View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42724
Location: NECTEC
|
Posted: 08/05/2018 12:53 pm Post subject: |
|
|
ปลดล็อก พ.ร.บ.ฮั้วประมูล เปิดทางกลุ่มทุนจีนลุยไฮสปีดเทรนกรุงเทพฯ-อู่ตะเภา
ออนไลน์เมื่อ 6 พฤษภาคม 2561
ตีพิมพ์ใน เชกชั่นอีอีซี | หน้า 5
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,360 ระหว่างวันที่ 26 -28 เมษายน 2561
กนศ.ปลดล็อกพ.ร.บ.ฮั้วประมูลพีพีพี ไฟเขียวบริษัทต่างชาติที่เป็นรัฐวิสาหกิจเข้าร่วมประมูลได้ เปิดทางกลุ่มทุนจีน เดินหน้าลุยโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน และโครงการอื่นๆ คาดทีโออาร์ไฮสปีดเทรนกรุงเทพ-อู่ตะเภา ประกาศได้ พ.ค.นี้
มีความคืบหน้าเป็นลำดับสำหรับการออกทีโออาร์โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินกรุงเทพ-อู่ตะเภา เงินลงทุน 2.4 แสนล้านบาท ซึ่งล่าช้ากว่ากรอบการดำเนินงานที่กำหนดจะประกาศได้ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน 2561 ที่ติดปัญหาในเรื่องหลักเกณฑ์การคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมทุน ที่ยังไม่เปิดกว้างให้เอกชนเข้ามาแข่งขัน โดยเฉพาะกรณีบริษัทจีนที่ให้ความสนใจเข้าร่วมประมูลโครงการจำนวนมาก ที่อาจเข้าข่ายข้อห้ามตามพ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 และพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 หรือ พ.ร.บ.ฮั้ว
เนื่องจากบริษัทเอกชนจีนหลายราย เป็นรัฐวิสาหกิจที่รัฐบาลจีนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ จึงเข้าข่ายต้องห้ามตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างฯ และ พ.ร.บ.ฮั้ว ที่กำหนดลักษณะผู้ยื่นข้อเสนอการจัดซื้อจัดจ้าง หรือ ที่ได้รับการคัดเลือกต้องไม่มีผลประโยชน์ร่วมกัน หรือ มีส่วนได้ส่วนเสียกับผู้ยื่นข้อเสนอรายอื่น หรือ ขัดขวางการแข่งขันอย่างเป็นธรรม หรือสมยอมกันกับผู้ยื่นข้อเสนอรายอื่น หรือ เจ้าหน้าที่ในการเสนอราคา หรือ ส่อว่ากระทำการทุจริตอื่นใดในการเสนอราคา
ดังนั้น เพื่อเป็นการเปิดกว้างและให้เอกชนหลายรายเข้ามาแข่งขันประมูลโครงการฯมากขึ้น ทางกนศ.จึงได้เห็นชอบการปรับปรุงหลักเกณฑ์คัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนในรูปแบบรัฐร่วมลงทุนกับเอกชน(พีพีพี) เพิ่มเติม เพื่อปลดล็อกการเข้าร่วมประมูลโครงการดังกล่าว
นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(กนศ.) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ความล่าช้าในการออกที่โออาร์ของโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ทางกนศ.ต้องการให้การจัดทำรายละเอียดครอบคลุมในด้านต่างๆ และต้องการให้มีเอกชนหลายๆรายเข้ามาแข่งขัน เพื่อใช้เป็นต้นแบบของการออกทีโออาร์ในโครงการต่างๆ ที่มีการเปิดประมูลในรูปแบบรัฐร่วมลงทุนกับเอกชน(พีพีพี) ซึ่งหลังจากเปิดรับฟังความเห็นของนักลงทุน(มาร์เก็ต ซาว์ดิ้ง) เมื่อวันที่ 20 มีนาคม ที่ผ่านมา พบว่า หลักเกณฑ์การดำเนินการคัดเลือกเอกชนของโครงการ ยังไม่สอดคล้องกับการคัดเลือกดังกล่าว จึงมีความจำเป็นต้องปรับปรุงเงื่อนไข
ในการประชุมกนศ.เมื่อวันที่..เมษายน ที่ผ่านมา จึงได้เห็นชอบการปรับปรุงหลักเกณฑ์การคัดเลือกเอกชนเพิ่มเติม ให้เป็นรูปแบบการคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมลงทุนแบบนานาชาติ ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานสากล ที่กำหนดโดยธนาคารโลก บนพื้นฐานการให้โอกาสอย่างเท่าเทียม และความเป็นธรรมระหว่างรัฐและเอกชน เพื่อเปิดโอกาสให้หน่วยงานของรัฐหลายรายของต่างประเทศเดียวกัน สามารถยื่นข้อเสนอเข้ารับการคัดเลือกเอกชนของโครงการได้ และส่งเสริมให้เกิดการแข่งขันอันเป็นประโยชน์กับไทย
โดยได้กำหนดกรณีที่มีเอกชนซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐของรัฐบาลต่างประเทศเดียวกันตั้งแต่ 2 รายขึ้นไปเป็นผู้ยื่นข้อเสนอนั้น หน่วยงานของรัฐแต่ละแห่งต้องออกหนังสือรับรองความเป็นอิสระในการบริหารจัดการของหน่วยงานนั้นๆ
นอกจากนั้นคำรับรองดังกล่าวต้องได้รับการยืนยันจากสถานทูตหรือหน่วยงานรัฐบาลของประเทศนั้นๆ รวมทั้งให้การยืนยันว่าการยื่นข้อเสนอของแต่ละหน่วยงานของรัฐดังกล่าวไม่อยู่ภายใต้การครอบงำ หรือควบคุมของรัฐบาลต่างประเทศ หรือหน่วยงานของรัฐหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งของประเทศนั้น
ในกรณีนี้มิให้ถือว่าเอกชน ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐนั้นมีผลประโยชน์ร่วมกัน หรือมีส่วนได้เสียกับเอกชนซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐอื่น และในกรณีที่การคัดเลือกเอกชนของโครงการใด มีเพียงเอกชน ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐของรัฐบาลต่างประเทศเดียวกัน ตั้งแต่ 2 รายขึ้นไปเป็นผู้ยื่นข้อเสนอโดยไม่มีเอกชนรายอื่นร่วมยื่นข้อเสนอกับหน่วยงานของรัฐดังกล่าว หากคณะกรรมการคัดเลือกพิจารณาเห็นว่า เป็นประโยชน์ต่อประเทศ อาจรับข้อเสนอของเอกชน ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐของรัฐบาลต่างประเทศนั้นก็ได้
นายคณิศ กล่าวอีกว่า การปรับปรุงหลักเกณฑ์การคัดเลือกเอกชนร่วมทุนดังกล่าว จะทำให้กลุ่มนักลงทุนจีน สามารถเข้ามาร่วมประมูลในโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน และโครงการอื่นๆ ได้ โดยไม่เข้าข่ายพ.ร.บ.ฮั้ว แต่อย่างใด
ดังนั้น ภายในสัปดาห์นี้ คาดว่าการจัดทำร่างทีโออาร์ของโครงการดังกล่าวคาดว่าจะแล้วเสร็จ และนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอนุมัติต่อไปได้ คาดว่าทีอาร์ดังกล่าวจะสามารถประกาศออกมาได้ไม่เกินเดือนพฤษภาคม 2561 นี้ และ และคาดว่าจะได้เอกชนผู้ลงทุนประมาณเดือนกันยายน 2561 เพื่อเสนอผลการคัดเลือกและร่างสัญญาให้กนศ.เห็นชอบประมาณเดือนตุลาคม 2561 เพื่อเสนอครม. เห็นชอบผลการคัดเลือก และลงนามในสัญญาต่อไป
.........................................
