ข่าวรถไฟฟ้าสีเขียวเข้ม(หมอชิต-สะพานใหม่) และเขียวอ่อน(แบริ่ง-ปากน้ำ)

Wisarut · Posted: 09/02/2018 10:30 am Post subject:

เตรียมเฮ! รฟม.เร่งสปีดอุโมงค์รัชโยธินเสร็จปลายปีนี้ สายสีเขียวยังลุ้นสะพานข้ามแยกเสนาฯ เหตุ EIA ยังไม่ผ่าน
โดย: MGR Online
เผยแพร่: 8 กุมภาพันธ์ 2561 15:38:00
ปรับปรุง: 8 กุมภาพันธ์ 2561 16:19:00

รฟม.ปรับแผนทุกรูปแบบ เร่งอุโมงค์ลอดแยกรัชโยธินเสร็จเร็วกว่าแผน เล็งเปิดใช้ได้ปลายปี 61 นี้จากเดิม ก.พ. 62 ด้าน ITD ปรับเทคนิคใช้แผงคอนกรีตอัดแรง CCSP บางช่วงช่วยเร่งงานเร็วขึ้น ส่วนสะพานข้ามแยกรัชโยธินแนวถนนพหลโยธินและข้ามแยกเกษตรเสร็จ พ.ย.นี้ ลุ้นสะพานข้ามแยกเสนาฯ เผย สผ.ยังไม่อนุมัติ EIA ด้านตำรวจเร่งคืนผิวจราจรสายสีเขียวรับมือจราจรก่อน “สีชมพู, เหลือง” เริ่มตอกเข็ม

วันนี้ (8 ก.พ.) นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ช่วยผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สำเริง สวนทอง รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 (รับผิดชอบงานจราจร) ผู้แทนจากกรุงเทพมหานคร ผู้แทนจากธนาคารไทยพาณิชย์ ผู้แทนจากบริษัทที่ปรึกษาโครงการ และผู้แทนจากบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ผู้รับจ้างก่อสร้าง (สัญญาที่ 1) โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ได้ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างอุโมงค์ทางลอดแยกรัชโยธิน ถนนรัชดาภิเษก

นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ช่วยผู้ว่าการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า การก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต สัญญาที่ 1 (งานก่อสร้างโครงสร้างโยธาช่วงหมอชิต-สะพานใหม่) ซึ่งมีบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD ผู้รับจ้าง ซึ่งในส่วนของอุโมงค์ทางลอดแยกรัชโยธิน ถนนรัชดาภิเษก ขณะนี้มีความคืบหน้า 57.04% จากช่วงเริ่มต้นมีปัญหาการเข้าพื้นที่ จนทำให้เริ่มงานล่าช้าเกือบ 1 ปี ซึ่ง รฟม.ได้หารือผู้รับจ้าง บริษัทที่ปรึกษา นำเทคนิคการก่อสร้างรูปแบบใหม่มาใช้สำหรับการก่อสร้างทางลอด คือการใช้แผงคอนกรีตอัดแรง CCSP (Concrete Corrugated Sheet Pile) และกำแพงกันดินแบบหล่อสำเร็จ (Precasted Retaining Wall) สำหรับผนังอุโมงค์ในช่วงที่ตื้นแทนการขุดดินโดยใช้เข็มพืดเหล็กชั่วคราว (Steel Sheet Pile) ซึ่งเป็นวิธีการก่อสร้างผนังอุโมงค์โดยทั่วไป ซึ่งใช้พื้นที่ในการก่อสร้างค่อนข้างมากและมีขั้นตอนการก่อสร้างหลายขั้นตอน

แต่เมื่อใช้เทคนิคการก่อสร้างด้วย CCSP ซึ่งจะก่อสร้างโดยการกดแผ่นคอนกรีตอัดแรง CCSP ให้ชิดติดกันโดยมีแผ่นยางกันซึมระหว่าง CCSP พร้อมกับการอัดฉีดน้ำปูนเพิ่มเติมบริเวณรอยต่อ จึงทำให้สามารถใช้พื้นที่ระหว่างการก่อสร้างน้อยลงและลดระยะเวลาการก่อสร้างได้มากกว่าการก่อสร้างตามรูปแบบเดิม โดยจะสามารถลดระยะเวลาการก่อสร้างจากแผนงานเดิม 30.5 เดือน เหลือเพียง 24 เดือน ซึ่งสามารถลดเวลาได้กว่า 6 เดือน ช่วยให้เริ่มงานในขั้นตอนต่อไปได้เร็วกว่ากำหนดและสามารถคืนผิวจราจรได้เร็วขึ้น ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้เส้นทางบนถนนรัชดาภิเษกและถนนพหลโยธินได้รับความสะดวกในการเดินทางมากยิ่งขึ้น

