RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311238
ทั่วไป:13181442
ทั้งหมด:13492680
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวรถไฟสายมหาชัย-แม่กลอง
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวรถไฟสายมหาชัย-แม่กลอง
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 14, 15, 16 ... 30, 31, 32  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42628
Location: NECTEC

PostPosted: 06/04/2018 1:41 am    Post subject: Reply with quote

‘บีบีซี’ พาทัวร์ตลาดร่มหุบ ต่างชาติแห่คอมเมนต์สกปรก
วันที่ 05 เมษายน 2561

บีบีซี ถ่ายสารคดีเชิงข่าว ‘ตลาดร่มหุบ’ ฝรั่งแห่คอมเมนต์วางขายสินค้าบนรางรถไฟสุดสกปรก...

เป็นเรื่องเป็นราวไปได้ เมื่อสำนักข่าวบีบีซี จากประเทศอังกฤษได้ส่งผู้สื่อข่าวเก็บภาพบรรยากาศตลาดร่มหุบ จังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งเป็นตลาดที่มีร้านค้าตั้งเรียงรายอยู่ริมทางรถไฟ เมื่อรถไฟวิ่งผ่าน บรรดาผู้ค้าก็จะเก็บร่มหุบเข้าข้างทาง ส่วนสินค้าบางอย่างก็จะถูกวางทิ้งไว้ริมราง เมื่อรถไฟวิ่งผ่าน ตัวขบวนรถจะวิ่งคร่อม ผัก ผลไม้ ซึ่งเป็นภาพที่ชินตาของใครหลายๆ คนไปแล้วนั้น



ภายหลังคลิปได้ถูกแชร์ออกไปเป็นจำนวนมาก ได้เกิดความคิดเห็นที่หลากหลายต่อตลาดร่มหุบ โดยบางส่วนก็มองว่าเป็นความน่าประหลาดใจ และน่าตื่นเต้นที่อยากลองมาสัมผัสดูสักครั้ง ซึ่งหากมาประเทศไทยครั้งหน้าคงจะไม่พลาด แต่ก็มีความคิดเห็นส่วนใหญ่อีกจำนวนหนึ่งมองว่า การวางขายสินค้าติดพื้นดินนั้นดูแล้วไม่น่าถูกสุขลักษณะ นอกจากควันพิษน้ำมันดีเซลที่ใช้กับรถไฟอาจจะแพร่กระจายรอบรางซึ่งเป็นที่ตั้งวางสินค้าแล้ว อาจจะมีสัตว์บางประเภทเช่น สุนัข แมว หรือแม้กระทั่ง ‘หนู’ เข้ามาป้วนเปี้ยน นอกจากนี้ยังไม่รวมฝุ่นควันที่เกิดจากคนเดินไปมาอีกด้วย.
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44333
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 06/04/2018 8:51 pm    Post subject: Reply with quote

แม่ค้าตลาดร่มหุบ โต้สื่อต่างชาติไม่เข้าใจวิถีไทย โจมตีสกปรก กระทบท่องเที่ยวแม่กลอง
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ วันที่ 6 เมษายน 2561 - 15:10 น.

แม่ค้าตลาดร่มหุบ โต้สื่อต่างชาติไม่เข้าใจวิถีไทย โจมตีสกปรก กระทบท่องเที่ยวแม่กลอง วอนมาเห็นกับตา อเมซิ่ง!!!

จากกรณีที่โซเชียลต่างชาติแห่วิจารณ์แลนด์มาร์คดังของไทย “ตลาดร่มหุบ” หลังสำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษ รายงานคลิปสถานที่ท่องเที่ยวดังชี้สกปรก – ผิดสุขลักษณะ นั้น

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจตลาดทางรถไฟสายแม่กลอง หรือที่คุ้นเคยว่า “ตลาดร่มหุบ” ยังคงมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นชาวจีน และยุโรป ยังมาสัมผัสความแปลกของตลาดแห่งนี้ ที่เหล่าบรรดาพ่อค้าแม่ค้าจะตั้งแผงริมทางรถไฟ และจะหุบร่มหลบเมื่อรถไฟวิ่งผ่าน

ขณะที่พ่อค้าแม่ค้ายังเปิดร้านค้าขายตามปกติ พร้อมวิพากษ์วิจารณ์ถึงข่าวดังกล่าวที่ชาวต่างชาติไม่เข้าใจวิถีชีวิตของคนไทยอย่างแท้จริง แต่กลับมาวิจารณ์จนสร้างความเสื่อมเสียกับตลาดร่มหุบ ซึ่งเป็นพื้นที่ทำมาหากินของตนเอง และยังกระทบไปถึงการท่องเที่ยวจังหวัดสมุทรสงคราม และประเทศไทยอีกด้วย

นางบังอร สมานมิตร แม่ค้าขายผลไม้บอกว่า ขายผลไม้มานานกว่า 10 แล้ว เนื่องจากเป็นอาชีพที่สุจริต และเป็นวิถีชีวิตของคนแม่กลอง แต่ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่เข้ามาชมความแปลกของตลาดที่วางอยู่ข้างรางรถไฟ ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวชาวจีนจะซื้อสินค้า ชาวตะวันตกจะไม่ค่อยซื้อจะมาถ่ายภาพมากกว่า

นางบุญเกิด ภาสี แม่ค้าขายมะนาว บอกว่า ทุกวันนี้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาดูความแปลกของตลาดแห่งนี้วันละหลายหมื่นคน โดยเฉพาะในช่วงรถไฟเข้าออก ทำให้เบียดเสียด ชาวบ้านค้าขายลำบากจากเดิมขายได้วันละหลายพันบาท แต่ตลาดแห่งนี้มีชื่อเสียงไปต่างประเทศ มีนักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้น แต่ไม่ได้มาซื้อสินค้าในตลาดแห่งนี้ มาเพียงท่องเที่ยวและถ่ายรูปอย่างเดียวแล้วก็กลับ ชาวบ้านจะมาซื้อของก็ไม่อยากเข้ามาเบียด รายได้จึงหดหายเหลือวันละไม่ถึงพันบาท แต่ขายไม่ดีก็ต้องทนขาย เพราะมีอาชีพขายไม่รู้จะไปทำอะไร แต่พ่อค้าแม่ค้าก็เข้าใจ

นายโชคชัย กิจรัก พ่อค้าขายอาหารทะเลแห้งกล่าวว่า การค้าขายตามตลาดสดในลักษณะนี้ เป็นวัฒนธรรมวิถีชีวิตของชาวบ้านตามชนบทของประเทศไทย แตกต่างจากเมืองใหญ่ในต่างประเทศ เทียบกันก็คงไม่ได้ อย่างไรก็ตามทุกวันนี้พ่อค้าแม่ค้าก็ช่วยกันเก็บกวาดขยะจนไม่มีขยะให้เห็น เพราะคนในพื้นที่ไม่อยากให้บ้านของตนเองสกปรก จึงขอให้ชาวต่างชาติมาดูสถานที่จริงก่อน อย่างเชื่อโลกโซเชียลมากนัก

