View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
|
Posted: 04/06/2018 3:13 am Post subject: |
|
|
ฟื้นศก. "จตุจักร" แหล่งช้อปของคนไทย-ต่างชาติ
เสาร์ที่ 2 มิถุนายน 2561 เวลา 16.06 น.
รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ลงพื้นที่ตลาดนัดจตุจักร รับฟังปัญหาและความต้องการจากผู้แทนผู้ค้าตลาดนัดจตุจักรเพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์และประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยว
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา นำคณะลงพื้นที่ตลาดนัดจตุจักร ตามนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อรับฟังปัญหาและความต้องการจากผู้แทนผู้ค้าตลาดนัดจตุจักรเพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์และประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวตลาดนัดจตุจักรให้ นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติกลับมานิยมท่องเที่ยวและเลือกซื้อสินค้าในตลาดนัด เพื่อสร้างรายได้ให้กับประเทศและพัฒนาเศรษฐกิจให้เข้มแข็ง รวมทั้งสร้างขวัญและกำลังใจแก่ผู้ประกอบการค้าขายตลาดนัดจตุจักร
ทั้งนี้ ประเด็นปัญหาและความต้องการ ประกอบด้วย สถานที่จอดรถไม่เพียงพอสำหรับนักท่องเที่ยว/การขนถ่ายสินค้า, การตั้งวางจำหน่ายสินค้าบนพื้นผิวจราจรทำให้ขาดความเป็นระเบียบ ไม่สวยงาม และกีดขวางทางเดิน, มีการจัดเก็บค่าสาธารณูปโภคกลางจากผู้ค้าในราคาที่ไม่เป็นธรรม, ค่าเช่าแผงตลาดนัดมีราคาสูงกว่าของเอกชนที่ตั้งอยู่โดยรอบ
นอกจากนี้ ต้องการให้ ททท.ช่วยสนับสนุนเรื่องการโฆษณาประชาสัมพันธ์เพื่อเชิญชวนนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะชาวต่างชาติมาท่องเที่ยวและจับจ่ายใช้สอยเพิ่มความคึกคักแก่ตลาดนัดจตุจักร และต้องการให้ตลาดนัดจตุจักรมีรูปแบบบริหารงานโดยความร่วมมือจาก 3 ฝ่าย คือ รฟท. กทม. และภาคประชาชน โดยภายหลังรับฟังปัญหาความต้องการจากผู้แทนแล้ว รมว.กก.ได้เดินสำรวจทักทายผู้ค้าและนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยี่ยมชมตลาดนัดด้วย |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
|
Posted: 22/06/2018 10:29 am Post subject: |
|
|
เล็งแก้สัญญาใหม่ค่าเช่าแผง 'ตลาดนัดจตุจักร' คิดราคาตามทำเล
พฤหัสบดีที่ 21 มิถุนายน 2561 เวลา 15.37 น.
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 21 มิ.ย. ที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ผศ.ดร.ศิริพงศ์ พฤทธิพันธุ์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารโครงการพัฒนาที่ดิน รฟท. และประธานกรรมการดำเนินงานบริหารจัดการพื้นที่ตลาดนัดจตุจักร กล่าวระหว่างแถลงข่าวข้อร้องเรียนและแนวทางพัฒนาตลาดนัดจตุจักร 4.0 ภายใต้การริหารงานของ รฟท. ว่า ข้อร้องเรียนเรื่องค่าเช่าแผงตลาดนัดจตุจักรแพงนั้น การเรียกเก็บค่าเช่าแผงละ 3,157 บาท ต่อพื้นที่ 5 ตารางเมตร ต่อเดือน หรือเฉลี่ยวันละ 100 บาท เรียกจากผู้ค้าเหมาะสมแล้ว เพราะเป็นไปตามกลไกตลาด ซึ่งผู้ค้าไม่ได้ใช้พื้นที่เพียงสัปดาห์ละ 2 วัน แต่ผู้ค้าใช้พื้นที่เก็บกองสินค้าตลอด 30 วัน จัดแต่งร้านไว้ใช้งานและเป็นเจ้าของในกรรมสิทธิ์โดยตลอด ทั้งนี้สัญญาเดิมจะหมดใน ก.พ. ปี 62 ซึ่งค่าเช่าในปัจจุบันผู้ค้าที่มีกว่า 10,000 ร้านค้า 30 โครงการ พื้นที่ 70 ไร่ อาจจะคิดว่าแพง เพราะเก็บเท่ากันทั้งหมด บางร้านพื้นที่ติดริมถนน และอยู่ด้านใน ซึ่งในสัญญาใหม่จะเก็บค่าเช่าโดยแบ่งเป็นโซนๆ หากเป็นร้านที่อยู่ในด้านในหรือมุมอับ ราคาค่าเช่าจะถูกลง 10-15% จากราคาปัจจุบันค่าเช่าแผงละ 3,157 บาทต่อเดือน ตอนนี้ให้คณะทำงานพิจารณาเรื่องต่อสัญญาและปรับราคาค่าเช่า คาดว่านำเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. ภายในสิ้นปีนี้
ผศ.ดร.ศิริพงศ์ กล่าวต่อว่า ส่วนปัญหาที่จอดรถไม่เพียงพอ เมื่อวันที่ 1 ม.ค. 61 ได้ออกระเบียบเข้มงวดให้ผู้ค้าทำตามสัญญา หากนำเก้าอี้มาตั้งหน้าร้านและนำสินค้ามากองจะจัดเก็บให้เรียบร้อย รวมทั้งจัดเก็บค่าจอดรถ 1 ชม.ฟรี 2 ชม. 20 บาท และ 6 ชม. ขึ้นไปเก็บ 400 บาท จากเดิมเก็บแค่ 100 บาท ทำให้ปัญหาลดลง ทั้งนี้เตรียมจัดทำระบบจอดรถอัตโนมัติ Smart Parking เป็นอาคาร 8 ชั้น วงเงินลงทุน 40 ล้านบาท อยู่ระหว่างร่างขอบเขตของงาน (ทีโออาร์) คาดว่าแล้วเสร็จ 1-2 เดือน และสร้างแล้วเสร็จภายในปีนี้ เมื่อแล้วเสร็จสามารถรองรับรถได้ 150 คัน ส่วนค่าจอดเบื้องต้นไม่ต่างจากเดิม คือ 1 ชม. ฟรี 2 ชม. 25-30 บาท มีจอดรถภายนอกตลาดนัดจตุจักรมีพื้นที่ให้บริการจอดรถจากเอกชนรองรับได้ 2,000 คัน และมีรถเมล์ไฟฟ้าวิ่งให้บริการภายในตลาดนัดจตุจักรลดการนำรถเข้ามาจอดภายในตลาดด้วย
