RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311232
ทั่วไป:13180061
ทั้งหมด:13491293
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รวมบันทึกมักกะสัน
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รวมบันทึกมักกะสัน
Goto page Previous  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> สาระความรู้วิชาการรถไฟและประวัติศาสตร์รถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 30/03/2018 9:22 pm    Post subject: Reply with quote

กาล-รถไฟ
ชมจุดลับๆ ของสถานีรถไฟกรุงเทพแบบเอ็กซ์คลูซีฟ และสำรวจร่องรอยประวัติศาสตร์ความเฟื่องฟูของการรถไฟไทยที่โรงงานรถไฟมักกะสัน อดีตโรงงานรถไฟใหญ่ที่สุดในอาเซียน

เรื่อง กรณิศ รัตนามหัทธนะ

มีพูดถึงสถานีกรุงเทพ และ โรงงานมักกะสัน นะครับ
https://readthecloud.co/walk-12/
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 04/06/2018 11:10 am    Post subject: Reply with quote

ตอนนี้โรงงานมักกะสันดังใหญ่แล้ว เพราะ ซีเอ็นเอ็น เอาไปออกอากาศเป็นสารคดีแล้วว
Bangkok's hidden train repair yard keeps Thailand on its rails

Brad Lendon and Kocha Olarn, CNN • Published 4th June 2018

Bangkok, Thailand (CNN) — The contrast is stark. You're riding the sleek, elevated rail line into central Bangkok from the city's main international Suvarnabhumi Airport. Just a few stops from the city's center, you see old rail stock -- engines and cars -- scattered through what looks almost like an urban jungle. As you get closer to the city center, the jungle gives way to old warehouse structures, with Bangkok's skyline gleaming close by.This is Makkasan, hardly a prime spot for travelers to the Thai capital. But if you like a bit of the eccentric when you travel, it offers some great rewards.
https://edition.cnn.com/travel/article/makkasan-bangkok-trains/index.html
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 15/06/2018 7:46 pm    Post subject: Reply with quote

เรื่องราวเกี่ยวกะโรงงานมักกะสัน
https://www.facebook.com/newsclearvdo/videos/461770180930131/
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44324
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 03/07/2018 10:29 am    Post subject: Reply with quote

รฟท.สั่งเดินหน้าเร่งแผนมักกะสันลงทุนแสนล้าน
ไทยโพสต์ 03 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 เวลา 09:30 น.

รฟท.สั่งเดินหน้าเร่งแผนมักกะสันรับลงทุนแสนล้าน เผยเอกชนต้องควัก 3 พันล้านบาทช่วยค่าเคลียร์พื้นที่ ไม่หวั่นซับซิดี้ไฮสปีด ย้ำโครงการต้องเกิดเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ-พัฒนาเชื่อมบ้าน ยันเปล่ายกสมบัติให้เอกชน

นายกุลิศ สมบัติศิริ ประธานกรรมการบริหารการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)เปิดเผยว่าความคืบหน้าการพัฒนาพื้นที่มักกะสันเพื่อรองรับการลงทุนในพื้นที่ดังกล่าวซึ่งจะมีมูลค่านับแสนล้านบาทนั้นขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งจัดทำข้อสรุปแผนพัฒนาพื้นที่แปลงเอราว 140 ไร่ซึ่งต้องยกให้เอกชนที่เข้ามาพัฒนารถไฟไฮสปีด เบื้องต้นจะยกที่ดินให้เอกชนราว 100 ไร่ ขณะที่อีก 40 ไร่ซึ่งเป็นพื้นที่พวงรางไปสู่ศูนย์ซ่อมภายในพื้นที่มักกะสันนั้น รฟท.จะเป็นผู้รับผิดชอบตามเดิม

