RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311235
ทั่วไป:13181203
ทั้งหมด:13492438
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวแผนโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมขนส่งของประเทศ 2558-65
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวแผนโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมขนส่งของประเทศ 2558-65
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 104, 105, 106 ... 121, 122, 123  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44331
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 08/11/2019 7:20 am    Post subject: Reply with quote

สนข. ชูแนวคิดพัฒนาTOD รอบสถานีรถไฟเมืองพัทยา ยกระดับเป็นมหานครแห่งอุตฯไมซ์
Nov 7, 2019
MGR Online VDO

สนข. ชูแนวคิดพัฒนาTOD รอบสถานีรถไฟเมืองพัทยา ยกระดับเป็นมหานครแห่งอุตฯไมซ์ 07/11/2019


https://www.youtube.com/watch?v=VQrsrMc0AG8
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44331
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 08/11/2019 7:23 am    Post subject: Reply with quote

สนข.หนุนพัฒนา TOD รอบสถานีรถไฟเมืองพัทยา
บ้านเมือง วันพฤหัสบดี ที่ 07 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562, 13.20 น.

นายเริงศักดิ์ ทองสม ผู้อำนวยการกองพัฒนาระบบการขนส่งและจราจร สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่ง และจราจร (สนข.) เป็นประธานเปิดการสัมมนาเพื่อประเมินความสนใจของภาคเอกชน (Market Sounding) ในพื้นที่เมืองต้นแบบพัทยา จังหวัดชลบุรี ครั้งที่ 1 ตามโครงการศึกษาพัฒนาเมืองกับระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง “TOD คมนาคม สร้างเมือง เมืองสร้างสุข สุขสร้างได้” จัดโดยสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่ง และจราจร (สนข.) ซึ่งมีหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนสนใจเข้าร่วมงานกว่า 200 คน

นายเริงศักดิ์ กล่าวว่า เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี กลุ่มเมืองต้นแบบการพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีขนส่งมวลชน (Transit Oriented Development : TOD) ด้านตะวันออก มีความพร้อมด้วยศักยภาพการเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เป็นฐานการผลิตขนาดใหญ่ เป็นทำเลที่ดีที่สุดในการลงทุนในภูมิภาคอาเซียน ที่สำคัญเป็นประตูสู่อาเซียน โดยเฉพาะจีนและอินเดีย และมีเม็ดเงินลงทุนพัฒนาเมืองในพื้นที่ และการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวมูลค่าสูงถึง 4 แสนล้านบาท และ 2 แสนล้านบาท ตามลำดับ

ทั้งนี้ รัฐบาลยังมีนโยบายส่งเสริมให้เป็นศูนย์กลางการค้า การลงทุนด้านอุตสาหกรรมหลักที่สำคัญของประเทศและภูมิภาคอาเซียนมีการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งพร้อมรับการแข่งขันจากต่างประเทศ ทั้งโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา) โครงการรถไฟฟ้ารางเบาเชื่อมรถไฟฟ้าความเร็วสูง และโครงการขยายสนามบินอู่ตะเภาเพื่อรองรับผู้โดยสารให้ได้ 3 ล้านคนต่อปี นอกจากนั้นยังมีความพร้อมด้านธุรกิจบริการมาตรฐานสากลและแหล่งท่องเที่ยวระดับโลกซึ่งติดอันดับ 18 เมืองจุดหมายปลายทางของโลกในปี 2561 จากปริมาณนักท่องเที่ยวทั้ง 14 ล้านคน และมีแนวโน้มขยายตัวขึ้นอีกมาก รวมทั้งยังเป็นศูนย์กลางการค้า การลงทุน และธุรกิจบริการ มีความพร้อม

ทั้งด้านการแพทย์ การศึกษา และเป็นหนึ่งในพื้นที่นำร่องการพัฒนาเป็นเมืองอัจฉริยะ ดังนั้นการเลือกเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี เป็นเมืองพัฒนา TOD จะช่วยเพิ่มความคุ้มค่าในการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ การกระจายความเจริญ การเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตที่ดีแก่ประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งจังหวัดในภูมิภาคตะวันออก และเป็นกลไกสำคัญในการสนับสนุนการเติบโตเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42625
Location: NECTEC

PostPosted: 08/11/2019 10:52 am    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
สนข.หนุนพัฒนา TOD รอบสถานีรถไฟเมืองพัทยา
บ้านเมือง วันพฤหัสบดี ที่ 07 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562, 13.20 น.

จุดพลุ ‘สถานีรถไฟพัทยา’ มีโอกาสพัฒนาเป็นแหล่งช้อปปิ้งระดับภูมิภาค
โดย NOPPHAWHAN TECHASANEE
วันที่ 7 พฤศจิกายน 2562 เวลา 12:52 pm


ปักหมุดรอไฮสปีด “TOD พัทยา” เปิดพัฒนา4โซนออฟฟิศ-ศูนย์กลางธุรกิจ-ที่อยู่อาศัย-ไมซ์ซิตี้

พร็อพเพอร์ตี้
วันที่ 7 พฤศจิกายน 2562 เวลา 11:40 น.



วันที่ 7 พฤศจิกายน 2562 เวลา 09.00 น. ณ ห้องพิมาน บอลลูนชั้น 2 โรงแรมแกรนด์ พาลาสโซ่พัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี นายเริงศักดิ์ ทองสม ผู้อำนวยการกองพัฒนาระบบการขนส่งและจราจร สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่ง และจราจร (สนข.) เป็นประธานเปิดการสัมมนาเพื่อประเมินความสนใจของภาคเอกชน (Market Sounding) ในพื้นที่เมืองต้นแบบพัทยา จังหวัดชลบุรี ครั้งที่ 1 ตามโครงการศึกษาพัฒนาเมืองกับระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง “TOD คมนาคม สร้างเมือง เมืองสร้างสุข สุขสร้างได้” จัดโดยสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่ง และจราจร (สนข.) ซึ่งมีหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนสนใจเข้าร่วมงานกว่า 200 คน

นายเริงศักดิ์กล่าวว่า เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี กลุ่มเมืองต้นแบบการพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีขนส่งมวลชน (Transit Oriented Development : TOD) ด้านตะวันออก มีความพร้อมด้วยศักยภาพการเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เป็นฐานการผลิตขนาดใหญ่ เป็นทำเลที่ดีที่สุดในการลงทุนในภูมิภาคอาเซียน ที่สำคัญเป็นประตูสู่อาเซียน โดยเฉพาะจีนและอินเดีย และมีเม็ดเงินลงทุนพัฒนาเมืองในพื้นที่ และการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวมูลค่าสูงถึง 4 แสนล้านบาท และ 2 แสนล้านบาท ตามลำดับ

