RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311234
ทั่วไป:13180509
ทั้งหมด:13491743
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคตตามนโยบายรัฐบาล
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รวมข่าวรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคตตามนโยบายรัฐบาล
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 202, 203, 204 ... 277, 278, 279  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 19/09/2019 8:54 pm    Post subject: Reply with quote

ข้าราชการเบิกค่าเดินทางด้วยรถไฟฟ้าได้
https://www.thebangkokinsight.com/210524
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44325
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 20/09/2019 5:53 am    Post subject: Reply with quote

กรมรางเคาะปรับลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าทั้งระบบ
กรุงเทพธุรกิจ 20 กันยายน 2562

กรมขนส่งทางราง เคาะอัตราปรับลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าทั้งระบบ สั่งทำตั๋วรายเดือน-โปรโมชั่น-ลดหย่อนภาษี-ข้าราชการเบิกได้ เตรียมชง "ศักดิ์สยาม" เห็นชอบ

นายสรพงษ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนาโครงสร้างอัตราค่าโดยสารระบบขนส่งทางรางในเขตกรุงเทพและปริมณฑล โดยระบุว่า ที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาแนวทางการปรับลดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าทั้งระบบ เพื่อดำเนินการตามมาตรการลดค่าครองชีพให้ประชาชนตามนโยบายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมาตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โดยได้ข้อสรุปว่าจะมีการปรับลดราคาค่าโดยสารของรถไฟฟ้าทั้งหมด แต่ยังไม่สามารถบอกรายละเอียดของการปรับลดราคาค่าโดยสารได้ เนื่องจากต้องนำเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมพิจารณา พร้อมเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)

ทั้งนี้ ในที่ประชุมได้มีการกำหนดมาตรการลดค่าครองชีพให้กับประชาชน แบ่งเป็น มาตรการระยะสั้น และ มาตรการระยะยาว โดยมาตรการระะสั้น จะแบ่งเป็นระยะเร่งด่วน จะสนับสนุนให้ทุกหน่วยงานที่ให้บริการรถไฟฟ้าออกตั๋วรายเดือน ไม่ว่าจะเป็น การรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.), การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ,บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ,บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีอีเอ็ม ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส

ขณะเดียวกัน จะให้ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าทุกสาย ลดราคาค่าโดยสารในช่วงนอกเวลาเร่งด่วน เพื่อกระตุ้นให้ผู้โดยสารหันมาใช้บริการในช่วงดังกล่าวมากขึ้น ซึ่งนอกเวลาเร่งด่วนจะมี 3 ช่วง คือ ช่วงตั้งแต่เปิดให้บริการ-07.00 น. ,ช่วง 10.00-16.00น. และ ช่วง 20.00-ปิดให้บริการ โดยในช่วงนอกเวลาเร่งด่วนนี้จะมีเวลารวมประมาณ 13 ชม. มีผู้โดยสารเดินทางเพียง 45% เท่านั้น ดังนั้น ขร. จึงขอให้ผู้ประกอบการไปกำหนดแผนการตลาด หรือ โปรโมชั่น ดึงดูดการซื้อ กระตุ้นยอดขายให้คนหันมาเดินทาง

ส่วนมาตรการระยะยาว ขอให้ศึกษามาตรการนำค่าตั๋วโดยสารมาลดหย่อนภาษี รวมไปถึงจะเสนอให้หน่วยงานราชการทุกสังกัดกระทรวง สามารถซื้อตั๋วโดยสารรถไฟฟ้าที่จะเดินทางระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ นำมาเบิกเป็นค่าเดินทางได้ทันที จากเดิมจะสามารถเบิกค่าเดินทางได้ เมื่อกรณีที่ไม่สามารถใช้รถหลวงเดินทาง
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 24/09/2019 11:15 am    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
ข้าราชการเบิกค่าเดินทางด้วยรถไฟฟ้าได้
https://www.thebangkokinsight.com/210524

ชูตั๋วเดือน-ลดบางเวลา-ข้าราชการเบิกได้ รัฐจัดให้ “ลดค่าโดยสารรถไฟฟ้า”

ไทยรัฐฉบับพิมพ์
20 กันยายน 2562 08:46 น.


ขนส่งทางราง ยันลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าทั้งระบบมาแน่! ชูแนวทางลดราคา “ออกตั๋วเดือน–เพิ่มโปรโมชันช่วงเวลาคนไม่นิยมเดินทาง–ข้าราชการเบิกค่ารถไฟฟ้าได้–ใช้ค่าโดยสารหักลดหย่อนภาษี” จ่อเสนอ “ศักดิ์สยาม” เห็นชอบแนวทางก่อนเสนอ ครม. ด้านขยายรถไฟฟ้าสถานีตากสิน อนุมัติเริ่มก่อสร้างปลายปีนี้

นายสรพงษ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนาโครงสร้างอัตราค่าโดยสารระบบขนส่งทางรางในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลว่า โดยที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาแนวทางการปรับลดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าทั้งระบบ เพื่อดำเนินการตามมาตรการลดค่าครองชีพให้ประชาชนตามนโยบายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ซึ่งขณะนี้ ได้ข้อสรุปร่วมกันกับผู้ให้บริการขนส่งทางรางทั้งหมดแล้ว ว่าจะมีการปรับลดราคาค่าโดยสารของรถไฟฟ้าทั้งหมด แต่ยังไม่สามารถบอกรายละเอียดของการปรับลดราคาค่าโดยสารได้

เนื่องจากทาง ขร.จะต้องนำผลการประชุมเสนอต่อ รมว.คมนาคม เพื่อพิจารณาก่อนที่จะเสนอ ต่อ ครม. เพื่อให้ความเห็นชอบแนวทางการปรับลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าต่อไป

ทั้งนี้ ในที่ประชุมได้มีการกำหนดมาตรการลดค่าครองชีพให้กับประชาชนออกมาเป็นมาตรการระยะสั้น และมาตรการระยะยาว โดยมาตรการระยะสั้น จะแบ่งเป็นระยะเร่งด่วน ที่ ขร.จะสนับสนุนให้ทุกหน่วยงานที่ให้บริการรถไฟฟ้าทั้ง การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.), การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าสายสีม่วง, บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์, บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้า กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน, บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส ออกตั๋วเดือน

