Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311235
ทั่วไป:13181343
ทั้งหมด:13492578
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 254, 255, 256 ... 388, 389, 390  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42628
Location: NECTEC

PostPosted: 14/02/2020 2:16 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
"นายกฯ"สั่งเร่งเครื่องรถไฟทางคู่ เบิกจ่ายเร็ว กระตุ้นศก. -จ่อลุยเฟส2 อีก 2.73 แสนล
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 เวลา 11:26


‘ศักดิ์สยาม’ ไล่บี้ รฟท. ดันโปรเจ็กต์-เร่งเบิกจ่ายรถไฟทางคู่ สั่งปรับข้อมูลเฟส 2 ส่ง สศช. ภายใน ก.พ.นี้
เผยแพร่: วันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

“ศักดิ์สยาม” เร่งรัดโปรเจ็กต์รถไฟทางคู่ สนองข้อสั่งการ “บิ๊กตู่” พร้อมจี้ รฟท.สปีดเบิกจ่ายงบฯ ตามแผน ฟากโครงการระยะที่ 2 ลุยปรับข้อมูลเสนอ สศช. ภายใน ก.พ.นี้ สั่ง ขร.ศึกษาโครงข่ายครอบคลุมทั่วประเทศ

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคม เร่งเดินหน้าพัฒนาโครงข่ายระบบรางโดยเฉพาะโครงการรถไฟทางคู่ ตามข้อสั่งการสำคัญของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อเสริมศักยภาพในการแข่งขันของประเทศ สร้างคุณภาพชีวิตด้านการขนส่งเดินทางที่ดีให้ประชาชน โดยให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ งานก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 1 จำนวน 7 โครงการ ให้เป็นไปตามแผนงาน

ทั้งนี้ แผนการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ ประกอบด้วย โครงการรถไฟทางคู่เส้นทาง ฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย และชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น มีกำหนดเปิดให้บริการภายในปี 2563 เส้นทางลพบุรี-ปากน้ำโพ มีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2565 และเส้นทางประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร, มาบกะเบา-ชุมทางจิระ, นครปฐม-หัวหิน, หัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ มีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2566 อย่างไรก็ตาม หากเกิดปัญหาอุปสรรคที่ทำให้การดำเนินโครงการล่าช้าให้ รฟท. เร่งดำเนินการแก้ไขพร้อมรายงานให้กระทรวงคมนาคมทราบทันที

สำหรับโครงการรถไฟทางคู่เส้นทางใหม่ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติแล้วให้ รฟท. เร่งดำเนินการประกวดราคางานก่อสร้าง ส่วนเส้นทางบ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม เร่งผลักดันรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ให้ผ่านความเห็นชอบของสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) โดยเร็ว


นอกจากนี้ ให้เสนอการปรับปรุงข้อมูลโครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 จำนวน 7 โครงการ ตามความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้แก่ ปากน้ำโพ-เด่นชัย, เด่นชัย-เชียงใหม่, ขอนแก่น-หนองคาย, ชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี, ชุมพร-สุราษฎร์ธานี, สุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา และชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ และส่งให้ สศช. ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 และรายงานให้กระทรวงคมนาคมทราบด้วย

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่ออีกว่า ได้สั่งการให้กรมการขนส่งทางราง (ขร.) เร่งศึกษาการพัฒนาโครงข่ายทางรถไฟให้ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศและการใช้ประโยชน์ระบบรถไฟให้เต็มประสิทธิภาพเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อขับเคลื่อนพัฒนาระบบรางให้เป็นโครงข่ายหลักในการเดินทางและขนส่งสินค้าของประเทศในอนาคตอันใกล้

คมนาคม รับลูกนายกฯสั่งเร่งเดินหน้ารถไฟทางคู่ระยะที่1-2
14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 เวลา 11:09 น.

