ข่าวรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน)

[Wisarut]

มาแล้ว! BEMเครือช.การช่างซื้อซองประมูลไฮสปีดเชื่อม3สนามบินรายที่9-ฟูจิตะรับเหมาญี่ปุ่นโผล่แจมเป็นรายที่10
พร็อพเพอร์ตี้
วันพฤหัสบดีที่ 21 มิถุนายน 2561 - 15:29 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (21 มิ.ย.) เป็นวันที่ 4 ขายเอกสารประกวดราคาโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา ระยะทาง 220 กม. เงินลงทุนกว่า 2.2 แสนล้านบาท



มีมาซื้อซองเพิ่มอีก 2 ราย คือ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM บริษัทในเครือ บมจ.ช.การช่าง และบริษัท ฟูจิตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด รับเหมาก่อสร้างจากประเทศญี่ปุ่น รวมเป็น 10 ราย ประกอบด้วย

1) บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)
2) บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด
3) บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์
4) บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น
5) บริษัท เอนเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ จำกัด
6) บริษัท อีโตชู คอร์ปอเรชั่น จำกัด
7) Sinohydro Corporation Limited
8) บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)
9) บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพจำกัด (มหาชน) หรือ BEM
10) บริษัท ฟูจิตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด

รฟท.เผย BEM-ฟูจิตะฯ เข้าซื้อซองประมูลโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) --
พฤหัสบดีที่ 21 มิถุนายน 2561 16:26:45 น.

อ่านต่อได้ที่ : https://www.ryt9.com/s/iq05/2845535
รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ในช่วงบ่ายวันนี้มีผู้เข้าซื้อเอกสารประมูลโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน มูลค่ากว่า 2 แสนล้านบาทเพิ่มเติมอีก 2 ราย ได้แก่ บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) และ บริษัท ฟูจิตะ คอร์ปอเรชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 18-21 มิ.ย. ได้มีเอกชนเช้ามาซื้อเอกสารประมูลแล้ว จำนวน 10 ราย ได้แก่ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS), บริษัทเจริญโภคภัณฑ์ โฮลดิ้ง จำกัด (ซีพี), บริษัท เอนเนอร์ยี คอมเพล็กซ์ จำกัดซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบมจ.ปตท (PTT), บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (UNIQ) และ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD), บริษัท อิโตชู คอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัท ชิโนไฮโดร คอร์ปอเรชั่น ลิมิเต็ด บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น (STEC) BEM และ ฟูจิตะฯ

รฟท.กำหนดเวลาการขายเอกสารการคัดเลือกเอกชนในวันที่ 18 มิ.ย.- 9 ก.ค.61 เวลา 9.00 -12 .00 น. และ เวลา 13.00- 15.00 น. และเปิดรับซอง เอกสารเสนอราคาในวันที่ 12 พ.ย. 61 และประกาศรายชื่อผู้ชนะ วันที่ 13 พ.ย.61

โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน เป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักในการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่จะเชื่อมต่อ 3 ท่าอากาศยานในเขตกรุงเทพมหานครและเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก คือ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานอู่ตะเภาแบบไร้รอยต่อ

รวมทั้งพัฒนาพื้นที่เพื่อสนับสนุนบริการรถไฟของโครงการฯ บริเวณสถานีแอร์พอร์ตเรลลิงก์มักกะสันให้เป็นศูนย์กลางการเชื่อมโยงกรุงเทพมหานครกับเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC Gateway) และพื้นที่สถานีรถไฟความเร็วสูงศรีราชา และการดำเนินกิจการทางพาณิชย์เพื่อสนับสุนนบริการรถไฟ

[Mongwin]

^^^
10บริษัทยักษ์ทั้งไทย-จีน-ญี่ปุ่น ตบเท้าซื้อซองทำรถไฟเชื่อมสามสนามบิน
ไทยโพสต์ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2561 เวลา 09:20 น.



รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) เปิดเผยว่าเมื่อช่วงบ่ายของวันที่21 มิ.ย. 61 ที่ผ่านมามีผู้มาซื้อซองเอกสารเงื่อนไขการประกวดราคา(ทีโออาร์) โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินอีอีซี วงเงิน 2.15 แสนล้านบาท 2 บริษัท คือ
1.บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด(มหาชน)(BEM)
2. บริษัท ฟูจิตะ คอร์ปอเรชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้พบว่ามีบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน) บริษัทบีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือBTS เป็นรายแรก บริษัทเจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด หรือ CP บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD 4.บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) PTT บริษัท อิโตชู คอปเปอเรชั่น จากประเทศญี่ปุ่น บริษัท ชิโนไฮโดร จำกัด(มหาชน) จากประเทศจีน ทั้งนี้จากการเปิดขายซองเป็นวันที่สามพบว่ามี10 สนใจเข้าร่วมในการซื้อซอง โดยการเปิดขายซองทีโออาร์จะเปิดไปจนถึง วันที่ 9 ก.ค.นี้ เวลา9.00 -12 .00 น. และ เวลา 13.00- 15.00 น. ณ ห้องประชุมฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง การรถไฟแห่งประเทศไทย

[Wisarut]

