RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311232
ทั่วไป:13179903
ทั้งหมด:13491135
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน)
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน)
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 295, 296, 297 ... 542, 543, 544  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 09/12/2018 11:12 pm    Post subject: Reply with quote


ซีพีรดูท่าจะมีภาษีเหนือบีทีเอสอยู่หน่อยๆ
https://www.youtube.com/watch?v=GWi_LvrZwMw
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 12/12/2018 10:18 am    Post subject: Reply with quote

ลุ้น! รถไฟเชื่อม 3 สนามบิน “บีทีเอส-ซีพี” แข่งราคายกสุดท้าย 14 ธ.ค.รู้ผล
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: อังคารที่ 11 ธันวาคม 2561 เวลา 18:08
ปรับปรุง: อังคารที่ 11 ธันวาคม 2561 เวลา 18:20

ร.ฟ.ท.ยังไม่ประกาศผู้ชนะรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน รอตรวจสอบและวิเคราะห์ข้อเสนอการเงิน เช็กความถูกต้องตัวเลขทุกรายการ 14 ธ.ค.ประกาศผล ก่อนเรียกผู้ชนะเจรจาต่อรอง “วรวุฒิ” เผย 2 กลุ่มเสนอรัฐอุดหนุนภายใต้กรอบ อยู่ที่ใครจะเสนอต่ำกว่ากัน มั่นใจเซ็นสัญญา 31 ม.ค. 62 ตามเป้า

นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า จากการพิจารณาข้อเสนอโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา ระยะทาง 220 กม. มูลค่า 224,544.36 ล้านบาท ในซองที่ 2 (ด้านเทคนิค) ของกิจการร่วมค้า บีเอสอาร์ (BSR Joint Venture) และกิจการร่วมค้า บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร โดยทั้ง 2 กลุ่มกิจการมีคุณสมบัติครบถ้วนและได้ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติด้านเทคนิค ซึ่งในวันที่ 11 ธันวาคม 2561 คณะกรรมการคัดเลือกฯ ได้เปิดข้อเสนอซองที่ 3 (ด้านการเงิน) ซึ่งจะตัดสินกลุ่มใดที่ขอรัฐอุดหนุนน้อยที่สุดจะเป็นผู้ชนะ

เบื้องต้นข้อเสนอของทั้ง 2 กลุ่ม ในส่วนของการเสนอขอรับการอุดหนุนจากรัฐไม่เกินกรอบวงเงินที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติวงเงินที่รัฐร่วมลงทุนกับเอกชนวงเงินไม่เกิน 119,425.75 ล้านบาท แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยราคาได้จนกว่าที่ปรึกษาจะทำการตรวจสอบเอกสารราคาจนครบถ้วนเรียบร้อย โดยคาดว่าจะสามารถประกาศผลราคาที่แน่นอนได้ภายในวันที่ 14 ธ.ค. 2561 หลังจากนั้นจะเป็นขั้นตอนการเจรจาต่อรอง คาดว่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 2 สัปดาห์จะได้ข้อสรุป และส่งร่างสัญญาที่สมบูรณ์ให้อัยการตรวจสอบ ในขณะเดียวกันจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่ออนุมัติผลคู่ขนาน และลงนามสัญญาภายในวันที่ 31 ม.ค. 2562

ทั้งนี้ บรรยากาศในการเปิดข้อเสนอด้านการเงินนั้น ผู้ยื่นประมูลทั้ง 2 กลุ่ม ได้แก่
1. กิจการร่วมค้า บีเอสอาร์ (BSR Joint Venture) ประกอบด้วย บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (ประเทศไทย), บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) (ประเทศไทย), บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (ประเทศไทย)

2. กิจการร่วมค้า บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร ประกอบด้วย บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด (ประเทศไทย), บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน), China Railway Construction Corporation Limited (สาธารณรัฐประชาชนจีน), บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) (ประเทศไทย), บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน)

นายวรวุฒิกล่าวว่า คณะกรรมการคัดเลือกฯ ได้เชิญผู้แทน 2 กลุ่มเข้าร่วมซักซ้อมความเข้าใจของขั้นตอนในการเปิดเอกสารซองที่ 3 ซึ่งได้จัดเก็บไว้ในห้องมั่นคง โดยผู้แทนของ 2 กลุ่มได้ตรวจสอบเอกสารยังอยู่ในสภาพปิดผนึกเรียบร้อยและเซ็นรับรองเอกสาร และนำมายังห้องประชุมเพื่อดำเนินการเปิดข้อเสนอ ซึ่งไม่พบปัญหาใดๆ โดยต่างฝ่ายได้ยืนยันเอกสารของตัวเอง และของอีกกลุ่มเพื่อความโปร่งใส และทั้งสองกลุ่มได้ถ่ายสำเนาเอกสารไว้ 3 ชุดเพื่อให้คณะกรรมการคัดเลือกฯ และที่ปรึกษานำไปตรวจสอบตามเงื่อนไขต่อไป

จากนั้นให้แต่ละกลุ่มสลับเอกสารให้อีกฝ่ายดู โดยไม่ให้มีการบันทึกภาพเอกสารของอีกฝ่ายแต่อย่างใด ซึ่งตอนนี้ทั้ง 2 กลุ่มรับทราบตัวเลขที่อีกฝ่ายนำเสนอแล้ว แต่ยังไม่มีการเปิดเผยใดๆ เพราะตัวเลขที่เห็นนั้นยังไม่สามารถจะตัดสินว่าผู้ใดเป็นผู้ชนะประมูลได้ เนื่องจากมีเอกสาร และรายการตัวเลขที่ต้องตรวจสอบและวิเคราะห์อีก

สำหรับข้อเสนอ ซองที่ 3 มีรายการของเอกสารที่บรรจุในซองปิดผนึกทั้งหมด 8 ชิ้น ได้แก่

1. บัญชีปริมาณงาน
2. แผนธุรกิจในการดำเนินโครงการ
3. แผนการเงิน
4. การจัดหาแหล่งเงินทุนที่ใช้ในการดำเนินโครงการ
5. ทรัพย์สินที่ใช้ในการดำเนินโครงการและกรรมสิทธิ์ของทรัพย์สิน
6. แบบฟอร์มผลตอบแทนทางการเงินของโครงการตลอดอายุของสัญญาร่วมลงทุน
7. แบบฟอร์มจำนวนเงินที่ขอรับการสนับสนุนจากรัฐและจำนวนเงินที่ได้รับจากเอกชน
8. อัตราค่าโดยสาร

“หลังจากนี้ไม่เกิน 1 สัปดาห์จะสามารถแจ้งผลการประมูลได้ว่ารายใดเป็น โดยที่ปรึกษาต้องตรวจรายละเอียดทุกข้อ ข้อมูลทุกหัวข้อ ต้องเชื่อมโยงกัน และตัวเลขต้องถูกต้อง คำนวณไม่ผิดพลาด เพราะรายละเอียดของเอกสารทั้ง 8 ข้อจะต้องแนบไปกับตัวสัญญาที่ ร.ฟ.ท.จะลงนามกับผู้ชนะ ซึ่งขณะนี้ได้ส่งรายละเอียดของสัญญาบางส่วนให้อัยการตรวจสอบคู่ขนานแล้ว เพื่อให้ทันกับกำหนดที่จะลงนามสัญญาภายใน 31 ม.ค. 2562” นายวรวุฒิกล่าว
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 12/12/2018 10:21 am    Post subject: Reply with quote

“อาคม” ลงพื้นที่ตรวจความคืบหน้าสร้างโครงการรถไฟไทย-จีน
เศรษฐกิจ
วันอังคาร ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2561, 15.53 น.




นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลัง ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโครงการความร่วมมือระหว่างไทย - จีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูง เพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพฯ - หนองคาย ระยะที่ 2 (ช่วงนครราชสีมา - หนองคาย) โดยมี พิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน อธิบดีกรมทางหลวงชนบท นายสราวุธ ทรงศิวิไล ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร และนายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงคมนาคม ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ร่วมรับฟังบรรยายสรุปและตรวจความคืบหน้าโครงการฯ ณ สถานีรถไฟหนองคาย


สำหรับโครงการความร่วมมือระหว่างไทย - จีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูง เพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพฯ - หนองคาย รวมระยะทางประมาณ 608 กิโลเมตร แบ่งเป็น 2 ระยะ ได้แก่ 1. ระยะที่ 1 สถานีกลางบางซื่อ - นครราชสีมา ระยะทาง 253 กิโลเมตร/2. ระยะที่ 2 นครราชสีมา - หนองคาย ระยะทาง 355 กิโลเมตร ทั้งนี้ นายอาคม ได้มอบแนวทางในการดำเนินงานของการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันและในอนาคตการรถไฟแห่งประเทศไทยจะมีบทบาทมากยิ่งขึ้นในการเชื่อมต่อโครงสร้างพื้นฐานภายในประเทศ และสามารถเชื่อมต่อในระบบโครงสร้างพื้นฐานของกระทรวงคมนาคม ดังนี้ รถไฟ กับ ถนน, รถไฟ กับ รถโดยสารสาธารณะ, รถไฟ กับ สนามบิน, รถไฟ กับ ท่าเรือ และรถไฟ กับ รถไฟ โดยทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมต้องสนับสนุนและบูรณาการการทำงานร่วมกัน ทั้งนี้การรถไฟแห่งประเทศไทยควรจัดหาระบบดิจิทัล Application ต่าง ๆ มาใช้ในการให้บริการเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการ และเพิ่มช่องทางในการให้บริการได้มากขึ้น


นอกจากนี้ ยังได้ตรวจขบวนรถไฟใหม่สำหรับการให้บริการประชาชนของการรถไฟแห่งประเทศไทย และมอบให้การรถไฟแห่งประเทศไทย ดูแลเรื่องความสะอาดและความปลอดภัยของสถานีและบนขบวนรถไฟ


ออกแบบ800ล.ไฮสปีด"โคราช-หนองคาย"
อังคารที่ 11 ธันวาคม 2561 เวลา 17.44 น.

