Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311232
ทั่วไป:13179815
ทั้งหมด:13491047
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม(บางซื่อ-รังสิต และ บางซื่อ-หัวลำโพง)
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม(บางซื่อ-รังสิต และ บางซื่อ-หัวลำโพง)
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 68, 69, 70 ... 147, 148, 149  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42623
Location: NECTEC

PostPosted: 25/08/2019 1:36 am    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
'คมนาคม'จำนนค่าโง่โฮปเวลล์ ศาลปัดฟื้นคดี ไม่พบหลักฐานใหม่ - เดินหน้าเจรจาลดจ่ายดอกเบี้ย
กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2562

ศาล ปค.ไม่รับคำร้องรื้อค่าโง่โฮปเวลล์ ชี้หลักฐานเก่า-โต้แย้งประเด็นดุลพินิจ
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 23 สิงหาคม พ.ศ. 2562 เวลา 16:15
ปรับปรุง: 23 สิงหาคม พ.ศ. 2562 เวลา 16:43




ศาลปกครองกลาง สั่งไม่รับคำขอ คมนาคม-ร.ฟ.ท.ขอให้พิจารณา คดีค่าโง่โฮปเวลล์ 1.2 หมื่น ล.ใหม่ ชี้ พยานหลักฐานที่เสนอไม่ใหม่ ซ้ำเป็นการโต้แย้งดุลพินิจในการพิพากษาคดี-ผลของคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด จึงไม่เข้าหลักเกณฑ์รับพิจารณา

วันนี้ (23 ส.ค.) ศาลปกครองกลางมีคำสั่งไม่รับคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ ในคดีหมายเลขแดงที่ 336-368/2557 ที่กระทรวงคมนาคม การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ผู้ร้อง บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้คัดค้าน ซึ่งคดีดังกล่าวศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 21 มี.ค. 62 ให้ กระทรวงคมนาคม และ ร.ฟ.ท. ปฏิบัติตาม ตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ ข้อพิพาทหมายเลขดำที่ 119/2557 หมายเลขแดงที่ 64/2551 ลงวันที่ 30 ก.ย. 51 คืนเงินค่าตอบแทนที่ บริษัท โฮปเวลล์จำกัด (ประเทศไทย) ชำระและใช้เงินในการก่อสร้างโครงการ พร้อมดอกเบี้ย ให้แก่ บริษัท โฮปเวลล์ จำกัด ประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคม และ ร.ฟ.ท. ได้มีคำร้องยื่นต่อศาลปกครองกลางขอให้ศาลพิจารณาคดีใหม่ โดยอ้างว่า ศาลปกครองสูงสุดรับฟังข้อเท็จจริงผิดพลาด และมีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี แต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานกรณีโฮปเวลล์ ซึ่งหากได้พยานหลักฐานใหม่จะนำเสนอศาลปกครองสูงสุดต่อไป ทั้งโต้แย้งเรื่องความสามารถในการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวในประเทศของ บริษัท โฮปเวลล์ จำกัด ในขณะเข้าทำสัญญาพิพาท และอ้างว่า การที่ศาลปกครองสูงสุดมิได้ย้อนสำนวนให้ศาลปกครองชั้นต้นวินิจฉัยในประเด็นเนื้อหาแห่งคดี ถือว่าเป็นข้อบกพร่องในกระบวนการยุติธรรม

ศาลปกครองกลางพิจารณาคำร้องขอให้ศาลพิจารณาคดีใหม่แล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงที่ กระทรวงคมนาคม และ ร.ฟ.ท .โต้แย้งประเด็นที่ศาลปกครองสูงสุดได้วินิจฉัยเรื่องระยะเวลาการใช้สิทธิเสนอข้อพิพาทต่ออนุญาโตตุลาการ การเลิกกันของสัญญาพิพาท และการกลับคืนสู่ฐานะเดิมของ กระทรวงคมนาคม และ ร.ฟ.ท .ผู้ร้อง และ บริษัท โฮปเวลล์ จำกัด (ประเทศไทย) มีลักษณะเป็นการโต้แย้งดุลพินิจในการพิพากษาคดี และผลของคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด

สำหรับกรณีที่ศาลปกครองสูงสุดมิได้ย้อนสำนวนให้ศาลปกครองชั้นต้นวินิจฉัยนั้น เป็นดุลพินิจของศาลปกครองสูงสุดที่จะวินิจฉัยข้อพิพาทตามคำอุทธรณ์ได้เอง ไม่มีบทกฎหมายที่บังคับให้ศาลปกครองสูงสุดต้องส่งคำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้นที่ยังมิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายหรือระเบียบวิธีพิจารณาคดีปกครองกลับไปให้พิจารณาพิพากษาใหม่ทุกกรณี อีกทั้งคดีนี้ ศาลปกครองสูงสุดได้วินิจฉัยแล้วว่า คดีมีข้อเท็จจริงเพียงพอที่ศาลปกครองสูงสุดจะพิจารณาพิพากษาชี้ขาดคดีต่อไปได้ เพื่อประโยชน์แก่การพิจารณาพิพากษาคดี จึงไม่ถือว่ามีข้อบกพร่องสำคัญในกระบวนพิจารณาพิพากษาที่ทำให้ผลของคดีไม่มีความยุติธรรม

