RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311235
ทั่วไป:13181365
ทั้งหมด:13492600
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวเกี่ยวกับรถไฟฟ้า BTS
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รวมข่าวเกี่ยวกับรถไฟฟ้า BTS
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 73, 74, 75 ... 155, 156, 157  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> รถไฟฟ้า (BTS) และรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT)
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42628
Location: NECTEC

PostPosted: 08/05/2018 7:36 pm    Post subject: Reply with quote

กทม.เตรียมวางรางคู่-ขยายชานชาลา "บีทีเอสตากสิน" แก้ปัญหาคอขวด ไม่ยุบสถานี คาด 3 ปีเสร็จ
โดย: MGR Online
เผยแพร่: วันอังคารที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 16:24:

กทม.เล็งวางรางคู่-ขยายชานชาลา "บีทีเอสตากสิน" แก้ปัญหาคอขวด คาดใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี ไม่ยุบสถานีทิ้ง เชื่อร่นเวลาเดินทางจาก 4.30 นาที เหลือ 2.30 นาที จำนวนเที่ยวเพิ่มขึ้น เดินทางสะดวก พร้อมหารือกรมทางหลวงชนบท เหตุกินพื้นที่สะพานสาทรข้างละ 1.8 เมตร ยาว 260 เมตร

วันนี้ (8 พ.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ลงพื้นที่โครงการปรับปรุงสถานีรถไฟฟ้าสายสีลม สถานีสะพานตากสิน (S6) และการพัฒนาจุดเชื่อมต่อการเดินทาง ซึ่งสอดคล้องกับแผนพัฒนากรุงเทพมหานคร ยุทธศาสตร์ “มหานครสีเขียว สะดวกสบาย” ที่มีเป้าหมายให้ประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกรวดเร็ว เชื่อมโยงโครงข่ายเพิ่มประสิทธิภาพการจราจรให้มีความคล่องตัวยิ่งขึ้น โดยมีคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่สำนักการจราจรและขนส่ง สำนักงานเขตบางรัก สำนักงานเขตสาทร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับและร่วมลงพื้นที่ ณ บริเวณสถานีสะพานตากสิน

นายจักกพันธุ์ กล่าวว่า วันนี้ได้ลงพื้นที่โครงการปรับปรุงสถานีรถไฟฟ้าสายสีลม บริเวณสถานีสะพานตากสิน เพื่อพัฒนาจุดเชื่อมต่อการเดินทาง โดยปรับเปลี่ยนสถานีให้เป็นรางคู่และขยายชานชาลาสถานี ซึ่งบริเวณดังกล่าวมีรางเดียว ทำให้รถไฟฟ้าไม่สามารถวิ่งสวนกันได้ ซึ่งขณะเดียวกันสำนักการจราจรและขนส่งได้มีโครงการก่อสร้างรางคู่ ซึ่งในการก่อสร้างมีความจำเป็นต้องใช้พื้นที่ของกรมทางหลวงชนบท คือบริเวณช่องจราจรบนสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน โดยจะทำให้ช่องจราจรทั้ง 2 ฝั่ง หายไปฝั่งละ 1.80 ม. ซึ่งขณะนี้สำนักการจราจรและขนส่งได้มอบหมายให้บีทีเอสออกแบบไว้หมดแล้ว

"เบื้องต้นกรมทางหลวงชนบทไม่ขัดข้องที่ กทม.จะก่อสร้างรางคู่บริเวณสถานีสะพานตากสิน ซึ่งกทม.ได้ให้สัมปทานแก่บีทีเอสในโครงการก่อสร้างดังกล่าว โดยจะมีการหารือกับทางบีทีเอสเกี่ยวกับรายละเอียดเงื่อนไขในการก่อสร้าง เพื่อให้กรมทางหลวงชนบทอนุญาตต่อไป ซึ่งการก่อสร้างจะใช้ระยะวลาประมาณ 3 ปี ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 1,100 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เมื่อการก่อสร้างรางคู่แล้วเสร็จ จะช่วยลดระยะเวลาในการเดินรถและไม่เสียเวลาในการรอซึ่งการเดินรถจากสถานีกรุงธนบุรีถึงสถานีสะพานตากสิน จากเดิมจะใช้เวลา 4.30 นาที เป็น 2.30 นาที ทำให้จำนวนเที่ยวจะเพิ่มมากขึ้น ผู้โดยสารจะได้รับความสะดวกยิ่งขึ้น รวมทั้งรายได้จากค่าโดยสารจะเพิ่มขึ้นด้วย" รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าว

นายจักกพันธุ์ กล่าวว่า การก่อสร้างจะต้องใช้บริเวณช่องจราจรบนสะพานสาทรทั้ง 2 ฝั่งๆละ 1.80 ม. กรุงเทพมหานครจึงต้องขยายสะพานออกไปฝั่งละ 1.80 ม.ระยะทางประมาณ 230 ม. เพื่อให้ช่องจราจรมีความกว้างเท่าเดิม อย่างไรก็ตามในระหว่างการก่อสร้างรางคู่บริเวณสถานีตากสิน ซึ่งจะใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างประมาณ 3 ปี สำนักการจราจรและขนส่งยังไม่ยกเลิกการให้บริการบริเวณสถานีตากสิน ประชาชนสามารถมาใช้บริการรถไฟฟ้าได้ตามปกติ แต่ถ้ามีความจำเป็นต้องรื้อสถานีตากสินออก เพื่อก่อสร้างรางคู่พร้อมกันการก่อสร้างก็จะเสร็จเร็วขึ้น คาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างประมาณ 2 ปี
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42628
Location: NECTEC

PostPosted: 09/05/2018 10:24 am    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
กทม.เล็งเปิด “สกายวอล์ก” ยาวที่สุดในกรุงเทพฯ ก.ค.นี้ อยู่ที่แยกบางนา
โดย: MGR Online
เผยแพร่: วันอังคารที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 09:30:
ปรับปรุง: วันอังคารที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 10:57:


13 ก.ค.นี้ได้ใช้สกายวอล์ค'อุดมสุข-บางนา'

7 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 เวลา 16:51 น.

