View previous topic :: View next topic
Author
Message
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42744
Location: NECTEC
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44627
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 13/09/2019 6:30 pm Post subject:
ครั้งแรก! Seibu Railway รถไฟหัวกระสุนญี่ปุ่น คอนเซ็ปต์ สบายเหมือนห้องนั่งเล่น
ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 13 September 2019 - 11:32 น.
ญี่ปุ่น นอกจากจะเป็นประเทศแห่งนวัตกรรม ยังโดดเด่นในด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่แสดงความเข้าอกเข้าใจผู้ใช้อย่างมาก ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า เรื่องรักๆ ใคร่ๆ ของชาวญี่ปุ่น หนึ่งในนั้นต้องมี รถไฟความเร็วสูง ซึ่งเป็นหนึ่งในการคมนาคมที่ได้รับความนิยมสูงสุดทั้งจากชาวญี่ปุ่น และชาวต่างชาติ
ล่าสุด สถาปนิกชาวญี่ปุ่น คาซุโยะ เซจิมะ ผู้ชนะรางวัลพริตซ์เกอร์ (Pritzker Prize) เป็นรางวัลประจำปีที่มูลนิธิไฮแอตต์ (Hyatt) มอบให้กับสถาปนิกผู้ที่มีความคิดสร้างสรรค์ โดยเขาได้ออกแบบรถไฟหัวกระสุน หรือ รถไฟความเร็วสูงโดยใช้ชื่อผลงานว่า Laview ซึ่งเป็นคอนเซ็ปต์ สบายๆ เหมือนนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น
ทั้งนี้ รถไฟเซบุ (Seibu Railway) ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับนักท่องเที่ยว โดยเปิดให้บริการในโตเกียว เมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ความโดดเด่นของรถไฟขบวนนี้ คือ มีการตกแต่งภายนอกด้วยแสงสะท้อนสีเงินซึ่งออกแบบมาเพื่อให้กลมกลืนกับภูมิประเทศ
ขณะที่การตกแต่งภายในขบวน เน้นที่สีเหลืองอ่อน เก้าอี้ที่นั่งมีขนาดใหญ่ขึ้น และสามารถปรับพนักเก้าอี้ได้ ซึ่งจะให้ความรู้สึกเหมือนนั่งบนโซฟาในห้องนั่งเล่น ส่วนตัวกระจกออกแบบให้มีความโค้งรับสายตา และบานใหญ่กว่าเดิม เพื่อให้ผู้โดยสารเพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์ตลอดข้างทาง
สำหรับแสงไฟที่ตกแต่งภายในขบวน จะให้ความรู้สึกนุ่มนวลและถนอมสายตา เพื่อสร้างบรรยากาศที่สงบเงียบให้กับผู้โดยสารตลอดการเดินทาง โดยภายในขบวนจะมีที่นั่งสำรองทั้งหมด 422 ที่นั่ง และวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดที่ 120 กม./ชม.
ทั้งนี้ นายเซจิมะ สถาปนิกผู้ออกแบบขบวนรถไฟนี้ กล่าวว่า เป็นครั้งแรกที่ผมได้ออกแบบรถไฟความเร็วสูงของญี่ปุ่น ด้วยแรงจูงใจที่จะกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวหรือผู้ที่ใช้บริการรู้สึกสนุกและผ่อนคลายในระหว่างการเดินทาง ซึ่งในระยะยาวผมเชื่อว่า รถไฟขบวนดังกล่าวนี้จะเป็นต้นแบบ หรือแหล่งกำเนิดไอเดียต่างๆ ให้กับการออกแบบรถไฟขบวนใหม่ๆ ในอนาคต ทั้งยังเป็นการช่วยให้เกิดความคึกคักในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นด้วย
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44627
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 26/09/2019 5:24 pm Post subject:
6 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ "โทโฮคุ" ธรรมชาติเนรมิต งดงามราวภาพฝัน
Source - MGR Online
Thursday, September 26, 2019 16:44
โดย : ปิ่น บุตรี (pinn109@hotmail.com)
Facebook Travel Unlimited / เที่ยวถึงไหนถึงกัน
โทโฮคุ (Tohoku) เป็นภูมิภาคที่อยู่ทางเหนือของเกาะฮอนชู (Honshu) ประเทศญี่ปุ่น ประกอบด้วย 6 จังหวัด ได้แก่ อาโอโมริ (Aomori), อาคิตะ (Akita), อิวาเตะ (Iwate), มิยางิ (Miyagi), ยามากาตะ (Yamagata) และจังหวัดฟุกุชิมะ (Fukushima)
ภูมิภาคโทโฮคุมีภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็น ภูเขาสูง ปกคลุมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นเทือกเขาชิราคามิ (Shirakami) ที่มีความอุดมสมบูรณ์จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ
ขณะที่ลักษณะทางกายภาพของบ้านเมืองยังมีความเป็นชนบท เต็มเปี่ยมไปด้วยวิวทิวทัศน์อันสวยงาม ทั้งทะเลสาบ น้ำตก ออนเซ็นตามธรรมชาติท่ามกลางหุบเขา
ภูมิภาคโทโฮคุเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง (ก.ย.-พ.ย.) จะดูงดงามน่าตื่นตาตื่นใจไปด้วยสีสันอันหลากหลายของใบไม้ส่วนใหญ่ ที่จะทยอยเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีเหลือง ส้ม แดง และน้ำตาล ไปจนก่อนจะค่อยร่วงหล่นจนหมด
ช่วงเวลานี้หลายคนต่างนิยมเรียกว่า ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ซึ่งภูมิภาคโทโฮคุเป็นหนึ่งในดินแดนที่งดงามเลื่องชื่อในเรื่องฤดูใบไม้เปลี่ยนสีของประเทศญี่ปุ่น โดยใบไม้ในแถบนี้จะเริ่มทยอยเปลี่ยนสีตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกันยายนเป็นต้นไป
สำหรับไฮไลท์ในการเที่ยวชมวิวทิวทัศน์ของใบไม้เปลี่ยนแสนงามใน 6 จุดสำคัญของภูมิภาคโทโฮคุนั้นมีที่ไหนบ้าง ? ขอเชิญทัศนากันได้
1.ลำธารโออิราเสะ จังหวัดอาโอโมริ
โออิราเสะเป็นลำธารที่มีความยาว 14 กิโลเมตร มีต้นกำเนิดจากต้นน้ำเนะโนคุจิบนทะเลสาบโทวะดะ ทั้งสายน้ำและวิวทิวทัศน์สองข้างทางมีความสวยงามแตกต่างกันไปตลอดเส้นทาง ทำให้เหมาะแก่การเดินเล่นชมใบไม้เปลี่ยนสี
โออิราเสะได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีวิวทิวทัศน์สวยงามที่สุดของญี่ปุ่น และถูกจัดให้เป็นพื้นที่อนุรักษ์เนื่องจากมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ไม่ไกลกันยังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ อาทิ หมู่บ้านออนเซ็น ทะเลสาบโทวาดะ และเทือกเขาฮักโกดะ
ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การมาชมใบไม้เปลี่ยนสีคือปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน โดยมีพรรณไม้ได้แก่ ใบคัทซึระ ใบบุนะ ใบเกาลัดม้าญี่ปุ่น และใบเมเปิ้ล โดยจุดหลักๆ ที่สามารถเดินชมใบไม้เปลี่ยนสี ได้แก่ ลำธารอิชิเกะโดะ น้ำตกโจชิโอะทากิ ลำธารอาชูระ และน้ำตกคุโมอิ
2.หุบเขาเกบิเค จังหวัดอิวาเตะ