14 ก.พ.63-นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่ากระทรวงคมนาคม เร่งเดินหน้าพัฒนาโครงข่ายระบบรางโดยเฉพาะโครงการรถไฟทางคู่ ตามข้อสั่งการสำคัญของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อเสริมศักยภาพในการแข่งขันของประเทศ สร้างคุณภาพชีวิตด้านการขนส่งเดินทางที่ดีให้ประชาชน โดยให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ

สำหรับ งานก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 1 จำนวน 7 โครงการ ให้เป็นไปตามแผนงานและแผนการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ ประกอบด้วย โครงการรถไฟทางคู่เส้นทาง ฉะเชิงเทรา - คลองสิบเก้า – แก่งคอย และชุมทางถนนจิระ – ขอนแก่น มีกำหนดเปิดให้บริการภายในปี 2563 เส้นทางลพบุรี – ปากน้ำโพ มีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2565

และเส้นทางประจวบคีรีขันธ์ – ชุมพร, มาบกะเบา – ชุมทางจิระ, นครปฐม – หัวหิน, หัวหิน – ประจวบคีรีขันธ์ มีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2566 ทั้งนี้หากเกิดปัญหาอุปสรรคที่ทำให้การดำเนินโครงการล่าช้าให้ รฟท. เร่งดำเนินการแก้ไขพร้อมรายงานให้กระทรวงคมนาคมทราบทันที

สำหรับโครงการรถไฟทางคู่เส้นทางใหม่ สายเด่นชัย - เชียงราย – เชียงของ ที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติแล้วให้ รฟท. เร่งดำเนินการประกวดราคางานก่อสร้าง ส่วนเส้นทางบ้านไผ่ – มุกดาหาร - นครพนม เร่งผลักดันรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ให้ผ่านความเห็นชอบของสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) โดยเร็ว

นอกจากนี้ได้สั่งการให้เสนอการปรับปรุงข้อมูลโครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 จำนวน 7 โครงการ ตามความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้แก่ ปากน้ำโพ – เด่นชัย, เด่นชัย – เชียงใหม่, ขอนแก่น – หนองคาย, ชุมทางถนนจิระ – อุบลราชธานี, ชุมพร – สุราษฎร์ธานี, สุราษฎร์ธานี - ชุมทางหาดใหญ่ – สงขลา และชุมทางหาดใหญ่ – ปาดังเบซาร์ และส่งให้ สศช. ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 และรายงานให้กระทรวงคมนาคมทราบด้วย

นอกจากนี้ได้สั่งการให้กรมการขนส่งทางรางเร่งศึกษาการพัฒนาโครงข่ายทางรถไฟให้ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศและการใช้ประโยชน์ระบบรถไฟให้เต็มประสิทธิภาพเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อขับเคลื่อนพัฒนาระบบรางให้เป็นโครงข่ายหลักในการเดินทางและขนส่งสินค้าของประเทศในอนาคตอันใกล้

//------------------------

"ศักดิ์สยาม"เร่งรัดพัฒนาโครงข่าย รถไฟทางคู่ตามข้อสั่ง"บิ๊กตู่"
เศรษฐกิจ
วันศุกร์ ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 เวลา 12.02 น.




ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่



กระทรวงคมนาคมเร่งรัดพัฒนาโครงข่ายรถไฟทางคู่ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี เพื่อเสริมศักยภาพ ในการแข่งขันของประเทศ สร้างคุณภาพชีวิตด้านการขนส่งเดินทางที่ดีให้ประชาชน
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2563 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า กระทรวงคมนาคม เร่งเดินหน้าพัฒนาโครงข่ายระบบรางโดยเฉพาะโครงการรถไฟทางคู่ ตามข้อสั่งการสำคัญของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อเสริมศักยภาพในการแข่งขันของประเทศ สร้างคุณภาพชีวิตด้านการขนส่งเดินทางที่ดีให้ประชาชน


โดยให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ งานก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 1 จำนวน 7 โครงการ ให้เป็นไปตามแผนงานและแผนการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ ประกอบด้วย โครงการรถไฟทางคู่เส้นทาง ฉะเชิงเทรา - คลองสิบเก้า-แก่งคอย และชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น มีกำหนดเปิดให้บริการภายในปี 2563 เส้นทางลพบุรี-ปากน้ำโพ มีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2565

