View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42743
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42743
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42743
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44618
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 02/03/2020 2:43 pm Post subject: |
|
|
การพัฒนารถไฟในเมียนมา
posttoday.com ฉบับวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2563
โดย กริช อึ้งวิฑูรสถิตย์
หลังจากการมาเยือนเมียนมาของท่านประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ที่ได้มีการเซ็นสัญญาบันทึกช่วยจำไปทั้งหมด 33 ฉบับ ก็ได้เกิดการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมขึ้นมาทันทีครับ คือท่านผู้ว่าการการรถไฟเมียนมาได้มีการเซ็นสัญญาเงินกู้กับทางธนาคารแห่งประเทศจีนขึ้นมาทันทีครับ
โดยการกู้เงินครั้งนี้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำระยะยาว เพื่อนำมาใช้ในการพัฒนาการเดินรถของรถไฟเมียนมา และเพื่อนำมาปรับปรุงเปลี่ยนแปลงของการรถไฟเมียนมาด้วยนั่นเองครับ
จะว่าไปแล้วรถไฟเมียนมา ก็มีประวัติยาวนานไม่แพ้ไทยเราเลยครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่อังกฤษเข้ามายึดครองเมียนมา ถือว่าเป็นการพัฒนารถไฟเมียนมาครั้งสำคัญที่สุด มีการสร้างทางรถไฟในประเทศเมียนมามากที่สุด พอสงครามโลกอุบัติขึ้น ในยุคนั้นญี่ปุ่นเข้ามามีบทบาทในประเทศเมียนมาค่อนข้างจะมาก การรถไฟเมียนมาก็ได้มีการปรับปรุงพัฒนาขึ้นมาอีกครั้ง
แต่อนิจจา....70 ปีต่อมาหลังจากที่มีการส่งมอบอิสรภาพให้แก่เมียนมาแล้ว การรถไฟเมียนมาก็หยุดนิ่งอยู่กับที่มายาวนานครับ หัวรถจักรก็ไม่มีการพัฒนาอีกเลย โบกี้ในอดีตเป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเลย จนกระทั่งต่อมาในยุคปี 1988 ก็ได้มีการเริ่มพัฒนาบ้าง ด้วยการสร้างทางรถไฟขึ้นมาเพิ่มเติม
โดยเพิ่มความยาวจาก 4,903 กิโลเมตรเป็นเกือบ 10,403 กิโลเมตร จนกระทั้งถึงปัจจุบันนี้ ได้มีการสร้างทางรถไฟมีความยาวเพิ่มเป็น 11,025 กิโลเมตร และมีสถานีรถไฟที่เปิดใช้งานแล้วมากถึง 1,225 สถานี อาจจะกล่าวได้ว่า ในภาคพื้นตะวันออกเฉียงใต้ของเอเชีย เมียนมามีรถไฟใช้มากเป็นอันดับสองก็ว่าได้ครับ
แม้จะมีการทางรถไฟที่มากและระยะทางที่ยาว แต่การพัฒนาของรถไฟในเมียนมาก็ยังล้าหลังอยู่ดี เหตุผลเพราะรถไฟที่ใช้อยู่ เป็นรถไฟที่ค่อนข้างจะเก่าและล้าสมัยมากๆ โบกี้รถไฟ เบาะนั่งรถไฟ ก็ยังคงเป็นเรื่องของสมัยสงครามโลกครั้งที่สองเกือบทั้งหมดครับ อีกประการหนึ่งรถในยุคดังกล่าวและรางรถไฟยังคงใช้รางขนาดความกว้างที่เล็กมาก ทำให้รถไฟวิ่งได้ช้ามาก รถที่เป็นรถไฟบรรทุกผู้โดยสาร วิ่งได้ความเร็วเพียง 15 ไมล์ต่อชั่วโมงหรือประมาณ 24 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ส่วนรถไฟที่ใช้บรรทุกสินค้า วิ่งได้เพียง 7.5-8.7 ไมล์ต่อชั่วโมงหรือ 12-14 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้น ในขณะที่ประชาชนเองก็ไม่ค่อยจะมีทางเลือกอื่นเหมือนอย่างประเทศเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียง ที่เขายังพอมีทางรถยนต์มาแบ่งเบาภาระของประชาชน เพราะในอดีตที่ประเทศเมียนมาการคมนาคมเขาใช้รถไฟกับเรือเป็นหลักครับ