ขณะนี้ได้ก่อสร้างผนังแล้วเสร็จ 71% และจะเริ่มดำเนินการขุดเจาะดินจากปลายอุโมงค์ทั้งสองด้านจนบรรจบกันที่กลางอุโมงค์ประมาณเดือน ต.ค. 2561 หลังจากนั้นจึงเริ่มดำเนินการติดตั้งระบบสาธารณูปโภคภายในอุโมงค์ และจะเร่งรัดเปิดใช้อุโมงค์ภายในปลายปี 2561 ซึ่งเร็วกว่าแผนที่จะเสร็จในเดือน ก.พ. 2562

ส่วนการก่อสร้างสะพานรถยนต์ข้ามแยกรัชโยธิน ปัจจุบันก้าวหน้า 66.91% ส่วนสะพานรถยนต์ข้ามแยกเกษตร ก้าวหน้า 68.31% ซึ่งจะเปิดให้ใช้งานใน พ.ย. 2561 ส่วนสะพานข้ามแยกเสนานั้นเป็นส่วนเพิ่มจากสัญญา ซึ่งกรุงเทพมหานคร (กทม.) กำหนดให้ รฟม.ก่อสร้างเพิ่มก่อนจะมอบพื้นที่ก่อสร้างช่วงแยกเสนาฯ ซึ่งออกแบบเสร็จแล้ว วงเงินประมาณ 150 ล้านบาท โดยอยู่ระหว่างเสนอขออนุมัติ EIA ซึ่งยังไม่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการผู้ชำนาญการ (คชก.)

สำหรับงานโยธาของสายสีเขียวเหนือทั้งสายคืบหน้ารวม 55.64% จะเสร็จในเดือน ก.พ. 2562 และเปิดเดินรถในปี 2563 ได้ตามแผน

พ.ต.อ.สำเริง สวนทอง รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 กล่าวว่า บช.น.ได้ประสานงานกับทุกฝ่ายในการจัดการจราจรเพื่อลดผลกระทบให้น้อยที่สุด ซึ่งปัจจุบันผู้รับเหมาได้คืนพื้นผิวการจราจรบนแนวถนนพหลโยธินและรัชดาภิเษกได้เพิ่มขึ้น ทำให้ปัญหาจราจรในพื้นที่โดยรอบมีท้ายแถวติดขัดลดลงทั้งช่วงเช้าและเย็น ทั้งนี้ แนวทางของ บช.น.คือจะเร่งรัดการคืนพื้นผิวจราจรตามแนวการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้เร็วและมากที่สุด เพื่อเตรียมรับการเริ่มต้นก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู และสายสีเหลือง ที่อยู่ในบริเวณต่อเนื่องกัน

Wisarut · Posted: 22/02/2018 10:19 am Post subject:

คจร.เห็นชอบ กทม.โอนหนี้สีเขียว ให้รัฐบาลหนุนก่อน 10 ปีแล้วจ่ายคืนหลังปี 72
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์
22 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา 05:30

Mongwin · Posted: 22/02/2018 10:30 am Post subject:

กทม.เสนอสภาฯ อนุมัติ

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการรับโอนทรัพย์สินและหนี้สินโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ระยะทางรวม 32 กม. จากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) วงเงิน 60,815 ล้านบาท ว่า ในการประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจร (คจร.) เมื่อวันที่ 21 ก.พ. กทม.โดย สำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) ได้เสนอแผนการชำระหนี้สิน ต่อที่ประชุม เพื่อพิจารณาขอความเห็นชอบ เบื้องต้น กทม.เสนอแผนจะเริ่มชำระหนี้สินได้ตั้งแต่ต้นปี 2573 เป็นต้นไป คือภายหลังสิ้นสุดสัญญาสัมปทานเดินรถบีทีเอสในวันที่ 5 ธ.ค.2572 ซึ่ง กทม.จะมีรายได้จากการเดินรถไฟฟ้าเอง แต่ระหว่างที่ กทม.ยังไม่ได้เริ่มชำระหนี้ จะขอให้รัฐบาลอุดหนุนงบในส่วนที่ต้องชำระก่อนเป็นเวลา 10 ปี จากนั้น กทม.จะชำระเงินคืนให้กับรัฐบาลในส่วนที่รัฐบาลได้อุดหนุนให้ กทม. ทั้งนี้ ที่ประชุม คจร.ได้เห็นชอบกับแผนชำระหนี้ดังกล่าวแล้ว หลังจากนี้ กทม.จะนำเรื่องเสนอต่อที่ประชุมสภา กทม. ภายในเดือน มี.ค.นี้ เพื่อขอความเห็นชอบ เพราะเป็นโครงการขนาดใหญ่ และใช้งบประมาณจำนวนมาก