ประชุมครม.สัญจรที่จ. หนองคาย 13 ธ.ค.นี้ รฟท.จะเสนองบออกแบบ รถไฟความเร็วสูง ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย ระยะทาง350 กม. งบ 800 ล้านบาท

รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) แจ้งว่า ในการประชุมครม.สัญจรที่จ. หนองคายวันที่ 13 ธ.ค.นี้ รฟท. จะรายงานความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูง(ไฮสปีด)ไทย-จีนเข้าสู่ที่ประชุมเพื่อรับทราบผลการดำเนินงานพร้อมทั้งเสนอเพื่อทราบเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณในโครงการออกแบบรถไฟไทย-จีน เฟส 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย ระยะทาง350 กม. งบประมาณ 800 ล้านบาท ซึ่งจะใช้ระยะเวลาออกแบบไม่นานเพราะมีแผนก่อสร้างเฟส 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นคราชสีมา ระยะทาง 252กม. งบประมาณ 1.79 ล้านบาท เป็นต้นแบบอยู่แล้ว

ขณะนี้การรถไฟฯ ได้ก่อสร้างช่วงสัญญาที่1 กลางดง-ปางอโศก ระยะทาง3.5 กม. ส่วนช่วงสีคิ้ว-กุดจิก ระยะทาง 11กม. อยู่ระหว่างการประมูล ซึ่งจะเหลืออีก12 สัญญา โดยการรถไฟฯ ได้เตรียมเร่งเปิดประมูลงานก่อสร้างอีก 5 สัญญา งบประมาณ 5 หมื่นล้านบาท และเปิดประมูลต่อไปอีก 7 สัญญาที่เหลือ งบประมาณ 7 หมื่นล้านบาท ภายในเดือนม.ค.-ก.พ.นี้
ทั้งนี้สำหรับสัญญา 2.3 งานระบบราง ระบบไฟฟ้า และเครื่องกล รวมทั้งจัดหาขบวนรถไฟและจัดฝึกอบรมบุคลากร วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท นั้นยังติดปัญหาในหลายประเด็นจึงยังไม่สามารถเสนอร่างสัญญาให้ที่ประชุมครม.สัญจรพิจารณาได้

//--------------------------------

“อาคม” มั่นใจปี 64 รถไฟทางคู่ถึงหนองคาย ส่วนความเร็วสูงร่นเวลาวิ่ง กทม.-หนองคายเหลือแค่ 3 ชม.
หน้าภูมิภาค - ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: อังคารที่ 11 ธันวาคม 2561 เวลา 20:23
ปรับปรุง: พุธที่ 12 ธันวาคม 2561 เวลา 06:38


หนองคาย - “อาคม” ลงพื้นที่หนองคายตามความคืบหน้าโครงการรถไฟทางคู่ มั่นใจทางคู่ถึงหนองคายปี 64 ส่วนรถไฟความเร็วสูงอยู่ระหว่างเจรจารัฐบาลจีน คาดปี 65 ได้ใช้ครบตลอดสาย ร่นเวลาเดินทางจาก กทม.-หนองคาย เดิม 11 ชม. เหลือแค่ 3 ชม.

วันนี้ (11 ธ.ค. 61) นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมคณะได้ลงพื้นที่จังหวัดหนองคายติดตามการดำเนินการโครงการรถไฟทางคู่ และรถไฟความเร็วสูง ที่สถานีรถไฟหนองคาย ก่อนจะเดินทางไปยังแขวงการทางหนองคายเพื่อรับฟังโครงการขยายเส้นทางคมนาคมในพื้นที่ จ.หนองคาย ผลักดันเข้าที่ประชุม ครม.สัญจร

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของ ครม.สัญจร โดยวานนี้ได้ลงพื้นที่ จ.อุดรธานี ซึ่งมีการก่อสร้างทางแยกต่างระดับซึ่งเป็นจุดที่มีการจราจรคับคั่งมากจากหนองบัวลำภู-สกลนคร และจากหนองคาย-อุดรธานี คาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จในเดือน ก.ย. 62 โดยจะเป็นลักษณะเส้นทาง 3 ระดับ มีทั้งอุโมงค์ทางลอดทางอุดรธานี-หนองคาย, สะพานยกระดับจากหนองบัวลำภู-สกลนคร และเป็นทางระดับดิน

เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะช่วยแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดลงได้ นอกจากนี้ยังได้ไปเยี่ยมประชาชนที่ อ.โนนสะอาด ซึ่งมีถนนที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ใน 1 ปีมีผู้เสียชีวิต 17 ราย กรมทางหลวงได้แก้ไขด้วยการเพิ่มสัญญาณไฟแดงเพื่อลดอุบัติเหตุเกือบทั้งหมด

นายอาคมกล่าวอีกว่า สำหรับจังหวัดหนองคายจะมีโครงการเกิดขึ้น 2 โครงการ คือ รถไฟทางคู่ และรถไฟความเร็วสูง โดยโครงการรถไฟทางคู่นั้นจะเป็นเส้นทางต่อจาก จ.ขอนแก่น ช่วงแรกจากชุมทางจิระ-ขอนแก่น อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ก้าวหน้าไปกว่าร้อยละ 90 ขณะนี้เปิดให้รถไฟวิ่งได้ในทางระดับบางส่วนประมาณ 5-10 กม. ส่วนสถานีจิระ-คลองขนานจิตรอยู่ระหว่างการปรับแบบเพื่อยกระดับขึ้นให้สอดคล้องกับความต้องการของชาวนครราชสีมา

รถไฟทางคู่ที่วิ่งจากขอนแก่น-หนองคาย ระยะทาง 167 กม. ความเร็วสูงสุดที่รถไฟทางคู่จะวิ่งได้อยู่ที่ 160 กม./ชม. มูลค่าการลงทุนประมาณ 26,647 ล้านบาท มีทั้งหมด 14 สถานี มี 4 จุดจอด จะสะดวกสำหรับประชาชนที่เดินทางในระยะใกล้และราคาค่าโดยสารเป็นปกติ

รวมทั้งจะใช้เป็นเส้นทางการขนส่งทางรถไฟ ซึ่งอยู่ระหว่างการนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีคาดว่าจะนำเข้าเสนอได้ในเดือน ม.ค. 2562 โดยจะเป็นการเพิ่มรางรถไฟขึ้นมาอีก 1 ราง การรถไฟฯ ได้ปรับปรุงหมอนรถไฟจากไม้เป็นคอนกรีต และหินโรยทาง ปรับปรุงรางรถไฟให้สามารถรับน้ำหนักได้มากขึ้นด้วย


ส่วนโครงการรถไฟความเร็วสูง ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีน ช่วงแรกเป็นสถานีบางซื่อ กรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 252.3 กม. ความคืบหน้าในสัญญาที่ 1 เริ่มก่อสร้างแล้วในช่วงปากช่อง-ปางอโศก คืบหน้าร้อยละ 50 เป็นการปรับปรุงชั้นทาง ส่วนสัญญาที่ 2 ระยะทาง 11 กม. ขณะนี้ได้ออกทีโออาร์ไปแล้วจะมีการยื่นซองในวันที่ 18 ธ.ค. 61 ในเดือน ม.ค. 62 จะมีการออกทีโออาร์ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา อีก 5 สัญญา ถัดไปเดือน ก.พ. 62 จะมีการออกทีโออาร์อีก 7 สัญญา ก็จะครบถ้วนสัญญา 252.3 กม.

ทั้งนี้ คาดว่าในไตรมาสที่ 2 จะได้ผู้รับจ้างแล้ว ประมาณเดือน พ.ค. มิ.ย. 62 ก็จะได้เริ่มต้นก่อสร้าง มูลค่าการลงทุนในส่วนแรก 179,413 ล้านบาท ความเร็วสูงสุดของรถไฟความเร็วสูงอยู่ที่ 250 กม./ชม. ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2564-2565 เมื่อก่อสร้างแล้วจะเร็วเพราะ 13 สัญญาจะสร้างพร้อมกัน

ในส่วนระยะที่สอง ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย ระยะทาง 355 กม. เชื่อมต่อไปถึงบางซื่อ โดยจะมีทั้งหมด 5 สถานี เริ่มจาก บัวใหญ่ บ้านไผ่ ขอนแก่น อุดรธานี หนองคาย งบประมาณการก่อสร้าง 211,747 ล้านบาท วัตถุประสงค์หลักจะใช้สำหรับขนส่งผู้โดยสารเพียงอย่างเดียว โดยช่วงสถานีหนองคายมี 2 สถานี สถานีหนองคายเป็นสถานีผู้โดยสาร และสถานีนาทาจะเป็นสถานีเปลี่ยนถ่ายสินค้าเพื่อเข้าสู่ระบบทางคู่ไปแหลมฉบัง และตั้งใจให้เป็นท่าเรือบก (Drive port) เพื่อให้บริการจุดเดียว อยู่ระหว่างการของบประมาณจากรัฐบาล และรัฐบาลไทยจะเป็นฝ่ายออกแบบเอง

โดยบรรลุข้อตกลงกับรัฐบาลจีนเรียบร้อยแล้วเพราะไทยออกแบบได้เร็วกว่าและประหยัดค่าใช้จ่ายได้ด้วย หากรถไฟความเร็วสูงก่อสร้างเสร็จตลอดเส้นทางจะช่วยร่นระยะเวลาการเดินทางจากเดิมที่เดินทางรถไฟปกติจากกรุงเทพฯ-หนองคายใช้เวลา 11 ชม. รถไฟความเร็วสูง จากกรุงเทพฯ-นครราชสีมาจะใช้เวลา 1.30 ชม. และกรุงเทพฯ-หนองคาย เพียง 3 ชม.เท่านั้น



สำหรับส่วนที่สาม จะเป็นจุดเชื่อมต่อไปยังนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว เริ่มจากสถานีนาทาไปยังสะพานเพื่อการรถไฟโดยเฉพาะ ซึ่งจะเป็นสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 2 ของจังหวัดหนองคาย โดยจะสร้างคู่ขนานกับสะพานแห่งที่ 1 ซึ่งจะเป็นสะพานใหม่ที่สร้างไว้รองรับเส้นทางรถไฟปกติ รางรถไฟ 1 เมตร และรถไฟความเร็วสูงดับเบิลแทร็กเพื่อเชื่อมกับสถานีเวียงจันทน์

ส่วนสะพานเดิมจะใช้เฉพาะเดินรถยนต์เพียงอย่างเดียว รัฐบาลได้ตกลงกับทางรัฐบาลจีนและรัฐบาลลาวขอให้ทางฝ่ายจีนเป็นผู้ออกแบบและศึกษาความเหมาะสมเพื่อให้รองรับรถไฟปกติและรถไฟความเร็วสูง จะเร่งการออกแบบให้แล้วเสร็จภายในปี 2562 เริ่มต้นก่อสร้างปี 2563 ใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี หรือประมาณปี 2566 ก็จะได้ใช้เส้นทางใหม่นี้ ซึ่งจะสอดคล้องกับการก่อสร้างเส้นทางจากคุนหมิง-นครหลวงเวียงจันทน์ จะก่อสร้างแล้วเสร็จในเวลาไล่เลี่ยกัน


Last edited by Wisarut on 12/12/2018 12:18 pm; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 12/12/2018 10:27 am    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
ลุ้น! รถไฟเชื่อม 3 สนามบิน “บีทีเอส-ซีพี” แข่งราคายกสุดท้าย 14 ธ.ค.รู้ผล
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: อังคารที่ 11 ธันวาคม 2561 เวลา 18:08 น.
ปรับปรุง: อังคารที่ 11 ธันวาคม 2561 เวลา 18:20 น.