นางเพ็ญประภา มาลัยเปีย แม่ค้าขายผัก บอกว่า การที่ต่างชาติ วิจารณ์ตลาดร่มหุบ เกินความจริง ทำให้ตลาดร่มหุบดูแย่มาก ซึ่งข้อเท็จจริงตลาดแห่งนี้เหมือนกับตลาดสดทั่วไป ซึ่งเป็นวิถีชีวิตของคนไทย นักท่องเที่ยวที่มาไกด์บางรายก็จะทิ้งให้เดินสะเปะสะปะ แม่ค้าก็ต้องช่วยดูแลความปลอดภัยจากรถไฟ ทุกวันนี้นักท่องเที่ยวมามากก็จะทิ้งขยะกันเกลื่อน แม่ค้าจะช่วยหันเก็บกวาดให้สะอาดตา

นายเดชา สิงห์สกุล ไกด์นำเที่ยว บอกว่า สาเหตุที่ชาวต่างชาติเข้ามาเที่ยวชมตลาดแห่งนี้ เพราะว่ามีความแปลกไม่เหมือนใคร โดยนักท่องเที่ยวที่มาเห็นสถานที่จริงก็ไม่เคยพูดบ่นว่าอะไร บอกเพียงว่า อเมซิ่ง ไม่เคยเจอที่ไหนมาก่อน มีที่เดียวในโลก ไม่เคยพูดบ่นว่าตลาดสกปรก จะมีบ้างที่บ่นเหม็นตนก็อธิบายว่าเป็นกลิ่นตลาดปกติทั่วไป ที่ผสมผสานกลิ่นต่างๆ ทั้งของสด ของคาว ของหวาน ผลไม้ต่างๆ เขาก็เข้าใจ และก็ยังคงมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นทุกปี บางรายตั้งใจจองทัวว์มาเที่ยวตลาดร่มหุบแห่งนี้ที่เดียว และกลับต่างประเทศเลย โดยไม่แวะที่อื่น

นายพัฒนา วงศ์มุจรินทร์ นายสถานีรถไฟสายแม่กลอง บอกว่า ทางการรถไฟไม่มีนโยบายเปิดให้เป็นตลาด แต่ที่มีตลาดร่วมหุบ เนื่องจากเป็นวิถีชุมชนที่ค้าขายดั่งเดิมมานานกว่า 30 ปีมาแล้ว ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ซึ่งชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาติตะวันตกคงไม่เข้าในวิถีชุมชนของคนไทย จึงคิดว่าเป็นสิ่งสกปรก อย่างไรก็ตามปัจจุบันตลาดร่มหุบแห่งนี้มีความสะอาดมากกว่าในอดีตมาก ไม่มีน้ำขัง ไม่มีสิ่งปฏิกูลส่งกลิ่นเหม็น เนื่องจากการรถไฟแห่งประเทศไทยได้ปรับปรุงรางรถไฟใหม่โดยการรื้อรางออกหมดเสริมและยกระดับฐานรากรางให้สูงขึ้น 30 ซ.ม. ใช้หมอนคอนกรีตและรางขนาด 100 ปอนด์จากเดิมแค่ 50 ปอนต์ และวางแผ่นคอนกรีตอัดแรงบริเวณจุดตัดรถไฟผ่านถนน เป็นต้น จึงมีความสะอาดตา และมีความปลอดภัยมากขึ้น แต่ก็ได้กำชับผู้ค้าให้รักษาความสะอาด เก็บสิ่งปฏิกูลมูลฝอย แยกขยะ แล้วนำไปทิ้งตามจุดที่เทศบาลเมืองสมุทรสงครามจัดให้ด้วย
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44333
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 09/04/2018 5:53 am    Post subject: Reply with quote

'ตลาดร่มหุบ' อย่าโทษชาวบ้าน
ไทยโพสต์ 09 เมษายน พ.ศ. 2561 เวลา 00:01 น.
Arrow http://www.thaipost.net/main/detail/6713

ผู้ว่าฯสมุทรสงคราม เรียกถกด่วนแก้ปัญหาความสะอาดตลาดร่มหุบ
โพสต์ทูเดย์ วันที่ 08 เม.ย. 2561 เวลา 13:56 น.
Arrow https://www.posttoday.com/social/general/547215
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44333
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 03/01/2019 7:50 pm    Post subject: Reply with quote

ผู้ว่าฯ สมุทรสงครามเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน
สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ 03 ม.ค. 2562

วันนี้ (3 ม.ค.62) ณ ห้องประชุมบางคนที ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดสมุทรสงคราม นางสุกานดา วรเชษฐบัญชา ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจจังหวัดสมุทรสงคราม (กรอ.) ครั้งที่ 1/2562 โดยมี นายประจินต์ ธารศิริสิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ พร้อมด้วยคณะกรรมการฯ จากส่วนราชการ และหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เข้าร่วมประชุม เพื่อรับทราบผลการดำเนินงานในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของจังหวัดสมุทรสงคราม พร้อมทั้งหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน โดยมีการรายงานผลการดำเนินงานภาวะเศรษฐกิจการคลังจังหวัดสมุทรสงคราม รายงานดัชนีราคาผู้บริโภคจังหวัดสมุทรสงคราม การส่งเสริมการใช้ยางของหน่วยงานภาครัฐ การแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตรจังหวัดสมุทรสงคราม รวมทั้งปริมาณผลผลิตลิ้นจี่ในจังหวัดลดลง การฉีดยาบริเวณลำต้นมะพร้าวเพื่อกำจัดหนอนหัวดำ การวางท่อเหลี่ยมในการระบายน้ำ การแก้ไขปัญหาเปลือกมะพร้าวอ่อนทับถม รวมทั้งการติดตั้งตู้ ATM ในสถานที่ที่ปลอดภัยมีไฟส่องสว่าง ซึ่งหน่วยงานที่รับผิดชอบได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ เรื่องเพื่อพิจารณาการจัดพื้นที่ขายของบริเวณสถานีรถไฟแม่กลอง ของจังหวัดสมุทรสงคราม รูปแบบและประเภทสินค้าในการจำหน่าย ต้องเป็นสินค้านำมาโชว์ หรือจัดแสดง สินค้า OTOP สินค้าประเภท เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย เครื่องประดับ อาหารสำเร็จรูป ขนม เป็นต้น โดยผู้ว่าราชการจังหวัดได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมวางแผนจัดหาผู้สมัครใจไปวางสินค้าจำหน่ายในบริเวณดังกล่าวต่อไป

ข้อมูลข่าวและที่มา
ผู้สื่อข่าว : รุ่งนภา สงวนสมบัติ
ผู้เรียบเรียง : วรรณวิไล สนิทผล
แหล่งที่มา : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสงคราม
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44333
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 13/04/2019 4:49 pm    Post subject: Reply with quote

2 นักท่องเที่ยวมาเลย์ถ่ายเซลฟี่เบียดกันจนล้ม เฉี่ยวรถไฟกำลังออกจากสถานี
โดย ไทยรัฐออนไลน์12 เม.ย. 2562 20:37 น.

