RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311216
ทั่วไป:13151581
ทั้งหมด:13462797
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 321, 322, 323 ... 470, 471, 472  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44252
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 25/10/2018 10:18 am    Post subject: Reply with quote

ชื่นชม! พนง.รถไฟซื่อสัตย์ส่งคืน “แหวนทองฝังเพชร” เม็ดเป้ง
ฺBrightTV วันพุธ 24 ตุลาคม 2561 / 17:49 น.

Click on the image for full size

หล่อและดีมีคุณธรรมแบบนี้ไบรท์ทีวีขอยกย่องเลยกับภาพพนักงานรถไฟที่เจอ “แหวนทองฝังเพชร” เม็ดใหญ่ยักษ์ก่อนดำเนินการส่งคืนถึงมือเจ้าของได้เรียบร้อยแล้ว

ข้อมูลจากเฟซบุ๊กแฟนเพจ ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย เผยภาพพนักงานหนุ่มที่มีคุณธรรมความซื่อสัตย์แถมยังหน้าตาหล่อเหลาระบุว่า “การรถไฟแห่งประเทศไทย ขอชื่นชมนายขจรศักดิ์ โพธิ์เปี่ยม พนักงานรถนอน ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 14 เชียงใหม่ – กรุงเทพ โดยเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2561 ได้เก็บแหวนทองที่ผู้โดยสารทำตกไว้ส่งคืนให้แก่เจ้าของ ขอชื่นชมที่ทำงานด้วยความซื่อสัตย์ต่อลูกค้าอย่างดีเยี่ยม ซึ่งจะเป็นตัวอย่างที่ดีในด้านการบริการให้แก่พนักงาน และคนในสังคมต่อไป”

Click on the image for full size

Click on the image for full size

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42556
Location: NECTEC

PostPosted: 25/10/2018 3:17 pm    Post subject: Reply with quote

ทาสีใหม่…หัวรถจักรไอน้ำอายุ 99 ปี สถานีรถไฟพิษณุโลก
13 กรกฎาคม 2561

พิษณุโลกฮอตนิวส์ 13 กรกฏาคม 2561 ยืนตระหง่านเคียงคู่สถานีรถไฟพิษณุโลกมาอย่างยาวนาน หัวรถจักรไอน้ำโบราณ ยุคแรกเริ่มเดินรถไฟจากกรุงเทพฯ-พิษณุโลกเมื่อ 100 กว่าปีก่อน พิษณุโลกเป็นหนึ่งในหลาย ๆ จังหวัดที่นำหัวรถจักรไอน้ำมาตั้งแสดงให้ระลึกยุคเริ่มต้นของการพัฒนาเส้นทางรถไฟในอดีต ระยะนี้ผ่านไปมา จะเห็นว่าหัวรถจักรไอน้ำ เริ่มมีสีสันสดใหม่ขึ้น สถานีรถไฟพิษณุโลกได้ให้ช่างมาทาสีใหม่ ในพื้นสีดั้งเดิม ดำ เขียว ขาว แดง เหลือง เพิ่มเติมคือสีทองเข้าไปในโลโก้ยี่ห้อหัวรถจักรจากเดิมเคยเป็นสีขาว หัวรถจักรไอน้ำ หน้าสถานีรถไฟพิษณุโลก เป็นสัญลักษณ์ เป็นแลนด์มาร์คที่อยู่เคียงคู่เมืองพิษณุโลกมายาวนาน ปีการก่อสร้าง ค.ศ.1919 หรือ ปัจจุบัน มีอายุถึง 99 ปีแล้ว มีประวัติศาสตร์เคียงคู่กับรถไฟสายเหนือและสถานีพิษณุโลก ไร่เรียงโดยสังเขปได้ดังนี้ 26 มีนาคม พ.ศ.2439 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 5 ทรงเสร็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดการใช้รถไฟช่วงแรกระหว่างสถานีรถไฟกรุงเทพฯถึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา 24 มกราคม 2450 ได้เปิดการเดินรถไฟที่สถานีพิษณุโลก ด้วยรถจักรไอน้ำ ระหว่างกรุงเทพฯถึงพิษณุโลก พ.ศ.2460 มีการสร้างรถไฟสายเหนือผ่านพิษณุโลกไปยังเมืองพิชัย ถึงจังหวัดลำปาง พ.ศ.2462 สมัยรัชกาลที่ 5 ได้นำหัวรถจักรไอน้ำรุ่น E Class หมายเลข 181 มาใช้งาน ปัจจุบัน หัวรถจักรไอน้ำ ตั้งแสดงอยู่หน้าสถานีรถไฟพิษณุโลก จัดสร้างโดยบริษัท North British Locomotive Company ประเทศอังกฤษ เป็นหัวรถจักรประเภทTender Engine ซึ่งสร้างขึ้นตามแบบจำลองที่ได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระราชินีวิกตอเรีย แห่งสหราชอาณาจักร พ.ศ.2464 ได้เปิดเดินรถไฟด้วยรถจักรไอน้ำกรุงเทพฯ-พิษณุโลก และพิษณุโลกถึงเชียงใหม่ สถานีรถไฟพิษณุโลกหลังแรก ตั้งอยู่บริเวณถังดำ ( ถังประปาเติมน้ำรถจักรไอน้ำ ) พ.ศ.2488 จึงสร้างอาคารสถานีรถไฟพิษณุโลกหลังใหม่ พ.ศ.2498 ได้เริ่มนำรถจักรดีเซลมาใช้แทน พ.ศ.2500 คาดว่าน่าจะปลดประจำการรถจักรไอน้ำ
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42556
Location: NECTEC