อย่างไรก็ตามส่วนด้านแผนการย้ายบ้านพักพนักงานและโรงซ่อมบำรุงในพื้นที่มักกะสันนั้นรฟท.ได้เตรียมพื้นที่สองแปลงใหญ่จำนวนมากกว่า 100 ไร่ไว้รองรับประกอบด้วย 1.พื้นที่บริเวณอ.แก่งคอย จ.สระบุรี 2.พื้นที่บริเวณอ.ศรีราชา จ.ชลบุรี อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมไปสู่รูปแบบธุรกิจการเดินรถในอนาคตนั้นรฟท.จะแบ่งแยกระหว่างศูนย์ซ่อมบำรุงรถไฟดีเซลกับศูนย์ซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าให้ตั้งอยู่คนละที่กันเพื่อเอื้อต่อการพัฒนาย่านศูนย์กลางการเรียนรู้และพัฒนาบุคลากรด้านรถไฟฟ้าและรถไฟดีเซลรองรับโครงการรถไฟสายใหม่อีกหลากหลายเส้นทางในอนาคตที่จะมีการเปิดเดินรถทั้งรถไฟทางคู่ รถไฟขนส่งสินค้า รถฟ้าชานเมืองและรถไฟความเร็วสูง

ทั้งนี้ส่วนการสนับสนุน(Subsidy)ค่างานเดินรถให้เอกชนที่เข้ามาบริหารรถไฟฟ้าไฮสปีด รองรับอีอีซีเหมือนกับต่างประเทศซึ่งในช่วงเริ่มแรกส่วนใหญ่ประสบปัญหาขาดทุนอย่างหนักนั้นมองว่าโครงการรถไฟความเร็วสูงเส้นทางดังกล่าวจะเป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระยะยาวสอดรับกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีที่ต้องการให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการขนส่งของภูมิภาคอาเซียนด้วยการใช้ระบบรางเป็นโครงข่ายหลักเชื่อมโยงประเทศเพื่อนบ้าน

อย่างไรก็ตามดังนั้นจึงจำเป็นต้องดำเนินการแม้อาจเจออุปสรรคตามมาภายหลังก็ตาม ซึ่งในต่างประเทศนั้นการสนับสนุนค่าโดยสารจะคิดจากต้นทุนดำเนินการจริงนำมาหักลบกับรายได้ผู้โดยสารปัจจุบันและรายได้จากพื้นที่เชิงพาณิชย์ โดยรัฐบาลจะเป็นผู้จ่ายส่วนต่างที่ขาดทุนให้เอกชนแต่ทั้งนี้ต้องดูเงื่อนไขในอนาคตด้วยว่าจะเป็นอย่างไรเพราะรัฐบาลเปิดช่องว่าจะสนับสนุนค่าก่อสร้างให้ราว 50% จากทั้งหมดจึงขึ้นอยู่กับข้อเสนอของเอกชนที่จะแข่งขันกันยื่นเข้ามาเพื่อช่วงชิงโครงการ

นอกจากนี้ส่วนด้านความเสี่ยงที่เปิดเป็นโครงการพีพีพีเน็ทคอสโดยยกให้เอกชนไปเลยนั้นมองว่าไม่มีความเสี่ยงเพราะรัฐบาลไม่มีงบประมาณเพียงพอจะลงทุนโครงการดังกล่าวได้เพียงลำพังอีกทั้งในอนาคตเมื่อครบกำหนดอายุสัมปทานแล้วสมบัติดังกล่าวทั้งตัวรถไฟฟ้าความเร็วสูงและที่ดินเชิงพาณิชย์ก็จะกลับมาเป็นของรฟท.อยู่ดี
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 03/07/2018 1:48 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
รฟท.สั่งเดินหน้าเร่งแผนมักกะสันลงทุนแสนล้าน
ไทยโพสต์ 03 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 เวลา 09:30 น.

ย้านบ้าน 800 หลั้งพ้นมักกะสัน เอกชนจ่าย 3 พันล้านชดเชย

https://www.facebook.com/photo.php?fbid=2422086151138769&set=a.213819491965457.68088.100000122231436&type=3
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 09/07/2018 1:07 pm    Post subject: Reply with quote

พัฒนาแก้มลิง “บึงเสือดำ” คาดแล้วเสร็จ ส.ค.แก้น้ำท่วม “กำแพงเพชร 7-อโศก-เพชรบุรี”
โดย: MGR Online
เผยแพร่: 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 15:30
ปรับปรุง: 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 06:57




กทม.เผยขุดลอกบึงเสือดำ ทำเป็นแก้มลิงแล้วเสร็จ 2 บึง พร้อมเชื่อมท่อระบายน้ำ ปรับปรุงประตูระบายน้ำบึงมักกะสัน คาดแล้วเสร็จ ส.ค.นี้ ช่วยรองรับปริมาณน้ำ ลดปัญหาน้ำท่วม ย่ายถนนกำแพงเพชร 7 อโศกดินแดง และเพชรบุรี พร้อมปรับปรุงบ่อสูบน้ำถนนเพชรบุรีให้แข็งแรง พ่วงเพิ่มกำลังสูบเป็น 8 ลบ.ม./วินาที

