View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
|
Posted: 21/01/2019 12:40 pm Post subject: |
|
|
พลิกที่ดิน 108 ไร่ สถานีขอนแก่น ผุด โรงแรม-สวนสนุก
พร็อพเพอร์ตี้
วันจันทร์ที่ 21 มกราคม 2562 เวลา 11:14 น.
ไม่ใช่แค่ที่ดินทำเลทองในกรุงเทพฯ ที่ ร.ฟ.ท.-การรถไฟแห่งประเทศไทย จะนำมาเปิดให้เอกชนร่วมลงทุนพัฒนารูปแบบ PPP ทั้งย่านบางซื่อ มักกะสัน สถานีแม่น้ำ เพื่อสร้างรายได้ในระยะยาว
ล่าสุดเตรียมพลิกที่ดิน 108 ไร่ ย่าน สถานีขอนแก่น ปัจจุบันเป็นอาคารบ้านพักพนักงาน อาคารที่ทำการและสนามกอล์ฟ เปิดให้เอกชนที่สนใจลงทุนพัฒนาโครงการ รับรถไฟทางคู่ ช่วงจิระ-ขอนแก่น ที่กำลังเปิดใช้ในเดือน ก.พ.นี้ คาดว่าจะมีผู้ใช้บริการวันละ 2-3 หมื่นคน
โดยจ้างสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เป็นผู้ศึกษารูปแบบการพัฒนาโครงการและรูปแบบการลงทุนตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 2556 ซึ่งจัดการรับฟังความคิดเห็นทดสอบความสนใจของนักลงทุน (market sounding) ไปเมื่อวันที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้รับความสนใจจากยักษ์ใหญ่ด้านรับเหมาก่อสร้าง อสังหาฯ ค้าปลีก พลังงาน อาทิ บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท บมจ.ซี.พี.แลนด์ บมจ.สัมมากร บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น บมจ.อิตาเลียนไทยดีเวล๊อปเมนต์ บมจ.ปตท. บมจ.ดิ เอราวัณ กรุ๊ป เป็นต้น
วรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการแทนผู้ว่าการ ร.ฟ.ท.กล่าวว่า จะนำข้อคิดเห็นของภาคเอกชนมาจัดทำรายละเอียดของโครงการให้ตอบโจทย์การพัฒนาให้มากที่สุด คาดว่าจะสรุปรูปแบบการพัฒนาอีก 3-4 เดือนนี้ จากนั้นได้แนวคิดจะต้องศึกษารายละเอียด และทำรายงาน PPP คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2-3 ปี
ทั้งนี้ การที่นำที่ดินย่านดังกล่าวมาพัฒนา เนื่องจากตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพใจกลางเมือง ทางที่ปรึกษาประเมินว่าที่ดินเหมาะจะพัฒนาโครงการเกี่ยวกับการท่องเที่ยวและการพาณิชย์ เบื้องต้นแบ่งการพัฒนาพื้นที่ 108.4 ไร่ เป็น 5 แปลง ไม่รวมโซน A ที่ประมูลไปแล้วจะพัฒนาเป็นตลาดและที่อยู่อาศัย มีมูลค่าการลงทุนประมาณ 5,000-8,000 ล้านบาท ระยะเวลาสัมปทาน 30-50 ปี
โดย โซน B เนื้อที่ 16.2 ไร่ ติดกับถนนรื่นรมย์ พัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์บริเวณย่านสถานีรถไฟ (TOD) เพื่อใช้ประโยชน์ที่ดินแบบผสมผสาน มีที่พักอาศัย อาคารพาณิชย์ สำนักงาน และการใช้ประโยชน์ประเภทอื่น ๆ เช่น ค้าปลีก
โซน C และโซน D เนื้อที่รวม 16.5 ไร่ พัฒนาเป็นโรงแรม ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้า เพื่อบริการผู้เดินทาง ขณะที่ โซน E เนื้อที่ 58.6 ไร่ พัฒนาเป็นพื้นที่สวนสนุกและพื้นที่สันทนาการ เช่น รถไฟเหาะตีลังกา เรือไวกิ้ง สวนน้ำ คอนเซ็ปต์คล้ายยูนิเวอร์แซล และ โซน F เนื้อที่ 8 ไร่ พัฒนาพื้นที่ประเภทกลุ่มอาคารสำนักงานและที่พักอาศัยของพนักงานการรถไฟฯ
นายวรวุฒิยังกล่าวถึงความคืบหน้าการพัฒนาที่ดินโซน A ของสถานีกลางบางซื่อ เนื้อที่ 35 ไร่ว่า ก.พ.นี้จะสรุปร่างทีโออาร์ คาดว่าจะเปิดประมูลภายในไตรมาส 2 และส่งมอบพื้นที่ได้ปลายปีนี้ โดยให้เอกชนเป็นผู้ลงทุนทั้งหมด ระยะเวลา 30 ปี ก่อสร้าง 4 ปี
พัฒนาจัดหาประโยชน์ 30 ปี ภายใต้รูปแบบ BOT คือ สร้าง บริหาร และโอนกรรมสิทธิ์ให้ ร.ฟ.ท.เมื่อครบกำหนดสัญญา มีมูลค่าลงทุนรวม 15,400 ล้านบาท คาดว่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั้งธุรกิจอสังหาฯ ค้าปลีก เนื่องจากมีวัตถุประสงค์การพัฒนาโครงการชัดเจนว่าเป็นมิกซ์ยูสรับกับสถานีกลางบางซื่อ ศูนย์กลางการเดินทางของระบบราง |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
|
Posted: 22/01/2019 10:43 am Post subject: |
|
|
พนักงานการรถไฟ ข้องใจตลาดนัด ขายของข้างทาง ชี้สุดอันตราย ใกล้จุดสับราง เท้าอาจเละได้
นิวส์มอนิเตอร์
วันที่ 21 มกราคม 2562 - 14:39 น.
พนักงานรถไฟ โพสต์ขายของข้างทาง สุดอันตราย
พนักงานการรถไฟ ข้องใจตลาดนัด ขายของข้างทาง ชี้สุดอันตราย ใกล้จุดสับราง เท้าอาจเละได้
พนักงานการรถไฟ / ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Surapol Turongruang ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทย โพสต์ภาพการค้าขายในลักษณะตลาดนัด ใกล้กับทางรถไฟ บริเวณสถานีรถไฟคลองตัน
พร้อมเขียนข้อความบรรยายว่า ทางรถไฟหรือตลาดนัดว่ะ..งงไม่มีความสามารถที่จะทำอะไรได้เลยหรือ(อันตรายโครตๆ)
ทั้งนี้ในการค้าขายในจุดดังกล่าว ถือว่าเป็นจุดที่อันตราย เนื่องจากมีร้านค้าตั้งอยู่เป็นจำนวนมาก รวมทั้งยังมีคนที่มาเดินซื้อของอีก โดยยังตั้งในจุดสับราง ซึ่งหากมีรถไฟวิ่งผ่านมา และเจ้าหน้าที่ทำการสับราง อาจทำให้ถูกหนีบเท้าแตกละเอียดได้
ทั้งนี้ตลาดดังกล่าวน่าจะตั้งขายเฉพาะวันอาทิตย์ เนื่องจากในวันธรรมดาจะไม่มีการตั้งตลาดปรากฎขึ้น
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=2250223758634032&id=100009392881918
การรถไฟเล็งเลิกตลาดนัดข้างราง หวั่นจับจ่ายสุดอันตราย-ไม่ปลอดภัย
วันที่ 21 มกราคม 2562 - 22:10 น.
