RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311232
ทั่วไป:13180083
ทั้งหมด:13491315
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 328, 329, 330 ... 471, 472, 473  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 25/01/2019 10:28 am    Post subject: Reply with quote

ดันท่าเรือบกโคราช แหล่งกระจายสินค้า
ข่าวทั่วไป หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ --
ศุกร์ที่ 25 มกราคม 2562 00:00:26 น.

โคราช * นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า จังหวัดนครราชสีมาเตรียมการพัฒนาให้รองรับความเจริญและสอด คล้องกับโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของรัฐบาลหลายโครงการ เช่น โครงการก่อ สร้างทางมอเตอร์เวย์ บางปะ อิน-นครราชสีมา โครงการ พัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค กทม.หนองคาย ระยะที่ 1 ช่วง กทม.มายังนครราชสีมา โครงการรถไฟฟ้ารางเบา เป็นต้น นอกจากนี้จังหวัดเคย นำเสนอโครงการพัฒนาท่าเรือบก ต่อที่ประชุม ครม.และได้รับความเห็นชอบแล้วเมื่อ 8 พ.ค.61

นายวิเชียรกล่าวว่า ประโยชน์ที่จะได้รับ ประกอบด้วย 1.ท่าเรือบกจะมีศุลกากร ทำพิธีการ จะทำให้การขนส่งสินค้า ขาเข้าและขาออก มาทำที่นี่ได้เลย ไม่ต้องไปที่ท่าเรือ ริมทะเล 2.ท่าเรือบกที่ จ.นคร ราชสีมา จะทำให้การส่งตู้สิน ค้าส่งออกและการรับตู้สินค้าจากต่างประเทศของผู้ประกอบการ มารับและส่งได้ที่ท่าเรือบก แล้วขนส่งต่อโดยรถไฟรางคู่ ทำให้ลดค่าใช้จ่ายจากการขนส่งทางล้อ 3.ด้านสังคม ยังสามารถลดปัญหาการจราจร อุบัติเหตุ จากการใช้รถบรรทุกสินค้า นอกจากนี้จังหวัดนครราชสีมาได้วางเป้าเป็นจังหวัดในการส่งเสริมขีดความสามารถแข่งขัน 3 เรื่อง

1.สร้างเมืองเป็น smart city เป็นเมืองอัจฉริยะนวัตกรรมและเทคโนโลยี
2.สร้างเป็นเมือง mice city เมืองแห่งการประชุมและสัมมนา การจัดนิทรรศการ
3.เมืองแห่งโลจิสติกส์และการ ขนส่ง.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 29/01/2019 10:06 pm    Post subject: Reply with quote

เคลียร์เรื่องที่ดินสองร้อยไร่ จะได้ย้ายคนจาก 19 ชุมชน 1100 ครอบครัว ประมาณ 3 - 4000 คนออกไปจากที่รถไฟเพื่อให้การสร้างทางคู่จากนครปฐมไปหัวหินเป็นไปโดยสะดวก เสียที ตอนนี้ทางจากนครปฐมไปหัวหิน เสร็จแล้ว 13% เร็วกว่าแผน 0.3% ส่วนทางจากหัวหินไปประจวบคีรีขันธ์เสร็จแล้ว 17% เร็วกว่าแผน 3%
https://www.thebangkokinsight.com/94714/
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 31/01/2019 12:57 pm    Post subject: Reply with quote

สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟฯ สร.รฟท.
29 มกราคม 2562 เวลา 5:10 PM ·


29 มกราคม 2562 เวลา 9.00 น. ณ ห้องประชุมปฏิบัติการชั้น 3 ตีกบัญชาการรถไฟฯคณะกรรมการกิจการสัมพันธ์การรถไฟฯประชุมครั้งที่ 1/2562 สรุปประเด็น (ยังไม่เป็นทางการเพื่อชี้แจงสมาชิกทราบในเบื้องต้น ไม่สามารถนำไปอ้างอิงได้)
เรื่องพิจารณา
1.ขอเพิ่มเติมคณะทำงานดำเนินการแก้ไขปัญหาเครื่องกั้นอัตโนมัติเกิดความชำรุดบ่อยครั้งและขาดการซ่อมบำรุงอย่างทันท่วงทีรวมทั้งจำนวนเครื่องกั้นที่มีจำนวนจุดที่มากเป็นเหตุให้ขบวนรถล่าช้าฯ
มติที่ประชุม เห็นชอบให้ตั้งคณะทำงานเพิ่มเติมในพื้นที่ จดข.5
2.การกำหนดวันหยุดชดเชยวันหยุดประเพณีของการรถไฟฯ
มติที่ประชุม เห็นชอบจัดวันหยุดชดเชยตามประกาศคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ มาตรฐานขั้นต่ำสภาพการจ้าง ลงวันที่ 31 พ.ค.49 ข้อ16
3.เรื่องขอให้การรถไฟฯหักค่าบำรุงสมาชิกสร.รฟท.ให้กับ สร.รฟท.ปีละ 2 ครั้ง ๆ 25,000 บาท
มติที่ประชุม มอบให้รองผู้ว่าการด้านอำนวยการรับไปดำเนินการหารือกับฝ่ายการเงินและบัญชีภายในวันศุกร์ที่ 1ก.พ.62
4.ขอให้การรถไฟฯเปลี่ยนสภาพนักเรียน วรฟ.รุ่น 60 จากลูกจ้างเฉพาะงานเป็นลูกจ้างรายเดือนเป็นลูกจ้างรอการบรรจุ
มติที่ประชุม มอบให้รองผู้ว่าการด้านยุทธศาสตร์ตั้งคณะทำงานเพื่อหาแนวทางดำเนินการต่อไปโดยมีผู้แทนสหภาพเข้าร่วมเป็นคณะทำงาน
5.ขอให้การรถไฟฯจัดหาที่ดินของการรถไฟฯเพื่อสร้างบ้านพักเพื่อเป็นสวัสดิการกับพนักงานการรถไฟฯ
มติที่ประชุม ตั้งคณะทำงานโดยมีรองผู้ว่าการด้านอำนวยการเป็นประธานคณะทำงานมีผู้แทนสหภาพฯเข้าร่วม
6.ขอให้การรถไฟปรับปรุงยกระดับโครงสร้างสายงานพนักงานรถจักรให้เหมาะสมกับสภาพการทำงานและให้มีความก้าวงานในสายงาน
มติที่ประชุม มอบให้รองผู้ว่าการด้านยุทธศาสตร์รับไปดำเนินการตั้งคณะทำงานโดยมีผู้แทนสหภาพเข้าร่วม
7.ขอให้การรถไฟฯแก้ไขคำสั่งการแต่งตั้งเลื่อนระดับพนักงานด้านปฏิบัติการจากระดับ 5 เป็น 6, 6 เป็น 7, 7เป็น 8
มติที่ประชุม เห็นชอบในหลักการและเรื่องนี้อยู่ในวาระการพิจารณาของคณะกรรมการรถไฟฯ(บอร์ด) ทั้งนี้การรถไฟจะเสนอข้อมูลให้กับทางบอร์ดเพิ่มเติม
8.ขอให้การรถไฟฯจัดสรรเงินในการพิจารณาปูนบำเหน็จประจำปี 2562 มากกว่า 1 ขั้นให้กับผู้ปฏิบัติงานที่ประสบเหตุจากความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
มติที่ประชุม มอบให้ฝ่ายช่างกลหาวงเงินให้กับพนักงาน
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 06/02/2019 1:29 pm    Post subject: Reply with quote

