Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311216
ทั่วไป:13150456
ทั้งหมด:13461672
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 242, 243, 244 ... 387, 388, 389  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42551
Location: NECTEC

PostPosted: 06/08/2019 2:34 am    Post subject: Reply with quote

ภาค ปชช.โร่ค้าน! ทุบสะพานสีมาธานีสร้างรางรถไฟทางคู่ยกระดับผ่านเมืองโคราช ผู้ว่าฯ ลั่นต้องจบเดือนนี้
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: จันทร์ที่ 5 สิงหาคม 2562 เวลา 16:19
ปรับปรุง: จันทร์ที่ 5 สิงหาคม 2562 เวลา 17:29







ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ภาคประชาชนโร่ยื่นผู้ว่าฯ โคราช ค้านทุบสะพานสีมาธานีสร้างรางรถไฟทางคู่ยกระดับช่วงผ่านเมืองโคราช ด้านผู้ว่าฯ ลั่นต้องจบภายใน ส.ค.นี้ เตรียมดึงทุกฝ่ายมาร่วมถกหาข้อสรุปที่ชัดเจนส่ง ก.คมนาคม เคาะเดินหน้าก่อสร้างหลังล่าช้ามานาน

วันนี้ (5 ส.ค.) ที่บริเวณบันไดทางขึ้นศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ประชาชนกลุ่มโคราชเพื่อโคราชกว่า 50 คน นำโดย นายจักริน เฉิดฉาย อดีตประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา ประธานกลุ่มโคราชเพื่อโคราช ได้เดินทางมายื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนายกรัฐมนตรี เรื่อง ข้อเสนอในการก่อสร้างรางรถไฟทางคู่ยกระดับ ช่วงผ่านเทศบาลนครนครราชสีมา โดยรายละเอียดจดหมายเปิดผนึกมีสาระสำคัญ ดังนี้



สืบเนื่องจากโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายอีสาน ในช่วงผ่านเมืองนครราชสีมาไม่มีความคืบหน้า โดยเฉพาะช่วงผ่านสะพานสีมาธานี แม้คณะที่ปรึกษาโครงการฯ ได้นำเสนอแนวทางสรุปว่าให้ใช้แนวทางลอดสะพานสีมาธานี แล้วจึงยกระดับขึ้นตลอดในช่วงผ่านตัวเมืองนครราชสีมา

“กลุ่มโคราชเพื่อโคราช” เป็นกลุ่มจัดตั้งขึ้นมาโดยมีวัตถุประสงค์อาสาพัฒนาเมืองโคราช ได้ติดตามศึกษาโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ โดยเฉพาะช่วงผ่านเมืองนครราชสีมาด้วยความห่วงใย จึงขอเรียนสรุปข้อเสนอ ดังต่อไปนี้

1. เสนอรัฐบาลออกแบบทางรถไฟยกระดับข้ามผ่านสะพานสีมาธานีและสะพานหัวทะเล แล้วค่อยลงสู่ระดับพื้นดิน เป็นแนวทางที่จะตอบโจทย์ให้คนโคราชมากที่สุด 2. รถไฟวิ่งลอดสะพานสีมาธานี จากนั้นค่อยยกระดับ ตามแบบที่ทางบริษัทที่ปรึกษาได้นำเสนอ



3. กรณีที่มีการเสนอให้ทุบสะพานสีมาธานีนั้น “กลุ่มโคราชเพื่อโคราช” มีความห่วงใยว่าจะทำให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตแก่คนโคราชอย่างไรหรือไม่ แต่ถ้าคนส่วนใหญ่เห็นว่าจำเป็นต้องทุบสะพาน ก็สามารถจำลองสถานการณ์ได้ โดยทดลองปิดการใช้สะพานสีมาธานีสัก 3 เดือน เพื่อให้ลองดูว่า เรามีเส้นทางเลี่ยงหรือไม่ และคนโคราชรับได้หรือไม่

ทั้ง 3 แนวทางที่นำเสนอนี้ เพื่อเป็นการร่วมหาทางออกที่ดีที่สุด โดยต้องไม่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และยึดประโยชน์คนส่วนใหญ่เป็นหลักเท่านั้น

ขณะที่ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้มารับหนังสือดังกล่าวพร้อมร่วมหารือกับกลุ่มประชาชนที่มายื่นข้อเรียกร้องที่ห้องประชุมศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครราชสีมา ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา พร้อมกล่าวว่า เรื่องดังกล่าวทางจังหวัดนครราชสีมาไม่ได้นิ่งนอนใจ และทางกระทรวงคมนาคม โดย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เร่งรัดให้ทางจังหวัดหาข้อสรุปความต้องการของชาวโคราชต่อประเด็นดังกล่าว โดยให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน เพื่อจะได้เดินหน้าในการก่อสร้างรถไฟทางคู่




ทั้งนี้ ทางจังหวัดฯ จะนัดหารือร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องภายในสัปดาห์หน้า ในวันนั้นจะต้องมีข้อมูลให้มากกว่านี้ ว่าหากทุบสะพานสีมาธานีแล้วจะมีผลดีผลเสียอย่างไร หรือหากเกิดประโยชน์หรือไม่อย่างไร และสุดท้ายแล้วจะเลือกแนวทางไหนในการก่อสร้างรางรถไฟทางคู่ยกระดับช่วงผ่านตัวเมืองนครราชสีมา ซึ่งประเด็นนี้จะต้องได้ข้อสรุปอย่างชัดเจนเพื่อส่งให้กระทรวงคมนาคมภายในเดือนนี้ เพื่อพิจารณาดำเนินการโครงการต่อไป หลังจากโครงการล่าช้ามานานแล้ว
https://www.youtube.com/watch?v=YfDdi3HXMks
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42551
Location: NECTEC