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก Surapol Turongruang ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทย โพสต์ภาพการค้าขายในลักษณะตลาดนัด ใกล้กับทางรถไฟ บริเวณสถานีรถไฟคลองตัน กทม.
พร้อมเขียนข้อความบรรยายว่า ทางรถไฟหรือตลาดนัดว่ะ..งงไม่มีความสามารถที่จะทำอะไรได้เลยหรือ (อันตรายโคตรๆ)
ทั้งนี้ในการค้าขายในจุดดังกล่าว ถือว่าเป็นจุดที่อันตราย เนื่องจากมีร้านค้าตั้งอยู่เป็นจำนวนมาก รวมทั้งยังมีคนที่มาเดินซื้อของอีก โดยยังตั้งในจุดสับราง ซึ่งหากมีรถไฟวิ่งผ่านมา และเจ้าหน้าที่ทำการสับราง อาจทำให้ถูกหนีบเท้าแตกละเอียดได้ โดยตลาดดังกล่าวน่าจะตั้งขายเฉพาะวันอาทิตย์ เนื่องจากในวันธรรมดาจะไม่มีการตั้งตลาดปรากฎขึ้น
ล่าสุดนายสมยุทธิ์ เรือนงาม รองผู้อำนวยการฝ่ายด้านปฏิบัติการ ฝ่ายปฏิบัติการเดินรถ การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท) กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า รฟท. ได้รับทราบปัญหากรณีที่มีแม่ค้ามาค้าขายสินค้าใกล้บนิเวณทางรถไฟ ระหว่างสถานีคลองตันและหัวหมาก ซึ่งอาจก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยต่อการเดินรถ และประชาชนที่มาจับจ่ายซื้อสินค้า
ทั้งนี้ รฟท. จะต้องแก้ไขปัญหาเร่งด่วน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวความปลอดภัย สำหรับแนวทางแก้ไขปัญหาแบ่งออกเป็น 2 แนวทางคือ 1.ห้ามไม่ให้ขายสินค้าบริเวณดังกล่าว เพื่อป้องกันอุบัติเหตุเฉี่ยวชนหรืออื่นๆ และ 2.ให้ขายได้ตามเดิม แต่รฟท.จะต้องทำการล้อมรั้วบริเวณที่เป็นเขตหวงห้าม หรือเขตทางที่เสี่ยงต่อการเฉี่ยวชนและกระทบต่อการเดินรถ
เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน เพราะอาจจะกระทบกับประชาชนที่เป็นพ่อค้าแม่ค้า จึงต้องรอให้ผู้ว่ารฟท. ซึ่งเป็นฝ่ายนโยบายเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะดำเนินการอย่างไร แต่ขณะนี้ผู้ว่าติดภารกิจเดินทางไปราชการในต่างประเทศ จึงต้องรอให้กลับมาก่อน |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
|
Posted: 23/01/2019 6:19 pm Post subject: |
|
|
การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดประชุมรับฟังความคิดเห็น โครงการพัฒนาพื้นที่ บริเวณอาคาร บ้านพักพนักงาน อาคารที่ทำการ และสนามกอล์ฟที่สถานีขอนแก่น
ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย
23 มกราคม 2562
การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน โครงการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบเชิงความคิด โครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณอาคาร บ้านพักพนักงาน อาคารที่ทําการ และสนามกอล์ฟ
ที่สถานีขอนแก่น วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2562 ณ โรงแรม Vwish จังหวัดขอนแก่น
นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการแทนผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ดําเนินการจ้างสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)
เป็นที่ปรึกษา เพื่อดําเนินการศึกษาโครงการศึกษาความเหมาะสม และออกแบบเชิงความคิด โครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณอาคาร บ้านพักพนักงาน อาคารที่ทําการ และสนามกอล์ฟที่สถานีขอนแก่น การรถไฟแห่งประเทศไทย
ตามพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. ๒๕๕๖ทั้งนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทย
ได้ตระหนักถึงความสําคัญของการสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ เพื่อให้การจัดทำโครงการพัฒนาพื้นที่สถานีขอนแก่นเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด จึงได้กําหนดให้มีการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน เพื่อนําเสนอข้อมูลรายละเอียดของการศึกษาโครงการ โดยมีกลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย หน่วยงานราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ สถาบันการศึกษา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประชาชนในพื้นที่โครงการ และประชาชนทั่วไป ให้ได้รับทราบรายละเอียดของโครงการ พร้อมทั้งรับฟังความคิดเห็น และข้อเสนอแนะต่อการศึกษาโครงการ ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2562 เวลา 6.00 12. 00 น. ณ ห้อง Borrirak 1โรงแรม Vwish อําเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น สำหรับการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน มีวัตถุประสงค์เพื่อประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารของโครงการให้กลุ่มเป้าหมายได้รับทราบอย่างถูกต้อง และชัดเจน รวมถึงให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการรับทราบข้อมูลข่าวสารการพัฒนาโครงการ และให้ข้อคิดเห็นต่างๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อชุมชน ตลอดจนให้มีส่วนร่วม และเข้าใจต่อมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นจากการพัฒนาโครงการ เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาประเมินความคิดเห็นมากําหนดเป็นแผนการดําเนินงานต่อไป