PostPosted: 25/10/2018 7:47 pm    Post subject: Reply with quote

เปิดแล้วศูนย์การขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟ ทลฉ. ลดการขนส่งทางบก
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 25 ตุลาคม 2561 17:00
ปรับปรุง: 25 ตุลาคม 2561 18:45



ศูนย์ข่าวศรีราชา - รมช.คมนาคม เปิดโครงการศูนย์การขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟ ท่าเรือแหลมฉบัง เดินหน้าพัฒนาระบบลอจิสติกส์และการขนส่งทางรางเต็มรูปแบบ โดยมีเป้าหมายลดจำนวนการขนส่งทางบก เพื่อประหยัดพลังงาน แก้ปัญหาจราจร

วันนี้ (25 ต.ค.) นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานเปิดการดำเนินโครงการศูนย์การขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟ ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี โดยมี ร.ต.ต. งมนตรี ฤกษ์จำเนียร ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง รักษาการแทนผู้อำนวยการท่าเรือแห่งประเทศไทย เรือโทยุทธนา โมกขาว รองผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง นำคณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ท่าเรือแหลมฉบัง ร่วมในพิธี

เรือโทยุทธนา กล่าวว่า โครงการศูนย์การขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟ เป็นโครงการที่คณะรัฐมนตรี ได้ลงมติอนุมัติเมื่อวันที่ 22 ก.ย.2558 โดยมอบหมายให้การท่าเรือแห่งประเทศไทย ดำเนินโครงการ ณ ท่าเรือแหลมฉบัง ในพื้นที่ 600 ไร่ ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างท่าเทียบเรือชุด B และชุด C โดยมีพื้นที่กองเก็บตู้สินค้าได้มากถึง 28,000 ทีอียู โดยมีลักษณะเป็น Rail Yard ที่มีการติดตั้งรางรถไฟที่มีลักษณะเป็นพวงราง จำนวน 6 ราง เพื่อให้สามารถจอดขบวนรถไฟและรางละ 4 ขบวน รวม 8 ขบวน และยังมีการติดตั้งเครื่องมือยกขนตู้สินค้าชนิดเดินบนราง ที่ทำงานคร่อมรางรถไฟได้ทั้ง 6 รางในเวลาเดียวกันอีกด้วย

สำหรับโครงการดังกล่าวมีการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานหลักพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็น รวมทั้งติดตั้งเครื่องมือยกขนตู้สินค้าขึ้นลงรถไฟที่ท่าเรือแหลมฉบัง รองรับและเชื่อมต่อกับโครงการการก่อสร้างทางรถไฟรางคู่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย จากสถานีรถไฟแหลมฉบัง เข้าสู่พื้นที่โครงการ ระยะทางประมาณ 4.3 กิโลเมตร และมีเป้าหมายแผนการลงทุนในโครงการเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 เพื่อรองรับตู้สินค้าได้ถึง 1 ล้าน TEU ต่อปี

ส่วนระยะที่ 2 สามารถรองรับตู้สินค้าได้ถึง 2 ล้านทีอียูต่อปี และเมื่อโครงการแล้วเสร็จจะสามารถเพิ่มสัดส่วนการขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟด้วยระบบรางได้ถึง 25% ในอนาคต

ด้าน ร.ต.ต.มนตรี ฤกษ์จำเนียร กล่าวว่า โครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่ได้รับนโยบายจากรัฐบาลในการปรับเปลี่ยนรูปแบบการขนส่งจากถนนเป็นทางราง เพื่อพัฒนาระบบลอจิสติกส์โดยรวมของประเทศให้มีการประหยัดพลังงานมากขึ้น รวมทั้งลดปัญหาการจราจรที่แออัด และสนับสนุนการพัฒนาระบบลอจิสติกส์ ตามยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบลอจิสติกส์ของประเทศให้มีประสิทธิภาพ มีความสะดวกรวดเร็ว

ขณะที่ นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่าโครงการดังกล่าวถือเป็นมิติใหม่ในการขนส่งสินค้าทางทะเล โดยต่อเชื่อมระบบรางเข้ากับระบบเรือ ซึ่งจะมีขบวนรถไฟที่บรรทุกตู้สินค้าคอนเทนเนอร์จากลาดกระบัง ปีละ 1-2 ล้านตู้ จากนั้นตู้สินค้าจะถูกขนถ่ายลงสู่เรือเดินทะเล ซึ่งการขนส่งสินค้าด้วยวิธีดังกล่าวจะแก้ไขปัญหาความแออัดบนท้องถนน และลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม เพราะการขนส่งทางรถไฟจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นจำนวนมาก

ที่สำคัญยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่ง รองรับการเกิดขึ้นของโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกในอนาคต ที่จะมีโครงการก่อสร้างท่าเรือแหลมฉบัง เฟสที่ 3