เกบิเคเป็นหุบเขาหินปูนที่มีแม่น้ำไหลผ่านกลาง มีความยาวกว่า 2 กิโลเมตร สองข้างทางรายล้อมไปด้วยหน้าผาสูงกว่า 100 เมตร วิวทิวทัศน์ของเกบิเคสวยงามมากจนถูกจัดให้เป็นหนึ่งในร้อยสถานที่ที่มีทัศนียภาพสวยงามที่สุดของญี่ปุ่น
ในฤดูใบไม้ร่วงนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาล่องเรือชมสีสันความงามของใบไม้เปลี่ยนสี พร้อมชมประติมากรรมธรรมชาติของหน้าผาที่มีรูปร่างแปลกตา เช่น โชฟุกันหรือหินสามีหินภรรยาที่มีแม่น้ำคั่นกลาง ที่ดูคล้ายคนสองคนหันหน้าด้านข้างให้กัน หรือโอเกบิอิวะ ซึ่งเป็นหน้าผาขนาดใหญ่รูปร่างคล้ายจมูกสิงโต
ขณะที่ในส่วนของการล่องเรือ จะมีนายเรือใช้ไม้ไผ่เพียงลำเดียวถ่อเรือไปตามลำน้ำและร้องเพลงพื้นบ้านโบราณที่เรียกว่าเพลงเกบิโอยวาเกะ เสียงเพลงเรือจะก้องกังวานไปทั่วหุบเขาอันเงียบสงบ ทำให้ได้บรรยากาศสไตล์ญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของที่นี่
ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การมาชมใบไม้เปลี่ยนสีคือปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน โดยมีชนิดของพรรณไม้ คือ ใบเคยากิ ใบคาชิ ใบเมเปิ้ล
3.ที่ราบสูงฮาจิมันไต จังหวัดอาคิตะ-อิวาเตะ
ที่ราบสูงฮาจิมันไตมีพื้นที่กว้างใหญ่คาบเกี่ยวระหว่างจังหวัดอาคิตะและจังหวัดอิวาเตะ โดยเริ่มมีใบไม้เปลี่ยนสีให้ชมกันตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกันยายนเป็นต้นไป
บริเวณนี้นอกจากจะสามารถชมทิวทัศน์อันสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสีจากสองข้างทางระหว่างขับรถบนถนนสาย Aspite Line และ Jukai Line แล้ว อีกสถานที่ที่ไม่ควรพลาดคือก็เส้นทางศึกษาธรรมชาติโกะโชกาเคะที่สามารถชมวิวภูเขาไฟและเพลิดเพลินกับบรรยากาศเย็นสบายของบึงน้ำโอนุมะ
ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การมาชมใบไม้เปลี่ยนสีคือปลายเดือนกันยายนถึงต้นเดือนพฤศจิกายน ชนิดของพรรณไม้ ได้แก่ ใบดะเคะคัมบะ ใบนานะคามาโดะ ใบบุนะ ใบเมเปิ้ล ใบชิราคะบะ จุดที่สามารถชมใบไม้เปลี่ยนสี ได้แก่ จุดชมวิวยอดเขาฮะจิมันไต จุดชมวิวโอฟุกะซาวะ จุดชมวิวฟุเกะโนะยุ เส้นทางศึกษาธรรมชาติโอนุมะ และเส้นทางชมหุบเขายูเซะ
4.หุบเขานารุโกะ จังหวัดมิยางิ
หุบเขานารุโกะ เป็นหุบเขาสูงที่มีแม่น้ำโอยะที่ใสสะอาดไหลผ่าน สองข้างทางมีหน้าผาสูงชันรูปร่างสวยแปลกตาและน้ำตกสูงให้ได้ชม
ช่วงฤดูใบไม้ร่วงพรรณไม้ของที่นี่จะเปลี่ยนสีปกคลุมทั้งหุบเขา ตัดกับภาพแม่น้ำโอยะที่คดเคี้ยวอย่างสวยงาม ซึ่งเป็นแม่น้ำที่มีความลึกกว่า 100 เมตร
สำหรับจุดชมวิวที่ดีที่สุดคือบริเวณศาลา Narukokyo Resthouse และไม่ไกลกันนี้ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติโอฟุคาซาว่า ระยะทาง 2.2 กิโลเมตร ซึ่งสามารถเดินเล่นได้แบบไม่เหนื่อยนัก
ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การชมใบไม้เปลี่ยนสีคือปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน ชนิดของพรรณไม้ ได้แก่ ใบเมเปิ้ล ใบเมเปิ้ลอุริฮาดะ ใบเมเปิ้ลอิตายะ ใบบุนะ
5.แม่น้ำโมกามิ จังหวัดยามากาตะ
