View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42744
Location: NECTEC
|
Posted: 10/09/2018 10:13 am Post subject: |
|
|
ขบวนที่ 2 "บีทีเอส" ถึงไทยต.ค.นี้
พุธที่ 12 กันยายน 2561 เวลา 07.10 น.
ขบวนที่ 2 บีทีเอส มาต.ค.นี้ ขบวนแรกอยู่ระหว่างทดสอบ ธ.ค.นี้พร้อมเปิดให้บริการจริง
นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด ( มหาชน )หรือบีทีเอส เปิดเผยว่าหลังจากที่บีทีเอสได้ทำการรับรถไฟฟ้าบีทีเอสขบวนใหม่จากล๊อตที่ 1 ซึ่งมีทั้งหมด 22 ขบวนล่าสดุได้เดินทางมาถึงประเทศไทยแล้ว 1 ขบวน เมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ขณะนี้กระบวนการประกอบชิ้นส่วนรถเสร็จเรียบร้อยแล้วและเริ่มทดสอบระบบไฟฟ้าภายในโรงซ่อม คาดว่าภายในเดือนก.ย. จะสามารถเริ่มทดสอบเดินรถขบวนใหม่ในช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการได้ใน เดือนพ.ย.ก่อน จากเดิมจะสิ่งทดสอบในเดือนต.ค. ส่วนการเปิดให้บริการจริงนั้นยังเดือนธ.ค.เช่นเดิม
นายสุรพงษ์กล่าวต่อว่า ขณะนี้ทางบีทีเอาได้นำรถเก่าวิ่งทดสอบ ระบบรางของสายสีเขียวใต้ มาได้ ประมาณ2เดือนแล้ว อย่างต่อเนื่องเพื่อดูระบบอาณัติสัญญาณของการเดินรถ ส่วนขบวนรถอีก21 ขบวนที่เหลือนั้น ในเดือนต.ค. บีทีเอสเตรียมรับรถขบวนที่ 2 ที่จะเดินทางมาถึง หลังจากนั้นจะทยอยส่งมาเรื่อยๆจนครบ
ทั้งนี้บีทีเอสมีขบวนรถให้บริการจำนวนอยู่ขณะนี้ 52 ขบวน ส่วน 46 ขบวนที่สั่งซื้อเพิ่มนั้น นั้น จะนำมาวิ่งในสายสีเขียวใต้ช่วง แบริ่ง-สมุทรปราการ จำนวน 7 ขบวน และนำไปวิ่งในเส้นทางหลัก 15 ขบวน ส่วน 24 ขบวน ที่สั่งซื้อขบวนรถจากบริษัท ซีอาร์อาร์ซี ฉางชุน เรลเวย์เวฮิเคิล จำกัด จะนำมาวิ่งในรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ซึ่งจะเริ่มส่งมอบในเดือนม.ค.62 นี้ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42744
Location: NECTEC
|
Posted: 12/09/2018 1:10 pm Post subject: |
|
|
อัศวิน ลงพื้นที่ แก้ทางเท้ารัชโยธิน ขีดเส้น 25 ก.ย.นี้ ไม่จบ ลงดาบสั่งหยุดก่อสร้าง
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 11 กันยายน 2561 เวลา 16:35
สายสีเขียวฮุบทางเท้าริมรัชโยธิน "อัศวิน" สั่งอิตาเลียนไทยฯ ขยายคืน
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์
12 กันยายน 2561 เวลา 05:05
กทม. ลงพื้นที่ตรวจทางเท้าแยกรัชโยธิน หลังโซเชียลเผยแพร่ฟุตปาธที่มีทางเดินคับแคบ โดยให้เวลาถึง 25 ก.ย. นี้ ไม่เช่านั้น สั่งหยุดก่อสร้างทันที พบทางเท้าบางจุดเหลือแค่ไม่เกิน 1 เมตร
วันนี้ (11 ก.ย.) เวลา 14.00 น. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตรวจติดตามปัญหาทางเท้าแคบบริเวณแยกรัชโยธิน ถนนพหลโยธิน อันเป็นผลมาจากโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนในการเดินเท้าและอาจเกิดความไม่ปลอดภัยจากอุบัติเหตุทางถนน
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า จากที่มีการแชร์ภาพทางสื่อโซเชียลถึงปัญหาทางเท้าแคบบริเวณแยกรัชโยธิน ซึ่งเป็นผลจากโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้านั้น ตนได้มาตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น พบว่า พื้นที่ที่ได้รับการร้องเรียน เป็นทางเดินเท้าชั่วคราว ซึ่งอยู่ในพื้นที่โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) รวมถึงโครงการขยายผิวจราจรถนนพหลโยธินและถนนรัชดาภิเษก เพื่อรองรับการก่อสร้างสะพานข้ามทางแยกรัชโยธิน ในแนวถนนพหลโยธิน และทางลอดรัชโยธินในแนวถนนรัชดาภิเษกของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ซึ่ง กทม.ได้ส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างทั้งหมดให้กับ รฟม.รับผิดชอบดำเนินการไปในคราวเดียวกัน โดย บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง พร้อมทั้งขอให้ รฟม.ในฐานะเจ้าของโครงการกำชับให้ผู้รับจ้างปฏิบัติตามเงื่อนไขการอนุญาตก่อสร้างอย่างเคร่งครัด
