View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
CENTENNIAL
1st Class Pass (Air)
Joined: 30/03/2006 Posts: 3642
Location: Thailand
|
Posted: 23/05/2007 2:16 pm Post subject: |
|
|
เจอแล้วครับข่าว นิดหน่อยก็ยังดี
รมว.คมนาคม คาดเปิดประมูลรถไฟทางคู่ มูลค่า 5.8 พันลบ.ในก.ค.นี้
14:52 น.
รมว.คมนาคม คาดว่า จะเปิดประมูลโครงการรถไฟทางคู่ ฉะเชิงเทรา-ศรีราชา-แหลมฉบัง มูลค่า 5.8 พันล้านบาทได้ในเดือนก.ค.นี้
"รถไฟทางคู่ กระบวนการประกวดราคาจะเริ่มในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้"พล.ร.อ.ธีระ ห้าวเจริญ รมว.คมนาคม กล่าวแถลงข่าว หลังเมื่อช่วงเช้าคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติโครงการรถไฟทางคู่ดังกล่าว
ที่มา ข่าวด่วน สำนักข่าเนชั่น ประจำวันที่ 22 พฤษภาคม 2550 http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=260053&lang=T |
|
Back to top |
|
|
puggi
3rd Class Pass
Joined: 04/07/2006 Posts: 119
|
Posted: 23/05/2007 5:09 pm Post subject: |
|
|
สร้างรางคู่แล้ว สิ่งที่ต้องทำต่อไป
ควรจะ จัดหาหัวรถจักรมาเพิ่มขึ้น ไม่งั้น ต่อให้มีรางคู่ แต่ ไม่มีหัวรถจักร์มาวิ่ง
ใช้ของเดิมไปเรื่อย ก็ไม่สามารถเพิ่มศักยภาพของรางคุ่ที่เพิ่มขึ้นมาได้ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42628
Location: NECTEC
|
Posted: 23/05/2007 7:52 pm Post subject: |
|
|
เออ หนะ ได้เงินกู้ มาสร้างทางคู่ มันก็ต้องกันส่วนไว้ซื้อรถจักร รถพ่วง รถโดยสาร เพิ่มเติมอยู่แล้ว นี่ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42628
Location: NECTEC
|
Posted: 09/06/2007 8:11 pm Post subject: |
|
|
คมนาคมเร่งร.ฟ.ท.ประมูลรถไฟฟ้ารางคู่
สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบสัญญาณแอร์พอร์ตลิงค์
[สยามธุรกิจ ฉบับที่ 800 ประจำวันที่ 9-6-2007 ถึง 12-6-2007]
นายสรรเสริญ วงศ์ชะอุ่ม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ตนเองได้สอบถามการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ถึงความคืบหน้าโครง การก่อสร้างรถไฟทางคู่ จากฉะเชิงเทรา-ศรีราชา-แหลมฉบัง ระยะทาง 78 กิโลเมตร มูลค่า 5,850 ล้านบาท และโครงการรถไฟสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ระยะทาง 15 กิโลเมตร มูลค่า 13,133 ล้านบาท ซึ่งทางผู้บริหาร ร.ฟ.ท.รายงานว่า ขณะนี้ได้เผยแพร่รายละเอียดเงื่อนไขการประกวดราคาหรือ ทีโออาร์ โครงการรถไฟทางคู่ในเว็บไซต์แล้ว เพื่อรับฟังความคิดเห็น และข้อเสนอแนะจากประชาชนทั่วไป และผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งยืนยันว่าทั้ง 2 โครงการ จะเปิดขายเอกสารประกวดราคาได้ในเดือนกรกฎาคม 2550 นี้ จากเดิมที่คาดว่าจะเปิดประกวดราคาในเดือนสิงหาคม 2550