ทั้งนี้รัฐบาลยังมีนโยบายส่งเสริมให้เป็นศูนย์กลางการค้า การลงทุนด้านอุตสาหกรรมหลักที่สำคัญของประเทศและภูมิภาคอาเซียนมีการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งพร้อมรับการแข่งขันจากต่างประเทศ ทั้งโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา) โครงการรถไฟฟ้ารางเบาเชื่อมรถไฟฟ้าความเร็วสูง และโครงการขยายสนามบินอู่ตะเภาเพื่อรองรับผู้โดยสารให้ได้ 3 ล้านคนต่อปี

นอกจากนั้นยังมีความพร้อมด้านธุรกิจบริการมาตรฐานสากลและแหล่งท่องเที่ยวระดับโลกซึ่งติดอันดับ 18 เมืองจุดหมายปลายทางของโลกในปี 2561 จากปริมาณนักท่องเที่ยวทั้ง 14 ล้านคน และมีแนวโน้มขยายตัวขึ้นอีกมาก รวมทั้งยังเป็นศูนย์กลางการค้า การลงทุน และธุรกิจบริการ มีความพร้อมทั้งด้านการแพทย์ การศึกษา

และเป็นหนึ่งในพื้นที่นำร่องการพัฒนาเป็นเมืองอัจฉริยะ ดังนั้นการเลือกเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี เป็นเมืองพัฒนา TOD จะช่วยเพิ่มความคุ้มค่าในการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ การกระจายความเจริญ การเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตที่ดีแก่ประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งจังหวัดในภูมิภาคตะวันออก และเป็นกลไกสำคัญในการสนับสนุนการเติบโตเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ

นายเริงศักดิ์กล่าวว่า ผลการศึกษาเบื้องต้นบริเวณรอบสถานีเมืองพัทยาสามารถพัฒนาได้ 4 โซนหลัก คือโซน 1 ย่านอาคารสำนักงานที่พร้อมรองรับทั้งกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิตอย่างลงตัว เนื่องจากตำแหน่งที่ตั้งติดสถานีรถไฟ พื้นที่นี้จึงเหมาะพัฒนาแบบผสมผสาน ทั้งอาคารสำนักงานระดับภูมิภาค ที่ทำการหน่วยงาน สถานศึกษา ร้านค้าปลีก รองรับทั้งกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิตประชาชน

โซนที่ 2 ศูนย์กลางธุรกิจ การค้า การพาณิชย์ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจคล่องตัว ด้วยตำแหน่งที่ตั้งติดสถานีทำให้พื้นที่บริเวณนี้เหมาะอย่างยิ่งที่จะพัฒนาเชิงพาณิชย์ทั้งเป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ระดับภูมิภาครองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึงโรงแรมธุรกิจ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และบริการแบบครบวงจร

โซนที่ 3 มหานครแห่งอุตสาหกรรมไมซ์ (MICE City) ครบวงจร ด้วยศักยภาพและความพร้อมของเมืองพัทยาในฐานะเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก มีปริมาณนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นทุกปี และมีโครงสร้าง
พื้นฐานที่แข็งแกร่งรองรับพื้นที่นี้จึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะพัฒนาเป็นศูนย์กลางทางด้านการประชุม จัดแสดง และสัมมนา โดยเป็นที่ตั้งของศูนย์การประชุมและแสดงสินค้าระดับนานาชาติ โรงแรมที่สามารถจัดการประชุมขนาดใหญ่ได้ รวมถึงโรงแรมราคาประหยัดที่พร้อมรองรับทุกความต้องการ ดังนั้นเมืองพัทยาจึงมีศักยภาพสูงที่จะพัฒนาเป็นมหานครแห่งอุตสาหกรรมไมซ์ได้

โซนที่ 4 ชุมชนที่อยู่อาศัย อยู่สบาย เอื้อต่อการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ ด้วยความสะดวกสบาย
ด้านการคมนาคม เพราะอยู่ใกล้จากสถานีทำให้พื้นที่แห่งนี้เหมาะที่จะพัฒนาเป็นย่านที่พักอาศัยที่มีคุณภาพมาตรฐาน ทั้งอาคารแนวราบ และอาคารแนวสูงราคาถูกภายใต้สภาพแวดล้อมที่ดี มีร้านค้าปลีกชุมชน และสวนสาธารณะเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวที่ครบถ้วนด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกด้านสันทนาและมีความปลอดภัย เอื้อต่อการอยู่อาศัยและใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ

นายเริงศักดิ์กล่าวด้วยว่า ปัจจัยสู่ความสำเร็จในการพัฒนาพื้นที่ TOD เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี คือภาครัฐต้องกำหนดกรอบนโยบายการลงทุน รูปแบบการสนับสนุน และข้อกฎหมายที่สนับสนุนให้มีความชัดเจน การมีหน่วยงานกลางทำหน้าที่ดูแลและรับผิดชอบ มีช่องทางในการสร้างรายได้จากการพัฒนาพื้นที่ ตลอดจนทุกภาคส่วนมีเครื่องมือทางการเงินเพื่อสนับสนุนการพัฒนาด้านต่างๆ ของโครงการ และมีรูปแบบการลงทุนที่มีความเป็นธรรม และสอดคล้องกับลักษณะการพัฒนา TOD ในพื้นที่ และที่สำคัญคือต้องอาศัย
https://www.youtube.com/watch?v=SqdKjGB00Nc
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44331
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 13/11/2019 7:14 am    Post subject: Reply with quote

'ชิดชอบ' คุมคมนาคม 4 เดือน นโยบายสุดโต่ง-เมกะโปรเจ็กต์สุดอืด
ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

18 ก.ค. 2562 วันที่กระทรวงเข้าสู่ยุค "คมนาคมยูไนเต็ด"นำโดย "ศักดิ์สยาม ชิดชอบ" พรรคภูมิใจไทย ได้พาสชั้นนั่งรัฐมนตรีเป็นครั้งแรก แท็กทีมรัฐมนตรีช่วยอีก 2 คน "ถาวร เสนเนียม" พรรคประชาธิปัตย์ และ "อธิรัฐ รัตนเศรษฐ" พรรคพลังประชารัฐ ช่วยกันขับเคลื่อนงาน ภายใต้ "รัฐบาลตู่ 2"

4 เดือนเมกะโปรเจ็กต์ยังอืด

ถึงวันนี้เข้าสู่เดือนที่ 4 ต้องยอมรับตลอดเวลาที่ผ่านมา สปอตไลต์ฉายส่องไปที่ "ศักดิ์สยาม" หนึ่งเดียวคนนี้ อาจจะเป็นเพราะปริมาณงานบนหน้าตัก ที่รับผิดชอบมากกว่า "ถาวร-อธิรัฐ"