“การเปิดโครงการศูนย์การขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟครั้งนี้ จะเป็นการลดการขนส่งสินค้าทางถนนได้มาก เนื่องจากรถไฟ 1 ขบวนสามารถบรรทุกตู้สินค้าได้ 40 ตู้ ดังนั้น จากนี้ไปเราจะสามารถลดจำนวนรถหัวลากบนท้องถนนได้ถึง 40 คันต่อวัน นอกจากนั้น การเดินทางจากไอซีดีลาดกระบังมาท่าเรือแหลมฉบัง จะใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงเศษ ขณะที่ปัจจุบันท่าเรือแหลมฉบัง มีตู้สินค้าผ่านท่ามากถึง 7 ล้านตู้ และโครงการดังกล่าวจะแชร์ตู้สินค้ามาขนส่งด้วยระบบรางได้มากถึง 20% ของจำนวนตู้สินค้าทั้งหมดด้วย” นายไพรินทร์ กล่าว
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42556
Location: NECTEC

PostPosted: 26/10/2018 10:17 am    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
เปิดแล้วศูนย์การขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟ ทลฉ. ลดการขนส่งทางบก
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 25 ตุลาคม 2561 17:00
ปรับปรุง: 25 ตุลาคม 2561 18:45



แหลมฉบังเปิดใช้ศูนย์ขนส่งทางราง SRTO เพิ่มขนส่งทางรางเข้าท่าเรือ 25%
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 25 ตุลาคม 2561 22:40
ปรับปรุง: 26 ตุลาคม 2561 09:21




กทท.เปิดใช้โครงการพัฒนาศูนย์กลางการขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟ (Single Rail Transfer Operator : SRTO) ท่าเรือแหลมฉบังแล้ว ตั้งเป้ารองรับสินค้า 2 ล้านทีอียู เพิ่มสัดส่วนการขนส่งทางรางเป็น 25%

วันนี้ (25 ตุลาคม) นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการพัฒนาศูนย์กลางการขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟ (Single Rail Transfer Operator : SRTO) ซึ่งการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ได้ดำเนินโครงการส่งเสริมศักยภาพด้านลอจิสติกส์ของประเทศ พัฒนาโครงการ SRTO เพื่อรองรับการขนส่งตู้สินค้าด้วยระบบรางที่ท่าเรือแหลมฉบัง ตามนโยบายรัฐบาลที่ต้องการให้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการขนส่งจากทางถนนเป็นทางรางและทางน้ำ เพื่อเป็นการพัฒนาระบบลอจิสติกส์ของประเทศ ประหยัดพลังงาน ลดมลภาวะ ลดต้นทุนการขนส่ง และทำให้สัดส่วนการขนส่งทางรางเพิ่มขึ้นเป็น 25%

ร้อยตำรวจตรี มนตรี ฤกษ์จำเนียร ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง รักษาการแทนผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ศูนย์การขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟ ทลฉ. โครงการพัฒนาศูนย์กลางการขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟ (Single Rail Transfer Operator : SRTO) เป็นการพัฒนาระบบการขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟหลังจากโครงการรถไฟทางคู่เปิดบริการ ให้สามารถรองรับปริมาณตู้สินค้าที่จะมาใช้บริการมากขึ้นระดับ 2.0 ล้านทีอียูต่อปี

โดยมีโครงสร้างพื้นฐานหลักพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็น ได้แก่ รางรถไฟพวงราง 6 ราง ระหว่างท่าเทียบเรือชุด B และชุด C พื้นที่ประมาณ 600 ไร่ มีพื้นที่กองเก็บตู้สินค้า 28,000 TEU แต่ละรางมีความยาวในช่วง 1,224-1,434 เมตร สามารถจอดขบวนรถไฟได้รางละ 4 ขบวน รวมเป็น 8 ขบวน รองรับและเชื่อมต่อกับโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ของ ร.ฟ.ท. จากสถานีรถไฟแหลมฉบังเข้าสู่พื้นที่โครงการระยะทางประมาณ 4.3 กิโลเมตร

ติดตั้งเครื่องมือยกขนตู้สินค้าชนิดพิเศษสามารถทำงานคล่อมรางรถไฟทั้ง 6 รางในเวลาเดียวกันและขนถ่ายตู้สินค้าได้พร้อมกัน โดย กทท.เป็นผู้ลงทุนก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานและเครื่องมือยกขนหลักทั้งหมด รวมถึงบริหารประกอบการ ใช้งบประมาณลงทุน 1,926 ล้านบาท

และในอนาคตจะขยายไปยังโครงการท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 ด้วย เพื่อแก้ปัญหาความแออัดการขนส่งสินค้าทางถนน ลดมลภาวะ ลดเวลา เพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งอย่างต่อเนื่อง และเป็นการเน้นย้ำนโยบายการขนส่งที่ไร้รอยต่อของรัฐบาล
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42556
Location: NECTEC

PostPosted: 26/10/2018 5:01 pm    Post subject: Reply with quote

ตั๋วรถไฟช่วงปีใหม่เต็มหมดแล้ว
พฤหัสบดีที่ 25 ตุลาคม 2561 เวลา 14.43 น.