ส่วนข้อโต้แย้งเรื่องความสามารถของ บริษัท โฮปเวลล์ จำกัด (ประเทศไทย) ในขณะเข้าทำสัญญาว่าเป็นการดำเนินการของคนต่างด้าวนั้น เอกสารหลักฐานดังกล่าวมิได้เป็นพยานหลักฐานที่ปรากฏขึ้นใหม่ อันมีผลทำให้ข้อเท็จจริงที่ฟังยุติแล้วเปลี่ยนแปลงไปในสาระสำคัญ ทั้งในขณะที่ยื่นคำขอให้พิจารณาคดีใหม่นี้

กระทรวงคมนาคม และ ร.ฟ.ท.ผู้ร้อง ไม่มีพยานหลักฐานที่จะนำเสนอต่อศาลปกครองสูงสุด ซึ่งเป็นพยานหลักฐานใหม่อันมีผลทำให้ข้อเท็จจริงที่ฟังยุติแล้วเปลี่ยนแปลงไปในสาระสำคัญ คำขอให้ศาลพิจารณาคดีใหม่จึงไม่เข้าหลักเกณฑ์ตามมาตรา 75 วรรคหนึ่ง (1) และ (3) ประกอบวรรคสอง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 ศาลปกครองกลางจึงมีคำสั่งไม่รับคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ไว้พิจารณา
"ศักดิ์สยาม"นัดถกอัยการสัปดาห์หน้าหลังศาลฯ ไม่รับคำร้องคดี"โฮปเวลล์"
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 23 สิงหาคม พ.ศ. 2562 เวลา 18:07

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงกรณีที่ศาลปกครองกลางไม่รับคำร้องให้มีการพิจารณาคดีโฮปเวลล์ใหม่ ว่า ในสัปดาห์หน้าตน และคณะทำงานจะหารือกับอัยการสูงสุด ว่ากระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จะดำเนินการเรื่องนี้ในทิศทางใดต่อไป เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่และเกิดมานานแล้ว ซึ่งต้องขอหารือกับกับอัยการก่อนว่าจะมีทิศทางใด



ส่วนกรณีที่มีหลายฝ่ายกังวลว่าเมื่อศาลไม่รับคำร้อง รฟท. จะต้องชำระเงินชดเชยใน 180 วัน ซึ่งจะครบกำหนดประมาณเดือนตุลาคมนี้ ในเรื่องนี้กระทรวงคมนาคมได้มีการทำงานควบคู่กัน โดยให้คณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมาหาแนวทางรองรับไว้แล้ว อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า กระทรวงคมนาคมจะดำเนินการสิ่งที่ดีที่สุดให้เกิดกับคนไทย
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42623
Location: NECTEC

PostPosted: 27/08/2019 6:10 pm    Post subject: Reply with quote

รถไฟฟ้าสายสีเเดง เตรียมเปิดทดลองใช้ปลายปี 63
.
คืบหน้า 80% แล้ว สถานีกลางบางซื่อ จุดเริ่มต้นของการให้บริการรถไฟฟ้าสายสีเเดง (ช่วงบางซื่อ-รังสิต) ตอนนี้โครงสร้าง และระบบอาณัติสัญญาณ คาดว่าเสร็จในปี 63 และพร้อมเปิดทดลองใช้บริการช่วงปลายปี 63 (ฟรี!) และเริ่มเก็บค่าบริการในช่วงต้นปี 64
https://www.facebook.com/PropertyGURUThailand/photos/a.811258562271958/2453004731430658/?type=3&theater
https://www.checkraka.com/knowledge/บ้านโครงการใหม่-16-44/ข้อมูลความรู้/1714557/
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42623
Location: NECTEC

PostPosted: 28/08/2019 11:27 am    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
Mongwin wrote:
'คมนาคม'จำนนค่าโง่โฮปเวลล์ ศาลปัดฟื้นคดี ไม่พบหลักฐานใหม่ - เดินหน้าเจรจาลดจ่ายดอกเบี้ย
กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2562

ศาล ปค.ไม่รับคำร้องรื้อค่าโง่โฮปเวลล์ ชี้หลักฐานเก่า-โต้แย้งประเด็นดุลพินิจ
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 23 สิงหาคม พ.ศ. 2562 เวลา 16:15
ปรับปรุง: 23 สิงหาคม พ.ศ. 2562 เวลา 16:43


ไม่ช้าแต่รอหน่อย “ศักดิ์สยาม” แย้มอาจมีข่าวดีเจรจาสัมปทานทางด่วนวิ่งสู้ฟัดค่าโง่โฮปเวลล์
พร็อพเพอร์ตี้
วันที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2562 เวลา 08:55 น.

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานผลการประชุมของคณะทำงานแก้ไขปัญหาข้อพิพาททางด่วน เพื่อแก้ไขข้อพิพาทระหว่างการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) และ บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) ที่มีนายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม แต่อย่างใด ถ้าพบว่ามีการเสนอมาจะรีบตรวจสอบ แต่คาดว่าน่าจะมีข่าวดีแน่นอน

“หลักๆ ก็ดูทีโออาร์กับตัวเลขก่อนว่าถูกต้องหรือไม่อย่างไร ถ้าดูแล้วมีเหตุมีผลแล้วได้ข้อยุติ ก็จะมีการเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป ส่วนแนวทางพิจารณา 3 ข้อยังไม่เห็น แต่ตนมีทีมงานช่วยตรวจสอบเรื่องนี้แน่นอน ไม่ช้ารับรองได้” นายศักดิ์สยามกล่าว

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับ 3 แนวทางที่คณะทำงานเสนอ แนวทางแรกยืนตามมติคณะกรรมการ (บอร์ด) กทพ.จะขยายสัมปทานใน 3 โครงการออกไป 30 ปี ได้แก่ ทางด่วนขั้นที่ 2 (A, B, C) ทางด่วนขั้นที่ 2 ส่วน D และทางด่วนบางปะอิน-ปากเกร็ด เพื่อยุติข้อพิพาททั้งหมด และปรับค่าผ่านทาง 10 บาท ทุก 10 ปี ลงทุนสร้าง Double Deck (ทางด่วนชั้นที่ 2) วงเงิน 31,000 ล้านบาท แก้การจราจรจากด่านประชาชื่น-อโศก ระยะทาง 17 กม.

