RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311280
ทั่วไป:13261769
ทั้งหมด:13573049
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวเกี่ยวกับรถไฟฟ้า BTS
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รวมข่าวเกี่ยวกับรถไฟฟ้า BTS
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 83, 84, 85 ... 155, 156, 157  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> รถไฟฟ้า (BTS) และรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT)
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42702
Location: NECTEC

PostPosted: 13/11/2018 12:21 pm    Post subject: Reply with quote

ปัจจุบัน บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS มีขบวนรถให้บริการรวม 52 ขบวน (ขบวนละ 4 ตู้) จำนวน 208 ตู้ ประกอบด้วย รถ SIEMENS (EMU-A) จำนวน 35 ขบวน รวม 140 ตู้ และรถจากบริษัท ฉางชุนฯ (EMU-B) จำนวน 17 ขบวน รวม 68 ตู้

นอกจากนี้ BTS ได้สั่งเพิ่มอีก 46 ขบวน 184 ตู้ ประกอบด้วย
1) รถจากบริษัท ซีอาร์อาร์ซี ฉางชุน เรลเวย์ เวฮิเคิล จำกัด (EMU-C) จำนวน 24 ขบวน รวม 96 ตู้ (ขบวนละ 4 ตู้)
2) รถจากบริษัท ซีเมนส์ จำกัด จำนวน 22 ขบวน 88 ตู้
เพื่อนำมาใช้กับรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงสนามกีฬา-บางหว้าและหมอชิต-แบริ่ง 7 ขบวน, ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ 15 ขบวน , ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต 21 ขบวน และ สำรองอีก 3 ขบวน
https://www.facebook.com/ake.bluechifamily/posts/2024770854236516
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42702
Location: NECTEC

PostPosted: 13/11/2018 3:51 pm    Post subject: Reply with quote

อีก 4 ปีเสร็จ! ทะลวงคอขวดรถไฟฟ้าบีทีเอส “สถานีตากสิน” ติดหล่ม EIA เลื่อนเปิดใช้ปี’65
วันที่ 13 พฤศจิกายน 2561 เวลา 11:43 น.

นายสมพงษ์ เวียงแก้ว รองปลัดกรุงเทพ​มหานคร ​กล่าวว่า โครงการปรับปรุงสถานีรถไฟฟ้าสะพานตากสิน (S6)​ เงินลงทุน 1,100 ล้านบาท จะเป็นการดำเนินงานใน 3​ ส่วน คือ 1.งานขยายทางรถไฟฟ้าจากทางวิ่งเดียว (Single Track)​ เป็นทางวิ่งคู่ (Double Track)​ โดยเป็นการวางรางขนาด 1.435 เมตร เพิ่มอีก 1 ราง

2.งานเพิ่มชานชาลาสถานีรถไฟฟ้าจากชั้นชานชาลาฝั่งเดียว เป็นชานชาลาสองฝั่ง (ฝั่งไปพระนคร-ฝั่งไปธนบุรี)​ ความกว้างฝั่งละ 4.5 เมตร และยาว 90.20 เมตร มีขนาดเท่าชานชาลาเดิม และ 3.งานขยายพื้นที่สะพานสมเด็จ​พระเจ้า​ตากสิน​ทั้งสองฝั่งเหนือ-ใต้ ขนาดความกว้าง 1.80 เมตร และยาวประมาณ 250 เมตรซึ่งได้รับอนุญาต​จากกรมทางหลวงชนบท (ทช.)​ แล้ว

ขั้นตอนต่อจากนี้ รายงานวิเคราะห์​ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) ​ร่างเสร็จแล้ว เหลือเพียงการนำความคิดเห็น​ประชาชนมาประกอบ ซึ่งจะสามารถปิดเล่มรายงานได้ภายในเดือนนี้ จากนั้นจะเสนอให้สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ซึ่งจะเวลาพิจารณาประมาณ 1 เดือน ก่อนส่งต่อให้คณะกรรมการผู้ชำนาญการ (คชก.)​ และคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม (กก.วล.)​ ซึ่งกระบวนการทั้งหมดจะใช้เวลาประมาณ 1 ปี เมื่อผ่าน EIA แล้วจะใช้เวลาดำเนินการหาผู้รับจ้างประมาณ 4 เดือน

เบื้องต้น กทม.จะให้บีทีเอสเป็นผู้ออกค่าก่อสร้าง 1,100 ล้านบาท โดยมีแผนจะขยายพื้นที่สะพานตากสินก่อน เพื่อให้กระทบกับปัญหาจราจรน้อยที่สุด ส่วนงานอื่นจะดำเนินการควบคู่กันไป คาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 32 เดือน (2 ปี 8 เดือน)​ และจะเปิดให้บริการประมาณปลายปี 2565

นายสมพงษ์กล่าวต่อว่า เมื่อเริ่มก่อสร้างแล้ว จะหยุดให้บริการสถานีสะพานตากสินเป็นชั่วคราว ให้ไปใช้บริการสถานีใกล้เคียง คือ สถานีสุรศักดิ์ (S5)​ ซึ่งในระหว่างก่อสร้างทางบีทีเอสจะจัดรถตู้ Shutter Bus รับ-ส่งจากสถานีสะพานตากสินไปที่สถานีสุรศักดิ์
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42702
Location: NECTEC

PostPosted: 14/11/2018 10:33 am    Post subject: Reply with quote

(เพิ่มเติม1) BTS พร้อมรับเงื่อนไขกทม.เคาะเพดานค่าโดยสารสายสีเขียวไม่เกิน 65 บ./เที่ยว แลกสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวทั้งเส้น

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 30 ตุลาคม 2561 14:39:41 น.

