RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311235
ทั่วไป:13181286
ทั้งหมด:13492521
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวรถไฟฟ้าสีเขียวเข้ม(หมอชิต-สะพานใหม่) และเขียวอ่อน(แบริ่ง-ปากน้ำ)
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวรถไฟฟ้าสีเขียวเข้ม(หมอชิต-สะพานใหม่) และเขียวอ่อน(แบริ่ง-ปากน้ำ)
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 60, 61, 62 ... 100, 101, 102  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> รถไฟฟ้า (BTS) และรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT)
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42625
Location: NECTEC

PostPosted: 06/12/2018 1:07 pm    Post subject: Reply with quote

ตารางออกรถบัสไปเมืองโบราณ สถานีรถไฟฟ้าเคหะฯ ทุกวันเสาร์ - อาทิตย์ โดยรถจอดที่โรงงานสยามบอลล์สปอร์ต
https://www.facebook.com/muangborantheancientcity/photos/a.713312108776824/1920296241411732/?type=3&theater

เริ่มนั่งกันได้เล้ยยยย วันนี้เที่ยงตรงเป็นต้นไป BTS "สำโรง-เคหะฯ " เปิดให้ทดลองนั่งกันแล้วนะคะ นั่งฟรียาวไปจนถึงเม.ย. ปีหน้าโน้นนน
.
เปิดทดลองใช้แล้วค่ะ รถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย ช่วงสถานีสำโรง-เคหะฯ เริ่มวันพฤหัสบดีที่ 6 ธ.ค. 61 เป็นต้นไป
- เปิดให้ทดลองใช้บริการฟรี! 9 สถานี จนถึง 15 เม.ย. 62
- การเชื่อมต่อกับเส้นทางเดิมจะต้องเปลี่ยนขบวนที่สถานีสำโรง (เบื้องต้นในช่วงทดลองใช้)
- ความถี่ของการให้บริการประมาณ 10 นาทีต่อขบวน (เผื่อเวลาเดินทางด้วยนะคะ)
- ระยะทางประมาณ 13 กิโลเมตร
- ใช้เวลาเดินทางประมาณ 13-15 นาที (9 สถานี)

มาดูบรรยากาศในขบวนรถกันค่ะ ตามมาเลย

https://www.home.co.th/hometips/detail/93923


Last edited by Wisarut on 06/12/2018 5:32 pm; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42625
Location: NECTEC

PostPosted: 06/12/2018 4:38 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
นายกฯ กดปุ่มเดินรถสีเขียวต่อขยาย 9 สถานี-สมุทรปราการ ใข้ฟรี 4 เดือน
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันที่ 6 ธันวาคม 2561 เวลา 10:44


//------------------------------

12.00น. ปชช. เตรียมขึ้นบีทีเอส สำโรง-สมุทรปราการ ฟรี
พฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม 2561 เวลา 10.08 น.



เปิดแล้ว รถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ (วันที่ 6 ธันวาคม 2561 )
https://www.youtube.com/watch?v=F6wIk-tYuug
https://www.youtube.com/watch?v=LqCzNN_m3FQ

สถานีพหลโยธิน 24 (N10) Phaholyothin 24 station
https://www.youtube.com/watch?v=T_gn73bEgw0

ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ นำคณะตรวจเยี่ยมดูความพร้อมพิธีเปิดให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ
ผู้สื่อข่าว : กัญญรัตน์ เกียรติสุภา
ผู้เรียบเรียง : กนกพร ประสงค์
แหล่งที่มา : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรปราการ
5 ธันวาคม 2561

ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ นำคณะตรวจเยี่ยมดูความพร้อมพิธีเปิดทดลองให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง – สมุทรปราการ
นายชาติชาย อุทัยพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมด้วย นายชัยพจน์ จรูญพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ นำคณะข้าราชการ เจ้าหน้าที่ตรวจเยี่ยมดูความพร้อมพิธีเปิดทดลองให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ณ จุดโรงจอดและซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าสมุทรปราการ อำเภอเมืองสมุทรปราการ ซึ่งกรุงเทพมหานคร บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) BTS บริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด ได้กราบเรียนเชิญ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิดทดลองให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ในวันพฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม 2561 เวลา 05.30 น.- 08.00 น.ณ อาคารศูนย์ซ่อมบำรุงรถไฟฟ้า(Depot) อำเภอเมืองสมุทรปราการ

โดยคณะ ฯ ได้ตรวจความพร้อมจุดศูนย์ซ่อมบำรุงรถไฟฟ้า(Depot) อำเภอเมืองสมุทรปราการและจุดสถานีเคหะสมุทรปราการ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่า การตรวจเยี่ยมในครั้งนี้ เนื่องจากจุดเปิดทดลองรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงสถานีสำโรง-สถานีเคหะ ฯ อยู่ในเขตพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ และจะเปิดให้บริการกับประชาชนทดลองใช้ฟรี 4 เดือน เฉพาะส่วนต่อขยายที่อยู่ระหว่างการทดลองเดินรถตั้งแต่สถานีสำโรง- สถานีเคหะสมุทรปราการ และคาดว่าจะเริ่มเก็บค่าโดยสารตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน 2562 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ในส่วนการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้เริ่มการก่อสร้างงานโยธาและงานรางตั้งแต่ต้นปี 2555 จนเสร็จเรียบร้อยประมาณต้นปี 2560 จากนั้นกทม. ได้เริ่มเข้าดำเนินการติดตั้งระบบไฟฟ้าและเครื่องกลเมื่อเดือนต.ค. 2559 และสามารถเปิดเดินรถได้ 1 สถานีที่สถานีสำโรง เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2560 ที่ผ่านมา หลังจากนั้น กทม.ได้ดำเนินการติดตั้งระบบไฟฟ้าและเครื่องกลในส่วนที่เหลือทั้งหมด รวมทั้งได้ทำการทดสอบอุปกรณ์ต่างๆ และทดสอบการเดินรถเสมือนจริงต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าระบบมีความพร้อมและมีความปลอดภัยซึ่งทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

สำหรับสถานีที่อยู่ในจังหวัดสมุทรปราการมีทั้งหมด 9 สถานี ได้แก่
1.สถานีสำโรง
2.สถานีปู่เจ้าสมิงพราย
3.สถานีเอราวัณ
4.สถานีโรงเรียนนายเรือ
5.สถานีสมุทรปราการ
6.สถานีศรีนครินทร์
7.สถานีแพรกษา
8.สถานีสายลวด และ
9.สถานีเคหะสมุทรปราการ

ส่วนศูนย์ซ่อมบำรุง อยู่บนพื้นที่ 123 ไร่หลังสถานีไฟฟ้าย่อยบางปิ้ง ขณะที่อาคารจอดรถจะมี 1 แห่ง ที่บริเวณสถานีปลายทางเคหะสมุทรปราการ ริมถนนสุขุมวิท เนื้อที่ 18 ไร่ สามารถจอดรถได้ทั้งหมด 1,200 คัน

จังหวัดสมุทรปราการ จึงขอเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมต้อนรับนายกรัฐมนตรีและร่วมพิธีเปิดทดลองให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ในวัน พฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม 2561 เวลา 05.30 น.- 08.00 น ณ หน้าอาคารศูนย์ซ่อมบำรุงรถไฟฟ้า ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ สำหรับ การแต่งกายเครื่องแบบกากีคอพับแขนยาว

//------------------------



บีทีเอส เปิดทดลองส่วนต่อขยายแบริ่ง-สมุทรปราการ ประชาชนใช้ฟรี 4 เดือน
ข้อมูลข่าวและที่มา
ผู้สื่อข่าว : ฐิตาวัลย์ ลาภขจรสงวน
ผู้เรียบเรียง : ธนพิชฌน์ แก้วกา
แหล่งที่มา : Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย

พฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม 2561 เวลา 07:54 น.
บีทีเอส เปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย 4 เดือน ตั้งแต่วันนี้ ถึง 15 เมษายน 2562

