View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42628
Location: NECTEC
|
Posted: 21/04/2019 4:21 am Post subject: |
|
|
มหาเธร์มีชัยในการเจรจาทำข้อตกลงใหม่กับ จีน เพื่อเดินหน้าสร้างทางรถไฟสายสำคัญ
เผยแพร่: 20 เมษายน 2562 22:44
ปรับปรุง: 20 เมษายน 2562 22:47
โดย: ไนล์ โบวี รายงานจากสิงคโปร์
(เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.asiatimes.com)
Mahathir sets tone for renegotiating with China
By Nile Bowie, Singapore
17/04/2019
มาเลเซียภายใต้รัฐบาลใหม่ของนายกรัฐมนตรีมหาเธร์ โมฮาหมัด สามารถตกลงกันได้กับจีน ในเรื่องเงื่อนไขใหม่ๆ ที่ราคาถูกลงกว่าเดิม เพื่อเดินหน้าโครงการสร้างทางรถไฟเชื่อมพวกท่าเรือสำคัญทางชายฝั่งตะวันออกคาบสมุทรมลายูกับชายฝั่งตะวันตก ก่อนหน้านี้ โครงการขนาดยักษ์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสายไหมใหม่ของจีน ได้ถูกหลายฝ่ายมองว่าเป็น กับดักแห่งหนี้สิน ที่เกิดจากการทุจริตคอร์รัปชั่น
มาเลเซียเพิ่งประกาศว่า จะกลับมาเดินหน้าโครงการสร้างทางรถไฟเชื่อมชายฝั่งตะวันออก (East Coast Rail Link ใช้อักษรย่อว่า ECRL) หลังจากระงับเอาไว้มาระยะหนึ่ง โดยที่โครงการด้านโครงสร้างพื้นฐานมูลค่านับหมื่นล้านดอลลาร์ซึ่งได้รับความสนับสนุนจากจีนโครงการนี้ ออกแบบมาเพื่อเชื่อมต่อบรรดาท่าเรือทรงความสำคัญทางยุทธศาสตร์ที่ตั้งอยู่ทางชายฝั่งตะวันออกของคาบสมุทรมลายู กับชายฝั่งด้านตะวันตก การแถลงเดินหน้าครั้งนี้มีขึ้นหลังจากแดนเสือเหลืองสามารถเจรจาต่อรองทำข้อตกลงฉบับใหม่กับบริษัทรับเหมาหลักที่เป็นรัฐวิสาหกิจของจีน ซึ่งจะตัดค่าก่อสร้างมูลค่าเกือบๆ 16,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ได้ตกลงกันไว้ตามดีลฉบับเก่า ให้ลดลงมาร่วมๆ หนึ่งในสาม ทั้งนี้ตามรายงานของสื่อมวลชนและเจ้าหน้าที่
ข้อตกลงจากการเจรจาต่อรองกันใหม่นี้ มีศักยภาพที่จะให้ประโยชน์แก่กลุ่มแนวร่วมปากะตัน ฮาราปัน (Pakatan Harapan) ซึ่งเป็นผู้จัดตั้งคณะรัฐบาลผสมชุดปัจจุบันขึ้นมา โดยที่รัฐบาลผสมได้ระงับโครงการนี้เอาไว้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว เพื่อเป็นการปฏิบัติให้เป็นไปตามการรณรงค์หาเสียงของนายกรัฐมนตรีมหาเธร์ โมฮาหมัด ซึ่งได้ประกาศเอาไว้ว่า จะทบทวนประดาโครงการอันเกี่ยวข้องพัวพันกับจีนหลายๆ โครงการที่รัฐบาลชุดที่แล้วริเริ่มขึ้นมา และบางคนบางฝ่ายรู้สึกว่าเสี่ยงต่อการทำให้ประเทศต้องแบกรับภาระหนี้สินจนเกินกำลัง
โครงการทางรถไฟเชื่อมต่อสายนี้ ได้รับการป่าวร้องว่าเป็นช่วงตอนที่สำคัญส่วนหนึ่งในโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานตามแผนการริเริ่มแถบและเส้นทาง (Belt and Road Initiative ใช้อักษรย่อว่า BRI) หรือเส้นทางสายไหมใหม่ ของจีน ซึ่งมีมูลค่าโดยรวมมหาศาลยิ่งถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายหลังการเจรจาต่อรองกันอย่างยืดเยื้อเป็นเวลา 9 เดือนระหว่างฝ่ายมาเลเซียกับฝ่ายจีนเกี่ยวกับอนาคตของโปรเจ็คต์นี้ ในที่สุดก็มีการแถลงรื้อฟื้นกลับมาเดินหน้ากันใหม่อย่างเป็นทางการ โดยที่ในระหว่างเวลานั้นทางเจ้าหน้าที่มาเลเซียได้ออกมาแจ้งหลายครั้งหลายคราซึ่งมีเนื้อหาขัดแย้งกันเอง ตลอดจนมีการส่งสัญญาณอันสับสนชวนงุนงงว่าแดนเสือเหลืองยังจะเดินหน้าต่อไปหรือไม่
