View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
donatt76
1st Class Pass (Air)
Joined: 03/09/2006 Posts: 2587
Location: บางนา สุวรรณภูมิครับ
|
Posted: 01/06/2007 9:50 am Post subject: |
|
|
เรื่องรถไฟฟ้าสุวรรณภูมิ
สั่งมาทั้งที มีแค่ 7 ขบวน จะทันกินมั้ยเนี่ย ไม่ดูของประเทศเพื่นบ้านบ้างเค้าออกทุก 30 นาที ของเรามี ด่วนพิเศษแค่ 4 ขบวน สงสัย 2 ชั่วโมงขบวน
กำหนด Spec ทำความเร็วสูงสุดแค่ 100 km/h ไม่ช้าไปหน่อยเหรอครับ...อย่างนี้วิ่งไปสุวรรณภูมิ ใช้เวลาเท่าไหร่ 40 นาทีเหรอ...ระยะทางแค่นี้เอง รถไฟควรจะใช้เวลาไม่เกิน 20 นาที และออกทุก 30 นาทีนะครับ
ได้ข่าวว่าจะมีจอดตามรายทางด้วยเพราะมีโครงการสร้างสถานี เช่นที่หัวหมากเป็นต้น แล้วมันจะเป็น Airport Express ได้ยังไงล่ะครับ
ค่าโดยสารล่ะครับ คิดกันหรือยังจะเก็บที่เท่าไหร่ ผมเสนอว่าอย่างต่ำ น่าจะอยู่ที่ 100 บาท/เที่ยวครับ ต้องคิดว่าคนที่มีปัญญาขึ้นเครื่องบิน แค่ 100 บาท มีปัญญาจ่ายแน่นอนครับ...แต่ถ้าทำเวลาได้ 20 นาที/เที่ยว สงสัยว่าต้องปรับราคาขึ้นอีกเล็กน้อย เป็น 150-200 บาท/เที่ยว เพราะลำพัง Taxi จากมักกะสัน - สุวรรณภูมิ รวมค่าทางด่วนด้วยก็ไม่ต่ำกว่า 200 อยู่แล้วนะครับ
สรุปแล้วข้ออ้างคงจะกลับมาที่ว่า ไม่มีเงินลงทุน จึงมีรถแค่ 7 ขบวนมาวิ่งบริการ |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 01/06/2007 9:56 am Post subject: |
|
|
ผมว่า มาคนละงานอ่ะครับ... |
|
Back to top |
|
|
donatt76
1st Class Pass (Air)
Joined: 03/09/2006 Posts: 2587
Location: บางนา สุวรรณภูมิครับ
|
Posted: 01/06/2007 10:00 am Post subject: |
|
|
ประเด็นเรื่องรถไฟ(ฟ้า) สายสีแดง
สงสัยอยู่ครับ ที่ว่าจะให้เป็นรถดีเซลวิ่งบริการบนทางยถระดับ...