'ITD-ยูนิค' ดอดจับมือ 'ซีพี' | ทีมไทยแลนด์ทาบ 'เอไอเอส' ลุยรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน
ออนไลน์เมื่อ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2561
ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,377 วันที่ 24-27 มิถุนายน พ.ศ. 2561 หน้า 12


นับตั้งแต่เปิดขายซองเอกสารประกวดราคาโครงการรถไฟเชื่อมสนามบินดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา ตั้งแต่วันที่ 18 มิ.ย. 2561 ที่ผ่านมา ปรากฏว่า วันแรกได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม มีเอกชนสนใจซื้อซองไปแล้วจำนวน 7 ราย ซึ่งนับว่าเป็นรายใหญ่ที่เต็งกันว่า จะเข้ามาแข่งประมูลครั้งนี้ ได้แก่
1.บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ที่มีแนวทางว่าจะร่วมกับกลุ่มโรงไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) กลุ่มบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) และกลุ่ม ปตท. ,
2.บริษัท เจริญ โภคภัณฑ์ โฮลดิ้ง จำกัด ,
3.บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ,
4.บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ,
5.บริษัท เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ จำกัด (EnCo) ,
6.บริษัท อิโตชู คอร์ปอเรชั่น จำกัด และ
7.บริษัท Sinohydro Corporation Limited.

ซิโน-ไทยฯ ร่วมแจม
สำหรับวันที่ 2 (19 มิ.ย.) กลับไม่มีแม้แต่รายเดียวเข้ามาติดต่อ จนย่างเข้าสู่วันที่ 3 (20 มิ.ย.) ฝ่ายประชาสัมพันธ์การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) แจ้งว่า ในช่วงเช้าของวันที่ 20 มิ.ย. 2561 ได้มีผู้แทนบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เข้าซื้อซองโครงการประมูลก่อสร้างรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน นับเป็นรายที่ 8 ที่สนใจซื้อซองโครงการรถไฟดังกล่าว จากทั้ง 7 ราย ที่ให้ความสนใจซื้อซองในวันแรกที่เปิดขายเอกสารประกวดราคา โดย ร.ฟ.ท. จะเปิดขายไปจนถึงวันที่ 9 ก.ค. นี้

ล่าสุด เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 2561 พบว่า มีเอกชนเข้ามาซื้อเพิ่มอีก 2 ราย ได้แก่ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด หรือ BEM และบริษัท ฟูจิตะ คอร์ปอเรชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ซึ่ง BEM นั้น มีประสบการณ์ให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน หรือ MRT ในปัจจุบัน ส่วนจะดึงกลุ่มบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) เข้ามาร่วมด้วยหรือไม่ ตลอดจนจะไปร่วมกับกลุ่มไหน ยังมีลุ้นวินาทีสุดท้ายในการร่วมยื่นซองเอกสารประกวดราคาตามที่ ร.ฟ.ท. กำหนดไว้

นอกจากนั้น ยังเริ่มเห็นความชัดเจนอีกในฟากกลุ่มทีมไทยแลนด์ ที่มีกลุ่มบีทีเอสเป็นแกนนำ ร่วมกับกลุ่มซิโน-ไทย กลุ่มโรงไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง และกลุ่ม ปตท. ปรากฏว่า ได้ดึงกลุ่มเอไอเอสเข้ามาร่วมทีมเพิ่มอีก 1 ราย โดยเพื่อนำไปอำนวยความสะดวกด้านระบบการเชื่อมโยงให้บริการเกี่ยวกับระบบตั๋วตามที่แรบบิทได้เปิดมิติใหม่ไปเมื่อวันก่อน ซึ่งจะทำให้การพัฒนาระบบตั๋วเชื่อมโยงด้านระบบการเงินได้อย่างคล่องตัวและอำนวยประโยชน์หลากหลายมากขึ้น นั่นหมายความว่า ลูกค้าจะได้รับความสะดวกมากที่สุด และนี่อาจเป็นอีกหนึ่งข้อเสนอที่กลุ่มบีทีเอสใช้ในซองที่ 4 กับข้อเสนอที่โดนใจคณะกรรมการ

ทั้งนี้ จะพบว่า มีบริษัทในวงการรับเหมาชั้นนำของไทยได้ให้ความสนใจซื้อซองเอกสารประกวดราคาไปแล้ว ได้แก่ 1.บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) 2.บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) 3.บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) โดยในวงการรับเหมาต่างจับตา บริษัท อิตาเลียนไทยฯ และยูนิค ว่า มีแนวโน้มสูงที่จะเข้าร่วมกับกลุ่มซีพี เพื่อรับงานก่อสร้างในครั้งนี้ เนื่องจากยูนิคมีความสนิทสนมกับฝ่ายจีนเป็นอย่างดี

เช่นเดียวกับ ตลอดวันที่ 22 มิ.ย. ที่ผ่านมา ยังไม่ปรากฏว่า มีเอกชนรายใหม่สนใจเข้ามาซื้อซองเพิ่มแต่อย่างใด โดยเฉพาะรายใหญ่จากต่างประเทศ ที่ช่วงก่อนหน้านี้ หมุนเวียนกันเข้ามาขอพบระดับผู้นำรัฐบาลและระดับกระทรวงกันแบบถี่ยิบ เพื่อติดตามข้อมูลโครงการและนำรายละเอียดไปประชาสัมพันธ์เผยแพร่ให้กับเอกชนในประเทศนั้น ๆ