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง กล่าวเพิ่มว่า จากปัญหาที่เกิดขึ้น กทม.ได้แจ้งให้ รฟม.และผู้รับจ้างเร่งแก้ไขปัญหาทางเท้าแคบบริเวณดังกล่าวเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน โดยให้เพิ่มทางเดินเท้าให้มีความกว้างเพียงพอและสะดวกยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ในเงื่อนไขของการอนุญาตก่อสร้างและการส่งคืนพื้นที่นั้น กำหนดไว้ รฟม.ว่า จะต้องคืนทางเท้าภายหลังก่อสร้างแล้วเสร็จให้มีความกว้างไม่น้อยกว่า 1.50 เมตร ในทุกกรณี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.อัศวิน ได้ตรวจสอบทางเดินเท้าฝั่งตรงข้ามโรงภาพยนตร์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธินด้วยตัวเอง พบว่าผู้รับเหมาได้มีการปิดช่องการจราจรด้านซ้ายสุด กินพื้นที่ทางเท้าไปด้วย โดยพบว่าความกว้างของทางเดินเท้าไม่ถึง 1 เมตร บางช่วงเหลือแค่ 60 เซนติเมตร คนเดินเท้าได้เพียงคนเดียว และยังพบว่ามีร้านค้าบางแห่งได้เทพื้นสูงกว่าทางเท้า ทำให้ทางเดินเท้าแคบลงไปอีก จึงได้สั่งให้ดำเนินการแก้ไขโดยให้เจ้าของตึกทุบหน้าร้านต่างระดับเพื่อเพิ่มพื้นที่ทางเท้าให้สัญจรไปมาได้
พล.ต.อ.อัศวิน ให้สัมภาษณ์ว่า ได้สั่งการให้ประสานไปยังผู้รับเหมาหาทางแก้ไขปัญหาโดยการขยายทางเท้า เพราะบางจุดเดินเข้ามาไม่ได้ เมื่อสักครู่ได้คุยกับทางบริษัท อิตาเลียนไทยฯ ซึ่งเป็นผู้รับเหมา ก็ยินดีที่จะแก้ไขให้ โดยตนให้เวลา 15 วัน ภายในวันที่ 25 ก.ย. นี้ ตนกลับมาดูทางเท้าต้องมีไม่น้อยกว่า 1.5 เมตร ทั้งหมดทั้งเส้น ก็จะสั่งหยุดการก่อสร้างต่อไป
ดูภาพวิดีโอที่นี่
https://www.facebook.com/aswinkwanmuang/videos/309361259613889/
เฉียบ! ผู้ว่าฯ อัศวิน ไปดูทางเท้าแคบที่รัชโยธิน ลั่น ประชาชนเดินไม่ได้ ผมไม่ยอม (ชมคลิป)
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 11 กันยายน 2561 เวลา 22:20
ปรับปรุง: 12 กันยายน 2561 เวลา 09:50
ผู้ว่าฯ กทม. ลงพื้นที่คุมการแก้ปัญหาทางเท้าแยกรัชโยธินด้วยตัวเอง หลังโลกโซเชียลแชร์ทางเท้าถูกเบียดเดินแทบสวนกันไม่ได้ ย้ำ ประชาชนต้องเดินได้ ขีดเส้น 25 ก.ย. ถ้าไม่ได้จะให้หยุดการก่อสร้าง
วันนี้ (11 ก.ย.) เฟซบุ๊ก ผู้ว่าฯ อัศวิน ของ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โพสต์วิดีโอคลิปการตรวจติดตามปัญหาทางเท้าแคบบริเวณแยกรัชโยธิน ถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร กรุงเทพฯ เนื่องจากโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) หลังเฟซบุ๊ก เฮ้ย นี่มันฟุตบาทไทยแลนด์ โพสต์ภาพพร้อมข้อความตำหนิการก่อสร้างที่พบว่าเบียดเบียดฟุตปาธ จนเหลือที่เดินสวนกันยังลำบาก
โดย พล.ต.อ.อัศวิน ลงพื้นที่คุมการแก้ปัญหาทางเท้าแยกรัชโยธินด้วยตัวเอง โดยได้กล่าวกับทางฝ่ายผู้รับเหมา ว่า สภาพเช่นนี้เดินไม่ได้ ไปก็ติดต้นไม้ และว่า ตอนนี้ผมถามว่าประชาชนจะไปเดินตรงไหน คุณต้องแก้ปัญหาตรงนี้ให้ผมก่อน และเมื่อฝ่ายผู้รับเหมากล่าวว่า บางจุดจะเป็นคอขวด 60 เซนติเมตร ก็กล่าวว่า กี่เซนติเมตร หรือจะเป็นคอขวด ประชาชนต้องเดินได้
ประชาชนเดินไม่ได้ ผมไม่ยอม ผมจะให้หยุดการก่อสร้างเลยนะ ผมบอกก่อน วันนี้ต้องแก้ให้ผม พล.ต.อ.อัศวิน กล่าว
ทั้งนี้ พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวเพิ่มเติมว่า จากที่มีการแชร์ภาพทางสื่อโซเชียลถึงปัญหาทางเท้าแคบบริเวณแยกรัชโยธินนั้น ผมตรวจสอบแล้วก็พบว่าพื้นที่ที่ได้รับการร้องเรียน เป็นทางเดินเท้าชั่วคราวในระหว่างที่มีการขยายผิวจราจรบริเวณถนนพหลโยธินและถนนรัชดาภิเษก เพื่อรองรับการก่อสร้างสะพานข้ามทางแยกรัชโยธิน ในแนวถนนพหลโยธิน และทางลอดรัชโยธิน ในแนวถนนรัชดาภิเษก ซึ่ง กทม. ได้ส่งมอบพื้นที่ให้กับ รฟม. ดำเนินการก่อสร้างร่วมไปกับโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วง หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ในคราวเดียวกัน โดยมี บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง
จากปัญหาที่เกิดขึ้น ผมได้หารือกับ รฟม. โดยให้ผู้รับจ้างเร่งแก้ปัญหาทางเท้าแคบบริเวณดังกล่าว ซึ่งผมกำหนดว่า 25 ก.ย. ต้องแก้ไขทางเท้ารัชโยธิน ไม่อย่างนั้นจะให้หยุดก่อสร้างทันที เพราะพี่น้องประชาชนเดือดร้อน และขอให้ รฟม. ในฐานะเจ้าของโครงการกำชับให้ผู้รับจ้างปฏิบัติตามเงื่อนไขการอนุญาตก่อสร้างอย่างเคร่งครัดในทุกจุด และเมื่อการก่อสร้างเสร็จแล้วต้องคืนทางเท้าให้กับ กทม. ความกว้างไม่น้อยกว่า 1.50 เมตร เพื่อให้ประชาชนสัญจรได้อย่างสะดวกและปลอดภัย
Last edited by Wisarut on 12/09/2018 6:48 pm; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42744
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42744
Location: NECTEC
|
Posted: 13/09/2018 12:20 pm Post subject: |
|
|
สั่ง"หุบ"พื้นทีก่อสร้างต้องเหลือให้คนเดินได้1.5ม.