เปิดซองไฮสปีดเทรน 'บีทีเอส-ซีพี'ดัมพ์ต่ำเกณฑ์ สอบผ่านแพ็คคู่
อังคารที่ 11 ธันวาคม 2561

เปิดซองราคาไฮสปีดเทรนสามสนามบิน "บีทีเอส-ซีพี" ดัมพ์ราคาต่ำเกณฑ์ 1.19 แสนล้านสอบผ่านแพ็คคู่ รฟท.ขอเวลาพิจารณารายละเอียดประกอบความเป็นไปได้ของโครงการ ย้ำภายใน 14 ธ.ค.นี้ประกาศผู้ชนะ ยังปักหมุดเสนอ ครม.กลางเดือน ม.ค.2562

นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยภายหลังเปิดซอง 3 ข้อเสนอด้านการเงิน โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน ดอนเมือง - สุวรรณภูมิ - อู่ตะเภา วันนี้ (11 ธ.ค.) โดยระบุว่า ขณะนี้ รฟท.ได้ทำการเปิดซองเอกสารข้อเสนอราคาแล้ว พบว่าข้อเสนอของทั้งสองกลุ่มที่ยื่นประมูล มีราคาต่ำกว่าเกณฑ์ข้อกำหนดตามเอกสารประกวดาราคา (ทีโออาร์) ส่วนของเงินอุดหนุนรัฐตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) วงเงิน 1.19 แสนล้านบาท ทำให้ทั้งสองกลุ่มผ่านเกณฑ์การประเมิน

โดยขั้นตอนหลังจากนี้คณะกรรมการประมูลโครงการจะนำข้อเสนอด้านการเงิน ที่ประกอบไปด้วย 8 ส่วน มาวิเคราะห์ถึงความเชื่อมโยงและความเหมาะสมของราคาที่เอกชนเสนอมา ประกอบไปด้วย
1.บัญชีปริมาณงาน
2.แผนธุรกิจในการดำเนินโครงการ
3.แผนการเงิน
4.การจัดหาแหล่งเงินทุนที่ใช้ในการดำเนินโครงการ
5.ทรัพย์สินที่ใช้ในการดำเนินโครงการ และกรรมสิทธิ์ของทรัพย์สิน
6.ผลตอบแทนทางการเงินของโครงการตลอดอายุของสัญญาร่วมลงทุน
7.จำนวนเงินที่ขอรับการสนับสนุนจากรัฐและจำนวนเงินที่รัฐได้รับจากเอกชน และ
8.การกำหนดอัตราค่าโดยสาร

“รฟท.ได้เชิญผู้แทนของเอกชนที่ยื่นประมูลโครงการเข้ามาเปิดซองข้อเสนอที่ 3 เปิดซองราคาด้วยตนเอง พร้อมทั้งให้แลกเปลี่ยนเอกสารเพื่อให้รับทราบข้อเสนอของแต่ละฝ่าย ถือเป็นการตรวจสอบความถูกต้องของข้อเสนอ และแสดงถึงความโปร่งใส แต่ราคาที่เปิดออกมาในวันนี้ ยังไม่ใช่การตัดสินผู้ชนะ เพราะคณะกรรมการฯ จะต้องนำข้อเสนอทั้งหมดไปวิเคราะห์ประกอบความเชื่อมโยง และท้ายสุดเมื่อนำสิ่งที่ขอ มาลบกับสิ่งที่ให้ ผู้ใดขอเงินอุดหนุนจากรัฐน้อยที่สุด ถือเป็นผู้ชนะ”

นายวรวุฒิ ยังกล่าวด้วยว่า หากคณะกรรมการฯ พิจารณาข้อเสนอทั้ง 8 ส่วน และพบว่ามีเอกชนรายที่เสนอราคาเงินอุดหนุนรัฐต่ำสุดแล้ว แต่ยังมีความเชื่อมโยงของข้อเสนอบางส่วนยังไม่สมเหตุสมผล ก็จะเรียกเอกชนรายดังกล่าวมาชี้แจงรายละเอียดให้ตรงกัน โดยจะไม่ตัดสิทธิ์แพ้การประมูล ซึ่งคาดว่าภายใน 14 ธ.ค.นี้ จะสามารถประกาศรายชื่อผู้ที่เสนอเงินอุดหนุนรัฐต่ำสุด และเจรจาต่อรอง ใช้เวลาอีกราว 2 สัปดาห์

โดยขณะนี้ รฟท.ได้จัดทำสัญญาควบคู่ไปกับการพิจารณาเอกสารประมูลแล้ว หากได้ตัวผู้ชนะประมูลโครงการ ก็จะนำเอกสารข้อเสนอบรรจุเข้าในสัญญา ก่อนนำส่งสัญญาให้อัยการสูงสุดพิจารณา เบื้องต้นจึงมั่นใจว่า จะสามารถเสนอชื่อผู้ชนะการประมูลเข้าสู่ที่ประชุม ครม.เห็นชอบในช่วงกลางเดือน ม.ค. 2562 และเดินหน้าลงนามสัญญาภายในวันที่ 31 ม.ค.2562

สำหรับโครงการไฮสปีดเทรนเชื่อมสามสนามบิน มีมูลค่าการลงทุนราว 2.24 แสนล้านบาท แบ่งออกเป็นการลงทุนเริ่มต้นในระบบขนส่งทางรถไฟ 1.68 แสนล้านบาท การพัฒนาพื้นที่เพื่อสนับสนุนบริการรถไฟ 4.51 หมื่นล้านบาท และสิทธิการเดินรถไฟแอร์พอร์ตลิงก์ 1.06 หมื่นล้านบาท โดยเอกชนจะได้รับสัมปทานอายุ 50 ปี เป็นการออกแบบและก่อสร้างจำนวน 5 ปี และดำเนินการให้บริการอีก 45 ปี ขณะที่ผลการวิเคราะห์ผลตอบแทนทางด้านเศรษฐกิจตลอดทั้งโครงการประมาณ 7 แสนล้านบาท
"ซี่พี"เก็บอาการไม่อยู่หลังดูราคา รถไฟเชื่อม3สนามบิน
อังคารที่ 11 ธันวาคม 2561 เวลา 18.53 น.

ลุ้น เปิดซองประมูล รถไฟเชื่อมสนามบิน 14 ธ.ค.รู้ผล ระหว่าง 2 กลุ่ม กิจการร่วมค้า บีเอสอาร์ และบริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด หลังจากเห็นราคากลุ่มซีพีเก็บอาการไม่อยู่

เมื่อเวลา16.00น.วันที่ 11 ธ.ค. ที่ ห้องประชุมคณะกรรมการรถไฟฯ ชั้น 2 ตึกบัญชาการรถไฟ การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่ารฟท.เปิดเผยภายหลังพิธีการประเมินซองข้อเสนอเอกชนร่วมลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูง เชื่อมสามสนามบิน ดอนเมือง – สุวรรณภูมิ – อู่ตะเภางบประมาณ 2.15 แสนล้านบาท ซองที่ 3(ด้านการเงิน) ระหว่าง กลุ่มบริษัทที่เข้าร่วมยื่นเสนอราคา คือ กิจการร่วมค้า บีเอสอาร์ (BSR Joint Venture) ทีมีบีทีเอสเป็นแกนนำ และ กิจการร่วมค้า บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร เข้าร่วมรับฟังการประเมิน ว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าบริษัทใดเป็นผู้ชนะเนื่องจากการเปิดกล่องเอกสารของผู้ประมูลนั้นเป็นการเปิดโอกาสให้ทั้ง 2 บริษัทตรวจสอบเอกสาร 8 ฉบับ อาทิเช่น เรื่องการเงิน บัญชีปริมาณงาน แผนธุรกิจในการดำเนินการโครงการ แผนการเงิน การจัดหาแหล่งเงินทุนที่ใช้ดำเนินโครงการ ทรัพย์สินที่ใช้ดำเนินโครงการ และกรรมสิทธิ์ของทรัพท์สิน แบบฟอร์มผลตอบแทนทางการเงินของโครงการตลอดอายุของสัญญาร่วมลงทุน แบบฟอร์มจำนวนเงินที่ขอรับการสนับสนุนจากรัฐ และจำนวนเงินที่รัฐได้เอกชน อัตราค่าโดยสาร โดยสลับกันตรวจสอบ 2 ฝ่าย พร้อมลงชื่อกำกับ และตรวจสภาพกล่องใส่เอกสารไม่เสียหาย พร้อมบรรจุเอกสารกลับในกล้องและปิดผนึกอย่างเดิม จากนั้นนำกล่องไปเก็บที่ห้องตามเดิม โดยระหว่างนี้จะเป็นกระบวนการของคณะกรรมการคัดเลือกในการประเมินตัวเลขที่แต่ละฝ่ายเสนอ โดยคณะกรรมการจะดูจากตัวเลขที่เอกชนจะขอให้รัฐสนับสนุนน้อยที่สุด ไม่เกิน1.2 แสนล้านบาท และการเสนอผลตอบแทนตลอดโครงการให้รัฐบาลมากที่สุด โดยจะดูที่ตัวเลขรวมสุดท้าย(Net Value) ดังนั้นฝ่ายไหนเสนอตัวเลขดังกล่าวได้ดีที่สุดจะเป็นผู้ชนะโครงการไป ซึ่งคาดว่าคณะกรรมการจะใช้เวลาประเมิน 1 อาทิตย์ โดยจะรู้ผลภายใน14 ธ.ค.นี้


นายวรวุฒิเปิดเผยต่อว่า หลังจากนั้นขั้นตอนสุดท้ายก่อนประกาศผู้ชนะจะต้องผ่านการเจรจาต่อรองกันก่อน และนำร่างสัญญา ส่งให้สำนักงานอัยการสูงสุดตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง คาดว่าสามารถประกาศผลการประมูลเสร็จได้ภายในต้นเดือนม.ค. 62 เข้าคณะรัฐมนตรี(ครม.)ภายในกลางเดือนม.ค.62และจะลงนามสัญญาได้ภายใน 31 ม.ค.62 นี้

รายงานข่าวแจ้งว่าสำหรับบรรยากาศภายระหว่างการเปิดซองเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทั้ง2 ฝ่ายได้มีการตรวจสอบภาชนะบรรจุเอกสารอย่างครบถ้วน ซึ่งทั้ง2 บริษัทจะได้ดูเอกสารการเสนอราคาของกันละกัน ซึ่งแต่ละฝ่ายจะรู้แล้วว่าใครเสนอราคามากน้อยกว่าใคร

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ทั้งนี้ในด้านฝ่าย กิจการร่วมค้า บีเอสอาร์ (BSR Joint Venture) หลังจากออกมาจากห้องประชุม มีท่าทีแสดงความมั่นใจ พร้อมกล่าวว่าผลการประมูลครั้งนี้จะมีแต่ข่าวดีไม่มีข่าวร้าย ส่วนด้านกิจการร่วมค้า บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร นั้นหลังเปิดซองเอกสารเสร็จสิ้นได้เดินทางกลับทันที อย่างไรก็ตามยังคงต้องให้คณะกรรมการคัดเลือกโครงการนั้นใช้เวลาพิจารณารายละเอียดซองที่ 3 อีก 1 อาทิตย์
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 12/12/2018 11:07 am    Post subject: Reply with quote

‘ซีพี-บีทีเอส’ลุ้น! รฟท.ชี้ผลประมูลรถไฟ3สนามบิน14ธค.
วันพุธ ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2561 เวลา 06.00 น.