แต่จากข้อตกลงฉบับเพิ่มเติมซึ่งได้ลงนามกันที่กรุงปักกิ่งโดยคณะผู้แทนจากทั้ง 2 ประเทศเมื่อวันที่ 12 เมษายนที่ผ่านมา ถือเป็นการแผ้วถางทางให้แก่โครงการผีเข้าผีออกโครงการนี้ที่จะเดินหน้าต่อไปจนจบได้ บนเงื่อนไขอันมีการปรับปรุงแก้ไขกันใหม่หลายๆ ข้อ ซึ่งทำให้มาเลเซียเวลานี้ดูเหมือนจะรู้สึกว่ามีความเป็นธรรมแล้ว โดยที่จากราคาเดิมซึ่งอยู่ที่ 65,500 ล้านริงกิต (15,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ตอนนี้ได้ลดลงมาเหลือ 44,000 ล้านริงกิต (10,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)
ทั้งนี้ จากการเปลี่ยนแปลงแนวเส้นทางในบางช่วงบางตอน จะลดระยะทางลงมาได้ราว 40 กิโลเมตร ทำให้ทางสายนี้มีความยาวรวมทั้งสิ้นเหลือ 648 กิโลเมตร ถึงแม้ตอนนี้เส้นทางจะผ่านรัฐต่างๆ ของมาเลเซีย 5 รัฐ บวกกับผ่าน ปุตราจายา (Putrajaya) เมืองหลวงในทางบริหารราชการแผ่นดินของมาเลเซีย เพิ่มขึ้นจากที่เคยผ่านแค่ 4 รัฐตามแผนการเดิม นอกจากนั้นแล้วแนวทางปรับปรุงใหม่นี้ยังมีการเชื่อมต่ออย่างดียิ่งขึ้นกว่าเดิมกับเส้นทางรถไฟที่มีใช้งานอยู่แล้วในปัจจุบัน ไม่เพียงเท่านั้น ผู้โดยสารยังสามารถที่จะลงรถ ณ สถานีต่างๆ 19 แห่งจากจำนวนที่วางแผนสร้างกันขึ้นมาทั้งหมด 20 สถานี ขณะที่จะมีการขนสินค้าลงจากรถในสถานีต่างๆ 6 แห่ง สำหรับกำหนดระยะเวลาที่จะเดินรถได้ตลอดทั้งสายนั้น ได้ปรับมาเป็นภายในปี 2026 หรือช้าลง 2 ปีจากแผนการเดิม
เส้นทางรถไฟ ECRL นี้ จะตัดข้ามคาบสมุทรมลายู เพื่อเชื่อมต่อท่าเรือน้ำลึกแห่งใหม่ในเมืองกวนตัน (Kuantan) ในทะเลจีนใต้ เข้ากับ กลัง (Klang) เมืองท่าทางภาคตะวันตกซึ่งเป็นท่าเรือใหญ่ที่สุดและคับคั่งที่สุดของประเทศ และก็อยู่บนเส้นทางเดินเรือในช่องแคบมะละกา บางคนบางฝ่ายเชื่อว่า โครงการมูลค่าสูงลิ่วนี้จะเอื้ออำนวยให้ปักกิ่งมีที่วางเท้าในทางยุทธศาสตร์ เพื่อการขยายอิทธิพลด้านภูมิรัฐศาสตร์ของตนไปในภูมิภาคแถบนี้ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42628
Location: NECTEC
|
Posted: 21/04/2019 4:21 am Post subject: |
|
|
มหาเธร์มีชัยในการเจรจาทำข้อตกลงใหม่กับ จีน เพื่อเดินหน้าสร้างทางรถไฟสายสำคัญ
เผยแพร่: 20 เมษายน 2562 22:44
ปรับปรุง: 20 เมษายน 2562 22:47
โดย: ไนล์ โบวี รายงานจากสิงคโปร์
(เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.asiatimes.com)
Mahathir sets tone for renegotiating with China
By Nile Bowie, Singapore
17/04/2019
มาเลเซียภายใต้รัฐบาลใหม่ของนายกรัฐมนตรีมหาเธร์ โมฮาหมัด สามารถตกลงกันได้กับจีน ในเรื่องเงื่อนไขใหม่ๆ ที่ราคาถูกลงกว่าเดิม เพื่อเดินหน้าโครงการสร้างทางรถไฟเชื่อมพวกท่าเรือสำคัญทางชายฝั่งตะวันออกคาบสมุทรมลายูกับชายฝั่งตะวันตก ก่อนหน้านี้ โครงการขนาดยักษ์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสายไหมใหม่ของจีน ได้ถูกหลายฝ่ายมองว่าเป็น กับดักแห่งหนี้สิน ที่เกิดจากการทุจริตคอร์รัปชั่น
มาเลเซียเพิ่งประกาศว่า จะกลับมาเดินหน้าโครงการสร้างทางรถไฟเชื่อมชายฝั่งตะวันออก (East Coast Rail Link ใช้อักษรย่อว่า ECRL) หลังจากระงับเอาไว้มาระยะหนึ่ง โดยที่โครงการด้านโครงสร้างพื้นฐานมูลค่านับหมื่นล้านดอลลาร์ซึ่งได้รับความสนับสนุนจากจีนโครงการนี้ ออกแบบมาเพื่อเชื่อมต่อบรรดาท่าเรือทรงความสำคัญทางยุทธศาสตร์ที่ตั้งอยู่ทางชายฝั่งตะวันออกของคาบสมุทรมลายู กับชายฝั่งด้านตะวันตก การแถลงเดินหน้าครั้งนี้มีขึ้นหลังจากแดนเสือเหลืองสามารถเจรจาต่อรองทำข้อตกลงฉบับใหม่กับบริษัทรับเหมาหลักที่เป็นรัฐวิสาหกิจของจีน ซึ่งจะตัดค่าก่อสร้างมูลค่าเกือบๆ 16,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ได้ตกลงกันไว้ตามดีลฉบับเก่า ให้ลดลงมาร่วมๆ หนึ่งในสาม ทั้งนี้ตามรายงานของสื่อมวลชนและเจ้าหน้าที่