PostPosted: 06/08/2019 6:56 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
ภาค ปชช.โร่ค้าน! ทุบสะพานสีมาธานีสร้างรางรถไฟทางคู่ยกระดับผ่านเมืองโคราช ผู้ว่าฯ ลั่นต้องจบเดือนนี้
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: จันทร์ที่ 5 สิงหาคม 2562 เวลา 16:19
ปรับปรุง: จันทร์ที่ 5 สิงหาคม 2562 เวลา 17:29

https://www.youtube.com/watch?v=YfDdi3HXMks


คนโคราชเห็นต่าง ค้าน “ทุบสะพานสีมาธานี” สร้างรางรถไฟทางคู่
ข่าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
06 สิงหาคม 2562 เวลา 08:56 น.

ภาคประชาชนชาวโคราช ยื่นหนังสือผู้ว่าฯ โคราช ค้านทุบสะพานสีมาธานีสร้างรางรถไฟทางคู่ยกระดับช่วงผ่านเมืองโคราช หวั่นกระทบเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิต ขณะที่ผู้ว่าฯ ระบุต้องจบภายใน ส.ค.นี้ เตรียมดึงทุกฝ่ายมาร่วมคุยหาข้อสรุปที่ชัดเจนส่ง กระทรวงคมนาคม เพื่อเดินหน้าก่อสร้างหลังล่าช้ามานาน



วันที่ 5 ส.ค. 62 ที่บริเวณบันไดทางขึ้นศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ประชาชนกลุ่มโคราชเพื่อโคราชกว่า 50 คน นำโดย นายจักริน เฉิดฉาย อดีตประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา ประธานกลุ่มโคราชเพื่อโคราช ได้เดินทางมายื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนายกรัฐมนตรี เรื่อง ข้อเสนอในการก่อสร้างรางรถไฟทางคู่ยกระดับ ช่วงผ่านเทศบาลนครนครราชสีมา โดยรายละเอียดจดหมายเปิดผนึกมีสาระสำคัญ ดังนี้

สืบเนื่องจากโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายอีสาน ในช่วงผ่านเมืองนครราชสีมาไม่มีความคืบหน้า โดยเฉพาะช่วงผ่านสะพานสีมาธานี แม้คณะที่ปรึกษาโครงการฯ ได้นำเสนอแนวทางสรุปว่าให้ใช้แนวทางลอดสะพานสีมาธานี แล้วจึงยกระดับขึ้นตลอดในช่วงผ่านตัวเมืองนครราชสีมา

“กลุ่มโคราชเพื่อโคราช” เป็นกลุ่มจัดตั้งขึ้นมาโดยมีวัตถุประสงค์อาสาพัฒนาเมืองโคราช ได้ติดตามศึกษาโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ โดยเฉพาะช่วงผ่านเมืองนครราชสีมาด้วยความห่วงใย จึงขอเรียนสรุปข้อเสนอ ดังต่อไปนี้

1. เสนอรัฐบาลออกแบบทางรถไฟยกระดับข้ามผ่านสะพานสีมาธานีและสะพานหัวทะเล แล้วค่อยลงสู่ระดับพื้นดิน เป็นแนวทางที่จะตอบโจทย์ให้คนโคราชมากที่สุด 2. รถไฟวิ่งลอดสะพานสีมาธานี จากนั้นค่อยยกระดับ ตามแบบที่ทางบริษัทที่ปรึกษาได้นำเสนอ 3. กรณีที่มีการเสนอให้ทุบสะพานสีมาธานีนั้น “กลุ่มโคราชเพื่อโคราช” มีความห่วงใยว่าจะทำให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตแก่คนโคราชอย่างไรหรือไม่ แต่ถ้าคนส่วนใหญ่เห็นว่าจำเป็นต้องทุบสะพาน ก็สามารถจำลองสถานการณ์ได้ โดยทดลองปิดการใช้สะพานสีมาธานีสัก 3 เดือน เพื่อให้ลองดูว่า เรามีเส้นทางเลี่ยงหรือไม่ และคนโคราชรับได้หรือไม่ ทั้ง 3 แนวทางที่นำเสนอนี้ เพื่อเป็นการร่วมหาทางออกที่ดีที่สุด โดยต้องไม่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และยึดประโยชน์คนส่วนใหญ่เป็นหลักเท่านั้น


ขณะที่ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้มารับหนังสือดังกล่าวพร้อมร่วมหารือกับกลุ่มประชาชนที่มายื่นข้อเรียกร้องที่ห้องประชุมศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครราชสีมา ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา พร้อมกล่าวว่า เรื่องดังกล่าวทางจังหวัดนครราชสีมาไม่ได้นิ่งนอนใจ และทางกระทรวงคมนาคม โดย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เร่งรัดให้ทางจังหวัดหาข้อสรุปความต้องการของชาวโคราชต่อประเด็นดังกล่าว โดยให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน เพื่อจะได้เดินหน้าในการก่อสร้างรถไฟทางคู่

ทั้งนี้ ทางจังหวัดฯ จะนัดหารือร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องภายในสัปดาห์หน้า ในวันนั้นจะต้องมีข้อมูลให้มากกว่านี้ ว่าหากทุบสะพานสีมาธานีแล้วจะมีผลดีผลเสียอย่างไร หรือหากเกิดประโยชน์หรือไม่อย่างไร และสุดท้ายแล้วจะเลือกแนวทางไหนในการก่อสร้างรางรถไฟทางคู่ยกระดับช่วงผ่านตัวเมืองนครราชสีมา ซึ่งประเด็นนี้จะต้องได้ข้อสรุปอย่างชัดเจนเพื่อส่งให้กระทรวงคมนาคมภายในเดือนนี้ เพื่อพิจารณาดำเนินการโครงการต่อไป หลังจากโครงการล่าช้ามานานแล้ว
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44250
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 07/08/2019 11:19 am    Post subject: Reply with quote