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) และกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTSC) เปิดเผยว่า บริษัทสามารถรับเงื่อนไขของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในการปรับอัตราค่าโดยสารใหม่ของรถไฟฟ้า BTS ไม่ให้เกิน 65 บาท/เที่ยว ซึ่งในหลักการสามารถทำได้ เพราะมีระยะทางเดินรถมากขึ้น

โดยขั้นต้นนี้ กทม.จะต้องรับโอนหนี้สินและทรัพย์สินของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต -สะพานใหม่-คูคต จากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ที่จะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายในเดือน พ.ย.นี้ เพื่อรับโอนและเตรียมเปิดเดินรถส่วนต่อขยาย ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการในช่วงต้นเดือน ธ.ค.นี้

ทั้งนี้ การโอนสินทรัพย์และหนี้สินจาก รฟม.มาให้ กทม. คาดว่าจะเสร็จในช่วงต้นปี 62 จากนั้นจะส่งเรื่องโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวในรูปแบบให้เอกชนร่วมลงทุน (PPP) ให้กระทรวงมหาดไทย และเสนอเรื่องต่อคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ หรือ บอร์ด PPP และเสนอต่อ ครม.อนุมัติโครงการ จากนั้นจึงมาจัดตั้งคณะกรรมการมาตรา 35 ดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่จะเลือกเจรจากับ BTS ก่อน หรืออาจใช้วิธีเปิดประมูล ขณะที่ กทม.ต้องการให้มีผู้เดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวเพียงรายเดียว ซึ่งปัจจุบัน BTSC เดินรถในสัญญาสัมปทาน และรับจ้างเดินรถในส่วนต่อขยาย

นายสุรพงษ์ กล่าวว่า สำหรับการเจรจากับ กทม.นั้นจะมีประเด็นเรื่องค่าโดยสาร ซึ่งเบื้องต้นบริษัทยอมรับเงื่อนไขของ กทม. หนี้สินที่บริษัทจ่ายแทน กทม. และการลงทุนเพิ่มเติมหลังจากได้ขยายเวลาสัมปทานเดินรถ อาทิ รถไฟฟ้าขบวนใหม่ เป็นต้น จากสินทรัพย์ที่บริษัทที่มีอยู่สามารถรองรับได้ 30 ปี

อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่ดำเนินการเจรจา คาดว่า กทม.จะเปิดให้ประชาชนเดินทางส่วนต่อขยายฟรีในช่วง 3 เดือนแรก
"ในหลักการเราทำได้เรื่องค่าโดยสาร ซึ่งค่าโดยสาร ทางกทม.ให้โจทย์มาสักพักแล้ว ...เรื่องจะสรุปได้ช้าเร็วก็ขึ้นอยู่กับรัฐบาล ถ้าครม.อนุมัติแล้วก็ตั้งคณะกรรมการ มาตรา 35 เพื่อร่างทีโออาร์ "นายสุรพงษ์ กล่าว

ก่อนหน้านี้ กทม.ได้จัดสัมมนาเพื่อประเมินความสนใจของภาคเอกชน (Market Sounding Seminar) งานศึกษาและวิเคราะห์ความเหมาะสมแนวทางการให้เอกชนร่วมลงทุนในรูปแบบ PPP โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ช่วงเขียวใต้ แบริ่ง-สมุทรปราการ และช่วงเขียวเหนือ หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต โดยแบ่งเป็น 2 ช่วง โดยช่วงแรกคือ ในช่วงปี พ.ศ. 2562-2572 ที่มีแนวเส้นทางหลัก (Core System) เอกชนผู้ให้บริการรายปัจจุบัน คือ บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTSC) จะดำเนินการต่อภายใต้สัญญาสัมปทานจนสิ้นสุดปี พ.ศ.2572 ขณะที่แนวเส้นทางส่วนต่อขยายที่ 1 (คือช่วงสะพานตากสิน-บางหว้า และ ช่วงอ่อนนุช-แบริ่ง) และส่วนต่อขยายที่ 2 (ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และ ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) จะให้ BTSC ดำเนินการภายใต้สัญญาจ้างจนถึงปี พ.ศ.2572

ช่วงที่ 2 ปี พ.ศ. 2573-2602 ที่จะให้สัมปทานกับเอกชนรายใหม่ จะสามารถเข้ามาบริหารจัดการ โดยจัดเก็บรายได้ ดำเนินงาน และบำรุงรักษา ทั้ง 3 ช่วงของสายทาง ภายใต้สัญญาสัมปทานใหม่มีระยะเวลา 30 ปี โดย กทม.มีนโยบายที่จะปรับอัตราค่าโดยสารในปัจจุบัน (Base Fare) ให้เป็นระบบอัตราค่าโดยสารตามระยะทางตลอดสาย (Single Fare Table) โดยมีอัตราค่าโดยสารสูงสุดไม่เกิน 65 บาทตอลดสายสีเขียว

สำหรับการเดินรถในปัจจุบันบั้น นายสุรพงษ์ คาดว่าจำนวนผู้โดยสารในไตรมาส 2/61 (ก.ค.-ก.ย.61) เติบโตลดลงเหลือเติบโตประมาณ 1% เนื่องจากได้รับผลกระทบช่วงรถไฟฟ้าขัดข้องที่มีการรบกวนของสัญญาณคลื่นวิทยุสื่อสารจากภายนอก แต่คาดว่าทั้งงวดปี 61 จะมีจำนวนผู้โดยสารเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ 4-5% โดยปัจจุบันมีจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ย 7 กว่าแสนเที่ยวคน/วัน แต่ไม่ถึง 7.5 แสนเที่ยวคน/วัน

ส่วนในปีหน้าคาดว่าจำนวนผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นมากกว่าปีนี้ เนื่องจากมีส่วนต่อขยายช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ มีระยะทาง 13 กิโลเมตร จำนวนสถานีทั้งหมด 9 สถานีที่จะเปิดให้บริการต้นเดือน ธ.ค.นี้ รวมทั้งจะมีการแก้ไขปัญหาคอขวดสถานีสะพานตากสิน ซึ่งขณะนี้จะมีการทำประชาพิจารณ์อีกครั้งในวันที่ 13 พ.ย.นี้ และคาดว่าจะเสร็จสิ้นขั้นตอนการจัดทำรายงานผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (EIA) ภายในปีนี้และจะเริ่มก่อสร้างเพื่อเพิ่มอีก 1 ราง จากปัจจุบันมีเพียง 1 รางทำให้ต้องใช้เวลาในการสับเปลี่ยนราง

--อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42702
Location: NECTEC

PostPosted: 14/11/2018 10:35 am    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
อีก 4 ปีเสร็จ! ทะลวงคอขวดรถไฟฟ้าบีทีเอส “สถานีตากสิน” ติดหล่ม EIA เลื่อนเปิดใช้ปี’65
วันที่ 13 พฤศจิกายน 2561 เวลา 11:43 น.

