รายได้หลัก (Non Core) ของ รฟท.
3. รับทราบความคืบหน้าการดำเนินโครงการภายใต้มาตรการ PPP Fast Track ของกระทรวงคมนาคม
จำนวน 8 โครงการ ดังนี้
3.1 โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางปะอิน นครราชสีมา และโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายบางใหญ่ กาญจนบุรี ในส่วนของการดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) อยู่ระหว่างการคัดเลือกเอกชนซึ่งคาดว่าจะลงนามในสัญญาได้ภายในปี 2561
3.2 โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางปะอิน นครราชสีมา และโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายบางใหญ่ กาญจนบุรี ในส่วนของที่พักริมทาง และโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง
สายนครปฐม ชะอำ โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน วงแหวนกาญจนาภิเษก และโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ มีนบุรี คาดว่าจะเสนอคณะกรรมการ PPP และสามารถประกาศเชิญชวนให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุนได้ในปี 2561
3.3 โครงการรถไฟฟ้าสายภูเก็ต ช่วงท่าอากาศยานภูเก็ตฯ ห้าแยกฉลอง และโครงการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนของจังหวัดเชียงใหม่ คาดว่าจะเสนอคณะกรรมการ PPP ได้ในช่วงปลายปี 2561
3.4 โครงการรถไฟความเร็วสูง สายกรุงเทพฯ ระยอง จะมีการสร้างความชัดเจนในการกำหนดเป็นโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อ 3 สนามบิน ภายใต้โครงการใน EEC ในการประชุมคณะกรรมการนโยบาย EEC
ในปลายเดือนพฤศจิกายน 2560 นี้ ทั้งนี้ มอบหมายให้ สคร. ในฐานะฝ่ายเลขานุการประสานกระทรวงคมนาคมเพิ่มเติมโครงการรถไฟฟ้าภูมิภาคในจังหวัดขอนแก่นและนครราชสีมาในมาตรการ PPP Fast Track ต่อไป และขอให้กระทรวงคมนาคมและหน่วยงานเจ้าของโครงการเร่งรัดติดตามการดำเนินโครงการภายใต้มาตรการ PPP Fast Track ให้เป็นไปตามกำหนดเวลาที่วางไว้
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42628
Location: NECTEC
Posted: 06/11/2017 12:14 pm Post subject:
รัฐบาลเร่งบูม EEC สร้างรถไฟเร็วสูงเชื่อม3สนามบินปี61 -ผลิตแรงงานฝีมือป้อน
เผยแพร่: 5 พฤศจิกายน 2560 22:30:00 โดย: MGR Online
คณะกรรมการนโยบายการพัฒนาพื้นที่ EEC ยันโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมพื้นที่ 3 สนามบิน จะเริ่มสร้างปลายปีหน้า กพร. ตั้งเป้า 5 ปี ผลิตแรงงานฝีมือป้อน EEC 2.3 ล้านคน แบงก์ออมสิน เผย ดัชนีเชื่อมั่นเศรษฐกิจฐานราก ไตรมาส 3 ดี คาดไตรมาส 4 โตต่อเนื่อง เพราะมีมาตรการรัฐหนุน
นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC กล่าวถึงความคืบหน้า การพัฒนาโครงการระบบโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ในพื้นที่ EECว่า ขณะนี้โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อพื้นที่ 3 สนามบินหลักได้แก่ ดอนเมือง สุวรรณภูมิ และอู่ตะเภา วงเงินลงทุนกว่า 2 แสนล้านบาท ผ่านกระบวนการรับฟังความคิดเห็นเรียบร้อยแล้ว และกำลังเข้าสู่กระบวนการร่วมทุน โดยจะเร่งรัดการจัดทำ เอกสารการจัดซื้อจัดจ้างหรือทีโออาร์ให้ออกมาภายในปีนี้ และหากเป็นไปตามกำหนดการณ์ ก็จะเริ่มก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูง เส้นทางดังกล่าวได้ในช่วงปลายปี 2561 หรือไม่เกินต้นปี 2562
ส่วนการก่อสร้างพื้นที่ศูนย์ซ่อมอากาศยาน ขณะนี้ได้ตั้งทีมศึกษาโครงการแล้ว และน่าจะเห็นการเริ่มก่อสร้างโครงการในระยะเวลาใกล้เคียงกับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน
ส่วนการใช้ มาตรา 44 เรื่องข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่ EEC ขอยืนยันว่า ผังเมืองเดิมและแนวทางการรับฟังความเห็นของประชาชน ยังคงมีอยู่ แต่ในผังเมืองที่จะบูรณะใหม่ จะมีการนำเอาพื้นที่ 3 จังหวัดได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง มาจัดทำเป็นพื้นที่เขตพิเศษรวมกัน และจะนำระบบโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ เข้าไปร่วมอยู่ในผังเมืองด้วย เพื่อให้เกิดการเชื่อมต่อของพื้นที่ และเมื่อจัดทำแล้วเสร็จ จะมีการแยกผังเมืองออกเป็น 3 จังหวัด อีกครั้ง ซึ่งทุกขั้นตอนจะต้องผ่านกระบวนการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนทั้งหมด และคาดว่าการจัดทำผังเมืองใหม่ของทั้ง 3 จังหวัดจะใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ปีครึ่ง -2ปี ส่วนการจัดทำพ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ขณะนี้ผ่านการพิจารณา วาระที่ 1 ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติแล้ว และกำลังเข้าสู่ขั้นตอนของการพิจารณาวาระที่ 2
