รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่

[Wisarut]

[Wisarut]

วิศวกร รฟท.ยัน การกู้ระเบิดเพื่อสร้างรางรถไฟที่ราชบุรี ประชาชนไม่ต้องแตกตื่น

วิศวกร รฟท. ยืนยัน ประชาชนชาวราชบุรียังไม่ต้องตื่นตระหนก หลังมีการวางแผนที่จะกู้หัวรถจักร และ ลูกระเบิดใต้สะพานจุฬาลงกรณ์ สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อสร้างรถไฟรางคู่และรางรถไฟความเร็วสูง หลังก่อนหน้ามีข่าวลือสะพัด เตรียมให้ประชาชนอพยพพ้นรัศมี 1 กิโลเมตร เพราะทุกอย่างวางแผนไว้ล่วงหน้าและทำเป็นขั้นเป็นตอน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่มีข่าวปรากฏตามสื่อต่างเมื่อช่วงวันถึงสองวันนี้ ว่า มีการให้จังหวัดราชบุรีเตรียมอพยพประชาชนให้พ้นรัศมี 1 กิโลเมตร หลังมีการพบลูกระเบิดสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และยังพบหัวรถจักร หรือ ส่วนหัวของรถไฟ ตามข้อมูลปลายปี พ.ศ.2487 ซึ่งเป็นช่วงปลายของสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพญี่ปุ่นเริ่มพ่ายแพ้สงครามในพม่า ฝ่ายสัมพันธมิตรจำเป็นต้องทำลายเส้นทางถอยของกองทัพญี่ปุ่นที่จะผ่านลงไปสู่ภาคใต้ ไปยังมาเลเซีย และสิงค์โปร์ ฝ่ายสัมพันธมิตรจำต้องระเบิดสะพาน สะพานรถไฟจุฬาลงกรณ์ เขตตัวเมืองราชบุรี แห่งนี้ทิ้ง

โดยที่สะพานรถไฟจุฬาลงกรณ์ ถูกทิ้งระเบิด ถึง 3 ครั้ง ครั้งแรกในคืนวันที่ 14 ม.ค. 2488 ครั้งที่ 2 คืนวันที่ 30 ม.ค.2488 และครั้งสุดท้าย คืนวันที่ 11 ก.พ. 2488 ซึ่งเป็นลูกระเบิดแบบตั้งเวลา มาระเบิดในรุ่งเช้าของวันที่ 12 ก.พ.2488 ทำให้สะพานรถไฟจุฬาลงกรณ์หักกลาง ไม่สามารถใช้สัญจรได้อีกต่อไป

ส่งผลให้กองทัพญี่ปุ่น ไม่สามารถซ่อมแซมสะพานจุฬาลงกรณ์กลับได้ทันเวลา จึงเลือกที่สร้างทางรถไฟใหม่ ทางด้านเหนือน้ำ (แนวสะพานธนะรัชต์ปัจจุบัน) โดยระดมไม้เสา ไม้ซุง ต่างๆ มาปักทำเป็นตอม่อชั่วคราว หลังจากเสร็จเรียบร้อย จึงนำหัวรถจักร มาลองวิ่งทดสอบดู ปรากฏว่า ตอม่อชั่วคราวไม่สามารถทานน้ำหนักได้ สะพานจึงหัก ส่งผลให้หัวรถจักรที่นำมาทดลองวิ่งจมลงสู่ใต้น้ำ ปรากฏให้เห็นเป็นหลักฐานจนถึงปัจจุบันนี้

ในราวต้นปี พ.ศ.2548 พลโทชัยยุทธ เทพยสุวรรณ เจ้ากรมการทหารช่าง ในสมัยนั้น ได้ว่าจ้างให้ สามพ่อลูกชาวชุมชนท่าเสา เขตเทศบาลเมืองราชบุรี นักดำน้ำงมกุ้งและงมหาของเก่าในแม่น้ำแม่กลอง ดำน้ำลงไปสำรวจสภาพหัวรถจักรและบริเวณโดยรอบ ทั้งสามพ่อลูกกล่าวว่า การดำลงไปสำรวจพบหัวรถจักรและลูกระเบิดหลายลูก พร้อมด้วยเศษเหล็กที่ถูกระเบิดสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำลาย ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์แต่มีสนิมเกาะ ก่อนหน้านี้นับสิบปี พวกตนมาดำงมกุ้งและงมหาของเก่า เมื่อถึงบริเวณนี้ได้พบส่วนของหัวรถจักรจมอยู่ภายในมีทรายอยู่เป็นจำนวนมาก พวกตนเคยเล่าให้กับชาวราชบุรีฟังหลายคน ส่วนระเบิดที่พบนั้นลูกใหญ่สูงเท่าคนเกือบสิบลูก ยังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ซึ่งระดับความลึกจากผิวน้ำลงไปถึงหัวรถจักรประมาณ 10 เมตร ซึ่งเชื่อว่าพบ หัวรถจักรไอน้ำ 1 คัน (จำนวน 4 ทุ่น) , ลูกระเบิด ขนาด 1,000 ปอนด์ 3 ลูก , กระจังหน้ารถจักร 1 ชิ้น , รางรถไฟ 2 ชิ้น และ ล้อรถจักร 1 ชิ้น เมื่อได้ตำแหน่งโดยคร่าวๆ จึงได้จัดนักดำน้ำของชมรมกีฬาทางน้ำ ศูนย์กีฬากรมการทหารช่าง ลงไปสำรวจเพิ่มเติมอีกครั้ง การสำรวจในครั้งนั้น นอกจากหัวรถจักรแล้ว ยังพบลูกระเบิดที่ยังไม่ระเบิด อีก 3 ลูก บริเวณท้ายน้ำ โดยสันนิฐานว่าลูกระเบิดที่พบ คาดว่าจะเป็น GP BOMB ขนาด 1,000 ปอนด์ ที่ถูกทิ้งจากเครื่องบิน B-24 จำนวน 3 ลูกซึ่งยังไม่ระเบิด และยังคงมีความพร้อมที่จะระเบิดเมื่อได้รับการกระตุ้น