รฟท. เปิดยอดจองตั๋วรถไฟช่วงปีใหม่ เผยเดือน ธ.ค.เต็มหมดแล้ว ลุยเพิ่ม 242 ขบวนรถ รองรับผู้โดยสาร 1 แสนคนต่อวัน คาดวันที่ 29-31 ธ.ค. คนเดินทางเยอะที่สุด 1.5 แสนคนต่อวัน


รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) แจ้งว่า ขณะนี้ยอดจองตั๋วรถไฟในช่วงเทศกาลปีใหม่ 62 เดือนธ.ค.เต็มหมดแล้ว โดยตั้งแต่วันที่ 25-30 ธ.ค.61 ยอดจองตั๋วในเที่ยววิ่งปกติเต็มทุกเส้นทาง โดยเฉพาะรถขบวนใหม่ กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ชั้น1และชั้น 2 เต็ม100 % ทั้งนี้การรถไฟฯได้เพิ่มขบวนรถเพื่อรองรับเทศกาลไว้1 แสนคนต่อวัน จากปกติอยู่ที่ 9 หมื่นคนต่อวัน หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 1หมื่นคนต่อวัน ส่วนวันที่ 29-31ธ.ค.จะมีการเดินทางมากที่สุดประมาณ 1.5 แสนคนต่อวัน ถือว่าใกล้เคียงกับช่วงเทศกาลปีใหม่60

สำหรับเที่ยวกลับเข้ากรุงเทพฯระหว่างวันที่ 2-4ม.ค.62 คาดว่าจะมีผู้โดยสารใช้บริการประมาณ1.2แสนคนต่อวัน สำหรับประชาชนที่ยังไม่มีตั๋วโดยสารและต้องการเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ต้องไปซื้อตั๋วด้วยตัวเองเท่านั้น โดยรฟท.ได้เตรียมขบวนรถสำรองไว้รองรับเพิ่มเติมอยู่แล้ว จะเพียงพอกับความต้องการของผู้โดยสารแน่นอน

รายงานข่าวแจ้งต่อว่า ตามแผนการรถไฟฯ ในการรองรับการเดินทางของประชาชนช่วงเทศกาลปีใหม่62 ได้นำรถมาเสริมช่วยการโดยสาร 14 ขบวน โดยพ่วงตู้โดยสารเพิ่มไปกับขบวนรถที่เดินเป็นประจำ 242 ขบวนต่อวันและยังมีขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสารอีก 8ขบวน รองรับผู้โดยสารได้ 10,900คน รวม โดยเที่ยวกลับ วันที่ 2–3ม.ค. 62 เดินขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสาร 6ขบวน รองรับผู้ โดยสารได้ 7,900คน ทั้งนี้สำหรับขบวนรถไฟที่ประชาชนสนใจใช้บริการหนาหน่อนที่สุดคือขบวนรถไฟไปภาคเหนือหรือเชียงใหม่ เพราะเป็นช่วงฤดูการท่องเที่ยวหรือไฮซีซั่นรับลมหนาวด้วย นอกจากนี้ยังมีภาคใต้ และอีสาน เส้นทางจ.อุบลราชธานีและอุดรธานีที่ประชาชนเดินทางกลับบ้านจำนวนมาก.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42556
Location: NECTEC

PostPosted: 29/10/2018 7:55 pm    Post subject: Reply with quote

2 พ.ย.นี้ รฟท.เปิดจองตั๋วรถไฟลอยน้ำ
จันทร์ที่ 29 ตุลาคม 2561 เวลา 12.37 น.

รฟท.เปิดจองนั่งรถไฟลอยน้ำ2 พ.ย.นี้ ชมเขื่อนป่าสักฯ เดินทางหมู่คณะมีบริการพ่วงตู้โดยสารเพิ่ม ไม่ต้องกั๊กที่นั่ง



รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) แจ้งว่า วันที่2 พ.ย.นี้การรถไฟฯจะเปิดจองตั๋วรถไฟนำเที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ประจำปี(รถไฟลอยน้ำ) โดยการจัดรถนำเที่ยวครั้งนี้ได้ร่วมกับจังหวัดลพบุรี โดยจังหวัดได้จัดกิจกรรมต่างๆ เช่น การแสดงวิถีชีวิตของชุมชนไทยเบิ้ง การแสดงและจำหน่ายสินค้าพื้นเมือง OTOP การจัดรถตัวหนอนวิ่งชมบรรยากาศบริเวณสันเขื่อนฯ ชมพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์การก่อสร้างเขื่อนป่าสักฯ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ชมฟาร์มแพะ แกะ ชมทิวทัศน์รอบเขื่อนบนหอชมวิว และบริการรถม้าลากจูง หรือบริการรถรางวิ่งผ่านสันเขื่อนไปสักการะพระใหญ่ อ.วังม่วง จ.สระบุรี ด้วย

ทั้งนี้การจัดรถไฟนำเที่ยว จะเดินรถทั้งหมด20วัน เฉพาะเสาร์-อาทิตย์ เริ่มวันที่ 17,18,24,25 พ.ย. 61 เดือนธ.ค.วันที่ 1,2,8,9,15,16,22,23, ธ.ค. 61 และอีกรอบวันที่ 5,6,12,13,19,20,26,27 ม.ค. 62