อังคารที่ 11 กันยายน 2561 เวลา 19.11 น.
ผู้ว่าฯสั่งกระชับพื้นที่ก่อสร้าง ต้องเหลือทางเท้าให้คนเดินไม่ต่ำกว่า1.5ม. ทุกจุด กำหนดเวลาให้ผู้รับเหมาแก้ไขภายใน 25 ก.ย.นี้
เมื่อวันที่ 11ก.ย. ที่แยกรัชโยธิน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) ลงพื้นที่ตรวจปัญหาทางเท้าสาธารณะที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต โดยเปิดเผยว่า จากกรณีที่ประชาชนผู้ใช้ทางเท้าในการสัญจรบริเวณแยกรัชโยธิน ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งต้องมีการลดขนาดทางเท้า ปิดกันเป็นพื้นที่ก่อสร้างรถไฟฟ้า ทำให้ทางเท้าที่จากเดิมกว้างกว่า 3-4เมตร ลดขนาดเหลือเพียงช่องทางเดินเล็กๆ กว่าเพียงกว่า50-60เซนติเมตรเท่านั้น ส่งผลกระทบต่อประชาชน ดังนั้นตนจึงได้ตราวจสอบพื้นที่และร่วมหารือกับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และเอกชนผู้ก่อสร้างรถไฟฟ้า โดยขอให้จุดที่มีการลดขนาดทางเท้าทุกจุด จะต้องแก้ไขปรับปรุงให้มีทางเท้ากว้างไม่ต่ำกว่า 1.50เมตร โดยจะต้องแล้วเสร็จภายในวันที่ 25 ก.ย.นี้ หากไม่มีการปรับปรุงแก้ไข ภายในเวลาที่กำหนด จะต้องมัการสั่งระงับการก่อสร้างทันที
พล.ต.อ.อัศวินกล่าวต่อว่า อีกทั้งในขณะนี้ เป็นช่วงเวลาที่เกิดฝนตกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการก่อสร้างรถไฟฟ้า และสาธารณูปโภคอื่นๆ จากการตรวจสอบพบมีการนำวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้าง และการขุดเจาะที่กีดขวางเส้นทางระบายน้ำ กระทบต่อระบบท่อระบายน้ำของกทม. ซึ่งส่งผลให้จุดก่อสร้างนั้นๆเกิดปัญหาน้ำท่วมขัง น้ำไม่สามารถระบายได้ตามปกติ โดยตนได้สั่งการให้เอกชนผู้รับเหมาก่อสร้าง แก้ปัญหา วางระบบระบายน้ำให้มีสภาพเดิมหากต้องมีการขุดเจาะที่กระทบต่อเส้นทางระบายน้ำ จะต้องมีการจัดทำระบบระบายน้ำสำรอง โดยหากการก่อสร้างกีดขวางเส้นทางระบายน้ำขึ้นอีก และสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาบน จะถือเป็นการละเมิดข้อกำหนดในการใช้พื้นที่สาธารณะ กทม.ในฐานะเจ้าของพื้นที่ จะสั่งระงับการก่อสร้างในจุดนั้นๆโดยทันทีเช่นกัน. |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42744
Location: NECTEC
|
Posted: 17/09/2018 4:48 pm Post subject: |
|
|
สภากทม.รับหลักการโอนหนี้สีเขียว
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์
15 กันยายน 2561 05:30
สภา กทม. ไฟเขียวรับหลักการข้อบัญญัติกู้เงินรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย
เผยแพร่โดย : กฤษณะ กลุ่มกรุงธนเหนือ |
14 กันยายน 2561
[url]สภา กทม. ไฟเขียวรับหลักการข้อบัญญัติกู้เงินรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย[/url]
หน้าหลัก ข่าว กทม. ข่าวสภา กทม.