สำหรับความคืบหน้างานโครงสร้างพื้นที่ฐานรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ขณะนี้งานโยธาเสร็จเรียบร้อยแล้ว 100 เปอร์เซ็นต์ เหลือเพียงการติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณ ระบบการเดินรถไฟฟ้า ซึ่ง กทม.ต้องรอให้มีการส่งมอบโครงสร้างอย่างเป็นทางการก่อน

จึงสามารถเข้าพื้นที่เพื่อติดตั้งระบบเดินรถได้ ในส่วนนี้ กทม.จะต้องออกค่าใช้จ่ายในการติดตั้งระบบเดินรถเอง รวม 2 ส่วนต่อขยายเป็นเงินกว่า 20,000 ล้านบาท อย่างไร ก็ตาม รัฐบาลและผู้บริหาร กทม. กำหนดว่าจะต้องติดตั้งระบบและเปิดเดินรถให้ได้ภายในเดือน ธ.ค.นี้ เพื่อให้บริการประชาชนอย่างเต็มรูปแบบ ส่วนค่าโดยสารได้มีการศึกษาแล้ว อยู่ระหว่างพิจารณาสรุป.

Mongwin · Posted: 22/02/2018 8:42 pm Post subject:

รมช.คมนาคม คาดอุโมงค์ลอดแยกรัชโยธินเสร็จปลายปี 61
ThaiPBS 20:10 | 22 กุมภาพันธ์ 2561

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยความคืบหน้าโครงการสร้างอุโมงค์แยกรัชโยธิน คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในช่วงปลายปี 2561 ถือว่าเร็วกว่าแผนเดิมที่กำหนดไว้

ภายหลังการลงตรวจพื้นที่การก่อสร้างอุโมงค์ลอดแยกรัชโยธินที่จะนำมาช่วยแก้ปัญหาการจราจร นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า การก่อสร้างอุโมงค์ขณะนี้มีความคืบหน้าแล้วร้อยละ 57.04 คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในช่วงปลายปี 2561 ซึ่งเร็วกว่าแผนเดิมที่กำหนดไว้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 และช่วยลดปัญหาการจราจร

ส่วนกรณีบีทีเอส ระบุว่า จะเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ในปลายปีนี้นั้น เป็นเรื่องที่บีทีเอสมีอำนาจบริหารจัดการ แต่เรื่องภาระหนี้ของโครงการต้องรอผลพิจาณราจากสภากรุงเทพมหานครก่อน

ขณะที่ปัญหาการจราจรในเขตกรุงเทพฯ ที่แออัดเป็นลำดับต้นๆ ของโลก เชื่อว่ามาจากระบบโครงสร้างพื้นฐานโดยรวมยังไม่แล้วเสร็จ ส่งผลให้ประชาชนเลือกใช้รถยนต์ส่วนตัวในการเดินทาง แต่ในอีก 4-5 ปีข้างหน้าเมื่อโครงการรถไฟฟ้าระยะแรก จำนวน 11 สาย แล้วเสร็จ ประชาชนจะมีทางเลือกในการเดินทางมากขึ้น ซึ่งขณะนี้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) และคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) อยู่ระหว่างศึกษาถึงมาตรการในการนำมาใช้กับถนนตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้า เพื่อลดปริมาณการจราจร

https://www.youtube.com/watch?v=M5Lq_5JucS0

Wisarut · Posted: 01/03/2018 9:43 pm Post subject:

รฟม.แจ้งเบี่ยงการจราจร ซ.พหลโยธิน เริ่ม 3–31 มี.ค.
โดย: MGR Online
เผยแพร่: 1 มีนาคม 2561 11:37:
การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) แจ้งว่า กิจการร่วมค้าสเตค-เอเอส-4 ผู้รับจ้างก่อสร้างงานระบบราง โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว (เหนือ) ช่วงหมอชิต–สะพานใหม่–คูคต สัญญาที่ 4 จะดำเนินการยกอุปกรณ์ และก่อสร้างงานระบบรางรถไฟฟ้า จึงมีความจำเป็นต้องเบี่ยงการจราจรบนถนนพหลโยธิน และเบี่ยงการจราจรบนถนนลำลูกกา ในวันที่ 3 มีนาคม 2561 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2561 ตั้งแต่เวลา 22.00 -05.00 น. โดยมีรายละเอียดการเบี่ยงช่องจราจรดังต่อไปนี้

