View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42636
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44336
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 16/10/2018 10:24 am Post subject: |
|
|
หนังสือจากสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ อธิบดีกรมแผนที่ เรื่องเส้นทางรถไฟตั้งแต่เมืองสงขลาไปถึงเมืองกูลิม ใน เคดาห์ หรือไทรบุรี ร.ศ. ๑๐๙ พ.ศ. ๒๔๓๔ ภาพจากหอจดหมายเหตุแห่งชาติ
ลงพิมพ์ในหนังสือ สมุดภาพสงขลา มหาวชิราวุธ พ.ศ.2558
สมุดภาพสงขลา มหาวชิราวุธ พ.ศ.2558
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42636
Location: NECTEC
|
Posted: 22/10/2018 12:36 am Post subject: |
|
|
สำรวจเส้นทางรถไฟสายมรณะ-เพื่อให้เรื่องราวของแรงงานเอเชียถูกมองเห็นอีกครั้ง
Submitted on 19 ตุลาคม พ.ศ. 2561 19:16
ในโอกาส 75 ปีการก่อสร้างทางรถไฟไทย-พม่าหรือ 'ทางรถไฟสายมรณะ' เสร็จสมบูรณ์ ญาติมิตรของแรงงานเหล่านั้นได้สำรวจร่องรอยของเส้นทางรถไฟจากบ้านโป่งไปจนถึงด่านเจดีย์สามองค์ ชายแดนไทย-พม่า รวมทั้งประกอบพิธีทางศาสนาแบบฮินดูที่ริมแม่น้ำแควใหญ่ ให้กับดวงวิญญาณของแรงงานก่อสร้างทางรถไฟที่ไม่มีโอกาสได้กลับภูมิลำเนาอีกเลย โดยทางคณะเพิ่งทางรถไฟจากสถานีรถไฟ จ.ราชบุรี และเพิ่งกลับถึงชายแดนไทย-มาเลเซียที่ด่านปาดังเบซาร์ในวันศุกร์นี้
พ. จันทราเสคาราน ประธานกลุ่มศึกษาทางรถไฟสายมรณะ (DRIG) ให้สัมภาษณ์ถึงการเยือนในโอกาสครบรอบ 75 ปีการก่อสร้างทางรถไฟไทย-พม่า หรือ 'ทางรถไฟสายมรณะ' โดยเรียกร้องให้ทางการไทยสร้างความรับรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับแรงงานชาวเอเชียที่ถูกเกณฑ์มาสร้างทางรถไฟไทย-พม่าความยาวกว่า 415 กม. ซึ่งมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากทั้งแรงงานเชลยศึกสัมพันธมิตรและแรงงานชาวเอเชียจากประเทศต่างๆ
ตามที่มีข่าวกลุ่มศึกษาทางรถไฟสายมรณะ (Death Railway Interest Group-DRIG) องค์กรภาคประชาสังคมที่มุ่งบันทึก นำเสนอเรื่องความทรงจำของคนงานชาวมาเลเซียที่มาสร้างทางรถไฟได้ ได้นำคณะญาติคนงานสร้างทางรถไฟไทย-พม่า มาย้อนรอยและจดจำประวัติศาสตร์ที่ถูกลืม โดยผู้ร่วมเดินทางประกอบด้วชาวมาเลเซีย อินเดีย ญี่ปุ่นและไทย รวม 13 คน ซึ่งออกเดินทางมาจากมาเลเซียตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค. และเริ่มเยือนสถานีรถไฟบ้านโป่ง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เมื่อ 14 ต.ค. และเริ่มเยือน จ.กาญจนบุรีในวันที่ 15 ต.ค. นั้น (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)
ญาติมิตรแรงงานเอเชียสำรวจเส้นทางรถไฟสายมรณะจนถึงชายแดนไทย-พม่า