ข้อตกลงจากการเจรจาต่อรองกันใหม่นี้ มีศักยภาพที่จะให้ประโยชน์แก่กลุ่มแนวร่วมปากะตัน ฮาราปัน (Pakatan Harapan) ซึ่งเป็นผู้จัดตั้งคณะรัฐบาลผสมชุดปัจจุบันขึ้นมา โดยที่รัฐบาลผสมได้ระงับโครงการนี้เอาไว้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว เพื่อเป็นการปฏิบัติให้เป็นไปตามการรณรงค์หาเสียงของนายกรัฐมนตรีมหาเธร์ โมฮาหมัด ซึ่งได้ประกาศเอาไว้ว่า จะทบทวนประดาโครงการอันเกี่ยวข้องพัวพันกับจีนหลายๆ โครงการที่รัฐบาลชุดที่แล้วริเริ่มขึ้นมา และบางคนบางฝ่ายรู้สึกว่าเสี่ยงต่อการทำให้ประเทศต้องแบกรับภาระหนี้สินจนเกินกำลัง
โครงการทางรถไฟเชื่อมต่อสายนี้ ได้รับการป่าวร้องว่าเป็นช่วงตอนที่สำคัญส่วนหนึ่งในโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานตามแผนการริเริ่มแถบและเส้นทาง (Belt and Road Initiative ใช้อักษรย่อว่า BRI) หรือเส้นทางสายไหมใหม่ ของจีน ซึ่งมีมูลค่าโดยรวมมหาศาลยิ่งถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายหลังการเจรจาต่อรองกันอย่างยืดเยื้อเป็นเวลา 9 เดือนระหว่างฝ่ายมาเลเซียกับฝ่ายจีนเกี่ยวกับอนาคตของโปรเจ็คต์นี้ ในที่สุดก็มีการแถลงรื้อฟื้นกลับมาเดินหน้ากันใหม่อย่างเป็นทางการ โดยที่ในระหว่างเวลานั้นทางเจ้าหน้าที่มาเลเซียได้ออกมาแจ้งหลายครั้งหลายคราซึ่งมีเนื้อหาขัดแย้งกันเอง ตลอดจนมีการส่งสัญญาณอันสับสนชวนงุนงงว่าแดนเสือเหลืองยังจะเดินหน้าต่อไปหรือไม่
แต่จากข้อตกลงฉบับเพิ่มเติมซึ่งได้ลงนามกันที่กรุงปักกิ่งโดยคณะผู้แทนจากทั้ง 2 ประเทศเมื่อวันที่ 12 เมษายนที่ผ่านมา ถือเป็นการแผ้วถางทางให้แก่โครงการผีเข้าผีออกโครงการนี้ที่จะเดินหน้าต่อไปจนจบได้ บนเงื่อนไขอันมีการปรับปรุงแก้ไขกันใหม่หลายๆ ข้อ ซึ่งทำให้มาเลเซียเวลานี้ดูเหมือนจะรู้สึกว่ามีความเป็นธรรมแล้ว โดยที่จากราคาเดิมซึ่งอยู่ที่ 65,500 ล้านริงกิต (15,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ตอนนี้ได้ลดลงมาเหลือ 44,000 ล้านริงกิต (10,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)
ทั้งนี้ จากการเปลี่ยนแปลงแนวเส้นทางในบางช่วงบางตอน จะลดระยะทางลงมาได้ราว 40 กิโลเมตร ทำให้ทางสายนี้มีความยาวรวมทั้งสิ้นเหลือ 648 กิโลเมตร ถึงแม้ตอนนี้เส้นทางจะผ่านรัฐต่างๆ ของมาเลเซีย 5 รัฐ บวกกับผ่าน ปุตราจายา (Putrajaya) เมืองหลวงในทางบริหารราชการแผ่นดินของมาเลเซีย เพิ่มขึ้นจากที่เคยผ่านแค่ 4 รัฐตามแผนการเดิม นอกจากนั้นแล้วแนวทางปรับปรุงใหม่นี้ยังมีการเชื่อมต่ออย่างดียิ่งขึ้นกว่าเดิมกับเส้นทางรถไฟที่มีใช้งานอยู่แล้วในปัจจุบัน ไม่เพียงเท่านั้น ผู้โดยสารยังสามารถที่จะลงรถ ณ สถานีต่างๆ 19 แห่งจากจำนวนที่วางแผนสร้างกันขึ้นมาทั้งหมด 20 สถานี ขณะที่จะมีการขนสินค้าลงจากรถในสถานีต่างๆ 6 แห่ง สำหรับกำหนดระยะเวลาที่จะเดินรถได้ตลอดทั้งสายนั้น ได้ปรับมาเป็นภายในปี 2026 หรือช้าลง 2 ปีจากแผนการเดิม
เส้นทางรถไฟ ECRL นี้ จะตัดข้ามคาบสมุทรมลายู เพื่อเชื่อมต่อท่าเรือน้ำลึกแห่งใหม่ในเมืองกวนตัน (Kuantan) ในทะเลจีนใต้ เข้ากับ กลัง (Klang) เมืองท่าทางภาคตะวันตกซึ่งเป็นท่าเรือใหญ่ที่สุดและคับคั่งที่สุดของประเทศ และก็อยู่บนเส้นทางเดินเรือในช่องแคบมะละกา บางคนบางฝ่ายเชื่อว่า โครงการมูลค่าสูงลิ่วนี้จะเอื้ออำนวยให้ปักกิ่งมีที่วางเท้าในทางยุทธศาสตร์ เพื่อการขยายอิทธิพลด้านภูมิรัฐศาสตร์ของตนไปในภูมิภาคแถบนี้