วันนี้ (8 ก.ค.) นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวภายหลังลงพื้นที่ติดตามโครงการพัฒนาบึงเสือดำ และโครงการปรับปรุงบ่อสูบน้ำถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี ว่า ขณะนี้ กทม.มีแก้มลิงทั้งหมด 27 แห่ง สามารถรองรับปริมาณน้ำได้ 13 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) เป็นแก้มลิงของ กทม. 11 แห่ง หน่วยงานราชการ 8 แห่ง และเอกชน 8 แห่ง โดยปีนี้ กทม.มีโครงการเพิ่มแก้มลิงอีก 6 แห่ง ได้แก่ บึงประชานิเวศน์ บึงรางเข้ บึงลาดพร้าว 71 บึงหมู่บ้านเฟรนด์ชิพ บึงเบญจกิติ และบึงเสือดำ สำหรับโครงการพัฒนาบึงเสือดำ อยู่ในพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ถูกปล่อยทิ้งไว้เป็นบึงร้าง มีสภาพตื้นเขิน จึงได้ประสาน ร.ฟ.ท.เข้าปรับปรุงเป็นแก้มลิง แบ่งเป็นบึงเหนือและบึงใต้ ขุดลอกความลึก 2.5 เมตร รองรับน้ำได้ 17,250 ลบ.ม. ขณะนี้ขุดลอกแล้วเสร็จทั้ง 2 บึง เชื่อมท่อระบายน้ำเสร็จแล้ว 2 แห่ง

นายจักกพันธุ์ กล่าวว่า หลังพัฒนาแล้วเสร็จ จะสร้างฝายชะลอน้ำในบึงเสือดำ รวมทั้งปรับปรุงประตูระบายน้ำบึงมักกะสัน ซึ่งเป็นประตูเหล็กได้ชำรุดเสียหาย โดยปรับปรุงใหม่เป็นสถานีสูบน้ำ และติดตั้งเครื่องสูบน้ำพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูบ 4 ลบ.ม./วินาที คาดจะแล้วเสร็จประมาณ ส.ค.นี้ เมื่อโครงการแล้วเสร็จ จะเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ เพิ่มพื้นที่กักเก็บน้ำรองรับน้ำได้มากขึ้น ป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังบริเวณถนนกำแพงเพชร 7 ถนนอโศกดินแดง และถนนเพชรบุรี โดยจะดึงน้ำมากักเก็บไว้ที่บึงเสือดำช่วงที่ฝนตกก่อนระบายลงสู่คลองเสือดำและคลองแสนแสบ อีกส่วนหนึ่งระบายลงสู่บึงมักกะสันผ่านระบบอุโมงค์ระบายน้ำบึงมักกะสันสู่แม่น้ำเจ้าพระยา

นายจักกพันธุ์ กล่าวว่า สำหรับโครงการปรับปรุงบ่อสูบน้ำถนนเพชรบุรี ตอนสถานทูตอินโดนีเซีย ปัจจุบันมีสภาพชำรุด ช่องทางน้ำเข้าบ่อสูบมีขนาดเล็ก มีบ่อน้ำเสียกีดขวาง ทำให้น้ำไม่สามารถระบายเข้าบ่อสูบได้เต็มประสิทธิภาพ และกำลังสูบไม่เพียงพอ จึงปรับปรุงบ่อสูบน้ำให้มีสภาพถาวรแข็งแรงและเพิ่มกำลังสูบจาก 6 ลบ.ม./วินาที เป็น 8 ลบ.ม./วินาที พร้อมก่อสร้างบ่อสูบน้ำ 1 บ่อ ติดตั้งเครื่องสูบน้ำไฟฟ้า กำลังสูบ 1 ลบ.ม./วินาที 2 เครื่อง กำลังสูบ 2 ลบ.ม./วินาที 3 เครื่อง เมื่อปรับปรุงแล้วเสร็จจะเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ ดึงน้ำที่ท่วมขังบริเวณถนนเพชรบุรีแยกมิตรสัมพันธ์ และถนนพญาไทบริเวณหน้ากรมปศุสัตว์ ออกจากพื้นที่เร่งระบายลงสู่คลองแสนแสบได้เร็วขึ้น