ที่ ห้องประชุมคณะกรรมการรถไฟฯ ชั้น 2 ตึกบัญชาการรถไฟ การรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) เมื่อวันที่ วันที่ 11 ธันวาคม 2561 ร.ฟ.ท.ได้มีพิธีการประเมินซองข้อเสนอเอกชนร่วมลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน ดอนเมือง – สุวรรณภูมิ – อู่ตะเภา ซองที่ 3(ด้านการเงิน)

โดยพบว่ามี 2 กลุ่มบริษัทที่เข้าร่วมยื่นเสนอราคา คือ กิจการร่วมค้า บีเอสอาร์ (BSR Joint Venture) และ กิจการร่วมค้า บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด (ซีพี)และพันธมิตร เข้าร่วมรับฟังการประเมินด้วย

นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. เปิดเผยว่า ตามที่ได้เปิดขายเอกสารการคัดเลือกเอกชน โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินพบว่า มีบริษัทที่ให้ความสนใจเข้าซื้อเอกสารการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินถึง 31 ราย แต่มีกลุ่มกิจการเข้ายื่นข้อเสนอ 2 ราย ประกอบด้วย

1. กิจการร่วมค้า บีเอสอาร์ (BSR Joint Venture) ประกอบด้วย บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (ประเทศไทย), บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) (ประเทศไทย), บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (ประเทศไทย)

2. กิจการร่วมค้า บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร ประกอบด้วย บริษัทเจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด (ประเทศไทย), บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน), China Railway Construction Corporation Limited (สาธารณรัฐประชาชนจีน), บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) (ประเทศไทย), บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน)

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาการรถไฟฯ ได้มีการประชุมหารือซองประมูลที่สอง โดยได้พิจารณาด้านเทคนิค ของผู้ยื่นข้อเสนอโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินไปแล้ว โดยพบว่าทั้ง 2 กลุ่มกิจการ มีคุณสมบัติครบถ้วนและได้ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติด้านเทคนิค

ส่วนการดำเนินการประเมินซองข้อเสนอเอกชนร่วมลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินซองที่ 3(ด้านการเงิน) ได้พิจารณาเรียบร้อยแล้วแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยราคาได้ จนกว่าที่ปรึกษาจะทำการตรวจสอบเอกสารราคาจนครบถ้วนเรียบร้อย โดยคาดว่าจะสามารถประกาศผลราคาที่แน่นอนได้ภายในวันที่ 14 ธันวาคม 2561 หลังจากนั้นขั้นตอนสุดท้ายก่อนประกาศผู้ชนะจะต้องผ่านการเจรจาต่อรองกันก่อน และนำร่างสัญญาส่งให้สำนักงานอัยการสูงสุดตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง คาดว่าสามารถประกาศผลการประมูลเสร็จได้ภายในเดือนมกราคม 2562

ส่วนที่ กระทรวงการคลัง นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (คณะกรรมการ PPP) โดยนายสมคิดกล่าวว่า ได้เร่งรัดแผนก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์ - มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ของ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) มูลค่าเงินลงทุนรวม 235,320 ล้านบาท ตามแผนคาดว่าจะเปิดให้บริการในส่วนตะวันออกปี 2566 ขณะที่่เปิดบริการทั้งเส้นภายในปี 2568 โดยเร่งให้สรุปแผน นำเสนอกลับมายังคณะกรรมการ PPP โดยเร็ว

//-----------------

‘ซีพี-บีเอสอาร์’ฉลุยเปิดซองราคารถไฟความเร็วสูงเชื่อม3สนามบิน
วันอังคาร ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2561 เวลา 18.06 น.

11 ธ.ค.61 นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) เปิดเผยว่า ตามที่การรถไฟฯได้เปิดขายเอกสารการคัดเลือกเอกชน โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน ดอนเมือง–สุวรรณภูมิ–อู่ตะเภาเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน - 9 กรกฎาคม 2561 ซึ่งมีบริษัทที่ให้ความสนใจเข้าซื้อเอกสารการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินถึง 31 ราย หลังจากนั้นได้จัดให้มีการประชุมชี้แจงเพื่อทำความเข้าใจไปเมื่อวันที่ 23-24 กรกฎาคม 2561และกำหนดรับซองข้อเสนอราคาเมื่อวันที่12พฤศจิกายน 2561

ทั้งนี้มีกลุ่มกิจการเข้ายื่นข้อเสนอ 2 ราย ประกอบด้วย 1. กิจการร่วมค้า บีเอสอาร์ (BSR Joint Venture) ประกอบด้วย บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (ประเทศไทย) , บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) (ประเทศไทย) , บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (ประเทศไทย) และ2. กิจการร่วมค้า บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร ประกอบด้วย บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด (ประเทศไทย) , บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) , China Railway Construction Corporation Limited (สาธารณรัฐประชาชนจีน) , บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) (ประเทศไทย) , บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน)

ที่ผ่านมาการรถไฟฯ ได้มีการประชุมหารือซองประมูลที่สอง โดยได้พิจารณาด้านเทคนิคของผู้ยื่นข้อเสนอโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินไปแล้ว โดยพบว่าทั้ง 2 กลุ่มกิจการ มีคุณสมบัติครบถ้วน และได้ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติด้านเทคนิค และขั้นตอนล่าสุดในวันที่ 11 ธันวาคม 2561 ดังนั้น
การรถไฟฯ จึงถือว่าได้มีการดำเนินการประเมินซองข้อเสนอเอกชนร่วมลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินซองที่ 3(ด้านการเงิน) เรียบร้อยแล้ว

อย่างไรก็ตาม การรถไฟฯ ยังไม่สามารถเปิดเผยราคาได้ จนกว่าที่ปรึกษาจะทำการตรวจสอบเอกสารราคาจนครบถ้วนเรียบร้อย โดยคาดว่าจะสามารถประกาศผลราคาที่แน่นอนได้ภายในวันที่ 14 ธันวาคม 2561 หลังจากนั้นขั้นตอนสุดท้ายก่อนประกาศผู้ชนะจะต้องผ่านการเจรจาต่อรองกันก่อน และนำร่างสัญญาส่งให้สำนักงานอัยการสูงสุดตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง คาดว่าสามารถประกาศผลการประมูลเสร็จได้ภายในเดือนมกราคม 2562

“ตามขั้นตอน เมื่อได้ผู้ชนะแล้วก็จะนำร่างสัญญาส่งให้สำนักงานอัยการสูงสุดตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง คาดว่าจะสามารถประกาศผลการประมูลเสร็จได้ภายในเดือนมกราคม 2562 จากนั้นจะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ประมาณกลางเดือนมกราคม และลงนามสัญญาไม่เกินวันที่ 31 มกราคม 2562” นายวรวุฒิ กล่าว

//------------------

รฟท.ยื้อเคาะไฮสปีด-นักวิเคราะห์เชื่อซีพีชนะ
วันพุธ ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2561 เวลา 06:15 น.

นายวรวุฒิ มาลา ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน วงเงินลงทุน 2.15 แสนล้านบาทนั้น วันที่ 11 ธ.ค. คณะกรรมการ ได้เปิดซองที่ 3 ด้านราคา ซึ่งเอกชนคู่แข่งขัน ได้แก่ กิจการร่วมค้า บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง และพันธมิตร และกิจการร่วมค้า บีเอสอาร์ (BSR Joint Venture) ซึ่งการเปิดซองผ่านไปอย่างเรียบร้อย ไม่มีการร้องเรียน

“ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดผลประมูล เนื่องจากต้องนำรายละเอียดตัวเลขที่ทั้งสองเจ้าได้เสนอมากลับไปทบทวนก่อนว่าตัวเลขบรรทัดสุดท้ายจะเป็นอย่างไร คาดว่าจะประกาศผลที่แน่ชัดภายใน 7 วัน ก่อนเจรจากับผู้ชนะโครงการให้จบภายในเดือนนี้ เพื่อเสนอผลการคัดเลือกเอกชนเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายในช่วงกลางเดือน ม.ค. 2562 ก่อนลงนามสัญญาตามเป้าหมายช่วงปลายเดือน” นายวรวุฒิ กล่าว

นายวรวุฒิ กล่าวว่า ตัวชี้วัดสำคัญที่จะตัดสินผลประมูลนั้นจะอยู่ที่เงื่อนไขการพิจารณา 1.การเสนอขอรับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลน้อยที่สุด โดยห้ามเกิน 1.2 แสนล้านบาท 2.การเสนอผลตอบแทนตลอดโครงการให้รัฐบาลมากที่สุด โดยจะดูที่ตัวเลขบรรทัดสุดท้าย (Net Value) ดังนั้นหากฝ่ายไหนเสนอตัวเลขดังกล่าวได้ดีที่สุดจะเป็นผู้ชนะโครงการไป ทั้งนี้ รฟท.ได้เริ่มขั้นตอนการร่างสัญญาโครงการควบคู่กันไปด้วยเพื่อให้สามารถเจรจาได้ทันทีเมื่อได้คัดเลือกตัวเอกชนและเพื่อความรวดเร็วของโครงการ

แหล่งข่าวจาก รฟท. เปิดเผยว่า การเปิดซองราคาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินในครั้งนี้ บริษัทที่เสนอราคาดีที่สุด ได้แก่ กิจการร่วมค้า บีเอส อาร์ (BSR Joint Venture) ซึ่งหนึ่งในฝ่ายผู้บริหารบริษัทเอกชนดังกล่าวก็ได้แสดงความมั่นใจ พร้อมกล่าวด้วยว่าผลการประมูลครั้งนี้จะมีแต่ข่าวดีไม่มีข่าวร้าย อย่างไรก็ตามยังคงต้องให้คณะกรรมการคัดเลือกโครงการใช้เวลาพิจารณารายละเอียดซองที่ 3 อีกราว 7 วัน เพื่อดูว่าตัวเลขสุดท้ายที่ทั้งสองเจ้าเสนอมาเป็นไปตามนั้นหรือไม่

