Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311238
ทั่วไป:13181550
ทั้งหมด:13492788
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวรถไฟฟ้าสายสีชมพู แคราย-มีนบุรี
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวรถไฟฟ้าสายสีชมพู แคราย-มีนบุรี
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 11, 12, 13 ... 71, 72, 73  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42630
Location: NECTEC

PostPosted: 23/01/2020 10:53 am    Post subject: Reply with quote

เบี่ยงตั้งเสาสีชมพู 27-31ที่นวลจันทร์
ข่าวทั่วไทย
ไทยรัฐฉบับพิมพ์
23 มกราคม 2563 เวลา 09:03 น.


การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) แจ้งว่า บมจ. ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งฯ ผู้รับจ้างก่อสร้างงานโยธา โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี กำหนดปิดเบี่ยงจราจรทุกช่องทางชั่วคราว บนถนนรามอินทรา ฝั่งขาออก บริเวณแยกนวลจันทร์ (ซอยรามอินทรา 40) ถึงซอยรามอินทรา 67 เพื่อติดตั้งชิ้นงานสำเร็จรูป สำหรับเสาสถานี วันที่ 27-31 ม.ค. ในช่วงเวลา 22.00-04.00 น.


โดยให้ผู้ที่ต้องการมุ่งหน้ามีนบุรี เบี่ยงใช้ช่องจราจรฝั่งขาเข้า 1 ช่องทางขวา (ชิดพื้นที่ปฏิบัติงาน) และผู้ที่ต้องการมุ่งหน้าหลักสี่ ใช้ช่องจราจร 2 ช่องทางซ้าย (ชิดบาทวิถี) ทั้งนี้ ผู้ใช้ทางเข้า-ออก บริเวณซอยหมู่บ้านนีโอคลาสสิคโฮม ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ส่วนผู้ใช้ทางเข้า-ออก บริเวณซอยรามอินทรา 67 สามารถใช้งานได้ตามปกติ.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42630
Location: NECTEC

PostPosted: 23/01/2020 10:55 am    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
บอร์ด รฟม.อนุมัติผลเจรจา BTS ลุยต่อขยายรถไฟฟ้าสีชมพูเข้าเมืองทองฯ
ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 22 มกราคม 2563 - 15:37 น.


อนุมัติผลเจรจาต่อสีชมพูไปเมืองทอง
ข่าวทั่วไทย
ไทยรัฐฉบับพิมพ์
23 มกราคม 2563 เวลา 09:14 น.

บอร์ด รฟม.เตรียมเสนอร่างแก้ไขสัญญา-ต่อสีเหลืองยังไม่จบ

บอร์ด รฟม.ไฟเขียวอนุมัติผลเจรจาส่วนต่อขยายสายสีชมพู เข้าเมืองทองธานี เตรียมเสนอคณะกรรมการ มาตรา 43 ยกร่างแก้ไขสัญญาเพิ่ม 5 ก.พ.นี้ ส่วนต่อขยายเหลืองไปรัชโยธินยังเจรจาไม่จบ

เมื่อวันที่ 22 ม.ค. นายภคพงศ์ กันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมบอร์ด รฟม. ที่มีนายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมบอร์ดวันนี้เห็นชอบตามที่ รฟม.เสนอผลการเจรจาส่วนต่อขยาย โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู แคราย-มีนบุรี ร่วมกับบริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (NBM) ผู้รับสัมปทาน ส่วนที่เพิ่มเติมเรื่องเส้นทางช่วงสถานีศรีรัช ถึงเมืองทองธานี การลงทุน หน้าที่ความรับผิดชอบ โดย รฟม.จะต้องเวนคืนที่ดินส่วนต่อขยายมีทั้งที่ดินของเอกชน และของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ประมาณ 200-3,000 ตารางวา โดยเอกชนรับผิดชอบจ่ายค่าเวนคืนที่ดิน รวมถึงเรื่องส่วนแบ่งรายได้ส่วนต่อขยาย จะได้รับเมื่อผลประกอบการบริษัทมีผลกำไรเพิ่มขึ้น 30% คาดว่าหลังจากปีที่ 20 ไปแล้ว โดยปริมาณผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 200,000 คนต่อวัน จากที่คาดการณ์ช่วงแรกไว้ 190,000 คนต่อวัน ขั้นตอนต่อไป รฟม.จะเสนอที่ประชุมคณะกรรมการตามมาตรา 43 พ.ร.บ.เอกชนร่วมทุน ปี 2556 พิจารณาแก้ไขสัญญาเพิ่มเติมวันที่ 5 ก.พ.นี้ จากนั้นจะเสนอสำนักงานอัยการสูงสุดตรวจร่างสัญญา และดำเนินการตามขั้นตอนก่อน
เสนอ ครม.พิจารณาอนุมัติต่อไป

นายภคงพงค์กล่าวว่า ส่วนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง ส่วนต่อขยาย จากแยกรัชดา-ลาดพร้าว ถึงแยกรัชโยธิน อยู่ระหว่างการประชุมเจรจาร่วม 3 ฝ่าย ระหว่าง รฟม. บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (BEM) และ บริษัท อีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (EBM) เรื่องผลกระทบต่อโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อยุติเรื่องปริมาณผู้โดยสาร จะนัดการประชุมอีกครั้งสิ้นเดือน ก.พ.นี้.