คณะผู้ร่วมเดินทางส่วนหนึ่ง ที่เดินทางมารำลึก 75 ปีการก่อสร้างทางรถไฟสายมรณะ ถ่ายรูปร่วมกันที่สถานีรถไฟบ้านโป่ง จ.ราชบุรี เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2561 โดยที่บ้านโป่งเป็นจุดแรกๆ ที่แรงงานเอเชียและเชลยศึกสัมพันธมิตรเดินทางมาถึงเพื่อเตรียมสร้างทางรถไฟเชื่อมต่อกับพม่า (ที่มา: DRIG)
แรงงานเชื้อสายทมิฬรวมตัวกันในแคมป์พัก หลังทราบถึงการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ในปี 2488 ส่วนทหารญี่ปุ่นที่อยู่ด้านหน้าของภาพที่เคยเป็นเจ้าหน้าที่ รปภ. ของสถานีรถไฟ บัดนี้ถูกควบคุมตัวโดยฝ่ายสัมพันธมิตรแทน อย่างไรก็ตามหลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 แรงงานสร้างทางรถไฟชาวเอเชียเหล่านี้ก็มักจะอยู่ท้ายแถวเสมอเวลาต้องรับอาหารและยารักษาโรค ขณะที่เจ้าอาณานิคมให้ความสำคัญในการพาเชลยทหารสัมพันธมิตรเดินทางกลับบ้านเป็นลำดับแรกๆ ก่อน (ที่มา: anzacportal.dva.gov.au)
สถูปใหญ่บรรจุกระดูกของแรงงานชาวเอเชียที่เสียชีวิตในช่วงก่อสร้างทางรถไฟ ที่สุสานของวัดถาวรวราราม อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับสุสานดอนรัก ที่เป็นที่ฝังศพเชลยสัมพันธมิตร (ที่มา: ประชาไท/แฟ้มภาพ/เมษายน 2557)
อนุสรณ์สถานที่ฝ่ายญี่ปุ่นสร้างไว้ใกล้กับสะพานข้ามแม่น้ำแคว เมื่อกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2487 โดยรอบอนุสรณ์สถานมีข้อความจารึกเป็นภาษาต่างๆ ที่เป็นภาษาของแรงงานชาวเอเชียทั้งภาษาจีน ภาษาเวียดนาม ภาษาทมิฬ และภาษามลายู เป็นต้น (ที่มา: ประชาไท/แฟ้มภาพ/มีนาคม 2558)
ต่อมาวันที่ 15 ต.ค. ทางคณะได้เดินทางด้วยรถไฟจากสถานีรถไฟสะพานข้ามแม่น้ำแควใหญ่ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ไปถึงสถานีรถไฟน้ำตกที่ อ.ไทรโยค ซึ่งปัจจุบันเป็นสถานีสุดท้ายของทางรถไฟสายมรณะที่เปิดใช้งาน ก่อนเดินทางด้วยรถยนต์ไปยัง อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
และในวันที่ 16 ต.ค. ได้สำรวจสภาพเส้นทางรถไฟสายมรณะที่เหลืออยู่ โดยเริ่มจากสถานีด่านเจดีย์สามองค์ ชายแดนไทย-พม่า และเดินทางย้อนกลับมาที่สถานีรถไฟซองกาเลีย เพื่อสำรวจส่วนที่เหลือของสะพานคอนกรีตข้ามห้วยซองกาเลีย ซึ่งเคยใช้เป็นสะพานชั่วคราวในช่วงก่อสร้างทางรถไฟสายมรณะ นอกจากนี้ได้แวะสำรวจบริเวณสะพานรันตี บนทางหลวงหมายเลข 323 ซึ่งใกล้กับสถานีรถไฟนิเกะ จมอยู่ใต้ระดับน้ำของเขื่อนวชิราลงกรณ์
อย่างไรก็ตามทางคณะไม่ได้ไปบริเวณสถานีรถไฟแก่งคอยท่า ซึ่งเป็นสถานที่ประกอบพิธีเปิดการเชื่อมต่อรถไฟไทย-พม่าเมื่อ 75 ปีที่แล้ว เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของ ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี นั้นที่ตั้งปัจจุบันอยู่ห่างจากทางหลวงรวมทั้งชุมชน อีกทั้งยังจมอยู่ใต้ระดับน้ำของเขื่อน
ชาวญี่ปุ่นในไทยทำบุญรำลึกถึงผู้เสียชีวิตจากการสร้างทางรถไฟสายมรณะ, 7 มีนาคม 2559
แรงงานผู้รอดชีวิตจากการสร้างทางรถไฟสายมรณะฉลองวันเกิดครบ 100 ปี, 12 เมษายน 2560