สำหรับโครงการรถไฟทางคู่มูลค่า 5,850 ล้านบาท ประกอบด้วย ค่าก่อสร้าง 5,602 ล้านบาท ค่าจ้างที่ปรึกษาจัดทำผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมค่าจ้างที่ปรึกษาออก แบบก่อสร้าง จัดทำเอกสารประกวดราคา และค่าจ้างที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้าง รวม 248 ล้านบาท จะใช้เวลาก่อสร้าง 28 เดือน กำหนดแล้วเสร็จในปี 2553 ขณะที่โครงการรถไฟสายสีแดง คาดว่าจะเริ่มต้นก่อสร้างในเดือนกุมภาพันธ์ 2551
นายสรรเสริญ ยังกล่าวถึงโครงการระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและสถานีรับส่งผู้โดยสารอากาศยานในเมือง หรือ แอร์พอร์ตลิงค์ ว่า ร.ฟ.ท.อยู่ระหว่างหารือกับกระทรวงการ คลังถึงแนวทางการจัดหาเงินค่าก่อสร้างเพื่อจ่ายให้กลุ่มกิจการร่วมค้าบี.กริมม์อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งมีบริษัท ซิโนไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นแกนนำ ซึ่งสัญญาระบุว่า บริษัทต้องส่งมอบงานโยธา ในวันที่ 7 สิงหาคม 2550 นี้
อย่างไรก็ตาม ตน เองได้สั่งการให้ทาง ร.ฟ.ท. เร่งตั้งคณะกรรมการ เพื่อตรวจสอบรายละเอียดสัญญาว่าจ้างว่าเป็นสัญญาที่ถูกต้องหรือไม่ สามารถขยายอายุสัญญาได้หรือไม่ เพราะผู้รับเหมา เสนอให้ขยายเวลาการก่อสร้างออกไป เพราะ ร.ฟ.ท.ส่งมอบพื้นที่ล่าช้า หากสัญญามีความถูกต้อง ก็ต้องพิจารณาข้อเท็จจริงในการขยายเวลา ซึ่งร.ฟ.ท.ต้องหาข้อสรุปให้ได้ก่อนวันที่ 7 สิงหาคม 2550 นี้
นอกจากนี้ ยังได้มีคำสั่งให้คณะกรรมการ ซึ่งแต่งตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานและ ดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ.2535 ซึ่งมี นายนคร จันทศร รองผู้ว่าการ ร.ฟ.ท.เป็นประธาน เร่งว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษา จำนวน 2 ราย เพื่อประเมินราคาทรัพย์สินบริเวณสาม เหลี่ยมย่านพหลโยธิน หรือห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล และโรงแรมโซฟิเทลในปัจจุบัน ซึ่งสัญญาเช่าดังกล่าวจะครบกำหนดในปี 2551 จึงต้องนำข้อมูลตัวเลขมูลค่าทรัพย์สินมาประกอบการพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
นายสรรเสริญ กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ ทางกระทรวงคมนาคมได้มอบหมายให้ ร.ฟ.ท. ทำหนังสือไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อพิจารณาว่า การเปิดประมูลหา ผู้เช่ารายใหม่ โดยไม่พิจารณาสัญญาเดิมนั้น สามารถดำเนินการได้หรือไม่ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42628
Location: NECTEC
|
Posted: 15/06/2007 5:11 pm Post subject: |
|
|
ผู้รับเหมาสับสน รฟท. ล็อกสเปก
แนวหน้า วันที่ 12 / 6 / 2550 เวลา9:15:20 น.