จนมติ ครม.ให้มีการดำเนินการสร้างทางรถไฟรางคู่ นครปฐม – หัวหิน เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 2560 การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ลงนามในสัญญาจ้างก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ระยะเร่งด่วน 5 เส้นทาง กับบริษัทผู้รับจ้างที่ผ่านการคัดเลือก หนึ่งในนั้นคือ การก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงนครปฐม-หัวหิน ระยะทาง 169 กม.

โดยทางบริษัทผู้รับจ้างช่วงที่ต้องสร้างทางรถไฟทางคู่ ข้ามแม่น้ำแม่กลอง ที่ อ.เมือง จ.ราชบุรี ต้องวางแผนในการดำเนินการก่อสร้างอย่างระมัดระวัง และการศึกษาหาข้อมูลอย่างครบทุกด้าน เนื่องจากว่าแนวสะพานรถไฟที่สร้างใหม่คู่ขนานกับสะพานจุฬาลงกรณ์เดิมนั้น ทางการรถไฟแห่งประเทศไทย และบริษัทผู้รับจ้าง และทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะต้องดำเนนการเก็บกูลูกระเบิดที่จมอยู่ใต้น้ำ และหัวรถไฟ ซึ่งจะต้องดำเนินการอย่างระมัดระวัง อาจจะเกิดอันตรายขึ้นในระหว่างการก่อสร้าง
ล่าสุดวันนี้ นายปฐตพงษ์ บุญแก้ว วิศวกร 8 การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้เข้าหาลือกับทางจังหวัดราชบุรี โดยมีนายวีรัส ประเศรษโฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ประธานคณะทำงานเพื่อประสานงานและดำเนินการการก่อสร้างรถไฟทางคู่ในพื้นที่จังหวัดราชบุรี เพื่อหาแนวทางในการทำความเข้าใจกับประชาชนและเริ่งดำเนินการตั้งคณะดำเนินการเตรียมสำรวจการกู้หัวรถไฟ และ ลูกระเบิด หลังประชาชนเริ่มตื่นตะหนกและกังวลใจต่อข่าวที่เกิดขึ้นทั้ง ข่าวลือ ข่าวโซลเชียลต่างๆ