นายวรวุฒิกล่าวด้วยว่า โครงการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบเชิงความคิด โครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณอาคาร บ้านพักพนักงาน อาคารที่ทําการ และสนามกอล์ฟที่สถานีขอนแก่น ถือเป็นโครงการพัฒนาที่ดินที่มีศักยภาพสูงอีกแห่งหนึ่งของการรถไฟฯ เนื่องจากในอนาคตพื้นที่ดังกล่าวจะมีการพัฒนารถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ผ่านมายังสถานีแห่งนี้ อีกทั้งยังมีโครงการรถไฟทางคู่ที่อยู่ระหว่างพัฒนา รวมไปถึงโครงการพัฒนาระบบรถไฟฟ้ารางเบาอีกด้วย
สำหรับแผนพัฒนาพื้นที่สถานีขอนแก่น เบื้องต้นแบ่งการพัฒนาออกเป็น 5 แปลง บนพื้นที่ราว 108 ไร่ ประกอบด้วย โซนบี 16.2 ไร่ พัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์บริเวณย่านสถานีรถไฟ ด้วยการใช้ประโยชน์ที่ดินแบบผสมผสาน มีทั้งที่พักอาศัย อาคารพาณิชย์ สำนักงาน และค้าปลีก ขณะที่โซนซี และโซนดี 16.5 ไร่ พัฒนารองรับโรงแรม ศูนย์ประชุม และแสดงสินค้า โซนอี 58.6 ไร่ พัฒนาเป็นพื้นที่สวนสนุก และพื้นที่สันทนาการ พื้นที่โซนเอฟ 8 ไร่ พัฒนาเป็นพื้นที่ประเภทกลุ่มอาคารสำนักงาน และที่พักอาศัยของพนักงานการรถไฟ ส่วนพื้นที่โซนเอ ได้มีการประมูลไปก่อนหน้านี้แล้วจึงไม่นับรวมอยู่ในโครงการนี้
สุดท้ายนี้การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ตระหนักดีว่าขั้นตอนการจัดประชุมรับฟัง ความคิดเห็นของประชาชน เป็นกระบวนการที่มีความสําคัญมาก ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างประชาชนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับผู้ดําเนินโครงการ และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง โดยการเปิดให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น และข้อเสนอแนะ เพื่อให้นําผลที่ได้ไปพิจารณาปรับเปลี่ยนลักษณะโครงการให้สอดคล้องกับความต้องการของชุมชน รวมถึงนําไปปรับมาตรการในการป้องกัน แก้ไข และลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการให้สอดคล้องในทางปฏิบัติต่อไป |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
|
Posted: 25/01/2019 2:05 am Post subject: |
|
|
พัฒนาขุมทรัพย์ ที่ดินการรถไฟ สถานีเชียงใหม่
สังคม
24 มกราคม 2562
ในอดีตโรงแรมรถไฟเชียงใหม่ เป็นอาคารไม้ชั้นเดียว เปิดบริการเป็นที่พัก เมื่อปีพศ.2464 อยู่ฝั่งตรงข้ามสถานีรถไฟเชียงใหม่ปัจจุบัน ที่นี่เคยเป็นที่ประทับพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ร. 7 และสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี เพื่อทอดพระเนตรขบวนแห่ช้างรับเสด็จระหว่างเสด็จประพาสนครเชียงใหม่ เมื่อ พ.ศ 2469ด้วย
ต่อมาปีพศ.2506 การรถไฟฯ (รฟท.)พัฒนา ก่อสร้าง อาคารทรงทันสมัยเพิ่มจากตึกเก่า เป็นอาคาร 6 ชั้น 76 ห้องนอน มีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการโดย พล.ท.พงษ์ ปุณณกันต์ รมว.คมนาคม เมื่อ 21 พย.06 ราคาห้องเดี่ยวคืนละ 70 บาท ห้องพิเศษ 3 เตียงคืนละ 300 บาท นับเป็นโรงแรมแห่งแรกของเชียงใหม่
ราวๆปี 2531รื้ออาคารไม้ ซึ่งเป็นที่พักการรถไฟออกไป ในอดีตรร.รถไฟถือเป็นชุมนุมนักท่องเที่ยว จุดนัดพบ ย่านบันเทิงเริงใจของเมือง เชื่อว่า มุมรอยัลปาร์ค คงจำกันได้ หากเป็นนักเที่ยว จากนั้นช่วงปีพศ. 2546 มีการรื้อรร.ตามแผนพัฒนาเพื่อสร้างเป็นห้องรับแขกเมือง มีสวนสาธารณะ มุมนันทนาการ พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น ,ศุนย์เรียนรู้ แต่สามารถดำเนินการได้เพียงสวนสาธารณะ
โดยรฟท.อนุญาติให้ ทน.เชียงใหม่ พัฒนาพื้นที่ 47 ไร่ เป็นสวนสาธารณะ มีการจัดสรรงบกว่า 90 ล้านบาท พัฒนาพื้นที่อย่างที่เห็น และต้องส่งคืนเมื่อ30 กย.57 เนื่องจากรฟท.มีแผนจะพัฒนาที่ดิน 130 ไร่ ในเชิงพาณิชย์ ตามแผนเมื่อปี 60-61 นั้น รฟท.จะดำเนินโครงการเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ คอมมิวนิตี้มอลล์ อาคารสำนักงานให้เช่า อาคารพักอาศัยพนักงานการรถไฟฯ เป็นต้น แต่ด้วยเหตุผลโครงการรถไฟความเร็วสูงชลอไป จึงปรับแผน ประกอบกับบริเวณด้านติดสนง.ชลประทานเชียงใหม่ที่ 1 จะถูกสถาปนาเป็นเขตพระราชฐาน สถานที่ประทับทุกครั้งที่มีพระบรมวงศานุวงศ์เสด็จฯแปรพระราชฐาน ดังนั้นการพัฒนาจึงค่อนข้างละเอียดอ่อน
ทั้งนี้รฟท. ระบุว่าจะนำที่ดินที่มีทั่วประเทศราวๆ 234,976 ไร่ ที่สามารถพัฒนาให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยจะเปิดให้เอกชนร่วมลงทุนพัฒนา เบื้องต้นปีนี้จะนำ 4 หมื่นกว่าไร่ ที่มีศักยภาพมาพัฒนาซึ่ง จ.เชียงใหม่ เป็น 1 ใน 13 แปลงที่มีศักยภาพสูง ล่าสุดพื้นที่ย่านสถานีขอนแก่นมูลค่า 8 พันล้าน มีแผนจะให้เอกชนพัฒนาเป็น สวนสนุก โมเดลยูนิเวอร์แซล หนุนการท่องเที่ยว
ปีนี้แผนพัฒนาที่ดิน 130 ไร่รอบสถานีรถไฟเชียงใหม่เชิงพาณิชย์ จะให้ เอกชนเข้ามาร่วมลงทุนน่าจะได้ข้อสรุป ส่วนจะมีโครงการใดบ้างนั้น โดยภาพรวมคงไม่แตกต่างจากที่เคยจัดทำแผนแม่บทไว้แล้ว เพราะกระแสท้วงติง แนะนำ ให้จัดการพื้นทีซึ่งเปรียบเสมือนประตูสู่เมืองเชียงใหม่มีมานาน ทางรฟท.รับทราบปัญหามาโดยตลอด ซึ่งก็ไม่ได้ชี้แจงอะไร เนื่องจากต้องรอการพิจารณาอนุมัติตามขั้นตอน |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
|
Posted: 25/01/2019 10:21 am Post subject: |
|
|
เปิดพื้นที่ 130ไร่ ผุดฮับ..สถานีรถไฟเร็วสูงเชียงใหม่
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
updated: 21 กันยายน 2558 เวลา 21:30:11 น.