เมื่อลงลึกผลงาน ดูเหมือนว่ายัง ไม่เป็นที่ปรากฏมากนัก นับจากที่ประกาศออกมาตั้งแต่วันแรกที่รับตำแหน่ง โดยเฉพาะเมกะโปรเจ็กต์ในบัญชี มีมูลค่าร่วม 1.9 ล้านล้านบาท อีกหนึ่งความหวังจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย แทบจะไม่มีการขยับเขยื้อน นอกจากโครงการเก่าเป็นรอยต่อมาจากรัฐบาลประยุทธ์ 1

ปิดดีลไฮสปีด-ตั้งบิ๊กคมนาคม

ที่เพิ่งปิดดีลไปหมาด ๆ เมกะโปรเจ็กต์ รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน มูลค่า 224,544 ล้านบาท กับกลุ่ม ซี.พี. ที่เจรจากันมาร่วมปี จนมาปิดจ็อบในรัฐบาลตู่ 2 งานนี้มี "อนุทิน ชาญวีรกูล"รองนายกฯกำกับกระทรวงมาช่วยบี้ให้เร็วขึ้น

นอกจากไฮสปีดที่เหลือก็เป็นงานตัดริบบิ้นเปิดรถไฟฟ้าหลากสี ทั้งสายสีน้ำเงินต่อขยายช่วงหัวลำโพง-หลักสอง สายสีเขียวหมอชิต-ห้าแยกลาดพร้าว สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 แม่สอด-ตองอิน รับมอบรถไฟฟ้าสายสีแดง 2 ขบวนแรก

ที่ไม่เหนือความคาดหมายคือการแต่งตั้งโยกย้ายผู้บริหารระดับสูงกระทรวงคมนาคม 9 ตำแหน่ง ดันคนใกล้ชิดนั่งเป็นใหญ่เก้าอี้อธิบดีกรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท กรมการขนส่งทางบก กรมเจ้าท่า สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่ง และจราจร (สนข.) ตั้งคณะกรรมการ (บอร์ด) รัฐวิสาหกิจอย่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)

ผลงานใหม่ยังไม่ประจักษ์

ส่วนโครงการที่ขายไอเดีย ยังไม่เป็นรูปธรรมให้เห็น ไม่ว่าจะเป็นการผลักดัน ทำ Grab ให้ถูกกฎหมาย, เปลี่ยนรถตู้ เป็นมินิบัส, คุมรถบรรทุกวิ่งตอนกลางคืน, แก้จราจร ถ.พระราม 2, ซิ่งเลนขวา 120 กม./ชม., นำยางพาราหุ้มแบริเออร์บนเกาะสี, ตั้งจุด checking point 245 จุด, ลดค่าครองชีพประชาชน ล่าสุดไอเดียติด GPS ในรถส่วนบุคคล ที่เกิดดราม่าสนั่นโซเชียล

ขณะเดียวกัน "ศักดิ์สยาม" กำลังตกเป็นเป้า 1 ใน 4 รัฐมนตรี ที่ฝ่ายค้านจะเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจในเดือน ธ.ค.นี้ ทำให้ห้วงเวลานี้ "ศักดิ์สยาม" อยู่ในโหมดเก็บตัว มอบให้ "ชัยวัฒน์ ทองคำคูณ" ปลัดกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย 2 อธิบดีคู่ใจ "จิรุตม์ วิศาลจิตร"อธิบดีกรมการขนส่งทางบก และ "สราวุธ ทรงศิวิไล" อธิบดีกรมทางหลวง อัพเดตก้าวหน้างานต่าง ๆ แทน

นายชัยวัฒน์ยอมรับว่า ระหว่างทางผลักดันโครงการจะมีปัญหาบ้าง แต่แก้ไขมาตลอด อยากให้มีการเสนอข้อเท็จจริง ไปถึงประชาชนให้ครบถ้วน ไม่ใช่รู้บางส่วน แล้วนำไปเสนอ งานของคมนาคมไม่ใช่ก๋วยเตี๋ยวหรือข้าวผัดชามใหญ่ที่ใครก็ได้มานั่งกิน ข้าราชการมีหน้าที่ทำเพื่อประชาชนจริง ๆ

แจงยิบติด GPS-ยกเลิกรถตู้

ด้านจิรุตม์แจงปมร้อน "ติด GPS รถส่วนบุคคล" ยังอยู่ในขั้นศึกษาให้รอบคอบบนหลักการดูแลความปลอดภัยและไม่เป็นภาระค่าใช้จ่ายประชาชน ส่วนการเปลี่ยนรถตู้เป็นมินิบัส ล่าสุดคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางมีมติให้รถหมวด 1 และ 4 ประมาณ 6,000 คัน เปลี่ยนเป็นรถตู้ใหม่หรือ มินิบัสแบบสมัครใจ และได้ขยายเวลา 180 วัน เพราะผู้ประกอบการส่วนใหญ่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนและผลศึกษารองรับว่าไม่มีความคุ้มค่า ส่วนรถหมวด 2 และ 3 ให้เปลี่ยนเป็นมินิบัส แต่ขอเวลาศึกษาข้อมูลเพิ่ม 180 วัน ด้านความคุ้มค่าการลงทุน อุบัติเหตุ จราจร อุปสงค์-อุปทาน

เรื่องการพัฒนาแอปพลิเคชั่น จะพัฒนาเป็นทางเลือกให้กับประชาชน ไม่มีการบังคับใช้ การแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ร่วมกับกรมควบคุมมลพิษ ตำรวจจราจรตรวจควันดำรถ ตั้งแต่ 1 ต.ค. จับแล้ว 7,000 คัน

เอาจริงเกาะสียางพารา

ด้านนายสราวุธแจงนโยบายใช้ แบริเออร์ยางพารา เกิดจากมีอุบัติเหตุรถข้ามเกาะกลางไปชนรถในอีกทิศทางหนึ่ง จึงสั่งให้กรมและกรมทางหลวงชนบท ทำเป็นเกาะแบริเออร์แทน เพราะ แบริเออร์สูงเฉลี่ย 80 ซม. ป้องกันรถเหิน ข้ามเกาะกลางได้ จะไม่ทุบเกาะกลางเดิม จะเริ่มถนนใหม่และพื้นที่ที่เหมาะสมก่อน ส่วนการนำยางพารามาหุ้มแบริเออร์ มีกระทรวงพาณิชย์มาช่วยตรวจสอบคุณภาพและต้นทุนการผลิตแล้ว

สายเอเชียซิ่งได้ 120 กม./ชม.