นอกจากนั้น ยังได้เห็นชอบให้ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าทุกสายทุกสีลดราคาค่าโดยสารในช่วงนอกเวลาเร่งด่วน เพื่อกระตุ้นให้ผู้โดยสารหันมาใช้บริการในช่วงดังกล่าวมากขึ้น ซึ่งนอกเวลาเร่งด่วนจะมี 3 ช่วง คือ ช่วงตั้งแต่เปิดให้บริการ-07.00 น., ช่วง 10.00-16.00 น. และ ช่วง 20.00 น.-ปิดให้บริการ โดยในช่วงนอกเวลาเร่งด่วนนี้จะมีเวลารวมประมาณ 13 ชม. ที่จะมีผู้โดยสารเดินทางเพียง 45% เท่านั้น จึงขอให้ผู้ให้บริการของรถไฟฟ้าแต่ละสายทางไปกำหนดแผนการตลาด หรือโปรโมชัน ดึงดูดการซื้อ กระตุ้นยอดขายให้คนหันมาเดินทางมากขึ้น

ส่วนมาตรการระยะยาวนั้น จะให้ทำโปรโมชันเพื่อดึงดูดการขายแล้วสามารถนำค่าตั๋วโดยสารมาลดหย่อนภาษีได้ นอกจากนั้น จะเสนอให้หน่วยงานราชการสามารถซื้อตั๋วโดยสารรถไฟฟ้าแล้วนำมาเบิกเป็นค่าเดินทางได้ทันที จากเดิมจะสามารถเบิกค่าเดินทางได้ เมื่อกรณีที่ไม่สามารถใช้รถหลวงเดินทางได้ก่อน

ด้านนายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการสะพานตากสิน (S6) ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบในหลักการรูปแบบโครงสร้างทางวิศวกรรมโครงการปรับปรุงสะพานตากสินและขยายสถานี รถไฟฟ้าสถานีสะพานตากสิน (S6) เพื่อแก้ปัญหาจราจรที่เป็นคอขวด รวมทั้งเตรียมการรองรับปริมาณผู้โดยสารรถไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น โดยจะปรับปรุงเปลี่ยนทางเดินรถจากช่องทางเดี่ยวบนสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสินเป็นช่องทางคู่ เพิ่มชานชาลา และทางวิ่งเดี่ยวเป็นทางวิ่งคู่ เพื่อรองรับปริมาณการใช้งานรถไฟฟ้าที่จะเพิ่มขึ้น

โดยต้องทำการเจาะช่องผิวจราจรด้านในสะพานเพื่อขยายรางรถไฟฟ้าข้างละ 1.80 เมตร และขยายบริเวณด้านนอกทดแทนเป็นระยะทาง 2.30 เมตร ปรับปรุงอาคารพักโดยสารและทางเชื่อมต่อสถานี บีทีเอสจะเป็นผู้ก่อสร้าง ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำว่าในช่วงก่อสร้างจะต้องไม่ให้มีผลกระทบต่อการใช้งานปกติ ก่อนที่จะทุบของเดิมต้องก่อสร้างของใหม่ให้เสร็จก่อน เพื่อให้สามารถสัญจรไปมาได้

โดยขณะนี้ กทม.ได้ส่งผลการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการ (อีไอเอ) ให้คณะกรรมการผู้ชำนาญการ (คชก.)พิจารณาแล้ว คาดจะเริ่มต้นก่อสร้างได้ปลายปีนี้ใช้ระยะเวลา 40 เดือน.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 30/09/2019 11:06 am    Post subject: Reply with quote

ดันแจ้งเกิดรถไฟฟ้าสายสีเทา-สีน้ำตาลแก้รถติด จ่อชงคจร.จำกัดสิบล้อวิ่งผ่านเมือง ต.ค.นี้
วันวันจันทร์ ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2562 เวลา 07:30 น.

สนข.เร่งสรุปแผนแม่บทพัฒนารถไฟฟ้าฯ หนุน 2 โครงการรถไฟฟ้าสายสีเทารามอินทรา-พระราม9 สายสีน้ำเทา แคราย-บึงกุ่ม เคลียร์ เตรียมเสนอคจร.เคาะแผนสารพัดแผนแก้รถติดเมืองหลวง พ่วงนโยบายความเร็ว 120 และห้ามรถบรรทุกวิ่งเดือน ต.ค.นี้

นายชยธรรม์ พรหมศร รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยถึง ความคืบหน้าการศึกษาแผนแม่บทพัฒนารถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ระยะที่ 2 (M-MAP 2)ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการเพื่อเฟ้นหาเส้นทางรถไฟฟ้าสายใหม่นำไปสู่การลงทุนในรัฐบาลชุดนี้ เบื้องต้นพบว่าโครงการที่น่าลงทุนเพื่อแก้รถติดและมีความสมเหตุสมผลด้านปริมาณผู้โดยสาร ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเทาเฟสแรกช่วงรามอินทรา-พระราม 9 และโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลช่วงแคราย-บึงกุ่ม วงเงิน 5 หมื่นล้านบาท นั้นจะเป็นฟีดเดอร์เชื่อมต่อเส้นทางรถไฟฟ้าสายอื่นทั้งสายสีน้ำตาลสายสีเหลืองและสายสีเขียว อย่างไรก็ตามสำหรับสายสีเทานั้น กทม. จะเป็นผู้ผลักดันการลงทุน ขณะที่สายสีน้ำตาลนั้นกระทรวงคมนาคมจะเป็นผู้ผลักดัน

สำหรับเส้นทางที่บีทีเอสสนใจลงทุน และพร้อมร่วมประมูลในปี 2563 คือรถไฟฟ้าช่วงบางนา-สุวรรณภูมิ นั้น ยังไม่มีการผลักดันแผนพัฒนาเพราะยังไม่มีความคุ้มค่าด้านปริมาณผู้โดยสาร ถือว่าเป็นเส้นทางที่จะเป็นประโยชน์ในอนาคตแต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ ดังนั้นตอนนี้กระทรวงคมนาคมจะโฟกัสไปที่การพัฒนารถไฟฟ้าเฟสแรกให้ครบ 10 เส้นทางก่อนเริ่มกระบวนการผลักดันเส้นทางใหม่ต่อไป ควบคู่ไปกับการพัฒนาระบบฟีดเดอร์รถไฟฟ้าให้ประชาชนเข้าถึงรถไฟฟ้าสายใหม่ได้อย่างสะดวกทั้งทางรถเมล์และทางการขนส่งทางน้ำ ต้องเชื่อมได้ทั้งระบบ


อย่างไรก็ตามขณะนี้เฟสแรกยังเหลืออีกสองเส้นทางที่ครม.อนุมัติแล้วต้องเร่งผลักดันก่อสร้างคือ รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ และรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกช่วงศูนย์วัฒนธรรม-บางขุนนท์

การประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) จะมีขึ้นในเดือนต.ค.นี้ ทางสนข.เตรียมเสนอแผนแก้รถติดกรุงเทพมหานครและแก้รถติดตามแนวที่มีการก่อสร้างรถไฟฟ้าอาทิ ถนนรัชดาภิเษก ซึ่งมีจุดตัดและแยกมากถึง 28 แห่งปัจจุบันทำไปได้เพียง 18 แห่ง และยังเหลืออยู่10 แห่งที่ต้องเร่งพัฒนาทั้งแบบสะพานข้ามแยกและอุโมงค์ข้ามแยกส่วนเส้นทางรถติดตามแนวก่อสร้างรถไฟฟ้านั้น อาทิ รถไฟฟ้าสายสีเหลือง รถไฟฟ้าสายสีส้ม และรถไฟฟ้าสายสีชมพู

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคมระบุว่าสำหรับแผนที่จะเสนอคจร.นั้นได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล และนโยบายจำกัดเวลารถบรรทุกนั้นยืนยันว่าจะบังคับใช้มาตรการควบคุมเวลาขนส่งให้อยู่แค่ 4 ชั่วโมงต่อวันหรือตั้งแต่ 00.00 น.-04.00 น. เพียงเท่านั้นในเขตเมืองกรุงเทพชั้นใน ควบคู่ไปกับการให้พิจารณาว่าจะลดขนาดของรถบรรทุกจาก 10 ล้อ เป็นรถบรรทุก 6 ล้อได้หรือไม่ เพื่อแก้ปัญหารถติดในเมืองชั้นในได้เพราะสามารถลดปริมาณรถบรรทุกที่มีอยู่ถึง 50,000 คันในช่วงกลางวัน


นอกจากนี้ยังเตรียมเสนอคจร.เรื่องนโยบายแก้กฎกระทรวงคมนาคมเพื่อขยายอัตราจำกัดความเร็วบนถนน 4 ช่องจราจรทั่วประเทศ เป็นห้ามเกิน 120 กม./ชม. โดยกำหนดให้ 2 ช่องจราจรด้านซ้ายใช้ความเร็ว 40-80 กม./ชม. และอีก 2 ช่องด้านขวาความเร็ว 80-120 กม./ชม. ควบคู่ไปกับการเข้มงวดกล้องจับความเร็วเพื่อบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น




สนข.รถไฟฟ้าสายสีเทา-น้ำตาลแก้รถติดเมืองหลวง พร้อมพ่วงคุมความเร็วรถ


วันจันทร์ ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2562 เวลา 09:36 น.

30 ก.ย.2562 นายชยธรรม์ พรหมศร รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยว่าความคืบหน้าการศึกษาแผนแม่บทพัฒนารถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ระยะที่ 2 (M-MAP 2) ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการเพื่อเฟ้นหาเส้นทางรถไฟฟ้าสายใหม่นำไปสู่การลงทุนในรัฐบาลชุดนี้ เบื้องต้นพบว่าโครงการที่น่าลงทุนเพื่อแก้รถติดและมีความสมเหตุสมผลด้านปริมาณผู้โดยสาร ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าสาย สีเทาเฟสแรกช่วงรามอินทรา-พระราม 9 และโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลช่วงแคราย-บึงกุ่ม วงเงิน 5 หมื่นล้านบาท นั้นจะเป็นฟีดเดอร์เชื่อมต่อเส้นทางรถไฟฟ้าสายอื่นทั้งสายสีน้ำตาลสายสีเหลืองและสายสีเขียว อย่างไรก็ตามสำหรับสายสีเทานั้น กทม. จะเป็นผู้ผลักดันการลงทุน ขณะที่สายสีน้ำตาลนั้นกระทรวงคมนาคมจะเป็นผู้ผลักดัน

สำหรับเส้นทางที่บีทีเอสสนใจลงทุนโดยที่พร้อมจะร่วมประมูลปีหน้า คือรถไฟฟ้าช่วงบางนา-สุวรรณภูมิ นั้นคงยังไม่มีการผลักดันพัฒนาเพราะยังไม่มีความคุ้มค่าด้านปริมาณผู้โดยสาร ถือว่าเป็นเส้นทางที่จะเป็นประโยชน์ในอนาคตแต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ ดังนั้นตอนนี้กระทรวงคมนาคมจะโฟกัสไปที่การพัฒนารถไฟฟ้าเฟสแรกให้ครบ 10 เส้นทางก่อนเริ่มกระบวนการผลักดันเส้นทางใหม่ต่อไป ควบคู่ไปกับการพัฒนาระบบฟีดเดอร์รถไฟฟ้าให้ประชาชนเข้าถึงรถไฟฟ้าสายใหม่ได้อย่างสะดวกทั้งทางรถเมล์และทางการขนส่งทางน้ำ ต้องเชื่อมได้ทั้งระบบ อย่างไรก็ตามขณะนี้เฟสแรกยังเหลืออีกสองเส้นทางที่ครม.อนุมัติแล้วต้องเร่งผลักดันก่อสร้างคือ รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ และรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกช่วงศูนย์วัฒนธรรม-บางขุนนนท์

นายชยธรรม์ กล่าวอีกว่า การประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) จะมีขึ้นในเดือนต.ค.นี้ ซึ่ง สนข.เตรียมเสนอแผนแก้รถติดกรุงเทพมหานครและแก้รถติดตามแนวที่มีการก่อสร้างรถไฟฟ้าอาทิ ถนนรัชดาภิเษก ซึ่งมีจุดตัดและแยกมากถึง 28 แห่งปัจจุบันทำไปได้เพียง 18 แห่ง และยังเหลืออยู่10 แห่งที่ต้องเร่งพัฒนาทั้งแบบสะพานข้ามแยกและอุโมงค์ข้ามแยกส่วนเส้นทางรถติดตามแนวก่อสร้างรถไฟฟ้านั้น อาทิ รถไฟฟ้าสายสีเหลือง รถไฟฟ้าสายสีส้ม และรถไฟฟ้าสายสีชมพู

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคมระบุว่าสำหรับแผนที่จะเสนอคจร.นั้นได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล และนโยบายจำกัดเวลารถบรรทุกนั้นยืนยันว่าจะบังคับใช้มาตรการควบคุมเวลาขนส่งให้อยู่แค่ 4 ชั่วโมงต่อวันหรือตั้งแต่00.00 น.-04.00 น. เพียงเท่านั้นในเขตเมืองกรุงเทพชั้นใน ควบคู่ไปกับการให้พิจารณาว่าจะลดขนาดของรถบรรทุกจาก 10 ล้อ เป็นรถบรรทุก 6 ล้อได้หรือไม่ เพื่อแก้ปัญหารถติดในเมืองชั้นในได้เพราะสามารถลดปริมาณรถบรรทุกที่มีอยู่ถึง 50,000 คันในช่วงกลางวัน

นอกจากนี้ยังเตรียมเสนอคจร.เรื่องนโยบายแก้กฎกระทรวงคมนาคมเพื่อขยายอัตราจำกัดความเร็วบนถนน 4 ช่องจราจรทั่วประเทศ เป็นห้ามเกิน 120 กม./ชม. โดยกำหนดให้ 2 ช่องจราจรด้านซ้ายใช้ความเร็ว 40-80 กม./ชม. และอีก 2 ช่องด้านขวาความเร็ว 80-120 กม./ชม. ควบคู่ไปกับการเข้มงวดกล้องจับความเร็วเพื่อบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น




สนข.ดันรถไฟฟ้า ช่วงรามอินทรา-พระราม9/เบรกสายบางนา
วันวันจันทร์ ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2562 เวลา 06.00 น.