ผศ.ดร.ศิริพงศ์ กล่าวอีกว่า ส่วนมีผู้บุกรุกวางแผงขายของบังทางเข้า-ออก นั้น รฟท. มาตรการชัดเจนในเรื่องการขายสินค้าในพื้นที่ ตีเส้นกำหนดขอบเขตชัดเจน ซึ่งเจ้าหน้าที่เข้มงวดอยู่แล้ว และต้องมีใบอนุญาตจาก รฟท. ส่วนหากหมายถึงผู้ค้าที่เป็นรถเข็นตอนนี้มี 82 ราย ที่เป็นผู้ค้าเก่าที่ได้รับการส่งมอบมาจาก กทม. และได้รับใบอนุญาตก่อนรับช่วงต่อด้วย ซึ่งให้ตั้งขายในจุดเดิม อยู่ในเขตพื้นที่กำหนดและห้ามเคลื่อนย้ายจุดเด็ดขาด ส่วนผู้ค้าตลาดนักจตุจักรกว่า 1,000 ราย ที่มีเรื่องฟ้องร้องศาลปกครองว่าค่าเช่าแพงและ รฟท. ไม่มีอำนาจบริหารตลาดนัดจตุจักรนั้น ทำให้ผู้ค้าเหล่านี้เป็นหนีกว่า 500 ล้านบาท ปัจจุบันผู้ค้าบางรายทยอยชำระหนี้แล้ว 200 ล้านบาท หากผู้ค้าเหล่านี้จะไม่จ่ายศาลปกครองสูงสุดได้ระบุให้ รฟท. ยกเลิกสัญญาได้ ซึ่งปัญหาหนี้ที่เกิดขึ้นไม่ใช่เช่าค่าเช่าแพง แต่เป็นการเช่าช่วงต่อที่แพง ซึ่งมีมากกว่า 80% ส่วนนี้ รฟท. ต้องตรวจสอบสัญญา พยายามตรวจสอบหนี้สินให้เสร็จก่อน ทั้งนี้ในสัญญาใหม่จะออกระเบียบกฎเกณฑ์การเช่าช่วง เช่น ให้สามารถเช่าช่วงได้ แต่จะมีค่าธรรมเนียมและต้องเปลี่ยนชื่อผู้ค้าเป็นปัจจุบัน ไม่ใช่ปล่อยให้เช่าต่อ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อราคาค่าสินค้าที่นำมาขายในราคาแพงขึ้น
ผศ.ดร.ศิริพงศ์ กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวเที่ยวตลาดนัดจตุจักรมากกว่า 4 แสนคนต่อวัน ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนมากสุด รองลงมาคือมาเลเซีย และญี่ปุ่นตามลำดับ ทำให้เงินสะพัดในไทยมากกว่า 500 ล้านบาทต่อเดือน ทั้งนี้มีแผนปรับปรุงภูมิทัศน์ อาทิ ป้าย และเพิ่มจุดถ่ายรูป ทางประตู 1, 2 และ 3 ดึงดูดนักท่องเที่ยว รวมทั้งพัฒนาแอพพิลเคชั่น จตุจักรไกด์ (Chatuchak Guide) เพื่ออำนวยความสะดวกค้นหาตำแหน่งร้านค้าและประหยัดเวลา รวมทั้งจ่ายเงินค่าชำระสินค้าผ่านคิวอาร์โค้ด สู่ยุค 4.0 สังคมที่ไร้เงินสด และมีบริการ Chatuchak Free WiFi และเปิดกิจกรรมให้นานาชาติแสดงออกศิลปะ อย่างไรก็ตามสำหรับข้อร้องเรียนจากผู้ค้าตลาดนัดจตุจักร
ด้าน น.ส.สุกัญญา มีบุญ อุปนายกสมาคมผู้ประกอบการค้าตลาดนัดจตุจักร กล่าวว่า ตอนนี้รายได้ลดลงจากเดิมมากจากเมื่อก่อนมีรายได้ 1 แสนบาทต่อ 2 วัน (เสาร์-อาทิตย์) แต่ตอนนี้เศรษฐกิจไม่ดีทำให้กระทบการค้าขาย รายได้ลงลงเหลือ 2-3 หมื่นบาทต่อ 2 วัน ดังนั้นสัญญาเช่าที่จะหมด ก.พ. 62 ตนเห็นด้วยที่ รฟท. จะต่อสัญญากับผู้ค้าโดยพิจารณาค่าเช่าตามทำเล และยังคงค่าเช่า 3,157 บาทต่อเดือนต่อล็อกเหมือนเดิม ส่วนผู้ค้าที่ปูผ้าขาย ตอนนี้ รฟท. กำหนดให้ผู้ค้าปูผ้ามาขายช่วงเวลา 19.00 น. ส่วนมากผู้ค้าปูผ้าจะนำสินค้าเสื้อผ้าและเครื่องประดับ ซึ่งผู้ค้าในตลาดนัดจตุจักร 70% ที่เป็นผู้ประกอบการสินค้าเหล่านี้ ซึ่งทำให้ผู้ค้าปูผ้าแย่งลูกค้า ทั้งนี้จ่ายค่าเช้าปูผ้าแค่ 100 บาทต่อวัน ขายไม่กี่ ชม. สามารถทำรายได้มากกว่าผู้ค่าที่มีร้านประจำ ซึ่งต้องการเสนอให้ขยายระยะเวลาให้ผู้ค้าที่ปูผ้านำสินค้ามาขายช่วง 20.00 น. เป็นต้นไป และสามารถอยู่ร่วมกันได้ นอกจากนี้ต้องการให้มีจุดรับส่งรถแท็กซี่ภายในตลาดจตุจักร เนื่องจากปัจจุบันลูกค้าที่มาท่องเที่ยวส่วนมากเป็นชาวต่างชาติเวลาช็อปปิ้งเสร็จ จะนั่งรถไฟฟ้าไม่สะดวก เพราะมีสินค้าจำนวนมาก ซึ่งเวลามาโบกเรียกแท็กซี่ก็ไม่รับ ปฏิเสธ และคิดค่าโดยสารแบบเช่าเหมา ไม่กดมิเตอร์ ทำให้ถูกเอารัดเอาเปรียบ หากมีจุดรับส่งแท็กซี่จะทำให้ช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้า |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44320
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 26/06/2018 11:51 am Post subject: |
|
|
ผู้ค้าตลาดนัดจตุจักรเดือดร้อน! โวย รฟท.ให้เอกชนประมูลจัดตลาดปูผ้าตอนกลางคืน
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ วันที่ 26 June 2018 - 11:00 น.