"แหล่งข่าวจากบริษัทรับเหมาก่อสร้าง เปิดเผยถึงกรณีที่ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ประกาศรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างเอกสารประกวดราคา งานจ้างก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ สายชายฝั่งทะเลตะวันออก ช่วงฉะเชิงเทรา-ศรีราชา-แหลมฉบัง ระยะทาง 78 กม. พร้อมติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณ และโทรคมนาคม ราคากลาง 5,294 พันล้านบาท ว่า ผู้รับเหมาสับสนเกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้เสนอราคา"
ทั้งนี้ รฟท.กำหนดเงื่อนไขว่า ผู้เสนอราคาต้องมีผลงานที่มีสัญญาจ้างโดยตรงกับหน่วยงานของราชการ หรือรัฐวิสาหกิจ หรือเอกชน ทั้งในหรือต่างประเทศ ซึ่งจะต้องมีผลงาน ดังต่อไปนี้ คือ
ผลงานก่อสร้างคันทางรถไฟเฉพาะงานคันทาง (CIVIL WORKS) ไม่รวม TRACK WORKS และ/หรือก่อสร้างถนน และ/หรือ ทางลอด และ/หรือ ทางยกระดับ ที่มีมูลค่าก่อสร้างในสัญญาเดียวไม่น้อยกว่า 700 ล้านบาท
ผลงานก่อสร้างทางรถไฟ เฉพาะงาน TRACK WORKS ไม่รวมงาน CIVIL WORKS และ/หรือ งานปรับปรุงทางรถไฟ และ/หรือ เปลี่ยนหมอนคอนกรีตในทางรถไฟ และ/หรือ เปลี่ยนรางในทางรถไฟ และ/หรือ ซ่อมทางรถไฟ ที่มีมูลค่าในสัญญาเดียวไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม เงื่อนไขที่กำหนดอาจแปลความหมายได้ 2 อย่าง คือ
งานก่อสร้างคันทางรถไฟ ผู้รับเหมาสามารถนำผลงานก่อสร้างถนน ทางลอด และทางยกระดับ มาเสนอเป็นผลงานได้ และ2.ผู้รับเหมาไม่สามารถนำผลงานดังกล่าว มาเสนอเป็นผลงานได้
"หากตีความว่าไม่สามารถนำผลงานเหล่านี้มาเสนอได้ ก็เท่ากับการล็อกสเปก เพราะจะมีบริษัทที่มีคุณสมบัติเข้าข่ายน้อยมาก เพราะที่ผ่านมางานก่อสร้างทางรถไฟมีน้อย ทำให้มีบริษัทเพียง 2-3 รายเท่านั้นที่เคยผ่านงานก่อสร้างทางรถไฟ" แหล่งข่าวกล่าว
ด้านนายบัญชา คงนคร รักษาการผู้ว่าการ รฟท. กล่าวชี้แจงเรื่องดังกล่าวว่า รฟท. ยังอยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างเอกสารประกวดราคา หากมีข้อสงสัย สามารถติดต่อมาได้ โดยรฟท. จะชี้แจงข้อสงสัยต่างๆ ก่อนให้ยื่นข้อเสนอ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42628
Location: NECTEC
|
Posted: 21/06/2007 12:50 pm Post subject: |
|
|
รถไฟรางคู่"แหลมฉบัง"ตั้งไข่แล้วประมูลก.ค.นี้
ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2550 ปีที่ 31 ฉบับที่ 3907 (3107)
การรถไฟฯดีเดย์เดือนกรกฎาคมเปิดประมูลรถไฟทางคู่ช่วงฉะเชิงเทรา-ศรีราชา-แหลมฉบัง ระยะทาง 78 กิโลเมตร วงเงิน 5,850 ล้านบาท ใช้เวลาก่อสร้าง 28 เดือน ด้านผู้รับเหมาค้านแหลก ทีโออาร์เอื้อให้รับเหมาขาใหญ่ ล็อกคอต้องหาจอยต์เวนเจอร์ต่างชาติติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณ จับตา "อิตาเลียนไทย-เอ.เอส.ฯ-ซีเมนส์" เต็งจ๋า