ร.ฟ.ท.เดินหน้าพัฒนาที่ดิน 130 ไร่รอบสถานีรถไฟเชียงใหม่ วาดแผนลงทุนในเชิงพาณิชย์รองรับโครงการรถไฟความเร็วสูง เปิดรับภาคเอกชนเข้าร่วมลงทุน เตรียมนำร่องคอมมิวนิตี้มอลล์ และเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ภายใน 3 ปี เผยใช้แนวคิด TOD สถานีกลางบางซื่อเป็นต้นแบบ ด้านเอกชนเสนอเปิดพื้นที่สถานีรถไฟเชียงใหม่แห่งใหม่ไปกิ่งอำเภอแม่ออน
นายทนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐ หัวหน้าหน่วยธุรกิจการเดินรถ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในปี 2562 สถานีกลางบางซื่อจะก่อสร้างแล้วเสร็จ จะมีการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์บริเวณสถานีกลางบางซื่อที่มีพื้นที่ราว 2,300 ไร่ ภายใต้แนวคิด Transit Oriented Development (TOD) ซึ่ง ร.ฟ.ท.เล็งเห็นว่าจะนำแนวคิดการพัฒนา TOD มาพัฒนาที่ดินที่มีอยู่ทั่วประเทศราว 234,976 ไร่ ที่สามารถพัฒนาให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยจะเปิดให้เอกชนร่วมลงทุนพัฒนาโครงการ
ทั้งนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้มีการจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาที่ดินที่มีศักยภาพจำนวน 25 แปลง ซึ่งย่านสถานีเชียงใหม่เป็น 1 ใน 13 แปลงที่มีศักยภาพสูงมาก เนื่องจากเป็นสถานีปลายทางของเมืองใหญ่ที่สามารถพัฒนาเชิงพาณิชย์ตามแนวคิด TOD เพื่อให้มีการพัฒนาเมืองควบคู่กับการส่งเสริมการท่องเที่ยว
นางสิริมา หิรัญเจริญเวช ผู้อำนวยการฝ่ายการพาณิชย์ การรถไฟแห่งประเทศไทยกล่าวว่า แผนแม่บท (Master Plan) ย่านสถานีเชียงใหม่ เป็นแผนเดิมที่ทำไว้ตั้งแต่ปี 2552 และจะต้องมีการปรับปรุงใหม่ในหลายส่วนเพื่อให้ทันกับสถานการณ์ปัจจุบัน ทั้งนี้ ร.ฟ.ท.เตรียมเดินหน้าพัฒนาที่ดินบริเวณรอบสถานีรถไฟเชียงใหม่จำนวน 130 ไร่อย่างจริงจัง โดยจะเปิดให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุนกับการรถไฟแห่งประเทศไทยในรูปแบบ PPP-Public Private Partnership ซึ่งเป็นการรองรับโครงการรถไฟความเร็วสูง ที่คาดว่าจะเริ่มการก่อสร้างในราวปี 2561
สำหรับการพัฒนาพื้นที่และการใช้ที่ดินได้แบ่งออกเป็นหลายโซน อาทิ สวนสาธารณะบนที่ดินการรถไฟฯ (พัฒนาแล้ว) โครงการก่อสร้างเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ โครงการก่อสร้างคอมมิวนิตี้มอลล์ โครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานให้เช่า โครงการก่อสร้าง Retail Shops และโครงการก่อสร้างอาคารพักอาศัยพนักงานการรถไฟฯ เป็นต้น ซึ่งโครงการที่มีความเป็นไปได้และจะเริ่มลงทุนก่อนภายใน 3 ปีก็คือ การลงทุนโครงการคอมมิวนิตี้มอลล์ และเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์
ด้านรองศาสตราจารย์มานพ พงศทัต ผู้เชี่ยวชาญด้านผังเมือง และที่ปรึกษาโครงการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์บริเวณสถานีกลางบางซื่อ เพื่อเป็นศูนย์กลางการเดินรถไฟกล่าวว่า พื้นที่โดยรอบสถานีเชียงใหม่ที่มีอยู่ราว 130 ไร่ แม้จะเล็กกว่าที่สถานีบางซื่อ แต่สามารถพัฒนาในเชิงพาณิชย์ได้ด้วย เพราะเป็นพื้นที่ใจกลางเมือง และเป็นสถานีปลายทางของรถไฟความเร็วสูง โดยต้องยึดการเดินทางด้วยระบบรางเป็นตัวตั้ง หรือเป็นศูนย์กลางจากสถานีเชียงใหม่ที่เชื่อมต่อการเดินทางเข้าสู่เมืองด้วยระบบราง เช่น BRT เพื่อลดความแออัดของการจราจร และในอนาคตควรมองถึงการเปิดพื้นที่การพัฒนาระบบรางจากสถานีเชียงใหม่สู่จังหวัดเชียงราย เพื่อเปิดเส้นทางระบบรางเชื่อมต่อไปยังประเทศจีนตอนใต้ ซึ่งจะทำให้จังหวัดเชียงใหม่กลายเป็นศูนย์กลาง (HUB) การเดินทางด้วยระบบรางของภาคเหนือในอนาคต