75 ปีทางรถไฟสายมรณะ-ญาติแรงงานชาวเอเชียหวังให้ในบันทึกไม่ได้มีแค่ฝ่ายตะวันตก, 16 ตุลาคม 2561
เยี่ยมลูกชายอดีตแรงงานก่อสร้างทางรถไฟสายมรณะ
โดยในช่วงเย็นวันที่ 16 ต.ค. ทางคณะมาถึง ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี และยังได้พบกับสมจันทร์ ชาละวันกุมภี วัย 53 ปี บุตรชายของอยู่ ชาละวันกุมภี หรือลุงอยู่ อดีตแรงงานก่อสร้างทางรถไฟสายมรณะสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งถูกทหารญี่ปุ่นใช้วิธีเกณฑ์คนหนุ่มมาจากเมืองโกตาบารู รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซียตั้งแต่อายุ 15 ปี ด้วย โดยหลังสงคราม ลุงอยู่ตัดสินใจอาศัยและมีครอบครัวอยู่ในประเทศไทย และเพิ่งเสียชีวิตไปไม่กี่ปีมานี้
ทั้งนี้จันทราเสคารานกล่าวถึงการได้มีโอกาสพบกับทายาทของแรงงานก่อสร้างทางรถไฟสายมรณะอีกครั้งว่า "เป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาด ไม่ใช่ดีใจหรือเสียใจ พอดีผมพูดภาษาไทยไม่ได้ ส่วนเขาก็พูดภาษามลายูไม่ได้ ต้องสื่อสารกันผ่านล่าม" ขณะที่สมจันทร์จะทำบุญกระดูกอุทิศส่วนกุศลให้กับบิดาในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้้ด้วย
ค.คณะปติ (K. Kanapathy) อายุ 71 ปี ชาวมาเลเซียเชื้อสายทมิฬ จากพอร์ต ดิกสัน รัฐเนกรีเซมบิลัน ประเทศมาเลเซีย ให้สัมภาษณ์ด้วยว่าพ่อและแม่ของเขาถูกเกณฑ์มาจากบริติชมลายาเพื่อมาก่อสร้างทางรถไฟสายมรณะ ต่อมาลุงกับป้าของเขาที่เดินทางมาด้วยได้เสียชีวิตระหว่างที่มาทำงาน โดยหลายปีต่อมาหลังสิ้นสุดสงคราม แม่ได้คลอดเขาที่บริติชมลายา
คณะปติกล่าวว่าเมื่อเขาโตขึ้น เคยเดินทางมาประเทศไทยหลายครั้งแต่ก็มาเฉพาะกรุงเทพฯ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้กลับมารำลึกเส้นทางรถไฟสายมรณะที่เกี่ยวข้องกับสมาชิกในครอบครัวของเขา โดยในครอบครัวยังคงเก็บธนบัตรญี่ปุ่นที่มีการพิมพ์ใช้ในสมัยสงครามอีกด้วย
เยือนพิพิธภัณฑ์ที่กาญจนบุรีและประกอบพิธีทางศาสนาให้ผู้เสียชีวิต
สำหรับกำหนดการในช่วงท้ายของการเยือนนั้น ในวันที่ 17 ต.ค. ทางคณะได้เยือนพิพิธภัณฑ์ทางรถไฟสายมรณะในตัวเมือง จ.กาญจนบุรี รวมทั้งสุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก และในวันที่ 18 ต.ค. ทางคณะได้ทำพิธีทางศาสนาฮินดูที่ริมแม่น้ำ บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำแควใหญ่ ให้กับแรงงานผู้เสียชีวิตจากการก่อสร้างทางรถไฟสายมรณะและไม่มีโอกาสได้กลับภูมิลำเนาหลังสงครามสิ้นสุด โดยจันทราเสคารานอธิบายด้วยว่าพิธีที่ประกอบนั้นเป็นพิธีทางศาสนาฮินดูที่แต่เดิมประกอบที่แม่น้ำคงคาให้กับผู้เสียชีวิต
โดยทางคณะได้เดินทางกลับโดยรถไฟขบวน 31 จากสถานีรถไฟ จ.ราชบุรี ในช่วงเย็นวันที่ 18 ต.ค. ไปยังสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ จ.สงขลา ก่อนเดินทางพรมแดนมาเลเซียที่ด่านปาดังเบซาร์ในวันนี้ (19 ต.ค.)