ปกติขนาดรางของรถไฟฟ้าบ้านเรานี่มันเป็น 1.425 ไม่ใช่หรือครับ แล้วรุไฟในประเทศเรามันวิ่งบนราง 1.0 เมตรนี่นา...แล้วไหงโครงการนี้จึงจะเอารถดีเซลรางไปวิ่งบริการแทนล่ะครับ
ที่สำคัญ...[b]รถดีเซลบ้านเรามีพอเหรอครับ [/b] เห็นอ่านพบในกระทู้บ่อยๆว่า ขบวนรถตึงตัว ต้องหมุนเวียนรถ จนดีเลย์เป็น Low Cost Airlines ที่ไม่มีรถทำขบวนเพราะ รถที่จะใช้ยังไม่เข้ามา ไม่ทราบว่าท่านๆคิดถึงข้อนี้บ้างหรือเปล่า ผมเดาว่าไม่ได้คิด
แล้วที่ท่านบอกว่าดีเซลที่จะมาวิ่งต้องเป็นดีเซลชั้นดี...ที่มีอยู่ปัจจุบันมันยังหาไม่ได้ซักคันเลยนี่ครับที่เป็นดีเซลชั้นดี
ผมเดาว่าถ้าต้องเอาดีเซลไปวิ่งแทน สงสัยว่า Sprinter ที่มาจากอังกฤษ จะโดยไปวิ่งแน่ๆ เพราะดูจากรูปลักษณ์ และ Spec รถที่สร้างมาเป็นรถชานเมือง (แต่เราเอาไปเชียงใหม่) น่าจะเหมาะสมที่สุดครับ ว่าแต่...มันเหลือที่วิ่งได้ โดยไม่พังจริงๆซักกี่คันกันครับ |
|
Back to top |
|
|
HID_4513
3rd Class Pass (Air)
Joined: 12/07/2006 Posts: 418
Location: S a L a Y a
|
Posted: 01/06/2007 10:02 am Post subject: |
|
|
^^^^เอ่อ...(รถไฟด่วนสุวรรณภูมิ)
สเปคเนี่ยรู้สึกจะเป็น100mphนะครับ(ก็ประมาณ160km/h ครับ)
ส่วนตามสถานีก็วิ่งผ่านไปเลยสำหรับรถด่วนครับ บางสถานีอย่างเช่นหัวหมากก็มีรางหลีกให้รถด่วนแซงรถธรรมดาไปครับ |
|
Back to top |
|
|
southrailway
3rd Class Pass
Joined: 27/03/2006 Posts: 26
Location: ดอนเมือง กทม.
|
Posted: 01/06/2007 8:17 pm Post subject: |
|
|
ขอเสริมหน่อยครับตามข้อมูลที่ได้มา
Air port link จะมีรถใช้ทั้งหมด 9 ขบวนครับ แบ่งเป็นการให้บริการ 2 ประเภทครับ คือ
1. รถด่วนพิเศษ มีรถทั้งหมด 4 ขบวน จะเป็นรถแบบ 4 คันต่อ 1 ขบวน โดย ตู้ที่เพิ่มมาจะเป็นตู้สัมภาระ และจะวิ่งจากมักกะสันไปสุวรรณภูมิโดยไม่จอดรายทาง
2.รถธรรมดา มีรถทั้งหมด 5 ขบวน เป็นแบบ 3 คันต่อ 1 ขบวน วิ่งแบบจอดทุกสถานีโดยจะเริมจากพญาไทไปสุวรรณภูมิ
รถทั้ง 2 แบบมีการออกแบบความเร็วสูงสุดในการให้บริการอยู่ที่ 160 km/h. ครับ
ส่วนรถไฟสายสีแดงไม่อยากพูดครับ...เซ็ง _________________ การเดินทางเพื่อค้นหาชีวิต จุดหมายอาจไม่ได้อยู่ที่ปลายทาง แต่อยู่ระหว่างทางต่างหาก |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
|
Posted: 06/06/2007 5:45 pm Post subject: |
|
|
แจงชื่อโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง
Matichon - June 2, 2007