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิดทดลองให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ที่โรงจอดและซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าสมุทรปราการ เพื่อให้ประชาชนทดลองใช้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเป็นระยะเวลา 4 เดือน ตั้งแต่วันนี้ 6 ธ.ค.2561 จนถึงวันที่ 15 เมษายน 2562 เริ่มให้บริการทุกวันเวลา 06.00 น.-24.00 น. รวมระยะทาง 13 กิโลเมตร ประกอบด้วย 9 สถานี คือ สถานีสำโรง สถานีปู่เจ้า สถานีช้างเอราวัณ สถานีโรงเรียนนายเรือ สถานีปากน้ำ สถานีศรีนครินทร์ สถานีแพรกษา สถานีสายลวด และสถานีเคหะสมุทรปราการ เป็นสถานีปลายทางมีเนื้อที่ประมาณ 8 ไร่ มีอาคารจอดแล้วจรรองรับรถยนต์ได้ประมาณ 1,200 คัน
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลพยายามยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และลดความเหลื่อมล้ำด้วยการพัฒนาระบบขนส่งทางรางและเชื่อมต่อระบบคมนาคม ที่ผ่านมาดำเนินการก่อสร้างรถไฟฟ้า 15 เส้นทาง แล้วเสร็จ 2 เส้นทาง และขยายเส้นทางรถไฟรางคู่และรางเดี่ยว จาก 3,000 กิโลเมตร เป็น 4,000-5,000 กิโลเมตร และมีแผนจะเพิ่มระยะทางให้ได้ 6,000 กิโลเมตร พร้อมกันนี้ยังให้เร่งสร้างความเข้าใจว่าการปฏิรูปคมนาคมไม่ใช่แค่การสร้าง แต่หมายถึงการเชื่อมโยงระบบขนส่งทุกประเภทเข้าด้วยกัน
ทั้งนี้บีทีเอสยังไม่ได้กำหนดอัตราค่าโดยสารของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ตั้งแต่เส้นทางโครงการส่วนแรกในสายสุขุมวิท สายสีลม และส่วนต่อขยาย แต่มีนโยบายจะกำหนดราคาสูงสุดตลอดสายไม่เกิน 65 บาท
หลังเสร็จสิ้นพิธีเปิดทดลองให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ นายกรัฐมนตรี นำร่วมพิธีและสื่อมวลชน โดยสารรถไฟฟ้าจากศูนย์ซ่อมบำรุง ไปยังสถานีเคหะสมุทรปราการ เพื่อเตรียมให้บริการประชาชนเป็นวันแรก เริ่มเวลา 12.00 น.

//-----------------------------------

นายกรัฐมนตรีเปิดทดลองให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงแบริ่ง สมุทรปราการ
ผู้สื่อข่าว : สมุทรปราการ(ส.ปชส.) สมุทรปราการ(ส.ปชส.)
ผู้เรียบเรียง : วรรณวิไล สนิทผล
แหล่งที่มา : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรปราการ

พฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม 2561 เวลา 10:03 น.

นายกรัฐมนตรีเปิดทดลองให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ
การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย เปิดทดลองให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ เพื่อให้ประชาชนเดินทางได้สะดวก รวดเร็ว บรรเทาปัญหาการจราจรในช่วงเร่งด่วน
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิดทดลองให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ณ โรงจอดและซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าสมุทรปราการ จากนั้นนายกรัฐมนตรี นำคณะผู้บริหาร ผู้แทนหน่วยงาน สื่อมวลชน โดยสารรถไฟฟ้าจากศูนย์ซ่อมบำรุง(Depot)ไปยังสถานีเคหะสมุทรปราการ
สำหรับเส้นทางเดินรถไฟฟ้าส่วนต่อสายสีเขียวช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ เป็นโครงการรถไฟฟ้าแบบยกระดับตลอดเส้นทาง โดยเชื่อมต่อจากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสที่สถานีแบริ่ง ไปตามแนวเกาะกลางถนนสุขุมวิท จนถึงสิ้นสุดโครงการฯ บริเวณหน้าสถานีไฟฟ้าย่อยบางปิ้งครอบคลุมพื้นที่ 3 เทศบาลของจังหวัดสมุทรปราการ ระยะทาง 13 กิโลเมตร ประกอบด้วย 9 สถานี ได้แก่
1.สถานีสำโรง (E15)
2.สถานีปู่เจ้าสมิงพราย (E16)
3.สถานีเอราวัณ (E17)
4.สถานีโรงเรียนนายเรือ (E18)
5.สถานีสมุทรปราการ (E19)
6.สถานีศรีนครินทร์ (E20)
7.สถานีแพรกษา (E21)
8.สถานีสายลวด (E22) และ
9.สถานีเคหะสมุทรปราการ (E23)

เพื่อให้ประชาชนเดินทางได้สะดวก รวดเร็ว บรรเทาปัญหาการจราจรในเขตกรุงเทพมหานครและสมุทรปราการ ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น โดยเปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการฟรี 4 เดือน ตั้งแต่วันที่ 6 ธันวาคม 2561 เป็นต้นไป

//---------------------------------------

นายกรัฐมนตรี กดปุ่มเปิดทดลองให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการที่ศูนย์ซ่อมบำรุง(Depot) พร้อมเยี่ยมเยียนประชาชนที่สถานีเคหะ ฯ
ผู้สื่อข่าว : กัญญรัตน์ เกียรติสุภา ผู้เรียบเรียง : วรรณวิไล สนิทผล แหล่งที่มา : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรปราการ
พฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม 2561 เวลา 11:01 น.

นายกรัฐมนตรีกดปุ่มเปิดทดลองให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง – สมุทรปราการ ที่ศูนย์ซ่อมบำรุง(Depot) พร้อมเยี่ยมเยียนประชาชนที่สถานีเคหะฯ

วันนี้ (6 ธ.ค.61) เวลา 07.15 น. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิดทดลองให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ โดยมี พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย นายชาติชาย อุทัยพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ นางศศิวิมล อุทัยพันธ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมด้วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ คณะข้าราชการ เจ้าหน้าที่และสื่อมวลชนร่วมพิธี ณ จุดโรงจอดและซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าสมุทรปราการ อำเภอเมืองสมุทรปราการ
จากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะผู้บริหารส่วนกลางพร้อมคณะผู้บริหารหน่วยงานในจังหวัดสมุทรปราการและสื่อมวลชน ขึ้นรถไฟฟ้าจากศูนย์ซ่อมบำรุง(Depot) ไปยังสถานีเคหะสมุทรปราการ จำนวน 1 สถานี เพื่อชมทัศนียภาพและความพร้อมในด้านต่าง ๆ โดยมีพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดสมุทรปราการกว่า 500 คน ร่วมรอพบนายกรัฐมนตรีที่สถานีแห่งนี้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้พูดคุยและกล่าวถึงการดำเนินการของรัฐบาลที่จะให้ประชาชนได้รับความสะดวกสบายในด้านการจราจรอย่างเป็นระบบ ทั้งรถไฟฟ้า การจราจรทางบกและทางน้ำจะต้องดำเนินการควบคู่กัน ทุกอย่างที่ทำอาจจะเกิดผลกระทบบ้างเป็นธรรมดาแต่ผลดีจะต้องมีมากกว่าประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศต้องได้รับประโยชน์มากที่สุด
สำหรับโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง – สมุทรปราการ การก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้เริ่มการก่อสร้างงานโยธาและงานรางตั้งแต่ต้นปี 2555 จนเสร็จเรียบร้อยประมาณต้นปี 2560 จากนั้น กทม. ได้เริ่มเข้าดำเนินการติดตั้งระบบไฟฟ้าและเครื่องกลเมื่อเดือนตุลาคม 2559 และสามารถเปิดเดินรถได้ 1 สถานีที่สถานีสำโรง เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2560 ที่ผ่านมา หลังจากนั้น กทม.ได้ดำเนินการติดตั้งระบบไฟฟ้าและเครื่องกลในส่วนที่เหลือทั้งหมด รวมทั้งได้ทำการทดสอบอุปกรณ์ต่างๆ และทดสอบการเดินรถเสมือนจริงอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าระบบมีความพร้อมและมีความปลอดภัยซึ่งทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ในส่วนของโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง – สมุทรปราการ เป็นโครงการรถไฟฟ้าแบบยกระดับตลอดเส้นทาง ระยะทาง 13 กม. จำนวน 9 สถานี ประกอบด้วย

1.สถานีสำโรง (E15)
2.สถานีปู่เจ้าสมิงพราย (E16)
3.สถานีเอราวัณ (E17)
4.สถานีโรงเรียนนายเรือ (E18)
5.สถานีสมุทรปราการ (E19)
6.สถานีศรีนครินทร์ (E20)
7.สถานีแพรกษา (E21)
8.สถานีสายลวด (E22) และ
9.สถานีเคหะสมุทรปราการ (E23)

ส่วนศูนย์ซ่อมบำรุง อยู่บนพื้นที่ 123 ไร่หลังสถานีไฟฟ้าย่อยบางปิ้ง ในพื้นที่ประกอบด้วย อาคารบริหารและศูนย์ควบคุมการปฏิบัติการเดินรถ อาคารซ่อมบำรุงหลัก อาคารจอดรถไฟฟ้า รางทดสอบและอาคารประกอบอื่น ๆ ขณะที่อาคารจอดรถจะมี 1 แห่ง ที่บริเวณสถานีปลายทางเคหะฯ ริมถนนสุขุมวิท เนื้อที่ 18 ไร่ สามารถจอดรถได้ทั้งหมด 1,200 คัน
ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครได้ทดลองเปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการฟรี 4 เดือน เฉพาะส่วนต่อขยายที่อยู่ระหว่างการทดลองเดินรถตั้งแต่สถานีสำโรง- สถานีเคหะสมุทรปราการ ตั้งแต่ 6 ธันวาคม 2561 - 16 เมษายน 2562 ระหว่างเวลา 06.00 น.- 24.00 น. พร้อมกำหนดค่าโดยสารสูงสุดไม่เกิน 65 บาทตลอดเส้นทาง ซึ่งต้องได้ข้อสรุปก่อนเปิดเดินรถจริงในเดือนเมษายน 2562
ข้อมูลข่าวและที่มา
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42625
Location: NECTEC