“ ยกรางลอยฟ้า รถไฟทางคู่ 8 กม.” ชาวเพชรบุรี เสียงเอกฉันท์การรับฟังความเห็น
Petchpoom Hotnews
Published on Aug 6, 2019

เมื่อเวลา 14.00 น.วันอังคารที่ 6 สิงหาคม ที่ ห้องประชุมพระปรางค์ ชั้น 3 สำนักงานเทศบาลเมืองเพชรบุรี นายพลยุทธ อังกินันทน์ รองนายกเทศมนตรีเมืองเพชรบุรี เป็นประธานเปิดการประชุมรับฟังความคิดเห็นประชาชนต่อโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ช่วงนครปฐม – หัวหิน เส้นทางที่ผ่านในเขตเทศบาลเมืองเพชรบุรี และชุมชนใกล้เคียงระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร โดยมีนายปัฐตพงษ์ บุญแก้ว วิศวกรกำกับการควบคุมงานวิศวกรรมโยธาและสถาปัตยกรรม 1 การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) นายเอกสิทธิ์ ป.สัตยารักษ์ วิศวกรออกแบบรถทางคู่ บริษัท เอ็มเอเอคอนซัลแตนท์ จำกัด ร่วมรับฟังและชี้แจง โดยมี นายสรายุทธ แก้วกุลปรีชา รอง ผวจ.เพชรบุรี ประชาชนในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองเพชรบุรี และชุมชนใกล้เคียงกว่า 400 คน ร่วมรับฟังและแสดงความเห็น

ทั้งนี้การรับฟังความเห็นดังกล่าวสืบเนื่องมาจาก กรณีที่ประชาชนชาวเพชรบุรีได้ร้องเรียนต่อสำนักผู้ตรวจการแผ่นดิน ว่าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงนครปฐม – หัวหิน ช่วงตั้งแต่กิโลเมตรที่ 148 – 156 ระยะทาง 8 กิโลเมตรที่ผ่านพื้นที่เขตเทศบาลเมืองเพชรบุรี และชุมชนใกล้เคียง แบบรางบนพื้นดิน ซึ่งการรถไฟกำหนดขึ้นจะมีสร้างสะพานยกระดับ และทางลอดผ่านจำนวน 10 จุด จะส่งผลกระทบต่อจังหวัดเพชรบุรีอย่างรุนแรง หลายด้านอาทิ บริบทของวิถีชีวิต สังคม การท่องเที่ยว และเศรษฐกิจของชาวเพชรบุรีจะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ภูมิสถาปัตย์เสียหาย กระทบต่อโบราณสถาน สัญจรเดินทางลำบาก เสี่ยงต่ออันตรายจากการเกิดอุบัติ สร้างปัญหาการจราจรในอนาคต ใต้สะพานเป็นจุดล่อแหลมอาจเป็นแหล่งมั่วสุม เศรษฐกิจชุมชนเดิมที่ตั้งใต้สะพานเสียหายหนัก เศรษฐกิจโยรวมเสียหาย ทางลอดผ่านเส้นทางรถไฟลาดชันเกิดอุบัติเหตุง่าย ระบายน้ำยาก โครงการไม่รองรับถึงอนาคต ไม่ได้คำนึงถึงการเจริญเติบโตของเมืองเพชรบุรี ฯลฯ โดยผู้ร้องเรียนได้เสนอให้ รฟท.ปรับเปลี่ยนรูปแบบการก่อสร้างในระยะทางประมาณ 8 กม.ที่ผ่านพื้นที่เขตเทศบาลเมืองเพชรบุรี และชุมชนใกล้เคียง จากแบบพื้นดินเป็นเส้นทางยกระดับเพื่อเป็นการแก้ปัญหา และป้องกันการเกิดปัญหาในอนาคต ซึ่งสำนักผู้ตรวจการแผ่นดินได้ให้การรถไฟชะลอการก่อสร้าง และให้เทศบาลเมืองเพชรบุรี และจังหวัดเพชรบุรี จัดรวบรวมความคิดเห็น ความเดือดร้อน เพื่อได้ข้อสรุปความต้องการจองประชาชนที่ชัดเจน จึงมีการจัดรับฟังความคิดเห็นดังกล่าวขึ้น

ในที่ประชุม นายสันต์ จรเจริญ ผอ.โครงการชลประทานเพชรบุรี ชี้แจงเพิ่มเติมว่าโครงการดังกล่าวมีแนวทางรถไฟตัดแนวคลองการระบายน้ำทั้งหมดในเขตเพชรบุรี 19 จุด แต่การรถไฟได้ขออนุญาตมาเพียง 7 จุด ประกอบกับคลองระบายน้ำในเขต จ.เพชรบุรี มีการขยายเพื่อระบายน้ำอันเป็นโครงการป้องกันอุทกภัยหลายแห่ง หากไม่มีการประสานเพื่อปรับแบบเกรงว่าจะส่งผลกระทบ
ด้านชาวบ้าน ต.บางจาก อ.เมืองเพชรบุรี กล่าวเสริมว่า การก่อสร้างรถไฟทางคู่ส่งผลกระทบกีดขวางทางน้ำตามธรรมชาติ สร้างปัญหาด้านการระบายน้ำ อย่างเห็นได้ชัด ต้นเดือนที่ผ่านมาฝนตกในพื้นที่เพียงเล็กน้อยแต่ปรากฏว่าไม่สามารถระบายได้และเกิดน้ำท่วม หากไม่เร่งแก้ไขเมื่อ จ.เพชรบุรีเข้าสู่ฤดูฝนน้ำมากกว่านี้จะส่งผลกระทบน้ำท่วมอย่างหนัก