(14 ก.ย.61) เวลา 10.00 น. ร.ต.ต.เกรียงศักดิ์ โลหะชาละ ประธานสภากรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมวิสามัญ สมัยที่หนึ่ง (ครั้งที่ 1) ประจำปีพุทธศักราช 2561 โดยมี สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร
กรุงเทพมหานคร ได้เสนอร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง การกู้เงินเพื่อใช้ในการรับโอนทรัพย์สินและหนี้สินของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต สะพานใหม่ คูคต และช่วงแบริ่ง สมุทรปราการ พ.ศ. .... ต่อสภากรุงเทพมหานคร เพื่อพิจารณาเห็นชอบตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2528 มาตรา 97 และมาตรา 99 ซึ่งกรุงเทพมหานครได้แก้ไขร่างข้อบัญญัติดังกล่าวบางประเด็นเพื่อความชัดเจนและเพื่อประโยชน์ของทางราชการ โดยเงินกู้ในร่างข้อบัญญัติหมายถึงเงินกู้ที่กรุงเทพมหานครกู้ยืมเงินจากกระทรวงการคลัง เป็นค่างานก่อสร้างงานโยธาวงเงินรวม 44,429 ล้านบาท และการชดใช้ค่าจัดกรรมสิทธิ์ ดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียมเงินกู้ของค่างานโครงสร้างพื้นฐานที่สำนักงบประมาณได้จัดสรรงบประมาณเพื่อชำระไปแล้ว ในวงเงิน 7,356.37 ล้านบาท
นายธวัชชัย ฟักอังกูร สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ได้ร่วมอภิปรายในร่างข้อบัญญัติดังกล่าวว่า ที่ผ่านมาสมาชิกสภากรุงเทพมหานครได้พิจารณาร่างข้อบัญญัติฉบับนี้โดยคำนึงถึงความถูกต้องมาโดยตลอด เนื่องจากเป็นเรื่องของการกู้เงินที่เกี่ยวพันกับกฎหมายอื่นๆ หลายฉบับ ทั้งในประเด็นของการโอน การรับโอน และการกู้เงิน ซึ่งตามข้อตกลงกรุงเทพมหานครจะสามารถรับโอนได้ก็ต่อเมื่อกรุงเทพมหานครยินยอมชำระเงินค่าก่อสร้าง และอื่นๆ หากกรุงเทพมหานครไม่แสดงความพร้อมที่จะรับผิดชอบ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ก็จะไม่สามารถนำเรื่องเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อให้อนุมัติโอนได้ และหากไม่ออกข้อบัญญัติฉบับนี้กระทรวงการคลังจะไม่สามารถทำเรื่องขอกู้เงิน และเปลี่ยนลูกหนี้จาก รฟม. มาเป็นกรุงเทพมหานครได้ ซึ่งการออกข้อบัญญัติในครั้งนี้จะเป็นการแสดงให้เห็นว่ากรุงเทพมหานครมีความพร้อมที่จะชำระหนี้ รวมทั้งคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานครได้มีการแก้ไขร่างข้อบัญญัติฯตามข้อห่วงใยของสมาชิกสภากรุงเทพมหานครแล้ว โดยได้แก้ไขรายละเอียดตามข้อ 8 คือ ให้การกู้เงินในครั้งนี้ต้องดำเนินการภายใต้กฎหมายและมติของคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับการโอน การรับโอน ทรัพย์สินและหนี้สินของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว จึงเห็นว่าสามารถรับหลักการตามร่างข้อบัญญัตินี้ได้
นายอัครวัฒน์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ไม่ติดขัดในเรื่องของหลักการของข้อบัญญัติฉบับนี้ แต่เห็นว่ายังมีความคลุมเครือไม่ชัดเจนในส่วนของรายละเอียดที่ไม่ได้ระบุว่าจะกู้เงินจากกระทรวงการคลังรวมจำนวนทั้งสิ้นเท่าใด พร้อมจ่ายอัตราดอกเบี้ยอย่างไร รวมถึงไม่ได้กำหนดระยะเวลาในการชำระหนี้ที่ชัดเจน ซึ่งหากมีการกำหนดให้ชัดเจนจะทำให้เกิดความคล่องตัวในการทำงานของกรุงเทพมหานครต่อไปในอนาคต
ประธานสภากรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ข้อบัญญัติฉบับนี้ ถือเป็นเรื่องใหม่ของกรุงเทพมหานคร มีประเด็นเรื่องของงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน ซึ่งความคิดเห็นของคณะสมาชิกสภากรุงเทพมหานครจะเก็บรวบรวมไว้เนื่องจากจะมีเป็นประโยชน์ในการประกอบการพิจารณาต่อไป
ที่ประชุมสภากรุงเทพมหานครมีมติเห็นชอบในหลักการของร่างข้อบัญญัติฯ และกำหนดให้มีการตั้งคณะกรรมการวิสามัญเพื่อพิจารณาร่างข้อบัญญัติฯ แปรญัตติภายใน 3 วัน |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42744
Location: NECTEC
|
Posted: 26/09/2018 10:39 am Post subject: |
|
|
เร่งคืนทางเท้าแนวก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว
อังคารที่ 25 กันยายน 2561 เวลา 10.18 น.