บอร์ด รฟม.เคาะ “โมโนเรล” สีชมพู เอกชนเพิ่มผลตอบแทนส่วนต่อเข้าเมืองทองฯ
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 22 มกราคม 2563 เวลา 18:19
ปรับปรุง: 23 มกราคม 2563 เวลา 08:30




บอร์ด รฟม.ไฟเขียวผลเจรจารถไฟฟ้าสีชมพูส่วนต่อขยายเข้าเมืองทองธานี เอกชนแบ่งรายได้รัฐเพิ่ม ชง กก.มาตรา 43 เคาะร่างสัญญาเพิ่มเติม 5 ก.พ.นี้ ส่วนต่อขยายสีเหลืองนัดเจรจา 3 ฝ่ายปมกระทบสัมปทาน Bem เผยทำผู้โดยสารสีน้ำเงินลด 9 พันคน/วัน

นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม.ที่มีนายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เป็นประธาน วันที่ 22 ม.ค. มีมติเห็นชอบผลการเจรจาโครงการส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีชมพู (ช่วงแคราย-มีนบุรี) จากสถานีศรีรัช-เมืองทองธานี กับบริษัทนอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด หรือ NBM แล้วในส่วนเพิ่มเติม โดยหลังจากนี้ รฟม.จะนำเสนอคณะกรรมการกำกับโครงการฯ ตามมาตรา 43 แห่ง พ.ร.บ.ร่วมลงทุนฯ ปี 2556 ซึ่งจะประชุมในวันที่ 5 ก.พ. เพื่อพิจารณาผลเจรจาและร่างสัญญาแก้ไขเพิ่มเติม จากนั้นจะส่งให้อัยการสูงสุดตรวจและเห็นชอบร่างสัญญา จึงจะเสนอ รมว.คมนาคมเห็นชอบและส่งไปยังสำนักงานคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เพื่อนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ PPP อนุมัติ ก่อนที่จะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง

ผลการเจรจาส่วนต่อขยายสายสีชมพู เช่น เอกชนเป็นผู้ลงทุนทั้งหมด ทั้งค่าก่อสร้างงานโยธา และค่าเวนคืน ส่วน รฟม.จะดำเนินการเวนคืนที่ดินตามอำนาจหน้าที่ เพราะนอกจากจะมีการใช้พื้นที่ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) บางส่วนแล้วจะมีส่วนที่มีการเวนคืนที่ดินเพื่อเป็นส่วนของสเปอร์ไลน์ประมาณ 200-300 ตารางวา

สำหรับการเจรจาเรื่องการแบ่งปันผลตอบแทนส่วนเพิ่ม หรือ upside sharing ได้ข้อสรุปว่า รฟม.จะได้รับส่วนแบ่งรายได้จากค่าโดยสารเส้นทางส่วนต่อขยายต่อเมื่อมีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 30% หรือต้องมีจำนวนผู้โดยสารเกือบ 3 แสนคน/วัน ซึ่งจะอยู่ช่วงหลังจากปีที่ 20 ขณะที่ประมาณการผู้โดยสารในปีแรกที่เปิดให้บริการไว้ที่ประมาณ 1.9 แสนคน/วัน ซึ่งตามสัญญาโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูมีผลตอบแทนทางการลงทุน (EIRR) ที่ 10% โดย รฟม.จะมีผลตอบแทน 2 ส่วน คือ ผลตอบแทนรายปี เป็นรายได้คงที่ และรายได้จากส่วนแบ่งผลดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นที่คาดว่าจะได้ในหลังจากปีที่ 20 ไปแล้ว

สำหรับรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ช่วงลาดพร้าว-สำโรง) ส่วนต่อขยายจากสถานีแยกรัชดา-ลาดพร้าว ถึงแยกรัชโยธินนั้น ผู้ว่าฯ รฟม.กล่าวว่า จะมีการประชุมร่วม 3 ฝ่ายระหว่าง รฟม.กับ บริษัท อีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (EBM) ผู้รับสัมปทานสายสีเหลือง และบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ปลายเดือน ม.ค.นี้ กรณีที่ส่วนต่อขยายสายสีเหลืองมีผลกระทบต่อสัญญาสัมปทานของ BEM โดยการศึกษาพบว่าทำให้ผู้โดยสารรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินลดลงประมาณ 9,000 คน/วัน ซึ่งรูปแบบการชดเชยนั้นจะต้องเร่งหารือร่วมกัน

สำหรับสายสีชมพูส่วนต่อขยาย ช่วงสถานีศรีรัช-เมืองทองธานี ระยะทาง 3 กม. จำนวน 2 สถานี ลงทุนกว่า 3,300 ล้านบาท สายสีเหลืองส่วนต่อขยาย ช่วงแยกรัชดา-ลาดพร้าว ถึงแยกรัชโยธิน ระยะทาง 2.6 กม. ลงทุนกว่า 3,700 ล้านบาท
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42630
Location: NECTEC

PostPosted: 30/01/2020 5:49 pm    Post subject: Reply with quote

รฟม. แจ้งปิดเบี่ยงจราจรชั่วคราว ฝั่งขาเข้า บนสะพานข้ามแยกคลองประปา ถนนแจ้งวัฒนะ เพื่อดำเนินการปรับแนวท่อประปาหลบการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย – มีนบุรี วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2563 ถึง วันที่ 31 มีนาคม 2563 ในช่วงเวลา 22.00 – 04.00 น.

​การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) แจ้งว่า บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้รับจ้างก่อสร้างงานโยธา โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย - มีนบุรี มีความจำเป็นต้องปิดเบี่ยงจราจรชั่วคราว 1 ช่องทางขวา (ชิดเกาะกลาง) ฝั่งขาเข้า บนสะพานข้ามแยกคลองประปา ถนนแจ้งวัฒนะ เพื่อดำเนินการปรับแนวท่อประปาหลบการก่อสร้างโครงการฯ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2563 ถึง วันที่ 31 มีนาคม 2563 ในช่วงเวลา 22.00 – 04.00 น. ทั้งนี้ ผู้ที่ต้องการมุ่งหน้าหลักสี่ สามารถใช้สะพานข้ามแยกคลองประปา 1 ช่องทางซ้าย (ชิดแนวสะพาน) และใช้ช่องจราจรพื้นราบ 2 ช่องทาง ทดแทน เพื่อความสะดวกในการสัญจร

​ซึ่งการดำเนินงานดังกล่าวอาจส่งผลให้การจราจรชะลอตัว ติดขัด และอาจมีเสียงดังรบกวนโดยระหว่างดำเนินงาน จะมีการติดตั้งป้ายเตือนล่วงหน้าก่อนถึงจุดเบี่ยง ป้ายจราจร กรวยยางและสัญญาณไฟส่องสว่าง เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้เส้นทาง รฟม. จึงขออภัยในความไม่สะดวก สำหรับผู้ที่ต้องการสอบถามรายละเอียดการเบี่ยงจราจรเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0 2610 4915, 09 8827 5555 และติดตามข้อมูลโครงการฯ ได้ที่เว็บไซต์ www.mrta-pinkline.com และไลน์แอด : @mrtpinkline
https://www.facebook.com/MRTA.PR/posts/2430358010514252
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42630
Location: NECTEC

PostPosted: 03/02/2020 3:52 pm    Post subject: Reply with quote

BTS เฉือนรายได้ 20-40% แลกสร้างโมโนเรลเชื่อม “เมืองทอง-รัชโยธิน”
อสังหาริมทรัพย์ : พร็อพเพอร์ตี้
วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2563 - 13:00 น.

หลัง “คีรี กาญจนพาสน์” เจ้าพ่อรถไฟฟ้าบีทีเอสและพันธมิตร “ซิโน-ไทยฯ และราช กรุ๊ป” รวมตัวเป็นหุ้นส่วนธุรกิจในนามกิจการร่วมค้า BSR ยื่นข้อเสนอซองที่ 3 ทุ่มเม็ดเงินอีก 7,158 ล้านบาท ขยายโครงข่ายรถไฟฟ้าโมโนเรล 2 สายแรกของประเทศไทยที่ใช้เงินลงทุนร่วมแสนล้านบาทให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

ยืด “สายสีชมพูแคราย-มีนบุรี” เลี้ยวเข้าเมืองทองธานี ระยะทางประมาณ 2.8 กม. จากสถานีศรีรัช-เมืองทองธานี วงเงินลงทุน 3,379 ล้านบาท และสายสีเหลือง “ลาดพร้าว-สำโรง” เชื่อมจากแยกรัชดาฯ-ลาดพร้าวถึงแยกรัชโยธิน เชื่อมกับสายสีเขียวส่วนต่อขยายช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ระยะทาง 2.6 กม. วงเงินลงทุน 3,779 ล้านบาท

เหตุผลที่มีข้อเสนอพิเศษเพิ่มเติมเส้นทางหลักที่ “กลุ่มบีทีเอส” ได้รับสัมปทานจาก “รฟม.-การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย” ระยะเวลา 30 ปี


“คีรี” บอสใหญ่บีทีเอสเคยระบุถึงที่มาที่ไป ไว้ว่า “เพื่อให้โครงการสมบูรณ์ ผู้โดยสารเดินทางสะดวก ไม่ขาดช่วงเหมือนสายสีม่วงที่ผู้โดยสารไม่เป็นไปตามเป้า ความจริงเวลานี้รถไฟฟ้าหลายสายผู้โดยสารยังไม่เป็นไปตามที่ตั้งไว้ ไม่ใช่ว่าการบริการไม่ดี แต่การเชื่อมต่อเส้นทางยังไม่สมบูรณ์พอ”

จึงเป็นที่มาของการจับมือกับพี่ชาย “อนันต์ กาญจนพาสน์” เจ้าของที่ดินในเมืองทองธานี ลงขันสร้างส่วนต่อขยายสายสีชมพูเข้าไปในศูนย์การประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี มี 2 สถานี ซึ่งสถานีแรกอยู่บริเวณอาคารอิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ และสถานีที่ 2 อยู่บริเวณทะเลสาบ รองรับผู้อยู่อาศัยกว่า 1.5 แสนคน และผู้มาใช้บริการศูนย์การประชุมอิมแพ็คฯกว่า 10 ล้านคน/ปี

ขณะที่สายสีเหลือง “คีรี” แจกแจงว่าจะสร้างไปตามถนนรัชดาภิเษกไปสิ้นสุดที่แยกรัชโยธิน เชื่อสายสีเขียว (หมอชิต-คูคต) มี 3 สถานี คือ สถานีรัชดา สถานีศาลยุติธรรม และแยกรัชโยธิน รองรับแหล่งงานใกล้กับเมเจอร์รัชโยธิน ธนาคารไทยพาณิชย์ ตึกช้าง