ทั้งนี้นายปัฐตพงษ์ ได้อธิบายรูปแบบการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงระยะทาง 8 กม.ดังกล่าว และชี้แจงว่ามูลค่างานก่อสร้างตามแบบก่อสร้างเดิมซึ่งเป็นการวางรางคู่ขนานไปกับรางเดิม ซึ่งขณะนี้กำลังดำเนินการอยู่ จะใช้งบประมาณทั้งสิ้น 560 ล้านบาท และผ่านการรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม( EIA ) แล้ว การรถไฟไม่ได้มีปัญหาในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบจากรางบนดินเป็นรางยกระดับ แต่ติดขัดเรื่องงบประมาณที่เพิ่มขึ้น หากก่อสร้างตามแบบเดิมจะสามารถทำงานได้ทันทีและเปิดใช้งานได้ตามระยะเวลาที่กำหนด แต่หากปรับเปลี่ยนรูปแบบตลอด 8 กิโลเมตร เป็นทางยกระดับตลอดเส้นทางต้องใช้งบประมาณ 2,800 ล้านบาท ซึ่งเมื่อหักจากค่าใช้จ่ายที่ไม่ต้องทำสะพานทางข้ามและทางลอด 10 จุดแล้ว คาดว่ายังคงต้องใช้งบประมาณมากกว่า 2,200 ล้านบาท เวลาจัดทำ EIA ประมาณ 18 เดือน และต้องเสนอต่อ กระทรวงคมนาคม สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานงบประมาณ ฯลฯ ตลอดจนของบประมาณเพิ่มจาก คณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งหากทุกขึ้นตอนอนุมัติ ต้องใช้เวลาก่อสร้างอีกกว่า 18 เดือน ซึ่งรวมแล้วอาจต้องใช้ระยะเวลานานกว่าเดิมถึง 3 ปี ส่วนการระบายน้ำในพื้นที่ก่อสร้างยอมรับว่าอาจเกิดขึ้นแต่จะเร่งแก้ไขโดยด่วน พร้อมจะประสานงานกับกรมชลประทานเรื่องเส้นทางระบายน้ำต่างๆที่โครงการรถไฟผ่าน

หากมีการอนุมัติให้มีการก่อสร้างแบบยกระดับจริง รางรถไฟทางคู่จะตั้งอยู่บนตอหม้อซึ่งอยู่สูงจากพื้นดินประมาณ 8-10 เมตร บริเวณ 2 ข้างรางในส่วนที่ผ่านชุมชนจะติดตั้งแผ่นกันเสียงสูงประมาณ 3 เมตร ซึ่งจะบังภูมิทัศน์ของเขาวังเมื่อมองมาจากฝั่งด้านนอกเมืองของทางรถไฟ ส่วนของสถานีสามารถสร้างด้านล่างได้แต่จุดขึ้น-ลงรถไฟจะอยู่ด้านบน ซึ่งประชาชนเห็นด้วยและยอมรับได้เนื่องจากเป็นผลดีมากกว่าผลเสีย

ที่ประชุมใช้เวลารับฟังปัญหาและข้อเท็จจริงนานกว่า 2 ชั่วโมง กระทั่งเวลาประมาณ 16.20 น.จึงมีการยกมือแสดงความเห็น ปรากฏว่าผู้ที่เข้าร่วมประชุมทั้งหมดยกมือแสดงความจำนงต้องการให้การรถไฟเปลี่ยนแบบการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะทาง 8 กม. ผ่านพื้นที่เขตเทศบาลเมืองเพชรบุรี และชุมชนใกล้เคียง จากแบบพื้นดินเป็นเส้นทางยกระดับเพื่อเป็นการแก้ปัญหา และป้องกันการเกิดปัญหาในอนาคต

ด้านนายพลยุทธกล่าวว่า ชาวเพชรบุรีไม่ได้คัดค้านโครงการรถไฟทางคู่ แต่ขอให้การรถไฟออกแบบและบริหารจัดการโดยคำนึงถึงชีวิตและอนาคตของชาวเพชรบุรีบ้าง รูปแบบการก่อสร้างรถไฟทางคู่บนพื้นดินจะส่งผลกระทบต่อจังหวัดเพชรบุรีอย่างรุนแรง การแก้ไขแบบด้วยการยกระดับรางตลอดเส้นทางจะเป็นแนวทางที่สามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ทั้งหมด จากนี้จะรวบรวมความเห็นความต้องการของประชาชนทำเป็นเอกสาร และส่งให้จังหวัดเพชรบุรีเสนอต่อการรถไฟแห่งประเทศไทย ผู้ตรวจการแผ่นดิน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอเปลี่ยนแบบให้เป็นรถไฟทางคู่ยกระดับต่อไป


https://www.youtube.com/watch?v=CFYou6Rq0OE
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42551
Location: NECTEC

PostPosted: 08/08/2019 10:11 am    Post subject: Reply with quote

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ หัวข้อข่าว “ ชาวเพชรเห็นด้วยรถไฟทางคู่ลอยฟ้า ”
ประจำวันพฤหัสบดีที่ 8 สิงหาคม 2562