เรามาดูว่าที่เมียนมาที่เขามีทางรถไฟไปถึงทั่วทุกภาคเกิดจากการวางรากฐานของรถไฟเมียนมาใว้เป็นอย่างดี เพราะที่เล่าใว้ข้างต้นว่า เขามีความยาวของทางรถไฟถึง 11,025 กิโลเมตร มีสถานีมากถึง 1,225 สถานี ซึ่งมีมากกว่าประเทศไทยแน่ๆ
ซึ่งการแบ่งภาคของรถไฟในประเทศเมียนมา เขาแบ่ง Upper Myanmar ซึ่งจะรวมเอาตั้งแต่เมืองพะโคเป็นต้นไป Lower Myanmar หมายถึงเมืองที่อยู่ล่างลงมาจากเมืองย่างกุ้ง และ Urban Yangon City หมายถึงรถไฟที่ใช้วิ่งรอบเมืองย่างกุ้งอยู่ในขณะนี้ ผมจะขออนุญาตเล่าให้ฟังพอสังเขปนะครับ
Upper Myanmar นั้นมีอยู่สองส่วนคือฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก ฝั่งตะวันตกเป็นเส้นทางที่สามารถไปถึงชายแดนอินเดียและบังคลาเทศได้ ส่วนเส้นทางตะวันออกเป็นเส้นที่เชื่อมต่อไปสู่ประเทศจีนฝั่งมณฑลยูนนาน ซึ่งเส้นทางนี้มีความสำคัญมาก ก็คือเส้นมัณฑะเลย์-ลาซิว ที่ท่านประธานาธิบดีสี จิ้นผิงให้ความสำคัญถึงขั้นใน MOU 33 ฉบับนั้นมีอยู่หนึ่งฉบับที่เกี่ยวเนื่องกับเส้นทางนี้อยู่ครับ
ส่วนด้าน Lower Myanmar ก็มีเส้นทางด้านย่างกุ้งผ่านลงไปทางภาคใต้ ที่ไปแยกกันที่ชุมทางพะโค ลงไปทางเมืองเมาะละแหม่ง แล้วลงไปถึงเมืองทวาย ซึ่งกำลังก่อสร้างต่อไปถึงมะลิดและอนาคตจะมีต่อไปถึงเกาะสองแน่เลยครับ ที่น่าจับตามองมากที่สุดคือที่ Urban Yangon City เพราะที่นี่เป็นหัวใจของประเทศเมียนมา แน่นอนจีนเขาไม่ปล่อยให้หลุดมือไปได้แน่
จะเห็นจากสัญญา MOU ฉบับที่ 26 กับฉบับที่ 30 ก็มีส่วนเกาะเกี่ยวกันอยู่ เขาจะใช้โอกาสนี้พัฒนาสถานีรถไฟที่มีอยู่เดิม 38 สถานีรวมกับสถานีกลางนครย่างกุ้งหรือ Yangon Central Station อีกหนึ่งสถานี ซึ่งจะทำให้เมืองย่างกุ้งเจริญขึ้นผิดหูผิดตาอย่างมากภายในปี 2020 ก็จะเริ่มต้นลงมือ แล้วเสร็จภายในปี 2027 นั่นหมายความว่านครย่างกุ้งจะมีรถไฟภายในเมืองใช้อย่างสะดวกสบาย จะทำให้ประชาชนที่ปัจจุบันนี้ได้ใช้รถไฟสายนี้เดินทางไปทำงานในเมืองกันอยู่แล้ววันละประมาณ 150,000 คน จะเพิ่มขึ้นมาอีกหลายเท่าตัวเลยครับ
พอจะสรุปได้ว่างานนี้เมียนมา เขาเป็นงานครับ พอท่านประธานาธิบดีจีนมาเยี่ยมเยือน และตกปากรับคำว่าจะช่วยเหลือ ด้วยการเซ็นต์ MOU เสร็จไม่เท่าไหร่ เขาก็เริ่มกระตือรือล้นที่เขาไปดำเนินการกู้เงิน(ที่ใกล้เค่ยงกับการได้เปล่า) มาใช้ทันที ไมม่ต้องมัวแค่ตั้งถ้าใหว้ครูให้เสียเวลาเลย
เขาจัดการส่งผู้ว่าการรถไฟ U Than Tun Aung เข้าไปเซ็นสัญญากู้ยืมเงินมาใช้พัฒนาการรถไฟเบื้องต้นรวม 94.5 ล้านเหรียญสหรัฐก่อนเลย
ต่อไปคงจะได้ยินข่าวเพิ่มเติมอีกแน่นอนครับ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42743