รฟม.คืนทางเท้า-ถนนสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว ภายใน 5 เดือนแก้รถติด เปิดสะพานข้าม2แยกให้ใช้ สิ้นปี61 ส่วนอุโมงค์ทางลอดแยกรัชโยธินจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการในเดือนต.ค.นี้
เมื่อวันที่24ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่นายอัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.)ลงพื้นที่บริเวณสี่แยกรัชโยธินในวันที่ 11 ก.ย.เพื่อแก้ไขปัญหาทางเท้าบริเวณดังกล่าว หลังจากที่ประชาชนร้องเรียนว่าการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ส่งผลให้เสียพื้นที่ทางเท้าจำนวนมากจนเสี่ยงต่ออันตรายของประชาชนผู้สัญจรนั้น นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข รักษาการรองผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า ขณะนี้รฟม.ได้คืนผิวทางเท้าบริเวณจุดดังกล่าวแล้ว พร้อมกั้นแบริเออร์ป้องกันความปลอดภัยระยะ 15 ม.จากถนนและจุดก่อสร้างตามนโยบายของกทม.ซึ่งก่อนหน้านี้ทำการก่อสร้างสะพานข้ามแยกจึงมีการปิดพื้นที่ทางเท้าบางส่วน สำหรับจุดทางเท้าบริเวณหน้าสน.พหลโยธิน นั้นรฟม.ได้ก่อสร้างทางเท้าให้ใหม่แล้วสามารถใช้งานได้ตามปกติ
นายสุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า ภาพรวมงานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือนั้น ดำเนินการไปได้เยอะเกิน 70% แล้ว และผู้รับเหมาได้คืนพื้นผิวถนนไปแล้ว 60% คาดว่าจะสามารถคืนพื้นผิวถนนทั้ง 100% ได้ในเดือน ก.พ. 62 เพื่อแก้ปัญหาจราจร ส่วนด้านความคืบหน้าการก่อสร้างสะพานข้ามแยกรัชโยธินแยกเกษตรศาสตร์ นั้นจะเร่งงานให้เสร็จภายในเดือนธ.ค.นี้ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน ขณะที่งานก่อสร้างสะพานข้ามแยกเสนา เพื่อแก้ปัญหาจราจร วงเงิน150ล้านบาท อยู่ระหว่างก่อสร้างคาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดใช้เดือน ก.พ. 62
ด้านนายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) กล่าวว่า หลังได้รับการประสานงานจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) เรื่องแก้ไขรถติด รฟม.ได้เปิดทดลองเส้นทางลัดเลี่ยงรถติดในถนนพระราม9 ในชั่วโมงเร่งด่วนตั้งแต่16.00-19.00น. เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากการก่อสร้างรถไฟฟ้าสาสายสีส้มตะวันออกช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรีแล้ว โดยมีทางเข้าด้านประตู2 (ถนนพระราม9) ไปออกประตู5 ด้านถนนวัฒนธรรมเลียบรฟม. มุ่งหน้าไปทางประชาอุทิศ เหม่งจ๋าย ขณะเดียวกันด้านถนนประชาอุทิศก็จะสามารถลัดมาออกด้านประตู2 ได้เช่นกัน ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกในการขึ้นทางด่วนมุ่งหน้าไปทางวงแหวนรอบนอกรวมถึงไปเชื่อมรามอินทราอาจณรงค์ได้ หรือออกถนนรามคำแหง และกำหนดเปิดเส้นทางให้ประชาชนผ่านอย่างเป็นทางการเฉพาะรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.61 เป็นต้นไป ยกเว้นวันหยุดราชการ โดยไม่ต้องแลกบัตรแต่อย่างใด ทั้งนี้ บช.น.จะออกข้อบังคับเจ้าพนักงานจราจร เพื่อรองรับหากเกิดอุบัติเหตุหรือการจราจรติดขัดภายในพื้นที่ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน รวมทั้งสน.ห้วยขวาง ยังได้เพิ่มเส้นทางลัดซอยพระรามเก้า13 และซอยพระรามเก้า17 เพื่อใช้มุ่งหน้าออกถนนวัฒนธรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่26ก.ย. เวลา 09.00 11.00 น. นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคม จะลงพื้นที่บริเวณพื้นที่ก่อสร้างอุโมงค์ทางลอดแยกรัชโยธิน เพื่อเร่งรัดการดำเนินงานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต สะพานใหม่ คูคต ให้เป็นไปตามแผนเปิดบริการปี63 และติดตามการก่อสร้างอุโมงค์ทางลอดแยกรัชโยธิน ซึ่งจะแล้วเสร็จเปิดให้บริการในเดือนต.ค.นี้ ทั้งนี้เพื่ออำนวยความสะดวกการเดินทางและบรรเทาปัญหาสภาพการจราจรในเขตกรุงเทพมหานคร |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42744
Location: NECTEC
|
Posted: 26/09/2018 12:13 pm Post subject: |
|
|
รฟม. เตรียมพร้อมเปิดอุโมงค์ทางลอดแยกรัชโยธินตุลาคมนี้ เร็วกว่าแผน เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรตามนโยบายของรัฐบาล
วันนี้ (26 กันยายน 2561) นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและคณะ
ได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามความก้าวหน้าการก่อสร้างอุโมงค์ทางลอดแยกรัชโยธิน และการก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้า
กรมทหารราบที่ 11 โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต สะพานใหม่ คูคต โดยมี นายภคพงศ์
ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) คณะผู้บริหาร รฟม. พร้อมด้วย กลุ่มบริษัทที่ปรึกษาควบคุมโครงการ และผู้รับจ้างก่อสร้างงานโยธาทั้ง 4 สัญญา ร่วมให้การต้อนรับ ณ บริเวณพื้นที่ก่อสร้างอุโมงค์ทางลอดแยกรัชโยธิน ถนนรัชดาภิเษก เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร
นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ กล่าวว่า รฟม. ได้เร่งรัดการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต สะพานใหม่ คูคต และการก่อสร้างอุโมงค์ทางลอดแยกรัชโยธิน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการที่มีความสำคัญ โดยปัจจุบัน (ณ วันที่ 15 กันยายน 2561) การก่อสร้างอุโมงค์ทางลอดแยกรัชโยธินมีความก้าวหน้ารวมร้อยละ 83.33 ซึ่งผู้รับจ้างก่อสร้างงานโยธาสัญญาที่ 1 (บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเม็นต์) ได้ดำเนินการขุดดินภายในอุโมงค์ให้ทะลุถึงกันเรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งดำเนินการก่อสร้างพื้นถนน กำแพงป้องกัน รวมถึงเตรียมดำเนินการติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ระบบไฟส่องสว่าง ระบบระบายน้ำ ป้ายสัญญาณจราจร เป็นต้น ตลอดจนการตีเส้นจราจร เพื่อให้มีความพร้อมสำหรับเปิดให้ประชาชนได้ใช้บริการภายในเดือนตุลาคม 2561 รวมใช้ระยะเวลาก่อสร้างทั้งสิน 21 เดือน ซึ่งเร็วกว่าแผนงานที่วางไว้ 3 เดือน (แผนเร่งรัดงานก่อสร้างเดิมกำหนดแล้วเสร็จในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 รวมระยะเวลา 24 เดือน) ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคมในการเร่งรัดการดำเนินงานให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรที่คับคั่งในแนวถนนพหลโยธินและแนวถนนรัชดาภิเษกซึ่งเป็นถนนวงแหวนรอบใน อันจะช่วยเพิ่มความสะดวกในการเดินทางของประชาชน
สำหรับงานก่อสร้างอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ปัจจุบันมีความก้าวหน้า ดังนี้ งานก่อสร้างสะพานรถยนต์ข้ามแยกรัชโยธิน (ในแนวถนนพหลโยธิน) มีความก้าวหน้าร้อยละ 74.58 งานก่อสร้างสะพานรถยนต์ข้ามแยกเกษตรศาสตร์
มีความก้าวหน้าร้อยละ 79.79 โดย รฟม. จะเร่งรัดงานก่อสร้างทั้ง 2 สะพานให้แล้วเสร็จเพื่อสามารถเปิดใช้งานได้ประมาณเดือนธันวาคม 2561 งานก่อสร้างสะพานรถยนต์ข้ามแยกเสนานิคม มีความก้าวหน้าร้อยละ 56.79 โดยจะเร่งรัดงานก่อสร้างเพื่อเปิดใช้งานได้ประมาณเดือนเมษายน 2562 และงานก่อสร้างทางวิ่งรถไฟฟ้าข้ามทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ บริเวณห้าแยกลาดพร้าว มีความก้าวหน้าร้อยละ 89.18
สำหรับการก่อสร้างโครงการฯ ปัจจุบันมีความก้าวหน้ารวมร้อยละ 77.21 แบ่งเป็นความก้าวหน้าการก่อสร้างงานโยธา สัญญาที่ 1 ช่วงหมอชิต สะพานใหม่ ร้อยละ 71.50 สัญญาที่ 2 ช่วงสะพานใหม่ คูคต ร้อยละ 87.04 สัญญาที่ 3 ศูนย์ซ่อมบำรุงและอาคารจอดแล้วจร ร้อยละ 84.59 และ สัญญาที่ 4 งานระบบราง ร้อยละ 74.31 โดย รฟม. ได้ดำเนินการก่อสร้างโครงสร้างทางวิ่งและสถานีรถไฟฟ้าแล้วเสร็จทั้งหมด 16 สถานี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการทำงานสถาปัตยกรรมและงานระบบไฟฟ้าเครื่องกล โดยมีสถานีกรมทหารราบที่ 11 เป็นสถานีที่มีความคืบหน้ามากที่สุด โดยมีความก้าวหน้ามากกว่าร้อยละ 80 ซึ่ง รฟม. จะได้เร่งรัดให้ผู้รับจ้างฯ ดำเนินการติดตั้งวัสดุอุปกรณ์ตลอดจนสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น ลิฟต์ บันไดเลื่อน ห้องจำหน่ายบัตรโดยสาร ห้องน้ำสาธารณะสำหรับผู้โดยสารและประชาชนทั่วไป เป็นต้น ให้ครบถ้วนโดยเร็ว เพื่อให้เป็นสถานีต้นแบบสำหรับการก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าอื่นๆ ในโครงการฯ ต่อไป ทั้งนี้ โครงการฯ มีกำหนดก่อสร้างงานโยธาแล้วเสร็จภายในปี 2562 และ กรุงเทพมหานคร (กทม.) ดำเนินการติดตั้งงานระบบรถไฟฟ้า ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการได้ภายในปี พ.ศ.2563
ติดตามรายละเอียดและข้อมูลข่าวสาร รฟม. เพิ่มเติมได้ที่ www.mrta.co.th และ เฟซบุ๊กการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) หรือ โทร 0 2716 4044 รวมทั้งช่องทางการติดตามข่าวโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว (เหนือ) ช่วงหมอชิต สะพานใหม่ คูคต ที่ www.mrta-greenlinenorth.com และเฟซบุ๊กโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต สะพานใหม่ คูคต Call-Center 0 2115 6000
-------------------------------------------------
กองสื่อสารองค์กร สำนักผู้ว่าการ
โทร 0 2716 4000 ต่อ 1720
โทรสาร 0 2716 4019
Email: pr@mrta.co.th
https://www.facebook.com/ake.bluechifamily/posts/1959016690811933?__tn__=K-R |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42744
Location: NECTEC
|
Posted: 28/09/2018 10:12 am Post subject: |
|
|
สภากทม.รับหนี้รถไฟฟ้า
พฤหัสบดีที่ 27 กันยายน 2561 เวลา 19.12 น.