PostPosted: 06/12/2018 6:10 pm    Post subject: Reply with quote

นายกรัฐมนตรีกดปุ่มเปิดทดลองให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ
บริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด

วันที่ 6 ธันวาคม 2561 เวลา 10:00

(6 ธ.ค.61) เวลา 07.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิดทดลองให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ โดยมี พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย คณะผู้บริหารจังหวัดสมุทรปราการ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และสื่อมวลชน ร่วมพิธี ณ โรงจอดและซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าสมุทรปราการ จากนั้นเวลา 07.30 น. นายกรัฐมนตรี นำคณะผู้บริหาร ผู้แทนหน่วยงาน และสื่อมวลชน โดยสารรถไฟฟ้าจากศูนย์ซ่อมบำรุง (Depot) ไปยังสถานีเคหะสมุทรปราการ

โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ เป็นโครงการรถไฟฟ้าแบบยกระดับตลอดเส้นทาง ระยะทาง 13 กม. จำนวน 9 สถานี ประกอบด้วย สถานีสำโรง E15 สถานีปู่เจ้า E16 สถานีช้างเอราวัณ E17 สถานีโรงเรียนนายเรือ E18 สถานีปากน้ำ E19 สถานีศรีนครินทร์ E20 สถานีแพรกษา E21 สถานีสายลวด E22 และสถานีเคหะฯ E23 เป็นระบบรถไฟฟ้าขนาดใหญ่ แนวเส้นทางเริ่มต้นต่อเนื่องจากแนวเส้นทางของโครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร บีทีเอส ส่วนต่อขยายสายสุขุมวิทตอนที่ 1 ช่วงอ่อนนุช-แบริ่งบริเวณซอยสุขุมวิท 107 ไปตามแนวเกาะกลางถนนสุขุมวิท ผ่านคลองสำโรง ผ่านแยกเทพารักษ์ แยกปู่เจ้าสมิงพราย เมื่อถึงบริเวณจุดตัดกับโครงการถนนวงแหวนรอบนอกด้านใต้ แนวจะเปลี่ยนจากเกาะกลางไปทางทิศตะวันตกของถนนสุขุมวิท เพื่อข้ามทางต่างระดับสุขุมวิท จากนั้นจึงเปลี่ยนกลับมาอยู่ในแนวเกาะกลางถนนสุขุมวิท ผ่านแยกศาลากลาง แยกการไฟฟ้า แยกแพรกษา แยกสายลวดจนถึงจุดสิ้นสุดโครงการบริเวณหน้าสถานีไฟฟ้าย่อยบางปิ้ง โดยแนวเส้นทางจะเบี่ยงออกทางด้านทิศตะวันตกและลดระดับเพื่อเข้าศูนย์ซ่อมบำรุง

ในส่วนการก่อสร้างการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้เริ่มการก่อสร้างงานโยธาและงานรางตั้งแต่ต้นปี 2555 จนกระทั่งเสร็จเรียบร้อยประมาณต้นปี 2560 จากนั้นกรุงเทพมหานครได้เริ่มเข้าดำเนินการติดตั้งระบบไฟฟ้าและเครื่องกลเมื่อเดือนต.ค.59 และสามารถเปิดเดินรถได้ 1 สถานีที่สถานีสำโรง ตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย.60 ที่ผ่านมา หลังจากนั้น กรุงเทพมหานครได้ดำเนินการติดตั้งระบบไฟฟ้าและเครื่องกลในส่วนที่เหลือทั้งหมด รวมทั้งได้ทำการทดสอบอุปกรณ์ต่างๆ และทดสอบการเดินรถเสมือนจริงในเดือนต.ค.-พ.ย.61 เพื่อให้มั่นใจว่าระบบมีความพร้อมและมีความปลอดภัยสำหรับการเปิดใช้งานให้บริการแก่ประชาชน สำหรับศูนย์ซ่อมบำรุงของโครงการมีพื้นที่ประมาณ 123 ไร่ ในพื้นที่ประกอบด้วย อาคารบริหารและศูนย์ควบคุมการปฏิบัติการเดินรถ อาคารซ่อมบำรุงหลัก อาคารจอดรถไฟฟ้า รางทดสอบ และอาคารประกอบอื่นๆ นอกจากนี้ รฟม. ได้จัดให้มีอาคารจอดรถแล้วจร 1 แห่ง ตั้งอยู่บริเวณสถานีเคหะสมุทรปราการ ซึ่งเป็นสถานีปลายทางเนื้อที่ประมาณ 8 ไร่ สามารถจอดรถรวมกันได้ประมาณ 1,200 คัน ทั้งนี้กรุงเทพมหานครได้เปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ โดยบีทีเอสได้ทดสอบการเดินรถอย่างต่อเนื่อง ทั้งใช้รถขบวนเก่าและรถขบวนใหม่ 3 ขบวน เพื่อให้ประชาชนทดลองใช้ฟรี 4 เดือน ตั้งแต่วันที่ 6 ธ.ค.61 ถึงวันที่ 15 เม.ย.62
ระหว่างเวลา 06.00-24.00 น. พร้อมทั้งหารือกับทางบีทีเอสเพื่อกำหนดอัตราค่าโดยสารเบื้องต้น ซึ่งกรุงเทพมหานครมีนโยบายให้เพดานค่าโดยสารทั้งโครงการส่วนแรกในสายสุขุมวิท สายสีลม และส่วนต่อขยายสูงสุดไม่เกิน 65 บาท ซึ่งต้องได้ข้อสรุปก่อนเปิดเดินรถจริงในเดือนเม.ย.62 หลังการทดลองเสร็จสิ้น

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.61 ที่ผ่านมา กรุงเทพมหานคร (กทม.) ร่วมกับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ว่าด้วยการจำหน่ายและโอนทรัพย์สินของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว (เหนือ) ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และ (ใต้) แบริ่ง-สมุทรปราการ ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากการดำเนินงานตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง กระทรวงคมนาคม รฟม. และ กทม. ว่าด้วยแนวทางการดำเนินงานตามมติคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.58 เรื่อง การมอบหมายให้ กทม. เป็นผู้บริหารจัดการเดินรถ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ซึ่งได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงฯ เมื่อวันที่ 28 มี.ค.59 และจากการประสานความร่วมมือกันของทุกฝ่ายส่งผลให้กระทรวงคมนาคม รฟม. และ กทม. สามารถบรรลุวัตถุประสงค์และนำมาสู่การลงนามบันทึกข้อตกลงฯ เพื่อให้ กทม. สามารถบริหารจัดการเดินรถโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ได้ในระหว่างที่กระบวนการโอนกรรมสิทธิ์ยังอยู่ในระหว่างการดำเนินการ โดยบันทึกข้อตกลงฯ ฉบับนี้ มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการปฏิบัติตามเงื่อนไขและหน้าที่ระหว่าง รฟม. และ กทม. ได้แก่ การจำหน่ายทรัพย์สินและที่ดินของโครงการ การโอนภาระทางการเงินของโครงการ และภาระผูกพันกับหน่วยงานอื่นให้กับ กทม. นอกจากนี้ ยังครอบคลุมถึงการยกเว้นค่าแรกเข้าระบบ หากผู้โดยสารเปลี่ยนถ่ายจากรถไฟฟ้าสายอื่นของ รฟม. ตามนโยบายของรัฐบาลอีกด้วย

//------------------------------------


บิ๊กตู่ ตัดริบบิ้นรถไฟฟ้าสายสีเขียว บีทีเอส โอด ค่าโดยสาร 65 บาทต่ำเกินจริง!
วันที่ 6 ธันวาคม 2561 - 15:58 น.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 07.00 น.วันที่ 6 ธ.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปเป็นประธานในพิธีเปิดทดลองให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ที่บริเวณโรงจอดและศูนย์ซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าสมุทรปราการ จากนั้นเวลา 07.30 น. นายกรัฐมนตรีนำคณะผู้บริหาร ผู้แทนหน่วยงาน และสื่อมวลชนโดยสารรถไฟฟ้าจากศูนย์ซ่อมบำรุงไปยังสถานีเคหะฯ

สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ เป็น โครงการรถไฟฟ้าแบบยกระดับตลอดสาย ระยะทาง 13 กิโลเมตร จำนวน 9 สถานี ศูนย์ซ่อมบำรุง 1 แห่ง และลานจอดรถ 1 แห่ง โดยได้เปิดให้ประชาชนทดลองใช้ฟรี 4 เดือน เริ่มตั้งแต่ วันที่ 6 ธันวาคม 2561 ถึงวันที่ 15 เมษายน 2562

นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคม กล่าวว่า การเปิดเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง – สมุทรปราการ จะช่วยลดภาระความแออัดด้านการจราจรระหว่างกรุงเทพมหานครและสมุทรปราการ โดยในช่วงทดลองวิ่งจนถึงวันที่ 15 เม.ย.2562 นอกจากจะเปิดให้ประชาชนใช้บริการฟรีแล้ว จะมีการเปิดให้จอดรถฟรีด้วยบริเวณสถานีเคหะสมุทรปราการ เนื้อที่ 8 ไร่ สามารถจอดรถได้ 1,200 คัน

ส่วนประเด็นของการกำหนดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวไว้ที่ 65 บาทตลอดสายนั้น เบื้องต้นพบว่าไม่ได้อยู่ในข้อตกลงของ รฟม.ก่อนการโอนย้ายให้ กทม. แต่เป็นข้อกำหนดของ กทม. ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นราคาที่ถูกกว่าสีน้ำเงินของ รฟม. ที่กำหนดไว้ 70 บาทตลอดสาย เนื่องจาก สายสีน้ำเงินมีโครงสร้างใต้ดินซึ่งมีต้นทุนก่อสร้างสูงกว่าจึงทำให้ค่าโดยสารแพงกว่า

ส่วนการเดินทางเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีเขียว และสายสีน้ำเงินของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ปัจจุบันประชาชนจะต้องรับภาระจ่ายค่าแรกเข้าถึง 2 ครั้ง เนื่องจากเป็นระบบการเดินรถที่แยกออกจากกัน ขณะนี้กระทรวงฯ อยู่ระหว่างเร่งแก้ไข โดยจะต้องรอ พ.ร.บ.กรมราง มีผลบังคับใช้ ปัจจุบันได้เข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติแล้ว หลังจากนั้นจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาทำหน้าที่กำกับดูแลอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าภาพรวมโดยตรง พร้อมเชิญหน่วยงานที่รับผิดชอบบริหารการเดินรถไฟฟ้าทุกเส้นทางมาหารือเพื่อจัดทำระบบค่าโดยสารร่วม

นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ BTS กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนยังไม่ได้หารือร่วมกับ กทม.อย่างเป็นทางการ ถึงเรื่องการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว (ส่วนต่อขยาย) ช่วงแบริ่ง – สมุทรปราการ (เคหะสมุทรปราการ) และช่วงหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต ที่ทาง กทม.มีเงื่อนไขให้บีทีเอสกำหนดค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวตลอดเส้นทางสูงสุดไม่เกิน 65 บาทต่อเที่ยว

“เรื่องค่าโดยสารต้องมานั่งคุยเรื่องนี้กันอย่างจริงจัง เพราะเอกชน ซึ่งเป็นผู้ลงทุนก็ไม่ทราบว่าจะลดค่าโดยสารขนาดนั้นได้ไหม แต่ก็ไม่ได้ตอบว่าเป็นไปไม่ได้ ต้องนั่งลงคุยกันจริงๆ จังๆ ไม่ใช่ว่าไปคุยกับใคร สุดท้ายมันต้องผมเป็นคนตัดสินใจอยู่ดี ดังนั้นตอนนี้ผมยังไม่คิดว่าตกลงถึงไฟนอลแล้ว”

อย่างไรก็ดี จากการคำนวณต้นทุนราคาของรถไฟฟ้าสายสีเขียวทั้งเส้นทางอยู่ที่กว่า 140 กว่าบาทต่อเที่ยว และถ้าลดค่าโดยสารสูงสุดลงเหลือ 65 บาทต่อเที่ยว ก็จะทำให้สัมปทานหลักของบีทีเอส ช่วงหมอชิต – อ่อนนุช และสนามกีฬาแห่งชาติ – สะพานตากสิน ซึ่งเป็นช่วงเส้นทางที่ทำรายได้สูงสุด ต้องลดราคาตามไปด้วย ขณะที่การเดินรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย เป็นเพียงการเดินรถเสริม (ฟีดเดอร์)

นายคีรี กล่าวว่า บีทีเอสสามารถลดค่าโดยสารสูงสุดให้ต่ำกว่า 100 บาทต่อเที่ยวได้ แต่จะต้องหารือกันอย่างจริงจัง ว่าปัจจัยที่ทำให้เป็นไปได้นั้นคืออะไร และบีทีเอสจะได้อะไร เช่น การต่อสัญญาสัมปทาน การแก้ไขสัญญาเดินรถในรูปแบบใด หรือจะมีการอุดหนุนราคาช่วยเหลืออย่างไร ส่วนแนวทางที่ กทม.จะรวมสัมปทานเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวทั้งเส้น ให้เป็นสัญญาเอกชนร่วมลงทุน (พีพีพี) นั้น ก็ควรจะชัดเจนว่าจะทำอย่างไร ในส่วนของสัญญาเก่า และสัญญาใหม่
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42625
Location: NECTEC

PostPosted: 06/12/2018 8:35 pm    Post subject: Reply with quote


สายสีเขียวไปปากน้ำท่าจะรุ่ง รายงานโดยสำนักข่าวไทย MCOT
https://www.youtube.com/watch?v=zc1UipMuHCM
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42625
Location: NECTEC

PostPosted: 07/12/2018 10:18 am    Post subject: Reply with quote

รฟม.ให้จอดฟรี "สถานี เคหะสมุทรปราการ"
พฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม 2561 เวลา 18.00 น.

รฟม.บริการรถให้จอดรถฟรีได้ที่สถานีเคหะสมุทรปราการ ตั้งแต่วันที่ 6 ธ.ค. 61 ถึง วันที่ 16 เม.ย.2562 รองรับได้ 720 คัน

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) แจ้งว่าได้เปิดให้บริการลานจอดแล้วจร สถานีเคหะสมุทรปราการ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว (ช่วงแบริ่ง – สมุทรปราการ) เป็นลานจอดรถขนาด 18 ไร่ สามารถรองรับผู้ใช้บริการประเภทรถยนต์และจักรยานยนต์ จำนวน 720 คัน ตั้งอยู่บริเวณถนนสุขุมวิท ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ โดยเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 6ธ.ค.61 เป็นต้นไป ตั้งแต่เวลา 05.00 – 01.00 น. ซึ่งมีอัตราค่าบริการสำหรับผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า 2 ชม.10 บาท ผู้ไม่ใช้บริการรถไฟฟ้า 1 ชั่วโมง 20 บาท และผู้ใช้บริการจอดรถรายเดือน 1,000 บาท และในช่วงเปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีเขียวฯสามารถจอดฟรี ตั้งแต่วันที่ 6 ธ.ค. 61 ถึง วันที่ 16 เม.ย.2562 เฉพาะผู้ที่ใช้บริการรถไฟฟ้าเท่านั้น สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 0 2716 4044 หรือ www.mrta.co.th



รฟม.ให้ใช้ฟรี! ลานจอดรถสถานีเคหะฯ ช่วงทดลองสายสีเขียว
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: พฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม 2561 เวลา 17:54
ปรับปรุง: ศุกร์ที่ 7 ธันวาคม 2561 เวลา 10:05


รฟม.บริการฟรีลานจอดแล้วจรสถานีเคหะสมุทรปราการ เฉพาะผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีเขียวต่อขยาย ส่วนใต้ ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ช่วงทดลองเดินรถตั้งแต่ 6 ธ.ค. 61 ถึง 16 เม.ย. 62

การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) แจ้งว่า รฟม.ได้เปิดให้บริการลานจอดแล้วจร สถานีเคหะสมุทรปราการ ซึ่งอยู่ในโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว (ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ) ตั้งแต่วันที่ 6 ธันวาคม 2561 เป็นต้นไป ตั้งแต่เวลา 05.00-01.00 น. และในช่วงเปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีเขียวฯ นั้นสามารถจอดฟรี ตั้งแต่วันที่ 6 ธันวาคม 61 ถึงวันที่ 16 เมษายน 2562 เฉพาะผู้ที่ใช้บริการรถไฟฟ้าเท่านั้น

สำหรับอัตราค่าบริการที่กำหนด หลังจากวันที่ 16 เม.ย. 2562 ไปแล้ว สำหรับผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า 2 ชั่วโมง 10 บาท ผู้ไม่ใช้บริการรถไฟฟ้า 1 ชั่วโมง 20 บาท และผู้ใช้บริการจอดรถรายเดือน 1,000 บาท

ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการลานจอดแล้วจรดังกล่าว เมื่อได้รับบัตรจอดรถจะต้องนำบัตรดังกล่าวสแกนที่สถานีเคหะสมุทรปราการเมื่อเข้าสู่ระบบรถไฟฟ้า เพื่อเป็นการยืนยันว่าเป็นผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า และได้รับการยกเว้นค่าจอดรถ ตามเงื่อนไข

สำหรับลานจอดแล้วจรสถานีเคหะสมุทรปราการ ขนาด 18 ไร่ สามารถรองรับผู้ใช้บริการประเภทรถยนต์และจักรยานยนต์ จำนวน 720 คัน ตั้งอยู่บริเวณถนนสุขุมวิท ตำบลท้ายบ้าน อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 0-2716-4044 หรือ www.mrta.co.th
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42625
Location: NECTEC

