RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311283
ทั่วไป:13264086
ทั้งหมด:13575369
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวเกี่ยวกับ "ที่ดิน" ของ "รฟท."
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวเกี่ยวกับ "ที่ดิน" ของ "รฟท."
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 142, 143, 144 ... 197, 198, 199  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 17/05/2018 10:21 am    Post subject: Reply with quote

ชุมชนริมทางรถไฟแม่กลอง ร้องขอความเป็นธรรม ถูกเรียกเก็บค่าเช่าย้อนหลัง
ช่อง 7 สี
วันที่ 16 พฤษภาคม 2561 เวลา 16:00 น.

นี่คือสัญญาเรียกเก็บภาษีโรงเรือน ที่ชาวบ้านริมทางรถไฟแม่กลองที่จังหวัดสมุทรสงคราม นำมาแสดงเพื่อยืนยันว่า ที่ผ่านมาได้ชำระภาษีอย่างต่อเนื่อง แม้จะไม่สามารถต่อสัญญาเช่าอาคารพาณิชย์กับการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ตั้งแต่ปี 2550

นายสุขุม ตั้งฑีฆะรักษ์ 1 ในผู้เช่าอาคารพาณิชย์จากการรถไฟฯ ยืนยันว่า ชาวบ้านไม่เคยปฏิเสธจ่ายค่าเช่าอาคารพาณิชย์จากการรถไฟฯ และพยายามติดต่อประสานงานเพื่อชำระเงินรายเดือนอย่างที่เคยทำมาตั้งแต่ปี 2543 แต่เจ้าหน้าที่การรถไฟสถานีแม่กลอง กลับไม่รับชำระ และไม่เคยเปิดให้ทำสัญญาเช่าอาคารพาณิชย์ต่อ ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ชัดเจน 3 ปี 1 ครั้ง

กระทั่งเดือนเมษายนที่ผ่านมา การรถไฟแห่งประเทศไทย มีหนังสือแจ้งเตือนมายังผู้เช่าอาคารพาณิชย์ 40 ห้อง กินพื้นที่ด้านซ้ายและขวาฝั่งละ 290 ตารางเมตร ให้กลับไปชำระเงินค่าเช่าที่ติดค้างเป็นระยะเวลา 9 ปีเศษ ซึ่งบางรายต้องจ่ายค่าเช่าที่คงค้างสูงถึง 1,300,000 บาท
เช่นเดียวกับ นายกิตติพงษ์ โชติคุณากร ซึ่งเปิดร้านขายกระเพาะปลาและเช่าบูชาพระเครื่อง เขาบอกว่า รายได้ที่ไม่แน่นอน ทำให้ยากที่จะไปจ่ายชำระค่าเช่าคงค้างย้อนหลัง ซึ่งเป็นเงินเกือบ 200,000 บาท เพื่อแลกกับสัญญาเช่าใหม่ ทั้งยังระบุด้วยว่า ที่ออกมาร้องทุกข์ไม่ได้ต้องการสร้างปัญหา แต่อยากร้องขอความเป็นธรรมจากผู้เกี่ยวข้อง ให้ช่วยเจรจาผ่อนผันการชำระหนี้ เพื่อรักษาสิทธิ์การอยู่อาศัยไว้เท่านั้น

จากการติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทยประจำสถานีแม่กลอง ได้รับการยืนยันว่ามีการเรียกเก็บค่าเช่าค้างเก่าพื้นที่ 40 คูหาริมทางรถไฟจริง ทั้งยังยืนยันด้วยว่า ที่ผ่านมาได้แจ้งเตือนผู้เช่าเป็นลายลักษณ์อักษร โดยผู้เช่าส่วนที่มีกำลังจ่าย ได้ทยอยไปยื่นชำระต่อสำนักงานบริหารทรัพย์สินการรถไฟแห่งประเทศไทยแล้ว และไม่น้อยได้สัญญาเช่าฉบับใหม่กลับมาครอบครอง เจ้าหน้าที่รายนี้ยังยืนยันด้วยว่าการเรียกเก็บค่าเช่าย้อนหลังเป็นไปตามเงื่อนไข ระหว่างผู้เช่าและผู้ให้เช่า คือ การรถไฟแห่งประเทศไทย มิได้เป็นการกลั่นแกล้งชาวบ้าน แต่อย่างใด

ขณะเดียวกันทีมข่าวยังได้ติดต่อไปยังหัวหน้าแผนกบริหารทรัพย์สินการรถไฟแห่งประเทศไทยโซนแม่กลอง เพื่อสอบถามถึงอัตราค่าเช่าที่มีการเรียกเก็บวงเงินนับล้านบาทต่อราย ได้รับคำตอบว่า เป็นการเรียกเก็บค่าเช่าค้างเก่า ซึ่งมีมาตั้งแต่ปี 2543 พร้อมกับอธิบายว่าสาเหตุที่การรถไฟแห่งการรถไฟแห่งประเทศไทยไม่ได้ต่อสัญญาให้กับผู้เช่า เพราะเกิดข้อพิพาทเรื่องค่าเช่าที่ผู้เช่ามองว่าไม่เป็นธรรม ทั้งๆ ที่เก็บถัวเฉลี่ยห้องละไม่เกิน 500 บาท ในปี 2543 ทั้งยังยืนด้วยว่าระยะเวลาที่แจ้งกลับไปยังผู้เช่าให้มาติดต่อที่แผนกบริหารทรัพย์สินการรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อชำระเงินค่าเช่าค้างเก่าภายใน 30 วัน เป็นระยะเวลาที่กำหนดไว้ตามกรอบเท่านั้น แต่พร้อมเปิดรับฟังทุกปัญหาของผู้เช่าหากไม่สามารถมาชำระได้ตามเงื่อนไขเป็นอีกหนึ่งปมปัญหาของการเช่าที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่เกิดจากข้อพิพาทเรื่องค่าเช่า ที่ต้องหาข้อสรุปต่อไปเพื่อการอยู่ร่วมกัน
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 17/05/2018 10:23 am    Post subject: Reply with quote

‘สกลธี-ผอ.จตุจักร’ ถกการรถไฟฯจัดแถวผู้ค้าหน้าเซ็นทรัลลาดพร้าว
วันที่ 15 พฤษภาคม 2561 - 16:41 น.

กทม.จี้การรถไฟฯ รื้อแผงค้ารุกที่สาธารณะ-ผิวจราจรหน้าเซ็นทรัลลาดพร้าว-เดอะวัน

วันที่ 16 พฤษภาคม 2561 เวลา - 18:33 น.

เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับผู้แทนจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ที่สำนักงานเขตจตุจักร ถึงกรณีผู้ค้าบริเวณด้านหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลลาดพร้าวตั้งแผงค้าเกะกะ ไม่เป็นระเบียบ รุกล้ำผิวจราจร สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชน ว่า กทม.ได้ทำหนังสือประสานไปยัง รฟท.หลายครั้ง ให้ดำเนินการกับผู้ค้าบริเวณด้านหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลลาดพร้าวและเดอะวัน เนื่องจาก รฟท.เป็นเจ้าของพื้นที่ จึงเกิดการประชุมร่วมกันวันนี้ โดยแนวทางภายหลังร่วมหารือ กทม.ได้เสนอแนวทางให้ รฟท. ประกอบด้วย 1.การทำสัญญาอาศัยที่ดินระหว่าง กทม.กับผู้ว่าฯ รฟท. เพื่อให้ กทม.เข้ามาบริหารจัดการพื้นที่ดังกล่าวของ รฟท.ได้ และ 2.ให้ รฟท.ทำหนังสือถึง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม.ให้กทม.เข้ามาบริหารจัดการพื้นที่ได้ จากการพูดคุยร่วมกันเบื้องต้นเห็นชอบแนวทางที่ 2 คาดว่าอีก 1-2 วัน จะได้ข้อสรุปชัดเจน