ดังนั้น ยังคงจับตากันต่อไปอีกว่า วันที่เหลือไปจนถึงวันสุดท้าย คือ วันที่ 9 ก.ค. นั้น จะมีเอกชนรายใดสนใจเข้ามาซื้อซองเพิ่มอีกมากน้อยแค่ไหน โดยเฉพาะกลุ่มทุนชั้นนำที่มีแนวโน้มว่า จะเกาะกระแสเมกะโปรเจ็กต์หลัก 2 แสนล้านบาท ในครั้งนี้ด้วย

ปตท. ดอดหารืออสังหาฯชลบุรี
ด้าน แหล่งข่าวระดับสูงจากวงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของ จ.ชลบุรี รายหนึ่ง กล่าวว่า เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. ที่ผ่านมา ได้มีการหารือร่วมกับกลุ่มผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ จ.ชลบุรี และกลุ่มบริษัท ปตท.ฯ ที่สนใจเข้าร่วมสู้ประมูลโครงการรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมไว้สู้คู่แข่ง ที่ ปตท. จะเน้นด้านการพัฒนาเชิงพาณิชย์มากกว่า โดยผลการหารือร่วมในวันที่ 22 มิ.ย. นี้ คงจะสามารถชี้ชัดในบางเรื่องได้ชัดเจนยิ่งขึ้น สำหรับแนวทางการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์และย่านเศรษฐกิจของ จ.ชลบุรี หาก ปตท. ชนะการประมูลในครั้งนี้ หรือ เพื่อเป็นแนวทางความร่วมมือต่อกันที่อาจนำไปใช้พัฒนาต่อไป

ช.การช่างไม่พลาดชิงไฮสปีด BTS ดึงยูซิตี้ปั้นมักกะสันเทียบชั้นฮ่องกง


วันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2561 เวลา 22:01 น.


10 บิ๊กธุรกิจไทย จีน ญี่ปุ่น ซื้อซองประมูลไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน เจรจาจับขั้วยังฝุ่นตลบ “บีทีเอส” ดึง “ยูซิตี้” ซุ่มศึกษาโปรเจ็กต์มิกซ์ยูส ปั้นมักกะสันศูนย์กลางเดินทาง ช็อปปิ้ง เทียบชั้นฮ่องกง “ช.การช่าง” ไม่ยอมตกขบวน

นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน และรักษาการผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า หลังเปิดให้เอกชนทั้งไทยและต่างชาติซื้อเอกสารประกวดราคาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา ระยะทาง 220 กม. เงินลงทุนกว่า 2.2 แสนล้านบาท รูปแบบ PPP net cost 50 ปี ตั้งแต่วันที่ 18 มิ.ย.-22 มิ.ย. 2561 มีผู้มาซื้อซองประมูลรวมทั้งสิ้น 10 ราย ทั้งบริษัทไทย ญี่ปุ่น และจีน โดยจะเปิดให้ซื้อซองถึงวันที่ 9 ก.ค.นี้ จากนั้นให้เวลา 4 เดือนเพื่อให้เอกชนจัดทำรายละเอียด จะเปิดให้ยื่นข้อเสนอวันที่ 12 พ.ย. 2561 และได้เอกชนลงทุนภายในสิ้นปีนี้


สำหรับ 10 บริษัทที่ซื้อเอกสาร คือ 1.บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้ง 2.บจ.เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง 3.บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ 4.บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น 5.บจ.เอนเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ จำกัด บริษัทลูกของ ปตท.6.บจ.อิโตชู คอร์ปอเรชั่นจากญี่ปุ่น 7.บจ.ซิโนไฮโดร คอร์ปอเรชั่นจากจีน 8.บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์คอนสตรัคชั่น 9.บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ หรือ BEM บริษัทในเครือ บมจ.ช.การช่าง และ 10.บจ.ฟูจิตะ คอร์ปอเรชั่นจากญี่ปุ่น

แหล่งข่าวจาก บมจ.ช.การช่าง กล่าวว่า วันที่ 25 มิ.ย.นี้ บริษัทจะเข้าไปซื้อซองประมูลรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน เนื่องจากตามเงื่อนไขของ ร.ฟ.ท. ผู้ร่วมลงทุนจะต้องซื้อเอกสารทุกราย ซึ่งบริษัทจะร่วมกับ BEM ผู้รับสัมปทานเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสีม่วงเข้าร่วมประมูล ส่วนจะร่วมทุนกับใครเพิ่มอยู่ระหว่างการพิจารณา

รายงานข่าวแจ้งว่า ดูจากรายชื่อที่ซื้อซองประกวดราคา คาดว่าจะยื่นประมูลทุกราย เนื่องจากค่าซื้อซองค่อนข้างสูงที่ 1 ล้านบาท ถ้าไม่เข้าร่วมคงจะไม่ยอมเสียเงินซื้อ ส่วนใครจะร่วมทุนกับใครจะชัดเจนหลังปิดขายซอง 9 ก.ค.นี้