การรถไฟ เร่งซ่อมป้ายสถานีหัวหิน หลังชำรุดไปมาก ยันจะคงสภาพเดิมไว้หมด
โดย ไทยรัฐออนไลน์
อาทิตย์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 21:44 น.

ป้าย “หัวหิน” อันป็นเอกลักษณ์ของสถานีรถไฟหัวหินอายุกว่า 60 ปีชำรุดไปมาก การรถไฟฯ ตั้งงบ 1 แสนจ้างอดีตพนักงาน รฟท.ที่เคยทำป้ายมาซ่อม โดยคงตัวอักษรเดิมไว้ พร้อมกับการซ่อมตัวอาคารสถานี...

เมื่อวันที่ 3 ก.พ.62 นายประสงค์ โกมุก นายสถานีรถไฟหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันสถานีรถไฟหัวหิน เป็นที่นิยมชื่นชอบของนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและต่างชาติ นิยมมาถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก ด้วยสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นสวยงาม รวมถึงป้าย “หัวหิน” ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะชาวจีนที่มาเที่ยวเมืองหัวหิน ต้องมาถ่ายภาพเก็บไว้ที่ระลึก ปีละหลายล้านคน ปัจจุบันสถานีรถไฟ มีป้ายหัวหิน รวม 3 ป้าย คือ ป้ายหัวหินที่ติดกับพลับพลาพระมงกุฎเกล้าฯ ป้ายหัวหินที่ตั้งบริเวณทิศใต้ และอีกป้ายตรงบริเวณใกล้ห้องขายตั๋ว

ขณะนี้ป้ายหัวหินที่ตั้งบริเวณทิศใต้ ที่ทำจากไม้อายุเก่าแก่กว่า 60 ปี ได้ชำรุดทรุดโทรมจากสภาพอากาศ ดูแล้วไม่สวยงาม การรถไฟฯ จึงได้ตั้งงบประมาณ 1 แสนบาท เพื่อซ่อมแซม แต่ยังคงตัวอักษรเดิมไว้ เนื่องจากเป็นฟอนต์อักษรเฉพาะตัว โดยว่าจ้างอดีตพนักงานการรถไฟ ที่เคยทำป้ายหัวหินเป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งหลังจากทำป้ายใหม่เสร็จแล้ว จะติดตั้งห่างจากจุดเดิมให้เด่น เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายกับตัวสถานี ที่ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างปรับปรุงซ่อมแซมเช่นกัน.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 07/02/2019 10:55 am    Post subject: Reply with quote

รฟท.จ่อปิดดีลสัมปทาน”ไอซีดีลาดกระบัง” “เอ แอล จี”เสนอลงทุน 4 พันล.ปรับปรุงบริการ
โดย: ผู้จัดการออนไลน์

เผยแพร่: พฤหัสบดีที่ 7 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 07:22


รฟท.ชงบอร์ด 8 ก.พ.พิจารณา ผลประมูลไอซีดี ลาดกระบัง”กลุ่มเอ แอล จี”ฉลุย ยื่นรายเดียว ข้อเสนอเป็นประโยชน์ ทุ่ม 4 พันล.ปรับปรุงพื้นที่ การันตี ค่าบริการ ตลอด 20 ปี ดันสินค้าเพิ่ม1 ล.ตู้ ใช้ระบบรางลดต้นทุนโลจิสติกส์

นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการรักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการ(บอร์ด) รฟท.วันที่ 8 ก.พ.นี้ จะเสนอผลการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุน โครงการสรรหาเอกชนเพื่อร่วมลงทุนเป็นผู้ประกอบการสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง (ไอซีดี) ลาดกระบัง ให้บอร์ดพิจารณา รวมถึงรายงานถึงกรณีสัญญาจ้าง นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร เป็นผู้ว่าฯรฟท.ครบกำหนดเมื่อวันที่ 3 1 ม.ค. 62 ด้วย