1.ถนนพหลโยธินบริเวณซอยพหลโยธิน 47 ถึง มหาวิทยาลัยศรีปทุม จะทำการเบี่ยงช่องทางจราจรฝั่งขาออกทุกช่องทางแล้วเบี่ยงขวาไปใช้ช่องทางฝั่งขาเข้าเป็นช่องทางฝั่งขาออก 1 ช่องทาง (ทดแทน) ทำให้มีช่องทางจราจรทั้งฝั่งขาเข้าและฝั่งขาออกคงเหลือฝั่งละ 1 ช่องทาง

2.ถนนพหลโยธินบริเวณซอยพหลโยธิน 49/1 ถึงสวนอาหารบางบัว จะทำการเบี่ยงช่องทางจราจรฝั่งขาออกทุกช่องทาง แล้วเบี่ยงขวาไปใช้ช่องทางฝั่งขาเข้าเป็นช่องทางฝั่งขาออก 1 ช่องทาง (ทดแทน) ทำให้มีช่องทางจราจรทั้งฝั่งขาเข้าและฝั่งขาออกคงเหลือฝั่งละ 1 ช่องทาง

3.ถนนพหลโยธินบริเวณซอยพหลโยธิน 61 ถึง ซอยพหลโยธิน 67 จะทำการเบี่ยงช่องทางจราจรฝั่งขาเข้าทุกช่องทาง แล้วเบี่ยงขวาไปใช้ช่องทางฝั่งขาออกเป็นช่องทางฝั่งขาเข้า 1 ช่องทาง (ทดแทน) ทำให้มีช่องทางจราจรทั้งฝั่งขาเข้าและฝั่งขาออกคงเหลือฝั่งละ 1 ช่องทาง

4.ถนนพหลโยธินบริเวณมูลนิธิโพธิภาวนา ถึง กรมพลาธิการทหารอากาศ จะทำการเบี่ยงช่องทางจราจรฝั่งขาเข้าทุกช่องทาง แล้วเบี่ยงขวาไปใช้ช่องทางฝั่งขาออกเป็นช่องทางฝั่งขาเข้า 1 ช่องทาง (ทดแทน) ทำให้มีช่องทางจราจรทั้งฝั่งขาเข้าและฝั่งขาออกคงเหลือฝั่งละ 1 ช่องทาง

5.ถนนพหลโยธินบริเวณหอประชุมกองทัพอากาศ ถึง รร.ฤทธิยะวรรณาลัย จะทำการเบี่ยงช่องทางจราจรฝั่งขาเข้าทุกช่องทาง แล้วเบี่ยงขวาไปใช้ช่องทางฝั่งขาออกเป็นช่องทางฝั่งขาเข้า 1 ช่องทาง (ทดแทน) ทำให้มีช่องทางจราจรทั้งฝั่งขาเข้าและฝั่งขาออกคงเหลือฝั่งละ 1 ช่องทาง

6.ถนนลำลูกกาบริเวณสถานีตำรวจภูธรคูคต ถึง วัดสายไหม จะทำการเบี่ยงช่องทางจราจรฝั่งขาเข้าทุกช่องทาง แล้วเบี่ยงขวาไปใช้ช่องทางฝั่งขาออกเป็นช่องทางฝั่งขาเข้า 1 ช่องทาง (ทดแทน) ทำให้มีช่องทางจราจรทั้งฝั่งขาเข้าและฝั่งขาออกคงเหลือฝั่งละ 1 ช่องทาง

ทั้งนี้ การเบี่ยงจราจรเพื่อดำเนินการยกอุปกรณ์และก่อสร้างงานระบบรางรถไฟฟ้า อาจทำให้ผู้ใช้เส้นทางไม่ได้รับความสะดวกในการเดินทางและอาจมีเสียงดังรบกวนในวันเวลาดังกล่าว ดังนั้น หากไม่มีความจำเป็น โปรดหลีกเลี่ยงเส้นทาง

Wisarut · Posted: 02/03/2018 11:18 am Post subject:

วันที่ 5-31 มี.ค. เบี่ยงจราจรช่วงเซ็นทรัลลาดพร้าวถึงตลาดยิ่งเจริญ
ศุกร์ที่ 2 มีนาคม 2561 เวลา 10.27 น.
รฟม. แจ้งเบี่ยงช่องทางจราจรบนถนนพหลโยธิน บริเวณเซ็นทรัลลาดพร้าวถึงตลาดยิ่งเจริญ เพื่อยกชิ้นส่วนงานสถานีและงานทางวิ่งรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ วันที่ 5-31 มี.ค. 61 เวลา 22.00-05.00 น.

การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) แจ้งว่า บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ผู้รับจ้างก่อสร้างงานโยธา โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว (เหนือ) ช่วงหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต สัญญาที่ 1 จะดำเนินการยกชิ้นส่วนงานสถานี และงานทางวิ่งรถไฟฟ้า จึงมีความจำเป็นต้องเบี่ยงการจราจรบนถนนพหลโยธิน บริเวณเซ็นทรัลลาดพร้าวถึงตลาดยิ่งเจริญ ในวันที่ 5-31 มี.ค.61 เวลา 22.00-05.00 น. โดยมีรายละเอียดการเบี่ยงช่องทางจราจร ดังต่อไปนี้

1.บริเวณเซ็นทรัลลาดพร้าว ถึง แยกเกษตร จะทำการเบี่ยงช่องทางจราจรบนถนนพหลโยธินทั้งฝั่งขาเข้าและฝั่งขาออกเพิ่ม (ชิดเกาะกลาง) ฝั่งละ 1 ช่องทาง ทำให้มีช่องทางทั้งฝั่งขาเข้าและฝั่งขาออกคงเหลือฝั่งละ 1 ช่องทาง 2.บริเวณมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ถึง หมู่บ้านถาวรวิลล่า จะทำการเบี่ยงช่องทางจราจรบนถนนพหลโยธินทั้งฝั่งขาเข้าและฝั่งขาออกเพิ่ม (ชิดเกาะกลาง) ฝั่งละ 1 ช่องทาง ทำให้มีช่องทางทั้งฝั่งขาเข้าและฝั่งขาออกคงเหลือฝั่งละ 1 ช่องทาง และ 3.บริเวณปากซอยพหลโยธิน 57 ถึง ตลาดยิ่งเจริญจะทำการเบี่ยงช่องทางจราจรบนถนนพหลโยธินทั้งฝั่งขาเข้าและฝั่งขาออกเพิ่ม (ชิดเกาะกลาง) ฝั่งละ 1 ช่องทาง ทำให้มีช่องทางทั้งฝั่งขาเข้าและฝั่งขาออกคงเหลือฝั่งละ 1 ช่องทาง

ทั้งนี้ การเบี่ยงจราจรเพื่อดำเนินการก่อสร้างอาจทำให้ผู้ใช้เส้นทางไม่ได้รับความสะดวกในการเดินทางและอาจมีเสียงดังรบกวนในวันเวลาดังกล่าว ดังนั้น หากไม่มีความจำเป็น โปรดหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว และ รฟม. ต้องขออภัยมา ณ โอกาสนี้

เบี่ยงจราจร รพ.ภูมิพลอดุลยเดช-พหลฯ 54/2 สร้างสายสีเขียวเหนือ
ศุกร์ที่ 2 มีนาคม 2561 เวลา 10.45 น.

รฟม. แจ้งเบี่ยงจราจร รพ.ภูมิพลอดุลยเดช-ซอยพหลฯ 54/2 เพื่อยกชิ้นส่วนงานก่อสร้างสถานี และทางวิ่งรถไฟฟ้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ วันที่ 5-31 มี.ค.61 เวลา 22.00-05.00 น.

การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) แจ้งว่า กิจการร่วมค้ายูเอ็น-เอสเอช-ซีเอช ผู้รับจ้างก่อสร้างงานโยธา โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว (เหนือ) ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต สัญญาที่ 2 จะดำเนินการยกชิ้นส่วนงานก่อสร้างสถานีและทางวิ่งรถไฟฟ้า บริเวณโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช-บริเวณซอยพหลโยธิน 54/2 จึงมีความจำเป็นต้องเบี่ยงการจราจรบนถนนพหลโยธิน ในวันที่ 5-31 มี.ค.61 เวลา 22.00-05.00 น. ซึ่งจะดำเนินการทั้งฝั่งขาเข้าและฝั่งขาออกมีรายละเอียด การเบี่ยงช่องทางจราจรเป็น 2 กรณี ดังนี้

