Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311232
ทั่วไป:13180046
ทั้งหมด:13491278
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวรถไฟฟ้าสายสีชมพู แคราย-มีนบุรี
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวรถไฟฟ้าสายสีชมพู แคราย-มีนบุรี
Goto page Previous  1, 2, 3, 4, 5 ... 71, 72, 73  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44323
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 14/07/2018 11:37 am    Post subject: Reply with quote

รฟม.แจ้งปิดเบี่ยงจราจร ถ.ติวานนท์ สร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู เริ่ม 19 ก.ค.นี้
เผยแพร่: 14 ก.ค. 2561 09:47 โดย: MGR Online

การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) แจ้งว่า บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้รับจ้างก่อสร้างงานโยธา โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย - มีนบุรี มีความจำเป็นต้องปิดเบี่ยงจราจรบนถนนติวานนท์ ฝั่งขาเข้าและขาออก บริเวณศูนย์โทรคมนาคมนนทบุรี บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ถึง ซอยติวานนท์ 23 เพื่อดำเนินการก่อสร้างโครงการฯ ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2561 เป็นต้นไป โดยจะปิดการจราจรช่องทางขวา (ชิดเกาะกลาง) 1 ช่องจราจร ฝั่งขาเข้าและขาออก ตลอด 24 ชั่วโมง บริเวณ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ถึง ซอยติวานนท์ 23 โดยระยะแรก จะเริ่มปิดการจราจรช่องทางขวา (ชิดเกาะกลาง) 1 ช่องจราจร ฝั่งขาออก ระยะทางประมาณ 350 เมตร รวมทั้งปิดการจราจรช่องทางขวา (ชิดเกาะกลาง) ฝั่งขาออก เพิ่มอีก 1 ช่องจราจร ในช่วงเวลา 22.00 - 04.00 น. เพื่อขนย้ายเครื่องจักรหนักเข้าพื้นที่ดำเนินงาน

ทั้งนี้ การดำเนินงานดังกล่าวอาจส่งผลให้การจราจรชะลอตัว ติดขัด และอาจมีเสียงดังรบกวน โดยระหว่างดำเนินงานจะมีการติดตั้งป้ายเตือนล่วงหน้าก่อนถึงจุดเบี่ยง ป้ายจราจร กรวยยางและสัญญาณไฟส่องสว่าง เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้เส้นทาง รฟม. จึงขออภัยในความไม่สะดวก สำหรับผู้ที่ต้องการสอบถามรายละเอียดการเบี่ยงจราจรเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่เบอร์ 0 2610 4915, 09 8827 5555
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 23/07/2018 10:48 am    Post subject: Reply with quote

จ่อเวนคืนเพิ่ม 100 ราย สร้างตอม่อรถไฟฟ้า”สายสีชมพู”
วันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2561- 12:30 น.

รฟม.จ่อเวนคืนเพิ่ม 100 ราย เคลียร์พื้นที่ปักตอม่อรถไฟฟ้าสายสีชมพู หลังกรมทางหลวงบี้ให้ลดขนาด หวั่นกระทบทางเท้าถนนติวานนท์ แจ้งวัฒนะ มีนบุรี บีทีเอสยันปรับได้ไม่มาก เดินหน้าลุยก่อสร้างเต็มสูบพร้อมสายสีเหลือง ดันส่วนต่อขยายไปยังเมืองทองธานีและแยกรัชโยธิน เสร็จเปิดบริการพร้อมกันในปี”64



นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ปัจจุบันได้ให้ผู้รับเหมาก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพูแคราย-มีนบุรี และสายสีเหลืองลาดพร้าว-สำโรง เข้าเริ่มงานก่อสร้างหลังกรมทางหลวง (ทล.) ส่งมอบพื้นที่ให้แล้ว ซึ่งจะเดินหน้าก่อสร้างนับจากนี้ มีกำหนดแล้วเสร็จ 3 ปี 3 เดือน พร้อมเปิดบริการในปี 2564



ทั้งนี้ ในส่วนของสายสีชมพูยังติดปัญหาเรื่องแบบก่อสร้างช่วงถนนติวานนท์และถนนแจ้งวัฒนะ ที่กรมทางหลวงต้องการให้ปรับลดขนาดตอม่อเพื่อให้มีช่วงระยะห่างสำหรับการกลับรถ และคงช่องจราจรถนนเดิมไว้เท่าเดิม ทั้งนี้ หากผู้รับเหมาไม่สามารถปรับลดขนาดลงได้ อาจจะต้องมีการเวนคืนบริเวณทางเท้าเพิ่มเติม

“ในรายละเอียดกำลังคุยกันว่าจะปรับแค่ไหนอย่างไร โดยกรมทางหลวงอยากให้ขยายความยาวระยะช่วงเสาให้ห่างขึ้น เพื่อให้คงจุดกลับรถบริเวณเกาะกลางในหลาย ๆ จุดเอาไว้ ซึ่งหากจะต้องทำตามที่กรมทางหลวงเสนอมาก็ไม่จำเป็นต้องเวนคืนเพิ่มเติม เพราะใช้พื้นที่เกาะกลางเดิมของถนนก่อสร้างอยู่แล้ว เพียงแต่ขยายระยะห่างของเสาตอม่อเท่านั้น”

นายภคพงศ์กล่าวอีกว่า ด้านการต่อขยายของสายสีชมพูจากศรีรัช-เมืองทองธานี ระยะทางประมาณ 3 กม. มี 2 สถานี ได้แก่ สถานี MT-01 ตั้งอยู่บริเวณอิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ และสถานี MT-02 ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าของทะเลสาบเมืองทองธานี และส่วนต่อขยายสายสีเหลืองจากแยกรัชดาฯ-ลาดพร้าว-แยกรัชโยธิน ระยะทาง 2.6 กม. มีสถานี YLEX-01 อยู่หน้าอาคารจอดรถของสำนักงานศาลยุติธรรม และสถานี YLEX-02 อยู่บริเวณสถานีตำรวจพหลโยธิน จะมีทางเดินเชื่อมไปยังสถานีพหลโยธินของสายสีเขียว (หมอชิต-คูคต) ที่กลุ่มบีเอสอาร์ (บีทีเอสฯ-ซิโน-ไทยฯ-ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง) ผู้ลงทุนโครงการเสนอแผนเข้ามานั้น

ขณะนี้ทั้ง 2 ส่วนอยู่ระหว่างดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น ทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) การรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ และ พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 2556 เนื่องจากเป็นส่วนต่อขยายสายใหม่ที่ไม่อยู่ในแผนแม่บทรถไฟฟ้า 10 สายตามที่สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กำหนดไว้

เมื่อดำเนินการศึกษาความเหมาะสมและความเป็นไปได้แล้วเสร็จจะต้องเสนอให้คณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) อนุมัติเพื่อบรรจุไว้ในแผนแม่บท และเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติ จากนั้น รฟม.จะเจรจากับกลุ่มบีทีเอสเพื่อลงทุนโครงการ

ต่อไป คาดว่าการดำเนินการตามขั้นตอนต่าง ๆ จะแล้วเสร็จในปี 2561 นี้ เพื่อเอกชนจะได้ลงทุนก่อสร้างให้แล้วเสร็จเปิดบริการพร้อมกับสายสีชมพูและสีเหลืองที่เป็นสายหลักในปี 2564

นายธานินทร์ สมบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า กำลังพิจารณาแบบก่อสร้างของผู้รับเหมาของสายสีชมพูตลอดแนวเส้นทางที่การก่อสร้างตอม่อจะกระทบต่อผิวทางเท้า ให้ปรับลดลงเหลือ 1.50 เมตร เพื่อที่จะคงขนาดช่องจราจรที่จะรอเลี้ยวยูเทิร์นมีเพียงพอ ซึ่ง รฟม.จะต้องไปเวนคืนเพิ่มเติมทั้งเส้นทางคาดว่าประมาณ 100 ราย ซึ่งแต่ละรายเวนคืนประมาณ 10-20 เมตร หากปรับอาจจะกระทบต่อต้นทุนก่อสร้าง ทั้งนี้ รอทาง รฟม.หารือกับเอกชนที่ลงทุนเนื่องจากมีการเซ็นสัญญาไปแล้ว

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC กล่าวว่า รฟม.แจ้งให้เริ่มสัญญาสายสีชมพูกับสีเหลืองแล้วเมื่อวันที่ 29 มิ.ย. 2561 ที่ผ่านมา จากนี้จะเริ่มงานก่อสร้างอย่างจริงจังให้แล้วเสร็จตามสัญญา ส่วนเรื่องการที่กรมทางหลวงให้ปรับแบบของสายสีชมพูนั้น จะดำเนินการเท่าที่ทำได้

