RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311232
ทั่วไป:13179404
ทั้งหมด:13490636
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวรถไฟฟ้าสายสีส้ม (บางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี)
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวรถไฟฟ้าสายสีส้ม (บางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี)
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 21, 22, 23 ... 89, 90, 91  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42620
Location: NECTEC

PostPosted: 04/11/2019 7:38 pm    Post subject: Reply with quote

ดูทางขึ้นลงสายสีส้มสิครับ หลายสถานีก็ได้รับคำตำหนิกลับมา ว่ามีน้อยไปบ้างตำแหน่งไม่ถูกใจบ้าง ถึงขั้นขอเปลี่ยนชื่อสถานีก็มี เช่น

1. ที่รามคำแหง 12 ให้เป็นสถานีอุดมยศ ตามชื่อซอยที่จำง่ายกว่า

2. สถานีรามคำแหง ให้เรียกว่าสถานี มหาวิทยาลัยรามคำแหงจะเหมาะกว่า เพราะ อยู่หน้ามหาวิทยาลัยพอดี

3. สถานีหัวหมาก ให้เรียกว่าสถานี รามคำแหง 83 หรือ ซอยตะวันนาก็ได้

4. สถานีเคหะราม ให้เรียกว่า สถานีปัญจทรัพย์ จะเหมาะกว่า

ที่ต้องโดนด่าหนักเป็นพิเศษก็สถานีสัมมากรนี่แหละ เพราะ นอกจากทางขึ้นลงน้อยไปแล้ว ยังอยู่ในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสมด้วย แถมไม่ยักกะใกล้ห้าง Golden Place จะได้สะดวกแก่การซื้อของ


ถ้าใครมีความเห็นว่ากระไร ก็ช่วยกันออกความเห็นกันเยอะๆ หน่อยครับ

https://www.facebook.com/MRTOrangeLineEast/posts/703803993432288?__tn__=H-R
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42620
Location: NECTEC

PostPosted: 08/11/2019 5:31 pm    Post subject: Reply with quote

คลังพลิกดัน PPP สายสีส้ม
7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 เวลา 19:34 น.

ด้านนายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้วาการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าววา ความคืบหน้าการเสนอโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก ช่วงศูนย์วัฒนธรรม – บางขุนนนท์ ระยะทาง 27 กม. เงินลงทุน 122,041 ล้านบาท

ขณะนี้กระทรวงการคลังทำความเห็นตอบกลับไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) มาแล้วว่า เห็นด้วยที่จะให้โครงการนี้อยู่ในรูปแบบเอกชนร่วมลงทุนกับรัฐ (PPP) ทั้งงานโยธาและเดินรถตามเดิม เพราะเห็นว่าเอกชนลงทุนเป็นการประหยัดงบประมาณภาครัฐมากกว่า และรัฐต้องนำงบประมาณไปใช้ในกิจการด้านอื่น เช่น การศึกษา และการเกษตร เป็นต้น คาดว่าจะเสนอครม.ได้เร็วสุดภายในเดือนพ.ย.นี้ หรือช้าสุดก็ไม่เกินสิ้นปี2562นี้

“กระบวนการขณะนี้ได้ผ่านการพิจารณาถึงคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (คณะกรรมการ PPP) แล้ว การจะเสนอครม.ต้องขอความห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อน ซึ่งที่ผ่านมามีข้อสังเกตเพิ่มเติมจากกระทรวงการคลัง จึงต้องนำมาทบทวนให้รอบคอบก่อน โดยผู้ที่จะเสนอคือกระทรวงการคลัง” นายภคพงศ์กล่าว

https://www.thebangkokinsight.com/235250/


คลังสรุปสายสีส้มตะวันตก'บางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรม'เป็น PPP ไม่แยกสัญญา

08 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 เวลา 10:06 น.

8 พ.ย.2562 นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการลงทุนรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกช่วง บางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมระยะทาง 35.9 กิโลเมตรวงเงิน 1.22 แสนล้านบาท ว่าล่าสุดกระทรวงการคลังได้มีคำชี้แจงเพิ่มเติมและได้ยืนยันไปที่สำนักเลขาคณรัฐมนตรี ว่ากระทรวงคลังเห็นด้วยว่าจะให้เอกชนร่วมลงทุน PPP ในส่วนของงานโยธาของรถไฟฟ้าสายสีส้มฝั่งตะวันตก

“ คาดว่าจะเสนอครม. ได้ภายในเดือนนี้ หรือ ก่อนสิ้นปี โดยกระทรวงการคลังเป็นผู้เสนอเข้า ครม.ซึ่งตอนนี้ชัดเจนแล้วว่ากระทรวงการคลังในฐานะที่เป็นหน่วยบริหารจัดการด้านการเงินการคลังของประเทศยืนยันว่ารูปแบบที่เสนอไว้แบบเดิมที่ผ่านการเสนอของ บอร์ด PPP เป็นรูปแบบที่เหมาะสม”นายภคพงศ์ กล่าว

นายภคพงศ์ กล่าวว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ข้อสรุปแล้วว่า การลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีสัม ฝั่งตะวันตก ควรใช้รูปแบบการร่วมทุนกับเอกชน PPP เป็น 1 สัญญา ตามแผนเดิมไม่ต้องแบ่งงานโยธาและงานบริหารการเดินรถเป็นหลายสัญญาเนื่องจากกระทรวงการคลังได้จัดทำคำชี้แจงเพิ่มเติมไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี(ครม) แล้วว่า แม้การกู้เงินมาลงทุนงานโยธาของเอกชน จะมีดอกเบี้ยสูงกว่าภาครัฐ แต่ก็ควรเปิดให้เอกชนร่วมทุนงานโยธาเช่นเดิม เพราะภาครัฐจำเป็นต้องนำเงินไปพัฒนา ภาคเกษตร ภาคการศึกษา ที่เอกชนไม่สนใจร่วมลงทุนด้วย

อย่างไรก็ตามจากเดิมที่จะมีการเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี(ครม.)ในเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา แต่ได้มีประเด็นข้อสังเกตจากกระทรวงการคลังเรื่องต้นทุนการดำเนินการซึ่งรูปแบบ PPP ที่เสนอไปแล้วผ่านการพิจารณาของ บอร์ด PPP นั้นเป็นรูปแบบที่ให้เกชนลงทุนงานโยธาในส่วนของสายสีส้ม ฝั่งตะวันตก วงเงิน 92,000 ล้านไปด้วย และรัฐจะทยอยผ่อนชำระคืน เนื่องจากเปิดเดินรถแล้วเป็นระยะเวลา 10 ปี

“ถ้าให้เอกชนกู้แล้วรัฐทยอยผ่อนชำระเงินต้นและภาระดอกเบี้ย ซึ่งเอกชนกู้เงินยังไงก็สูงกว่าภาครัฐอยู่แล้ว ซึ่งในส่วนของกระทรวงคมนาคมได้มีการดำเนินการมาทั้งสองรูปแบบมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบที่ให้เอกชนรับผิดชอบงานโยธาด้วย เช่น สายสีชมพู,สายสีเหลือง หรือ ภาครัฐลงทุนงานโยธาและให้เอกชนรับสัมปทานเฉพาะระบบรถไฟฟ้าและงานเดินรถ เช่น สายสีม่วง ,น้ำเงิน เราทำได้ทั้งสองรูปแบบ “นายภคพงศ์ กล่าว

__________________
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42620
Location: NECTEC

PostPosted: 08/11/2019 8:47 pm    Post subject: Reply with quote

ก.คมนาคม เสนอครม.ช่วง พ.ย.-ธ.ค.นี้ พิจารณารถไฟฟ้าสายสีส้มในรูปแบบ PPP

ข่าวหุ้นล่าสุด
เรียบเรียง จารุวรรณ เอี่ยมยิ่งพานิช
อีเมล์. charuwan@efinancethai.com
อนุมัติ อนุรักษ์ ลีประเสริฐสุนทร
7 พฤศจิกายน 2562 | 17:30
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -7 พ.ย. 62 17:30 น.

