View previous topic :: View next topic
Author
Message
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42636
Location: NECTEC
Posted: 06/06/2019 12:27 pm Post subject:
เวนคืน 1.8 หมื่นไร่หมื่นล้าน สร้างรถไฟทางคู่สายใหม่เชื่อมภาคอีสาน บ้านไผ่-นครพนม ทะลุลาว
คอลัมน์ เวนคืนอัพเดต
พร็อพเพอร์ตี้
วันที่ 6 มิถุนายน 2562 11:15 น.
หลังมีชื่อปรากฏในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 3 (2515-2519) หรือประมาณ 50 ปีที่แล้ว จนกระทั่งมาเริ่มพิจารณาศึกษาเส้นทางอย่างจริงจังในปี 2532
ในที่สุดความฝันของคนอีสานใต้กำลังจะกลายเป็นความจริง เมื่อ ครม.-คณะรัฐมนตรี นัด 28 พ.ค. 2562 อนุมัติโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม ระยะทาง 355 กม. ใช้เงินลงทุนรวม 66,848.33 ล้านบาท
เวนคืนหมื่นล้าน
แบ่งเป็นค่าเวนคืน 10,255.33 ล้านบาท พื้นที่รวม 7,100 แปลง หรือประมาณ 17,500 ไร่ ค่าก่อสร้าง 55,462 ล้านบาท และค่าจ้างที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้าง 1,131 ล้านบาท
ซึ่งวงเงินดังกล่าวปรับลดลง 1,117 ล้านบาท จากเดิม 67,965.33 ล้านบาท ตามคำแนะนำของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) โดยเป็นการปรับลดในส่วนของงบฯอุปกรณ์เครื่องจักรที่ไม่จำเป็นออกไป
โครงการจะใช้เวลาดำเนินการ 8 ปี นับจากนี้ถึงปี 2568 โดย อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ไล่ไทม์ไลน์คาดว่าจะเริ่มขออนุมัติการออก พ.ร.ฎ.เวนคืนที่ดินได้ภายในปี 2562 จากนั้นในปี 2563 จะเป็นขั้นตอนของการประกวดราคาในรูปแบบ e-Bidding และเริ่มต้นก่อสร้างในปีเดียวกัน จะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 4 ปี จะสามารถเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ในเดือน ม.ค. 2564 แล้วเสร็จในเดือน ธ.ค. 2567 สามารถเปิดให้บริการประชาชนได้ในเดือน ม.ค. 2568
โดยรัฐบาลจะเป็นผู้รับภาระค่าใช้จ่ายของโครงการทั้งหมด มีสำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณประจำปีสำหรับเป็นค่าเวนคืนที่ดิน ส่วนการก่อสร้าง กระทรวงการคลังจะเป็นผู้จัดหาแหล่งเงินกู้ในประเทศ และจะค้ำประกันเงินกู้ให้ตามความเหมาะสม จะให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ขอกู้เงินได้ตามที่ระบุตาม พ.ร.บ.การรถไฟแห่งประเทศไทย 2494 และที่ประชุม ครม.ยังอนุมัติหลักการร่าง พ.ร.ฎ.กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่จะเวนคืนของโครงการแล้ว
เปิดพื้นที่ใหม่ 6 จังหวัด
ส่วนรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) กำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของคณะผู้ชำนาญการ (คชก.) จะดำเนินการคู่ขนานไปกับการประมูลเพราะการลงนามสัญญากับผู้รับจ้างจะทำได้ก็ต่อเมื่อ EIA อนุมัติแล้ว
แนวเส้นทางมีสถานีใหม่ 30 สถานี 1 ชุมทาง ลานบรรทุกตู้สินค้า 3 แห่ง และย่านกองเก็บตู้สินค้า 3 แห่ง ผ่านพื้นที่ทั้งหมด 70 ตำบล 19 อำเภอ 6 จังหวัด จุดเริ่มต้นอยู่ที่ชุมทางบ้านหนองแวงไร่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น พาดผ่าน จ.ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร มุกดาหาร ไปสิ้นสุดที่สถานีสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 จ.นครพนม นอกจากนี้จะเชื่อมกับลาวที่แขวงสะหวันนะเขตและคำม่วน
มีการออกแบบถนนยกข้ามทางรถไฟจำนวน 81 แห่ง มีถนนลอดใต้ทางรถไฟ จำนวน 245 แห่ง พร้อมการก่อสร้างรั้วสองข้างทางตลอดแนวเส้นทางรถไฟ ความกว้างของราง ขนาด 1 เมตร สามารถเชื่อมต่อกับระบบรางเดิมของ ร.ฟ.ท.ที่มีอยู่ รองรับการเดินรถขนาดความเร็วสูงสุดที่ 160 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วนทางรถไฟเป็นรูปแบบใช้หินโรยทางทั้งทางระดับพื้นดิน สะพาน และโครงสร้างยกระดับที่เป็นคอนกรีต
คาดการณ์จำนวนผู้โดยสารในปีแรกที่เปิดให้บริการอยู่ที่ 3,835,260 คน/ปี มีปริมาณสินค้าที่ขนส่งในเส้นทางนี้ 748,453 ตัน และจะมีอัตราผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ (EIRR) อยู่ที่ 13% ทำให้มูลค่าเงินปัจจุบันสุทธิของโครงการอยู่ที่ 5,000 ล้านบาท ส่วนผลตอบแทนทางการเงิน (IRR) อยู่ที่ 0.42%
เชื่อมเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน
รถไฟสายนี้เป็นหนึ่งในโครงการเชื่อมรถไฟระหว่างภาคตะวันออกไปตะวันตก หรือ east-west corridor เส้นทางจากแม่สอด-นครสวรรค์ บ้านไผ่-นครพนม ระยะทางรวม 902 กม. เชื่อมเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนตากและนครพนม นอกจากสายนี้แล้ว ยังมีช่วงบ้านไผ่-นครสวรรค์ ระยะทาง 291 กม. กรอบวงเงิน 47,712 ล้านบาท และช่วงนครสวรรค์-แม่สอด ระยะทาง 291 กม. กรอบวงเงิน 47,712 ล้านบาท ที่ยังอยู่ระหว่างการศึกษาความเหมาะสม นายอาคมระบุ
เท่ากับว่า รัฐบาลทหาร อนุมัติรถไฟทางคู่สายใหม่ในแผนครบ 2 เส้นทาง จากก่อนหน้านี้มีช่วง เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 323 กม. เงินลงทุน 85,345 ล้านบาท ซึ่ง ครม.ประทับตราไปเมื่อเดือน ก.ย.ปีที่แล้ว เพื่อเชื่อมการขนส่งและเดินทางภาคเหนือเชื่อมกับ สปป.ลาว ถึงขณะนี้โครงการอยู่ระหว่างสำรวจพื้นที่เวนคืน จนมาล่าสุดเป็นช่วงบ้านไผ่-นครพนม
อนุมัติกันฉลุย แต่ต้องลุ้นโครงการจะเดินหน้าได้ช้าหรือเร็ว !