“ดูแล้วคงจะยื่นไม่เกิน 3 กลุ่ม มีกลุ่มบีทีเอสอาร์มีบีทีเอสเป็นแกนนำ กลุ่มซีพีจะร่วมกับอิโตชูฯและรัฐวิสาหกิจจากจีน และกลุ่ม ปตท. หากเจรจาบีทีเอสไม่ลงตัวเรื่องสัดส่วนลงทุน ส่วนบริษัทอื่น ๆ เช่น อิตาเลียนไทยฯ ยูนิคฯ ซิโนไฮโดรฯ อิโตชูฯ BEM ฟูจิตะฯ และ ช.การช่าง จะเป็นพันธมิตรร่วมแต่ละกลุ่ม ที่ยังไม่มีบริษัทจากยุโรปเข้ามาซื้อซอง อาจเป็นเพราะสนใจจะเป็นผู้พัฒนาระบบและรถไฟฟ้า ซึ่งยังไม่จำเป็นต้องซื้อซอง”

รายงานข่าวจาก บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้ง ระบุว่า บริษัทสนใจจะยื่นประมูล เนื่องจากเชี่ยวชาญด้านรถไฟฟ้า ส่วนการพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสที่สถานีมักกะสันและศรีราชา ล่าสุด ให้ บมจ.ยูซิตี้ ซึ่งดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในเครือบีทีเอส ศึกษารายละเอียดโมเดลที่จะพัฒนาแล้ว มองว่าการพัฒนาสถานีศรีราชาเนื้อที่ 25 ไร่ไม่ยาก แต่ที่สถานีมักกะสัน พื้นที่ 150 ไร่ กลางเมืองค่อนข้างยาก เบื้องต้นคอนเซ็ปต์จะพัฒนาเป็นศูนย์กลางเชื่อมต่อการเดินทางทั้งในเมืองและไปยังสนามบินดอนเมือง สุวรรณภูมิ และอู่ตะเภา เพราะจะมีจุดเช็กอินอยู่ที่สถานี ส่วนบริเวณรอบ ๆ จะพัฒนาเป็นเชิงพาณิชย์ เช่น โรงแรม ศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน มีพื้นที่สีเขียว และพื้นที่ประวัติศาสตร์ เข้ากับคอนเซ็ปต์ของการรถไฟฯ ที่ต้องการให้มักกะสันเป็นปอดแห่งใหม่ของคนกรุงเทพฯ

“บีทีเอสต้องการให้สถานีมักกะสันเป็นเซ็นเตอร์เหมือนกับที่ฮ่องกง เป็นจุดเช็กอินกระเป๋าเดินทาง มีร้านอาหาร แหล่งช็อปปิ้ง ระหว่างรอไปขึ้นเครื่องบิน”


__________________

[Mongwin]

มาเรื่อยๆ! “ช.การช่าง-ไชน่าเรลเวย์” ต่อแถวซื้อซองชิงไฮสปีด 3 สนามบิน
เผยแพร่: 25 มิ.ย. 2561 12:53 ปรับปรุง: 25 มิ.ย. 2561 13:33 โดย: MGR Online

วันนี้ (25 มิ.ย.) ช่วงเช้ามีเอกชนอีก 2 ราย ช.การช่าง และไชน่า เรลเวย์ คอนสตรักชัน คอร์ปอเรชัน จำกัด จากประเทศจีน เข้าซื้อซองประมูลรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน วงเงินกว่า 2 แสนล้านบาท รวมขณะนี้มีซื้อซองไปแล้ว 12 ราย

รายงานข่าวแจ้งว่า วันนี้ (25 มิ.ย.) วันที่ 6 ที่การการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดขายเอกสารการคัดเลือกเอกชน Request for Proposal (RFP) โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) วงเงินกว่า 2 แสนล้านบาท โดยในช่วงเช้ามีเอกชนเข้าซื้อซองเพิ่มอีก 2 ราย ได้แก่ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK และ China Railway Construction Corporation Limited โดยถือเป็นรายที่ 11 และ 12 ที่เข้าซื้อซอง จากที่ ร.ฟ.ท.เปิดขายเอกสารประมูลรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินตั้งแต่วันที่ 18 มิ.ย.มีเอกชนซื้อซองไปก่อนหน้านี้แล้ว 10 ราย

โดยวันที่ 18 มิ.ย. 2561 มี 7 ราย ได้แก่ 1. บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ BTS 2. บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด 3. บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD 4. บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ UNIQ 5. บริษัท เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ จำกัด (EnCo) 6. บริษัท อิโตชู คอร์ปอเรชั่น จำกัด 7. บริษัท Sinohydro Corporation Limited

วันที่ 19 มิ.ย.ไม่มีผู้เข้าซื้อซอง, วันที่ 20 มิ.ย.มีซื้อ 1 ราย คือ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC และวันที่ 21 มิ.ย.มีซื้อ 2 ราย คือ BEM และ Fujita Corporation (Thailand) Ltd. วันที่ 22 มิ.ย.ไม่มีเอกชนเข้าซื้อซอง

[Wisarut]

หลายวันก่อนได้ข้อมูลรถไฟความไวสูงเชื่อมสามสนามบิน ในช่วงสุวรรณภูมิ - อู่ตะเภา ระยะทาง 165.5 กม. ที่แบ่งออกเป็น 7 ช่วง
1) ช่วงลาดกระบัง - ฉะเชิงเทรา - ลอยฟ้าสูง 20 เมตร ตามรถไฟ Airport Link โดยเริ่มจากหัวประแจฝั่งตะวันตกของสถานีลาดกระบัง Airport Link โดยมีระยะห่างระหว่างทางรถไฟ 4.5 เมตร แต่ ตรงจุดตัดมอเตอร์เวย์จะลดความสูงเหลือ 18 เมตร และ จะลด เหลือสูง 10 เมตร ณ ตำ แหน่ง 1 กม. ด้านตะวันตกสถานีบางเตย