คาดกลางปี 63 ทำรางคู่ “บีทีเอสตากสิน” แก้คอขวด ต้องปิดสถานีชั่วคราว กระทบ 4 หมื่นคนต่อวัน
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันที่ 13 พฤศจิกายน 2561 เวลา 13:03
ปรับปรุง: วันที่ 13 พฤศจิกายน 2561 เวลา 14:52




กทม.เร่งแก้คอขวด “บีทีเอสตากสิน” รับฟังความเห็นปรับแผนอีไอเอ เสนออนุมัติก่อสร้าง คาดกลางปี 63 เริ่มได้ทันที ใช้งบ 1.1 พัน ล.บาท ทำเบี่ยงทางสะพานสาทร วางรางคู่ สร้างชานชาลาใหม่ ใช้เวลา 32 เดือน พร้อมปิดสถานีชั่วคราว คาดกระทบผู้โดยสาร 4 หมื่นคนต่อวัน บีทีเอสจัด Shuttle Bus รับส่ง

วันนี้ (13 พ.ย.) เมื่อเวลา 08.30 น. ที่โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ สีลม นายสมพงษ์ เวียงแก้ว รองปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นประธานการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน การจัดทำรายงานการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร (ส่วนช่องนนทรี-สาทร) : กรณีปรับปรุงสถานีรถไฟฟ้าสะพานตากสิน (S6) โดยมีประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากเขตบางรัก เขตคลองสาน และเขตสาทร เข้าร่วม



นายสมพงษ์ กล่าวว่า ปัจจุบันสถานีรถไฟฟ้าสะพานตากสิน มีข้อจำกัดในการเดินทางจากการเป็นช่องทางเดินรถ 1 ช่องทาง ทำให้ความถี่ในการเดินรถไฟฟ้าไม่เพียงพอ และรถไฟฟ้าต้องจอดรอเพื่อสับรางตลอด ซึ่งปกติผู้โดยสารจะต้องเสียเวลารอประมาณ 10-15 นาที โดยในปี 2560 มีการหารือระหว่างกระทรวงคมนาคม กทม. และบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC ซึ่ง กทม.ได้มอบหมายให้บริษัทที่ปรึกษาของ BTSC นำเสนอให้ที่ประชุมทราบถึงแนวทางแก้ปัญหาการปรับปรุงสถานีสะพานตากสิน ซึ่งเป็นสถานีชั่วคราวมาตั้งแต่เดิม โดยขยายช่องทางเดินรถบนสถานีสะพานตากสิน เป็นทางวิ่งคู่เพื่อแก้ปัญหา อย่างไรก็ตาม การขยายชานชาลาสถานีสะพานตากสินออกไปทั้ง 2 ฝั่ง จะยื่นล้ำเข้าไปในพื้นที่ของสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน หรือ สะพานสาทร ซึ่งมีกรมทางหลวงชนบทเป็นผู้รับผิดชอบ จึงต้องขยายพื้นที่สะพานสาทรทดแทน เพื่อให้ผิวจราจรเท่าเดิมทั้งสองฝั่ง ซึ่งล่าสุดได้รับแจ้งจากกรมทางหลวงชนบทแล้วว่า ให้ดำเนินการก่อสร้างได้ ซึ่งการขยายสะพานจะทำควบคู่ไปกับการรื้อชานชาลาออก หลังจากขยายสะพานเสร็จแล้ว จึงสามารถทำรางคู่และขยายชานชาลาออกไปได้

นายสมพงษ์ กล่าวว่า จากการแก้ไขปัญหาดังกล่าวทำให้มีการเปลี่ยนแปลงราละเอียดของโครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร ส่วนช่องนนทรี-สาทร ไปจากการศึกษาความเหมาะสมและรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ของโครงการเดิมที่เคยมีการศึกษาและได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.) เมื่อปี 2540 กทม.จึงต้องจัดทำรายงานการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการในรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ของส่วนดังกล่าว เพื่อเสนอต่อสำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) เพื่อเสนอคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมชุดที่เกี่ยวข้อง รวมถึง กก.วล.พิจารณาต่อไป หากไม่ติดอุปสรรคใดๆ คาดว่า จะใช้เวลาพิจารณา 1 ปีครึ่ง หรือประมาณกลางปี 2563 หลังจากนั้นก็จะก่อสร้างได้ ซึ่งจะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 32 เดือน หรือ 2 ปี 8 เดือน โดยบีทีเอสจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายการก่อสร้างทั้งหมดวงเงิน 1,100 ล้านบาท



นายสุรเชษฐ์ แสงชโยสวัสดิ์ ผู้อำนวยการวางแผนกลยุทธ์ BTSC ในฐานะตัวแทนบีทีเอส กล่าวว่า จริงๆ แล้วรางรถไฟฟ้าสถานีสะพานตากสินทำไว้สำหรับสองรางอยู่แล้ว แต่การเปิดให้บริการเมื่อปี 2542 รถไฟฟ้าได้สิ้นสุดที่สถานีนี้ ซึ่งหากสิ้นสุดเป็นรางเปล่าๆ ก็คงไม่เหมาะสม จึงมีการสร้างชานชาลาทับบนรางเดิม ดังนั้น การขยายเป็นรางคู่หลักการ คือ จะต้องย้ายชานชาลาเดิมออกไป ซึ่งจะต้องใช้พื้นที่สะพานสาทรเพิ่ม 1.8 เมตร เมื่อพื้นที่โล่งแล้วก็สามารถวางรางได้เลย ขณะที่อีกด้านก็ต้องสร้างชานชาลาเพิ่ม ต้องใช้พื้นที่สะพานสาทร 1.8 เมตรเช่นกัน ดังนั้น จะต้องขยายทางสะพานสาทรเพื่อให้รถวิ่งได้ 3 ช่องจราจรเหมือนเดิม ซึ่งการดำเนินการทั้งหมดจะต้องทำควบคู่กันไป หากรอสร้างเบี่ยงสะพานให้เสร็จก่อนค่อยปรับปรุงสถานีใช้เวลา 4 ปีก็คงไม่เสร็จ ซึ่งการก่อสร้างจะใช้เวลา 32 เดือน ซึ่งพยายามดำเนินการให้เร็วที่สุด เพราะเราเป็นห่วงความเดือดร้อนของผู้โดยสารที่ต้องเข้าออกสถานีสะพานตากสิน ซึ่งมีประมาณ 40,000 คนต่อวัน เนื่องจากช่วงปรับปรุงตัวสถานีจะปิดสถานีสะพานตากสินชั่วคราว โดยรถไฟฟ้าจะยังวิ่งให้บริการตามแนวเส้นทางเดิม แต่จะวิ่งผ่านและไม่จอดที่สถานีสะพานตากสิน ผู้โดยสารจะต้องขึ้นหรือลงสถานีสุรศักดิ์หรือสถานีกรุงธนบุรีแทน แต่เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ผู้โดยสารที่จะเดินทางสถานีสะพานตากสินและต่อเรือโดยสารแม่น้ำเจ้าพระยา บีทีเอสจะจัดรถ Shuttle Bus ซึ่งเป็นรถตู้คอยให้บริการตลอดทั้งวัน และเพิ่มความถี่การเดินรถในชั่วโมงเร่งด่วนตอนเช้าและเย็น