นายนคร จันทศร รองผู้ว่าการด้านระบบโครงการขนส่งรถไฟฟ้า การรถไฟแห่งประเทศไทย ( ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า โครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ - รังสิต บางซื่อ - ตลิ่งชัน ถือเป็นโครงการรถไฟฟ้า ไม่ใช่โครงการรถไฟดีเซลตามที่หลายฝ่ายเข้าใจ โดยโครงการดังกล่าวจะมีทั้งสิ้น 3 ราง แบ่งเป็นทางสำหรับรถไฟที่วิ่งปกติในปัจจุบัน 1 ราง และเป็นรางสำหรับรถไฟฟ้าอีก 2 ราง " รถไฟฟ้าสายสีแดง จะเรียกเป็นรถไฟฟ้า หรือรถไฟชานเมืองสายสีแดง ตามที่คณะรัฐมนตรี ( ครม.) อนุมัติเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ที่ผ่านมาก็ได้ เพราะเป็นหลักการเดียวกัน เพียงแต่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลขณะนั้น ให้ความเห็นว่า ในเมื่อทางรถไฟดังกล่าวสามารถวิ่งร่วมกันได้ทั้งรถไฟฟ้า และรถไฟปกติ ก็ควรจะใช้ชื่อรถไฟชานเมือง เพื่อให้ครอบคลุมทั้งสองระบบ " |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 06/06/2007 5:57 pm Post subject: |
|
|
คงโดนคอลัมนิสต์ในหนังสือพิมพ์รายวันหลายฉบับแซวเอาแน่ๆ ถึงได้ชี้แจง |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
|
Posted: 09/06/2007 9:00 pm Post subject: |
|
|
ร.ฟ.ท.ยันไม่ได้แหกตาคนกรุงเทพฯ
เหตุนำรถดีเซลวิ่งสายสีแดงเพราะทางยังไม่สมบูรณ์
[สยามธุรกิจ ฉบับที่ 800 ประจำวันที่ 9-6-2007 ถึง 12-6-2007]
ผู้บริหารรถไฟฯ ยันไม่ได้แหกตาประชาชน เหตุที่รถไฟฟ้าสายสีแดงเฟสแรก (บางซื่อ-ตลิ่งชัน) ต้องเอารถไฟดีเซลมาวิ่ง เพราะทางยังไม่สมบูรณ์ ระบุหลังสร้างเสร็จครบ ได้นั่งรถไฟฟ้าแน่นอน นคร แจงรางสายสีแดง ไม่ต้องใช้ถึง 1.435 เมตรเหมือนบีทีเอสและรฟม.เพราะเชื่อมกันไม่ได้อยู่แล้ว ชี้แม้เป็นรถไฟดีเซลแต่รับรองปลอดภัย
นายนคร จันทศร รองผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ด้านบริหารโครงการระบบรถไฟฟ้า เปิดเผยว่า แนวทางการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง คือ แนวเส้นทางโครงการโฮปเวลล์เดิม ซึ่งได้ออกแบบเพื่อเชื่อมต่อกับรถไฟทางไกล โดยจะทำหน้าที่ขนส่งผู้โดยสารระยะไกล และชานเมืองเข้ามาส่งย่านใจกลางเมือง โดยสายเหนือเริ่มจากรังสิต-บางซื่อ-หัวลำโพง สายใต้จากมหาชัย-หัวลำโพง สายตะวันออกจากหัวหมาก-หัวลำโพง และสายตะวันตกจากตลิ่งชัน-บางซื่อ-หัวลำโพง โดยเส้นทางดังกล่าว ปัจจุบันเป็นทางระดับดิน มีจุดตัดกับถนนจำนวนมาก ซึ่งสร้างปัญหาการจราจรในกรุงเทพฯ อย่างมาก ดังนั้น จึงต้องทำเป็นโครงสร้างเป็นรถไฟฟ้ายกระดับ โดยในระยะแรกจะนำรถไฟเครื่องยนต์ดีเซลวิ่งก่อนในเส้น ทาง คือ บางซื่อ-ตลิ่งชัน และหลังจากสร้างสายสีแดงเสร็จครบทุกเส้นทางปี 2554 จึงจะนำรถไฟฟ้ามาวิ่งบริการให้เป็นโครงข่ายที่สมบูรณ์