ที่ยามากาตะในช่วงฤดูใบไม้ร่วง เราสามารถปล่อยตัวปล่อยใจไปตามสายน้ำกับการล่องเรือในเส้นทางบะโชไปตามแม่น้ำโมกามิ เพื่อชมทัศนียภาพอันสวยงามสองข้างทาง พร้อมกับเพลิดเพลินไปกับบทเพลงพื้นบ้านที่ขับร้องระหว่างล่องเรือ
กิจกรรมนี้เมื่อมองจากบนเรือจะเห็นทิวเขาถูกแต่งแต้มด้วยพรรณไม้สีต่าง ๆ ซึ่งสะท้อนลงบนผืนน้ำราวกับภาพบนกระจก เป็นความประทับใจที่หาได้ยากจากที่อื่น ๆ
ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การชมใบไม้เปลี่ยนสีคือปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน ชนิดของพรรณไม้ ได้แก่ ใบเมเปิ้ล ใบบุนะ ใบนาระ
6.ผาหินหมื่นปี โทโนะเฮะทสึริ จังหวัดฟุกุชิมะ
หน้าผาโทโนะเฮะทสึริ ถูกสายน้ำของแม่น้ำโอกาวะกัดเซาะมานานหลายหมื่นปี จนเกิดเป็นรูปทรงคล้ายเจดีย์ และด้วยความเก่าแก่จึงได้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นหนึ่งในพื้นที่อนุรักษ์ของญี่ปุ่น
ภาพของหน้าผาเมื่อมองจากระยะไกลจะเหมือนเจดีย์ 10 องค์ที่ถูกรายล้อมไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีอย่างสวยงาม บริเวณหน้าผายังถูกน้ำกัดเซาะลึกเข้าไป จึงสามารถเดินชมได้โดยรอบ
ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การชมใบไม้เปลี่ยนสีคือปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน ชนิดของพรรณไม้ ได้แก่ ใบเมเปิ้ล ใบบุนะ และอื่นๆ จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีหลักคือจากตัวสะพานแขวน
เที่ยวสบายในโทโฮคุ
ช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ (2562) มีหลายสิ่งที่เอื้ออำนวยให้การเดินทางท่องเที่ยวในภูมิภาคโทโฮคุสะดวกสบาย และประหยัดคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น อาทิ
-บัตร Welcome Suica : บริษัท East Japan Railway หรือ JR East เริ่มจำหน่ายบัตร IC Card แบบใหม่ที่เรียกว่า Welcome Suica ซึ่งเปิดขายสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเท่านั้น เพื่อเพิ่มความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวในญี่ปุ่น
บัตร Welcome Suica มีความพิเศษคือจะไม่เก็บเงินค่ามัดจำ 500 เยน เหมือนบัตรอื่น ๆ ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาทำเรื่องขอคืนค่ามัดจำคืนเมื่อจะกลับประเทศ
บัตรนี้สามารถใช้ได้กับทั้งรถบัสและรถไฟทั่วประเทศเหมือนบัตร Suica PASMO แต่ที่พิเศษยิ่งกว่าคือสามารถใช้เป็น e-money ชำระค่าสินค้าตามสถานที่ท่องเที่ยว ร้านค้า และแท็กซี่ได้ด้วย ดีไซน์ของบัตรยังสะท้อนถึงความเป็นญี่ปุ่นด้วยฉากหลังสีแดงที่แทนดวงอาทิตย์บนธงชาติญี่ปุ่น และดอกซากุระสีขาวน่ารักเก๋ไก๋ เหมาะแก่การเก็บสะสมเป็นที่ระลึก
ตร Welcome Suica เริ่มจำหน่ายตั้งแต่ 1 กันยายน 2562 ที่ผ่านมา ผู้ซื้อสามารถเลือกได้ในหลายราคาตั้งแต่ 1,000 เยน 2,000 เยน 3,000 เยน 4,000 เยน 5,000 เยน และ 10,000 เยน โดยไม่มีค่ามัดจำบัตร และมีอายุ 28 วันนับตั้งแต่วันซื้อบัตร (ยอดเงินคงเหลือในบัตรจะไม่สามารถขอคืนได้)