ล่าสุดได้ส่งแบบให้ รฟม.และกรมทางหลวงพิจารณาแล้ว ทั้งนี้ หาก รฟม.ต้องมีเวนคืนเพิ่ม คาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อแผนงานก่อสร้างของโครงการ
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44323
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 04/08/2018 4:17 pm    Post subject: Reply with quote

รฟม.รับฟังความเห็นส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีชมพู
เผยแพร่: 4 ส.ค. 2561 13:05 โดย: MGR Online

นายสาโรจน์ ต.สุวรรณ ผู้ช่วยผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวว่า การประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 2 ของโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี (สถานีศรีรัช-เมืองทองธานี) ในครั้งนี้ เพื่อนำเสนอผลการศึกษาความเหมาะสมของโครงการให้กลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้รับทราบ รวมถึงร่วมกันแสดงความคิดเห็นและข้อเสนอต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อโครงการ โดย รฟม. จะนำไปพิจารณาประกอบการปรับปรุงแนวทางการศึกษาให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

ส่วนต่อขยายโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู เป็นส่วนต่อขยายแยกจากบริเวณกลางสายสีชมพู เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่วิ่งจากสายหลักเข้าสู่เส้นแจ้งวัฒนะ-เมืองทองธานี โดยมีระยะทาง 2.8 กิโลเมตร มี 2 สถานี คือ บริเวณวงเวียนอิมแพ็ค และบริเวณทะเลสาบในเมืองทองธานี หากการประชุมในครั้งนี้ผลตอบรับจากประชาชนเป็นไปในทิศทางดี ก็จะพิจารณาเพิ่มต่อขยายไปจนถึงเส้นติวานนท์ในอนาคต อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังคงเป็นเพียงแนวคิด และจะต้องรอดูผลการตอบรับจากประชาชนก่อน หากจะมีการก่อสร้างก็จะมีระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ซึ่งจะบรรจบกับถนนติวานนท์ และหากเส้นทางไปถึงติวานนท์นี้มีมติเห็นชอบให้ดำเนินการก่อสร้าง ก็จะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จพร้อมกับสายหลัก

สำหรับส่วนต่อขยายดังกล่าวคาดว่าจะสามารถก่อสร้างได้ภายในต้นปี 2562 โดยใช้งบประมาณการก่อสร้างส่วนต่อขยายกว่า 3,300 ล้านบาท โดยจะต้องซื้อขบวนรถเพิ่มจำนวน 2 ขบวน

ขณะที่การออกแบบก่อสร้างสถานีได้วางแผนออกแบบไปอีก 30 ปีในอนาคต ซึ่งตัวของสถานีได้มีการออกแบบให้มีขนาดใหญ่เท่ากับสายหลัก เพื่อรองรับประชาชนที่ใช้บริการ หากก่อสร้างแล้วเสร็จคาดว่าจะมีผู้ใช้บริการมากถึง 20,000 คนต่อวัน ส่วนผู้ที่จะมาบริการการเดินรถส่วนต่อขยายจะต้องพิจารณาอีกครั้ง คาดว่าจะเป็นลักษณะของการร่วมทุน ส่วนการเวนคืนพื้นที่ อาจจะต้องขอเวนคืนบางส่วนกว่า 100 ตารางวา ตรงกับจุดขึ้น-ลงสถานี โดยเฉพาะจุดก่อสร้างบริเวณสถานีวงเวียนอิมแพ็ค เนื่องจากจุดดังกล่าวเป็นทางขึ้นลงทางด่วนและมีร้านค้าประชาชน สำหรับอัตราค่าโดยสารในเส้นทางส่วนขยาย จะยึดอัตราของเส้นทางหลักเป็นเกณฑ์ ตั้งแต่ 14-42 บาท
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 07/08/2018 6:24 pm    Post subject: Reply with quote

เผื่อเวลา-หาทางลัดใช้เลี่ยง วิกฤติอีกสร้างรถไฟฟ้า3สี
คอลัมน์ : มุมคนเมือง
โดย “เทียนหยด”
อังคารที่ 7 สิงหาคม 2561 เวลา 08.00 น.


สัปดาห์นี้พาไปดูวิกฤติเมืองกรุง ผลกระทบสร้างรถไฟฟ้า 3 สี หายสงสัยทำไมช่วงนี้รถติดหนึบ ต้องนั่งแช่อยู่บนรถ 2-3 ชม.



หลายคนบ่นอุบ ทำไมท้องถนนกทม. ช่วงนี้ถึงติดหนึบ การจราจรกลับมาวิกฤติอีกครั้ง นั่นเป็นเพราะว่า...มีผลกระทบจากการปิดถนนลาดพร้าว เพื่อก่อสร้าง “รถไฟฟ้าสายสีเหลือง” นั่นเอง

พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล บอกว่า การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม. เริ่มปิดถนนลาดพร้าวด้านละ 1 ช่องจราจร รวม 2 ช่องไปกลับ จากที่มี 6 ช่องจราจร เหลือผิวจราจร 4 ช่องไปกลับ พร้อมยกเลิกช่องทางพิเศษวิ่งสวนเลนในช่วงเช้าที่เคยระบายรถขาเข้าเมือง ทำให้ท้ายแถวถนนลาดพร้าวขาเข้า ยาวเหยียดหลายกิโลเมตรถึงแยกนิด้า

ส่วนขาออกสะสมถึงแยกรัชดาฯ-ลาดพร้าวและห้าแยกลาดพร้าว พันถนนรัชดาภิเษกทั้ง 2 ฝั่งเข้าออก กระทบถนนพระราม 9 เข้าถนนดินแดง อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ กทม.ชั้นในติดล็อกเป็นวงแหวน ถนนพหลโยธิน และถนนวิภาวดีรังสิตก็หยุดนิ่ง เพราะเข้ารัช-วิภาไม่ได้ รถติดพันกินพื้นที่ครึ่งกทม.



“เมื่อเย็นวันศุกร์ ตำรวจต้องใช้เวลากว่า 3 ชม. เร่งระบายรถจนกว่าจะคลี่คลาย สัปดาห์นี้จะเรียกตัวแทนรฟม. รวมถึงผู้รับเหมาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หารือแนวทางว่าจะช่วยกันลดวิกฤติรถติดได้อย่างไรบ้าง”

กระทรวงคมนาคม ภายใต้รัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงทุนมหาศาลเพื่อพลิกโฉมการเดินทางของคนไทยทุกโหมด โดยเฉพาะระบบรางที่โหมก่อสร้างทั้งรถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูงหรือไฮสปีดเทรน เชื่อมโยงการเดินทางทั่วประเทศให้แล้วเสร็จภายในปี 72

ในส่วนของกทม. และปริมณฑล ลุยเต็มสูบก่อสร้างรถไฟฟ้าหลากสี ตามแผนแม่บทระยะที่ 1 ให้เสร็จภายในปี 65 จะทำให้กทม. มีรถไฟฟ้ายาวถึง 464 กม. ขึ้นแท่นมหานครระบบรางอันดับ 3 ของโลกรองจากเซี่ยงไฮ้ที่จีน และกรุงโซล เกาหลีใต้ มีระบบราง 588 กม. และ 508 กม.ตามลำดับ โค่นแชมป์เก่าอย่างกรุงลอนดอน อังกฤษที่มี 402 กม. นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา 394 กม. และมหานครโตเกียว ญี่ปุ่น 203 กม.