**เร่งผลิตแรงงานฝีมือป้อน EEC
นายสุทธิ สุโกศล อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เปิดเผยว่า ในอนาคต 4-5 ปีข้างหน้า จะมีนักลงทุนเข้าไปลงทุนใน EEC เพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะมีความต้องการคนทำงานที่มีทักษะในด้านต่างๆ โดยรัฐบาลได้กำหนดพื้นที่ EEC ใน 3 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง รองรับการเป็นฐานการผลิต 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายขับเคลื่อนเศรษฐกิจแห่งอนาคต
ขณะเดียวกัน กพร. ได้มีการตอบสนองการพัฒนากำลังคน ด้วยการวางแผนระยะยาวระหว่าง ปี 60- 64 ในการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานรองรับการเติบโตของ EEC ตามยุทธศาสตร์การพัฒนากำลังคน 20 ปี กระทรวงแรงงาน โดยร่วมกับหลายภาคส่วน เป็นหน่วยงานรองรับแผนปฏิบัติการดังกล่าว อาทิ ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จัดตั้งสถาบันพัฒนาบุคลากรสาขาเทคโนโลยีอัตโนมัติและหุ่นยนต์ เพื่อพัฒนาศักยภาพคนทำงานในอุตสาหกรรมหลักในพื้นที่ ได้แก่ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ และชิ้นส่วน อาหาร พลาสติก แม่พิมพ์ เป็นต้น โดยเน้นพัฒนาทักษะได้มาตรฐาน เพิ่มทักษะการทำงานที่ต้องปรับเปลี่ยนมาใช้ระบบเทคโนโลยีอัตโนมัติและหุ่นยนต์ทดแทนการผลิตแบบเดิม ซึ่ง กพร.ได้วางแผนการดำเนินงานใน 5 ปี ผลิตแรงงานฝีมือป้อน EEC สู่ไทยแลนด์ 4.0 ถึง 2,330,000 คน
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44332
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 06/11/2017 8:30 pm Post subject:
รถไฟเชื่อม 3 สนามบิน เปิดประมูลในไตรมาส 1/62 มิตซุย ออกตัวสนใจร่วมลงทุน
เผยแพร่: 6 พ.ย. 2560 17:23:00 ปรับปรุง: 6 พ.ย. 2560 19:37:00 โดย: MGR Online
มิตซุย สนใจลงทุนรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน พบ พิชิต แนะไทยทำ TOR เปิดกว้างขั้นตอนในการเข้าร่วมประมูลไม่ยุ่งยาก ขณะที่เห็นว่าใช้ PPP Gross Cost น่าจะคุ้มค่ากว่า พิชิต ยันเปิดประมูลไตรมาส 1/61 แน่ ระบุเอกชนญี่ปุ่นในEEC จะได้ประโยชน์จากโครงการมาก พร้อมเร่งตั้ง 2 บริษัทลูก ร.ฟ.ท.ปลายปีนี้ นำร่อง บ.บริหารสินทรัพย์ทุน 200 ล้าน
นายพิชิต อัคราทิตย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลัง มาซาโต คาเนโกะ (Masato Kaneko) General Manager of Transportation Project Division บริษัท มิตซุย แอนด์ คัมปนี (ไทยแลนด์) จำกัด เข้าพบในโอกาสเข้ารับตำแหน่งว่า ทางบริษัทมิตซุยให้ความสนใจในการลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูง เชื่อมโยงท่าอากาศยาน 3 แห่ง (ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง และท่าอากาศยานอู่ตะเภา) โดยให้ความเห็นว่าไทยควรกำหนดกระบวนการประมูลให้มีความสะดวกและง่ายต่อนักลงทุนที่สนใจจะเข้ามาร่วมประมูล ไม่เกิดการปิดกั้น โดยเฉพาะความร่วมมือภาครัฐ-ภาคเอกชน (PPP) รูปแบบ PPP-Net Cost (เอกชนได้รับสิทธิ์ในการจัดเก็บรายได้ และจัดสรรผลตอบแทนบางส่วนให้แก่ภาครัฐตามข้อตกลง ซึ่งเอกชนจะต้องรับความเสี่ยงจากผลดำเนินงานทั้งหมด) กับ PPP-Gross Cost (ภาครัฐจัดเก็บรายได้ทั้งหมด และชดเชยค่าตอบแทนให้บริษัทเอกชนตามค่าใช้จ่าย) นั้นมีความแตกต่างกันในแง่ความคุ้มค่าในการลงทุนของเอกชน ซึ่งเห็นว่ารูปแบบ PPP-Gross Cost จะง่ายและคุ้มค่าสำหรับนักลงทุนมากกว่า