รถไฟความเร็วสูงจูงจมูกเรา?
วันที่ 6 พฤษภาคม 2561 เวลา 06:52 น. |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42724
Location: NECTEC
|
Posted: 08/05/2018 12:55 pm Post subject: |
|
|
เลื่อนประมูลไฮสปีดเทรน 3 สนามบิน ไม่ทัน 15 พ.ค. รถไฟ แจงต้องรอประกาศอีอีซี
ในประเทศ
ที่มา: ข่าวสดออนไลน์
วันที่ 7 พฤษภาคม 2561 เวลา 18:31 น.
นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม รักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยถึงโครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) เชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ระยะทาง 220 กิโลเมตร (ก.ม.) วงเงินลงทุนประมาณ 2 แสนล้านบาทว่า รฟท. จัดทำร่างทีโออาร์แล้วเสร็จ 90% แต่ยังไม่สามารถเปิดประมูลได้ เนื่องจากต้องรอให้มีการออกประกาศเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งจะกำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับเหลักเกณฑ์ของผู้เข้าร่วมลงทุนในโครงการก่อน เช่น สัดส่วนการถือหุ้นระหว่างไทยกับต่างชาติ, เกณฑ์เกี่ยวกับสิทธิประโยชน์การใช้ที่ดิน เป็นต้น จากนั้น รฟท. จะต้องนำร่างทีโออาร์ที่จัดทำขึ้นไปเทียบเคียงกับประกาศว่าสอดคล้องกันหรือไม่ หากไม่สอดคล้องจะต้องทำการปรับเงื่อนไขใหม่
ขณะนี้ทีร่างโออาร์เสร็จเกือบสมบูรณ์แล้ว แต่ต้องรอประกาศอีอีซีก่อนว่าจะมีข้อกำหนดเรื่องการร่วมทุนอย่างไรบ้าง เดิม รฟท. ตั้งเป้าที่จะออกประกาศเชิญชวนผู้เข้าร่วมประมูลในวันที่ 15 พ.ค. นี้ แต่ขณะนี้ประกาศยังไม่ออกเลยคาดว่าอาจจะต้องเลื่อนการประกาศเชิญชวนออกไปก่อนซึ่งยังบอกไม่ได้ว่าจะเป็นช่วงไหน แต่เบื้องต้นตั้งเป้าที่จะให้มีการลงนามในสัญญาผู้รับจ้างให้ได้ในต้นปี 2562 จากนั้นเริ่มก่อสร้างได้ ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 5 ปี โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2567
รายงานข่าวจาก รฟท. แจ้งว่า รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน มีระยะทาง 220 กิโลเมตร รวม 5 สถานี ประกอบด้วย ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ศรีราชา พัทยาและอู่ตะเภา อัตราความเร็ว 250 ก.ม./ชั่วโมง ใช้เวลาเดินทางจากสนามบินอู่ตะเภาเข้ากรุงเทพฯ ภายในเวลา 45 นาที รูปแบบบการลงทุนนั้นจะเปิดให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนรูปแบบ PPP Net Cost ระยะเวลา 50 ปี อัตราค่าโดยสาร จากมักกะสัน-พัทยา 270 บาท และจากมักกะสัน-อู่ตะเภา 330 บาท เปิดพื้นที่การพัฒนา 3 จังหวัด ในพื้นที่อีอีซี ได้แก่ จ.ชลบุรี ฉะเชิงเทรา และระยอง ส่วนผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ (อีไออาร์อาร์) ทั้งโครงการ มูลค่า 700,000 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 50 ปีแรก 400,000 ล้านบาท และ 50 ปีต่อไป 300,000 ล้านบาท |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42724
Location: NECTEC
|
Posted: 09/05/2018 10:09 am Post subject: |
|
|
ต.ค.นี้คันทางรถไฟไทย-จีนเสร็จแน่
วันจันทร์ที่ 7 พฤษภาคม 2561 เวลา 15.16 น.