ในปีนี้มีรถไฟฟ้าถึง 3 สี ที่ต้องลงพื้นที่ก่อสร้างพร้อมกันและปิดถนนนาน3 ปีเต็มๆ ประกอบด้วยรถไฟฟ้าโมโนเรล หรือรถไฟฟ้ารางเดี่ยว 2 สาย คือ สายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ระยะทาง 30 กม. จุดที่กระทบอย่างหนัก คือ ถนนลาดพร้าว ตำรวจแนะนำเผื่อเวลาเดินทาง 2-3ชม. และแนะนำบริษัทเอกชนและโรงเรียนเหลื่อมเวลาเรียนและเวลาทำงาน จะได้เดินทางไม่พร้อมกันตูมเดียว



ขณะที่สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กำลังพิจารณาจัดรถชัทเทิลบัสรับส่งประชาชน เพื่อจูงใจให้ลดปริมาณการใช้รถส่วนตัวระหว่างก่อสร้าง

ส่วนโมโนเรลสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ระยะทาง 34.5 กม. วางเสาเข็มต้นแรกบริเวณแยกลาดปลาเค้าแล้ว โดยรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภค ไฟฟ้า-ประปา ตามแนวถนนติวานนท์จนถึงรามอินทราเสร็จเกือบ100 % เหลือจากถนนรามอินทราที่เข้าถนนสุขาภิบาล3 (ตลาดมีนบุรี) เริ่มเข้าพื้นที่แล้วอีกไม่นานก็จะเริ่มปิดการจราจรเต็มรูปแบบเช่นกัน โดยวันที่ 20 ส.ค.นี้ นายกรัฐมนตรี จะไปเป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างโครงการโมโนเรล 2 สายแรกของไทย เพื่อความเป็นสิริมงคลด้วย



อีกโครงการ คือ รถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออก (ศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี) ระยะทาง 35.4 กม. บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จํากัด (มหาชน) ผู้รับเหมาได้ประกอบหัวเจาะ และกำลังทดสอบระบบการทำงานของหัวขุดเจาะอุโมงค์ สัญญาที่ 3 งานโยธาส่วนใต้ดิน (ช่วงหัวหมาก-คลองบ้านม้า) ที่โรงงาน MRP Engineering จ.ชลบุรี เตรียมความพร้อมในการขุดเจาะพื้นที่จริงวันที่ 9 ม.ค.62 โดยขณะนี้ผู้รับเหมาได้ปิดถนนรามคำแหงหลายจุด เพื่อรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภค จึงเป็นอีกจุดที่มีปัญหาการจราจรอัมพาตเช่นกัน 



เมื่อช่องจราจรถนนเมืองกรุงหายไป และถูกแทนที่ด้วยเครื่องจักรเพื่อก่อสร้างรถไฟฟ้า สวนทางกับปริมาณรถที่มีแต่จะเพิ่มขึ้น ล่าสุดกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เผยสถิติจดทะเบียนรถใหม่ทั่วประเทศ ช่วงครึ่งปีแรก 61 (ม.ค.-มิ.ย.) รวม 1,614,576 คัน เพิ่มขึ้นจากครึ่งปีแรกของปี 60 ถึง 1.9% โดยรถจยย.มีสถิติจดทะเบียนใหม่สูงสุด 1,008,486 คัน รองลงมารถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน (รถเก๋ง) 373,063 คัน รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล (รถกระบะ) 141,271 คัน รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คน (รถแท็กซี่) 8,094 คัน รถจยย.สาธารณะ 1,911 คัน ส่วนรถบรรทุก 34,755 คัน เพิ่มขึ้น 9.2% ขณะที่รถโดยสารมี 6,186 คัน เพิ่มขึ้น 15.7%

ส่งผลให้จำนวนรถจดทะเบียนสะสมทั่วประเทศ จนถึงปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิ.ย.61) รวม 38,969,601 คัน เป็นรถจยย. 20,709,434 คัน รถเก๋ง 9,074,573 คัน รถกระบะ 6,527,058 คัน รถแท็กซี่ 84,005 คัน รถจยย.สาธารณะ 188,171 คัน รถบรรทุก 1,108,671 คัน และรถโดยสาร 160,977 คัน ล้นทะลักท้องถนนโดยเฉพาะกทม. เมืองที่ติดแชมป์โลกด้วยปัญหารถติด

เข้าใจหัวอกคนใช้รถส่วนตัว ว่าเป็นเรื่องยากและลำบาก ที่จะให้เปลี่ยนพฤติกรรมไปใช้ขนส่งสาธารณะ อย่างรถไฟฟ้าบีทีเอส เอ็มอาร์ที หรือแอร์พอร์ตเรลลิงก์ เพราะเส้นทางยังไม่คลอบคลุม แถมต้องลุ้นกันรายวันว่าจะ “ขัดข้องหรือไม่” แต่ถ้าเดินรถราบรื่นก็ประกันเวลาและสะดวกสบาย ส่วนที่ใช้รถเมล์ก็ต้องโหนต้องทนนั่งแกร่ว เสียเวลาบนท้องถนนนานขึ้นไปอีก เพราะไม่มีทางเลือก 

ดังนั้นต้องทำใจ ศึกษาทางลัดทางเลี่ยง รวมทั้งเผื่อเวลาเดินทางให้มากขึ้น รักษาวินัยจราจร อย่าเติมปัญหาให้ท้องถนน อดทนเพื่ออนาคตอันสดใส ให้กทม. เป็นมหานครระบบรางของโลก.
................................
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 16/08/2018 12:51 pm    Post subject: Reply with quote

ต่อสีชมพูเข้าเมืองทอง

5 สิงหาคม 2561

นายสาโรจน์ ต.สุวรรณ ผู้ช่วยผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวภายหลังประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนครั้งที่ 2 งานศึกษารายละเอียดความเหมาะสม ออกแบบ และศึกษาวิเคราะห์โครงการตามพ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ.2556 ส่วนต่อขยายโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี (สถานีศรีรัช-เมืองทองธานี) ว่ารฟม. ได้นำเสนอผลการศึกษาด้านวิศวกรรม โดยมีระยะทางประมาณ 3 กม. ออกแบบเดินรถเป็นระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (โมโนเรล) ที่มีสมรรถนะสูงรองรับด้วยโครงสร้างยกระดับตลอดแนวเส้นทาง ออกแบบตัวสถานีให้มีขนาดใหญ่รองรับผู้โดยสารในอนาคตอีก30ปี เบื้องต้นจะใช้รถเดินรถ 2 ขบวน 4 ตู้ อัตราค่าโดยสารคิดตามระยะทาง 14 -42 บาท แนวเส้นทางเริ่มต้นจากถนนแจ้งวัฒนะบริเวณสถานีศรีรัช ของโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูสายหลัก ไปทางทิศตะวันตกและเลี้ยวขวาเข้าเมืองทองธานีไปตามซอยแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 39 แนวทางเดียวกับทางพิเศษอุดรรัถยา ต่อเนื่องไปยังจุดสิ้นสุดโครงการบริเวณทะเลสาบเมืองทองธานี
มีสถานีรับส่งผู้โดยสาร 2 สถานี ได้แก่ สถานี MT-01 ตั้งอยู่บริเวณอิมแพ็คชาเล็นเจอร์ และ สถานี MT-02 หน้าทะเลสาบเมืองทองธานี มีขอบเขตพื้นที่ศึกษาอยู่ห่างจากศูนย์กลางแนวเส้นทางข้างละ 500 เมตรครอบคลุมพื้นที่ 3 ตำบล ได้แก่ ต.บางตลาด ต.คลองเกลือ และ ต.บ้านใหม่ ในพื้นที่เทศบาลนครปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด

นายสาโรจน์ กล่าวต่อว่า จากผลศึกษาประมาณการว่าจะใช้เงินลงทุนกว่า 3,300 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าก่อสร้าง งานโยธา งานระบบ การจัดซื้อขบวนรถ รวมถึงค่าการเวรคืนที่ดินใต้ทางด่วนประมาณ100ตารางวาเศษ ส่วนใหญ่เป็นบริษัทห้างร้าน ไม่มีบ้านเรือนประชาชน ทั้งนี้คาดว่าเอกชนผู้ลงทุนน่าจะเป็นรายเดียวกับผู้เดินในสายหลักตามโครงการสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี เพราะรายอื่นคงไม่คุ้มค่าลงทุน แต่ต้องแก้ไขสัญญาสายหลักให้สามารถดำเนินการได้ ส่วนปริมาณผู้โดยสารเฉลี่ยวันละประมาณ 20,000 คน อนาคตรฟม.จะศึกษาเพิ่มเติมถึงปริมาณผู้โดยสารและความต้องการของประชาชนในการต่อขยายเพิ่มอีก2 สถานีเชื่อมจากเมืองทองธานีออกไปถึงถนนติวานนท์ 2 กม. ด้วยจะสรุปผลรับฟังความเห็นทั้งหมด และปรับปรุงแผนครั้งสุดท้ายนำเสนอกระทรวงคมนาคม และคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก( คจร. ) พิจารณา หากไม่มีปัญหาคาดว่าจะก่อสร้างได้ต้นปี 62 เปิดบริการได้พร้อมสายหลักสีชมพูปี64 แน่นอน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศการประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นนั้นประชาชนในพื้นที่ส่วนใหญ่เห็นด้วย เพราะเป็นความเจริญและอำนวยความสะดวกเดินทางเชื่อมต่อช่วยลดความแออัดการจราจรภายในเมืองทองธานี แต่ยังกังวลแนวเส้นทางเวนคืนที่ดินที่ไม่ชัดเจน แผนแก้ปัญหาจราจร ปัญหาน้ำท่วม ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ตลอดจนมาตรการอำนวยความสะดวกผู้ใช้บริการ สิ่งอำนวยความสะดวกภายในสถานีสำหรับผู้สูงอายุและเด็ก เช่น ห้องน้ำ ทางเท้าที่จะเกิดขึ้นใต้สถานีรถไฟฟ้า เป็นต้น เพราะทุกอย่างเขียนไว้สวยหรูแต่ไม่รู้ว่าจะปฏิบัติจริงได้ตามนั้นหรือไม่ รวมถึงการทบทวนการใช้เทคโนโลยีรถไฟฟ้าโมโนเรลเกรงไม่คุ้มค่าเพราะเป็นรถขนาดเล็ก อาจซ่อมบำรุงบ่อยครั้ง รองรับผู้โดยสารได้ไม่เพียงพอ อยากให้รฟม.มีความชัดเจนและแจ้งชาวบ้านรับรู้ไม่ให้เกิดปัญหาตามมาในอนาคต
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44323
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 26/08/2018 9:47 pm    Post subject: Reply with quote