“การป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในแต่ละพื้นที่ กทม.ดำเนินการไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่ บางพื้นที่จะเพิ่มประสิทธิภาพสถานีสูบน้ำ บางพื้นที่จะติดตั้งเครื่องสูบน้ำหรือก่อสร้างบ่อสูบน้ำเพิ่มเติม บางพื้นที่จะก่อสร้างระบบระบายน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม บางพื้นที่จะก่อสร้างบ่อหน่วงน้ำใต้ดิน (Water Bank) เพื่อรับน้ำฝนมากักเก็บไว้ บางพื้นที่พัฒนาเป็นแก้มลิง รวมทั้งการขุดลอกคูคลองเปิดทางน้ำไหล ล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำ เสริมผิวจราจรในพื้นที่ลุ่มต่ำแอ่งกระทะ และที่สำคัญ คือ การมีส่วนร่วมของประชาชนในการดูแลรักษาความสะอาดแม่น้ำคูคลองและท่อระบายน้ำ” รองผู้ว่าฯ กทม.กล่าว
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 25/10/2018 4:18 pm    Post subject: Reply with quote

อนาคตย่านโรงงานมักกะสันที่อาจารย์ ปริญญา ชูแก้ว พูดถึง



ปิดตำนาน "สวนมักกะสัน" ร.ฟ.ท.เฉือน 150 ไร่ พัฒนาพื้นที่สนับสนุนไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบิน EEC
เรื่องโดย Nation TV | ภาพโดย Nation TV

23 ตุลาคม 2561 17:28


12 พฤศจิกายน นี้จะได้รู้กันแล้วว่าจะมีเอกชนรายใดบ้างที่เข้าร่วมประมูลโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ซึ่งเป็นโครงการสำคัญในการพัฒนาพื้นที่อีอีซี โดยเอกชนที่ชนะการประมูลจะได้สิทธิในการพัฒนาพื้นที่ทำเลทองย่านมักกะสันของการรถไฟแห่งประเทศไทย ติดตามจากรายงานคุณวชิรวิทย์ เลิศบำรุงชัย






กลุ่มบีทีเอส และกลุ่มซีพ ในฐานะผู้จะเข้าร่วมประมูลโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินศึกษาแล้วว่า ภายใต้โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ยังมี โครงการพัฒนาที่ดินเพื่อสนับสนุนบริการรถไฟ ซึ่งเป็นทำเลทองที่ทำให้ถึงจุดคุ้มเร็วขึ้น ซึ่งนอกจากกลุ่มบีทีเอสแล้ว ยังมีกลุ่มซีพีซึ่งเป็นคู่แข่งในการร่วมประมูลโครงการครั้งนี้ด้วย

ที่นี่คือโรงงานรถไฟมักกะสัน เป็นพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งเอกชนผู้ชนะการประมูล จะได้สิทธิในการพัฒนาที่ดินผืนนี้ มีขนาดพื้นที่ 150 ไร่ ที่เอกชนหลายรายอยากเข้าไปพัฒนาในช่วงที่ผ่านมา

รักษาการผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย วรวุฒิ มาลา บอกว่าตามเงื่อนไขของทีโออาร์ได้กำหนดว่า ต้องมีพื้นที่อาคารรวมกันไม่น้อยกว่า 850,000 ตารางเมตร เพื่อให้พื้นที่บริเวณนี้ เป็นศูนย์กลางการเชื่อมโยงกรุงเทพฯ กับจังหวัดใน เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC รองรับผู้โดยสารจำนวนมากขึ้น

สำหรับค่าเช่าที่ดินมักกะสัน ที่การรถไฟจะได้รับตลอดสัญญา 50 ปี ประมาณ 55,608 ล้านบาท