และเส้นทางประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร, มาบกะเบา-ชุมทางจิระ, นครปฐม-หัวหิน, หัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ มีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2566 ทั้งนี้หากเกิดปัญหาอุปสรรคที่ทำให้การดำเนินโครงการล่าช้าให้ รฟท. เร่งดำเนินการแก้ไขพร้อมรายงานให้กระทรวงคมนาคมทราบทันที

สำหรับโครงการรถไฟทางคู่เส้นทางใหม่ สายเด่นชัย - เชียงราย-เชียงของ ที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติแล้วให้ รฟท. เร่งดำเนินการประกวดราคางานก่อสร้าง ส่วนเส้นทางบ้านไผ่-มุกดาหาร - นครพนม เร่งผลักดันรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ให้ผ่านความเห็นชอบของสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) โดยเร็ว

ขณะเดียวกันให้เสนอการปรับปรุงข้อมูลโครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 จำนวน 7 โครงการ ตามความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้แก่ ปากน้ำโพ-เด่นชัย, เด่นชัย-เชียงใหม่, ขอนแก่น-หนองคาย, ชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี, ชุมพร-สุราษฎร์ธานี, สุราษฎร์ธานี - ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา และชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ และส่งให้ สศช. ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 และรายงานให้กระทรวงคมนาคมทราบด้วย

นอกจากนี้ได้สั่งการให้กรมการขนส่งทางรางเร่งศึกษาการพัฒนาโครงข่ายทางรถไฟให้ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศและการใช้ประโยชน์ระบบรถไฟให้เต็มประสิทธิภาพเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อขับเคลื่อนพัฒนาระบบรางให้เป็นโครงข่ายหลักในการเดินทางและขนส่งสินค้าของประเทศในอนาคตอันใกล้
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42628
Location: NECTEC

PostPosted: 16/02/2020 12:53 am    Post subject: Reply with quote

ทางลอยฟ้า ช่วงมวกเหล็ก
https://www.facebook.com/Siriwat.yupin/posts/2954363684629723
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44332
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 16/02/2020 7:27 pm    Post subject: Reply with quote

"จุรินทร์" สั่ง 11 ข้อขับเคลื่อนหนัก!! การค้าชายแดนไทย-มาเลเซีย
สยามรัฐออนไลน์ 16 กุมภาพันธ์ 2563 18:42 ภูมิภาค

"จุรินทร์" สั่ง 11 ข้อขับเคลื่อนหนัก!! การค้าชายแดนไทย-มาเลเซีย รุกช่วยผู้ประกอบการ 5 จังหวัดชายแดนใต้ พร้อมให้คืบหน้าทุกเรื่อง

เมื่อวันที่ 16 ก.พ. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เป็นประธานการประชุมร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อส่งเสริมการค้าชายแดนไทย-มาเลเซีย โดยมีนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ร่วมด้วยพร้อมผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน หลังการประชุม ณ โรงแรมอิมพิเรียล จังหวัดนราธิวาส

นายจุรินทร์ กล่าวว่า เรื่องการเร่งรัดก่อสร้างถนนเชื่อมโยงระหว่างด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่กับด่านศุลกากรบูกิตกายูฮิตัมของมาเลเซีย เสนอโดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศ ไทยโดยเป็นมติที่ประชุม คือ