ณ เดือน ธ.ค. 2562 งานก่อสร้างเส้นทางหลักของสายสีชมพูอยู่ที่ 48.06% ยังล่าช้าจากแผน 4-5% และสายสีเหลืองอยู่ที่ 47.71% ยังล่าช้าจากแผนงาน 2.61% ทั้ง 2 สายทางจะแล้วเสร็จเปิดบริการพร้อมกันในเดือน ต.ค. 2564

สำหรับส่วนต่อขยาย 2 ช่วง ถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้ฤกษ์ตอกเข็ม ต้องขยับไทม์ไลน์การเปิดบริการออกไปประมาณ 1-2 ปี จากเป้าเดิมคาดว่าจะเปิดหวูดพร้อมกันทั้งโครงข่ายในปี 2564

ความคืบหน้าล่าสุดของ 2 ส่วนต่อขยาย ในส่วนของสายสีชมพูผลการเจรจาเพิ่งจะผ่านการอนุมัติจากคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม.ไปเมื่อวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา รวมถึงรออนุมัติรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) คาดว่าจะเริ่มตอกเข็มอย่างเร็วภายในปลายปีนี้ และแล้วเสร็จเปิดบริการในปี 2566

ที่ยังต้องลุ้นหนัก “ส่วนต่อขยายสายสีเหลือง” เพราะนอกจากรอการอนุมัติ EIA ยังต้องรอผลการเจรจาปมแย่งผู้โดยสารของสายสีน้ำเงินที่ “BEM-บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ” แพนิก ผลจากการเปิดส่วนต่อขยายสายสีเหลืองที่สร้างเชื่อมกับสถานีลาดพร้าวจะกระทบต่อปริมาณผู้โดยสารของสายสีน้ำเงิน

ทำให้ตกอยู่ในสถานะยังลูกผีลูกคน ไม่รู้จะได้ไปต่อหรือถูกพับแผน อยู่ที่การตัดสินใจของ “บิ๊ก รฟม.” คู่สัญญาของทั้งสองฝ่ายจะทะลวงปมคาใจได้อย่างไร

“ข้อกังวลของ BEM เป็นตัวเลขของอนาคตที่นำมาเจรจากัน ไม่มีใครรู้ถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น เพราะทุกอย่างคือการคาดการณ์ยังหาความจริงไม่ได้ เปิดแล้วอาจจะหนุนกันก็ได้หรือจะกระทบแต่ก็อาจจะไม่มาก” แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมวิเคราะห์

ตอนนี้ “รฟม.” ตกอยู่ในบนทาง 2 แพร่ง ถ้าให้บีทีเอสลงทุนก็ต้องยอมรับว่าอาจจะต้องถูก BEM เคลมในอนาคต ถ้าผู้โดยสารลดลงจริงก็ต้องหามาตรการชดเชย เช่น ขยายเวลาสัมปทาน หรือเจรจาบีทีเอสมารับภาระส่วนนี้แทน แลกกับได้โครงข่ายรถไฟฟ้าเพิ่มโดยที่ไม่ต้องควักเงินลงทุน

ขณะที่ “ภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ” ผู้ว่าการ รฟม. กล่าวว่า ภายในเดือน ก.พ.นี้จะมีประชุมร่วมระหว่างบีทีเอส BEM และ รฟม.เพื่อหาข้อสรุป ทั้งนี้ จากการศึกษาของ BEM พบว่าสายสีเหลืองส่วนต่อขยายจะทำให้ผู้โดยสารของสายสีน้ำเงินลดลงประมาณ 9,000 เที่ยวคนต่อวัน

“สายสีเหลืองส่วนต่อขยายยังไงก็ต้องสร้าง กำลังหาข้อยุติและทางออก”

นายภคพงศ์กล่าวอีกว่า สำหรับผลเจรจาการตอบแทนของส่วนต่อขยายทั้ง 2 ช่วงจะใช้สูตรเดียวกัน คือ บีทีเอสจะต้องแบ่งรายได้จากค่าโดยสารทั้งโครงข่ายให้ รฟม.บนพื้นฐานว่าจะไม่นำผู้โดยสารของส่วนต่อขยายมารวมกับสายทางหลัก เพื่อจะทำให้ รฟม.มีรายได้มากและเร็วขึ้น

โดยคิดตามความผันแปรของปริมาณผู้โดยสาร หากเพิ่มมากกว่า 30% ต้องแบ่งรายได้ให้ รฟม. 20% หากเพิ่มมากกว่า 50% ต้องแบ่ง 40% ยังไม่รู้ว่าจะเป็นปีที่เท่าไหร่ รฟม.ถึงจะมีรายได้ส่วนนี้ และตั้งแต่ปีที่ 11-30 รฟม.จะได้เงินรายได้อีกปีละ 250 ล้านบาท อย่างของสายสีชมพูที่ผ่านการอนุมัติจากบอร์ดจะเปิดบริการในปี 2564 ผู้โดยสารอยู่ที่199,054 เที่ยวคนต่อวัน หากเปิดส่วนต่อขยายในปี 2566 ผู้โดยสารเพิ่มมากกว่า 30% หรือผู้โดยสารอยู่ที่ 2.6 แสนเที่ยวคนต่อวัน รฟม.ก็จะได้รับส่วนแบ่งรายได้ในทันที

ทั้งหมดล้วนเป็นการคาดการณ์ทางวิชาการ ยังต้องลุ้นสิ่งที่คิดกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นจริง ผลลัพธ์จะแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42630
Location: NECTEC