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44335
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 19/06/2019 7:18 pm Post subject:
รถไฟสู่อีสานกลางสร้างน้อย(สถานี) เด้อ!! | @Transport EP.66 - 180662
Dailynews Live-TH
Published on Jun 18, 2019
คาดว่าในปี2568 การรถไฟแห่งประเทศไทย จะเปิดเดินรถในพื้นที่จังหวัดภาคอีสานกลาง จาก ชุมทางบ้านหนองแวง อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ผ่านมหาสารคาม ร้อยเอ็ด ไปสิ้นสุดที่ สถานีสะพานมิตรภาพไทยลาวข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 3 จ.นครพนม ระยะทาง 355 กม. ผ่านพื้นที่ 6จังหวัด ก่อสร้างทางคู่ตลอดเส้นทาง และมีจำนวนสถานีเพียง 30 แห่ง จะเป็นเส้นทางโลิจิสติกส์สำคัญจากชายแดนสปป.ลาวมายังท่าเรือแหลมฉบัง
https://www.youtube.com/watch?v=QXxfmjdM9eU
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42636
Location: NECTEC
Posted: 21/06/2019 4:50 pm Post subject:
คิกออฟ!รถไฟสายบ้านไผ่-นครพนม ปลุกเศรษฐกิจอีสาน เชื่อมโยง5ประเทศ
หน้าแรก / เศรษฐกิจมหภาค / Mega Project
วันที่ 21 มิถุนายน 2562
วันนี้ (21 มิ.ย.62) เวลา 09.00 น. ณ โรงแรมฟอร์จูน ริเวอร์วิว จังหวัดนครพนม นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานเปิดการสัมมนาเพื่อสร้างการรับรู้และความเข้าใจในโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายบ้านไผ่ มหาสารคาม - ร้อยเอ็ด - มุกดาหาร - นครพนม เพื่อนำเสนอข้อมูลให้ประชาชนทราบถึงความก้าวหน้าของการพัฒนาโครงการฯ พร้อมทั้งร่วมแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและข้อเสนอที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินโครงการ โดยมีหน่วยงานรัฐและเอกชนเข้าร่วมกว่า 300 คน
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ปาฐกถา ในหัวข้อ สิ้นสุดการรอคอย รถไฟทางคู่สายใหม่บ้านไผ่ - มุกดาหาร - นครพนม ของชาวอีสาน โดยกล่าวถึงโครงการนี้ว่าเป็นหนึ่งในโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายใหม่ ที่ได้รับการบรรจุไว้ในแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งของไทยระยะ 20 ปี โดยมีระยะทาง 355 กิโลเมตร ผ่านพื้นที่ 70 ตำบล 19 อำเภอ ของ 6 จังหวัด มีสถานีรถไฟ 18 สถานี แบ่งเป็นสถานีขนาดใหญ่ 4 สถานี (มหาสารคาม ร้อยเอ็ด มุกดาหารและนครพนม) สถานีขนาดกลาง 5 สถานี และสถานีขนาดเล็ก 9 สถานี มีป้ายหยุดรถ 12 แห่ง มีย่านกองเก็บและบรรทุกตู้สินค้า 6 แห่ง ด้านความปลอดภัย โครงการได้มีการออกแบบให้มีสะพานรถไฟข้ามถนน/ถนนเลียบคลอง 158 แห่ง มีสะพานรถยนต์ข้ามทางรถไฟ 81 แห่ง มีทางลอดทางรถไฟ 245 แห่ง และมีทางบริการขนานทางรถไฟ 165 แห่ง
ส่วนขั้นตอนการดำเนินงาน ภายหลังจาก ครม. อนุมัติโครงการเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา จะมีการออกพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดิน จากนั้น ในปี 2563 จะเริ่มจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน และเริ่มดำเนินการก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการได้ในปี 2567
หลังจากนั้น จึงเป็นการเปิดเวทีเสวนาแลกเปลี่ยนมุมมองในหัวข้อ บ้านไผ่ - มุกดาหาร นครพนม ทางรถไฟ 5 ประเทศ เพื่อคุณภาพชีวิต และเศรษฐกิจระดับสากลโดย นายทักษ์ ศรีรัตโนภาส ผู้อำนวยการด้านโครงการร่วมทุนและการค้าระหว่างประเทศ กลุ่มมิตรผล ที่นำเสนอเกี่ยวกับโอกาสของภาคอุตสาหกรรมการเกษตรในภาคอีสาน และการเติบโตของกลุ่มมิตรผล อันนำมาซึ่งโอกาสที่จะใช้ระบบรางในการขนส่งสินค้าเพื่อช่วยลดต้นทุนให้แก่ธุรกิจ
ด้านนายชัยพล เกิดวงศ์บัณฑิต กรรมการบริหาร บริษัท เอ็นเทคโพลีเมอร์ จำกัด และรองประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดมุกดาหาร ที่มาเน้นย้ำถึงศักยภาพของภาคอีสาน ในการเป็นฐานการผลิตอุตสาหกรรมการเกษตร และโอกาสที่เพิ่มขึ้นภายหลังจากมีรถไฟสายนี้ นอกจากนี้ ชี้ให้เห็นถึงโอกาสในการดำเนินธุรกิจต่อเนื่องในประเทศเพื่อนบ้านได้ด้วย