7 พ.ค.61- นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าฯกทม. พร้อมด้วยคณะทำงาน สำนักการจราจรและขนส่ง(สจส.) กทม. ลงพื้นที่ตรวจความคืบหน้าการก่อสร้างทางเดินยกระดับ จากสถานีรถไฟฟ้าอุดมสุข-บางนา ระยะทางรวม1,750 เมตร งบประมาณก่อสร้าง463.8ล้านบาท

นายจักกพันธุ์ กล่าวว่า กทม.ได้ว่าจ้างบริษัท เอส จี อาร์ เอนเตอร์ไพร์ส จำกัด ให้ก่อสร้างทางเดินยกระดับ เริ่มต้นสัญญาตั้งแต่วันที่24 ธ.ค.2558 กำหนดเวลาก่อสร้าง450วัน แต่มีการต่อสัญญา2ครั้ง จนถึงวันที่ 11 ธ.ค.2560 เนื่องจากติดปัญหาอุปสรรค แขวงการทางสมุทรปราการได้มีหนังสือขอให้ระงับการก่อสร้างทางเดินยกระดับบริเวณใต้ทางพิเศษ โดยระบุว่ารูปแบบบางจุดไม่เป็นไปตามเงื่อนไขของกรมทางหลวง ที่กำหนดให้มีความสูงจากท้องโครงสร้างสกายวอล์คถึงระดับผิวจราจรไม่น้อยกว่า 5.50 เมตร และไม่ให้ทับซ้อนกับสะพานทางเข้าของโครงการBangkok mall พร้อมกันนี้มีการสั่งระงับโครงการบริเวณพื้นที่ทางหลวงหมายเลข34 ถนนเทพารัตน์ เพราะกรมขนส่งทางบกได้ขอใช้พื้นที่ดังกล่าวก่อสร้างสถานีรถตู้รับส่งผู้โดยสารไปยังจังหวัดในภาคตะวันออก ตามนโยบายของรัฐบาล

"บริษัทผู้รับจ้าง ได้ขอขยายเวลาการทำงานออกไปอีกเป็นครั้งที่3 ระยะเวลา214วัน โดยต้องก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 13 ก.ค.นี้ ซึ่งปัจจุบันโครงการฯมีความคืบหน้าร้อยละ 85.88 ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่ได้เร่งรัดผู้รับเหมาให้ก่อสร้างทางเดินยกระดับช่วงสถานีรถไฟฟ้าบางนา-ไบเทคบางนา ระยะทางประมาณ150เมตร ให้เสร็จก่อนภายใน15พ.ค.นี้ โดยเฉพาะหลังคา และราวกันตกจะต้องเสร็จเรียบร้อยพร้อมใช้งาน"รองผู้ว่าฯกทม.ระบุ

ย้อนตำนาน “สกายวอล์ก” ก่อนจะถึง ‘แยกบางนา’ ยาวที่สุดในกรุงเทพฯ
โดย: MGR Online
เผยแพร่: 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 เวลา 00:50:

https://www.youtube.com/watch?v=MazAnCRqn-A


Last edited by Wisarut on 09/05/2018 11:13 am; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42628
Location: NECTEC

PostPosted: 09/05/2018 11:12 am    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
กทม.เตรียมวางรางคู่-ขยายชานชาลา "บีทีเอสตากสิน" แก้ปัญหาคอขวด ไม่ยุบสถานี คาด 3 ปีเสร็จ
โดย: MGR Online
เผยแพร่: วันอังคารที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 16:24:

เลื่อนทุบสถานีรถไฟฟ้าตากสิน กทม.โยน BTS รับภาระค่าก่อสร้าง 1,100 ล้าน
วันอังคารที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 - 14:35 น.


นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าของการขยายสถานีรถไฟฟ้า BTS สะพานตากสินว่า ร่างแบบรายละเอียดเบื้องต้นเสร็จเรียบร้อยแล้ว และกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ก็ไม่ขัดข้องที่ กทม.จะทุบสะพานสาทรออกข้างละ 1.8 เมตร เพื่อสร้างเป็นทางคู่ และชานชาลาเพิ่มเติม โดย ทช.กำชับให้ กทม.ต้องขยายช่องทางจราจรเพิ่มอีกข้างละ 1.8 เมตร เพื่อให้สะพานสาทรมีช่องจราจร 3 ช่องดังเดิม

โดยคาดว่าจะใช้งบประมาณก่อสร้าง 1,100 ล้านบาท ใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี และจะไม่ปิดสถานีสะพานตากสินในระหว่างก่อสร้างด้วย เมื่อสร้างเสร็จพื้นที่บริเวณนี้จะเป็นศูนย์คมนาคมครบวงจรทั้งรถ ราง และเรือ ที่เชื่อมต่อกับย่านธุรกิจอย่างสาทรและบางรักด้วย