นายธานินทร์ สมบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง(ทล.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่5 พ.ค. ที่ผ่านมา นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม และคณะผู้บริหารกระทรวงคมนาคมได้ลงพื้นที่ตรวจความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูง(ไฮสปีดเทรน)ตามความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลจีนหรือรถไฟไทย-จีน ช่วงกรุงเทพฯ -หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ - นครราชสีมา) ช่วงที่ 1 จากสถานีกลางดง สถานีปางอโศก จ. นครราชสีมา ระหว่าง กม.ที่ 150+500 - กม.ที่ 154+000 ระยะทาง 3.5 กม. ขณะนี้คืบหน้าไปแล้ว 8% โดยนายอาคมได้สอบถามปัญหาการก่อสร้างและการทำงานร่วมกับวิศวกรจีนและบริษัทที่ปรึกษา ซึ่งไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
นายธานินทร์ กล่าวต่อว่า ทล.ดำเนินการก่อสร้างตามแผนอย่างเต็มที่หลังจากได้รับงบประมาณก่อสร้างมา30% หรือประมาณ 112 ล้านบาท จากที่ตั้งไปทั้งหมด425ล้านบาท
ส่วนที่เหลือการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)จะทยอยจ่ายภายหลัง สำหรับการก่อสร้างคาดว่าอีก4เดือนหรือประมาณเดือนส.ค.จะก่อสร้างคันดินแล้วเสร็จ และอีก2เดือนต่อไปจะเป็นการก่อสร้างท่อระบายน้ำ
ส่วนที่ทล.รับผิดชอบก่อสร้างคันทางของรางรถไฟจะแล้วเสร็จทั้งหมดในเดือนต.ค.นี้ตามแผนที่วางไว้แน่นอนเพื่อส่งมอบให้รฟท.ไปก่อสร้างในส่วนของงานวางรางต่อไป |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42724
Location: NECTEC
|
Posted: 16/05/2018 9:22 pm Post subject: |
|
|
กระทุ้งจีนเร่งส่งแบบไฮสปีด ภายในเดือนนี้ หวังเริ่มประมูลต้นเดือน มิ.ย. ห่วงสัญญา 2.3 ติดปัญหาเทคนิคหลังจีนเสนอสเปกสูง ทำให้ นัดถกรื้อสเปกลดการนำเข้า
นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม ในฐานะรักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า โครงการรถไฟไทย-จีนเฟสแรก ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา วงเงิน 1.79 แสนล้านบาท
ขณะนี้การก่อสร้างตอนที่ 1 ช่วงกลางดง-ปางอโศกระยะทาง 3.5 กิโลเมตร (กม.) แรกนั้นคาดจะเสร็จเดือน ต.ค.นี้ สำหรับการออกแบบก่อสร้าง
ตอนที่ 2 ช่วงปากช่อง-ขนานจิตร ระยะทาง 11 กม.อยู่ระหว่างเร่งรัดจากฝ่ายจีนมูลค่าลงทุน 5,000 ล้านบาท โดย จะเร่งอนุมัติแบบก่อสร้างให้ได้ภายในเดือน พ.ค.นี้ ก่อนกำหนดการประชุมความร่วมมือรถไฟไทย-จีนในวันที่ 31 พ.ค.-1 มิ.ย.นี้ในประเทศไทย
ทั้งนี้ หากเดินได้ตามแผนดังกล่าว รฟท.จะเริ่มขั้นตอนการร่างเอกสารเงื่อนไขการประกวดราคา (ทีโออาร์) ช่วงต้นเดือน มิ.ย.ก่อนเชิญชวนเอกชนซื้อซองทีโออาร์และเปิดประมูลต่อไปในช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค.นี้
ด้านแบบก่อสร้างตอน 3 ช่วงแก่งคอย-นครราชสีมา ระยะทาง 119.5 กม.นั้น ฝ่ายจีนได้ส่งแบบเบื้องต้นมาแล้ว โดยต้องใช้เวลาถอดแบบอีกสักพักเพราะงานส่วนนี้มีเรื่องก่อสร้างอุโมงค์ด้วย คาดจะสามารถพิจารณาพร้อมอนุมัติได้ตามแผนภายในเดือน สค.
https://www.posttoday.com/economy/551274 |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42724
Location: NECTEC
|
Posted: 17/05/2018 10:35 am Post subject: |
|
|
รฟท.เปิดประมูลไฮสปีดเทรน คุยลั่นทุ่งนักลงทุนแห่แย่งชิงขุมทรัพย์เดือน พ.ค.นี้
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์
17 พฤษภาคม 2561 เวลา 10:20
นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม รักษาการผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินการโครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) เชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ว่า รฟท.กำลังศึกษารายละเอียดของ พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) พ.ศ.2561 เพื่อนำมาหาข้อสรุปของเงื่อนไข การเปิดให้เอกชนร่วมประมูลโครงการฯมั่นใจว่าจะเปิดประมูลได้ในเดือน พ.ค.นี้ สำหรับเอกชนที่แสดงความสนใจเข้าร่วมประมูล คือ กลุ่มบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน), บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) ส่วนต่างชาติที่จะเข้าร่วมประมูล คือ ญี่ปุ่น จีน สหภาพยุโรป
รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน มีระยะทาง 220 กิโลเมตร รวม 5 สถานี ประกอบด้วย ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ศรีราชา พัทยาและอู่ตะเภา อัตราความเร็ว 250 ก.ม./ชั่วโมง ใช้เวลาเดินทางจากสนามบินอู่ตะเภาเข้ากรุงเทพฯ ภายในเวลา 45 นาที รูปแบบบการลงทุนนั้นจะเปิดให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนรูปแบบ PPP Net Cost ระยะเวลา 50 ปี อัตราค่าโดยสาร จากมักกะสัน-พัทยา 270 บาท และจากมักกะสัน-อู่ตะเภา 330 บาท เปิดพื้นที่การพัฒนา 3 จังหวัด ในพื้นที่อีอีซี ได้แก่ จ.ชลบุรี ฉะเชิงเทรา และระยอง ส่วนผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ (อีไออาร์อาร์) ทั้งโครงการ มูลค่า 700,000 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 50 ปีแรก 400,000 ล้านบาท และ 50 ปีต่อไป 300,000 ล้านบาท |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42724
Location: NECTEC
|
Posted: 18/05/2018 12:56 pm Post subject: |
|
|
ซีพี-BTSแยกวงชิงไฮสปีด แย่งถือหุ้นใหญ่คุมเกมอีอีซี เปิดทางต่างชาติลงทุน51%
เศรษฐกิจในประเทศ
วันที่ 18 พฤษภาคม 2561 เวลา 08:28 น.