ที่ประชุมสภากทม.เห็นชอบกู้เงินเพื่อใช้ในการรับโอนทรัพย์สินและหนี้สินโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวเหนือช่วงหมอชิต สะพานใหม่ คูคตและสายสีเขียวใต้ช่วงแบริ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 27 ก.ย. ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร(กทม.) ร.ต.ต.เกรียงศักดิ์ โลหะชาละ ประธานสภากทม.เป็นประธานประชุมสภากทม.สมัยวิสามัญ สมัยที่ 1 ครั้งที่ 3 ประจำปี 61พิจารณาร่างข้อบัญญัติกทม.เรื่องการกู้เงินเพื่อใช้ในการรับโอนทรัพย์สินและหนี้สินโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวเหนือช่วงหมอชิต สะพานใหม่ คูคตและสายสีเขียวใต้ช่วงแบริ่ง สมุทรปราการ พ.ศ. ...ในวาระที่ 2- 3 ที่กทม.กู้ยืมเงินกระทรวงการคลัง รวม 51,785ล้านบาท แยกเป็นค่างานก่อสร้างงานโยธาวงเงินรวม 44,429 ล้านบาทและการชดใช้ค่าจัดกรรมสิทธิ์ ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมเงินกู้ของค่างานโครงสร้างพื้นฐานที่สำนักงบประมาณได้จัดสรรงบประมาณเพื่อชำระไปแล้วในวงเงิน 7,356 ล้านบาท ให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.)
โดยสมาชิกสภากทม.(ส.ก.)เห็นชอบด้วยมติ 18 ราย ไม่เห็นด้วย 4ราย จะเสนอผู้ว่าฯกทม.ลงนาม ภายใน 7 วันเพื่อประกาศใช้ข้อบัญญัติต่อไป |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42744
Location: NECTEC
|
Posted: 03/10/2018 1:52 pm Post subject: |
|
|
ชาวปากน้ำเฮ! 5 ธ.ค.นี้ กทม.เปิดใช้บีทีเอส แบริ่ง-สมุทรปราการ นั่งฟรีถึงต้นปีหน้า
วันที่ 2 ตุลาคม 2561 - 16:11 น.
ชาวปากน้ำเฮ! 5 ธ.ค.นี้ กทม.เปิดใช้บีทีเอส แบริ่ง-สมุทรปราการ นั่งฟรีถึงต้นปีหน้า-รฟม.ตรึงราคารถไฟฟ้าใต้ดินไม่มีกำหนด
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผย ประชาชาติธุรกิจว่า วันที่ 5 ธ.ค.2561 กทม.จะเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ระยะทาง 13 กม. จำนวน 9 สถานี ได้แก่ สถานีสำโรง สถานีปู่เจ้า สถานีช้างเอราวัณ สถานีโรงเรียนนายเรือ สถานีปากน้ำ สถานีศรีนครินทร์ สถานีแพรกษา สถานีสายลวด และสถานีเคหะฯ
เพื่อเป็นการดูแลค่าครองชีพของประชาชน กทม.จะเปิดให้ประชาชนใช้บริการฟรีไปถึงต้นปี 2562 กำลังหารือร่วมกับ บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพหรือบีทีเอสซีที่จะดำเนินการให้ก่อนจะสามารถเปิดใช้ฟรีกี่เดือน ก่อนที่จะมีการเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอสทั้งระบบตามระยะทางเสียค่าแรกเข้าครั้งเดียว เริ่มต้น 15 บาท สูงสุดไม่เกิน 65 บาทตลอดสาย จากเดิม 136 บาท เนื่องจากต้องจ่ายหลายต่อ เพราะมีทั้งส่วนที่เป็นสัมปทานเดิมของบีทีเอสส่วนต่อขยายที่ กทม.ดำเนินการเอง และส่วนต่อขยายใหม่ที่รับโอนมาจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)
สำหรับความคืบหน้าการรับโอนโครงการและหนี้ค่าก่อสร้างของสายสีเขียวทั้งช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ล่าสุด กทม.จะเปิดประมูล PPP เพื่อให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนโครงการ โดยเอกชนจะต้องรับภาระค่าก่อสร้างทั้งงานโยธาและงานระบบ วงเงินรวมกว่า 76,000 ล้านบาท ให้ รฟม.แทนกทม.
บีทีเอสก็สนใจเข้าร่วมประมูล เพราะเป็นผู้รับจ้างติดตั้งงานระบบและเดินรถไฟฟ้าบีทีเอสสายปัจจุบันให้อยู่แล้ว แต่เนื่องจากโครงการใช้เงินลงทุนสูงและกทม.ไม่มีงบประมาณเพียงพอจะไปจ่ายหนี้คืน รฟม.ได้จึงต้องเปิดประมูล PPP ให้เอกชนหาเงินมาชำระหนี้แทน
พล.ต.อ.อัศวินกล่าวอีกว่า ปัจจุบันสภากทม.อนุมัติหลักการให้กทม.กู้กับกระทรวงการคลังแล้วและได้ทำหนังสือถึงพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยพิจารณาเพื่อทำหนังสือไปถึงกระทรวงการคลังเรื่องการขอกู้เงินค่างานระบบกว่า 20,000 ล้านบาท และขอปลอดหนี้ 10 ปี จากนั้นจะเสนอให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติทั้งการรับโอนหนี้อนุมัติก่อนเปิดบริการวันที่ 5 ธ.ค.นี้
นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการ รฟม. กล่าวว่าเพื่อเป็นการสนับสนุนภาครัฐลดภาระประชาชน วันที่ 3 ต.ค.นี้จะยังไม่มีการปรับอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าใต้ดิน ยังคงเก็บอัตราเดิม 16-42 บาทไปถึงวันที่ 15 พ.ย.นี้ หรือจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง
เนื่องจากต้องรอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นชอบราคาใหม่ที่จะมีปรับเพิ่ม 1 บาท ใน 3 สถานี ได้แก่ สถานีที 5, 8 และ 11 ตามที่ บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพหรือบีอีเอ็ม ผู้รับสัมปทานเดินรถเสนอมา ซึ่งตามสัญญาปรับทุก 2 ปีตามดัชนีปู้บริโภค (CPI)
ส่วนสายสีม่วง (เตาปูน-คลองบางไผ่) ยังคงราคาเดิม 14-42 บาท หากใช้บริการทั้งรถไฟฟ้าใต้ดินและสายสีม่วง จะเก็บค่าแรกเข้าครั้งเดียวสูงสุดไม่เกิน 70 บาท |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42744
Location: NECTEC
|
Posted: 08/10/2018 10:47 am Post subject: |
|
|
กทม.แย้มเปิดเดินรถสายสีเขียวใต้ส่วนต่อขยายช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ 5 ธ.ค.