พบ 2 นักท่องเที่ยวมาเลย์ถ่ายเซลฟี่เบียดกันจนล้ม เฉี่ยวรถไฟกำลังออกจากสถานีรถไฟแม่กลอง

เมื่อวันที่ 12 เม.ย. 62 ร.ต.อ.นิภัทร์ กอสกุล รองสว.สอบสวน สภ.เมืองสมุทรสงคราม ได้รับแจ้งจากหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว ส.ทท.2 กก.1 บก. 3 อัมพวา ว่า เกิดอุบัติเหตุขณะที่ขบวนรถไฟที่ 4382 กำลังจะออกจากสถานีรถไฟแม่กลอง ซึ่งมีทั้งหมด 4 โบกี้ มีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย 2 คนเดินเข้าไปใกล้โบกี้ที่ 4

ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวทั้ง 2 คนได้ยกสมาร์ทโฟนขึ้นมาถ่ายรูปเซลฟี่ แล้วเบียดกันล้มลงเฉี่ยวขบวนรถไฟ ได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลผิวหนังถลอกตามแขนขา โดยเจ้าหน้าที่ได้นำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า

สำหรับ นักท่องเที่ยวคนแรกเป็นผู้ชาย แพทย์ได้ทำแผลและอนุญาตให้กลับบ้านได้ ส่วนนักท่องเที่ยวคนที่ 2 เป็นผู้หญิง แพทย์ลงความเห็นให้นอนโรงพยาบาลเพื่อดูอาการต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44333
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 16/04/2019 6:47 pm    Post subject: Reply with quote

พิสูจน์ข้อครหา “ตลาดร่มหุบ” = “ตลาดเสี่ยงตาย-แลนด์มาร์กสุดสกปรก”!?
เผยแพร่: 15 เม.ย. 2562 17:14 ปรับปรุง: 16 เม.ย. 2562 12:57 โดย: ผู้จัดการออนไลน์

Click on the image for full size

กลิ่นโชย-ไม่น่าเดินจริงไหม!? ตลาดร่มหุบ “อันซีน ไทยแลนด์” เสี่ยงตายเสียวบั้นท้ายที่นักท่องเที่ยวทั้งไทย-ต่างชาติต้องมา แต่ทางกลับกันก็ยังถูกวิจารณ์เรื่องความสะอาด รวมทั้งความเสี่ยงและอันตรายยังถูกตั้งคำถามอยู่ตลอดเวลา

ลงพื้นที่พืสูจน์ “ความเสี่ยง-ความสกปรก”

“ตลาดแม่กลอง” หลายคนคงเคยได้ยินชื่อนี้มาบ้าง หรืออีกชื่อที่นิยมเรียกกันจนติดปากคือ “ตลาดร่มหุบ” ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดที่ถูกขนานนามว่าเป็น ตลาดเสี่ยงตาย-ตลาดเสียวบั้นท้าย และตลาดแห่งนี้เริ่มขายของมาตั้งแต่ พ.ศ. 2527 ครั้งนี้ทีมข่าว MGR Live จึงได้มีโอกาสลงพื้นที่มาสัมผัสตลาดร่มหุบที่ ต.แม่กลอง อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม โดยออกเดินทางจากท่ารถตู้สายใต้เก่า มาลงใกล้ๆ กับตลาดแม่กลอง หลังจากนั้นเดินเท้าต่ออีกประมาณ 5 นาที จึงถึงที่หมาย

เมื่อเข้ามาบริเวณตลาดจะเห็นร่มผ้าใบหลากสีของบรรดาพ่อค้า แม่ค้า กางออกเพื่อกันแดดเป็นเส้นทางยาวตามรางรถไฟ ภายในตลาดจะเต็มไปด้วยร้านค้าจำนวนมาก ยาวกว่า 500 เมตร เมื่อรถไฟผ่านมาจะชะลอความเร็วลง 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พอรถไฟมาถึงร้านค้าก็พร้อมเพรียงหุบร่มกันอย่างรวดเร็ว พื้นที่ริมรางต่างเต็มไปด้วยของกินสารพัด ตั้งแผงสองข้างทาง มีทั้งผัก ผลไม้ ของสด ของแห้ง

โดยรถไฟจะวิ่งผ่านตลาดร่มหุบวันละ 8 รอบ ตามเวลา ขาเข้าสถานีแม่กลองเวลา 8.30, 11.10, 14.30, 17.40 น และออกจากสถานีแม่กลองเวลา 6.20, 9.00, 11.30, 15.30 น.

Click on the image for full size

ระยะเวลากว่า 35 ปีที่ตลาดร่มหุบเปิดบริการซื้อขายสินค้าให้แก่ลูกค้าและนักท่องเที่ยวทั่วโลก จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวแบบ "อันซีน ไทยแลนด์” ทว่า ตลาดแห่งนี้ ก็เคยมีประเด็นเรื่องอาหารที่ถูกมองว่ามีความสะอาดแค่ไหน เพราะสินค้าหลายชนิดล้วนวางอยู่บนพื้นติดกับรางรถไฟ และจากการลงพื้นที่ของทีมข่าวก็พบว่าบริเวณทางรถไฟยังมีเศษขยะตามทาง และมีกลิ่นเหม็นเป็นบางช่วง

รวมทั้งความอันตรายที่ต้องระวังอย่างมากเมื่อรถไฟผ่านมา เพราะตลาดแห่งนี้เคยมีอุบัติเหตุเฉี่ยวชนนักท่องเที่ยวมาแล้วในปี 57 ทำให้ วรวุธ ศรีบัวทอง นักธุรกิจชาวจังหวัดนครปฐมที่เดินทางพาเพื่อนชาวไต้หวันมาท่องเที่ยวที่ตลาดร่มหุบ ได้รับบาดเจ็บสาหัส สภาพกระดูกซี่โครงหักทิ่มปอด และขาหัก จากการเสียหลักล้มใส่ขบวนรถไฟ

เพื่อไขข้อสงสัยเกี่ยวกับความสะอาดของอาหารที่วางขาย ว่าแม่ค้ามั่นใจแค่ไหนกับอาหารที่นำมาขายจะปลอดภัยต่อผู้บริโภคที่มาจับจ่ายซื้อสินค้า รวมทั้งความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ทีมข่าว MGR Live จึงได้สัมภาษณ์ ป้าบุญเกิด ภาสี แม่ค้าขายผักภายในตลาดร่มหุบ ได้ให้คำตอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าตนจะต้องคอยแนะนำลูกค้าสำหรับอาหารที่ควรทำให้สุกก่อนที่จะนำไปรับประทาน เพราะห่วงในเรื่องสุขภาพเช่นกัน

Click on the image for full size
[ป้าบุญเกิด ภาสี]
“อาหารของป้าจะแนะนำหมดเลยนะ อย่างหน่อไม้คุณจะต้องเอาไปต้มก่อน จะมาหยิบชิมป้าไม่ให้นะ เพราะป้าก็กลัวเขาท้องเสีย ต่างชาตินี่มาขอชิมประจำ ให้ไม่ได้ แต่ป้าคิดว่าของป้ามันต้องสะอาดอยู่แล้ว มันเป็นของสวน ก่อนที่จะปรุงอาหารคุณก็ต้องไปต้ม ไปลวก ไปทำให้สุกก่อน

ส่วนทำความสะอาดตลาด ทำทุกวันนะ แต่ถังขยะจะอยู่โซนข้างนอก เพราะเอาเข้ามาไม่ได้ แต่ละร้านจะต้องมีถุงขยะ ถ้าจะรับฝากทิ้งอะไร เราก็ต้องจ้างให้คนทั่วไปเอาขยะไปทิ้งที่ถังขยะข้างนอกตอนเย็น บางทีป้าก็ให้ 10, 20 บาท แต่ถ้าจำนวน 4-5 ถุง แม่ค้าบางคนเขาก็ให้ 30-40 บาท แต่ไม่ใช่หน่วยงานนะ อย่างเทศบาลเขาไม่เกี่ยวกับเรานะ เขาไม่มาเก็บให้เรานะ เขาก็เก็บส่วนของเขา”