ดาอิม ไซนุดดิน (Daim Zainuddin) ประธานของสภาบุคคลผู้เลิศล้ำ (Council of Eminent Persons) ซึ่งเป็นองค์กรให้คำปรึกษาที่ทรงอิทธิพลยิ่งของรัฐบาลชุดนี้ คือผู้นำของฝ่ายมาเลเซียในการเจรจาต่อรองกันใหม่กับฝ่ายจีนในเรื่องโครงการ ECRL เขาพูดถึงข้อตกลงที่ออกมาจากการเจรจากันคราวนี้ว่า เป็น ดีลที่ใช้เวลายาวนานที่สุด, สลับซับซ้อนที่สุด, และท้าทายที่สุด เท่าที่เขาเคยเข้าร่วมต่อรองมา เขาพูดถึงค่าใช้จ่ายที่คณะรัฐบาลสามารถประหยัดได้ว่าเป็น ความสำเร็จขนาดใหญ่ แต่ก็ระบุด้วยว่า การเจรจากันเกี่ยวกับเงินกู้จัดทำโครงการนี้ยังคงดำเนินอยู่ไม่ใช่เสร็จสิ้นแล้ว
หนึ่งในข้อผ่อนปรนสำคัญที่สุดซึ่งเราได้รับจากฝ่ายจีนก็คือ การเข้าร่วมของฝ่ายท้องถิ่น (ฝ่ายมาเลเซีย) ในการก่อสร้างโครงการ ECRL จะเพิ่มขึ้นเป็น 40% ของงานด้านโยธา จากที่ก่อนหน้านี้ได้แค่ 30% ดาอิม ซึ่งเคยเป็นรัฐมนตรีคลังของมาเลเซียมา 2 สมัยแถลงแก่พวกผู้สื่อข่าว ก่อนหน้านี้ การที่บริษัทผู้รับเหมาหลักมุ่งที่จะพึ่งพาอาศัยกำลังคนจากฝ่ายจีนเป็นสำคัญ ได้กลายเป็นข้อติดสำคัญใหญ่ข้อหนึ่งในสายตาของฝ่ายมาเลเซีย
ทางด้าน อัมริตา มัลฮี (Amrita Malhi) นักวิจัยรับเชิญของวิทยาลัยเอเชียและแปซิฟิก (College of Asia and the Pacific) แห่งมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย (Australian National University) ให้ความเห็นว่า เรื่องนี้เป็นชัยชนะที่ทางแนวร่วมฮาราปันต้องการมาก ทั้งในแง่ของการบริหารจัดการความสัมพันธ์ที่มาเลเซียมีอยู่กับจีน และทั้งในแง่ของการสร้างความมั่นใจแน่ใจให้แก่ท่านผู้ดูผู้ชมภายในประเทศของฮาราปันว่า ประดาสัญญาข้อตกลงต่างๆ ที่อดีตนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค เจรจาจัดทำเอาไว้นั้น เป็นสัญญาข้อตกลงที่ฉ้อฉลทุจริตและราคาสูงเกินไปจริงๆ
Last edited by Wisarut on 21/04/2019 4:23 am; edited 2 times in total |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42628
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44333
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 26/07/2019 7:54 am Post subject: |
|
|
^^^
มาเลย์ เริ่มสร้างทางรถไฟทุนจีนอีกครั้ง
กรุงเทพธุรกิจ 26 กรกฎาคม 2562
มาเลเซียกลับมาสร้างทางรถไฟมูลค่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ที่จีนสนับสนุนและเป็นส่วนหนึ่งในโครงการเส้นทางสายไหมใหม่ของปักกิ่งอีกครั้ง หลังสั่งระงับไปเมื่อปีที่แล้ว เมื่อรัฐบาลชุดเก่าแพ้การเลือกตั้ง
นายแอนโธนี ลก รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมของมาเลเซีย กล่าวในพิธีเปิดทางรถไฟที่รัฐเตรังกานูทางตะวันออกเฉียงเหนือ วานนี้ (25 ก.ค.) ว่าทางรถไฟระยะทาง 640 ก.ม.สายนี้จะพัฒนา ระบบขนส่งมวลชนในพื้นที่ทุรกันดาร โดยเฉพาะในชายฝั่งตะวันออกของคาบสมุทรมาเลเซีย
ทางรถไฟดังกล่าวจะเชื่อมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของมาเลเซีย ใกล้ชายแดนไทย กับท่าเรือสำคัญที่ช่องแคบมะละกาในภาคตะวันตก ก่อให้เกิดส่วนหนึ่งของเครือข่ายที่จะทอดยาวจากภาคใต้ของจีนผ่านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
โครงการนี้อันเป็นส่วนหนึ่งของแผนนำร่องเส้นทางสายไหมใหม่มูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ของจีน เป็นหนึ่งในหลายแผนริเริ่มด้านโครงสร้างพื้นฐานที่จีนสนับสนุนแต่ถูกระงับในมาเลเซีย หลังจากการพ่ายแพ้เลือกตั้งของกลุ่มอำนาจเก่าเมื่อปีที่แล้ว