นายชยธรรม์ พรหมศร รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยความคืบหน้าการศึกษาแผนแม่บทพัฒนารถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ระยะที่ 2 (M-MAP 2) ว่า ในเบื้องต้นพบว่าโครงการที่น่าลงทุนเพื่อแก้รถติดและมีความสมเหตุสมผลด้านปริมาณผู้โดยสาร ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเทาระยะแรกช่วงรามอินทรา-พระราม 9

ส่วนโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลช่วงแคราย-บึงกุ่ม วงเงิน 50,000 ล้านบาท นั้นจะใช้เป็นระบบขนส่งสายรองเพื่อเชื่อมต่อเส้นทางรถไฟฟ้าหลักสายอื่นทั้งสายสีน้ำตาล สายสีเหลืองและสายสีเขียวโดยโครงการรถไฟฟ้าสายสีเทานั้นทางกรุงเทพมหานคร (กทม.) จะเป็นผู้ผลักดันการลงทุน ขณะที่โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลนั้นกระทรวงคมนาคมจะเป็นผู้ผลักดัน

นายชยธรรม์กล่าวว่า ส่วนโครงการรถไฟฟ้าช่วงบางนา-สุวรรณภูมิ ทางกลุ่ม BTS ยังให้ความสนใจที่จะลงทุนมีความพร้อมในการเข้าร่วมประมูล แต่ขณะนี้คงยังไม่มีการผลักดันพัฒนา เพราะยังไม่มีความคุ้มค่าด้านปริมาณผู้โดยสารแต่ถือว่าเป็นเส้นทางที่จะเป็นประโยชน์ในอนาคตแต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ ทางกระทรวงคมนาคมจะเน้นไปที่การพัฒนารถไฟฟ้าระยะแรกให้ครบ 10 เส้นทาง ก่อนเริ่มกระบวนการผลักดันเส้นทางใหม่ต่อไปควบคู่ไปกับการพัฒนาระบบขนส่งรองรถไฟฟ้าให้ประชาชนเข้าถึงรถไฟฟ้าสายใหม่ได้อย่างสะดวกและต้องเชื่อมได้ทั้งระบบ

อย่างไรก็ดี ขณะนี้เฟสแรกยังเหลืออีกสองเส้นทางที่ ครม.อนุมัติแล้วต้องเร่งผลักดันก่อสร้างคือ รถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะและรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-บางขุนนท์

สำหรับการประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) จะมีขึ้นในเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งสนข.เตรียมเสนอแผนแก้รถติดกรุงเทพมหานคร และแก้รถติดตามแนวที่มีการก่อสร้างรถไฟฟ้าอาทิ ถนนรัชดาภิเษก ซึ่งมีจุดตัดและแยกมากถึง 28 แห่ง ปัจจุบันทำไปได้เพียง 18 แห่ง และยังเหลืออยู่ 10 แห่งที่ต้องเร่งพัฒนาทั้งแบบสะพานข้ามแยกและอุโมงค์ข้ามแยกส่วนเส้นทางรถติดตามแนวก่อสร้างรถไฟฟ้านั้น รถไฟฟ้าสายสีเหลือง รถไฟฟ้าสายสีส้ม และรถไฟฟ้าสายสีชมพู

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.)ว่า คณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.)ที่มีนายกุลิศ สมบัติศิริ เป็นประธานจะลาออกทั้งชุด โดยวันที่ 30 กันยายนกรรมการจะยื่นใบลาออกกับนายกุลิศ ก่อนจะรวบรวมและยื่นใบลาออกต่อนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ทั้งนี้ ประเด็นการลาออกของบอร์ดร.ฟ.ท.มีกระแสข่าวอย่างต่อเนื่องท่ามกลางแรงกดดันทางการเมืองที่กระทรวงคมนาคมต้องการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการที่มีการแต่งตั้งแต่รัฐบาลที่ผ่านมา
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 30/09/2019 1:09 pm    Post subject: Reply with quote

รฟม. มุ่งเดินหน้าขับเคลื่อนโครงข่ายระบบขนส่งมวลชนสาธารณะในเมืองภูมิภาคหลัก 4 จังหวัด
ได้แก่ #ภูเก็ต #นครราชสีมา #พิษณุโลก และ #เชียงใหม่ เพื่อพัฒนาระบบขนส่งมวลชนให้มีมาตรฐานและประสิทธิภาพ รองรับการขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว รวมระยะทางประมาณ 81 กม. มูลค่ากว่า 72,459 ล้านบาท วางเป้าหมายทยอยเปิดให้บริการภายในปี 2567-2570

รฟม. ลุยเตรียมสร้างรถไฟฟ้า 4 จังหวัด 70,000 ล้านบาท !!