นอกจากนี้ ป้าบุญเกิด มองว่าการที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาก็ทำให้ตลาดคึกคัก ไม่เงียบเหงา และยืนยันว่าตนเองจะอนุรักษ์ขายของที่มาจากสวน เพราะยังมีลูกค้าประจำที่มาคอยซื้ออยู่ ส่วนเรื่องอุบัติเหตุบริเวณตลาดเมื่อก่อนก็อาจจะมีบ้าง เพราะคนเยอะจึงทำให้เบียดกัน

“จริงๆ สถานีรถไฟเขาจะเตือนทุกรอบนะ ก่อนรถไฟจะมา เขาก็จะประกาศทุกรอบเลย เป็นภาษาไทย ภาษาจีน ภาษาอังกฤษ แม่ค้าทุกคนก็ต้องบอกอยู่แล้ว อย่างรถไฟมาใกล้ๆ เขาก็ต้องกระโดดหลบ ทุกคนกลัวตายหมด ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือต่างชาติ”


Click on the image for full size
ตลาดคร่อมทางรถไฟ! จุดขายสุดหวาดเสียว

ย้อนกลับไปเมื่อปี 58 จนถึงปี 59 ตลาดแห่งนี้ก็เคยมีการปรับปรุงรางรถไฟเกิดขึ้น โดยผู้รับเหมาได้ทำการรื้อถอนรางรถไฟเดิมบริเวณตลอดออกทั้งหมด เพื่อยกระดับรางรถไฟ ทำให้ตลาดร่มหุบซบเซาลง รวมถึงรายได้ของแม่ค้าที่หดหายไปด้วย ป้าบุญเกิดแม่ค้ารายเดิมยังบอกอีกว่า บางคนก็ต้องปรับเปลี่ยนสินค้าเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว

“พลิกล็อกไปเลยนะ จากที่ป้าเคยขายตอนยังไม่ได้ทำรางรถไฟ แต่ก่อนดีมาก แต่ตอนมาทำรางใหม่ป้าต้องปิดร้าน ต้องปิดหมดเลยตลาด ไม่ได้ขายอะไร พอขึ้นมาปี 62 ก็เริ่มเปลี่ยนแปลง มีต่างชาติเข้ามามาก จริงๆ ไม่ได้ซื้ออะไรเรานะ ซื้อเป็นส่วนน้อย เช่น มะพร้าว แม่ค้าก็หันมาขายมะพร้าวแทน กว่าจะตั้งหลักได้ เมื่อก่อนเป็นอาหารตามสั่งก็เจ้งเลย ขายไม่ได้ มันไม่มีคนกิน

Click on the image for full size
บางทีนักท่องเที่ยวมา 10, 20 คน ไม่ซื้ออะไรเราเลย บางทีก็ทุกข์ใจเหมือนกันนะ แต่ถ้าเขามีน้ำใจช่วยเราซื้อนิดนึง มันเป็นสินน้ำใจอ่ะ เราต้องใช้ชีวิตประจำวันมันชีวิตจริงของเรา มันไม่ใช่สิ่งจำลองขึ้นมาทำให้คุณมาถ่ายรูปเราอย่างเดียว เราต้องกินต้องใช้”

ขณะที่ จินตนา พูลทัศน์ หรือ เจ้หมอน ทรงพลัง แม่ค้าขายมะพร้าวชื่อเสียงโด่งดังไปถึงประเทศจีน ด้วยเอกลักษณ์ในการขายที่เด่น มีการพูดเสียงดังเป็นภาษาจีนพร้อมลีลาท่าทางขณะเฉาะมะพร้าว จึงทำให้คนจีนชื่นชอบและถ่ายคลิปไปเผยแพร่จนมีคนรู้จักมากมาย ซึ่งเธอบอกว่าเมื่อก่อนเคยขายหอม กระเทียม มะขาม พริกแห้ง แต่เห็นว่ามีนักท่องเที่ยวจีนมาเยอะ จึงนำมะพร้าวมาลงขายแต่ไม่ได้ขายดีเพราะมีหลายร้าน แต่ด้วยความชอบการร้องการเต้นจึงสร้างความโดดเด่นให้ตัวเองจนสามารถเรียกลูกค้าได้เป็นอย่างดี

Click on the image for full size
[จินตนา พูลทัศน์ แม่ค้าขายมะพร้าวชื่อดัง]
แน่นอนว่าพ่อค้าแม่ค้า ที่มาตั้งร้านขายสินค้าบริเวณตลาดร่มหุบแห่งนี้ ก็จะต้องเสียเงินค่าพื้นที่ให้กับสถานีรถไฟเป็นล็อกๆ ราคาประมาณ 25-30 บาท เดือนหนึ่งก็จะตกราคา 750-900 บาท หรือบางร้านราคาหลักพันก็มีเช่นกัน

และจากการสอบถามความคิดเห็นของนักท่องเที่ยวที่เป็นคนไทย มีทั้งคนที่เคยมาเที่ยวแล้วแต่ก็กลับมายังตลาดแห่งนี้อีกครั้ง บางคนก็ตามมาจากรีวิวในโซเชียลฯ เพราะอยากเห็นเวลาที่รถไฟวิ่งผ่านตลาดว่าจะเป็นอย่างไร รวมทั้งอยากให้คนที่มาเที่ยวควรระมัดระวังในการเดินเนื่องจากทางเดินไปได้เรียบเหมือนพื้นทั่วไปอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้

ส่วนนักท่องเที่ยวชาวจีนอย่าง Shen Xia ได้บอกความรู้สึกเมื่อมาเที่ยวตลาดร่มหุบกับทีมข่าวว่า “ฉันรู้สึกว่าที่นี่นะ ดีมากๆ เลย โดยเฉพาะของกิน อีกทั้งราคาก็ไม่แพงมากด้วย ถ้าเทียบกับในเมือง ตอนที่พวกเราเพิ่งมาถึง รถไฟก็มาถึงเช่นกัน หลังจากนั้นพวกเราก็มองคนที่อยู่บนรถไฟขบวนนั้น แล้วคนที่อยู่บนนั้นเขากำลังถ่ายรูปพวกเราอยู่ด้วย มันรู้สึกดีมากๆ เลยค่ะ”

ทางด้าน คมสันต์ สุมะนาถ ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสมุทรสงคราม ได้ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว MGR Live ว่าบริเวณตลาดจะมีตำรวจท่องเที่ยวกับเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวคอยดูแลเกือบทุกวัน ซึ่งมีนักท่องเที่ยวมาเป็นปกติ แต่จะหนาแน่นในวันหยุดเสาร์อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ส่วนมากจะเป็นนักท่องเที่ยวเอเชีย โดยเฉพาะจีน เกาหลี ญี่ปุ่น

Click on the image for full size
ทั้งนี้ สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสมุทรสงคราม ยังมีการจัดกิจกรรม ข้าราชการจิตสาธารณะ “ข้าราชการไทย มีน้ำใจนักกีฬา เป็นเจ้าบ้านอาสา ร่วมพาเที่ยวไทย” บริเวณสถานีรถไฟแม่กลอง (ตลาดร่มหุบ) โดยทำความสะอาดเก็บขยะ บริเวณสถานีรถไฟแม่กลอง ตลาดร่มหุบ และสถานีรถไฟลาดใหญ่