2) ช่วงสุวรรณภูมิขาออก - สร้างใหม่ โดยใช้โครงสร้างร่วมกะ ARL เสีย 2 กิโลเมตรจากสถานีสุวรรณภูมิ ก่อน ไต่ระดับระแยกออก เมื่อถึงระดับดิน ก่อน ยกลอยข้า่มสะเพานรถยนต์ ที่ ระดับ 12 เมตตรจากพื้นดิน ก่อนจะเชื่อม ทางรถไฟความไวสูงช่วงลาดกระบัง - ฉะเชิงเทรา

3) ช่วงเลี่ยงเมืองฉะเชิงเทรา โดยเริ่มเบี่ยงไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ จากทางรถไฟสายตะวันออก ที่ 1 กิโลเมตร ก่อนถึงสถานี บางเตย ข้ามถนนสุวินทวงศ์ (ทางหลวง 304) โดยสถานีฉะเชิงเทราใหม่ซึ่งเป็นสถานีลอยฟ้า นั้น จะอยู่ด้านตะวันออกจาก ถนนสุวินทวงศ์ (ทางหลวง 304) และ ห่างจากสถานีชุุมทางฉะเชิงเทราไปทางเหนือ 1.5 กิโลเมตร จากนั้น ทางรถไฟึความไวสูงจะเบี่ยงลงใต้ ข้ามแม่น้ำบางปะกง โดยสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกงสำหรับรถไฟความไวสูงจะอยู่เหนือสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำบางปะกง ที่บ่อบัว 1.3 กิโลเมตร ก่อนจะวกกลับเข้าทางรถำไฟสายสัตหีบ เป็นระยะทางเบี่ยงจากทางรถไฟเดิม 12 กิโลเมตร ต้องเวนคืน เพราะทางารถไฟที่มีอยู่โค้งแคบ ไม่เหมาะที่จะทำขบวนให้เร็วตามพิกัด 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ส่วนอาคารสถานีฉะเชิงเทราใหม่ นั้น เป็นสถานีลอยฟ้ามีสองชั้น มีชานชลาทที่ชั้น 2 ยาว 210 เมตร และ มีถนนเข้าสถานีได้ทั้งสี่ทิศ โดยเชื่อมกะถนนสุวินทวงศ์ (ทางหลวง 304) ด้วย อาคารสถานีฉะเชิงเทรามีสี่ชานชลา โดยออกแบบให้เป็น ชานชลากลาง สามทารถรองรับได้สูงสุด 8 ขบวน โดยสามารถรองรับรถไฟความไวสูงที่ วิ่งจากโคราช ผ่าน ทาง แก่งคอย - คลอง 19 เข้าฉะเชิงเทราได้ด้วย และ มีลานจอดรถด้วย

4) ช่วงฉะเชิงเทราถึงศรีราชา จะวิ่งไปตามทางรถไฟสายสัตหีบ โดยจะลอยฟ้าไปตามทางฝั่งตะวันออก เว้นแต่บางตอนที่โค้งแคบไม่เหมาะที่จะทำขบวนให้เร็วตามพิกัด 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จึงต้องเวนคืนเป็นระยะทาง ประมาณ 3 กิโลเมตร - สถานีชลบุรีและ ศรีราชา จะอยู่ที่ย่านสถานีชลบุรี และ สถานีชุมทางศรีราชาที่มีอยู่แล้ว

สถานีชลบุรีเป็นสถานีลอยฟ้า มี 3 ชั้น ชั้นล่างรองรับรถทางไกล หรือ รถท้องถิ่นถ้ามี ชั้น 2 ขายตั๋ว ชานชลาอยู่ชั้น 3 ยาว 210 เมตร แบบชานชลาข้างที่กินเนื้อที่น้อยกว่า โดยมี 2 ชานชลา รองรับรถได้สูงสุด 8 ขบวน อาคารสถานีจะคร่อมสถานีชลบุรีที่มีอยู่แล้วเพื่อ การเชื่อมต่อโดยสะดวก และ มีทางเชื่อมกับ ทางหลวงพิเศษหมายเลข 7, ถนนสุขุมวิท (ทางหลวงหมายเลข 3 ช่วงเลี่ยงเมือง) และ ทางหลวงหมายเลข 344 ที่เชื่อมนิคมอุตสาหกรรม และ มีลานจอดรถด้วย

สถานีศรีราชาเป็นสถานีลอยฟ้า มี 3 ชั้น ชั้นล่างรองรับรถทางไกล หรือ รถท้องถิ่นถ้ามี ชั้น 2 ขายตั๋ว ชานชลาอยู่ชั้น 3 ยาว 210 เมตร แบบชานชลาข้างที่กินเนื้อที่น้อยกว่า โดยมี 2 ชานชลา รองรับรถได้สูงสุด 8 ขบวน โดยจะอยู่ใกล้เคียงสถานีชุมทางศรีราชาที่มีอยู่แล้ว โดยสถานีดังกล่าวอยู่ในย่านพักอาศัย และ ติดค่ายลูกเสือลูดิวิโกของโรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา โดยห่างจากค่ายลูกเสือวชิราวุธไป 5 กิโเลเมตร เชื่อมต่อกับ ทางหลวงพิเศษหมายเลข 7, ทางหลวงจังหวัด 3241 และ ถนนศรีราชา - หนองยายบู่ และ มีลานจอดรถด้วย