ขณะที่นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) กล่าวว่าในการเปิดซองราคาซึ่งเป็นขั้นตอนที่ 3 ของการประมูลรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมานั้น ทั้งสองฝ่าย คือ ทางกลุ่ม BSR และ CP consortiums ที่ผ่านการประเมินทางเทคนิคด้วยคะแนนเท่ากัน ที่ รฟท.ประกาศเมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 2561 ว่า BSR ได้ไปแล้ว ซึ่งในการพิจารณาซองราคาจะดูว่าเจ้าไหนจะเรียกเงินอุดหนุนจากภาครัฐน้อยกว่ากัน ซึ่งรัฐกำหนดเพดานไว้ที่ 1.19 แสนล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ถ้าหากว่าทั้งสองรายขอรับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลเท่ากัน Consortium ที่ได้คะแนนทางเทคนิคสูงกว่าก็จะเป็นผู้ชนะประมูล และคาดว่า รฟท.จะประกาศผลการประมูลได้ภายในสิ้นเดือน ธ.ค.นี้

ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์ของบริษัท คาดว่า CP consortiums จะเหนือกว่า BSR ในทุกด้าน เพราะหากดูโครงสร้างการถือหุ้นจะพบว่ามีกลุ่ม ช.การช่าง (CK) ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) และ China Railway Construction Corporation Limited ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มที่จะครอบคลุมมากกว่า และได้รับเงินสินเชื่อโครงการจากเจบิก ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้ต้นทุนทางการเงินต่ำลง คือสามารถเสนอได้ในราคาที่ต่ำกว่า

ขณะที่ CK เองก็จะพลาดงานนี้ไม่ได้ เพราะมีมูลค่างานในมือเพียง 5.5 หมื่นล้านบาท

“ที่ผ่านมาหากดูการเคลื่อนไหวของทางกลุ่มซีพีที่เข้าไปมีที่ดินตามแนวที่รถไฟจะผ่าน จึงเชื่อว่าหากเป็นผู้ชนะการประมูลน่าจะพัฒนาให้เมืองรอบเส้นทางรถไฟฟ้าได้ดีกว่า” นักวิเคราะห์ระบุ


Last edited by Wisarut on 12/12/2018 10:01 pm; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 12/12/2018 11:32 am    Post subject: Reply with quote

ยังไม่สะเด็ดน้ำ! รถไฟขอเวลาเช็กราคาประมูลไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบินคาด14 ธ.ค.นี้รู้ผลผู้กุมเค้ก2แสนล้าน

วันอังคารที่ 11 ธันวาคม 2561 เวลา 17:37 น.


นายวรวุฒิ มาลา รักษาการณ์ในตำแหน่งผู้ว่าการถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กล่าวว่า การพิจารณาซองข้อเสนอคุณสมด้านการลงทุนและผลตอบแทน(ซองที่ 3) ในโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง – สุวรรณภูมิ – อู่ตะเภา) ระยะทาง 220 กม. เงินลงทุน 224,544 ล้านบาท ระหว่างกลุ่มกิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ (BSR Joint Venture) และกิจการร่วมค้า บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้งส์ จำกัด และพันธมิตร

หลังจากโดยคณะกรรมการคัดเลือกได้ตรวจสอบเอกสารของทั้ง 2 กลุ่มเรียบร้อยแล้ว โดยสภาพของกล่องเอกสารของทั้งสองกลุ่มมีความเรียบร้อย ไม่พบรอยขีดข่วนหรือฉีกขาด และเอกสารที่เกี่ยวข้องทั้ง 8 ส่วน ได้แก่ บัญชีปริมาณงาน (รวมภาษีอากร ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้ว), แผนธุรกิจในการดำเนินโครงการ, แผนการเงิน, การจัดหาแหล่งเงินทุน, สูตรที่ใช้ในการดำเนินโครงการและกรรมสิทธิ์ของทรัพย์สินดังกล่าว, ผลตอบแทนทางการเงินของโครงการตลอดอายุของสัญญาร่วมทุน 50 ปี, ผลประโยชน์ที่ภาครัฐจะได้รับและการขอรับเงินที่รัฐร่วมลงทุนในโครงการ และอัตราค่าโดยสาร มีความครบถ้วนทั้งสองกลุ่ม





และเพื่อความโปร่งใสของโครงการ ก็ได้ให้ทั้งสองกลุ่มแลกเอกสารกันตรวจสอบด้วย โดยไม่มีการบันทึกภาพ เสียง หรือเขียนรายงานอะไรเป็นพิเศษ จากนั้นได้ให้ทั้งสองกลุ่มถ่ายสำเนาเอกสารไว้ 3 ชุดเพื่อให้คณะกรรมการที่ปรึกษานำไปตรวจสอบตามเงื่อนไขการพิจารณาต่อไป และให้ทั้งสองกลุ่มเซ็นรับรองเอกสารทั้งหมด โดยให้มีการเซ็นเอกสารรับรองของฝ่ายตรงข้ามด้วย เพื่อความโปร่งใส

อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ยังไม่สามารถประกาศผลผู้ที่ได้รับคัดเลือกได้ เนื่องจากเอกสารในซอง 3 นั้นมีหลายส่วน ต้องให้คณะกรรมการที่ปรึกษานำไปตรวจรายละเอียดให้รอบคอบก่อน เพราะเอกสารทั้งหมดจะต้องแนบไปกับตัวร่างสัญญาในการลงนามเมื่อได้ผู้ชนะแล้ว คาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะสามารถประกาศผลผู้ที่ผ่านคุณสมบัติซองที่ 3 ได้ เบื้องต้นได้รับทราบค่าตัวเลขที่แต่ละกลุ่มเสนอแล้ว แต่ยังไม่สามารถเผยแพร่ได้



โดยการพิจารณาข้อเสนอซองที่ 3 นั้น จะต้องนำ”จำนวนเงินที่ขอรับการสนับสนุนจากรัฐ” ซึ่งมีกรอบวงเงินตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติไว้สูงสุดที่ 119,425 ล้านบาท กับ “จำนวนเงินที่รัฐได้รับจากเอกชน” มาคำนวณเพื่อให้ได้เป็น “จำนวนเงินที่รัฐร่วมลงทุนในโครงการ” กลุ่มใดที่มีตัวเลขน้อยออกมาที่สุดจะเป็นผู้ชนะในโครงการนี้ไป
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 12/12/2018 12:19 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
“อาคม” ลงพื้นที่ตรวจความคืบหน้าสร้างโครงการรถไฟไทย-จีน
เศรษฐกิจ
วันอังคาร ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2561, 15.53 น.





ออกแบบ800ล.ไฮสปีด"โคราช-หนองคาย"
อังคารที่ 11 ธันวาคม 2561 เวลา 17.44 น.


//--------------------------------

“อาคม” มั่นใจปี 64 รถไฟทางคู่ถึงหนองคาย ส่วนความเร็วสูงร่นเวลาวิ่ง กทม.-หนองคายเหลือแค่ 3 ชม.
หน้าภูมิภาค - ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: อังคารที่ 11 ธันวาคม 2561 เวลา 20:23
ปรับปรุง: พุธที่ 12 ธันวาคม 2561 เวลา 06:38




รมว.คมนาคม ลงพื้นที่เร่งเดินหน้ารถไฟรางคู่ความเร็วสูง ถึงหนองคาย
หน้า ข่าวทั่วไทยอีสาน

โดย ไทยรัฐออนไลน์
พุธที่ 12 ธันวาคม 2561 เวลา 00:24 น.

รมว.คมนาคม ลงพื้นที่หนองคาย ดูความคืบหน้าการดำเนินการรถไฟรางคู่ คาดถึงหนองคายในปี 2564 ส่วนรถไฟความเร็วสูงอยู่ระหว่างการเจรจารัฐบาลจีน คาดปี 2565 ได้ใช้ครบ ร่นระยะเวลาเดินทางจากกรุงเทพ-หนองคาย เดิม 11 ชั่วโมง เป็น 3 ชั่วโมง พร้อมสร้างสะพานคู่ขนานเฉพาะทางรถไฟข้ามไปเวียงจันทน์ รองรับเส้นทางคุนหมิง-ลาว


เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 11 ธ.ค.61 นายอาคม เติมพิทยาไพสิษฐ์ รมว.คมนาคม พร้อมคณะได้ลงพื้นที่จังหวัดหนองคาย โดยติดตามการดำเนินการโครงการรถไฟรางคู่ และรถไฟความเร็วสูง ที่สถานีรถไฟหนองคาย ก่อนจะเดินทางไปยังแขวงการทางหนองคายเพื่อรับฟังโครงการขยายเส้นทางคมนาคมในพื้นที่ จ.หนองคาย ผลักดันเข้าที่ประชุม ครม.สัญจร

นายอาคม กล่าวว่า ในการลงพื้นที่ครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของ ครม.สัญจร โดยวานนี้ ได้ลงพื้นที่ จ.อุดรธานี ซึ่งมีการก่อสร้างทางแยกต่างระดับซึ่งเป็นจุดที่มีการจราจรคับคั่งมากจากหนองบัวลำภู – สกลนคร และ จากหนองคาย – อุดรธานี คาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จในเดือน ก.ย.62 โดยจะเป็นลักษณะเส้นทาง 3 ระดับ มีทั้งอุโมงค์ทางลอดทางอุดรธานี – หนองคาย , สะพานยกระดับจากหนองบัวลำภู – สกลนคร และเป็นทางระดับดิน เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะช่วยแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดลงได้ และได้ไปเยี่ยมประชาชนที่ อ.โนนสะอาด ซึ่งมีถนนที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ใน 1 ปี มีผู้เสียชีวิต 17 ราย กรมทางหลวงได้แก้ไขด้วยการเพิ่มสัญญาณไฟแดงเพื่อลดอุบัติเหตุเกือบทั้งหมด

สำหรับจังหวัดหนองคาย จะมีโครงการเกิดขึ้น 2 โครงการ คือ รถไฟทางคู่ และรถไฟความเร็วสูง โดยโครงการรถไฟทางคู่นั้นจะเป็นเส้นทางต่อจาก จ.ขอนแก่น ช่วงแรก จาก จิระ – ขอนแก่น อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ก้าวหน้าไปกว่าร้อยละ 90 ขณะนี้เปิดให้รถไฟวิ่งได้ในทางระดับบางส่วนประมาณ 5-10 กม. ส่วนสถานีจิระ – คลองขนานจิตอยู่ระหว่างการปรับแบบเพื่อยกระดับขึ้นให้สอดคล้องกับความต้องการของชาวนครราชสีมา รถไฟทางคู่ที่วิ่งจากขอนแก่น – หนองคาย ระยะทาง 167 กม. ความเร็วสูงสุดที่รถไฟทางคู่จะวิ่งได้อยู่ที่ 160 กม./ชม. มูลค่าการลงทุนประมาณ 26,647 ล้านบาท มีทั้งหมด 14 สถานี มี 4 จุดจอด จะสะดวกสำหรับประชาชนที่เดินทางในระยะใกล้และราคาค่าโดยสารเป็นปกติ รวมทั้งจะใช้เป็นเส้นทางการขนส่งทางรถไฟ ซึ่งอยู่ระหว่างการนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีคาดว่าจะนำเข้าเสนอได้ในเดือน ม.ค.2562 โดยจะเป็นการเพิ่มรางรถไฟขึ้นมาอีก 1 ราง การรถไฟได้ปรับปรุงหมอนรถไฟจากไม้เป็นคอนกรีต และหินโรยทาง ปรับปรุงรางรถไฟให้สามารถรับน้ำหนักได้มากขึ้นด้วย

