Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311232
ทั่วไป:13180067
ทั้งหมด:13491299
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม(บางซื่อ-รังสิต และ บางซื่อ-หัวลำโพง)
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม(บางซื่อ-รังสิต และ บางซื่อ-หัวลำโพง)
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 74, 75, 76 ... 147, 148, 149  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 23/11/2019 10:52 pm    Post subject: Reply with quote

สบช่อง…สัญญาโฮปเวลล์ส่อโมฆะ “ศักดิ์สยาม”มั่นใจปกป้องภาษี 2.4 หมื่นล้าน

สยามรัฐออนไลน์ 21 พฤศจิกายน 2562

หลังจากข้อพิพาทยืดเยื้อ ระหว่างกระทรวงคมนาคมและการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กับบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่ยืดเยื้อมานานเกือบ 30 ปี แม้ศาลปกครองสูงสุดได้วินิจฉัย ให้ชดใช้ค่าเสียหายกับบริษัทโฮปเวลล์ฯ วงเงินประมาณ 24,798 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินต้น 11,888 ล้านบาท ดอกเบี้ย 12,910 ล้านบาท

แต่ทว่ายุคของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มีการมอบอำนาจให้นายนิติธร ล้ำเหลือ หรือที่รู้จักกันในนาม “ทนายนกเขา” ไปยื่นคำฟ้องต่อศาลปกครองกลาง ให้ดำเนินการฟ้องนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท กรมพัฒนาธุรกิจการค้า หน่วยงานในสังกัดกระทรวงพาณิชย์ ฐานกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย กรณีรับจดทะเบียนจัดตั้งให้บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งบริษัทมีสถานะเป็นนิติบุคคลต่างด้าว ขัดกับประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ 281 แต่บริษัทโฮปเวลล์ฯ ติดต่อขอเจรจากับกระทรวงคมนาคมและ รฟท.

เมื่อกลางสัปดาห์ หลังร่วมประชุมคณะทำงานโฮปเวลล์ (BEM) ชุดใหญ่ ที่มีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน ก็มีความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหา และยืนยันว่า “เรื่องนี้น่าจะสู้ได้”


พร้อมให้ นายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากกระทรวงคมนาคมและการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ออกมา เปิดเผยถึงเงื่อนงำสำคัญในการทำสัญญาการร่วมทุน มีความผิดปกติหลายข้อ

ประเด็นแรก ผู้ลงนามสัญญานี้ เดิมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้บริษัท โฮปเวลล์ โฮลดิงส์ (ฮ่องกง) เป็นผู้ลงนามร่วมทุน แต่ผู้ลงนามสัญญาจริงๆ กลับเป็นบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด จึงสงสัยว่า โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) มาเป็นคู่สัญญาได้อย่างไรและมาฟ้องร้องได้อย่างไร

ประเด็นที่สอง ครม.มีมติให้กระทรวงคมนาคมเป็นตัวแทนรัฐบาลในการลงนามสัญญา แต่กลับพบว่าการรถไฟฯ เข้าไปร่วมเป็นผู้ลงนามสัญญาด้วย ซึ่งถือว่าผิดมติ ครม.



ประเด็นที่สาม การฟ้องร้องการรถไฟฯ ของบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) นั้นไม่ถูกต้อง เพราะคนที่ทำหน้าที่รับผิดชอบโครงการคือกระทรวงการคลัง

การทำสัญญาครั้งนี้ ไม่เป็นไปตามกฎหมายและสัญญาไม่น่าถูกต้องด้วยกฎหมาย ถ้าการลงนามครั้งนี้ผิดฝาผิดตัว หมายถึงผู้ลงนามไม่ใช่ผู้ที่ได้รับอำนาจจากมติ ครม. ก็นำไปสู่การลงนามสัญญาที่เป็นโมฆะ แต่ผู้ที่จะตัดสินเรื่องนี้ คือศาลต้องเป็นฝ่ายตัดสิน

“เราจะต้องนำข้อมูลทั้งหมดไปให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบก่อน ว่าสัญญามีข้อผิดปกติ ส่วนจะฟ้องศาลหรือไม่ ก็แล้วแต่หน่วยงาน กระทรวงการคลังจะดำเนินการในฐานะรัฐบาล แต่หากแต่ละหน่วยเห็นข้อมูลแล้ว ไม่มีการดำเนินการอะไร ก็ถือว่าผิดกฎหมายตามมาตรา 157 เรื่องการปกป้องทรัพย์สินรัฐ” นายนิติธร ยืนยัน

พร้อมกันนี้โดยจะไปยื่นหนังสือถึง 4 หน่วยงาน ประกอบไปด้วย กระทรวงการคลัง, สำนักงบประมาณ, กรมบัญชีกลาง และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เพื่อให้ดูรายละเอียดในสัญญาร่วมทุนโครงการโฮปเวลล์ ทั้งที่มาของสัญญา การอนุญาตร่วมทุนโครงการ และรายละเอียดของการบอกเลิกสัญญา



เสมือนเป็นเงื่อนงำที่ว่า ในหน่วยงานดังกล่าว มีรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐเป็นผู้กุมบังเหียน ดูแล และ รับผิดชอบอยู่ ซึ่งจะต้องออกมาให้คำตอบที่เป็นคุณประโยชน์กับประเทศชาติ อย่ามัวหลบอยู่ในมุมมืด ไม่ออกมาช่วยกันปกป้องภาษีอากรกว่า 2 หมื่นสี่พันล้านบาทของพี่น้องประชาชน

มิเช่นนั้นสังคมอาจจะตั้งคำถามชวนฉงนเหมือนกันว่า หรือมันมีขบวนการอะไรซ่อนอยู่หลังฉากสำคัญ รวมทั้งยังเกิดข้อสงสัยว่าจะมีกระบวนการแกล้งโง่หรือไม่
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 25/11/2019 12:34 am    Post subject: Reply with quote

ปตท.พลิกที่70ไร่ผุดมิกซ์ยูส ยึดสายสีแดงปั้นย่านธุรกิจใหม่
วันที่ 22 พฤศจิกายน 2562 - 13:18 น.