ผู้ค้าตลาดนัดจตุจักรโวย รฟท.ให้เอกชนประมูลจัดตลาดปูผ้าตอนกลางคืน ชี้กระทบผู้ค้าเดิมกว่าหมื่นแผง จี้ รมว.คมนาคมสั่งยกเลิก
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 26 มิถุนายน ที่ศูนย์บริการประชาชน ทำเนียบรัฐบาล ผศ.ชาตรี โสภณบรรณารักษ์ นายกสมาคม ผู้ประกอบการค้าตลาดนัดจตุจักรเข้ายื่นหนังสือถึงนายอาคม พิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อขอให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ยกเลิกการประมูลให้สิทธิ์เอกชนเข้ามาจัดตลาดปูผ้ารอบถนนภายในตลาดนัดสวนจตุจักรที่จะปิดขายส่งประมูลในวันที่ 27 กันยายน 2561
ผศ.ชาตรีกล่าวว่า เนื่องจากการรถไฟแห่งประเทศไทยจะมีการเปิดให้บุคคลภายนอกเข้ามาประมูลจัดตลาดปูผ้าตอนกลางคืน ซึ่งทางสมาคมฯเห็นว่า การทำเช่นนั้นจะทำให้ผู้ค้าหลักในตลาดนัดได้รับผลกระทบ เพราะเหมือนเป็นการทำตลาดขึ้นมาแข่งกับตลาดช่วงกลางวันที่มีแผงค้าเปิดอยู่แล้วกว่าหมื่นร้านและสินค้าก็เป็นสินค้าชนิดเดียวกัน นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่อเรื่องที่จอดรถของผู้ค้าที่จะมาขนถ่ายสินค้าในช่วงเย็นด้วย
ตลาดนัดจตุจักรมีชื่อเสียงมาทุกวันนี้ เพราะมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองเป็นตลาดนัดกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก การรถไฟฯน่าจะช่วยส่งเสริมสร้างศักยภาพต่อยอดให้กับผู้ค้าหลักที่มีมากกว่าหมื่นแผงค้าให้สามารถค้าขายแข่งกับตลาดรอบนอกได้ ไม่น่าจะให้บุคคลภายนอกมาทำตลาดปูผ้าแข่งกับผู้ค้ากันเอง จตุจักรไม่ใช่ตลาดนัดแบกะดิน ตลาดแบกะดินที่ไหนก็หาเดินได้ ถ้าการรถไฟฯอยากจะทำตลาดกลางคืนขอให้ไปทำที่อื่น การรถไฟฯมีที่ดินอื่นอีกเยอะที่จะทำได้ ผศ.ชาตรีกล่าว
ผศ.ชาตรีกล่าวว่า ตั้งแต่การรถไฟฯเข้ามาบริหารตลาดนัดแทนกรุงเทพมหานคร ทางสมาคมฯแสดงจุดยืนมาโดยตลอดว่าไม่เห็นด้วยถ้าจะให้เอกชนมาสัมปทานบริหารแทนการรถไฟฯไม่ว่าในรูปแบบใดก็ตาม ด้วยเหตุนี้ผู้ค้าตลาดนัดจตุจักรจึงขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ช่วยเหลือในเรื่องดังต่อไปนี้ 1.ขอให้การรถไฟฯยกเลิกการให้เอกชนมาประมูลทำตลาดปูผ้าตอนกลางคืน 2.ขอให้ยกเลิกนโยบายของกระทรวงคมนาคมที่ให้มีตลาดปูผ้าตอนกลางคืน เพราะทางการรถไฟฯทำผิดวัตถุประสงค์ของกระทรวงคมนาคมที่ให้ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย แต่การรถไฟฯกลับมีการจัดเก็บรายได้ แสดงให้เห็นว่าไม่ได้ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยแต่อย่างใด และขอให้การรถไฟฯคืนพื้นที่จอดรถส่วนกลางรอบตลาดนัดจตุจักรหลังเวลา 18.00 น.เป็นต้นไป ในวันเสาร์-อาทิตย์ เพื่อให้ผู้ค้าสามารถนำรถเข้ามาขนถ่ายสินค้าได้ในช่วงเวลาดังกล่าว และ 3.ขอให้หน่วยงานที่กำกับดูแลการรถไฟฯช่วยเป็นสื่อกลางนำข้อเสนอแนะและความคิดเห็นของผู้ค้าเพื่อนำไปปรับทัศนคติของประธานคณะกรรมการบริหารพื้นที่ตลาดจตุจักรให้เปิดใจรับฟังความเห็นและช่วยเหลือดูแลผู้ค้าหลักภายในตลาดนัดจตุจักรให้ค้าขายได้สะดวกและมีความสุข ทั้งนี้ สมาคมฯจะติดตามความคืบหน้าเรื่องนี้ภายในสัปดาห์หน้า และในวันเดียวกันนี้จะไปยื่นหนังสือต่อผู้ว่าการรถไฟฯและกระทรวงคมนาคมต่อไป |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
|
Posted: 27/06/2018 1:56 am Post subject: |
|
|
ผู้ประกอบการเจเจ ร้อง รฟม.ยกเลิกประมูลให้สิทธิ์เอกชนจัดตลาดปูผ้า หวั่นกระทบรายได้
โดย: MGR Online
เผยแพร่: 26 มิถุนายน 2561 เวลา 14:54
นายชาตรี โสภณบรรณารักษ์ นายกสมาคม ผู้ประกอบการค้าตลาดนัดจตุจักร เข้ายื่นหนังสือถึง นายอาคม พิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อขอให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ยกเลิกการประมูลให้สิทธิ์เอกชนเข้ามาจัดตลาดปูผ้ารอบถนนภายในตลาดนัดสวนจตุจักร ที่จะปิดขายส่งประมูลในวันที่ 27 กันยายนนี้