บรรดานักวิจารณ์ กล่าวว่า โครงการเหล่านี้ขาดความโปร่งใส อาจทำให้รัฐบาลเป็นหนี้ก้อนโต และอันที่จริงแล้วมีไว้เพื่อระดมเงินให้นายนาจิบ ราซัคอดีตนายกรัฐมนตรีใช้จ่ายคืนเงินที่เขายักยอกมาจากกองทุนความมั่นคงแห่งรัฐ วันเอ็มดีบี
อย่างไรก็ตาม หลังจากหลายเดือนของการเจรจาระหว่างรัฐบาลมาเลเซีย รัฐบาลจีน และบริษัทที่เกี่ยวข้อง ก็ได้มีการบรรลุข้อตกลงในเดือน เม.ย.ว่า จะสานต่อโครงการทางรถไฟชายฝั่งตะวันออก (อีซีอาร์แอล) ด้วยค่าใช้จ่ายที่ลดลง
ทั้งนี้ ชายฝั่งตะวันออกของมาเลเซียมีความยากจนมากกว่าพื้นที่ส่วนอื่น ๆ ของคาบสมุทรมาเลเซีย
การก่อสร้างทางรถไฟเริ่มต้นแล้วเมื่อเดือน ส.ค.2560แต่แล้วเสร็จไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หลังถูกสั่งระงับเมื่อเดือน ก.ค.ปีที่แล้ว
ค่าก่อสร้างทางรถไฟ 20 สถานีลดลงเหลือ 4.4 หมื่นล้านริงกิตจากราคาเดิมที่ 6.5 หมื่นล้านริงกิต ขณะที่รัฐบาลมาเลเซียได้ปรับเปลี่ยนเส้นทางของทางรถไฟและเลื่อนกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จไปเป็นปี 2569
นายลก กล่าวว่า 85%ของค่าใช้จ่ายโครงการนี้จะมากจากการจัดหาทุนของธนาคารส่งออกและนำเข้าของจีน
โครงการเส้นทางสายไหมใหม่ของรัฐบาลปักกิ่งประกอบด้วยโครงการทางทะเล รถไฟ และถนนในเอเชีย แอฟริกา และยุโรป |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42628
Location: NECTEC
|
Posted: 26/07/2019 11:34 am Post subject: |
|
|
มาเลย์เริ่มโครงการทางรถไฟร่วมทุนจีนใหม่อีกครั้ง หลังได้ข้อตกลงใหม่
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: พฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม 2562 เวลา 15:10
เอเอฟพี มาเลเซียเริ่มโครงการทางรถไฟมูลค่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ที่จีนสนับสนุนและเป็นส่วนหนึ่งในแผนโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลกของปักกิ่งใหม่อีกครั้ง หลังระงับมันไปเมื่อปีที่แล้ว ในตอนที่รัฐบาลคอร์รัปชั่นชุดเก่าถูกขับออกจากอำนาจ
ทางรถไฟระยะทาง 640 กิโลเมตรสายนี้จะเชื่อมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของมาเลเซีย ใกล้ชายแดนไทย กับท่าเรือสำคัญที่ช่องแคบมะละกาในภาคตะวันตก ก่อให้เกิดส่วนหนึ่งของเครือข่ายที่จะทอดยาวจากภาคใต้ของจีนผ่านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ในพิธีเปิดที่รัฐเตรังกานูทางตะวันออกเฉียงเหนือ รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมของมาเลเซีย แอนโธนี โลค กล่าวว่า เส้นทางนี้จะพัฒนา ระบบขนส่งมวลชนในพื้นที่ทุรกันดาร โดยเฉพาะในชายฝั่งตะวันออกของคาบสมุทรมาเลเซีย
โครงการนี้ ส่วนหนึ่งของแผนริเริ่มแถบและเส้นทางมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ของจีน เป็นหนึ่งในหลายแผนริเริ่มด้านโครงสร้างพื้นฐานที่จีนสนับสนุนแต่ถูกระงับในมาเลเซีย หลังจากการพ่ายแพ้เลือกตั้งของกลุ่มอำนาจเก่าเมื่อปีที่แล้ว
นักวิจารณ์ กล่าวว่า โครงการเหล่านี้ขาดความโปร่งใส อาจทำให้รัฐบาลเป็นหนี้ก้อนโต และในความเป็นจริงมันมีไว้เพื่อระดมเงินให้อดีตนายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัค ใช้จ่ายคืนเงินที่เขายักยอกมาจากกองทุนความมั่นคงแห่งรัฐ 1MDB
อย่างไรก็ตาม หลังจากหลายเดือนของการเจรจาระหว่างรัฐบาลมาเลเซีย รัฐบาลจีน และบริษัทที่เกี่ยวข้อง ก็ได้มีการบรรลุข้อตกลงในเดือนเมษายนว่าจะสานต่อโครงการทางรถไฟชายฝั่งตะวันออก (East Coast Rail Link) ด้วยค่าใช้จ่ายที่ลดลง
ชายฝั่งตะวันออกมีความยากจนมากกว่าพื้นที่ส่วนอื่นๆ ของคาบสมุทรมาเลเซีย