  ก.คมนาคม เตรียมเสนอ ครม.ภายในเดือน พ.ย.-ธ.ค.นี้ พิจารณา โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตะวันตก) ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ระยะทาง 35.9 กิโลเมตร วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท หลังได้ข้อสรุปการลงทุนในรูปแบบ PPP

  นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงคมนาคมได้ข้อสรุปการดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตะวันตก) ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ระยะทาง 35.9 กิโลเมตร วงเงิน 1.22 แสนล้านบาทแล้ว โดยจะใช้รูปแบบเดิมตามที่ รฟม.เสนอ คือ การร่วมทุนกับเอกชน (PPP) โดยให้เอกชนร่วมทุนงานโยธาเช่นเดิม และจะเป็นการดำเนินโครงการเพียง 1 สัญญาโดยรวมงานโยธาและงานบริหารการเดินรถเข้าด้วยกันตามเดิม เนื่องจากกระทรวงการคลังในฐานะที่เป็นหน่วยบริหารจัดการการเงินการคลังได้ยืนยันว่า ภาครัฐจำเป็นต้องนำเงินงบประมาณเพื่อพัฒนา ภาคเกษตร ภาคการศึกษา และภาคเอกชนไม่ค่อยสนใจลงทุน คาดว่า จะมีการนำเสนอโครงการดังกล่าวให้ คณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติได้ภายในเดือนพ.ย. หรือช่วงสิ้นปี นี้

  รายงานว่าแจ้งว่า การลงทุนรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตะวันตก) จะใช้รูปแบบ PPP Net Cost จำนวน 1 สัญญา ภาครัฐจะรับภาระค่าเวนคืนที่ดินส่วนตะวันตก ส่วนเอกชนจะลงทุนงานโยธามูลค่า 9.6 หมื่นล้านบาท งานระบบไฟฟ้า ขบวนรถไฟฟ้า รวมทั้ง บริหารการเดินรถและซ่อมบำรุงรักษาตอลดเส้นทาง โดยในส่วนของเงินลงทุนงานโยธานั้น รัฐจะทยอยผ่อนชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยให้เอกชนหลังจากเปิดเดินรถ 10 ปี

รฟม.สรุปสายสีส้มตะวันตกเป็นPPP
8 พฤศจิกายน 2019 - 17:05

รฟม.สรุป โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก จะใช้รูปแบบการร่วมทุนกับเอกชน หรือ PPP ไม่แยกสัญญา เล็งชงครม.เห็นชอบภายในเดือนนี้


นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน รองปลัดกระทรวงคมนาคมกล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุม การขออนุญาตเข้าใช้พื้นที่ในโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ส่วนตะวันออก) ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาแนวทางการเข้าพื้นที่ก่อสร้างบางช่วงที่ยังติดปัญหา เช่นเป็นพื้นที่ของราชการ เป็นพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร โดยบางพื้นที่อาจจะต้องทำหนังสือทางราชการขอเข้าพื้นที่ และอาจจะมีการย้ายระบบสาธารณูปโภคบางส่วน เพื่อให้โครงการสามารถเดินหน้าต่อไป

ทั้งนี้ถือว่าโครงการไม่ล่าช้ากว่าแผนมากนัก ติดปัญหาบางส่วนเท่านั้นซึ่งเป็นปัญหาทางด้านงานโยธา

ด้าน นายนายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) เปิดเผยว่า ในส่วนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกช่วง บางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมระยะทาง 35.9 กิโลเมตรวงเงิน 1.22 แสนล้านบาท จะใช้รูปแบบการร่วมทุนกับเอกชน PPP เป็น 1 สัญญา ตามแผนเดิมที่ได้เสนอบอร์ด PPPไม่มีการเปลี่ยนแบบโดยคาดว่าจะเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้ภายในเดือนนี้

อย่างไรก็ตาม โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มกำหนดเปิดให้บริการในปี 2566 ถือเป็นโครงการรถไฟฟ้าสายแรกที่เชื่อมโยงกรุงเทพฝั่งตะวันออกสู่ใจกลางเมือง

ลุ้นชงครม.เคาะPPPสายสีส้มตะวันตก

—หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
ข่าวเศรษฐกิจ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

ราชดำเนิน * รฟท.รับคลังส่งคำชี้แจงเพิ่มเติมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มฝั่งตะวันตก เป็น PPP 1 สัญญารวมงานโยธา คาดเสนอ ครม.ภายในเดือนนี้หรือก่อนสิ้นปี 62 นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน แห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการลงทุนรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกช่วง บางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรม ระยะทาง 35.9 กิโลเมตร วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท ว่า กระทรวงการคลังได้มีคำชี้แจงเพิ่มเติมและได้ยืนยันไปที่สำนักเลขาฯคณะรัฐมนตรี เห็นด้วยกับการให้การลงทุนในรูปแบบการร่วม ลงทุนระหว่างรัฐกับเอกชน (PPP) ในส่วนของงานโยธาของรถไฟฟ้าสายสีส้มดังกล่าว

"คาดภายในเดือน พ.ย. หรือ ก่อนสิ้นปี 2562 นี้ กระทรวงการ คลังจะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมน ตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบได้ภายในเดือนนี้ หรือก่อนสิ้นปี ซึ่งตอนนี้ชัดเจนแล้วว่ากระทรวงการคลังในฐานะที่เป็นหน่วยบริหารจัดการด้านการเงินการคลังของประเทศยืนยันว่ารูปแบบที่เสนอไว้แบบเดิมที่ผ่านการเสนอ ของบอร์ด PPP เป็นรูปแบบที่เหมาะสม" นายภคพงศ์กล่าว

นายภคพงศ์กล่าวว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ข้อสรุปแล้วว่า การลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีสัมฝั่งตะวันตก ควรใช้รูปแบบ การร่วมทุนกับเอกชน PPP เป็น 1 สัญญา ตามแผนเดิมไม่ต้องแบ่ง งานโยธาและงานบริหารการเดิน รถเป็นหลายสัญญา เนื่องจากกระทรวงการคลังได้จัดทำคำชี้ แจงเพิ่มเติมไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้วว่า แม้การกู้เงินมาลงทุนงานโยธาของเอกชนจะมีดอกเบี้ยสูงกว่าภาครัฐ แต่ก็ควรเปิดให้เอกชนร่วมทุนงานโยธาเช่นเดิม เพราะภาครัฐจำเป็นต้องนำเงินไปพัฒนาภาคเกษตร ภาคการศึกษา ที่เอกชนไม่สนใจร่วมลงทุนด้วย