1.กรณีการดำเนินงานฝั่งขาออก จะทำการเบี่ยงจราจรบนถนนพหลโยธินฝั่งขาออกทุกช่องทาง แล้วเบี่ยงไปใช้ช่องทางฝั่งขาเข้าเป็นช่องทางฝั่งขาออก 1 ช่องทาง (ทดแทน) ทำให้มีช่องทางทั้งฝั่งขาออกและฝั่งขาเข้า คงเหลือฝั่งละ 1 ช่องทาง และ 2.กรณีการดำเนินงานฝั่งขาเข้าจะทำการเบี่ยงจราจรบนถนนพหลโยธินฝั่งขาเข้าทุกช่องทาง แล้วเบี่ยงไปใช้ช่องทางฝั่งขาออกเป็นเป็นช่องทางฝั่งเข้า 1 ช่องทาง (ทดแทน) ทำให้มีช่องทางทั้งฝั่งขาเข้าและฝั่งขาออก คงเหลือฝั่งละ 1 ช่องทาง ทั้งนี้ การเบี่ยงจราจรเพื่อดำเนินงานก่อสร้าง อาจทำให้ผู้ใช้เส้นทางไม่ได้รับความสะดวกในการเดินทางและอาจมีเสียงดังรบกวนในวันเวลาดังกล่าว ดังนั้น หากไม่มีความจำเป็น โปรดหลีกเลี่ยงเส้นทาง และ รฟม. ต้องขออภัยมา ณ โอกาสนี้

Wisarut · Posted: 05/03/2018 10:20 am Post subject:

เสือดำไม่พอ! “อิตาเลียนไทย” ตัดต้นไม้หน้า ม.เกษตรฯ จนเหี้ยน เขตจตุจักรเตรียมแจ้งความ
โดย: MGR Online
ภาพจากเฟซบุ๊กเพจ : เฮ้ย นี่มันฟุตบาทไทยแลนด์
เขตจตุจักรแจ้งความ 'อิตาเลียน ไทย' ตัดต้นไม้หน้า ม.เกษตรจนกุด
เผยแพร่: 4 มีนาคม 2561 13:42:
ปรับปรุง: 4 มีนาคม 2561 16:14:

พบ “อิตาเลียนไทย” ผู้รับเหมารถไฟฟ้าสายสีเขียว หมอชิต - คูคต ตัดต้นไม้หน้า ม.เกษตรฯ 14 ต้นจนกุด เขตจตุจักรเตรียมแจ้งความเรียกร้องค่าเสียหาย

สืบเนื่องจากวานนี้ (3 มี.ค.) แฟนเพจเฟซบุ๊ก เฮ้ย นี่มันฟุตบาทไทยแลนด์ โพสต์ภาพต้นไม้ที่ถูกตัดจนเหี้ยน บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เขตบางเขน แล้วนั้น

วันนี้ (4 มี.ค.) สำนักเขตจตุจักร ชี้แจงว่า บริเวณหน้า มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เขตบางเขน ที่พบต้นไม้ถูกตัดจำนวนหลายต้น โดยก่อนหน้านี้ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด ทำเรื่องขอขยายทาง เนื่องจากก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว แต่อยู่ระหว่างดำเนินการ สำนักงานเขตฯ กำลังดำเนินการสำรวจต้นไม้ เพื่อคิดค่าเสียหายทั้งหมด และทางเขตแจ้งขั้นตอนการดำเนินการให้ทราบ โดยจะต้องจัดทำป้ายประชาสัมพันธ์ให้ประชาขนทราบข้อเท็จจริง

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า ทางบริษัทฯ ได้เข้าตัดต้นไม้บริเวณหน้า มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จนกุด เพื่อให้บริเวณนั่นเป็นแนวสายสื่อสาร จำนวน 2 ช่วง คือ ช่วงหน้า ม.เกษตรฯ จำนวน 9 ต้น และช่วงหน้า ธ.ออมสิน สาขา ม.เกษตรฯ จำนวน 5 ต้น

ล่าสุด ทางสำนักงานเขตฯ กำลังทำหนังสือแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สน.บางเขน พร้อมกันนี้ ทางสำนักงานเขตฯกำลังทำหนังสือแจ้งทางบริษัทฯ ให้มาเสียค่าปรับตามระเบียบ

Mongwin · Posted: 05/03/2018 5:21 pm Post subject:

Mongwin · Posted: 06/03/2018 6:48 pm Post subject:

“กรมป่าไม้” ระบุ “ตัดต้นไม้สร้างรถไฟฟ้า” ไม่ผิดกฎหมายป่าไม้
6 มีนาคม 2018 WorkpointNews

Click on the image for full size

ประเด็นคือ – รองอธิบดีกรมป่าไม้ ระบุ กรณีการตัดต้นนนทรีด้านหน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ไม่เข้าข้อกฎหมายป่าไม้ เพราะไม่ได้ตัดเพื่อนำไม้ไปใช้งาน และเป็นพื้นที่รับผิดชอบของกรุงเทพมหานคร

วันที่ 6 มี.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การตัดต้นไม้ 14 ต้น บริเวณด้านหน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ฝั่งถนนพหลโยธิน ซึ่งเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสื่อสังคมออนไลน์ ว่าเป็นการตัดแบบผิดวิธี โดยเฉพาะต้นนนทรี ซึ่งเป็นต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