ส่วนนายมงคล ตันสุวรรณ กรรมการรองเลขาธิการ และเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หอการค้าไทย ที่สะท้อนภาพสถานการณ์ของภาคธุรกิจท้องถิ่นของจังหวัดนครพนมและจังหวัดใกล้เคียงตามแนวเส้นทางรถไฟ โอกาสด้านต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นภายหลังจากที่รถไฟก่อสร้างเสร็จ ไม่ว่าจะเป็น ด้านการเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวลุ่มน้ำโขง ด้านการค้าชายแดน ด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น สำหรับโครงการก่อสร้างทางรถไฟ สายบ้านไผ่ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด มุกดาหาร นครพนม ยังเป็นหนึ่งในโครงการเร่งรัดการพัฒนารถไฟทางคู่ เพื่อเชื่อมโยงระเบียงเศรษฐกิจแนวตะวันออก ตะวันตก เพื่อรองรับนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษของรัฐบาลและการเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลางและตอนบน ซึ่ง ครม.ได้อนุมัติงบ 6.6 หมื่นล้านบาทในการดำเนินการ ซึ่งเมื่อโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จ จะช่วยให้ประชาชนเดินทางสะดวกสบายขึ้น ผู้ประกอบการมีทางเลือกในการขนส่งและโลจิสติกส์สินค้า เพิ่มรายได้ให้ประชาชนในพื้นที่ ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และยังเป็นการเปิดประตูแห่งโอกาสการค้าและการท่องเที่ยวระดับโลกอีกด้วย
อีสานสะออน! อาคม กดปุ่มลุยรถไฟสายใหม่บ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนมหนุนเขตศก.พิเศษ-ท่องเที่ยวอีสานเชื่อม5ประเทศ
พร็อพเพอร์ตี้
วันที่ 21 มิถุนายน 2562 เวลา 11:54 น.
วันที่ 21 มิถุนายน 2562 เวลา 09.00 น. ณ โรงแรมฟอร์จูน ริเวอร์วิว จังหวัดนครพนม นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานเปิดการสัมมนาเพื่อสร้างการรับรู้และความเข้าใจในโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายบ้านไผ่ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด มุกดาหาร นครพนม
เพื่อนำเสนอข้อมูลให้ประชาชนทราบถึงความก้าวหน้าของการพัฒนาโครงการฯ พร้อมทั้งร่วมแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและข้อเสนอที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินโครงการ และการพัฒนาจังหวัดขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด มุกดาหาร และนครพนม
นายอาคมได้ปาฐกถา ในหัวข้อ สิ้นสุดการรอคอย รถไฟทางคู่สายใหม่บ้านไผ่ มุกดาหาร นครพนม ของชาวอีสาน โดยกล่าวว่าโครงการนี้เป็นหนึ่งในโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายใหม่ ที่ได้รับการบรรจุไว้ในแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งของไทยระยะ 20 ปี
มีระยะทาง 355 กิโลเมตร ผ่านพื้นที่ 70 ตำบล 19 อำเภอ ของ 6 จังหวัด มีสถานีรถไฟ 18 สถานี แบ่งเป็นสถานีขนาดใหญ่ 4 สถานี (มหาสารคาม ร้อยเอ็ด มุกดาหาร และนครพนม) สถานีขนาดกลาง 5 สถานี และสถานีขนาดเล็ก 9 สถานี มีป้ายหยุดรถ 12 แห่ง มีย่านกองเก็บและบรรทุกตู้สินค้า 6 แห่ง ด้านความปลอดภัย โครงการได้มีการออกแบบให้มีสะพานรถไฟข้ามถนน/ถนนเลียบคลอง 158 แห่ง มีสะพานรถยนต์ข้ามทางรถไฟ 81 แห่ง มีทางลอดทางรถไฟ 245 แห่ง และมีทางบริการขนานทางรถไฟ 165 แห่ง
ส่วนขั้นตอนการดำเนินงาน ภายหลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม. ) อนุมัติโครงการเมื่อวันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา จะมีการออกพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดิน จากนั้น ในปี 2563 จะเริ่มจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน และเริ่มดำเนินการก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการได้ในปี 2567
จากนั้นเป็นการเปิดเวทีเสวนาแลกเปลี่ยนมุมมองในหัวข้อ บ้านไผ่ มุกดาหาร นครพนม ทางรถไฟ 5 ประเทศ เพื่อคุณภาพชีวิต และเศรษฐกิจระดับสากล มีนายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ให้มุมมองเกี่ยวกับศักยภาพและโอกาสของจังหวัดนครพนม รวมทั้งกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 2 นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย นำเสนอข้อมูลภาพรวมโครงการ ความพิเศษของทางรถไฟสายใหม่นี้