นายนคร จันทศร รองผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ประมาณปลายเดือนกรกฎาคมนี้ ร.ฟ.ท.จะประกาศเชิญชวนผู้รับเหมาก่อสร้างประกวดราคาด้วยระบบอีออกชั่นโครงการก่อ สร้างรถไฟทางคู่ สายชายฝั่งทะเลตะวันออกช่วงฉะเชิงเทรา-ศรีราชา-แหลมฉบัง พร้อมติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม รวมระยะทาง 78 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 5,850 ล้านบาท เป็นงานโยธา 3,000 ล้านบาท งานราง 1,300 ล้านบาท งานระบบอาณัติสัญญาณ 940 ล้านบาท ใช้เวลาก่อสร้าง 28 เดือน
ขณะนี้กำลังประมวลข้อมูลหลังจากที่ได้นำร่างทีโออาร์ประกาศลงในเว็บไซต์ และมีการเสนอข้อคิดเห็นเข้ามาเช่น ให้มีการแยก 2 สัญญา เป็นงานโยธาและงานระบบอาณัติสัญญา เห็นว่าทุนจดทะเบียนที่กำหนดไว้ 500 ล้านบาทสูงเกินไป ผลงานมีการกำหนดวงเงินสูงเกินไป เป็นต้น ซึ่ง ร.ฟ.ท.กำลังพิจารณาว่าจะปรับเปลี่ยนทีโออาร์ ตามข้อเสนอหรือไม่ ถ้าทำตามจะต้องปรับรายละเอียดร่างทีโออาร์ใหม่ แล้วเสนอให้คณะกรรมการ (บอร์ด) พิจารณาก่อนประกาศให้ผู้รับเหมามาซื้อเอกสารประกวดราคา
"โครงการนี้มีความสำคัญเร่งด่วนที่จะต้องก่อ สร้าง เพื่อรองรับการขนส่งตู้คอนเทน เนอร์ น้ำมัน ก๊าซแอลพีจี และสินค้าเกษตรที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะได้มีการขยายท่าเรือแหลมฉบัง"
นายนครกล่าวว่า สำหรับคุณสมบัติของผู้รับเหมาทีโออาร์ระบุว่า ต้องมีประสบการณ์งานโยธา งานทางรถไฟ งานอาณัติสัญญาณและโทร คมนาคมของรถไฟ ทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท มีแบงก์การันตีจากสถาบันการเงิน 1,500 ล้านบาท
มีผลงานสร้างคันทางรถไฟเฉพาะงานคันทาง ไม่รวมงานราง ไม้หมอน หรือมีผลงานถนน สะพาน ทางลอด ทางยกระดับที่มีมูลค่าก่อสร้างในสัญญาเดียวไม่น้อยกว่า 700 ล้านบาท
นอกจากนี้ จะต้องมีผลงานก่อสร้างทางรถไฟเฉพาะงานราง ไม่รวมงานโยธา หรือมีผลงานปรับปรุงทางรถไฟ เปลี่ยนหมอนคอนกรีตในทางรถไฟ เปลี่ยนรางในทางรถไฟ ซ่อมทางรถไฟ มีมูลค่าในสัญญาเดียวไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท ผลงานการออกแบบ ติดตั้งระบบอาณัติ สัญญาณและโทรคมนาคมของงานรถไฟในสัญญาเดียวไม่น้อยกว่า 300 ล้านบาท ต้องเป็นผลงานที่แล้วเสร็จเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 10 ปีนับถึงวันที่ยื่นซอง
แหล่งข่าวจากวงการรับเหมาก่อสร้างให้ความเห็นว่า งานนี้ผู้รับเหมาถูกบังคับให้ต้องหาจอยต์เวนเจอร์ที่เป็นต่างชาติ เพราะมีงานระบบอาณัติสัญญาณเข้ามาด้วย ซึ่งในวงการจะมีเพียงไม่กี่รายเช่น ซีเมนส์ อัลสตรอม อัลคาเทล อัลซาโด้ บอม บาดิเอร์ แอลจี เป็นต้น ส่วนผู้รับเหมาที่เคยรับงานของ ร.ฟ.ท.ในลักษณะนี้ก็มีไม่กี่รายเช่นเดียวกัน อาทิ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) บริษัท เอ.เอส. แอสโซซิเอท จำกัด เป็นต้น |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 21/06/2007 1:29 pm Post subject: |