นายกฯ จะเป็นประธานพิธีเริ่มก่อสร้างรถไฟฟ้าโมโนเรล 2 สายแรกของไทยพรุ่งนี้
เผยแพร่: 26 ส.ค. 2561 15:15 โดย: MGR Online

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (27 ส.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานในพิธีเริ่มการก่อสร้างรถไฟฟ้าโมโนเรล หรือระบบรางเดี่ยว 2 สายแรกของประเทศไทย ประกอบด้วย โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง หลังจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ดำเนินการส่งมอบพื้นที่ให้ผู้รับสัมปทานเข้าไปดำเนินโครงการก่อสร้าง โดยโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี บริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด เป็นผู้รับสัมปทาน และบริษัท อีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด ผู้รับสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง สำหรับภาพรวมการดำเนินโครงการของทั้ง 2 สายทางยังเป็นไปตามแผน ทั้งนี้ เมื่อเริ่มต้นโครงการก่อสร้างแล้ว จะเร่งผลักการก่อสร้างให้เปิดบริการตามแผน และที่สำคัญเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการสัญจรของประชาชนในพื้นที่ที่มีการก่อสร้าง

สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ระยะทางประมาณ 34 กิโลเมตร จำนวน 30 สถานี ตามแผนเปิดให้บริการปี 2564 เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จคาดการณ์จะมีผู้โดยสารให้บริการประมาณ 120,000 คนต่อเที่ยวต่อวัน ส่วนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ระยะทาง 30 กิโลเมตร จำนวน 23 สถานี เปิดให้บริการปี 2564 เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จคาดการณ์จะมีผู้โดยสารให้บริการประมาณ 220,000 คนต่อเที่ยวต่อวัน ซึ่งทั้ง 2 โครงการเป็นหนึ่งในแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนทางรางในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล หรือ M-MAP ระยะที่ 1
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 27/08/2018 11:12 am    Post subject: Reply with quote

นายกฯเปิดก่อสร้างรถไฟฟ้าโมโนเรล2สายแรก
นายกรัฐมนตรี เปิดเริ่มก่อสร้างรถไฟฟ้า 2 สาย ย้ำทุกคนต้องทำเพื่อชาติ ยันไม่มีการเอื้อประโยชน์ใคร ไม่ให้ใครทุจริต แก้รถติด ต้องเคารพกฎหมาย กำชับบริษัทก่อสร้างต้องได้มาตรฐาน ใช้พื้นที่เหมาะสม ทำให้เร็วที่สุด
จันทร์ที่ 27 สิงหาคม 2561 - 10:20
นายกฯกดปุ่ม เปิดรถไฟฟ้ารางเดี่ยว โมโนเรล 2สายแรก ปี64ได้ใช้
โดย ไทยรัฐออนไลน์
จันทร์ที่ 27 สิงหาคม 2561 - 09:59




พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เป็นประธานในพิธีเริ่มการก่อสร้างรถไฟฟ้าโมโนเรล 2 สายแรกของประเทศไทย โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ที่บริเวณพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง หมวดทางหลวงศรีนครินทร์ ถนนศรีนครินทร์ โดยมีนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนกรุงเทพ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการพิธี

โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งว่า ขอบคุณที่จัดพิธีเริ่มการก่อสร้างในครั้งนี้ เพราะถือว่าร่วมทำประโยชน์ชาติบ้านเมือง แก้ไขการจราจรติดขัด การใช้รถใช้ถนน และการเคารพกฎหมาย แต่จะสร้างรถไฟฟ้าอย่างเดียวไม่ได้ ซึ่งทุกคนต้องร่วมทำเพื่อชาติบ้านเมืองข้างหน้าด้วย จะเสียเวลาไม่ได้อีกแล้ว เพราะจะกระทบต่อประชาชนจำนวนมาก พร้อมยืนยันว่าการก่อสร้างครั้งนี้ไม่มีการเอื้อทุจริตให้ใคร เนื่องจากเป็นการลงทุนก่อสร้างโดยใช้รูปแบบการลงทุน PPP เป็นการลงทุนร่วมภาครัฐและเอกชน ซึ่งมีกฎกติกาชัดเจน และต้องการแก้ไขปัญหาการจราจร ที่ต้องใส่แผนแม่บท 20 ปี ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงได้ พร้อมยืนยันว่าไม่ได้
ล็อกให้ใคร เพราะว่าการจัดซื้อจัดจ้างถูกต้องสุจริต และให้ประชาชนไว้วางใจ ส่วนการเวนคืนที่ดินนั้น จะต้องหาวิธีการตอบแทนประชาชนที่เหมาะสม และมีการแบ่งบันผลประโยชน์ โดยตนเองรับฟังความเห็นประชาชนทุกเรื่อง และการทำงานต้องไม่มีการทุจริต จึงขอเชื่อมั่นไม่เช่นนั้นจะมีความขัดแย้งเกิดขึ้น และอย่าพูดกันไปมาจนสับสนอลหม่าน






นายกฯ เป็นประธานพิธีเริ่มการก่อสร้างรถโมโนเรลสายสีชมพู-เหลือง 2 สายแรกของไทยเช้านี้ คาดเปิดปี 64

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) --
จันทร์ที่ 27 สิงหาคม 2561 09:52:40 น.

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเริ่มการก่อสร้างรถไฟฟ้าโมโนเรล 2 สายแรกของประเทศไทย คือ โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูช่วงแคราย-มีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองช่วงลาดพร้าว-สำโรง

"ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมารัฐบาลได้มีนโยบายผลักดันโครงการขนาดใหญ่ต่างๆ ให้ดำเนินการไปอย่างต่อเนื่อง และเป็นรูปธรรมโดยเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนที่กำหนดอยู่ในแผนยุทธศาตร์ชาติระยะ 20 ปีของรัฐบาล ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมและขนส่งเพื่อเชื่อมต่อการเดินทางในกรุงเทพและปริมณฑลให้ทั่วถึงกันเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันด้านเศรษฐกิจและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน"นายกรัฐมนตรี กล่าว



โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและรถไฟฟ้าสายสีเหลืองเป็นโครงการที่รัฐบาลให้ความสนใจเร่งรัดติดตามความก้าวหน้าเพื่อให้ทั้งสองโครงการนี้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมโดยพร้อมกัน เพื่อหวังบรรเทาปัญหาการจราจรอย่างเร่งด่วน

ทั้งนี้ รถไฟฟ้าทั้ง 2สายเป็นโครงการนำร่องภายใต้นโยบาย PPP Fast Track ของรัฐบาลที่มีวัตถุประสงค์เพื่อเร่งรัดการดำเนินโครงการให้มีความรวดเร็ว รวมทั้งเปิดโอกาสให้เอกชนได้เข้าร่วมในโครงการที่เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ต่างๆ ร่วมกับภาครัฐ เพื่อลดภาระด้านงบประมาณและหนี้สาธารณะของประเทศ

โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและรถไฟฟ้าสายสีเหลืองมีกลุ่ม BSR ประกอบด้วย บมจ.บีทีเอส กรุ๊ปโฮลดิ้งส์ (BTS), บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ว แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC) และบมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง (RATCH) เป็นผู้ที่ได้รับสัมปทานมีระยะเวลาการลงทุนรวม 33 ปี 3 เดือนแบ่งการดำเนินงานออกเป็น 2 ระยะ โดยระยะที่ 1งานออกแบบและก่อสร้างงานโยธาพร้อมติดตั้งระบบและขบวนรถไฟฟ้า ระยะเวลา 3 ปี 3 เดือน และระยะที่ 2 งานให้บริการและบำรุงรักษาระยะเวลา 30 ปีโดยให้เอกชนเป็นผู้จัดเก็บค่าโดยสารและรับความเสี่ยงด้านจำนวนผู้โดยสาร