ทางสมาคมฯเห็นว่า การทำเช่นนั้นจะทำให้ผู้ค้าหลักในตลาดนัดได้รับผลกระทบ เพราะเหมือนเป็นการทำตลาดขึ้นมาแข่งกับตลาดช่วงกลางวัน ที่มีแผงค้าเปิดอยู่แล้วกว่าหมื่นร้าน และสินค้าก็เป็นสินค้าชนิดเดียวกัน นอกจากนี้ ยังกระทบที่จอดรถของผู้ค้าที่จะมาขนถ่ายสินค้าในช่วงเย็นด้วย |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
|
Posted: 10/07/2018 7:07 pm Post subject: |
|
|
ครม. เก็บภาษีลาภลอยร้อยละ 5 รัศมี 5 กม. จากริมทางรถไฟฟ้า
โดย: MGR Online
เผยแพร่: วันที่ 10 กรกฎาคม 2561- 17:00
ปรับปรุง: วันที่ 10 กรกฎาคม 2561- 18:22
ครม. ไฟเขียวภาษีลาภลอยร้อยละ 5 จากราคาประเมินที่ดิน คอนโดฯ อาคาร มูลค่าเกิน 50 ล้านบาท เฉพาะใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ กำหนดรัศมี 5 กิโลเมตร ทางรถไฟฟ้า ทางด่วน ท่าเรือ
นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบร่าง พ.ร.บ. ภาษีการได้รับประโยชน์จากการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของรัฐ หรือภาษีลาภลอย เพื่อจัดเก็บภาษีจากบุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคล ผู้ครอบครองทรัพย์, ที่ดิน, ห้องชุด, อาคารพาณิชย์ เก็บเฉพาะในส่วนมูลค่าเกิน 50 ล้านบาทขึ้นไป เพื่อใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์เท่านั้น รวมทั้งผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ คอนโดมิเนียม บ้านจัดสรรรอการจำหน่าย โดยตั้งอยู่รอบพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูง, รถไฟทางคู่, รถไฟฟ้าขนส่งมวลชน, ท่าเรือ, สนามบิน, โครงการทางด่วนพิเศษ หรือโครงการอื่นของรัฐ
ส่วนการครอบครองเพื่ออยู่อาศัยและการเกษตรได้รับการยกเว้นภาษีประเภทดังกล่าว เพื่อสร้างความเป็นธรรมและปฏิรูประบบภาษีของประเทศให้สอดคล้องกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เหมือนกับต่างประเทศ คาดว่าไม่มีกระทบกับประชาชนทั่วไป เพราะเมื่อก่อสร้างโครงการราคาที่ดิน และทรัพย์ ขยับราคาสูงขึ้น 5-10 เท่าตัว จึงควรเก็บเข้ารัฐเพื่อนำมาพัฒนาโครงการอื่นเพิ่มเติม เริ่มคำนวณการจัดเก็บภาษีจากวันเริ่มดำเนินก่อสร้างโครงการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของรัฐ จนถึงวันครบกำหนดก่อสร้าง ด้วยจัดเก็บภาษีเพียงครั้งเดียวจากผู้ครอบครองทรัพย์สิน เมื่อราคาเปลี่ยนแปลงจากโครงการเสร็จ รวมทั้งยังจัดเก็บจากราคาส่วนต่างการซื้อขายที่ดินและห้องชุดเมื่อซื้อขายโอนเปลี่ยนมือ ไม่ได้เป็นการจัดเก็บภาษีประจำปี แนวทางการจัดเก็บจากผู้ขายที่ดินหรือห้องชุดเป็นผู้มีหน้าที่เสียภาษี เพราะเป็นผู้มีรายได้จากการขาย ในกรณีห้องชุดไม่สามารถคำนวณส่วนต่างของมูลค่าห้องชุดได้ เนื่องจากไม่มีราคาประเมินห้องชุดให้คำนวณส่วนต่างดังกล่าวเท่ากับร้อยละ 20 ของมูลค่าห้องชุด
ทั้งนี้ กำหนดแนวทางการจัดเก็บภาษีแบ่งเป็น 2 กรณี 1. ระหว่างก่อสร้างโครงการ เก็บภาษีจากการขายหรือโอนกรรมสิทธิ์เปลี่ยนมือที่ดินหรือห้องชุด ซึ่งตั้งอยู่รอบพื้นที่โครงการฯ 2. เมื่อการก่อสร้างโครงการฯ เสร็จเก็บภาษีเพียงครั้งเดียวจากทรัพย์สินที่ดินหรือห้องชุด เฉพาะส่วนที่ใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ที่มีมูลค่าสูงกว่า 50 ล้านบาท รวมถึงห้องชุดของเอกชนเจ้าของโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่รอจำหน่าย ยังไม่ได้เปลี่ยนมือ กำหนดขอบเขตไว้ไม่เกินรัศมี 5 กิโลเมตรรอบพื้นที่โครงการฯ นอกจากนี้ ยังกำหนดให้คณะกรรมการกำหนดพื้นที่จัดเก็บภาษี ซึ่งมีปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธานและผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลังเป็นกรรมการ และเลขานุการ เพื่อออกประกาศกำหนดพื้นที่ที่จะจัดเก็บภาษีแต่ละโครงการฯ เพราะจะมีทำเลแตกต่างกัน มอบหมายให้กรมที่ดิน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีโครงการฯ ตั้งอยู่ ดำเนินการเก็บภาษี โดยจะเก็บเมื่อกฎหมายมีผลบังคับใช้ไม่มีผลย้อนหลัง
//------------------------------------------
ครม.ไฟเขียว ภาษีลาภลอย อสังหาฯเชิงพาณิชย์ เกิน 50 ล้าน รอบรัศมีไฮสปีด-ทางคู่
วันที่ 10 กรกฎาคม 2561- 15:56 น.
นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ว่า ครม.มีมติอนุมัติในหลักการร่างพระราชบัญญัติภาษีการได้รับประโยชน์จากการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของรัฐ พ.ศ
หรือ ภาษีลาภลอย ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ซึ่งจุดประสงค์ของการจัดทำกฎหมายฉบับนี้เนื่องจากที่ผ่านมามีการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม แต่ผู้ที่มีที่ดินอยู่ดีดีมีโครงการรถไฟฟ้าผ่าน ทำให้ราคาที่ดินเพิ่มขึ้น อยู่ดีดีได้รับประโยชน์จากการไม่ลงทุนอะไรเลย แต่รัฐไม่ได้รับประโยชน์อะไรจากการเพิ่มขึ้นของราคาที่ดิน ดังนั้นร่างพ.ร.บ.นี้ต้องการสร้างความเป็นธรรมระหว่างผู้ได้รับประโยชน์กับรัฐที่ต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และรายได้จากภาษีตรงนี้ทำให้รัฐสามารถนำไปลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติมได้
ส่วนสาระสำคัญของร่างพ.ร.บ. โครงการที่อยู่ในข่ายจัดเก็บภาษี อาทิ รถไฟความเร็วสูง รถไฟฟ้าขนส่งมวลชน รถไฟทางคู่ สนามบิน ท่าเรือ ทางด่วน และโครงการที่กำหนดในกฎกระทรวง ส่วนผู้ที่เสียเสียภาษีเป็นบุคคลคนธรรมดาและนิติบุคคลที่ครอบครองที่ดิน มีห้องชุดมูลค่าเกิน 50 ล้านบาท แบ่งช่วงเวลาเก็บภาษี 2 ช่วง
1.วันที่รัฐเริ่มโครงการจนแล้วเสร็จ จะเก็บภาษีตามรัศมี 5 กม. รอบโครงการ
2.เมื่อโครงการเสร็จจะเก็บจากที่มูลค่าที่ห้องชุดมูลค่าเกิน 50 ล้านบาท ที่ใช้ในเชิงพาณิชย์
ส่วนที่ดินที่เป็นที่พักอาศัยและเกษตรกรรมจะได้รับการยกเว้น รวมถึงอาคารชุดที่ยังไม่ได้จำหน่าย ทั้งนี้หากเป็นช่วงที่โครงการยังไม่เสร็จกรมที่ดินจะเป็นผู้เก็บภาษี เมื่อโครงการเสร็จแล้วองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.)จะเป็นผู้ทำหน้าที่เก็บแล้วส่งรายได้ให้กับแผ่นดิน
ส่วนการกำหนดเพดานการจัดเก็บจะไม่เกิน 5% ของฐานภาษี หรือส่วนต่างของมูลค่าที่ดินที่เพิ่มขึ้นนับจากวันที่รัฐเริ่มก่อสร้างหรือนับจากวันที่พ.ร.บ.บังคับใช้ จากการประเมินราคาของโดยกรมธนารักษ์ ส่วนขั้นตอนของกฎหมายหลังครม.ให้ความเห็นชอบจะส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจรายละเอียด และส่งเข้าพิจารณาในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)ต่อไป โดยยังไม่สามารถระบุได้ว่ากฎหมายจะออกมาบังคับใช้ได้เมื่อใด |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
|
Posted: 25/07/2018 11:54 am Post subject: |
|
|
เอกชนคึกชิงที่รถไฟ
วันที่ 25 ก.ค. 2561 เวลา 09:08 น.
เอกชนรายใหญ่แห่จองที่ดินมักกะสัน รฟท.คาดมูลค่าที่ดินแนวรถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบินพุ่ง 5 หมื่นล้าน
นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า โครงการรถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบินอีอีซีนั้นจะมีพื้นที่ให้เอกชนพัฒนาเชิงพาณิชย์ทั้งหมด 175 ไร่ รวมมูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านบาท มีระยะเวลาสัมปทาน 50 ปี |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
|
Posted: 26/07/2018 12:23 pm Post subject: |
|
|
"กลุ่มผู้ค้าจตุจักร"ร้องคมนาคมขอพักหนี้ค่าเช่าแผงค้ารฟท.
วันที่ 25 กรกฎาคม 2561 เวลา 22:38 น.