ปตท.ขยายแนวรบพัฒนาอสังหาฯโปรเจ็กต์ยักษ์ เตรียมพลิกที่ 70 ไร่ ติดสถานีทุ่งสองห้อง รถไฟฟ้าสายสีแดง ผุดมิกซ์ยูส “อาคารสำนักงาน-ศูนย์การค้า” เปิดรับพันธมิตรบริษัทอสังหาฯ เสนอรูปแบบโครงการและโมเดลธุรกิจ คาดปีหน้าได้ข้อสรุป การรถไฟฯเผย ปตท.หารือสร้างทางเชื่อมเข้าสถานี พร้อมแผนสร้างสกายวอล์ก-ทางยูเทิร์นถนนวิภาวดีฯ หวังพัฒนาเป็นย่านธุรกิจ-การค้าแห่งใหม่ วงในเผยได้อานิสงส์ผังเมืองใหม่ปี 2563 อัพเกรดใช้ประโยชน์ที่ดินเป็น “สีส้ม” แต่ติดแนวการบินขึ้นตึกสูงไม่เกิน 30 ชั้น
ปตท.เปิดแผนพัฒนามิกซ์ยูส

แหล่งข่าวผู้บริหารระดับสูง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้ ปตท.อยู่ระหว่างดำเนินการศึกษาแผนเพื่อพัฒนาที่ดิน 70 ไร่ บริเวณสถานีรถไฟฟ้าสายสีแดงทุ่งสองห้อง โดยที่ดินดังกล่าวบริษัทซื้อมาจากบริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (SAM) หลายปีแล้ว ในราคารวมประมาณ 800-900 ล้านบาท ซึ่งที่ดินดังกล่าวถือว่าเป็นทำเลที่ดี เพราะต่อไปจะมีรถไฟฟ้าสายสีแดงผ่าน ซึ่งที่ดินของ ปตท.อยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้าเลย ดังนั้น ผู้บริหาร ปตท.จึงมีการหารือถึงการที่จะพัฒนาที่ดินดังกล่าว เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับทรัพย์สินที่มีอยู่เพื่อพัฒนาเป็นย่านธุรกิจ-การค้า ขณะเดียวกันก็ถือเป็นหนึ่งแผนพัฒนาธุรกิจใหม่ของ ปตท.


ADVERTISEMENT
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการศึกษาว่าจะพัฒนาออกมาในรูปแบบไหน ซึ่งได้มีการว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาเข้ามาช่วยดูว่าในอนาคตการพัฒนาการใช้ประโยชน์ที่ดินในย่านดังกล่าวจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร และจากที่จะเปิดเดินรถไฟฟ้าสายสีแดงจะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงชุมชนในย่านดังกล่าวอย่างไรบ้าง เพื่อที่จะศึกษาถึงโครงการอสังหาฯที่เหมาะสมว่าควรจะลงทุนและพัฒนาเป็นอะไร

แหล่งข่าวกล่าวว่า โดยหลักการก็จะพัฒนาเป็น “มิกซ์ยูส” แต่ยังไม่ชัดว่าจะออกมาในแบบไหน คอนเซ็ปต์อะไร หลัก ๆ คงจะมีอาคารสำนักงาน พื้นที่เชิงพาณิชย์ โดยในส่วนของพื้นที่อาคารสำนักงาน คาดว่าส่วนหนึ่งก็จะเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) PTTOR ซึ่งกำลังจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งต้องการพื้นที่สำนักงานใหญ่ของบริษัท แต่ในส่วนของบริษัท ปตท.นั้นคงยังไม่มีความจำเป็น เนื่องจากสำนักงานใหญ่ปัจจุบันยังมีสัญญาเช่าที่ดินการรถไฟฯอีกเกือบ 30 ปี

เปิดรับยักษ์อสังหาฯเสนอแผน

แหล่งข่าวกล่าวเพิ่มเติมว่า แต่เนื่องจาก ปตท.ไม่มีประสบการณ์ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ดังนั้น บอร์ดจึงเห็นชอบเปิดให้เชิญบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ เสนอแผนการพัฒนาโครงการบนที่ดินดังกล่าวว่าควรจะมีอะไร นอกจากอาคารสำนักงาน พื้นที่เชิงพาณิชย์ ในส่วนของที่อยู่อาศัยหรือคอนโดมิเนียมเหมาะสมหรือไม่ รวมถึงรูปแบบการร่วมลงทุนให้เสนอมาด้วยตามที่ต้องการ หลังจากนั้นบริษัทจะพิจารณาคัดเลือกจากข้อเสนอที่เข้ามา เพราะการพัฒนาโครงการอสังหาฯต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของฝ่ายขายด้วย ซึ่งจะต้องมีเครือข่ายลูกค้า ทั้งส่วนสำนักงานและพื้นที่เชิงพาณิชย์ต่าง ๆ จึงจำเป็นต้องร่วมมือกับบริษัทอสังหาฯ

อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นคณะกรรมการบริษัทก็ได้มีการอนุมัติงบประมาณสำหรับการดำเนินการย้ายชุมชนที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าวแล้ว โดยการร่วมมือกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ขณะที่ก่อนหน้านี้ นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในลักษณะสมาร์ทซิตี้ เป็นหนึ่งกลุ่มธุรกิจใหม่ที่ ปตท.มีแผนจะขยายการลงทุน