รายงานข่าวแจ้งต่อว่า สำหรับค่าโดยสารอัตราพิเศษไป-กลับ รถนั่งชั้น 3 ธรรมดา(พัดลม) กรุงเทพ – เขื่อนป่าสักฯ – กรุงเทพ คนละ 270 บาท ,สระบุรี/ชท.แก่งคอย - โคกสลุง คนละ 110 บาท ,แก่งเสือเต้น/เขื่อนป่าสัก – โคกสลุง คนละ 60 บาทค่าโดยสารอัตราพิเศษไป-กลับ รถนั่งชั้น 3 ปรับอากาศกรุงเทพ – เขื่อนป่าสักฯ – กรุงเทพ คนละ 470 บาท ,สระบุรี/ชท.แก่งคอย - โคกสลุง คนละ 210 บาท ,แก่งเสือเต้น/เขื่อนป่าสัก – โคกสลุง คนละ 160 บาท

สำหรับผู้โดยสารที่เป็นคณะทัวร์หมู่คณะ สามารถเช่าเหมาคันตู้โดยสารจัดเฉพาะพ่วงเพิ่มไปได้ตามอัตรา ดังนี้ รถโบกี้จัดเฉพาะปรับอากาศ บจพ.ป.111,131 (OTOP) ไป-กลับ รวม 52,900 บาท (110 คน) ,รถโบกี้จัดเฉพาะปรับอากาศ บจพ.ป.311(ครัวร้อน),บจพ.ป.331(ครัวเย็น) ไป-กลับ คันละ 35,500 บาท (ครัวเย็นคันละ 25 คน,ครัวร้อน คันละ 30 คน) ,รถโบกี้นั่งชั้นสามปรับอากาศ ไป-กลับ คันละ 29,700 บาท(76 คน)

ตารางการเดินทาง รถเที่ยวไป จากสถานีกรุงเทพ ออกเวลา 07.10 น.หยุดรับส่งผู้โดยสารสถานี สามเสน ชท.บางซื่อ บางเขน หลักสี่ ดอนเมือง รังสิต อยุธยา สระบุรี ชท.แก่งคอย แก่งเสือเต้น และที่พลาดไม่ได้ ไฮไลท์ของทริปนี้คือจุดชมวิว “รถไฟลอยน้ำ” ที่โคกสลุง จากนั้นจึงถึงจุดหยุดรถเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เวลา 11.40 น. เที่ยวกลับ จากที่หยุดรถเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ออกเวลา 15.30 น. หยุดรับส่งผู้โดยสารสถานี แก่งเสือเต้น ชท.แก่งคอย สระบุรี อยุธยา รังสิต ดอนเมือง หลักสี่ บางเขน ชท.บางซื่อ สามเสน ถึงสถานีกรุงเทพ เวลา 18.20 น. โดยจองตั๋วล่วงหน้าได้ที่สถานีรถไฟทั่วประเทศ รวมทั้งโทรจองผ่านสายด่วน 1690 ของการรถไฟฯ (ล่วงหน้า 5 วัน) แล้วไปรับตั๋วโดยสารพร้อมชำระเงินที่สถานีรถไฟที่ท่านสะดวกภายใน 24 ชม.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42556
Location: NECTEC

PostPosted: 30/10/2018 10:53 am    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
ตั๋วรถไฟช่วงปีใหม่เต็มหมดแล้ว
พฤหัสบดีที่ 25 ตุลาคม 2561 เวลา 14.43 น.

ผู้โดยสารรถไฟฯ ล้น! ปีใหม่จัด 244ขบวน/วัน จองเต็มความจุ 100%
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 29ตุลาคม 2561 เวลา 23:46



การรถไฟฯจัดขบวนรถวันละ 244 ขบวน พร้อมพ่วงเพิ่มตู้โดยสารในทุกขบวน และเพิ่มขบวนพิเศษอีก 8 ขบวน รองรับการเดินทางช่วงปีใหม่ ระหว่าง 28 ธ.ค. 2561 – 4 ม.ค. 2562 รองรับผู้โดยสารได้วันละ

1 แสนคน มั่นใจให้บริการเพียงพอไม่มีผู้โดยสารตกค้าง เผยยอด จองเต็ม100% ทุกเส้นทางแล้ว

นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า การรถไฟฯ ได้ประเมินแนวโน้มการเดินทางของประชาชนช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ 2562 ซึ่งมีวันหยุดยาวติดต่อกันหลายวันคาดว่าจะมีผู้โดยสารใช้บริการรถไฟเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากกว่า ช่วงปกติ

ดังนั้น เพื่อเป็นการดูแลการเดินทางของประชาชนให้ได้รับความสะดวก ปลอดภัย ตรงเวลา และมีขบวนรถไฟโดยสารได้อย่างเพียงพอ การรถไฟฯ จึงได้จัดแผนอำนวยความสะดวกรองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2562โดยการให้บริการเดินรถเพื่อรองรับการเดินทางของประชาชน เที่ยวไปวันที่ 28 – 31 ธันวาคม 2561 และเที่ยวกลับ วันที่ 1 – 4 มกราคม 2562 ให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้เฉลี่ยวันละ 1 – 1.1 แสนคน ซึ่งประกอบด้วย การจัดเดินขบวนรถประจำ จำนวน 244 ขบวนต่อวัน รองรับประชาชนได้ 90,638 คน แบ่งเป็นขบวนนรถสายเหนือ 42 ขบวน รองรับได้ 17,294 คน สายตะวันออกเฉียงเหนือ 58 ขบวน รองรับได้ 21,280 คน สายใต้ 76 ขบวน รองรับได้ 28,040 คน สายตะวันออก 26 ขบวน รองรับได้ 12,936 คน