ทั้งนี้ ได้ชี้ถึงโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินว่า นักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่นค่อนข้างจะได้ประโยชน์ และได้เปรียบในแง่ต้นทุนการเงินที่ต่ำกว่าอยู่แล้ว นอกจากนี้ ในพื้นที่ภาคตะวันออกของไทย (EEC) มีนักลงทุนญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนอยู่แล้วเป็นจำนวนมาก แม้ว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะเข้ามาลงทุนในโครงการรถไฟความเร็วสูงแล้วเกิดการขาดทุนบ้าง แต่ในภาพรวมภาคเอกชนของญี่ปุ่นที่ลงทุนในพื้นที่ EEC ล้วนได้ประโยชน์ทั้งสิ้น นอกจากนี้ ยังมีเรื่องการบริหารจัดการและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่จะเกิดตามมาอีก รวมถึงการพัฒนา EEC ของไทยเป็นโครงการที่จะเชื่อมต่อกับประเทศ CLMV คือประเทศกัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม ซึ่งการเข้ามาลงทุนในโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินจะมีศักยภาพเพิ่มเติมในอนาคต เพราะจะสามารถเข้าถึงตลาดใหญ่ๆ ได้อย่างน้อย 3 ตลาด โดยฝั่งประเทศพม่ามีมากกว่า 90 ล้านคน ด้านเวียดนามอีก 90 ล้านคนและด้านใต้ทางมาเลเซียลงไปกว่า 200 ล้านคน ดังนั้น การเข้ามาลงทุนของญี่ปุ่นมีประเด็นที่ต้องพิจารณาถึงประโยชน์ที่ญี่ปุ่นเองจะได้รับเพิ่มเติมหลายเรื่อง
ขณะนี้การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ได้ศึกษา ทบทวน และวิเคราะห์ความเหมาะสมรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินเสร็จแล้ว จากนั้นทาง EEC จะกำหนดร่าง TOR ซึ่งจะมีความชัดเจนในเรื่องเงื่อนไขการประมูล การเข้าร่วมทุน และจะมีการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เข้ามาร่วมในโครงการด้วยหรือไม่ ซึ่งนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้ประกาศ TOR ภายในสิ้นปีนี้ และตั้งเป้าจะเปิดประมูลภายในไตรมาส 1 ของปี 2561
ส่วนความคืบหน้าการจัดตั้งบริษัทลูก ร.ฟ.ท.นั้น นายพิชิตกล่าวว่า จะจัดตั้งบริษัทบริหารสินทรัพย์ได้ก่อน โดยปลายเดือน พ.ย.นี้จะมีการประชุมเชิงปฏิบัติการ (workshop) ร่วมกับ ร.ฟ.ท.กำหนดทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท โดยมีสัญญาเช่า และมีรายได้อยู่แล้ว 2,400 ล้านบาทต่อปี จากนั้นจะมีการประมูลที่ดินแปลงใหญ่ ซึ่งจะมีรายได้เพิ่มเติมอีก
อย่างไรก็ตาม บริษัทลูก ร.ฟ.ท.จะมีการบริหารงานอิสระ เป็นเอกชนเชิงธุรกิจเต็มตัว การเมืองเข้าไปแทรกแซงได้น้อย โดยโครงสร้างกรรมการบริษัทในสัดส่วนผู้ทรงคุณวุฒิจะมีมากกว่ากรรมการที่แต่งตั้งจาก ร.ฟ.ท. แต่ทั้งนี้ทาง ร.ฟ.ท.จะมีอำนาจในการยับยั้ง (วีโต้) อยู่เพื่อรักษาผลประโยชน์ของรถไฟได้อย่างเต็มที่
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44332
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 12/11/2017 7:59 pm Post subject:
ร.ฟ.ท.ลุยรถไฟเร็วสูงกทม.ระยองเชื่อม3สนามบิน
INN News วันอาทิตย์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ.2560 11:40 น.
บอร์ด ร.ฟ.ท. สั่งปรับรายละเอียดรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ - ระยอง เชื่อม 3 สนามบิน เร่งออก TOR ภายในไตรมาส 1 เริ่มสร้างปลายปี 61
นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม ในฐานะรักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงความคืบหน้า โครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วง กรุงเทพฯ - ระยอง ว่า คณะกรรมการฯ ร.ฟ.ท. ได้สั่งการให้ปรับรายละเอียดของโครงการบางประเด็น อาทิ การเชื่อม 3 สนามบิน ระบบการจัดการ เพื่อให้โครงการ มีความพร้อมมากที่สุด ก่อนที่จะออก TOR เนื่องจาก คณะกรรมการฯ มองว่า โครงการนี้ เป็นโครงการลงทุนขนาดใหญ่ ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ก่อนที่จะเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก
ทั้งนี้ จะเร่งให้ออกเอกสารประกวดราคา หรือ T0R ตามข้อสั่งการของ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ให้ได้ไม่เกินไตรมาส 1 ปี 2561 เพื่อให้เปิดประมูล และก่อสร้าง ได้ในช่วงปลายปี 2561ส่วนความคืบหน้า โครงการรถไฟทางคู่ เฟส 2 จำนวน 9 เส้นทาง อยู่ระหว่างการพิจารณาของกระทรวงคมนาคม โดยทาง ร.ฟ.ท. ได้ส่งเรื่องไปยังกระทรวงพิจารณาแล้ว
ด้านโครงการรถความร่วมมือรถไฟไทย - จีน ช่วงกรุงเทพฯ - นครราชสีมา ทางกรมทางหลวง และวิศวกรของจีน อยู่ระหว่างศึกษาแบบร่วมกัน เพื่อที่จะเริ่มก่อสร้างให้ได้ช่วงปลายปีนี้
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42628
Location: NECTEC
Posted: 15/11/2017 1:11 pm Post subject:
ครม.อนุมัติกว่า 200 ล้าน เวนคืนสร้างทางเลี่ยงเมืองภูเก็ต อาคม เผยนายกฯจีนเร่งรถไฟไทย-จีนโดยเร็ว
วันที่ 14 พฤศจิกายน 2560 - 21:54 น.