ปตท.ขอผุดทางเชื่อมสถานี
แหล่งข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ช่วงที่ผ่านมา บริษัท ปตท.ได้เข้ามาหารือเพื่อขอสร้างทางเชื่อมกับสถานีทุ่งสองห้อง ของรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงช่วงบางซื่อ-รังสิต ซึ่งจะเปิดบริการในเดือน ม.ค. 2564 เพื่อเปิดทางเข้าออกที่ดิน 2 แปลง ขนาด 30 ไร่ และ 40 ไร่ ที่ ปตท.ซื้อไว้ ซึ่งมีแผนจะพัฒนาเป็นอาคารสำนักงานแห่งใหม่ ติดถนนโลคัลโรดและสถานีทุ่งสองห้อง พร้อมแผนสร้างทางยกระดับลอดสถานีไปยังถนนวิภาวดีฯ ซึ่งอาจจะเป็นทั้งสกายวอล์กและทางยูเทิร์น เพื่ออำนวยความสะดวกและรองรับการเดินทางเข้าออกในโครงการอสังหาฯที่จะพัฒนาขึ้นมา

ขณะที่แหล่งข่าวจากสำนักการวางผังและพัฒนาเมืองกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ทาง ปตท.จะขอปรับสีผังเมืองบริเวณนี้เพื่อให้สามารถพัฒนาสร้างประโยชน์จากที่ดินได้มากขึ้น จากผังเมืองปัจจุบันกำหนดเป็นพื้นที่สีเหลือง (ที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย) แต่เนื่องจาก กทม.กำลังปรับปรุงผังเมืองรวมฉบับใหม่ คาดว่าจะประกาศใช้ปลายปี 2563 จึงให้ทาง ปตท.รอกฎหมายออกมา


รอผังเมืองใหม่ขึ้นมิกซ์ยูส

เนื่องจากในผังเมืองใหม่ บริเวณนี้ได้อัพเกรดการใช้ประโยชน์ที่ดินจากสีเหลืองให้เป็นพื้นที่สีส้ม (ที่อยู่อาศัยปานกลาง) อยู่แล้ว สามารถสร้างอาคาร ที่อยู่อาศัย และพาณิชยกรรมได้เกิน 10,000 ตารางเมตร ขณะเดียวกันยังได้โบนัสเพิ่มเนื่องจากอยู่ในรัศมี 500 เมตรจากสถานีรถไฟฟ้า รวมถึงยังมีมาตรการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ หรือ PUD (planned unit development) ที่ผังเมืองนำมาบังคับใช้ จะสามารถเกลี่ย FAR (อัตราส่วนพื้นที่อาคารต่อที่ดิน) ให้พัฒนาได้มากขึ้น

“ปตท.มีแผนจะนำที่ดินพัฒนาเป็นโครงการมิกซ์ยูส มีอาคารสำนักงาน และพื้นที่ศูนย์การค้า จึงอยากจะได้ FAR เพิ่มเพื่อให้สร้างอาคารได้มากขึ้น แต่พื้นที่ดังกล่าวติดแนวเขตการบิน จะสร้างอาคารสูงได้ไม่เกิน 100 เมตร หรือประมาณ 30 ชั้น นอกจากนี้ พื้นที่ด้านหลังสถานีทุ่งสองห้อง ทาง ปตท.มีแผนจะสร้างอาคารจอดรถแบบจอดแล้วจร (park and ride) รองรับด้วย”

แหล่งข่าวจากวงการอสังหาริมทรัพย์กล่าวว่า พื้นที่ทำเลดังกล่าวกำลังจะเป็นย่านการพัฒนาอสังหาฯใหม่ ซึ่งในพื้นที่ใกล้เคียงก็มีโครงการนอร์ธปาร์คของเจ้าสัวเจริญ (สิริวัฒนภักดี) นอกจากนี้ ทางบริษัท ซี.พี.แลนด์ จำกัด ก็อยู่ระหว่างการก่อสร้าง “ซี.พี.ทาวเวอร์ นอร์ธปาร์ค” เป็นอาคารสำนักงานให้เช่าสูง 19 ชั้น คาดว่าพร้อมเปิดในช่วงปลายปีนี้ ถือว่าพื้นที่กรุงเทพฯโซนเหนือที่จะกลายเป็นทำเล CBD หรือศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ที่อยู่ใกล้ศูนย์ราชการ (แจ้งวัฒนะ) และสนามบินดอนเมือง

ราคาที่ดินพุ่งวาละ 4 แสน

ด้านนายสุรเชษฐ กองชีพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟินิกซ์ พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ แอนด์ คอนซัลแทนซี่ จำกัด เปิดเผยว่า พื้นที่ตามแนวรถไฟฟ้าสายสีแดงในช่วงที่ผ่านมาอาจจะมีความเคลื่อนไหวการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย หรือรูปแบบอื่น ๆ ไม่มากนัก เพราะยังติดเรื่องขอบเขตที่ดินที่การรถไฟแห่งประเทศไทยกำหนดไว้ จะต่างจากเส้นทางรถไฟฟ้าอื่น ๆ ที่พัฒนาตามแนวถนน

นอกจากนี้ อีกด้านของสายสีแดงยังมีถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งเป็นถนนขนาดใหญ่และเป็นอุปสรรคในการพัฒนาที่ดินด้วย ภาคเอกชนไม่สามารถเข้ามาพัฒนาบนที่ดินใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าของสายสีแดงได้ การพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยตามแนวสายสีแดงจะอยู่ในพื้นที่ที่เป็นชุมชนเดิม หรือพื้นที่เดิมที่เคยพัฒนามาก่อนหน้านี้ เช่น แนวถนนงามวงศ์วาน แจ้งวัฒนะ และถนนสรงประภา เป็นต้น