สถานที่จัดจำหน่าย ได้แก่ ศูนย์บริการการท่องเที่ยว JR EAST (สถานีสนามบินนาริตะ สถานีอาคาร 2 สนามบินนาริตะ สถานีโตเกียวโมโนเรลในสนามบินนานาชาติฮาเนดะ สถานีโตเกียว สถานีชินจูกุ สถานีชิบูย่า สถานีอิเคะบุคุโระ สถานีอุเอโนะ สถานีฮามะมัตสึโจ และที่เครื่องจำหน่ายบัตร Welcome Suica ที่สนามบินนาริตะและสนามบินฮาเนดะ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมของบัตร Welcome Suica ได้ที่ http://www.jreast.co.jp/e/welcomesuica/welcomesuica.html
-Kairi รถไฟขบวนใหม่ : ประเทศญี่ปุ่น โดย JR East จะเปิดให้บริการเส้นทางใหม่ นีงาตะ- โชไน พร้อมกับเปิดตัวรถไฟขบวนพิเศษ Kairi โดยจะเริ่มให้บริการตั้งแต่ 5 ตุลาคม 2562
Kairi เป็นรถไฟดีเซลไฮบริดใหม่เอี่ยมที่มีตู้โดยสาร 4 ตู้ ให้บริการระหว่างจังหวัดนีงาตะและเมืองซากาตะ ส่วนการตกแต่งภายนอกเป็นการไล่เฉดสีส้มแดงของอาทิตย์อัสดงและสีขาวของหิมะตกใหม่อย่างสวยงาม
รถไฟขบวนนี้มีจุดเด่นคือการนำเสนออาหารท้องถิ่นของนีงาตะและโชไน และผสานกับความสวยงามของท้องทะเลญี่ปุ่น ซึ่งเชื่อว่ารถไฟขบวนนี้จะกลายเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คใหม่ของจังหวัดนีงาตะ
สำหรับจังหวัดนีงาตะและเมืองโชไนของจังหวัดยามากาตะ ถือเป็นพื้นที่ที่มีทะเล (Kai) และท้องถิ่น (Ri) ที่อุดมสมบูรณ์ จึงนำสองคำนี้มารวมกันกลายเป็นชื่อรถไฟ Kairi ที่ผู้โดยสารจะได้เพลิดเพลินกับอาหารท้องถิ่นที่เสิร์ฟบนขบวน พร้อมกับดื่มด่ำความสวยงามของวิวทิศทัศน์สองข้างทาง
ทั้งนี้ ขบวนรถไฟเที่ยวขาล่องจากจังหวัดนีงาตะไปเมืองซากาตะ จะให้บริการอาหารท้องถิ่นของจังหวัดนีงาตะตามฤดูกาลจาก 3 ร้านอาหารชื่อดังที่มีประวัติยาวนานกว่า 100 ปี ได้แก่ ร้านอิคินาริยะ ร้านนาเบะจะยะ และร้านอิจิชิเมะ
ส่วนขบวนรถไฟขาขึ้นจากเมืองซากาตะไปจังหวัดนีงาตะจะให้บริการอาหารอิตาเลียนสไตล์โอคุดะที่ปรุงโดยเชฟจากร้าน Al Ché-cciano และควบคุมคุณภาพโดยเจ้าของร้านคือมาซายูคิ โอคุดะที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นสุดยอดเชฟของญี่ปุ่นอีกด้วย
นอกจากนี้ที่ร้าน Al Ché-cciano ยังได้นำผลผลิตประจำท้องถิ่นของเมืองโชไนที่ปลูกสืบต่อกันมาหลายช่วงอายุคนมารังสรรค์เป็นอาหารอิตาเลียนสุดพรีเมียม หากทานอาหารที่เสิร์ฟบนรถไฟแล้วรู้สึกติดใจก็สามารถแวะไปทานอีกได้ที่ร้าน Al Ché-cciano
Joyful Trian รถไฟแสนสนุก : Joyful Train เป็นรถไฟยุคใหม่ที่ไม่ใช่เพียงแค่ยานพาหนะซึ่งจะนำพาไปยังจุดหมายเท่านั้น หากแต่จะทำให้ตลอดการเดินทางมีความประทับใจมากยิ่งขึ้น
Joyful Train มีให้เลือกใช้บริการในหลายประเภททั้งชินคันเซ็น รถจักรไอน้ำ และรถไฟสายไซไรเซ็น ที่ออกแบบมาในธีมต่าง ๆ
ภายในขบวนรถไฟมีสิ่งอำนวยความสะดวกอันชวนเพลิดเพลินตลอดการเดินทาง ทั้งเมนูอาหารพิเศษเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของที่นี่, บ่อน้ำร้อนสำหรับแช่เท้า, ท้องฟ้าจำลอง และอื่น ๆ อีกมากมาย