2 ก๊กทุนยักษ์ไทย-ต่างชาติชิงเดือดไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน ซี.พี.-บีทีเอสส่อแยกวง ไม่มีใครยอมถอย แย่งถือหุ้นใหญ่กำหนดเกมอีอีซี โชว์ฐานะการเงินแข็งแกร่ง ซี.พี.ปักหลักจับจีน-ญี่ปุ่น บีทีเอสควงราชบุรีโฮลดิ้ง ซิโน-ไทยฯ ลุ้น ปตท.ร่วมวง ชี้แจงทูต-นักลงทุนทั่วโลก ต่างชาติถือหุ้นได้เกิน 51% ชง บิ๊กตู่ ขยายอู่ตะเภา มาบตาพุด
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาลเปิดเผย ประชาชาติธุรกิจ ภายหลังพระราชบัญญัติเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาว่า จากนี้ไปจะเดินหน้าทุกโครงการ โดยเฉพาะแผนการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ที่สำคัญที่สุด เป็นปัจจัยความสำเร็จของเขต EEC คือ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสนามบินดอนเมือง สุวรรณภูมิ และอู่ตะเภา ซึ่งจะมีการออกประกาศเงื่อนไขการประมูล หรือทีโออาร์ ในเร็ว ๆ นี้
2 ยักษ์เจรจาฝุ่นตลบชิงเบอร์หนึ่ง
สำหรับความเคลื่อนไหวของกลุ่มธุรกิจยักษ์ใหญ่ในและต่างประเทศที่สนใจจะร่วมประมูลในครั้งนี้ แหล่งข่าวกล่าวว่า ขณะนี้มีการจับมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกันไว้อย่างไม่เป็นทางการ 2 กลุ่ม โดยแต่ละรายแสดงความจำนงที่จะเป็น ผู้ถือหุ้นใหญ่ ในการบริหารกิจการรถไฟความเร็วสูงและพื้นที่เชิงพาณิชย์
ทั้งนี้ กลุ่มแรก คือ 3 รายเดิม ที่เคยแสดงความจำนงจะร่วมเป็นกิจการร่วมค้า คือ กลุ่มบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กับบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอสซี และเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซี.พี.)
ซี.พี.ควงจีน-ญี่ปุ่นปาดเค้ก
แหล่งข่าวกล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมามีการเจรจากันอย่างเข้มข้น ระหว่างกลุ่ม ซี.พี.กลับกลุ่มบีทีเอส ซึ่งต่างฝ่ายต่างต้องการเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ประเด็นที่เป็นข้อถกเถียงสำคัญคือ ประสบการณ์ในการเดินรถ และการบริหารกิจการระบบรางในเมืองไทย ซึ่งกลุ่มบีทีเอสมีประสบการณ์และผลงานมากกว่า แต่ฝ่ายกลุ่ม ซี.พี.ก็มีเหตุผลในการสนับสนุนที่จะถือหุ้นใหญ่ว่า เป็นกลุ่มทุนไทยที่แข็งแกร่งและมีพันธมิตรที่เป็นต่างชาติสนับสนุนคือจีน และมีการร่วมทุนกับกลุ่มอิโตชูจากญี่ปุ่นไว้แล้ว นอกจากนี้ยังมีพันธมิตรที่เป็นบริษัทก่อสร้างด้วย
ขณะนี้การเจรจายังไม่ลงตัวว่า กลุ่มแรกนี้ใครจะเป็นฝ่ายถือหุ้นใหญ่ ดังนั้นกลุ่ม ซี.พี.จึงถอยออกมา เพื่อหาพันธมิตรใหม่เพิ่มจากเดิม โดยกลุ่ม ซี.พี.ยังคงต้องการเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ และจะเป็นกลุ่มที่ 2 ที่จะร่วมเข้าประมูลในครั้งนี้
แหล่งข่าวกล่าวและว่า โครงการนี้เป็นโครงการใหญ่ที่สุดในรอบ 10 ปี ดังนั้น ทั้งกลุ่มบีทีเอส และกลุ่ม ซี.พี.คงไม่ยอมถอย รายงานข่าวกล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้การเจรจาหาพันธมิตรระหว่างกลุ่มบีทีเอส ปตท. และ ซี.พี. ยังไม่เป็นที่ยุติเรื่องโมเดลการร่วมลงทุน เนื่องจากทั้งบีทีเอส มีนายคีรี กาญจนพาสน์ เป็นเจ้าของ และ ซี.พี. มีนายธนินท์ เจียรวนนท์ ต้องการจะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทเพื่อเข้าร่วมประมูล หากใครเป็นผู้ถือหุ้นจะทำให้มีอำนาจในการบริหารและกำหนดทิศทางของบริษัทได้
ทางบีทีเอส ตอนนี้มีซิโน-ไทยฯและราชบุรีโฮลดิ้งเป็นพันธมิตรอยู่แล้ว กำลังเจรจากับ ปตท. รวมถึง ซี.พี.ด้วย แต่หาก ซี.พี.ไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ก็มีความเป็นไปได้ที่ ซี.พี.จะผนึกกับผู้ประกอบการไทยที่เป็นรับเหมาแทนก็ได้ เช่น อิตาเลียนไทย ช.การช่าง เพราะ ซี.พี.ด้วยศักยภาพมีสถานะการเงินที่แข็งแกร่ง มีบริษัทที่พัฒนาธุรกิจอสังหาฯในเครืออยู่แล้ว ส่วนงานระบบรถไฟความเร็วสูงก็มีพันธมิตรจากจีนและญี่ปุ่นที่มีความเชี่ยวชาญอยู่แล้ว ซึ่งตอนนี้มีกระแสข่าวว่าบริษัทรถไฟของจีนกำลังรวมตัวกันเป็นหนึ่งเดียวเพื่อจับมือกับ ซี.พี.แล้ว แต่ที่ ซี.พี.มาเจรจาบีทีเอสเพราะมีประสบการณ์เดินรถไฟฟ้ามานาน
สำหรับบีทีเอส หากไม่ร่วมกับ ซี.พี. อาจจะตัดสินใจร่วมกับ ปตท. โดยถือหุ้นสัดส่วนเท่ากัน อาจจะเป็นคนละ 30% เนื่องจาก ปตท.ไม่มีประสบการณ์ด้านระบบราง แต่มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง ส่วนซิโน-ไทยฯและราชบุรีโฮลดิ้งอาจจะถือหุ้นคนละ 15% ที่เหลือ 10% อาจจะเป็นบริษัทต่างชาติที่มีความเชี่ยวชาญด้านงานระบบอาณัติสัญญาณ
คีรีประกาศตีตั๋วประมูล