ในอีกด้านหนึ่งที่ดินมักกะสัน คือพื้นที่สีเขียว ที่ถูกเรียกว่าปอดซีกสุดท้ายของกรุงเทพมหานคร กลุ่มคนเมืองจำนวนไม่น้อยไม่ต้องการให้เกิดการพัฒนาพื้นที่ไปเป็นศูนย์การค้าหรืออาคารสำนักงานขนาดใหญ่ แต่การรถไฟแห่งประเทศไทยได้ชี้แจงถึงความจำเป็นในการพัฒนาที่ดินดังกล่าว เพื่อแบ่งเบาภาระสินหนี้ของการรถไฟฯ นับแสนล้านบาท และยืนยันว่าการพัฒนาจะควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม โดยพื้นที่สีเขียวจะไม่ได้หายไปทั้งหมด

https://www.youtube.com/watch?v=JLph-1bkWqc
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 22/01/2019 12:35 pm    Post subject: Reply with quote

โรงงานรถไฟปล่อยควันพิษไม่สนใจ PM2.5 เกินมาตรฐาน

วันจันทร์ที่ 21 มกราคม 2562 เวลา 17:58 น.


“ถ้าไม่ได้รับอนุญาต ไม่มีหนังสือเข้ามาเชิญออกข้างนอก ไม่อยากจะให้เรื่องถึงขั้นต้องแจ้งความกัน สถานที่ราชการไม่ใช่ใครจะเข้ามาได้” นี่คือคำพูดของเจ้าหน้าที่โรงงานรถไฟแห่งหนึ่งย่านมักกะสัน ที่ได้เข้ามาพูดจาเชิงข่มขู่และขอร้องกับทีมข่าวช่อง 7HD ขณะที่เข้าไปตรวจสอบภายในโรงงาน เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากพนักงานในโรงงานและชาวบ้านในพื้นที่ว่าปล่อยควันเสียในพื้นที่โดยไม่มีการป้องกัน เมื่อเข้าไปภายในโรงงานทีมข่าวพบว่าเจ้าหน้าที่กำลังเผาลอกสีเดิมของโบกี้รถไฟ ขัดโป๊ว และพ่นสีใหม่ในที่โล่ง ปล่อยควันจากการเผาและละอองของสีที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพไปในอากาศ โดยไม่สนใจว่า ฝุ่นควันเหล่านั้นจะส่งผลต่อประชาชนหรือไม่

ขณะกำลังตรวจสอบภายในโรงงานได้มีเจ้าหน้าที่หลายภาคส่วนเดินเข้ามาพูดคุยและขอร้องให้ทีมข่าวออกจากพื้นที่ เพราะการเข้าไปอาจจะส่งผลกระทบต่องาน โดยเฉพะอาจจะถูกลดบทบาทในการทำงานเพราะพวกเขาเป็นแค่ข้าราชการตัวเล็กๆ ซึ่งหนึ่งในเจ้าหน้าที่ที่ระบุว่าเป็นที่ปรึกษาของโรงงาน บอกว่าโรงงานแห่งนี้เอกชนได้ที่ประมูลได้ และได้เข้ามาปรับปรุงโบกี้รถไฟ แต่หากมีการเผาในลักษณะนี้ถือว่าผิดและจะต้องพูดคุยเพื่อแก้ไข แต่ก็ยอมรับว่าได้มีการเผาในลักษณะนี้มากว่า 80 ปีแล้ว นั้นย่อมหมายความว่าโรงงานแห่งนี้มีการเผา พ้นสีในที่โล่งแจ้ง โดยไม่มีการป้องกันมานานมากและไม่รู้ว่าส่งผลกระทบกับประชาชนไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่มาแล้ว

นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส อดีตผู้ว่าสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ได้ตั้งข้อสังเกตว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย ควรทบทวนสัญญาจ้างกับเอกชนรายนี้ ว่าควรให้ดำเนินการต่อหรือไม่ เพราะการเผา พ่นสีในที่แจ้งถือว่าเป็นปฏิบัติที่ไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง และที่สำคัญนั้นเป็นการกระทำอย่างโจ่งแจ้งในสถานที่ราชการ หน่วยงานของรัฐ