|
|
ทำไงได้ครับ ก่อสร้างทางรถไฟพร้อมติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณ จะมีใครสักกี่คน ? ที่มีประสบการณ์ด้านนี้พร้อมๆ กัน
ถ้าแยกสัญญา ก่อสร้างทางเสร็จ ต้องรอติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณอีกปีเศษ กว่าจะเดินขบวนรถได้ พอดีรายได้หายหมด... |
|
Back to top |
|
|
nathapong
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 3515
Location: Ayuthaya - Lamlukka - Navanakhon - Silom
|
Posted: 21/06/2007 3:03 pm Post subject: |
|
|
หึหึ... ขนาดเริ่มต้นที่จะเปิดประมูล
เริ่มมีเสียง จากคนมีได้มีเสียซะแล้ว.... |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42628
Location: NECTEC
|
Posted: 10/07/2007 1:17 pm Post subject: |
|
|
'หมอบุญ'ออกหน้าให้เงินกู้สร้างรถไฟฟ้า-ทางคู่
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 2233 08 ก.ค. - 11 ก.ค. 2550
การรถไฟฯ สรุปกรอบประมูลโครงการทางคู่ สายฉะเชิงเทรา-ศรีราชา-แหลมฉบัง 78 กิโลเมตร พร้อมกำหนดราคากลางกว่า 5.2 พันล้านบาท เตรียมประกาศร่างทีโออาร์รับฟังความคิดเห็นรอบ 2 วันที่ 9 ก.ค.นี้ คาดเริ่มขายซองต้นเดือนส.ค. พร้อมลงนามจ้างก่อร้างได้ปลายต.ค.50 นี้แน่ ด้านวงการรับเหมาคึกคัก "หมอบุญ" จูงมือพันธมิตรจากจีนออกหน้าให้รัฐบาลกู้เงินสร้างรถฟ้า-ทางคู่ทั่วประเทศ ส่วน "ซิโน-ไทย" "ช.การช่าง" "อิตาเลียนไทย" "เนาวรัตน์พัฒนาการ" "แอสคอน" เตรียมร่วมวงชิงดำ
แหล่งข่าวระดับสูงรายหนึ่งจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า จากการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟฯ เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ.2550 นั้น ที่ประชุได้มีมติเห็นชอบในร่างเอกสารประกวดราคาจ้างก่อสร้างโครงการก่อสร้างทางคู่ สายชายฝั่งทะเลตะวันออก ช่วงฉะเชิงเทรา-ศรีราชา-แหลมฉบัง พร้อมติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ระยะทาง 78 กิโลเมตร โดยมีราคากลางทั้งสิ้น 5,294,047,000 บาท (ห้าพันสองร้อยเก้าสิบสี่ล้านสี่หมื่นเจ็ดพันบาทถ้วน)
โดยรายละเอียดที่มีการปรับแก้ไข ตารมที่มีผู้เสนอความคิดเห็นมาจากการประกาศร่างทีโออาร์ครั้งที่ 1 คือ การปรับลดวงเงินทุนจดทะเบียนทั้งในกรณีที่เป็นนิติบุคคลไทยรายเดียว และกรณีที่เป็นกลุ่มผู้ร่วมค้า จาก 500 ล้านบาทถ้วน เป็น 300 ล้านบาทถ้วน เพื่อให้มีผู้รับเหมาสามารถเข้าร่วมประมูลได้มากรายขึ้น รวมถึงเปิดกว้างให้ผู้รับเหมาสามารถรับช่วงงานต่อในส่วนของงานระบบสื่อสารได้ด้วย