อนึ่งทางกลุ่ม DRIG ได้เผยแพร่แถลงการณ์ในโอกาสครบรอบ 75 ปีการก่อสร้างทางรถไฟสายมรณะ โดยเรียกร้องให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเห็นถึงความจำเป็นในการมีอนุสรณ์สถานและศูนย์ข้อมูลที่เป็นกิจจะลักษณะที่จะทำให้แรงงานชาวเอเชียถูกมองเห็น แม้เวลาจะผ่านมาเนิ่นนาน แต่ทางกลุ่มก็ยังหวังว่าจะได้เห็นข้อเรียกร้องเป็นจริงในขณะที่เหล่าแรงงานผู้รอดชีวิตที่ยังเหลือเป็นกลุ่มสุดท้ายยังไม่จากไป |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44336
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 29/10/2018 8:32 pm Post subject: |
|
|
ภาพยนตร์ ภารกิจจอมพล ป. ปี 2498 จากหอภาพยนตร์แห่งชาติ
น่าสนใจครับ
ไม่มีเผยแพร่ออนไลน์ ต้องไปขอสำเนาที่หอภาพยนตร์แห่งชาติ
http://164.115.22.43/library/mylib/bookdetail.php?book_id=10584&fbclid=IwAR0d7BUBZFeGsvRvc8FQsPAQyrLCzmEOoLcWJOe7x3DDee-IouNC62Qrn24
http://164.115.22.43/library/library/shared/biblio_view_sbs.php?bibid=10584&rnd=13782
--------------------------
รายการข้อมูล:
ประเภททรัพยากรสารสนเทศ: สื่อโสตทัศน์
สถานที่จัดเก็บ: ชั้นโสตทัศนวัสดุ
เลขเรียกหนังสือ: D2-05080
245 ชื่อเรื่อง: ภารกิจจอมพล ป. ปี 2498
100 ผู้แต่ง(บุคคล):
ภารกิจจอมพล ป. ปี 2498
รายการข้อมูลอย่างละเอียด:
Title: ภารกิจจอมพล ป. ปี 2498
Subject: ภาพยนตร์สารคดี
Subject: แปลก พิบูลสงคราม, จอมพล
Subject: ละเอียด พิบูลสงคราม, ท่านผู้หญิง
Synopsis: จอมพลป.พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีและท่านผู้หญิงละเอียด พิบูลสงคราม ภริยาเดินทางไปยังจังหวัดภูเก็ตโดยทางเรือ เมื่อขึ้นจากเรือที่ท่าฉัตรไชยแล้วนายมงคล สุภาพงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดให้การต้อนรับ จากนั้นเดินทางโดยแพข้ามฟากไปยังอีกฝั่งหนึ่ง เมื่อเดินทางถึงมีราษฎรมาให้การต้อนรับ นายกรัฐมนตรีได้พูดคุยสนทนากับราษฎรอย่างใกล้ชิดแล้วเดินทางกลับมาขึ้นฝั่ง มีข้าราชการและประชาชนมาให้การต้อนรับเป็นจำนวนมากนายกรัฐมนตรีได้กล่าวปราศัยกับผู้ที่มาให้การต้อนรับแล้วตัวแทนราษฎรกล่าวต้อนรับแล้วนายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางต่อไปยังโรงเรียนการช่างสตรีตรัง นายกรัฐมนตรีกล่าวปราศัยต่อผู้ที่มาต้อนรับแล้วนายกสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิง จังหวัดตรังกล่าวต้อนรับแล้วภริยานายกรัฐมนตรีกล่าวตอบแล้วนายกรัฐมนตรีทำพิธีเปิดแพรคลุมป้ายชื่อสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิง จังหวัดตรังแล้วนายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางต่อไปยังอำเภอกันตัง