5) ช่วงศรีราชา ถึง เขาชีจรรย์ - ไจะลอยฟ้าไปตามทางรถไฟสายสัตหีบที่มีอยุ่แล้ว ส่วนสถานีพัทยานั้น ถ้าไม่อยู่ที่สถานีพัทยาที่มีอยู่แล้วก็จะอยู่เหนือขึ้นไป

สถานีพัทยา จะอยู่ด้านตะวันออกของสถานีรพัทยาที่มีอยู่เดิม โดยเชื่อมต่อกับทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 มี 3 ชั้น ชั้นล่างสำหรับผู้โดยสารขาเข้า และ ผู้ที่เดินทางกะ รถทางไกล ชั้น 2 ขายตั๋ว และรองรับผู้โดยสารขาออก เหมือนสนามบิน ชานชลาอยู่ชั้น 3 ยาว 210 เมตร แบบชานชลา กลางมี 4 ชานชลา รองรับรถได้สูงสุด 8 ขบวน มีลานจอดรถและ ลาน เชื่อมต่อกับขนส่งวมวลชนอื่นๆ

6 ช่วงทางเบี่ยงเขาชีจรรย์ - เนื่องจากบริเวณชุมทางเขาชีจรรย์ โค้งแคบหักศอกรอบเนินเขา ไม่เหมาะที่จะทำขบวนให้เร็วตามพิกัด 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จึงต้องเบี่ยงออกทางด้านเหนือ และขุดอุโมงค์เดี่ยวทางคู่ยาว 300 เมตรเพื่อทำขบวนให้ได้ตามพิกัด

7. ช่วงเขาชีจรรย์ - ท่าอากาศยานอู่ตะเภา - แนวทางใหม่ต้องเวนคืน โยจะเบี่ยงลงใต้ข้ามถนนสุขุมวิท ก่อน ลดระดับเข้าไปที่ อาคารผู้โดยสารแห่งที่ 3 ซึ่งมีสถานีใต้ดิน เป็นระยะทาง 7.6 กิโลเมตร

สถานีอู่ตะเภา ต้องสร้างใหม่อยู่ใต้ อาคารผู้โดยสารแห่งที่ 3 เป็นแบบชานชลากลาง รองรับได้ 4 ชานชลา

โครงสร้างทางใช้สะพานคอนกรีตรูปกล่องวางบนโครงสร้างเสาเดี่ยว

ปีแรก ที่เปิดบริการปี 2566 คาดว่าจะได้ผู้โดยสาร 41190 คนต่อวันและ หวังจะได้เพิ่มเป็น 305210 คนต่อวันในปี 2616 โดยช่วงสุวรรณภูมิ - อู่ตะเภา มีเดิน ตั้งแต่ 0600 ถึง 2200 เป็นเวลา 16 ชั่วโมงต่อวัน (ไม่สู้ดีนัก จะให้เหมาะๆ เป็น 0500 - 2300) โดยรถด่วน จะใช้เวลาเดินทาง 45 นาที

[Wisarut]

"บีทีเอส"ยังอุบไต๋ผู้ร่วมลงทุนรายที่ 4
อังคารที่ 26 มิถุนายน 2561 เวลา 13.34 น.

บีทีเอส พร้อมลุย 3 สนามบินวงเงินลงทุน 2.15 แสนล้าน "ราชบุรี"-"ชิโนไทย" ร่วมลงทุนแน่ รอปิดดีลบริษัทร่วมทุนรายที่ 4  ภายในส.ค.นี้  


 เมื่อวันที่26มิ.ย.นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)เปิดเผยว่าจากที่บริษัทบีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ได้เดินทางเข้าซื้อซองประกวดโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม3สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) มูลค่าโครงการ 2.15 แสนล้านบาท นั้นทางบริษัทมีความพร้อมที่จะเข้าร่วมประมูลโครงการดังกล่าวโดยทางบริษัทมีแผนจะดำเนินการร่วมกับ บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น และ บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรี ตามผู้ร่วมลงทุนเดินในโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู(ช่วงแคราย-มีนบุรี)และสายสีเหลือง(ช่วงลาดพร้าว-สำโรง)ที่กำลังก่อสร้างอยู่ขณะนี้ นอกจากนี้คาดว่าจะมีผู้ร่วมลงทุนรายที่4 ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาอยู่ โดยทางบริษัทคุยกับหลายบริษัทมากทั้งบริษัทไทยและต่างชาติ  ส่วนการหารือกับบริษัทปตท.จำกัด(มหาชน)นั้นยังไม่สามารถให้รายละเอียดได้  