JR EAST PASS เที่ยวสนุกคุ้มค่ายิ่งขึ้น : โทโฮคุเป็นภูมิภาคขนาดใหญ่ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวกระจายอยู่ในจังหวัดต่าง ๆ การเดินทางจะสะดวกสบายและคุ้มค่ายิ่งขึ้นหากนักท่องเที่ยวใช้ JR EAST PASS (Tohoku Area)
บัตร JR EAST PASS สามารถขึ้นรถไฟสาย JR Tohoku ได้แบบไม่จำกัดจำนวนเที่ยวเป็นเวลา 5 วัน ทำให้สามารถท่องเที่ยวได้อย่างสะดวกและเจาะลึกได้มากขึ้น โดยตั๋วผู้ใหญ่จำหน่ายในราคา 19,000 เยน และตั๋วเด็กราคา 9,500 เยน (ราคาสำหรับซื้อจากนอกประเทศญี่ปุ่นที่เว็บไซต์ทางการของ JR-EAST) ผู้สนใจชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.jreast.co.jp/e/eastpass_t/index.html
และสามารถเดินทางได้สะดวกกว่าเดิมด้วยบริการจองที่นั่งบนรถไฟ JR-EAST ล่วงหน้าผ่านอินเตอร์เน็ตก่อนเดินทางมาประเทศญี่ปุ่น ได้ที่เว็บไซต์
https://www.eki-net.com/pc/jreast-shinkansen-reservation/English/wb/common/Menu/Menu.aspx
นอกจากนี้ที่เว็บไซต์ของ JR-EAST ยังนำเสนอข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวในคันโตและโทโฮคุทั้ง 4 ฤดู เพื่อการวางแผนก่อนมาเที่ยวญี่ปุ่นและเลือกท่องเที่ยวได้ตามความสนใจ โดยเข้าชมได้ที่ https://eastjapanrailway.com/th/2019-autumn
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44627
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 29/09/2019 6:24 pm Post subject:
ลดเสียงล้อรถไฟกระทบราง : รู้ให้ลึกเรื่องญี่ปุ่น (29 ก.ย. 62)
ThaiPBS
ทำไมเสียงล้อรถไฟกระทบกับรางรถไฟที่ญี่ปุ่นถึงมีเสียงเบา ตามฟูจิเซนเซไปดูกันถึงรางรถไฟ
https://www.youtube.com/watch?v=Npq6TdVWjcY
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42744
Location: NECTEC
Posted: 02/10/2019 11:28 pm Post subject:
คู่แข่ง One Belt One Road รายใหม่ เมื่อญี่ปุ่นจับมือ EU ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลก
By
Wattanapong Jaiwat -
30/09/2019
สหภาพยุโรปและญี่ปุ่นจับมือกับกันเป็นพันธมิตรในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในประเทศกำลังพัฒนาต่างๆ ทั่วโลก และจะกลายเป็นคู่แข่งของโครงการ One Belt One Road ทันที
Railways
ภาพประกอบบทความจาก Unsplash
ชินโช อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้ลงนามในความร่วมมือกับสหภาพยุโรป เพื่อลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลก นอกจากนี้ยังมีข้อตกลงที่จะเชื่อมโยงเอเชียกับยุโรปเข้าด้วยกัน ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวนี้จะทำให้กลายเป็นคู่แข่งของโครงการ Belt Road Initiative (BRI) ของประเทศจีน หรือที่เรารู้จักกันดีว่า One Belt One Road ทันที
ความร่วมมือดังกล่าวนี้เกิดขึ้นจากความกังวลของโครงการจากประเทศจีน ที่ทำให้หลายๆ ประเทศกำลังพัฒนาอยู่ในสภาวะติดในกับดักหนี้ นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นยังได้กล่าวว่า ความร่วมมือดังกล่าวญี่ปุ่นได้ส่งตัวแทนของรัฐบาลไปยังกาน่าและแซมเบียเพื่อให้คำแนะนำเรื่องหนี้ภาครัฐบาลรวมไปถึงการจัดการเศรษฐกิจในแอฟริกา