ที่สามารถเชื่อมพรมแดนได้ถึง 5 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย เมียนมา สปป.ลาว เวียดนามและจีน นอกจากนี้ ยังมี นายทักษ์ ศรีรัตโนภาส ผู้อำนวยการด้านโครงการร่วมทุนและการค้าระหว่างประเทศ กลุ่มมิตรผล ที่นำเสนอเกี่ยวกับโอกาสของภาคอุตสาหกรรมการเกษตรในภาคอีสาน และการเติบโตของกลุ่มมิตรผล อันนำมาซึ่งโอกาสที่จะใช้ระบบรางในการขนส่งสินค้าเพื่อช่วยลดต้นทุนให้แก่ธุรกิจ
ด้านนายชัยพล เกิดวงศ์บัณฑิต กรรมการบริหาร บริษัท เอ็นเทคโพลีเมอร์ จำกัด และรองประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดมุกดาหาร ที่มาเน้นย้ำถึงศักยภาพของภาคอีสาน ในการเป็นฐานการผลิตอุตสาหกรรมการเกษตร และโอกาสที่เพิ่มขึ้นภายหลังจากมีรถไฟสายนี้ นอกจากนี้ ชี้ให้เห็นถึงโอกาสในการดำเนินธุรกิจต่อเนื่องในประเทศเพื่อนบ้านได้ด้วย
ปิดท้ายด้วย นายมงคล ตันสุวรรณ กรรมการรองเลขาธิการ และเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หอการค้าไทย ที่สะท้อนภาพสถานการณ์ของภาคธุรกิจท้องถิ่นของจังหวัดนครพนมและจังหวัดใกล้เคียงตามแนวเส้นทางรถไฟ โอกาสด้านต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นภายหลังจากที่รถไฟก่อสร้างเสร็จ ไม่ว่าจะเป็นด้านการเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวลุ่มน้ำโขง ด้านการค้าชายแดน ด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น จากนั้น จึงเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมงานได้แสดงความคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะต่อโครงการ เพื่อให้การดำเนินงานเป็นประโยชน์ต่อประชาชนทุกกลุ่มโดยแท้จริง
ทั้งนี้โครงการก่อสร้างทางรถไฟ สายบ้านไผ่ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด มุกดาหาร นครพนม ยังเป็นหนึ่งในโครงการเร่งรัดการพัฒนารถไฟทางคู่ เพื่อเชื่อมโยงระเบียงเศรษฐกิจแนวตะวันออก ตะวันตก เพื่อรองรับนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษของรัฐบาลและการเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลางและตอนบน
เมื่อโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จ จะช่วยให้ประชาชนเดินทางสะดวกสบายขึ้น ผู้ประกอบการมีทางเลือกในการขนส่งและโลจิสติกส์สินค้า เพิ่มรายได้ให้ประชาชนในพื้นที่ ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และยังเป็นการเปิดประตูแห่งโอกาสการค้าและการท่องเที่ยวระดับโลกอีกด้วย
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44335
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 21/06/2019 5:24 pm Post subject:
ก่อสร้างทางรถไฟสายบ้านไผ่ - มหาสารคาม - ร้อยเอ็ด - มุกดาหาร - นครพนม I รฟม. I 21-6-62
Daoreuk Studio
Published on Jun 21, 2019
วีดิทัศน์ประกอบการสัมมนาสร้างการรับรู้และความเข้าใจ
โครงการก่อสร้างทางรถไฟสายบ้านไผ่ - มหาสารคาม - ร้อยเอ็ด - มุกดาหาร - นครพนม
วันศุกร์ที่ 21 มิถุนายน 2562
ณ ห้องฟอร์จูน แกรนด์ บอลรูม โรงแรมฟอร์จูน ริเวอร์วิว นครพนม
โดย การรถไฟแห่งประเทศไทย
https://www.youtube.com/watch?v=8fjppnHKtUs
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42636
Location: NECTEC
Posted: 21/06/2019 6:03 pm Post subject:
Mongwin wrote:
วีดิทัศน์ประกอบการสัมมนาสร้างการรับรู้และความเข้าใจ
โครงการก่อสร้างทางรถไฟสายบ้านไผ่ - มหาสารคาม - ร้อยเอ็ด - มุกดาหาร - นครพนม
ณ ห้องฟอร์จูน แกรนด์ บอลรูม โรงแรมฟอร์จูน ริเวอร์วิว นครพนม
โดย การรถไฟแห่งประเทศไทย
นครพนม I รฟม. I 21-6-62
Daoreuk Studio
วันศุกร์ที่ 21 มิถุนายน 2562
https://www.youtube.com/watch?v=8fjppnHKtUs
อาคม เปิดเวทีโปรโมตรถไฟทางคู่ บ้านไผ่-นครพนม เชื่อมประตูการค้าระเบียง ศก.
