View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44335
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44335
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44335
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 25/04/2020 4:32 pm Post subject: |
|
|
คมนาคม เร่งขับเคลื่อนพัฒนารถไฟทางคู่ สั่งทำ Action Plan ภายใน 1 เดือน
ข่าวเศรษฐกิจ25 เม.ย. 63 10:14
หวังเพิ่มการขนส่งทางรางเป็น 30% ในปี 64
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และกรมการขนส่งทางราง (ขร.) ร่วมกันพิจารณาแนวทางการพัฒนาการขนส่งทางรางและจัดทำเป็นแผนปฏิบัติการ (Action Plan) รวมถึงตารางการดำเนินงาน ให้ชัดเจนภายใน 1 เดือน เพื่อขับเคลื่อนนโยบายการพัฒนาระบบรถไฟทางคู่ และการเพิ่มการขนส่งทางรางเป็น 30% ภายในปี 64
จากปัจจุบันที่การขนส่งสินค้าด้วยรถไฟ มีจำนวน 156 ขบวนต่อวัน โดยในปี 61 มีปริมาณการขนส่งสินค้า 10.2 ล้านตันต่อปี คิดเป็นเพียง 1% ของปริมาณการขนส่งทุกระบบ
สำหรับปัจจัยที่จะช่วยสนับสนุนเป้าหมายดังกล่าว ยังขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจโลกที่ส่งผลต่อปริมาณการนำเข้าส่งออก การแข่งขันด้านค่าใช้จ่าย และต้นทุนการขนส่งทางรางที่ต่ำกว่าการขนส่งรูปแบบอื่น การขนส่งทางรางมีความปลอดภัยมากกว่า ตลอดจนการเพิ่มความถี่ในการให้บริการ
ทั้งนี้ รฟท.จะต้องมีการดำเนินการพัฒนารถไฟทางคู่ระยะที่ 1 และ 2 ติดตั้งระบบควบคุมการเดินรถเป็นระบบ ETCS level 1(European Train Control System) ควบคุมการเดินรถและหยุดรถอัตโนมัติ (Automatic Train Protection System: (ATP)) สนับสนุนภาคเอกชนร่วมให้บริการเดินรถ เพื่อเพิ่มความถี่และเพิ่มประสิทธิภาพด้านการตลาด และให้เกิดการแข่งขันด้านบริการและราคา เนื่องจาก Slot การใช้รางรถไฟยังมีเหลืออยู่ ซึ่งรฟท.จะต้องวางแผนใช้ให้เต็มประสิทธิภาพ ส่วนที่เหลือให้เอกชนมาร่วมเดินรถ ตลอดจนส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากย่านกองเก็บตู้สินค้า(CY) พัฒนาบุคลากรรองรับการเดินรถ เป็นต้น
ส่วนการเดินรถโดยสาร ที่มี 244 ขบวนต่อวัน และมีแนวโน้มลดลงนั้น ในขณะที่พบว่าช่วงเทศกาล ปีใหม่ และสงกรานต์ ประชาชนยังคงนิยมใช้บริการรถไฟ แต่ในช่วงปกติกลับมีปริมาณการเดินทางลดลง ซึ่งจากสถิติการขนส่งสินค้าและผู้โดยสารที่ใช้บริการ สะท้อนถึงประสิทธิภาพที่ต่ำลง โดยสาเหตุหนึ่งที่ทำให้รถไฟไม่เป็นที่นิยมในการเดินทางของประชาชน มาจากสภาพรถที่เก่า มีอายุใช้งานมากกว่า 30 ปี ซึ่งเกิดจากปัญหาการขาดทุนสะสมของรฟท. ที่มีกว่า 1.6 แสนล้านบาท
ปัจจุบัน รถไฟมีระยะทางรวม 4,044 กิโลเมตร (กม.) ครอบคลุม 47 จังหวัด โดยอยู่ในพื้นที่ภาคเหนือ 781 กม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1,094 กม. ภาคตะวันออก 534 กม. ภาคกลาง 65 กม. และภาคใต้ 1,570 กม.