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42743
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42743
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42743
Location: NECTEC
|
Posted: 11/03/2020 7:45 pm Post subject: |
|
|
Mongwin wrote: | การพัฒนารถไฟในเมียนมา
posttoday.com ฉบับวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2563
โดย กริช อึ้งวิฑูรสถิตย์
|
แผนสร้างรถไฟจีนพม่า โดย China Railway Eryuan Engineering Group (CREEG) เริ่มจากด่านรุ่ยหลี่ไปมัณฑะเลย์ก่อน แล้วทำทางเพื่อเชื่อมกะ ท่าเรือน้ำลึกจ๊อกพยู บนเกาะรัมรี รัฐยะไข่ และ จะแยก ไป อินเดีย กรุง ธากา ประเทศบังคลาเทศ และ เชื่อมกะ นครกัลกัตตา ประเทศ อินเดีย และ จะลงใต้จากมัณฑะเลย์ไปย่างกุ้งด้วย
https://www.facebook.com/thant.zin.5686/posts/2461864500575432 |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42743
Location: NECTEC
|
Posted: 12/03/2020 2:23 pm Post subject: |
|
|
ทางรถไฟสายไทย-พม่า ในส่วนฝั่งพม่าที่สาบสูญ
https://www.youtube.com/watch?v=Y3_S92FKHnw
Wisarut wrote: |
มาเอาข้อมูลที่ดูจาก หจช. นี่ไปอ่านและบวกลบดูเอาเอง
หนองปลาดุก กม. 0 + 000 (64 + 046.55 กม.จากสถานีธนบุรี 80+096.55 กม.จากกรุงเทพ)
กงม้า (คอนม้า) กม. 2 + 000
บ้านโป่งใหม่ กม. 5 + 180
ลูกแก กม. 13 + 380
ท่าเรือน้อย กม. 25 + 890
ท่าม่วง กม. 36 + 900
เขาดิน กม. 43 + 154
กาญจนบุรี (ปากแพรก) กม. 50 + 320
สะพานท่ามะขามที่ กม. 56 + 255.1 ยาว 346.40 เมตร
เขาปูน กม. 57 + 545
วังลาน กม. 68 + 454
บ้านเก่า (บ้านเขา) กม. 87 + 904
ท่ากิเลน กม. 97 + 904
อ้ายหิต (อารูหิตา, ลุ่มสุ่ม) กม. 108 + 140
วังโพ กม. 114 + 040
วังใหญ่ กม. 124 + 850
ท่าเสา (น้ำตก) กม. 130 + 300
ท้องช้าง กม. 139 + 050
ถ้ำผี กม. 147 + 520 (สูงสุด)
หินตก กม. 155 + 030
กันนิ้ว กม. 161 + 400 (ช่องเขาขาด ช่องไฟนรก)
ไทรโยค กม. 167 + 660
กิ่งไทรโยค กม. 171 + 720
ริ่นถิ่น กม. 180 + 530
กุยแซง กม. 190 + 480
หินดาด กม. 197 + 750
ปรังกะสี กม. 208 + 110
ท่าขนุน (ทองผาภูมิ) กม. 218 + 150
น้ำโจนใหญ่ กม. 229 + 140
ท่ามะเยี่ยว (ท่ามะยอ) กม. 236 + 800
ตำรองผาโท้ กม. 244 + 190
เกริงไกร กม. 250 + 130
กองโกยท่า (แก่งคอยท่า) กม. 262 + 580
ทิมองท่า กม. 273 + 060
นิเก (สังขละบุรี) กม. 281 + 880
ซองกะเลีย กม. 294 + 020
สะพานข้ามแม่น้ำซองกะเลีย กม. 294 + 418 ยาว 90 เมตร
จันการายา กม. 303 + 630 (ด่านพระเจดีย์สามองค์ฝั่งพม่า)
อังกานัง กม. 310 + 630
เกียนโด กม. 319 + 880
สะพานไม้ข้ามแม่น้ำเมกาซา กม. 319 + 798 ยาว 56 เมตร (ลำน้ำแม่กษัตริย์)
สะพานไม้ข้ามแม่น้ำซามีที กม. 329 + 678 ยาว 75 เมตร
อาปาลอง กม. 332 + 090
สะพานข้ามแม่น้ำอาปาลอง กม. 333 + 258.20 เป็นสะพานคอนกรีตยาว 50 เมตร
อาปาไร กม. 337 + 250
เมซารี กม. 342 + 830
เมซารีบูน กม. 348 + 660