ขณะที่การเซ็นสัญญาแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนที่ 1 เพื่อยุติข้อพิพาททั้งหมดจะขยายสัญญา 3 ทางด่วนจนถึง ต.ค.2578 พร้อมกัน และส่วนที่ 2 จะลงนามต่อเมื่อการก่อสร้าง Double Deck ได้รับอนุมัติรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจะขยายสัญญาทั้ง 3 โครงการออกไปจนครบ 30 ปี

แนวทางที่ 2 ยกเลิกโครงการ Double Deck และลดอายุสัมปทานเหลือ 20ปี และแนวทางที่ 3 สู้คดีต่อ ส่วนการปรับค่าผ่าน 5-10 บาท ทางผู้บริหาร BEM ขอไว้เจรจาภายหลังเนื่องจากการเจรจาเดินหน้ามาไกลแล้ว ถ้านำมาพิจารณาด้วยจะต้องเริ่มใหม่ทั้งหมดรวมถึงการร่างสัญญาใหม่ด้วย

ส่วนความคืบหน้าคดีโฮปเวลล์ นายศักดิ์สยามกล่าวว่าได้สั่งการตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาสู้คดีความ มีนายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน รองปลัดกระทรวงด้านโครงสร้างพื้นฐานเป็นประธาน และให้เอาคณะทำงานที่เคยชนะคดีข้อพิพาทกรณีค่าผ่านทางพิเศษบูรพาวิถี (ทางด่วนสายบางนา-ชลบุรี) มาช่วยดำเนินการด้วย โดยให้ทำตารางเวลาการทำงานให้ดี เพราะตามคำพิพาทษาของศาลปกครองสูงสุดกำหนดกรอบเวลาจ่ายค่าชดเชยไว้ถึงวันที่ 19 ต.ค.นี้ ต้องทำให้เสร็จก่อนวันดังกล่าว และให้ดูเรื่องการร่างสัญญาที่อาจจะไม่สุจริตหรือไม่ ก็คาดว่าจะนำประเด็นนี้มาสู้คดีทางอาญา

“ต้องสู้ให้ถึงที่สุด แต่หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงก็พร้อมดำเนินการตามศาลตัดสิน โดยจะทำคู่ขนานไปกับการหาเงินชดเชยตามคำพิพากษาด้วย เผื่อกรณีเปลี่ยนแปลงคำตัดสินไม่ได้ และในวันพฤหัสบดีนี้ (29 ส.ค.) เวลา 13.00 น. จะเชิญตัวแทนจากสำนักงานอัยการสูงสุดมาหารือถึงการสู้คดีด้วย” นายศักดิ์สยามระบุ
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44320
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 28/08/2019 11:55 am    Post subject: Reply with quote

ปิดจ็อบ 12 ปี 'สายสีแดง'
ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2562

รัฐถมเพิ่ม 1.3 หมื่นล้าน-อุดขาดทุน 5 ปี

เป็นรถไฟฟ้าอีก 1 สายทางที่คนกรุงเทพฯและปริมณฑลตั้งตารอกันมานาน สำหรับรถไฟชานเมืองสาย สีแดงช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน และบางซื่อรังสิตของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ที่ได้รับการอนุมัติจาก "ครม.คณะรัฐมนตรี" ตั้งแต่ 22 พ.ค. 2550 จนถึงวันนี้เป็นเวลาเกือบ 12 ปีแล้ว ที่รอวันเปิดหวูดใช้บริการ

ปลายปี'63 ทดลองเดินรถ

แม้ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ระยะทาง 15 กม. วงเงินก่อสร้าง 8,749 ล้านบาท จะสร้างเสร็จตั้งแต่ปี 2555 แต่การเปิดบริการต้องรอช่วงบางซื่อ-รังสิต พร้อมเปิดในเดือน ม.ค. 2564 ขณะนี้ ร.ฟ.ท.เตรียมของบฯกว่า 140 ล้านบาท บูรณะโครงสร้างรอรับระบบรถไฟ ไม่ว่าตอม่อ สถานี ลิฟต์ บันไดเลื่อนที่ทรุดโทรม

หลังนำไปผูกไว้กับงานสัญญาที่ 3 ช่วงบางซื่อ-รังสิต ที่มีกิจการร่วมค้า MHSC (บริษัท MITSUBISHI Heavy Industrial Ltd. บริษัท Hitachi และ บริษัท Sumitomo Corporation) เป็นคู่สัญญา วงเงิน 32,399.99 ล้านบาท โดยรถขบวนแรกจะเดินทางจากญี่ปุ่นมาถึงประเทศไทยในเดือน ต.ค.นี้ จากนั้น ปลายปีนี้ถึงปี 2563 จะนำขบวนรถมาทดสอบระบบ เนื่องจากจะต้องมีการทดสอบระบบเสมือนจริงอย่างน้อย 6 เดือนถึงจะเปิดให้บริการได้ คาดว่าจะเปิดทดลองเดินรถปลายปี 2563 และเปิดบริการอย่างเป็นทางการในเดือน ม.ค. 2564 ขอ ครม.เพิ่มงบฯ 9.6 พันล้าน