“หลังจากนั้น กทม.จะเชิญผู้ค้า ผู้แทนห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว และเดอะวัน รวมถึง รฟท.ร่วมประชุมเพื่อหาแนวทางการแก้ปัญหา โดยหลักเกณฑ์ กทม.จะห้ามไม่ให้มีแผงค้าบริเวณพื้นที่สวนสาธารณะและลุกล้ำผิวจราจรเด็ดขาด ส่วนพื้นที่ผ่อนผัน กทม.จะสอบตรวจว่ามีบริเวณใดบ้าง ซึ่งหากเป็นจุดผ่อนผัน กทม.จะอนุญาตให้ค้าขายได้โดยผู้ค้าต้องไม่รุกล้ำพื้นที่สาธารณะ” นายสกลธี กล่าวและว่า บริเวณข้างห้างสรรพสินค้าเดอะวันพบมีการก่อสร้างเพิ่มเติมจากสัญญา เพื่อทำเป็นแผงขายสินค้า กทม.จำเป็นต้องรื้อออกทั้งหมด และบริเวณด้านหน้าห้างเซ็นทรัลลาดพร้าว ซึ่งผู้ค้าตั้งแผงค้ารุกล้ำบนผิวจราจร และบริเวณศาลาที่พักผู้โดยสารประจำทาง รวมถึงปัญหารถตู้โดยสารจอดแช่เพื่อรอผู้โดยสาร กทม.จะจัดการด้วย

นายสกลธี กล่าวว่า ขณะนี้ ยังไม่ทราบข้อมูลผู้ค้าชัดเจน หาก กทม.เข้ามาบริหารจัดการพื้นที่ของ รฟท.ได้จะดำเนินการให้เร็วที่สุด เพราะผู้ว่าฯ กทม.ได้กำชับให้จัดการปัญหานี้เร่งด่วน
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 21/05/2018 6:43 pm    Post subject: Reply with quote

สั่งทำผังค้าขายข้าง “เซ็นทรัลลาดพร้าว” ใหม่ใน 14 วัน จากนั้นต้องออกจากพื้นที่
โดย: MGR Online
เผยแพร่: 21 พฤษภาคม 2561 - 16:46:
ปรับปรุง: 21 พฤษภาคม 2561 - 17:15:

กทม. หารือตัวแทนผู้ค้าข้างเซ็นทรัลลาดพร้าว ย้ำ ห้ามขายบนฟุตปาธและบนถนน สั่งโยธา - เขตจตุจักร ทำผังค้าขายใหม่ในโซนที่ขายได้ ภายใน 10 - 14 วัน หากผังใหม่เสร็จผู้ค้าต้องออกจากพื้นที่ทั้งหมด เผยเดิมมี 70 ล็อก อาจปรับเพิ่มหรือลดขนาด พร้อมขอ ร.ฟ.ท. ขยายพื้นที่ขายเพิ่ม แต่ไม่ให้บดบังทัศนวิสัย

ความคืบหน้าการจัดระเบียบผู้ค้าบริเวณข้างห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว หลังจากมีข้อร้องเรียนว่ามีการรุกล้ำทางเท้าและถนน ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) จึงมีการหารือระหว่างกรุงเทพมหานคร (กทม.) และ ร.ฟ.ท. ว่า จะให้ กทม. เข้ามาจัดระเบียบอย่างไร โดยจะมีการหารือกับผู้ค้าในวันที่ 21 พ.ค. 2561

วันนี้ (21 พ.ค.) นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวภายหลังประชุมร่วมกับผู้ค้าบริเวณข้างห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว ว่า ขณะนี้ทางผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. ได้ทำหนังสือมายัง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. เพื่อขอให้ทาง กทม. ดำเนินการจัดระเบียบและแก้ไขปัญหาผู้ค้าบริเวณดังกล่าวแล้ว ซึ่งทางผู้ว่าฯ ก็ได้มอบหมายให้ตนและสำนักงานเขตจตุจักรไปดำเนินการต่อ โดยวันนี้ได้มีการหารือกับตัวแทนผู้ค้าประมาณ 4 - 5 ราย ถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งก็ได้แจ้งให้ทางผู้ค้าเข้าใจแล้วว่า ต้องดำเนินการให้ถูกต้อง โดยจะไม่อนุญาตให้มีการขายบริเวณทางเท้าและลงมาบนถนนเด็ดขาด อย่างไรก็ตาม ทางผู้ว่าฯ กทม. ก็เป็นห่วง เนื่องจากเศรษฐกิจไม่ดีก็คงไม่ได้ไล่ผู้ค้าออกไปเลย ก็พยายามหาจุดที่ทำให้สามารถค้าขายต่อไปได้ แต่อาจจะไม่ได้ทุกคน ก็พยายามทำให้ดีที่สุดให้มีที่ทำกินกันต่อ

นายสกลธี กล่าวว่า อย่างบริเวณโค้งวนรถเพื่อออกถนนวิภาวดี ฝั่งซ้ายด้านบนที่ไม่ใช่ฟุตปาธ ตรงนั้นสามารถค้าขายได้ มีผู้ค้าอยู่ประมาณ 70 ราย หรือ 70 ล็อก ตั้งแต่สมัย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง เป็นผู้ว่าราชการ กทม. แบ่งล็อกละประมาณ 1.50 เมตร แต่มีผู้ค้าที่ล้ำออกมาประมาณ 100 กว่าราย สำนักการโยธา และสำนักงานเขตจตุจักร ก็จะเข้าไปดูเพื่อทำล็อกใหม่ อาจจะเล็กลงหรือขยายพื้นที่ และหารือกับ ร.ฟ.ท. ด้วยว่าจะให้พื้นที่เพิ่มได้หรือไม่ เพื่อจัดดระเบียบให้เรียบร้อย ส่วนผู้ค้าฝั่งถนนพหลโยธินทั้งบนฟุตปาธและล้ำลงมาสองเลนบนถนน จะไม่ให้ค้าขายเด็ดขาด ก็ภายใน 10 - 14 วัน พอสำนักการโยธาและสำนักงานเขตจตุจักร ทำผังใหม่มาเรียบร้อย หลังจากนั้นจะให้ผู้ค้าออกทั้งหมดเลย

“การแบ่งพื้นที่ใหม่นั้น ยืนยันว่า จะต้องไม่มีการทำเป็นวัตถุถาวร เพราะอาจไม่ถูกต้องตามหลักโยธาหรือสุขลักษณะ ซึ่งทางเขตและโยธาก็จะมาดูแล้วแบ่งให้ชัดเจน ได้เท่าไหนก็เท่านั้น และทาง ร.ฟ.ท. ก็จะดูว่าสามารถขีดที่ให้ได้มากที่สุด ไม่ให้เสียทัศนวิสัยไป สำหรับเรื่องผลประโยชน์ตรงนี้ กทม. ไม่ได้เกี่ยวข้องเลย เป็นเรื่องระหว่างผู้ค้ากับทาง ร.ฟ.ท. ส่วน กทม. เราแค่เข้ามาช่วยจัดระเบียบเท่านั้นตามกฎหมายรักษาความสะอาด” นายสกลธี กล่าว

เมื่อถามว่า จะให้ผู้ค้าที่ไม่ได้อยู่ต่อไปอยู่พื้นที่ไหนแทน นายสกลธี กล่าวว่า ได้มอบหมายให้สำนักงานเขตจตุจักรไปศึกษาและหาพื้นที่เพื่อรองรับแล้ว

//---------------

อนุโลมขายของหน้าเซ็นทรัลลาดพร้าวอีก 14 วัน ก่อนรื้อเรียบ ขยายผลห้างอื่นด้วย!
วันที่ 21 พฤษภาคม 2561 -16:39 น.

เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวภายหลังประชุมหารือถึงแนวทางการจัดระเบียบทางเท้าบริเวณหน้าห้างสรรสินค้าเซ็นทรัลลาดพร้าวและศูนย์การค้าเดอะวันเขตจตุจักร ซึ่งเป็นพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศ (รฟท.) โดยมี รฟท. กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในกรุงเทพมหานคร (กอ.รมน.กทม.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ผู้ประกอบการ สำนักเทศกิจ สำนักงานเขตและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ว่า ภายหลังร่วมหารือกับรฟท.ถึงแนวทางการจัดระเบียบแผงค้า ซึ่งประชาชนร้องเรียนถึงความไม่เป็นระเบียบและผู้ค้าตั้งแผงค้าล้ำเข้าไปผิวจราจร เมื่อสัปดาห์ก่อน ล่าสุด รฟท.ได้ทำหนังสือมายัง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. เพื่อให้กทม.สามารถเข้ามาบริหารจัดการพื้นที่ของรฟท.ได้ โดยการดำเนินการเบื้องต้น กทม. ได้เชิญผู้ค้ามาทำความเข้าใจแล้ว ซึ่งผู้ค้าอ้างสิทธิว่าได้ทำการค้าบริเวณดังกล่าวมานานแล้ว กทม.จึงชี้แจงกลับไปว่าการตั้งแผงค้ารุกล้ำพื้นที่สาธารณะเข้าข่ายผิดกฎหมาย ไม่สามารถกระทำได้ โดยพล.ต.อ.อัศวิน สั่งการให้กทม.ทำความเข้าใจกับผู้ค้าอย่างประณีประนอม เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจและสาเหตุอื่นประกอบ

นายสกลธี กล่าวอีกว่า การตั้งแผงค้าบริเวณพื้นที่สาธารณะ ฟุตบาธและผิวจราจรนั้น ไม่อนุญาตให้ขายได้ โดยกทม.จะพูดคุยกับรฟท.เพื่อหาพื้นที่รองรับผู้ค้าจำหน่ายสินค้าได้ เดิมพื้นที่บริเวณหัวโค้งเพื่อออกสู่ถนนวิภาวดีเป็นพื้นที่ที่อนุญาตให้ขายได้ ขณะนี้ สั่งการให้สำนักการโยธาและสำนักงานเขตจตุจักร ลงสำรวจพื้นที่ดังกล่าว เพื่อออกแบบผังและตีช่องให้ผู้ค้าขายสินค้าได้ในบริเวณกำหนด สำหรับผังเดิมได้ตีช่องให้ขายของได้เพียง 70 ช่องและกว้าง 1.5 เมตร (ม.) แต่ขณะนี้บริเวณนั้นมีผู้ค้า 40 ราย บางรายตั้งแผงค้าขนาดใหญ่และมีการนำปูนมาก่อสร้างเป็นโครงสร้างถาวรโดยไม่ได้รับอนุญาตจากกทม. ก็จะให้สำนักการโยธาและเขตแบ่งช่องให้ถูกต้องตามแบบ อาทิ การกำหนดความกว้างและยาวของช่องแผงค้า ขยายช่องแผงค้าให้รองรับผู้ค้าเดิมได้ ทั้งหมด ประมาณ 100 กว่าแผง เป็นต้น คาดการออกแบบผังใหม่จะแล้วเสร็จภายใน 25 พฤษภาคม


“ระหว่างการออกแบบผังการค้าใหม่ นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป กทม.จะอนุโลมผู้ค้าให้ขายสินค้าได้ภายใน 10-14 วันเท่านั้น โดยให้เจ้าหน้าที่เทศกิจเข้าไปดูแลความเรียบร้อยไม่ให้ตั้งแผงค้าล้ำผิวจราจร เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่เพื่อประชาสัมพันธ์และแจ้งผู้ค้าแล้ว บางส่วนทราบแล้วว่าภายใน 10-14 วัน จะต้องยุติการค้าบริเวณดังกล่าว ส่วนปัญหาดราม่าที่จะเกิดขึ
้นระหว่างการจัดระเบียบนั้น กทม.ชี้แจงว่าจะการจัดระเบียบผู้ค้าเพื่อประโยชน์ส่วนรวม โดยผมและนายวันชัย ถนอมศักดิ์ รองปลัดกทม.จะลงพื้นที่ด้วยตนเอง เพื่อทำความเข้าใจผู้ค้าด้วยตนเอง รวมถึง ในวันที่จัดกิจกรรมบิ๊กคลีนนิ่ง เพื่อทำการค้าย้ายและทำความสะอาดบริเวณดังกล่าวในวันที่ 24 พฤษภาคม เวลา 13.00 น.เป็นต้นไป รวมถึงจะประสานฝ่ายสุขาภิบาลและสิ่งแวดล้อมเขตเข้ามาดูแลด้านสุขอนามัยของผู้ค้าที่ประกอบอาหารด้วย” นายสกลธีกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าภายหลังจัดระเบียบแล้ว กทม.ยืนยันว่าจะไม่มีการตั้งแผงค้าบริเวณริมถนนโยธิน นายสกลธี กล่าวว่า กทม.ยืนยันว่าแผงค้าบริเวณริมถนนพหลโยธินและผิวจราจรจะต้องไม่มีแผงค้า ส่วนศูนย์การค้าเดอะวัน เนื่องจากมีการเช่าพื้นที่ถูกต้อง แต่ตามสัญญาบริเวณข้างตึกจะต้องมีโครงสร้างยื่นออกมาจากตัวอาคารได้ประมาณ 1-2 เมตรก็จะประสานให้แก้ไข นอกจากนี้ ยังได้ประสานสถานีตำรวจนครบาล (สน.) พหลโยธินในการดูแลรถตู้โดยสาร ไม่ให้จอดแช่เป็นเวลานาน โดยเฉพาะช่วงเย็นส่งผลให้การจราจรติดขัด ร่วมกับทหารและกอร.รมน.กทม. ก่อนขยายพื้นที่ไปยังพื้นที่ที่ประสบปัญหาเดียวกัน ประมาณ 5-6 แห่ง อาทิ ศูนย์การค้าอิมพิเรียลเวิร์ลลาดพร้าว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เอกชนทั้งหมด กทม.ก็จะประสานความร่วมมือลักษณะเดียวกัน โดยให้ผู้ประกอบdารเป้นผู้ดำเนินการ และหากไม่สามารถทำได้ กทม.จะขอเข้าไปจัดระเบียบแผงค้า

“ปัญหาดังกล่าวเรื้อรังมานาน เกิดปัญหาผู้ค้าปล่อยเช่าพื้นที่ต่อให้ผู้ค้าอีกรายและทำกันมาหลายครั้ง ส่วนตัวมีความเห็นว่า ถ้าผู้ค้าไม่ได้จ่ายผลประโยชน์ให้กับใครผู้ค้าคงค้าขายลำบาก อาจมีกลุ่มคนเข้าไปมีส่วนเกี่ยวเรื่องผลประโยชน์ มีกลุ่มคนเข้าไปเก็บเงินผู้ค้า ทำให้ผู้ค้าเข้าใจว่าต่างมีสิทธิค้าขายได้ เมื่อถามไปยังรฟท.ถึงการเกี่ยวข้องกับผลประโยช
น์ รฟท.แจ้งว่าไม่ทราบเรื่อง สำนักงานเขตจตุจักรก็ไม่ทราบเรื่องเพราะไม่ใช่พื้นที่รับชอบ จึงไม่ทราบว่าแท้จริงใครได้รับผลประโยชน์ อย่างไรก็ตาม กทม.ยืนยันว่าไม่ต้องสนใจเรื่องผลประโยชน์ทั้งสิ้น โดยให้นำผู้ค้าทั้งหมดเข้าระบบภายใต้การบริหารของรฟท.ในรูปแบบจ่ายค่าเช่าให้รฟท.โดยตรง” นายสกลธี กล่าว
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 22/05/2018 7:38 pm    Post subject: Reply with quote

อดีตนายสถานีรถไฟ ยักยอกเงินหลวง-หอบเงินค่าเช่าที่หนีเข้าประเทศเพื่อนบ้านลอยนวล
วันที่ 19 พฤษภาคม 2561 - 16:13 น.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 23/05/2018 10:56 am    Post subject: Reply with quote

กสิกรหนุนชาวจีนเที่ยวจตุจักร
อังคารที่ 22 พฤษภาคม 2561 เวลา 17.00 น.