อย่างไรก็ตาม จากเดิมที่จะมีการเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา แต่ได้มีประเด็นข้อสังเกตจากกระทรวงการคลังเรื่องต้นทุนการดำเนินการ ซึ่งรูปแบบ PPP ที่เสนอไปแล้วผ่านการพิจารณาของบอร์ด PPP นั้น เป็นรูปแบบที่ให้เอกชนลงทุนงานโยธาในส่วนของสายสีส้มฝั่งตะวันตก วงเงิน 92,000 ล้านบาทไปด้วย และรัฐจะทยอยผ่อนชำระคืน เนื่องจากเปิดเดินรถแล้วเป็นระยะเวลา 10 ปี.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42620
Location: NECTEC

PostPosted: 09/11/2019 12:41 am    Post subject: Reply with quote

#ประชาสัมพันธ์ขอเชิญร่วมจัดกิจกรรม “Road Show “เชื่อมต่อโครงข่าย เชื่อมต่ออนาคต” กับ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย – มีนบุรี (สุวินทวงศ์)
ในวันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2562 เวลา 10.00 น. – 14.00 น. พบกันที่ ลานกิจกรรมชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ 3 รามคำแหง

ภายในมีการจัดนิทรรศการข้อมูลแนวเส้นทางพร้อมด้วยอัพเดทความคืบหน้างานก่อสร้างโครงการ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมร่วมสนุกเล่นเกมส์ลุ้นรับของรางวัลพิเศษจากทางโครงการมากมาย ในโอกาสนี้ รฟม. จึงขอเชิญชวนประชาชนที่สนใจมาเข้าร่วมกิจกรรมม Road Show “เชื่อมต่อโครงข่าย เชื่อมต่ออนาคต กับรถไฟฟ้าสายสีส้ม” ที่ ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ 3 รามคำแหง แล้วพบกันนะ

#รถไฟฟ้าสายสีส้ม #Orangeline #รฟม. #เรายกระดับชีวิตเมือง #Road Show “เชื่อมต่อโครงข่าย เชื่อมต่ออนาคต กับรถไฟฟ้าสายสีส้ม”
https://www.facebook.com/MRTOrangeLineEast/photos/a.257972248015467/706975879781766/?type=3&theater
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42620
Location: NECTEC

PostPosted: 10/11/2019 7:19 pm    Post subject: Reply with quote

คลังสรุปสายสีส้มตะวันตก'บางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรม'เป็น PPP ไม่แยกสัญญา

8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

8 พ.ย.2562 นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการลงทุนรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกช่วง บางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมระยะทาง 35.9 กิโลเมตรวงเงิน 1.22 แสนล้านบาท ว่าล่าสุดกระทรวงการคลังได้มีคำชี้แจงเพิ่มเติมและได้ยืนยันไปที่สำนักเลขาคณรัฐมนตรี ว่ากระทรวงคลังเห็นด้วยว่าจะให้เอกชนร่วมลงทุน PPP ในส่วนของงานโยธาของรถไฟฟ้าสายสีส้มฝั่งตะวันตก

“ คาดว่าจะเสนอครม. ได้ภายในเดือนนี้ หรือ ก่อนสิ้นปี โดยกระทรวงการคลังเป็นผู้เสนอเข้า ครม.ซึ่งตอนนี้ชัดเจนแล้วว่ากระทรวงการคลังในฐานะที่เป็นหน่วยบริหารจัดการด้านการเงินการคลังของประเทศยืนยันว่ารูปแบบที่เสนอไว้แบบเดิมที่ผ่านการเสนอของ บอร์ด PPP เป็นรูปแบบที่เหมาะสม”นายภคพงศ์ กล่าว


นายภคพงศ์ กล่าวว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ข้อสรุปแล้วว่า การลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีสัม ฝั่งตะวันตก ควรใช้รูปแบบการร่วมทุนกับเอกชน PPP เป็น 1 สัญญา ตามแผนเดิมไม่ต้องแบ่งงานโยธาและงานบริหารการเดินรถเป็นหลายสัญญาเนื่องจากกระทรวงการคลังได้จัดทำคำชี้แจงเพิ่มเติมไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี(ครม) แล้วว่า แม้การกู้เงินมาลงทุนงานโยธาของเอกชน จะมีดอกเบี้ยสูงกว่าภาครัฐ แต่ก็ควรเปิดให้เอกชนร่วมทุนงานโยธาเช่นเดิม เพราะภาครัฐจำเป็นต้องนำเงินไปพัฒนา ภาคเกษตร ภาคการศึกษา ที่เอกชนไม่สนใจร่วมลงทุนด้วย

อย่างไรก็ตามจากเดิมที่จะมีการเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี(ครม.)ในเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา แต่ได้มีประเด็นข้อสังเกตจากกระทรวงการคลังเรื่องต้นทุนการดำเนินการซึ่งรูปแบบ PPP ที่เสนอไปแล้วผ่านการพิจารณาของ บอร์ด PPP นั้นเป็นรูปแบบที่ให้เกชนลงทุนงานโยธาในส่วนของสายสีส้ม ฝั่งตะวันตก วงเงิน 92,000 ล้านไปด้วย และรัฐจะทยอยผ่อนชำระคืน เนื่องจากเปิดเดินรถแล้วเป็นระยะเวลา 10 ปี

“ถ้าให้เอกชนกู้แล้วรัฐทยอยผ่อนชำระเงินต้นและภาระดอกเบี้ย ซึ่งเอกชนกู้เงินยังไงก็สูงกว่าภาครัฐอยู่แล้ว ซึ่งในส่วนของกระทรวงคมนาคมได้มีการดำเนินการมาทั้งสองรูปแบบมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบที่ให้เอกชนรับผิดชอบงานโยธาด้วย เช่น สายสีชมพู,สายสีเหลือง หรือ ภาครัฐลงทุนงานโยธาและให้เอกชนรับสัมปทานเฉพาะระบบรถไฟฟ้าและงานเดินรถ เช่น สายสีม่วง ,น้ำเงิน เราทำได้ทั้งสองรูปแบบ “นายภคพงศ์ กล่าว


__________________

รฟม.สรุปสายสีส้มตะวันตกเป็นPPP
8 พฤศจิกายน 2019 - 17:05

รฟม.สรุป โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก จะใช้รูปแบบการร่วมทุนกับเอกชน หรือ PPP ไม่แยกสัญญา เล็งชงครม.เห็นชอบภายในเดือนนี้


นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน รองปลัดกระทรวงคมนาคมกล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุม การขออนุญาตเข้าใช้พื้นที่ในโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ส่วนตะวันออก) ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาแนวทางการเข้าพื้นที่ก่อสร้างบางช่วงที่ยังติดปัญหา เช่นเป็นพื้นที่ของราชการ เป็นพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร โดยบางพื้นที่อาจจะต้องทำหนังสือทางราชการขอเข้าพื้นที่ และอาจจะมีการย้ายระบบสาธารณูปโภคบางส่วน เพื่อให้โครงการสามารถเดินหน้าต่อไป

ทั้งนี้ถือว่าโครงการไม่ล่าช้ากว่าแผนมากนัก ติดปัญหาบางส่วนเท่านั้นซึ่งเป็นปัญหาทางด้านงานโยธา


ด้าน นายนายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) เปิดเผยว่า ในส่วนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกช่วง บางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมระยะทาง 35.9 กิโลเมตรวงเงิน 1.22 แสนล้านบาท จะใช้รูปแบบการร่วมทุนกับเอกชน PPP เป็น 1 สัญญา ตามแผนเดิมที่ได้เสนอบอร์ด PPPไม่มีการเปลี่ยนแบบโดยคาดว่าจะเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้ภายในเดือนนี้