เพื่อรณรงค์เชิญชวนให้ข้าราชการ มีจิตอาสา มีน้ำใจนักกีฬา และเป็นเจ้าบ้านที่ดีส่งเสริมการท่องเที่ยว นอกจากนี้หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ลูกจ้าง พนักงานราชการ และประชาชนจิตสาธารณะ ได้ร่วมใจกันขึ้นรถไฟจากสถานีรถไฟแม่กลองไปยังสถานีรถไฟลาดใหญ่ เพื่อทำความสะอาดเก็บขยะ บริเวณสถานีรถไฟลาดใหญ่อีกด้วย

Click on the image for full size

“ปัญหาที่ทางผมเจอ จะเป็นประเด็นเกี่ยวกับเรื่องขยะเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งมันเป็นปัญหาที่เจอกันทุกที่ ทางจังหวัดก็พยายามแก้ไขปัญหา ซึ่งทางสถานีรถไฟแม่กลองก็มีจุดทิ้งขยะอยู่ แต่เนื่องจากบริเวณชานชาลาไปจนถึงตลาดร่มหุบค่อนข้างจะยาว เพราะฉะนั้นก็มีบ้างที่มีการทิ้งขยะ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ได้เยอะเหมือนสมัยก่อนแล้ว และทางการรถไฟแห่งประเทศไทย สถานีรถไฟแม่กลองก็มีจุดทิ้งไว้ให้

สำหรับตลาดร่มหุบกับสถานีรถไฟแม่กลองปัญหาเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวส่วนมากจะไม่มี แต่จะมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องขยะ ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทุกแหล่ง แล้วทางจังหวัดก็แก้ไขมาโดยตลอด ซึ่งในปัจจุบันอยู่ในระดับที่น่าพอใจ”

ข่าวโดย MGR Live
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44333
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 19/06/2019 7:16 pm    Post subject: Reply with quote

วันนี้ชิลชิล! “อาคม” นั่งรถไฟสาย “วงเวียนใหญ่-มหาชัย” เช็กความปลอดภัยสั่งเพิ่มความถี่การเดินรถ
ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 19 June 2019 - 17:43 น.

Click on the image for full size

วันที่ 19 มิถุนายน 2562 เวลา 13.20 น. นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงคมนาคม โดยสารรถไฟขบวนที่ 4315 จากสถานีวงเวียนใหญ่ – มหาชัย เพื่อตรวจความปลอดภัยของเส้นทางรถไฟสายวงเวียนใหญ่ – มหาชัย


โดยมีผู้แทนการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ให้การต้อนรับ ในการนี้นายอาคมได้สั่งการให้ ร.ฟ.ท. ออกแบบสถานีรถไฟวงเวียนใหญ่ใหม่เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มห้องน้ำให้เพียงพอ ดูแลรักษาความสะอาดของสถานี จัดพื้นที่สำหรับขายสินค้าให้ชัดเจน ปรับความถี่การเดินรถในช่วงเวลาเช้าที่มีผู้โดยสารจำนวนมาก

Click on the image for full size

สำหรับรถไฟสายวงเวียนใหญ่ – มหาชัย มีระยะทางประมาณ 31 กิโลเมตร มีสถานีรถไฟ จำนวน 5 สถานี ได้แก่ สถานีวงเวียนใหญ่ ตลาดพลู วัดสิงห์ รางโพธิ์ และมหาชัย ให้บริการเดินรถไป – กลับ วันละ 34 เที่ยว จากสถานีวงเวียนใหญ่ – มหาชัย เริ่มตั้งแต่เวลา 05.30 – 20.10 น. และจากสถานีมหาชัย – วงเวียนใหญ่ เริ่มตั้งแต่เวลา 04.30 – 19.30 น. ค่าโดยสารตลอดเส้นทาง 10 บาท ผู้โดยสารส่วนมากเป็นนักท่องเที่ยวและประชาชนในพื้นที่ตามเส้นทางรถไฟ

Click on the image for full size

Click on the image for full size

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44333
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 13/07/2019 4:42 pm    Post subject: Reply with quote

ย้อนรอย 112 ปี รถไฟบ้านแหลม–แม่กลอง “โดดเดี่ยว แต่โดดเด่น"
ภูมิภาค 13 ก.ค. 2019 14:39:47

Click on the image for full size

สมุทรสาคร 13 ก.ค.- ผู้ทรงคุณวุฒิเปิดเสวนาชาวชุมชนท่าฉลอม เมืองสมุทรสาคร ย้อนประวัติศาสตร์ 112 ปี รถไฟบ้านแหลม–แม่กลอง สายที่ 6 ของไทย เป็นสายเดียวไม่เชื่อมต่อ แต่ในความโดดเดี่ยวมีสิ่งน่าทึ่งและโดดเด่น เตรียมบูมแหล่งท่องเที่ยวสถานีรถไฟบ้านแหลม เหมือนสถานีแม่กลองมีตลาดร่มหุบ

วันนี้ (13 ก.ค.) ที่สถานีรถไฟบ้านแหลม ต.ท่าฉลอม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร นายอัครวัฒน์ กมลมงคล นายสถานีรถไฟ พร้อมวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ อาทิ อ.รักเกียรติ เลิศอุตสาหกูล ที่ปรึกษาฝ่ายวิชาการพิพิธภัณฑ์เจษฎาเทคนิค มิวเซียม และ ดร.สุวันชัย แสงสุขเอี่ยม รองประธานกรรมบริษัท สมุทรสาครพัฒนาเมือง วิสาหกิจเพื่อสังคม (จำกัด) ร่วมเสวนา “รถไฟสายบ้านแหลม - แม่กลอง” ของการจัดงาน 12 กรกฎาคม 2450 เริ่มเดินรถไฟสายบ้านแหลม–แม่กลอง เนื่องในโอกาสครบรอบ 112 ปี ของรถไฟสายที่ 6 แห่งประเทศไทย โดยมีตัวแทนจากส่วนราชการและชาวตำบลท่าฉลอมให้ความสนใจเข้ารับฟังความเป็นมาของเส้นทางรถไฟสายนี้

Click on the image for full size

Click on the image for full size

ดร.สุวันชัย กล่าวว่า ตำบลท่าฉลอมมีสถานีรถไฟที่สำคัญ คือ สถานีบ้านแหลม แต่หลายคนไม่รู้จัก รู้จักเพียงสถานีแม่กลอง อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม เพราะมีตลาดร่มหุบชื่อดัง ดังนั้น จึงได้จัดเสวนาครั้งนี้ขึ้น เพื่อให้รู้จักสถานีรถไฟแห่งนี้กันมากขึ้น และจะได้ช่วยกันบูรณะให้สวยงามเป็นสถานที่ท่องเที่ยวของท่าฉลอม ซึ่งรถไฟสายบ้านแหลม–แม่กลอง เป็นรถไฟสายที่ 6 ของไทย เริ่มเดินรถเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2450 สมัยรัชกาลที่ 5 จนถึงปัจจุบันเป็นระยะเวลา 112 ปี ต้นทางสถานีบ้านแหลม จ.สมุทรสาคร ปลายทางสถานีแม่กลอง จ.สมุทรสงคราม ระยะทาง 33.75 กิโลเมตร โดยบริษัทรถไฟแม่กลองทุน จำกัด เป็นผู้ได้รับสัมปทานการเดินรถไฟ ขณะนั้นบริษัทสัมปทานรถไฟสายมหาชัย ต้นทางสถานีคลองสาน กทม. ปลายทาง ต.มหาชัย จ.สมุทรสาคร ได้เข้ารวมกิจการกับบริษัทรถไฟแม่กลองทุน กระทั่งสิ้นสุดสัมปทานปี 2488 บริษัทรถไฟแม่กลองทุน จึงขายกิจการให้กับกรมรถไฟ