รายงานข่าวแจ้งว่า จากที่รฟท.ได้เปิดประมูลบริหารสถานีไอซีดี ลาดกระบัง ขนาด 647 ไร่ระยะเวลา 20 ปีวงเงินลงทุน 40,000 ล้านบาท ลาดกระบัง มีบริษัทเอกชน เข้ายื่นข้อเสนอ 1ราย คือ กิจการร่วมค้า เอ แอล จี(ประเทศไทย) ประกอบด้วย บริษัท อีสเทิร์นซี แหลมฉบังเทอร์มินัล จำกัด บริษัท เอเวอร์กรีนคอนเทนเนอร์ เทอร์มินัล (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท โอเชี่ยนเน็ตเวิร์ค เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท ไทย อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์ จำกัด จากที่ได้ซื้อเอกสารข้อเสนอจำนวน 10ราย

ซึ่ง คณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนฯ ได้พิจารณาข้อเสนอของกิจการร่วมค้า เอ แอล จี ตามขั้นตอน ตามเงื่อนไขทีโออาร์ และตามพระราชบัญญัติให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556

โดยเอกชนได้เสนอเงื่อนไขที่เป็นประโยชน์ ต่อภาครัฐและผู้ใช้บริการ เช่น เสนอลงทุนประมาณ 4,000 ล้านบาท ในการปรับปรุงระบบต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการตลอด 20 ปี ,กำหนดอัตราค่าบริการที่จัดเก็บ ได้แก่ ค่ายกตู้ ค่าธรรมเนียมต่างๆ ต่ำกว่าอัตราที่การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) จัดเก็บ ที่ท่าเรือแหลมฉบัง (ทลฉ.) ในปัจจุบัน และการันตี จะไม่มีการปรับขึ้นเกินจากอัตรานี้ไปตลอดอายุสัญญา 20 ปี

ขณะที่ รฟท.จะมีรายได้จากการจัดเก็บค่าเช่าพื้นที่ตามระเบียบ โดยปรับขึ้นในอัตรา 5% ทุก3 ปี เป็นต้น

ทั้งนี้ การเสนอค่าบริการที่ต่ำได้ เนื่องจาก มีการคาดหมายว่า ปริมาณตู้สินค้า ที่ใช้บริการจะเพิ่มจากปัจจุบัน 3-4 แสนตู้ต่อปีเป็น 1ล้านตู้ หลังจากนี้ เมื่อมีการปรับปรุงระบบโครงสร้างพื้นฐาน แก้ปัญหาจราจร และความแออัดได้ การบริหารจัดการพื้นที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น จะรองรับปริมาณตู้สินค้า ได้เพิ่มขึ้น

ซึ่งเป็นเป้าหมายของโครงการ ในการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานด้านการบรรจุและแยกตู้สินค้า (Container) ที่มีการนำเข้า หรือการส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศ ลดต้นทุนด้านการใช้พลังงานขนส่งสินค้าตามนโยบายของรัฐ และช่วยลดต้นทุนการในการขนส่งให้ผู้ส่งออกและนำเข้าของต่างประเทศเนื่องจากระบบเป็นการขนส่งที่ใช้ต้นทุนต่ำ แต่สามารถขนส่งสินค้าได้ครั้งละเป็นจำนวนมาก มีความปลอดภัย ช่วยลดปัญหาด้านจราจร และช่วยลดมลพิษทางสิ่งแวดล้อม
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 07/02/2019 11:27 am    Post subject: Reply with quote

การรถไฟฯ พร้อมก้าวเข้าสู่ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง มาร่วมกัน เปิด ปรับ เปลี่ยน “สู่อนาคตรถไฟไทย”
งาน“Change to the Future” ครั้งที่ 1/2562 ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอนาคตใหม่รถไฟไทยโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับทิศทางการดำเนินงานของการรถไฟฯ ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน แผนยุทธศาสตร์กระทรวงคมนาคม ด้านการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์สู่ความสำเร็จ และแผนฟื้นฟูกิจการรถไฟแห่งประเทศไทย ให้กับ ให้เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงและเป็นแนวร่วมในการขับเคลื่อนองค์กร ให้บรรลุวิสัยทัศน์ “เป็นผู้ให้บริการระบบรางของรัฐที่ดีที่สุดในอาเซียนในปี 2570” เวลา 08.00 – 12.00 น. ณ ห้องวิภาวดี บอลรูม A-B โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว กรุงเทพฯ

สามารถดาวน์โหลดข้อมูลได้ตามลิงค์ที่แนบมา
https://drive.google.com/drive/folders/1y2aifNUopaQ_p9C8TYWYIufD9dkb51R-?fbclid=IwAR1RdtaQXzPfa_KLBRrzl1aEnM1l6ljEL-jn-6eFWFJBL8G4oDL6x-40g4c

https://www.facebook.com/pr.railway/posts/2534283969919792
https://www.facebook.com/siriphong.preutthipan/posts/1301024893370020
https://www.facebook.com/129946050353608/posts/2534245273256995/
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44324
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 07/02/2019 5:56 pm    Post subject: Reply with quote

^^^
ปลุกพลังคนรถไฟ “เปิด-ปรับ-เปลี่ยน” สู่อนาคตใหม่ศูนย์กลางระบบรางดีที่สุดในอาเซียน
ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 7 February 2019 - 15:03 น.