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ประชุมหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม โดยแจ้งว่าคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 402 สายแยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 (โคกกลอย) ต่อเขตเทศบาลเมืองภูเก็ตควบคุมรวมทางเลี่ยงเมืองภูเก็ต ที่บ้านนาใน และที่บ้านท่าเรือ พ.ศ.
. ระยะทางรวมประมาณ 2 กิโลเมตร เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางและลดปัญหาอุบัติเหตุทางถนนในบริเวณดังกล่าว
ลักษณะโครงการเป็นการก่อสร้างทางกลับรถต่างระดับ มูลค่าประมาณ 200 ล้านบาท วงเงินในการดำเนินการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินประมาณ 244,080,000 บาท โดยเป็นแผนเสนอของบประมาณ ปี พ.ศ. 2561 มีปริมาณทรัพย์สินที่ถูกเวนคืน โดยแบ่งเป็นที่ดินประมาณ 18 แปลง สิ่งปลูกสร้างประมาณ 21 ราย และพืชผลประมาณ 9 ราย
นอกจากนี้ นายอาคมยังกล่าวว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้พบปะกับนายกรัฐมนตรีของสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยขอให้กระทรวงคมนาคมเร่งรัดการดำเนินโครงการความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย จีน ให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว
ทั้งนี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย จีน ครั้งที่ 22 ในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2560 ณ กรุงเทพฯ
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42628
Location: NECTEC
Posted: 15/11/2017 5:14 pm Post subject:
รมว.คค.เผยตั้งคณะอนุกรรมการเร่งรัดก่อสร้างรถไฟไทย-จีน
โดย: MGR Online
เผยแพร่: วันที่ 15 พฤศจิกายน 2560 - 16:28:00
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารการพัฒนาโครงการความร่วมมือด้านรถไฟไทย-จีน ว่า ที่ประชุมมีมติแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ 4 ชุด เพื่อเร่งรัดโครงการก่อสร้างรถไฟไทย-จีน โดยเบื้องต้น ทางการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. รอผลการศึกษาจากคณะกรรมการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) สรุปช่วงบ้านภาชี-โคราช ก่อนที่จะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติแบบก่อสร้างภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้ คาดว่าจะสามารถก่อสร้างเส้นทางกลางดง-ปางอโศก ระยะทาง 3.5 กิโลเมตร ภายในกลางเดือนธันวาคม 2560 ส่วนโครงการรถไฟไทย-จีน ระยะที่ 2-3-4 นั้น จะก่อสร้างได้หลังจากจีนส่งแบบก่อสร้างมาไทยและสร้างได้ในไตรมาส 1 ปี 2561
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44332
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 15/11/2017 7:38 pm Post subject:
คมนาคมยืนยันก่อสร้างรถไฟไทย-จีน เดือน ธ.ค.นี้
Thai PBS News Published on Nov 15, 2017
กระทรวงคมนาคมยืนยัน โครงการรถไฟไทย-จีน ช่วง 3.5 กิโลเมตร จากสถานีกลางดง-ปางอโศก จะเริ่มก่อสร้างทางได้ประมาณกลางเดือนธันวาคมปีนี้
https://www.youtube.com/watch?v=-RB05-UQRP8
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42628
Location: NECTEC
Posted: 16/11/2017 11:29 am Post subject:
Mongwin wrote: คมนาคมยืนยันก่อสร้างรถไฟไทย-จีน เดือน ธ.ค.นี้
Thai PBS News Published on Nov 15, 2017
กระทรวงคมนาคมยืนยัน โครงการรถไฟไทย-จีน ช่วง 3.5 กิโลเมตร จากสถานีกลางดง-ปางอโศก จะเริ่มก่อสร้างทางได้ประมาณกลางเดือนธันวาคมปีนี้
https://www.youtube.com/watch?v=-RB05-UQRP8
ลุยประมูลรถไฟไทย-จีน สร้างช่วงกรุงเทพฯ-โคราชปีหน้า
หน้าแรก / โลกธุรกิจ
แนวหน้า
วันพฤหัสบดี ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560, 06.00 น.