และสายแม่กลอง 42 ขบวน รองรับได้ 11,088 คน

อีกทั้ง ยังได้สั่งเพิ่มตู้โดยสารพ่วงเพิ่มเติมในขบวนประจำ โดยเฉพาะขบวนรถเร็วทุกสายอีกขบวนละ 1 – 2 ตู้ ซึ่งรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มเติมประมาณ 10,000 คนต่อวัน ขณะเดียวกันยังได้เปิดเดินขบวนรถพิเศษเสริมช่วยการโดยสารในเส้นทางสายเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ เที่ยวไปช่วงวันที่ 28 – 29 ธันวาคม 2561 เพิ่มอีก 4 ขบวน รองรับผู้โดยสารได้ 5,200 คน และเที่ยวกลับช่วงวันที่ 1 – 2 มกราคม 2562

อีก 4 ขบวน รองรับผู้โดยสารได้ 5,200 คน

โดย ขณะนี้ยอดจองตั๋วรถไฟในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2562 สำหรับขบวนรถที่เดินเป็นประจำเที่ยวไป ตั้งแต่วันที่ 28 - 31 ธันวาคม 2561 เที่ยวกลับ ตั้งแต่วันที่ 1 - 4 มกราคม 2562 ยอดจองตั๋วขบวนรถเต็มทุกเส้นทาง 100 % โดยเฉพาะรถขบวนใหม่ เส้นทางกรุงเทพ-เชียงใหม่ กรุงเทพ - อุบลราชธานีชั้น 1 และชั้น 2 เนื่องจาก ผู้โดยสารส่วนใหญ่ได้จองตั๋วโดยสารไว้ล่วงหน้าแล้ว โดยการรถไฟฯ เปิดให้ผู้โดยสารสามารถจองตั๋วล่วงหน้าก่อนการเดินทางได้ ไม่เกิน 90 วัน

ทั้งนี้ การรถไฟฯ ได้เพิ่มขบวนรถเพื่อรองรับเทศกาลไว้ 1 แสนคน
ต่อวัน จากปกติอยู่ที่ 9 หมื่นคนต่อวัน หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 1 หมื่นคนต่อวัน

ส่วนวันที่ 29- 31 ธันวาคม 2561 จะมีการเดินทางมากที่สุด ประมาณ 1.5 แสนคนต่อวัน ถือว่าใกล้เคียงกับช่วงเทศกาลปีใหม่ 2561

นอกจากนี้ การรถไฟฯ ยังได้เพิ่มความเข้มงวดในการดูแลรักษาความปลอดภัย และการให้บริการเดินรถตรงต่อเวลาในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยกำชับกวดขันผู้ปฏิบัติงานทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายปฏิบัติการเดินรถ ฝ่ายบริการโดยสาร ฝ่ายการช่างกล ฝ่ายการช่างโยธา ฝ่ายการอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม ให้ความร่วมมือในการปฏิบัติงาน โดยคอยระมัดระวังป้องกันมิให้เกิดอันตรายและให้ขบวนรถออกจากสถานีต้นทางปลายทางตรงต่อเวลา

พร้อมกันนี้ ยังขอความร่วมมือไปยังกองบังคับการตำรวจรถไฟ ให้กำชับเจ้าหน้าที่รถไฟที่ปฏิบัติหน้าที่ตามสถานีและบนขบวนรถเข้มงวด

ตรวจตราอำนวยความสะดวกรักษาความปลอดภัยในทุกที่ตามข้อบังคับ ระเบียบการอย่างเคร่งครัด พร้อมกับงดเว้นการเสพสุรา เครื่องดื่ม มึนเมาขณะปฏิบัติหน้าที่อย่างเด็ดขาดตลอดจนให้ความสอดส่องความเคลื่อนไหวของบุคคลที่มีพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจ หรือวัตถุต้องสงสัย และขอความร่วมมือผู้โดยสาร หากพบเห็นสิ่งใดผิดปกติสามารถแจ้งมาที่เจ้าหน้าที่การรถไฟฯ หรือ สายด่วนการรถไฟฯ โทร 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44252
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 31/10/2018 8:42 am    Post subject: Reply with quote

ส้วมรถไฟ คว้ารางวัลสุดยอดส้วมแห่งปี 61 ในวันส้วมโลก
เผยแพร่: 30 ต.ค. 2561 19:53 โดย: ผู้จัดการออนไลน์

Click on the image for full size

Click on the image for full size

Click on the image for full size


สถานีรถไฟบ้านหินโคน เตรียมเข้ารับรางวัลสุดยอดส้วมแห่งปี 2561 จากกรมอนามัย ในวันส้วมโลก เผยห้องส้วมในสถานีรถไฟทั่วประเทศ 443 สถานี ผ่านเกณฑ์มาตรฐานของกรมอนามัยแล้ว 267 สถานี ลุยปรับปรุงให้ได้มาตรฐาน 100%

นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า การรถไฟฯ เตรียมเข้ารับรางวัลสุดยอดส้วมแห่งปี 2561 จากกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เนื่องในวันส้วมโลก (World Toilet Day 2018) ซึ่งกำหนดจัดกิจกรรมในวันที่ 19 พ.ย. ของทุกปี โดยองค์การสหประชาชาติกำหนดให้เป็นวันส้วมโลก เพื่อให้ทุกคนเห็นความสำคัญในการแก้ปัญหาวิกฤติด้านสุขาภิบาล มีสุขภาพอานามัยในการใช้ห้องส้วมและตระหนักถึงความสำคัญในการรักษาความสะอาดของห้องน้ำห้องส้วมให้มากขึ้น โดยแนวคิดหลักในวันส้วมโลกประจำปี 2018 คือ “When nature calls: ส้วมครบวงจร...เสียงสะท้อนจากธรรมชาติ”