ก่อนหน้านี้ นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.บีทีเอสกรุ๊ปโฮลดิ้งส์ กล่าวว่า บีทีเอสและ ปตท.กำลังเจรจาเพื่อร่วมกันเป็นพันธมิตรเข้าประมูลรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ แต่เข้าร่วมประมูลแน่นอน เพราะเป็นธุรกิจหลักของบริษัท นอกจากนี้ยังเจรจากับรายอื่น ๆ ด้วย ทั้งนักลงทุนไทยและต่างชาติ
นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.บีทีเอสซี กล่าวว่า การเจรจากับ ปตท.ยังไม่เป็นที่ยุติ ขณะเดียวกันได้เจรจากับรายอื่น ๆ ด้วย ขณะนี้ยังไม่ตัดสินใจจะร่วมกับใครบ้าง รอดูทีโออาร์ประมูลที่รัฐจะประกาศออกมา รวมถึงผลศึกษาความคุ้มค่าของโครงการที่บริษัทกำลังศึกษาอยู่ด้วย อย่างไรก็ตาม บีทีเอสจะร่วมกับซิโน-ไทยฯและราชบุรีโฮลดิ้งอย่างแน่นอน
พ.ค.นี้ตีฆ้องเชิญทั่วโลก
นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รักษาการผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผย ประชาชาติธุรกิจ ว่า ภายในเดือน พ.ค.นี้จะออกประกาศเชิญชวนนักลงทุนทั่วโลกเข้าร่วมประมูล PPP net cost 50 ปี รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ระยะทาง 220 กม. วงเงินกว่า 2.2 แสนล้านบาท จากนั้นภายในเดือน มิ.ย.จะขายเอกสารประกวดราคาและเปิดยื่นซองประมูลภายในเดือน พ.ย.นี้ คาดว่าจะได้ผู้ชนะอย่างเร็วปลายปีนี้ หรืออย่างช้าต้นปี 2562 เพราะการเจรจาอาจจะใช้เวลานาน เนื่องจากเป็นโครงการร่วมทุนระหว่างรัฐและเอกชนที่เป็นโครงการขนาดใหญ่และใช้เงินลงทุนสูง
รถไฟอยู่ระหว่างร่าง พ.ร.ฎ.เวนคืนที่ดิน ซึ่งมีพื้นที่เวนคืนไม่มาก เพราะงานก่อสร้างใช้แนวเขตทางรถไฟประมาณ 95% ยกเว้นศูนย์ซ่อมบำรุง หรือเดโป้ 100 ไร่ ที่ฉะเชิงเทรา
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวย้ำว่า จะประกาศเชิญชวนนักลงทุนร่วมประมูลให้ได้ภายในเดือน พ.ค.นี้อย่างแน่นอน และบอร์ดได้เตรียมการชี้แจงรายละเอียด พ.ร.บ.อีอีซี ให้กับทูตทั่วโลกได้รับทราบ
เปิดทางต่างชาติถือหุ้นเกิน 51%
แหล่งข่าวจากคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกให้ข้อมูลว่า โครงการนี้จะมีเงื่อนไขพิเศษ คือ เปิดประมูลแบบอินเตอร์เนชั่นแนล (นานาชาติ) และเป็นโครงการที่อยู่ในเขตส่งเสริมพิเศษของสำนักงานส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดโอกาสให้ต่างชาติมีสัดส่วนในการถือหุ้นเข้ามาบริหารจัดการได้เกินกว่า 51% จึงเป็นที่สนใจของทุนยักษ์ต่างชาติมาก แต่ทุนต่างชาติก็ต้องเข้ามาจับมือกับพันธมิตรธุรกิจไทย จึงจะมีโอกาสสูงกว่า
จากการฟังผลการเจรจาของทุนใหญ่ ๆ ในเมืองไทย ทุกบริษัทแสดงตัวและฐานะทางการเงินว่า ทุนไทยมีสภาพคล่องแข็งแกร่งมากพอที่จะร่วมลงทุนโครงการนี้ โดยอาจจะไม่ต้องพึ่งพาทุนจากต่างชาติด้วยซ้ำ แม้จะมีการเปิดประมูลแบบอินเตอร์เนชั่นแนลก็ตาม แหล่งข่าวกล่าวย้ำ
แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมกล่าวว่า หลัง พ.ร.บ.อีอีซีมีผลบังคับใช้แล้ว รอดูว่าทางคณะกรรมการอีอีซีจะออกประกาศแนวทางการให้เอกชนร่วมทุน PPP มารองรับหรือไม่ เพราะมีแก้ไขบางประเด็นให้ทีโออาร์เปิดกว้างให้ต่างชาติร่วมประมูลได้มากขึ้น เช่น ไม่ต้องกำหนดสัดส่วนถือหุ้นของต่างชาติเพื่อให้ต่างชาติเข้ามาได้มากขึ้น หรือกฎหมายที่ระบุไว้ 51 : 49 มีอะไรที่จะรองรับได้บ้าง หากให้เกินจากนี้จะผิดหรือไม่ ในเร็ว ๆ นี้จะสรุป เพราะทางอีอีซีต้องการใช้โครงการประมูลรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน เป็นต้นแบบให้กับโครงการอื่น ๆ เช่น ท่าเรือ สนามบิน
อู่ตะเภา-มาบตาพุดคิวต่อไป
แหล่งจากคณะกรรมการอีอีซีกล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ในวันที่ 25 พ.ค.นี้ จะมีวาระสำคัญ คือการขออนุมัติ กรอบระยะเวลาในการประกาศทีโออาร์ การประมูล และการเริ่มก่อสร้างโครงการสนามบินอู่ตะเภา ส่วนต่อขยาย และประเด็นขอความร่วมมือกับกองทัพเรือ ในการร่วมดำเนินการในระยะต่อไป ซึ่งรัฐบาลจะเตรียมความพร้อมให้เกิดการประมูลทั้งโครงการรถไฟไฮสปีดเทรน สนามบินอู่ตะเภา และท่าเรือมาบตาพุด ให้แล้วเสร็จภายในปีนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า โครงการโครงสร้างพื้นฐานหลัก 4 โครงการในอีอีซี ที่จะเปิดประมูลภายในปี 2561 รูปแบบ PPP ระยะเวลา 30-50 ปี มีมูลค่าร่วม 5 แสนล้านบาท ได้แก่ รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ท่าเรือมาบตาพุด เฟส 3 ท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 และสนามบินอู่ตะเภา