การก่อสร้างทางรถไฟเริ่มต้นแล้วเมื่อเดือนสิงหาคมปี 2017 แต่แล้วเสร็จไปแค่เล็กน้อยเท่านั้นหลังมันถูกสั่งระงับเมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว
ค่าก่อสร้างทางรถไฟ 20 สถานีลดลงเหลือ 4.4 หมื่นล้านริงกิตจากราคาเดิมที่ 6.5 หมื่นล้านริงกิต ขณะที่เส้นทางของทางรถไฟได้ถูกปรับเปลี่ยนและวันก่อสร้างเสร็จถูกเลื่อนไปยังปี 2026
โลคกล่าวว่า 85 เปอร์เซ็นต์ของค่าใช้จ่ายโครงการนี้จะมากจากการจัดหาทุนของธนาคารส่งออกและนำเข้าของจีน
แผนการแถบและเส้นทางของปักกิ่งประกอบด้วยโครงการทางทะเล รถไฟ และถนนในเอเชีย แอฟริกา และยุโรป
เปรียบเทียบทางสายเก่าและทางสายใหม่
Raub308 wrote: | |
Infographic แสดงข้อเท็จจริงของ ECRL โดย MRL เสร็จปลายปี 2026 มีการสร้างอุโมงค์ 3 แห่ง ได้แก่ Dungun Tunnel 871 เมตร, Paka Tunnel 1.1 กิโลเมตร, และ Kuantan Tunnel 2.8 กิโลเมตร
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42628
Location: NECTEC
|
Posted: 26/07/2019 12:22 pm Post subject: |
|
|
มาเลเซียฟื้นชีพโครงการรถไฟจีน 3.3 แสนล้านบาท
25 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 21:22 น.
มาเลเซียกลับมาเริ่มโครงการก่อสร้างทางรถไฟงบประมาณ 44,000 ล้านริงกิต หรือราว 330,330 ล้านบาท ที่หยุดก่อสร้างไป 1 ปี โดยเป็นหนึ่งในโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางที่จีนสนับสนุน
เจ้าหน้าที่ตรวจอุโมงค์เส้นทางรถไฟชายฝั่งตะวันออกที่รัฐตรังกานู เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2562 / AFP
โครงการก่อสร้างทางรถไฟ "อีสต์โคสต์เรลลิงค์" ระยะทาง 640 กิโลเมตร สายนี้ เชื่อมต่อภาคตะวันออกเฉียงเหนือของมาเลเซียจากเมืองโกตาบาลูในรัฐกลันตันกับเมืองพอร์ตกลัง ซึ่งเป็นเมืองท่าสำคัญที่ช่องแคบมะละกาทางตะวันตกของประเทศ โดยมีทั้งหมด 20 สถานี
เส้นทางรถไฟสายนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (บีอาร์ไอ) หรือเส้นทางสายไหมใหม่ของจีน มูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่นายกรัฐมนตรีมหาเธร์ โมฮัมหมัด สั่งระงับการก่อสร้างเมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว หลังเริ่มดำเนินโครงการไปเมื่อเดือนสิงหาคม 2560
รัฐบาลมาเลเซียเจรจากับรัฐบาลจีนและบริษัทก่อสร้างจีนนานหลายเดือน จนตกลงกันได้เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยจีนยอมลดงบก่อสร้างโครงการนี้ลงเหลือ 44,000 ล้านริงกิต หรือราว 330,331 ล้านบาท จากงบเดิม 65,000 ล้านริงกิต และมีการปรับเปลี่ยนเส้นทางรถไฟโดยกำหนดสร้างเสร็จในเดือนธันวาคม 2569 บริษัทก่อสร้างหลักของโครงการคือ บริษัท ไชน่า คอมมูนิเคชั่นส์ คอนสตรัคชั่น
รัฐมนตรีคมนาคมมาเลเซีย แอนโทนี หลู่ กล่าวในพิธีเริ่มก่อสร้างโครงการนี้ใหม่เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ที่อำเภอดูงุน รัฐตรังกานู ว่ารถไฟสายนี้จะช่วยปรับปรุงระบบขนส่งมวลชนในเขตชนบท โดยเฉพาะชายฝั่งตะวันออกของคาบสมุทรมาเลเซีย งบก่อสร้างโครงการนี้ 85% มาจากธนาคารเอ็กซ์พอร์ต-อิมพอร์ตของจีน
ไป๋ เทียน เอกอัครราชทูตจีนประจำมาเลเซีย กล่าวในพิธีเดียวกันว่า การกลับมาก่อสร้างโครงการรถไฟสายนี้จะช่วยดึงดูดนักลงทุนจีนมาศึกษาความเป็นไปได้ที่จะมาลงทุนในมาเลเซีย และเมื่อรถไฟสายนี้สร้างเสร็จ จะมีนักท่องเที่ยวจากจีนมามาเลเซียเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่า จากปีที่แล้วคนจีนมาเที่ยวมาเลเซีย 3 ล้านราย.