สำหรับการที่ต้องใช้รางขนาด 1 เมตรนั้น เพื่อเชื่อมต่อกับประเทศ แถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ประเทศจีน พม่า ลาว กัมพูชา และมาเลเซีย ที่ต่างก็ใช้รางขนาด 1 เมตร ถือเป็นมาตรฐานของประเทศแถบนี้ ซึ่งคล้ายกับประเทศแถบยุโรป (อียู) ที่เลือกใช้รางขนาด 1.435 เมตร เป็นรางมาตรฐาน ทั้งนี้ ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องสร้างรางรถไฟฟ้าสายสีแดงเป็นขนาด 1.435 เมตร ให้เท่ากับรถไฟฟ้าบีทีเอส และรถ ไฟฟ้าใต้ดิน เพราะไม่สามารถต่อเชื่อมกันได้อยู่แล้ว เนื่องจากต้องคำนึงถึงเขตโครงสร้าง และเขตบรรทุก รวมถึงระบบไฟฟ้าที่ใช้ต่างระบบกันด้วย นอกจากนี้ การที่รถไฟวิ่งช้า ไม่ใช่สาเหตุจากราง 1 เมตร แต่มาจากเป็นรางเดี่ยว ระบบอาณัติสัญญาณล้าสมัย สายทางไม่แข็งแรง สภาพขบวนรถวิ่ง ไม่เหมาะที่จะวิ่งเร็ว เพราะขาดงบประมาณลงทุน
ญี่ปุ่นก็ถูกหลอกให้สร้างด้วยราง 1.435 เมตร 2 สาย คือ สายสกินซ่า และมารูโนชิ แต่ก็กลับตัวทัน ที่กลับมาสร้างเป็นราง 1 เมตร ทุก เส้นทาง ที่เมืองไทยก็ถูกเขาหลอกแล้ว ทั้งรถไฟฟ้าบีทีเอส และรถไฟฟ้าใต้ดิน แต่ต่อไปก็ไม่เป็นไร ถ้าสร้างเป็นใยแมงมุมอยู่ในเมือง ซึ่งที่ผ่านมาคนเข้าใจผิดจำนวนมากว่ารางมาตรฐานต้องเป็น 1.435 เมตรเท่านั้น นายนคร กล่าว
ด้านนายอารักษ์ ราษฎร์บริหาร หัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านการเงิน (CFO) กล่าวว่า การก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดงตามแผนที่วางไว้ ในที่ สุดจะเป็นระบบเดินรถด้วยรถไฟฟ้าทั้งหมด แต่ช่วงแรก บางซื่อ-ตลิ่งชัน ระยะทาง 15 กิโลเมตร งบประมาณ 13,133 ล้านบาท จะเป็นการเปิดวิ่งรถไฟดีเซลก่อน ซึ่งจะวิ่งบนรางยกระดับ โดยเปิดใช้ปี 2553 หลังจากนั้นจะรอจนกว่าช่วงบางซื่อ-รังสิต ระยะทาง 26 กิโลเมตร งบประมาณ 52,220 ล้านบาท แล้วเสร็จปี 2554 จึงจะเปิดให้บริการเป็นรถไฟฟ้าที่สามารถวิ่งควบคู่กับรถไฟดีเซลในรางเดียวกันได้ ซึ่ง ร.ฟ.ท.มีแผนรองรับ ไว้อยู่แล้ว ทั้งนี้ ขบวนรถไฟที่สามารถวิ่งทับเส้นกันได้ก็ต่อเมื่อความกว้าง รางเท่ากัน เขตโครงสร้างและเขตบรรทุกเท่ากัน น้ำหนักกดเพลาที่ยอมให้ของทางเข้ากันได้ ระบบไฟเหมือนกัน
นอกจากนี้ การก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน จะมีเฉพาะงานโครงสร้าง และงานวางราง ไม่มีระบบอาณัติสัญญาณ และยังไม่สามารถเชื่อมกับสถานีบางซื่อได้ เพราะการก่อสร้างยังไม่เสร็จ ดังนั้น ระบบรถไฟฟ้าจึงยังไม่สามารถเปิดใช้ได้ เพราะต้องรอรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต แล้วเสร็จก่อน ซึ่งจะมีการก่อสร้างสถานีบางซื่อ งานวางราง และการติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณเชื่อมเข้าด้วยกัน ดังนั้น ที่ผ่านมาจะเห็นว่า ร.ฟ.ท.ต้องเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ก่อสร้าง 2 เส้นทางพร้อมกัน