Click on the image for full size

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 7 ก.พ.2562 การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) จัดงาน ”Change to the Future” เปิด-ปรับ-เปลี่ยน=สู่อนาคตใหม่รถไฟไทย โดยร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น กับพนักงานตั้งแต่ระดับ 8 ขึ้นไปของ ร.ฟ.ท.ทั่วประเทศ ที่เข้าร่วมฟังกว่า 800 คน

นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ปัจจุบัน ร.ฟ.ท.กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนองค์กรครั้งใหญ่ไปสู่การเป็นผู้ให้บริการระบบรางของรัฐที่ดีที่สุดในอาเซียนในปี 2570 ตามวิสัยทัศน์แผนฟื้นฟูกิจการระยะ 10 ปี (2561-2570) จะมีการพัฒนาในทุกมิติ ทั้งเพิ่มขีดความสามารถ มีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานระบบราง ทั้งรถไฟทางคู่ รถไฟสายใหม่ รถไฟชานเมืองสายสีแดง รถไฟความเร็วสูง และการจัดหารถจักรและล้อเลื่อนเพิ่มเติม ซึ่ง ร.ฟ.ท.จะต้องเตรียมองค์กรให้พร้อมเพื่อรองรับกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น จะมีรับคนเพิ่มอีกกว่า 10,000 อัตรา ในปีนี้ประมาณ 1,904 อัตรา

“การรับฟังความคิดเห็นวันนี้ ไม่ใช่มานั่งฟังสัมมนาจบแล้ว กลับไปทำเหมือนเดิม เราต้องปรับเปลี่ยนตัวเราให้เป็นไม้สักทอง เป็นศูนย์กลางทั้งหมดที่ทุกคนต้องใช้ เพราะระบบรางเป็นศูนย์กลางการขนส่งและลดต้นทุนโลจิสติกส์จะไม่เป็นไม้ที่ตายแล้วเหมือนเมื่อก่อน ผมเคยทำแผนโครงการไฮสปีดเทรนและรถไฟทางคู่ ตั้งแต่ปี 2550 ถึงตอนนี้ก็ 12 ปี ยังไม่มีความก้าวหน้ามาก แต่ก็มีความชัดเจนขึ้นเรื่อยไป“

Click on the image for full size

“เชื่อว่าถ้าทำตามแผนฟื้นฟูที่เสนอให้คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ หรือ คนร.พิจารณาจะทำให้อีก 10-20 ปี อนาคตรถไฟสดใสแน่นอน เพราะไม่ได้มีเทคโนโลยีที่ต้องปรับเปลี่ยนให้ทันโลก ยังมีที่ดินในมือเป็น 100,000 ไร่ ที่จะสามารถนำมาพัฒนาได้ ถ้าไม่ลงมือทำวันนี้ ทุกอย่างจะยังคงเป็นแผนอยู่เหมือนเดิม ซึ่งวันที่ 1 มี.ค.นี้ รถไฟจะครบรอบ 129 ปีแล้ว”

นายกุลิศกล่าวอีกว่า นโยบายให้ ร.ฟ.ท.เร่งสร้างรถไฟทางคู่ 7 เส้นทาง ระยะทาง 993 กม. ให้เสร็จ 2562-2566 รถไฟทางคู่ระยะที่ 2 และทางคู่สายใหม่ 9 เส้นทาง ให้เสร็จปี 2567-2571 จะพาดผ่านพื้นที่ 61 จังหวัด ทำให้ ร.ฟ.ท.มีเส้นทางเพิ่มขึ้นอีก 2,419 กม. จากปัจจุบัน 4,044 กม.

“สิ่งสำคัญเมื่อมีทางคู่แล้ว ก็ต้องมีศูนย์ขนย้ายสินค้าหรือ CY ในแนวเส้นทาง ผมเป็นปลัดกระทรวงพลังงาน ได้มีนโยบายให้เขาขนส่งทางรถไฟ ในเส้นทางมาบตาพุด-แหลมฉบัง-ขอนแก่น ถ้าทำให้เสร็จในปี 2565 ปตท.เขาขอมาขนส่งแก๊สกับรถไฟแน่นอน จาก LNG เทอร์มินอล จากท่าเรือแหลมฉบังไปภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีลูกค้ารอเราอยู่แล้ว ทำเสร็จเร็ว เงินยิ่งเข้ากระเป๋าเร็วขึ้น”

นายกุลิศกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ขอให้เร่งสร้างรถไฟสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต และบางซื่อ-ตลิ่งชัน) ให้เสร็จเปิดใช้ในเดือน มี.ค.2564 อย่างที่ตั้งเป้าไว้ โดยเฉพาะสถานีกลางบางซื่อให้เร่งแผนการพัฒนาเพื่อเตรียมพร้อมกับการเปิดใช้รถไฟฟ้า โดยจะให้ ปตท.เป็นพี่เลี้ยงให้ในการพัฒนาเป็นสมาร์ทซิตี้

Click on the image for full size

ขณะรถไฟความเร็วสูงยังเป็นแผนงานในอนาคต บอร์ดยังไม่อยากจะเข้าไปเน้นมากนัก รวมถึงเร่งจัดหารถจักรและล้อเลื่อนเพิ่มรับกับการเดินรถไฟทางคู่

“ส่วนที่ดินแปลงใหญ่ เช่น มักกะสัน สถานีแม่น้ำ ย่าน กม.11 จะตั้งบริษัทลูกมาดำเนินการ รวมถึงจะให้องค์การเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น หรือไจก้ามาช่วยออกแบบการพัฒนาให้ด้วย เพราะก่อนที่จะเปิดให้เอกชนร่วมลงทุน PPP จะต้องมีการดีไซน์การพัฒนาก่อน ไม่ใช่ปล่อยให้เอกชนทำทั้งหมด”