กว่าจะไปถึงวันนั้น ตอนนี้ ร.ฟ.ท.กำลังมึนกับค่าก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นประมาณ 9,600 ล้านบาท ที่จะต้องขอขยายกรอบวงเงินกู้เพิ่มจาก ครม. ซึ่งสำนักบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) สั่งให้กระทรวงคมนาคมรีวิวแต่ละรายการอีกรอบ

แหล่งข่าวจาก ร.ฟ.ท. กล่าวว่า วงเงินที่ขอเพิ่มเป็นกรอบที่ตั้งไว้ แต่เมื่อถึงเวลาเบิกจริงอาจจะ ไม่ถึงก็ได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างทำรายละเอียดที่ชัดเจน มีหลายสาเหตุ เช่น ปรับแบบสร้างรางเพิ่มจาก 3 ราง เป็น 4 ราง ผู้รับเหมาขอค่าชดเชยขยายเวลา ภาษีนำเข้ารถ เป็นต้น มากที่สุดเป็นงานสัญญาที่ 1 งานสถานีกลางบางซื่อ และศูนย์ซ่อมบำรุงของกลุ่มกิจการร่วมค้า SU (บมจ. ซิโน-ไทยฯ และ บมจ.ยูนิคฯ) ที่ขอขยายเวลาก่อสร้างถึง ก.พ. 2563 เพราะมีงานเพิ่มโดยขอค่าชดเชย 4,600 ล้านบาท

สัญญาที่ 2 งานโครงสร้างทางวิ่งยกระดับและระดับพื้น งานสถานี 8 แห่ง และถนนเลียบทางรถไฟ ถนนทางข้ามทาง บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ ผู้รับเหมาก่อสร้างขอขยายถึงเดือน ต.ค.นี้ เพราะติดสร้างสกายวอล์ก

และสัญญาที่ 3 ระบบไฟฟ้าและเครื่องกล ตามสัญญาจะเสร็จวันที่ 6 มิ.ย. 2563 เนื่องจากมีเรื่องภาษีม ซึ่งที่ปรึกษาไม่คิดไว้แต่แรกเพราะคิดว่าไม่จำเป็น ขณะที่กฎขององค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (ไจก้า) ที่ปล่อยกู้ให้กับสายสีแดงไม่ให้นำเงินที่ให้กู้ไปจ่ายภาษี อยู่ระหว่างหารือกระทรวงการคลังจะนำเงินจากไหนมาจ่าย เช่น งบประมาณ หรือเงินกู้ประเทศ

"ก.ย.ต้องส่งให้คมนาคมและ ครม.พิจารณา หากได้รับอนุมัติเท่ากับโครงการของบฯเพิ่ม 5 ครั้ง เป็นทั้งโครงการจะใช้เงินก่อสร้าง 104,222 ล้านบาท จากปัจจุบันอยู่ที่ 95,222 ล้านบาท" แหล่งข่าวกล่าว

ศักดิ์สยามสั่งศึกษา PPP

ขณะที่งานก่อสร้างกำลังนับถอยหลังปิดจ็อบ ในส่วนของการเดินรถล่าสุด "ศักดิ์สยาม ชิดชอบ" เจ้ากระทรวงคนใหม่ จากพรรคภูมิใจไทย ขายไอเดียให้ ร.ฟ.ท. ศึกษาเปรียบเทียบระหว่างให้บริษัทลูกบริหารเองกับนำโครงการเปิดประมูล PPP ให้เอกชนร่วมลงทุนรูปแบบไหนจะทำให้โครงการมีประสิทธิภาพมากกว่ากัน และไม่เป็นภาระงบประมาณของรัฐ

"ให้เวลา 2 เดือนให้ ร.ฟ.ท.เร่งสรุปข้อเปรียบเทียบ ผมเกรงว่าสายสีแดงจะเกิดปัญหาซ้ำรอยเหมือนแอร์พอร์ตเรลลิงก์ที่รัฐต้องอุดหนุนโครงการมาตลอด ตอนนี้งบประมาณรัฐมีจำกัด หากให้เอกชนเข้ามาบริหารในรูปแบบ PPP โดยคำนวณการลงทุนจากส่วนที่รัฐได้ลงทุนไป เช่น ค่าก่อสร้าง ระบบรถไฟฟ้า ให้เอกชนเข้ามารับบริหารโครงการและแบ่งรายได้ให้รัฐ คิดค่าโดยสารที่เป็นธรรม ให้นำข้อมูล ตัวเลขแต่ละแนวทางมาเปรียบเทียบ"

เป็นแนวคิดใหม่ที่แทรกขึ้นมา แม้ว่าจะเตรียมวางผู้ที่จะมาบริหารจัดการโครงการไว้แล้ว โดยที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ (คนร.) เห็นชอบให้บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.) บริษัทลูก ร.ฟ.ท.บริหารการเดินรถและซ่อมบำรุงรถไฟชานเมืองสายสีแดงทั้งระบบหลังโอนแอร์พอร์ตเรลลิงก์ให้ ซี.พี.ที่ชนะประมูลรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน รับช่วงบริหารต่อ

นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงได้หารือการจัดตั้งบริษัทลูกเพื่อเดินรถสายสีแดง เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยก่อนเสนอ ครม.อนุมัติกรอบวงเงินเริ่มต้นโครงการในช่วง 5 ปีแรก วงเงิน 3,311 ล้านบาท

เปิดปีแรกคนนั่งไม่ถึง 8 หมื่น

ปีแรกที่เปิดบริการในปี 2564 จะขอให้ก่อน 980 ล้านบาท เพื่อใช้จ่ายในส่วนของค่าอะไหล่และชดเชยการขาดทุน ซึ่งประเมินว่าในปีแรกที่เปิดให้บริการจะขาดทุน 300 ล้านบาท มาจากจำนวนผู้โดยสารใช้บริการไม่ถึงยอดที่ตั้งไว้ 80,000 เที่ยวคน/วัน และค่าจ้างพนักงานที่ต้องมีเพิ่มขึ้น 806 คนส่วนปีที่ 2-5 ยังไม่กำหนด

ด้านการหารายได้ นอกจากค่าโดยสารจะมีบริหารพื้นที่สถานีเชิงพาณิชย์ จะอนุมัติให้ดำเนินการได้ทุกสถานียกเว้นสถานีบางซื่อ และสถานีดอนเมือง เนื่องจากบางซื่ออยู่ในขอบข่ายการดูแลรวมของสถานีกลางบางซื่อ ส่วนดอนเมืองต้องไปกำหนดส่วนชานชาลาร่วมกับรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินเพราะมีบางส่วนคาบเกี่ยวกันอยู่ นอกจากนี้ ยังให้อำนาจบริหารแบบอิสระและเป็นรูปแบบ net cost (จัดเก็บรายได้) ไม่รับจ้างเดินรถเหมือนแอร์พอร์ตเรลลิงก์ เพื่อเกิดความคล่องตัวและเลี้ยงตัวเองได้

สายสีแดงกำไรปีที่ 16

เมื่อย้อนดูข้อมูลแผนการเงินและรายได้ ของสายสีแดง พบว่าเงินทุนหมุนเวียนที่ขอ ครม. 3,311 ล้านบาท ส่วนหนึ่งนำมาจัดซื้ออะไหล่เริ่มต้น 2,164 ล้านบาท ที่เหลือเป็นกระแสเงินสดใช้ดำเนินงานทั้งก่อนและหลังเปิด เช่น การตลาด ประชาสัมพันธ์ จ้างพนักงานชั่วคราวในช่วงระยะเปลี่ยนผ่านเร่งด่วน

ในระยะเวลา 30 ปี จะมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (EBITDA) เป็นบวกในปีที่ 11 คาดว่าจะมีกำไรสุทธิเป็นบวกในปีที่ 16 โดยปี 2564 เปิดบริการปีแรกจะมีรายได้จากการดำเนินงาน 1,019 ล้านบาท

ชง ครม.เห็นชอบ ก.ย.

ด้านนายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า คาดว่าในเดือน ก.ย.กระทรวงคมนาคมจะเสนอเรื่องการเพิ่มภารกิจบริษัทให้เดินรถสายสีแดงเข้าสู่ที่ประชุม ครม.พิจารณา หากได้รับอนุมัติจะดำเนินการตามแผนทันที

กรอบวงเงิน 3,311 ล้านบาท ลดจากเดิม 3,400 ล้านบาท ตัดรายการที่ไม่จำเป็นบางส่วนออกไป มี ร.ฟ.ท.เป็นผู้ของบประมาณกับสำนักงบประมาณ ส่วนการชำระหนี้ ร.ฟ.ท.จะเป็นผู้ชำระเงินต้น ส่วนบริษัทจะเป็นผู้จ่ายดอกเบี้ย

เปิดให้บริการปี2564 จะได้รับ 938 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าอะไหล่และงานซ่อมบำรุง 600 ล้านบาท อีก 338 ล้านบาท จะใช้ในการทำให้กำไรจากการดำเนินกิจการ (EBITDA) ไม่ติดลบ ส่วนปีอื่น ๆ อีก 4 ปียังต้องรอพิจารณาหลังเปิดก่อน

"การบริหารกิจการจะเปลี่ยนไป จากเดิมที่เดินรถให้แอร์พอร์ตเรลลิงก์ ร.ฟ.ท.เป็นผู้จ้างเราเดินรถเหมือนสายสีม่วง อาจจะเรียกว่าเป็นแบบ gross cross ก็จะเปลี่ยนเป็น net cross แทน โดยเราเป็นผู้บริหารสายสีแดงเองทั้งระบบ แล้วจ่ายผลตอบแทนให้ ร.ฟ.ท.กลับไปให้ แต่ยังอยู่ระหว่างตกลงกันจะคิดสูตรหารายได้ส่งให้ ร.ฟ.ท.อย่างไร"

สำหรับพนักงานที่ได้รับอนุมัติ 806 คน ถือว่าเพียงพอกับการเดินรถ สายสีแดง ส่วนอัตรากำลังที่ขอไว้ 1,300 คนเผื่อช่วงเปลี่ยนถ่ายระบบจากแอร์พอร์ตเรลลิงก์ ก็ให้จ้างพนักงานแบบชั่วคราว (outsource) ไปก่อน โดยจะจัดหาทั้ง 1,300 คนให้ได้ก่อนเดือน ส.ค. 2563 ที่คาดหมายว่าจะเริ่มทดสอบระบบสายสีแดง