นายปฐตพงษ์ บุญแก้ว วิศวกร 8 การรถไฟแห่งประเทศไทย ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า จริงๆ แล้วเรื่องข้อมูลของวัตถุระเบิดเรามีมาตั้งแต่ก่อนเริ่มโครงการการก่อสร้างรถไฟรางคู่ และชาวราชบุรีส่วนใหญ่ กลุ่มคนที่ศึกษาและสนใจเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทราบกันอยู่แล้ว ระเบิดคืออยู่ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 คาดว่าน่าจะมีประมาณ 5 ลูก เราต้องใช้คำว่าคาดว่า ซึ่งแนวการก่อสร้างรถไฟรางคู่ของเรา ไปอยู่ในจุดตอม่อที่เรามีอยู่ที่ต้องเข้าไปก่อสร้างตอหม้อในลุ่มน้ำแม่กลอง ในลำน้ำแม่กลองซึ่งจากตัวแนวระเบิดที่เราวางเอาไว้ จะมีแนวที่อยู่ใกล้ๆ กลับทางที่อยู่กับทางตอหม้อที่จะต้องสร้าง การที่เราจะลงไปสำรวจหรือดำเนินการก่อสร้าง เราไม่ได้ดำเนินการอย่างพลการเลย จริงๆเราได้เตรียมการเรื่องนี้มานานแล้ว แต่เพียงวันนี้ทางการรถไฟแห่งประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพในเรื่องนี้ ก็ได้แต่งตั้งคณะทำงานร่วมกับทางจังหวัด ซึ่งคณะทำงานของจังหวัดในการเข้ามาแก้ไขปัญหา ทั้งในลูกระเบิดและหัวรถจักร ซึ่งเป็นหัวรถจักรทองเหลืองอยู่เคียงคู่กัน ผลกระทบจากระเบิดทำให้หัวรถจักรจมอยู่ในนั้น คณะจังหวัดที่ดำเนินการเรื่องนี้จะประกอบไปด้วย หน่วยงานทางทหาร ทหารอากาศ ทหารเรือ และทีมทำลายอมภัณฑ์ กรมสรรพวุธทหารเรือ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องนี้ และหน่วยงานของทางการรถไฟ โดยคำสั่งนี้ตั้งมานานแล้วก่อนที่จะมีข่าว ซึ่งมาตรการต่างๆ ประชาชนในราชบุรี ณวันที่กู้ สร้างจริง หรือ การเก็บกู้ขึ่นมาจริงๆ จะต้องมีการออกมาตรการออกมาก่อนล่วงหน้าและบังคับใช้ ตั้งแต่การสำรวจจริงๆ แล้วว่ามีกี่ลูก อย่างแน่นอน การกำหนดในการกู้การกำหนดวัน 2 วัน 3 วัน หรือ 5 วัน ซึ่งเหล่านี้ต้องมีการประกาศอย่างชัดเจนและเป็นแผนเป็นขั้นตอน จะใช้กฎหมายในเขตชุมชนว่าต้องใช้กฎหมายใดที่ต้องเอามาใช้ จึงเรียนว่าเรื่องนี้ประชาชนไม่ต้องตื่นตระหนก ซึ่งทางหน่วยงานภาครัฐมีการเตรียมงานเป็นอย่างดี เราไม่เจอเรื่องนี้ที่เป็นลักษณะฉุกเฉิน ยิ่งถ้าเป็นคนราชบุรีเขารู้อยู่ว่าในน้ำของเขาสมัยสงครามโลกที่มีการทิ้งบอมกันมีอะไรบ้าง ซึ่งตนเองมองว่าเป็นแง่ดี อย่างหัวรถจักรที่เรากู้ขึ้นมา เราจะนำมาจัดแสดงแสดงคู่กับสะพานนี้ และเราออกแบบมาเป็นพิเศษให้คู่กับสะพานจุฬาลงกรณ์เดิม มีความสวยตามสถาปัตยกรรม ไม่ต้องตื่นตระหนก เพราะอยู่ในมาตรการของเจ้าหน้าที่ เราทำงานเป็นแบบขั้นตอน และเชื่อว่าไม่ระเบิดอย่างแน่นอน เพราะรถไฟในปัจจุบัน วิ่งมา 80 ปีแล้ว อยู่กับตรงนี้มานานมาก เพราะฉะนั้นความสั่นสะเทือนไม่ส่งผลกระทบใดๆ เลย

นายปฐตพงษ์ กล่าวต่อว่า การเร่งสำรวจนี้อย่างช้าไม่เกินปีใหม่นี้ เพื่อให้ทีมงานเจ้าหน้าที่ได้ทำงาน และช่วงนี้น้ำไหลเชี่ยว เนื่องจากการพร่องน้ำของเขื่อนในจังหวัดกาญจนบุรี ทำให้ไม่สามารถดำเนินการได้ต้องรอจนกว่าน้ำจะแห้งลงและหยุดนิ่ง เราจะต้องลงไปสำเรวจให้แน่ชัดว่า มีอะไรบ้าง โดยวันที่ 10 นี้ จะเริ่มเข้ามาดำเนินการเลย

ด้านนายวีรัส ประเศรษโฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี กล่าวว่า เรื่องนี้ทางจังหวัดราชบุรี โดยคณะทำงานเราได้รู้ข้อเท็จจริงนี้มานานแล้ว จากที่ผู้รู้หรือเสทหารช่างที่ได้ศึกษาไว้ และทางการรถไฟได้ไปนำข้อมูลมาประชุมหาลือกัน จะต้องทำให้เป็นระบบ ส่วนเวลาในกาสรดำเนินการนั้นเราต้องดูกระแสน้ำ ดูความพร้อมของแต่ละทีมหลังจากที่เราได้ข้อมูลที่ถูกต้อง โดยช่วงนี้ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ แน่นอนเพราะน้ำหลากไหลเชี่ยว การรถไฟก็วิ่งตามปกติ เพราอยู่คู่กับเรามานานกว่า 80 ปี แล้ว ส่วนระเบิดจะมีกี่ลูก ประเภทไหน ก้ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญมาดำเนินการตรวจสอบ ซี่งบางลูกที่อยู่ใต้น้ำเราก็จะไมไปอยู่เพราะอยู่ใต้น้ำ เพราะเป็นระเบิดหน่วงเวลา ถ้าเราไปแต่มากมันอาจเกิดการทำงานมาได้ ก้ต้องรอการสำรวจที่แน่ชัดอีกครั้ง