นายพลยุทธ อังกินันทน์ รองนายกเทศมนตรีเมืองเพชรบุรี เป็นประธานเปิดประชุมรับฟังความคิดเห็นโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ช่วงนครปฐม-หัวหิน เส้นทางผ่านเขตเทศบาลเมืองเพชรบุรีและชุมชนใกล้เคียงระยะทางประมาณ 8 กม. เมื่อวันที่ 6 ส.ค. ที่ห้องประชุมพระปรางค์ชั้น 3 สนง.เทศบาลเมืองเพชรบุรี โดยมี วิศวกรกำกับการควบคุมงานวิศวกรรมโยธาและสถาปัตยกรรม 1 การรถไฟ
แห่งประเทศไทย (รฟท.) นายเอกสิทธิ์ ป.สัตยารักษ์ วิศวกรออกแบบรถทางคู่ ร่วมรับฟังและชี้แจงมีนายสรายุทธแก้วกุลปรีชารองผวจ.เพชรบุรีประชาชนในเขตเทศบาลเมืองเพชรบุรีและชุมชนใกล้เคียงกว่า 400 คน ร่วมรับฟังและแสดงความเห็น สืบเนื่องจากมีประชาชนร้องเรียนสำนักผู้ตรวจการแผ่นดินว่า โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ดังกล่าวจะส่งผลกระทบกับ จ.เพชรบุรี อย่างรุนแรงหลายด้าน
โดยเสนอให้ รฟท.ปรับเปลี่ยนรูปแบบการก่อสร้างจากแบบพื้นดินเป็นเส้นทางยกระดับทางสำนักผู้ตรวจการแผ่นดินได้ให้การรถไฟชะลอการก่อสร้าง พร้อมกับให้เทศบาลและจังหวัดเพชรบุรีรวบรวมความคิดเห็นของ ซึ่งประชาชนเห็นด้วยเนื่องจากเป็นผลดีมากกว่าผลเสีย ที่ประชุมใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง ทั้งหมดต่างยกมือต้องการให้การรถไฟเปลี่ยนรูปแบบการก่อสร้างรถไฟทางคู่จากแบบพื้นดิน เป็นเส้นทางยกระดับ เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาในอนาคต.

ชาวเพชรเห็นด้วยรถไฟทางคู่ลอยฟ้า
....ผ่านเขตเทศบาลเมืองเพชรบุรี8 กิโลเมตร แบบเดิมใช้งบ 560 ล้านบาทแต่ปรับแบบใหม่ใช้เงิน 2,800 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น2,240 ล้นบาท) ใช้เวลาออกแบบและทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม18เดือน
https://www.facebook.com/pr.railway/photos/pcb.2849491705065682/2849491601732359/?type=3&theater

Note: ตูว่าแล้ว คนร่วมสกุลของเดอะแป๋ง เจ้าพ่อเมืองเพชรบุรีเป็นตัวตั้งตัวตีในเรื่องทางลอยฟ้าเพราะอยากได้หน้าเหมือนขอนแก่น หัวหิน บ้านไผ่และโคราชชัดเลย
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42551
Location: NECTEC

PostPosted: 16/08/2019 3:57 pm    Post subject: Reply with quote

16 ส.ค.62 มาเป็นผู้แทนอธิบดีกรมการขนส่งทางราง เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการพิจารณาเสนอแนะรูปแบบแนวทางการแก้ไขปัญหาการจราจรในจังหวัดนครราชสีมาครั้งที่1/2562 ณ ห้องประชุมเปรม ติณสูลานนท์ ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา

...มาให้ข้อมูลและรับฟังความคิดเห็นข้อเสนอแนะจากหน่วยงาน และผู้แทนภาคประขาชนในประเด็นการแก้ไขปรับแบบจุดตัดโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่มาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ(สัญญาที่2 คลองขนานจิตร-ชุมทางถนนจิระ) ช่วงผ่านตัวเมืองนครราชสีมา บริเวณสะพานข้ามแยกสีมาธานี โดยมีผู้แทนจาก ทล. สนข. และรฟท. เข้าร่วมประชุมด้วย
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=2464122670301330&set=a.1957785667601702&type=3&theater
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42551
Location: NECTEC

PostPosted: 19/08/2019 11:30 am    Post subject: Reply with quote

นายวรวุฒิ ระบุว่า ปี 2567 ระบบอาณัติสัญญาณเเละทางคู่ จะเเล้วเสร็จ เชื่อว่าจะช่วยยกระดับมาตรฐานการให้บริการ เเละสามารถเเข่งขันกับรถโดยสารประเภทอื่นได้ เนื่องจากรถไฟทางคู่ จะช่วยร่นระยะเวลาการเดินทางให้สั้นลง เช่น จาก กรุงเทพ - พิษณุโลก เดิมใช้เวลา มากกว่า 5 ชั่วโมง จะเหลือเพียง 3 ชั่วโมง ??? กรุงเทพ - ชุมพร เดิมใช้เวลา 7-9 ชม. จะเหลือเพียง 6 ชั่วโมง เป็นต้น https://news.thaipbs.or.th/content/283050
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42551
Location: NECTEC

PostPosted: 19/08/2019 5:18 pm    Post subject: Reply with quote

19ส.ค.62 รายการสถานีประชาชน : ความเห็นแย้ง ทุบ - ไม่ทุบ สะพานข้ามแยกอัมพวัน จ.นครราชสีมา เวลา14.05-15.00 น. Thai PBS
http://program.thaipbs.or.th/People/episodes/62849
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42551
Location: NECTEC