ส่วนโครงการรถไฟความเร็วสูง ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทย กับ รัฐบาลจีน ช่วงแรกเป็นสถานีบางซื่อ กรุงเทพ – นครราชสีมา ระยะทาง 252.3 กม. ความคืบหน้าในสัญญาที่ 1 เริ่มก่อสร้างแล้วในช่วงปากช่อง – บางอโศก คืบหน้าร้อยละ 50 เป็นการปรับปรุงชั้นทาง ส่วนสัญญาที่ 2 ระยะทาง 11 กม. ขณะนี้ได้ออกทีโออาร์ไปแล้วจะมีการยื่นซองในวันที่ 18 ธ.ค.61 ในเดือน ม.ค.62 จะมีการออกทีโออาร์ช่วงกรุงเทพ-นครราชสีมา อีก 5 สัญญา ถัดไปเดือน ก.พ.62 จะมีการออกทีโออาร์อีก 7 สัญญา ก็จะครบถ้วนสัญญา 252.3 กม. คาดว่าในไตรมาสที่ 2 จะได้ผู้รับจ้างแล้ว ประมาณเดือน พ.ค. มิ.ย. 62 ก็จะได้เริ่มต้นก่อสร้าง มูลค่าการลงทุนในส่วนแรก 179,413 ล้านบาท ความเร็วสูงสุดของรถไฟความเร็วสูงอยูที่ 250 กม./ชม. ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2564-2565 เมื่อก่อสร้างแล้วจะเร็วเพราะ 13 สัญญาจะสร้างพร้อมกัน

ในส่วนระยะที่สอง ช่วงนครราชสีมา – หนองคาย ระยะทาง 355 กม. เชื่อมต่อไปถึงบางซื่อ โดยจะมีทั้งหมด 5 สถานี เริ่มจาก บัวใหญ่ – บ้านไผ่ – ขอนแก่น – อุดรธานี – หนองคาย ประมาณการก่อสร้าง 211,747 ล้านบาท วัตถุประสงค์หลักจะใช้สำหรับขนส่งผู้โดยสารเพียงอย่างเดียว โดยช่วงสถานีหนองคายมี 2 สถานี สถานีหนองคายเป็นสถานีผู้โดยสาร และสถานีนาทา จะเป็นสถานีเปลี่ยนถ่ายสินค้าเพื่อเข้าสู่ระบบทางคู่ไปแหลมฉบัง และตั้งใจให้เป็นท่าเรือบก (Drive port) เพื่อให้บริการจุดเดียว อยู่ระหว่างการของบประมาณจากรัฐบาล และรัฐบาลไทยจะเป็นฝ่ายออกแบบเอง โดยได้ตกลงกับรัฐบาลจีนเรียบร้อยแล้วเพราะไทยออกแบบได้เร็วกว่าและประหยัดค่าใช้จ่ายได้ด้วย หากรถไฟความเร็วสูงก่อสร้างเสร็จตลอดเส้นทางจะช่วยร่นระยะเวลาการเดินทางจากเดิมที่เดินทางรถไฟปกติ จาก กรุงเทพ-หนองคาย ใช้เวลา 11 ชม. รถไฟความเร็วสูง จากกรุงเทพ – นครราชสีมา จะใช้เวลา 1.30 ชม. และกรุงเทพ – หนองคาย เพียง 3 ชม.เท่านั้น

สำหรับส่วนที่สาม จะเป็นจุดเชื่อมต่อไปยังนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว เริ่มจากสถานีนาทา ไปยังสะพานเพื่อการรถไฟโดยเฉพาะ ซึ่งจะเป็นสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 2 ของจังหวัดหนองคาย โดยจะสร้างคู่ขนานกับสะพานแห่งที่ 1 ซึ่งจะเป็นสะพานใหม่ที่สร้างไว้รองรับเส้นทางรถไฟปกติ รางรถไฟ 1 เมตร และรถไฟความเร็วสูงดับเบิ้ลแทร็กเพื่อเชื่อมกับสถานีเวียงจันทน์ ส่วนสะพานเดิมจะใช้เฉพาะเดินรถยนต์เพียงอย่างเดียว รัฐบาลได้ตกลงกับทางรัฐบาลจีนและรัฐบาลลาวขอให้ทางฝ่ายจีนเป็นผู้ออกแบบและศึกษาความเหมาะสมเพื่อให้รองรับรถไฟปกติและรถไฟความเร็วสูง จะเร่งการออกแบบให้แล้วเสร็จภายในปี 2562 เริ่มต้นก่อสร้างปี 2563 ใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี หรือประมาณปี 2566 ก็จะใช้ได้เส้นทางใหม่นี้ ซึ่งจะสอดคล้องกับการก่อสร้างเส้นทางจากคุนหมิง – นครหลวงเวียงจันทน์ จะก่อสร้างแล้วเสร็จในเวลาไล่เลี่ยกัน.
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44320
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 12/12/2018 3:40 pm    Post subject: Reply with quote

‘บีทีเอส’ทุ่มสู้‘ซีพี’ชิงไฮสปีด
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ 12 ธ.ค. 61 เมกะโปรเจ็กต์

รฟท.เปิดซองราคาไฮสปีดเทรนสามสนามบิน บีทีเอส-ซีพี ดัมพ์ราคาต่ำเกณฑ์ 1.19 แสนล้าน สอบผ่านแพ็คคู่ รฟท.ขอเวลาพิจารณารายละเอียดประกอบความเป็นไปได้ของโครงการ ย้ำภายใน 14 ธ.ค.นี้ประกาศผู้ชนะ ยังปักหมุดเสนอ ครม.กลางเดือน ม.ค.2562

การประมูลรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา) เข้าสู่โค้งสุดท้ายหลังจากผู้ประมูลทั้ง 2 ราย ผ่านการตรวจซองเทคนิค และเข้าสู่กระบวนการเปิดซอง 3 ข้อเสนอด้านการเงินที่จะเป็นตัวชี้ขาดก่อนที่จะเข้าสู่กระบวนการเจรจา

นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยภายหลังเปิดซอง 3 ข้อเสนอด้านการเงินของโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน วานนี้ (11 ธ.ค.) ว่า ขณะนี้ รฟท.ได้ทำการเปิดซองเอกสารข้อเสนอราคาเรียบร้อยแล้ว และพบว่าข้อเสนอของทั้ง 2 กลุ่มที่ยื่นประมูล มีราคาต่ำกว่าเกณฑ์ข้อกำหนดตามเอกสารประกวดราคา (ทีโออาร์) ส่วนของเงินอุดหนุนรัฐตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติวงเงินไว้ 1.19 แสนล้านบาท ทำให้ทั้ง 2 กลุ่มผ่านเกณฑ์การประเมินซอง 3

สำหรับ ขั้นตอนหลังจากนี้คณะกรรมการพิจารณาการประมูลโครงการรถไฟความเร็วสูงจะนำข้อเสนอด้านการเงินมาวิเคราะห์ถึงความเชื่อมโยง และพิจารณาความเหมาะสมของราคาที่เอกชนเสนอมา โดยเกณฑ์ที่จะพิจารณาประกอบไปด้วย 8 ส่วน คือ
1.บัญชีปริมาณงาน
2.แผนธุรกิจในการดำเนินโครงการ
3.แผนการเงิน
4.การจัดหาแหล่งเงินทุนที่ใช้ในการดำเนินโครงการ

5.ทรัพย์สินที่ใช้ในการดำเนินโครงการ และกรรมสิทธิ์ของทรัพย์สิน 6.ผลตอบแทนทางการเงินของโครงการตลอดอายุของสัญญาร่วมลงทุน 7.จำนวนเงินที่ขอรับการสนับสนุนจากรัฐและจำนวนเงินที่รัฐได้รับจากเอกชน และ 8.การกำหนดอัตราค่าโดยสาร

ผู้ชนะเสนอให้รัฐลงทุนน้อยสุด

รฟท.ได้เชิญผู้แทนของเอกชนที่ยื่นประมูลโครงการเข้ามาเปิดซองข้อเสนอที่ 3 เปิดซองราคาด้วยตัวเอง พร้อมทั้งให้แลกเปลี่ยนเอกสารเพื่อให้รับทราบข้อเสนอของแต่ละฝ่าย ถือเป็นการตรวจสอบความถูกต้องของข้อเสนอ และแสดงถึงความโปร่งใส แต่ราคาที่เปิดออกมาในวันนี้ ยังไม่ใช่การตัดสินผู้ชนะ เพราะคณะกรรมการพิจารณาการประมูลโครงการรถไฟความเร็วสูงจะต้องนำข้อเสนอทั้งหมดไปวิเคราะห์ประกอบความเชื่อมโยง และท้ายสุดเมื่อนำสิ่งที่ขอมาลบกับสิ่งที่ให้ ผู้ใดขอเงินอุดหนุนจากรัฐน้อยที่สุด ถือเป็นผู้ชนะ

นายวรวุฒิ กล่าวว่า หากคณะกรรมการฯ พิจารณาข้อเสนอทั้ง 8 ส่วน และพบว่ามีเอกชนรายที่เสนอราคาเงินอุดหนุนรัฐต่ำสุดแล้ว แต่ยังมีความเชื่อมโยงของข้อเสนอบางส่วนยังไม่สมเหตุสมผล ก็จะเรียกเอกชนรายดังกล่าวมาชี้แจงรายละเอียดให้ตรงกัน โดยจะไม่ตัดสิทธิ์แพ้การประมูล ซึ่งคาดว่าภายใน 14 ธ.ค.นี้ จะสามารถประกาศรายชื่อผู้ที่เสนอเงินอุดหนุนรัฐต่ำสุด และเจรจาต่อรอง ใช้เวลาอีกราว 2 สัปดาห์