เมื่อเดินทางถึงนายอำเภอกันตังให้การต้อนรับแล้วนายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางไปเยี่ยมด่านศุลกากรกันตัง เยี่ยมชมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่และประชาชนที่อาศัยอยู่ที่นั้นแล้วไปวางพวงมาลาอนุสาวรีย์พระยารัษฎานุประดิษฐ์ฯ (คอซิมบี้ ณ ระนอง) อดีตเจ้าเมืองตรังแล้วเดินทางต่อไปยังโรงพยาบาลตรัง เยี่ยมชมตึกคนไข้นอกแล้วทักทายเจ้าหน้าที่และถ่ายรูปเป็นที่ระลึกร่วมกันแล้วเดินทางต่อไปยังวัดท่าแคมีนักเรียนมารอให้การต้อนรับเป็นจำนวนมาก หลังจากทักทายนักเรียนและลูกเสือแล้วนายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางต่อไปยังอำเภอรัตตภูมิ จังหวัดสงขลา เมื่อถึงที่ว่าการอำเภอรัตตภูมิมีข้าราชการและประชาชนมารอให้การต้อนรับเป็นจำนวนมาก นายกรัฐมนตรีและท่านผู้หญิงได้ทักทายข้าราชการและประชาชนที่มารอต้อนรับอย่างอบอุ่นแล้วไปเยี่ยมบ้านประชาชนพร้อมพูดคุยสนทนาด้วยอย่างเป็นกันเองและตรวจเยี่ยมแถวลูกเสือและข้าราชการที่มารอต้อนรับอยู่ด้วยแล้วเดินทางต่อไปยังจังหวัดสตูล มีข้าราชการและประชาชนมารอต้อนรับอยู่เป็นจำนวนมาก นายกรัฐมนตรีได้ทำพิธีเปิดสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิง จังหวัดสตูลแล้วนายกรัฐมนตรีได้กล่าวปราศัยกับผู้มาร่วมในพิธี จอมพลป.พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีและท่านผู้หญิงละเอียด พิบูลสงคราม ภริยา เดินทางไปเป็นประธานในพิธีเปิดอาคารที่ว่าการภาค 9 ศาลากลางจังหวัดสงขลา มีพล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ อธิบดีกรมตำรวจร่วมในพิธีด้วย เมื่อประธานในพิธีจุดธูปเทียนสักการะบูชาพระรัตนตรัยแล้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลากล่าวรายงานแล้วนายกรัฐมนตรีกล่าวตอบแล้วทำพิธีกดปุ่มเปิดแพรคลุมป้ายชื่อ ที่ว่าการภาค 9 ศาลากลางจังหวัดสงขลาแล้วกล่าวปราศัยต่อผู้ที่มาร่วมในพิธีแล้วปลูกต้นไม้เป็นที่ระลึก จากนั้นเดินทางต่อไปยังสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิง จังหวัดสงขลา
นายกสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิง จังหวัดสงขลากล่าวรายงานแล้วท่านผู้หญิงละเอียด พิบูลสงครามกล่าวตอบแล้วนายกรัฐมนตรีกล่าวปราศัยแล้วถ่ายภาพเป็นที่ระลึกและรับประทานอาหารร่วมกันแล้วแวะทักทายนักเรียนและประชาชนที่มารอต้อนรับแล้วเดินทางไปขึ้นรถไฟที่สถานีรถไฟสงขลาถึงสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่แวะทักทายประชาชนที่รอต้อนรับแล้วเดินทางต่อไปถึงสถานีรถไฟนาม่วงเดินทางต่อไปถึงสถานีรถไฟจะนะหยุดแวะลงทักทายประชาชนซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมมารอต้อนรับอยู่เป้นจำนวนมากแล้วดินทางต่อไปถึงสถานีรถไฟเทพาแวะลงทักทายประชาชนที่มารอต้อนรับแล้วเดินทางโดยรถยนต์ไปยังโรงเรียนมีคณะครู