ปัจจุบันการดำเนินงานระยะที่ 1 ของรถไฟฟ้าสายสีชมพู มีความก้าวหน้าการก่อสร้างงานโยธา 3.10% (สิ้น ก.ค.61) ส่วนรถไฟฟ้าสายสีเหลืองมีความก้าวหน้าการก่อสร้างงานโยธา 5.07% (สิ้น ก.ค.61) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) มั่นใจว่าสามารถก่อสร้างแล้วเสร็จและทดลองระบบพร้อมเปิดให้บริการได้ช่วงปลายปี 64 ซึ่งใช้เวลาน้อยกว่าการก่อสร้างรถไฟฟ้าแบบ Heavy Rail หรือระบบขนส่งมวลชนหลักที่ต้องใช้ระยะเวลาก่อสร้างไม่น้อยกว่า 6 ปี ทั้งนี้ รถไฟฟ้าโมโนเรลทั้ง 2 สายจะช่วยเติมเต็มโครงข่ายการคมนาคมในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลให้ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพนิ่งขึ้น

รถไฟฟ้าสายสีชมพูมีระยะทาง 34.5 กิโลเมตร จำนวน 30 สถานีสามารถรองรับผู้โดยสารสูงสุด 28,000 คน/ชั่วโมง ส่วนรถไฟฟ้าสายสีเหลืองมีระยะทาง 30.4 กิโลเมตร จำนวน 23 สถานีสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 28,000 คน/ชั่วโมง
https://www.youtube.com/watch?v=d4DQTxHozHQ
https://www.youtube.com/watch?v=yp0hDB2xVIg
https://www.youtube.com/watch?v=_sUd-eILgsk
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 28/08/2018 9:48 am    Post subject: Reply with quote

ผ่านบ้านใคร? รถไฟฟ้าสายสีชมพู เหลือง กดปุ่มสร้างวันนี้ ได้ใช้เมื่อไหร่?
โดย ไทยรัฐออนไลน์
จันทร์ที่ 27 สิงหาคม 2561 - 13:42

บิ๊กตู่ เปิดงานสร้าง รถไฟฟ้าโมโนเรล ลั่น!! ไม่มีทุจริตในโครงการ ‘เสี่ยหนู’ โผล่ร่วมงาน

วันที่ 27 สิงหาคม 2561 - 11:27 น.

บิ๊กตู่ เปิดงานสร้าง รถไฟฟ้าโมโนเรล ลั่น!! ไม่มีทุจริตในโครงการ ดึงเอกชนร่วมลงทุน 33 ปี 3 เดือน เชื่อไม่เก็บค่าบริการแพง ประสานการแก้ปัญหารถติด ‘เสี่ยหนู’ โผล่ร่วมงาน

รถไฟฟ้าโมโนเรล – เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 27 สิงหาคม บริเวณพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง หมวดทางหลวงศรีนครินทร์ ถนนศรีนครินทร์ เขตบางนา กรุงเทพมหานคร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานในพิธีเริ่มการก่อสร้างรถไฟฟ้าโมโนเรล 2 สายแรกของประเทศไทย คือโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง โดยเป็นที่น่าสังเกตว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เดินทางมาร่วมงานด้วย แต่ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ใดใดกับสื่อมวลชน


นายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า วันนี้ถือว่าพวกเราได้มาร่วมกันสร้างบริบทให้กับประเทศ ในการก่อสร้างรถไฟฟ้าโมโนเรล 2 สายแรกของประเทศ ระบบขนส่งมวลชนของประเทศไทยทุกคนทราบดีว่า มีปัญหามาก ไม่ว่าจะเป็นต่างจังหวัดปริมณฑล กรุงเทพมหานคร และพื้นที่ใจกลางกรุงเทพมหานคร ปัญหาการจราจรถือว่าหนักหนาสาหัส วันนี้จึงจำเป็นต้องเร่งแก้ปัญหาให้ได้ ซึ่งประกอบด้วยหลายอย่าง ตั้งแต่เรื่องการใช้รถ ใช้ถนน การเคารพกฎหมาย รัฐบาลเองก็ต้องหาวิธีการที่จะทำให้การจราจรลื่นไหล ถ้ามัวแต่มองข้างเดียวเรื่องการก่อสร้าง หรือสร้างให้มากที่สุด ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะแก้ไขปัญหาทั้งหมด เราต้องแก้ปัญหาหลายๆ ส่วนพร้อมกัน ภาครัฐ ภาคประชาชน เจ้าหน้าที่ รวมถึงผู้ประกอบการ ต้องร่วมมือกันทำเพื่อประเทศชาติบ้านเมืองให้ดีขึ้นในวันข้างหน้า

เราเสียเวลาต่อไปไม่ได้อีกแล้ว เพราะทำให้เกิดการสูญเสียมากมาย ทั้งการจราจร ความสิ้นเปลือง คุณภาพชีวิต ผู้ใช้รถใช้ถนนซึ่งปัญหาเหล่านี้รัฐบาลนี้ให้ความสนใจอย่างมาก การดำเนินการก่อสร้างรถไฟฟ้าโมโนเรลครั้งนี้ ถือเป็นหนึ่งในโครงการผลักดันโครงสร้างพื้นฐานของประเทศให้ อย่างไรก็ตามการดำเนินโครงการใดๆ สังคมมักจะมองเพียงด้านเดียวก่อน ทั้งเรื่องผลประโยชน์ การทุจริตต่างๆ อยากให้มองที่เหตุและผลในการดำเนินการก่อสร้าง ว่าทำเพื่ออะไรเป็นการเชื่อมโยงเส้นทางต่างๆ ทางรถไฟ รถไฟฟ้ารางเดียวรวมถึงการปรับปรุงเส้นทางรถเมล์สายต่างๆ ซึ่งทั้งหมดได้กำหนดไว้ในแผนแม่บทและยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แต่ถ้าทำไม่ได้ด้วยเหตุผลพอสมควรก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่ทั้งหมดต้องถูกต้องตามกฏหมาย ด้วยระเบียบวิธีการจัดซื้อจัดจ้างที่ถูกต้อง สุจริต

“ ปัญหาที่สำคัญคือ การใช้พื้นที่ในการก่อสร้าง จะเห็นได้ว่าในหลายเส้นทางยังมีปัญหา แม้จะมีแผนงานโครงการไปแล้วก็ตาม เนื่องจากติดขัดในเรื่องที่ดินของเอกชน โดยเฉพาะปัญหาเรื่องค่าเวนคืน ซึ่งต้องหาวิธีการที่เหมาะสมต่อไป ต้องหาวิธีการตอบแทนประชาชน อาทิ การแบ่งปันผลประโยชน์จะทำได้หรือไม่ก็ต้องไปคิดต่อ ไม่เช่นนั้นก็ไม่สามารถก่อสร้างอะไรได้ ขอมอบเป็นนโยบายให้กระทรวงคมนาคมไปดำเนินการ วันนี้อะไรก็ได้ที่ทำให้มันดีขึ้น ทำอย่างไรให้ลดความขัดแย้งระหว่างภาครัฐ เอกชน และประชาชน เรามีกฎหมายที่เกี่ยวข้องทุกเรื่อง ผมเองในฐานะผู้นำรัฐบาลไม่สามารถจะไปล้วงลูกลึกในรายละเอียดข้างล่างได้ แต่พร้อมรับฟังทุกความคิดเห็น และมีการสั่งการตรวจสอบลงไปจึงขอย้ำว่า จะต้องไม่มีการทุจริตอย่างเด็ดขาดในการทำงาน วันนี้ขอให้เชื่อมั่นซึ่งกันและกันไม่เช่นนั้นก็จะเกิดความขัดแย้งทั้งหมด ทุกอย่างต้องมีการแข่งขันกันทั้งสิ้น อย่าลืมว่าที่ผ่านมา 10-20 ปี เกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย เราต้องทำทุกอย่างให้ถูกต้อง อย่าพูดกันไปมาจนเกิดความสับสนอลหม่าน จนรัฐบาลแก้ไขปัญหาได้ยาก” นายกรัฐมนตรีกล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐ และภาคเอกชนเพื่อจัดหาโครงการ โครงสร้างพื้ฐาน และบริการสาธารณะที่เป็นหน้าที่ของรัฐ หรือ การลงทุนแบบพีพีพีนั้นมีกติกา กฎหมายชัดเจนยืนยันว่า ไม่มีการเอื้อประโยชน์ให้กับใครทั้งสิ้น ใครที่สามารถเข้าถึงก็สามารถเข้ามาร่วมลงทุนกับรัฐได้ แต่ต้องคำนึงถึงภาครัฐ เอกชน และประชาชน ต้องสร้างให้เกิดความสมดุลย์ระหว่างกันให้ได้ ถ้ามุ่งหวังแต่ประโยชน์ส่วนตัวเพียงอย่างเดียว ก็ไปไม่ได้ทั้งหมด ไม่เกิดผลสัมฤทธิ์ และประสิทธิภาพกับประเทศ รัฐบาลไม่สามารถลงทุนทุกอย่างได้ เพราะรายได้ของประเทศมีจำนวนไม่มากนัก ฝากทุกคนช่วยกันทำความเข้าใจ ไม่เช่นนั้นทุกคนก็จะเข้าใจกันคนละเรื่อง