1.จุดเชื่อมด่านสะเดาแห่งใหม่ได้ข้อยุติแล้ว ขั้นต่อไปคือกำลังสำรวจและออกแบบถนนร่วมกันโดยกรมทางหลวง คาดว่าจะแล้วเสร็จต้นเดือนมีนาคม ความยาวประมาณ 1 กม. งบประมาณประมาณ 140 ล้านบาท และคณะกรรมการร่วมทางเทคนิคจะประชุมเพื่อเห็นชอบจุดเชื่อมดังกล่าวภายในเดือนเมษายนนี้ ถ้าได้รับจัดสรรงบประมาณ จะก่อสร้างเสร็จภายใน 1 ปี แต่สามารถเปิดด่านสะเดาแห่งใหม่ได้ภายในตุลาคมนี้ โดยเชิญรถขนส่งสินค้าเข้ามาใช้บริการก่อน
2.ด้านการเร่งรัดการจัดทำร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนไทย-มาเลเซีย และร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการขนส่งผู้โดยสารทางถนนข้ามพรมแดนไทย-มาเลเซีย จะสามารถลงนาม MOU ได้ในอีกประมาณ 4 เดือน โดยไทยได้ส่งร่าง MOU ให้มาเลเซียพิจารณาแล้ว และมาเลเซ๊ยจะตอบกลับมาภายในมีนาคมนี้ และจะเสนอ ครม เห็นชอบ จากนั้นจะสามารถลงนามได้ทันที โดยสินค้าไทยสามารถข้ามพรมแดนส่งไปถึงสิงคโปร์ได้

3.การเปิดด่านศุลกากรสะเดา-บูกิตกายูฮิตัม 24 ชั่วโมง จากนี้ไทยและมาเลเซียจะร่วมกันประเมินผลความคุ้มค่าของการขยายเวลาเปิดด่านภายในเดือนเมษายนนี้ เพื่อเสนอ ครม. พิจารณาขยายเวลาต่อไปหรือไม่ ซึ่งประโยชน์ ที่เห็นชัดคือความรวดเร็วของการขนส่ง
4.การเร่งรัดก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโก-ลก ณ อำเภอสุไหงโก-ลก แห่งที่ 2(สุไหงโก-ลก-รันเตาปันยัง) ได้มอบ ศอ.บค.เป็นเจ้าภาพในการติดตามความคืบหน้า
5.การเร่งรัดก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโก-ลก ณ อำเภอตากใบ (ตากใบ-เปิงกาลันกุโบร์) โดยเร่งสร้างแพขนานยนต์อันใหม่ให้เสร็จสิ้นและให้บริการได้ภายในสิ้นปีนี้ โดยมีการตั้งงบประมาณไว้แล้ว 39 ล้านบาท โดย อบจ.นราธิวาส มอบ ศอ.บต.เร่งรัดติดตามความคืบหน้าต่อไป และสำหรับด่านบูเก๊ะตา ที่มีปัญหาในความไม่พร้อมของสถานที่ทำงานของหน่วยงาน 7 หน่วยงาน ที่ประชุมมอบศอ บตเป็นเจ้าภาพเชิญหน่วยงาน 9 หน่วยหารือ เพื่อทำให้ด่านบูเก๊ะตาใช้คอนเทนเนอร์ทำงานชั่วคราว เพื่อเร่งอำนวยความสะดวก ผปก. ให้เร็วที่สุด และหาข้อสรุปภายในสองสัปดาห์ และรองนายกฯ จะเดินทางลงมาติดตามความคืบหน้าในปลายเดือนมีนาคมนี้

6.โครงการรถไฟทางคู่ เส้นทางหาดใหญ่–ปาดังเบซาร์ ที่ประชุมเห็นชอบนโยบายให้สร้างรถไฟทางคู่ทั้งจาก กทม. ลงไป และสร้างจากสุไหงโกลกขึ้นมา พร้อมกันทีเดียว โดบ ศอ.บต. จะติดตามเรื่องนี้ และจะตั้งงบและเริ่มต้นศึกษาการสร้างรถไฟรางคู่ เส้นทางหาดใหญ่–ปาดังเบซาร์ ในปี 64
7.การลดขั้นตอนการตรวจสอบเอกสารทางพิธีการศุลกากร ณ ด่านชายแดน โดยที่ประชุมมอบ ศอ.บต. เร่งรัดการจัดการลดอุปสรรคสำหรับยานพาหนะส่วนบุคคล ที่ต้องกรอกทั้งใบสำแดงสินค้าของกรมศุลกากรและใบ ตม.2 และ 3 (Border pass) ขอให้ลดขั้นตอนให้เหลือขั้นตอนเดียว ซึ่งจากการหารือเบื้องต้น พบว่าสามารถทำได้
8.การดำเนินโครงการเมืองยางพารา (Rubber City) โดยมีความคืบหน้าว่ามิชลินซึ่งเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่จะซื้อน้ำยางสดได้หนึ่งแสนตันในปี 63 นี้ หลังจาก กนอ ตกลงไปช่วยสนับสนุนการสร้างบ่อบำบัดน้ำเสีย ให้มิชลินสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้ นอกจากนี้ กนอ จะลดค่าเช่าให้ SMEs เหลือตร ม ละ 20 บาท จาก 150 บาท เพื่อจูงใจให้มีการลงทุนเพิ่มขึ้น