Click on the image for full size

นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. กล่าวว่า ทำงานที่รถไฟมา 33 ปี จะเกษียณวันที่ 30 ก.ย.2563 อยากจะเห็นองค์กรปรับเปลี่ยนให้ทันกับสถานการณ์โลก เนื่องจากมีความเปลี่ยนแปลงที่ ร.ฟ.ท.ต้องเผชิญ 1.โครงสร้างพื้นฐานเปลี่ยน มีรถไฟทางคู่ รถไฟฟ้า 2.คู่แข่งเปลี่ยน จากรถทัวร์ เป็นโลคอสต์ และรถตู้ที่เป็นคู่แข่งสำคัญ 3.เศรษฐกิจเปลี่ยน 4.เทคโนโลยีเปลี่ยน จากเดินรถด้วยระบบดีเซลเป็นระบบรถไฟฟ้า และไฮบริด ซึ่งกำลังเร่งผลักดันโครงการเดินรถไฟให้เห็นเป็นรูปธรรมในปี 2563-2564 5.ผู้โดยสารเปลี่ยน เพราะมีทางเลือกในการเดินทางมากขึ้น จะต้องคิดกลยุทธ์การตลาดให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย ทั้งนี้ทุกความเปลี่ยนแปลงมีทั้งภัยคุกคามและโอกาส

“ฐานะการเงินรถไฟในปี 2562 มีรายได้ 9,760 ล้านบาท รายจ่าย 17,199 ล้านบาท ขาดทุนสะสม 141,986 ล้านบาท ถ้าไม่ทำอะไรเลยในปี 2566 จะมีรายได้ 10,601 ล้านบาท รายจ่าย 19,481 ล้านบาท ขาดทุนสะสมจะพุ่งขึ้นเป็น 199,279 ล้านบาท“ นายวรวุฒิกล่าวและว่า

“ถ้ารถไฟไม่เปลี่ยนอะไรเลย จะอ่อนแอ ล้าสมัยโดยอัตโนมัติ ถูกโอนให้คนอื่นเข้ามาบริหารแทน ตกงานไม่มีเงินเดือนจ่าย เราต้องกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงตนเอง เพื่อให้ทั้งตนเองและองค์กรอยู่รอดและยั่งยืน การลงทุนยังไงรถไฟก็ยังอยู่ แต่คนไม่อยู่ เมื่อโอกาสมาถึงแล้ว ก็ต้องเปิดใจรับ ถ้าไม่เปลี่ยนตอนนี้ ไม่รู้จะเปลี่ยนตอนไหน ซึ่ง 68 ปีที่ผ่านมา สร้างทางรถไฟไม่ถึง 1,000 กม. ถ้าร่วมมือกัน คงไม่ไกลเกินฝันถ้าจะก้าวสู่อนาคตใหม่ไปด้วยกัน”

Click on the image for full size

Click on the image for full size

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 07/02/2019 7:10 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
^^^
ปลุกพลังคนรถไฟ “เปิด-ปรับ-เปลี่ยน” สู่อนาคตใหม่ศูนย์กลางระบบรางดีที่สุดในอาเซียน
ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 7 February 2019 - 15:03 น.

ผวาอีก 5 ปี หนี้รถไฟแตะ 2 แสนล้าน “ประธานบอร์ด-ผู้ว่า” จี้พนักงานอัพเกรดการทำงาน
วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2562 - 16:51 น.

หนี้รถไฟแตะ 2 แสนล.
ผวาอีก 5 ปี หนี้รถไฟแตะ 2 แสนล้าน “ประธานบอร์ด-ผู้ว่า” จี้พนักงานอัพเกรดการทำงาน ตั้งเป้าดันทางคู่เฟส 1 จำนวน 7 เส้นทางเสร็จปี’66 เปิดเดินรถสีแดงชานเมือง บางซื่อ-รังสิต 1 ม.ค. 64
ผวาอีก 5 ปี หนี้รถไฟแตะ 2 แสนล. – เมื่อวันที่ 7 ก.พ. 2562 นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เป็นประธานเปิดงาน “Change to the Future” ครั้งที่ 1/2562 ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอนาคตใหม่รถไฟไทย ณ ห้องวิภาวดี บอลรูม A-B โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว กรุงเทพฯ โดยมีนายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการแทนผู้ว่าการรฟท. เป็นผู้บรรยายพิเศษ ให้ภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย พนักงานทุกฝ่าย/สำนักงาน ตั้งแต่ระดับ 8 ขึ้นไปของการรถไฟฯ ทั่วประเทศเข้าร่วมมากกว่า 800 คน

นายกุลิศ กล่าวว่า รฟท. อยู่ในช่วงการปรับเปลี่ยนองค์กรครั้งใหญ่ ตามแผนฟื้นฟูองค์กรเพื่อก้าวไปสู่การเป็นผู้ให้บริการระบบรางของรัฐที่ดีที่สุดในอาเซียน ในปี 2570 ตามวิสัยทัศน์ของแผนฟื้นฟูกิจการการรถไฟแห่งประเทศไทย ระยะ 10 ปี พ.ศ. 2561-2570 เพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้องค์กร จึงอยากขอความร่วมมือให้พนักงานการรถไฟทุกคนทำงานร่วมกับบอร์ดอย่างจริงจัง



โดยร่วมกันผลักดันโครงการรถไฟทางคู่เฟส 1 จำนวน 7 เส้นทาง ให้แล้วเสร็จภายใน 5 ปี หรือภายในปี 2566 ซึ่งประกอบด้วย คือ ลพบุรี-ปากนำโพ, ฉะเชิงเทรา-คลอง 19, มาบกระเบา-ชุมทางจิระ, ชุมทาง จิระ-ขอนแก่น, นครปฐม-หัวหิน, หัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ และประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร รวมทั้งเร่งเปิดเดินรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต ระยะทาง 26 ก.ม. ให้ได้ภายในวันที่ 1 ม.ค. 2564 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการแข่งขัน