ความขัดแย้งก็จะเกิดขึ้นสูงรัฐบาลเองก็ลำบากในการทำงาน การก่อสร้างต่างๆ ย่อมเกิดปัญหาการจราจรติดขัดอย่างแน่นอน ซึ่งตรงนี้ก็ต้องขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพราะอย่าลืมว่าคนที่อยากให้ก่อสร้างก็มี แต่ก็ยังมีคนไม่อยากให้ก่อสร้าง เพราะไม่ได้ใช้งาน ก็เกิดการต่อต้าน ต้องชี้แจงทำความเข้าใจในภาพรวมให้คนทั้งสองฝ่ายเข้าใจถึงความจำเป็น ถ้าชี้แจงเป็นส่วนปัญหาก็จะเกิดเช่นเดิม วันนี้เราต้องเสียสละ และช่วยกัน ขอฝากผู้ประกอบการว่า ในการดำเนินโครงการต้องทำให้มีมาตรฐานมีความรวดเร็วแข็งแรง รวมทั้งดูแลประชาชนในเรื่องของราคาค่าบริการให้เกิดความเป็นธรรมให้มากที่สุด เราต้องทำให้คนประมาณ 15 ล้านคน ที่เป็นผู้มีรายได้น้อยสามารถเข้าถึงการพัฒนา และมีการเจริญเติบโตขึ้น อย่าไปสร้างความเข้าใจว่า เราจะให้เพียงอย่างเดียว ที่ผ่านมา 4 ปี รัฐบาลดูแลมาอย่างมากมายมหาศาล ก็ขอให้ระมัดระวังในการรับฟังข่าวสารต่างๆ โดยเฉพาะจากสื่อโซเชียลฯ


“ไม่มีใครทำให้ทุกคนพอใจได้ แต่เราจะทำให้ดีที่สุด ก็คาดหวังในรัฐบาลต่อไปว่า จะทำให้ดีขึ้น อย่าให้เป็นเช่นที่ผ่านมา ซึ่งผมไม่ได้ว่าใครผิดใครถูก แต่เป็นเรื่องของกระบวนการประชาธิปไตย เราต้องทำประชาธิปไตยของเราให้ถูกต้องและเหมาะสม เป็นไปตามข้อเท็จจริงของประเทศเรา และบริบทของประเทศไทย การออกนโยบายของรัฐบาลไม่ได้ออกมาเฉยๆ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟ ทางด่วนก็แล้วแต่ จะต้องเป็นแผนแม่บทออกมา แต่วิธีการต่อไปคือเรื่องของการปฏิบัติ ความเข้าใจของประชาชน ความร่วมมือของภาคเอกชน ทั้งหมดจะต้องสำเร็จได้ ไม่อย่างนั้นก็จะขัดแย้งกันไปมาจนกระทั่งไม่จบสิ้น ถ้าวันไหนบ้านเมืองไม่สงบสุขมันก็จบทุกเรื่อง ก็ฝากทุกคนช่วยทำความเข้าใจด้วย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ในช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวขอบคุณแรงงาน เจ้าหน้าที่ พนักงาน โดยขอให้ทุกคนปลอดภัยในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมยกตัวอย่างว่า เวลาไปต่างประเทศจะเห็นว่า ก่อสร้างมีความเรียบร้อย เครื่องไม้เครื่องมือวางเป็นระเบียบ ส่วนของเราก็อยู่ในเกณฑ์ดี และก็ขอให้ดียิ่งขึ้นไป มีกำหนดเวลาที่แน่นอนในการทำงาน เจ้าหน้าที่ได้รับการป้องกันที่ดี ซึ่งเราเห็นจากต่างประเทศทั้งสิ้นแล้ว เราต้องเดินหน้าไปสู่แบบนั้น และต้องเร่งพัฒนาต่อไป แม้จะรู้ว่ามันยาก แต่เราต้องเข้มงวดในทุกๆ เรื่อง ก็ขอฝากผู้ประกอบการด้วย ขอให้ดูแลพี่น้องประชาชน ลูกจ้างพนักงาน และประเทศให้เกิดความเข้าใจ

“ทุกๆ คนต้องรักษาเกียรติของตัวเอง ทุกคนมีเกียรติ เกียรติเป็นสิ่งที่ทุกคนให้เรา เขาให้ข้าราชการให้พลเรือน ให้ฝ่ายตำรวจ ทหาร ให้ฝ่ายการเมือง คือ เกียรติไม่ใช่การมียศมีตำแหน่งแล้วนั้นคือเกียรติ ต้องมีเกียรติมากกว่าคนอื่น ไม่ใช่ ต่อให้ท่านเป็นนายกฯ ต่อให้ท่านเป็นอะไรก็ตาม ถ้าเขาไม่ให้เกียรติท่าน ท่านก็เป็นไม่ได้ ถ้าเป็นผม ผมก็ไม่มีความสุข เพราะเกียรติเป็นสิ่งที่คนอื่นให้เรา จากการที่เราทำความดีให้กับเขา ฉะนั้นการเป็นเจ้าใหญ่นายโต เกียรติยศสูงตำแหน่งสูงไม่ใช่สิ่งที่เราจะไปทำอะไรคนอื่นได้ ไม่ใช่ทั้งสิ้น” นายกฯ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอให้โครงการนี้เป็นตัวอย่างของโครงการอื่นๆ อีกมากมาย เพราะรัฐบาลไม่สามารถลงทุนทั้งหมดได้ ภาระจะเยอะ วันนี้ต้องช่วยรัฐบาลระวังในเรื่องของพ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างด้วย น่าจะต้องมีการใช้จ่ายงบประมาณในวงเงินสัดส่วนที่กำหนด ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลพยายามทำให้เกิดความเชื่อมั่นให้ได้ว่า วันข้างหน้าจะต้องไม่เกิดเรื่องราวที่ทำให้เกิดปัญหาขึ้นอีกในอนาคต แต่ถ้าทุกคนทำอย่างที่บอกจะสามารถปฏิบัติได้แน่นอน ตนไม่ต้องการไปก้าวล่วงอำนาจการบริหารของใครทั้งสิ้น เราต้องทำงานให้สำเร็จ

จากนั้นนายกรัฐมนตรี ทำพิธีกดปุ่ม เพื่อเทคอนกรีตลงสู่ฐานราก ถือเป็นสัญลักษณ์เริ่มการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าโมโนเรล ทั้ง 2 สาย โดยระหว่างเยี่ยมชมนายกฯกล่าวด้วยว่า ทุกอย่างต้องทำให้เกิดความไว้วางใจ

ทั้งนี้รถไฟฟ้าทั้งสองสาย เป็นโครงการนำร่องภายใต้นโยบายของรัฐบาลที่มีวัตถุประสงค์เร่งรัดการดำเนินโครงการให้มีความรวดเร็วและเปิดโอกาสให้เอกชนร่วมลงทุนในโครงการที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ต่างๆร่วมกับภาครัฐ เพื่อลดภาวะด้านงบประมาณและหนี้สาธารณะ โดยให้เอกชนร่วมลงทุนเป็นเวลา 33 ปี 3 เดือน แบ่งเวลาก่อสร้างและติดตั้งระบบ ขบวนรถไฟฟ้า 3 ปี 3 เดือน และ ช่วงเวลาให้บริการและบำรุงรักษา 30 ปี เพื่อจะให้เอกชนเป็นผู้จัดเก็บค่าบริการโดยสารและรับความเสี่ยงด้านจำนวนผู้โดยสารของโครงการ ซึ่งรถโมโนเรลมีความพิเศษกว่ารถไฟฟ้าปกติ คือใช้พื้นที่ในการก่อสร้างน้อยลงเนื่องจากโครงสร้างทางวิ่งมีขนาดเล็ก สามารถก่อสร้างได้เร็วขึ้น กว่าเท่าตัว มีความคล่องตัวมากกว่ารถไฟฟ้าขนาดใหญ่ เสียงเบาและโครงสร้างทางวิ่งโปร่งมีความเร็วที่เพียงพอต่อการให้บริการเขตเมืองใกล้เคียงกับรถไฟฟ้าขนาดใหญ่
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 28/08/2018 9:02 pm    Post subject: Reply with quote

“บิ๊กตู่”สั่งคมนาคมเคลียร์เวนคืนสายสีชมพู-เหลือง ห่วงเวนคืนทำรถไฟฟ้าอืดราคาที่ดินพุ่ง5-10เท่า
พร็อพเพอร์ตี้
วันที่ 27สิงหาคม 2561 - 11:42 น.