นอกจากกรุงเทพมหานครแล้ว รฟม. มุ่งเดินหน้าขับเคลื่อนโครงข่ายระบบขนส่งมวลชนสาธารณะในเมืองภูมิภาคหลัก 4 จังหวัด รวมระยะทางประมาณ 81 กม. มูลค่ากว่า 72,459 ล้านบาท วางเป้าหมายทยอยเปิดให้บริการภายในปี 2567-2570

รฟม. รับผิดชอบดำเนินโครงการรถไฟฟ้าในเมืองภูมิภาคหลัก 4 จังหวัด ได้แก่

• ภูเก็ต รถไฟฟ้ารางเบา ช่วงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต-ห้าแยกฉลอง ระยะทาง 42km
จำนวน 21 สถานี วงเงินลงทุน 34,827 ล้านบาท
กำหนดเปิดให้บริการปี 2567

• นครราชสีมา รถไฟฟ้ารางเบา (สายสีเขียว)ช่วงตลาดเซฟวัน-สถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพบ้านนารีสวัสดิ์ ระยะทาง 11.7km
จำนวน 20 สถานี วงเงินลงทุน 8,275 ล้านบาท
กำหนดเปิดให้บริการปี 2568

• พิษณุโลก รถไฟฟ้า Auto Tram(รถรางล้อยาง)
(สายสีแดง)ช่วง ม.พิษณุโลก-ห้างเซ็นทรัลพลาซ่าพิษณุโลก ระยะทาง 12.6km
จำนวน 15 สถานี วงเงินลงทุน 1,566 ล้านบาท
กำหนดเปิดให้บริการปี 2569

• เชียงใหม่ รถไฟฟ้ารางเบา (สายสีแดง)
ช่วง โรงพยาบาลนครพิงค์-แยกแม่เหียะสมานสามัคคี ระยะทาง 12.54km
จำนวน 12 สถานี วงเงินลงทุน 27,791 ล้านบาท
กำหนดเปิดให้บริการปี 2570

ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาความเหมาะสม และออกแบบรายละเอียด เปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ความสนใจจากภาคเอกชน ศึกษาผล กระทบด้านสิ่งแวดล้อม รวมถึงเตรียมการจัดทำร่างเอกสารประกวดราคาในรูปแบบให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (PPP)


Last edited by Wisarut on 30/09/2019 3:53 pm; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 30/09/2019 3:46 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
ดันแจ้งเกิดรถไฟฟ้าสายสีเทา-สีน้ำตาลแก้รถติด จ่อชงคจร.จำกัดสิบล้อวิ่งผ่านเมือง ต.ค.นี้
วันจันทร์ ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2562 เวลา 07:30 น.

สนข.รถไฟฟ้าสายสีเทา-น้ำตาลแก้รถติดเมืองหลวง พร้อมพ่วงคุมความเร็วรถ


วันจันทร์ ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2562 เวลา 09:36 น.

สนข.ดันรถไฟฟ้า ช่วงรามอินทรา-พระราม9/เบรกสายบางนา
วันวันจันทร์ ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2562 เวลา 06.00 น.


วันนี้ท่านรองผู้ว่าสกลธิ ท่านพูดถึง เรื่องรถไฟฟ้าสายสีเทาและสีน้ำตาล กะ รถ LRT จากบางนา ไปสุวรรณภูมิ ซึ่งผมก็ตอบกลับท่านรองผู้ว่าไปดั่งนี้:

Wisarut wrote:
ผมขอตำหนืติเตียน เรื่องเกี่ยวกะสายสีเทาหน่อย กทม. คิดดีแล้วหรือที่ ทางรถไฟฟ้าสายสีเทาแยกเป็นสองตอนที่ไม่ติดกัน ถ้าทำเช่นนั้น สู้เปลี่ยนสี เส้นทาง ให้เป็น สีเทาอ่อน ในช่วงวัชรพล ไปสถานีทองหล่อ และ สีเทาเข้มสำหรับทางจากพระโขนงไป ท่าพระ ไปเลยไม่ดีกว่าหรือ

นอกจากนี้ ทางกทม.เตรียมการเคลียร์เรื่องกะบรรดาคนที่อยู่ซอยทองหล่อแล้วหรือยัง เพราะ พอจะมองเห็นความยุ่งยากที่จะเกิดขึ้นตามมาแล้วครับ

นอกจากนี้ ผมยังสงสัยว่าทางกทม. ไม่คิดจะทำทางจากแยกพระโขนง (หัวถนนพระราม 4 ตัดสุขุมวิท) ผ่านไปทางสุขุมวิท 71 ก่อนเลี้ยวซ้ายที่แยกคลองตันเพื่อไปเจอสายสีเทาช่วงแรก ที่ สวนสมเด็จสราญราษฎร์มณีรมย์ใกล้สถานีรถไฟคลองตัน เพื่อให้ระบบเชื่อมต่อกันไม่ขาดตอน จนต้องเปลี่ยนรถและเสียค่าแรกเข้าสองหนซึ่งเป็นการหมดเปลืองอย่างยิ่ง และ

ที่สำคัญคือ สถานีตรง แยกพระโขนง (หัวถนนพระราม 4 ตัดสุขุมวิท) ต้องเชื่อมต่อกับสถานีพระโขนงเพื่อให้การเปลี่ยนสายรถไฟฟ้าทำได้โดยสะดวก ไม่ต้องปีนกระไดขึ้นลงให้เมื่อยขาเมื่อยเข่าเปล่าๆ ข้อนี้สำคัญอย่างยิ่งโดยเฉพาะกรณีที่สายสีเทาช่วงแรกและช่วงที่ 2 ไม่เชื่อมต่อกัน ทำให้ต้องเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟฟ้าบีทีเอส


ท่านรองผู้ว่า ตอบกลับไปดั่งนี้
สกลธี ภัททิยกุล wrote:
ขอบคุณครับ พยายามจะดันสายที่เป็นไปได้เร็วให้เกิดก่อนครับ ส่วนประชาคมทองหล่อน่าจะ 80% เห็นด้วยให้ทำครับ


https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=2687946764588956&id=257079044342419
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 05/10/2019 12:06 am    Post subject: Reply with quote

รฟม.กำชับผู้รับเหมารถไฟฟ้าทุกสายพ่นน้ำไซต์ก่อสร้างลดฝุ่นละออง PM2.5
พร็อพเพอร์ตี้
วันที่ 04 ตุลาคม พ.ศ. 2562 - 20:10 น.

รฟม.พร้อมรับมือฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ด้วยการติดตั้งระบบพ่นละอองน้ำ ตามแนวพื้นที่ก่อสร้างรถไฟฟ้า

ตามที่กระทรวงคมนาคมได้มีนโยบายสถานการณ์ค่าฝุ่นละออง PM 2.5 เกินมาตรฐาน โดยให้หน่วยงานในสังกัดถือปฏิบัตินั้น การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้ดำเนินการตามมาตรการดังกล่าว เพื่อร่วมแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐาน

โดยได้กำชับและสั่งการให้ผู้รับจ้างก่อสร้างงานโยธาโครงการรถไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างก่อสร้างทุกโครงการ ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย – มีนบุรี โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว – สำโรง และโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย – มีนบุรี ดำเนินการตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัดมากยิ่งขึ้น ดังนี้

การปล่อยละอองน้ำระบบ High Pressure เพื่อกำจัดฝุ่นละอองในพื้นที่ก่อสร้าง

การเพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าและถนนสาธารณะ ด้วยรถกวาดดูดฝุ่นและการฉีดล้างถนน