นายนนท์ หิรัญเชรษฐ์ เลขาธิการสมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์จังหวัดเชียงใหม่-ลำพูนกล่าวว่า โครงการรถไฟความเร็วสูงสายกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ จะทำให้จังหวัดเชียงใหม่เกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงการพัฒนาเศรษฐกิจที่ดีขึ้นหลายด้าน โดยทางสมาคมมีข้อเสนอการรถไฟแห่งประเทศไทยว่า ควรมีการวางแผนเปิดพื้นที่ใหม่ในการก่อสร้างสถานีเชียงใหม่แห่งใหม่ เพื่อรองรับโครงการรถไฟความเร็วสูง เนื่องจากพื้นที่สถานีเชียงใหม่เดิมค่อนข้างคับแคบ ซึ่งพื้นที่ที่มีความเหมาะสมและมีศักยภาพ คือ กิ่งอำเภอแม่ออน คาดว่าต้องใช้ที่ดินราว 200-300 ไร่ ถือเป็นการลงทุนเพื่ออนาคต ขณะที่พื้นที่สถานีเชียงใหม่เดิมจะกลายเป็นสถานีเชื่อมต่อขนถ่ายคนจากสถานีใหม่เข้าสู่เมือง และการพัฒนาที่ดิน 130 ไร่โดยรอบสถานีเชียงใหม่ ก็มีความเป็นไปได้สูงมากในการลงทุน เพราะอยู่ย่านกลางเมือง |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
|
Posted: 31/01/2019 11:55 am Post subject: |
|
|
การรถไฟแห่งประเทศไทย รับชําระเงินเพื่อประโยชน์ในการดําเนินกิจการของการรถไฟ ฯ จาก บริษัท ปตท. จํากัด (มหาชน) งวดที่ 4 เป็นเงินปีละ 100 ล้านบาท
ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย
31 มกราคม 2562
ปตท.จ่าย 100 ล้านตามสัญญาค่าใช้ประโยชน์ที่ดินรถไฟ 30 ปี
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 31 มกราคม 2562 13:42
ปรับปรุง: 31 มกราคม 2562 14:54
ปตท.จ่ายค่าใช้ประโยชน์ที่ดินให้รถไฟบริเวณสำนักงานใหญ่ งวดที่ 4 อีก 100 ล้านบาท กรณีต่อสัญญา 30 ปี
นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า วันนี้ (31 ม.ค.) ร.ฟ.ท.ได้รับเช็คชําระเงินเพื่อประโยชน์ในการดําเนินกิจการของการรถไฟแห่งประเทศไทยจาก บริษัท ปตท. จํากัด (มหาชน) งวดที่ 4 เป็นเงินปีละ 100,000,000 บาท (หนึ่งร้อยล้านบาทถ้วน) โดยมีนายวรวัฒน์ พิทยศิริ รองคณะกรรมการผู้จัดการใหญ่นวัตกรรมและดิจิตอล บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เป็นตัวแทนในการมอบ
เป็นไปตามที่ ร.ฟ.ท.ได้ทําบันทึกความเข้าใจระหว่างการถไฟฯ กับ บริษัท ปตท.ในการตกลงขยายอายุสัญญาเช่าที่ดินของการรถไฟฯ ให้กับบริษัท ปตท. บริเวณที่ตั้ง ปตท.สำนักงานใหญ่ ถนนพหลโยธิน เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2558 ออกไปอีก 30 ปี (สัญญาเช่ามีผลวันที่ 1 เมษายน 2556-31 มีนาคม 2586)
ทั้งนี้ ในบันทึกความเข้าใจดังกล่าวได้ระบุเงื่อนไขให้ บริษัท ปตท.ตกลงให้เงินช่วยเหลือเพื่อประโยชน์ในการดําเนินกิจการแก่การรถไฟฯ เป็นเงิน 757.7 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นการชําระเงินช่วยเหลืองวดแรกในวันที่จดทะเบียนสิทธิเหนือพื้นดินเมื่อปี 2558 เป็นเงิน 357.7 ล้านบาท และการชําระเงินช่วยเหลืองวดถัดไปเป็นรายปี (จํานวน 4 งวด) เป็นเงินปีละ 100 ล้านบาท ภายในเดือนมกราคมของทุกปี โดยอยู่นอกเหนือจากค่าเช่าที่ดิน ซึ่ง ปตท.ได้ชำระครั้งเดียวตลอดอายุสัญญา 30 ปีให้กับ ร.ฟ.ท.ครบถ้วนแล้ว 42.3 ล้านบาทถ้วน
ดังนั้น ส่งผลให้ปัจจุบันการรถไฟแห่งประเทศไทยได้รับเงินช่วยเหลือจาก บริษัท ปตท. จํากัด (มหาชน) เพื่อประโยชน์ในการดําเนินกิจการของการรถไฟแห่งประเทศไทย ตามบันทึกความเข้าใจระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทยกับ บริษัท ปตท. จํากัด (มหาชน) ในการตกลงขยายอายุสัญญาเช่าที่ดินของการรถไฟฯ ให้กับบริษัท ปตท. จํากัด (มหาชน) บริเวณที่ตั้ง ปตท.สำนักงานใหญ่ ถนนพหลโยธิน ออกไปอีก 30 ปี ครบถ้วนแล้วเป็นเงินจํานวน 757,700,000 บาท (เจ็ดร้อยห้าสิบเจ็ดล้านเจ็ดแสนบาทถ้วน) ซึ่งจะได้นำเงินไปใช้ประโยชน์ในกิจการของการรถไฟฯ ต่อไป |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
|
Posted: 07/02/2019 11:08 am Post subject: |
|
|
รฟท. ลั่นปลายปี63 เปิดประมูลพื้นที่รอบสถานีชุมพร 130 ไร่ มูลค่า 2.6 พันล้าน
พร็อพเพอร์ตี้
วันพุธที่ 6 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 20:09 น.
รฟท. ลั่นปลายปี63 เปิดประมูลพื้นที่รอบสถานีชุมพร 130 ไร่ มูลค่า 2.6 พันล้าน
วันพุธที่ 6 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา19:17 น.
รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ในปี 2563 รฟท. มีแผนที่จะดำเนินโครงการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์บริเวณสถานีชุมพร บนพื้นที่ 130 ไร่ วงเงินลงทุน 2,613 ล้านบาท โดยในช่วงต้นปี 2563 จะตั้งงบประมาณจัดจ้างที่ปรึกษาศึกษารายละเอียดความเหมาะสมโครงการเพิ่มเติมจากผลการศึกษาเดิม คาดว่าจะใช้ระยะเวลาประมาณ 4 เดือนแล้วเสร็จ ตั้งเป้าปลายปี 2563 จะสามารถเปิดประมูลพื้นที่เชิงพาณิชย์บริเวณสถานีชุมพรให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนในรูปแบบพีพีพี
สำหรับย่านสถานีชุมพรมีพื้นที่โครงการประมาณ 208,053 ตารางเมตร หรือ 130 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดของการรถไฟบริเวณสถานีชุมพรตั้งแต่ริมถนนนวมินทร์ร่วมใจและถนนไตรรัตน์ไปจนถึงอีกฝั่งของสถานีชุมพรคือฝั่งบ้านพักพนักงานการรถไฟ เบื้องต้นตั้งเป้าพัฒนาเป็นย่านส่งเสริมพาณิชยกรรมและท่องเที่ยวนานาชาติ โดยจะมีการก่อสร้าอาคารที่พักอาศัยให้แก่กลุ่มผู้พักอาศัยในเมืองชุมพร รองรับนักท่องเที่ยวและผู้อยู่อาศัยของการรถไฟในพื้นที่เดิมด้วย เชื่อว่าจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวพื้นที่ที่มีความหลากหลาย
รายงานข่าวจาก รฟท. สำหรับรูปแบบการพัฒนาจะแบ่งออกเป็น 5 โซน โซนที่ 1 SRT DEVELOPMENT พื้นที่ 91.46 ไร่ เป็นพื้นที่ภายใต้การใช้กิจกรรมของการรถไฟฯ เดิมจะเป็นการใช้ประโยชน์ประเภทพื้นที่สถานีรถไฟชุมพรและพื้นที่แนวทางรถไฟ, โซน 2 RENTED AREA พื้นที่ 13.57 ไร่ จะเปิดให้เอกชนเช่าเพื่อเตรียมพัฒนาเป็นพื้นที่เพื่อรองรับรถไฟความเร็วสูง ซึ่งสอดคล้องกับแผนแม่บทพัฒนารถไฟความเร็วสูง
โซน 3 NEW COMMERCIAL &ACTiviTY พื้น 16 ไร่ เป็นพื้นที่ที่ส่วนกลางที่เป็นส่วนตลาดและพื้นที่อยู่อาศัยเชิงพาณิชย์ ซึ่งจะจัดสร้างเป็นศูนย์กลางในการรองรับกิจกรรมสำหรับกลุ่มผู้พักอาศัยใหม่ในพื้นที่และรองรับกลุ่มผู้ค้าขายในพื้นที่เดิม โดยมีแนวเส้นทางการเชื่อมต่อที่เชื่อมกับศูนย์กลางด้านคมนาคมโดยเชื่อมโยงด้วยเส้นทางเดินเท้าเส้นทางคมนาคมทางบก ซึ่งจะพัฒนาเป็นลานกิจกรรมและพื้นที่สีเขียวด้วย
โซนที่ 4 City Hotel and Tourist Center จำนวน 2 ไร่ พื้นที่บริเวณโซนริมทะเลซึ่งจะเป็นพื้นที่โซนพาณิชยกรรมและการท่องเที่ยว จะพัฒนาเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวและผู้อยู่อาศัยในบริเวณโดยรอบ โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มอาคาร ได้แก่ โรงแรม อละอาคารพาณิชกรรม กำหนดสัดส่วนพื้นที่เปิดโล่ง มีลานกิจกรรม ลานออกกำลังกายและพื้นที่สีเขียว
โซนที่ 5 SRT Town &Residential Zone จำนวน 5 ไร่ เป็นจะพัฒนาเป็นพื้นที่บริเวณโซนพักอาศัยเป็นการรองรับกลุ่มผู้พักอาศัยใหม่ในบริเวณโดยแบ่งออกเป็นสองกลุ่มคือกลุ่มอาคารที่พักอาศัยพนักงานรถไฟและกลุ่มอาคารและผู้อยู่อาศัยใหม่ที่มีจุดเด่นการพัฒนาพื้นที่สีเขียวรองรับการเดินทางในระยะใกล้
รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย แจ้งว่า แผนพัฒนาจะแบ่งออกเป็น 2 ระยะ โดยจะเป็นการสร้างอาคารและโยกย้ายกลุ่มผู้เช่าอาคารอาคาร เพื่อเปิดพื้นที่ในการพัฒนาอาคารขึ้นมาใหม่ระยะเวลาดำเนินการรวมทั้งสิ้น 2 ปี โดยระยะที่ 1 มีแผนจะก่อสร้างกลุ่มอาคารที่พักอาศัยเป็นอาคารเพิ่มต้น ระยะเวลาก่อสร้าง 12 เดือน ประกอบด้วยที่พักอาศัยพนักงานรถไฟจำนวน 4 อาคาร บนพื้นที่ 456,000 ตารางเมตร และระยะที่ 2 มีแผนจะก่อสร้างกลุ่มอาคารพาณิชย์กรรมและโรงแรม ระยะเวลาก่อสร้าง 15 เดือน โดยก่อสร้างอาคารพาณิชย์กรรมจำนวน 3 อาคาร พื้นที่ก่อสร้าง รวมทั้งสิ้น 47,000 ตารางเมตร และก่อสร้างโรงแรมและพื้นที่รองรับนักท่องเที่ยว จำนวน 1 อาคาร บนพื้นที่ 14,400 ตารางเมตร
https://www.thebangkokinsight.com/100518/ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
|
Posted: 11/02/2019 6:11 pm Post subject: |
|
|
เปิดกรุที่ดินรถไฟ 3 แสนล้าน ตั้งบริษัทลูกบริหารสัญญาสร้างรายได้แก้ขาดทุน
พร็อพเพอร์ตี้
วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2562- 19:45 น.
วันที่11ก.พ.2562 การรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) จัดสัมมนาประชาสัมพันธ์โครงการงานจ้างที่ปรึกษาเตรียมการจัดตั้งบริษัทบริหารทรัพย์สิน ซึ่งมีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังเป็นที่ปรึกษาโครงการฯ ให้แก่ผู้บริหาร พนักงานการรถไฟฯ ได้รับทราบ
โดยเป็นการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารทรัพย์สินเชิงพาณิชย์ที่ไม่เกี่ยวกับการเดินรถ (Non-Core Assets) เพื่อเพิ่มรายได้แก่องค์กรในระยะยาว คาดจัดตั้งได้สำเร็จในปี 2563
นายสุจิตต์ เชาว์ศิริกุล รองผู้ว่าการกลุ่มบริหารรถไฟฟ้า การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การรถไฟฯมีภารกิจในการเป็นองค์กรหลักของประเทศ ที่ให้บริการระบบราง ทั้งการขนส่งผู้โดยสารและขนส่งสินค้า ซึ่งมีวิสัยทัศน์การพัฒนาสู่การเป็นผู้ให้บริการระบบรางของรัฐที่ดีที่สุดในอาเซียนในปี 2570
ขณะเดียวกันยังเป็นผู้ถือครองอสังหาริมทรัพย์ ที่ดินที่ไม่ใช้เพื่อการเดินรถ (Non-Core) ทั้งประเทศกว่า 39,419 ไร่ โดยมีมูลค่ารวมกว่า 300,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ด้วยข้อจำกัดของโครงสร้างการบริหารงานขององค์กรที่มีต่อการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