มาเลย์ ฟื้นโครงการรถไฟทุนจีน เชื่อมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ-ช่องแคบมะละกา
อาเซียน-เออีซี
วันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 17:21 น.
คนงานจากบริษัทไชนา คอมมิวนิเคชั่น คอนสตรั๊กชั่น จำกัด (ซีซีซีซี) ของจีน ยืนอยู่หน้าอุโมงค์ทางรถไฟสายชายฝั่งตะวันออก (อีซีอาร์แอล) ในรัฐตรังกานู ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม (เอเอฟพี)
เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า มาเลเซียฟื้นโครงการสร้างทางรถไฟที่จีนให้การสนับสนุนอยู่มีมูลค่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐกลับมาใหม่แล้ว หลังจากรัฐบาลมหาธีร์ โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ได้สั่งระงับแผนการนี้ไปในปีที่แล้ว จากความแคลงใจในโครงการนี้ที่รัฐบาลนายนาจิบ ราซัก อดีตนายกรัฐมนตรีผู้อื้อฉาวในคดีทุจริต เป็นผู้ไปทำความตกลงไว้กับจีน
นายแอนโธนี ล็อก รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมมาเลเซีย กล่าวในพิธีเปิดโครงการก่อสร้างทางรถไฟชายฝั่งตะวันออก (อีซีอาร์แอล)ในรัฐตรังกานู เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคมว่า ทางรถไฟสายนี้จะช่วยปรับปรุงระบบการขนส่งคมนาคมในหลายพื้นที่ชนบท โดยเฉพาะพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกของแหลมมลายู
โดยทางรถไฟสายนี้จะเชื่อมพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของมาเลเซียติดกับชายแดนไทย กับท่าเรือสำคัญของมาเลเซียในช่องแคบมะละกา เป็นระยะทางทั้งสิ้น 640 กิโลเมตร โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของความริเริ่ม สายแถบและเส้นทาง ของจีนที่มีมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และเป็นหนึ่งในโครงการสร้างระบบสาธารณูปโภคในมาเลเซียที่จีนให้การสนับสนุนอยู่ แต่ถูกรัฐบาลมหาธีร์สั่งระงับไว้ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ว่าขาดความโปร่งใสและอาจทำให้รัฐบาลต้องมีหนี้สาธารณะมหาศาล
แต่หลังจากการเจรจาเป็นเวลาหลายเดือนระหว่างรัฐบาลมหาธีร์กับรัฐบาลจีน ตลอดจนภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ก็ได้บรรลุความเห็นพ้องเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาให้ฟื้นโครงการสร้างทางรถไฟแนวชายฝั่งตะวันออกของมาเลเซียขึ้นมาใหม่ที่มีการปรับลดต้นทุนการก่อสร้างลงแล้ว |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42628
Location: NECTEC
|
Posted: 01/08/2019 6:20 pm Post subject: |
|
|
มหาธีร์ปัดฝุ่นรถไฟเชื่อม 2 มหาสมุทร 3.3 แสนล้าน
ออนไลน์เมื่อ 31กรกฎาคม พ.ศ. 2562
ตีพิมพ์ใน หน้า 12
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
ฉบับ 3492 ระหว่างวันที่ 1 - 3 สิงหาคม 2562
รัฐบาลมาเลเซียชุบชีวิตโครงการก่อสร้างทางรถไฟ อีสต์โคสต์เรลลิงก์ หรือ โครงการ ECRL เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2562 โดยโครงการดังกล่าวเป็นการก่อสร้างเส้นทางรถไฟระยะทาง 640 กิโลเมตร พาดผ่านเมืองโกตาบารูในรัฐกลันตันด้านชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก สู่ท่าเรือเมืองแคลงในรัฐเซลังงอร์ที่อยู่ทางด้านตะวันตกของประเทศและเป็นเมืองท่าสำคัญในช่องแคบมะละกา โดยจะมีสถานีรายทางจำนวนทั้งสิ้น 20 สถานี เส้นทางรถไฟสายนี้เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือระหว่างจีนและมาเลเซีย ทั้งยังเป็นโครงการในยุทธศาสตร์ หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (บีอาร์ไอ) หรือเส้นทางสายไหมยุคใหม่ของจีน มูลค่าการลงทุน 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่หลังจากที่มาเลเซียมีการเลือกตั้ง และ ดร.มหาธีร์ โมฮัมหมัด ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โครงการดังกล่าวก็ถูกสั่งระงับการก่อสร้างเมื่อเดือนกรกฎาคม 2561 หลังจากที่มีการดำเนินงานก่อสร้างมาแล้วระยะหนึ่ง (ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2560) โดยรัฐบาลใหม่ของมาเลเซียเห็นว่าเม็ดเงินการลงทุนเดิมนั้นสูงเกินไป