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันศุกร์ที่ 21 มิถุนายน 2562 เวลา 15:06
ปรับปรุง: วันศุกร์ที่ 21 มิถุนายน 2562 เวลา 16:12
อาคม เผยรถไฟทางคู่สายบ้านไผ่-นครพนม ตอกเข็มปี 63 เสร็จปี 67 เชื่อม ราง-รถ-อากาศ ชูจังหวัดนครพนม ประตูการค้าและท่องเที่ยว หนุนระเบียงเศรษฐกิจกลุ่มอีสานตอนกลางและตอนบน เชื่อม 5 ประเทศ
วันที่ 21 มิ.ย. นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานเปิดการสัมมนาเพื่อสร้างการรับรู้และความเข้าใจในโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายใหม่ สายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม และปาฐกถาพิเศษหัวข้อ สิ้นสุดการรอคอย ทางรถไฟบ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม ของชาวอีสาน โดยผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครพนม จำนวนประมาณ 350 คน เข้าร่วมสัมมนาฯ
ซึ่งนายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่ากลุ่มธุรกิจบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นายมงคล ตันสุวรรณ กรรมการรองเลขาธิการ และเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หอการค้าไทย นายทักษ์ ศรีรัตโนภาส ผู้อำนวยการด้านโครงการร่วมทุนและการค้าระหว่างประเทศ กลุ่มมิตรผล และนายชัยพล เกิดวงศ์บัณฑิต กรรมการบริหาร บริษัท เอ็นเทคโพลีเมอร์ จำกัด และรองประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดมุกดาหาร ร่วมเสวนาแลกเปลี่ยนมุมมอง หัวข้อ บ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม ทางรถไฟ 5 ประเทศ เพื่อคุณภาพชีวิต และเศรษฐกิจระดับสากล
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม กล่าวว่า การจัดสัมมนาฯ เพื่อประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครพนมได้รับรู้ถึงแผนการพัฒนาเส้นรถไฟทางคู่สายใหม่ สายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม ที่รัฐบาลโดยกระทรวงคมนาคมได้ดำเนินการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการแข่งขันด้านเศรษฐกิจของประเทศ สร้างความปลอดภัยในการเดินทางและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สร้างความเท่าเทียมกันในสังคมในการเข้าถึงระบบคมนาคมขนส่ง และเป็นการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่เข้ามาใช้ในการดำเนินโครงการให้มากขึ้น
โดยโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใหม่ สายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม เป็นส่วนหนึ่งในแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งของไทยระยะ 20 ปี โครงการฯ นี้ มีระยะทางประมาณ 355 กิโลเมตร ผ่าน 70 ตำบล 19 อำเภอ ของ 6 จังหวัด มีสถานีรถไฟ 18 สถานี แบ่งเป็นสถานีขนาดใหญ่ 4 สถานี (มหาสารคาม ร้อยเอ็ด มุกดาหาร และนครพนม) สถานีขนาดกลาง 5 สถานี และสถานีขนาดเล็ก 9 สถานี ป้ายหยุดรถ 12 แห่ง ย่านเก็บกองและบรรทุกตู้สินค้า 6 แห่ง ด้านความปลอดภัย ได้ออกแบบให้มีสะพานรถไฟข้ามถนน/ถนนเลียบคลอง 158 แห่ง สะพานรถยนต์ข้ามทางรถไฟ 81 แห่ง ทางลอดรถไฟ 245 แห่ง ทางบริการขนานทางรถไฟ 165 แห่ง
โดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติโครงการฯ เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2562 และในปี 2563 จะมีการออกพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดินและเริ่มจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน และเริ่มการก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จเปิดให้บริการได้ในปี 2567
โครงการฯ นี้ยังเป็นส่วนหนึ่งในโครงการเร่งรัดพัฒนารถไฟทางคู่เพื่อเชื่อมโยงระเบียงเศรษฐกิจของกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลางและตอนบน สามารถเชื่อมพรมแดนได้ถึง 5 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ (พม่า) สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และสาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อโครงการฯ แล้วเสร็จ จะช่วยให้ประชาชนเดินทางสะดวกสบายขึ้น ผู้ประกอบการขนส่งสินค้ามีทางเลือกในการขนส่งสินค้า เพิ่มรายได้ให้ประชาชนในพื้นที่ ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และเป็นการเปิดประตูแห่งโอกาสทางการค้าและการท่องเที่ยวระดับโลก
สำหรับจังหวัดนครพนมมีจุดเด่นในเรื่องการท่องเที่ยวทางพุทธศาสนา การท่องเที่ยวแนวเส้นทางเลียบแม่น้ำโขง เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษขนาดใหญ่ มีท่าอากาศยานซึ่งอยู่ระหว่างการปรับปรุงขยายอาคารผู้โดยสารขาเข้าให้สามารถรองรับผู้โดยสารจากอากาศยานที่ลงจอดพร้อมกันได้ 2 ลำ ขยายห้องโถงสำหรับผู้โดยสารที่รอจัดการตั๋วโดยสาร และเพิ่มพื้นที่จอดรถผู้ใช้บริการท่าอากาศยาน เมื่อแล้วเสร็จจะรองรับผู้โดยสารได้ 1.7-2 ล้านคนต่อปี มีถนนเชื่อมโยง
ทั้งนี้ ในอนาคตอันใกล้จะมีรถไฟทางคู่ที่ประชาชนเฝ้ารอคอยมาอย่างยาวนานนับ 50 ปี มีการเขื่อมโยงการขนส่งสินค้าไปยังท่าเรือน้ำลึกที่ท่าเรือแหลมฉบังได้ ในส่วนจังหวัดนครพนมต้องเร่งวางแผนพัฒนาจังหวัดเพื่อเชื่อมโยงกับแผนงานที่รัฐบาลและกระทรวงคมนาคมได้วางไว้