การทำความสะอาดล้อรถก่อนออกจากพื้นที่ก่อสร้าง

การปิดคลุมกระบะรถบรรทุกและการปิดคลุมกองวัสดุก่อสร้างให้มิดชิด

การหมั่นตรวจสอบสภาพเครื่องจักร

การพิจารณาคืนพื้นผิวจราจร โดยให้ปิดช่องจราจรการก่อสร้างที่จำเป็น ไม่ให้ใช้พื้นที่เกาะกลางเป็นกองวัสดุ

และประสานตำรวจจราจรตามแนวพื้นที่ก่อสร้างเพื่อเพิ่มความคล่องตัวของการจัดจราจร

ทั้งนี้ รฟม.ใคร่ขอเชิญชวนให้ประชาชนหันมาใช้บริการรถไฟฟ้าแทนการใช้รถยนต์ โดยประชาชนสามารถนำรถยนต์ไปจอดอาคารจอดแล้วจรของรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล (MRT สายสีน้ำเงิน) และรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (MRT สายสีม่วง) และเดินทางต่อด้วยรถไฟฟ้า MRT ซึ่งจะช่วยลดปริมาณฝุ่นละอองและบรรเทาปัญหาสถานการณ์ดังกล่าวได้
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 07/10/2019 12:23 pm    Post subject: Reply with quote

เปิดใช้แล้วรถไฟฟ้า 142 กิโล ดัมพ์ค่าตั๋ว ดึงคนเข้าระบบ
ออนไลน์เมื่อ 05 ตุลาคม 2562
ตีพิมพ์ใน หน้า 12
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
ฉบับ 3510
ระหว่างวันที่ 3-5 ตุลาคม 2562

อย่างที่ทราบกันดีในเรื่องการคมนาคมโดยเฉพาะในกรุงเทพ มหานคร จากข้อมูลของ INRIX Global Traffic Scorecard ได้เผยผลสำรวจออกมาว่า กรุงเทพฯ ครองอันดับ 8 ของโลก และอันดับ 2 ของอาเซียนสำหรับการเป็นเมืองรถติด หรือคิดเป็น 64 ชั่วโมงต่อปีในการเสียเวลาบนท้องถนน และหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญ คือ ระบบโครงสร้างพื้นฐานยังไม่ตอบโจทย์การเดินทางภายในเมืองทำให้ทุกคนแห่กันซื้อรถและนำออกมาใช้เพิ่มขึ้นในทุกวัน หรือประมาณ 9.8 ล้านคัน โดยเกินพื้นที่ถนนรองรับได้ 4.4 เท่านั้นเอง

ความสำคัญดังกล่าว ทาง ออกที่สมดุลที่สุด คือ การหันมาพัฒนาระบบรางและตลอด 1 ทศวรรษที่ผ่านมาทางรัฐบาลได้หันมายกระดับในด้านการขนส่งทาง รางอย่างต่อเนื่อง มีการจัดตั้ง กรมการขนส่งทางรางขึ้นมาในปีนี้เพื่อกำกับดูแลระบบขนส่งทางรางทั่วประเทศให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน รวมถึงการเสนอแนะนโยบาย ยุทธศาสตร์ และแผนงานการกำกับดูแลกิจการขนส่งทางรางให้เป็นมาตรฐาน อีกทั้งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการขนส่งทางรางของประเทศให้สามารถแข่งขันและเชื่อมต่อการขนส่งรูปแบบอื่นและประเทศเพื่อนบ้านได้

14 เส้นทาง 557กม.

ระบบรถไฟฟ้าที่เราเห็นในปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของแผนแม่บทขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล (M-Map) ระยะ 20 ปี (2553-2572) โดยจะมี 14 เส้นทาง ในระยะทาง 557.56 กม.จาก 351 สถานี และ 56 สถานีเชื่อมต่อ โดยเมื่อแล้วเสร็จจะก้าวสู่การเป็น อันดับ 3 ของโลกในฐานะมหานครระบบราง โดยมีระยะทางที่ให้บริการที่มากกว่า กรุงลอนดอน นครนิวยอร์กและโตเกียวด้วยซํ้า



เปิดใช้แล้ว141.8กม.

ทั้งนี้ปี 2562 ที่ผ่านมา มีโครงข่ายรถไฟฟ้าที่ให้บริการไปแล้วรวมระยะทาง 141.8 กม. ได้แก่ สายสีเขียวในช่วงหมอชิต-ห้าแยกลาดพร้าว สายสีนํ้าเงินในช่วงหัวลำโพง - บางแค (หลักสอง) ที่เปิดให้บริการไปแล้วเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2562 ที่ผ่านมา และในช่วงปลายปีน่าจะมีการเปิดให้บริการของสายสีเขียวช่วงห้าแยกลาดพร้าว-ม.เกษตรศาสตร์ ส่วนในปี 2563 โครงข่ายรถไฟฟ้าที่น่าสนใจ คือ การเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีนํ้าเงิน ช่วงเตาปูน-ท่าพระ รวมทั้งสายสีเขียวช่วง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์-คูคต และสายสีทองช่วงกรุงธน-คลองสาน จะทำให้ปีหน้าเรามีระยะทางโครงข่ายรถไฟฟ้ารวมเป็น 170.38 กม.



ดึงคนเข้าระบบ

สิ่งที่น่าจับตาคือจำนวนการผู้ใช้บริการจะสอดรับกับการขยายตัวของโครงข่ายหรือไม่ โดยมีปัจจัยหลักมาจาก ค่าโดยสาร โดยล่าสุดวานนี้ในการเปิดรถไฟฟ้าสายสีนํ้าเงินส่วนต่อขยาย หัวลำโพง-บางแค ทางการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) ได้แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางของประชาชน ซึ่งยังคงราคาเริ่มต้นที่ 16 บาทและสูงสุดไม่เกิน 42 บาท กรณีผู้โดยสารเดินทางข้ามระบบจากสายสีนํ้าเงินไปสายสีม่วง (ตั้งแต่สถานีคลองบางไผ่-สถานีหลักสอง) จะมีค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 16 บาทเช่นเดิมและสูงสุดไม่เกิน 70 บาท ขณะที่รถไฟฟ้า BTS มีค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 16 บาทและสูงสุดไม่เกิน 59 บาท ขณะที่ แอร์พอร์ต เรล ลิงก์ มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 15 บาท และไม่เกิน 45 บาท