นายอรรถพล เจริญชันษา รองอธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า การตัดต้นไม้บริเวณด้านหน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ไม่เข้าข้อกฎหมายป่าไม้ เพราะการตัดไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำไม้ไปใช้ และเป็นพื้นที่รับผิดชอบของกรุงเทพมหานคร ซึ่งกรมป่าไม้ทำได้เพียงให้ความรู้ในการตัดแต่ง

Click on the image for full size

ก่อนหน้านี้ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตจตุจักรได้แจ้งความลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐาน ที่สถานีตำรวจนครบาลบางเขน เพื่อดำเนินคดีกับ บริษัท อิตาเลียนไทยฯ ผู้รับจ้างงานก่อสร้างรถไฟฟ้าแล้ว เพื่อจ่ายค่าปรับตามกฎหมายรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง ว่าด้วยการตัดโค่นต้นไม้ในพื้นที่สาธารณะ

Wisarut · Posted: 07/03/2018 11:27 am Post subject:

แฉ “อิตาเลียนไทย” ตัดต้นไม้สร้างรถไฟฟ้า ยังไม่ได้ขออนุญาต สุดเศร้าค่าปรับไม่กี่หมื่น
โดย: MGR Online
เผยแพร่: วันพุธที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2561 08:59:
ปรับปรุง: วันพุธที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2561 10:04:

ผอ.เขตจตุจักร เผย “อิตาเลียนไทย” ชิงตัดต้นไม้หน้า ม.เกษตรฯ 14 ต้นโดยพลการ ทั้งที่ตอนทำเรื่องขออนุญาต 130 ต้น ยังตกลงกันไม่ได้ อนาถทำได้แค่เปรียบเทียบปรับ 2.8 หมื่น พร้อมเตรียมถกจ่ายค่าเสียหาย ประเมิน 1.7 แสน ด้านบริษัทฯ แถแค่ริดกิ่งตัดกิ่ง เป็นห่วงเป็นใยสายสื่อสาร เดี๋ยวระบบสื่อสารจะล่ม

เมื่อวันที่ 6 มี.ค. นายปกครอง พลเมือง ผู้อำนวยการเขตจตุจักร เปิดเผยถึงกรณี บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต - สะพานใหม่ - คูคต ตัดต้นไม้ริมถนนพหลโยธิน บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน จำนวน 14 ต้น โดยไม่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานเขตจตุจักร ว่า ตามข้อตกลงร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและบริษัท อิตาเลียนไทย กำหนดว่า เมื่อจะทำการล้อมย้ายต้นไม้ใดๆ ออกจากพื้นที่เพื่อก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว เขตจะเป็นผู้พิจารณา สำรวจ และเคลื่อนย้ายเอง โดยบริษัทจะต้องจ่ายค่าเสียหาย และค่าล้อมย้ายทั้งหมด

โดยเมื่อวันที่ 22 ก.พ. ที่ผ่านมา บริษัท อิตาเลียนไทย ได้เสนอแผนการล้อมย้ายต้นไม้บริเวณแนวโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าทั้งหมด 130 ต้น เขตจตุจักรจึงได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ไปสำรวจตามแผนที่เสนอมา แต่ข้อมูลยังไม่ตรงกัน จึงได้เตรียมนัดลงพื้นที่ร่วมกันเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจนอีกครั้ง แต่ยังไม่ได้ลงพื้นที่ ปรากฏว่า คืนวันที่ 2 มี.ค. ได้รับรายงานว่า พนักงานของบริษัท อิตาเลียนไทย ได้ทำการตัดต้นไม้ 14 ต้น โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเขต และทำให้ทรัพย์สินของกรุงเทพมหานครเสียหาย เช้าวันที่ 4 มี.ค. จึงเดินทางไปแจ้งความที่ สน.บางเขน เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานและให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดทำลายทรัพย์สินทางราชการ พร้อมให้รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น

นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครได้ดำเนินการปรับบริษัทเป็นเงิน 28,000 บาท ตาม พ.ร.บ. รักษาความสะอาด พ.ศ. 2535 ว่าด้วยการตัดโค่นต้นไม้ในพื้นที่สาธารณะ หรือตัดต้นไม้ที่ทางราชการปลูกไว้โดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษปรับสูงสุด 2,000 บาท ซึ่งเมื่อวันที่ 5 มี.ค. บริษัทได้ชำระค่าปรับในส่วนนี้แล้ว พร้อมกันนี้ ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบและประเมินความเสียหายต้นไม้ทั้ง 14 ต้น เพื่อให้บริษัทชำระค่าเสียหายที่เกิดขึ้น โดยคณะกรรมการได้ประเมินความเสียหายจากการวัดรอบโคนต้นไม้ คิดเป็นมูลค่าความเสียหายทั้งหมด 170,000 บาท ซึ่งเขตจะทำหนังสือแจ้งบริษัทให้มาชำระค่าเสียหายดังกล่าวภายใน 7 วัน