นายสุรพงษ์กล่าวต่อว่า บริษัทคาดว่าจะถือสัดส่วน 25% ตามทีโออาร์ที่กำหนดไว ว่านิติบุคคลไทยอย่างน้อย 1 ราย เข้าร่วมกลุ่มโดยมีสัดส่วนการลงทุนเกินกว่า 25% ของทั้งหมด และสมาชิกอื่นแต่ละรายต้องมีสัดส่วนการลงทุนไม่น้อยกว่า 5% โดยสมาชิกแต่ละรายต้องเป็นนิติบุคคลที่จดทะเบียนมาแล้วเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 3 ปี นับถึงวันที่ยื่นข้อเสนอ   ส่วนข้อกังวลหากในกรณีที่บริษัทประมูลชนะแล้ว ต้องรับภาระบริหารรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิ้งก์เข้ามาดูแลนั้น อย่างไรก็ตามในเบื้องต้นบริษัทสามารถแก้ไขปัญหาขบวนรถระบบโอเปอร์เรตของแอร์พอร์ตเรลลิ้งก์ได้ ซึ่งเรื่องนี้ไม่มีข้อกังวลเพราะในทีโออาร์ให้เวลาในการปรับปรุงถึง2ปี รวมถึงการซื้อรถใหม่เข้ามาได้ ส่วนกรณีที่จะให้รถบีทีเอสวิ่งช่วยแอร์พอร์ตลิ้งก์นั้นไม่สามารถทำได้เพราะขนาดรถและศักภาพที่ต่างกันพอสมควร 

[Wisarut]

‘ทรานด์เดฟ’บิ๊กรถไฟฝรั่งเศสเจรจา’ซีพี’ลงทุนไฮสปีดอีอีซี (คลิป)
วันที่ 26 มิถุนายน 2561 - 18:58 น.

[Wisarut]

“อาคม” แจงสื่อจีนรถไฟไทย-จีนยันพร้อมลงทุนเอง

อังคารที่ 26 มิถุนายน 2561


“อาคม” แจงสื่อจีน กรณีรถไฟไทย-จีนที่ทล.อยู่ระหว่างดำเนินการช่วง 3.5กม. ยันโครงการมีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ และไทยพร้อมลงทุนเอง

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้สัมภาษณ์กับคณะเจ้าหน้าที่สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งชาติจีน (CRI) เกี่ยวกับโครงการความร่วมมือพัฒนาระบบรางระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย และรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพมหานคร – หนองคาย เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2561 ณ กระทรวงคมนาคม โดยมี นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี ปลัดกระทรวงคมนาคม ผู้แทนการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เจ้าหน้าที่กรมประชาสัมพันธ์ และเจ้าหน้าที่สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งชาติจีน เข้าร่วมรับฟังการให้สัมภาษณ์


โดยนายอาคมกล่าวว่าโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพมหานคร - หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร - นครราชสีมา) แบ่งงานก่อสร้างออกเป็น 14 ตอน คือ ตอนที่ 1 สถานีกลางดง - ปางอโศก ระยะทาง 3.5 กิโลเมตร เริ่มดำเนินการก่อสร้างเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2560 โดยมีวิศวกรชาวจีนเป็นที่ปรึกษาควบคุมงานอยู่ในพื้นที่ก่อสร้างด้วย ขณะนี้มีความก้าวหน้า 11% ล่าช้ากว่าแผนงานเล็กน้อย เนื่องจากฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ตอนที่ 2 ช่วงสีคิ้ว - กุดจิก ระยะทาง 11 กิโลเมตร ฝ่ายจีนได้จัดส่งแบบรายละเอียดให้ฝ่ายไทย และฝ่ายไทยตรวจสอบและส่งให้ฝ่ายจีนแก้ไขบางส่วนแล้ว คาดว่าจะสามารถดำเนินการประกวดราคาได้ในเดือนสิงหาคม 2561 ที่เหลืออีก 12 ตอนฝ่ายจีนจะทยอยส่งแบบ และดำเนินการประกวดราคาได้ภายในปี 2561 การก่อสร้างจะแล้วเสร็จในปี 2564

โครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพมหานคร - หนองคาย (ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา - หนองคาย) ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกันว่าฝ่ายไทยจะศึกษาออกแบบรายละเอียด โดยมีจีนเป็นที่ปรึกษา ขณะนี้อยู่ระหว่าง รฟท. ดำเนินการจัดจ้างที่ปรึกษา คาดว่าจะสามารถประกวดราคาได้ประมาณต้นปี 2562 การก่อสร้างแล้วจะเสร็จในปี 2565


การเชื่อมโยงทางรถไฟช่วงหนองคาย - เวียงจันทน์ ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบในหลักการเกี่ยวกับการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งใหม่ เพื่อใช้เป็นสะพานสำหรับรถไฟความเร็วสูง (ขนาดทางมาตรฐาน) และรถไฟทางคู่ (ขนาดทาง 1 เมตร) โดยจีนจะเป็นเจ้าภาพในการศึกษาและออกแบบรายละเอียด

ปัญหาอุปสรรคด้านข้อกฎหมายเกี่ยวกับวิศวกรและสถาปนิกต่างชาติที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย โดยจะต้องผ่านการอบรมและทดสอบจากสภาวิศวกรไทยก่อน รัฐบาลไทยได้ดำเนินการช่วยเหลือโดยการออกคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 30/2560 เรื่อง มาตรการเร่งรัดและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพฯ – นครราชสีมา โดยให้วิศวกรและสถาปนิกจากจีนเข้ามาทำงานได้ โดยได้รับข้อยกเว้นไม่ต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ และฝ่ายไทยได้จัดฝึกอบรมแก่วิศวกรและสถาปนิกจีนให้รับทราบข้อมูลสภาพภูมิประเทศ และภูมิศาสตร์ของประเทศไทย