PostPosted: 07/12/2018 11:13 am    Post subject: ควันหลงจากการเปิดสายสีเขียวไปปากน้ำ Reply with quote

นายกฯ กดปุ่มเปิดเดินรถไฟฟ้าสีเขียวแบริ่ง-สมุทรปราการ ย้ำอย่าปฏิรูปเป็นจ็อบ ต้องใช้เวลา
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: พฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม 2561 เวลา 10:54
ปรับปรุง: พฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม 2561 เวลา 11:14


นายกฯ กดปุ่ม ทดลองใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีเขียวแบริ่ง-สมุทรปราการ ย้ำอย่ามองการปฏิรูปเป็นจ็อบ แต่ต้องมองเป็นการเชื่อมต่อ ต้องอาศัยเวลา

วันนี้ (6 ธ.ค.) ที่โรงจอดและซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าสมุทรปราการ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานพิธีเปิดทดลองให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายอาคม เติมพิทยาไพสิษฐ รมว.คมนาคม พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. คณะผู้บริหารจังหวัดสมุทรปราการ นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ประธานหอการค้าสมุทรปราการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมพิธี

โดยทันทีที่มาถึงนายกฯได้เยี่ยมชมนิทรรศการโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว จากนั้นกล่าวเปิดงานว่า ยินดีที่ได้มาเปิดรถไฟฟ้าสายสีเขียวแบริ่ง-สมุทรปราการ ซึ่งเป็นระบบการเดินทางที่สำคัญที่จะเชื่อม กทม.และปริมณฑลให้ได้ในหลายทิศทาง เราต้องวางแผนการเชื่อมโยงต่อไปทั้งทางบก ทางราง เพื่อลดภาระปัญหาทางจรจรที่เกิดขึ้นให้ได้ ขอขอบคุณทุกภาคส่วน ผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้อง รัฐบาล กระทรวงคมนาคม รถไฟฟ้ามหานคร และเอกชนที่ร่วมกันปฏิบัติตามกฎหมายต่างๆ ผลักดันมาจนถึงวันนี้ โดยรัฐบาลได้ผลักดันโครงข่ายการขนส่งให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เพื่อเป็นระบบขนส่งที่ปลอดภัย ประชาชนเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียมให้คนมีรายได้น้อยได้ใช้บริหาร 5 ปีที่ผ่านมาได้เร่งรัดโครงการต่างๆ 5 เส้นทางให้ต่อเนื่อง และเส้นทางสายสีเขียวในวันนี้ที่จะผนวกกับเส้นทางเดิม เพื่อมอบให้เป็นของขวัญให้ประชาชน

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้ต้องดูว่าทำไมประเทศไทยรถติดขัด ไม่ใช่ว่ารัฐบาลแก้ไขไม่ได้ แต่ที่สำคัญต้องเคารพกฎหมาย บุคคล เจ้าหน้าที่ต้องร่วมมือกัน และที่สำคัญประเทศไทยไม่เหมือนคนอื่น ในครอบครัวทุกคนออกจากบ้านพร้อมกันทำให้รถมีปริมาณมากขึ้นทุกคนมีความจำเป็นในการใช้รถ เราจึงต้องไปดูว่ามีปริมาณการใช้รถเท่าไหร่ ไม่เช่นนั้นก็ต้องสร้างถนนไปเรื่อยๆ ต้องไปดูว่าจะช่วยให้เด็กหรือคนในครอบครัวได้ขึ้นรถไฟฟ้าตรงไหนได้บ้าง เราต้องมองทั้งระบบทั้งทางบก เรือ และราง

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เรียกว่าเป็นการปฏิรูประบบทางรางซึ่งยังไม่เสร็จ เพราะฉะนั้นกรุณาเข้าใจให้ถูกต้องด้วย ช่วยกันอธิบายทำความเข้าใจว่าอะไรคือการปฏิรูป คือการทำงานหนึ่งงานให้เสร็จ โดยมีระยะเวลาสร้างการเชื่อมต่อไม่อย่างนั้นก็สนใจ แบบจ็อบ จ็อบแล้วก็ไม่เข้าใจว่าจะแก้ไขกันอย่างไร คนทำงานต้องคิดแบบที่ผมคิด แบบรัฐบาลคิด ไม่อย่างนั้นไปไม่ได้ ถ้าไม่มียุทธศาสตร์ออกมา ไม่มีแผนแม่บทออกมาก็ทำงานไม่ได้ทั้งหมด แล้วก็เสียเวลากว่าจะดำเนินการต่อไปได้ในอนาคต ทั้งหมดทำเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตความอยู่ดีมีสุขให้กับประชาชนและคนไทยทั้งประเทศทั้งนี้จะต้องวางแผนต่อไป วันนี้ทำได้เฉพาะกทม.และปริมณฑลแต่ในอนาคตจะต้องไปจังหวัดอื่นด้วยเพราะเค้าก็ต้องการเหมือนกันในเรื่องของรถไฟทางคู่ได้ทำเพิ่มอีก 1,300 กิโลเมตร เดิมมีแค่ 460 กิโลเมตร บวกกับรางเดียวอีก 2,500 กิโลเมตร โดยจะมีการขยายต่อรถไฟฟ้าทางราง 6,000 กิโลเมตรในอนาคต

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ขณะเดียวกันต้องอธิบายให้ประชาชนทราบว่าเราทำอะไรไปแล้วบ้าง ถ้าต่างฝ่ายต่างชี้แจงกันคนละเรื่องประชาชนก็จะไม่เข้าใจ ดังนั้นการสร้างกระบวนการคิดเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพื่อให้เกิดความร่วมมือ ถ้าทำแล้วเกิดประโยชน์ก็จะมีคนเสียประโยชน์อยู่บ้าง จะไม่มีใครได้ทั้งหมดหรือเสียทั้งหมด แต่ส่วนใหญ่ต้องได้ นั่นคือความร่วมมือ

จากนั้นนายกฯ เยี่ยมชมห้องควบคุมขบวนรถไฟฟ้าที่ตู้โดยสารที่ 1 และทดลองใช้บริการจากโรงจอดและซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าสมุทรปราการ ไปยังสถานีเคหะสมุทรปราการ ทั้งนี้ นายกฯ กล่าวภายหลังทดลองนั่งไฟฟ้าว่านิ่มดี

//----------------------


“บิ๊กตู่” แซวชาวบางปู ยังมีปูอยู่มั้ย? ย้ำการให้ไม่ใช่แจกเงิน-ไม่ทำลายวินัยการคลัง
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: พฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม 2561 เวลา 11:34
ปรับปรุง: พฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม 2561 เวลา 12:40


“บิ๊กตู่” แซวชาวปากน้ำ วันนี้ยังมีปูอยู่มั้ย ยันรัฐบาลให้เงินข่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยไม่ได้หวังให้คนมารัก ครวญยังโดนด่าทุกวัน มั่นใจทุกอย่างทำตามกรอบวงเงินงบประมาณ ไม่ทำลายระบบหนี้สาธารณะประเทศ แนะต้องปรับตัวรับผลกระทบจากค้าออนไลน์ ลั่นไม่ใช้อำนาจทำร้ายใคร

วันนี้ (6 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่เป็นประธานเปิดเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้พบปะกับประชาชนที่มาคอยต้อนรับบริเวณสถานีเคหะสมุทรปราการ โดยกล่าวว่าทุกวันนี้มีรถยนต์จดทะเบียนปีละ 4,000,000 กว่าคัน ส่วนถนนมีเท่าเดิมจึงจำเป็นต้องมีวิธีการเพื่อลดจำนวนรถยนต์ที่มีอายุเกินเพื่อให้รถใหม่เข้ามาแทน แต่บางคนก็มีรายได้น้อยไม่อยากเปลี่ยนรถ จึงถือเป็นความจำเป็นหลายอย่างจึงต้องมาดู โดยเฉพาะเรื่องของการให้บริการรถสาธารณะเช่น รถตู้ ก็จำเป็นต้องเป็นรถใหม่ถ้าเกิน 10 ปีก็คงจะไม่ปลอดภัย อีกทั้งมีความจำเป็นต้องสร้างทางเชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ชั้นในและปริมณฑล สิ่งสำคัญจำเป็นต้องสร้างโครงสร้างพื้นฐานของรถไฟฟ้าให้ได้ก่อน แต่บางครั้งก็ติดขัดในเรื่องพื้นที่ซึ่งเจ้าของไม่ยินยอม ก็ต้องสร้างอ้อมจนทำให้ค่าใช้จ่ายสูงขึ้น