ภาระหนักเดินรถ 2 ระบบ

หากการส่งมอบแอร์พอร์ตเรลลิงก์ไม่เป็นตามนัด นายสุเทพระบุว่า ช่วงเปลี่ยนถ่ายระบบจากแอร์พอร์ตเรลลิงก์มาสายสีแดงมีความกังวลระยะเวลาต้องเดินรถทั้ง 2 ระบบ เพราะรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินยังไม่เซ็นสัญญากับ ซี.พี. จะทำให้ระยะเวลาเดินรถแอร์พอร์ตเรลลิงก์และสายสีแดงยาวขึ้นอย่างน้อย 9 เดือน

โดยคำนวณจากวันกำหนดเปิดใช้สายสีแดงในเดือน ม.ค. 2564 กับคาดคะเน ว่าหากเซ็นสัญญารถไฟความเร็วสูงได้ในเดือน ก.ย.นี้ กำหนดเวลาส่งมอบสิทธิการบริหารแอร์พอร์ตเรลลิงก์จะอยู่ที่เดือน ก.ย. 2564 แต่ถ้ายังไม่มีวัน เวลาที่แน่นอนคาดว่าอาจจะต้องเดินรถทั้ง 2 ระบบนานถึง 1 ปี
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42623
Location: NECTEC

PostPosted: 30/08/2019 2:28 am    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
ปิดจ็อบ 12 ปี 'สายสีแดง'
ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2562


ลิงก์มาแล้วครับ

https://www.prachachat.net/property/news-365809
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42623
Location: NECTEC

PostPosted: 04/09/2019 11:13 am    Post subject: Reply with quote

“ศักดิ์สยาม” ไม่ยอมขายหน้า ขุดทุจริตสู้คดีค่าโง่โฮปเวลล์
ไทยรัฐฉบับพิมพ์
พุธที่ 4 กันยายน 2562 เวลา 08:40 น.




ค้นปมเจ้าหน้าที่รัฐทุจริต หวังใช้เป็นประเด็นหลักขออุทธรณ์คดีค่าโง่โฮปเวลล์ ให้ศาลรื้อคดีพิจารณาใหม่ “ศักดิ์สยาม” สั่งสู้ยิบตา ไม่อยากจ่ายค่าโง่ในสมัยนั่งเป็นรัฐมนตรีว่าการ ดึง กรณีศึกษาเทียบเคียงคดีบูรพาวิถี ที่สุดท้ายไม่ต้องจ่ายค่าโง่ให้เอกชน หลังพบเจ้าหน้าที่รัฐเอื้อประโยชน์บริษัทต่างชาติ

นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยในฐานะประธานคณะทำงานศึกษาแนวทางแก้ปัญหาความเสียหายของรัฐ ในโครงการระบบการขนส่งทางรถไฟยกระดับในกรุงเทพมหานคร (โฮปเวลล์) และโครงการสายบางปะอิน-ปากเกร็ด ว่า การประชุมครั้งนี้ได้หารือเฉพาะกรณีคดีโฮปเวลล์ เพราะกระทรวงคมนาคมอยู่ระหว่างทำงานร่วมกับสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อพิจารณาข้อมูลเพิ่มเติมในการอุทธรณ์เพื่อให้ศาลรับคำร้องเพื่อรื้อคดีมาพิจารณาใหม่ โดยจะต้องหารือให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพราะจะสิ้นสุดกรอบเวลายื่นอุทธรณ์ในวันที่ 20 ก.ย.นี้

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 22 เม.ย.2562 ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษาให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ต้องชดใช้ค่าเสียหายกับ บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด กรณีถูกบอกเลิกสัญญาอย่างไม่เป็นธรรม วงเงิน 11,888.75 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี โดยจะต้องจ่ายค่าเสียหายให้แล้วเสร็จภายใน 180 วัน นับตั้งแต่คดีสิ้นสุด โดยตามกำหนดดังกล่าว ร.ฟ.ท.จะต้องจ่ายค่าเสียหายไม่เกินเดือน ต.ค.นี้

โดยต่อกรณีดังกล่าวนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ซึ่งเพิ่งเข้ามารับตำแหน่งใหม่ ได้กำหนดนโยบายไว้ว่าให้หาทางสู้ โดยหวังไม่ต้องจ่ายค่าโง่โฮปเวลล์ในสมัยที่ตนนั่งเป็นรัฐมนตรีว่าการ

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า การประชุมกรณีสู้คดีโฮปเวลล์ครั้งนี้ คณะทำงาน ได้พิจารณารายละเอียดของผลการตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานตามคำสั่งสำนักงานนายกรัฐมนตรี ที่ 143/2561 ลงวันที่ 20 มิ.ย.2562 นำเสนอโดยผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.)