ตามแผนเดิมจะเริ่มก่อสร้างในเดือน พ.ค. 2561 นี้ แต่ตอนนี้ยังติดปัญหาเจรจากับบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอสซี ผู้รับสัมปทานเดินรถไฟฟ้าบีทีเอสสายปัจจุบัน เพราะ กทม.ในฐานะเจ้าของสัมปทาน ต้องการให้บีทีเอสซีออกค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างทั้งหมด 1,100 ล้านบาท แต่การเจรจาก็ยังไม่ได้ข้อยุติเสียที

ดังนั้น หากตกลงกันไม่ได้ก็เตรียมตั้งคณะกรรมการเพื่อตกลงกันในเรื่องนี้ขึ้นมา 1 ชุด ประกอบไปด้วย ตัวแทนฝั่งบีทีเอสซี 2 คน ฝั่งกทม. 2 คน และจะร่วมกันคัดเลือกกรรมการกลางขึ้นมาอีก 3 คน เพื่อให้ได้ข้อยุติ อันเป็นการดำเนินการตามสัญญาสัมปทาน


ร้องเพลงรอ ปรับปรุงสถานี "สะพานตากสิน" เป็นทางคู่ บีทีเอสยังเงียบออกเงิน-ทำอีไอเอ
โดย: MGR Online

เผยแพร่: 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 08:55:


รองผู้ว่าฯ กทม. ลงพื้นที่สถานีบีทีเอสสะพานตากสิน สำรวจโครงการขยายทางคู่ รองรับขบวนรถไปสนามกีฬาแห่งชาติ-บางหว้า ไม่ต้องรอหลีกทาง เบื้องต้นกรมทางหลวงชนบทไม่ขัดข้อง ทุบสะพานเลนขวาแล้วเพิ่มช่องฝั่งซ้าย พบติดขัดที่บีทีเอสยังเงียบเรื่องออกเงินค่าก่อสร้างพันล้าน แถมต้องจัดทำอีไอเออีก 6 เดือน

เมื่อวันที่ 8 พ.ค. นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ลงพื้นที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สะพานตากสิน แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพฯ เพื่อสำรวจโครงการปรับปรุงสถานีรถไฟฟ้าสะพานตากสิน โดยปรับเปลี่ยนสถานีให้เป็นรางคู่ และขยายชานชาลาสถานี ซึ่งบริเวณดังกล่าวนับตั้งแต่เปิดให้บริการเมื่อปี 2542 กระทั่งเปิดให้บริการส่วนต่อขยาย มีทางวิ่งเพียงทางเดียว ทำให้รถไฟฟ้าไม่สามารถวิ่งสวนกันได้ ต้องสับเปลี่ยนให้ฝั่งขาเข้ามุ่งหน้าสถานีสนามกีฬาแห่งชาติ และฝั่งขาออกมุ่งหน้าสถานีบางหว้า รับส่งผู้โดยสารสลับกัน

นายจักกพันธุ์ กล่าวว่า สำนักการจราจรและขนส่ง กทม. ได้มีโครงการก่อสร้างทางคู่ จำเป็นต้องใช้พื้นที่ของกรมทางหลวงชนบท ซึ่งเป็นผู้ดูแลสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน ใช้ช่องจราจรขวาสุด ทำให้ช่องจราจรหายไปฝั่งละ 1.80 เมตร ขณะนี้สำนักการจราจรและขนส่งได้มอบหมายให้ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอส ในฐานะผู้รับสัมปทานเดินรถไฟฟ้าบีทีเอส ออกแบบไว้หมดแล้ว เหลือเพียงแต่กรมทางหลวงชนบทอนุญาต ซึ่งที่ผ่านมาไม่ขัดข้อง โดยจะมีการหารือรายละเอียดเงื่อนไขในการก่อสร้างในลำดับถัดไป

สำหรับโครงการปรับปรุงสถานีรถไฟฟ้าสะพานตากสิน จะต้องใช้บริเวณช่องจราจรบนสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน ถนนสาทร กับถนนกรุงธนบุรี ทั้งสองฝั่ง ฝั่งละ 1.80 เมตร โดยกรุงเทพมหานครจะต้องขยายสะพานออกไปฝั่งละ 1.80 เมตร ระยะทางประมาณ 230 เมตร เพื่อให้ช่องจราจรมีความกว้างเท่าเดิม ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 3 ปี งบประมาณ 1,100 ล้านบาท หากแล้วเสร็จ จะช่วยให้ความถี่ในการเดินรถเพิ่มขึ้น จากปกติจะต้องรอหลีกที่สถานีกรุงธนบุรี ให้ขบวนรถที่สวนกันมาออกไปก่อน 4.30 นาที หากเป็นทางคู่จะทำให้การเดินทางจากสถานีกรุงธนบุรี ถึงสถานีสะพานตากสิน เหลือเพียง 2.30 นาที จำนวนเที่ยวจะเพิ่มมากขึ้น ผู้โดยสารได้รับความสะดวกยิ่งขึ้น รวมทั้งรายได้จากค่าโดยสารจะเพิ่มขึ้นด้วย

อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการก่อสร้างทางคู่บริเวณสถานีสะพานตากสิน ซึ่งจะใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างประมาณ 3 ปี สำนักการจราจรและขนส่งยังไม่ยกเลิกการให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีสะพานตากสิน ประชาชนสามารถใช้บริการได้ตามปกติ แต่ถ้ามีความจำเป็นต้องรื้อสถานีตากสินออก เพื่อก่อสร้างรางคู่พร้อมกันการก่อสร้างก็จะเสร็จเร็วขึ้น คาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างประมาณ 2 ปี แต่ที่สุดได้เลือกเปิดให้บริการควบคู่ไปกับการก่อสร้าง เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นแก่ประชาชน

รายงานข่าวแจ้งว่า กทม. ยังต้องเจรจากับบีทีเอส ในเรื่องงบประมาณก่อสร้างปรับปรุงสถานีรถไฟฟ้าสะพานตากสิน 1,100 ล้านบาท โดย กทม. ได้ทำหนังสือแจ้งไปยังบีทีเอสไปแล้วเมื่อ 2 เดือนก่อน เพื่อให้รับผิดชอบในส่วนนี้ แต่จนถึงขณะนี้ บีทีเอสยังไม่มีหนังสือตอบกลับมา นอกจากนี้ เมื่อเดือนที่แล้ว ยังแจ้งให้บีทีเอสจัดทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) เสนอสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) พิจารณา เนื่องจาก สผ. แจ้งว่าโครงการนี้จำเป็นต้องจัดทำอีไอเอด้วย ซึ่งจะต้องใช้เวลาอีก 6 เดือน
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42628
Location: NECTEC

PostPosted: 14/05/2018 9:03 am    Post subject: Reply with quote

รื้อสัมปทาน-เขย่าค่าตั๋ว BTS กทม.หาเงินโปะหนี้แสนล้าน


วันที่ 13 May 2018 - 21:41 น.

รื้อโครงสร้างค่าโดยสาร-สัมปทานบีทีเอส กับส่วนต่อขยายไปคูคต สมุทรปราการใหม่ทั้งระบบ กทม.หาเงินโปะหนี้แสนล้านรถไฟฟ้าสายสีเขียว เล็งรวบเป็นสัญญาเดียว รวมระยะทาง 67 กม. เก็บค่าตั๋วตามระยะทาง 16-65 บาท เริ่ม ธ.ค.นี้ รับเปิดหวูดช่วง “แบริ่ง-สมุทรปราการ” บีทีเอสได้สัมปทานเดินรถตลอดสาย

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า กทม.มีแนวคิดจะจัดเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอสทั้งโครงข่ายเก่าและส่วนต่อขยายใหม่ที่จะรับโอนโครงการมาจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ในอัตราเริ่มต้นเท่ากับอัตราปัจจุบันที่ 16 บาท และอัตราสูงสุดไม่เกิน 65 บาท เพราะเมื่อเปิดใช้บริการส่วนต่อขยายใหม่ระยะทางจะเพิ่มขึ้นเป็น 67 กม. และมี 55 สถานี

จ่ายค่าแรกเข้าครั้งเดียว

“ต้องเข้าใจว่าสายหลักเป็นสัมปทานของบีทีเอส 23 กม. เก็บค่าโดยสาร 16-44 บาท เมื่อรวมส่วนต่อขยายที่ กทม.ดำเนินการเองอ่อนนุช-แบริ่ง และตากสิน-บางหว้า จะเก็บค่าโดยสารในอัตราสูงสุด 59 บาท เมื่อเปิดส่วนต่อขยายอีก 2 ช่วง คือ หมอชิต-คูคต และแบริ่ง-สมุทรปราการ จริง ๆ แล้วเมื่อใช้ทั้งโครงข่ายค่าโดยสารจะอยู่ที่ 146 บาท ซึ่งแพงเกินไป เพราะต้องจ่ายหลายต่อ แต่ถ้าหากรวมเป็นเส้นทางเดียวกันจะเสียค่าแรกเข้าครั้งเดียว ทำให้ค่าโดยสารถูกลง ลดภาระประชาชน จูงใจให้คนมาใช้มากขึ้น”


เรื่องค่าโดยสาร กทม.จะต้องหารือร่วมกับกระทรวงคมนาคม กระทรวงการคลัง และสภา กทม.ก่อน จึงจะมีข้อสรุปที่ชัดเจน หากเป็นไปตามแผนคาดว่าอัตราค่าโดยสารใหม่จะประกาศใช้ในเดือน ธ.ค.นี้ พร้อม ๆ เปิดส่วนต่อขยายแบริ่ง-สมุทรปราการ

เปิดสัมปทานใหม่โปะหนี้แสน ล.

พล.ต.อ.อัศวินกล่าวว่า การรับโอนหนี้ค่าก่อสร้างและงานระบบ เมื่อรวมดอกเบี้ยแล้วจะอยู่ที่กว่า 1 แสนล้านบาท รอสภา กทม.พิจารณาอนุมัติร่างข้อบัญญัติรับโอนหนี้ แต่วงเงินสูง และ กทม.ไม่มีงบประมาณพอ จึงมีแนวคิดให้เอกชนเข้ามารับสัมปทานส่วนต่อขยายและรับภาระหนี้ทั้งหมด เพราะในปี 2563 จะต้องเริ่มจ่ายค่างานระบบก่อนกว่า 2 หมื่นล้านบาท วิธีนี้จะทำให้ กทม.ไม่ต้องออกค่าใช้จ่าย ขณะที่เอกชนจะมีรายได้จากค่าโดยสารไปชำระหนี้คืนรัฐได้”