Click on the image for full size

Click on the image for full size

ทั้งนี้ รถไฟสองสายย่อยดังกล่าวรวมเรียกว่า "รถไฟสายแม่กลอง" ซึ่งเป็นรถไฟสายเดียวของไทยที่โดดเดี่ยวไม่เชื่อมต่อกับรถไฟสายใด แต่โดดเด่นและแตกต่างกว่ารถไฟสายอื่น ๆ คือ ต้องนั่งเรือข้ามแม่น้ำท่าจีนเพื่อต่อระหว่างสถานีมหาชัยและสถานีบ้านแหลม จากนั้นปี 2504 รัฐบาลจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ได้ยกเลิกสถานีคลองสาน เพื่อแก้ปัญหาการจราจรคับคั่งบนถนนเจริญรัถเลียบทางรถไฟ และเปลี่ยนไปเริ่มต้นสายที่วงเวียนใหญ่ ระยะทางจึงลดลงเหลือ 31.22 กิโลเมตร

อย่างไรก็ดี รถไฟสายบ้านแหลม – แม่กลอง นอกจากจะใช้ประโยชน์ด้านการคมนาคมแล้ว ยังมีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยว เพราะเป็นรถไฟที่เดินทางไปสู่ “ตลาดร่มหุบ” เพราะตลอดระยะทางจากบ้านแหลมถึงแม่กลองยังได้สัมผัสวิถีชีวิตของชาวนาเกลือ และป่าชายเลน ซึ่งเป็นภาพแห่งความสวยงามและความประทับใจที่น่าจดจำ

"เรียกว่ารถไฟสายนี้แม่จะโดดเดี่ยว เพราะไม่เชื่อมต่อกับรถไฟสายอื่น แต่ก็โดดเด่นด้วยวิถีชีวิตชาวบ้านตลอดการเดินทางและความเป็นเอกลักษณ์ของตลาดร่มหุบ".-สำนักข่าวไทย

Click on the image for full size

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44333
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 28/07/2019 7:37 pm    Post subject: Reply with quote

เส้นทางแรก! รถไฟประเดิมเปิดเดินรถ ขบวนรถดีเซลรางใช้น้ำมันบี10 สายมหาชัย-วงเวียนใหญ่
ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 27 July 2019 - 20:43 น.

การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดให้บริการเดินรถ ขบวนรถดีเซลรางใช้เชื้อเพลิงน้ำมันไบโอดีเซล บี10 เส้นทางสายมหาชัย – วงเวียนใหญ่ เป็นเส้นทางแรกในวันที่ 27 กรกฎาคม 2562

เพื่อสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม บรรเทาปัญหาฝุ่นละอองพิษในอากาศ และช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน พร้อมเดินหน้าร่วมมือกับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ทำการทดสอบการใช้น้ำมันไบโอดีเซลบี 20 ในขบวนรถดีเซลราง สายบ้านแหลม – แม่กลอง

นายศิริพงศ์ พฤทธิพันธุ์ รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการซ่อมบํารุงรถจักรและล้อเลื่อน การรถไฟแห่งประเทศไทย และ นายกำพล แจ้งสุทธิวรวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการใหญ่บริหารความร่วมมือกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมชั้นปลาย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมกันเป็นประธานพิธีเปิดใช้น้ำมันไบโอดีเซล บี10 ในขบวนรถดีเซลราง เส้นทางสายมหาชัย-วงเวียนใหญ่ เป็นเส้นทางแรก ที่สถานีมหาชัย

พร้อมกับได้เปิดการทดลองภาคสนามการใช้น้ำมันไบโอดีเซลบี 20 ในขบวนรถดีเซลรางเส้นทางสายบ้านแหลม-แม่กลอง ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคมที่ต้องการให้หน่วยงานภาครัฐมีส่วนช่วยแก้ปัญหาฝุ่นละออง การปล่อยมลพิษทางอากาศ และมีส่วนในการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน

นายศิริพงศ์ พฤทธิพันธุ์ รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการซ่อมบํารุงรถจักรและล้อเลื่อน การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การรถไฟฯ ได้คำนึงถึงการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม และเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมแก้ปัญหาฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานตามนโยบายของรัฐบาลอย่างเต็มที่ จึงได้บูรณาการความร่วมมือกับบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ดำเนินการโครงการทดสอบการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็วที่มีส่วนผสมของไบโอดีเซล ชนิดบี 10 และบี 20 ในขบวนรถดีเซลราง

ทั้งนี้ที่ผ่านมา การรถไฟแห่งประเทศไทยได้มอบหมายให้ฝ่ายการช่างกลของการรถไฟฯ ดำเนินการทดสอบการใช้น้ำมันไบโอดีเซล ชนิดบี 10 ในขบวนรถดีเซลรางจำนวน 4 คัน ในเส้นทางสายมหาชัย – วงเวียนใหญ่ ระหว่างวันที่ 21 กุมภาพันธ์ – 17 กันยายน 2561

ซึ่งผลปรากฏว่าการทดลองใช้น้ำมันไบโอดีเซล บี10 แทนการใช้น้ำมันไบโอดีเซล บี7 ในขบวนรถดีเซลราง สามารถช่วยลดปัญหามลพิษทางอากาศได้ และไม่มีผลกระทบต่อเครื่องยนต์ เพียงแต่จะต้องมีการถ่ายน้ำมันเครื่องเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันหล่อลื่น และกรองน้ำมันเชื้อเพลิงเท่านั้น ซึ่งถือเป็นผลการทดสอบที่น่าพอใจ

ดังนั้น การรถไฟฯ จึงเห็นชอบให้มีการใช้น้ำมันไบโอดีเซล บี 10 ในขบวนรถดีเซลราง เส้นทางสายมหาชัย – วงเวียนใหญ่อย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 27 กรกฎาคม 2562 เป็นต้นไป พร้อมกับให้มีการพิจารณานำเชื้อเพลิงไบโอดีเซลบี 10 ไปใช้ในเส้นทางเดินรถสายอื่นในอนาคต

นายศิริพงศ์กล่าวต่อว่า เพื่อเป็นการลดปัญหาฝุ่นละออง และช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันอย่างต่อเนื่อง การรถไฟฯ ยังได้ร่วมมือกับบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดการทดลองภาคสนามการใช้น้ำมันไบโอดีเซลบี 20 ในขบวนรถดีเซลรางเส้นทางสายบ้านแหลม-แม่กลอง โดยได้เริ่มทำการทดสอบกับรถดีเซลรางจำนวน 4 คัน ตั้งแต่วันที่ 27 กรกฎาคม 2562 เป็นต้นไป

และคาดว่าจะใช้เวลาในการทดสอบประมาณ 3 เดือน เพื่อหาผลการทดสอบความคุ้มค่าและความเหมาะสมในการใช้งาน

“หากผลการทดสอบออกมาเป็นที่น่าพอใจ โดยไม่มีผลกระทบต่อเครื่องยนต์อย่างมีนัยยะสำคัญ รวมถึงสามารถช่วยลดปัญหาการปล่อยมลพิษ และปัญหาการเกิดฝุ่นละอองในอากาศได้ การรถไฟฯ ก็พร้อมพิจารณานำน้ำมันไบโอดีเซล ชนิดบี20 มาใช้ในเครื่องยนต์รถดีเซลรางบางรุ่นที่รองรับได้ สำหรับเปิดให้บริการแก่ประชาชนต่อไป เพื่อสนับสนุนนโยบายรัฐบาลของรัฐบาลในการแก้ปัญหามลพิษทางอากาศ และช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันอย่างยั่งยืน”
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42628
Location: NECTEC

PostPosted: 29/07/2019 8:59 am    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
เส้นทางแรก! รถไฟประเดิมเปิดเดินรถ ขบวนรถดีเซลรางใช้น้ำมันบี10 สายมหาชัย-วงเวียนใหญ่
ประชาชาติธุรกิจ วันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคม 2562 เวลา 20:43 น.