นอกจากนั้นที่ประชุมยังมีการหยิบยกประเด็นทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐ จากการทำสัญญาที่เหมือนเลินเล่อ ทำให้รัฐเสียผลประโยชน์มาพิจารณา เพราะอาจทำให้เป็นโอกาสในการสู้คดีอีกครั้ง โดยคณะทำงานอ้างอิงความน่าจะเป็นดังกล่าว จากกรณีทางด่วนบูรพาวิถี ที่มีการรื้อรายละเอียดของสัญญาตั้งแต่ต้น เพื่อให้เห็นภาพทั้งหมดว่าเกิดพยานแวดล้อมอะไรขึ้น จนสุดท้ายทำให้ศาลเชื่อได้ว่า เรื่องดังกล่าวต้องกลับเข้าสู่กระบวนการศาลยุติธรรมใหม่

ทั้งนี้ หากพบข้อมูลว่าการทำสัญญาดังกล่าว เกิดขึ้นจากความตั้งใจหรือเสมือนเลินเล่อให้รัฐเสียประโยชน์โดยเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วน เป็นการตรวจสอบสภาพแวดล้อมทั้งหมดของโครงการ เช่น สัญญาใครเป็นคนร่าง แล้วทำไมจึงมีจำนวนแค่ 8 แผ่น เรื่องการปรับปรุงสัญญา การกำหนดเวลาสิ้นสุด หรือพิรุธต่างๆ ซึ่งถ้ารื้อข้อมูลทั้งหมดมาดูอย่างละเอียด จะสามารถชี้ให้ศาลเห็นได้ว่าเป็นการทุจริตโดยมิชอบ

โดยในกรณีบูรพาวิถี ที่คณะทำงาน ต้องการนำมาเป็นรูปแบบในการต่อสู้คดีโฮปเวลล์นั้น พบว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเริ่มจากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ถูกฟ้อง จากบริษัทต่างชาติขอเรียกค่าเสียหายประมาณ 8,000 ล้านบาท และอนุญาโตตุลาการมีคำวินิจฉัยให้ กทพ.จ่าย แต่ กทพ.ไม่ยอมจ่าย เอกชนจึงนำเรื่องเข้าสู่กระบวนการศาล ปรากฏศาลแพ่งชั้นต้น (ยังไม่มีศาลปกครอง) พิพากษาให้ กทพ.ต้องจ่ายค่าเสียหายประมาณ 10,000 ล้านบาท ต่อมาอัยการจึงตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าวขึ้นมา ในคราวแรกได้มีแนวทางที่จะชดใช้เงินแก่เอกชน เพราะคำนึงถึงดอกเบี้ยที่จะเพิ่มขึ้นในแต่ละวัน แต่ทางคณะทำงานไม่เห็นด้วย เนื่องจากถ้าจ่ายในเวลานั้น กทพ.ต้องกู้เงินมาจ่ายและต้องเสียดอกเบี้ย รวมทั้งยังมองว่าหากสู้คดีต่อไปในชั้นศาลฎีกา อาจมีโอกาสชนะ

หลังจากนั้นจึงมีการรวบรวมข้อมูล ตรวจสอบคุณสมบัติของอนุญาโตตุลาการแล้วพบว่า มีเจ้าหน้าที่ของรัฐหลายรายกระทำการเอื้อประโยชน์ให้แก่บริษัทต่างชาติ คณะทำงานจึงได้นำข้อมูลดังกล่าวเสนอต่อศาล ศาลจึงมีคำพิพากษายกฟ้องในที่สุด.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42623
Location: NECTEC

PostPosted: 09/09/2019 5:17 pm    Post subject: Reply with quote



งานวางรางรถไฟฟ้าสายสีแดง
https://www.youtube.com/watch?v=sdTF-PL1Azo
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42623
Location: NECTEC

PostPosted: 11/09/2019 10:43 am    Post subject: Reply with quote

ฮึดสู้ ค่าโง่โฮปเวลล์ ยึดโมเดลด่วนบูรพาวิถี
ออนไลน์เมื่อ 10 กันยายน 2562
ตีพิมพ์ใน หน้า 12
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
ฉบับ 3503 ระหว่างวันที่ 5 - 7 กันยายน 2562

เมื่อกล่าวย้อนไปถึงคดีที่ถูกขีดเส้นใต้ว่าเป็น “ค่าโง่” อีกหนึ่งคดีนอกจากโฮปเวลล์ในขณะนี้ เชื่อว่าทุกคนต้องนึกถึง คดีค่าโง่ทางด่วนบูรพาวิถี (บางนา-ชลบุรี) ปมข้อพิพาท ระหว่างการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กับ “ช.การช่าง” ที่ต่อสู้มาอย่างยาวนานถึง 16 ปี ซึ่งบทสรุปของคดี ศาลฎีกาพิพากษาให้ กทพ. ชนะคดีโดยศาลให้เหตุผลว่าการทำสัญญาก่อสร้างทางด่วนสายบางนา-ชลบุรี เกิดจากกระทำโดยไม่สุจริต


ล่าสุดนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลั่นไม่ยอมแพ้ โดยได้มอบหมายให้ นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน รองปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานคณะทำงานชุดนี้ลุยเต็มที่ โดยได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม อาทิ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ซึ่งคณะทำงานฯ ชุดนี้มีผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการสู้คดีทางด่วนบูรพาวิถีแล้วชนะ แต่อย่าลืมว่า คดีค่าโง่ทางด่วนบูรพาวิถีเป็นศาลยุติธรรม แต่ข้อพิพาทนี้มีศาลปกครองทำให้กระบวนการต้องไปที่ศาลปกครอง



อย่างไรก็ดี จากการเรียบเรียงเคียงถาม นายวรวุฒิ มาลา รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เผยว่า ทาง รฟท.ได้ส่งทีมนักกฎหมายที่มีความเชี่ยวชาญเข้าร่วมประชุมกับทางกระทรวง โดยนัยสำคัญคือหาข้อมูลเพิ่มเติม และตรวจสอบคู่สัญญาเพื่อช่วยในการสู้คดีครั้งนี้ อย่างไรก็ตามตนมองว่ายังมีโอกาสแต่ระหว่างนี้ต้องสืบค้นข้อมูลอย่างละเอียดเพื่อให้ทันตามกรอบเวลา 180 วัน