คนเพิ่ม 10%

อย่างไรก็ตามการปรับลดค่าโดยสารรถไฟฟ้า ที่จะออกมาเป็นรูปธรรม นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมการขนส่งทางราง(ขร.) เปิดเผยว่า เตรียมเสนอแนวทางการลดค่ารถไฟฟ้า 2 รูปแบบ คือ การลดค่ารถไฟฟ้าในช่วงนอกเวลาเร่งด่วน (Off-peak) และการลดค่าบัตรรายเดือน หรือลดค่าโดยสารลง 5 บาท ซึ่งทางอธิบดีเชื่อมันว่า จะกระตุ้นให้ประชาชนหันมาใช้รถไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 10% โดยหากผ่านความเห็นชอบจะนำเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมให้อนุมัติการบังคับใช้ทันที

ลองมาดูกันว่า ราคา กับ ระบบราง ที่เดินคู่กันแบบคู่ขนาน จะกระตุ้นให้ผู้คนหันมาใช้บริการได้เพิ่มขึ้นจริงหรือไม่
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 08/10/2019 12:19 pm    Post subject: Reply with quote

เปิดทำเลทอง 5 รถไฟฟ้าใหม่ บิ๊กเนมเตือนซํ้ารอย สายสีม่วง
ออนไลน์เมื่อ 08 ตุลาคม 2562
ตีพิมพ์ใน หน้า 25-26
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,511
วันที่ 6-9 ตุลาคม 2562

Click on the image for full size

เปิดหน้าดินเส้นทางรถไฟฟ้า 5 สาย บูมคอนโดฯ ดันความเจริญแผ่ขยายรอบกรุง ราคาที่ดินพุ่ง ไล่ตั้งแต่ รังสิต-ธัญบุรี-รามอินทรา-ลำลูกกา-บางนา-สถานีแม่นํ้า บิ๊กเนมเตือนระวังซํ้ารอยสายสีม่วง ยัน บีทีเอส-เอ็มอาร์ที ขุมทองตัวจริง

สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจรจาจร (สนข.) เปิดเส้นทางรถไฟฟ้าสายใหม่ตาม M-MAP 2 ระยะทาง 131 กิโลเมตร 5 โครงการใหม่ซึ่งเป็นระบบรองเสมือนต่อแขน -ขาให้ยื่นออกไปรับคน ในแถบปริมณฑลเชื่อมเข้าระบบ รถไฟฟ้าเส้นทางหลัก ที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง และเปิดให้บริการ ประเมินว่าจะช่วยร่นการเดินทางแก้ปัญหาจราจรแต่หัวใจสำคัญการขยายโครงข่ายจะช่วยเปิดหน้าดินในพื้นที่ให้กลายเป็นทำเลทองบ้านจัดสรรคอนโดมิเนียมตลอดจนศูนย์การค้าขนาดใหญ่หรือแม้กระทั่งมิกซ์ยูส ส่งผลให้ราคาที่ดินขยับ เกิดการจับจองพื้นที่ขึ้นโครงการดักหน้า

ไล่ตั้งแต่ทำเลเชื่อมต่อจาก สายสีแดงธรรมศาสตร์-รังสิต- บางซื่อ ซึ่งมีแผนเชื่อมรถไฟฟ้าระบบรอง ลากจาก รังสิต ไปยังอำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ระยะทาง 12 กิโลเมตร ทำเลนี้ราคาที่ดินไม่สูงมาก ส่วนใหญ่ผู้ประกอบการนิยมพัฒนาแนวราบ แต่ย่านชุมชน เมืองรังสิต เป็นชุมชนใหญ่ ทั้งเมืองมหาวิทยาลัย และแหล่งงาน สำหรับผู้มีรายได้ น้อย ส่งผลให้ราคาที่ดินขยับสูง อย่างไรก็ตาม เส้นทางนี้เกิดจากข้อเรียกร้องของประชาชนในพื้นที่ เพราะถนนเส้นนครนายก จราจรหนาแน่น ไม่สามารถสร้างยกระดับลอยฟ้าได้ (และมาแทนโครงการเรือคลองรังสิตที่ไปต่อไม่ได้เพราะคุมระดับน้ำในคลองรังสิตให้คงที่ตลอดปีไม่สำเร็จ)

ขณะเส้นทางจาก รามอินทราไปลำลูกกา แผนเดิมมีรถไฟฟ้าสายสีเทาวิ่งจากถนนวัชรพลไปย่านทองหล่อต่อไปถึงถนนพระราม 3 ซึ่งจะมาทดแทนรถเมล์บีอาร์ทีแต่มองว่าอนาคตน่าจะรองรับปริมาณจราจรไม่เพียงพอแต่พอสรุปได้ว่าเส้นทางนี้จะวิ่งจากวัชรพลมุ่งตรงไปตามแนวทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ มุ่งหน้าไปยังลำลูกกา ส่งผลให้คนที่อยู่บริเวณเขตชานเมืองสามารถเข้าสู่เขตเมืองได้สะดวกรวดเร็ว



อีกเส้นทางสำคัญ จากบางหว้า บีทีเอส สายสีเขียว เชื่อมบางกะปิ บริเวณนี้จะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง แต่บางโซนเป็นจุดบอดไม่มีรถไฟฟ้าผ่าน โดยจะรวม สายสีนํ้าตาล จากวงศ์สว่าง ผ่านมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บริเวณนี้จะเป็นอีกหนึ่งวงแหวนถัดจากรถไฟฟ้าสายสีชมพู (วงแหวนสายที่ 2) เป็นการเชื่อมเมืองระหว่าง ตะวันออกกับตะวันตก ซึ่งปกติจะมีสายที่วิ่งพาดผ่านคือสายสีส้ม ตะวันตก-ตะวันออก จาก ศิริราช วิ่งสู่สุวินทวงศ์ เส้นนี้จะเป็นทางเลือกอีกเส้น

อีกทำเลที่น่าสนใจคือ สายหลักสี่ เชื่อมสถานีรถโดยสารที่ถนนบรมราชชนนี ซึ่งรูปแบบเป็นได้ทั้งบนดินหรือใต้ดิน สถานีแม่นํ้า เส้นทางรถไฟสายแรกของประเทศไทย หรือทางรถไฟสมุทรปราการ เส้นนี้จะใช้แนวเดิมของการรถไฟฯ เชื่อมต่อฟาร์มแท็งก์ของเชลล์ ที่วันนี้ยกเลิกสัญญาไปแล้ว พาดผ่านเมืองออกมา วิ่งผ่านบางนาไปตามแนวบางนา ตราดขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษา ซึ่งประเมินว่าเพียงแค่เชื่อมบางนาไม่นาจะพอต้องเชื่อมต่อไปยังสถานีแม่นํ้าอีกด้วย (ก็โครงการ LRT จากบางนาไปสุววณภูมิที่ขยายไปท่าเรือคลองเตยและสถานีแม่น้ำนี่เอง)