นักเรียนและประชาชนมารอต้อนรับอยู่เป็นจำนวนมาก จากนั้นเดินทางต่อไปยังค่ายตำรวจตระเวนชายแดน ผู้บังคับการค่ายกล่าวรายงานแล้วนายกรัฐมนตรีกล่าวปราศัยแล้วตรวจแถวตำรวจตระเวนชายแดนแล้วมอบของที่ระลึกให้แก่ผู้บังคับการค่ายแล้วเดินทางต่อไป นายกรัฐมนตรีกล่าวปราศัยกับข้าราชการที่มาต้อนรับแล้วเดินทางต่อไป ทักทายและถ่ายภาพเป็นที่ระลึกร่วมกับผู้ที่มาต้อนรับแล้วเดินทางต่อไปยังอำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานีเยี่ยมเยียนบ้านเรือนราษฎรแล้วเดินทางไปยังโรงเรียนยะรัง "บริรักษ์บำรุงราษฎร์" คณะครู ข้าราชการและราษฎรให้การต้อนรับแล้วไปชมการทำขนมของราษฎร ซื้อขนมแจกเด็กๆ ชมสภาพชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎร เช่น ระบบการประปาแล้วเดินทางไปยังหมู่บ้านในอำเภอสายบุรีแวะเยี่ยมเยียนราษฎรแล้วเดินทางต่อไปถึงอำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานีทักทายกับประชาชนที่มารอต้อนรับแล้วเดินทางไปยังจังหวัดนราธิวาส ถึงโรงเรียนอนุบาลนราธิวาส นายกสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิง จังหวัดนราธิวาสกล่าวรายงานแล้วภริยานายกรัฐมนตรีกล่าวตอบแล้วนายกรัฐมนตรีกล่าวปราศัยแล้วทำพิธีกดปุ่มเปิดแพรคลุมป้ายชื่อ สมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิง จังหวัดนราธิวาสแล้วมอบของที่ระลึกให้แก่นายกสมาคมฯ แล้วนายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณแล้วถ่ายภาพเป็นที่ระลึกร่วมกับสมาชิกสมาคม แล้วเดินทางไปเยี่ยมสุเหร่าผู้แทนชาวมุสลิมมอบของที่ระลึกแก่นายกรัฐมนตรีแล้วเดินทางไปชมบริเวณชายหาดและแม่น้ำบางนราก่อนจะเดินทางต่อไปยังโรงพยาบาลนราธิวาสแล้วเดินทางไปยังสถานีรถไฟตันหยงมัสทักทายกับข้าราชการที่มารอต้อนรับแล้วเดินทางโดยรถไฟไปถึงสถานีรถไฟสุไหง-โกลกแวะทักทายกับประชาชนที่มารอต้อนรับก่อนจะเดินทางโดยรถยนต์ต่อไป
Duration: 42.55 นาที
Sound,Color: เงียบ, สี
Original: ฟิล์ม 16 มม. |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42636
Location: NECTEC
|
Posted: 30/11/2018 6:06 pm Post subject: |
|
|
หนึ่งในแผนพัฒนารถไฟของญี่ปุ่นในช่วงสงครามมหาเอเชียบูรพา