นางสาวนฤมล แซ่หุ้น ประธานสหกรณ์บริการผู้ค้าตลาดนัดจตุจักร เปิดเผยว่าสหกรณ์ได้รวมตัวกันจำนวน 517 ราย พร้อมยื่นหนังสือถึงนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เรื่องขอให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการเจรจาไกล่เกลี่ยหาแนวทางบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนผู้ค้าตลาดนัดจตุจักร เนื่องจากมองว่าในปัจจุบันการบริหารงานของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์อีกทั้งยังเน้นการสนับสนุนกลุ่มนายทุนเอกชนมากกว่าผู้ค้ารายย่อย
ในส่วนของข้อร้องเรียน 2 ประเด็นดังกล่าว ประกอบด้วย 1.เรียกร้องให้ รฟท.ไกล่เกลี่ยปัญหาการชำระเงินค่าเช่าแผงค้าให้ รฟท. หลังจากได้รับปัญหาจากการเรียกเก็บในอัตราที่สูงกว่าราคาเอกชนที่อยู่ใกล้เคียง ขณะเดียวกันยังมีการบล็อคการชำระเงินในทุกช่องทาง ส่งผลให้ผู้ค้ามียอดค้างชำระ และบีบบังคับให้ชำระเงินเป็นก้อนใหญ่ในครั้งเดียว 2.เรียกร้องให้ รฟท. ยกเลิกการประมูลให้สิทธิ์เอกชนเข้ามาจัดตลาดปูผ้ารอบถนนภายในตลาดนัดสวนจตุจักรช่วงเวลากลางคืนของวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ ส่งผลให้ผู้ค้าหลักในตลาดนัดได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก เนื่องจากบริเวณดังกล่าว ถือเป็นทำเลที่ดี
การรถไฟไม่สนับสนุนการค้าปกติ แต่ไปสนับสนุนการค้าบนถนน สะท้อนว่ามีการบริหารที่ผิดเพี้ยน เน้นการสนับสนุนกลุ่มนายทุน ตอนนี้เรามีปัญหาการค้างชำระค่าเช่า ทั้งที่เราพร้อมที่จะจ่าย แต่ถูกบล็อกไม่ให้จ่าย และที่สำคัญเรื่องที่จะทำให้ผู้ค้าตายจากการค้าขาย คือ การให้เอกชนเข้ามาประมูลขายของบนถนนรอบจตุจักร และพื้นที่โดยรอบ แล้วเรื่องภาระค่าขยะ ค่ารักษาความปลอดภัย ค่าน้ำ ค่าไฟ เขาไม่ต้องรับผิดชอบ เขาแค่จ่ายค่าเช่ารายเดือนเท่านั้นเอง นางสาวนฤมล กล่าว
นางสาวนฤมล กล่าวต่ออีกว่า กลุ่มผู้ค้าตลาดนัดจตุจักรได้เดินทางไปยื่นหนังสือถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีด้วย ซึ่งหลังจากนี้ จะมีการตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าว โดยจะมีการเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงคมนาคม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงพาณิชย์ รฟท. กรุงเทพมหานคร และกรมส่งเสริมสหกรณ์ รวมถึงตัวแทนผู้ค้าตลาดนัดจตุจักร เข้ามาชี้แจงรายละเอียด ทั้งนี้ หากไม่ได้รับความชัดเจนภายในวันที่ 10 ส.ค.นี้ กลุ่มผู้ค้าตลาดนัดจตุจักร จะเดินทางมานอนค้างบริเวณหน้ากระทรวงคมนาคม เพื่อขอความเป็นธรรมและพิจารณาข้อเรียกร้องดังกล่าว
รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย ระบุว่า รฟท. ได้ประกาศเชิญชวนเสนอราคาค่าเช่าสิทธิเก็บเงินรายได้จากการขายสินค้าปูผ้าในคืนวันศุกร์ คืนวันเสาร์ และคืนวันอาทิตย์ภายในพื้นที่ตลาดนัดสวนจตุจักรมีกำหนด 1 ปี ประกาศ ณ วันที่ 6 มิถุนายน 2561 ลงชื่อโดยนายศิริพงศ์ พฤทธิพันธุ์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารโครงการพัฒนาที่ดิน ปฏิบัติการแทนผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย มีกำหนดยื่นซองเสนอราคาไปแล้วเมื่อวันที่ 12 ก.ค. 2561 ที่ผ่านมา ล่าสุดได้ผู้ชนะการเสนอราคาแล้ว คือ บริษัท เมืองพัฒนา จำกัด ราคาที่ประมูลได้ 1,255,555 บาทต่อเดือน จากราคากลางที่กำหนดไว้ในอัตราไม่น้อยกว่า 441,000 บาทต่อเดือน |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
|
Posted: 06/08/2018 8:43 pm Post subject: |
|
|
บอร์ดรถไฟ อนุมัติเปิดประมูลสนามกอล์ฟหัวหินพันล้าน ต่อสัญญาโรงแรมเดอะ ทวิน ทาวเวอร์
วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2561 - 21:06 น.
นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม ในฐานะรักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. พิจารณาอนุมัติให้เปิดประมูลให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนบริหารสนามกอล์ฟหลวงหัวหิน (Royal Hua Hin Golf Course) ขนาด 500 ไร่ หลังหมดสัญญาระยะยาวกับบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด มูลค่าโครงการประมาณ 1 พันล้านบาท โดยหลังจากนี้ รฟท. จะต้องกลับไปทำตามขั้นตอนพีพีพี ให้แล้วเสร็จและนำเสนอกระทรวงคมนาคม และคณะกรรมการพีพีพีให้พิจารณต่อไป
นอกจากนี้ บอร์ดยังเห็นชอบให้ต่อสัญญาเช่าที่ดินโรงแรมเดอะ ทวิน ทาวเวอร์ ที่กำลังจะหมดสัญญาเช่าในปี 2564 โดยให้การรถไฟฯ ไปเจรจาต่อรองรูปแบบ อัตราผลตอบแทนที่รถไฟฯ จะได้รับกับผู้เช่ารายเดิมคือ บริษัท โกลเด้นแอสเซ็ท จำกัด ซึ่งจากผลการศึกษาความคุ้มค่าโครงการเห็นควรว่าควรต่อสัญญาเช่าใหม่ในเป็นระยะเวลา 20 ปี จะทำให้การรถไฟฯ ได้รับผลตอบแทนสูงที่สุด
นายอานนท์กล่าวต่อว่า บอร์ด ยังมีการพิจารณาเรื่องแผนการซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงจากบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) โดยบอร์ดยังไม่อนุมัติให้มีการเซ็นสัญญาชื้อน้ำมันเชื้อเพลิงจาก ปตท. เนื่องจากต้องการให้การรถไฟฯ ไปทำการเจรจาต่อรองส่วนลดราคาน้ำมันให้เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งต่อรองระยะเวลาการทำสัญญาด้วยเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด
นอกจากนี้ บอร์ด พิจารณาเรื่องการนำเข้าชิ้นส่วนราง ตัวรถ และอุปกรณ์ต่างๆ ที่จะนำมาใช้ในโครงการรถฟ้าชานเมืองสายสีแดง โดยการรถไฟฯ ได้แจ้งให้ที่ประชุมรับทราบว่า ชิ้นส่วนที่นำเข้าจากต่างประเทศทั้งหมดนั้น กรมสรรพากรได้ชี้แจงมาว่าจะต้องเสียภาษีแวต 7% เหมือนกับสินค้าทั่วๆ ไปด้วย แม้ว่าจะเป็นโครงการที่การรถไฟฯ ใช้เงินกู้ในการนำเข้าสินค้า โดยบอร์ดขอให้ การรถไฟฯ ทำหนังสือสอบถามความชัดเจนไปยังสำนักบริหารหนี้ กระทรวงการคลังอีกครั้ง เพื่อขอรับทราบหลักการว่าการใช้เงินกู้ในการจ่ายเพื่อนำเข้าสินค้าจะต้องเสียภาษีแวตหรือไม่อย่างไร หากจะต้องจ่ายภาษี สบน. จะมีแนวทางจัดสรรเงินในส่วนนี้ให้การรถไฟฯ ได้บ้าง รวมไปถึงการรถไฟฯ สามารถใช้เงินในส่วนอื่น หรือโครงการอื่นมาจ่ายภาษีได้หรือไม่ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
|
Posted: 07/08/2018 1:45 pm Post subject: |
|
|
ธพว.ร่วม ร.ฟ.ท.เปิดพื้นที่ตลาดจตุจักร ส่งผู้เชี่ยวชาญยกระดับผู้ค้าจากล้านบาทสู่ล้านดอลลาร์
โดย: MGR Online
เผยแพร่: 6 ส.ค. 2561 11:00
ปรับปรุง: 6 ส.ค. 2561 19:35
ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.หรือ SME Development Bank) ร่วมกับ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) จัดกิจกรรม SME-D Scaleup เถ้าแก่ 4.0 ต่อยอดติดปีกธุรกิจเงินล้าน พร้อมส่งผู้เชี่ยวชาญให้ความรู้ การตลาด ออกแบบ สร้างโอกาสผู้ประกอบการเข้าสู่แหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำนำไปต่อยอดธุรกิจ สร้างยอดขายจากหลักล้านบาทสู่ล้านดอลล่าร์
นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ ธพว. กล่าวว่า ที่ผ่านมาธนาคารได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของตลาดนัดจตุจักร เป็นตลาดนัดกลางแจ้งที่ใหญ่ และติดอันดับ 1 ใน 7 ตลาดที่ดีที่สุดของโลก มีร้านค้าประมาณ 10,000 ร้านค้า
ดังนั้น ธพว.จึงเห็นเป็นโอกาสที่จะพัฒนาผู้ประกอบการผู้ค้าเอสเอ็มอี และสตาร์ทอัพ ในพื้นที่จตุจักรยกระดับมาตรฐาน ทั้งด้านการตลาด การจัดการ ด้านการออกแบบดีไซน์ ให้มีความทันสมัยมีเรื่องราวและใช้เครื่องมือต่างๆ ยกระดับก้าวสู่ยุค 4.0 ให้มีการพัฒนาต่อยอดเติบโตยิ่งขึ้น ปั้นต้นแบบ (Model) ผู้ประกอบการจากยอดขายระดับหลักล้านบาท และก้าวเข้าสู่ระดับอินเตอร์หนึ่งล้านดอลลาร์ด้วยเครื่องมือการพัฒนาหลากหลายรูปแบบ ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ นำไปสู่การเติบโตที่ก้าวไกล
สำหรับกิจกรรม SME-D Scaleup เถ้าแก่ 4.0 ธนาคารจะมีผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันการศึกษา เช่น ศูนย์ Knowledge Exchange for Innovation (KX) ภายใต้การดูแลของมหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าธนบุรีที่เป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับประเทศ ซึ่งเป็นศูนย์ Ecosystem ให้ความรู้และสนับสนุนเครือข่ายช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและยกระดับสตาร์ทอัพเชื่อมโยงเครือข่ายภาครัฐภาคอุตสาหกรรมและพันธมิตร นำความรู้นวัตกรรมและเทคโนโลยีมาก่อเกิดประโยชน์เชิงพาณิชย์ โดยรวบรวมคณาจารย์ที่รอบรู้ทั้งด้านการออกแบบงานดีไซน์และเครื่องมือปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัล ที่จะมาให้คำปรึกษาแนะนำผู้ประกอบการแบบโค้ชชิ่งต่อธุรกิจ