ทั้งนี้ ช่วงหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ได้สอบถามประชาชนที่มาต้อนรับว่ามาจากพื้นที่ใดบ้าง ทั้งนี้เมื่อประชาชนตอบว่ามาจากบางปู พล.อ.ประยุทธ์จึงกล่าวกระเซ้าทันทีว่า “มาจากบางปูแล้ววันนี้ยังมีปูอยู่หรือเปล่า พื้นที่นี้เคยไป” ก่อนกล่าวว่ารัฐบาลพยายามที่จะสร้างงานสร้างรายได้ให้ประชาชนดีขึ้นเพราะจะให้รัฐบาลแจกอย่างเดียวคงไม่ได้

ทุกวันนี้รัฐบาลถือว่าให้มา ไม่ใช่แจก แต่ให้มาเพื่อเป็นการลดภาระแม้จะเป็นเงินไม่กี่ 100 บาท รัฐบาลให้ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์เพื่อให้มารักตนถึงได้ให้ แม้ถึงจะให้อย่างไรก็ด่าตนเพียบอยู่ทุกวัน แต่ให้ก็ยังมาด่าอีกว่าน้อยเกินไป ต้องการมากกว่านี้แล้วจะเอาเงินที่ไหนให้ทั้งหมด ต้องคำนึงถึงสัดส่วนการใช้งบประมาณ ซึ่งมีกฎหมายคุมอยู่ทุกฉบับ และที่ใช้ทุกวันนี้ยืนยันว่าไม่มีการใช้เกินกรอบวงเงินงบประมาณที่กฎหมายกำหนด ต้องคิดให้ดีถ้าจะมาว่าตนต้องดูว่าทำไมสมัยก่อนเราถึงไม่มีเงินทำไมผู้มีรายได้น้อย จึงไม่ได้รับเงินช่วยเหลือตรงนี้ เงินไปอยู่ที่ไหนขอให้คิดดู ก็ไม่รู้ว่าไปอยู่ไหนเหมือนกัน

ทุกวันนี้รัฐบาลทำให้ทุกอย่างทั้งรถไฟความเร็วสูง รถไฟฟ้า รถไฟทางคู่ ทำถนนหนทาง รวมทั้งการบริหารการจัดการน้ำทั้งประเทศ มากที่สุดใน 4 ปีเท่าที่ผ่านมาถามว่าเอาเงินมาจากไหนก็ต้องบอกว่าเงินมันมีอยู่และยังมีเงินที่จะช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยด้วย ยืนยันว่าทั้งหมดไม่เกินสัดส่วนตามกฎที่กฎหมายกำหนดหนี้สาธารณะ 41.7 เปอร์เซ็นต์ แต่กลับมีคนบอกว่ารัฐบาลนี้ทำหนี้สาธารณะประเทศล้มละลาย ไม่เคยฟังอะไรเลย

“ไม่รู้เรื่องเลย กฎหมายบอก 60 เปอร์เซ็นต์ ถ้าเกินก็อันตราย บางประเทศใช้ 200 เปอร์เซ็นต์ แต่เขามีรายได้เยอะ พวกเรามีรายได้ที่จะจ่ายภาษีเยอะหรือยังก็ยังไม่มี รัฐบาลจะต้องดูตรงนี้ว่าจะทำอย่างไรจะเดินหน้าประเทศได้ ที่สำคัญงบประมาณต้องไม่รั่วไหล ต้องระบุในยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี คือระหว่างปี 2551-2580” นายกรัฐมนตรี กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้รัฐบาลพยายามทำให้ทุกคนเข้าถึงซึ่งโอกาสและรายได้แต่ต้องเคารพกฎหมาย คนค้าขายก็ต้องพัฒนาและปรับปรุงไม่ใช่มากล่าวหาว่าเป็นเพราะรัฐบาลทำให้ค้าขายไม่ดี วันนี้ต้องต่อสู้ เพราะการค้าขายออนไลน์มีคู่แข่งจำนวนมาก วันหน้าการค้าขายในร้านค้า จะมีปัญหา เพราะคนชอบสบายอยู่บ้านโทรศัพท์สั่งเดี๋ยวก็มาแล้ว วันนี้รายได้ที่ขายจากร้านทั่วไปลดลงประมาณ 20 ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ แต่ไปเพิ่มในออนไลน์ แต่ออนไลน์เราก็ต้องมีการออกกฎหมายมาดูแล ถ้าทุกคนต้องการมีรายได้ แต่ไม่เข้าสู่ระบบภาษี ก็จะลำบาก วันหน้าก็มีปัญหา รัฐบาลก็ช่วยอะไรไม่ได้เพราะมันไม่ถูกกฎหมาย ทุกอย่างต้องใช้กฎหมาย

“ผมขอถามว่าผมใช้อำนาจของผมมาทำร้ายพวกคุณหรือยัง จับพวกคุณไปทำอะไรหรือเปล่า มีแต่พูดเสียงดุบ้างเท่านั้น บางเวลาก็ตลกและน่ารักบ้าง ยืนยันว่าไม่มีอะไรกับใครอยู่แล้ว ส่วนถ้าต้องเจอกับการเมืองเรื่องการเมืองก็ว่ากันไปสิ่งสำคัญที่สุดก็อย่าลืมงานอุ่นไอรักคลายความหนาวที่จะมีขึ้นขอให้ทุกคนไปเที่ยวชมกันเป็นการแสดงถึงความรักความสามัคคีและความจงรักภักดิ์ดีของพวกเราที่มีให้กับสามสถาบันหลักของชาติขอให้รักกันถ้าไม่รักกันไม่สามัคคีกัน ทุกอย่างก็จะกลับไปที่เก่าหรืออยากจะให้กลับไปอยู่ที่เดิมชอบเหมือนเดิมอย่างนั้นหรือดีหรือที่คนเยอะเยอะมารวมตัวกันแล้วขายของได้เยอะอย่างนั้นหรือคิดอย่างนี้ไม่ได้ประเทศเราจำเป็นต้องสงบ

อย่าลืมว่า 4 ปีที่ผ่านมาทุกอย่างแม้จะสงบแต่ก็ยังมีปัญหาบ้าง การทำความผิดการทุจริตทำได้ไม่มากนักไม่ใช่ว่าจะไม่มีเลย ยอมรับว่ายังมีอยู่ ยังเห็นได้ว่ามีการทะเลาะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ทุกวัน รวมทั้งเทศกิจซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมดาทุกประเทศก็มีแบบนี้เช่นกัน แต่ทั้งหมดต้องระมัดระวังว่าทำอย่างไรสิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นและมีความมั่นคงเกิดขึ้น ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับทุกฝ่ายทั้งภาครัฐ เจ้าหน้าที่ เอกชน ประชาชน ผู้นำทางการเมือง และผู้นำทางการเมืองท้องถิ่น”

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้ขอร้องว่าอย่าเอาเรื่องการเมืองอย่าเอากฎหมายมาสู้กัน ต้องเอากฎหมายที่เขียนไว้เพื่คนทุกคนมาทำให้ได้ ใครที่ไม่เห็นชอบ ไม่มา ไม่ยอมมาดูกฎกติกา ก็คิดกันเอาเอง ถ้าไม่มาก็คือไม่ต้องมา แล้วถ้าประชาชนจะเลือกกลับเข้ามาอีกก็ตามใจไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้ว ไม่เคารพกติกาเป็นนักมวยขึ้นเวทีแล้วกรรมการเรียกมาชี้แจงนักมวยใส่หน้าไม่ยอมมา ถ้าไม่มาก็เลิกชกไปเสีย ประชาชนก็อย่าไปดูและต้องคิดกันเอาเอง

จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านเรื่องหนี้นอกระบบซึ่งนายกฯ พยายามชี้แจงและให้ชาวบ้านได้เข้ามาใช้ประโยชน์จากหน่วยงานราชการ อย่าไปกู้หนี้นอกระบบที่ต้องเสียเงินดอกเบี้ยสูง โดยระบุว่า ปัญหาทีเกิดคืนนี้ตนไม่โทษใครแต่คงต้องโทษตัวเองที่ไม่สามารถชี้แจงหรืออธิบายให้ประชาชนเข้าใจได้เรื่องนี้ต้องมีคนรับผิดชอบ

//-------------------


สายสีเขียว
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์
7 ธันวาคม 2561 เวลา 04:54 น.