PostPosted: 06/02/2020 4:57 pm    Post subject: Reply with quote

#ตามแผนการศึกษาสายสีชมพู จะมีการต่อขยายเส้นทางจากปลายทาง #สถานีมีนบุรี ไปถึง #สถานีลาดกระบัง ของ Airport Rail Link ด้วยนะครับ

นอกจากนี้สายสีเหลืองมีส่วนต่อขยาย รัชดา - รัชโยธิน ไปวงศสว่าง และ จากสำโรงไปพระประแดง ด้วย
https://www.renderthailand.com/yellow-pink-extension/
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42630
Location: NECTEC

PostPosted: 14/02/2020 3:08 pm    Post subject: Reply with quote

วาเลนไทน์"โมโนเรลสีชมพู"เริ่มไม่หวาน!!
*ปัญหารุมเร้าเข้าพื้นที่ก่อสร้างไม่ได้
*รฟม.เร่งหาวิธีแก้เปิดใช้ให้ทันปี64

นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข รองผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้ารางเดี่ยว(โมโนเรล) สายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ระยะทาง 34.5 กิโลเมตร(กม.) ว่า ขณะนี้ภาพรวมการก่อสร้างอยู่ที่ประมาณ 51% ล่าช้ากว่าแผนประมาณ 5.66%
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/2522944827927020?__tn__=H-R
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42630
Location: NECTEC

PostPosted: 16/02/2020 1:16 am    Post subject: Reply with quote

โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรีLike Page
February 12 at 5:23 PM ·
รฟม. แจ้งปิดเบี่ยงจราจรบนสะพานข้ามคลองสามวาชั่วคราว บนถนนสีหบุรานุกิจ ฝั่งขาเข้าและฝั่งขาออก เพื่อดำเนินงานติดตั้งคานรับทางวิ่ง สำหรับก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย – มีนบุรี วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2563 ในช่วงเวลา 22.00 – 04.00 น. (ใช้เวลาดำเนินงานประมาณ 15 – 20 นาที)

การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) แจ้งว่า บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้รับจ้างก่อสร้างงานโยธา โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย - มีนบุรี มีความจำเป็นต้องปิดเบี่ยงจราจรบนสะพานข้ามคลองสามวาชั่วคราว บนถนนสีหบุรานุกิจ ฝั่งขาเข้าและฝั่งขาออก เพื่อดำเนินงานติดตั้งคานรับทางวิ่ง สำหรับก่อสร้างโครงการฯ ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2563 ในช่วงเวลา 22.00 – 04.00 น. (ใช้เวลาดำเนินงานประมาณ 15 – 20 นาที) ทั้งนี้ ภายหลังเสร็จสิ้นการดำเนินงาน สามารถใช้เส้นทางบนสะพานข้ามคลองสามวาได้ตามปกติ และผู้ที่ต้องการมุ่งหน้าหลักสี่ ให้เบี่ยงเข้าถนนสุวินทวงศ์ เพื่อเชื่อมต่อถนนรามอินทรา ทดแทน

ซึ่งการดำเนินงานดังกล่าวอาจส่งผลให้การจราจรชะลอตัว ติดขัด และอาจมีเสียงดังรบกวนโดยระหว่างดำเนินงาน จะมีการติดตั้งป้ายเตือนล่วงหน้าก่อนถึงจุดเบี่ยง ป้ายจราจร กรวยยางและสัญญาณไฟส่องสว่าง เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้เส้นทาง รฟม. จึงขออภัยในความไม่สะดวก สำหรับผู้ที่ต้องการสอบถามรายละเอียดการเบี่ยงจราจรเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0 2610 4915, 09 8827 5555 และติดตามข้อมูลโครงการฯ ได้ที่เว็บไซต์ www.mrta-pinkline.com และไลน์แอด : @mrtpinkline
https://www.facebook.com/CRSTECONPINKLINE/posts/2668382939935179
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44333
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 17/02/2020 6:48 pm    Post subject: Reply with quote

“ลาดพร้าว” ติดยาวอีก 2 ปี เหลือง-ชมพู ก่อสร้างสะดุด
ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2563 - 09:07 น.

บีทีเอสกุมขมับ รถไฟฟ้า 2 สายดีเลย์ต้นทุนพุ่ง สายสีเหลืองติดหล่ม กทม.ยื้อแบบ “สะพานบางกะปิ” ยื่นเงื่อนไขสร้างใหม่มาตรฐานสากล ตำรวจ-รฟม.หวั่นซ้ำเติมจราจรลาดพร้าว-ลำสาลี ติดหนึบ 2 ปี สายสีชมพูอาการหนัก เวนคืน ออกแบบ 2 สถานีใหม่ เหตุสุดวิสัยส่งมอบพื้นที่ช้า ส่อเลื่อนเปิดยาว ต.ค. 64

นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข รองผู้ว่าการด้านวิศวกรรมและฝ่ายก่อสร้าง การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ความคืบหน้างานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง ระยะทาง 30.4 กม. หลัง บจ.อีสเทิร์น บางกอก โมโนเรล ของกลุ่ม BSR (บีทีเอส-ซิโนไทย-ราชกรุ๊ป) ผู้รับสัมปทานโครงการเริ่มงานก่อสร้างวันที่ 29 มิ.ย. 2561 ผลงาน ณ เดือน ม.ค. 2563 งานโยธาอยู่ที่ 51.81% ช้าจากแผนประมาณ 5% งานระบบอยู่ที่ 47.39% ตามแผนงานโยธาจะต้องสร้างเสร็จปลายปี 2563 จากนั้นเริ่มทดสอบระบบ ซึ่งรถขบวนแรกจะมาถึงประเทศไทยในเดือน ส.ค.นี้ และตามสัญญาต้องแล้วเสร็จเปิดบริการในเดือน ต.ค. 2564