สำหรับโครงการ Belt Road Initiative ได้รับการยอมรับจากประเทศกว่า 150 ประเทศ มีประเทศจากสหภาพยุโรป 28 ประเทศ แต่ในช่วงที่ผ่านมาโครงการนี้ได้รับข้อสงสัยในเรื่องของความยั่งยืนและรวมไปถึงการปล่อยเงินกู้มหาศาลจนประเทศที่นำเงินไปพัฒนาโครงการไม่สามารถชำระหนี้ได้ รวมไปถึงการทำลายสิ่งแวดล้อม ฯลฯ
โดยทั้งญี่ปุ่นและ EU เริ่มลงทุนบางโครงการไปบ้างแล้วในแอฟริกา ขณะที่ความสนใจที่จะลงทุนเพิ่มเติมอยู่ใน ยุโรปแถบบอลติก (เอสโตเนีย ลัตเวีย ฯลฯ) รวมไปถึงประเทศแถบบอลข่าน (เซอร์เบีย ฯลฯ) ที่ประเทศเหล่านี้ยังต้องการเม็ดเงินลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน นอกจากนี้ความร่วมมือดังกล่าวเน้นการลงทุนที่โครงสร้างพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็น การคมนาคม สาธานณูปโภค โทรคมนาคม ฯลฯ สำหรับเม็ดเงินเริ่มต้นของความร่วมมือนี้จะอยู่ที่ 60,000 ล้านยูโร
ฌอง-โคล้ด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ได้กล่าวว่า การเชื่อมโยงมาพร้อมกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนในเรื่องของการเงิน นอกจากนี้ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ยังได้เสริมถึงเรื่องของสิ่งแวดล้อม และนอกจากนี้ยังได้กล่าวถึงการพัฒนานั้นต้องไม่ใช่อยู่บนหนี้มหาศาลและไม่ควรที่จะขึ้นกับประเทศเดียวอีกด้วย
ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นก็ยังได้กล่าวถึงการเชื่อมโยงทางทะเลว่าจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและแอตแลนติกควรที่จะเดินทางได้อย่างเสรีและเปิดกว้าง นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นยังมีความกังวลในเรื่องของหนี้ที่ประเทศต่างๆ รวมไปถึงความพยายามที่จะควบคุมในเรื่องเส้นทางเดินเรือ
นอกจากนี้การร่วมมือของญี่ปุ่นกับสหภาพยุโรปยังกล่าวว่า มีความโปร่งใส และยังเป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายการลงทุนของสหภาพยุโรปจากแต่เดิมมักจะเป็นผู้บริจาคเงิน แต่หลังจากการจับมือกับญี่ปุ่นจะทำให้สหภาพยุโรปกลายเป็นผู้เล่นสำคัญทันที
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42744
Location: NECTEC
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42744
Location: NECTEC
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44627
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 15/10/2019 3:02 pm Post subject:
ระบบคมนาคมในญี่ปุ่นเริ่มกลับมาเป็นปกติ หลังจากพายุไต้ฝุ่นฮากิบิส
NHK 14 ต.ค. 62
Train systems returning to normal
ระบบคมนาคมในญี่ปุ่นเริ่มกลับมาเป็นปกติ หลังจากพายุไต้ฝุ่นฮากิบิส ทำให้เกิดการยกเลิกและติดขัดเป็นวงกว้าง ตลอดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
รถไฟหัวกระสุนส่วนใหญ่ได้กลับมาให้บริการแล้ว รถไฟหัวกระสุนเส้นทางยามางาตะได้กลับมาให้บริการเต็มที่ ขณะที่เส้นทางโฮกูริกุให้บริการได้ในเส้นทางบางส่วนระหว่างกรุงโตเกียวกับจังหวัดนางาโนะ