อย่างไรก็ตาม โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มกำหนดเปิดให้บริการในปี 2566 ถือเป็นโครงการรถไฟฟ้าสายแรกที่เชื่อมโยงกรุงเทพฝั่งตะวันออกสู่ใจกลางเมือง

กระทรวงคลัง’ คอนเฟิร์ม! เปิดประมูล ‘รถไฟฟ้าสายสีส้ม’ 1 สัญญาเหมาะสมแล้ว
7 พฤศจิกายน 2562
เนื่องจากกระทรวงการคลังได้จัดทำคำชี้แจงเพิ่มเติมไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้วว่า แม้การกู้เงินมาลงทุนงานโยธาของเอกชน จะมีดอกเบี้ยสูงกว่าภาครัฐ แต่ก็ควรเปิดให้เอกชนร่วมทุนงานโยธาเช่นเดิม เพราะภาครัฐจำเป็นต้องนำเงินไปพัฒนาภาคส่วนอื่นๆ เช่น ภาคเกษตร ภาคการศึกษา ที่เอกชนไม่สนใจร่วมลงทุนด้วย ดังนั้นการเปิด PPP รถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตะวันตก) โดยรวมงานโยธาและงานบริหารการเดินรถเป็น 1 สัญญา จึงเหมาะสมแล้ว

แนวคิดดังกล่าวได้คำนึงถึงการเงินการคลังของประเทศเป็นหลัก เพราะนโยบายการลงทุนแบบ PPP เป็นการแบ่งเบาภาระการลงทุนของภาครัฐ เนื่องจากรัฐบาลต้องนำเงินไปลงทุนในอีกหลายภาคส่วน ขณะเดียวกันถ้าภาครัฐต้องกู้เงินมาลงทุน ก็จะทำให้เพดานหนี้สาธารณะของประเทศเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ถึง รฟม. จะเป็นผู้กู้เงินมาลงทุนงานโยธาเอง ภาครัฐก็ต้องกู้เงินทุนระยะยาวมาชำระหนี้ให้ รฟม. อีก 1 ต่อ ไม่แตกต่างจากกรณีที่ให้เอกชนเป็นผู้รับสัมปทานและกู้เงิน ภาครัฐก็ต้องกู้เงินมาชำระเงินต้นและดอกเบี้ยให้กับเอกชนอยู่ดี

“ตอนนี้ก็ชัดเจนแล้วว่า กระทรวงการคลัง ในฐานะที่เป็นหน่วยบริหารจัดการการเงินการคลังของประเทศยืนยันว่า รูปแบบที่เสนอไว้เดิม ที่ผ่านคณะกรรมการนโยบาย PPP นั้นเป็นรูปแบบที่เหมาะสม” นายภคพงศ์กล่าว

หลังจากนี้ก็คาดว่า กระทรวงการคลังจะเสนอข้อมูลและความเห็นเกี่ยวกับโครงการทั้งหมดกลับไปให้ ครม. พิจารณาได้ภายในเดือนนี้หรือก่อนสิ้นปี 2562 อย่างแน่นอน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การลงทุนรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตะวันตก) จะใช้รูปแบบ PPP Net Cost จำนวน 1 สัญญา คือภาครัฐจะเป็นผู้ลงทุนงานกรรมสิทธิ์ที่ดินส่วนตะวันตก ด้านเอกชนผู้รับสัมปทานจำนวน 1 รายจะเป็นลงทุนงานโยธามูลค่า 9.6 หมื่นล้านบาท, ค่างานระบบไฟฟ้า, ขบวนรถไฟฟ้า, บริหารการเดินรถและซ่อมบำรุงรักษาทั้งเส้นทาง ซึ่งเอกชนจะออกเงินลงทุนงานโยธาจำนวน 9.6 หมื่นล้านบาทก่อน จากนั้นรัฐจะทยอยผ่อนชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ย หลังจากเปิดเดินรถแล้วเป็นเวลา 10 ปี

คืบหน้า “รถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก” ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-บางขุนนนท์ พร้อมเสนอ ครม.อนุมัติ ภายในเดือนนี้
Thailand Skyline
9 พฤศจิกายน 2562

อีกหนึ่งโครงการใหญ่ที่หลายคนรอคอยกับ “รถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก” ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-บางขุนนท์ โดยล่าสุดทางคมนาคมเผยได้ข้อสรุปว่าจะให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนกับรัฐแบบ PPP แบบเบ็ดเสร็จสัญญาเดียว

โดยรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกจะเป็นส่วนต่อขยายจากช่วงมีนบุรี-ศูนย์วัฒนธรรม ที่กำลังก่อสร้างอยู่ในขณะนี้ มีระยะทางรวมตลอดเส้นทางอยู่ที่ 35.9 กม. ซึ่งสายนี้มีความสำคัญเป็นอย่างมากเพราะจะเป็นรถไฟใต้ดินที่พาดผ่านพื้นที่ชั้นในของกรุงเทพฯหลายจุด ได้แก่

-สถานีประชาสงเคราะห์
-สถานีดินแดง
-สถานีราชปรารถ
-สถานีประตูน้ำ
-สถานีราชเทวี
-สถานียมราช
-สถานีหลานหลวง
-สถานีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
-สถานีสนามหลวง
-สถานีศิริราช
-สถานีบางขุนนนท์

ขณะนี้ทางโครงการอยู่ระหว่างการพิจารณาแนวทางเข้าพื้นที่ก่อสร้างบางจุดซึ่งส่วนใหญ่เป็นปัญหาด้านงานโยธา โดยคาดว่าจะเสนอเรื่องเข้าสู่ที่ประชุม ครม.ได้ภายในเดือน พ.ย.นี้
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42620
Location: NECTEC

PostPosted: 10/11/2019 8:41 pm    Post subject: Reply with quote

ชำแหละดอกเบี้ยรถไฟฟ้าสายสีส้ม “รัฐกู้สร้างเอง” ถูกกว่าเอกชน 6 พันล้าน

วันที่ 31 ตุลาคม 2562

หลัง 2 รัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทย “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกรัฐมนตรี และ “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” รมว.กระทรวงคมนาคม ออกมากระพือจะรื้อการลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มใหม่ ถึงขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปจะรวมหรือจะแยก สำหรับการลงทุนรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกช่วง “บางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรม” ที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เสนอจะพ่วงสัมปทานเดินรถตลอดสายจากบางขุนนนท์-มีนบุรี เปิดให้เอกชนร่วมลงทุน PPP net cost เป็นแพ็กเกจภายใต้สัญญาเดียว

ทั้งก่อสร้าง จัดหาระบบ ขบวนรถ เดินรถและซ่อมบำรุง 30 ปี วงเงิน 122,041 ล้านบาท โดยรัฐจ่ายคืนเอกชนไม่เกินค่างานโยธา 96,012 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย เป็นระยะเวลา 10 ปี หลังเปิดบริการ


โปรเจ็กต์นี้ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (บอร์ด PPP) มี “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” มือเศรษฐกิจรัฐบาล คสช.แล้ว รอ “ครม.-คณะรัฐมนตรี” อนุมัติโครงการให้ รฟม.เปิดประมูลตาม พ.ร.บ.ร่วมทุน 2562 ในรอบแรกติด พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง

แต่สุดท้ายต้องมาสะดุดบนโต๊ะประชุมคณะรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ หลังมีความเห็นต่าง

โดยโฟกัสการให้เอกชนลงทุนค่างานโยธาส่วนตะวันตกและรัฐชำระคืนให้ 10 ปี ตามที่ รฟม.เสนอ มีความแตกต่างจากรูปแบบการก่อสร้างช่วงตะวันออกที่ รฟม.แบ่งสร้าง 6 สัญญาและต่างจากระบบรถไฟฟ้าขนาดใหญ่ ไม่ว่าสายสีน้ำเงิน สายสีเขียว ที่สำคัญอาจจะทำให้รัฐมีต้นทุนการเงินเพิ่มขึ้น

ขณะที่สำนักงบประมาณให้ความเห็นชอบในหลักการโครงการ แต่มีข้อสังเกตว่าวิธีนี้จะทำให้รัฐมีภาระทางการเงินที่เกิดจากอัตราดอกเบี้ย 40,000 ล้านบาท หากรัฐจำเป็นต้องชำระคืนค่าดอกเบี้ยให้อ้างอิงจากอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี บวก 1 และการกำหนดกรอบวงเงินชำระคืนไม่ควรรวมค่าเผื่อเหลือเผื่อขาดด้วย

เมื่อไร้ข้อยุติ “พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน มอบ “รองนายกฯอนุทิน” ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงคมนาคมไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณารูปแบบที่เหมาะสม ให้คำนึงถึงผลกระทบต่อภาระการเงินของรัฐ และอัตราผลตอบแทนยังมอบ รฟม. และกระทรวงคมนาคมหารือสำนักงบประมาณเกี่ยวกับการกำหนดอัตราดอกเบี้ยและทำข้อมูลเปรียบเทียบค่าก่อสร้างแต่ละประเภท เพื่อประกอบการพิจารณาของ ครม. รวมทั้งขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายปี 2563 ตามขั้นตอนต่อไป

แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมกล่าวว่า ข้อมูลเปรียบเทียบภาระดอกเบี้ยเงินกู้สายสีส้ม ระหว่างรัฐและเอกชนจะมีวงเงินห่างกัน 14,000 ล้านบาท หากเอกชนกู้จะคิดอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 5% จะอยู่ที่ 40,000 ล้านบาท ขณะที่รัฐกู้อัตราดอกเบี้ยจะไม่เกิน 2.5% จะอยู่ที่ 25,000 ล้านบาท หากเป็นเอกชนรายใหญ่มีศักยภาพจะทำให้กู้ได้ในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงอีกไม่เกิน 3% จะอยู่ที่กว่า 31,000 ล้านบาท จะต่างจากที่รัฐกู้ 6,000 ล้านบาท

อยู่ที่นโยบายการเงินการคลัง “รัฐบาลประยุทธ์ 2” จะเคาะแบบก่อหนี้ในทันทีและแบ่งสร้างหลายสัญญาแทนการจ้างรายเดียว หรือจะผ่อนชำระระยะยาว แต่ไม่ว่าจะรูปแบบไหนก็เสี่ยงหมด จะมากหรือน้อยเท่านั้นเอง
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42620
Location: NECTEC

PostPosted: 12/11/2019 12:31 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
#ประชาสัมพันธ์ขอเชิญร่วมจัดกิจกรรม “Road Show “เชื่อมต่อโครงข่าย เชื่อมต่ออนาคต” กับ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ในวันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2562 เวลา 10.00 น. – 14.00 น. พบกันที่ ลานกิจกรรมชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ 3 รามคำแหง
https://www.facebook.com/MRTOrangeLineEast/photos/a.257972248015467/706975879781766/?type=3&theater


นี่ครับภาพจากงาน กิจกรรม “Road Show “เชื่อมต่อโครงข่าย เชื่อมต่ออนาคต” กับ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่ ลานกิจกรรมชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ 3 รามคำแหง เมื่อ วันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2562 - เก็บภาพมาฝากจ๊า สำหรับกิจกรรม Road Show “เชื่อมต่อโครงข่าย เชื่อมต่ออนาคต กับรถไฟฟ้าสายสีส้ม” ที่จัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2562 เวลา 10.00 น. – 14.00 น. พบกันที่ ลานกิจกรรมชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ 3 รามคำแหง ภายในมีการจัดนิทรรศการข้อมูลแนวเส้นทางพร้อมด้วยอัพเดทความคืบหน้างานก่อสร้างโครงการ นอกจากนี้ยังได้ร่วมกิจกรรม ร่วมสนุกเล่นเกมส์ลุ้นรับของรางวัลพิเศษจากทางโครงการมากมาย - งานนี้ผมไปดูด้วย
https://www.facebook.com/MRTOrangeLineEast/posts/708812779598076?__tn__=H-R
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42620
Location: NECTEC

PostPosted: 12/11/2019 5:19 pm    Post subject: Reply with quote

รฟม.ถอยรื้อรถไฟฟ้า 'สีส้ม' คลังหวั่นกระทบงบประมาณ

12 พฤศจิกายน 2562

รฟม.เผยจบปมรถไฟฟ้าสายสีส้ม หลังกระทรวงการคลังเคาะแนวทาง "พีพีพี เน็ตคอส์ต" หนึ่งสัญญาเหมาะสม เหตุรัฐมีความจำเป็นต้องนำงบไปลงทุนส่วนอื่น เชื่อเปิดให้เอกชนร่วมทุนจะเป็นแนวทางลดภาระภาครัฐ เร่งชงเข้า ครม.พิจารณา พ.ย.นี้

คณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจเห็นชอบ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกศูนย์วัฒนธรรม-บางขุนนนท์ วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยกระทรวงคมนาคมต้องการปรับเปลี่ยนรูปแบบการลงทุน และขณะนี้เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ความเห็นชอบภายในเดือน พ.ย.นี้

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมได้ทำสรุปข้อมูลการศึกษาเทียบเคียงรูปแบบการลงทุนทั้ง 2 ทางเลือก คือ 1.รัฐร่วมทุนกับเอกชนในการก่อสร้างและเดินรถ และ 2.รัฐลงทุนงานโยธา ส่วนเอกชนลงทุนงานเดินรถ เพราะทั้ง 2 ทางเลือกนี้มีต้นทุนพัฒนาโครงการที่แตกต่างกัน โดยรอความเห็นกระทรวงการคลังเพื่อเสนอ ครม.พิจารณา

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า หากแยกงานโยธาออกจากระบบเดินรถจะทำให้โครงการมีความเสี่ยงน้อยลงและโครงการจะเสร็จเร็วขึ้น เพราะไม่ได้ผูกโครงการขนาดใหญ่กับผู้รับจ้าง เช่น โครงการก่อสร้างมอเตอร์เวย์ที่มีการแบ่งสัญญาออกเป็น 40 สัญญา ทำให้โครงการเสร็จเร็วกว่าที่ประมาณการไว้

ทั้งนี้ หาก ครม.เศรษฐกิจมีมติให้แยกงานโยธาวงเงินประมาณ 9 หมื่นล้านบาท จะสามารถเปิดประมูลได้ในปี 2563 และมีเวลา 5 ปีในการทำพีพีพี ระบบเดินรถ ซึ่งจะทำให้สามารถเปิดให้บริการได้พร้อมกันกับสายสีส้มตะวันออกในปี 2569