พลเรือตรี ลือชัย ศรีเอี่ยมกูล ผู้อำนวยการท่าอากาศยานอู่ตะเภา กล่าวว่า ขณะนี้กำลังรอความชัดเจนจากอีอีซี เรื่องการประมูลพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา เนื้อที่ 6,500 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 1.5 กม. โดยจะใช้เงินลงทุนหลายแสนล้านบาท ตามแผนจะให้แล้วเสร็จใน 5 ปี ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณารูปแบบการให้เอกชนร่วมลงทุน PPP ว่าจะเป็นสัมปทานเดียวหรือรายพื้นที่ คาดว่าจะเปิดประมูลได้ภายในปีนี้
พ.ร.บ.อีอีซีพิเศษทุกขั้นตอน
สาระสำคัญของ พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. 2561 (EEC) ที่ได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา อาทิ ให้พื้นที่ EEC ครอบคลุม 3 จังหวัด คือ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง กับพื้นที่อื่นที่จะออกพระราชกฤษฎีกากำหนดเพิ่มเติม การดำเนินโครงการ กิจกรรม ต้องจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ กำหนดให้มีคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และมีสำนักงานคณะกรรมการนโยบายฯทำหน้าที่เป็นเลขานุการมีอำนาจจัดทำแผนพัฒนา แผนการใช้ประโยชน์ที่ดิน พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สาธารณูปโภค จัดซื้อ เช่าซื้อ แลกเปลี่ยน เวนคืนที่ดิน ได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ใช้ประโยชน์ที่ดิน ส.ป.ก.ได้ กำหนดกระบวนการร่วมทุนกับภาคเอกชน โดยไม่ต้องผ่าน พ.ร.บ.ร่วมทุน PPP มีอำนาจอนุญาต อนุมัติ ให้ความเห็นชอบ ตามกฎหมายว่าด้วยการขุดดินถมดิน ควบคุมอาคาร สาธารณสุข ตรวจคนเข้าเมือง ทะเบียนพาณิชย์ โรงงาน จัดสรรที่ดิน รวมถึงการให้คนต่างด้าวถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินภายในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษเพื่อการประกอบกิจการที่ได้รับอนุญาต โดยไม่ต้องได้รับอนุญาตตามประมวลกฎหมายที่ดิน และสามารถถือกรรมสิทธิ์ห้องชุดในอาคารชุดได้เกิน 49% ของเนื้อที่ห้องชุดในอาคารชุด
สำหรับการทำสัญญาเช่าช่วงที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ให้ทำสัญญาเช่าไม่เกิน 50 ปี และการต่อสัญญาเช่าต้องไม่เกิน 49 ปี เป็นต้น |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42724
Location: NECTEC
|
Posted: 19/05/2018 6:31 pm Post subject: |
|
|
หวั่นเสียโอกาส.. ภาคเอกชนระยอง เตรียมร้องรัฐบาลผุดสถานีรถไฟความเร็วสูงในพื้นที่
โดย: MGR Online
เผยแพร่: 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 เวลา 22:05:
ระยอง - หวั่นเสียโอกาสด้านรายได้ทางการท่องเที่ยว.. องค์กรภาคเอกชนใน จ.ระยอง เตรียมยื่นหนังสือถึงรัฐบาล เรียกร้องให้ผลักดันโครงการสถานีรถไฟความเร็วสูงเชื่อมพื้นที่ 5 จังหวัด สถานีที่ 10 เกิดขึ้นในเขตตัวเมืองระยอง หลังก่อนหน้านี้รัฐบาลเคยมีโครงการดังกล่าว แต่ปัจจุบันกลับถูกตัดทิ้ง เหลือเพียงสถานีที่ 9 ที่เชื่อมถึงแค่สนามบินอู่ตะเภา
วันนี้( 18 พ.ค.) คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและชมรมธนาคารใน จ.ระยอง ได้จัดประชุมเพื่อหารือเกี่ยวกับการเตรียมยื่นหนังสือต่อรัฐบาล เพื่อให้ผลักดันสถานีรถไฟความเร็วสูง สถานีที่ 10 เข้ามาที่ตัวเมืองระยอง หลังทราบข่าวว่ารัฐบาลมีโครงการที่จะก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อ 3 สนามบิน คือ ดอนเมือง ,สุวรรณภูมิ และอู่ตะเภา แต่กลับไม่เชื่อมต่อถึงตัวเมืองระยอง ซึ่งจะทำให้ จ.ระยอง เสียโอกาสทางเศรษฐกิจ ทั้งที่เป็น 1ในจังหวัดที่อยู่ในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี
นายนพดล ตั้งทรงเจริญ ประธานหอการค้า จ.ระยอง กล่าวว่า หอการค้า จ.ระยอง ได้รับการร้องเรียนจากหลายภาคส่วนเกี่ยวกับนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ซึ่ง ครอบคลุมพื้นที่ 3 จังหวัดคือ ชลบุรี ฉะเชิงเทราและระยอง ซึ่งจะทำให้ จ.ระยอง มีประชากรจำนวนมากเดินทางเข้ามาในพื้นที่ แต่ปัจจุบันยังพบว่าระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ยังไม่มีความพร้อม โดยเฉพาะด้านการคมนาคม
ที่ผ่านมารัฐบาล ได้เร่งผลักดันโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อ 3 สนามบิน จากการศึกษาแนวเส้นทางโครงการผ่านพื้นที่ 5 จังหวัด คือ กรุงเทพมหานคร ,สมุทรปราการ ,ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี และระยอง โดยใช้แนวเส้นทางระบบขนส่งมวลชนทางรางของโครงการเดิม และมีการออกแบบใหม่เฉพาะบริเวณเชื่อมต่อเข้าสู่สนามบินสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ(ขาออก) และสนามบินอู่ตะเภา(ขาเข้า) เป็นจุดสิ้นสุดเส้นทางรถไฟความเร็วสูง รวมทั้งสิ้น 9 สถานี แต่สถานีที่ 10 ซึ่งเดิมเคยมีโครงการใน จ.ระยอง วันนี้กลับถูกชะลอออกไป