“ตั้งแต่ช่วงปี 2558 มีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายตามแนวเส้นทาง 5,860 ยูนิต และมีอัตราการขายอยู่ที่ 75% มีโครงการที่มียูนิตเหลือขายค่อนข้างมากในพื้นที่ชานเมืองหรือในจังหวัดปทุมธานี ส่วนบ้านจัดสรรในพื้นที่มีอยู่ประมาณ 1,800 ยูนิต มีอัตราการขายได้ 70% ขณะที่ราคาที่ดินปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันราคาจะอยู่ในช่วง 80,000-400,000 บาทต่อตารางวา ราคาสูงสุดอยู่ใกล้กับสถานีกลางบางซื่อ ส่วนช่วงทุ่งสองห้องอยู่ที่ 180,000-200,000 บาทต่อตารางวา”

นายสุรเชษฐกล่าวอีกว่า เมื่อรถไฟฟ้าสายสีแดงเปิดให้บริการ คาดว่าจะช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในพื้นที่นี้ได้อีกมาก เพราะแม้ว่าสายสีแดงจะเป็นรถไฟฟ้าที่วิ่งในแนวเดียวกับเส้นทางรถไฟความเร็วสูง และรถไฟปกติ แต่เป็นเส้นทางที่มีต้นทางที่สถานีกลางบางซื่อ และยังมีจุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีชมพู รวมไปถึงสายสีน้ำตาล ในอนาคตด้วย
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 27/11/2019 4:49 pm    Post subject: Reply with quote

โครงการระบบรถไฟฟ้าชานเมืองร่วมกับรถไฟทางไกลเชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชนในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลรังสิต-สถานีบ้านภาชี (ระบบรถไฟฟ้าชานเมืองร่วมกับรถไฟทางไกลเชื่อมต่อระบบขน (รังสิต-สถานีบ้านภาชี,สายมักกะสัน-ฉะเชิงเทรา,ตลิ่งชัน-นครปฐมและมหาชัย-ปากท่อ)
http://eia.onep.go.th/projectdetail.php?id=10913

โครงการศึกษาและออกแบบรายละเอียดระบบรถไฟฟ้าชานเมืองร่วมกับรถไฟทางไกลเชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชนในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล (สายมักกะสัน-ฉะเชิงเทรา)
http://eia.onep.go.th/projectdetail.php?id=5048

โครงการระบบรถไฟฟ้าชานเมืองร่วมกับรถไฟทางไกลเชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชนในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล(โครงการศึกษาและออกแบบรายละเอียดระบบรถไฟฟ้าชานเมืองร่วมกับรถไฟทางไกลเชื่อมต่อระบบขน (รังสิต-สถานีบ้านภาชี,สายมักกะสัน-ฉะเชิงเทรา,ตลิ่งชัน-นครปฐมและมหาชัย-ปากท่อ)
http://eia.onep.go.th/projectdetail.php?id=5059

โครงการศึกษาและออกแบบโครงการระบบการขนส่งทางรถไฟในกรุงเทพมหานครสายเหนือ (ช่วงบางซื่อ - รังสิต) และย่านสถานีรถไฟบางซื่อ
http://eia.onep.go.th/projectdetail.php?id=2500

โครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ส่วนต่อขยายช่วงศิริราช - ตลิ่งชัน และบ้านฉิมพลี -ศาลายา
http://eia.onep.go.th/projectdetail.php?id=10355
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 28/11/2019 1:08 am    Post subject: Reply with quote

‘ศักดิ์สยาม’ ยันไม่จ่ายค่าโง่ โฮปเวลล์ 2.4 หมื่นล้าน แฉพิรุธอื้อ ลุยเอาผิดคนเอี่ยว
การเมือง
วันพุธที่ 27 พฤศจิกายน 2562 เวลา 20:36 น.

‘ศักดิ์สยาม’ ยันไม่จ่ายค่าโง่ โฮปเวลล์ 2.4 หมื่นล้าน แฉพิรุธอื้อ ลุยเอาผิดคนเอี่ยว
เมื่อเวลา 16.10 น. วันที่ 27 พ.ย. ที่รัฐสภา นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วยส.ส.พรรคภูมิใจไทย(ภท.) แถลงภายหลังเข้าชี้แจงกรรมาธิการ(กมธ.)การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน ถึงกรณีการจ่ายค่าชดเชยแก่ บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ว่า หลังจากตนเข้ารับตำแหน่งรมว.คมนาคม วันที่ 31 ก.ค.ได้ตั้งคณะกรรมการศึกษากรณีการจ่ายค่าชดเชยให้บริษัทโอปเวลล์ โดยได้รับข้อมูลจากผู้ที่หวังดีต่อประเทศชาติ เพราะเกรงว่าการจ่ายเงินให้โครงการดังกล่าวไม่น่าจะถูกต้อง และมีข้อพิรุธหลายประการที่หน่วยงานของรัฐไม่นำไปเป็นคู่ต่อสู้คดีที่ผ่านมา