PostPosted: 20/08/2019 11:13 am    Post subject: Reply with quote

เอกซเรย์ 5 ปี1,000กิโล ทางคู่แสนล้านพร้อมเปิดหวูด
เศรษฐกิจมหภาค Mega Project
ออนไลน์เมื่อ 18 สิงหาคม 2562
ตีพิมพ์ใน หน้า 12
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
ฉบับ 3497 ระหว่างวันที่ 18 - 21 สิงหาคม 2562

“นับตั้งแต่ปี2494 ที่มีการเปลี่ยนฐานะเป็น การรถไฟแห่งประเทศไทย ขณะนั้นระบบรางเพียง 3,300 กิโลเมตร ปัจจุบันในปี 2562 มีระบบรางประมาณเป็น 4,000 กิโลเมตร เพิ่มขึ้นเพียง 700 กิโลเมตร จาก 68 ปี ดังนั้นกล่าวโดยสรุปประเทศไทยมีการใช้ประโยชน์จากระบบรางในสัดส่วนน้อยมาก ซึ่งมาเริ่มตื่นตัวในช่วง 4-5 ปีหลัง ถือได้ว่ามาถูกทาง”นี่คือเสียงสะท้อน ภาพรวมโครงสร้างระบบรางที่ผ่านมา ของนายวรวุฒิ มาลา รักษาการ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) บนเวทีสัมมนา ภายใต้หัวข้อ ความพร้อมเชิงโครงสร้างพื้นฐานต่อการรองรับแผนการคมนาคมระบบรางในอนาคต อีกทั้งยังประกาศความพร้อมจัดงาน “INTERMAT ASEAN และงาน CONCRETE ASIA” ที่จะเปิดตัวช่วงเดือนกันยายนที่จะถึงนี้

ทั้งนี้การพลิกโฉมรถไฟทางคู่มูลค่ากว่าแสนล้านบาท มีเส้นทางไหนที่พร้อมเปิดให้บริการ เริ่มตั้งแต่ รถไฟทางคู่ ฉะเชิงเทรา- คลองสิบเก้า- แก่งคอยโครงสร้างเกือบแล้วเสร็จสมบูรณ์เตรียมเปิดให้บริการภายในเดือนกันยายนนี้เช่นเดียวกับ ชุมทางจิระ-ขอนแก่นส่วนปี 2564 เส้นทางสายใต้จะแล้วเสร็จตลอดเส้นทางตั้งแต่นครปฐม-ชุมพร ตามด้วย ลพบุรี-ปากนํ้าโพ ซึ่งเป็นเส้นทางสายเหนือ จะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการในปี2565ส่งผลให้อีก 5 ปีข้างหน้าจะมีทางรถไฟ 25% รวมเส้นทางกว่า 1,000 กิโลเมตรเทียบเท่ากับประเทศที่พัฒนาแล้ว

ขณะเดียวกันยังมีรถไฟทางคู่สายใหม่ ช่วงเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ และบ้านไผ่ นครพนม สายเหนือ-อีสานตามลำดับ ระยะทางประมาณ 1,500 กิโลเมตรอยู่ระหว่างออกพระราชกฤษฎีกาเวนคืน รถไฟความเร็วสูงไทย-จีนกรุงเทพฯ-นครราชสีมา เป็นเส้นทางแรกระยะทาง 252 กิโลเมตรขณะนี้อยู่ระหว่างก่อสร้าง ขณะที่เฟส 2 ช่วงโคราช-หนองคาย คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติไปแล้ว และไฮไลต์รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา อยู่ระหว่างเตรียมส่งมอบ พื้นที่ให้กับซีพีและพันธมิตร คาดว่าเริ่มก่อสร้างได้ไม่เกินต้นปี 2563

แม้ระบบรางในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมาจะถูกพัฒนาอย่างเข้มข้นในทุกพื้นที่แต่โจทย์สำคัญคือจะทำอย่างไรให้คนไทยหันมาใช้ระบบรางโดยเฉพาะการเดินทางไปยังต่างจังหวัดทั้งนี้ความสะดวกสบายคือหัวใจสำคัญสิ่งที่ดำเนินการได้ทันทีคือให้ความรู้ ประชา สัมพันธ์ รวมทั้งติดป้ายบอกทางด้วยความเข้าใจง่ายชัดเจน พร้อมกันนี้ในบางสถานีที่ยังไม่สามารถเดินทางไปยังจุดหมายได้

“เราจะต้องประสานการขนส่งต่อเนื่องให้กับท้องถิ่นนั้นๆ เข้ามาเติม เพื่อเต็มให้ผู้ใช้บริการเกิดความประทับใจในแง่ของความเร็ว ขณะนี้ระบบรางยังเป็นรองในระบบถนน แต่ในอนาคตเมื่อเส้นทางต่างๆ ทยอยแล้วเสร็จ คาดว่าระยะเวลาน่าจะแข่งขันกันได้ โดยจุดแข็งของเราเด่นในเรื่องความปลอดภัยและเสน่ห์ระหว่างทาง” อย่างไรก็ตาม ระบบรางจะเติบโตได้ ต้องพัฒนาควบคู่ไปกับอุตสาหกรรมรถไฟ อาทิ การจัดตั้งโรงงานผลิตและประกอบรถไฟในประเทศตลอดจนการพัฒนาพื้นที่รอบสถานีให้เกิดความคุ้มค่านับจากนี้ไม่เกิน 5 ปีจะเกิดความคล่องตัวในการเดินทาง ขนส่งสินค้า..เชื่อมโยงทั่วทุกภูมิภาค และกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านจากระบบราง
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42551
Location: NECTEC

PostPosted: 20/08/2019 6:42 pm    Post subject: Reply with quote

‘จีน-อิตาเลียนไทย-ยูนิค’ แบ่งเค้ก ‘อาณัติสัญญาณ’ รถไฟทางคู่ แข่งหั่นราคาสูงสุดแค่ 0.5%
20 สิงหาคม 2562