เตรียมส่งร่างสัญญาให้อัยการ

นอกจากนี้ ขณะนี้ รฟท.ได้จัดทำสัญญาควบคู่ไปกับการพิจารณาเอกสารประมูลแล้ว หากได้ตัวผู้ชนะประมูลโครงการ ก็จะนำเอกสารข้อเสนอบรรจุเข้าในสัญญา ก่อนนำส่งสัญญาให้อัยการสูงสุดพิจารณา เบื้องต้นจึงมั่นใจว่า จะสามารถเสนอชื่อผู้ชนะการประมูลเข้าสู่ที่ประชุม ครม.เห็นชอบในช่วงกลางเดือน ม.ค. 2562 และเดินหน้าลงนามสัญญาภายในวันที่ 31 ม.ค.2562

สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน รฟท.ประกาศขายซองไปเมื่อวันที่ 18 มิ.ย. - 9 ก.ค. 2561 ซึ่งมีบริษัทที่ให้ความสนใจเข้าซื้อเอกสารถึง 31 ราย หลังจากนั้นได้จัดให้มีการประชุมชี้แจงเพื่อทำความเข้าใจไปเมื่อวันที่ 23 - 24 ก.ค. 2561 และกำหนดรับซองข้อเสนอราคาเมื่อวันที่ 12 พ.ย. 2561 ซึ่งมีกลุ่มกิจการเข้ายื่นข้อเสนอ 2 ราย ประกอบด้วย

1. กิจการร่วมค้า บีเอสอาร์ (BSR Joint Venture) ประกอบด้วย บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (ประเทศไทย) , บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) (ประเทศไทย) , บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (ประเทศไทย)

2. กิจการร่วมค้า บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร ประกอบด้วย บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด(ประเทศไทย) , บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) , China Railway Construction Corporation Limited (สาธารณรัฐประชาชนจีน) , บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน)(ประเทศไทย) , บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน)

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา รฟท.ได้มีการประชุมหารือซองประมูลที่ 2 โดยได้พิจารณาด้านเทคนิคของผู้ยื่นข้อเสนอโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินไปแล้ว โดยพบว่าทั้ง 2 กลุ่มกิจการ มีคุณสมบัติครบถ้วนและได้ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติด้านเทคนิค และขั้นตอนล่าสุดในวันที่ 11 ธ.ค. 2561 รฟท.ได้มีการดำเนินการประเมินซองข้อเสนอเอกชนร่วมลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินซองที่ 3 ด้านการเงินเรียบร้อยแล้ว

บีเอสอาร์มั่นใจชนะประมูล

นายภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิโน - ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน) เป็นตัวแทนกลุ่มบีเอสอาร์เปิดซองด้านการเงิน พร้อมระบุว่า การเปิดซอง 3 มีหลายปัจจัยที่จะพิจารณาทั้งต้นทุน วงเงิน และปริมาณผู้โดยสาร โดยจุดแข็งของกลุ่มบีเอสอาร์ คือ ความพร้อมด้านการเงิน และความเชี่ยวชาญการเดินรถของบีทีเอส รวมไปถึงประสบการณ์พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ซิโนไทยมี ซึ่งซิโนไทยสามารถควบคุมต้นทุนได้ดี อีกทั้งที่ผ่านมายังกระจายงานให้ผู้รับเหมาขนาดกลางและขนาดเล็ก จึงถือเป็นอีกความพร้อมที่มีหากได้รับงาน

หากได้รับงานนี้ ซิโนไทยก็คงจะต้องปรับสัดส่วนซับคอนแทรคใหม่ จากปัจจุบันซับคอนแทรคได้รับงานอยู่ในสัดส่วน 25% และซิโนไทยรับเอง 75% หากได้งานก็คงจะต้องเพิ่มสัดส่วนซับคอนแทรคอีก ถือเป็นการเพิ่มงานให้กับผู้รับเหมาขนาดกลางและขนาดเล็กด้วย กลุ่มเราจึงยังยืนยันภาพรวมเป็นคนไทยล้วน

คณิศสังเกตการณ์เปิดซอง

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคมระบุว่า บรรยากาศการเปิดซองด้านการเงิน เป็นไปอย่างเรียบร้อย ทุกฝ่ายยิ้มแย้มแจ่มใส โดยในฝั่งกลุ่มบีเอสอาร์ มีตัวแทนหลักคือ นายภาคภูมิ ศรีชำนิ จากซิโนไทย ขณะทีฝั่งกลุ่มซีพี มีตัวแทนเข้าร่วมนายพรเจริญ ธนานาถ และนายพิรุณห์ วัชรามนตรี เป็นผู้รับมอบอำนาจ รวมทั้งยังมีนายสุเมธ สุรบถโสภณ รองประธานบริหารอาวุโส จากบริษัท อิตาเลียนไทย จำกัด (มหาชน) ที่เป็นพันธมิตรกับซีพีเข้าร่วมด้วย

ทั้งนี้ รฟท.ได้บันทึกวีดิโอการเปิดซองด้านการเงินไว้ทุกขั้นตอน พร้อมทั้งมีนายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ร่วมเป็นผู้สังเกตการณ์ด้วย

สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน มีมูลค่าการลงทุนราว 2.24 แสนล้านบาท แบ่งออกเป็นการลงทุนเริ่มต้นในระบบขนส่งทางรถไฟ 1.68 แสนล้านบาท การพัฒนาพื้นที่เพื่อสนับสนุนบริการรถไฟ 4.51 หมื่นล้านบาท และสิทธิการเดินรถไฟแอร์พอร์ตลิงก์ 1.06 หมื่นล้านบาท โดยเอกชนจะได้รับสัมปทานอายุ 50 ปี เป็นการออกแบบและก่อสร้างจำนวน 5 ปี และดำเนินการให้บริการอีก 45 ปี ขณะที่ผลการวิเคราะห์ผลตอบแทนทางด้านเศรษฐกิจตลอดทั้งโครงการประมาณ 7 แสนล้านบาท
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 12/12/2018 5:41 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
Wisarut wrote:
“อาคม” ลงพื้นที่ตรวจความคืบหน้าสร้างโครงการรถไฟไทย-จีน
เศรษฐกิจ
วันอังคาร ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2561, 15.53 น.





ออกแบบ800ล.ไฮสปีด"โคราช-หนองคาย"
อังคารที่ 11 ธันวาคม 2561 เวลา 17.44 น.


//--------------------------------

“อาคม” มั่นใจปี 64 รถไฟทางคู่ถึงหนองคาย ส่วนความเร็วสูงร่นเวลาวิ่ง กทม.-หนองคายเหลือแค่ 3 ชม.
หน้าภูมิภาค - ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: อังคารที่ 11 ธันวาคม 2561 เวลา 20:23
ปรับปรุง: พุธที่ 12 ธันวาคม 2561 เวลา 06:38




รมว.คมนาคม ลงพื้นที่เร่งเดินหน้ารถไฟรางคู่ความเร็วสูง ถึงหนองคาย
หน้า ข่าวทั่วไทยอีสาน

โดย ไทยรัฐออนไลน์
พุธที่ 12 ธันวาคม 2561 เวลา 00:24 น.



เดินหน้ารถไฟรางคู่-ความเร็วสูง “หนองคาย” พร้อมลุยสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 2
เศรษฐกิจภูมิภาค
วันพุธที่ 12 ธันวาคม 2561 เวลา 15:59 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2561 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่ จ.หนองคาย โดยติดตามการดำเนินการโครงการรถไฟรางคู่ และรถไฟความเร็วสูง ที่สถานีรถไฟหนองคาย ก่อนจะเดินทางไปยังแขวงการทางหนองคาย เพื่อรับฟังโครงการขยายเส้นทางคมนาคมในพื้นที่ จ.หนองคาย ผลักดันเข้าที่ประชุม ครม.สัญจร

...

สำหรับ จ.หนองคาย จะมีโครงการเกิดขึ้น 2 โครงการ คือ รถไฟทางคู่ และรถไฟความเร็วสูง โดยโครงการรถไฟทางคู่นั้นจะเป็นเส้นทางต่อจาก จ.ขอนแก่น ช่วงแรกจิระ-ขอนแก่น อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ก้าวหน้าไปกว่าร้อยละ 90 ขณะนี้เปิดให้รถไฟวิ่งได้ในทางยกระดับบางส่วนประมาณ 5-10 กม. ส่วนสถานีจิระ-คลองขนานจิต อยู่ระหว่างการปรับแบบเพื่อยกระดับขึ้นให้สอดคล้องกับความต้องการของชาวนครราชสีมา

สำหรัยรถไฟทางคู่ที่วิ่งจากขอนแก่น-หนองคาย ระยะทาง 167 กม. ความเร็วสูงสุดที่รถไฟทางคู่จะวิ่งได้อยู่ที่ 160 กม./ชม. มูลค่าการลงทุนประมาณ 26,647 ล้านบาท มีทั้งหมด 14 สถานี มี 4 จุดจอด จะสะดวกสำหรับประชาชนที่เดินทางในระยะใกล้และราคาค่าโดยสารเป็นปกติ รวมทั้งจะใช้เป็นเส้นทางการขนส่งทางรถไฟ ซึ่งอยู่ระหว่างการนำเสนอเข้าที่ประชุม ครม. คาดว่าจะนำเข้าเสนอได้ในเดือนมกราคม 2562 โดยจะเป็นการเพิ่มรางรถไฟขึ้นมาอีก 1 ราง การรถไฟได้ปรับปรุงหมอนรถไฟจากไม้เป็นคอนกรีตและหินโรยทาง ปรับปรุงรางรถไฟให้สามารถรับน้ำหนักได้มากขึ้นด้วย

ส่วนโครงการรถไฟความเร็วสูง ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีน ช่วงแรกเป็นสถานีบางซื่อ กรุงเทพ-นครราชสีมา ระยะทาง 252.3 กม. ความคืบหน้าในสัญญาที่ 1 เริ่มก่อสร้างแล้วในช่วงปากช่อง-บางอโศก คืบหน้าร้อยละ 50 เป็นการปรับปรุงชั้นทาง ส่วนสัญญาที่ 2 ระยะทาง 11 กม. ขณะนี้ได้ออกทีโออาร์ไปแล้ว จะมีการยื่นซองในวันที่ 18 ธันวาคม 2561 หลังจากนั้นมกราคม 2562 จะมีการออกทีโออาร์ช่วงกรุงเทพ-นครราชสีมา อีก 5 สัญญา ถัดไปเดือนกุมภาพันธ์ 2562 จะมีการออกทีโออาร์อีก 7 สัญญา ก็จะครบถ้วนสัญญา 252.3 กม.