โครงข่ายทางรถไฟหมายเลข 1 (第1縱貫鐵道群) หรือทางรถไฟสายโตเกียว - โชนัน (東京~昭南島間)สายนี้จะเริ่มต้นจากกรุงโตเกียว(東京 ) ไปยังชิโมโนเซกิ(下關) จากนั้นจะข้ามทะเลเหลืองไปที่เมืองปูซาน(釜山) ของเกาหลี ไปถึงเฟิ่งเทียน [มุกเดน] (奉天) หรือเมืองเสิ่นหยาง (沈阳市) ในแมนจูเรีย จากนั้นไปยังนครเทียนจิน(天津) - ปักกิ่ง(北京) - ฮั่นโข่ว(漢口) - เหิงโจว(衡州) - กุ้ยหลิน(桂林) - หลิ่วโจว(柳州) - หนานหนิง(南宁) - ด่านเจิ้นหนานกวน(鎮南關 ชายแดนจีน - เวียดนาม) เข้าสู่ซอมกุก( 村局/Xóm Cục)ในเวียดนาม ถึงเมืองท่าแขก (他曲) ในแขวงคำม่วนของลาว ข้ามมายังฝั่งไทยสู่ อ.กุมภวาปี (公抱哇比 ) จ.อุดรธานี เข้าสู่ทางรถไฟสายตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของไทยถึงกรุงเทพ จากนั้นเข้าสู่ทางรถไฟสายใต้ของไทยจนถึงปาดังเบซาร์(巴东勿刹) สิ้นสุดที่เกาะโชนัน (昭南島) หรือสิงคโปร์ ทั้งนี้ จะมีทางรถไฟแยกจากเทียนจินไปถึงเมืองนานกิง(南京) และเชื่อมทางรถไฟย่อยจากนางาซากิ(长崎市) ถึงเซี่ยงไฮ้(上海市) ด้วย
.... ปรากฎในบันทึกของรถไฟ และฝ่ายไทย ระบุว่า จะมีการทำทางเชื่อม "ค้ำกลิ้ง" อุดรธานี - สกลนคร .....ซึ่งตรงกับช่วงทางรถไฟสายอีสานเหนือ ขอนแก่น - อุดรธานี ที่เปิดใช้งานในวันชาติปี 2484 เป็นต้นมา
https://www.facebook.com/worapong.keddit/posts/2052139428177026
https://www.facebook.com/rach2511/posts/10218093037375573 |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42636
Location: NECTEC
|
Posted: 03/12/2018 6:23 pm Post subject: |
|
|
"รถนอนรุ่นแรก"
ภาพและข้อมูลจากหนังสือ หัวหิน, สนพ. มติชน, 2553
รถไฟโบกี้นั่งและนอน ของใหม่ที่กรมรถไฟหลวงสายใต้สั่งเข้ามาใน พ.ศ. 2465 เพื่อบริการผู้โดยสารที่เดินทางระยะไกลระหว่างกรุงเทพฯ-มลายู ในภาพคือพระองค์เจ้าหญิงจุฑารัตนราชกุมารี พระธิดาในรัชกาลที่ 5 เสด็จมาถึงสถานีรถไฟหัวหิน
ด้านบนโบกี้มีตัวหนังสือกำกับ "รถสำหรับนอน" แต่ในความเป็นจริงบางครั้งเจ้านายที่เสด็จมากับรถไฟในโบกี้ "รถสำหรับนอน" นี้ ไม่ได้หมายความว่าจะทรงเดินทางไกลหรือบรรทมในรถไฟแต่เป็นเพราะโบกี้นี้เป็นรถ "ชั้น 1" จึงเลือกที่จะประทับในรถสำหรับนอนแม้ว่าจะเสด็จมาเพียงหัวหินก็ตาม
https://www.facebook.com/SilpaWattanatham/photos/a.140180076111393/1805589976237053/?type=3&theater |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42636
Location: NECTEC
|
Posted: 04/12/2018 10:55 am Post subject: |
|
|
ภาพอาคารสถานีอุตรดิตถ์ ที่คาร์ล ดอห์ริงค์ สถาปนิกปรัสเซียได้ฝากฝีมือไว้:
"สถานีอุตรดิตถ์"
พ.ศ. 2448 - 2449 ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เตรียมการที่จะสร้างทางรถไฟสายเหนือ ไปเชียงใหม่ และอีกสายหนึ่งจากอุตรดิตถ์ไปบ้านไกร ตำบลท่าเดื่อ ล่องแม่น้ำโขงไปหลวงพระบาง จึงมีการสร้างสถานีรถไฟไว้ที่อุตรดิตถ์เพื่อเตรียมสำหรับสร้างทางรถไฟอีกสายหนึ่งไปบ้านไกร ได้เตรียมถางทาง โค่นต้นไม้ถมดิน ทางรถไฟตรงมาทางหลังวัดท่าถนน ผ่านป่าช้าของวัดท่าถนน (คือสถานีรถไฟอุตรดิตถ์ปัจจุบัน) สร้างมุ่งตรงไปถึงป่าไผ่หนาทึบ (คือที่ตั้งสถานีรถไฟท่าเสาในปัจจุบัน) ตัดผ่านหน้าวัดใหญ่ท่าเสาไปถึงหน้าวัดดอยท่าเสา