รฟท.ร่วมดันราคาปาล์ม นำร่องรถดีเซลรางใช้น้ำมัน‘บี10’
วันจันทร์ ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2562, 06.00 น.

นายศิริพงศ์ พฤทธิพันธุ์ รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการซ่อมบํารุงรถจักรและล้อเลื่อน การรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ร.ฟ.ท.กับบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้เปิดใช้น้ำมันไบโอดีเซล บี10 ในขบวนรถดีเซลราง เส้นทางสายมหาชัย-วงเวียนใหญ่ เป็นเส้นทางแรก ที่สถานีมหาชัยแล้ว ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคมที่ต้องการให้หน่วยงานภาครัฐมีส่วนช่วยแก้ปัญหาฝุ่นละออง การปล่อยมลพิษทางอากาศ และมีส่วนในการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน



“การรถไฟฯ ได้คำนึงถึงการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม และเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมแก้ปัญหาฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานตามนโยบายของรัฐบาลอย่างเต็มที่ จึงได้บูรณาการความร่วมมือกับบริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ดำเนินการโครงการทดสอบการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็วที่มีส่วนผสมของไบโอดีเซล ชนิดบี 10 และบี 20 ในขบวนรถดีเซลราง” นายศิริพงศ์ กล่าว



โดยที่ผ่านมา ฝ่ายการช่างกลของการรถไฟฯ ดำเนินการทดสอบการใช้น้ำมันไบโอดีเซล ชนิด บี10 ในขบวนรถดีเซลรางจำนวน 4 คัน พบว่าสามารถช่วยลดปัญหามลพิษทางอากาศได้ และไม่มีผลกระทบต่อเครื่องยนต์ เพียงแต่จะต้องมีการถ่ายน้ำมันเครื่องเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันหล่อลื่น และกรองน้ำมันเชื้อเพลิงเท่านั้น

นอกจากนี้ การรถไฟฯ ยังได้ร่วมมือกับ ปตท. เปิดการทดลองภาคสนามการใช้น้ำมันไบโอดีเซล บี20 ในขบวนรถดีเซลรางเส้นทางสายบ้านแหลม-แม่กลอง โดยได้เริ่มทำการทดสอบกับรถดีเซลรางจำนวน 4 คัน ตั้งแต่วันที่ 27 กรกฎาคม 2562 เป็นต้นไป และคาดว่าจะใช้เวลาในการทดสอบประมาณ 3 เดือน เพื่อหาผลการทดสอบความคุ้มค่าและความเหมาะสมในการใช้งาน

ทั้งนี้ หากผลการทดสอบออกมาเป็นที่น่าพอใจ โดยไม่มีผลกระทบต่อเครื่องยนต์อย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงสามารถช่วยลดปัญหาการปล่อยมลพิษ และปัญหาการเกิดฝุ่นละอองในอากาศได้ การรถไฟฯ ก็พร้อมพิจารณานำน้ำมันไบโอดีเซล ชนิด บี20 มาใช้ในเครื่องยนต์รถดีเซลรางบางรุ่นที่รองรับได้ สำหรับเปิดให้บริการแก่ประชาชนต่อไป

ดีเดย์ขบวนรถดีเซลรางใช้บี 10 สายมหาชัย-วงเวียนใหญ่
อาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม 2562 เวลา 14.22 น.

รฟท. เปิดให้บริการเดินรถขบวนรถดีเซลรางใช้เชื้อเพลิงน้ำมันไบโอดีเซล บี 10 สายมหาชัย-วงเวียนใหญ่ เส้นทางแรก ลดฝุ่นละอองพิษในอากาศ พร้อมจับมือปตท. ทดสอบใช้น้ำมันไบโอดีเซลบี 20 สายบ้านแหลม-แม่กลอง

นายศิริพงศ์ พฤทธิพันธุ์ รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการซ่อมบํารุงรถจักรและล้อเลื่อน การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และ นายกำพล แจ้งสุทธิวรวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการใหญ่บริหารความร่วมมือกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมชั้นปลาย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมกันเป็นประธานพิธีเปิดใช้น้ำมันไบโอดีเซล บี 10 ในขบวนรถดีเซลราง เส้นทางสายมหาชัย-วงเวียนเวียนใหญ่เป็นเส้นทางแรก ที่สถานีมหาชัย พร้อมกับได้เปิดการทดลองภาคสนามการใช้น้ำมันไบโอดีเซลบี 20 ในขบวนรถดีเซลรางเส้นทางสายบ้านแหลม-แม่กลอง ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคมที่ต้องการให้หน่วยงานภาครัฐมีส่วนช่วยแก้ปัญหาฝุ่นละออง การปล่อยมลพิษทางอากาศ และมีส่วนในการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน

นายศิริพงศ์ เปิดเผยว่า รฟท. ได้คำนึงถึงการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม และเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมแก้ปัญหาฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานตามนโยบายของรัฐบาลอย่างเต็มที่ จึงได้บูรณาการความร่วมมือกับบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ดำเนินการโครงการทดสอบการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็วที่มีส่วนผสมของไบโอดีเซล ชนิดบี 10 และบี 20 ในขบวนรถดีเซลราง ที่ผ่านมา รฟท. ได้มอบหมายให้ฝ่ายการช่างกลของ รฟท. ดำเนินการทดสอบการใช้น้ำมันไบโอดีเซล ชนิดบี 10 ในขบวนรถดีเซลรางจำนวน 4 คัน ในเส้นทางสายมหาชัย-วงเวียนใหญ่ วันที่ 21 ก.พ.-17 ก.ย.61 ซึ่งผลปรากฏว่าการทดลองใช้น้ำมันไบโอดีเซล บี10 แทนการใช้น้ำมันไบโอดีเซล บี7 ในขบวนรถดีเซลราง สามารถช่วยลดปัญหามลพิษทางอากาศได้

นายศิริพงศ์ กล่าวต่อว่า และไม่มีผลกระทบต่อเครื่องยนต์ เพียงแต่จะต้องมีการถ่ายน้ำมันเครื่องเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันหล่อลื่น และกรองน้ำมันเชื้อเพลิงเท่านั้น ซึ่งถือเป็นผลการทดสอบที่น่าพอใจ ดังนั้น รฟท. จึงเห็นชอบให้มีการใช้น้ำมันไบโอดีเซล บี 10 ในขบวนรถดีเซลราง เส้นทางสายมหาชัย-วงเวียนใหญ่อย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 27 ก.ค.62 เป็นต้นไป พร้อมกับให้มีการพิจารณานำเชื้อเพลิงไบโอดีเซลบี 10 ไปใช้ในเส้นทางเดินรถสายอื่นในอนาคต เพื่อเป็นการลดปัญหาฝุ่นละออง และช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันอย่างต่อเนื่อง รฟท. ยังได้ร่วมมือกับบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดการทดลองภาคสนามการใช้น้ำมันไบโอดีเซลบี 20 ในขบวนรถดีเซลรางเส้นทางสายบ้านแหลม-แม่กลอง โดยได้เริ่มทำการทดสอบกับรถดีเซลรางจำนวน 4 คัน ตั้งแต่วันที่ 27 ก.ค.62 เป็นต้นไป และคาดว่าจะใช้เวลาในการทดสอบประมาณ 3 เดือน เพื่อหาผลการทดสอบความคุ้มค่าและความเหมาะสมในการใช้งาน