"เรื่องสายสีส้มตอนนี้อยู่ในขั้นตอนของ ครม.เศรษฐกิจพิจารณา ซึ่งก็แล้วแต่กระทรวงการคลังด้วยว่ามีความเห็นยังไงในเรื่องของการก่อหนี้สาธารณะ หากเห็นว่าการก่อหนี้สาธารณะเพียงพอ การแยกสัญญาก็น่าจะดีกว่า แต่ถ้าไม่พอก็คงต้องรวมสัญญาแบบเดิม ส่วนนี้ผมไม่สามารถออกความเห็นได้อยู่ที่การพิจารณาความเหมาะสมเปรียบเทียบ"

รฟม.ชี้โครงการใหญ่ต้องรอบคอบ
นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวว่า ก่อนหน้านี้โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มได้รับการเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ เมื่อวันที่ 21 ม.ค.2562 ในหลักการให้เอกชนร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์–มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ในรูปแบบ PPP Net Cost โดยภาครัฐเป็นผู้ลงทุนค่างานจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก และเอกชนลงทุนค่างานโยธาโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก และค่างานระบบรถไฟฟ้า ขบวนรถไฟฟ้า บริหารการเดินรถและซ่อมบำรุงรักษาทั้งเส้นทาง

ส่วนกรณีการพิจารณาทบทวนรูปแบบการลงทุนงานโยธาโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก จากเดิมที่เป็นการให้เอกชนร่วมลงทุน มาเป็นรัฐเป็นผู้ลงทุนก่อสร้างเองนั้น สืบเนื่องจากกระทรวงการคลังมีข้อสังเกตว่า การให้รัฐลงทุนงานโยธาจะมีต้นทุนทางการเงินที่ต่ำกว่ากรณีให้เอกชนร่วมลงทุน เนื่องจากเอกชนมีต้นทุนการชำระหนี้ที่สูงกว่ารัฐ

นอกจากนี้ การที่รัฐเป็นผู้ลงทุนก่อสร้างงานโยธาเอง จะทำให้ รฟม.พิจารณาแบ่งงานโยธาออกเป็นหลายสัญญา โดยมีมูลค่าแต่ละสัญญาไม่สูงมากนัก ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการกระจายรายได้ทางเศรษฐกิจในวงกว้าง และสามารถเร่งรัดการก่อสร้างงานโยธาได้อย่างมีประสิทธิภาพและแล้วเสร็จได้ตามกำหนด

ทั้งนี้ การที่โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก เป็นโครงการขนาดใหญ่ที่มีวงเงินลงทุนสูง จึงจำเป็นต้องพิจารณาทบทวนรูปแบบการให้รัฐลงทุนงานโยธาเองอย่างรอบคอบในทุกมิติ โดยคำนึงถึงประเด็นการก่อให้เกิดภาระหนี้สาธารณะของประเทศในทันทีที่มีการเริ่มก่อสร้าง ความเสี่ยง ที่จะเกิดปัญหาข้อพิพาทระหว่าง รฟม. ผู้ก่อสร้างงานโยธา และผู้รับสัมปทานที่เป็นผู้ติดตั้งงานระบบรถไฟฟ้า ตลอดจนความเสี่ยงในด้านการเงินหรือต้นทุนที่เพิ่มมากขึ้น

'คลัง' ยืนยันใช้รูปแบบพีพีพี

นอกจากนี้ จากการหารือในรายละเอียดร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีข้อสรุปแล้วว่า การลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ส่วนตะวันตก ควรใช้รูปแบบพีพีพี เน็ตคอส์ต จำนวน 1 สัญญาเช่นเดิม เนื่องจากกระทรวงการคลังได้จัดทำคำชี้แจงเพิ่มเติมไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้วว่า แม้การกู้เงินมาลงทุนงานโยธาของเอกชน จะมีดอกเบี้ยสูงกว่าภาครัฐ แต่ก็ควรเปิดให้เอกชนร่วมทุนงานโยธาของรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกเช่นเดิม เพราะภาครัฐจำเป็นต้องนำเงินไปพัฒนาภาคส่วนอื่นๆ เช่น ภาคเกษตร ภาคการศึกษา ที่เอกชนไม่สนใจร่วมลงทุนด้วย

ส่งผลให้การพัฒนารถไฟฟ้าสายสีส้มส่วนตะวันตก ที่ศึกษาไว้ในรูปแบบพีพีพีรวมงานโยธาและงานบริหารการเดินรถเป็น 1 สัญญา จึงเหมาะสมแล้ว เนื่องจากแนวคิดดังกล่าวได้คำนึงถึงการเงินการคลังของประเทศเป็นหลัก เพราะนโยบายการลงทุนแบบพีพีพี เป็นการแบ่งเบาภาระการลงทุนของภาครัฐ เนื่องจากรัฐบาลต้องนำเงินไปลงทุนในอีกหลายภาคส่วน ขณะเดียวกันถ้าภาครัฐต้องกู้เงินมาลงทุน ก็จะทำให้เพดานหนี้สาธารณะของประเทศเพิ่มขึ้น

คาดชง ครม.ภายในเดือนนี้
"ตอนนี้ รฟม.ชี้แจงข้อมูลครบทุกด้านแล้ว ก็มีความชัดเจนแล้วว่า กระทรวงการคลัง ในฐานะที่เป็นหน่วยบริหารจัดการการเงินการคลังของประเทศยืนยันว่า รูปแบบที่เสนอไว้เดิมที่ผ่านคณะกรรมการพีพีพีไปแล้ว เป็นรูปแบบที่เหมาะสม หลังจากนี้จึงคาดว่าข้อมูลและความเห็นเกี่ยวกับโครงการทั้งหมดน่าจะส่งกลับไปที่ ครม.ได้ภายในเดือน พ.ย.นี้ หรือก่อนสิ้นปีนี้ โดยทางกระทรวงการคลังจะเป็นผู้เสนอเรื่องเข้า ครม."

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม ระบุว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม เป็นโครงการที่อยู่ในแผนปฏิบัติการลงทุนด้านคมนาคม (แอคชั่นแพลน) ปี 2561 ถือเป็นโครงการที่ค้างท่อรอการอนุมัติจากรัฐบาลก่อน โดย รฟม.ศึกษารูปแบบการลงทุนที่เหมาะสมเป็นพีพีพี รวมงานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-บางขุนนนท์ ระยะทาง 35.9 กิโลเมตร และระบบเดินรถไฟฟ้าทั้งเส้นทาง ช่วงมีนบุรี–บางขุนนนท์ มูลค่ารวม 122,041 ล้านบาท โดย รฟม.เตรียมเสนอ ครม.ตั้งแต่รัฐบาลที่แล้ว แต่มีการเปลี่ยนรัฐบาลจึงต้องมาพิจารณาใหม่

หวั่นกระทบภาระการคลัง
ทั้งนี้ในการประชุม ครม.เศรษฐกิจที่ผ่านมา สำนักงบประมาณมีข้อสังเกตในที่ประชุมว่าการให้เอกชนลงทุนงานโยธาส่วนตะวันตกและรัฐทยอยชำระคืนให้เอกชนเป็นระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 10 ปี พร้อมดอกเบี้ยตามที่ รฟม.เสนอจะทำให้รัฐมีภาระทางการเงินที่เกิดจากอัตราดอกเบี้ย 40,000 ล้านบาท และตามหลักการประมาณการผลตอบแทนทางการเงินของโครงการ ได้มีการพิจารณารวมอัตราเงินเฟ้อแล้ว ดังนั้น หากรัฐบาลจำเป็นต้องชำระคืนค่าดอกเบี้ยจากโครงการก่อสร้างงานโยธาให้เอกชนควรอ้างอิงจากดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี บวก 1 และการกำหนดกรอบวงเงินที่รัฐจะชำระคืนไม่ควรเผื่อเหลือเผื่อขาดด้วย

รวมทั้งขอให้ รฟม.ทำข้อมูลค่าก่อสร้างงานโยธาของโครงการจำแนกตามลักษณะกิจกรรม เช่น งานเส้นทาง งานก่อสร้างสถานี เพื่อเปรียบเทียบกับการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าอื่นและเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาของ ครม.