ซึ่งคณะทำงานได้ศึกษารายละเอียดโครงการอย่างรอบคอบ พบพิรุธทั้งหมด 9 ข้อ คือ 1.วันที่ 6 ต.ค. 2532 รายละเอียดโครงการไม่ตรงตามมติ ครม. 2.วันที่ 16 ต.ค. 2532 การดำเนินงานของคณะกรรมการฯ รวดเร็วผิดปกติ และให้สิทธิประโยชน์มากกว่าตามหลักการที่เป็นมติ ครม. 3.วันที่ 15 ม.ค. 2533 มีการแทรกแซงรายละเอียดโครงการโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมในขณะนั้น และคณะกรรมการฯ มีการเอื้อประโยชน์ให้โฮปเวลล์-ฮ่องกง 4.วันที่ 31 พ.ค. 2533 โฮปเวลล์-ฮ่องกง เสนอเงื่อนไขไม่ตรงตามประกาศของคณะกรรมการ



5.วันที่ 6 ก.ค. 2533 มีความผิดปกติในการร่างสัญญาสัมปทานและการลงนามในสัญญาสัมปทาน 6.เดือน ส.ค.-พ.ย. 2533 มีการเอื้อประโยชน์ในการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด และหลีกเลี่ยงการใช้ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 28 (ปว.281) โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย 7.วันที่ 9 พ.ย. 2533 การลงนามในสัญญาสัมปทานไม่เป็นไปตามมติ ครม. 8.วันที่ 4 ธ.ค.33 มีการรายงานเท็จต่อ ครม. และ 9.บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย)จำกัด ไม่มีสิทธิได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน

นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า ยืนยันว่าทั้ง 9 ข้อพิรุธเป็นข้อมูลใหม่ที่จะฟ้องต่อศาลให้กลายเป็นโมฆะ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเสียเงินแผ่นดิน หรือค่าโง่ จำนวน 2.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งกระทรวงคมนาคมจะต่อสู้เรื่องนี้จนถึงที่สุด โดยตนได้นำเรื่องดังกล่าวรายงานต่อนายกฯ เพื่อให้รับทราบ โดยนายกฯ กำชับให้ดำเนินการเรื่องนี้อย่างรอบคอบ และให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ให้ศึกษาควบคู่ไปด้วย

ส่วนขั้นตอนในการดำเนินคดี การรถไฟแห่งประเทศไทยได้ส่งเอกสารทั้งหมดให้กรมพัฒนาธุกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ตั้งแต่วันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อให้เพิกถอน บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ให้เป็นโมฆะในการเป็นคู่สัญญาของโครงการ ซึ่งมีเวลาพิจารณาภายใน 30 วัน หากเพิกเฉยก็จะร้องศาลปกครองให้มีคำสั่งต่อไป ซึ่งในระหว่างนี้จะไม่มีการบังคับคดีให้ชดเชยค่าเสียหาย ขณะเดียวกันก็เตรียมยื่นเอกสารทั้งหมดให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ดำเนินการเอาผิดทั้งทางแพ่ง และอาญา รวมถึงยกเป็นคดีพิเศษ เพราะมีหน่วยงานและบุคคลที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก

"ศักดิ์สยาม" ลั่นไม่จ่ายค่าโง่โฮปเวลล์ หลังพบพิรุธ 9 ข้อ ชงต่อ DSI เอาผิดแพ่งและอาญา
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันพุธที่ 27 พฤศจิกายน 2562 เวลา 18:32
ปรับปรุง: วันพุธที่ 27 พฤศจิกายน 2562 เวลา 19:06

รมว.คมนาคม แจง กมธ.กฏหมายฯ ลั่นไม่จ่ายค่าโง่โฮปเวลล์ 2.4 หมื่นล. หลังพบพิรุธใหม่ 9 ข้อ จ่อชงDSI จัดการเอาผิดแพ่งและอาญา และให้เวลากรมพัฒนาธุกิจการค้า 30 วัน เพิกถอนให้การเป็นคู่สัญญาเป็นโมฆะ เพิกเฉยเตรียมฟ้องศาล ปค.

วันนี้ (27พ.ย.) เมื่อเวลา 16.10 น. ที่รัฐสภา นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วยส.ส.พรรคภูมิใจไทย (ภท.) แถลงภายหลังเข้าชี้แจงกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาฯ ถึงกรณีการจ่ายค่าชดเชยแก่บริษัทโฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ว่า หลังจากตนเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม วันที่ 31 กรกฎาคม ได้ตั้งคณะกรรมการศึกษากรณีการจ่ายค่าชดเชยให้บริษัทโฮปเวลล์ โดยได้รับข้อมูลจากผู้ที่หวังดีต่อประเทศชาติ เพราะเกรงว่าการจ่ายเงินให้โครงการดังกล่าวไม่น่าจะถูกต้อง และมีข้อพิรุจหลายประการที่หน่วยงานของรัฐไม่นำไปเป็นคู่ต่อสู้คดีที่ผ่านมา

ซึ่งคณะทำงานได้ศึกษารายละเอียดโครงการอย่างรอบคอบ พบข้อพิรุจทั้งหมด 9 ข้อ คือ

1.วันที่ 6 ตุลาคม 2532 รายละเอียดโครงการไม่ตรงตามมติ ครม.
2.วันที่ 16 ตุลาคม 2532 การดำเนินงานของคณะกรรมการฯ รวดเร็วผิดปกติ และให้สิทธิประโยชน์มากกว่าตามหลักการที่เป็นมติ ครม.
3.วันที่ 15 มกราคม 2533 มีการแทรกแซงรายละเอียดโครงการโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมในขณะนั้น และคณะกรรมการฯ มีการเอื้อประโยชน์ให้โฮปเวลล์-ฮ่องกง
4.วันที่ 31 พฤษภาคม 2533 โฮปเวลล์-ฮ่องกง เสนอเงื่อนไขไม่ตรงตามประกาศของคณะกรรมการฯ
5.วันที่ 6 กรกฎาคม 2533 มีความผิดปกติในการร่างสัญญาสัมปทานและการลงนามในสัญญาสัมปทาน
6.เดือนสิงหาคม-พฤศจิกายน 2533 มีการเอื้อประโยชน์ในการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทโฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด และหลีกเลี่ยงการใช้ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 28 (ปว.281) โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
7.วันที่ 9 พฤศจิกายน 2533 การลงนามในสัญญาสัมปทานไม่เป็นไปตามมติ ครม.
8.วันที่ 4 ธันวาคม 2533 มีการรายงานเท็จต่อ ครม. และ
9.บริษัทโฮปเวลล์ (ประเทศไทย)จำกัด ไม่มีสิทธิได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน


นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า ยืนยันว่าทั้ง 9 ข้อ เป็นข้อมูลใหม่ที่จะฟ้องต่อศาลให้สัญญาเดิมเป็นโมฆะเพื่อที่จะได้ไม่ต้องเสียเงินแผ่นดิน หรือค่าโง่ จำนวน 2.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งกระทรวงคมนาคมจะต่อสู้เรื่องนี้จนถึงที่สุด โดยตนได้นำเรื่องดังกล่าวรายงานต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เพื่อให้รับทราบ โดยนายกฯกำชับให้ดำเนินการเรื่องนี้อย่างรอบคอบ และให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ให้ศึกษาควบคู่ไปด้วย

ส่วนขั้นตอนในการดำเนินคดี การรถไฟแห่งประเทศไทยได้ส่งเอกสารทั้งหมดให้กรมพัฒนาธุกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ตั้งแต่วันที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เพื่อให้เพิกถอนบริษัทโอปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ให้เป็นโมฆะในการเป็นคู่สัญญาของโครงการฯ ซึ่งมีเวลาพิจารณาภายใน 30 วัน หากเพิกเฉยก็จะร้องศาลปกครองให้มีคำสั่งต่อไป ซึ่งในระหว่างนี้จะไม่มีการบังคับคดีให้ชดเชยค่าเสียหาย ขณะเดียวกันก็เตรียมยื่นเอกสารทั้งหมดให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ดำเนินการเอาผิดทั้งทางแพ่ง และอาญา รวมถึงยกเป็นคดีพิเศษ เพราะมีหน่วยงาน และบุคคลที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 03/12/2019 11:28 am    Post subject: Reply with quote

‘ศักดิ์สยาม’ร่อนหนังสือถึงพาณิชย์สอบทะเบียนโฮปเวลล์สงสัยจดทะเบียนไม่ถูกต้องด้าน‘วีรศักดิ์’รับลูก

วันที่ 2 ธันวาคม 2562

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการดำเนินการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทกรณีค่าโง่โฮปเวลล์ ว่า เมื่อวันที่ 22 พ.ย..ที่ผ่านมา การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ทำหนังสือไปยังกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ให้ตรวจสอบข้อมูลการจดทะเบียนบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) เนื่องจากคณะทำงานของกระทรวงคมนาคม ตรวจสอบพบว่ามีการจดทะเบียนไม่ถูกต้องและตนยังได้ทำหนังสือไปถึงนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ให้ช่วยตรวจสอบข้อมูลอีกครั้งด้วย ทั้งนี้ หากพบว่ามีการจดทะเบียนไม่ถูกต้องจริง ก็เป็นอำนาจของนายทะเบียน กระทรวงพาณิชย์ ที่จะต้องยกเลิกการจดทะเบียนบริษัท และหากยกเลิกการจดทะเบียน จะทำให้สัญญาร่วมทุนที่ทำไว้เป็นโมฆะทันที และไม่ต้องจ่ายเงินชดเชย

นอกจากนี้ ยังพบหลักฐานอีกหลายประเด็น อาทิ ประเด็นทางแพ่ง และอาญา ซึ่งกระทรวงคมนาคมจะต้องประสานไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ให้ช่วยตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม ส่วนของการร่วมทุนที่พบว่าขัดกับมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) นั้นกระทรวงคมนาคม เตรียมประสานไปยังกระทรวงการคลังให้ช่วยตรวจสอบข้อมูลให้ แต่ทั้งนี้ ต้องรอผลการตรวจสอบของกระทรวงพาณิชย์ก่อน เพราะหากมีการยกเลิกจดทะเบียนบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) ก็อาจไม่ต้องดำเนินการฟ้องในส่วนอื่นเพิ่มเติม

“ต้องรอดูการวินิจฉัยของกระทรวงพาณิชย์ก่อน ซึ่งตามขั้นตอนจะใช้เวลาประมาณ 30 วัน หากกระทรวงพาณิชย์พิจารณาตัดสินว่าต้องยกเลิกการจดทะเบียน สัญญาจะเป็นโมฆะทันที แต่ถ้าไม่จบกระทรวงคมนาคมจะเดินหน้า ฟ้องในประเด็นอื่นๆ ต่อไป เพื่อประโยชน์ของประเทศ”

ด้านนายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.พาณิชย์ กล่าวถึง กรณีกรณีที่ นายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายผู้รับมอบอำนาจจากกระทรวงคมนาคมและการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เดินทางมาที่ศาลปกครอง เพื่อยื่นฟ้องนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท และอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ที่รับจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายและไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ว่า ในฐานะที่กำกับดูแลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้สั่งการให้ฝ่ายกฎหมายของกรม ตรวจสอบรายละเอียดการขอจดตั้งบริษัทดังกล่าว และให้รายงานความคืบหน้ามายังตนให้เร็วที่สุด ซึ่งในเบื้องต้นทราบมาว่ามีการขดจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทในปี 2533 หรือกว่า 30 ปีที่ผ่านมา