9.โครงการพัฒนาท่าเทียบเรือโดยสารขนาดใหญ่ (Cruise) ที่ฝั่งอ่าวไทยและฝั่งอันดามัน ในเรื่องนี้ กรมเจ้าท่าทำการศึกษาเสร็จสิ้นแล้ว อยู่ระหว่างสรุปรูปแบบการร่วมทุนระหว่างรัฐและเอกชน (PPP) ของทั้ง 2 แห่งคือ สมุย และภูเก็ต เพื่อเสนอ ครม ในเดือนสิงหาคม ปี 2564 และระหว่าง ตค 64 และ กย 65 จะคัดเลือกผู้ร่วมทุน และทำรายงาน EIA กำหนดการก่อสร้างแล้วเสร็จปีปี 2569 เปิดบริการปี 2570
10.การส่งเสริมการตลาดสินค้าศักยภาพ 247 รายการของ 5 จังหวัดชายแดนใต้ ทั้งในประเทศและส่งออก ได้มอบกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และกรมพัฒนาธุรกิจการค้า หาทางช่วยเหลือส่งเสริมผู้ประกอบการขายออนไลน์และอื่นๆ รวมทั้งการเจรจากับบริษัทไปรษณีย์ไทยในการให้สร้างโปรโมชั่นพิเศษกับภาคเอกชนในการขนส่ง และจะขอข้อสรุปเรื่องนี้ตอนลงมาดูด่านบูเก๊ะตาในเดือนมีนาคม2563 นี้
11.กรณีไม่สามารถส่งออกนมและแป้งข้าวเจ้าไปมาเลเซียได้นั้น ได้มอบหมายกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ให้นำเข้าที่ประขุม JTC คณะกรรมการร่วมทางการค้าไทย-มาเลเซีย ครั้งหน้าต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42628
Location: NECTEC

PostPosted: 19/02/2020 1:01 pm    Post subject: Reply with quote

รถไฟทางคู่สายใต้”นครปฐม-ชุมพร”สร้างลิ่วเกินครึ่ง
*เคลียร์จบทุกปัญหาลุ้นเปิดบริการปลายปี64
*ถอดบทเรียนแยกสัญญาสร้าง-งานสัญญาณ
*เปิดเดินรถล่าช้าค่าเสียโอกาสปีละ730ล้าน

รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) แจ้งว่าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม-ชุมพร ระยะทาง 421 กิโลเมตร (กม.) 5 สัญญา วงเงิน 33,982 ล้านบาทขณะนี้ภาพรวมการก่อสร้างมีความคืบหน้าประมาณ 54% ล่าช้ากว่าแผนประมาณ 2.6%
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/2527228270832009
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44332
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 19/02/2020 7:56 pm    Post subject: Reply with quote

^^^
ทางคู่สายใต้นครปฐม-ชุมพรไปเกินครึ่ง
เดลินิวส์ (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563
เคลียร์จบทุกปัญหาลุ้นเปิดปลายปี64
จี้ประมูลรวมสัญญาณไม่เสียโอกาส

รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศ ไทย (รฟท.) แจ้งว่าความคืบหน้าโครงการการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ช่วงนครปฐม-ชุมพรระยะทาง 421 กิโลเมตร (กม.)5 สัญญาวงเงิน 33,982 ล้านบาทภาพรวมการก่อสร้างคืบหน้าประมาณ 54% ล่าช้ากว่าแผนประมาณ 2.6% ถือว่ายังยอมรับได้โดยสาเหตุที่ล่าช้าเนื่องจากพื้นที่ก่อสร้างบางจุดยังติดปัญหาต่าง ๆ อาทิ จุดตัดทางผ่านภายในเมืองและปัญหาผู้บุกรุกพื้นที่อย่างไรก็ตามปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้ได้ข้อยุติทั้งหมดแล้วและกำลังเดินหน้าก่อสร้างต่อไปได้

รายงานข่าวจาก รฟท.แจ้งต่อว่าสำหรับสัญญาที่ 1 ช่วงนครปฐม-หนองปลาไหล 93 กม.บริษัท เอ.เอส.แอสโซซิเอทเอนยิเนียริ่ง 1964 จำกัดเป็นผู้รับจ้าง การก่อสร้างคืบหน้า 52% ช้ากว่าแผน 13%, สัญญาที่ 2 ช่วงหนองปลาไหล-หัวหิน 76 กม.บริษัทซิโน-ไทยเอ็นจีเนียริ่ง แอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด เป็นผู้รับจ้างคืบหน้า 60% เร็วกว่าแผน 6.2%, สัญญาที่ 3 ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ 84 กม. บริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับจ้างคืบหน้า 57% ช้ากว่าแผน 14%, สัญญาที่ 4 ประจวบคีรีขันธ์บางสะพานน้อย 88 กม.กิจการร่วมค้าเคเอสซีเป็นผู้รับจ้าง คืบหน้า 47% เร็วกว่าแผน 3.7% และสัญญาที่ 5 บางสะพานน้อย-ชุมพร 80 กม.กิจการร่วมค้าเอสทีทีพี เป็นผู้รับจ้างคืบหน้า 40% เร็วกว่าแผน 5.5%

รายงานข่าวจาก รฟท.แจ้งอีกว่าคาดว่า โครงการการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ช่วงนครปฐม-ชุมพรน่าจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการได้ตามแผนเร็วสุดประมาณปลายปี 64 ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับการติดตั้งระบบอาณัติ สัญญาณด้วยว่าจะดำเนินการได้ตามแผนหรือไม่ต้องยอมรับว่าหลังจากนี้ต้องมาทบทวน เรื่องการเปิดประกวดราคา (ประมูล) แบบแยกสัญญาระหว่างงานก่อสร้างกับงานติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณซึ่งข้อดีของการแยกสัญญาทำให้เกิดการแข่งขันที่หลากหลายแต่ข้อเสีย ทำให้รฟท.เสียโอกาสเปิดเดินรถล่าช้า เช่น โครงการสร้างเสร็จแล้วแต่ต้องรอการติดตั้งระบบอาณัติ สัญญาณอีก 1-2 ปีจึงเปิดเดินรถได้

รายงานข่าวจาก รฟท.แจ้งด้วยว่าที่ผ่านมาการประมูลโครงการก่อสร้างต่าง ๆ จะรวมงานก่อสร้างและงานติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณเป็นสัญญาเดียวกันเช่น รถไฟทางคู่ ช่วง ชุมทางจิระ-ขอนแก่นและแก่งคอย-คลอง 19 เมื่อโครงการก่อสร้างเสร็จสามารถเปิดเดินรถได้ทันที ทั้งนี้ค่าเสียโอกาสที่ รฟท.ต้องเสียไป หากเปิดบริการล่าช้าไม่ต่ำกว่า 1-2 ปีจะอยู่ที่ประมาณวันละ 5 แสนบาทต่อ 100 กิโลเมตร(กม.) ซึ่งโครงการรถไฟทางคู่สายใต้มีระยะทางกว่า 400 กม.รฟท.เสียโอกาสเปิดเดิน รถล่าช้าประมาณวันละ 2 ล้านบาทหรือปีละ 730 ล้านบาทเป็นค่าเสียโอกาสมูลค่ามหาศาลถือเป็นบทสะท้อนและเป็นคำถามให้ผู้ที่ เกี่ยวข้อง ต้องกลับมาทบทวนกันใหม่ว่าการเปิดประมูลโครงการรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 จะดำเนินการอย่างไร.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42628
Location: NECTEC