ขณะที่นโยบายเพิ่มความเร็วเป็น 120 กม./ชม. จะเริ่มถนนสาย 32 ช่วงบางปะอิน-แยกหลวงพ่อโอ 150 กม. ช่วง กม.4 ถึง กม.50 เพราะถนนมี 6 ช่องจราจร ต้องปรับปรุงป้ายบอกทาง สีตีเส้น ผิวจราจร และจุดกลับรถ ส่วนอีก 100 กม. ต้องรอปรับจุดกลับรถ จากแบบเกาะกลางเป็นแบบทางลอดและ

เกือกม้า และกำลังศึกษาอีก 4 เส้นทาง คือ ถ.พหลโยธิน, ถ.มิตรภาพ, ถ.สุขุมวิท และ ถ.เพชรเกษม

หลังปีใหม่ตอกเข็มพระราม 2

ความคืบหน้าการปรับปรุงขยายคันทางเดิม ถ.พระราม 2 จาก 10 ช่องจราจร เป็น 14 ช่องจราจร มีความคืบหน้าที่ 36-37% เดิมมีสถิติรถติดสูงสุดที่ 4 กม. ตอนนี้เหลือไม่เกิน 200 เมตร คาดว่าในเดือน ก.พ. 2563 จะเสร็จเรียบร้อย ส่วนทางยกระดับ ถ.พระราม 2 ช่วงบางขุนเทียน-เอกชัย 1 จะให้ผู้รับเหมาสำรวจชั้นดินตามแนวเส้นทางและตั้งสำนักงานโครงการ จะใช้เวลา 3-4 เดือน ด้านหนึ่ง กรมจะร่วมกับ สนข. ออกแบบจำลองการทำงานโครงการ ถ.ทางราบและทางยกระดับแบบ 3 มิติ แสดงการแบ่งเฟสก่อสร้างและบริหารจัดการจราจร คาดว่าจะเปิดหน้างานได้หลังปีใหม่ 2563

จัดโปรโทลล์เวย์-มอเตอร์เวย์

นโยบายลดค่าครองชีพประชาชน กำลังประสาน บมจ.ทางยกระดับดอนเมือง ผู้รับสัมปทานโทลล์เวย์ ทำโปรโมชั่นผู้ใช้คูปองค่าผ่านทาง ซื้อ 19 ฉบับ แถมฟรี 1 ฉบับ และให้ไปคิดหาโปรโมชั่นให้สอดรับกับการขึ้นค่าผ่านทางวันที่ 22 ธ.ค.นี้

มอเตอร์เวย์กรุงเทพฯ-ชลบุรี อยู่ระหว่างแก้ พ.ร.บ.กำหนดค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนต์บนทางหลวงและสะพาน 2497 เพื่อเปิดทางกำหนดโปรโมชั่นสำหรับผู้ใช้งานผ่านบัตร M-Pass และ Easy Pass ได้ ในระหว่างนี้ จะลดค่าติดตั้งระบบเหลือ 300 บาท ลดค่าเติมเงินขั้นต่ำเหลือ 100 บาท สามารถเติมเงินผ่านแอปพลิเคชั่น ของธนาคารต่าง ๆ และ 5 จุด บริการก่อนถึงด่านมอเตอร์เวย์ เพื่อส่งเสริมให้คนหันมาใช้บัตร M-Pass และ Easy Pass มากขึ้น จากปัจจุบันอยู่ที่ 27% เท่านั้น อีก 70% ใช้เงินสด
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44331
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 13/11/2019 7:19 am    Post subject: Reply with quote

ไฟเขียว 10 โครงการ 6 พันล.
เดลินิวส์ (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

ติดใจอ้อน'บิ๊กตู่'ลงพื้นที่

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.สัญจร จังหวัดกาญจนบุรี ได้เห็นชอบข้อเสนอของการพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 (กาญจนบุรี ราชบุรี และสุพรรณบุรี) ตามมติที่ประชุมพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมฯ ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธานรวม 6 ด้าน ครอบคลุมการเกษตร ท่องเที่ยว บริหารจัดการน้ำ โครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาคุณภาพชีวิต และทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงขอรับการสนับสนุนเชิงนโยบายอีก 4 เรื่อง โดยนายกฯ ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่รับผิดชอบรับไปดำเนินการต่อ แต่ต้องดูให้สอดคล้องกับงบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัด และต้องจัดลำดับความสำคัญของโครงการเร่งด่วนเป็นอันดับแรก

ทั้งนี้ตามข้อเสนอดังกล่าว หากนับเฉพาะด้านโครงสร้างพื้นฐาน จะมีโครงการที่เสนอให้พิจารณารวม 10 โครงการ คิดเป็นวงเงิน 6,264 ล้านบาท โดยมีโครงการใหญ่ คือโครงการก่อสร้างทางหลวงแนวใหม่เชื่อมต่อสามแยกวังมะนาว- บรรจบทางหลวงหมายเลข 3510 ระยะทาง 36.8 กม. เป็น 4 ช่องจราจร วงเงินงบประมาณ 3,042 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นวงเงินค่าก่อสร้าง 2,650 ล้านบาท และงบประมาณเพื่อเวนคืนที่ดิน 392 ล้านบาท โดยปี 64 จะดำเนินการออกแบบ ปี 65 เริ่มดำเนินการเวนคืนที่ดิน ปี 66 เริ่มดำเนินการก่อสร้าง และปี 68 เปิดใช้อย่างเป็นทางการส่วนที่เหลือเป็นการขยายช่องจราจรจาก 2 ช่อง เป็น 4 ช่องจราจรในหลายเส้นทาง ครอบคลุม 3 จังหวัด

ส่วนด้านอื่น ๆ มีโครงการสำคัญ เช่น ด้านการเกษตรมีโครงการพัฒนาต้นแบบระบบการตัดอ้อยสดและบรรทุกอ้อยเข้าโรงงาน และโครงการการยกระดับเศรษฐกิจฐานราก ด้วยนวัตกรรมชุมชนเพื่อส่งเสริมการผลิตสินค้าเกษตรไปสู่เชิงพาณิชย์ด้านการท่องเที่ยว มีโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์และพัฒนาเมืองเก่ากาญจนบุรีและสองฝั่งแม่น้ำแควน้อยแควใหญ่โดยที่ประชุมเร่งรัดการขอใช้พื้นที่และการบริหารจัดการเพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์โรงงานกระดาษไทยกาญจนบุรี เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่

นอกจากนี้ยังมีเรื่องปรับภูมิทัศน์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวทางน้ำโดยการปรับปรุงเขื่อนป้องกันตลิ่งบริเวณดงบัวและบึงบัว ก่อสร้างสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กต่อจากสะพานสมเด็จพระสังฆราช-บึงบัว ระยะทาง 165 เมตร ปรับปรุงภูมิทัศน์ท่าเทียบเรือขุนแผนปรับปรุงภูมิทัศน์และท่าเทียบเรือ เพิ่มประสิทธิภาพระบบระบายน้ำ ออกแบบและก่อสร้างจุดชมวิวทางเดินลอยฟ้ารวมทั้งออกแบบและก่อสร้างหอคอยชมวิวแม่น้ำสามสายรวมถึงก่อสร้างเส้นทางพุทธธรรม ปรับปรุงภูมิทัศน์พุทธมณฑล เพื่อต่อยอดการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม รวมทั้งการอนุรักษ์และพัฒนาโบราณสถาน