มุมสะท้อนนายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท-พรีเมียม บริษัทพฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด(มหาชน) ระบุว่า ต้องการให้รัฐเร่งโครงการรถไฟฟ้าทั้ง 10 สายให้แล้วเสร็จก่อน รวมถึงการปรับค่าโดยสารราคาถูก แต่ทั้งนี้รถไฟฟ้าที่เป็นสายหลัก ขุมทองนักลงทุน มีเพียง 2 สาย คือ บีทีเอส สายสีเขียว เส้นผ่านใจกลางเมือง และ สายสีนํ้าเงิน วิ่งเป็นวงแหวนเชื่อมพื้นที่กรุงเทพฯ กับฝั่งธน ทำให้ราคาที่ดินขยับไปไกล ไม่สามารถซื้อขึ้นโครงการในราคาระดับกลาง-ล่าง เข้าถึงได้ ส่วนรถไฟฟ้าที่เหลือเป็นเพียงฟีด
เดอร์ อย่างไรก็ตาม การขยายโครงการใหม่ๆ ต่อจากรถไฟฟ้า 10 สาย อยากให้ผู้ประกอบการระมัดระวัง ไม่ให้ซํ้ารอยรถไฟฟ้าสายสีม่วง
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44325
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 16/10/2019 10:33 am    Post subject: Reply with quote

รัฐเงื้อง่าเมกะโปรเจ็กต์ฉุดตลาดรับเหมาหดตัว
ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2562

สมาคมรับเหมาหั่นเป้าธุรกิจก่อสร้างเหลือ 3.25% จับตางบฯปี'63 ล่าช้า กระทบแผนลงทุนรัฐไม่ปล่อยโปรเจ็กต์ กดปุ่มประมูล หวั่นจีนผูกขาดเหล็ก งานก่อสร้าง

นายอังสุรัสมิ์ อารีกุล นายกสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า ปัจจุบันมูลค่าอุตสาหกรรมก่อสร้างของไทยอยู่ที่ 400,000 ล้านบาท คาดว่าจะยังมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานใหม่ ๆ ของภาครัฐอยู่ ในปีนี้ตั้งเป้าอัตราเติบโตทั้งปีไว้ที่ 6.5% หากการลงทุนของภาครัฐไม่เกิด อาจจะทำให้เป้าลดเหลือแค่ 3.25%

"ถ้าภาครัฐลงทุนโครงการ 50% เอกชนก็จะลงทุนตามมาอีก 50% ยกตัวอย่าง รถไฟฟ้าสารพัดสี ถ้าสร้างเสร็จ จะเห็นว่า เอกชนจะไปทำโครงการเกาะแนวเส้นทาง ทันที ไม่ว่าจะคอนโดมิเนียมหรือห้างสรรพสินค้า หรือถ้าในต่างจังหวัด มีการสร้างถนนหรือมอเตอร์เวย์สายใหม่ เอกชน ก็จะทำโรงงานอุตสาหกรรม"

อย่างไรก็ตาม กำลังจับตามองว่าในการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ในส่วนของงบฯลงทุน 20% จากงบฯรวมทั้งหมด เป็นการลงทุนในส่วนงานใด สภาจะให้ผ่านหรือไม่ และจะลงทุนจริงจังแค่ไหน เพราะที่ผ่านมาเห็นแต่การประกาศว่าจะทำ แต่ยังไม่เห็น การอนุมัติโครงการจริง ๆ

ยังต้องจับตาดูนโยบายอื่น ๆ เช่น ขึ้นค่าแรง, ควบคุมดูแลราคาสินค้าอุปโภคบริโภคไม่ให้สูงขึ้น ซึ่งมีผลกับการขึ้นค่าแรงมากและขอให้ต่อยอดนโยบายเดิม เช่น การเที่ยวเมืองรอง เพราะเมื่อมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยว เมืองรองมาก รัฐจะทำโครงสร้างพื้นฐานเพิ่ม ทำให้เอกชนเห็นลู่ทางในการลงทุน

รวมถึงเรื่องการกำหนดราคากลางในการประมูลงาน อยากให้รัฐอัพเดตให้ทันสมัย เพราะบางโครงการศึกษามานาน พอได้รับอนุมัติ ผลศึกษาเดิมก็ ล้าสมัยไปแล้ว ส่วนการจัดซื้อจัดจ้าง อยากให้แยกสองอย่างนี้ออกจากกัน เพราะความคล่องตัวไม่เหมือนกัน "การจ้าง" จะมีเงื่อนไขมากกว่า "การจัดซื้อ" โดยเฉพาะภาระด้านสิ่งแวดล้อม

ส่วนปัจจัยภายนอกที่อาจจะมากระทบ คือ ราคาเหล็กที่ต้องใช้ในประเทศ ที่กำลังมีปัญหาเรื่องเหล็กนำเข้าจากจีน เพราะเมื่อต้นปี บริษัท Hebsteel HBIS Global Holding Pte.Ltd. (HBIS) จากประเทศจีนเข้ามาควบรวม บมจ.ทาทา สตีล (ประเทศไทย) ทำให้ผู้รับเหมากำลังจับตาอย่างใกล้ชิด เพราะถ้าจีนเข้ามาควบคุมตลาดในประเทศ อาจจะทำให้มีอำนาจกำหนดราคาเหล็กภายในประเทศได้

และยังพบว่า ใน พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้าง และการบริหารพัสดุภาครัฐ 2560 ได้ตัดถ้อยคำ "สินค้าที่ได้แหล่งกำเนิด (local content)" ออก สมาคมจึงต้องการผลักดัน ให้สนับสนุนการใช้สินค้าของไทย โดยให้ใส่การใช้สินค้าที่ได้จากแหล่งกำเนิด

"รัฐทำรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ให้จีนเป็นแกนนำ ก็เริ่มกังวล ถ้าเข้ามาร่วมทุน หรือมาขายของ จะดีกว่านี้"

นอกจากนี้ สมาคมยังกังวลการที่ผู้รับเหมา จากต่างประเทศเข้ามาประมูลงาน โดยเฉพาะ จีนมาแข่งขันกับผู้รับเหมาไทยในหลายโครงการ อยากให้รัฐแก้กฎหมายให้เอื้อ ผู้ประกอบการไทยมากกว่านี้ ต้องลดสัดส่วนต่างประเทศลงเหลือ 40%
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 202, 203, 204 ... 277, 278, 279  Next
Page 203 of 279

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©