ในปี พ.ศ. 2450 ก็ได้วางรถไฟไปตามเส้นทางดังกล่าว ขณะที่ทางการวางรางรถไฟก็มีรถจักรทำงานจูงรถพ่วงที่บรรทุกดิน หินกรวดไปด้วย ประชาชนชาวอุตรดิตถ์ จึงได้เห็นรถไฟที่มาถึงอุตรดิตถ์ในปีนี้ และในปี พ.ศ. 2452 - 2453 ทางการจึงได้จัดการสร้างสถานีรถไฟอุตรดิตถ์ขึ้นในบริเวณที่เป็นป่าช้าหลังวัดท่าถนนซึ่งเป็นสถานีรถไฟอุตรดิตถ์ สถานีรถไฟอุตรดิตถ์แต่เดิมที่สร้างมีลักษณะสถาปัตยกรรมที่เรียกว่า โมเดิร์นสไตล์ หรือจุงเก้นสติล มีป้อมตากอากาศอยู่ตรงกลางสร้างโดยสถาปนิกชาวเยอรมัน ชื่อ คาร์ล ซีกฟรีด เดอห์ริง ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 มีการรื้อป้อมออกแล้วสร้างเป็นหลังคาเพื่อป้องกันการเป็นเป้าโจมตีทางอากาศแต่ภายหลังก็ถูกโจมตีทางอากาศจนเสียหายทั้งหมดในปี 2487
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=2736846472996067&set=a.2155846161096104&type=3&theater
เมืองท่าเดือ แขวงไชยบุรี ตรงข้ามหลวงพระบางตอนนี้มีสะพานแล้วครับ แต่ google map ยังไม่แสดงให้เห็น
https://www.google.co.th/maps/place/Muang+Thadua,+ลาว/@19.4333625,101.8154944,13.5z |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42636
Location: NECTEC
|
Posted: 06/12/2018 10:03 pm Post subject: |
|
|
มีคนถามมากมายถึงเส้นทางรถไฟที่หายสาบสูญ admin ได้ลงสำรวจพบเบาะแสในวัดป่าพูลสิน เขตหนองกินเพล ที่นี้ มีเส้นทางรถไฟที่ยังพอให้เห็น อุโมงน้ำลอดยังคงสมบูรณ์ บรรยากาศร่มรื่นมากครับ แต่ก่อนเคยเป็นเส้นทางขนถ่ายสินค้าขึ้นลงที่นี่ จากรถไฟมาลงเรือ ขนจากเรือขึ้นรถไฟ ไปบ้านสถานีบุ่งหวายแล้วเข้า กทม ส่วนสิ้นค้าจากรถไฟไปขนลงที่บ้านโพธิมูล แล้วลำเลียงไปทางน้ำโดยเรือขนถ่ายสินค้าไปสู่จุดหมาย ปลายทางที่ลูกค้าสั่งซื้อ ขนข้าวสาร ขนฟืนเพื่อเป็นเชื้อเพลิงของรถไฟเอง ฯลฯ เมื่อปี 2523 ยังมีสภาพเป็นทางรถไฟ วิ่งผ่านได้แต่ไม่ใช้ เนื่องจากไม่มีความจำเป็นต้องใช้ฟืนต้ม รถจักรไอน้ำอีกแล้ว เปลี่ยนเป็นรถจักรดีเซลแทนและอีกอย่างได้มีการตัดถนนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ การรถไฟจคงยกเลิกเส้นทางสายนี้ ตัดถนนอุบลฯ/ศรีสะเกษ ตรง หมู่บ้านร่วมสร้าง ข้ามถนนตรงไวด์ฟาร์ม ไปบ้านโพธิมูล ครับผม
https://www.facebook.com/warinzoom/posts/2338851059676484 |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42636
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42636
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
|