ในเชิงธุรกิจ ทั้งการขาดบุคลากร ข้อมูล และเทคโนโลยี ส่งผลให้รายได้ผลตอบแทนจากการบริหารทรัพย์สินเหล่านี้มีเพียงประมาณปีละ 3,636 ล้านบาท หรือไม่ถึง 1%
ดังนั้น การรถไฟฯจะจัดตั้ง บริษัทบริหารทรัพย์สินพิจารณาแนวทางเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ขององค์กรให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อเพิ่มรายได้ และแก้ปัญหาทางการเงินให้กับการรถไฟฯ ตามแนวทางแผนฟื้นฟูกิจการรถไฟฯ และสอดคล้องกับมติการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2559 ที่เห็นชอบแผนการจัดตั้งบริษัทลูกของการรถไฟฯขึ้น
นายสุจิตต์กล่าวต่อว่า การรถไฟฯยังได้ดำเนิน โครงการจ้างที่ปรึกษาเพื่อเตรียมการ
จัดตั้งบริษัทบริหารทรัพย์สิน โดยมอบหมายให้สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังเป็นที่ปรึกษาของโครงการฯ
เพื่อเตรียมความพร้อมจัดตั้งบริษัทบริหารทรัพย์สินใน 5 ด้าน ได้แก่ ด้านเอกสารการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท รายละเอียดนโยบายการจัดการการบริหารทรัพย์สิน โครงสร้างการบริหารงาน โครงสร้างทางด้านบัญชีและการเงิน และวางแผนระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ
ทั้งนี้การจัดตั้งบริษัทบริหารทรัพย์สินการรถไฟฯ จะเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาหน่วยธุรกิจใหม่ที่เป็นกลไกในการสร้างรายได้อย่างยั่งยืนให้องค์กร และสามารถนำรายได้ไปแก้ไขปัญหาภาระบำเหน็จบำนาญ ปัญหากระแสเงินสด ปัญหาทางการเงิน และสามารถใช้เป็นแหล่งเงินทุนสำหรับการลงทุนในกิจการอื่นของการรถไฟฯต่อไปในอนาคต โดยมีการรถไฟฯ เป็นผู้ถือหุ้น 100 %
ซึ่งขณะนี้กระบวนการอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และคาดจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี พิจารณาได้ประมาณเดือนกรกฎาคม 2562 และสามารถจัดตั้งบริษัทบริหารทรัพย์สินฯ ได้สำเร็จประมาณต้นปี 2563
//--------------------------------------------------
การรถไฟฯ จัดสัมมนาประชาสัมพันธ์โครงการงานจ้างที่ปรึกษาเตรียมการจัดตั้งบริษัทบริหาทรัพย์สิน ให้แก่ผู้บริหาร พนักงานการรถไฟฯ
ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย
วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2562
********************************
การรถไฟแห่งประเทศไทย จัดสัมมนาประชาสัมพันธ์โครงการงานจ้างที่ปรึกษาเตรียมการจัดตั้งบริษัทบริหารทรัพย์สิน ซึ่งมีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังเป็นที่ปรึกษาโครงการฯ ให้แก่ผู้บริหาร พนักงานการรถไฟฯ ได้รับทราบ โดยเป็นการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารทรัพย์สินเชิงพาณิชย์ที่ไม่เกี่ยวกับการเดินรถ (Non-Core Assets) เพื่อเพิ่มรายได้แก่องค์กรในระยะยาว คาดจัดตั้งได้สำเร็จในปี 2563
เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2562 ณ โรงแรมปรินซ์ พาเลซ กรุงเทพมหานคร นายสุจิตต์ เชาว์ศิริกุล
รองผู้ว่าการ กลุ่มบริหารรถไฟฟ้า การรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นประธานพิธีเปิดสัมมนาเพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสาร โครงการงานจ้างที่ปรึกษาเพื่อเตรียมการจัดตั้งบริษัทบริหารทรัพย์สินการรถไฟ
แห่งประเทศไทย ซึ่งมีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังเป็นที่ปรึกษาโครงการฯ ให้ผู้บริหาร พนักงานการรถไฟฯ ได้รับทราบข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับการดำเนินโครงการฯ
นายสุจิตต์ เชาว์ศิริกุล รองผู้ว่าการกลุ่มบริหารรถไฟฟ้า การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การรถไฟแห่งประเทศไทยมีภารกิจในการเป็นองค์กรหลักของประเทศ ที่ให้บริการระบบราง ทั้งการขนส่งผู้โดยสารและขนส่งสินค้า ซึ่งมีวิสัยทัศน์การพัฒนาสู่การเป็นผู้ให้บริการระบบรางของรัฐที่ดีที่สุดในอาเซียนในปี 2570 ขณะเดียวกันยังเป็นผู้ถือครองอสังหาริมทรัพย์ ที่ดินที่ไม่ใช้เพื่อการเดินรถ (Non-Core) ทั้งประเทศกว่า 39,419 ไร่ โดยมีมูลค่ารวมกว่า 300,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ด้วยข้อจำกัดของโครงสร้างการบริหารงานขององค์กรที่มีต่อการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
ในเชิงธุรกิจ ทั้งการขาดบุคลากร ข้อมูล และเทคโนโลยี ส่งผลให้รายได้ผลตอบแทนจากการบริหารทรัพย์สินเหล่านี้มีเพียงประมาณปีละ 3,636 ล้านบาท หรือไม่ถึงร้อยละ 1 ดังนั้น การรถไฟแห่งประเทศไทย จัดตั้ง บริษัทบริหารทรัพย์สิน จึงได้พิจารณาแนวทางเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ขององค์กรให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อเพิ่มรายได้ และแก้ปัญหาทางการเงินให้กับการรถไฟฯ ตามแนวทางแผนฟื้นฟูกิจการรถไฟฯ และสอดคล้องกับมติการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2559 ที่เห็นชอบแผนการจัดตั้งบริษัทลูก
ของการรถไฟแห่งประเทศไทยขึ้น
นายสุจิตต์กล่าวต่อว่า การรถไฟแห่งประเทศไทยยังได้ดำเนิน "โครงการจ้างที่ปรึกษาเพื่อเตรียมการ
จัดตั้งบริษัทบริหารทรัพย์สิน โดยมอบหมายให้สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังเป็นที่ปรึกษาของโครงการฯ เพื่อเตรียมความพร้อมจัดตั้งบริษัทบริหารทรัพย์สินใน 5 ด้าน ได้แก่ ด้านเอกสารการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท รายละเอียดนโยบายการจัดการการบริหารทรัพย์สิน โครงสร้างการบริหารงาน โครงสร้างทางด้านบัญชีและการเงิน และวางแผนระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ
ทั้งนี้การจัดตั้งบริษัทบริหารทรัพย์สินการรถไฟฯ จะเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาหน่วยธุรกิจใหม่ที่เป็นกลไกในการสร้างรายได้อย่างยั่งยืนให้องค์กร และสามารถนำรายได้ไปแก้ไขปัญหาภาระบำเหน็จบำนาญ ปัญหากระแสเงินสด ปัญหาทางการเงิน และสามารถใช้เป็นแหล่งเงินทุนสำหรับการลงทุนในกิจการอื่นของการรถไฟฯต่อไปในอนาคต โดยมีการรถไฟฯ เป็นผู้ถือหุ้นร้อยละ 100 ซึ่งขณะนี้กระบวนการอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และคาดจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี พิจารณาได้ประมาณเดือนกรกฎาคม 2562 และสามารถจัดตั้งบริษัทบริหารทรัพย์สินฯ ได้สำเร็จประมาณต้นปี 2563 |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
|
Posted: 12/02/2019 1:16 pm Post subject: |
|
|
หาดใหญ่ | ประชุมผู้เดือดร้อนได้รับผลกระทบจากการขยายรางรถไฟ
12 กุมภาพันธ์ 2562
วันนี้ (12 ก.พ.62) ที่เทศบาลนครหาดใหญ่ กลุ่มบ้านมั่นคงชุมทางหาดใหญ่ได้ร่วมกันจัดประชุมผู้ได้รับผลกระทบจากการขยายรถไฟรางคู่ไปสุดสุไหงโกลก ปาดังเบซาร์ หาดใหญ่ สงขลา ไปด้านละ 20 เมตร 40 เมตร โดยมีหน่วยงานรัฐภาคส่วนภาคต่าง ๆ มารับฟังความเดือดร้อนของชาวบ้านที่อาศัยอยู่บนพื้นดินของการรถไฟที่ต้องอพยพออกจากแนวเขตขยายไปอยู่ในที่ดินรองรับอื่น ๆ ของการรถไฟ ด้วยการเช่าพื้นที่ดินสร้างที่อยู่อาศัย ทัังนี้ ได้มีเจ้าหน้าที่การรถไฟฝ่ายกิจการพิเศษก่อสร้างรางรถไฟกลางรางคู่ มาชี้แจงให้ทราบถึงการขยายรางว่ากี่เมตร จ่ายค่าชดเชยเยียวยาการมีพื้นที่รองรับการอพยพของการรถไฟไปอยู่จุดไหน
ขอเชิญชวนผู้ได้รับผลกระทบจากการขยายทางรถไฟเข้าร่วมประชุม วันนี้ (12 ก.พ. 62)เวลา 8.00 - 12.00น ณ ห้องประชุมเทศบาลนครหาดใหญ่ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
|
Posted: 12/02/2019 7:06 pm Post subject: |
|
|
ดัน กม. TOD พัฒนาที่รอบสถานี ลดความเสียเปรียบผู้ถูกเวนคืน
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 11 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 22:32
ปรับปรุง: 12 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 08:09
ไพรินทร์ ดันออกกฎหมาย TOD หนุนพัฒนาเมืองรอบสถานีรถไฟเป็นการเฉพาะ แก้ปมกฎหมายเวนคืน ไม่เปิดช่อง และเพิ่มโอกาสผู้ถูกเวนคืนได้สิทธิ์ร่วมอยู่ในพื้นที่ได้ โดยใช้การจัดรูปที่ดินแบบญี่ปุ่น เล็งนำร่องพื้นที่ EEC
นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดการสัมมนาโครงการศึกษาพัฒนาเมืองกับระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม ครั้งที่ 1 ปาฐกถาพิเศษ ร่วมสร้างเมือง TOD เสริมศักยภาพพื้นที่ สร้างเศรษฐกิจไทยมั่นคง ว่า สำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) จัดสัมมนาฯ ขึ้นเพื่อเผยแพร่ข้อมูลโครงการและการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยได้ว่าจ้างกลุ่มที่ปรึกษาดำเนินการศึกษาพัฒนาเมืองกับระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง ซึ่งการพัฒนาเมืองโดยรอบสถานีขนส่ง (Transit-Oriented Development : TOD) ถือเป็นเครื่องมือใหม่ที่จะช่วยให้การพัฒนาระบบขนส่งมวลชนและการพัฒนาพื้นที่เกิดประโยชน์สมบูรณ์
ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมเห็นว่าควรมีการพัฒนากฎหมาย TOD ขึ้นมาเป็นการเฉพาะเพื่อใช้สำหรับการพัฒนาที่ดินควบคู่กับการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนเพื่อลดความขัดแย้งของสังคม เนื่องจากการใช้กฎหมายเวนคืนที่ผ่านมามีปัญหาเพราะมีผู้ได้ประโยชน์และเสียประโยชน์ คือคนที่ถูกเวนคืนเสียประโยชน์เพราะต้องออกจากพื้นที่ แต่คนที่ไม่ถูกเวนคืนแต่ที่อยู่ติดกับโครงการได้รับประโยชน์จากมูลค่าที่ดินที่เพิ่มขึ้น เป็นต้น
ประโยชน์ของการมีกฎหมาย TOD คือเครื่องมือในการได้มาซึ่งที่ดิน และทำให้สถานีรถไฟ รถไฟฟ้า มีการพัฒนาพื้นที่หรือเมืองรอบสถานีอย่างครอบคลุม ไม่ใช่พัฒนาเมืองฝั่งใดฝั่งหนึ่ง ประชาชนโดยรวมได้ประโยชน์ ไม่ใช่การถูกรอนสิทธิ ซึ่งแตกต่างกันแบบกฎหมายเวนคืน เช่น คนถูกเวนคืนก็เสียประโยชน์ คนอยู่ติดกับพื้นที่เวนคืน ที่พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น สถานีรถไฟฟ้า ได้ประโยชน์ โดยการให้กฎหมาย TOD จะทำให้ทุกคนได้ประโยชน์จากการเข้าร่วมโครงการพัฒนา จะขายที่ดินให้รัฐในราคาตลาดแล้วจะซื้อคืนเพื่อเข้ามาอยู่ที่ดินที่ได้รับการพัฒนาแล้วก็ย่อมได้ และมีมูลค่าเพิ่มของที่ดินด้วย นายไพรินทร์กล่าว
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากในการพัฒนาพื้นที่ ECC ซึ่งมาตรา 34 ได้กำหนดเรื่อง TOD ไว้ด้วย โดย สนข.สามารถจะเลือกพื้นที่นำร่อง TOD ได้แก่ ฉะเชิงเทรา พัทยา อู่ตะเภา
นายชยธรรม์ พรหมศณ รองผู้อำนวยการ สนข.กล่าวว่า จะศึกษารายละเอียดหลักเกณฑ์ที่กฎหมาย TOD จะครอบคลุมอะไรบ้าง โดยจะสรุปการศึกษาในปี 2563
สำหรับการศึกษาเบื้องต้นจากประเทศญี่ปุ่นพบว่ามีการกระจายอำนาจให้ท้องถิ่น หรือมีการแก้กฎหมายบางส่วนเพื่อให้ท้องถิ่นสามารถดำเนินการได้ เช่น การเก็บภาษี นอกจากนี้ยังมีการปรับแก้กฎหมายบางส่วนเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันอีกด้วย ซึ่งทำให้โครงการประสบความสำเร็จ
ทั้งนี้ พบว่าพื้นที่ที่มีศักยภาพในการพัฒนาโครงการ TOD ทั่วประเทศตามแนวเส้นทางรถไฟของไทยมีประมาณ 235 พื้นที่ จากทั้งหมด 883 สถานี |
|
Back to top |
|
|
|