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิดทดลองให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทร-ปราการ ก่อนทดลองใช้บริการ พร้อมให้สัมภาษณ์ว่าเป็นของขวัญให้ประชาชน.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42625
Location: NECTEC

PostPosted: 07/12/2018 11:22 am    Post subject: Reply with quote

สยองกลางกรุง!พบศพชาย ตกท่อน้ำหน้าโรงแรมดัง
พฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม 2561 เวลา 09.28 น.
ตร.บางเขน พร้อมมูลนิธิร่วมกตัญญู รุดตรวจสอบศพชายเสียชีวิตในท่อระบายน้ำ หน้าโรงแรมดัง ถนนพหลโยธิน

เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. ตำรวจสน.บางเขน รับแจ้งเหตุพบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ตกลงไปในท่อระบายน้ำบริเวณที่กำลังก่อสร้างหน้าโรงแรมมารวย ถนนพหลโยธิน แขวเสนานิคม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู เบื้องต้นพบศพชายอายุประมาณ 35-40 ปี สภาพคว่ำหน้าลอยน้ำอยู่ในน้ำท่อระบายน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรอแพทย์นิติเวชและกองพิสูจน์หลักฐานมาร่วมตรวจสอบ

ขอบคุณภาพจาก มูลนิธิร่วมกตัญญู

พบศพเจ้าของร้านอาหารสัตว์คาบ่อเกาะกลางพหลโยธิน ใต้ไซต์ก่อสร้างรถไฟฟ้าสีเขียว
โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม
เผยแพร่: พฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม 2561 เวลา 12:36
ปรับปรุง: พฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม 2561 เวลา 15:19


MGR Online - ผงะพบศพเจ้าของร้านอาหารแหลมทองอาหารสัตว์ วัย 71 ปีในบ่อเกาะกลางถนนพหลโยธิน บริเวณก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว ญาติเผยหายตัวไปตั้งแต่หัวค่ำวันที่ 4 ธันวาฯ คิดว่าไปดื่มเบียร์กับเพื่อนแล้วหายตัวไปไม่กลับบ้าน

วันนี้ (6 ธ.ค.) ร.ต.อ.วิศวัสต์ เสถียรวัฒน์ชัย รอง สว.(สอบสวน) สน.บางเขน รับแจ้งเหตุพบผู้เสียชีวิตภายในบ่อรับน้ำ เกาะกลางถนนพหลโยธิน ที่กำลังก่อสร้างสถานีก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว หน้าสมาคมนิสิตเก่ามหาวิทยาลัยเกษตรในพระบรมราชูปถัมภ์ แขวงเสนานิคม เขตจตุจักร กทม. จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.อำนาจ อินทรศวร ผกก.สน.บางเขน แพทย์เวร รพ.ภูมิพลอดุลยเดช เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุอยู่ระหว่างเกาะกลางถนนซึ่งเป็นสถานที่ก่อสร้างใกล้กับเสารถไฟฟ้าที่ P.172 CH.4+822 พบบ่อรับน้ำกว้าง 50 ซม. ยาว 1 เมตร ลึก 1.40 เมตร ภายในบ่อมีน้ำท่วมขังพบศพผู้เสียชีวิตชื่อ นายพันธ์พงษ์ ภาณุวรรณากร อายุ 71 ปี เจ้าของร้านอาหารแหลมทองอาหารสัตว์ เยื้องกับซอยพหลโยธิน 49 สภาพศพนอนคว่ำหน้า สวมเสื้อโปโลสีเหลือง กางเกงสแล็กสีดำ ใส่รองเท้าแตะ มีแผลถลอกที่หน้าผากและข้อศอกขวา พบแบงก์ 20 จำนวน 3 ใบหล่นอยู่ในบ่อใกล้ๆ ศพ ตรวจสอบในร่างพบเงินอยู่อีกประมาณ 2,000 กว่าบาท มีบัตรทอง 30 บาทรักษาทุกโรค คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 7 ชั่วโมง ตรงจุดเกิดเหตุมีแผงเหล็กกั้น แต่คนทั่วไปสามารถข้ามถนนพหลโยธินเดินผ่านจุดก่อสร้างเลาะข้ามไปยังอีกฝั่งถนนได้

จากการสอบสวนทางญาติให้การว่า หลังจากปิดร้านผู้ตายชอบไปหาเพื่อนฝูงแถวย่านโชคชัย 4 ออกจากบ้านตั้งแต่ช่วงทุ่มของวันที่ 4 ธ.ค. ตอนแรกทางญาติคิดว่าไปดื่มเบียร์กับเพื่อนฝูงซึ่งก็ทำเป็นประจำ แต่เมื่อไม่กลับมาบ้านทางญาติจึงช่วยกันตามหาไปทั่วแต่ไม่พบ จึงไปแจ้งความคนหายที่ สน.บางเขน ในช่วงเช้าของวันที่ 5 ธ.ค. พร้อมทั้งได้ระดมแจกใบปลิวไปทั่ว ก่อนที่มีคนแจ้งว่าพบศพนอนคว่ำหน้าที่จุดเกิดเหตุจึงเดินทางมาดูที่จุดดังกล่าว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะได้ส่งศพไปตรวจที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต พร้อมกับประสานทางญาติมารับศพไปบำเพ็ญกุศลตามพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป

คาด'เสี่ยแหลมทองอาหารสัตว์'เสียหลักพลัดตกบ่อจมเอง
พฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม 2561 เวลา 11.36 น.

ตำรวจคาด เจ้าของ "แหลมทองอาหารสัตว์" เดินพลัดตกจมบ่อก่อสร้างเอง หลังจากที่หายไปจากบ้านตั้งแต่วันที่ 4 ธ.ค.

เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. ร.ต.อ วิศวัสต์ เสถียรวัฒน์ชัย รอง สว.(สอบสวน) สน.บางเขน รับแจ้งเหตุพบผู้เสียชีวิตภายในบ่อรับน้ำตรงเกาะกลางถนนพหลโยธิน ซึ่งกำลังก่อสร้างสถานีก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว หน้าสมาคมนิสิตเก่า ม.เกษตรฯ ในพระบรมราชูปถัมภ์ แขวงเสนานิคม เขตจตุจักร จึงไปตรวจสอบพร้อมแพทย์ รพ.ภูมิพลอดุลยเดช พฐ. และมูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุอยู่ระหว่างเกาะกลางถนนซึ่ที่เป็นสถานที่ก่อสร้าง พบบ่อรับน้ำ กว้าง 50 ซม. ยาว 1 เมตร ลึก 1.40 เมตร ภายในบ่อมีน้ำท่วมขัง พบศพ นายพันธ์พงษ์ ภาณุวรรณากร อายุ 71 ปี เจ้าของร้านแหลมทองอาหารสัตว์ เยื้องกับซอยพหลโยธิน 49 สภาพนอนคว่ำหน้า สวมเสื้อโปโลสีเหลือง กางเกงสแล็กสีดำ ใส่รองเท้าแตะ มีแผลถลอกที่หน้าผากและข้อศอกขวา นอกจากนี้ยังพบธนบัตรใบละ 20 รวม 3 ใบ หล่นอยู่ในบ่อใกล้ๆ ศพ



ส่วนในร่างกายพบเงินอีกกว่า 2,000 บาท บัตรทอง 30 บาทรักษาทุกโรค คาดว่าเสียชีวิตมาแล้ว 7ชั่วโมง ทั้งนี้ตรงจุดเกิดเหตุมีแผงเหล็กกั้น แต่คนทั่วไปสามารถข้ามถนนพหลโยธินเดินผ่านจุดก่อสร้างเลาะข้ามไปยังอีกฝั่งถนนได้

สอบสวนญาติให้การว่า หลังจากปิดร้านผู้ตายชอบไปหาเพื่อนฝูงแถวย่านโชคชัย 4 ก่อนออกจากบ้านตั้งแต่ช่วง 19.00 น.วันที่ 4 ธ.ค. ตอนแรกญาติคิดว่าไปดื่มเบียร์กับเพื่อนฝูงที่ทำเป็นประจำ แต่เมื่อไม่กลับมาบ้าน ญาติจึงช่วยกันตามหาไปทั่ว ก่อนจะไปแจ้งความคนหายที่ สน.บางเขน ในวันที่ 5 ธ.ค.พร้อมทั้งได้ระดมแจกใบปลิว กระทั่งมีคนมาแจ้งในวันนี้ว่าพบศพดังกล่าว เบื้องต้นคาดว่าน่าจะพลัดตกลงไปเอง แต่ก็จะส่งไปชันสูตรและประสานญาติรับศพไปบำเพ็ญกุศลต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42625
Location: NECTEC

PostPosted: 15/12/2018 4:15 am    Post subject: Reply with quote

บอมบาดิเออร์โฆษณาระบบรถไฟฟ้าที่บีทีเอสใช้กะ ทางช่วงไปปากน้ำ รองรับผู้โดยสาร 750000 คนต่อวัน
https://rail.bombardier.com/en/newsroom/press-releases.html/bombardier/news/2018/bt-20181214-bombardier-s-wayside-rail-system-started-operating-o/en
https://www.facebook.com/BombardierRail/posts/2105614712833093
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42625
Location: NECTEC

PostPosted: 17/12/2018 10:33 am    Post subject: Reply with quote

BTSรับระบบขัดข้องบ่อย ฉุดยอดผู้โดยสารทั้งปีไม่เข้าเป้า
วันจันทร์ ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2561, 06.00 น.