ทั้งนี้คาดว่าในไตรมาสที่ 2 จะได้ผู้รับจ้างแล้ว ประมาณเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2562 ก็จะได้เริ่มต้นก่อสร้าง มูลค่าการลงทุนในส่วนแรก 179,413 ล้านบาท ความเร็วสูงสุดของรถไฟความเร็วสูงอยูที่ 250 กม./ชม. ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2564-2565 เมื่อก่อสร้างแล้วจะเร็ว เพราะ 13 สัญญาจะสร้างพร้อมกัน ในส่วนระยะที่สอง ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย ระยะทาง 355 กม. เชื่อมต่อไปถึงบางซื่อ โดยจะมีทั้งหมด 5 สถานี เริ่มจากบัวใหญ่-บ้านไผ่-ขอนแก่น-อุดรธานี-หนองคาย ประมาณการก่อสร้าง 211,747 ล้านบาท วัตถุประสงค์หลักจะใช้สำหรับขนส่งผู้โดยสารเพียงอย่างเดียว

โดยช่วงสถานีหนองคายมี 2 สถานี สถานีหนองคายเป็นสถานีผู้โดยสาร และสถานีนาทา จะเป็นสถานีเปลี่ยนถ่ายสินค้าเพื่อเข้าสู่ระบบทางคู่ไปแหลมฉบัง และตั้งใจให้เป็นท่าเรือบก (Dry port) เพื่อให้บริการจุดเดียว อยู่ระหว่างการของบฯจากรัฐบาล และรัฐบาลไทยจะเป็นฝ่ายออกแบบเอง โดยได้ตกลงกับรัฐบาลจีนเรียบร้อยแล้ว เพราะไทยออกแบบได้เร็วกว่าและประหยัดค่าใช้จ่ายได้ด้วย หากรถไฟความเร็วสูงก่อสร้างเสร็จตลอดเส้นทางจะช่วยร่นระยะเวลาการเดินทางจากเดิมที่เดินทางรถไฟปกติ จากกรุงเทพ-หนองคาย ใช้เวลา 11 ชม. รถไฟความเร็วสูง จากกรุงเทพ-นครราชสีมา จะใช้เวลา 1.30 ชม. และกรุงเทพ-หนองคาย เพียง 3 ชม.เท่านั้น

สำหรับส่วนที่สาม จะเป็นจุดเชื่อมต่อไปยังนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว เริ่มจากสถานีนาทา ไปยังสะพานเพื่อการรถไฟโดยเฉพาะ ซึ่งจะเป็นสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 2 ของ จ.หนองคาย โดยจะสร้างคู่ขนานกับสะพานแห่งที่ 1 ซึ่งจะเป็นสะพานใหม่ที่สร้างไว้รองรับเส้นทางรถไฟปกติ รางรถไฟ 1 เมตร และรถไฟความเร็วสูงดับเบิลแทร็กเพื่อเชื่อมกับสถานีเวียงจันทน์ ส่วนสะพานเดิมจะใช้เฉพาะเดินรถยนต์เพียงอย่างเดียว รัฐบาลได้ตกลงกับทางรัฐบาลจีนและรัฐบาลลาว ขอให้ทางฝ่ายจีนเป็นผู้ออกแบบและศึกษาความเหมาะสม เพื่อให้รองรับรถไฟปกติและรถไฟความเร็วสูง จะเร่งการออกแบบให้แล้วเสร็จภายในปี 2562 เริ่มต้นก่อสร้างปี 2563 ใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี หรือประมาณปี 2566 ก็จะใช้ได้เส้นทางใหม่นี้ ซึ่งจะสอดคล้องกับการก่อสร้างเส้นทางจากคุนหมิง-นครหลวงเวียงจันทน์ จะก่อสร้างแล้วเสร็จในเวลาไล่เลี่ยกัน
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 12/12/2018 6:12 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
ยังไม่สะเด็ดน้ำ! รถไฟขอเวลาเช็กราคาประมูลไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบินคาด14 ธ.ค.นี้รู้ผลผู้กุมเค้ก2แสนล้าน

วันอังคารที่ 11 ธันวาคม 2561 เวลา 17:37 น.




ลุ้น! รถไฟเชื่อม 3 สนามบิน “บีทีเอส-ซีพี” แข่งราคายกสุดท้าย 14 ธ.ค.รู้ผล
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันอังคารที่ 11 ธันวาคม 2561 เวลา 18:08
ปรับปรุง: วันอังคารที่ 11 ธันวาคม 2561 เวลา 19:26


ร.ฟ.ท.ยังไม่ประกาศผู้ชนะรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน รอตรวจสอบและวิเคราะห์ข้อเสนอการเงิน เช็กความถูกต้องตัวเลขทุกรายการ 14 ธ.ค.ประกาศผล ก่อนเรียกผู้ชนะเจรจาต่อรอง “วรวุฒิ” เผย 2 กลุ่มเสนอรัฐอุดหนุนภายใต้กรอบ อยู่ที่ใครจะเสนอต่ำกว่ากัน มั่นใจเซ็นสัญญา 31 ม.ค. 62 ตามเป้า


นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า จากการพิจารณาข้อเสนอโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา ระยะทาง 220 กม. มูลค่า 224,544.36 ล้านบาท ในซองที่ 2 (ด้านเทคนิค) ของกิจการร่วมค้า บีเอสอาร์ (BSR Joint Venture) และกิจการร่วมค้า บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร โดยทั้ง 2 กลุ่มกิจการมีคุณสมบัติครบถ้วนและได้ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติด้านเทคนิค ซึ่งในวันที่ 11 ธันวาคม 2561 คณะกรรมการคัดเลือกฯ ได้เปิดข้อเสนอซองที่ 3 (ด้านการเงิน) ซึ่งจะตัดสินกลุ่มใดที่ขอรัฐอุดหนุนน้อยที่สุดจะเป็นผู้ชนะ

เบื้องต้นข้อเสนอของทั้ง 2 กลุ่ม ในส่วนของการเสนอขอรับการอุดหนุนจากรัฐไม่เกินกรอบวงเงินที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติวงเงินที่รัฐร่วมลงทุนกับเอกชนวงเงินไม่เกิน 119,425.75 ล้านบาท แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยราคาได้จนกว่าที่ปรึกษาจะทำการตรวจสอบเอกสารราคาจนครบถ้วนเรียบร้อย โดยคาดว่าจะสามารถประกาศผลราคาที่แน่นอนได้ภายในวันที่ 14 ธ.ค. 2561 หลังจากนั้นจะเป็นขั้นตอนการเจรจาต่อรอง คาดว่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 2 สัปดาห์จะได้ข้อสรุป และส่งร่างสัญญาที่สมบูรณ์ให้อัยการตรวจสอบ ในขณะเดียวกันจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่ออนุมัติผลคู่ขนาน และลงนามสัญญาภายในวันที่ 31 ม.ค. 2562

ทั้งนี้ บรรยากาศในการเปิดข้อเสนอด้านการเงินนั้น ผู้ยื่นประมูลทั้ง 2 กลุ่ม ได้แก่ 1. กิจการร่วมค้า บีเอสอาร์ (BSR Joint Venture) ประกอบด้วย บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (ประเทศไทย), บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) (ประเทศไทย), บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (ประเทศไทย)

2. กิจการร่วมค้า บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร ประกอบด้วย บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด (ประเทศไทย), บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน), China Railway Construction Corporation Limited (สาธารณรัฐประชาชนจีน), บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) (ประเทศไทย), บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน)

นายวรวุฒิกล่าวว่า คณะกรรมการคัดเลือกฯ ได้เชิญผู้แทน 2 กลุ่มเข้าร่วมซักซ้อมความเข้าใจของขั้นตอนในการเปิดเอกสารซองที่ 3 ซึ่งได้จัดเก็บไว้ในห้องมั่นคง โดยผู้แทนของ 2 กลุ่มได้ตรวจสอบเอกสารยังอยู่ในสภาพปิดผนึกเรียบร้อยและเซ็นรับรองเอกสาร และนำมายังห้องประชุมเพื่อดำเนินการเปิดข้อเสนอ ซึ่งไม่พบปัญหาใดๆ โดยต่างฝ่ายได้ยืนยันเอกสารของตัวเอง และของอีกกลุ่มเพื่อความโปร่งใส และทั้งสองกลุ่มได้ถ่ายสำเนาเอกสารไว้ 3 ชุดเพื่อให้คณะกรรมการคัดเลือกฯ และที่ปรึกษานำไปตรวจสอบตามเงื่อนไขต่อไป

จากนั้นให้แต่ละกลุ่มสลับเอกสารให้อีกฝ่ายดู โดยไม่ให้มีการบันทึกภาพเอกสารของอีกฝ่ายแต่อย่างใด ซึ่งตอนนี้ทั้ง 2 กลุ่มรับทราบตัวเลขที่อีกฝ่ายนำเสนอแล้ว แต่ยังไม่มีการเปิดเผยใดๆ เพราะตัวเลขที่เห็นนั้นยังไม่สามารถจะตัดสินว่าผู้ใดเป็นผู้ชนะประมูลได้ เนื่องจากมีเอกสาร และรายการตัวเลขที่ต้องตรวจสอบและวิเคราะห์อีก

สำหรับข้อเสนอ ซองที่ 3 มีรายการของเอกสารที่บรรจุในซองปิดผนึกทั้งหมด 8 ชิ้น ได้แก่
1. บัญชีปริมาณงาน
2. แผนธุรกิจในการดำเนินโครงการ
3. แผนการเงิน
4. การจัดหาแหล่งเงินทุนที่ใช้ในการดำเนินโครงการ
5. ทรัพย์สินที่ใช้ในการดำเนินโครงการและกรรมสิทธิ์ของทรัพย์สิน
6. แบบฟอร์มผลตอบแทนทางการเงินของโครงการตลอดอายุของสัญญาร่วมลงทุน
7. แบบฟอร์มจำนวนเงินที่ขอรับการสนับสนุนจากรัฐและจำนวนเงินที่ได้รับจากเอกชน
8. อัตราค่าโดยสาร

“หลังจากนี้ไม่เกิน 1 สัปดาห์จะสามารถแจ้งผลการประมูลได้ว่ารายใดเป็น โดยที่ปรึกษาต้องตรวจรายละเอียดทุกข้อ ข้อมูลทุกหัวข้อ ต้องเชื่อมโยงกัน และตัวเลขต้องถูกต้อง คำนวณไม่ผิดพลาด เพราะรายละเอียดของเอกสารทั้ง 8 ข้อจะต้องแนบไปกับตัวสัญญาที่ ร.ฟ.ท.จะลงนามกับผู้ชนะ ซึ่งขณะนี้ได้ส่งรายละเอียดของสัญญาบางส่วนให้อัยการตรวจสอบคู่ขนานแล้ว เพื่อให้ทันกับกำหนดที่จะลงนามสัญญาภายใน 31 ม.ค. 2562” นายวรวุฒิกล่าว
https://www.youtube.com/watch?v=Ptao_sD8jp0
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 295, 296, 297 ... 542, 543, 544  Next
Page 296 of 544

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©