แหล่งข่าวรายเดิมระบุต่อว่า ในส่วนรายละเอียดอื่นๆ นั้นไมได้มีการเปลี่ยนแปลงไร ยังคงเป็นไปตามเงื่อนไขเดิม คือ โครงการก่อสร้างทางคู่ฯ นี้จะรวมงานทั้งโครงสร้างโยธา ราง ระบบสื่อสารและอาณัติสัญญาณเป็นสัญญาเดียว โดยคุณสมบัติของผู้เสนอราคานั้นต้องเป็นผู้รับเหมาที่มีประสบการณ์ในงานก่อสร้างประเภท งานโยธา งานทางรถไฟ งานอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคมของรถไฟ จะเป็นนิติบุคคลไทยรายเดียว หรือนิติบุคคลไทยหลายรายร่วมกันในลักษณะกลุ่มผู้ร่วมค้าก็ได้ หรือหากเป็นนิติบุคคลต่างด้าว จะต้องร่วมกับนิติบุคคลไทยอย่างน้อย 1 ราย ร่วมกันในลักษณะกลุ่มผู้ร่วมค้า มีคนไทยถือหุ้นไม่น้อยกว่า 50%
อีกทั้งยังมีคุณสมบัติที่สำคัญอื่นๆ ประกอบด้วย คือ ผู้เสนอราคาจะต้องมีหนังสือรับรองการให้สินเชื่อจากธนาคารคิดเป็นวงเงินรวมไม่น้อยกว่า 1,500 ล้านบาทถ้วน รวมถึงต้องมีผลงานก่อสร้างคันทางรถไฟ หรืองานก่อสร้างถนน ทางลอด หรือทางยกระดับ ที่มีมูลค่าก่อสร้างในสัญญาเดียวไม่ต่ำกว่า 700 ล้านบาท หรือมีผลงานก่อสร้างทางรถไฟ เฉพาะงานวางราง งานปรับปรุงทางรถไฟ ที่มีมูลค่าในสัญญาเดียวไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท
ทั้งนี้คาดว่าหลังจากที่ปรับแก้รายละเอียด ปรับภาษาให้ชัดเจนตามข้อแนะนำของบอร์ดเรียบร้อยแล้ว จะสามารถออกประกาศร่างทีโออาร์ครั้งที่ 2 ได้ในวันที่ 9 กรกฎาคมนี้ เพื่อรับฟังความคิดเห็นอีก 3 วัน จากนั้นจะนำมาปรับแก้ไขและนำเสนอให้บอร์ดพิจารณาอีกครั้ง ซึ่งคาดว่าจะออกประกาศทีโออาร์ฉบับจริงพร้อมทั้งประกาศขายซองได้ในช่วงต้นเดือนสิงหาคมนี้ จากนั้นจะให้เวลาในการยื่นข้อเสนอส่งกลับมายังการรถไฟฯ ภายใน 30 วัน โดยการรถไฟฯ จะใช้เวลาในการพิจารณาคุณสมบัติและประกาศรายชื่อผู้ที่ผ่านการพิจารณาภายใน 1 สัปดาห์ ซึ่งเชื่อว่าจะประกาศรายชื่อผู้ที่ผ่านการคัดเลือกได้ต้นเดือนตุลาคม และจะลงนามในสัญญาจ้างก่อสร้างได้ในตอนปลายเดือนตุลาคม พ.ศ.2550 นี้อย่างแน่นอน แหล่งข่าวกล่าว
ด้านความเคลื่อนไหวจากกลุ่มบริษัทรับเหมาก่อสร้างก็ยังคงคึกคัก และให้ความสนใจที่จะเข้าร่วมประมูลงานก่อสร้างโครงการนี้ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นายแพทย์บุญ วนาสิน ประธานกรรมการ บริษัท ราชธานีบ้านและที่ดิน จำกัด ซึ่งได้กล่าวกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า บริษัทมีความสนใจที่จะเข้าร่วมประมูลงานก่อสร้างโครงการก่อสร้างทางคู่ฯ สายนี้อย่างแน่นอน ซึ่งขณะนี้ได้ทำความตกลงร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ กับกลุ่มบริษัท CHINA RAILWAY BUREAU CROUP CO.,LTD และ บริษัท คริสเตียนีและนีลเส็น(ไทย) จํากัด (มหาชน) เพื่อเตรียมตัวเข้าร่วมประกวดราคาแล้ว