โดย การรถไฟฯ ได้จัดโครงการส้วมรถไฟสะอาดเพื่อยกระดับมาตรฐานส้วมสาธารณะของรถไฟให้ได้ตามมาตรฐาน HAS ของกรมอนามัย และมาตรฐานดับเบิลยูซี โอเค ของกรมการท่องเที่ยว เพื่อช่วยสนับสนุนนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ ให้มีความสะอาด จำนวนเพียงพอ และปลอดภัย โดยเริ่มโครงการตั้งแต่ปี 2553

ซึ่งในปีนี้ มีสถานีที่ได้รับรางวัลสุดยอดส้วมแห่งปี ได้แก่ สถานีบ้านหินโคน ตั้งอยู่ที่ตำบลหินโคน อำเภอจักราช จังหวัดนครราชสีมา เป็น 1 ใน 17 แห่ง จากทั่วประเทศที่ได้รับรางวัลนี้ โดยมีการจัดการส้วมสาธารณะ และสิ่งปฏิกูลตามเกณฑ์มาตรฐานส้วมสาธารณะระดับประเทศ (HAS : Healthy Accessibility Safety) มีระบบการทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ มีการตรวจสอบทุกระยะ วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ภาชนะเก็บกักน้ำอยู่ในสภาพดี ทำความสะอาดง่าย และทำสม่ำเสมอ ถังขยะปิดฝามิดชิด และอาคารมีระบบถ่ายเทระบายอากาศได้ดี บริเวณที่ตั้งส้วมต้องไม่อยู่ที่ลับตาหรือเปลี่ยว พื้นห้องน้ำแห้งไม่มีน้ำขัง

ทั้งนี้ ปัจจุบันมีห้องส้วมในสถานีรถไฟที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานของกรมอนามัยแล้ว 267 สถานี จากสถานีรถไฟทั่วประเทศ 443 สถานี โดยตั้งเป้าหมายในอนาคตจะปรับปรุงห้องน้ำสถานีรถไฟให้ได้มาตรฐานครบ 100% เพื่อให้ประชาชนผู้ใช้บริการสามารถใช้ส้วมสะอาดในสภาพแวดล้อมที่ดี และถูกสุขอนามัยได้ทั่วประเทศ
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44252
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 31/10/2018 8:43 am    Post subject: Reply with quote

ส้วมรถไฟ คว้ารางวัลสุดยอดส้วมแห่งปี 61 ในวันส้วมโลก
เผยแพร่: 30 ต.ค. 2561 19:53 โดย: ผู้จัดการออนไลน์

Click on the image for full size

Click on the image for full size

Click on the image for full size


สถานีรถไฟบ้านหินโคน เตรียมเข้ารับรางวัลสุดยอดส้วมแห่งปี 2561 จากกรมอนามัย ในวันส้วมโลก เผยห้องส้วมในสถานีรถไฟทั่วประเทศ 443 สถานี ผ่านเกณฑ์มาตรฐานของกรมอนามัยแล้ว 267 สถานี ลุยปรับปรุงให้ได้มาตรฐาน 100%

นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า การรถไฟฯ เตรียมเข้ารับรางวัลสุดยอดส้วมแห่งปี 2561 จากกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เนื่องในวันส้วมโลก (World Toilet Day 2018) ซึ่งกำหนดจัดกิจกรรมในวันที่ 19 พ.ย. ของทุกปี โดยองค์การสหประชาชาติกำหนดให้เป็นวันส้วมโลก เพื่อให้ทุกคนเห็นความสำคัญในการแก้ปัญหาวิกฤติด้านสุขาภิบาล มีสุขภาพอานามัยในการใช้ห้องส้วมและตระหนักถึงความสำคัญในการรักษาความสะอาดของห้องน้ำห้องส้วมให้มากขึ้น โดยแนวคิดหลักในวันส้วมโลกประจำปี 2018 คือ “When nature calls: ส้วมครบวงจร...เสียงสะท้อนจากธรรมชาติ”

โดย การรถไฟฯ ได้จัดโครงการส้วมรถไฟสะอาดเพื่อยกระดับมาตรฐานส้วมสาธารณะของรถไฟให้ได้ตามมาตรฐาน HAS ของกรมอนามัย และมาตรฐานดับเบิลยูซี โอเค ของกรมการท่องเที่ยว เพื่อช่วยสนับสนุนนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ ให้มีความสะอาด จำนวนเพียงพอ และปลอดภัย โดยเริ่มโครงการตั้งแต่ปี 2553