นายสุจิตต์ เชาว์ศิริกุล รองผู้ว่าการ กลุ่มบริหารรถไฟฟ้า การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยถึงการเปิดให้เอกชนยื่นซองประมูลก่อสร้างและติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณรถไฟทางคู่ 3 สัญญา 3 เส้นทาง ได้แก่ รถไฟทางคู่สายเหนือ, สายตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) และสายใต้ ด้วยวิธีประกวดราคานานาชาติ ราคากลางรวม 11,492 ล้านบาทว่า

ในการประมูลครั้งนี้มีเอกชนตกเกณฑ์ด้านคุณสมบัติทั้งหมด 3 ราย เนื่องจากยื่นเอกสารไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน โดยมีรายละเอียดดังนี้

ระบบอาณัติสัญญาณรถไฟสายใต้ ช่วงนครปฐม-ชุมพร มีผู้ยื่นข้อเสนอทั้งหมด 3 ราย แต่มีผู้ไม่ผ่านเกณฑ์ด้านคุณสมบัติ 1 ราย คือกิจการร่วมค้า Siemens

ระบบอาณัติสัญญาณรถไฟสายเหนือ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ มีผู้ยื่นข้อเสนอทั้งหมด 4 ราย แต่มีผู้ไม่ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติ 2 รายคือ กิจการร่วมค้า Siemens และ 2. กิจการร่วมค้า CRSC Research & Design Institute Group Co.,Ltd และ CRSC International Company Limited

ระบบอาณัติสัญญาณรถไฟสายตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ มีผู้ยื่นข้อเสนอทั้งหมด 3 ราย แต่มีผู้ไม่ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติ 1 ราย คือ กิจการร่วมค้า BHBR ที่ประกอบด้วย Beijing Hollysys และบริษัท สยามสแกนดิเนเวียน คอนสตรัคชั่น แอนด์ บิสซิเนส จำกัด

“จีน-อิตาเลียนไทย-ยูนิค” แบ่ง 3 สัญญา

เมื่อวานนี้ (19 ส.ค.) คณะกรรมการคัดเลือกฯ จึงดำเนินการเปิดข้อเสนอซองที่ 3 ด้านราคา ของผู้ที่ผ่านเกณฑ์ด้านคุณสมบัติและด้านเทคนิค ซึ่งมีผลปรากฎดังนี้

1.ระบบอาณัติสัญญาณรถไฟสายใต้ ตั้งราคากลางอยู่ที่ 6,250 ล้านบาท และมีผู้ผ่านเกณฑ์จำนวน 2 ราย ได้แก่

กิจการร่วมค้า CRSC Research & Design Institute Group Co.,Ltd และ CRSC International Company Limited เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุดที่ 6,217 ล้านบาท หรือต่ำกว่าราคากลาง 0.52%

กิจการร่วมค้า บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD และ LSIS ประเทศเกาหลีใต้ ยื่นข้อเสนอด้านราคาที่ 6,249 ล้านบาท หรือต่ำกว่าราคากลาง 0.03%

2.ระบบอาณัติสัญญาณรถไฟทางคู่ สายเหนือ ตั้งราคากลางอยู่ที่2,782 ล้านบาท และมีผู้ผ่านเกณฑ์จำนวน 2 รายได้แก่

กิจการร่วมค้า BT-UN ประกอบด้วย Bombardier จากประเทศแคนนาดา และบริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุดที่ 2,772 ล้านบาท หรือต่ำกว่าราคากลาง 0.36%

กิจการร่วมค้า บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD และ LSIS ยื่นข้อเสนอที่ 2,780 ล้านบาท หรือต่ำกว่าราคากลาง 0.07%

3.ระบบอาณัติสัญญาณรถไฟทางคู่สายอีสาน ตั้งราคากลางที่2,460 ล้านบาท และมีผู้ผ่านเกณฑ์จำนวน 2 ราย ได้แก่

กิจการร่วมค้า บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD และ LSIS เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุดที่ 2,447 ล้านบาท หรือต่ำกว่ารากลาง 0.51%

กิจการร่วมค้า CASCO Signal Ltd. และ CRSC Internaional Company Limited ยื่นข้อเสนอด้านราคาที่ 2,495 ล้านบาท หรือมากกว่าราคากลาง 1.42%

คาดลงนามสัญญา ต.ค. 62

“ภาพรวมถือว่าโอเค ทั้งหมดผ่านการแข่งขันอย่างถูกต้อง โดยหลังจากเปิดซองราคาเมื่อวานแล้ว ทางที่ปรึกษาก็จะไปตรวจสอบเอกสารให้ครบถ้วนก่อน จากนั้นจะนำรายชื่อผู้ที่เสนอราคาต่ำสุดและเอกสารครบถ้วนให้คณะกรรมการคัดเลือกฯ เห็นชอบในวันที่ 23 ส.ค. ถ้าไม่มีปัญหาก็จะเรียกเอกชนมาต่อรองราคาต้นสัปดาห์หน้าเลย” นายสุจิตตกล่าว

ทั้งนี้ เมื่อคณะกรรมการคัดเลือกฯ และเอกชนต่อรองราคาจบแล้ว ก็จะเสนอรายชื่อผู้ชนะการประมูลให้คณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟฯ พิจารณาตามลำดับ จากนั้นการรถไฟฯ ต้องประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกบนเว็บไซต์เพื่อเปิดให้มีการอุทรณ์หรือโต้แย้งผลการประมูลเป็นเวลา 5 วันทำการ