PostPosted: 20/02/2020 3:04 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
ทางลอยฟ้า ช่วงมวกเหล็ก
https://www.facebook.com/Siriwat.yupin/posts/2954363684629723


ความก้าวหน้าอุโมงทางคู่ มาบกระเบาไปถนนจิระ
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=2985994218129789&id=426629864066250
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42628
Location: NECTEC

PostPosted: 21/02/2020 10:06 am    Post subject: Reply with quote

ลุยทางคู่ “มาบกะเบา-จิระ” สัญญา 2
หน้าเศรษฐกิจมหภาค - Mega Project
วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2563

บอร์ด ร.ฟ.ท.เห็นชอบโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ เส้นทางมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ สัญญา 2 เร่งเสนอครม.ไฟเขียว มี.ค.-เม.ย.นี้ ขณะที่ผลการประมูลจัดซื้อรถจักรดีเซลไฟฟ้า ถูกเลื่อน หลังกรรมการหลายรายติดภารกิจ


นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟฯ ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ เส้นทางมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ สัญญาที่ 2 ช่วงคลองขนานจิตร-ชุมทางถนนจิระ มูลค่า 1.1 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่เฟสที่ 1 ที่ยังตกค้าง หลังจากนั้น การรถไฟฯ จะต้องเสนอเรื่องให้กระทรวงคมนาคมและคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอีกครั้ง เนื่องจากวงเงินลงทุนใหม่เกินงบประมาณที่ ครม. เคยเห็นชอบไว้ โดยคาดว่าจะเสนอเรื่องให้ที่ประชุม ครม. พิจารณาได้ในช่วงเดือนมี.ค.-เม.ย. 2563 จากนั้นจะเปิดประมูลงานโยธา ครั้งที่ 2 ในช่วงเดือนก.ค.-ส.ค. 2563

นายวรวุฒิ กล่าวต่อว่า สำหรับผลการประมูลจัดซื้อรถจักรดีเซลไฟฟ้า (Diesel Electronic Locomotive) น้ำหนักกดเพลา 16 ตันต่อเพลา พร้อมอะไหล่ จำนวน 50 คัน ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ราคากลาง 6,562 ล้านบาทนั้น ขณะนี้ที่ประชุมบอร์ดยังพิจารณาไม่ทันในครั้งนี้ เนื่องจากกรรมการหลายท่านติดภารกิจและขออนุญาตกลับก่อนในช่วงเที่ยง เพราะฉะนั้นจึงขอให้เลื่อนวาระนี้ไปพิจารณาในการประชุมบอร์ดครั้งถัดไป โดยคาดว่าจะมีการประชุมอีกครั้งภายในสิ้นเดือน ก.พ.นี้

นอกจากนี้ บอร์ดฯ การรถไฟ เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาของบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างการรถไฟฯ และกรมทางหลวง (ทล.) ที่มอบหมายให้กรมทางหลวงเป็นผู้ก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เฟสที่ 1 ช่วงกลางดง-ปางอโศก ระยะทาง 3.5 กิโลเมตรแรก ให้ไปสิ้นสุดในเดือนกันยายน 2563 โดยบอร์ดฯ การรถไฟ เน้นย้ำว่า ขอให้การขยายระยะเวลา MOU ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42628
Location: NECTEC

PostPosted: 21/02/2020 10:08 am    Post subject: Reply with quote


ความ้าวหน้าทางคู่ช่วงมาบกระเบาปางอโศก
https://www.youtube.com/watch?v=LIOTNZpyZj8
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44332
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 25/02/2020 6:33 am    Post subject: Reply with quote

รฟท.เดินหน้าลุยรถไฟรางคู่ระยอง-ตราด | เนชั่นขยี้ข่าวเช้า | NationTV22
Feb 24, 2020
NationTV22


https://www.youtube.com/watch?v=kk8UWunAuMU
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44332
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 25/02/2020 6:42 am    Post subject: Reply with quote