จึงยืนยันว่าในช่วงนี้เรื่องการอพยพยังไม่มี ส่วนการจะอพยพจริงนั้นต้องรอผลสำรวจและการดำเนินการกู้ขึ้นมา ตรงนั้นเราต้องมีการดำเนินการเป็นขั้นเป็นตอนและต้องรายงานให้ทางรัฐบาลทราบ รวมไปถึง รฟท. ด้วย ประชาชนสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ก็ขอให้ติดตามข้อมูลจากทางจังหวัด หรือ ทาง รฟท. เพื่อไม่ให้เกิดการสับสนและแตกตื่นอีก แต่ส่วนที่อนาคตจะมีการเก็บกู้จริงนั้น ทางจังหวัดก็ได้เตรียมความพร้อมไว้ทุกหน่วยแล้วเช่นกัน อย่าเชื่อข่าวลือ หรือ ผู้ใหญ่เล่าว่า ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นเราจะออกเป็นหนังสือประกาศจากทางราชการเพื่อความน่าเชื่อถือต่อไป หากจะมีการแชร์ข่าวก็ขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง สอบถามมาที่จังหวัดได้ตลอด เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราต้องทำงานกันอย่างระมัดระวังในทุกขั้นตอน

ด้านเจ้าของร้านของชำรายหนึ่งที่อยู่ติดกับสะพานธนรัตน์ กล่าวกว่า จากที่มีข่าวว่าจะมีการอพยพให้ออกจากพื้นที่ ตรงนี้ยังไม่ได้เตรียมอะไร หากมีการกู้จริงเราก็หนีไปอยู่ที่อื่น เราก็หลบไปไม่ได้ตกใจอะไร ถ้าไม่กู้เราก็อยู่แบบนี้ เพราะอยู่ตรงนี้มากว่า 50 ปีแล้ว

ส่วนนายโชคเจริญ ประเสริฐไลกุล อายุ 47 ปี เจ้าของร้านขายข้าวสารย่งง้วน กล่าวว่า ตนมาอยู่อาศัยที่นี่ 40 กว่าปีแล้ว และทราบว่ามีระเบิดอยู่บริเวณนี้ ถถ้าเกิดมีการเก็บกู้ขึ้นมาก็ให้ความร่วมมืออยู่แล้วไม่ตกใจอะไร และมีถ้ามีการให้อพยพเราก้ไม่รู้ว่ากี่วันยังไม่ทราบ เราก็ให้ความมือ บางคนมีความหวาดกลัวก้พูดกันมา แต่ตนเองก้ปกติถือว่าเราก็อยู่มานานไม่เกิดอะไรขึ้น

[Mongwin]

รฟท.เผยยังไม่กู้ระเบิดใต้สะพานราชบุรีวอนอย่าตื่นตระหนก
TNN 24 Published on Aug 28, 2018

การรถไฟแห่งประเทศไทย เผยอยู่ระหว่างสำรวจระเบิดสมัยสงครามโลก ใต้สะพานจุฬาลงกรณ์ จังหวัดราชบุรี โดยหากจะมีการเก็บกู้ ต้องใช้ทหารผู้เชี่ยวชาญ และมีการประกาศเป็นลำดับขั้นตอน วอนประชาชนอย่าตื่นตระหนก


https://www.youtube.com/watch?v=raiiYYnVnx8

[Mongwin]

[Wisarut]

จ.ราชบุรีเตรียมแผน ‘กู้หัวรถจักร-ระเบิด’ สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ใต้สะพานจุฬาลงกรณ์

วันที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2561 เวลา 16:29 น.



เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายปัฐตพงษ์ บุญแก้ว วิศวกร 8 การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) พร้อมเจ้าหน้าที่ได้เข้าหารือกับนายวีรัส ประเศรษโฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ที่ห้องปฏิบัติงาน ศาลากลางจังหวัด เพื่อร่วมหาแนวทางการเก็บกู้ระเบิด พร้อมหัวรถจักรในแม่น้ำแม่กลอง บริเวณใต้สะพานจุฬาลงกรณ์ สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 อ.เมือง จ.ราชบุรี ซึ่ง รฟท.ได้จัดทำแผนโครงการประสานหน่วยงานทั้งทหารเรือ ทหารอากาศ ทหารบก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมการสำรวจพื้นที่ใต้น้ำว่ามีระเบิดจมอยู่กี่ลูก รวมถึงแผนความชัดเจนโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ซึ่งจำเป็นต้องเก็บกู้ระเบิด พร้อมหัวรถจักรที่จมอยู่ใต้น้ำเพื่อเตรียมก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ ซึ่งขณะนี้ความคืบหน้าของโครงการมีการปรับปรุงถนนเส้นทางเลียบทางรถไฟหลายจุด และกำลังจะมาถึงบริเวณสะพานจุฬาลงกรณ์ เขตเทศบาลเมืองราชบุรีแล้ว