06 ตุลาคม พ.ศ. 2561 เวลา 10:33 น.
กทม. เร่งเคลียร์หนี้สายสีเขียวพร้อมชงครม.เปิดประมูลสายสีเขียวเหนือภายใน 2 เดือน ด้านอัศวิน ลั่น ค่าโดยสารตลอดสายคูคต-สมุทรปราการ ต้องไม่เกิน 65 บาท ขู่หากบีทีเอสไม่เอาด้วยต้องหาเจ้าอื่นมาแทน แย้มเปิดเดินรถเขียวใต้ฟรีถึงปีใหม่ ด้าน รมช.คมนาคมแจงแผนลดค่าแรกเข้ารถไฟฟ้าจูงใจผู้ใช้
พลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่าความคืบหน้าแผนบริหารจัดการรถไฟฟ้าสายสีเขียวของกทม.นั้นขณะนี้เริ่มมีความชัดเจนในหลายด้าน เริ่มจากปัญหาการโอนหนี้สินและทรัพย์สินโครงการวงเงินราว 6 หมื่นล้านบาทนั้นขณะนี้ใกล้ได้ข้อสรุปเรื่องแนวทางการทยอยชำระหนี้ก่อนดังกล่าวให้กับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) คาดว่าจะจบปัญหาดังกล่าวพร้อมเสนอแนวทางให้กับที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ภายในเดือนพ.ย.นี้ก่อนเปิดเดินรถสายสีเขียวใต้ส่วนต่อขยายช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ในช่วงต้นเดือนธ.ค.นี้ หรืออาจจะเป็นวันที่ 5 ธ.ค.ซึ่งนับว่าเป็นวันสำคัญของประเทศไทยเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน โดยจะเปิดให้ประชาชนใช้บริการส่วนต่อขยายดังกล่าวฟรีไปจนถึงช่วงปีใหม่
พลตำรวจเอกอัศวินกล่าวต่อว่าส่วนด้านโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายช่วงคูคต-ลำลูกกา วงเงิน 1.19 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะเสนอร่างเอกสารประกวดราคา(ทีโออาร์)เข้าสู่ครม.ในเดือนธ.ค.นี้เพื่อเดินหน้าเปิดประมูลโครงการต่อไปในช่วงต้นปี 2562 อย่างไรก็ตามขณะนี้การศึกษาโครงสร้างราคาค่าโดยสารใหม่ของรถไฟฟ้าสายสีเขียวนั้นได้ข้อสรุปว่าจะกำหนดราคาค่าโดยสารตลอดสายช่วงลำลูกกา-สมุทรปราการที่ 65 บาทตลอดสาย จากเดิมราคาตลอดสายอยู่ที่ 145 บาทเพื่อลดภาระให้กับประชาชนและส่งเสริมให้คนหันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะมากขึ้นตามนโยบายรัฐบาล อย่างไรก็ตามจะมีการหารือกับผู้ประกอบการเดินรถอย่างบีทีเอสเพื่อหาข้อสรุปต่อไป
จะเสนอเข้าครม.เพื่อกำหนดราคาไม่ให้แพง ค่าโดยสารของรถไฟฟ้าสายสีเขียวตลอดสายต้องไม่เกิน 65 บาท ต้องคุยกับผู้เดินรถเดิม หากทำไม่ได้คงต้องหารายอื่นมาเดินรถแทนพลตำรวจเอกอัศวินกล่าว
ด้านนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคม กล่าวว่าโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายช่วงหัวลำโพง-บางแคนั้นเปิดเดินรถเร็วกว่ากำหนด 1 เดือน จากเดิมกำหนดไว้ในเดือน ก.ย. 2562 โดยจะมีการทดสอบเดินรถในเดือน เม.ย.ก่อนเปิดเดินรถจริงในเดือน ส.ค. เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมาใช้บริการระบบขนส่งมวลชน ส่วนเรื่องค่าโดยสารรถไฟฟ้าในอนาคตซึ่งประชาชนเป็นกังวลว่าจะมีราคาสูงนั้นในทีโออาร์ของรถไฟฟ้าสายใหม่ได้กำหนดว่าจะต้องเสียค่าแรกเข้าครั้งเดียวเพื่อลดอัตราค่าโดยสรในกรณีที่ใช้รถไฟฟ้าหลายสาย ควบคู่ไปกับการเจรจากับผู้ประกอบการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวอย่างบีทีเอสเพื่อขอให้ใช้แนวทางยกเว้นค่าแรกเข้าด้วยเช่นกันเนื่องจากเป็นเส้นทางที่ยาวสุดและปัจจุบันมีค่าโดยสารเฉลี่ยอยู่ที่ 70 บาทต่อคน |
|
Back to top |
|
|
|