สำหรับโครงการรถไฟทางคู่ที่ก่อสร้างเสร็จแล้วระยะทาง 293 กม. ได้แก่ 1. เส้นทางฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอบ ระยะทาง 106 กม. 2. เส้นทางชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น ระยะทาง 187 กม. โครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง ระยะทางรวม 700 กม. ได้แก่ 1. เส้นทางมาบกะบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กม. 2. เส้นทางลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 148 กม. 3. เส้นทางนครปฐม-หัวหิน ระยะทาง 169 กม. 4. เส้นทางหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 84 กม. 5. เส้นทางประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 167 กม.
โครงการที่อยู่ระหว่างประกวดราคา ระยะทางรวม 678 กม. ได้แก่ 1. เส้นทางเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของระยะทาง 323 กม. 2. เส้นทางบ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม ระยะทาง 355 กม.
สำหรับแผนพัฒนาระยะที่ 2 มีระยะทาง 1,483 กม. จำนวน 7 เส้นทาง ได้แก่ 1. ขอนแก่น-หนองคาย 167 กม. 2. ชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี 308 กม. 3. ปากน้ำโพ-เด่นชัย 285 กม. 4. เด่นชัย-เชียงใหม่ 189 กม. 5.ชุมพร-สุราษฏร์ธานี 168 กม. 6. สุราษฏร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา 321 กม. และ 7. ชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ 45 กม. |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42630
Location: NECTEC
|
Posted: 26/04/2020 12:07 am Post subject: |
|
|
คมนาคม ดึงเอกชน ร่วมเดินรถไฟเต็มกำลัง
หน้าเศรษฐกิจมหภาค / Mega Project
วันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 17:11 น.
คมนาคม ดึงเอกชน ร่วมบริการเดินรถไฟ เต็มที่ หลังศักยภาพการใช้รางต่ำ สั่ง รฟท.-ขร.-สนข. จัดแผนปฏิบัติการ หวังใช้ประโยชน์ทางรางต่อเนื่อง เตรียมชง คนร. นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุม การพัฒนาระบบรางเป็นรถไฟทางคู่ เพิ่มการขนส่งทางราง 30% และการสนับสนุนเอกชนร่วมบริการระบบราง ว่า จากข้อมูลการขนส่งสินค้าทางรถไฟ พบว่า ปัจจุบันมีรถไฟ 151 ขบวน ที่ขนส่งสินค้า ซึ่งส่งสินค้าได้ 10.50 ล้านตันต่อปี คิดเป็น 1% ของการขนส่งทุกระบบ ถือว่ายังใช้ศักยภาพรางในระดับที่ต่ำมาก ขณะเดียวกันปริมาณการขนส่งผู้โดยสารลดลง ทั้งนี้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ยังมีหนี้สินอยู่กว่า 1.6 แสนล้านบาท จึงมอบให้ รฟท., กรมการขนส่งทางราง (ขร.) และสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) จัดทำแผนปฏิบัติการ(แอคชั่นเพลน) การใช้ประโยชน์จากรางรถไฟให้มากขึ้น โดยเฉพาะการดึงเอกชนร่วมเป็นผู้ให้บริการเดินรถ โดยให้เวลาดำเนินการ และกลับมาเสนอกระทรวงคมนาคมภายใน 1 เดือน
ขณะเดียวกันการเปิดให้เอกชนร่วมลงทุนกับ รฟท.ในปัจจุบันยังมีปัญหาและอุปสรรค เพราะ พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน ปี 62 ยังไม่ได้ดำเนินการเรื่องการออกกฎเกี่ยวกับการให้เอกชนมาลงทุนใน รฟท. ซึ่งตนจะนำเรื่องดังกล่าวเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) เร่งผลักดันเรื่องนี้ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพราะเวลานี้ รฟท. เป็นยักษ์หลับที่ต้องปลุกให้เป็นยักษ์ขึ้นมาจริงๆ เพื่อทำงานให้ประชาชน และให้ รฟท. กลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม
สำหรับแผนปฏิบัติการ เบื้องต้นต้องกำหนดเป้าหมายที่จะทำให้ รฟท. ขนส่งสินค้าทางรถไฟได้เพิ่มมากขึ้น 30% จากปัจจุบัน 10.2 ล้านตัน เป็น 13.26 ล้านตันภายในปี 64 นอกจากนี้ต้องเปลี่ยนระบบอาณัติสัญญาณเป็นระบบ ETCS ซึ่งเป็นระบบควบคุมอัตโนมัติ ขณะเดียวกันต้องสนับสนุนให้เอกชนเข้ามาเป็นผู้ร่วมให้บริการเดินรถ เพราะขณะนี้ตารางเวลาการเดินรถยังว่างอยู่ สามารถให้รถไฟเดินรถได้อีกเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ต้องทำให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรม เพื่อให้ได้การบริการที่ดี และค่าโดยสารต้องไม่แพง อย่างไรก็ตามต้องส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากกองตู้เก็บสินค้า และสถานีขนถ่ายสินค้า โดยผู้ประกอบการขนส่งทางบก ต้องร่วมกับ รฟท. หรือเอกชน เพื่อนำตู้คอนเทนเนอร์บรรทุกสินค้มาขนส่งทางรถไฟแทน ซึ่งแทนที่รถบรรทุกต้องวิ่งระยะทางไกลๆ ก็จะเปลี่ยนเป็นการวิ่งรถนำตู้คอนเทนเนอร์มาส่งที่สถานีรถไฟ และไปรับที่สถานีขนส่งปลายทางแทน ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการขนส่งได้มาก และเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่งที่รวดเร็ว ปลอดภัยมากขึ้นด้วย อย่างไรก็ตามการจะทำเรื่องเหล่านี้ได้ พนักงานขับรถไฟ ถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะปัจจุบันพบว่ายังขาดแคลนอยู่ ดังนั้นจึงเป็นโจทย์ใหญ่ที่ต้องพัฒนาบุคลากรในการเดินรถให้มากขึ้น ทั้งพนักงานขับรถ และช่างเครื่อง. |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42630
Location: NECTEC
|
Posted: 28/04/2020 5:47 pm Post subject: |
|
|
อีก 2 ปีได้ใช้ ทางคู่สายใต้ "นครปฐม-ชุมพร" 421 กม.
ออนไลน์เมื่อ วันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 13:00 น.
ตีพืมพ์ใน หน้า 5 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,569
วันที่ 26-29 เมษายน พ.ศ. 2563
การรถไฟเร่ง 5 สัญญาทางคู่สายใต้ นครปฐม-ชุมพร 421 กม. เสร็จตามแผนปี 2564 สร้างแล้วเสร็จปี 2564 พร้อมเปิดให้บริการปี 2565 อีกไม่เกิน 2 ปี จะได้ใช้บริการรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม-ชุมพร ระยะทาง 421 กม. เพิ่มทางเลือกการเดินทาง ขนส่งสินค้า ลดพลังงาน รวดเร็วและปลอดภัย
ฐานเศรษฐกิจ ได้รับการยืนยันจาก นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการแทนผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย ถึงความคืบหน้าก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ ระยะแรก ช่วงนครปฐม-ชุมพร ระยะทาง 421 กม. วงเงิน 33,982 ล้านบาท แม้จะล่าช้าแต่มั่นใจจะแล้วเสร็จตามแผนปี 2564 ติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณ พร้อมเปิดให้บริการได้ในปี 2565 ปัจจุบันเส้นทางนี้ เป็นรถไฟทางเดี่ยว ใช้เวลาเดินทาง 8 ชั่วโมง หากเป็นทางคู่จะใช้เวลาเพียง 6 ชั่วโมง |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42630
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42630
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42630
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42630
Location: NECTEC
|
Posted: 08/05/2020 9:11 pm Post subject: |
|
|
ยูนิคสร้างรถไฟทางคู่ ลพบุรี-ปากน้ำโพ เร็วกว่าแผน 4.28%
อสังหาริมทรัพย์ : พร็อพเพอร์ตี้
วันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคม 2563 เวลา 16:45 น.