นายปัฐตพงษ์เปิดเผยข้อมูลว่า ระเบิดที่จมอยู่ใต้น้ำแม่กลองทราบว่ามีมานานแล้ว รวมถึงชาวราชบุรีก็ทราบเรื่องนี้ เนื่องจากเป็นระเบิดสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 คาดว่าน่าจะมีประมาณ 5 ลูก ซึ่งแนวก่อสร้างรถไฟทางคู่ ที่มีจุดที่ต้องเข้าไปทำการก่อสร้างตอม่อในแม่น้ำแม่กลอง จากตัวแนวระเบิดที่วางไว้จะมีแนวที่อยู่ใกล้ๆ กัน ที่จะต้องสร้างโครงการฯ ขณะนี้ รพฟ.เป็นเจ้าภาพได้แต่งตั้งคณะทำงานร่วมกับจังหวัด มีองค์ประกอบคณะทำงานหลักๆ เป็นกลุ่มกองทัพทหาร และผู้เชี่ยวชาญซึ่งได้เชิญเข้ามาร่วม พร้อมเตรียมจัดประชุมเร่งด่วน ซึ่งก่อนหน้านั้นทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้ลงพื้นที่ ครม.สัญจรพื้นที่ภาคใต้ ได้พูดเรื่องนี้พร้อมบอกว่าให้ดำเนินการโดยด่วน

สำหรับรถจักรที่จะกู้ขึ้นมานั้นจะนำมาจัดแสดงเคียงคู่กับสะพานที่ทาง รฟท.ออกแบบเป็นพิเศษ เกิดความสวยงามเท่ากับสะพานเดิม ทั้งนี้ ทุกอย่างอยู่ในความควบคุมของเจ้าหน้าที่รัฐ โดยจะเตรียมการจัดประชุมหน่วยงานในวันที่ 10 กันยายน เป็นการประชุมคณะทำงานเป็นวาระเร่งด่วน คาดว่าอย่างช้าไม่เกินปีใหม่นี้ จึงจะตอบมาตรการที่เหลือออกมาเป็นขั้นตอนที่ชัดเจน รวมทั้งจำนวนลูกระเบิดและหัวรถจักรที่จมอยู่ ส่วนลูกระเบิดเป็นของทหารอากาศ คนที่จะเก็บกู้ได้น่าจะเป็นทีมกองประดาน้ำและถอนทำลายใต้น้ำ ซึ่งเป็นทีมอมภัณฑ์ของกรมสรรพวุธทหารเรือ ที่มีความเชี่ยวชาญดำเนินการ


นายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี เปิดเผยว่า ทางญี่ปุ่นได้มีการซ่อมรางรถไฟตรงสะพานจุฬาลงกรณ์ที่ถูกฝ่ายสัมพันธมิตรโจมตีเสียหาย ทางฝ่ายทหารญี่ปุ่นซ่อมแซมรางและทดลองเอารถจักรลำเลียงของกองทัพญี่ปุ่นแล่นผ่านทางที่ซ่อมแล้ว ปรากฏว่าทรุดตัวลงพังจมอยู่ใต้น้ำ จึงมีข้อเสนอจากหลายฝ่ายให้กู้หัวรถจักรขึ้นมาจัดแสดง เป็นสิ่งบ่งบอกถึงประวัติศาสตร์ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ของเมืองราชบุรี หลังจากที่ผ่านมาเคยมีการจัดทีมลงไปสำรวจใต้น้ำ มีการหยิบยกเรื่องนี้มาหารือ แต่สุดท้ายมีการพับโครงการดังกล่าวไป อาจจะเป็นข้อจำกัดด้านความยากลำบาก งบประมาณ และการเสี่ยงภัยระหว่างการกู้หัวรถจักร และกู้ระเบิดด้วยในสมัยสงครามโลกปี พ.ศ.2488

“ล่าสุดการทาง รฟท.ได้เซ็นสัญญากับผู้รับเหมาในการก่อสร้างรถไฟทางคู่และจะแล้วเสร็จในปี 2563 โดยแนวเส้นทางจะคู่ขนานผ่านสะพานจุฬาลงกรณ์ และจะต้องทำรางใหม่คู่กันไป โดยจะต้องทำตอม่อสะพานและจะต้องเก็บกู้ระเบิดในตรงนั้นไปเพื่อให้การก่อสร้างไม่เกิดอันตราย ซึ่งได้แต่งตั้งให้นายวีรัส ประเศรษโฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นผู้กำกับดูแลงานของกระทรวงคมนาคมเป็นผู้รับผิดชอบประสานการปฏิบัติงานกับ รฟท.และบริษัทผู้รับเหมา ซึ่งมีการประชุมหารือชั้นต้นมาแล้ว 2 ครั้ง เพื่อเตรียมการเรื่องนี้ เนื่องจากการก่อสร้างใช้เวลาอีกประมาณ 2 ปีจะแล้วเสร็จ ทางจังหวัดพร้อมจะสนับสนุนการดำเนินงานของ รฟท. และทางบริษัทผู้รับจ้างในการดำเนินการก่อสร้าง และเชื่อว่าน่าจะมีการเก็บกู้ก่อนที่จะมีการก่อสร้าง และคงต้องจัดผู้เชี่ยวชาญดำสำรวจเพื่อความชัดเจนอีกครั้ง