กสิกรไทยจับมือการรถไฟฯ เพิ่มยอดขายผู้ค้าจตุจักร อัดแคมเปญเคพลัสช้อป รับพฤติกรรมนักท่องเที่ยวจีน


นายพิพิธ เอนกนิธิ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารร่วมมือกับการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) เพื่อช่วยผลักดันตลาดนัดจตุจักรให้นักท่องเที่ยวรู้จักมากขึ้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน ที่ปัจจุบันเข้ามาท่องเที่ยวในไทยจำนวนมาก โดยจะมีแคมเปญโปรโมชั่น ร่วมกับแอปพลิเคชั่นเคพลัสช้อปของธนาคาร และอาลิเพย์ วีแชทเพย์ ซึ่งเป็นแอปที่ชาวจีนนิยมใช้ ผ่านการใช้จ่าย ชำระเงินคิวอาร์โค้ด เครื่องอีดีซี โดยคาดว่านักท่องเที่ยวจีนจะใช้จ่ายที่จตุจักรเพิ่ม 20%

สำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเปิดร้านในตลาดนัดจตุจักรกว่า 10,000 ราย โดยตลาดนัดจตุจักรถือเป็นแหล่งช้อปปิ้งยอดนิยมแห่งหนึ่งของนักท่องเที่ยวจีน พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวจีนกว่า 90% จะเลือกใช้การชำระเงินผ่านมือถือเมื่อเดินทางไปต่างประเทศ เพราะความสะดวกในการใช้งานและโปรโมชันเพิ่มเติมที่ได้รับจากการใช้แอปพลิเคชันการชำระเงิน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักท่องเที่ยวจีนใช้จ่ายมากขึ้น แต่อุปสรรคสำคัญคือ จำนวนผู้ประกอบการที่รับชำระเงินด้วยวิธีดังกล่าวในต่างประเทศมีอยู่อย่างจำกัด ซึ่งแอปพลิเคชันเคพลัสช้อป ของธนาคารกสิกรไทยสามารถรับชำระเงินได้ทั้ง อาลิเพย์ และวีแชทเพย์ รองรับพฤติกรรมนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี

ทั้งนี้ในปัจจุบันยอดรับชำระเงินอาลิเพย์ และวีแชทเพย์ ของธนาคารกสิกรไทย ทั้งผ่านอีดีซี คิวอาร์โค้ด และแอปเคพลัสช้อป สูงสุดเป็นอันดับ 1 ของประเทศ มูลค่า 11,000 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 20% ต่อเดือน โดยธุรกิจท่องเที่ยวเป็นธุรกิจที่สำคัญต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทย และนักท่องเที่ยวจีนเป็นกลุ่มที่เดินทางเข้ามาเที่ยวในไทยมากที่สุด โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าในปี 61 จำนวนนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยมี10.4-10.6 ล้านคน เติบโต 6-8% รายได้จากนักท่องเที่ยวจีนจะมีมูลค่า 580,000 ล้านบาท เติบโต 11% จึงเป็นกลุ่มนักช้อปที่มีกำลังซื้อสูงและสร้างรายได้ให้กับธุรกิจท่องเที่ยว
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 25/05/2018 6:22 pm    Post subject: Reply with quote

กทม.ลั่น 29 พ.ค.ต้องไม่มีผู้ค้าหน้า “เซ็นทรัลลาดพร้าว” รุกทางเท้า-ถนน จัดสรรพื้นที่จุดผ่อนผันใหม่
โดย: MGR Online
เผยแพร่: 24 พฤษภาคม 2561 เวลา 16:00:
ปรับปรุง: 24 พฤษภาคม 2561 เวลา 17:42:


กทม. อนุโลมแผงลอยหน้า “เซ็นทรัลลาดพร้าว - เดอะวันพาร์ค” ได้ถึงวันที่ 28 พ.ค. นี้ ลั่น 29 พ.ค. เป็นต้นไป ห้ามขายบนทางเท้าและผิวจราจรเด็ดขาด เผยให้ขายได้บริเวณทางโค้งออกถนนวิภาวดีที่เป้นจุดผ่อนผันเดิม เตรียมจัดสรรพื้นที่ใหม่ให้รองรับผู้ค้าได้มากขึ้น ด้านผู้ค้าพร้อมปฏิบัติตาม หวังจัดระเบียบแล้วสภาพดีขึ้น

วันนี้ (24 พ.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) พร้อมด้วย นายวันชัย ถนอมศักดิ์ รองปลัด กทม. และนายปกครอง พลเมือง ผู้อำนวยการเขตจตุจักร นำเจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความสะอาดและสิ่งแวดล้อม เจ้าหน้าที่เทศกิจ ลงพื้นที่บริเวณศูนย์การค้าเดอะวันพาร์ค และห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว เพื่อตรวจความเรียบร้อย การแก้ไขปัญหาการทำการค้าบนทางเท้าและผิวจราจร พร้อมทำความสะอาดพื้นที่ครั้งใหญ่ ภายหลังที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ให้ กทม. เข้ามาดูแลและบริหารจัดการพื้นที่ดังกล่าวแทน

นายสกลธี กล่าวว่า จากการประชุมร่วมกับ ร.ฟ.ท. สถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน กอ.รมน.กทม. และตัวแทนกลุ่มผู้ค้าบริเวณดังกล่าวเมื่อวันที่ 21 พ.ค. 2561 ซึ่งเห็นตรงกันว่าตั้งแต่วันที่ 29 พ.ค. 2561 เป็นต้นไป จะต้องไม่มีการตั้งวางและจำหน่ายสินค้าบนทางเท้าและพื้นผิวจราจร บริเวณหน้าศูนย์การค้าเดอะวันพาร์ค และ หน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว ถนนพหลโยธินขาออกตลอดทั้งแนว เพื่อให้ประชาชนสามารถสัญจรได้อย่างสะดวก ปลอดภัย และแก้ไขความเดือดร้อนของประชาชน หลังจากที่มีการร้องเรียนเข้ามาตลอด หากผู้ใดฝ่าฝืนก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งที่ผ่านมาสำนักงานเขตจตุจักรได้ประสานความร่วมมือและทำความเข้าใจกับผู้ค้าบริเวณดังกล่าวแล้ว โดยจะอนุโลมให้ทำการค้าได้ถึงวันที่ 28 พ.ค. 2561 เท่านั้น ยกเว้นที่เป็นเต็นท์ลูกเต๋า ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ของห้างเดอะวันพาร์ค ยังสามารถขายได้ แต่ กทม.จะขอความร่วมมือจัดระเบียบให้เรียบร้อย

นายสกลธี กล่าวว่า หลังจากนี้ จะย้ายผู้ค้าไปทำการค้าด้านในบริเวณมุมโค้งที่จะไปออกถนนวิภาวดี ซึ่งเป็นพื้นที่จุดผ่อนผันเดิมที่อนุญาตให้ขายได้ สามารถรองรับผู้ค้าได้ 70 แผง แต่เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีผู้ค้าเดิมทำการค้าอยู่ประมาณ 79 ราย ขณะที่ผู้ค้าที่ถูกจัดระเบียบมีประมาณ 59 ราย จึงอาจต้องมีการลดขนาดแผงค้าลงและบริหารจัดการพื้นที่ใหม่ เพื่อให้สามารถรองรับผู้ค้าที่จะย้ายเข้ามาเพิ่ม ซึ่งขณะนี้สำนักงานเขตจตุจักร และ ร.ฟ.ท. อยู่ระหว่างการหารือร่วมกันในการบริหารจัดการพื้นที่และจัดสรรรายชื่อผู้มีสิทธิรายใหม่ที่จะย้ายเข้าไปทำการค้าบริเวณด้านในให้เหมาะสม โดยจะพยายามจัดพื้นที่รองรับให้เพียงพอกับจำนวนผู้ค้า ซึ่งสงวนสิทธิ์ให้ผู้ค้าในพื้นที่จัดระเบียบเท่านั้น โดยมอบหมายให้สำนักงานเขตจตุจักรทำบัญชีผู้ค้าที่อยู่ในพื้นที่จัดระเบียบ

“หลังจัดระเบียบจะไม่ให้ผู้ค้ากลับมาขายบนฟุตปาธ หรือบนผิวจราจรเด็ดขาด ขณะเดียวกัน กทม. จะปรับภูมิทัศน์ทางเท้า ซึ่งชำรุดหลายจุดให้สวยงามและใช้งานได้ดีขึ้น นอกจากนี้ ได้ประสาน สน.พหลโยธิน กวดขันรถตู้ที่มาจอดหน้าศูนย์การค้าเดอะวันพาร์ค และ เซ็นทรัลลาดพร้าว ไม่ให้จอดแช่นาน เพราะตรงนี้ไม่ใช่วินรถตู้” นายสกลธี กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานเขตจตุจักรได้ทำประกาศเรื่องห้ามขายหรือจำหน่ายสินค้าบนทางเท้าและผิวจราจรบริเวณหน้าศูนย์การค้าเดอะวันพาร์คและห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพลาซาลาดพร้าว ถนนพหลโยธินตลอดแนว เพื่อแจ้งให้แก่ผู้ค้าบริเวณดังกล่าวรับทราบอย่างเป็นทางการ ว่า วันที่ 29 พ.ค. 2561 เป็นต้นไป ห้ามมีการตั้งวางและจำหน่ายสินค้าบนทางเท้าและพื้นผิวการจราจรอีก