นางวรางคณา เหรียญทอง ผู้ชำนาญการสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า การศึกษาผลกระทบการปรับปรุงสถานีสะพานตากสิน ได้ศึกษาครอบคลุมพื้นที่ที่อยู่ห่างจากกึ่งกลางแนวเส้นทางโครงการข้างละ 500 เมตร ครอบคลุมพื้นที่ 3 เขต คือ คลองสาน บางรัก และ สาทร โดยมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม และมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม มีทั้งสิ้น 10 ประเด็น คือ 1. คุณภาพอากาศ อาจเกิดการฟุ้งกระจายของฝุ่นละอองเพิ่มขึ้น 2. ระดับเสียง กระทบผู้อยู่ใกล้พื้นที่ 3. การสั่นสะเทือน กระทบโครงสร้างสะพานเฉลิมพันธุ์ 53 แต่อยู่ในระดับที่มนุษย์ไม่รู้สึก ไม่มีผลกระทบต่ออาคารทุกประเภท 4. การคมนาคม ทำให้ติดขัด กระทบผู้โดยสารที่ใข้สถานีสะพานตากสิน 5. การระบายน้ำ อาจต้องมีการรื้อย้ายท่อระบายน้ำและบ่อพักเดิมทั้งสองฝั่ง 6. การสาธารณูปโภคและสาธารณูปการ เช่น สายไฟฟ้า เสาไฟฟ้าต่างๆ 7. สภาพเศรษฐกิจสังคม เช่น ความสะดวกในการเดินทาง ก่อความรำคาญจากเสียงและฝุ่น 8. การสาธารณสุข อาชีวอนามัยและความปลอดภัย เช่น เกิดฝุ่นละอองที่อาจส่งผลกระทบสุขภาพ 9. แหล่งโบราณคดีและประวัติศาสตร์ คือ สะพานเฉลิมพันธุ์ 53 อาจเสียหายได้ และ 10. การท่องเที่ยวและทัศนียภาพ เช่น กระทบเข้าถึงแห่ลงท่องเที่ยว เป็นต้น ซึ่งทั้ง 10 ประเด็นมีการวางตรการป้องกันแก้ไข เช่น ฉีดพรมน้ำลดฝุ่น ลดความเร็วยานพาหนะ ประสานกรมศิลปากรดูแลโครงสร้างสะพานเฉลิมพันธุ์ 53 มีผ้าใบปิดให้มิดชิด จัดตั้งหน่วยพยาบาลในพื้นที่ก่อสร้าง ติดป้ายประขาสัมพันธ์แจ้งเตือน ป้ายแนะนำ และป้ายจราจรให้ทราบ เป็นต้น



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมรับฟังความคิดเห็นมีข้อเสนอและข้อกังวลที่หลากหลาย เช่น สมาคมไหหลำแห่งประเทศไทย กังวลเรื่องแรงสั่นสะเทือนการก่อสร้างจะกระทบต่อศาลเจ้าเจียวเอ็งเบี้ยวที่อยู่ใกล้กับพื้นที่ก่อสร้าง เนื่องจากศาลเจ้าก่อสร้างด้วยเสาไม้ หรือทางเขตคลองสานกังวลเรื่องการก่อสร้างจะกระทบต่อคุณภาพอากาศของเขตคลองสาน ที่เดิมทีก็เกินจากค่ามาตรฐานอยู่ และควรเพิ่มจุดตรวจวัดฝุ่นละอองพื้นที่อื่น นอกจากนี้ ยังมีข้อกังวลผลกระทบอาคารตึกแถวเก่า มีข้อเสนอให้มีระบบรับฟังความเดือดร้อนโดยตรงและการแจ้งผลการแก้ไขให้รับทราบ การแก้ไขปัญหาผู้ใช้บริการสถานีสะพานตากสินที่มีความหนาแน่น ต้องจัดรถรับส่งให้พอเพียงและมีการดำเนินการอย่างไร มีแผนการจัดการจราจรเพื่อลดผลกระทบจากอุบัติเหตุก่อสร้างและการจราจรติดขัดหรือไม่ การอำนวยความสะดวกของนักเรียนโรงเรียนอัสสัมชัญที่รับผลกระทบจากการต้องเดินทางไกลขึ้น เป็นต้น ซึ่งทางโครงการได้รับข้อเสนอทั้งหมดเพื่อนำไปปรับปรุงรายงานและบางเรื่องรับเป็นเรื่องพิเศษที่จะต้องดำเนินการแก้ไข เพื่อให้มีความครบถ้วนต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42702
Location: NECTEC

PostPosted: 16/11/2018 6:34 pm    Post subject: Reply with quote

บีทีเอส แจกเข็มกลัดสัญลักษณ์สำหรับคนท้อง หวังรณรงค์เอื้อเฟื้อที่นั่งแก่คนท้อง
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 16 พฤศจิกายน 2561 เวลา 16:00