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยหลังการประชุม คณะกรรมการบริหารการพัฒนาโครงการความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2560 ว่า การดำเนินงานโครงการรถไฟไทย-จีน ระยะแรก ช่วง 3.5 กิโลเมตร จากสถานีกลางดง-ปางอโศก จ.นครราชสีมา นั้น ขณะนี้อยู่ในระหว่างขั้นตอนการเตรียมการดำเนินการก่อสร้างแล้ว ซึ่งเบื้องต้นได้มีการกำหนดไว้ในช่วงกลางเดือน ธันวาคม 2560 นี้
ส่วนการกำหนดวันที่ชัดเจนนั้นจะต้องมีการหารือร่วมกับทางฝ่ายจีนในการประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 23 ในช่วงวันที่ 24 พฤศจิกายนนี้ เนื่องจากขณะนี้ยังติดปัญหาในเรื่องของการศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม (EIA) ที่จะต้องมีการเร่งรัดในการดำเนินการ โดยทางสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้มีการยื่นเสนอรายงานข้อมูลให้ทางคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณาเป็นครั้งที่ 7 แล้ว โดยจะมีการเร่งรัดในการหารือร่วมกันว่าจะมีการเร่งรัดในขั้นตอนของคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิเศษ (คชก.) อย่างไร คาดว่าจะมีการขอให้ทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้เสร็จโดยเร็วเพื่อให้สามารถดำเนินการก่อสร้างให้ทันภายในช่วงกลางเดือนธันวาคมนี้ตามแผน
ทั้งนี้ การเตรียมการก่อสร้างนั้นในช่วง 3.5 กิโลเมตร ไทยได้รับแบบรายละเอียดการก่อสร้างอย่างเป็นทางการแล้วจากจีนเป็นไปตามสัญญา 2.1 ที่ได้มีการลงนามไปแล้วก่อนหน้านี้ โดยจากนี้จะมีการมอบหมายให้ทางกรมทางหลวง (ทล.) เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง และทางการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) จะเป็นหน่วยเบิกจ่ายงบประมาณในการดำเนินการที่มาจากเงินกู้ ส่วนเรื่องเงินกู้ทางกระทรวงการคลังจะเป็นผู้ดำเนินการให้ รวมถึงคาดว่าจะสามารถเสนอรายงานผลความคืบหน้าให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายในเดือนนี้
ในส่วนการก่อสร้างในช่วงที่ 2-4 ของโครงการรถไฟไทย-จีน ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ที่ประชุมได้เร่งรัดให้ทางฝ่ายทางการจีนส่งงานออกแบบมาให้ภายใน 6 เดือน เพื่อให้ไทยสามารถหาผู้รับเหมาได้ทัน คาดว่าจะมีอีก 2 ช่วงที่สามารถเปิดประมูลได้ในช่วงไตรมาสแรกปี 2561
รมว.คมนาคมกล่าวว่า ที่ประชุมได้มีมติจัดตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมา 4 ชุด เพื่อดำเนินการตามคำสั่งของสำนักนายกรัฐมนตรี ประกอบด้วย1.คณะอนุกรรมการจัดตั้งองค์กรพิเศษเพื่อกำกับการดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูง 2.คณะอนุกรรมการจัดตั้งสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบรางและจัดทำแผนการถ่ายทอดเทคโนโลยีรถไฟความเร็วสูง 3.คณะอนุกรรมการปรับปรุงระบบขนส่งสาธารณะต่างๆ เพื่อทำหน้าที่เป็นระบบสนับสนุนผู้โดยสารให้กับระบบรถไฟความเร็วสูง และ 4.คณะอนุกรรมการปรับปรุงระบบขนส่งเพื่อเชื่อมต่อรถไฟความเร็วสูง
โดยคณะอนุกรรมการจัดตั้งองค์กรพิเศษเพื่อกำกับการดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูง และคณะอนุกรรมการจัดตั้งสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบรางและจัดทำแผนการถ่ายทอดเทคโนโลยีรถไฟความเร็วสูงนั้นจะมี รมช.คมนาคมเป็นประธาน ส่วนคณะอนุกรรมการปรับปรุงระบบขนส่งสาธารณะต่างๆ จะมีผู้ช่วยรมว.คมนาคมเป็นประธาน ส่วนคณะอนุกรรมการปรับปรุงระบบขนส่งเพื่อเชื่อมต่อรถไฟความเร็วสูงขณะนี้ยังไม่ได้มีการกำหนด
ขายฝันไฮสปีดกรุงเทพฯไปคุณหมิงปี65
เดลินิวส์
พฤหัสบดีที่ 16 พฤศจิกายน 2560 เวลา 10.26 น.