นายมานิต เตชอภิโชค กรรมการผู้อำนวยการ บจ.กรุงเทพธนาคม (เคที) วิสาหกิจของ กทม. กล่าวว่า โมเดลการหาเงินมาชำระหนี้สายสีเขียว ส่วนต่อขยาย 2 เส้นทางดังกล่าว ยังไม่ตกผลึก แต่การเปิดให้สัมปทานใหม่เป็นทางเลือกหนึ่ง ส่วนจะต้องรวมกับสัมปทานเก่าของบีทีเอสหรือไม่ ยังไม่เป็นที่ยุติเช่นกัน แต่แนวโน้มบีทีเอสจะเป็นผู้ดำเนินการ เพื่อให้การเดินรถต่อเชื่อมกันทั้งระบบ ภายใต้สัมปทานรายเดียว

รวบสัญญาเก่า-ใหม่

“สัมปทานบีทีเอสจะหมดปี 2572 หากได้ข้อยุติ และบีทีเอสยินยอมให้รวมสัมปทานกับส่วนต่อขยายใหม่ ก็ต้องแก้ไขในสัญญาเดิม ยกเลิกข้อตกลงเดิมที่ว่าจ้างบีทีเอสเดินรถส่วนต่อขยายเก่าและส่วนต่อขยายใหม่ ไปคูคตกับสมุทรปราการ ที่จะหมดสัญญาพร้อมกันปี 2585 กว่า 3 แสนล้านบาท และทำเป็นเงื่อนไขภายใต้สัมปทานใหม่ว่าให้มีผลหลังปี 2572 รวมถึงส่วนการแบ่งรายได้ด้วย จะคำนวณกันอย่างไร เพราะหลังปี 2572 ทรัพย์สินและรายได้จะเป็นของ กทม.ทั้งหมด”

รายงานข่าวจาก กทม.เปิดเผยว่า ปัจจุบันสภา กทม.ยังมีข้อท้วงติงเรื่องการรับโอนหนี้มาทั้งหมด เนื่องจากมองว่า กทม.และ รฟม. ถือเป็นหน่วยงานของรัฐเช่นกัน เมื่อรัฐรับภาระค่าโครงสร้างพื้นฐานวงเงินกว่า 6 หมื่นล้านบาท ให้ รฟม. เพราะเหตุใดจึงไม่รับหนี้ส่วนนี้แทน กทม. และให้ กทม.รับภาระเฉพาะค่างานระบบกว่า 2 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ การเก็บค่าโดยสารสูงสุด 65 บาท อาจกระทบต่อคนที่เดินทางระยะสั้น ส่วนคนที่ใช้บริการทางไกลจะได้ประโยชน์ อย่างไรก็ตาม อยู่ที่การคำนวณว่าจะเริ่มเก็บ 65 บาทที่กี่สถานี เพราะระยะทางเพิ่มขึ้นเป็น 67 กม. และมี 55 สถานี จากปัจจุบันบีทีเอสเริ่มเก็บอัตราสูงสุด 44 บาท ตั้งแต่สถานีที่ 10 เป็นต้นไป

บีทีเอสรับได้ทุกข้อเสนอ

ด้านนายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ระบบขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (BTSC) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า บริษัทกำลังเจรจาหารือกับ กทม.ถึงแนวทางการหาเงินมาชำระหนี้โครงการสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่รับโอนมาจาก รฟม. ให้เป็นธรรมทุกฝ่าย ทั้งบีทีเอส กทม.และประชาชนผู้ใช้บริการ ซึ่งมีแนวคิดจะรวมสัมปทานเดิมเข้ากับส่วนต่อขยายใหม่เป็นสัมปทานเดียวกันทั้งหมด และเก็บค่าโดยสารตามระยะทางจ่ายค่าแรกเข้าครั้งเดียว อัตราสูงสุดไม่เกิน 65 บาท ส่วนอัตราเริ่มต้นต้องเจรจากันว่าจะใช้ราคาปัจจุบันที่ 16 บาท หรือกำหนดขึ้นมาใหม่ รวมถึงส่วนแบ่งรายได้ที่จะต้องให้ กทม.ด้วย

“การเจรจาใหม่นี้อาจจะต้องเข้าร่วมทุนด้วย เพราะเกี่ยวพันกับสัมปทานเดิม ส่วนค่าโดยสารใหม่ยังไงต้องถูกกว่าปัจจุบัน เพราะไม่มีค่าแรกเข้าหลายต่อ และระยะทางก็ยาวขึ้น ส่วนรายละเอียดคงต้องเจรจากับ กทม.ก่อน”

ส่วนสัมปทานใหม่ หากมีข้อยุติที่ลงตัวจะต้องยกเลิกสัญญาจ้างเดินรถก่อนหน้านี้ แล้วเปลี่ยนเป็นสัมปทานใหม่ แต่ต้องเริ่มนับหลังปี 2572 เนื่องจากสัมปทานเดิมได้นำเข้ากองทุนโครงสร้างพื้นฐานบีทีเอสไปแล้ว ซึ่งมีวิธีการที่จะตกลงกันก่อนได้ว่าจะดำเนินการอย่างไร โดยพยายามจะให้ทุกอย่างจบภายใน ธ.ค.นี้ พร้อมกับเปิดช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ

นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ค่าโดยสารสูงสุด 65 บาทเป็นข้อเสนอของบีทีเอส อยู่ระหว่างการพิจารณา ส่วนเรื่องการโอนรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย 2 เส้นทาง จะเร่งสรุปให้เสร็จในเดือน พ.ค.นี้ ล่าสุด กทม.รอสภาอนุมัติ เพื่อเปิดบริการช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการในเดือน ธ.ค.นี้ ปัจจุบันก่อสร้างเสร็จแล้ว เหลือติดตั้งงานระบบไฟฟ้า ซึ่งคืบหน้าแล้ว 59.93% ในอนาคตรถไฟฟ้าสายนี้จะไปเชื่อมกับสายสีเหลืองสร้างจากลาดพร้าวมาที่สถานีสำโรงในปี 2564 จะทำให้คนฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯเดินทางสะดวกขึ้น
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42628
Location: NECTEC

PostPosted: 17/05/2018 12:30 am    Post subject: Reply with quote

เลื่อนเคาะงบ 256 ล้านบาท สร้าง “ลิฟต์ผู้พิการ” 16 สถานี เหตุ “บีทีเอส” ต้องร่วมออกเงินด้วยหรือไม่
โดย: MGR Online
เผยแพร่: วันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 17:06:
ปรับปรุง: วันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 18:13:

สภา กทม. ยังไม่เคาะงบ 256 ล้านสร้างลิฟต์ผู้พิการ 19 ตัว รวม 16 สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส หลังเกิดข้อสงสัย “บีทีเอส” ต้องร่วมหนุนออกค่าก่อสร้างด้วยหรือไม่ เตรียมเคาะใหม่สัปดาห์หน้า

ความคืบหน้ากรณีกรุงเทพมหานคร (กทม.) ต้องจัดอุปกรณ์อำนวยความสะดวกโดยตรงแก่คนพิการ ในการใช้บริการรถไฟฟ้าหรือบีทีเอสตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุดนั้น

วันนี้ (16 พ.ค.) ในการประชุมสภากรุงเทพมหานคร (กทม.) มีวาระการพิจารณาในเรื่องดังกล่าว โดยนายนิรันดร์ ประดิษฐกุล สมาชิกสภา กทม. ในฐานะประธานคณะกรรมการวิสามัญฯ ได้รายงานผลการพิจารณาญัตติที่ กทม. ขอความเห็นชอบงบประมาณเพื่อก่อสร้างลิฟต์สำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุของระบบขนส่งมวลชนมวลชนกรุงเทพ ตามแนวเส้นทางสัมปทาน เพิ่มเติมจำนวน 19 ตัว ใน 16 สถานี งบประมาณ 256.2 ล้านบาท ทั้งนี้ ที่ประชุมสมาชิกสภา กทม.ส่วนใหญ่ให้ความเห็นด้วยในการให้ กทม. ก่อสร้างลิฟต์ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้พิการ ผู้สูงอายุ หรือผู้ใช้รถวีลแชร์ แต่มีข้อสังเกตและข้อท้วงติงว่า บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอส ในฐานะผู้ถูกฟ้องที่ 4 ตามคำสั่งศาลนั้นต้องให้ความร่วมมือสนับสนุนผู้ว่าฯ กทม. ในฐนะผู้ถูกฟ้องที่ 2 ในการจัดให้มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกโดยตรงแก่คนพิการ บีทีเอสได้ดำเนินการอย่างไรบ้าง ซึ่ง กทม. ต้องตรวจสอบรายละเอียดในสัญญาสัมปทานให้สิทธิบีทีเอสเดินรถไฟฟ้า ว่า บีทีเอสจะต้องมีส่วนร่วมในค่าใช้จ่ายการก่อสร้างลิฟต์ด้วยหรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมสภา กทม. มีมติเห็นชอบกับรายงานผลการศึกษา มีเพียง นายวิชาญ ธรรมสุจริต สมาชิกสภา กทม. ที่ไม่เห็นด้วย เนื่องจากมองว่ารายงานยังไม่สมบูรณ์ เช่น ไม่มีรายละเอียดของสัญญาสัมปทาน ทำให้การพิจารณาให้ความเห็นชอบเกี่ยวกับการอนุมัติงบประมาณให้ กทม. ไปดำเนินการก่อสร้างลิฟต์ตามโครงการดังกล่าวต้องเลื่อนไปเป็นการประชุมสภา กทม. ในสัปดาห์หน้า

นายสมชาย เดชากรณ์ รองผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) ในฐานะกรรมการวิสามัญฯ กล่าวว่า การดำเนินการตามคำสั่งศาล ในส่วนที่ให้บีทีเอสดำเนินการสนับสนุนการอำนวยความสะดวกแก่ผู้พิการบริเวณสถานีนั้น บีทีเอสได้ดำเนินการแล้ว เช่น จัดทำป้ายสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ทำราวเหล็ก ที่จับ ทางลาด ที่จอดรถวีลแชร์ในขบวนรถ นอกจากนี้ ภายหลัง กทม.ก่อสร้างลิฟต์เสร็จ บีทีเอส จะเป็นผู้รับผิดชอบดูแล บำรุงรักษาระบบทั้งหมด รวมถึงค่าไฟ