นอกจากนั้นกลุ่มบริษัท CHINA RAILWAYฯ ซึ่งเป็นบริษัทที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีนอย่างเต็มที่ ยังแสดงความสนใจที่จะเสนอตัวเป็นแหล่งเงินกู้ให้แก่รัฐบาลไทยด้วย ซึ่งไม่ใช่เพียงในส่วนของโครงการก่อสร้างทางคู่ แต่รวมไปถึงโครงการรถไฟฟ้าทุกสายทางที่อยู่ในแผนงานของรัฐบาล โดยภายในเดือนนี้ตัวแทนผู้บริหารสูงสุดของบริษัทจะเดินทางมาเข้าพบเพื่อเจรจากับรัฐบาลไทยเพื่อเสนอเงื่อนไขให้พิจารณาด้วย ซึ่งในส่วนตัวแล้วเห็นว่าแม้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่รัฐบาลจีนเสนอมาจะอยู่ในอัตรา 4%-6% สูงกว่าข้อเสนอของธนาคารเพื่อความร่วมมือแห่งประเทศญี่ปุ่น หรือเจบิค แต่ก็ถือเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย
รวมถึง นายสมพงษ์ ฝึกการค้า กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางกอก ไมโครบัส จำกัด เปิดเผยว่า ยังคงสนใจร่วมประมูลงานก่อสร้างรถไฟทางคู่อยู่ ซึ่งขณะนี้กำลังทำข้อตกลงร่วมกับพันธมิตรจากประเทศจีน คือ บริษัท CHINA RAILWAY 18 th BUREAU CROUP CO.,LTD และคาดว่าจะเปิดตัวได้ในเร็วๆ นี้
ด้านนายวัชรภัธ วัชราภัย ผู้จัดการทั่วไปแผนกธุรกิจใหม่และวางแผนกลยุทธ์ บริษัทเนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่ามีความสนใจเข้าร่วมประกวดราคาเช่นกัน ซึ่งขณะนี้ก็อยู่ในระหว่างการเจรจากับพันธมิตร ที่มีทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งจะรอดูเงื่อนไขทีโออาร์ที่ชัดเจนก่อนแล้วจึงจะสรุปในเรื่องของพันธมิตร และแนวทางการเข้าร่วมประกวดราคาอีกครั้งหนึ่ง อย่างไรก็ดี เชื่อว่าการประมูลโครงการทางคู่ฯ นี้จะเป็นที่สนใจของกลุ่มบริษัทรับเหมาก่อสร้างมา เนื่องจากจะเป็นโครงการใหญ่โครงการแรกที่จะเปิดประมูลในรัฐบาลชุดนี้ นอกเหนือจากโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ซึ่งหากรายใดชฯการประมูลก็จะมีผลต่อรายได้ของบริษัทเป็นอย่างมากด้วย
ขณะที่ นายพัฒนพงษ์ ตนุมัธยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสคอน คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทมีความสนใจที่จะเข้าร่วมประกวดราคา 100% ซึ่งพันธมิตรที่จะเข้าร่วมประกวดราคาโครงการดังกล่าวในครั้งนี้ด้วยคือบริษัท สตราบัก เอส อี (STRABAG SE) ซึ่งเป็นบริษัทก่อสร้างรายใหญ่ชั้นนำของยุโรป ก็สนใจร่วมด้วย แต่อย่างไรก็ดีต้องดูทิศทางของทีโออาร์ก่อนด้วยว่าจะเป็นอย่างไร จะต้องมีการหาพันธมิตรเพิ่มเติมหรือไม่
ด้าน กลุ่มบริษัทรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่อย่าง บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือไอทีดี บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ต่างก็ให้ข้อมูลตรงกันว่ามีความสนใจ แต่ยังอุบไต๋ในเรื่องของพันธมิตรอยู่ว่าจะเป็นใคร |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42628
Location: NECTEC
|
Posted: 24/08/2007 8:11 pm Post subject: |
|
|
ร.ฟ.ท.เปิดขายซองประมูลรถไฟฟ้ารางคู่แปดริ้ว-แหลมฉบัง
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 24 สิงหาคม 2550 18:25 น.