ประชุมคณะกรรมการบริหารการพัฒนาโครงการความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 1 คืบหน้า ระยะที่ 2จากกรุงเทพฯ-หนองคาย คาดว่าจะก่อสร้างเสร็จในปี 65เชื่อมต่อรถไฟความเร็วสูงจีน-ลาวที่จะเปิดบริการปี 65
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคมเปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารการพัฒนาโครงการความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน(รถไฟความเร็วสูงหรือไฮสปีดเทรนระยะแรกกรุงเทพฯ-นครราชสีมา)ครั้งที่ 1ว่า ที่ประชุมมีติตั้งคณะอนุกรรมการ 4ชุด
1.อนุกรรมการจัดตั้งองค์กรพิเศษกำกับการดำเนินโครงการฯ
2. อนุกรรมการจัดตั้งสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบรางและจัดทำแผนการถ่ายทอดเทคโนโลยีรถไฟความเร็วสูง
3.อนุกรรมการปรับปรุงระบบขนส่งสาธารณะต่างๆให้เชื่อมโยงรถไฟความเร็วสูงและ
4. อนุกรรมการพัฒนาพื้นที่และเมืองต่อยอดใช้ประโยชน์รถไฟความเร็วสูง
รมว.คมนาคม กล่าวต่อว่า การก่อสร้าง ช่วงแรกสถานีกลางดง-ปางอโศก อ.ปากช่อง จ. นครราชสีมา 3.5 กม. ให้กรมทางหลวง(ทล.) ก่อสร้างกลางเดือนธ.ค.นี้เลื่อนจากเป้าหมายเดิมเดือนต.ค. และจะหารือทางจีนวันที่ 24พ.ย.นี้เพื่อกำหนดวันที่แน่นอนอีกครั้ง แต่ต้องเร่งรัดขั้นตอนการพิจารณารายงานศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ)ให้เรียบร้อยโดยเร็ว คาดว่าจะเสนอครม.ภายในสิ้นพ.ย.นี้ ส่วนช่วงอื่นๆ 2 ,3และ4 นั้น ได้เร่งรัดทางจีนเร่งออกแบบ ส่งให้ไทยภายใน6 เดือนเพื่อถอดแบบก่อสร้างคาดว่าจะสามารถทยอยเปิดประมูลได้ช่วงไตรมาสที่1ปี61
สำหรับโครงการ ระยะที่ 2จากกรุงเทพฯ-หนองคาย คาดว่าจะก่อสร้างเสร็จในปี 65เชื่อมต่อรถไฟความเร็วสูงจีน-ลาวที่จะเปิดบริการปี 65 โดยใช้แหล่งเงินกู้ในประเทศทั้งหมดส่วน ระบบรถตัวรถ ระบบรางนั้นจีนจะหารือกับไทยอีกครั้ง ซึ่งการประชุมร่วมกับจีนเร็วๆนี้จะหารือเรื่องระบบเชื่อมต่อรถไฟความเร็วสูงไทยกับรถไฟความเร็วสูงจีน-ลาวช่วงสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ด้วย
ด้านนายธานินทร์ สมบูรณ์ อธิบดีทล.กล่าวว่าได้ตั้งคณะกรรมการเตรียมก่อสร้างระยะแรก 3.5กม.อยู่ระหว่างตรวจสอบแบบที่ทางจีนส่งกลับมาควบคู่ไปกับการหาข้อสรุปเรื่องแหล่งวัสดุที่จะใช้ก่อสร้างยืนยันทล.พร้อมจะเริ่มก่อสร้างทันทีเมื่อรายงาน อีไอเอ เรียบร้อย แต่ยังต้องหาข้อสรุปเรื่องแหล่งวัสดุที่จะมาใช้ก่อสร้างเพราะตามแบบที่จีนส่งมานั้นส่วนใหญ่ระบุว่าต้องเป็นวัสดุจากจีนหรือมีคุณภาพเทียบเท่าดังนั้นต้องจัดทำรายละเอียดชี้แจงว่าวัสดุที่ผลิตในไทยมีคุณภาพเทียบเท่าตามมาตรฐานสากลได้
นายชัยวัฒน์ทองคำคูณ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยว่า ก ระทรวงคมนาคมตั้งเป้าว่าจะเปิดให้บริการรถไฟความเร็วสูงเส้นทางไทย-สปป.ลาว-จีนภายในปี 65 โดยฝ่ายสปป.ลาวรายงานมาว่าช่วงเวียงจันทน์-หลวงน้ำทา-คุนหมิงระยะทาง 427 กม. จะแล้วเสร็จพร้อมเปิดบริการปี 65 เสร็จพอดีกับช่วงกรุงเทพ-หนองคายมั่นใจว่าจะเชื่อมช่วงกรุงเทพ-คุณหมิงได้ภายในปีเดียวกัน ส่วนประเด็นอีไอเอนั้นยังไม่สามารถตอบได้ว่าสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหรือสผ.จะอนุมัติได้เมื่อไหร่เพื่อให้สามารถเริ่มเดินหน้าก่อสร้างโครงการได้
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42628
Location: NECTEC
Posted: 16/11/2017 4:32 pm Post subject:
นายกฯ ตู่ จี้ตอกเสาเข็มไฮสปีดเทรนไทย-จีน อาคม สั่งลุยสร้างเฟส 1 กลางธ.ค.นี้
วันที่ 15 พฤศจิกายน 2560 - 17:53 น.