“หากผลการทดสอบออกมาเป็นที่น่าพอใจ โดยไม่มีผลกระทบต่อเครื่องยนต์อย่างมีนัยยะสำคัญ รวมถึงสามารถช่วยลดปัญหาการปล่อยมลพิษ และปัญหาการเกิดฝุ่นละอองในอากาศได้ การรถไฟฯ ก็พร้อมพิจารณานำน้ำมันไบโอดีเซล ชนิดบี20 มาใช้ในเครื่องยนต์รถดีเซลรางบางรุ่นที่รองรับได้ สำหรับเปิดให้บริการแก่ประชาชนต่อไป เพื่อสนับสนุนนโยบายรัฐบาลของรัฐบาลในการแก้ปัญหามลพิษทางอากาศ และช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันอย่างยั่งยืน” นายศิริพงศ์ กล่าว

ผ่านทดสอบ!รฟท.ใช้น้ำมันบี 10 ขบวนรถ" มหาชัย – วงเวียนใหญ่"
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคม 2562 เวลา 21:42



รฟท.นำร่อง ใช้น้ำมันไบโอดีเซล บี10 ให้บริการเดินรถ ขบวนรถดีเซลรางสายมหาชัย – วงเวียนใหญ่ และตับมือปตท. ขยายทดลองใช้บี 20 กับ สายบ้านแหลม – แม่กลอง เป็นเวลา 3 ด.

วันที่ 27 กรกฎาคม 2562 การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้เปิดให้บริการเดินรถ ขบวนรถดีเซลรางใช้เชื้อเพลิงน้ำมันไบโอดีเซล บี10 เส้นทางสายมหาชัย – วงเวียนใหญ่ เป็นเส้นทางแรกในเพื่อสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม บรรเทาปัญหาฝุ่นละอองพิษในอากาศ และช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน พร้อมเดินหน้าร่วมมือกับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ทำการทดสอบการใช้น้ำมันไบโอดีเซลบี 20 ในขบวนรถดีเซลราง สายบ้านแหลม – แม่กลอง

นายศิริพงศ์ พฤทธิพันธุ์ รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการซ่อมบํารุงรถจักรและล้อเลื่อน รฟท. กล่าวว่า รฟท.ได้ร่วมกับ บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน)ได้ร่วมกันเป็นประธานพิธีเปิดใช้น้ำมันไบโอดีเซล บี10 ในขบวนรถดีเซลราง เส้นทางสายมหาชัย-วงเวียนเวียนใหญ่เป็นเส้นทางแรก ที่สถานีมหาชัย พร้อมกับได้เปิดการทดลองภาคสนามการใช้น้ำมันไบโอดีเซลบี 20 ในขบวนรถดีเซลรางเส้นทางสายบ้านแหลม-แม่กลอง

ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของกระทรวงคมนาคมที่ต้องการให้หน่วยงานภาครัฐมีส่วนช่วยแก้ปัญหาฝุ่นละออง การปล่อยมลพิษทางอากาศ และมีส่วนในการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน

ทั้งนี้ การรถไฟฯ ได้คำนึงถึงการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม และเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมแก้ปัญหาฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานตามนโยบายของรัฐบาลอย่างเต็มที่ จึงได้บูรณาการความร่วมมือกับบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ดำเนินการโครงการทดสอบการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็วที่มีส่วนผสมของไบโอดีเซล ชนิดบี 10 และบี 20 ในขบวนรถดีเซลราง

โดนที่ผ่านมา การรถไฟฯ ได้มอบหมายให้ฝ่ายการช่างกลของการรถไฟฯ ดำเนินการทดสอบการใช้น้ำมันไบโอดีเซล ชนิดบี 10 ในขบวนรถดีเซลรางจำนวน 4 คัน ในเส้นทางสายมหาชัย – วงเวียนใหญ่ ระหว่างวันที่ 21 กุมภาพันธ์ – 17 กันยายน 2561 ซึ่งผลปรากฏว่าการทดลองใช้น้ำมันไบโอดีเซล บี10 แทนการใช้น้ำมันไบโอดีเซล บี7 ในขบวนรถดีเซลราง สามารถช่วยลดปัญหามลพิษทางอากาศได้ และไม่มีผลกระทบต่อเครื่องยนต์ เพียงแต่จะต้องมีการถ่ายน้ำมันเครื่องเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันหล่อลื่น และกรองน้ำมันเชื้อเพลิงเท่านั้น

ซึ่งถือเป็นผลการทดสอบที่น่าพอใจ ดังนั้น การรถไฟฯ จึงเห็นชอบให้มีการใช้น้ำมันไบโอดีเซล บี 10 ในขบวนรถดีเซลราง เส้นทางสายมหาชัย – วงเวียนใหญ่อย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 27 กรกฎาคม 2562 เป็นต้นไป พร้อมกับให้มีการพิจารณานำเชื้อเพลิงไบโอดีเซลบี 10 ไปใช้ในเส้นทางเดินรถสายอื่นในอนาคต



นายศิริพงศ์กล่าวต่อว่า เพื่อเป็นการลดปัญหาฝุ่นละออง และช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันอย่างต่อเนื่อง การรถไฟฯ ยังได้ร่วมมือกับบริษัท ปตท. เปิดการทดลองภาคสนามการใช้น้ำมันไบโอดีเซลบี 20 ในขบวนรถดีเซลรางเส้นทางสายบ้านแหลม-แม่กลอง โดยได้เริ่มทำการทดสอบกับรถดีเซลรางจำนวน 4 คัน ตั้งแต่วันที่ 27 กรกฎาคม 2562 เป็นต้นไป และคาดว่าจะใช้เวลาในการทดสอบประมาณ 3 เดือน เพื่อหาผลการทดสอบความคุ้มค่าและความเหมาะสมในการใช้งาน

“หากผลการทดสอบออกมาเป็นที่น่าพอใจ โดยไม่มีผลกระทบต่อเครื่องยนต์อย่างมีนัยยะสำคัญ รวมถึงสามารถช่วยลดปัญหาการปล่อยมลพิษ และปัญหาการเกิดฝุ่นละอองในอากาศได้ การรถไฟฯ ก็พร้อมพิจารณานำน้ำมันไบโอดีเซล ชนิดบี20 มาใช้ในเครื่องยนต์รถดีเซลรางบางรุ่นที่รองรับได้ สำหรับเปิดให้บริการแก่ประชาชนต่อไป เพื่อสนับสนุนนโยบายรัฐบาลของรัฐบาลในการแก้ปัญหามลพิษทางอากาศ และช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันอย่างยั่งยืน”
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 14, 15, 16 ... 30, 31, 32  Next
Page 15 of 32

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©