นอกจากนี้ ธพว.จะช่วยส่งเสริมการตลาดให้ผู้ค้าขายเข้าสู่โลกอีคอมเมิร์ช ผ่านแอปพลิเคชันชั้นนำ เช่น Shopee และ HKTDC ของฮ่องกง ที่จะทำให้พบผู้ค้าจากทั่วโลกสามารถจับคู่ธุรกิจ ขยายตลาดเติบโตต่อไป รวมถึงธนาคารยังมีแพลตฟอร์ม SME-D Bank ที่รวบรวมแอปพลิเคชันด้านจัดการบัญชี ด้านการตลาด ด้านการบริหารสินค้าคงคลัง ระบบขนส่ง และการบริหารบุคคล การเขียนแผนธุรกิจ ให้บริการแก่ผู้ประกอบการผู้ค้าในตลาดนัดจตุจักรสามารถเลือกทดลองใช้ได้ฟรีตามความต้องการของแต่ละกิจการด้วย
กรรมการผู้จัดการ ธพว.กล่าวอีกว่า นอกจากการพัฒนาผู้ประกอบการผู้ค้าตลาดนัดจตุจักรให้เติบโตแล้ว ธนาคารยังให้เงินลงทุนเพื่อใช้ในการขยายปรับปรุงกิจการหรือหมุนเวียนในธุรกิจอีกด้วย โดยมีสินเชื่อถูกพิเศษ สินเชื่อเถ้าแก่ 4.0 ดอกเบี้ยเพียง 1% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา 7 ปีสำหรับนิติบุคคล เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการรายย่อยผู้ค้าในตลาดนัดจตุจักรเข้าถึงแหล่งเงินทุนเอื้อประโยชน์ในการทำธุรกิจโดยเป็นสินเชื่อปลอดการชำระเงินต้นเป็นเวลานานถึง 3 ปี ชำระแค่ดอกเบี้ยอย่างเดียวเท่านั้น คิดเฉลี่ยผ่อนเพียงละ 410 บาทต่อวัน
นอกจากนี้ยังมีสินเชื่อเศรษฐกิจติดดาว สำหรับกลุ่มบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล สนับสนุนผู้ประกอบการธุรกิจเกษตรแปรรูป ธุรกิจท่องเที่ยวชุมชนและเชื่อมโยงต่อเนื่อง รวมทั้งผู้ประกอบการใหม่มีนวัตกรรม คิดอัตราดอกเบี้ยเพียง 3% คงที่ 3 ปีแรก ผ่อนนาน 7 ปี โดยกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนเพียง 460 บาทต่อวัน เป็นต้น
ผมเชื่อมั่นว่าโครงการนี้นอกจากจะช่วยผู้ค้าในจตุจักร ติดอาวุธทางปัญญาพร้อมเงินลงทุนผลักธุรกิจเติบโตยิ่งขึ้นแล้ว ยังส่งผลดีเชื่อมโยงไปถึงเศรษฐกิจฐานรากที่เป็นต้นน้ำในการผลิตผลิตภัณฑ์ชุมชนของผู้ค้าในจตุจักรแต่ละพื้นที่ทั่วประเทศช่วยสร้างงานสร้างรายได้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยภาพรวมต่อไปด้วย
นอกจากนี้ภายในงาน ธนาคารมีกิจกรรมส่งเสริมผู้ประกอบการให้เข้าถึงแหล่งทุนดอกเบี้ยต่ำอัตราพิเศษ โดยมอบป้ายสินเชื่อผู้ประกอบการที่ได้รับการสนับสนุนรวมทั้งสิ้นถึง 14 ราย ในกลุ่มสินค้าเซรามิก ผลิตภัณฑ์และของตกแต่งบ้าน กระเป๋าผลิตภัณฑ์ผ้า ผ้ามัดย้อม สินค้าแฟชั่น เครื่องประดับ สินค้าพื้นเมือง ตลอดจนผลิตภัณฑ์ของตกแต่งจากไม้ เป็นต้น |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44320
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 16/08/2018 4:54 am Post subject: |
|
|
ตั้งคกก.กลางดูเรื่องร้องเรียนผู้ค้าจตุจักร
INN News 15 สิงหาคม 2018 - 15:50
คกก. ปฏิรูปคณะที่ 5ลุยแก้ปัญหาร้องเรียนผู้ค้าจตุจักร ตั้งกรรมการกลาง จากหน่วยงานรัฐ ดำเนินการเพื่อความเป็นธรรม
ร.ต.หญิง พรชนก อ่ำพันธุ์ ผู้ช่วยโฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ตัวแทนประชาชนผู้ค้ารายย่อยตลาดนัดจตุจักร ได้ร้องเรียนเพื่อขอความช่วยเหลือจากคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะ 5 เนื่องจาก ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการบริหารงานของการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่ปัจจุบันเป็นเจ้าของ โดย ผู้ประกอบการมองว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย คิดค่าเช่าที่ดินไม่เป็นธรรม และไม่เป็นไปตามระเบียบการรถไฟแห่งประเทศไทย ฉบับที่ 129 ว่าด้วยการจัดประโยชน์ในทรัพย์สินของการรถไฟแห่งประเทศไทย แถลงไว้ จึงทำให้ราคาค่าเช่าสูงกว่าตลาดเอกชน อีกทั้ง มองว่าการบริหารงานของการรถไฟ ยังพบพิรุธส่อไปในทางทุจริต รวมถึงปัญหาความไม่เป็นธรรมค่าเช่าแผง ที่การรถไฟแห่งประเทศไทย เรียกเก็บในอัตราที่สูงกว่าราคาเอกชน ดังนั้น เพื่อเป็นการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการร้านค้า ที่ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ 5 โดยพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กำชับให้แก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเป็นธรรมและเร่งด่วน ด้วยการจัดตั้งคณะกรรมการกลาง ที่มาจากหลายหน่วยงานของรัฐขึ้นมาแก้ไข และให้ติดตามการแก้ไขปัญหาเพื่อให้สามารถมีข้อยุติได้โดยเร็ว |
|
Back to top |
|
|
|