นางศิริพร เชื้อโพล้ง ผู้ค้ารายหนึ่งบริเวณด้านหน้าศูนย์การค้าเดอะวันพาร์ค กล่าวว่า ตนมาขายของที่บริเวณดังกล่าวมา 10 ปีแล้ว โดยเริ่มแรกเป็นพี่สาวมาขายของก่อน ได้พื้นที่ 1 ล็อก และตนตามมาค้าขายได้พื้นที่อีก 1 ล็อกข้างกัน รวมเป้น 2 ล็อก พื้นที่ประมาณ 3 เมตรกว่าๆ ซึ่งพื้นที่ที่ตนขายของนั้นอยู่ในจุดผ่อนผันที่ขายได้ ซึ่งการจัดระเบียบในครั้งนี้ยอมรับว่าอาจมีผลกระทบบ้าง เพราะอาจต้องมีการแบ่งพื้นที่กันใหม่ โดยล่าสุดทางสำนักงานเขตจตุจักรก็ได้มีการมาตรวจสอบและเช็กรายชื่อเจ้าของแผงแล้วว่าเป็นใครบ้าง แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร ทั้งนี้ ยอมรับว่าบริเวณดังกล่าวสภาพแวดล้อมก็ไม่ค่อยเอื้ออำนวยกับการค้าขาย แต่ดีตรงที่ว่าไม่เสียค่าเช่า ก็ได้แต่หวังว่าหลังจากที่ทาง กทม. เข้ามาจัดระเบียบแล้วทุกอย่างจะดีขึ้น มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยขึ้น ก็เชื่อว่าหากดำเนินการดีๆ ก็จะดึงดูดให้มีคนมาเดินซื้อของมากยิ่งขึ้น แม้จะจัดสรรพื้นที่ค้าขายบริเวณนี้ใหม่ หากได้รับพื้นที่น้อยลงก็คงต้องยอมรับการดำเนินการ เพราะดีกว่าไม่มีที่ขายเลย

ขณะที่ น.ส.ศุภลักษณ์ ผดาวรรณ ผู้ค้าร้านน้ำบริเวณด้านหน้าศูนย์การค้าเดอะวันพาร์ค กล่าวว่า หาก กทม. เข้ามาจัดระเบียบ โดยให้ออกจากพื้นที่ภายในวันที่ 29 พ.ค. 2561 ที่ห้ามไม่ให้มีการค้าขายที่รุกล้ำทางเท้าและถนน ก็คงได้รับผลกระทบโดยตรง เพราะร้านที่ขายอยู่ก็ถือว่าขายอยู่ริมทางเท้าและถนน แต่ถึงวันนั้นก็คงต้องปฏิบัติตาม ทั้งนี้ ตนเข้ามาขายบริเวณดังกล่าวได้ประมาณ 5 - 6 ปี จากการแนะนำของเพื่อน ก็มาขายพร้อมกับผู้ค้ารายอื่นๆ ทั้งนี้ หาก กทม. จัดสถานที่ค้าขายใหม่ก็พร้อมจะไป เพราะตนก็ลาออกจากงานเพื่อมาค้าขายแล้วกว่า 1 ปี ส่วนที่ว่าจะมีการจัดสรรพื้นที่ผ่อนผันให้ค้าขายใหม่นั้น ก็เชื่อว่าผู้ค้ารายเดิมที่เขามีล็อกในจุดนั้นอยู่แล้วคงไม่ยอม เพราะหากได้รับพื้นที่น้อยลงเขาก็มีผลกระทบเช่นกัน
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 25/05/2018 7:55 pm    Post subject: Reply with quote

กลุ่มผู้ค้าเดอะ วัน พาร์ค ร้อง กทม.ไล่ที่ หยุดเลิกค้าภายใน 7 วัน
โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม
เผยแพร่: 25 พฤษภาคม 2561 เวลา 13:01:
ปรับปรุง: 25 พฤษภาคม 2561 เวลา 14:00:

MGR Online - กลุ่มผู้ค้าหน้าห้างเดอะวัน พาร์ค เขตจตุจักร รวมตัวร้องขอความเป็นธรรม กทม. หลังมีคำสั่งให้กลุ่มผู้ค้าหยุดทำการค้าขายภายใน 7 วัน ทั้งที่ค้าขายนานกว่า 20 ปี

วันนี้ (25 พ.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้า เดอะ วัน พาร์ค แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ กลุ่มผู้ค้าหน้าห้างดังกล่าวมารวมตัวกันจำนวนกว่า 50 คน เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรม หลังมีคำสั่งจากกรุงเทพมหานครให้กลุ่มผู้ค้าหยุดทำการค้าขายภายใน 7 วัน

โดยนางกัญจน์รัตน์ ดีโนนโพธิ์ อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5/32 ม.2 แขวงคลองถนน เขตสายไหม กทม. ประกอบอาชีพขายน้ำปั่น ตัวแทนกลุ่มผู้ค้าที่ได้รับความเดือดร้อน เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากการประชุมหารือเมื่อวันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยมีสำนักงานเขตจตุจักร การรถไฟแห่งประเทศไทย สน.พหลโยธิน กอ.รมน.กทม. หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และตัวแทนกลุ่มผู้ค้าบริเวณดังกล่าว ได้ประชุมหารือกำหนดแนวทางผู้ค้าด้านหน้าห้างเดอะ วัน พาร์ค และห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว ที่ห้องประชุมรองผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานคร เพื่อกำหนดนโยบายการวางสินค้าค้าขายบริเวณดังกล่าว

ต่อมาวันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้มีหนังสือจากทางประกาศของสำนักงานเขตจตุจักร เรื่อง ห้ามจำหน่ายหรือขายสินค้าบนทางเท้าและพื้นผิวการจราจร โดยกำหนดให้กลุ่มผู้ค้าบริเวณดังกล่าวต้องขนย้ายออกให้หมดในวันที่ 29 พ.ค.นี้ ทำให้เมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา ตนได้ทำหนังสือร้องขอความเป็นธรรมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานคร ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย ผู้อำนวยการเขตจตุจักร เพื่อร้องขอความเป็นธรรม หลังพ่อค้าแม่ค้าในบริเวณด้านหน้าศูนย์การค้าห้างเดอะ วัน พาร์ค ได้รับความเดือดร้อนจากคำสั่งดังกล่าว

นางกัญจน์รัตน์เปิดเผยอีกว่า ตนเองเป็นตัวแทนกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าที่ได้อาศัยพื้นที่บริเวณริมฟุตปาท หน้าห้างเดอะ วัน พาร์ค เป็นที่ค้าขายนานกว่า 20 ปีแล้ว ที่ผ่านมาทางพวกเราได้ให้ความร่วมมือกับทาง กทม. ด้วยดีเสมอมา แต่มาวันนี้ทางผู้ใหญ่ในเขตกลับไปหลงเชื่อกลุ่มนายทุน ที่อ้างว่าผู้คนไม่สามารถสัญจรไปมาได้ คับแคบ แต่แท้ที่จริงแล้วเป็นความต้องการของกลุ่มนายทุนที่ต้องการให้พวกตนออกไปจากที่นี่ซึ่งเป็นที่ทำมาหากินของเรา ทำให้พวกเรามีรายได้ส่งลูกๆ เรียน และได้นำเงินที่ค้าขายไปจุนเจือครอบครัว โดยกลุ่มนายทุนหวังให้พวกตนไปเช่าแผงบริเวณของพวกเขาที่อยู่ลึกไปด้านหลัง ซึ่งเป็นจุดที่ไม่ค่อยมีลูกค้า

อย่างไรก็ตาม ผู้ค้ายินดีทำตามเงื่อนไขของทางราชการ แต่ขอให้มีรายละเอียดและข้อเท็จจริงให้กลุ่มผู้ค้าให้เข้าใจว่าทางราชการมีเจตนาอย่างจริงจังในการช่วยเหลือกลุ่มผู้ค้า ต้องการแก้ไขปัญหา และมีสถานที่รองรับให้ค้าขายได้ด้วย จึงอยากขอให้ทางราชการหยุดหรือชะลอการห้ามจำหน่ายสินค้าออกไปเสียก่อน