ขณะเดียวกันยังรับทราบข้อเสนอเชิงนโยบาย ทั้งการปรับรูปแบบเพื่อลดผลกระทบจากการก่อสร้างรถไฟทางคู่ในพื้นที่จังหวัดราชบุรี ซึ่งนายกฯ ได้สั่งให้ไปปรับรูปแบบเพื่อลดผลกระทบกับประชาชน และยังรับทราบการศึกษาแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งและโลจิสติกส์เพื่อพัฒนาแนวระเบียงเศรษฐกิจ ฝั่งตะวันตก ดับบลิวอีซี และสนับสนุนการท่องเที่ยว การศึกษาเพื่อเชื่อมโยงศักยภาพด้านการท่องเที่ยวและการค้าชายแดน เพื่อรองรับอุตสาหกรรมไมซ์ และเชื่อมโยงแนวระเบียงเศรษฐกิจตอนใต้ของจีเอ็มเอสการศึกษาเพื่อพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่เพื่อเชื่อมโยงการท่องเที่ยวอุทยานเขางู จังหวัดราชบุรี ด้วย

นายธีรชัย ชุติมันต์ กรรม การหอการค้าไทย และประธานหอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 กล่าวว่า ในภาพรวมของการประชุมร่วมกับนายกฯนั้น ภาคเอกชนก็พึงพอใจ และต้องการให้นายกฯ จัดการประชุมเช่นนี้ต่อเนื่อง โดยต้องการให้แต่ละโครงการที่เสนอไปนั้นสามารถผลักดันออกมาได้สำเร็จ เหมือนในช่วงรัฐบาลก่อน ๆ ที่เคยประชุมกับเอกชนในพื้นที่ อย่างไรก็ตามแม้ว่าการประชุมครั้งนี้จะเห็นชอบในหลักการของหลายโครงการไปแล้ว แต่ก็ยังมีอีกหลายโครงการที่ภาคเอกชนยังต้องการให้รัฐบาลช่วยผลักดัน เช่น การเปิดจุดผ่อนปรนบริเวณด่านชายแดนเจดีย์สามองค์ เพื่อเพิ่มปริมาณการค้าการลงทุน ให้กลับมาคึกคักเหมือนเดิม.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44331
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 03/12/2019 3:23 pm    Post subject: Reply with quote

ทุ่มแสนล้านเร่งเปิดใช้ 5 มอเตอร์เวย์รถไฟชายแดน
ฐานเศรษฐกิจ 03 Dec 2019

ยังคงเดินหน้าขยายเส้นทางคมนาคมเชื่อมโยงไปยัง ประเทศเพื่อนบ้านอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระจายความเจริญให้ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาค เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันตามนโยบายรัฐบาล “ประยุทธ์” เพิ่มโครงข่าย เชื่อมไทยเชื่อมโลกทั้งนี้โครงการขนาดใหญ่ ที่น่าสนใจ ไล่ตั้งแต่ มอเตอร์เวย์ บางปะอิน-นครราชสีมา ระยะทาง 196 กิโลเมตร งบประมาณ 59,400 ล้านบาท เชื่อมโครงข่ายสายอีสาน มีความคืบหน้าก่อสร้างงานโยธา กว่า 80% คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณกลางปี 2563 จะทดลองให้ประชาชนใช้เส้นทางบางส่วน ก่อนจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบพร้อมด่านเก็บเงิน ในปี 2565 โดย มีกลุ่ม บีทีเอส ดำเนินงานและบำรุงรักษาในรูปแบบเอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ ค่าบริการกิโลเมตรละ 1.25 บาท หรือ ตลอดสายเพียง 235 บาท ใช้เวลาเดินทางเพียง 1 ชั่วโมงเศษๆ

มาที่ ความคืบหน้า มอเตอร์ เวย์สายบางใหญ่-กาญจนบุรี เชื่อมการเดินทางไปยังฝั่งตะวันตก ระยะทาง 96 กิโลเมตร งบประมาณ 43,700 ล้านบาท คาดว่า ภายในเดือนธันวาคม นี้จะเริ่มจ่ายชดเชย ผู้ที่ได้รับผลกระทบ ส่วนที่เหลือได้ทั้งหมด คาดว่าเปิดให้บริการเต็มรูปแบบ ปี 2566 ราคาค่าผ่านทาง กิโลเมตรละ 1.25 บาท เท่ากับสายบางปะอิน-โคราช

ด้านมอเตอร์เวย์ นครปฐม-ชะอำ ระยะทาง 119 กิโลเมตร งบประมาณ 63,998 ล้านบาท แม้วันนี้ยังติดปัญหา คัดค้าน แต่กรมทางหลวงยืนยัน ว่าปี 2563 เริ่ม เวนคืน แยกเป็นที่ดิน 3,416 แปลง วงเงิน 16,000 ล้านบาท สิ่งปลูกสร้าง 1,700 หลัง 1,361 ล้านบาท และต้นไม้ 735 ต้น 611 ล้านบาท ใช้เวลาก่อสร้างไม่ต่ำกว่า 4 ปีขณะมอเตอร์เวย์สายพัทยา-มาบตาพุด ระยะทาง ขณะนี้อยู่ระหว่างติดตั้งระบบเก็บค่าผ่านทาง โดยจะเปิดให้บริการ เดือนเมษายน 2563 และมอเตอร์เวย์ หาดใหญ่-ชายแดนไทย/มาเลเซีย ระยะทาง 20 กิโลเมตร 37,399 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอน PPP

Click on the image for full size

นอกจากนี้ ระบบราง ที่อยู่ระหว่างการเปิดรับฟังความคิดเห็น การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เร่งดำเนินโครงการรถไฟทางคู่สายตะวันออก ช่วงหัวหมาก-ฉะเชิงเทรา-ศรีราชา และรถไฟทางคู่ ช่วงศรีราชา-มาบตาพุด ระยะทาง 202 กิโลเมตร จำนวน 18 สถานี ผ่านพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง เชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) แหล่งท่องเที่ยว และพื้นที่อุตสาหกรรมหลักกับ 3 ท่าเรือ คือ ท่าเรือแหลมฉบัง ท่าเรือพาณิชย์สัตหีบ และท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่ง และกระจายสินค้าไปยังทุกภูมิภาคอาเซียน ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยังมาบตาพุดประมาณ 2 ชั่วโมง คาดว่าจะมีปริมาณผู้โดยสารประมาณ 2.3 ล้านคนต่อปี ในปีเปิดให้บริการ และเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 5.9 ล้านคนต่อปีในปี 2598 และคาดการณ์ว่าจะมีปริมาณการขนส่งสินค้า 83 ล้านตันต่อปี ในปีที่เปิดให้บริการ และเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 250 ล้านตันต่อปี ในปี 2598