ขณะนี้ รัฐบาลได้มีความใส่ใจเรื่องของการลดฝุ่นในอากาศโดยเฉพาะค่า PM 2.5 แม้ว่าโรงงานแห่งนี้ที่ปล่อยออกไปจะไม่เล็กเท่าแต่ก็เป็นอันตรายต่อสุขภาพอยู่ดี และที่สำคัญโรงงานแห่งนี้เป็นของรัฐ อยู่ภายใต้การดูแลของประธานกรรมการ รฟท. กทม. กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงคมนาคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงสาธารณสุข แต่เหตุใดถึงได้นิ่งเฉยไม่มีการชะลอ หรือหยุดในสภาวะที่บ้านเมืองอากาศอยู่ในขั้นวิกฤตขนาดนี้ หรือรัฐบาลทำเป็นแก้ปัญหาเพียงแค่ฉาบหน้าและไม่ได้สนใจ หรือเอาจริงเรื่องมลพิษที่ส่งผลต่อชีวิตของประชาชนอย่างแท้จริง

//------------------------------------------

การรถไฟสั่งโรงงานมักกะสันชะลอการซ่อม-หวังช่วยลดฝุ่นละออง

วันที่ 22 กราคม 2562 เวลา 15:04 น.


การรถไฟฯ ร่วมแก้ปัญหาลดปริมาณฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล สั่งให้ชะลอการซ่อมแซมรถโดยสารในโรงงานมักกะสัน
ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย
22 มกราคม 2562

การรถไฟฯ ร่วมแก้ปัญหาลดปริมาณฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล สั่งชะลอการซ่อมแซมรถโดยสารในโรงงานมักกะสันออกไปก่อน และเตรียมหารือร่วมกับกรมควบคุมมลพิษ เพื่อปรับหาวิธีการซ่อมแซมสภาพตัวรถให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด

ผศ.ดร.ศิริพงศ์ พฤทธิพันธุ์ รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการซ่อมบำรุงรถจักรและล้อเลื่อน เปิดเผยว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้คำนึงถึงการรักษาสิ่งแวดล้อม และเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมแก้ปัญหาฝุ่นละอองในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลเกินค่ามาตรฐานอย่างเต็มที่ โดยได้สั่งให้บริษัทเอกชนที่ได้รับว่าจ้างจากการรถไฟฯ ให้เข้ามาปรับปรุงสภาพภายนอกของรถโดยสาร ในโรงงานมักกะสัน ชะลอการซ่อมรถโดยสารดังกล่าวในช่วงที่เกิดปัญหาฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลออกไปก่อนขณะเดียวกัน การรถไฟฯ ยังเตรียมร่วมหารือกับกรมควบคุมมลพิษ เพื่อปรับหาวิธีการซ่อมแซมสภาพตัวรถใหม่ ที่จะส่งผลกระทบต่อชุมชนข้างเคียงและสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุดอีกด้วย

นอกจากนี้ การรถไฟฯ ได้สั่งการให้บริษัทเอกชน ชะลอการซ่อมแซมรถโดยสารที่โรงงานมักกะสันเพื่อลดปัญหาฝุ่นละอองแล้ว การรถไฟแห่งประเทศไทย ยังสนับสนุนให้การเดินรถของการรถไฟฯ เป็นการเดินรถไฟ
แบบสีเขียวเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และลดการเผาไหม้จากเชื้อเพลิงในระยะยาว ด้วยการมอบหมายให้ฝ่ายการช่างกลของการรถไฟฯ พัฒนาระบบรถพาวเวอร์คาร์ขึ้นมาใช้งาน โดยใช้พลังงานจากรถพาวเวอร์คาร์
เพียงคันเดียวในการจ่ายไฟไปใช้ในขบวนรถโดยสารทั้งขบวน ซึ่งทำให้สามารถประหยัดพลังงานและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ตลอดจนยังรับนโยบายจากนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในการนำน้ำมันบี 20 มาทดสอบใช้เป็นเชื้อเพลิงในการเดินรถขบวนรถโดยสาร เพื่อลดปัญหาการปล่อยมลพิษ แก้ปัญหาการเกิดฝุ่นละอองในอากาศให้ลดลง และคาดว่าจะเริ่มทดสอบนำมาวิ่งเปิดให้บริการได้ในเร็วๆ นี้ด้วย