เพจ "รถไฟฟ้าบีทีเอส" โพสต์ข่าวประชาสัมพันธ์ สำหรับหญิงที่กำลังตั้งครรภ์ ในวันที่ 17 พ.ย. นี้ เป็นต้นไป ทางรถไฟฟ้าบีทีเอสได้แจกเข็มกลัดสัญลักษณ์สำหรับคนท้อง โดยมีเจ้าหน้าที่จะให้เขียนข้อมูลผู้ที่ติดต่อได้กรณีฉุกเฉิน

วันนี้ (16 พ.ย.) เพจ "รถไฟฟ้าบีทีเอส" โพสต์ข่าวประชาสัมพันธ์ สำหรับหญิงที่กำลังตั้งครรภ์ ที่ได้ใช้บริการโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส ในวันที่ 17 พ.ย. นี้ เป็นต้นไป ทางรถไฟฟ้าบีทีเอสได้แจกเข็มกลัดสัญลักษณ์สำหรับคนท้อง ที่ห้องจำหน่ายตั๋ว บนสถานีบีทีเอสทุกสถานี นอกจากนี้ ยังติดโปสเตอร์ร่วมรณรงค์ให้ทราบถึงเข็มกลัดสัญลักษณ์ และการเอื้อเฟื้อคนท้องบนสถานีทุกสถานี พร้อมทั้งเพิ่มเสียงประกาศในขบวนรถ เป็นข้อความที่ทำขึ้นใหม่โดยเฉพาะ เพื่อเอื้อเฟื้อที่นั่งสำหรับผู้ติดเข็มกลัดสัญลักษณ์ และพนักพิงที่นั่งสำรอง (Priority Seat) ได้ออกแบบใหม่ ให้มีสีสันที่ชัดเจน แตกต่างจากที่นั่งปกติ ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างออกแบบ

อย่างไรก็ตาม เข็มกลัดทุกชิ้น ด้านหลังจะมีหมายเลขระบุเฉพาะ และเข็มกลัด สามารถทำเป็นสายคล้องกระเป๋าได้ เมื่อผู้ที่ไปรับเข็มกลัด เจ้าหน้าที่จะให้ท่านเขียนแบบฟอร์มสั้นๆ เป็นข้อมูลผู้ที่ติดต่อได้กรณีฉุกเฉิน หากคนท้องเกิดเจ็บป่วย/เป็นลมบนสถานี เราจะได้ช่วยเหลือหรือแจ้งญาติได้ทันที โดยคนท้องเป็นกลุ่มแรก ที่เริ่มดูแลและจะขยายผลไปยังเด็ก ผู้สูงอายุ ผู้พิการ คนป่วย พระสงฆ์และนักบวช ไปถึงผู้โดยสารทั่วไปทุกคน
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42702
Location: NECTEC

PostPosted: 23/11/2018 11:17 am    Post subject: Reply with quote

BTS เชิญโหวตแบบที่นั่งสำรอง เริ่มติดตั้ง ธ.ค.นี้
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 22 พฤศจิกายน 2561 เวลา 13:11

"รถไฟฟ้าบีทีเอส" ร่วมโหวตแบบพนักที่นั่งสำรองสำหรับเด็ก คนท้อง ผู้สูงอายุ ผู้พิการหรือผู้ป่วย พระสงฆ์หรือนักบวช โดยมีสีสันที่สะดุดตาขึ้น มีทั้งหมด 4 รูปแบบ พร้อมติดตั้งเดือนธันวาคมนี้

เมื่อวันที่ 21 พ.ย. เพจ "รถไฟฟ้าบีทีเอส" ได้โพสต์ข่าวประชาสัมพันธ์โดยให้ประชาชนเข้าไปร่วมโหวตแบบพนักที่นั่งสำรองสำหรับเด็ก คนท้อง ผู้สูงอายุ ผู้พิการหรือผู้ป่วย พระสงฆ์หรือนักบวช โดยมีสีสันที่สะดุดตาขึ้น มีทั้งหมด 4 รูปแบบ โดยเริ่มเปิดโหวตในวันที่ 21-28 พฤศจิกายน จากนั้นแบบที่นั่งสำรอง ที่ทุกคนได้ลงคะแนนให้สูงสุด จะถูกนำไปทยอยติดตั้งพนักที่นั่งสำรองในขบวนรถไฟฟ้าของบีทีเอสจนครบทุกขบวน หลังจากนั้นโหวตเสร็จ จะเริ่มติดตั้งทันที เดือนธันวาคมนี้
https://www.facebook.com/BTS.SkyTrain/posts/2006083486103923
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42702
Location: NECTEC

PostPosted: 07/12/2018 4:37 pm    Post subject: Reply with quote

9 ธ.ค. นี้ ผู้โดยสารร่วมกิจกรรม "Bike อุ่นไอรัก" ขึ้นบีทีเอสฟรีทุกสถานี
ศุกร์ที่ 7 ธันวาคม 2561 เวลา 15.38 น.

บีทีเอส ร่วมกิจกรรม “Bike อุ่นไอรัก” วันที่ 9 ธ.ค.61 ผู้ค่าโดยสารสวมเสื้อพระราชทานกิจกรรม Bike Un Ai Rak และเดินทางพร้อมจักรยานทุกชนิดขึ้นรถไฟฟ้าบีทีเอสฟรีทุกสถานี

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ร่วมกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) และบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ได้ร่วมสนับสนุนกิจกรรม “Bike อุ่นไอรัก” ในวันที่ 9 ธ.ค.61 โดยจะยกเว้นค่าโดยสารให้แก่ผู้ที่สวมเสื้อพระราชทานกิจกรรม Bike Un Ai Rak และเดินทางพร้อมจักรยานทุกชนิดฟรีทุกสถานี รวมทั้งส่วนต่อขยายสายสุขุมวิท และส่วนต่อขยายสายสีลมตั้งแต่เวลา 06.00 – 24.00 น. และยกเว้นค่าโดยสารรถด่วนพิเศษบีอาร์ที ให้แก่ผู้ที่สวมเสื้อพระราชทานกิจกรรม Bike Un Ai Rak และเดินทางพร้อมจักรยานแบบพับได้ ตั้งแต่เวลา 06.00 – 24.00 น.ติดต่อขอรับคูปองได้ที่ห้องจำหน่ายตั๋วโดยสารทุกสถานี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ บีทีเอส โทรศัพท์ 0 2617 6000 หรือ Line @BTSSKYTRAIN
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42702
Location: NECTEC