โดยกำชับให้เจ้าหน้าที่สืบค้นข้อมูลอย่างรอบด้าน เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศไว้ให้ได้มากที่สุด โดยยืนยันว่าไม่มีความกดดันจากพรรคหรือฝ่ายการเมือง แต่ตนทำตามหน้าที่ในฐานะรมช. พาณิชย์ ซึ่งทางพรรคฯ เองก็ต้องการให้ตนทำงานอย่างรอบครอบและต้องอยู่บนความถูกต้อง

ทั้งนี้ ในส่วนของประเด็นที่กรมฯ มีการรับจดทะเบียนบริษัท อย่างผิดกฎหมายนั้น ต้องย้อนกับไปดูตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งกรณีนี้ บริษัท โฮปเวลล์ ถือเป็นบริษัทต่างด้าวที่ต้องการเข้ามาทำธุรกิจในไทย ซึ่งกรมฯ จะทำการตรวจสอบก่อนตามที่มีการระบุมาว่าพบข้อพิรุธว่าการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทไม่ถูกต้อง เพราะไม่ได้มีการขออนุญาตตามพ.ร.บ. การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว โดยรายละเอียดในเรื่องนี้ กรมฯ มอบหมายให้ กองกฎหมาย และกองบริหารการประกอบธุรกิจ ของชาวต่างชาติ เป็นหน่วยงานในการตรวจสอบก่อนที่จะนำเสนอข้อมูลต่อประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีดังกล่าวมีสาเหตุมาจากกรณีที่ นายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายผู้รับมอบอำนาจจากกระทรวงคมนาคมและการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เดินทางมาที่ศาลปกครอง เพื่อยื่นฟ้องนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท และอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ที่รับจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายและไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด จึงขอให้เพิกถอนการจัดตั้งบริษัทดังกล่าว ซึ่งจะมีผลกับการประกอบธุรกิจของบริษัทนี้ และมีผลกับการลงนามในสัญญาเมื่อปี 2533 ด้วย

นอกจากนี้ ยังพบว่า บริษัทที่มาลงนามในครั้งนั้นคือบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ไม่ใช่บริษัท โฮป เวลล์โฮลดิ้ง จากเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ซึ่งตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขณะนั้นกำหนดให้โฮปเวลล์โฮลดิ้งมาลงนาม และยังไม่มีการแก้มติ ครม.ให้บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ลงนามตลอดมา
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 04/12/2019 11:07 am    Post subject: Reply with quote

“ศักดิ์สยาม”รอ30วัน สอบจดทะเบียน"โฮปเวลล์"ก่อนยื่นสู้”คดีค่าโง่”
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันที่ 3 ธันวาคม 2562 19:43

“ศักดิ์สยาม”ประสาน รมว.พาณิชย์ ตรวจสอบ”โฮปเวลล์” รอ 30 วัน ยันจดทะเบียนไม่ถูกต้อง ยื่นศาลปกครอง สู้คดีสัญญาโมฆะ

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงการดำเนินการต่อสู้คดีค่าโง่โฮปเวลล์ ว่า หลังจากที่ตรวจพบข้อพิรุธ 9 ข้อ ซึ่งตนได้แถลงข่าวไปก่อนหน้านี้รวมถึงแนวทางการดำเนินการ ซึ่งล่าสุด การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ทำข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวกับการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) ส่งให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ตรวจสอบไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 พ.ย. ที่ผ่านมา เพื่อให้พิจารณาตามอำนาจหน้าที่และรายงานกลับมาให้กระทรวงคมนาคม

นอกจากนี้ ตนได้แจ้งไปยัง ถึงนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อประสานในระดับรัฐมนตรีด้วยกันให้ทราบเรื่องที่ รฟท.ได้ส่งเรื่องไปให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และให้พิจารณาตามอำนาจหน้าที่ ซึ่งตามขั้นตอนทาง กรมพัฒนาธุรกิจการค้า มีเวลาในการตรวจสอบและพิจารณา 30 วัน นับจากวันที่ได้รับหนังสือจาก รฟท.

ซึ่งในการประสานงาน หากครบกำหนด 30 วัน ทาง รฟท.จะทำหนังสือสอบถามไปอีกครั้ง หากข้อมูลไม่มีปัญหา เท่ากับ หลักฐานที่พบ ว่าการจดทะเบียนบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) ไม่ถูกต้อง เท่ากับสัญญาโครงการโฮปเวลล์จะเป็นโมฆะทันที โดยรฟท.จะยื่นข้อมูลต่อศาลปกครอง เพื่อให้วินิจฉัยต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 04/12/2019 3:22 pm    Post subject: Reply with quote

ทดลองเดินรถไฟฟ้าสายแดงในย่านบางซื่อ

Wichien Kodsuntie wrote:
เรียนท่านผู้โดยสาร ประชาชนทั่วไปโปรดทราบ นี่คือโฉมหน้าตัวรถไฟฟ้าสายสีแดง ขอเรียนท่านผู้โดยสารทุกท่านว่า โปรดอดใจรออีกไม่นานนัก! ได้ขึ้นแน่นอนครับ🚇🚆🚃🚃

https://www.facebook.com/jokebetter.kod/posts/1601241346684804
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 06/12/2019 1:48 am    Post subject: Reply with quote

ประชุม ศึกษารายละเอียด ส่วนต่อขยาย รถไฟฟ้าสายสีแดงสายใต้ จาก มหาชัย-ปากท่อ 6-17 ธันวาคม 62
โครงสร้างพื้นฐาน ประเทศไทย Thailand Infrastructure
3 ธันวาคม 2562 เวลา 13:29