รถไฟทางคู่ "ลพบุรี-ปากน้ำโพ" คืบ 40.06 % เร่งระบบอาณัติสัญญาณ เสร็จปี 66
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคม 2563 เวลา 19:15
รฟท.โชว์งานก่อสร้างรถไฟทางคู่ลพบุรี-ปากน้ำโพเม.ย.เร็วกว่าแผน
วันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคม 2563 เวลา 16.15 น.
เร่งสร้าง "รถไฟทางคู่ลพบุรี-ปากน้ำโพ" ฝ่าโควิด
เผยแพร่: วันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคม 2563 เวลา 16:40 น.
รฟท.เผยคืบหน้าสร้างรถไฟทางคู่สายเหนือ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ เร็วกว่าแผนงานที่กำหนดราว 40% มั่นใจรองรับขบวนรถไฟเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 2 เท่า
รฟท.เผยแผนก่อสร้างโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายเหนือ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ เดือนเม.ย.เร็วกว่าแผน 4.28% พร้อมเร่งรัดงานโยธา-ติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณให้เสร็จในปี 66 หวังเพิ่มประสิทธิภาพการเดินทาง-ขนส่ง
.
นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้ฝ่ายเกี่ยวข้องเร่งดำเนินงานแผนงานต่าง ๆ ภายใต้แผนฟื้นฟูกิจการของการรถไฟฯ เพื่อให้เป็นไปตามมติคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ที่ได้มีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานระบบรางที่สำคัญ รวมไปถึงรถไฟทางคู่ ช่วงลพบุรี ปากน้ำโพ เป็นอีกหนึ่งในโครงการจะสนับสนุนโครงการนำร่องการพัฒนาระบบการจัดการขนส่งสินค้าและบริการทางรางได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ในเส้นทางสายเหนือ ช่วงลพบุรี ปากน้ำโพ มีระยะทาง 145 กิโลเมตร จำนวน 20 สถานี งบประมาณก่อสร้าง 21,467 ล้านบาท ประกอบด้วย งานก่อสร้างรถไฟทางคู่ จำนวน 2 สัญญา และงานติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม ความคืบหน้าถึงเดือนเมษายน 2563 มีความก้าวหน้า 40.06% จากแผนงานที่กำหนดไว้ 35.94 สร้างเร็วกว่าแผนงานที่กำหนดไว้ 4.28%
ทั้งนี้ ได้มีการปรับแผนงานการก่อสร้างให้สอดคล้องกับการดำเนินงาน และปัญหาอุปสรรคในการก่อสร้างจริง เพื่อลดผลกระทบและให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ ในขณะเดียวกันได้เร่งรัดงานโยธาและงานติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณให้แล้วเสร็จตามแผนงานในปี 2566
โดยงานก่อสร้างรถไฟทางคู่ แบ่งออกเป็น 2 สัญญา ได้แก่
1.ช่วงลพบุรี ปากน้ำโพ สัญญาที่ 1 (บ้านกลับ โคกกระเทียม) เริ่มต้นที่บริเวณสถานีบ้านกลับ จังหวัดสระบุรี เป็นการก่อสร้างเส้นทางรถไฟเลี่ยงเมืองลพบุรี โดยใช้พื้นที่ทางหลวงหมายเลข 366 และพื้นที่เวนคืนในการก่อสร้าง และสิ้นสุดบริเวณสถานีโคกกระเทียม จังหวัดลพบุรี ระยะทางรวม 29 กิโลเมตร