PostPosted: 11/12/2018 9:49 am    Post subject: Reply with quote

รวบแก๊งเขมร ล้วงกระเป๋าสาวท้อง บนรถไฟฟ้าบีทีเอส สยาม ได้ผู้ต้องหา 6 ราย
โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม
เผยแพร่: 9 ธันวาคม 2561 เวลา 13:22
ปรับปรุง: 9 ธันวาคม 2561 เวลา 20:48



MGR online - ผบช.สตม. แถลงจับกุมแก๊งล้วงกระเป๋าสาวตั้งครรภ์ชาวกัมพูชา ที่บริเวณสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สยาม ได้ผู้ต้องหา 6 ราย สารภาพวางแผนมาอย่างดีตั้งแต่ดูต้นทาง ลักทรัพย์รวมทั้งยืนล้อมผู้เสียหาย


วันนี้ (9 ธ.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ สน.ลุมพินี พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. พร้อมด้วยพล.ต.ท.ธีรพล คุปตานนท์ ผบช.ทท. พ.ต.อ.อัครวุฒิ ธานีรัตน์ ผกก.สน.ลุมพินี และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ลุมพินี ร่วมกันแถลงผลการจับกุมแก๊งล้วงกระเป๋าชาวกัมพูชา ได้แก่ นายโยบ ลี อายุ 39 ปี นายคง สินาด อายุ 39 ปี น.ส.รี คาม อายุ 31 ปี น.ส.พาด เซรอ อายุ 28 ปี น.ส.มูน มอม อายุ 25 ปี และ น.ส.เม (นามสมมติ) อายุ 17 ปี พร้อมของกลาง โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อไอโฟน รุ่น 6 เอสพลัส สีดำ 1 เครื่อง โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่บริเวณสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สยาม เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. ที่ผ่านมา

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 6 ธ.ค. ที่ผ่านมา น.ส.เกด (นามสมมุติ) อายุ 39 ปี ชาวไทย ซึ่งอยู่ระหว่างการตั้งครรภ์เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ว่า ถูกคนร้ายก่อเหตุล้วงกระเป๋าโดยทรัพย์สินที่สูญหายเป็นโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อไอโฟน รุ่น 6 เอสพลัส เหตุเกิดที่บริเวณสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส อโศก จากนั้นทางเจ้าหน้าที่จึงร่วมกันลงพื้นที่ มีการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุและใกล้เคียง จนพบกลุ่มบุคคลต้องสงสัย จึงเฝ้าติดตามพฤติกรรม กระทั่งเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 7 ธ.ค. ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่พบกลุ่มผู้ต้องหาท่าทางมีพิรุธ มีรูปพรรณสัณฐานคล้ายกับแก๊งที่ก่อเหตุล้วงกระเป๋า น.ส.เกด จึงแสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น และพบของกลางเป็นโทรศัพท์มือถือที่ผู้เสียหายเพิ่งแจ้งความไว้ จึงควบคุมตัวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาสารภาพว่า ร่วมกันตั้งแก๊งล้วงกระเป๋าจริง โดยนายโยบ ลี เป็นหัวหน้าแก๊ง ส่วนที่เหลือจะแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจนทั้งดูต้นทาง ลักทรัพย์สินจากเหยื่อ ซุกซ่อนทรัพย์สิน รวมทั้งยืนล้อมผู้เสียหาย ซึ่งก่อนก่อเหตุจะทยอยกันเดินทางมาจากประเทศกัมพูชา โดยเข้ามาทางชายแดนด้านจังหวัดสระแก้ว และมานัดพบกันที่รถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีต่างๆ และตามแหล่งท่องเที่ยวที่มีคนพลุกพล่าน

“ล่าสุด เมื่อช่วงเวลา 17.00 น. ของวันที่ 6 ธ.ค. ที่ผ่านมา พบผู้เสียหายเป็นผู้เสียหายชาวไทย ที่ไม่ทันระวังตัว เนื่องจากกำลังตั้งครรภ์ โดยสะพายกระเป๋าเป้ไว้ที่ด้านหลัง และถือของพะรุงพะรัง จากนั้นได้วางแผนเดินเป็น 3 เหลี่ยม มุ่งเข้าหาเหยื่อเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ ก่อน 1 ใน 3 จะทำการรูดซิปกระเป๋าเป้และลักโทรศัพท์มือถือ เมื่อก่อเหตุสำเร็จจะนำทรัพย์สินที่ได้ส่งมอบให้กับนายโยบ ลี ซึ่งยืนรออยู่ละแวกใกล้เคียง เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่หากถูกขอเข้าตรวจค้น จนกระทั่งมาถูกจับกุมได้ทั้งหมดพร้อมของกลางดังกล่าว” ผบช.สตม. ระบุ

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวด้วยว่า จากการตรวจสอบประวัติ พบว่า น.ส.รี เข้ามาในประเทศไทย 25 ครั้ง น.ส.มูน 16 ครั้ง น.ส.พาด 14 ครั้ง และรายอื่นเข้ามา 1-2 ครั้ง โดยแต่ละครั้งจะเข้ามาก่อเหตุในช่วงวันศุกร์ และเดินทางกลับประเทศกัมพูชาช่วงวันจันทร์ หรือวันอังคาร เมื่อได้ทรัพย์สินจะนำไปขายและมากันใหม่ โดยหลังจากนี้ จะยกเลิกถอนวีซ่าผู้ต้องหาทั้งหมด พร้อมทั้งนำตัวควบคุมหน้าห้องกักของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และทำการแบล็กลิสต์ก่อนผลักดันออกนอกประเทศ เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
https://www.youtube.com/watch?v=q-Ev-3FCPVs
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42702
Location: NECTEC

PostPosted: 19/12/2018 7:04 pm    Post subject: Reply with quote

“หัวใจไร้พรมแดน” เชื่อมโยงโอกาส เปิดโลกทัศน์กับหนูด่วนชวนน้องท่องบีทีเอส

18 ธันวาคม 2561


ตามที่มูลนิธิโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์และโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ได้ริเริ่มโครงการ “รักษ์ใจไทย” ผ่าตัดเด็กโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด ผู้ด้อยโอกาสชาวไทยมาตั้งแต่ปี 2546 ภายใต้ความร่วมมือกับมูลนิธิเด็กโรคหัวใจในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์โดยจนถึงปัจจุบันได้ช่วยเหลือผ่าตัดเด็กไทยที่ป่วยเป็นโรคหัวใจไปแล้ว 782 ราย จากกว่า 50 จังหวัดทั่วประเทศ