ส่วน รถไฟเชื่อมเมืองชายแดน มีแผนก่อสร้างบริเวณจุดเชื่อมต่อ บริเวณชายแดน อย่างเส้นทางไทย-กัมพูชา ที่อรัญประเทศ-ปอยเปต อีกเส้นทาง สายกัมพูชา-เวียดนาม การเชื่อมโยงโครงข่ายรถไฟ (บริเวณชายแดน) ไทย-กัมพูชา จุดเชื่อมจะอยู่ที่อรัญประเทศ/ปอยเปต กัมพูชา-เวียดนาม จุดเชื่อมจะอยู่ที่ Trapeang Sre/Hoa Luขณะไทย-ลาว จุดเชื่อมจะอยู่ที่หนองคาย-เวียงจันทน์ เส้นทางฝั่งสปป.ลาว-เวียดนาม จุดเชื่อมจะอยู่ที่เวียงจันทน์-ท่าแขก-บูยา-วุงอัง หรือสะหวันนะเขต-ดองฮา ส่วนเส้นทาง ไทย-พม่า จุดเชื่อมจะอยู่ที่ด่านเจดีย์สามองค์จีน-เมียนมา จุดเชื่อมจะอยู่ที่ Ruili/Muse ซึ่งจีนได้เสนอให้เชื่อมเส้นทางอื่น จากต้าลั่วไปเชียงรายผ่านภาคตะวันออกของพม่าด้วย จีน-ลาว จุดเชื่อมจะอยู่ที่บ่อหาน/บ่อเตน เป็นต้นอนาคตการเดินทางจะสะดวก มีทางเลือกมากขึ้น จาก นโยบาย “พัฒนาพื้นที่ไทย เชื่อมไทยก้าวไกลเชื่อมโลก”

หน้า 12 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,527 วันที่ 1-4 ธันวาคม 2562
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42625
Location: NECTEC

PostPosted: 11/12/2019 10:50 am    Post subject: Reply with quote

ประกาศแล้ว! แผนผังการใช้ประโยชน์ในที่ดิน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และระบบสาธารณูปโภค พื้นที่ EEC รวม 5 จังหวัด
อสังหาริมทรัพย์ : พร็อพเพอร์ตี้
วันที่ 10 ธันวาคม 2562 - 11:49 น.
คลอดแล้ว!ผังใช้ประโยชน์ที่ดินเขตอีอีซี
วันที่ 9 ธันวาคม 2562
Click on the image for full size
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2562 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เรื่อง แผนผังการใช้ประโยชน์ในที่ดิน และแผนผังการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภค เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกพ.ศ. 2562 ในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 136 ตอนพิเศษ 301 ง วันที่ 9 ธันวาคม 2562 รวมทั้งหมด 200 หน้า โดยให้ใช้บังคับแผนผังฯนี้ ในท้องที่จังหวัดฉะเชิงเทรา กรุงเทพมหานคร จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดชลบุรี และจังหวัดระยอง ภายในแนวเขตตามแผนที่ที่แสดงท้ายประกาศ เว้นแต่เขตพระราชฐาน และพื้นที่ที่สงวนไว้เพื่อประโยชน์ในราชการทหาร และประกาศนี้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

ประกาศบอร์ดนโยบายอีอีซีนี้ มีความยาว 17 หน้า รวม 50 ข้อ รวม 4 หมวด กำหนดการจัดทำแผนผังเป็น 6 ส่วน คือ
1.แผนผังการใช้ประโยชน์ที่ดิน
2.แผนผังระบบสาธารณูปโภค ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และระบบการควบคุมและขจัดมลภาวะ
3.แผนผังระบบคมนาคมและขนส่ง
4.แผนผังระบบการตั้งถิ่นฐานและภูมิสังคม
5.แผนผังระบบบริหารจัดการน้ำ และ
6.แผนผังระบบป้องกันอุบัติภัย

โดยประกาศนี้ได้วางทั้งข้อกำหนดในการจำแนก และให้รายละเอียดนโยบาย มาตรการ วิธีดำเนินการเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ ให้การใช้ประโยชน์ในที่ดินภายในเขตตามประกาศนี้ เป็นไปตามแผนผังการใช้ประโยชน์ในที่ดิน แผนผังการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภค และรายการประกอบแผนผัง

ประกาศฉบับดังกล่าวระบุว่า อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11 วรรคหนึ่ง (7) มาตรา ๓๐ มาตรา ๓๑ และมาตรา ๓๒ แห่งพระราชบัญญัติเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. ๒๕๖๑ คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้


ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เรื่อง แผนผังการใช้ประโยชน์ในที่ดิน และแผนผังการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภคเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. 2562”


ข้อ ๒ ให้ใช้บังคับแผนผังการใช้ประโยชน์ในที่ดิน และแผนผังการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภค เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ในท้องที่จังหวัดฉะเชิงเทรา กรุงเทพมหานคร จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดชลบุรี และจังหวัดระยอง ภายในแนวเขตตามแผนที่ที่แสดงท้ายประกาศนี้

เว้นแต่พื้นที่ที่อยู่ในแนวเขตดังต่อไปนี้ ให้ใช้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ของที่ดินนั้น ๆ ตามที่มีกฎหมาย
กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ หรือประกาศที่เกี่ยวข้องก าหนดไว้ โดยไม่อยู่ในบังคับการใช้ประโยชน์ในที่ดิน
ที่กำหนดในประกาศนี้
(๑) เขตพระราชฐาน

(๒) พื้นที่ที่ได้ใช้หรือสงวนไว้เพื่อประโยชน์ในราชการทหาร

ข้อ ๓ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไปและให้สิ้นสุดระยะเวลาการใช้บังคับเมื่อมีประกาศกระทรวงมหาดไทยให้ใช้บังคับผังเมืองรวมในท้องที่ตามข้อ ๒