รฟท.วัดใจสศช.ให้ผ่าน 3 สาย
เดลินิวส์ (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

ทางคู่เฟส 2 ลุ้นประเดิมก่อนจาก 7 ชาวบ้านเชียร์รางใหม่ตะวันออก

นายวรวุฒิ มาลารักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายชุมทางศรีราชา-ระยอง และมาบตาพุด-ระยองจันทบุรี-ตราด-คลองใหญ่ซึ่งเป็นเส้นทางสายใหม่ที่จะเดินรถผ่าน 4 จังหวัด ได้แก่ จ.ชลบุรี จ.ระยอง จ.จันทบุรี และ จ.ตราด ว่า ศึกษาความเหมาะสมของโครงการเสร็จแล้วตั้งแต่เดือน ม.ค.ที่ ผ่านมา ประชาชนและภาคเอกชนให้การตอบรับดีมาก

เบื้องต้นมีระยะทางกว่า 200 กม. วงเงินลงทุน 5-6 หมื่นล้านบาท มีเป้าหมายสนับสนุนพื้นที่พัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ขนส่งสินค้าและการท่องเที่ยว โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มผลไม้ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมสำคัญของ ภาคตะวันออก และส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศจำนวน มาก ทั้งนี้ตั้งเป้าของบประมาณประจำปี 64 ใช้เวลาออกแบบประมาณ 1 ปี จากนั้นจะเสนอสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.), กระทรวงคมนาคม และคณะรัฐมนตรี (ครม.) พร้อมกับออก พ.ร.ฎ.เวนคืนที่ดิน หากไม่ติดปัญหาอะไรคาดว่าจะเปิดประมูลได้ปลายปี 65

รายงานข่าวจาก รฟท. แจ้งความคืบหน้าโครงการรถไฟทางคู่ระยะ (เฟส) ที่ 2 ด้วยว่า รฟท. ได้ศึกษาโครงการทั้ง7 เส้นทาง ระยะทางรวมกว่า 1,400 กิโลเมตร (กม.) เสร็จเรียบร้อยแล้ว ประกอบด้วย1.ช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัย, 2.ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่, 3.ช่วงขอนแก่น-หนองคาย, 4.ช่วงชุมทางถนน จิระ-อุบลราชธานี, 5.ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ ธานี, 6.ช่วงสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่สงขลา และ 7.ช่วงชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ อยู่ระหว่างนำเสนอข้อมูลเพิ่มเติมให้ สศช.พิจารณา

รายงานข่าวจาก รฟท. แจ้งต่อว่า เบื้องต้นคาดว่าสศช. อาจไม่อนุมัติให้พัฒนาทุกโครงการคาดว่าน่าจะให้เริ่มดำเนินการในโครงการที่มีความเหมาะสม และจำเป็นที่สุดก่อน 3 เส้นทาง ได้แก่ ช่วงขอนแก่นหนองคาย เนื่องจากเป็นแนวเส้นทางที่เชื่อมต่อกับรถไฟทางคู่ เฟสที่ 1 ช่วงชุมทางถนนจิระจนมาถึงแก่งคอย และสามารถต่อมายังท่าเรือมาบตาพุดได้ นอกจากนี้น่าจะเป็นช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี เนื่องจากปัจจุบันรถไฟทางคู่มีการพัฒนาไปถึงช่วงชุมพรและต่อจากนั้นยังเป็นรางเดี่ยว ส่งผลให้มีปัญหาคอขวด ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานีหากได้รับการอนุมัติก็จะช่วยลดปัญหาลงได้ ขณะเดียวกันช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี ก็น่าจะให้ดำเนินการพัฒนาเพราะเป็นเส้นทางที่จะช่วยสนับสนุนการเดินทางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีปริมาณความต้องการเดินทางสูงอย่างต่อเนื่องได้อย่างดี.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 254, 255, 256 ... 388, 389, 390  Next
Page 255 of 390

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©