นายนพดล กล่าวอีกว่าเมื่อเป็นเช่นนี้ย่อมทำให้นักลงทุน และนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาถึงสนามบินอู่ตะเภา อ.บ้านฉาง ไม่สามารถเดินทางต่อเข้าตัวเมืองระยองได้อย่างสะดวก เนื่องจากไม่มีสถานีรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อเข้าพื้นที่ ทำให้ระยองเสียโอกาสในเรื่องรายได้ที่จะเกิดจากการท่องเที่ยวและการลงทุน
หากเป็นเช่นนี้จังหวัดระยองจะได้อะไรบ้างกับการเข้าสู่ อีอีซี ทั้งนี้จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาล พิจารณาสถานีรถไฟความเร็วสูง สถานีที่ 10 ในตัวเมืองระยองด้วย
อย่างไรก็ตามในวันที่ 30 พ.ค.นี้ คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและชมรมธนาคารใน จ.ระยอง จะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมปรึกษาหารือเพื่อหาแนวทางเสนอต่อภาครัฐ ในการผลักดันสถานีรถไฟความเร็วสูงสถานีที่ 10 ที่ระยองให้เกิดขึ้นจริง
//---------------
พูดอะไรเลอะเทอะเช่นนั้น พวกเองอยากได้อยากมี แต่ เคยมาอำนวยความสะดวกในการเคลียร์กะบรรดา กลุ่มผลประโยชน์ เคลียร์เรื่่องการเวนคืนที่ดินให้ไปจากมาบตาพุดถึงระยอง บ้างหรือเปล่า และ การเคลียร์เรื่อง EIA หรือเปล่าหือ หรือ เห็นว่าธุระมิใช่ เพราะ มีแต่ตัณหาอยากได้อยากมีแต่ไม่คิดแม้แต่จะลงทุนลงแรงให้มันเป็นจริงขึ้นมานี่มันใช้ไม่ได้เด็ดขาดเชียวนะครับท่าน
Last edited by Wisarut on 19/05/2018 8:27 pm; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42724
Location: NECTEC
|
Posted: 19/05/2018 8:16 pm Post subject: |
|
|
เกาหลีสนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานระบบราง 4.78 แสนล้านบาท
18 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 เวลา 10:05 น.
เกาหลีสนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานระบบราง 4.78 แสนล้านบาท จับตาเปิดประมูลรถไฮสปีดเชื่อม3 สนามบินภายในเดือนหน้า พร้อมเสนอลงทุนงานระบบมอเตอร์เวย์แสนล้านบาท
นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ รองปลัดกระทรวงคมนาคมเปิดเผยภายหลังจากหารือกับผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐานและการขนส่งของประเทศเกาหลีใต้รวมถึงกลุ่มทุนเอกชนว่าหลังจากที่หารือร่วมกันพบว่ารัฐบาลและกลุ่มทุนจากประเทศเกาหลีใต้ความสนใจเข้ามาร่วมลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในประเทศไทย โดยเฉพาะงานด้านระบบรางที่เกาหลีมีความเชี่ยวชาญรวมมูลค่าการลงทุนกว่า 4.78 แสนล้านบาท
ทั้งนี้ได้แก่โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม3 สนามบินโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออ(อีอีซี) วงเงิน 2.15 แสนล้านบาท โครงการรถไฟฟ้ารางเบา(แทรม)จังหวัดภูเก็ต วงเงิน 3.94 หมื่นล้านบาท โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ ระยะทาง 23.6 กิโลเมตร วงเงิน 1.01 แสนล้านบาทและโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกช่วงศูนย์วัฒนธรรม-ตลิ่งชัน ระยะทาง 16.4 กิโลเมตร วงเงิน 1.23 แสนล้านบาท
อย่างไรก็ตามโครงการที่เกาหลีสนใจลงทุนมากที่สุดคือโครงการรถไฟฟ้ารางเบา(แทรม)ในประเทศไทย กระทรวงคมนาคมจึงได้ชี้แจงว่าขณะนี้ประเทศไทยอยู่ระหว่างดำเนินการพัฒนารถไฟฟ้าแทรมในจังหวัดหัวเมืองใหญ่หลายโครงการอาทิ โครงการรถไฟฟ้ารางเบา(แทรม)จังหวัดเชียงใหม่ วงเงิน 1 แสนล้านบาท โครงการรถไฟฟ้ารางเบา(แทรม)จังหวัดขอนแก่น วงเงิน 1.5 หมื่นล้านบาทและโครงการรถไฟฟ้ารางเบา(แทรม)จังหวัดนครราชสีมา วงเงิน 3.26 หมื่นล้านบาทเป็นต้น
นายพีระพลกล่าวต่อว่าสำหรับความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม3สนามบินนั้นขณะนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)ได้ดำเนินการร่างเอกสารเงื่อนไขการประกวดราคา(ทีโออาร์) ใกล้เสร็จเรียบร้อยแล้วคาดว่าเดินหน้าจะเข้าสู่ขั้นตอนการประกวดราคาได้ภายในเดือนหน้า โดยเริ่มจากการเปิดขายซองทีโออาร์ให้เอกชน ส่วนด้านความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าแทรม จังหวัดภูเก็ตนั้นในวันที่ 21 พ.ค.นี้กระทรวงคมนาคมจะเข้าประชุมร่วมกับคณะกรรมการนโยบายให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (บอร์ดพีพีพี) เพื่อชี้แจงความคืบหน้าของโครงการ ส่วนเรื่องที่ว่าโครงการดังกล่าวจะสามารถประมูลได้ทันปีนี้หรือไม่นั้นยังไม่มีความชัดเจนเพราะต้องรอผลการศึกษาแนวทางร่วมทุนจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.)