ต่อในปี 2556 ได้ต่อยอดโครงการไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ เมียนมา และเวียดนาม และในปี2561 นี้ มูลนิธิโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์และโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จึงได้ขยายความช่วยเหลือไปยังประเทศกัมพูชา โดยการจัดโครงการ “หัวใจไร้พรมแดน” เพื่อผ่าตัดเด็กโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดผู้ยากไร้ ชาวกัมพูชา จำนวน 7ราย โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เพื่อเป็นการสานต่อโครงการ ในการดูแลด้านสุขภาพของประชาชนผู้ด้อยโอกาสของประเทศเพื่อนบ้านให้ได้รับโอกาสมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอีกทั้งยังเพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับกัมพูชาอีกด้วย

หลังจากน้องๆ ทั้ง 7 รายพร้อมด้วยครอบครัว ดำเนินการผ่าตัดเสร็จลุล่วงเป็นที่เรียบร้อย ในระยะ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 22 พ.ย. 2561 ทางบีทีเอส กรุ๊ปฯ เล็งเห็นถึงความสำคัญในเรื่องของการสร้างโอกาสและเปิดโลกทัศน์จึงได้อาสาพาท่องเที่ยวไปยัง ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา (ท้องฟ้าจำลอง) และ Sea Life Bangkok Ocean World ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน ภายใต้กิจกรรม “หนูด่วนชวนน้อง ท่องบีทีเอส”

คุณคชาชาญ มงคลเจริญ ผู้ช่วยประธานกรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เผยว่า กลุ่มบริษัทบีทีเอสเราให้ความสำคัญด้านความรับผิดชอบต่อสังคมมาอย่างต่อเนื่องทั้งด้านส่งเสริมคุณภาพชีวิตการพัฒนาชุมชนสร้างโอกาสในเรื่องของภาคการศึกษา สุขภาพ และผู้ด้อยโอกาส ผ่านการจัดทำโครงการ CSR ต่างๆที่เข้ามาเติมเต็มให้กับเยาวชน อาทิ โครงการคลินิกลอยฟ้า โครงการสถานีส่งความสุข จากชาวบีทีเอส กรุ๊ปฯ และการมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนโครงการประชารัฐอาทิ สนับสนุนการจัดทำลานตะวันยิ้ม สวนลุมพินี เพื่อเป็นศูนย์กลางด้านการสร้างสุขภาพที่ดีของประชาชนชาวไทย

สำหรับกิจกรรมหนูด่วนชวนน้อง ท่องบีทีเอสจัดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2556โดยปักหมุดการดำเนินการเพื่อให้น้องๆ ได้เปิดโลกทัศน์ เชื่อมโยงโอกาสให้กับเยาวชนได้เข้ามานั่งรถไฟฟ้าเพื่อท่องเที่ยวและชมภาพของการพัฒนาในชุมชนเมือง ซึ่งจากการสอบถามความรู้สึกของน้องๆ ทั้ง 7 ราย ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า รู้สึกดีใจและประทับใจกับการท่องเที่ยวในวันนี้ โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานของไทยมีความทันสมัยและสวยงาม

ขณะที่ทางผู้ปกครองของครอบครัว คุณเซิกและคุณเพ ผู้ปกครองของน้องไต เผยว่า โครงการหัวใจไร้พรมแดนได้ให้ชีวิตใหม่กับลูกของตน รวมทั้งยังเสริมสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับครอบครัวในการนั่งรถไฟฟ้าบีทีเอสชมเมือง โดยความเห็นดังกล่าวสอดรับกับความเห็นของ ครอบครัว คุณโบรัชและคุณซกเลี้ยง ผู้ปกครองของน้องโนเรน ซึ่งเผยว่า การผ่าตัดหัวใจในครั้งนี้ช่วยทำให้ลูกของตนกลับมามีความสุขอีกครั้ง รวมทั้งการเดินทางท่องเที่ยวด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอสเป็นโอกาสที่ดีและเป็นความทรงจำที่ไม่อาจลืมเลือน

“ความร่วมมือระหว่างโครงการหัวใจไร้พรมแดน และ โครงการสถานี ส่งความสุขจากชาวบีทีเอส กรุ๊ปฯ จะดำเนินการอย่างตือเนื่องเพื่อให้น้องๆผู้ซึ่งถือเป็นอนาคตของชาติและภูมิภาคอาเซียนได้มีคุณภาพชีวิที่ดีขึ้น สุขภาพแข็งแรง และยังได้เปิดโลกทัศน์สู่การเรียนรู้สิ่งใหม่ๆนอกห้องเรียน อันนำมาสู่การกลับไปพัฒนาตัวเอง สังคม ประเทศชาติและภูมิภาคอาเซียนต่อไป” คุณคชาชาญกล่าวทิ้งท้าย
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42702
Location: NECTEC

PostPosted: 27/12/2018 12:08 am    Post subject: Reply with quote

“รถไฟฟ้าบีทีเอส” มอบของขวัญปีใหม่คนกรุงเปิดบริการฟรีอินเตอร์เน็ต 30 สถานี
พร็อพเพอร์ตี้

วันพุธที่ 26 ธันวาคม 2561 เวลา 19:11 น.