บริการรถไฟภายในพื้นที่กรุงโตเกียว กลับมาให้บริการเต็มที่แล้วเกือบทั้งหมด
ที่เมืองฮาโกเนะ เมืองตากอากาศใกล้กรุงโตเกียว ดินถล่มได้ปิดกั้นเส้นทางรถไฟสายหนึ่ง ซึ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว ผู้ให้บริการรถไฟสายนี้ระบุว่า อาจต้องใช้เวลาอีกสักพักจึงจะกลับมาให้บริการได้เต็มที่
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42744
Location: NECTEC
Posted: 16/10/2019 10:31 am Post subject:
รถไฟชิงคังเซนสายโฮกุริกุ 120 หลังโดนน้ำท่วมอาจต้องปลดประจำการเป็นอาไหล์
ช่องอาซาฮี
14 ตุลาคม 2019 19.55 น. (ตามเวลาญี่ปุ่น)
สรุปความเสียหายของรถไฟหัวกระสุน ชินคันเซ็น ที่จอดอยู่ที่ศูนย์รถไฟ ในจ.นางาโนะ ซึ่งต้องจมอยู่ใต้น้ำ หลังจากแฝงกันน้ำของแม่น้ำจิคุมะพัง ทำให้น้ำทะลักไหลเข้ามา รวมแล้วกว่า 120 ตู้รถไฟ คาดมูลค่าความเสียหายทั้งหมดเป็นเงิน ถึง32,800ล้านเยน (หรือประมาณ 9,500 ล้านบาท)
ซึ่งตู้รถไฟทั้งหมดนี้ ถือเป็นจำนวน 1 ใน 3 ของตู้รถไฟทั้งหมดที่มี ซึ่งผลจากการตรวจสอบ ผู้เชี่ยวชาญ ให้ความเห็นว่า ตัวขบวนหรือล้อรถไฟ สามารถล้างได้ไม่มีปัญหา แต่ว่าแผงไฟด้านล่าง ที่เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้า อันนี้ถ้าใช้ต่อไปอาจจะมีการเกิดไฟไหม้ได้ ต้องเปลี่ยนใหม่
ซึ่งการจะเปลี่ยนใหม่ทั้งหมดนั้น เอาเวลาไปสร้างใหม่จะง่ายกว่าด้วยซ้ำ
ดังนั้นรถไฟที่จมน้ำเหล่านี้ มีโอกาสที่จะถูกทิ้งได้เหมือนกัน ซึ่งรถขบวนใหม่ถ้าจะสร้าง ก็ต้องใช้เวลาประมาณ ครึ่งถึง 1 ปี กว่าจะเสร็จ
https://www.youtube.com/watch?v=y3kXQ7FRrvU
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42744
Location: NECTEC
Posted: 16/10/2019 2:51 pm Post subject:
【อัพเดท : ท่องเที่ยวญี่ปุ่น】
📣บอกต่อกันไป ใครจะมาดูใบไม้เปลี่ยนสี🍁 เที่ยวฮาโกเน่ปีนี้ ต้องเช็คข้อมูลให้ดี เพราะเค้าประกาศแล้ว รถไฟที่ใช้ปีนขึ้นเขา ดูความงามของเหล่าธรรมชาติสุดสวย อย่างรถไฟสายฮาโกเน่โทซังนั้นพัง!! ❎🙅♂️... และคิดว่าไม่สามารถซ่อมแซมให้เสร็จได้ทัน ภายในปีนี้ อันเนื่องมาจากไต้ฝุ่นฮากิบิส🌪
.
โดยทางฮาโกเน่ เตรียมแผนจะใช้รถบัสในการรับส่งแทนช่วงซีซั่นดูใบไม้เปลี่ยนสีแทน (อันนี้เสียดายมาก ... เพราะรถไฟที่ปีนขึ้นเขานั้น สองข้างทางเป็นใบไม้เปลี่นสีสวยงามดีจริง)
.
ต้นไฮเดรนเยียสวยๆ ที่ปลูกไว้สองข้างทางของรถไฟสายนี้ จริงๆแล้วเค้าก็ปลูกไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้ด้านดินถล่มด้วย แต่ว่าพายุคราวนี้รุนแรงเกิน .. ต้นไฮเดรนเยีย (อะจิไซ) วิวสวยๆ ก็พูดพัดทำลายไปอีก
.
นอกจากรถไฟสายฮาโกเน่โทซังแล้ว ตอนนี้สปาบ่อน้ำแร่ แช่ออนเซ็นชื่อดังอย่าง Yunessun รวมไปถึง โรปเวย์พาขึ้นเขา ไปกินไข่ดำ รวมทั้งท่าเรือโจรสลัดของทะเลสาบอาชิโนะ ก็ได้รับความเสียหายไปด้วย .. คาดการณ์แล้ว ข่าวบอก นักท่องเที่ยวกว่า 2 ล้านคน คงได้รับผลกระทบจากการเสียหายครั้งนี้
https://www.facebook.com/tomyamwasabi/posts/2463966010361180?__tn__=H-R
Back to top