“ส่วนวัตถุระเบิดนั้นยังไม่สามารถว่าใช้การได้หรือไม่ แต่ก็มีข้อสังเกตว่า เป็นระเบิดตั้งแต่สมัยสงครามโลกแม้จะผ่านเวลาไปกว่า 70 ปีมาแล้ว ก็ยังมีอานุภาพอยู่ได้ จึงอยากแจ้งเตือนอย่าไปยุ่งเกี่ยวบริเวณใกล้ๆ ตอม่อสะพานจุฬาลงกรณ์ แต่ยังคงใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ จึงสั่งการให้ ปภ.จังหวัดแจ้งเตือนนายอำเภอเมือง เทศบาลเมือง ตำรวจภูธรจังหวัดให้เฝ้าระวังเป็นพิเศษ ช่วงที่มีกระแสข่าวเกิดขึ้นมา เพราะยังไม่รู้ว่าระเบิดยังคงมีอานุภาพอยู่หรือไม่ ซึ่งได้พูดคุยกับ พล.ร.อ.นวพล ดำรงพงศ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ ทราบเบื้องต้นว่า พื้นที่ราชบุรีอยู่ในความรับผิดชอบดูแลของกรมสรรพวุธทหารบก ซึ่งจะประสานรองผู้ว่าราชการจังหวัดได้ประสานไปทางการรถไฟฯให้ประสานการปฏิบัติไปยังกรมสรรพวุธทหารบกเพื่อเตรียมการในเรื่องนี้ ขึ้นอยู่กับแผนการปฏิบัติงานของการรถไฟฯจะมีและบริษัทผู้รับเหมาจะพร้อมดำเนินการเมื่อไหร่” นายชยาวุธกล่าว

นายชยาวุธกล่าวต่อว่า ส่วนแผนการเคลื่อนย้ายประชาชนออกจากพื้นที่ใกล้สะพานนั้น พื้นที่จวนผู้ว่าฯอยู่ใกล้กับสะพาน ตราบใดที่ไม่มีคนเข้าไปวุ่นวายกับบริเวณนั้นก็ยังไม่มีความเสี่ยง ส่วนว่าระหว่างการเก็บกู้จะต้องประกาศเป็นเขตปลอดภัย หรือจะต้องอพยพประชาชนเพียงไรนั้น ยังไม่ทราบว่าวัตถุระเบิดเป็นประเภทใด และมีอานุภาพขนาดไหน จำเป็นจะต้องให้ทหารจากกรมสรรพวุธ หรือหน่วยงานที่รับผิดชอบมาแนะนำ ทางจังหวัดในฐานะผู้อำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตพื้นที่จังหวัด เทศบาล คงจะได้ประกาศเป็นเขตป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในช่วงนั้นให้เป็นเขตปลอดภัย และจะเคลื่อนย้ายประชาชนไปตามความจำเป็น ส่วนระยะทางจะขนาดไหนต้องขึ้นกับอนุภาพของระเบิดนั้นด้วย



นายวีรัสกล่าวว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดได้แต่งตั้งตนเป็นประธานคณะทำงานร่วมกับ รฟท.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่วนการดำเนินการต้องดูหลายเรื่อง เช่น กระแสน้ำ ความพร้อมของแต่ละทีม ถ้ามีความจำเป็นคงจะต้องขอความร่วมมือจากต่างประเทศที่เคยทำเรื่องนี้มาแล้ว ส่วนระเบิดบางลูกที่ไม่จำเป็นก็จะไม่แตะต้อง ถือเป็นเรื่องใหญ่ อีกทั้งยังเป็นเขตเมืองเก่า จะทำอะไรต้องคำนึงถึงประกาศเมืองเก่าของรัฐบาลด้วยว่าการสร้างสะพานต้องทำเป็นสะพานเหล็กควบคู่ให้สวยงามและมีความปลอดภัย ซึ่งทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้เห็นชอบ นอกจากนี้ ยังมีหัวรถจักรที่สมบูรณ์ก็จะนำขึ้นมา ซึ่งอยู่ในกรรมสิทธิ์ของ รฟท.อยู่ที่ว่าจะมอบให้จังหวัด หรือจะจัดสร้างพิพิธภัณฑ์เพื่อให้ประชาชนนักท่องเที่ยวได้มาศึกษาในอนาคต



รฟท.รอสรุปแผนสร้างทางคู่นครปฐม-หัวหิน หลังพบระเบิด

28 สิงหาคม พ.ศ. 2561 เวลา 09:36 น.