//--------------------------------

เมินผู้ค้าประท้วง กทม.ย้ำ 29 พ.ค.ห้ามมีแผงลอยหน้า "เซ็นทรัลลาดพร้าว-เดอะวันพาร์ค" ชี้ไม่มีสิทธิขายตั้งแต่แรก
โดย: MGR Online
เผยแพร่: 25 พฤษภาคม 2561 เวลา 15:55:



รองผู้ว่าฯ กทม.ย้ำ 29 พ.ค.ห้ามตั้งแผงลอยบนทางเท้า-ถนน หน้าเดอะวันพาร์คและเซ็นทรัลลาดพร้าว หลังผู้ค้ารวมตัวประท้วง ชี้ไม่มีสิทธิขายตั้งแต่แรก และไม่เคยจ่ายเงินให้ ร.ฟ.ท.ในฐานะเจ้าของพื้นที่ ย้ำพยายามจัดสรรพื้นที่ผ่อนผันให้ขายได้มากที่สุด อยู่ระหว่างทำผังใหม่

จากกรณีมีกลุ่มผู้ค้าหน้าศูนย์การค้าเดอะวันพาร์ค เขตจตุจักร ออกมารวมตัวเรียกร้องขอความเป็นธรรม หลังกรุงเทพมหานคร (กทม). ออกคำสั่งให้ผู้ค้าที่ขายบริเวณทางเท้าหรือรุกลงบนพื้นผิวจราจร ถนนพหลโยธิน ต้องยุติการขายภายในวันที่ 29 พ.ค.

วันนี้ (25 พ.ค.) นายสกลธี ภัททธิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ตนได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวแล้ว อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่า ในวันที่ 29 พ.ค.นี้ จะต้องไม่มีการขายบนทางเท้าและบนถนนอีกต่อไป ซึ่งขณะนี้ทางสำนักงานเขตจตุจักรกำลังทำผังพื้นที่ค้าขายใหม่บริเวณหัวโค้งออกถนนวิภาวดี ซึ่งทางการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ได้ผ่อนผันให้ขายได้ ซึ่งก็จะพยายามให้ผู้ค้าที่ล้ำลงมาบนทางเท้าและถนน ทั้งตรงโค้งและหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพลาซ่าลาดพร้าวถนนพหลโยธิน ได้เข้ามาค้าขายบริเวณนี้ให้ได้มากที่สุด ซึ่งก็จะทำให้ดีที่สุด ส่วนจะรองรับได้ทั้งหมดหรือไม่ก็คงต้องรอดูผังใหม่เสียก่อน ซึ่งถ้าเรียบร้อยแล้วก็ให้รีบรายงานเข้ามา

"ผู้ค้าที่ขายอยู่ทั้งหมดตอนนี้ต้องชี้แจงก่อนว่า เดิมไม่มีสิทธิที่จะขาย ไม่ว่าจะขายมานานเท่าไรก็ตาม บางคน 10-20 ปี แต่ก็ไม่ได้มีสิทธิที่จะขายในพื้นที่นั้น อีกทั้งก็ไม่เคยต้องจ่ายค่าเช่าให้กับเจ้าของพื้นที่คือ ร.ฟ.ท.มาก่อนเลย การจะมาประท้วงเรียกร้องแบบนี้หรือเรียกร้องให้ได้มากขึ้นกว่าเดิมก็ไม่น่าจะถูกต้อง ส่วนการเข้ามาจัดระเบียบ เราก็เห็นใจ และท่านผู้ว่าฯ ก็กำชับให้ผมพยายามดูให้ผู้ค้าเดิมไม่ให้เดือดร้อน ซึ่งก้ให้ทางสำนักงานเขตไปดูแล้วว่าใครค้าขายอยู่แล้วบ้าง คนที่ขายจริงๆ ไม่ใช่เอาไปให้เขาเช่าต่อ ก็จะให้เข้ามาขายบริเวณหัวโค้งให้ได้มากที่สุด" นายสกลธี กล่าว

เมื่อถามว่าต้องให้เขตลงไปทำความเข้าใจเพิ่มเติมหรือไม่ นายสกลธี กล่าวว่า ทางเขตจตุจักรก็ลงไปทำความเข้าใจกับผู้ค้าเรื่อยๆ อยู่แล้ว ก่อนหน้านี้ก็ลงไปและพยายามชี้แจงผู้ค้าให้เข้าใจ ซึ่งจริงๆ เขาไม่มีสิทธิขาย จะห้ามตั้งแต่วันนี้ก็สามารถทำได้ แต่เราก็เห็นใจ พยายามหาที่ให้เขา เพราะอย่างน้อยก็ช่วยให้เขามีรายได้ และคนมีรายได้น้อยได้เลือกซื้ออาหารหรือสิ่งของที่ถูกกว่าในห้าง แต่ถ้าจะมารวมตัวต่อรองอ้างสิทธิที่ตัวเองไม่มีคงไม่สามารถช่วยได้ ส่วนจะขยายพื้นที่เพิ่มเติมจากหัวโค้งหรือไม่นั้น ตนไม่แน่ใจว่าจะได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งก็ได้ให่ทางเขตจตุจักรหารือกับ ร.ฟ.ท.อยู่ ส่วนเรื่องสิทธิหรือการเก็บค่าเช่าต่างๆ ตนบอกแต่แรกแล้วว่า กทม.ไม่เกี่ยวเรื่องผลประโยชน์ แต่อยากเห็นความเรียบร้อยเป็นระเบียบเท่านั้น
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 31/05/2018 11:36 am    Post subject: Reply with quote

คนร.ไฟเขียวรฟท.ตั้งบริษัทลูก บริหารที่ดินเพิ่มรายได้ลดขาดทุน
วันพฤหัสบดี ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2561, 06.00 น.



พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.)พิจารณาแผนงานของรัฐวิสาหกิจ 6 แห่ง ที่อยู่ในระหว่างแผนฟื้นฟูกิจการโดยเฉพาะการบินไทยหลังมีผลประกอบการไตรมาสแรกดีขึ้นแต่ยังเผชิญกับต้นทุนราคาน้ำมันสูงขึ้นถึง 17% บอร์ดคนร.สั่งการให้ลดต้นทุนบริหารจัดการบางส่วนในการซ่อมบำรุงแต่อยู่ในมาตรฐานความปลอดภัย ส่วนการจำหน่ายตั๋วพิจารณาโควตาจากตัวแทนไปขายผ่านออนไลน์เพิ่ม เพื่ออำนวยความสะดวกผู้โดยสาร และเร่งรัดตั้งศูนย์ซ่อมภาคตะวันออกรองรับท่าอากาศยานอู่ตะเภา

นายประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กล่าวว่าที่ประชุมคนร.สั่งการให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.)จัดทำแผนเส้นทางการเดินรถระยะปานกลางระยะยาว 5,10,20 ปี เพื่อเชื่อมโยงรถไฟฟ้ากับประเทศเพื่อนบ้านรองรับแผนก่อสร้างรถไฟฟ้าหลายเส้นทางกระจายทั่วประเทศและเห็นชอบร.ฟ.ท.ตั้งบริษัทบริหารสินทรัพย์ เพื่อนำที่ดินไม่ใช่แปลงขนาดใหญ่กระจายอยู่ทั่วประเทศมาจัดสรรหาประโยชน์สร้างมูลค่าเพิ่มตัดผลขาดทุนเพื่อเสนอบอร์ดคนร.ในเดือนมิถุนายน

ส่วนธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยรายงานที่ประชุมว่าร่างกฎหมายฉบับใหม่ผ่านความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)แล้วรอประกาศบังคับใช้ในราชกิจจานุเบกษา หลังจากนั้นกระทรวงการคลังพร้อมเพิ่มทุนให้ 2,000 ล้านบาท และใช้เงินจากกองทุนสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ 16,100 ล้านบาท คุมการปล่อยสินเชื่อคุณภาพ หลังจากปล่อยสินเชื่อใหม่ได้แล้ว 3,000 ล้านบาท ในเดือนพฤษภาคม จากเป้าหมาย 8,000 ล้านบาท

สำหรับการฟื้นฟูกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) สั่งการให้หารือกับสำนักบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) จากปัญหาภาระหนี้แสนล้านบาท ขสมก.ต้องแบกรับภาระเท่าไร กระทรวงการคลังรับภาระเท่าไร เพราะมีปัญหาเรื่องเงินทุนหมุนเวียน จึงต้องบริหารจัดการรายได้เพิ่มและอำนวยความสะดวกผู้โดยสาร เช่น การใช้แอพพลิเคชั่นดูรถเมล์เข้าจอดป้ายเวลาเท่าไร เดินทางถึงไหน การจ่ายเงินผ่าน QR Code