ซึ่งในปีนี้ มีสถานีที่ได้รับรางวัลสุดยอดส้วมแห่งปี ได้แก่ สถานีบ้านหินโคน ตั้งอยู่ที่ตำบลหินโคน อำเภอจักราช จังหวัดนครราชสีมา เป็น 1 ใน 17 แห่ง จากทั่วประเทศที่ได้รับรางวัลนี้ โดยมีการจัดการส้วมสาธารณะ และสิ่งปฏิกูลตามเกณฑ์มาตรฐานส้วมสาธารณะระดับประเทศ (HAS : Healthy Accessibility Safety) มีระบบการทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ มีการตรวจสอบทุกระยะ วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ภาชนะเก็บกักน้ำอยู่ในสภาพดี ทำความสะอาดง่าย และทำสม่ำเสมอ ถังขยะปิดฝามิดชิด และอาคารมีระบบถ่ายเทระบายอากาศได้ดี บริเวณที่ตั้งส้วมต้องไม่อยู่ที่ลับตาหรือเปลี่ยว พื้นห้องน้ำแห้งไม่มีน้ำขัง

ทั้งนี้ ปัจจุบันมีห้องส้วมในสถานีรถไฟที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานของกรมอนามัยแล้ว 267 สถานี จากสถานีรถไฟทั่วประเทศ 443 สถานี โดยตั้งเป้าหมายในอนาคตจะปรับปรุงห้องน้ำสถานีรถไฟให้ได้มาตรฐานครบ 100% เพื่อให้ประชาชนผู้ใช้บริการสามารถใช้ส้วมสะอาดในสภาพแวดล้อมที่ดี และถูกสุขอนามัยได้ทั่วประเทศ
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44252
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 31/10/2018 8:43 am    Post subject: Reply with quote

ส้วมรถไฟ คว้ารางวัลสุดยอดส้วมแห่งปี 61 ในวันส้วมโลก
เผยแพร่: 30 ต.ค. 2561 19:53 โดย: ผู้จัดการออนไลน์

Click on the image for full size

Click on the image for full size

Click on the image for full size


สถานีรถไฟบ้านหินโคน เตรียมเข้ารับรางวัลสุดยอดส้วมแห่งปี 2561 จากกรมอนามัย ในวันส้วมโลก เผยห้องส้วมในสถานีรถไฟทั่วประเทศ 443 สถานี ผ่านเกณฑ์มาตรฐานของกรมอนามัยแล้ว 267 สถานี ลุยปรับปรุงให้ได้มาตรฐาน 100%

นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า การรถไฟฯ เตรียมเข้ารับรางวัลสุดยอดส้วมแห่งปี 2561 จากกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เนื่องในวันส้วมโลก (World Toilet Day 2018) ซึ่งกำหนดจัดกิจกรรมในวันที่ 19 พ.ย. ของทุกปี โดยองค์การสหประชาชาติกำหนดให้เป็นวันส้วมโลก เพื่อให้ทุกคนเห็นความสำคัญในการแก้ปัญหาวิกฤติด้านสุขาภิบาล มีสุขภาพอานามัยในการใช้ห้องส้วมและตระหนักถึงความสำคัญในการรักษาความสะอาดของห้องน้ำห้องส้วมให้มากขึ้น โดยแนวคิดหลักในวันส้วมโลกประจำปี 2018 คือ “When nature calls: ส้วมครบวงจร...เสียงสะท้อนจากธรรมชาติ”

โดย การรถไฟฯ ได้จัดโครงการส้วมรถไฟสะอาดเพื่อยกระดับมาตรฐานส้วมสาธารณะของรถไฟให้ได้ตามมาตรฐาน HAS ของกรมอนามัย และมาตรฐานดับเบิลยูซี โอเค ของกรมการท่องเที่ยว เพื่อช่วยสนับสนุนนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ ให้มีความสะอาด จำนวนเพียงพอ และปลอดภัย โดยเริ่มโครงการตั้งแต่ปี 2553

ซึ่งในปีนี้ มีสถานีที่ได้รับรางวัลสุดยอดส้วมแห่งปี ได้แก่ สถานีบ้านหินโคน ตั้งอยู่ที่ตำบลหินโคน อำเภอจักราช จังหวัดนครราชสีมา เป็น 1 ใน 17 แห่ง จากทั่วประเทศที่ได้รับรางวัลนี้ โดยมีการจัดการส้วมสาธารณะ และสิ่งปฏิกูลตามเกณฑ์มาตรฐานส้วมสาธารณะระดับประเทศ (HAS : Healthy Accessibility Safety) มีระบบการทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ มีการตรวจสอบทุกระยะ วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ภาชนะเก็บกักน้ำอยู่ในสภาพดี ทำความสะอาดง่าย และทำสม่ำเสมอ ถังขยะปิดฝามิดชิด และอาคารมีระบบถ่ายเทระบายอากาศได้ดี บริเวณที่ตั้งส้วมต้องไม่อยู่ที่ลับตาหรือเปลี่ยว พื้นห้องน้ำแห้งไม่มีน้ำขัง

ทั้งนี้ ปัจจุบันมีห้องส้วมในสถานีรถไฟที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานของกรมอนามัยแล้ว 267 สถานี จากสถานีรถไฟทั่วประเทศ 443 สถานี โดยตั้งเป้าหมายในอนาคตจะปรับปรุงห้องน้ำสถานีรถไฟให้ได้มาตรฐานครบ 100% เพื่อให้ประชาชนผู้ใช้บริการสามารถใช้ส้วมสะอาดในสภาพแวดล้อมที่ดี และถูกสุขอนามัยได้ทั่วประเทศ
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 321, 322, 323 ... 470, 471, 472  Next
Page 322 of 472

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©