https://www.youtube.com/watch?v=FoVeioCM1RI Last edited by Wisarut on 10/09/2019 4:50 pm; edited 1 time in total
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42636
Location: NECTEC
Posted: 10/09/2019 4:46 pm Post subject:
นครพนมเตรียมเป็น ชุมทางรถไฟ กระตุ้นท่องเที่ยวลุ่มน้ำโขง
วันพุธ ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2562, 17.01 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมนาม เหล่าเกียรติ ประธานหอการค้าจังหวัดนครพนม เป็นเจ้าภาพการประชุมคณะกรรมการหอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนบน 2 (สกลนคร นครพนม มุกดาหาร) ครั้งที่ 1/2562 ณ ห้องประชุม บริษัท โตโยต้าเจริญศรี จำกัด ถนนบายพาส บ้านหนองหนองเค็ม เขตเทศบาลเมืองนครพนม พร้อมด้วยประธานหอการค้าฯกลุ่ม 2 คือ นายเศกสรร ชนาวิโชติ (สกลนคร) นายภมร เชาว์ศิริกุล (มุกดาหาร) โดยมีหอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนบน 1 ได้แก่ นายสวาท ธีระรัตนนุกูลชัย(อุดรฯ) นางมนนิภา โกวิทศิริกุล(หนองคาย) นายณัฐพล เหลืองวงศ์ไพศาล(เลย) นายวิสูตร คำอินทร์(หนองบัวลำภู) และ นางกุสุมา หงส์ชูตา(บึงกาฬ) ร่วมประชุมเพื่อช่วยกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภูมิภาคตอนบน 1 และ 2 ให้ก้าวรุดหน้า
เรื่องแรกที่หยิบยกมาพิจารณา เกี่ยวกับด้านการค้าการลงทุน และการค้าชายแดน โดยนายเศกสรร ชนาวิโชติ ประธานหอการค้าฯสกลนคร กล่าวต่อที่ประชุมว่า ด้วยคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 28 พฤษภาคม 2562 มีมติอนุมัติให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ดำเนินโครงการก่อสร้างทางรถไฟ สายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม วงเงิน 66,848.33 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ 8 ปี (ปีงบประมาณ 2561 2568) โดยลักษณะของโครงการจะดำเนินการก่อสร้างทางรถไฟใหม่ จำนวน 2 ทาง(รางคู่) เป็นคันทางระดับดินและบางส่วนเป็นทางรถไฟยกระดับ ระยะทางประมาณ 355 กิโลเมตร ผ่านพื้นที่ทั้งหมด 70 ตำบล 16 อำเภอ 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร มุกดาหาร และนครพนม
ซึ่งจังหวัดสกลนครก็ต้องการทางรถไฟเช่นเดียวกัน จึงเสนอให้มีเส้นทางรถไฟเชื่อมจากจังหวัดอุดรฯผ่านมาถึงจังหวัดนครพนม โดยจุดเริ่มต้นมาจากอุดรฯ ผ่านอำเภอหนองหาน เข้าเขตพื้นที่จังหวัดสกลนครผ่านอำเภอสว่างแดนดิน พังโคน พรรณานิคม ผ่ากลางเมืองสกลนคร ผ่านอำเภอโคกศรีสุพรรณ และเข้าเขตจังหวัดนครพนมที่อำเภอนาแก ไปบรรจบเส้นทางสายบ้านไผ่-นครพนม ที่อำเภอธาตุพนม ระยะทาง 200 กว่ากิโลเมตร ในที่ประชุมเห็นชอบให้ตั้งเรื่องดังกล่าวไว้ เพื่อผลักดันให้เกิดเป็นรูปธรรมโดยเร็ว
จากนั้นก็มาถึงด้านท่องเที่ยวและบริการ ซึ่งนางสาววสุมน เนตรกิจเจริญ เลขาฯหอการค้าจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่าการท่องเที่ยวริมฝั่งแม่น้ำโขง กำลังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ ล่าสุดมีนักท่องเที่ยวจากประเทศเยอรมนี เดินทางมาชมธรรมชาติแถบลุ่มแม่น้ำโขงเป็นคณะทัวร์ โดยเริ่มตะลุยตั้งแต่จังหวัดเลย เลาะลงมาหนองคาย บึงกาฬ นครพนม และมุกดาหาร นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังไปเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน นำมาซึ่งรายได้เข้าสู่ชุมชนเป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพคนในท้องถิ่น จึงเสนอที่ประชุมว่าหลังทางรถไฟสายบ้านไผ่-นครพนม เปิดเดินรถได้สมบูรณ์แบบ ควรจะมีรถไฟสำหรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะสักขบวน
ในที่ประชุมเห็นว่ารถไฟที่เหมาะกับการท่องเที่ยว ไม่จำเป็นต้องเป็นรถรุ่นใหม่ ยกตัวอย่างที่ประเทศญี่ปุ่น นำรถไฟเก่ามารีไซเคิลเพื่อใช้ในเส้นทางท่องเที่ยว ต่อมาเกาะไต้หวัน และประเทศเกาหลีใต้ก็นำไปใช้เช่นเดียวกัน เพราะรถไฟสายท่องเที่ยวไม่จำเป็นต้องใช้ความเร็วเหมือนขบวนปกติ
นอกจากนี้ในที่ประชุมยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า รถไฟความเร็วสูงนั้นไม่เหมาะกับประเทศไทย เนื่องจากรถไฟความเร็วสูงต้องวิ่งเป็นเส้นตรง ถ้าเข้าโค้งมีโอกาสตกรางได้ทันที เขตพื้นที่ภาคอีสานรถไฟระบบรางคู่จึงเป็นคำตอบที่ถูกที่สุด ก่อนปิดประชุมหอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนบน 1 และ 2 ได้มีความเห็นว่าควรจัดประชุมลักษณะนี้กันบ่อยๆ จะได้ทำงานขับเคลื่อนไปด้วยกันอย่างมีประสิทธิภาพ
์Note: จะให้ฟื้นฟูโครงการรถไฟจากอุดรธานีไปนครพนมที่ หลวงเสรีเริงฤทธํิ์เคยคิดทำ แต่ เพราะ สงครามโลกครั้งที่สอง ในยุโรปเมื่อ 2482 แท้ๆ ทำให้ ต้องเปลี่ยนเป็นถนนลูกรังสาย อุดรธานี - สกลนคร นครพนมที่เปิดใช้พร้อมสถานีอุดรธานี เมื่อปี 2484 ซึ่งปัจจุบันคือ ทางหลวงหมายเลข 22
ถ้าเช่นนั้นเราต้องยกเลิกทางหลวงหมายเลข 22 แล้วแปรสภาพเป็นทางรถไฟอย่างที่คนสกลนครอยากได้จะดีไหม?