นอกจากนี้ จะต้องเร่งพัฒนาที่ดินแปลงใหญ่ 3 แปลง เพื่อเพิ่มรายได้ คือ ย่านสถานีแม่น้ำ สถานีมักกะสัน และ ย่านกม.11 โดยในส่วนของสถานีแม่น้ำนั้น ขณะนี้ได้ประสานให้ไจก้าเข้ามาช่วยออกแบบการพัฒนาสถานี โดยจะใช้โมเดลต้นแบบของเมืองโยโกฮาม่า รวมทั้งเร่งปรับระบบรถไฟดีเซลเป็นไฟฟ้า เพื่อลดปัญหามลพิศษ รวมทั้งปรับระบบบริหารจัดการเป็นเป็นระบบไอทีที่ทันสมัยและพัฒนาบุคคลากรให้เพียงพอและสอดคล้องกับงาน



นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการแทน ผู้ว่ารฟท. กล่าวว่าปัจจุบัน ณ ปี 2562 รฟท. ประสบมีภาวะขาดทุน 21,845 ล้านบาท เมื่อรวมกับหนี้เดิมแล้วทำให้วันนี้รถไฟมีหนี้สินสะสม 141,986 ล้านบาท หาก พนักงาน-ของ รฟท. ไม่ช่วยกันเปลี่ยนแปลงและปรับปรุงวิธีการทำงาน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันตามแผนฟื้นฟูองค์กร ภายใน 5 ปี ต่อจากนี้ หรือในปี 2566 รฟท. จะมียอดหนี้สะสมพุ่งขึ้นไปแตะที่ 2 แสนล้านบาท คิดเป็น 10% ของงบประมาณประเทศที่ 3 ล้านล้านบาทอย่างแน่นอน เนื่องจากคู่แข่งให้บริการที่ถูกและรวดเร็วกว่ารฟท. โดยเฉพาะสายการบินโลว์คอสต์ รถทัวร์ และรถตู้ เป็นต้น ซึ่งเมื่อถึงจุดนั้นจะกระทบต่อรายได้และสวัสดิการของคน รฟท. แน่นอน และรัฐบาลก็อาจจะพิจารณาจะให้หน่วยงานอื่นเข้ามาทำงานแทนรฟท.

ดังนั้น รฟท. จะต้องเร่งเพิ่มประสิทธิภาพการแข่งขัน เบื้องต้นจะเปลี่ยนการเดินรถเป็นระบบไฟฟ้าแทนดีเซล เพื่อให้เชื่อมต่อกับรถไฟสายสีแดงชานเมือง บางซื่อ-รังสิต โดยจะนำเสนอแผนการเปลี่ยนระบบเดินรถเป็นระบบไฟฟ้าให้บอร์ด รฟท. รับทราย ในการประชุมบอร์ด รฟท.วันที่ 8 ก.พ. นี้ รวมทั้งจะต้องมีการปรับเส้นทางการเดินรถให้เป็นระยะกลางแทนระยะไกล เช่น เดินรถเส้นทาง กทม.-โคราช, กทม.- ชุมพร เป็นต้น เนื่องจากระยะไกลไม่สามารถแข่งขันกับโลว์คอสต์ได้, ปรับวิธีการให้บริการ เช่นทำขบวนรถไฟด่วนพิเศษเพื่อดึงให้คนหันมาใช้บริการรถไฟ, ปรับช่วงเวลาเดินรถ, เส้นทางเดินรถ รวมไปถึงการปรับรูปแบบการให้การอุดหนุนบริการสาธารณะ (PSO) ที่รัฐบาลให้แก่รฟท. โดยอาจจะขอให้ใช้รูปแบบ PSO บางเส้นทางที่เหมาะสมเท่านั้น ซึ่งขณะนี้ได้หารือเบื้องต้นกับรัฐบาลบ้างแล้ว
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 08/02/2019 12:33 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
Mongwin wrote:
^^^
ปลุกพลังคนรถไฟ “เปิด-ปรับ-เปลี่ยน” สู่อนาคตใหม่ศูนย์กลางระบบรางดีที่สุดในอาเซียน
ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 7 February 2019 - 15:03 น.

ผวาอีก 5 ปี หนี้รถไฟแตะ 2 แสนล้าน “ประธานบอร์ด-ผู้ว่า” จี้พนักงานอัพเกรดการทำงาน
วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2562 - 16:51 น.



รฟท.ส่อขาดทุน2.1หมื่นล. เล็งชงครม.พัฒนาที่สถานี‘บางซื่อ’
โลกธุรกิจ
วันศุกร์ ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562, 06.00 น.






นายวรวุฒิ มาลา รักษาการ ผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.)เปิดเผยว่า ร.ฟ.ท.คาดการณ์รายได้ปีนี้ว่าจะอยู่ที่ประมาณ 9,760 ล้านบาท และมีรายจ่าย 17,100 ล้านบาท เมื่อมารวมกับรายจ่ายเรื่องดอกเบี้ยเงินกู้แล้วจะมียอดขาดทุนในปีนี้รวมประมาณ 21,800 ล้านบาท

ในส่วนโครงการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์นั้นจะเสนอขอความเห็นชอบโครงการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์สถานีกลางบางซื่อ นั้นจะเริ่มจากแปลง A พื้นที่ 32 ไร่ วงเงิน 11,000 ล้านบาท คาดว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)จะพิจารณาได้ภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้