ประกอบด้วย ทางรถไฟยกระดับ 23 กิโลเมตร และทางรถไฟระดับพื้นดิน 6 กิโลเมตร โดยมีการปรับปรุงสถานีรถไฟเดิม 1 สถานี และก่อสร้างสถานียกระดับใหม่ 1 สถานี ซึ่งมีค่าก่อสร้าง 10,050 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 48 เดือน เริ่มก่อสร้างวันที่ 15 มิถุนายน 2561 มีความคืบหน้า 23.42 % จากแผนงานที่กำหนดไว้ 15.02% สร้างเร็วกว่าแผนงานที่กำหนดไว้ 8.40% มี กิจการร่วมค้า ยูเอ็น-เอสเอชและ บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับจ้างดำเนินงาน
2.ช่วงลพบุรี ปากน้ำโพ สัญญาที่ 2 (ท่าแค ปากน้ำโพ) ระยะทาง 116 กิโลเมตร เริ่มต้นที่บริเวณสถานีท่าแค จังหวัดลพบุรี โดยก่อสร้างตามแนวเส้นทางรถไฟเดิม สิ้นสุดบริเวณสถานีปากน้ำโพ จังหวัดนครสวรรค์ ระยะทาง ประมาณ 116 กิโลเมตร
โดยมีงานก่อสร้างสถานีใหม่ 8 สถานี งานปรับปรุงสถานีเดิม 10 สถานี งานก่อสร้างย่านเก็บกองและขนถ่ายตู้สินค้า (CY) 1 แห่ง และงานก่อสร้างอาคารศูนย์ควบคุมการเดินรถ (CTC) 1 แห่ง ซึ่งมีค่าก่อสร้าง 8,649 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 36 เดือน เริ่มก่อสร้างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2561 มีความคืบหน้า 56.87% ล่าช้ากว่าแผนงาน 0.16% โดยมี บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับจ้างดำเนินงาน
ส่วนความคืบหน้าจัดหาและติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม ในโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงลพบุรี ปากน้ำโพ งบก่อสร้าง 2,768 ล้านบาท ระยะเวลา 39 เดือน โดยได้ลงนามว่าจ้างกิจการร่วมค้า บีที ยูเอ็น ประกอบด้วย บริษัท บอมบาร์ดิเอร์ ทรานสปอร์เทชั่น ซิกแนล (ประเทศไทย) และบริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ดำเนินการติดตั้งระบบ เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2562 ขณะนี้ได้มีการลงสำรวจพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อเตรียมความพร้อมในการดำเนินการติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม
นายนิรุฒกล่าวต่อว่า ทางคู่ช่วงลพบุรี ปากน้ำโพ เป็นหนึ่งในโครงการพัฒนาระบบรางภายใต้แผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ. 2558 2565 ที่รัฐบาลเร่งรัดดำเนินการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเดินทางและขนส่ง ช่วยเสริมสร้างโครงข่ายคมนาคมของไทยให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
หากโครงการแล้วเสร็จมั่นใจว่าจะสามารถพลิกโฉมการขนส่งทางรถไฟได้อย่างแน่นอน เพราะจะทำให้มีความจุของทางรถไฟเพิ่ม สามารถรองรับขบวนรถเพิ่มขึ้นได้ไม่น้อยกว่า 2 เท่าตัว ลดระยะเวลาการเดินทาง มีความตรงต่อเวลาของขบวนรถ
เนื่องจากไม่ต้องเสียเวลาในการรอหลีกขบวนรถ ลดต้นทุนการขนส่งด้านโลจิสติกส์ ประชาชนมีทางเลือกในการเดินทางมากยิ่งขึ้น ทั้งยังเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาและกระจายความเจริญสู่ภูมิภาคและท้องถิ่น ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เชื่อมโยงโครงข่ายการบริหารจัดการขนส่งมวลชน สินค้า บริการ ในพื้นที่ชนบท เมือง และระหว่างประเทศเข้าด้วยกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42630
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
|