รฟท.เตรียมหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลังพบระเบิดบริเวรพื้นที่ก่อสร้างรถไฟทางคู่นครปฐม-หัวหิน ขณะนี้อยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่เข้าสำรวจพื้นที่

นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)เปิดเผยว่าขณะนี้ อยู่ระหว่างเตรียมทีมงานด้านการก่อสร้างของรถไฟฯประชุมกับทางจังหวัดราชบุรี หลังจากการเข้าสำรวจพื้นที่ก่อสร้างบริเวณดังกล่าวแล้วพบวัตถุระเบิดจำนวน 3-5ลูก ที่ฝั่งอยู่ในน้ำและบริเวณใกล้เคียงกับโครงการทางคู่นครปฐม-หัวหิน

อย่างไรก็ตามโดยในวันที่10ก.ย. นี้จะมีการหารือการเก็บกู้อีกครั้งหนึ่ง ส่วนโครงการนั้นเดินหน้าได้ตามปกติ เพียงแต่เว้นช่วงดังกล่าวไว้ก่อนแล้วไปทำช่วงอื่นแทน อย่างไรก็ตามการพบวัตถุระเบิดเก่ายุคสงครามโลกนั้นเป็นเรื่องปกติที่ฝ่ายสำรวจและก่อสร้างโครงการต่างๆต้องเจอในทุกพื้นที่ของประเทศอยู่แล้ว

รายงานข่าวกระทรวงคมนาคมระบุว่าเบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นระเบิดจีพีบอมบ์ หรือระเบิดเอเอ็น-เอ็ม65 ขนาดน้ำหนัก 1,000 ปอนด์ ส่วนเรื่องรัศมีจากแรงระเบิด จะมีรัศมีความปลอดภัยในการเก็บกู้และระยะอพยพประชากรไม่ต่ำกว่า 1 กม.
https://www.youtube.com/watch?v=5ZkNbqN8SbU

[Mongwin]

ตอนสร้างสะพานคลองลึก ไทย-กัมพูชา ทดแทนสะพานเดิม ก็ล่าช้าพอสมควรครับ เพราะต้องเคลียร์ให้แน่ใจว่าบริเวณก่อสร้างไม่มีระเบิดหลงเหลืออยู่

[Mongwin]

ชูทางคู่"นครปฐม-หัวหิน รถไฟสายประวัติศาสตร์
เดลินิวส์ พุธที่ 29 สิงหาคม 2561 เวลา 18.07 น.

ชูทางคู่นครปฐม-หัวหิน เป็นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์ หลังเจอระเบิด-หัวรถจักรไอน้ำ สมัยสงครามโลก ด้านทางคู่5เส้นคืบเข้าพื้นที่ก่อสร้างเสร็จปี 65

รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)แจ้งถึงความคืบหน้าการก่อสร้างรถไฟทางคู่ จำนวน 5  เส้นทาง ระยะทางรวม 688 กม. งบประมาณ 70,104 ล้านบาท ที่ทางการถไฟฯได้ดำเนินการส่งมอบพื้นที่ให้กับผู้รับเหมาไปตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ขณะนี้ทุกสัญญาได้ทำการเคลียร์พื้นที่ก่อสร้างและดำเนินไปตามแผนงาน  โดยทางคู่ช่วง มาบกะเบา-จิระ สัญญาที่1 คืบหน้า  5.89 %  สัญญา3 คืบหน้า 0.131 % ทางคู่ช่วง นครปฐม-หัวหิน,หัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ และ ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร นั้น  สัญญา 1 นครปฐม-หนองปลาไหล คืบหน้า  1.826%  สัญญา 2 หนองปลาไหล-หัวหิน  คืบหน้า 4.266% สัญญา 3 หัวหิน-ประจวบฯ  คืบหน้า 12.870 %  สัญญา 4 ประจวบฯ-บางสะพานน้อย  คืบหน้า 0.896% สัญญา 5 บางสะพานน้อย-ชุมพร คืบหน้า 2.012%    ซึ่งผู้รับเหมามีระยะเวลาก่อสร้าง 30-36 เดือนหรือประมาณ 3 ปีคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จทั้งหมดภายใน ปี 65 

รายงานข่าวแจ้งต่อว่า ส่วนโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงมาบกะเบา-จิระ สัญญาที่ 2 ช่วงคลองขนานจิตร-ชุมทางจิระที่ปรับรูปแบบจากทางระดับดินเป็นทางยกระดับนั้นอยู่ระหว่างปรับแบบคาดว่าจะใช้เวลาออกแบบแล้วเสร็จในเดือนต.ค.นี้  จากนั้นจะต้องเข้ากระบวนการจัดทำรายงานมาตรการผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ใหม่ คาดว่าต้องใช้เวลาประมูล 3-4 เดือน หรืออาจจะใช้เวลานานถึงปลายปี ถึงจะได้ตัวผู้รับเหมา คาดว่าการรถไฟฯต้องแบ่งย่อยสัญญาเพื่อให้สามารถดำเนินการก่อสร้างได้เร็วขึ้น