ส่วนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) วงเงิน 215,000 ล้านบาท ว่า ล่าสุดยังอยู่ระหว่างการเจรจาระหว่าง คณะอนุกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนฯกลุ่มย่อยกับทางกลุ่ม กิจการร่วมค้าบริษัทเจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด ตั้งเป้าว่าจะพยายามสรุปผลการเจราจาทั้งหมดให้ได้ภายในเดือน กุมภาพันธ์ 2562 พร้อมยืนยันว่าในกระบวนพิจารณาต้องมีความระมัดระวังและรอบคอบ คงไม่มีใครกล้าไปทำในสิ่งที่ผิดแน่นอน

มีรายงานข่าวจากร.ฟ.ท. ระบุว่า โดยถือว่าเป็นการพิจารณาข้อเสนอที่ค่อนข้างซับซ้อน จึงได้นัดเอกชนมาประชุมอีกครั้งในวันที่ 12 กุมภาพันธ์นี้ อีกครั้ง ส่วนกรณีกระแสข่าวเรื่องที่เอกชนเสนอขอขยายระยะเวลาสัมปทานจาก 50 ปี เป็น 99 ปีนั้น ยังไม่สามารถบอกรายละเอียดได้
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 08/02/2019 12:52 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
Wisarut wrote:
Mongwin wrote:
^^^
ปลุกพลังคนรถไฟ “เปิด-ปรับ-เปลี่ยน” สู่อนาคตใหม่ศูนย์กลางระบบรางดีที่สุดในอาเซียน
ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 7 February 2019 - 15:03 น.

ผวาอีก 5 ปี หนี้รถไฟแตะ 2 แสนล้าน “ประธานบอร์ด-ผู้ว่า” จี้พนักงานอัพเกรดการทำงาน
วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2562 - 16:51 น.



รฟท.ส่อขาดทุน2.1หมื่นล. เล็งชงครม.พัฒนาที่สถานี‘บางซื่อ’
โลกธุรกิจ
วันศุกร์ ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562, 06.00 น.


ร.ฟ.ท.ฝันปี 66 เลิกขาดทุน-หยุดหนี้แสนล้าน เปลี่ยนใช้ไฟฟ้าแทนดีเซลแข่งรถตู้-โลว์คอสต์
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันพฤหัสบดีที่ 7 กุมภาพันธ์ 2562 19:58
ปรับปรุง: วันศุกร์ ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 10:00




ร.ฟ.ท.ปั้นฝันเลิกขาดทุน ปี 66 เดินแผนฟื้นฟู-ทางคู่สร้างเสร็จ 2,464 กม. ปลุกพนักงานต้อง “ปรับ-เปลี่ยน” การทำงานใหม่ เตรียมลุยแผนเปลี่ยนระบบเดินรถเป็นไฟฟ้า รัศมี 250-500 กม. บุกตลาดชิงผู้โดยสารจากโลว์คอสต์และรถตู้ เผยปี 64 เปิดสีแดง คาด 2-3 ปีผู้โดยสารทะลุ 8 หมื่น/วัน

วันนี้ (7 ก.พ.) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ได้จัดงาน “Change to the Future” ครั้งที่ 1/2562 ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอนาคตใหม่รถไฟไทย เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับทิศทางการขับเคลื่อนองค์กรตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนฟื้นฟูกิจการฯ แก่พนักงานการรถไฟฯ ระดับ 8 ขึ้นไปทั้งส่วนกลาง และภูมิภาคเข้าร่วม 850 คน

นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) ร.ฟ.ท. กล่าวว่า ขณะนี้แผนพัฒนารถไฟค่อนข้างชัดเจน โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะแรก 7 เส้นทาง ระยะทาง 993 กม. จะเสร็จในปี 2566 ซึ่งบอร์ดได้พยายามผลักดันแผนการพัฒนาอย่างโปร่งใสเพื่อวางรากฐานที่ดีให้แก่ ร.ฟ.ท. ซึ่งการขนส่งคนและสินค้าด้วยระบบรางจะเป็นอนาคตเพราะประหยัดต้นทุน นอกจากนี้ ร.ฟ.ท.ยังมีที่ดินจำนวนมาก เช่น ย่านบางซื่อ, มักกะสัน, ย่านแม่น้ำ ที่จะสร้างรายได้มหาศาล และคาดว่าจะจัดตั้งบริษัทลูกเดินรถสายสีแดง, บริหารทรัพย์สิน ได้ภายใน 2 เดือนนี้

นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการแทนผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท.กล่าวว่า พนักงานทุกคนต้องรู้ข้อเท็จจริงถึงการทำงาน การก่อสร้าง แผนโครงการต่างๆ และสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และอยากให้ทุกคนเชื่อมั่นในองค์กรและร่วมมือกันเพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมาย โดยปี 2562 คาดมีรายได้ 9,760 ล้านบาท รายจ่าย 17,199 ล้านบาท ขาดทุน 7,439 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 21,845 ล้านบาท มีหนี้สะสม 141,986 ล้านบาท หาก ร.ฟ.ท.ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในปี 2566 หนี้สะสมจะเพิ่มเป็น 199,279 ล้านบาท โดยจะมีรายได้เพียง 10,601 ล้านบาท รายจ่าย 19,481 ล้านบาท ขาดทุนสะสมถึง 25,646 ล้านบาท หรือคิดเป็น 10% ของงบประเทศแผ่นดิน