ร.ฟ.ท.เปิดขายซองประมูลรถไฟฟ้ารางคู่ฉะเชิงเทรา- แหลมฉบังถึงวันที่ 5 ก.ย.นี้ เผยจะเริ่มก่อสร้างได้ในปลายปีนี้ และใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 2 ปี ระบุหากเสร็จแล้วจะเป็นเส้นทางหลักในการขนส่งสินค้าไปภาคตะวันออก และสามารถขนส่งจากท่าเรือแหลมฉบังไปสนามบินสุวรรณภูมิ ได้อย่างสะดวก
น.ส.มณฑกาญจน์ ศรีวิลาศ ผู้อำนวยการกองประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่ เส้นทางฉะเชิงเทรา-แหลมฉบัง จ.ชลบุรี ว่า รฟท.ได้เปิดจำหน่ายซองเอกสารประกวดราคาจ้างก่อสร้าง ตั้งแต่วันนี้ (24 ส.ค.) ถึงวันที่ 5 กันยายน 2550 มีระยะทาง 78 กิโลเมตร ทั้งนี้ มีเงื่อนไขว่า ผู้ก่อสร้างต้องสร้างรถไฟทางเดี่ยวขนาดกว้าง 1.00 เมตร ขนานไปกับทางรถไฟในปัจจุบัน พร้อมมีงานอื่น ๆ ประกอบด้วย งานดิน 730,000 ลูกบาศก์เมตร งานก่อสร้างสะพานคอนกรีต และสะพาน Viaduct 4,500 เมตร สะพานโครงเหล็ก 50 เมตร เข็มคอนกรีตหล่อสำเร็จรูป ขนาด 220x220 มม. และ 525x 525 มม. งานเข็มเจาะ ( 800 มม.) จำนวน 400 เมตร ราง BS 80A 400 เมตริกตัน ราง BS 100A 9,000 เมตริกตัน หมอนคอนกรีตพร้อมเครื่องยึดเหนี่ยวราง 150,000 ท่อน/ชุด หินโรยทาง 180,000 ลูกบาศก์เมตร และงานอาณัติสัญญาณระบบบังคับสัมพันธ์ อีก 7 แห่ง
สำหรับโครงการนี้ มีแนวทางจะเริ่มก่อสร้างได้ในปลายปีนี้ และใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 2 ปี หากก่อสร้างเสร็จจะช่วยอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าจากภาคต่าง ๆ ที่ต้องการไปยังภาคตะวันออก ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว โดยเฉพาะการขนส่งสินค้าจากท่าเรือแหลมฉบัง มาที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยมีสถานีพักวางสินค้าที่บริเวณไอซดี ลาดกระบัง และเป็นเส้นทางหลักในการเป็นต้นแบบสำหรับระบบลอจิสติกส์ ที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการขนส่งลดต้นทุนได้มาก
ทั้งนี้ ผู้สนใจติดต่อขอซื้อเอกสารประกวดราคาก่อสร้างด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ในราคาชุดละ 200,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ได้ที่ ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง ตึกพัสดุชั้น 3 การรถไฟแห่งประเทศไทย ถนนรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพ หรือสามารถขอดูรายละเอียดได้ที่ www.railway.co.th และwww.gprocurement.go.th |
|
Back to top |
|
|
|