ถ้าสถานีบางซื่อสร้างไม่แล้วเสร็จ รถไฟยกระดับจากตลิ่งชันก็เปิด ให้บริการไม่ได้ ร.ฟ.ท. จึงได้เร่งรัดให้แยกการประมูลสถานีบางซื่อ มูลค่า 2 หมื่นล้านบาท ออกไปต่างหาก และรีบประมูลให้ได้ในปี 2551 แต่ถ้านโยบายรัฐบาลใหม่เกิดเปลี่ยนแปลง ก็เป็นเรื่องอนาคต นายอารักษ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม การส่งกระแสไฟฟ้าที่ ร.ฟ.ท. จะนำมาใช้นั้นจะแตกต่างจากระบบเดินรถของรถ ไฟฟ้าบีทีเอสและรถไฟฟ้าใต้ดินที่ส่งกระแสไฟฟ้า มาตามราง แต่ ร.ฟ.ท.จะเป็นระบบสายส่งเหนือหัว หรือรถไฟฟ้าแบบกระแสสลับเฟสเดียว โดย ร.ฟ.ท.จะนำมาใช้กับรถไฟฟ้าสายสีแดง และโครง การระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อท่าอากาศยานสุ วรรณภูมิและสถานีรับส่งผู้โดยสารอากาศยานในเมือง (แอร์พอร์ตลิ้ง) ด้วยกระแสสลับแรงดัน 25,000 โวลต์ ซึ่งสามารถวิ่งได้ประมาณ 140 กม./ชั่วโมง ส่วนสายเหตุที่รถไฟฟ้าบีทีเอสและรถไฟฟ้าใต้ดินวิ่งได้ประมาณ 40-60 กม./ชั่วโมง เนื่องจากทำการขนส่งคนในเมืองและมีสถานีที่ใกล้จึงจำเป็นต้องใช้ความเร็วที่ต่ำกว่า
ขณะที่นายบัญชา คงนคร รักษาการการ ร.ฟ.ท. กล่าวว่า การนำรถไฟดีเซลไปวิ่งที่รางยกระดับในช่วงแรกนั้น รับรองว่าปลอดภัยแน่นอน เพราะว่าออกแบบมาเป็นอย่างดี และต้องคำนึงถึงความแข็งแรงมากกว่า วิ่งระดับดิน ซึ่งที่ผ่านมามีการก่อสร้างรางยกระดับแล้วนำรถไฟดีเซลวิ่งมาแล้วในไทย คือสะพานพระราม 6 ก่อสร้างยกระดับข้ามถนน ซึ่งไม่มีอุบัติเหตุแต่อย่างใด แม้แต่ในสหรัฐอเมริกาก็มีการสร้างทางยกระดับข้ามถนน หรือสร้างยกระดับทำบายพาสผ่านเมือง ทั้งนี้ ประเทศที่มีการ ก่อสร้างรางยกระดับแล้วนำรถดีเซลขึ้นไปวิ่งอย่างเมืองไทย แบบเส้นทาง ระยะยาวอย่างสายบางซื่อ-ตลิ่งชัน ก็มีอยู่แล้ว
ส่วนการสร้างขนาดราง 1 เมตร แล้วนำราง 1.435 เมตร มาวิ่งด้วย ไม่ใช่มีเฉพาะเมืองไทย ประเทศเพื่อนบ้าน เช่น มาเลเซีย ย่านเมือง หลวงก็สร้างรางรถไฟขนาด 1 เมตร แต่ก็มีสายแอร์พอร์ต ลิงค์ ที่ใช้ราง ขนาด 1.435 เมตร ส่วนสิงคโปร์ มีรางขนาด 1 เมตร ซึ่งเป็นรถไฟวิ่งจาก มาเลเซีย แต่การขนส่งทั่วเกาะสิงคโปร์ ใช้รางขนาด 1.435 เมตร |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
|
Posted: 14/06/2007 4:21 pm Post subject: |
|
|
ประมูลรถไฟฟ้าสีแดง1.3หมื่นล. เปิดอีออกชั่นกลางเดือนสิงหาคม
ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2550 ปีที่ 31 ฉบับที่ 3905
รถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน เลื่อนเปิดประมูลออกไปอีก 1 เดือน จากกำหนดเดิมสิ้นมิถุนายนเป็นกลางสิงหาคม เผยต้องลงประกาศ ทีโออาร์ในเว็บไซต์ เพื่อรับฟังความคิดเห็น พร้อมเสนอบอร์ดอนุมัติอีกครั้งก่อนถึงจะลงมือเคาะราคาได้ ด้วยวิธีอีออกชั่นแบบสัญญาเดียว ด้านผู้รับเหมาเฮได้งานชิ้นโต มูลค่า 13,000 ล้านบาท ร.ฟ.ท.เตรียมรื้อ 15 ชุมชนริมทางรถไฟ กว่า 2,000 หลังคาเรือน ก่อนเริ่มตอกเสาเข็มต้นปี"51
นายนคร จันทศร รองผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า การเปิดประมูลโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ระยะทาง 15 กิโลเมตร ค่าก่อสร้าง 13,000 ล้านบาท อาจจะต้องเลื่อนการเปิดประมูลออกไป จากกำหนดเดิม ที่จะเปิดประมูลภายในเดือนมิถุนายน-กรกฎาคมนี้เป็นกลางเดือนสิงหาคมแทน เนื่องจากยังมีกระบวนการที่จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ อีกหลายขั้นตอน อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการก่อสร้างจะเริ่มก่อสร้างได้ตั้งแต่ต้นปี 2551 เป็นต้นไป
"การรถไฟฯรับปากรัฐบาลว่าจะเร่งเปิดประมูลให้เร็วที่สุด ภายในเดือนมิถุนายน หรือเดือนกรกฎาคมนี้ แต่เมื่อถึงเวลาดำเนินการในราย ละเอียดจริงๆ แล้ว เวลาที่กำหนดไว้ก็คงต้องเลื่อนออกไป แต่คาดว่าคงจะเลื่อนออกไปไม่มาก เพราะต้องทำตามขั้นตอนของการเปิดประมูลให้ครบถ้วนเหมือนกับโครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่ฉะเชิงเทรา-แหลมฉบัง"
นายนครกล่าวว่า สำหรับขั้นตอนที่จะต้องดำเนินการเพิ่มเติมคือ จะมีการประกาศร่างทีโออาร์ในเว็บไซต์เพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชนทั่วไป ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน จากนั้นจะต้องนำผลสรุปความคิดเห็นเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟฯ เมื่อบอร์ดอนุมัติจึงจะประกวดราคาด้วยระบบอีออกชั่นได้
"สำหรับทีโออาร์จะกำหนดเหมือนกับการเปิดประมูลก่อสร้างทั่วไป คือมีการกำหนดวงเงินผลงาน ทุนจดทะเบียน ฯลฯ ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการร่างรายละเอียด ส่วนการเปิดประมูลจะเปิดประมูลสัญญาเดียววงเงิน 13,000 ล้านบาท จะไม่ซอยย่อย เพื่อให้ได้ผู้รับเหมารายเดียว ซึ่งจะทำให้งานได้มาตรฐานเดียวกัน ส่วนระยะเวลาในการก่อสร้างจะใช้เวลา 3 ปี"