ทั้งนี้ประกาศฉบับดังกล่าวมีความละเอียดมาก โดยระบุถึงแผนผังการใช้ประโยชน์ในที่ดินในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี:EEC ใน 5 จังหวัดหลัก ได้แก่ ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ระยอง สมุทรปราการ รวมถึงกรุงเทพมหานครด้วย โดยมีความเชื่อมโยงกัน ทั้งในเรื่องการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภค ระบบคมนาคมและขนส่ง ทั้งรถไฟฟ้าความเร็วสูง และรถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบิน ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ระบบการตั้งถิ่นฐานและภูมิสังคม ระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมแก่การประกอบอุตสาหกรรมเป้าหมาย อุตสาหกรรมเป้าหมายพิเศษ และการประกอบกิจการ ระบบบริหารจัดการน้ำ ระบบการควบคุมและขจัดมลภาวะระบบการป้องกันอุบัติภัย
นอกจากนี้ยังได้คำนึงถึงความสัมพันธ์กับชุมชน สุขภาวะของประชาชนสภาพแวดล้อม และระบบนิเวศตามหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืนด้วย

คลิกอ่านประกาศฉบับเต็มที่นี่ !!
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42625
Location: NECTEC

PostPosted: 13/12/2019 8:29 pm    Post subject: Reply with quote

ทางคู่ และ ทางสายใหม่ ที่ทำจะทำตามที่รายงานให้ UN ESCAP
https://www.unescap.org/sites/default/files/Thailand%20country%20report-TAR%20WGM-5.pdf
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42625
Location: NECTEC

PostPosted: 16/12/2019 10:54 am    Post subject: Reply with quote

โพลชี้ คนโคราช 67% ต้องการรถไฟรางคู่ ควบคู่รถไฟความเร็วสูง โดยเฉพาะเส้นทาง กรุงเทพฯ-โคราช
BLT Bangkok
13 ธันวาคม 2562
มทร. อีสาน เผยผลสำรวจเกี่ยวกับความคิดของคนโคราชต่อระบบการขนส่งทางรางของประเทศไทย พบว่า ส่วนใหญ่กว่า 67% เห็นด้วยกับการพัฒนาโครงการรถไฟรางคู่ควบคู่กับรถไฟความเร็วสูง โดยเฉพาะรถไฟความเร็วสูงในเส้นทาง กรุงเทพฯ - โคราช ทั้งยังพบว่าคนโคราชมากกว่า 70% อยากให้มีการสร้างเส้นทางรถไฟรางคู่ และรถไฟความเร็วสูง ให้คลอบคลุมทั้งประเทศ
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42625
Location: NECTEC

PostPosted: 07/01/2020 12:31 pm    Post subject: Reply with quote

ลงทุนระบบราง 1.1 ล้านล้าน วงเงินเทียบเท่ายักษ์จีน-ญี่ปุ่น
ข่าวเศรษฐกิจ
ไทยรัฐฉบับพิมพ์
จันทร์ที่ 6 มกราคม 2563 เวลา 08:57 น.
“ศักดิ์สยาม”วางกรอบ 5.14 แสนล้าน งบปี 64 ทุ่มพัฒนารถไฟ-ขยายสนามบิน
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: ศุกร์ที่ 3 มกราคม 2563 เวลา 18:59
ปรับปรุง: ศุกร์ที่ 3 มกราคม 2563 เวลา 19:14

ปู๊น ปู๊น “ศักดิ์สยาม” โชว์แผนลงทุนระบบรางปี 2563 มูลค่ารวม 1.1 ล้านล้านบาท งบเทียบเคียงกับประเทศยักษ์ใหญ่อย่างจีนและญี่ปุ่น มั่นใจกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างงาน สร้างอาชีพ โดยเมื่อเสร็จสิ้นจะช่วยลดต้นทุนขนส่งไม่ต่ำกว่า 30% ลดงบซ่อมบำรุงทางบกอีกไม่น้อยกว่า 30%


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานของกระทรวงคมนาคมในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานระบบรางที่จะเริ่มต้นขึ้นในปี งบประมาณ 2563 นั้น ภาพรวมจะพบว่า มีมูลค่าการลงทุนรวมกว่า 1.1 ล้านล้านบาท ซึ่งเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ หรือจีดีพี (GDP) ที่ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 16 ล้านล้านบาท มูลค่าการลงทุนในระบบรางจะอยู่ที่ 7% ของจีดีพีประเทศ โดยแบ่งเป็นการลงทุนในรถไฟฟ้า 8 เส้นทาง มูลค่ากว่า 314,601.26 ล้านบาท, รถไฟทางคู่ จำนวน 9 เส้นทาง มูลค่าลงทุน 425,529.47 ล้านบาท, รถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน มูลค่าลงทุนรวม 225,000 ล้านบาท และรถไฟความเร็วสูง กทม.-โคราช มูลค่าลงทุนรวม 179,000 ล้านบาท โดยถือเป็นการลงทุนครั้งใหญ่เทียบเท่าการลงทุนในระบบรางของประเทศจีนและญี่ปุ่น


สตาร์ตรถไฟฟ้าเพิ่ม 8 สายทั่วกรุง
สำหรับแผนโครงการลงทุนรถไฟฟ้าในปี 63 ที่จะต้องมีการเปิดประกวดราคาและก่อสร้าง มีทั้งสิ้น 8 เส้นทาง ระยะทางรวม 119 กม.วงเงินงบประมาณรวม 314,601.26 ล้านบาท ประกอบไปด้วย 1.รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ ระยะทาง 21.80 กม. (ส่วนหนึ่งของรถไฟควาไวสูงเชื่อมสามสนามบิน)
2.รถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม เส้นทาง รังสิต-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ระยะทาง 8.84 กม.วงเงินงบประมาณรวม 6,570.40 ล้านบาท
3.รถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน เส้นทางตลิ่งชัน-ศาลายา ระยะทาง 14.80 กม.วงเงินงบประมาณ 10,202.18 ล้านบาท
4.รถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน เส้นทาง ตลิ่งชัน-ศิริราช ระยะทาง 5.70 กม. วงเงินงบประมาณ 6,645.03 ล้านบาท

และ
5.รถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม บางซื่อ-หัวลำโพง ระยะทาง 5.75 กม. วงเงินงบประมาณ 44,157.76 ล้านบาท (วงเงินรวมกับบางซื่อ-หัวหมาก)
6.รถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน บางซื่อ-มักกะสัน-หัวหมาก ระยะทาง 25.90 กม. วงเงินรวมกับ บางซื่อ-หัวลำโพง
7.รถไฟฟ้าสายสีม่วง เตาปูน- ราษฎร์บูรณะ ระยะทาง 23.60 กม.วงเงินรวม 124,958.62 ล้านบาท และ
8.รถไฟฟ้าสายสีส้ม ศูนย์วัฒนธรรมฯ-บางขุนนนท์ ระยะทาง 13.40 กม.วงเงินงบประมาณ 122,067.27 ล้านบาท