นายชาญวิทย์ นาคบุรี รองผู้อำนวยการ สคร. กล่าวถึงความคืบหน้าการตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์) หรือ TFF ขณะนี้อัยการได้ตรวจร่างสัญญาการโอนและรับสิทธิ์โอนรายได้ (RTA) โครงการทางพิเศษฉลองรัฐ (รามอินทรา-อาจณรงค์) และทางพิเศษบูรพาวิถี (บางนา-ชลบุรี) เพื่อโอนรายได้ในอนาคต 45% ให้กับกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ เป็นเวลา 30 ปี สำหรับจ่ายเป็นผลตอบแทนให้กับนักลงทุน สคร.จึงเตรียมเสนอแผนขายหน่วยลงทุนให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) พิจารณาเดือนมิถุนายนนี้ จากนั้นสรุปแผนทั้งหมดเสนอ ครม.พิจารณา คาดว่าจะระดมทุนได้ในครึ่งปีหลัง
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 01/06/2018 1:02 am    Post subject: Reply with quote

ผู้ค้าจตุจักร ลั่นสู้คดีถึงที่สุด แม้ส่อพ่าย! หลังศาล ปค.สูงสุด ชี้ ร.ฟ.ท.มีอำนาจบริหาร-ขึ้นค่าเช่า
โดย: MGR Online
เผยแพร่: วันพฤหัสบดี ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2561, 17:27:
ปรับปรุง: วันพฤหัสบดี ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2561,18:50:


ผู้ค้าจตุจักรส่อพ่ายทุกคดี หลังศาล ปค.สูงสุด วินิจฉัย ร.ฟ.ท. มีอำนาจบริหารตลาดนัด - ขึ้นค่าเช่าแผงค้า เพื่อเอารายได้มาบริหารกิจการรถไฟ ด้านกลุ่มผู้ค้าอีก 807 ราย ยันสู้คดีถึงที่สุด ยกคำวินิจฉัยกฤษฎีกาที่ระบุ รฟม. เอาที่ดินจตุจักรทำตลาดไม่ได้ขึ้นอุทธรณ์

วันนี้ (31 พ.ค.) ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษายกฟ้องในคดีที่ นายร่มเกล้า เอี่ยมโพธิ์ และพวกรวม 146 ราย ซึ่งเป็นผู้ค้าในตลาดนัดจตุจักร ยื่นฟ้องการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. และ ผอ.บริหารพื้นที่ตลาดนัดจตุจักร เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 - 3 กรณีขอให้ศาลเพิกถอนประกาศการปรับขึ้นอัตราค่าเช่าแผงค้าในตลาดนัดจตุจักร เหตุเกิดเมื่อปี 2555 โดยศาลให้เหตุผลว่า ตาม พ.ร.บ. การรถไฟแห่งประเทศไทย 2494 ได้บัญญัติให้ ร.ฟ.ท. มีอำนาจที่จะกระทำการใดๆ ภายในขอบวัตถุประสงค์ที่จะนำมาซึ่งความเจริญของกิจการรถไฟ เพื่อประโยชน์แห่งรัฐและประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการจัดหา เช่า ให้เช่า เช่าซื้อ ฯลฯ และดำเนินงานเกี่ยวกับทรัพย์สินใดๆ เพื่อประกอบธุรกิจเกี่ยวกับกิจการรถไฟและธุรกิจอื่นที่เกี่ยวเนื่องกับกิจการรถไฟอันสอดคล้องกับสิทธิในทรัพย์สินของ ร.ฟ.ท. ที่ได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ 2550 และตามหลักกฎหมายแพ่ง ดังนั้น การที่ ร.ฟ.ท. มาดำเนินการกิจการตลาดนัดจตุจักร หลังไม่ต่อสัญญาให้ กทม. จึงเป็นการยกเลิกวัตถุประสงค์การจัดตลาดนัดเพื่อส่งเสริมการประกอบอาชีพให้กับราษฎรตาม พ.ร.บ. บริหารราชการกรุงเทพมหานคร 2528 การบริหารตลาดนัดจตุจักรในระยะต่อมาจึงเข้าข่ายเป็นการสร้างรายได้ให้กับ ร.ฟ.ท. เพื่อประโยชน์ในการนำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งในการจัดทำภารกิจด้านการบริการสาธารณะเกี่ยวกับการคมนาคมขนส่งให้บรรลุผล ตามมาตรา 6 ประกอบมาตรา 9 ของ พ.ร.บ. การรถไฟแห่งประเทศไทย 2494 ร.ฟ.ท. จึงมีอำนาจนำที่ดินดังกล่าวออกให้เช่า หรือดำเนินกิจการตลาดนัดจตุจักรได้ และการกำหนดอัตราค่าเช่าแผงค้าใหม่เป็นไปตามหลักอุปสงค์และอุปทานของตลาด เป็นดุลพินิจของ ร.ฟ.ท. ในการกำหนดอัตราเช่าที่เห็นว่าเหมาะสมได้ ศาลปกครองสูงสุดจึงไม่เห็นด้วยที่ศาลปกครองกลางพิพากษาให้เพิกถอนประกาศของ ร.ฟ.ท. จึงพิพากษากลับเป็นยกฟ้อง

อย่างไรก็ตาม ผู้ค้าตลาดนัดจัตุจักรอีก 807 คน นำโดย นายวีระพจน์ เพชรชำนาญ ก็ได้มีการยื่นฟ้องประเด็นเดียวกัน หลัง ร.ฟ.ท. มีประกาศปรับขึ้นค่าเช่าแผงค้าในปี 2557 ซึ่งศาลปกครองกลางก็ได้มีคำพิพากษาในวันนี้ให้เพิกถอนประกาศ ร.ฟ.ท. ที่ จต. 159/2557 ลงวันที่ 20 ก.พ. 57 ที่กำหนดเงื่อนไขการต่อสัญญาเช่า ว่า ผู้เช่าที่ยื่นฟ้อง ร.ฟ.ท. ต่อศาลปกครองและขอคุ้มครองชั่วคราวไม่ชำระค่าเช่าตามที่ร.ฟ.ท. กำหนด ร.ฟ.ท. ไม่รับพิจารณาการต่อสัญญา จนกว่าคดีจะถึงที่สุดหรือศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น เพื่อตัดสิทธิการต่อสัญญาเช่าให้กับผูฟ้องคดีทั้งหมด โดยให้มีผลย้อนหลังไปถึงวันที่ 20 ก.พ. 57 ส่วนคำขออื่นให้ยกฟ้อง โดยศาลเห็นว่า ร.ฟ.ท. มีอำนาจในการจัดหาประโยชน์ในสินทรัพย์ของตนเอง รวมถึงดำเนินธุรกิจอื่นที่เป็นประโยชน์ต่อ ร.ฟ.ท. ได้ เมื่อการจัดหารายได้ตลาดนัดจตุจักร เป็นการสร้างรายได้ให้แก่ ร.ฟ.ท. ตาม พ.ร.บ. การรถไฟแห่งประเทศไทย 2494 ร.ฟ.ท. จึงมีอำนาจในการบริหารกิจการตลาดนัดจตุจักรตามนัยคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อ. 529/2560 ที่ได้วินิจฉัยไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่า ร.ฟ.ท. มีอำนาจบริหารกิจการตลาด แต่การที่ ร.ฟ.ท. กำหนดเงื่อนไขว่า ผู้เช่าแผงค้าที่ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองและไม่ได้รับการพิจารณาต่อสัญญาจนกว่าคดีจะถึงที่สุดนั้นเป็นการกำหนดเงื่อนไขสัญญาเช่าที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลปกครองจึงต้องพิพากษาให้เพิกถอนเงื่อนไขดังกล่าว