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44335
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 31/10/2019 5:27 am Post subject:
ปรับวงเลี้ยว120เหลือ40ม.ลดเวนคืน
เดลินิวส์ (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 01 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562
ปชช.เฮเคลียร์แบบเลี่ยงเมืองเรณูนคร
รายงานข่าวจากกรมทางหลวง (ทล.) แจ้งว่า ได้จัดประชุมการมีส่วนร่วมกับประชาชนชี้แจงเพิ่มเติม (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 4) โครงการสำรวจและออกแบบทางหลวง 4 ช่องจราจรทางเลี่ยงเมืองเรณูนคร จ.นครพนม ณ โรงละครเรณูนคร อ.เรณูนคร เมื่อเร็ว ๆ นี้ พบว่าผู้เข้าร่วมประชุมเห็นด้วยกับโครงการและรูปแบบที่ปรับใหม่โดยเฉพาะการปรับลดรัศมีวงเลี้ยวให้เหลือ 40 เมตร รวมทั้งชี้แจงการเลือกรูปแบบที่เหมาะสมเพื่อลดผลกระทบให้ประชาชนในพื้นที่ก่อสร้างมากที่สุด
เดิมทีโครงการได้ออกแบบรัศมีวงกลมในการเลี้ยวไว้ที่ 80-120 เมตร ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในแต่ละพื้นที่ ซึ่งการออกแบบวงเลี้ยวให้กว้างนี้เพื่ออำนวยความสะดวกผู้สัญจรแต่ใช้พื้นที่ก่อสร้างจำนวนมากประชาชนได้รับผล กระทบในการเวนคืนบางรายเพิ่งเริ่มก่อสร้างที่อยู่อาศัยใหม่ จึงเกิดปัญหาร้องเรียน ทล. จึงจัดประชุมเพื่อนำแบบที่ปรับใหม่มานำเสนอ
อย่างไรก็ตามผู้เข้าร่วมประชุมที่ได้รับผลกระทบเวนคืนยังกังวลถึงวงเงินในการจ่ายค่าชดเชย ซึ่ง ทล.ได้อธิบายให้เข้าใจว่าขั้นตอนการจ่ายค่าชดเชยเวนคืนต้องเป็นไปตามกฎหมายเวนคืน ซึ่งทล. จะนำข้อเสนอแนะของผู้เข้าร่วมประชุมมาปรับแบบโครงการให้สมบูรณ์ที่สุดเพื่อนำเสนอผู้บริหารพิจารณางบประมาณก่อสร้าง เปิดประกวดราคาหาผู้รับจ้างรวม ทั้งออกพระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดินบริเวณเวนคืน (พ.ร.ฎ.) ด้วยโดยโครงการนี้จะใช้เวลาก่อสร้าง 2 ปีแล้วเสร็จ
สำหรับทางเลี่ยงเมืองเรณูนครมีลักษณะถนนวงแหวนรอบตัวเมือง ระยะทางรวม 13.809 กม. เริ่มต้นที่ทางหลวงหมายเลข 2031 กม. 4+574 แนวเส้นทางอ้อมไปทางทิศใต้ไปบรรจบทางหลวงหมายเลข 2031 กม. 8+795 จากนั้นไปทางทิศเหนือตามเข็มนาฬิกาไปบรรจบทางหลวงหมายเลข 2276 กม. 36+970 แล้วอ้อมด้านทิศตะวันออกของเมือง ไปบรรจบที่จุดเริ่มต้นโดยเส้นทางห่างจากพระธาตุเรณูนคร 1.2 กม.และแนวเส้นทางยังเชื่อมโครงการรถไฟทางคู่สถานีรถไฟเรณูนครที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย ทั้งนี้รัศมีพื้นที่ศึกษาโครงการครอบคลุม 5 ตำบล ได้แก่ ต.นางาม ต.โพนทอง ต.เรณู ต.เรณูใต้ และ ต.หนองย่างชิ้น อ.เรณูนคร
โครงการเกิดขึ้นเนื่องจากจ.นครพนม มีความสำคัญในการเชื่อมโยงประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ส่งเสริมพัฒนาด้านการขนส่งและด้านเศรษฐกิจการค้าชายแดน เชื่อมแขวงคำม่วน สปป.ลาวส่งผลให้ปริมาณจราจรในพื้นที่นครพนมเพิ่มสูงขึ้น อ.เรณูนคร อยู่ติดต่อกับเขตชายแดน และเติบโตทำให้เกิดปัญหาจราจรและเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เพราะแนวเส้นทาง อ.เรณูนคร มีสภาพเขตทางแคบ มีข้อจำกัดขยายช่องจราจร และเป็นย่านชุมชนหนาแน่น การสร้างทางเลี่ยงเมืองจะช่วยแก้ไขปัญหาจราจรลดอุบัติเหตุ ช่วยอำนวยความสะดวกการเดินทาง สนับสนุนยุทธศาสตร์ ทล.ที่ส่งเสริมพัฒนาเศรษฐกิจ ยกระดับความปลอดภัยสัญจร และพัฒนาคุณภาพการให้บริการของระบบทางหลวง.