//------------------------------------ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42724
Location: NECTEC
|
Posted: 19/05/2018 8:32 pm Post subject: |
|
|
รัฐบาลเตรียมเปิดประมูลโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม3สนามบิน เชิญชวนนักลงทุนทั่วโลก
วันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 เวลา 10:48 น.
หลังจากพระราชบัญญัติเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้วนั้น
นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รักษาการผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผย ประชาชาติธุรกิจ ว่า ภายในเดือน พ.ค.นี้จะออกประกาศเชิญชวนนักลงทุนทั่วโลกเข้าร่วมประมูล PPP net cost 50 ปี รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน(สนามบินดอนเมือง สุวรรณภูมิ และอู่ตะเภา) ระยะทาง 220 กม. วงเงินกว่า 2.2 แสนล้านบาท จากนั้นภายในเดือน มิ.ย.จะขายเอกสารประกวดราคาและเปิดยื่นซองประมูลภายในเดือน พ.ย.นี้ คาดว่าจะได้ผู้ชนะอย่างเร็วปลายปีนี้ หรืออย่างช้าต้นปี 2562 เพราะการเจรจาอาจจะใช้เวลานาน เนื่องจากเป็นโครงการร่วมทุนระหว่างรัฐและเอกชนที่เป็นโครงการขนาดใหญ่และใช้เงินลงทุนสูง
รถไฟอยู่ระหว่างร่าง พ.ร.ฎ.เวนคืนที่ดิน ซึ่งมีพื้นที่เวนคืนไม่มาก เพราะงานก่อสร้างใช้แนวเขตทางรถไฟประมาณ 95% ยกเว้นศูนย์ซ่อมบำรุง หรือเดโป้ 100 ไร่ ที่ฉะเชิงเทรา นายอานนท์กล่าว
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวย้ำว่า จะประกาศเชิญชวนนักลงทุนร่วมประมูลให้ได้ภายในเดือน พ.ค.นี้อย่างแน่นอน และบอร์ดได้เตรียมการชี้แจงรายละเอียด พ.ร.บ.อีอีซี ให้กับทูตทั่วโลกได้รับทราบ |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44599
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 21/05/2018 8:21 am Post subject: |
|
|
รฟท.เดินหน้าประมูลรถไฟเชื่อมอีสาน-อีอีซี
โพสต์ทูเดย์ 21 พ.ค. 61 07.28 น.
บอร์ด รฟท.ไฟเขียวเปิดประมูลพีพีพีรถไฟอีอีซีเชื่อมอีสาน 2 หมื่นล้าน คาดประมูลปลายปี จ่อขายซองทีโออาร์รถไฟไฮสปีดกลางเดือนหน้า
นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม ในฐานะรักษาการผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท.ได้มีมติเห็นชอบโครงการเพิ่มบทบาทภาคเอกชนในการเดินรถขนส่งสินค้า เส้นทางขอนแก่น-แหลมฉบัง วงเงิน 2 หมื่นล้านบาท โดยจะเปิดให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนในกิจการภาครัฐ (พีพีพี) และ รฟท.จะลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและงานก่อสร้าง
ด้านเอกชนลงทุนจัดหารถไฟ งานระบบ รวมถึงงานซ่อมบำรุง ซึ่งระบบการเดินรถจะเป็นรถไฟฟ้า โดยหลังจากบอร์ดอนุมัติโครงการจะเร่งเสนอแผนเข้าสู่กระทรวงคมนาคมและคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของภาครัฐ (บอร์ดพีพีพี) ควบคู่ไปกับการร่างเอกสารเงื่อนไขการประกวดราคา (ทีโออาร์) คาดว่าจะเปิดประมูลปลายปี 2561
สำหรับโครงการนี้จะเป็นกลไกส่งเสริมเศรษฐกิจและการค้าในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) โดยเฉพาะเชื่อมโยงเส้นทางขนส่งสินค้าจากภาคอีสานและประเทศเพื่อนบ้านมาเชื่อมต่อการขนส่งทางน้ำที่ท่าเรือขนาดใหญ่ในอีอีซี
ขณะที่ความคืบหน้าการจัดซื้อหัวรถจักร 50 คัน วงเงิน 6,500 ล้านบาท บอร์ดได้เห็นชอบทีโออาร์แล้ว และ รฟท.จะนำร่างทีโออาร์ขึ้นเว็บไซต์เพื่อเปิดประชาพิจารณ์และเข้าสู่ขั้นตอนการประมูล ตั้งเป้าจะได้ตัวผู้ชนะโครงการและลงนามสัญญาภายในปีนี้
นอกจากนี้ ความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินอีอีซี ช่วงกรุงเทพฯ-ระยอง ระยะทาง 260 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 2.15 แสนล้านบาทนั้น คาดว่าทีโออาร์จะเสร็จพร้อมเสนอกระทรวงคมนาคมในสัปดาห์นี้ควบคู่กับเปิดรับฟังความคิดเห็นทางเว็บไซต์ จะประกาศเชิญชวนเอกชนซื้อซองทีโออาร์ภายในเดือน พ.ค. และอีก 15 วันจะขายซองประมูลโครงการและมีเวลาให้เอกชนศึกษาก่อนยื่นซองประมูล 4-5 เดือน
นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการ กลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รฟท. กล่าวว่า บอร์ด รฟท.ได้มีมติเห็นชอบแผนแม่บทการพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีกลางบางซื่อ หลังจากนี้ รฟท.จะพิจารณารายละเอียดเพื่อแบ่งพื้นที่พัฒนา ซึ่งปีนี้จะเปิดประมูลพื้นที่แปลงเอ มูลค่า 1 หมื่นล้านบาทได้ |
|
Back to top |
|
|
|