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังฟังคำพิพากษาตัวแทนกลุ่มผู้ค้าในคดีนี้ประมาณ 300 คน ซึ่งเดินทางมาฟ้งคำพิพากษามีสีหน้าไม่สู้ดี แต่ก็ยังยืนยันว่า จะต่อสู้คดีจนถึงที่สุด ซึ่ง นายวิชาญ ดวงฤทธิ์ ทนายความผู้รับมอบอำนาจ กล่าวว่า คดีนี้ยังไม่ถึงที่สุด การอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดก็จะยื่นใน 2 ประเด็น คือ 1. กฎหมายไม่ให้อำนาจ ร.ฟ.ท. ในการทำตลาด 2. วัตถุประสงค์ในการเวนคืนที่ดินตลาดนัดจตุจักร เมื่อปี 2520 ก็เพื่อใช้ในกิจการรถไฟ และมีคำวินิจฉัยของคณะกรรมการกฤษฎีกาปี 2524 ว่า การรถไฟไม่สามารถนำที่ดินดังกล่าวไปทำกิจการอื่น นอกเหนือจากทำกิจการรถไฟ
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 01/06/2018 10:32 am    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
ผู้ค้าจตุจักร ลั่นสู้คดีถึงที่สุด แม้ส่อพ่าย! หลังศาล ปค.สูงสุด ชี้ ร.ฟ.ท.มีอำนาจบริหาร-ขึ้นค่าเช่า
โดย: MGR Online
เผยแพร่: วันพฤหัสบดี ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2561, 17:27:
ปรับปรุง: วันพฤหัสบดี ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2561,18:50:

ผู้ค้าจตุจักรส่อแพ้ทุกคดี หลังถูกวินิจฉัย รฟท. มีอำนาจบริหารตลาดนัด
วันพฤหัสบดี ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2561, 20:26:

ผู้ค้าจตุจักรส่อพ่ายทุกคดี หลังศาลปค.สูงสุดวินิจฉัย รฟท. มีอำนาจบริหารตลาดนัด - ขึ้นค่าเช่าแผงค้า เพื่อเอารายได้มาบริหารกิจการรถไฟ ด้านกลุ่มผู้ค้าอีก 807 ราย ยันสู้คดีถึงที่สุด


วันนี้ (31 พ.ค.) ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษายกฟ้องในคดีที่นายร่มเกล้า เอี่ยมโพธิ์ และพวกรวม 146 ราย ซึ่งเป็นผู้ค้าในตลาดนัดจตุจักร ยื่นฟ้องการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ผู้ว่าฯ รฟท. และผอ.บริหารพื้นที่ตลาดนัดจตุจักร เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1-3 กรณีขอให้ศาลเพิกถอนประกาศการปรับขึ้นอัตราค่าเช่าแผงค้าในตลาดนัดจตุจักร

เหตุเกิดเมื่อปี 2555 โดยศาลให้เหตุผลว่า ตามพ.ร.บ.การรถไฟแห่งประเทศไทย 2494 ได้บัญญัติให้รฟท.มีอำนาจที่จะกระทำการใด ๆ ภายในขอบวัตถุประสงค์ที่จะนำมาซึ่งความเจริญของกิจการรถไฟ เพื่อประโยชน์แห่งรัฐและประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการจัดหา เช่า ให้เช่า เช่าซื้อ ฯลฯ และดำเนินงานเกี่ยวกับทรัพย์สินใด ๆ เพื่อประกอบธุรกิจเกี่ยวกับกิจการรถไฟและธุรกิจอื่นที่เกี่ยวเนื่องกับกิจการรถไฟอันสอดคล้องกับสิทธิในทรัพย์สินของ รฟท. ที่ได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ 2550 และตามหลักกฎหมายแพ่ง

ดังนั้นการที่รฟท.มาดำเนินการกิจการตลาดนัดจตุจักร หลังไม่ต่อสัญญาให้กทม. จึงเป็นการยกเลิกวัตถุประสงค์การจัดตลาดนัดเพื่อส่งเสริมการประกอบอาชีพให้กับราษฎรตามพ.ร.บ.บริหารราชการกรุงเทพมหานคร 2528 การบริหารตลาดนัดจตุจักรในระยะต่อมาจึงเข้าข่ายเป็นการสร้างรายได้ให้กับรฟท. เพื่อประโยชน์ในการนำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งในการจัดทำภารกิจด้านการบริการสาธารณะเกี่ยวกับการคมนาคมขนส่งให้บรรลุผล ตามมาตรา 6 ประกอบมาตรา 9 ของพ.ร.บ.การรถไฟแห่งประเทศไทย 2494

รฟท. จึงมีอำนาจนำที่ดินดังกล่าวให้เช่า หรือดำเนินกิจการตลาดนัดจตุจักรได้ และการกำหนดอัตราค่าเช่าแผงค้าใหม่เป็นไปตามหลักอุปสงค์และอุปทานของตลาด เป็นดุลยพินิจของรฟท.ในการกำหนดอัตราเช่าที่เห็นว่าเหมาะสมได้ ศาลปกครองสูงสุดจึงไม่เห็นด้วยที่ศาลปกครองกลางพิพากษาให้เพิกถอนประกาศของรฟท. จึงพิพากษากลับเป็นยกฟ้อง

อย่างไรก็ตาม ผู้ค้าตลาดนัดจตุจักรอีก 807 คน นำโดยนายวีระพจน์ เพชรชำนาญ ก็ได้มีการยื่นฟ้องประเด็นเดียวกันหลังรฟท.มีประกาศปรับขึ้นค่าเช่าแผงค้าในปี 2557 ซึ่งศาลปกครองกลางก็ได้มีคำพิพากษาในวันนี้ให้เพิกถอนประกาศรฟท. ที่จต. 159/2557 ลงวันที่ 20 ก.พ. 57 ที่กำหนดเงื่อนไขการต่อสัญญาเช่าว่า ผู้เช่าที่ยื่นฟ้องรฟท.ต่อศาลปกครองและขอคุ้มครองชั่วคราวไม่ชำระค่าเช่าตามที่ร
ฟท.กำหนด รฟท.ไม่รับพิจารณาการต่อสัญญา จนกว่าคดีจะถึงที่สุดหรือศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น เพื่อตัดสิทธิการต่อสัญญาเช่าให้กับผู้ฟ้องคดีทั้งหมด

โดยให้มีผลย้อนหลังไปถึงวันที่ 20 ก.พ. 57 ส่วนคำขออื่นให้ยกฟ้อง โดยศาลเห็นว่า รฟท.มีอำนาจในการจัดหาประโยชน์ในสินทรัพย์ของตนเอง รวมถึงดำเนินธุรกิจอื่นที่เป็นประโยชน์ต่อรฟท.ได้ เมื่อการจัดหารายได้ตลาดนัดจตุจักร เป็นการสร้างรายได้ให้แก่รฟท.ตามพ.ร.บ.การรถไฟแห่งประเทศไทย 2494 รฟท.จึงมีอำนาจในการบริหารกิจการตลาดนัดจตุจักรตามนัยคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อ. 5
29/2560 ที่ได้วินิจฉัยไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่ารฟท. มีอำนาจบริหารกิจการตลาด แต่การที่รฟท.กำหนดเงื่อนไขว่า ผู้เช่าแผงค้าที่ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองและไม่ได้รับการพิจารณาต่อสัญญาจนกว่าคดีจะถึงที่สุดนั้นเป็นการกำหนดเงื่อนไขสัญญาเช่าที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลปกครองจึงต้องพิพากษาให้เพิกถอนเงื่อนไขดังกล่าว


ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังฟังคำพิพากษาตัวแทนกลุ่มผู้ค้าในคดีนี้ประมาณ 300 คนซึ่งเดินทางมาฟังคำพิพากษามีสีหน้าไม่สู้ดี แต่ก็ยังยืนยันว่าจะต่อสู้คดีจนถึงที่สุด ซึ่งนายวิชาญ ดวงฤทธิ์ ทนายความผู้รับมอบอำนาจ กล่าวว่า คดีนี้ยังไม่ถึงที่สุด การอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดก็จะยื่นใน 2 ประเด็น

1. กฎหมายไม่ให้อำนาจรฟท.ในการทำตลาด

2. วัตถุประสงค์ในการเวนคืนที่ดินตลาดนัดจตุจักรเมื่อปี 2520 ก็เพื่อใช้ในกิจการรถไฟ และมีคำวินิจฉัยของคณะกรรมการกฤษฎีกาปี 2524 ว่าการรถไฟไม่สามารถนำที่ดินดังกล่าวไปทำกิจการอื่น นอกเหนือจากทำกิจการรถไฟ


***************
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 142, 143, 144 ... 197, 198, 199  Next
Page 143 of 199

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©