ด้าน นายธนูชัย หุ่นนิวัฒน์ ผอ.สจส. กล่าวว่า ในสัญญาสัมปทานซึ่งมีการลงนามเมื่อเดือนเมษายน 2535 ขณะนั้นกฎหมายเกี่ยวกับคนพิการยังไม่บังคับใช้ ตามคำนิยามของคำว่าอุปกรณ์ ระบบงาน ไม่ได้ระบุถึงลิฟต์ไว้ ดังนั้น เวลาที่มีการก่อสร้างจริงจะมีการออกแบบให้กทม.อนุมัติ ซึ่งในแบบก็ไม่ได้มีลิฟต์อยู่ การศึกษาของศาลฎีกา ได้ตีความสัญญาสัมปทานไว้ชัดแล้วว่า เมื่อสัญญาไม่ได้ระบุถึง เป็นหน้าที่ของผู้ว่าฯ กทม. และ กทม. ในการจัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกของคนพิการ[url][/url]
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42628
Location: NECTEC

PostPosted: 18/05/2018 12:07 pm    Post subject: Reply with quote

อัศวินยันบีทีเอสตกลงออกค่าใช้จ่าย ขยายรางและสถานีสะพานตากสิน
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์
18 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 05:30
เมื่อวันที่ 17 พ.ค. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการปรับปรุงสถานีรถไฟฟ้าสถานีสะพานตากสิน (S6) เพื่อขยายสถานีจากรางเดี่ยวเป็นรางคู่ ว่า กทม.ได้หารือกับ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอสแล้ว เกี่ยวกับงบประมาณการก่อสร้าง เบื้องต้น บีทีเอสตกลงจะออกค่าใช้จ่ายการก่อสร้าง ส่วนบีทีเอสจะออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดหรือไม่นั้น พล.ต.อ.อัศวินกล่าวว่า ตนมีนโยบายอย่างเดียวคืออะไรที่ทำให้ กทม.ขาดดุลหรือประชาชนเสียเปรียบจะไม่ทำ เพราะงินที่จะใช้จ่ายทุกบาทเป็นเงินจากภาษีประชาชน ต้องสงวนสิทธิของประชาชนที่เสียภาษีด้วย ทั้งนี้ คาดว่าการปรับปรุงสถานี S6 จะเริ่มได้ภายในปี 2561

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปรับปรุงขยายสถานี S6 จากรางเดี่ยวเป็นรางคู่ ประมาณการค่าใช้จ่าย 1,100 ล้านบาท แบ่งเป็นงบก่อสร้างผิวจราจรทดแทน 266 ล้านบาท งบปรับปรุงสถานี 843 ล้านบาท เนื่องจากการขยายสถานี ต้องใช้พื้นที่สะพานสาทรของกรมทางหลวงชนบท ฝั่งละ 1.80 เมตร ระยะทางประมาณ 230 ม. และต้องขยายสะพานสาทรทดแทน
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42628
Location: NECTEC

PostPosted: 18/05/2018 9:35 pm    Post subject: ลูกพ่อแม่ไม่สั่งสอน Reply with quote

พ่อแม่ยังไม่เคยว่า! สาวเดือดถูกเตือน 'ห้ามดื่มน้ำ' บนรถไฟฟ้า
โดย ไทยรัฐออนไลน์
17 พฤษภาคม พ.ศ. 256117:27

เกือบมีเรื่อง! สาวเดือดหลังถูกเตือน ห้ามดื่มน้ำบนรถไฟฟ้า ถามกลับ "เป็นใครมาว่า พ่อแม่ยังไม่เคยว่าเลย" พร้อมอ้าง ถ้าผิดจริงสถานีคงไม่เอามาขาย
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42628
Location: NECTEC

PostPosted: 19/05/2018 7:12 pm    Post subject: Reply with quote

กทม.ยันสร้างลิฟต์คนพิการ 19 ตัว 16 สถานีรถไฟฟ้าตามคำสั่งศาลแน่ อีก 10 ตัว ยังมีปัญหา
โดย: MGR Online

เผยแพร่: 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 20:34:
ปรับปรุง: 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 2561 21:11:


กทม. เร่งสร้างลิฟต์ผู้สูงอายุ คนพิการ อีก 19 ตัว ใน 16 สถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียว ให้ครบสถานีละ 4 ตัว เผยยังเหลือลิฟต์อีก 10 ตัว 5 สถานี ที่มีปัญหายังก่อสร้างเพิ่มไม่ได้ แต่จะหาวิธีดำเนินการเพิ่มเติม

วันนี้ (18 พ.ค.) นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวภายหลังลงพื้นที่โครงการก่อสร้างลิฟต์สำหรับผู้สูงอายุและคนพิการ บริเวณสถานีรถไฟฟ้าช่องนนทรี (S3) เขตบางรัก ว่า กทม. โดยสำนักการจราจรและขนส่ง เตรียมดำเนินโครงการก่อสร้างลิฟต์สำหรับผู้สูงอายุและคนพิการ ของระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานครตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียว โดยโครงการดังกล่าวเป็นการก่อสร้างลิฟต์จากชั้นพื้นดินถึงชั้นจำหน่ายตั๋ว และจากชั้นจำหน่ายตั๋วถึงชั้นชานชาลา ซึ่งตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียวมีสถานีรถไฟฟ้าทั้งหมด 34 สถานี แต่ละสถานีจะต้องมีลิฟต์สำหรับผู้สูงอายุและคนพิการ จำนวน 4 ตัว รวมทั้งหมด 136 ตัว แต่ในขณะนี้มีลิฟต์อยู่ 107 ตัว