ทั้งนี้ ตั้งเป้าว่าในปี 2566 จะหยุดการขาดทุน หรือ EBITDA เป็นศูนย์ เนื่องจากโครงข่ายทางรถไฟจะเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันมี 4,044 กม. เป็นทางคู่ 357 กม. โดยรัฐได้ลงทุนรถไฟทางคู่ 11 โครงการที่จะเสร็จในปี 2566 จะทำให้ทางรถไฟเพิ่มเป็น 4,370 กม. โดยเป็นทางคู่ 2,464 กม .และในปี 2572 มีทางรถไฟเพิ่มเป็น 5,367 กม. โดยเป็นทางคู่ 4,326 กม. ซึ่งเป้าหมายใน 10 ปีจะเพิ่มการขนส่งสินค้าจาก 12 ล้านตัน/ปีเป็น 38 ล้านตัน ขนส่งผู้โดยสารจาก 11 ล้านคนเป็น 24 ล้านคน/ปี ปรับการเดินรถจากระบบดีเซลเป็นไฟฟ้า เพิ่มความถี่จาก 200 ขบวนเป็น 800 ขบวน/วัน

“พนักงานรถไฟต้องปรับทั้งความคิด ปรับวิธีการทำงาน ปรับการเดินรถใหม่ ขบวนไหนขาดทุน ปรับเปลี่ยนให้คุ้มทุนได้หรือไม่ ทำหลายๆ วิธี แต่ถ้ายังไม่ดีขึ้นจะยกเลิกได้หรือไม่ เป้าหมายคือต้องลดขาดทุนให้ได้ ฝ่ายการตลาดต้องสำรวจตลาด โดยตามสถานีปลายทาง ลงรถไฟแล้วจะไปต่ออย่างไรถึงสะดวก บริการบนรถต้องดี และเจาะกลุ่มแพกเกจทัวร์ และผู้สูงอายุ ซึ่งเส้นทางที่จะสร้างรายได้ในอนาคต เช่น โคราช, ชุมพร, พิษณุโลก เพราะเมื่อทางคู่เฟสแรกเสร็จจะแข่งเรื่องเวลา และราคากับโลว์คอสต์และรถตู้ได้”

ส่วนรถไฟชั้น 3 ที่เป็นบริการเชิงสังคม (PSO) นั้น แม้จะอยู่คนละบัญชีและมีคณะกรรมการ PSO พิจารณา แต่ยังใช้โครงสร้างพื้นฐานร่วมกับบริการเชิงพาณิชย์ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้หารือกับนโยบายเบื้องต้นว่าควรปรับรูปแบบเป็นการจ้างรถไฟให้บริการ และแยกบัญชี และรถสำหรับบริการ PSO โดยเฉพาะเพื่อความชัดเจน ซึ่งยืนยันว่าบริการ PSO ยังต้องมีสำหรับประชาชนที่มีรายได้น้อย

***ปี 64 เปิดสีแดง คาด 2-3 ปีมีผู้โดยสาร 8 หมื่น/วัน
นายวรวุฒิกล่าวว่า รถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต ระยะทาง 26 กม. จำนวน 10 สถานี จะเปิดให้บริการในเดือน ม.ค. 2564 พร้อมกับเปิดสถานีกลางบางซื่อ คาดว่าจะมีผู้โดยสารแตะระดับ 8 หมื่นคน/วัน ภายใน 2-3 ปี ซึ่งจะเป็นจุดคุ้มทุน (Break event) และคาดว่าสายสีแดงส่วนต่อขยาย ช่วงรังสิต-ม.ธรรมศาสตร์ และสีแดงอ่อน ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา และตลิ่งชัน-ศิริราช คาดว่าจะเริ่มประมูลก่อสร้างภายในปีนี้ แล้วเสร็จปี 2566 และอนาคตจะขยายสายสีแดง ทางเหนือไปถึงบ้านภาชี, ตะวันออกถึงฉะเชิงเทรา, ตะวันตกถึงนครปฐม, ด้านใต้ถึงปากท่อ มีรัศมีประมาณ 100 กม.

***ชงแผนลงทุนระบบเดินรถใช้ไฟฟ้าแทนดีเซล
นอกจากนี้ มีแผนการปรับเปลี่ยนการเดินรถไฟปัจจุบันขนาดราง 1 เมตรเป็นระบบไฟฟ้า โดยการปรับปรุงระบบอาณัติสัญญาณเป็นระบบ ETCS ( European Train Control System) Level1 ซึ่งระยะที่ 1 จะดำเนินการในรัศมี 250 กม.รอบ กทม. และระยะที่ 2 รัศมี 500 กทม. โดยจะนำเสนอบอร์ด ร.ฟ.ท.พิจารณาในวันที่ 8 ก.พ.นี้ เบื้องต้นลงทุนระบบประมาณ 30 ล้านบาท/กม. ส่วนขบวนรถจะต้องมีการเปลี่ยนจากการใช้น้ำมันดีเซลเป็นไฟฟ้า โดยจากหัวรถจักรดีเซลไฟฟ้าไปใช้รถจักรไฟฟ้า (Electric Locomotive) และจากรถดีเซลราง (DMU) ไปเป็นรถชุดไฟฟ้า EMU (Electric Multiple Unit) ซึ่งจะเร่งทำแผนจัดหาให้สอดคล้องกันต่อไป

อย่างไรก็ตาม ปี 2564 จะมีเพียงรถไฟสีแดงที่เข้าสถานีบางซื่อ ส่วนรถไฟทางไกลและชานเมืองที่เป็นรถดีเซลทั้งหมดจะยังคงวิ่งเข้าสถานีหัวลำโพงต่อไป โดยจะเร่งดำเนินการเรื่องระบบไฟฟ้า ขบวนที่มีความพร้อมเพื่อทยอยใช้สถานีกลางบางซื่อและปรับหัวลำโพงเป็นสถานีจอดสายสีแดง และด้านบนพัฒนาเป็นพิพิธภัณฑ์หรือโรงแรมเพื่อหารายได้ต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 328, 329, 330 ... 471, 472, 473  Next
Page 329 of 473

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©