ผศ.ดร.ศิริพงศ์ฯ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีมีการเผยแพร่ภาพที่บริเวณโรงงานมักกะสัน โดยมีช่างกำลังดำเนินการซ่อมแซมรถโดยสาร โดยใช้แก๊สเผาสีด้านนอกจนเกิดควัน และเกรงว่าจะส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมนั้น
ขอชี้แจงว่า เป็นภาพของช่างซ่อมจากบริษัทเอกชนที่การรถไฟฯ มีการว่าจ้างมาปรับปรุงสภาพภายนอกของรถโดยสารให้มีคุณภาพดีขึ้น ซึ่งเป็นกระบวนการซ่อมวาระหนักของรถโดยสารประเภทเหล็กธรรมดา ด้วยการลอกสีโป๊วเดิมออกให้ถึงเนื้อเหล็ก ซึ่งตามขั้นตอนจะมีการให้ความร้อนบริเวณผิวบางส่วนที่จำเป็นเท่านั้น ไม่ได้เป็นการเผาไหม้หมดทั้งคัน ซึ่งอาจจะมีการเกิดควันขึ้นบ้างเล็กน้อย
“ที่ผ่านมาการเปิดให้โรงงานมักกะสันซ่อมวาระหนักของรถโดยสารประเภทเหล็กธรรมดา จะมีการเปิดซ่อมรอบหนึ่งต่อ 4 ปี และทำการซ่อมเฉพาะช่วงที่มีสัญญาซ่อมเท่านั้น ซึ่งไม่ได้มีปริมาณการซ่อมแซมปริมาณที่มาก เพราะเฉลี่ยแล้ว เดือนหนึ่งมีการซ่อมแซมไม่ถึงสิบคัน โดยเฉลี่ยคันหนึ่งจะใช้เวลาลอกสีประมาณ 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น และรถโดยสารบางส่วนก็มีการกระจายนำไปซ่อมแซมตามโรงงานต่างจังหวัดอื่นๆ อีกด้วย”
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 24/01/2019 8:42 pm    Post subject: Reply with quote

“อาคม” บุกโรงซ่อมรถไฟมักกะสัน จี้ปรับปรุงหัวรถจักรรับ B20

พร็อพเพอร์ตี้
วันที่ 24 มกราคม 2562 เวลา 20:05 น.

วันที่ 24 มกราคม 2562 เวลา 14.00 น. นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงฯ และรองโฆษกกระทรวงฯ ตรวจติดตามการแก้ไขสถานการณ์เพื่อลดปริมาณฝุ่นละออง PM 2.5 ณ โรงซ่อมรถไฟมักกะสัน และสถานีกลางบางซื่อของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.)

จากนั้นได้ตรวจพื้นที่ภายในโรงซ่อมรถไฟ ได้แก่ ศูนย์ซ่อมรถโดยสาร ซึ่งสามารถซ่อมบำรุงใหญ่รถโดยสารได้ปีละ 70 คัน (อัตราเฉลี่ยซ่อมบำรุงได้สัปดาห์ละ 2 คัน) และโรงกะสวน และได้สั่งการให้ ร.ฟ.ท. ดำเนินมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองที่อาจจะเกิดจากการดำเนินงาน


โดยเร่งรัดดำเนินการปรับปรุงรถจักรดีเซล เพื่อให้สามารถใช้น้ำมันเชื้อเพลิง B20 ให้ได้โดยเร็วที่สุด และให้ประสานงานกับบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เพื่อจัดหาหัวจ่ายน้ำมันดีเซล B20 ให้เพียงพอทั่วประเทศ

สั่งให้ ร.ฟ.ท. สั่งการบริษัทเอกชนที่รับผิดชอบการซ่อมบำรุงใหญ่รถโดยสารที่ต้องทำการลอกสีตัวถังด้วยความร้อนจากก๊าซ LPG ซึ่งทำให้เกิดควันไฟ ให้ดำเนินการภายในอาคารระบบปิดเท่านั้น

และให้เร่งดำเนินการปรับปรุงรถ Power Car (รถจ่ายกระแสไฟฟ้าขบวนรถไฟ ขบวนละ 1 คัน) จำนวน 8 คัน ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ซึ่งจะสามารถช่วยลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงลงได้ร้อยละ 30 – 40 และทำให้ช่วยลดปริมาณฝุ่นควันลงได้

ในส่วนของพื้นที่การก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อ ได้เพิ่มความถี่ในการใช้รถฉีดพรมน้ำ บริเวณพื้นผิวถนน จำนวน 8 ครั้ง ต่อวันหรือหากกรณีที่มีการเกิดฝุ่นละอองเยอะมากกว่าปกติก็จะเพิ่มความถี่การฉีดพรมน้ำมากขึ้นตามลำดับ
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 25/01/2019 2:51 am    Post subject: Reply with quote

“อาคม”กำชับพื้นที่รง.มักกะสัน-สถานีกลางบางซื่อกวดขันค่าฝุ่นละออง
เศรษฐกิจ
วันพฤหัสบดี ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2562, 19.57 น.