“ก่อนปี 2557 กทม. ได้ดำเนินการก่อสร้างลิฟต์สำหรับผู้สูงอายุและคนพิการ จำนวน 55 ตัว จากนั้นในปี 2557 สำนักการจราจรและขนส่งได้มีการขอจัดสรรงบประมาณเพิ่มในการก่อสร้างลิฟต์ซึ่งแล้วเสร็จในปี 2560 เพิ่มเติมอีก 52 ตัว ขณะนี้มีลิฟท์รวมทั้งหมด 107 ตัว ซึ่งยังเหลือลิฟต์ที่ยังไม่ได้ก่อสร้างอีก 29 ตัว จึงจะครบทั้งหมด 136 ตัว” นายจักกพันธุ์ กล่าว

นายจักกพันธุ์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการปฏิบัติตามคำสั่งของศาลปกครองกลาง ที่ให้ กทม.จัดทำลิฟต์สำหรับผู้สูงอายุและคนพิการบริเวณสถานีรถไฟฟ้าที่ยังไม่มีลิฟต์ดังกล่าว จากการสำรวจของสำนักการจราจรและขนส่งพบว่ามีสถานีรถไฟฟ้า จำนวน 16 สถานี ซึ่งยังมีลิฟต์ไม่ครบ 4 ตัว รวมแล้วต้องก่อสร้างลิฟต์เพิ่มอีก 19 ตัว ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาจัดสรรงบประมาณ

นายจักกพันธุ์ กล่าวว่า สำหรับลิฟต์ที่เหลืออีก 10 ตัว จำนวน 5 สถานี ซึ่งยังติดปัญหาอยู่ เริ่มจากสถานีตากสิน ซึ่งยังไม่มีลิฟต์ เนื่องจากสถานีตากสินเป็นรางเดี่ยว แต่ในอนาคต กทม. จะก่อสร้างเป็นรางคู่พร้อมกับการก่อสร้างลิฟต์อีก 4 ตัวไปพร้อมกัน ส่วนสถานีศาลาแดงติดปัญหาระบบสาธารณูปโภค จึงขอใช้ลิฟต์ของ รฟม.เป็นการชั่วคราวก่อน สถานีชิดลมกับสถานีเพลินจิต เนื่องจากทางเท้าแคบจึงก่อสร้างลิฟต์เพียงสถานีละ 1 ตัว และสถานีอโศกซึ่งขณะนี้มีลิฟต์อยู่ 2 ตัว โดยได้ไปใช้ลิฟต์ของเอกชนในการเชื่อมทางเข้ามา

นายจักกพันธุ์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม กทม. จะดำเนินการสร้างลิฟต์ตามลักษณะทางกายภาพที่สามารถดำเนินการได้ จำนวน 19 ตัว โดยจะเร่งดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายใน 210 วัน นับตั้งแต่เริ่มลงนามสัญญา ส่วนที่เหลืออีก 10 ตัว สำนักการจราจรและขนส่งจะดำเนินการหาแนวทางเพื่อดำเนินการก่อสร้างลิฟต์ในส่วนที่เหลือให้ครบตามมาตรฐานสถานีละ 4 ตัว ยกเว้นสถานีใดที่มีข้อจำกัดในการก่อสร้างก็จะดำเนินการเท่าที่สามารถก่อสร้างได้
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42628
Location: NECTEC

PostPosted: 21/05/2018 1:47 pm    Post subject: Reply with quote

เหตุผล 5 สถานีสร้างไม่ได้

โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์
21 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 05:30
1.สถานีศาลาแดง ไม่สามารถก่อสร้างลิฟต์จากชั้นพื้นดินไปชั้นจำหน่ายตั๋ว เพราะ ติดปัญหาการรื้อย้ายสาธารณูปโภค ระบบไฟฟ้า ในส่วนนี้ กทม.ได้แก้ปัญหา โดยการประสาน รฟม.เพื่อขอให้ประชาชนใช้ลิฟต์ร่วมกับสถานีสีลมของ รฟม.

2.สถานีสะพานตากสิน ขณะนี้มีโครงการปรับปรุงและขยายสถานีจากระบบรางเดี่ยวเป็นรางคู่ โดยลิฟต์นี้จะก่อสร้างพร้อมการปรับปรุงสถานีจำนวน 4 ตัว

3.สถานีชิดลม พื้นที่ทางเท้าแคบไม่สามารถก่อสร้างลิฟต์ได้
4.สถานีเพลินจิต พื้นที่ทางเท้าแคบ ไม่มีพื้นที่ก่อสร้างลิฟต์ และ
5.สถานีอโศก ภาคเอกชนได้ขออนุญาต กทม.ทำทางเชื่อมมายังสถานีรถไฟฟ้า กทม.จึงขอให้เอกชนก่อสร้างลิฟต์ 1 ตัว เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้งานได้
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42628
Location: NECTEC

PostPosted: 24/05/2018 10:15 am    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
เลื่อนเคาะงบ 256 ล้านบาท สร้าง “ลิฟต์ผู้พิการ” 16 สถานี เหตุ “บีทีเอส” ต้องร่วมออกเงินด้วยหรือไม่
โดย: MGR Online
เผยแพร่: วันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 17:06:
ปรับปรุง: วันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 18:13:


สภา กทม.เห็นชอบงดออกเสียง 2 คน งบ 256 ล้านเพิ่มลิฟต์คนพิการ BTS
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์
24 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 05:15
สภา กทม.เห็นชอบ สร้าง “ลิฟต์ผู้พิการ” 16 สถานี จำนวน 19 ตัว มูลค่า 256.2 ล้านบาท
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> รถไฟฟ้า (BTS) และรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 73, 74, 75 ... 155, 156, 157  Next
Page 74 of 157

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©