นอกจากนี้ มีการอภิปรายในที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจถึงการให้เอกชนลงทุนค่างานโยธาโครงการส่วนตะวันตก และรัฐทยอยชำระคืนให้เอกชนหลังจากเปิดเดินรถทั้งเส้นแล้วและแบ่งจ่ายเป็นรายปีกำหนดระยะเวลาแบ่งจ่ายไม่ต่ำกว่า 10 ปี พร้อมดอกเบี้ย ซึ่งมีความต่างจากการก่อสร้างงานโยธาสายตะวันออก และการดำเนินการดังกล่าวอาจทำให้รัฐมีต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น รวมทั้งไม่สอดคล้องกับการลงทุนภาครัฐที่เน้นส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วม
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42620
Location: NECTEC

PostPosted: 13/11/2019 2:51 pm    Post subject: Reply with quote

ก็ดูกันไปว่าจะเริ่มประมูลว่าใครจะได้สัมปทานสายสีส้ม
คลังสรุปสายสีส้มตะวันตก'บางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรม'เป็น PPP ไม่แยกสัญญา

8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

8 พ.ย.2562 นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการลงทุนรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกช่วง บางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมระยะทาง 35.9 กิโลเมตรวงเงิน 1.22 แสนล้านบาท ว่าล่าสุดกระทรวงการคลังได้มีคำชี้แจงเพิ่มเติมและได้ยืนยันไปที่สำนักเลขาคณรัฐมนตรี ว่ากระทรวงคลังเห็นด้วยว่าจะให้เอกชนร่วมลงทุน PPP ในส่วนของงานโยธาของรถไฟฟ้าสายสีส้มฝั่งตะวันตก

“ คาดว่าจะเสนอครม. ได้ภายในเดือนนี้ หรือ ก่อนสิ้นปี โดยกระทรวงการคลังเป็นผู้เสนอเข้า ครม.ซึ่งตอนนี้ชัดเจนแล้วว่ากระทรวงการคลังในฐานะที่เป็นหน่วยบริหารจัดการด้านการเงินการคลังของประเทศยืนยันว่ารูปแบบที่เสนอไว้แบบเดิมที่ผ่านการเสนอของ บอร์ด PPP เป็นรูปแบบที่เหมาะสม”นายภคพงศ์ กล่าว


นายภคพงศ์ กล่าวว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ข้อสรุปแล้วว่า การลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีสัม ฝั่งตะวันตก ควรใช้รูปแบบการร่วมทุนกับเอกชน PPP เป็น 1 สัญญา ตามแผนเดิมไม่ต้องแบ่งงานโยธาและงานบริหารการเดินรถเป็นหลายสัญญาเนื่องจากกระทรวงการคลังได้จัดทำคำชี้แจงเพิ่มเติมไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี(ครม) แล้วว่า แม้การกู้เงินมาลงทุนงานโยธาของเอกชน จะมีดอกเบี้ยสูงกว่าภาครัฐ แต่ก็ควรเปิดให้เอกชนร่วมทุนงานโยธาเช่นเดิม เพราะภาครัฐจำเป็นต้องนำเงินไปพัฒนา ภาคเกษตร ภาคการศึกษา ที่เอกชนไม่สนใจร่วมลงทุนด้วย

อย่างไรก็ตามจากเดิมที่จะมีการเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี(ครม.)ในเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา แต่ได้มีประเด็นข้อสังเกตจากกระทรวงการคลังเรื่องต้นทุนการดำเนินการซึ่งรูปแบบ PPP ที่เสนอไปแล้วผ่านการพิจารณาของ บอร์ด PPP นั้นเป็นรูปแบบที่ให้เกชนลงทุนงานโยธาในส่วนของสายสีส้ม ฝั่งตะวันตก วงเงิน 92,000 ล้านไปด้วย และรัฐจะทยอยผ่อนชำระคืน เนื่องจากเปิดเดินรถแล้วเป็นระยะเวลา 10 ปี

“ถ้าให้เอกชนกู้แล้วรัฐทยอยผ่อนชำระเงินต้นและภาระดอกเบี้ย ซึ่งเอกชนกู้เงินยังไงก็สูงกว่าภาครัฐอยู่แล้ว ซึ่งในส่วนของกระทรวงคมนาคมได้มีการดำเนินการมาทั้งสองรูปแบบมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบที่ให้เอกชนรับผิดชอบงานโยธาด้วย เช่น สายสีชมพู,สายสีเหลือง หรือ ภาครัฐลงทุนงานโยธาและให้เอกชนรับสัมปทานเฉพาะระบบรถไฟฟ้าและงานเดินรถ เช่น สายสีม่วง ,น้ำเงิน เราทำได้ทั้งสองรูปแบบ “นายภคพงศ์ กล่าว
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42620
Location: NECTEC

PostPosted: 15/11/2019 5:13 pm    Post subject: Reply with quote

BEM-BTSชิงเดือด ‘ส้มตะวันตก’ขุมทรัพย์รถไฟฟ้า1.2แสนล้าน
หน้าเศรษฐกิจมหภาค - Mega Project
ออนไลน์เมื่อ 15 พฤศจิกายน 2562
ตีพิมพ์ใน หน้า 1
ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3522 วันที่ 14-16 พฤศจิกายน 2562




BEM-BTS ชิงดำรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก มูลค่า 1.2 แสนล้าน เส้นผ่าเมืองขุมทองรองสายสีเขียว หลังคลังทุบเปรี้ยงชงครม. เปิดประมูลพีพีพี “วิทูรย์-สุรพงษ์” ประกาศไตรมาส 2 ปีหน้า สู้กันมันหยด

โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ- บางขุนนนท์ มูลค่า 1.2 แสนล้านบาทชัดเจนขึ้นเมื่อกระทรวงการคลังเคาะรูปแบบพีพีพี เน็ต คอสต์ เอกชนลงทุนงานโยธาและเดินรถ หาแหล่งเงินกู้ โดยรัฐต้องชำระภาระหนี้พร้อมดอกเบี้ยคืนเป็นระยะเวลา 10 ปี รวม 1.4 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นการยืนตามมติเดิม โดยให้เหตุผลที่ว่ารัฐไม่มีงบประมาณลงทุน สำหรับเอกชนคู่ชิงในฐานะผู้ชำนาญ จะมีเพียง 2 ค่าย ได้แก่ บริษัท ทางด่วนและ รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM และ บีทีเอสกรุ๊ป เป็นผู้รับสัมปทานเดินรถไฟฟ้าสายสีนํ้าเงิน และสายสีเขียว ในปัจจุบัน