ส่วนด้านการเงินและการลงทุน รัฐบาลไทยจะเป็นผู้ลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูง เพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพมหานคร – หนองคาย ทั้งหมด

สำหรับแหล่งเงินกู้และอัตราดอกเบี้ย กระทรวงการคลังจะพิจารณาแหล่งเงินกู้และอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าของสาธารณรัฐประชาชนจีน (China EXIM Bank) ทั้งนี้ยังเปิดโอกาสให้จีนสามารถร่วมลงทุนในการบริหารจัดการเดินรถร่วมกับไทย

โครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพมหานคร – หนองคาย มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ในการเชื่อมโยงภูมิภาคอาเซียน และสาธารณรัฐประชาชนจีนที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในภูมิภาค มีมูลค่าการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวกับไทยสูง เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ One Belt One Road ที่จะสนับสนุนยุทธศาสตร์การสร้างประเทศไทย ให้เป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งและโลจิสติกส์ของภูมิภาคอาเซียน (Logistic Hub)

รวมทั้งสนับสนุนยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ให้เชื่อมโยงกับโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) ที่จะสามารถเพิ่มศักยภาพและโอกาสทางเศรษฐกิจของประเทศไทย

โครงการฯ ดังกล่าว เป็นความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งได้กำหนดแผนการก่อสร้างไว้อย่างชัดเจน และได้เริ่มการก่อสร้างไปแล้ว ดังนั้นจะไม่มีการระงับโครงการฯ นี้อย่างแน่นอน

[Mongwin]

บีทีเอสเล็งจีบต่างชาติผนึกกำลัง BSR ลุยรถไฟไฮสปีดอีอีซี 2.15 แสนล้าน
วันที่ 27 มิ.ย. 2561 เวลา 09:31 น.

บีทีเอสเล็งจีบต่างชาติผนึกกำลัง BSR ลุยรถไฟไฮสปีดอีอีซี 2.15 แสนล้านบาท ไม่หวั่นปัญหาแอร์พอร์ตลิงก์ พร้อมซื้อรถเพิ่มแก้แออัด

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)เปิดเผยว่า หลังจากที่ บริษัทบีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS เข้ายื่นซื้อซองเอกสารเงื่อนไขการประกวดราคา (ทีโออาร์) โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินอีอีซี วงเงิน 2.15 แสนล้านบาท ซึ่งเบื้องต้นบริษัทจะผนึกกำลังร่วมกับกลุ่มเอกชนภายใต้ชื่อว่ากิจการร่วมค้า BSR ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกับที่ชนะโครงการประมูลรถไฟฟ้าสายสีชมพูช่วงแคราย-มีนบุรีและรถไฟฟ้าสายสีเหลือง(ลาดพร้าว-สำโรง) ประกอบด้วย บริษัทบีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ STEC และ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือRATCH นอกจากนี้ยังเตรียมหาเอกชนเข้ามาร่วมลงทุนอีก 1 ราย ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาอยู่ โดยทางบริษัทคุยกับหลายบริษัทมาก กับบริษัทปตท.จำกัด(มหาชน)ในยังไม่สามารถบอกได้ ส่วนใหญ่บริษัทที่คุยจะมีทั้งบริษัทในไทยและต่างชาติ ซึ่งเป็นบริษัทที่เป็นทั้งผู้ผลิตรถ และโอเปอร์เรเตอร์ ทั้งนี้คาดว่าบริษัทจะหาผู้ร่วมลงทุนรายที่4ได้ภายในส.ค.นี้

นายสุรพงษ์กล่าวต่อว่าทั้งนี้ BTS คาดว่าจะถือสัดส่วน 25% ตามทีโออาร์ที่กำหนดไว้ ว่านิติบุคคลไทยอย่างน้อย 1 ราย เข้าร่วมกลุ่มโดยมีสัดส่วนการลงทุนเกินกว่า 25% ของทั้งหมด และสมาชิกอื่นแต่ละรายต้องมีสัดส่วนการลงทุนไม่น้อยกว่า 5% โดยสมาขิกแต่ละรายต้องเป็นนิติบุคคลที่จดทะเบียนมาแล้วเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 3ปี นับถึงวันที่ยื่นข้อเสนอ ส่วนข้อกังวลหากในกรณีที่บริษัทปรมูลชนะแล้วต้องรับแอร์พอร์ตเรลลิ้งก์เข้ามาดูแลนั้น เบื้องต้นทางBTS วางแผนแก้ไขปัญหาขบวนรถระบบโอเปอร์เรตของแอร์พอร์ตเรลลิ้งก์ได้แน่นอนเพื่อลดปัญหาความแออัดบนชานชาลาและภายในรถไฟฟ้า ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวไม่น่ามีข้อกังวลเพราะในทีโออาร์ให้เวลาในการปรับปรุงถึง2ปี รวมถึงการจัดซื้อรถใหม่เข้ามานั้นก็เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ ส่วนการก่อสร้างทั้งโครงการคาดว่าเงินที่ลงทุนเพียงพอต่อการก่อสร้างในระยะเวลา5ปี นับจากลงนามสัญญา1ปี

[Mongwin]