“บิ๊กตู่” สั่งคมนาคมเคลียร์เวนคืนสายสีชมพู-เหลือง ห่วงเวนคืนทำรถไฟฟ้าอืดราคาที่ดินพุ่ง 5-10 เท่า รฟม.ถกส่วนต่อขยายสายสีชมพูปลายเดือนนี้

เมื่อเวลา 09.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเริ่มการก่อสร้างรถไฟฟ้าโมโนเรล 2 สายแรกของประเทศไทย (โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูช่วงแคราย-มีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองช่วงลาดพร้าว-สำโรง) โดยมีนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม, นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และนายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานคณะกรรมการบริหารบริษัทบีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด มหาชน (BTS) ในฐานะตัวแทนกลุ่มกิจการร่วมค้า BSR เข้าร่วมพิธีด้วย

โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า วันนี้ถือว่าเป็นการมาทำประโยชน์เพื่อชาติบ้านเมืองอีกครั้งหนึ่ง เพราะวันนี้เป็นการเริ่มการก่อสร้างรถไฟฟ้า 2 สายนี้อย่างเป็นทางการ แต่การก่อสร้างระบบขนส่งมวลชนใหม่จะต้องมีปัญหาจราจรเกิดขึ้นมากมายตามมาแน่นอน โดยเฉพาะใน กทม.ที่มีปัญหาค่อนข้างหนัก จึงขอฝากผู้ประกอบการให้ติดเครื่องหมายเตือนต่างๆ วางสิ่งป้องกันอันตราย และการใช้พื้นที่ขอให้คำนึงถึงความเหมาะสมด้วย วันนี้เราจึงต้องเร่งแก้ปัญหาเหล่านี้ให้ได้ ยอมรับว่าการก่อสร้างรถไฟฟ้าก็ไม่ใช่ว่าจะแก้ได้ทั้งหมด ต้องร่วมแก้กันหลายส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน และเจ้าหน้าที่จากภาคส่วนต่างๆ จะเสียเวลาไม่ได้อีกแล้ว




การก่อสร้างทั้ง 2 โครงการ เป็นผลักดันตามแผนพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ขออย่าไปมองด้านเดียวว่า มีผลประโยชน์หรือการทุจริต เพราะการก่อสร้างทุกโครงการต้องเป็นไปตามกฎหมายกำกับและวิธีการจัดซื้อจัดจ้างที่ถูกต้องและสุจริต ซึ่งวิธีการร่วมทุนแบบ PPP fast track มีกติกามีกฎหมายกำกับชัดเจน ไม่เอื้อประโยชน์ให้ใครทั้งสิ้น เอกชนที่มีความสามารถก็เข้ามาร่วมลงทุนกับรัฐบาลได้ เพราะวันนี้เราต้องช่วยกันทุกฝ่าย และรัฐบาลไม่สามารถลงทุนอย่างได้ เพราะงบประมาณประจำปีมีจำกัด และงบประมาณทั้งหมดไม่ใช่ว่าตั้งขึ้นมาเพื่อใช้ปีนี้ปีเดียว แต่ต้องนำไปชำระหนี้และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านๆมา ก็ขอให้ทุกคนเข้าใจด้วย

แต่ก็อยากให้มองเพิ่มด้วยว่า การก่อสร้างทั้ง 2 โครงการนี้มีเหตุผลจากอะไร จะสามารถเชื่อมต่อกับปริมณฑลอย่างไร และจะเชื่อมโยงการเดินทางกับระบบขนส่งมวลชนต่างๆ อาทิ รถเมล์ หรือการเดินทางทางน้ำ ได้อย่างไร ทุกอย่างต้องอยู่ในแผนระยะ 20 ปี โดยทุกๆ 5 ปี ก็จะมาดูอะไรที่ทำได้หรือไม่ได้ ถ้าทำไม่ได้แล้วมีเหตุผลก็สามารถปรับเปลี่ยนได้

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ปัญหาอีกประการหนึ่งก็คือ การเข้าใช้พื้นที่สำหรับดำเนินการก่อสร้าง จะเห็นว่าขณะนี้มีหลายเส้นทางที่ติดปัญหาการใช้ที่ดินของเอกชน ส่วนมากเป็นเรื่องค่าใช้จ่ายในการเวนคืนที่ดิน เพราะเมื่อประกาศพื้นที่ที่จะต้องก่อสร้าง ราคาที่ดินก็ปรับตัวสูงตามถึง 5-10 เท่า รัฐบาลจึงต้องดำเนินการหาวิธีที่เหมาะสมว่า จะทำอย่างไร ถ้าต้องจ่ายค่าเวนคืนทั้งหมดจะเป็นไปได้หรือไม่ อาจจะต้องหาวิธีตอบแทนประชาชนเหล่านี้ในด้านอื่นๆ หรือการแบ่งปันผลประโยชน์ ก็ขอมอบเป็นนโยบายให้กระทรวงคมนาคมไปคิดหาวิธีจัดการมาด้วยในทุกเส้นทาง และต้องเป็นแผนระยะยาว เพื่อรองรับโครงการใหม่ๆ ในอนาคตด้วย



ด้านนายอาคมกล่าวว่า ปัญหาการเวนคืนที่นายกรัฐมนตรีเป็นห่วงนั้น มีกฎหมายรองรับอยู่แล้ว โดยรูปแบบมี 2 แบบ คือ การไปซื้อที่ดินต่อจากเอกชนและการเวนคืนแล้วจ่ายค่าเวนคืนให้ตามราคาตลาด ซึ่งเรื่องของราคาที่ดินก็ต้องดูตามราคาตลาดก่อน เพราะส่วนมากที่มักจะมีปัญหาเกิดจากการที่มีบางรายเรียกร้องค่าเวนคืนในอัตราที่สูงเกินไป ซึ่งทางกระทรวงเองก็ไม่มีประเด็นโต้แย้ง แต่ขอให้แสดงหลักฐานการซื้อขายที่ดินให้ชัดเจนว่า มีการขายจริง มีหลักฐานจากกรมที่ดินแสดง เพราะบางทีปัญหาเกิดจากการเปลี่ยนมือกันเองของเจ้าของที่กับผู้ซื้อขาย เราก็ยึดราคาของทางการเป็นหลัก

สำหรับความคืบหน้าการก่อสร้างของทั้ง 2 สาย ดำเนินการในรูปแบบ PPP Net Cross ตาม พ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 มีระยะเวลาลงทุน 33 ปี 3 เดือน (ก่อสร้าง 3 ปี 3 เดือน และ บริหารเดินรถ-ซ่อมบำรุง 30 ปี) ภาครัฐลงทุนในส่วนการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน ส่วนเอกชนลงทุนในงานโยธา งานระบบรถไฟฟ้าและการจัดหาขบวนรถ งานจ้างที่ปรึกษาโครงการ และงานบริหารรถและซ่อมบำรุง โดยเอกชนเป็นผู้จัดเก็บค่าโดยสารและรับความเสี่ยงของโครงการ โดยรถไฟฟ้าสายสีชมพู มีบริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (NBM) เป็นผู้ร่วมลงทุน มีระยะทางรวม 34.5 กม. มี 20 สถานี มีความก้าวหน้าในการก่อสร้าง 3.1% (ณ สิ้นเดือน ก.ค. 2561) จากแผนงาน 3.54% ส่วนรถไฟฟ้าสายสีเหลือง มีบริษัท อีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (EBM) มีระยะทางรวม 30.4 กม. มี 23 สถานี มีความก้าวหน้าในการก่อสร้าง 2.8% (ณ สิ้นเดือน ก.ค.) เร็วกว่าแผนที่ตั้งไว้ที่ 2.2% โดยทั้ง 2 โครงการเริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 29 มิ.ย. 2561 และได้กำหนดให้รถไฟฟ้าทั้ง 2 สายรองรับระบบบัตรแมงมุมไว้ด้วย โดยมีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จปลายปี 2564 จากนั้นจะมีการทดสอบระบบประมาณ 3 เดือน และจะพร้อมเปิดให้บริการในช่วงต้นปี 2565