ทั้งนี้ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มีนโยบายจะเปลี่ยนรูปแบบการลงทุนโครงการ จาก พีพีพี เป็นรูปแบบ แยกงานโยธา กับการเดินรถออกจากกัน โดยรัฐลงทุนงานโยธา ส่วนการเดินรถเป็นหน้าที่ของเอกชนผู้รับสัมปทาน ด้วยเหตุผลเพื่อต้องการซอยย่อยโครงการกระจายให้กับบริษัทผู้รับเหมา โดยไม่มีรายใดรายหนึ่งผูกขาด ขณะผู้รับเหมาเองต่างเห็นด้วยเนื่องจากเค้กที่ผ่านมามักตกอยู่ในมือกลุ่มทุนใหญ่ ล่าสุดต้องถูกดับฝันลง เมื่อกระทรวงการคลัง ยืนรูปแบบลงทุนเดิมดังกล่าว สร้างความคึกคักให้กับ 2 คู่ชก อย่าง BEM และ บีทีเอส กรุ๊ป ที่ต้องหันมาลุ้นกันว่า ฝ่ายใดเป็นผู้ได้เปรียบ



ประมูลไตรมาส 2 ปี 63

“ฐานเศรษฐกิจ” สอบถามกระทรวงคมนาคม พบว่า คณะกรรมการพีพีพี ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง ส่งเรื่องไปยัง เลขาฯ ครม. เรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะ ประมูลได้ราวไตรมาส 2 ของปี 2563

สำหรับคณะกรรมการพีพีพีมองว่า รัฐมีงบประมาณจำกัด แต่หากปล่อยให้เอกชนลงทุน รัฐจะมีเวลาจ่ายหนี้คืนในอีก 10 ปีข้างหน้าหลังจากงานก่อสร้างแล้วเสร็จ และจะคำนวณการจ่ายแบบอัตราดอกเบี้ยคงที่ ระยะยาว 10 ปีเหมือนกับรถไฟฟ้าสายสีชมพู และสีเหลือง



BEM ยันพร้อมรบ

ขณะการเตรียมความพร้อม นายวิทูรย์ หทัยรัตนา รองกรรมการผู้จัดการ ปฏิบัติการและวิศวกรรมระบบราง บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด(มหาชน)หรือ BEM เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า BEM มีความพร้อมจะเข้าประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ตะวันตก รูปแบบรวมงามโยธา กับการเงินรถ และสายสีม่วงใต้ ช่วง เตาปูนราษฎร์บูรณะ ที่จะเปิดประมูลในระยะอันใกล้ โดยเฉพาะสายสีส้ม มีศักยภาพสูง ระยะทางยาว เส้นทางผ่านใจกลางเมือง มีความน่าสนใจ สามารถป้อนผู้โดยสารไปยังสายสีนํ้าเงิน ที่เปิดให้บริการซึ่งหากมีการเปิดใช้เส้นทาง คาดว่าจะมีปริมาณผู้โดยสารที่รับมาจากสายสีส้มตะวันออก กว่า 400,000 คน/วัน

สำหรับการประมูลรูปแบบพีพีพียอมรับว่า จะมีเอกชนเพียง 2 รายเข้าแข่งขันขณะข้อดีจะมีมากกว่าเพราะการก่อสร้างงานโยธากับระบบเดินรถต้องสอดประสานกันไม่ต้องแก้ไขในภายหลัง

“รูปแบบพีพีพี คือเราดูตั้งแต่งานก่อสร้าง สามารถบริหารจัดการ ใส่ระบบ ออกแบบ วางโปรแกรมให้สัมพันธ์กัน แต่หากแยกงานโยธา อาจต้องปรับใหม่ ที่สำคัญการดูแลโปรเจ็กต์ ทั้งหมดสามารถกำหนดเรื่องเวลาได้ อย่างไรก็ตามในความเห็นของ นายวิทูรย์ มองว่าการกำหนด
ทีโออาร์ของรัฐ มักไม่เสียเปรียบเอกชน”



ไม่กลัวบีทีเอส

อย่างไรก็ตาม บริษัทมั่นใจว่าจะชนะประมูลเนื่องจากเป็นผู้รับสัมปทานเดินรถไฟฟ้าใต้ดินรายแรกและสายแรกมาก่อนจึงมีความชำนาญโดยเฉพาะอุโมงค์ใต้ดิน

เมื่อสอบถามถึงบีทีเอสกรุ๊ปในฐานะ คู่แข่ง นายวิทูรย์ระบุว่า เชื่อว่า บีทีเอส ต้องมีการ
เตรียมความพร้อมเช่นเดียวกันเพราะเป็นโครงการขนาดใหญ่ของรัฐที่ไม่ได้ปล่อยออกมามากนักในช่วงนี้

ทั้งนี้ ช่วงแข่งขันประมูลงานจะเป็นคู่แข่ง เพราะต่างคนต่างต้องการงาน แต่หากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดได้งานไป ก็จะเป็นลักษณะพันธมิตรกัน ต้องป้อนผู้โดยสารไปมาระหว่างกัน โดยอัตโนมัติ










บีทีเอส มั่นใจคว้าสายสีส้ม

ด้าน นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)ระบุว่า บีทีเอส พร้อมประมูลสายสีส้มตะวันตก เนื่องจากมีศักยภาพสูง เส้นผ่าเมือง ผ่านจุดสำคัญย่านใจกลางเมือง อย่างประตูนํ้า พญาไท ฯลฯ รองจาก บีทีเอส สายสีเขียว สายสุขุมวิท-สีลม ส่งผลให้ตลอดแนวเส้นทางกลายเป็นทำเลทอง มีนักลงทุนเข้าพื้นที่ขึ้นตึกสูง พัฒนาที่อยู่อาศัย เชิงพาณิชย์ ซึ่งจะช่วยดึงคนเข้าใช้บริการรถไฟฟ้า และมีการประเมินกันว่าหาก สายสีส้มตะวันตกและตะวันออกใช้บริการ จะมีผู้โดยสารมากถึง 4 แสนคนต่อวัน

แต่ทั้งนี้ บีทีเอส มั่นใจว่าจะได้สายสีส้มเนื่องจากการลงทุนเหมือนกับสายสีชมพู และสายสีเหลือง ส่วนการระดมทุนน่าจะใช้แหล่งเงินกู้ จากสถาบันการเงิน แต่เอกชนมักจะกู้ดอกเบี้ยที่สูง ขณะรัฐจะกู้ได้ถูกกว่า จึงเป็นเหตุให้ต้นทุนสูง



รฟม.ขานรับคลัง

แหล่งข่าวจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ระบุว่ารฟม.ยึดตามนโยบายรัฐ ไม่ว่าจะลงทุนรูปแบบใด เนื่องจากรฟม. ไม่มีงบประมาณ และมีภาระหนี้ค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตาม หากเปรียบระหว่างรูปแบบพีพีพี กับแยกงานโยธากับการเดินรถ พบว่าแบบพีพีพี จะเกิดความสะดวกรวดเร็ว แต่ข้อเสีย ค่าลงทุนแพง รัฐรับภาระหนี้สูง ทั้งนี้ไม่ว่าการลงทุนรูปแบบไหน รัฐก็เป็นฝ่ายต้องชำระหนี้ให้เอกชน
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 21, 22, 23 ... 89, 90, 91  Next
Page 22 of 91

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©