พร้อมกันนี้ในแง่ของความพร้อมอื่นๆ เช่น ข้อมูลของบริษัทโฮปเวลล์ฯได้มาครบแล้ว มีการแปลภาษาคู่สัญญาให้เป็นภาษาไทย รวมทั้งเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน และเมื่อชุดทำงานพิจารณาอย่างครบถ้วน หากพบว่าโครงการดังกล่าวมีประเด็นการทุจริตจะยื่นฟ้องตัวบุคคลต่อศาลฎีกา แบบเดียวกับคดีค่าโง่ทางด่วนบูรพาวิถี แต่ถ้าสุดท้ายไม่พบเจอการทุจริตก็จะเดินหน้าปฏิบัติตามคำสั่งศาล คือการรถไฟฯต้องจ่ายเงินชดเชยประมาณ 25,000 ล้านบาทภายใน 180 วัน หรือครบกำหนดประมาณตุลาคม 2562



ถือได้ว่าการรุกครั้งนี้ของกระทรวงคมนาคม คือการไม่ปิดประตูยอมแพ้แต่จะสู้ให้ถึงที่สุดเสมือนดั่งอีกหนึ่งลมหายใจที่ยังมีหวัง ซึ่งนอกจากจะต้องควานหาข้อทุจริตแล้วยังต้องเร่งทำให้ทันกับกรอบเวลา โดยจะต้องส่งคืนอัยการสูงสุดในวันที่ 11 กันยายน 2562 เพื่อให้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดภายในวันที่ 20 กันยายน 2562 เพราะคำสั่งศาลให้ชำระค่าชดเชยภายในวันที่ 19 ตุลาคม 2562 อีกหนึ่งมหากาพย์ค่าโง่ที่น่าติดตามตอนจบว่าใครจะ End Game
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42623
Location: NECTEC

PostPosted: 13/09/2019 1:06 pm    Post subject: Reply with quote

นายกฯจี้คมนาคมยื่นอุทธรณ์คดีโฮปเวลล์ให้ทัน 20 ก.ย.
เศรษฐกิจ
พุธที่ 11 กันยายน 2562

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุ ได้สั่งให้กระทรวงคมนาคมรวบรวมข้อมูลหลักฐาน เพื่อยื่นอุทธรณ์ศาลปกครองสูงสุดในคดีโฮปเวลล์ให้ทันภายในวันที่ 20 กันยายนนี้ หลังจากศาลปกครองกลางมีคำสั่งไม่รับคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ ขณะเดียวกันจะต้องเจรจากับเอกชนควบคู่กันไป
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42623
Location: NECTEC

PostPosted: 18/09/2019 2:36 am    Post subject: Reply with quote

“คมนาคม” ลุ้นศาลปกครองรับคำร้องคดีโฮปเวลล์20 ก.ย. “ศักดิ์สยาม” รื้อมติครม.สางสัมปทานทางด่วน
วันที่ 17 กันยายน 2562 - 17:38 น.

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ได้ส่งหลักฐานใหม่และหนังสือมอบอำนาจที่จะขอรื้อฟื้นคดีโฮปเวลล์กับทางสำนักงานอัยการสูงสุดไปวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว ดังนั้น ขั้นตอนหลังจากนี้ก็ต้องรออัยการสูงสุดยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด ซึ่งมีกำหนดต้องยื่นภายในวันที่ 20 ก.ย.นี้ ส่วนหลักฐานใหม่ที่ว่าเป็นอะไร ไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะมีผลต่อรูปคดี


ส่วนคณะทำงานการเจรจาค่าเสียหายที่มีนายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน รองปลัดกระทรวงคมนาคมด้านโครงสร้างพื้นฐานเป็นประธาน ก็ยังทำงานต่อ แต่อย่างไรก็ตาม ต้องรอผลการวินิจฉัยของศาลปกครองสูงสุดในวันที่ 20 ก.ย.นี้ก่อนว่าจะรับหรือไม่รับพิจารณา


ขณะที่การดำเนินการเรื่องการยุติข้อพิพาทกรณีสัมปทานทางด่วนกับ บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) หลังจากที่ประชุมสภามีมติเห็นชอบผลการศึกษาของคณะกรรมาธิการให้ต่อสัญญาออกไป 30 ปีตามเงื่อนไขเดิมนั้น

ตอนนี้ได้สั่งการไปยังการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ให้รวบรวมข้อมูลและทำหนังสือขึ้นมาที่กระทรวง เพื่อที่กระทรวงจะเสนอในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัปดาห์หน้า ขอเสนอทบทวนมติครม. 20 ต.ค. 2561 ที่ไม่ได้ให้อำนาจกระทรวงดำเนินการในเรื่องนี้โดยตรง

โดยกำหนดให้กทพ.ทำหนังสือเสนอมาภายในวันที่20 ก.ย.นี้ ซึ่งเป็นสิงที่ต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน เนื่องจากในช่วงปลายเดือนก.ย.นี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีกำหนดเดินทางไปต่างประเทศ
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 68, 69, 70 ... 147, 148, 149  Next
Page 69 of 149

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©