ถ้าไม่มีประเด็นใดๆ เพิ่มเติม ก็ต้องเสนอเรื่องให้บอร์ดการรถไฟฯ รับรองผลการประชุมอีก 1 ครั้ง ก่อนลงนามสัญญากับเอกชน โดยคาดว่าจะลงนามสัญญาณได้เร็วที่สุดในเดือนตุลาคม 2562 นี้
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44250
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 21/08/2019 7:30 am    Post subject: Reply with quote

“ศักดิ์สยาม”สั่งลุย 8 บิ๊กโปรเจ็กต์ ซื้อฝูงบิน-ถนน-รางแสนล้านชงครม.
ฐานเศรษฐกิจ 17 Aug 2019

“ศักดิ์สยาม” เร่งติดตามความพร้อม 8 เมกะโปรเจ็กต์หลายแสนล้าน ไล่ดะตั้งแต่ซื้อฝูงบิน 38 ลำ มอเตอร์เวย์ รถไฟฟ้า ทางคู่ยันรถเมล์ขสมก.ก่อนชงครม.นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ประชุมติดตามโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของกระทรวงคมนาคมที่จะนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติโครงการ เมื่อวันที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยมี นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน นายจิรุตม์ วิศาลจิตร และนายสมัย โชติสกุล รองปลัดกระทรวงคมนาคม และหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ร่วมการประชุม โดยโครงการหลัก ๆ ที่เตรียมนำเสนอครม. ประกอบด้วย 8 โครงการมูลค่าหลายแสนล้านบาท ได้แก่

1. โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางใหญ่ – กาญจนบุรี สำนักงบประมาณเห็นควรมอบให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (สคก.) พิจารณากรณีคู่มือการกำหนดเงินค่าทดแทนตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2530 ของกระทรวงคมนาคม สอดคล้องตามมาตรา 21 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2530 หรือไม่ ซึ่งกระทรวงคมนาคมจะเร่งหารือกับ สคก. เพื่อให้ได้ข้อสรุป รวมทั้งประมวลความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาโดยเร็วต่อไป

2. โครงการจัดหาเครื่องบินของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (บกท.) จำนวน 38 ลำ ซึ่ง บกท. จะดำเนินการจัดซื้อจากบริษัทโบอิ้งและบริษัทแอร์บัส และได้กำชับให้ บกท. ดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการแข่งขันในอนาคต และไม่เป็นภาระงบประมาณ

3. โครงการติดตั้งระบบโครงข่ายโทรคมนาคม ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จะติดตั้งสถานีโทรคมนาคมให้ครอบคลุมสถานีรถไฟทั่วประเทศและศูนย์โทรคมนาคม วงเงิน 2,055.1980 ล้านบาท ได้สั่งการให้ รฟท. ยืนยันการเสนอเรื่องให้ ครม. พิจารณาโดยเร็ว

4. โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มส่วนตะวันตก (บางขุนนนท์ – ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย) ปัจจุบันสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) อยู่ระหว่างเตรียมนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง ได้มอบให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ประสานงานกับ สคร. ในรายละเอียด ทั้งนี้ ในการก่อสร้างให้ รฟม.พิจารณาดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลโดยใช้วัสดุที่ผลิตในประเทศ รวมทั้งพิจารณาใช้ยางพาราเป็นส่วนประกอบในวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้มากที่สุด

5. โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายนครปฐม - ชะอำ ได้มอบให้ ทล. พิจารณาข้อคัดค้านของประชาชน ศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมใหม่ และดำเนินการเรื่องที่เกี่ยวข้องให้เรียบร้อยก่อนนำเสนอ ครม.

6. โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ (ระยะที่ 2) จำนวน 7 โครงการ ได้แก่ โครงการรถไฟทางคู่ ช่วงปากน้ำโพ – เด่นชัย เด่นชัย – เชียงใหม่ ชุมทางถนนจิระ – อุบลราชธานี ขอนแก่น – หนองคาย ชุมพร – สุราษฎร์ธานี สุราษฎร์ธานี – ชุมทางหาดใหญ่ – สงขลา และหาดใหญ่ – ปาดังเบซาร์ รฟท. รายงานว่าได้จัดส่งข้อมูลเพิ่มเติมให้ สศช. แล้ว จึงให้ รฟท. รายงานกระทรวงฯ เพื่อแจ้ง สศช. อย่างเป็นทางการ ต่อไป

7. การทบทวนมติ ครม. เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2556 ที่อนุมัติให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ดำเนินโครงการจัดซื้อรถโดยสารใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ จำนวน 3,183 คัน ซึ่ง ขสมก. จะถอนเรื่องเพื่อนำกลับไปพิจารณาปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของ ขสมก.ให้สูงขึ้นตามนโยบายการบูรณาการโครงข่ายการคมนาคมขนส่ง เสนอ สศช. เพื่อนำเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาของ ครม. ต่อไป

8. ผลการคัดเลือกเอกชน ผลการเจรจา และร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการสรรหาเอกชนเพื่อร่วมลงทุนเป็นผู้ประกอบการสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง (ไอซีดี) ที่ลาดกระบังของ รฟท. ซึ่งปลัดกระทรวงคมนาคมได้กำหนดการประชุมร่วมกับหน่วนงานที่เกี่ยวข้อง ในวันที่ 23 สิงหาคม 2562 จึงได้มอบให้ รฟท. สนับสนุนข้อมูลและพิจารณาแนวทางการดำเนินงานที่เหมาะสมให้ได้ข้อสรุปโดยเร็วต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 242, 243, 244 ... 387, 388, 389  Next
Page 243 of 389

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©