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เดินทางไปตรวจราชการและติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานตามนโยบาย One Transport ปลอดฝุ่น PM 2.5 ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ณ โรงงานมักกะสัน และสถานีกลางบางซื่อ พร้อมผู้บริหารการรถไฟแห่งประเทศไทย ร่วมลงพื้นที่ เพื่อตรวจปริมาณค่าฝุ่นละออง PM 2.5 ภายในบริเวณโรงงาน โดยได้มอบนโยบายให้ดำเนินการเร่งรัดการลดปริมาณค่าฝุ่นละออง PM 2.5 ตามข้อสั่งการที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมทั้งให้ติดตามผลการดำเนินมาตรการของกระทรวงคมนาคมในการแก้ไข และรับมือสถานการณ์ค่าฝุ่นละออง PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑลเกินมาตรฐานอย่างเร่งด่วน โดยกำชับให้ดำเนินการตามมาตรการเร่งด่วนทั้ง 9 ข้อ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้ออกแถลงการณ์อย่างเคร่งครัด






นอกจากนี้ ในเบื้องต้นยังได้มอบนโยบายการแก้ไขปัญหาการลดฝุ่นละอองในพื้นที่ โดยให้ระงับกิจกรรมที่ไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่อาจก่อให้เกิดปัญหาการสร้างฝุ่นละอองภายในโรงงานมักกะสัน การจัดหาเอกชนที่สามารถควบคุมพื้นที่ในการซ่อมบำรุงให้อยู่ในเขตโรงงานหรือมีพื้นที่เฉพาะเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การจัดหาเครื่องมือ เทคโนโลยีที่มีความทันสมัยตามมาตรฐานสากลเข้ามาดำเนินการลอกสีแบบเดิม รวมทั้ง เร่งรัดให้การรถไฟแห่งประเทศไทย ดำเนินการทดสอบการใช้ไบโอดีเซล B20 กับขบวนรถดีเซลราง และให้เข้มงวดกวดขันการใช้มาตรการต่างๆ ในการเฝ้าระวังสถานการณ์ค่าฝุ่นละออง PM 2.5 ในพื้นที่โรงรถจักร และรถพ่วงต่างๆ รวมถึงพื้นที่ก่อสร้างโครงการของการรถไฟฯ จนกว่าสถานการณ์ฝุ่นจะบรรเทาลง


อย่างไรก็ตาม การรถไฟฯ ยังได้คำนึงถึงการรักษาสิ่งแวดล้อม และเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมแก้ปัญหาฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานอย่างเต็มที่ ด้วยการมอบหมายให้ฝ่ายการช่างกลของการรถไฟฯ พัฒนาระบบรถพาวเวอร์คาร์ขึ้นมาใช้งาน โดยใช้พลังงานจากรถพาวเวอร์คาร์เพียงคันเดียวในการจ่ายไฟไปใช้ในขบวนรถโดยสารทั้งขบวน ซึ่งทำให้สามารถประหยัดพลังงาน และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ตลอดจนยังนำนโยบายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในการนำน้ำมันบี 20 มาทดสอบใช้เป็นเชื้อเพลิงในการเดินรถขบวนรถโดยสาร เพื่อลดปัญหาการปล่อยมลพิษ แก้ปัญหาการเกิดฝุ่นละอองในอากาศให้ลดลง และคาดว่าจะเริ่มทดสอบนำมาวิ่งเปิดให้บริการได้ในเร็วๆ อีกทั้งในส่วนของพื้นที่การก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อ ได้เพิ่มความถี่ในการใช้รถฉีดพรมน้ำ บริเวณพื้นผิวถนน จำนวน 8 ครั้ง ต่อวันหรือหากกรณีที่มีการเกิดฝุ่นละอองเยอะมากกว่าปกติก็จะเพิ่มความถี่การฉีดพรมน้ำมากขึ้นตามลำดับ
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> สาระความรู้วิชาการรถไฟและประวัติศาสตร์รถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9  Next
Page 7 of 9

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©