ด้าน บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ชี้แจงกรณีการตัดต้นไม้ ว่า ตามแบบแนบสัญญา อิตาเลียนไทย ต้องก่อสร้างสะพานรถยนต์ข้ามแยกเกษตร โดยในการก่อสร้างสะพานจำเป็นต้องขยายผิวถนนพหลโยธินทั้ง 2 ฝั่งของแยกเกษตร เป็นระยะทางฝั่งละประมาณ 280 เมตร เพื่อให้มีความกว้างถนนเพียงพอสำหรับวางทางลงของสะพาน ในการขยายผิวถนนนี้ จำเป็นต้องรื้อย้ายตันไม้ที่ปลูกบนทางเท้าออกจำนวนหนึ่ง โดย อิตาเลียนไทย ได้แจ้งขออนุมัติรื้อย้ายต้นไม้ดังกล่าวไปที่ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) โดยเป็นการแจ้งรวมกับจำนวนต้นไม้ในพื้นที่อื่นๆ ที่ต้องรื้อย้ายออก และ รฟม. ได้แจ้งขออนุมัติไปที่สำนักงานเขตจตุจักร ตั้งแต่ 14 ก.ย. 2558 จากนั้นอิตาเลียนไทย ได้ทยอยรื้อย้ายต้นไม้ในพื้นที่อื่นๆออกตามแผนก่อสร้าง

สำหรับบริเวณแยกเกษตร อิตาเลียนไทย ได้สรุป Shop Drawing ของสะพานรถยนต์ข้ามแยกเกษตรจากแบบแนบสัญญาและส่งขออนุมัติเมื่อ 25 ม.ค. 2561 โดยได้รับอนุมัติกลับมาเมื่อ 14 ก.พ. 2561 จากแบบ Shop Drawing ซึ่งจะใช้ก่อสร้างจริง อิตาเลียนไทย จึงสรุปได้ยอดรวมของต้นไม้ที่กีดขวางงานขยายถนนที่แยกเกษตร ที่จำเป็นต้องรื้อย้ายออกทั้ง 2 ฝั่งของสี่แยกรวม 57 ต้น และแจ้งขออนุมัติรื้อย้ายไปที่สำนักงานเขตจตุจักร เมื่อ 9 ก.พ. 2561 ซึ่งในการรื้อย้ายต้นไม้ด้วยวิธีขุดล้อมแล้วยกต้นไม้ออกไปอนุบาลในพื้นที่ที่จัดไว้ ตามมาตรฐานการรื้อย้ายของกองสวนสาธารณะ กรุงเทพมหานครนั้น จะเริ่มต้นด้วยการริดกิ่งตัดกิ่งออกก่อน เพื่อเป็นการเตือนต้นไม้ให้ปรับตัว ลดการคายน้ำของใบ จากนั้นจึงจะเริ่มขุดล้อม แล้วยกต้นไม้ออกไปไว้ที่ที่สำหรับอนุบาลต้นไม้

ในกรณีของการริดกิ่งตัดกิ่งต้นไม้บริเวณหน้า ม.เกษตรฯ ที่เป็นข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 3 มี.ค. 2561 นั้น เป็นส่วนหนึ่งของต้นไม้จำนวนทั้งหมดที่อิตาเลียนไทยขออนุมัติรื้อย้าย โดยในระหว่างที่รอการอนุมัติจาก สนง.จตุจักร อิตาเลียนไทยได้เข้าเริ่มเข้าไปเตรียมงานรื้อย้ายโดยเริ่มริดกิ่งตัดกิ่งก่อน ทั้งนี้ พบว่าเหนือต้นดังกล่าวมีสายสื่อสารเป็นจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องริดกิ่งให้เพียงพอโดยคำนึงถึงความปลอดภัยในขณะยกขนย้ายต้นไม้ออกจากตำแหน่งด้วย ต้องไม่ให้กิ่งของต้นไม้ไปเกี่ยวโดนสายสื่อสารข้างบน จนทำความเสียหายกับระบบสื่อสาร ซึ่งจะเกิดผลเสียหายต่อธุรกิจและประชาชนในวงกว้าง โดยจะประสานงานกับสำนักงานจตุจักร อย่างใกล้ชิดในการรื้อย้ายต้นไม้ดังกล่าวต่อไป