ทางคู่ได้ฤกษ์เปิดหวูดประมูล-สร้างทั่วไทย
นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า ส่วนแผนดำเนินการในโครงการลงทุนรถไฟทางคู่ในปี 63 ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) นั้นจะมีทั้งสิ้น 9 โครงการ ระยะทางรวม 2,161 กม. มูลค่าลงทุนรวม 425,529.47 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นโครงการรถไฟทางคู่ที่อยู่ในขั้นตอนการประกวดราคาและเตรียมก่อสร้าง จำนวน 2 โครงการระยะทาง 678 กม. มูลค่าโครงการ รวม 153,310.33 ล้านบาท คือ
1.เส้นทางรถไฟทางคู่ เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 323 กม. มูลค่าโครงการรวม 85,345 ล้านบาท
2. เส้นทางรถไฟทางคู่ บ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม ระยะทาง 355 กม. มูลค่าโครงการรวม 67,965.33 ล้านบาท

นอกจากนั้น จะมีรถไฟทางคู่อีก 7 เส้นทาง ระยะทางรวม 1,483 กม.วงเงินงบประมาณรวม 272,219.14 ล้านบาท ที่กระทรวงคมนาคมเตรียมขออนุมัติโครงการเพื่อดำเนินการในปี 63 ประกอบไปด้วย
1.เส้นทาง ขอนแก่น-หนองคาย ระยะทาง 167 กม. วงเงิน 26,663.36 ล้านบาท
2.เส้นทางชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี ระยะทาง 308 กม. วงเงิน 37,527.10 ล้านบาท
3.เส้นทาง ปากน้ำโพ-เด่นชัย ระยะทาง 285 กม. วงเงิน 62,859.74 ล้านบาท
4.เส้นทาง เด่นชัย-เชียงใหม่ ระยะทาง 189 กม. วงเงิน 56,837.78 ล้านบาท
5.เส้นทางชุมพร-สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 168 กม. วงเงิน 24,294.36 ล้านบาท
6.เส้นทาง สุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา ระยะทาง 321 กม. วงเงิน 57,375.43 ล้านบาท
7.เส้นทาง ชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กม. วงเงิน 6,661.37 ล้านบาท

สร้างอาชีพในอุตสาหกรรมระบบราง
“เบื้องต้นงบลงทุนจะทำให้เกิดการใช้จ่ายในเรื่องการก่อสร้างมี supply chains ไม่น้อยกว่า 3-5 เท่าของเงินงบประมาณเบิกจ่ายในแต่ ละปี นอกจากนั้น เมื่อโครงการแล้วเสร็จ จะทำให้ต้นทุนการขนส่งลดลงไม่ต่ำกว่า 30% และยังช่วยทำให้งบประมาณที่จะใช้ซ่อมบำรุงทางบก ลดลง ไม่น้อยกว่า 30% ด้วย”

ขณะเดียวกันยังช่วยให้เกิดการจ้างแรงงานในระบบรางและสร้างงาน พัฒนาบุคลากรในอุตสาห- กรรมระบบรางมากขึ้น ซึ่งจะเห็นได้ว่าในปัจจุบันมีการซ่อมบำรุงในอุตสาหกรรมระบบรางกว่า 9,600 ล้านบาท หากมีการลงทุนในอีก 5 ปีข้างหน้าจะเกิดการสร้างงาน ซ่อมบำรุงในระบบอุตสาหกรรมระบบรางอีกกว่า 14,000 ล้านบาท โดยเมื่อมีโครงข่ายระบบรางที่ครอบคลุมในทุกมิติ จะช่วยลดอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นจากการเดินทางได้

นอกจากนั้น ในส่วนของภาครัฐ เมื่อมีแผนที่จะพัฒนาลงทุนโครงสร้างพื้นฐานระบบรางแล้ว สิ่งที่สำคัญคือ ภาครัฐจะต้องเร่งสร้างความเข้าใจกับประชาชนถึงความจำเป็นที่ภาครัฐต้องลงทุน ซึ่งในส่วนนี้อาจจะกระทบต่อวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชน ทั้งในเรื่องของจุดตัด จุดลักผ่านของรถไฟ หรือการกั้นรั้วของเขตทาง เพื่อลดอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้น ส่วนเรื่องที่ต้องเร่งทำในขั้นต่อไปคือ การบริหารจัดการระบบรางให้มีประสิทธิภาพ ทั้งในเรื่องของการพัฒนาเทคโนโลยี ระบบควบคุม และการกำกับดูแลมาตรฐานความปลอดภัย ซึ่งกรมการขนส่งทางรางจะเข้ามาทำหน้าที่


ย้อนรอย 7 สายที่เปิดบริการไปแล้ว
สำหรับเส้นทางรถไฟฟ้าที่อยู่ในความรับผิดชอบของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ที่ได้เปิดให้บริการไปแล้วมีทั้งหมด 7 เส้นทางรวมระยะทางทั้งสิ้น 153.80 กม.ประกอบด้วย
เส้นทางรถไฟฟ้าสายสีม่วง 1.เส้นทาง บางใหญ่-เตาปูน ระยะทาง 23 กม.,
รถไฟฟ้า สายสีเขียว 2.เส้นทาง หมอชิต-สมุทรปราการ ระยะทาง 37.10 กม.,
3. เส้นทาง หมอชิต-ม.เกษตรศาสตร์ ระยะทาง 4 กม.,
4.เส้นทาง สนามกีฬาแห่งชาติ-บางหว้า ระยะทาง 14 กม.,
รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน, 5.เส้นทาง เตาปูน-บางซื่อ-หัวลำโพง ระยะทาง 21 กม.,
6.เส้นทาง หัวลำโพง-บางแค (หลักสอง) ระยะทาง 14 กม. และ
7.เส้นทาง เตาปูน-ท่าพระ 12 กม.
ส่วนรถไฟทางคู่เส้นทางที่เปิดให้บริการแล้วคือ เส้นทาง หัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 84 กม.

ทั้งนี้ ปัจจุบันรถไฟไทยมีให้บริการครอบคลุมใน 47 จังหวัด ระยะทางรวมทั้งสิ้น 4,044 กม. โดยเป็นรถไฟที่วิ่งให้บริการไปยังสายเหนือ 781 กม. ไปยังภาคใต้ 1,570 กม., วิ่งให้บริการไปยังสายตะวันออกเฉียงเหนือ 1,094 กม., วิ่งให้บริการไปยังสายตะวันออก 534 กม. และวิ่งให้บริการไปยังสายแม่กลอง 65 กม. ซึ่งจากระยะทางทั้งหมดในประเทศไทยนั้น ได้แบ่งเป็นรถไฟทางเดี่ยวกว่า 83.93% ระยะทาง 3,394 กม., รถไฟทางคู่ มีสัดส่วนที่ 13.43% ระยะทาง 543 กม. และเป็นรถไฟทางสาม สัดส่วนที่ 2.64% ระยะทางรวม 107 กม.
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 104, 105, 106 ... 121, 122, 123  Next
Page 105 of 123

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©