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการระงับโครงการจะทำให้มาเลเซียต้องจ่ายค่าปรับให้กับรัฐบาลจีนถึง 21,780 ล้านริงกิต ดังนั้น ดร.มหาธีร์ โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย จึงรื้อฟื้นการเจรจาโครงการขึ้นมาใหม่ มีการเจรจาทั้งในส่วนของภาครัฐและบริษัทก่อสร้างจีนเป็นเวลาหลายเดือน ในที่สุดทั้ง 2 ฝ่ายก็บรรลุข้อตกลงกันได้เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา (2562) โดยจีนยอมลดงบก่อสร้างโครงการนี้ลงเหลือ 44,000 ล้านริงกิต หรือประมาณ 330,331 ล้านบาท จากงบเดิม 65,500 ล้านริงกิต และยังได้ปรับเปลี่ยนเส้นทางรถไฟโดยกำหนดการก่อสร้างให้แล้วเสร็จในเดือนธันวาคม 2569 มีบริษัทก่อสร้างหลักของโครงการ ได้แก่ บริษัท ไชน่า คอมมูนิเคชั่นส์ คอนสตรัคชั่นฯนายแอนโทนี โล้ก รัฐมนตรีคมนาคมมาเลเซีย กล่าวในพิธีเริ่มการก่อสร้างโครงการครั้งใหม่เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ซึ่งพิธีดังกล่าวมีขึ้นบริเวณพื้นที่ก่อสร้างอุโมงค์รถไฟ ที่อำเภอดูงุน รัฐตรังกานู ว่า ทางรถไฟสายนี้จะช่วยปรับปรุงระบบขนส่งมวลชนในเขตชนบท โดยเฉพาะชายฝั่งตะวันออกของคาบสมุทรมาเลเซีย ส่วนงบก่อสร้างโครงการนี้ 85% จะเป็นเงินกู้จากธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้า หรือ เอ็กซิมแบงก์ของจีน และเนื่องจากต้นทุนก่อสร้างลดลง ดังนั้นภาระดอกเบี้ยเงินกู้ก็จะลดลงมาอยู่ที่ 24,000 ล้านริงกิต ด้านนายไป๋ เทียน เอกอัครราชทูตจีนประจำมาเลเซีย กล่าวในพิธีเดียวกันว่า เส้นทางรถไฟสายนี้จะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนมายังประเทศมาเลเซียมากยิ่งขึ้น เขาเชื่อว่าเมื่อทางรถไฟสายนี้สร้างเสร็จ จะมีนักท่องเที่ยวจากจีนมาเยือนมาเลเซียเพิ่มขึ้น 2 เท่าหรือมากกว่านั้น จากปีที่แล้วคนจีนมาเที่ยวมาเลเซีย 3 ล้านคน
ทั้งนี้ หลังจากที่รัฐบาลได้พลิกฟื้นโครงการกลับคืนมา งานก่อสร้างได้เริ่มขึ้นอีกครั้งโดยเฉพาะในบริเวณที่ต้องมีการขุดอุโมงค์ เช่นอุโมงค์ดูงุนความยาว 871 เมตร อุโมงค์พากา 1.1 กิโลเมตร และอุโมงค์กวนตัน 2.8 กิโลเมตร นอกจากนี้ ยังมีการเร่งเคลียร์พื้นที่บริเวณเมืองชายฝั่งหลายแห่งในรัฐตรังกานู เพื่อเดินหน้าโครงการเต็มกำลังและมุ่งหวังให้การก่อสร้างแล้วเสร็จภายในเวลา 7 ปีตามที่กำหนดไว้ ภายใต้ข้อตกลงฉบับปรับปรุงใหม่นี้ มาเลเซียและจีนจะลงทุนในบริษัทร่วมทุนที่ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะฝ่ายละ 50% และจะมีการใช้แรงงานในพื้นที่ 70% เป้าหมายการก่อสร้างแล้วเสร็จคือเดือนธันวาคม 2569 ผู้โดยสารจากเมืองหลวงกัวลาลัมเปอร์จะสามารถเดินทางถึงเมืองโกตาบารูทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือโดยใช้เวลาเพียง 4 ชั่วโมง ขณะนี้การก่อสร้างทั้งโครงการเดินหน้ามาแล้วประมาณ 10% |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42628
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42628
Location: NECTEC
|
Posted: 05/11/2019 7:57 pm Post subject: |
|
|
นักการเมืองฝ่ายค้านของมาเลย์เปิดประเด็นเรื่องโครงการ ECRL ที่คุยว่าปรับเส้นทางแล้วประหยัดเงินได้โข โดยเปืดประเด็นที่ดินสองข้างทางรถไฟ 2700 เอเคอร์ (6750 ไร่) ที่จะให้เจ้าหนี้จีนหาประโยชน์ - 1200 เอเคอร์ในฝั่างตะวันออกและ 1500 เอเคอร์ ในฝั่ตะวันตก
https://www.facebook.com/cktjhin/posts/10213472041131206 |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42628
Location: NECTEC
|
Posted: 07/11/2019 11:57 am Post subject: |
|
|
ความก้าวหน้าโครงการ ECRL อยู่ที่ 11.07% ตอนนี้กำลังทำ รายงานต่อไปนี้:
Environmental Impact Assessment Report (EIA),
the Heritage Impact Assessment Report (HIA) และ
the Social Impact Assessment Report (SIA)
ในส่วนที่ต้องทำใหม่ เพื่อลดค่าใช้จ่ายจาก 65,500 ล้านเหรียญสหรัฐไป 21,500 ล้านเหรียญสหรัฐเหลือ 44000 ล้านเหรียญสหรัฐ
https://www.theedgemarkets.com/article/ecrl-project-progress-stands-1107 |
|
Back to top |
|
|
|