เสี่ยงทุกจุดรื้อสาธารณูปโภค
“อยู่ที่เอกชนจะเร่งงานได้เร็วแค่ไหน สร้างช้าติดเข้าพื้นที่ไม่ได้ตามแผน ทั้งเวนคืน รื้อสาธารณูปโภค พื้นที่สายสีเหลืองเสี่ยงทุกจุด เหลือเคลียร์สะพานบางกะปิหน้าเดอะมอลล์ต้องเร่งให้จบ หากยังช้าจะกระทบต่อโครงการได้”


ทั้งนี้ บีทีเอสส่งแบบให้กรุงเทพมหานคร (กทม.) พิจารณาแล้ว จะเป็นการโมดิฟายสะพานเดิม ปรับปรุงช่วงเชิงสะพานถึงแยกบางกะปิที่จะเลี้ยวไปลำสาลี จะปิดการจราจรเฉพาะช่องขวาสุดทั้งขาเข้าและขาออก แล้วรื้อตรงกลางออกให้วางตอม่อได้ และขยายปีกสะพานด้านข้างออกให้กลับมามี 4 ช่องจราจรเหมือนเดิม

กทม. ยื้อแบบสะพานบางกะปิ
“งบฯก่อสร้างบีทีเอสเป็นผู้ลงทุน รอ กทม.อนุมัติแบบ ซึ่ง กทม.จะให้ทุบแล้วสร้างใหม่ จะกระทบจราจรถนนลาดพร้าวติดหนักขึ้น เพราะต้องใช้เวลาสร้างอย่างน้อย 1-2 ปี และย่านนั้นจะมีแยกลำสาลีที่กำลังสร้างอุโมงค์สายสีส้มอีก”

แหล่งข่าวจาก รฟม.กล่าวว่า ค่าก่อสร้างบริเวณแยกบางกะปิ บีทีเอสยังไม่ได้ประเมินไว้ คาดว่าจะทำให้ต้นทุนก่อสร้างเพิ่มไม่มาก คงไม่ถึง 500 ล้านบาท แต่ที่หลายฝ่ายเป็นห่วงเรื่องการจราจรจะทำให้รถติดมากขึ้น เพราะเกี่ยวเนื่องไปถึงแยกลำสาลีซึ่งงานอุโมงค์สายสีส้มกว่าจะเสร็จปลายปี 2564

“ผลทดสอบการรับน้ำหนักสะพานบางกะปิยังแข็งแรงในระดับหนึ่ง คงไม่ถึงต้องทุบสร้างใหม่ตามที่ กทม.ต้องการ เพราะผลกระทบต่อสายสีเหลืองจริง ๆ แค่พื้นที่ครึ่งสะพาน แต่ กทม.จะให้เราทุบแล้วสร้างใหม่”

กระทบแผนเปิดหวูด
แหล่งข่าวกล่าวว่า ประเมินผลกระทบการส่งมอบพื้นที่ของสายสีเหลือง มีโอกาสจะเปิดให้บริการล่าช้าจากเดิมเดือน ต.ค. 2564 เป็นในปี 2565 เพราะตามแผนงานก่อสร้างต้องเสร็จปลายปีนี้ ขณะที่ขบวนรถจะทยอยมาถึงปีนี้ เริ่มทดสอบระบบต้นปี 2564 จะใช้เวลาอย่างน้อย 6 เดือน

“สัญญาร่วมทุนให้ทยอยเปิดและเก็บค่าโดยสารได้ หากสร้างช้าจากเหตุสุดวิสัยหรือรัฐมอบพื้นที่ไม่ได้ ต้องหารือเอกชนจะทยอยเปิดก่อนหรือไม่ เพราะมีค่าบริหารจัดการ อาจจะไม่คุ้ม ส่วนสัญญาก่อสร้างหากล่าช้าจากรัฐจะขยายเวลาให้ ส่วนค่าใช้จ่ายที่เพิ่ม เช่น ดอกเบี้ยเงินกู้ เอกชนรับผิดชอบทั้งหมด”

ทุบสร้างใหม่ปิดจราจร 6 เดือน
นายไทวุฒิ ขันแก้ว รักษาการผู้อำนวยการสำนักการโยธา กทม. เปิดเผยว่า ได้พิจารณาคอนเซ็ปต์รูปแบบแก้ปัญหาจุดทับซ้อนสะพานบางกะปิกับสายสีเหลืองจบแล้ว จะทุบบางส่วนแล้วสร้างใหม่ ให้ได้มาตรฐานที่สูงขึ้น เช่น รับแรงลมและแผ่นดินไหว จะเพิ่มภาระต้นทุนให้เอกชน ทางบีทีเอสจะเป็นผู้สร้างคืนให้ โดยรื้อเฉพาะบริเวณเชิงสะพานถึงทางแยก แต่ยังไม่กำหนดว่าจะเริ่มเมื่อไหร่ ต้องหารือร่วมกับตำรวจการจราจรด้วย

แหล่งข่าวจาก กทม.กล่าวเพิ่มว่า กำลังเจรจา รฟม.ให้พิจารณารื้อสร้างสะพานใหม่ โดยปิดการจราจรถาวร 6 เดือน จะใช้เวลาเร็วกว่าปิดชั่วคราวแล้วทยอยปรับปรุงใหม่

พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า ภาพรวมการจราจรพื้นที่กรุงเทพฯในปีนี้ยังไม่ติดหนักมาก แม้จะมีก่อสร้างรถไฟฟ้าที่กระทบผิวการจราจรถนนสายหลักหลายเส้นทาง เพราะมีวางแผนรับมือก่อสร้างและการกระจายตัวของกระแสรถ รวมถึงประชาชนมีการปรับตัวได้ในระดับหนึ่ง ทำให้กระแสรถลงตัว จราจรยังไหลลื่น ยกเว้นมีเหตุอื่น เช่น รถเสีย อุบัติเหตุ ที่มากระทบผิวจราจร

หวั่นซ้ำเติมลาดพร้าววิกฤตหนัก
พ.ต.ท.ทรงศักดิ์ จันทรพัชร รองผู้กำกับการจราจร สถานีตำรวจนครบาลลาดพร้าว กล่าวว่า ที่ผ่านมามีการหารือร่วมกันมาโดยตลอด ซึ่งเรื่องดังกล่าวจะต้องสรุปตั้งแต่ปลายปี 2562 กำลังรอคำตอบจาก กทม.เรื่องรูปแบบของสะพาน

“ถ้าเป็นแบบโมดิฟายสะพานใหม่อย่างที่ รฟม.เสนอไป ต้องปิดการจราจรบนสะพานจาก 4 ช่องจราจรเหลือ 2 ช่องจราจรให้วิ่งสวนเลนกันได้ จะกระทบการจราจรช่วงขาออกมุ่งหน้าไปลำสาลีและนิด้า แต่ถ้าทุบแล้วสร้างใหม่คงจะกระทบต่อการจราจรหนัก จะติดพันไปถึงแยกลำสาลีที่ตอนนี้ก็หนักอยู่แล้วด้วย เพราะรับรถจากหลายทาง”

สายสีชมพูวุ่นหนัก
แหล่งข่าวจาก กทม.กล่าวอีกว่า ในส่วนของสายสีชมพู แคราย-มีนบุรี ระยะทาง 34.5 กม. ปัจจุบันยังสร้างช้าจากแผน 5-6% ความคืบหน้าโดยรวม 50.17% เป็นงานโยธา 51.96% งานระบบ 47.50% จะต้องสร้างเสร็จปลายปี 2563 เริ่มทดสอบระบบและเปิดเดินรถเดือน ต.ค. 2564 ตามสัญญา แต่มีแนวโน้มจะช้าจากแผน ติดเวนคืน ส่งมอบพื้นที่และขอเปลี่ยนแปลงรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ)

2 จุด คือย้ายสถานีศูนย์ราชการนนทบุรี ตามที่จังหวัดนนทบุรีให้ขยับจากเดิมอยู่หน้าอุทยานมกุฎรมยสราญออกไปอีก 337 เมตร ไปใกล้ห้างเอสพลานาด ไม่ให้บดบังทัศนียภาพ พร้อมสร้างทางเชื่อมสายสีม่วง และขยับสถานีนพรัตนราชธานี ที่ติดสะพานข้ามแยกสวนสยาม ซึ่งคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติอนุมัติแล้ว รอเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา หากได้รับอนุมัติต้องเวนคืนที่ดินเพิ่ม

“สายสีชมพูจะหนักกว่าสายสีเหลือง ยังประเมินไม่ได้จะช้ากี่เดือนกี่ปี มีแนวโน้มจะหลุดเป้าเปิดบริการปี 2564”

ปัญหาความล่าช้าของสายสีชมพูกับสายสีเหลืองเป็นความผิดของรัฐที่ส่งมอบพื้นที่ให้ไม่ทัน จะต้องมีมาตรการเยียวยาผู้รับสัมปทานของทั้งสายสีเหลืองและสีชมพูต่อไป เช่น ขยายเวลาให้ ปรับการเปิดให้บริการเป็นเฟส ๆ หากผู้รับสัมปทานเห็นว่าพร้อมที่จะเดินรถได้ก่อน เพื่อจะมีรายได้จากค่าโดยสารมาชดเชย แต่ยังไม่ได้เงินสนับสนุนงานโยธาที่รัฐต้องจ่ายคืนให้ 10 ปี จนกว่าจะเปิดเดินรถตลอดสายก่อน

นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการ รฟม.กล่าวว่า ขอให้เอกชนเร่งสร้างทั้งสายสีเหลืองและสีชมพูให้เต็มที่ก่อน เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่สิ่งที่คาดไว้แต่แรก ทาง รฟม.ต้องเริ่มเวนคืนและก่อสร้างใหม่ ก็มีความเป็นไปได้จะปรับแผนให้ทยอยเปิดบริการเป็นเฟส ๆ
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42630
Location: NECTEC

PostPosted: 21/02/2020 12:09 pm    Post subject: Reply with quote

รฟม. แจ้งปิดเบี่ยงจราจรชั่วคราว บนถนนรามอินทรา ฝั่งขาออก มุ่งหน้ามีนบุรี บริเวณซอยรามอินทรา 45/1 ถึง บริเวณซอยรามอินทรา 47 เพื่อดำเนินการติดตั้งคานทางวิ่ง (Guideway Beam) สำหรับก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย - มีนบุรี วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2563 ในช่วงเวลา 22.00 – 04.00 น.

การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) แจ้งว่า บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้รับจ้างก่อสร้างงานโยธา โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย - มีนบุรี มีความจำเป็นต้องปิดเบี่ยงจราจรชั่วคราว 2 ช่องทางขวา (ชิดพื้นที่ปฏิบัติงาน) บนถนนรามอินทรา ฝั่งขาออก มุ่งหน้ามีนบุรี ตั้งแต่บริเวณซอยรามอินทรา 45/1 ถึง บริเวณซอยรามอินทรา 47 เพื่อดำเนินการติดตั้งคานทางวิ่ง (Guideway Beam) สำหรับโครงการฯ ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2563 ช่วงเวลา 22.00 – 04.00 น. โดยให้ผู้ใช้เส้นทางฝั่งขาออกที่ต้องการมุ่งหน้ามีนบุรี เบี่ยงใช้ช่องทางซ้าย (ชิดบาทวิถี) 1 ช่องทาง

ซึ่งการดำเนินงานดังกล่าวอาจส่งผลให้การจราจรชะลอตัว ติดขัด และอาจมีเสียงดังรบกวนโดยระหว่างดำเนินงาน จะมีการติดตั้งป้ายเตือนล่วงหน้าก่อนถึงจุดเบี่ยง ป้ายจราจร กรวยยางและสัญญาณไฟส่องสว่าง เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้เส้นทาง รฟม. จึงขออภัยในความไม่สะดวก สำหรับผู้ที่ต้องการสอบถามรายละเอียดการเบี่ยงจราจรเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0 2610 4915, 09 8827 5555 และติดตามข้อมูลโครงการฯ ได้ที่เว็บไซต์ www.mrta-pinkline.com และไลน์แอด : @mrtpinkline
https://www.facebook.com/MRTA.PR/posts/2446325102250876
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42630
Location: NECTEC

PostPosted: 27/02/2020 2:31 am    Post subject: Reply with quote

6หลังริมคลองเปรมฯใจหาย เวนคืนสร้างรถไฟฟ้าสีชมพู
หน้าข่าว กทม.-จราจร
เดลินิวส์
พฤหัสบดีที่ 20 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 16.00 น.

เสียงสะท้อนชาวบ้าน "ริมคลองเปรมประชากร เขตหลักสี่" โดนเวนคืนพื้นที่สร้างรถไฟฟ้าสีชมพู ต้องย้ายที่อยู่ก็รู้สึกใจหาย แต่พร้อมยอมรับการเปลี่ยนแปลง รับข้อเสนอ รฟม.

จากกรณีปัญหาการเวนคืนพื้นที่บริเวณริมคลองเปรมประชากร เขตหลักสี่ เพื่อการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)

ล่าสุด เมื่อวันที่ 20 ก.พ. ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมสอบถามชาวบ้าน 2 กลุ่มที่ได้รับผลกระทบเรื่องนี้ ได้แก่ 1.ชุมชนศิษย์หลวงปู่ขาว และ 2.ชุมชนหลักสี่พัฒนา 99 โดย นายอำนาจ หวังชม ประธานชุมชนศิษย์หลวงปู่ขาว เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีชาวบ้านอาศัยอยู่กว่า 300 หลังคาเรือน แต่ในส่วนที่ได้รับผลกระทบจริง ๆ มีแค่ 3 หลัง ซึ่งบ้านตนเป็นหนึ่งในผู้ถูกเวนคืนพื้นที่ เบื้องต้นทาง รฟม. ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าเจรจากับชาวบ้านมาแล้ว 3 ครั้ง ตั้งแต่ช่วงต้นปี 62 ครั้งแรกมาสอบถามข้อมูลเพื่อนำไปประเมินรายได้ ค่าใช้จ่าย หาค่าชดเชยให้ ต่อมาทาง รฟม.ได้ให้ชาวบ้านเสนอค่าชดเชยและนำไปพิจารณาหาจุดที่เหมาะสม 

"หากถามถึงความรู้สึก ก็ใจหาย เพราะอยู่มานาน ตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ อาชีพหลักอยู่ตรงนี้ หากต้องย้ายไปยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไง แต่ขณะนี้ได้ตกลงเรื่องเงินค่าชดเชยเรียบร้อยแล้ว ชาวบ้าน 3 หลังยินยอมรื้อถอนบ้าน เพราะทราบดีว่าโครงการดำเนินไปเพื่อส่วนรวม" นายอำนาจ กล่าว




ด้าน นายสายันต์ สิงห์พิภพ ประธานชุมชนหลักสี่พัฒนา 99 เปิยเผยว่า ในชุมชนมีผู้คนอาศัยอยู่ประมาณ 60 หลังคาเรือน แต่ได้รับผลกระทบจากโครงการ 3 หลังคาเรือน เบื้องต้นมี 2 หลังคาเรือนยอมรับข้อเสนอ ส่วนอีก 1 หลังยังอยู่ระหว่างเจรจาเรื่องค่ารื้อถอน 

ขณะที่ นางจำเนียร-นายวุฒิณัฐ พรมเกิด ชาวบ้านที่ถูกเวนคืนพื้นที่ กล่าวว่า รู้สึกใจหายต้องย้ายที่อยู่ อยู่แถวนี้มานานกว่า 40 ปี แต่ก็ยอมรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น ล่าสุดทาง รฟม.เข้ามาเจราจรและขอเอกสารสำคัญต่าง ๆ เบื้องต้นทราบว่าจะเข้าดำเนินการรื้อถอนในช่วงเร็ว ๆ นี้.
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 11, 12, 13 ... 71, 72, 73  Next
Page 12 of 73

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©