สำหรับส่วนต่อขยายช่วง มหาชัย-ปากท่อ มีช่วงเวลาประชุมในแต่ละพื้นที่ตามนี้ครับ

จังหวัดสมุทรสาคร อำเภอเมือง

6 ธันวาคม 62
9:30-12:00 ห้องประชุม อบต.กาหลง
14:00-16:30 ห้องประชุม อบต.นาโคก

9 ธันวาคม 62
9:30-12:00 ศูนย์พัฒนาอาชีพ อบต.ลาดใหญ่
14:00-16:30 ห้องประชุม อบต.บางแก้ว

11 ธันวาคม 62
9:30-12:00 ห้องประชุม อบต.ท้ายหาด
14:00-16:30 ห้องประชุม อบต.บ้านขันแตก

16 ธันวาคม 62
9:30-12:00 ห้องประชุม อบต.บางกระเจ้า
14:00-16:30 ห้องประชุมทรายเพชร อบต.ท่าทราย

17 ธันวาคม 62
9:30-12:00 ห้องประชุมอบต.บ้านบ่อ
14:00-16:30 ห้องประชุมอบต.บางโทรัด

———————
จังหวัดสมุทรสงคราม อำเภออัมพวา

12 ธันวาคม 62
9:30-12:00 ห้องประชุมอบต.บางโพงพาง
14:00-16:30 ห้องประชุมอบต.วัดประดู่

———————
จังหวัดราชบุรี อำเภอปากท่อ

13 ธันวาคม 62
9:30-12:00 ห้องประชุมอบต.วัดยางงาม
14:00-16:30 ห้องประชุมอบต.ปากท่อ

รบกวนคนในพื้นที่เข้าประชุมเพื่อกำหนดอนาคตและแสดงความคิดเห็น กับโครงการด้วยครับ
ลิ้งค์ => จดหมายเชิญประชุม

อยากให้ผู้ได้รับผลกระทบและคนพื้นที่ สละเวลาซักนิดเพื่อกำหนดอนาคตของคุณเอง ไม่ใช่ไปค้าน เพราะจะทำอะไรตอนนั้นมันยากแล้วครับ

นี่ครับข้อมูลจากเพจ โครงการรถไฟฟ้าชานเมือง มหาชัย-ปากท่อ
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 06/12/2019 1:51 pm    Post subject: Reply with quote

เพจ โครงการรถไฟฟ้าชานเมือง มหาชัย-ปากท่อ ทำให้ทราบว่า จะมีการสร้างสถานีมหาชัยใหม่ แถวหมู่บ้านเกาะสมุทรก่อน จะข้ามแม่น้ำท่าจีน ตรงข้าม โรงเรียนบ้านท่าทราย และ สถานีท่าฉลอมใหม่ ใกล้ บจก. คิบุน(ไทยแลนด์) ไม่ไกลจาก โรงพยาบาลวิภาราม สมุทรสาคร และ นิคมอุตสาหกรรม สมุทรสาคร ดังนั้น ควรตั้งชื่อสถานีท่าฉลอมใหม่ว่า นิคมอุตสาหกรรมสมุทรสาครท่าจะเหมาะ

จากนั้น จะลู่เข้าทางรถไฟสายบ้านแหลม แม่กลองที่บ้านหยุดรถคลองนกเล็ก ที่ ต้อง upgrade เป้นสถานีนกเล็ก เพื่อคุมการเดินรถ ก่อน ผ่าน สถานีสีคต (ที่หยุดรถบางสีคต) สถานีบางกระเจ้า (ที่หยุดรถบางกระเจ้า) สถานีบ้านบ่อ (ที่หยุดรถบ้านบ่อ) สถานีบางโทรัด (ที่หยุดรถบางโทรัด) สถานีบ้านกาหลง (ที่หยุดรถบ้านกาหลง) สถานีนาขวาง (ที่หยุดรถนาขวาง) สถานีบ้านนาโคก (ที่หยุดรถบ้านนาโคก) สถานีบ้านเขตเมือง (ที่หยุดรถเขตเมือง) สถานีบ้านลาดใหญ่ (ที่หยุดรถลาดใหญ่) สถานีบางตะบูน (ที่หยุดรถบางกระบูน) ก่อนหักออก จากบางกระบูนเข้าถนนเลี่ยงเมือง ทางหลวงแผ่นดิน) 3093 ไปแม่กลองใหม่

จากนั้น จะมีการสร้างสถานีแม่กลองใหม่ (ตรงถนนเลี่ยงเมือง ทางหลวงแผ่นดิน 3093 ระหว่างบ้านสวนรีสอร์ทและแม่กลองรีสอร์ท ตำบลลาดใหญ่) ก่อนผ่านไปทางตำบลท้ายหาด (น่าจะมีสถานีท้ายหาด) ไปที่ สถานี บางขันทอง ตรงบางขันแตก สถานีปลายโพงพาง ก่อนผ่านตำบลวัดประดู่เพื่อไปสถานีวัดเพลงที่ ตำบลวัดยางงาม ก่อนเข้าสถานีปากท่อ
https://www.facebook.com/Thailand.Infra/photos/pcb.806889896416158/806889519749529/?type=3&theater
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 16/12/2019 12:09 pm    Post subject: Reply with quote

เริ่มการทดสอบรถไฟฟ้าสายสีแดง ที่จะวิ่งผ่านแถว กม. 11
6 มกราคม 2563 - 15 พฤษภาคม 2563 ทดสอบครั้งละ 1 ขบวน
16 พฤษภาคม 2563 ทดสอบต่อเนื่อง ครั้งละ หลายขบวน
อาจมีการปิดทางบ้าง
https://www.facebook.com/pichet.chamneam/posts/3750057575008280?__tn__=-R
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 74, 75, 76 ... 147, 148, 149  Next
Page 75 of 149

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©