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS เปิดเผยว่าในช่วงตั้งแต่วันที่ 6 ธันวาคม- 13 ธันวาคม 2561 BTS ได้เปิดเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงสำโรง-สมุทรปราการ พบว่ามีตัวเลขผู้โดยสารเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยวันละ 60,000 คน โดยวันแรกที่เปิดเดินรถดังกล่าวมีผู้โดยสารประมาณ 57,000 คน และล่าสุดพบมีผู้โดยสารเกือบ 70,000 คนต่อวัน

อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่าผู้โดยสารตลอดทั้งปีนี้จะเติบโตต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ประมาณ 4-5% โดยมีปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบคือช่วงที่เกิดปัญหาที่ระบบขัดข้องประมาณ 2 เดือน รวมถึงตัวเลขนักท่องเที่ยวที่ลดลงจึงคาดว่าในปี 2562 ปริมาณผู้โดยสารจะกลับมาเติบโตได้ตามเป้าจากสภาพเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัวและปริมาณการจับจ่ายของประชากรที่จะเพิ่มขึ้นหลังการเลือกตั้งรัฐบาลใหม่

ด้านข้อมูลจากกระทรวงคมนาคมระบุว่า หลังจากเปิดเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงสำโรง-สมุทรปราการ พบว่าได้รับความนิยมอย่างมากตั้งแต่วันที่เปิดให้บริการ เมื่อเทียบกับเสียงตอบรับของรถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงบางใหญ่-เตาปูน ที่มีผู้โดยสารเพียง 30,000 คนต่อวัน ในช่วงแรกที่เปิดบริการ และปัจจุบันจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 60,000 คนต่อวัน

//--------------------


บีทีเอสปลื้มแห่ใช้บริการสายสีเขียวเฉียด7หมื่นคนต่อวัน

17 ธันวาคม พ.ศ. 2561 เวลา 08:18 น.



รถไฟฟ้าสายใหม่เปิดสัปดาห์แรกคึกคัก ผู้โดยสารล้นเฉียด 7 หมื่นคนต่อวัน ด้านบีทีเอสเผยผู้โดยสารปีนี้โตหลุดเป้าหลังเจอปัญหาระบบรถไฟฟ้าขัดข้องติดกัน 2 เดือน

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา. กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัท. ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด(มหาชน)หรือบีทีเอส เปิดเผยว่าภายหลังจากเปิดเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวใต้ช่วงสำโรง-สมุทรปราการ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 6 ธ.ค.- 13 ธ.ค.นั้นพบว่ามีตัวเลขผู้โดยสารเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยวันละ 6 หมื่นคนหรือคิดเป็นยอดสะสมรวม 48,000 คน โดยวันแรกมีผู้โดยสารราว 5.7 หมิ่นคนขณะที่วันล่าสุดนั้นมีผู้โดยสารเกือบ 7 หมื่นคน/วันแล้ว ส่วนด้านเสียงตอบรับของประชาชนถือว่าดีเยี่ยมเพราะสามารถเชื่อมต่อการเดินทางสาธารณะในพื้นที่ได้มากขึ้น

นายสุรพงษ์กล่าวต่อว่าสำหรับคาดการณ์ผู้โดยสารตลอดปี 2561 นี้จะเติบโตต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ราว 4-5% โดยมีปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบคือช่วงที่เกิดปัญหาบีทีเอสระบบขัดข้องราว 2 เดือนรวมถึงตัวเลขนักท่องเที่ยวที่ลดลง ขณะที่ในปี 2562 นั้นคาดว่าปริมาณผู้โดยสารจะกลับมาเติบโตได้ตามเป้าจากสภาพเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัวและปริมาณการจับจ่ายของประชากรที่จะเพิ่มขึ้นหลังการเลือกตั้งรัฐบาลใหม่

รายงานข่าวกระทรวงคมนามระบุว่ารถไฟฟ้าสายสีเขียวใต้ส่วนต่อขยายนับว่าได้รับความนิยมอย่างมากตั้งแต่วันที่เปิดให้บริการ เมื่อเทียบกับเสียงตอบรับของรถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงบางใหญ่-เตาปูน ซึ่งมีผู้โดยสารเพียง 30,000 คน/วันในช่วงแรกที่เปิดบริการ ส่วนปัจจุบันตัวเลขเพิ่มมาเป็น 60,000 คน/วัน แต่ก็ยังถือว่าน้อยกว่ารถไฟฟ้าสายสีเขียวใต้ส่วนต่อขยายที่มีผู้ใช้วันนี้เกือบ 70,000 คน/วัน แม้จะเปิดเพิ่มเพียง 5 สถานีช่วงสำโรง-สมุทรปราการ


Last edited by Wisarut on 18/12/2018 12:23 pm; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44332
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 18/12/2018 9:17 am    Post subject: Reply with quote


https://www.youtube.com/watch?v=84l6P97mZHk

รฟม.สั่งสอบ ทางวีลแชร์ขึ้น BTS สถานีสายลวด หลังคนพิการแฉใช้งานไม่ได้จริง ถาม "คนสร้างคิดอะไรอยู่?"

เรื่องเล่าเช้านี้ บีอีซี-เทโร
Published on Dec 17, 2018

หลังจากที่ได้มีการเปิดใช้รถไฟฟ้าสายสีเขียวได้ไม่นาน ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปทางสำหรับเข็นรถวีลแชร์เพื่อขึ้นลิฟต์ ไปบนรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงต่อขยาย แบริ่ง-สมุทรปราการ ที่สถานีสายลวด โดยในคลิปเผยให้เห็นถึงทางที่แคบ และเป็นไปไม่ได้ที่รถวีลแชร์ของผู้พิการจะสามารถเข็นผ่านเข้าไปไปยังทางลาดและขึ้นลิฟต์ได้ เป็นการสะท้อนว่าการสร้างดังกล่าวไม่สามารถใช้งานได้จริง

วานนี้ (17 ธ.ค.) นายมานิตย์ อินทร์พิมพ์ นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิคนพิการ ประธานคณะติดตามระบบราง ภาคีเครือข่ายขนส่งมวลชนทุกคนต้องขึ้นได้ กล่าวว่า ทางสำหรับเข็นรถวีลแชร์เพื่อขึ้นลิฟต์ของสถานีสายลวด เป็นทางที่แคบเกินไปไม่สามารถเข็นวีลแชร์ผ่านได้ และต่อให้ไม่ใช่คนพิการก็ใช้งานได้อย่างยากลำบาก

ซึ่งปกติขนาดของทางเดินที่จะใช้เข็นวีลแชร์ โดยมาตรฐานจะต้องมีความกว้าง 150 เซนติเมตร เป็นต้นไป หรือถ้าไม่ได้จริงๆ อย่างน้อยที่สุด ต้องมีความกว้าง ไม่ต่ำกว่า 90 เซนติเมตร เพราะฉะนั้นคำถามจึงไปอยู่ที่คนสร้างว่าคิดอะไรอยู่ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้ เพราะถ้ามองในเรื่องของความเป็นจริง ถ้ามีความคิดที่เป็นมนุษย์ มีจริยธรรมที่ดี ไม่ต้องไปใช้ความรู้อะไรมากมายก็น่าจะทำได้ดีกว่านี้

นอกจากนี้จุดที่เป็นปัญหาในรถไฟสายสีเขียว ทั้ง 35 สถานี คือยังไม่มีห้องน้ำคนพิการ, บางตู้โดยสารไม่มีไฟบอกตำแหน่งสถานี, บนตู้โดยสารไม่มีพื้นที่ของวีลแชร์, ทางเท้าจากสถานทีไปถึงจุดอื่นๆ ยังทำได้ลำบาก, การเข้าออกตู้โดยสารอาจจะต้องได้รับความชาวยเหลือ เป็นต้น โดยข้อปัญหาบางส่วนยังพบในรถไฟสายสีม่วงอีกด้วย

นายมานิตย์ ยังกล่าวอีกว่า อยากฝากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบกลับไปคิดทบทวนให้ดี เพราะคนพิการสามารถเพิ่มขึ้นได้ทุกเมื่อ และคนที่ออกนอกบ้านเดินทางไปไหนมาไหนไม่ได้ ก็ไม่ต่างจากคนที่ถูกขัง การสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกที่เป็นประโยชน์และได้มาตรฐาน ไว้เพื่อรองรับถือเป็นเรื่องที่ต้องทำอย่างใส่ใจ และตนก็เชื่อว่าการสร้างให้ได้มาตรฐาน ให้ใช้งานได้จริงจะใช้งบน้อยกว่าการสร้างไปแล้วผิด และต้องมารื้อใหม่

ผู้สื่อข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ได้สอบถามไปยัง BTS ทราบว่าสถานีสายลวดนั้นเป็นส่วนต่อขยายของโครงการ ทาง BTS รับผิดชอบแค่ในส่วนของการเดินรถเท่านั้น ส่วนโครงสร้างและการออกแบบ อยู่ในการดูแลของทางการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ผู้สื่อจึงได้ติดต่อไปยังการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และได้รับคำตอบว่าขณะนี้ได้สั่งการให้ฝ่ายก่อสร้างได้ตรวจสอบแล้ว ซึ่งหากมีความคืบหน้าจะชี้แจงอีกครั้ง
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> รถไฟฟ้า (BTS) และรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 60, 61, 62 ... 100, 101, 102  Next
Page 61 of 102

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©