บีทีเอสเปิดใช้ไวไฟฟรี 30 สถานี เป็นของขวัญปีใหม่
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 26 ธันวาคม 2561 เวลา 20:22
ปรับปรุง: 27 ธันวาคม 2561 เวลา 10:21


นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้าบีทีเอส แจ้งว่า ในปี 2561 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ปรับเปลี่ยนการบริการ เพื่อเข้าสู่ยุคสังคมปลอดเงินสดหรือ Cashless Society โดยนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ในการให้บริการ ปรับเปลี่ยน เครื่องจำหน่ายตั๋วโดยสารแบบเที่ยวเดียวให้เป็นแบบจอสัมผัส (Touch Screen) ทั้งระบบ รวม 250 ตู้

และเพิ่มตู้จำหน่ายตั๋วที่สามารถใช้ธนบัตรจ่ายอีก 50 ตู้ และที่สำคัญบริษัทฯ ได้ ร่วมกับ แรบบิทไลน์เพย์ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) พัฒนาให้สามารถนำระบบคิวอาร์โค้ดเพย์เมนท์ มาใช้ในการจำหน่ายตั๋วโดยสารเที่ยวเดียว

ซึ่งสามารถจ่ายได้ทั้งแรบบิทไลน์เพย์ และผ่านแอปโมบายล์แบงก์กิ้งทุกธนาคาร พร้อมเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้โดยสารยิ่งขึ้นผ่าน ระบบ แรบบิท – ไลน์เพย์ ให้ผู้โดยสารสามารถชำระเงิน ผ่านมือถือ ไม่ว่าจะเป็นการเติมเงิน ซื้อเที่ยวเดินทาง หรือเช็คยอดเงินคงเหลือ ได้อย่างสะดวกสบายด้วยตนเอง

เพื่อเป็นการรองรับจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งมียอดผู้โดยสารสูงสุดถึง 920,343 เที่ยวคนต่อวัน และรองรับการใช้งานในส่วนต่อขยายสายสีเขียวช่วงแบริ่ง – สมุทรปราการ และส่วนต่อขยายสายสีเขียว ช่วงหมอชิต – คูคต ในอนาคตอีกด้วย

โดยเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม ที่ผ่านมา กรุงเทพมหานคร ได้เปิดทดลองให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงแบริ่ง – สมุทรปราการ จำนวน 9 สถานี ซึ่งประกอบด้วย สถานีสำโรง สถานีปู่เจ้าฯ สถานีช้างเอราวัณ สถานีโรงเรียนนายเรือ สถานีปากน้ำ สถานีศรีนครินทร์ สถานีแพรกษา สถานีสายลวด และสถานีเคหะฯ จึงทำให้รถไฟฟ้าบีทีเอสมีสถานีให้บริการทั้งสิ้น 43 สถานี และมีระยะทางรวมทั้งสิ้น 46 กม. บริษัทฯ ได้นำขบวนรถไฟฟ้าใหม่ ที่ทยอยเดินทางมาถึงประเทศไทยตั้งแต่เดือนสิงหาคม ออกให้บริการแก่ประชาชน

ซึ่งเป็นขบวนรถไฟฟ้าในจำนวนทั้งหมด 22 ขบวน ที่บริษัทฯ ได้ลงนามในสัญญาจัดซื้อจาก บริษัท ซีเมนส์ จำกัด จะทยอยเข้ามาจนครบ 22 ขบวน ในช่วงต้นปี 2562 โดยรถไฟฟ้าขบวนใหม่นี้ มีการปรับรูปโฉมให้ดูโฉบเฉี่ยวทันสมัยมากขึ้น รวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกภายในขบวนรถที่ช่วยประหยัดพลังงาน และมีพื้นที่จุผู้โดยสารได้ มากขึ้น เพื่อสามารถตอบสนองความต้องการของประชาชน

ส่วนความคืบหน้าส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต -สะพานใหม่ – คูคตนั้น คาดว่า โครงสร้างพื้นฐานดังกล่าวจะดำเนินการก่อสร้างเสร็จเรียบร้อย ทั้งหมดภายในปี 2562 และหลังจากนั้นจะเป็นช่วงของการดำเนินการติดตั้งระบบไฟฟ้าและเครื่องกลโดยจะทยอย เข้าทำงานตามส่วนที่แล้วเสร็จก่อน

ซึ่งบริษัทฯ จะเป็นผู้ให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงในส่วนต่อขยายนี้ และได้มีการสั่งซื้อขบวนรถไฟฟ้าจากบริษัท ซีอาร์อาร์ซี ฉางชุน เรลเวย์ เวฮิเคิล จำกัด จำนวน 24 ขบวน เพื่อรองรับส่วนต่อขยายนี้ โดยบริษัทฯ คาดว่าจะเปิดให้บริการแก่ประชาชนเป็นสถานีแรก คือ สถานีห้าแยกลาดพร้าว ช่วงประมาณกลางปี 2562 ที่จะถึงนี้

นายสุรพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ ได้มอบของขวัญปีใหม่ 2562 โดยบริษัทฯ ร่วมกับ บมจ. เอแอลที เทเลคอม (ALT) ติดตั้ง WIFI BTS Xpress เพื่อให้บริการฟรีอินเทอร์เน็ตไร้สาย (Free Wi-Fi) แก่ผู้ใช้บริการทุกพื้นที่บนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส 30 สถานี ยกเว้น ส่วนต่อขยายสายสุขุมวิท ช่วงสถานีสำโรง – สถานีเคหะฯ และส่วนต่อขยายสายสีลม ช่วงสถานีวงเวียนไหญ่ – สถานีบางหว้า เพื่อมอบเป็นของขวัญให้แก่ผู้โดยสารถไฟฟ้าบีทีเอส ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2562

ในปีหน้านี้ ประมาณกลางเดือนมกราคม บริษัท ฯ จะเริ่มดำเนินการติดตั้งประตูกั้นชานชาลา เพิ่มอีก 2 สถานี ได้แก่ สถานีสุรศักดิ์ และสถานีทองหล่อ ซึ่งเป็นสถานีที่ผู้โดยสารใช้บริการเป็นจำนวนมาก

จากเดิม ติดตั้งที่ สถานีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ สถานีพญาไท สถานีสยาม สถานีชิดลม สถานีอโศก สถานีพร้อมพงษ์ สถานีอ่อนนุช สถานีศาลาแดง และสถานีช่องนนทรี ทั้งนี้ในเส้นทางส่วนต่อขยายช่วงสถานีสำโรง – สถานีเคหะฯ ได้มีการติดตั้งประตูกั้นชานชาลา เสร็จสิ้นทุกสถานีแล้ว และในอนาคตบริษัทฯ จะทยอยติดตั้งให้ครบทุกสถานี รวมทั้งส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต – คูคต อีกด้วย
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> รถไฟฟ้า (BTS) และรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 83, 84, 85 ... 155, 156, 157  Next
Page 84 of 157

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©