ลองชี กม. 353 + 770
ตังซึน กม. 357 + 600
ตังบายา กม. 361 + 900
อานากุย กม. 369 + 060
สะพานอานากุย กม. 369 + 839.5 ยาว 60 เมตร
เบกุตัง กม. 374 + 480
เรโบ กม. 384 + 590
กองโนกอย กม. 391 + 021
ราเบา กม. 369 + 300
เวกาเร กม. 406 + 390
ตังเบียวซายาใหม่ กม. 409 + 790
ตังเบียวซายา กม. 414 + 916 |
Last edited by Wisarut on 02/01/2021 9:21 pm; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42743
Location: NECTEC
|
Posted: 18/03/2020 12:28 pm Post subject: |
|
|
สมัยอาณานิคม อังกฤษคิดจะสร้างทางรถไฟจากพม่าไปเมืองจีนก่อนทำทางรถไฟจากพม่าเชื่อมอินเดียเพื่อ เชื่อมคน 250 ล้านคนในอินเดียกะคน 300 ล้านคนที่เมืองจีน แข่งกะรถไฟสายยูนนานไปเมืองท่าไฮฟองที่ฝรั่งเศสเปิดใช้งานเมื่อปี 1910 แต่ทำไม่สำเร็จ เพราะค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างแพงลิบลิ่ว
ดูจากแผนที่ เมื่อปี 1886 - 1890 โดย นาย Holt S. Hallett ที่เดินทางสำรวจยูนนาน กะนาย Archibald Ross Colquhoun เมื่อปี 1883-84 ทำให้ทราบว่า นาย Holt S. Hallett อยากให้สร้างทางรถไฟจากซื่อเหมา (Ssumao ปัจจุบันคือ เมืองพู่เอ๋อ Puer) ในมณฑลยูนนาน ผ่านด้านตะวันออกของเชียงตุง (Keng Tung) ผ่านล้านนาไปออก เมืองท่ามะละแหม่ง (Mawlamyine) และ กรุงเทพ เวลานั้น (ปี 1890) เราเพิ่งเริ่มก่อตั้งกรมรถไฟ และเปิดประมูลทำทางรถไฟจากกรุงเทพ ผ่านกรุงเก่า ไป โคราช
ส่วนสายที่ผ่านพม่า นั้นเริ่มจากชายแดนที่ บ้านหม้อ (Bhamo) เชื่อมกะทางรถไฟสายย่างกุ้ง - มัณฑะเลย์ที่มีอยู่แล้ว ที่ สถานีมัณฑะเลย์ ซึ่งสายนี้จะว่าไปแล้วก็มีการสำรวจแต่ปี 1868 โดยพันเอก Edward Sladen ที่เป็นทั้งทูตอังกฤษประจำราชสำนักมัณฑะเลย์และสายลับที่ใช้การทูตบังหน้า สมัยที่พม่ายังไม่เสียเมืองเสียด้วยซ้ำ
เหตุที่การเชื่อมโยงพม่ากับเมืองจีนด้วยทางรถไฟล้มเหลวก็เพราะคนอังกฤษในเมืองพม่าและคนอังกฤษในกรุงลอนดอนและอินเดียมีความเห็นขัดแย้งกันเรื่องเส้นทางที่ควรจะทำ เนื่องจากคนอังกฤษในอินเดียและกรุงลอนดอนยังไม่อยากจะมีปัญหาเพิ่มเติมกับจีนในการสร้างทางรถไฟเพื่อปราบปรามบรรดาโจรผู้ร้ายที่หลบซ่อนที่ฝั่งจีน
นอกจากนี้ การเปลี่ยนนโยบายต่างประเทศที่หันมาเป็นมิตรกับฝรั่งเศสเพื่อสู้กับเยอร์มันี ทำให้หมดความจำเป็นที่จะต้องทำทางรถไฟแข่งกับฝรั่งเศส และการแก้ปัญหาชายแดนอินเดียฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือที่ใกล้รัสเซียสำคัญกว่า การแก้ปัญหาชายแดนชายแดนอินเดียฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือที่ใกล้จีนก็ยิ่งทำให้แผนการสร้างทางรถไฟไปเมืองจีนหมดความสำคัญเข้าไปอีก
แม้คนอังกฤษในพม่าอยากให้สร้างทางรถไฟจากมัณฑะเลย์ไป ท่าเรือ Kunlong ในเมืองจีน ก็ยังไม่ทำให้รัฐบาลอังกฤษในอินเดียสนใจ
https://www.irrawaddy.com/opinion/guest-column/tracing-the-more-than-century-old-dream-of-building-a-myanmar-china-railway.html |
|
Back to top |
|
|
|