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารร่วมความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ว่า ที่ประชุมเห็นชอบแบบก่อสร้างเฟสแรกสถานีกลางดง-ปางอโศก ระยะทาง 3.5 กม. วงเงิน 425 ล้านบาท ภายใต้โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน กทม.-นครราชสีมา (ระยะที่1) วงเงิน 179,413 ล้านบาท และเตรียมเสนอให้ครม. พิจารณาภายในสิ้นเดือนพ.ย.นี้ คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างเฟสแรกได้กลางเดือนธ.ค.นี้
โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ซึ่งได้ขอให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เร่งประชุมคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (คชก.) เพื่อสรุปผลเสนอให้ คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติพิจารณาอนุมัติให้เริ่มงานก่อสร้างได้ทันตามเป้าหมาย สำหรับเฟสแรก กรมทางหลวง (ทล.) จะดำเนินการก่อสร้าง โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จะเป็นหน่วยเบิกจ่ายงบเงินกู้ที่กระทรวงการคลังเป็นผู้จัดหา
นายอาคม กล่าวถึงงานก่อสร้างอีก 3 เฟสที่เหลือ คือ 1. ช่วงปากช่อง-คลองขนานจิตร 11 ก.ม. 2. ช่วงแก่งคอย-นครราชสีมา 119.5 ก.ม. และ 3. ช่วงกรุงเทพฯ-แก่งคอย 119.5 ก.ม. ว่า จีนอยู่ระหว่างออกแบบก่อสร้าง ซึ่งไทยเร่งรัดให้ทยอยส่งแบบให้ไทยเร็วขึ้นภายใน 6 เดือน เพื่อให้รฟท. สามารถเปิดประมูลจ้างผู้รับเหมาไทยให้ดำเนินการก่อสร้างได้ต่อเนื่อง คาดว่าไตรมาส 1 ปี 2561 จะเริ่มทยอยเปิดประมูลได้อีก 2 เฟส และตั้งเป้าให้ก่อสร้างเสร็จและเปิดให้บริการให้ได้ในปี 2565 เพื่อให้ทันกับการเชื่อมต่อกับรถไฟความเร็วสูงจีน-ลาว ที่จะเปิดให้บริการในปีเดียวกัน
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบให้จัดตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อเร่งรัดผลักดันโครงการรถไฟไทย-จีน 4 คณะ คือ 1. อนุกรรมการจัดตั้งองค์กรพิเศษเพื่อกำกับการดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูงโดยมี รมช.คมนาคม เป็นประธาน, 2. อนุกรรมการจัดตั้งสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบรางและจัดทำแผนการถ่ายทอดเทคโนโลยีรถไฟความเร็วสูงโดยมี รมช.คมนาคม เป็นประธาน ซึ่งคณะอนุกรรมการชุดนี้ จะเข้ามาดูการถ่ายทอดเทคโนโลยี รวมถึงประสานงานกับสถาบันการศึกษาในการถ่ายทอดเทคโนโลยี
3. อนุกรรมการปรับปรุงระบบขนส่งสาธารณะต่างๆเพื่อทำหน้าที่เป็นระบบสนับสนุนผู้โดยสารให้กับระบบรถไฟความเร็วสูง โดยมีผู้ช่วยรมว.คมนาคม เป็นประธาน และ 4. อนุกรรมการพัฒนาพื้นที่และเมือง ที่มีรมว.คมนาคม เป็นประธาน ซึ่งคณะอนุการชุดนี้ จะเข้ามารับหน้าที่ดูความพร้อมการพัฒนาพื้นที่รอบรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อกับเมืองที่ล้อมรอบ
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 24 พ.ย. นี้จะมีการประชุม คณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 23 โดยจะมีการหารือถึงการวางแผนงานก่อสร้างในระยะที่ 2 คือโคราช-หนองคาย รวมทั้งการเชื่อมต่อไปยังรถไฟความเร็วสูงจีน-ลาวด้วย
นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ผอ. สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร หรือ สนข. กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี เร่งรัดให้เริ่มงานก่อสร้างเฟสแรกให้ได้ภายในเดือนธ.ค. นี้ ซึ่งขณะนี้ สนข. เสนอผลการจัดทำอีไอเอรอบที่ 7 ไปให้ คชก. พิจารณาแล้วคาดว่าการประชุมครั้งหน้าจะเป็นการประชุมครั้งสุดท้าย
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44332
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 16/11/2017 5:41 pm Post subject:
ญี่ปุ่นสรุปผลศึกษารถไฟแบบชิงกันเซ็นเฟสแรกแล้ว
INN News วันพฤหัสบดี ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560, 16.51 น.