ขณะที่ผู้ว่าฯ รฟม. กล่าวเพิ่มเติมว่า จุดที่จะต้องมีการเวนคืนเพิ่มเติมจะอยู่ในโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูเป็นหลัก โดยจะเป็นจุดที่กรมทางหลวงขอให้ทางโครงการขยายเขตทาง โดยเฉพาะจุดที่เป็นทางร่วมและทางแยก โดยจุดหลักๆ จะมีอยู่ที่ 1.บริเวณแยกวัดพระศรีมหาธาตุ บางเขนตัดกับ ม.ราชภัฎพระนคร และ 2.แยกติวานนท์ เพื่อให้ช่องจราจรที่รอเลี้ยวขวาตามทางแยกต่างๆ สามารถเลี้ยวได้ตามเดิม ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบและด้วยข้อกำหนดของสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ให้มีการทำประชาพิจารณ์ในการเปลี่ยนแปลงรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ด้วย ซึ่งก็ต้องขออนุมัติงบประมาณเวนคืนจากรัฐบาลเพิ่มเติม เพราะเป็นสิ่งที่ยังไม่ปรากฏในกรอบงบประมาณดำเนินการของโครงการ แต่จะไม่กระทบกับกรอบเวลาก่อสร้างที่ดำเนินการไว้ เพราะกรมทางหลวงได้ให้ผู้รับเหมาเข้าพื้นที่ก่อสร้างไปก่อนแล้ว



ส่วนค่าโดยสารของทั้ง 2 สาย ค่าแรกเข้าจะจ่ายเพียงครั้งเดียว เหมือนกรณีของสายสีม่วงเชื่อมต่อกับสายสีน้ำเงิน โดย รฟม.จะเป็นผู้รับภาระค่าแรกเข้า มีอัตราค่าโดยสารอยู่ที่ 14-42 บาท

ขณะที่ประเด็นส่วนต่อขยายของทั้งสองเส้นทางนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมให้นโยบายว่า ขอให้สายหลักของทั้งสองสายสร้างเสร็จก่อน เพราะส่วนต่อขยายทั้ง 2 โครงการจะต้องนำไปเข้ากระบวนการบรรจุในแผนแม่บท (M-MAP) โดยมีคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร .)พิจารณา จากนั้นจึงนำเข้าสู่กระบวนการทำ PPP ต่อไป ซึ่งขณะนี้สายสีเหลืองได้ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม. แล้ว และนำเรื่องส่งให้กระทรวงคมนาคมรับทราบแล้ว ส่วนสายสีชมพูจะนำเรื่องเสนอเข้าที่ประชุมบอร์ด รฟม. ในปลายเดือนนี้
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 29/08/2018 9:57 am    Post subject: Reply with quote

อาคมชี้ปัญหาเวนคืนสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู-สายสีเหลืองเป็นไปตามกฎหมาย

28 สิงหาคม พ.ศ. 2561 เวลา 08:09 น.

"อาคม" ย้ำเวนคืนที่ดินสร้างรถไฟฟ้าเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ด้านนายกฯสั่งสร้างรถไฟฟ้าต้องปลอดภัยหลังเกิดอุบัติเหตุหลายเส้นทาง ส่วนรฟม.เตรียมเสนอบอร์ดพิจารรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก 31 ส.ค.นี้

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังพิธีเริ่มการก่อสร้างรถไฟฟ้าโมโนเรล 2 สายแรกของประเทศไทย คือ โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูช่วงแคราย-มีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองช่วงลาดพร้าว-สำโรง ว่าสำหรับค่าเวนคืนที่ดินที่จะก่อสร้างโครงการนั้น ทั้งส่วนของภาคเอกชนและภาคราชการอยู่ระหว่างดำเนินการ โดยส่วนของราชการดำเนินการได้เสร็จสิ้นแล้วทั้งกรมทางหลวงและกรุงเทพมหานครได้ส่งมอบพื้นที่เกือบ100% เป็นไปตามกฎหมายกรอบงบประมาณส่วนเอกชนก็ดำเนินการตามขั้นตอนของข้อกฎหมาย

อย่างไรก็ตามส่วนกรณีข้อเรียกร้องการเวนคืนที่ดินของประชาชนที่ต้องการเพิ่มค่าเวนคืน นั้นมีขั้นตอนทางกฎหมายรองรับ ขณะเดียวกันราคาการเวนคืนที่ดินจะต้องเป็นไปตามราคาประเมินและมีหลักฐานการซื้อ-ขายที่มาจากกรมที่ดิน ไม่ใช่การเรียกร้องราคาที่สูงขึ้นจากการเปลี่ยนเจ้าของ

" พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการในส่วนการก่อสร้างโครงการให้เน้นย้ำเรื่องความปลอดภัย ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาการก่อสร้างรถไฟฟ้าหลายสายได้เกิดอุบัติเหตุ รวมถึงให้เร่งคืนพื้นที่ผิวจราจรให้เร็วที่สุดหลังการก่อสร้างแล้วเสร็จ รวมถึงการเชื่อมต่อการเดินทาง โดยกระทรวงคมนาคมจะใช้ระบบตั๋วร่วมเข้ามาดำเนินการเชื่อมต่อเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน และจะจัดเก็บค่าธรรมเนียมเพียงครั้งเดียวต่อไปคิดระยะทางทางตามสถานี "นายอาคม กล่าว

สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและรถไฟฟ้าสายสีเหลืองมีกลุ่ม BSR ประกอบด้วย บมจ.บีทีเอส กรุ๊ปโฮลดิ้งส์ (BTS), บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC) และบมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง (RATCH) เป็นผู้ที่ได้รับสัมปทานมีระยะเวลาการลงทุนรวม 33 ปี 3 เดือนแบ่งการดำเนินงานออกเป็น 2 ระยะ โดยระยะที่ 1งานออกแบบและก่อสร้างงานโยธาพร้อมติดตั้งระบบและขบวนรถไฟฟ้า ระยะเวลา 3 ปี 3 เดือน และระยะที่ 2 งานให้บริการและบำรุงรักษาระยะเวลา 30 ปีโดยให้เอกชนเป็นผู้จัดเก็บค่าโดยสารและรับความเสี่ยงด้านจำนวนผู้โดยสาร

อย่างไรก็ตามปัจจุบันการดำเนินงานระยะที่ 1 ของรถไฟฟ้าสายสีชมพู มีความก้าวหน้าการก่อสร้างงานโยธา 3.10% (สิ้น ก.ค.61) ส่วนรถไฟฟ้าสายสีเหลืองมีความก้าวหน้าการก่อสร้างงานโยธา 5.07% (สิ้น ก.ค.61) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) มั่นใจว่าสามารถก่อสร้างแล้วเสร็จและทดลองระบบพร้อมเปิดให้บริการได้ช่วงปลายปี 64 ซึ่งใช้เวลาน้อยกว่าการก่อสร้างรถไฟฟ้าแบบ Heavy Rail หรือระบบขนส่งมวลชนหลักที่ต้องใช้ระยะเวลาก่อสร้างไม่น้อยกว่า 6 ปี โดยการเดินรถไม่ว่าจะเป็นบริษัทใดก็จะมีกรอบราคาค่าโดยสาร 14-42 บาท โดยจะมีค่าแรกเข้า 14 บาท แม้จะมีระยะทางเพิ่มขึ้นแต่จะไม่เพิ่มค่าโดยสาร

ด้านนายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่ารฟม.เตรียมเสนอรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกช่วงศูนย์วัฒนธรรม-บางขุนนนท์ ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการร่วมทุน PPP Net Cost เข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร(บอร์ด) ในวันที่ 31 ส.ค.นี้หากได้รับอนุมัติจะเปิดประมูลเป็นสัญญาเดียวประกอบด้วยงานก่อสร้างโยธาวงเงิน 1.2 แสนล้านบาทและงานวางระบบรวมถึงบริหารจัดเก็บรายได้ วงเงิน 2 หมื่นล้านบาท

นอกจากนี้จะเสนอโครงการก่อสร้างส่วนต่อขยายสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี จากสถานีศรีรัชเข้าเมืองทองธานี ระยะทาง 2.8 กม.ในวันที่ 31 ส.ค.นี้ เช่นกัน หลังจากที่โครงการก่อสร้างส่วนต่อขยายสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ต่อขยายเส้นทางไปตามถนนรัชดาภิเษกสิ้นสุดบริเวณแยกรัชโยธิน ระยะทาง 2.6 กม.ได้รับอนุมัติไปครั้งที่แล้ว

ทั้งหมดโดยจะต้องนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.)เพื่อบรรจุในแผนแม่บทการจราจร หลังจากนำเสนอเข้ากระทรวงคมนาคมเพื่อนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพราะจะมีการเวนคืนที่ดิน ซึ่งภาครัฐจะเป็นผู้ดำเนินการ และเอกชนจะจ่ายชดเชยภายหลัง
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3, 4, 5 ... 71, 72, 73  Next
Page 4 of 73

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©