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42636
Location: NECTEC
Posted: 19/12/2019 3:06 pm Post subject:
โครงการก่อสร้างทางรถไฟ สายใหม่ ช่วงบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม
การดำเนินงานครอบคลุมตั้งแต่พื้นที่สถานีรถไฟบ้านหนองแวงไร่ (3 กิโลเมตรเหนือ สถานีบ้านไผ่ ประมาณ กม. 411) จนถึงสถานีรถไฟนคนพนม กม.354+783 จากสถานีหนองแวงไร่ (ประมาณ กม. 766) วงเงินรวมโครงการ 67,965.33 ล้านบาทโดย แหล่งที่มาของเงินทุนโครงการ งบประมาณแผ่นดิน เงินกู้ (พันธบัตร)
แผนการดำเนินงาน (ระบุแผนงานรายปีตลอดทั้งโครงการ)
-ศึกษาความเหมาะสมฯ แล้วเสร็จ
-สำรวจและออกแบบ แล้วเสร็จ
ตอนนี้ยังไม่ผ่าน EIA ทำให้ การที่จะก่อสร้างให้เสร็จตามเป้า ในเดือนมีนาคม 2568 ต้องเลื่อนออกไปอยางน้อย 1 ปี
http://www.otp.go.th/uploads/tiny_uploads/PolicyPlan/1-PolicyPlan/2561/ActionPlan2561/25610109-ActionPlan2561-2.pdf
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42636
Location: NECTEC
Posted: 03/01/2020 1:17 pm Post subject:
เวนคืนที่ดิน 5 หมื่นไร่ ไฮสปีด-2ทางคู่เหนือ-อีสาน
ออนไลน์เมื่อ 01 มกราคม 2563
ตีพิมพ์ในหน้า 19
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,536
วันที่ 2 - 4 มกราคม 2563
มาที่ รถไฟทางคู่ 2เส้นทางลงมือเวนคืนในปี 2563 เปิดหน้าดินสร้างทางใหม่ทั้งเส้นทางรวม 678 กิโลเมตร มีที่ดินได้รับผลกระทบ ประมาณ 2.7 หมื่นไร่ กว่า 2,000 หลังคาเรือน โดยสายเหนือ ช่วงเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของระยะทาง 323 กิโลเมตร และ ทางคู่สายอีสานช่วงบ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม ระยะทาง 355 กิโลเมตร ที่ผ่านมา รฟท.ทำความเข้าใจกับชาวบ้านเรียบร้อยแล้วส่วนใหญ่มีเสียงคัดค้านน้อยมาก
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44335
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 10/02/2020 1:38 pm Post subject:
3แสนล้านผ่าน!ลุย86โปรเจคท์
เดลินิวส์ (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า แผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่หรือเมกะโปรเจคท์ ของกระทรวงคมนาคมในปีงบประมาณ 63 มีงบประมาณที่จะใช้ลงทุนทั้งงบประมาณปกติและงบลงทุนของหน่วยงานรัฐกว่า 3 แสนล้านบาท เมื่อ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ประกาศใช้ กระทรวงฯ จะเร่งรัดโครงการทันที ซึ่งได้มอบนโยบายให้หน่วยงานในสังกัดบริหารสัญญาโครงการขนาดใหญ่ให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาไม่เกิน 2 ปี เช่นเดียวกับโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายบางปะอิน-นครราชสีมา ที่แยกสัญญาโครงการเป็น 40 สัญญา ส่งผลให้สามารถบริหารโครงการได้รวดเร็วมากขึ้น
นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ให้ตรวจสอบรายละเอียดเงื่อนไขสัญญาและข้อกำหนดการจ้างสัญญาหรือทีโออาร์ให้รอบคอบ พร้อมทั้งระบุการใช้วัสดุและแรงงานในท้องถิ่น (Local content) 50% สำหรับเวลาที่เหลือประมาณ 7 เดือน ก่อนสิ้นปีงบฯ 63 ให้ทุกหน่วยงานเร่งรัดเบิกจ่ายให้แล้วเสร็จก่อนวันที่ 30 ก.ย. รวมทั้งวางแผนการก่อสร้างให้กระจายความเจริญไปทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจตามนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สำหรับโครงการลงทุนในปี 63 มีทั้งสิ้น 86 โครงการสำคัญที่ ครม.อนุมัติแล้วอยู่ระหว่างดำเนินการ อาทิ โครงการก่อสร้างทางรถไฟเส้นทางสายใหม่ ช่วงบ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม รอรับการจัดสรรงบฯ ปี 63 เพื่อจ้างที่ปรึกษาจัดการประกวดราคาและเวนคืนที่ดิน และโครงการศูนย์การขนส่งชายแดน จ.นครพนม อยู่ในกระบวนการจัดหาที่ดินและประกาศหาเอกชนร่วมทุน.
Back to top