นายนครกล่าวต่อว่า ในการประกวดราคาของโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน วงเงิน 13,000 ล้านบาท จะประกอบด้วยงานโยธา งานระบบราง งานรื้อย้ายและงานก่อสร้างถนนเลียบทางรถไฟ ซึ่งจะรวมงานถนน งานสะพานกลับรถ และสะพานลอยคนเดินข้าม ส่วนงานระบบเครื่องกลและไฟฟ้าจะต้องรอเปิดประมูลพร้อมกับช่วงบางซื่อ-รังสิต ที่ทางสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) อยู่ระหว่างออกแบบรายละเอียดอยู่เพื่อให้เป็นระบบเดียวกัน
สำหรับรายละเอียดของโครงการตลอดระยะทาง 15 กิโลเมตร จะมีทั้งหมด 3 สถานี คือ สถานีบางซ่อน สถานีบางบำหรุ และสถานีตลิ่งชัน ลักษณะของโครงสร้างจะก่อสร้างเป็นทางยกระดับประมาณ 7.2 กิโลเมตร จากบางซื่อก่อนถึงสถานีบางบำหรุ ส่วนระยะทางที่เหลืออีก 7.8 กิโลเมตร จะก่อสร้างระดับพื้นดิน การให้บริการในเบื้องต้นจะเป็นรถไฟดีเซลราง ให้บริการทั้งรถไฟทางไกลและรถไฟชานเมือง
ส่วนงบฯก่อสร้าง 13,000 ล้านบาท แยกเป็นค่ารื้อย้ายวงเงิน 1,758 ล้านบาท ค่าควบคุมงานก่อสร้าง 269 ล้านบาท ค่างานโยธาและโครงสร้างทางวิ่งวงเงิน 7,274 ล้านบาท ค่างานระบบรางวงเงิน 1,397 ล้านบาท และค่างานก่อสร้างถนนเลียบทางรถไฟ 2,108 ล้านบาท
ด้านการรื้อย้าย ตลอดแนวเส้นทางมีชุมชน ผู้บุกรุกพื้นที่ของการรถไฟฯจะต้องรื้อย้ายทั้งหมด 15 ชุมชน จำนวน 2,093 หลังคาเรือน ได้แก่ ชุมชนบ่อฝรั่งพัฒนา ชุมชนโชติวัฒน์ ชุมชนสุขสันต์ ชุมชนสะพานดำบริเวณบางซื่อ ชุมชนสุดซอยสมถวิล ชุมชนสีน้ำเงิน 3 ชุมชนซอยยิ้มประยูรพัฒนา ชุมชนพระราม 6 ชุมชนริมทางรถไฟบางอ้อ ชุมชนวัดเพลง ชุมชนสะพานดำตลิ่งชัน ชุมชนริมทางรถไฟชัยพฤกษ์ 1 ชุมชนริมทางรถไฟชัยพฤกษ์ 2 ชุมชนริมทางรถไฟบางกรวย และชุมชนริมทางรถไฟ 2 บริเวณบางกรวย |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
|
Posted: 14/06/2007 6:17 pm Post subject: |
|
|
โฆสิตหันกู้ในประเทศแทนเจบิคลงทุนรถไฟฟ้า
Bangkokbiznews 14 มิถุนายน 2550 เวลา 15:32:22
นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวกรณีการกู้เงินลงทุนก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าว่า หากรัฐบาลไม่สามารถใช้เงินกู้จากเจบิคได้ทันเดือนสิงหาคมนี้ รัฐบาลจะจัดหาแหล่งเงินกู้ในประเทศลงทุนก่อน ซึ่งกระทรวงคมนาคมและกระทรวงการคลังจะหารือกันในรายละเอียดต่อไป และจากที่ตนได้หารือกับนายธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)นั้น ผู้ว่าฯธปท.ยืนยันว่าสภาพคล่องในประเทศมีเพียงพอ
หากกู้เงินจากเจบิคไม่ทันก็ใช้เงินกู้ในประเทศไทย ส่วนจะเป็นการกู้เงินในรูปแบบใด ทางกระทรวงการคลังจะเป็นผู้กำหนด ซึ่งผมก็เข้าใจว่าหากเจบิคปล่อยไม่ทัน ก็คงมาจากสาเหตุที่การปล่อยกู้ของเจบิคมีขั้นมาก ซึ่งอาจไม่สอดคล้องกับเรา แต่ถ้าได้เงินกู้จากเจบิคทันก็จะดีมากนายโฆสิต กล่าว |
|
Back to top |
|
|
|