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลัง Mr.Noriyoshi Yamagami รองอธิบดีกรมการรถไฟญี่ปุ่น เข้าพบและหารือเกี่ยวกับความคืบหน้าของรายงานการศึกษาฉบับสมบูรณ์สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูงเส้นทางกรุงเทพฯ เชียงใหม่ โดยมี นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร นายทนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐ รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เข้าร่วมหารือกระทรวงคมนาคมของไทยและกระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน การขนส่งและการท่องเที่ยวแห่งญี่ปุ่น (MLIT) ได้ร่วมลงนามในบันทึกความร่วมมือในการพัฒนาระบบรางระหว่างไทย ญี่ปุ่น (Memorandum of Cooperation, MOC) เพื่อดำเนินการความร่วมมือด้านระบบราง โดยการพัฒนารถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพ - เชียงใหม่ คณะทำงานฝ่ายญี่ปุ่นได้ดำเนินการศึกษาความเหมาะสมของโครงการฯ ระยะที่1เส้นทางกรุงเทพฯ พิษณุโลก เสร็จสิ้นและเสนอร่างรายงานฉบับสมบูรณ์ให้ฝ่ายไทยพิจารณาแล้ว
นายอาคม กล่าวว่าการประชุมร่วมกับคณะทำงานประเทศญี่ปุ่นในโครงการความร่วมมือรถไฟความเร็วสูง แบบชิงกันเซ็น กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ โดยขณะนี้ถือว่าอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายในส่วนของการศึกษาความเหมาะสม ที่ออกแบบเป็น 2 ระยะ ประกอบด้วย ระยะที่ 1 กรุงเทพฯ-พิษณุโลก / ระยะที่ 2 พิษณุโลก-เชียงใหม่ ในส่วนของระยะที่ 1 กรุงเทพฯ-พิษณุโลก ได้สรุปรายงานเรียบร้อยแล้ว สำหรับรูปแบบการลงทุนนั้น จะเป็นลักษณะรัฐจะเป็นผู้ลงทุน โดยจะไม่ใช้รูปแบบรัฐและเอกชนลงทุนร่วมกัน (PPP) แน่นอน เนื่องจากมีมูลค่าการลงทุนสูง และใช้เวลาคืนทุนนาน ทั้งนี้ ฝ่ายไทยยังได้เสนอด้วยว่าขอให้ฝ่ายญี่ปุ่นมาร่วมลงทุนในโครงการด้วย ในลักษณะแบบรัฐต่อรัฐ ซึ่งไทยและญี่ปุ่นจะมีการหารือเรื่องการร่วมทุนในระยะต่อไป อย่างไรก็ตาม หากการศึกษารูปแบบเรียบร้อยแล้วสำหรับขั้นตอนต่อไป กระทรวงคมนาคมจะนำเสนอรายละเอียดโครงการให้กับคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาต่อไป ว่าโครงการนี้มีความเหมาะสมอย่างไร ทั้งนี้ ในที่ประชุมได้มีการข้อเสนอว่าหากต้องการที่จะให้โครงการเกิดเป็นรูปธรรมโดยเร็วนั้น ก็อาจจะเป็นการแบ่งช่วงดำเนินการ คือ ระยะที่ 1 กรุงเทพฯ-พิษณุโลกนั้น เป็นตอนย่อย ตัวอย่างตอนที่ 1 ดำเนินการก่อน 1- สถานี แล้วก็ทยอยทำตอน 3-4 ต่อไป ซึ่งถือว่าเป็นแนวทางที่จะทำให้โครงการดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว ส่วนรูปแบบการลงทุนนั้นไทยได้เสนอว่าหากเป็นรัฐบาลลงทุนนั้น ก็ต้องการที่จะให้ทางญี่ปุ่นเข้ามาร่วมลงทุนได้ ซึ่งรายละเอียดดังกล่าวจะต้องทำการหารือกันต่อไป
ขั้นตอนที่ 1นั้น ขณะนี้เรื่องผลการศึกษาความเหมาะสมเราได้ครบหมดแล้ว ซึ่งต่อไปก็จะดำเนินการออกแบบ และต่อจากนั้นก็จะต้องหารือเรื่องของรายละเอียดการลงทุนเพื่อให้โครงการเดินหน้าต่อไป ซึ่งญี่ปุ่นก็พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือ สำหรับระยะที่ 1 กรุงเทพฯ-พิษณุโลก ระยะทาง 418 กิโลเมตร โดยมีมูลค่าลงทุน 276,255 ล้านบาท ซึ่งเป็นการวงเงินลงทุนโครงการโยธา ระบบอาณัติสัญญา ระบบตัวรถ และการซ่อมบำรุง แต่ไม่รวมการบริหารจัดการการเดินรถซึ่งการเดินรถนั้นก็จะมีอายุสัมปทาน 30 ปี อย่างไรก็ตาม คาดว่าอีก 3 เดือน น่าจะนำเสนอต่อที่ประชุมครม.ได้ สำหรับระยะที่1 นั้น มีทั้งหมด 6 สถานี ประกอบด้วย สถานีบางซื่อ / สถานีดอนเมือง /สถานีพระนครศรีอยุธยา / สถานีลพบุรี /สถานีนครสวรรค์ /สถานีพิษณุโลก ก็อาจจะทยอยทำเป็นช่วงโดยช่วงแรกคือกรุงเทพฯ-พระนครศรีอยุธยา และจากนั้นช่วงต่อไปคือ ลพบุรี-พิษณุโลก ทั้งนี้ อาจจะเปิดเดินรถช่วงกรุงเทพฯ-พระนครศรีอยุธยาก่อนก็เป็นได้นายอาคม กล่าว
Back to top