รายงานข่าวแจ้งต่ออีกว่าส่วนปัญหาการเข้าพื้นที่ ทางคู่ช่วงนครปฐม-หัวหิน  สัญญาที่ 2 ช่วงหนองปลาไหล-ปลาดุก เนื่องจากติดที่ดินพื้นที่บุกรุกทางรถไฟ ประมาณ 2,000ราย  ขณะนี้เข้าพื้นที่ได้หมดแล้ว  แต่ล่าสุดได้เกิดปัญหาขุดพบเจอระเบิดโบราณสมัยสงครามโลกครั้งที่2  จำนวนถึง 6 ลูก น้ำหนักลูกละประมาณ 1,000 ปอนด์ และหัวรถจักรไอน้ำ ในพื้นที่ จ.ราชบุรี ซึ่งอยู่ในพื้นที่การก่อสร้างทางคู่ช่วงดังกล่าวทำให้ต้องชะลอการก่อสร้างออกไปและ ซึ่งการรถไฟได้จัดทีมประชุมกับทางจ.ราชบุรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยจะประชุมหารือวันที่10 ก.ย. นี้เพื่อเร่งการเก็บกู้ต่อไปเพื่อไม่ให้กระทบการก่อสร้าง และในอนาคต บริเวณสะพานจุฬาลงกรณ์ซึ่งเป็นสะพานที่โดนถล่มไปในสมัยสงครามโลกและปัจจุบันได้สร้างเป็นสะพานข้ามทางรถไฟนั้น เมื่อมีการก่อสร้างทางคู่จำการรถไฟจะสร้างสะพานอีกฝั่งขนาบข้างกลายเป็นสะพานแฝด และบริเวณดังกล่าวการรถไฟจะผลักดันให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและบอกเล่าเรื่องราวประวัติความเป็นมา เช่นเดียวกับสะพานข้ามแม่น้ำแควที่จ.กาญจนบุรี.

[Wisarut]

เตรียมดำน้ำกู้‘ระเบิดยักษ์’สมัยสงครามโลก จุดสร้างรถไฟทางคู่นครปฐม-หัวหิน

วันพฤหัสบดี ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2561, 19.07 น.


30 ส.ค.61 พล.ท.จักรชัย โมกขะสมิต เจ้ากรมการทหารช่าง กองทัพบก กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) สั่งการให้กรมการทหารช่าง จ.ราชบุรี ดำเนินการตรวจสอบระเบิดยักษ์สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่พบบริเวณการก่อสร้างรถไฟทางคู่เส้นนครปฐม-หัวหิน จ.ราชบุรี ว่า วันนี้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี พร้อมทั้งการรถไฟแห่งประเทศไทย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ประชุมหารือกันในเรื่องดังกล่าวเบื้องต้น โดยมีทหารจากกรมการทหารช่าง มณฑลทหารบกที่ 16(มทบ.16 ) กรมสรรพาวุธทหารบก กรมสรรพาวุธทหารเรือ และกรมสรรพาวุธทหารอากาศ ช่วยให้คำแนะนำ เนื่องจากระเบิดที่พบนั้นอยู่ใต้แม่น้ำ

ทั้งนี้ จะมีการหารือรายละเอียดร่วมกันอีกครั้งในวันที่ 10 ก.ย.61 เพื่อกำหนดแนวทางดำเนินการตามขั้นตอนและแผนงานว่าหน่วยไหนจะทำอะไร และอย่างไรบ้าง ซึ่งคาดว่าจะให้กรมสรรพาวุธทหารเรือเป็นผู้ปฏิบัติทำการเก็บกู้ เพราะทหารเรือจะมีความชำนาญใต้น้ำมากที่สุด

“ระเบิดทั้ง 4 ลูกที่พบ ทางเจ้าหน้าที่ทราบมานานแล้วว่าจุดไหนมีระเบิดบ้าง โดยเป็นระเบิดสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ยังไม่ได้ดำเนินการเก็บกู้ อีกทั้งปัจจุบันน้ำในแม่น้ำมีจำนวนมากขึ้น เราต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ จึงต้องตั้งคณะทำงานขึ้นมาดำเนินการในเรื่องนี้โดยเฉพาะ เพื่อให้ถูกต้องและเป็นไปตามแผนงาน คาดว่าในวันที่ 10 ก.ย.61 จะมีความชัดเจนมากขึ้นว่าใครจะรับผิดชอบเรื่องไหนและอย่างไรบ้าง โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรีเป็นประธานการประชุม ร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทยที่เป็นเจ้าของเรื่อง” พล.ท.จักรชัย กล่าว

[Mongwin]

รถไฟไทย มาดูความคืบหน้าการก่อสร้างทางรถไฟรางคู่ ช่วงชุมทางบัวใหญ่-เมืองพล กันครับ(GEK. 4016)
หนุ่ย พุทธคุณ Published on Aug 29, 2018


https://www.youtube.com/watch?v=AvQo1p3WeWg

[Mongwin]

ปลัดใหม่คมนาคมลุย 2 ล้านล. โหมลดต้นทุนเร่งระบบราง-ท่าเรือ
ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 30 August 2018 - 13:56 น.
https://www.prachachat.net/property/news-211952