Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311239
ทั่วไป:13181805
ทั้งหมด:13493044
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - 'รฟท.' ประกาศหยุดวิ่งสาย 'เหนือ-อีสาน-ใต้' 1 เม.ย. นี้
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

'รฟท.' ประกาศหยุดวิ่งสาย 'เหนือ-อีสาน-ใต้' 1 เม.ย. นี้
Goto page Previous  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> เส้นทางรถไฟ, ค่าโดยสาร และเรื่องเกี่ยวกับการเดินรถ
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42631
Location: NECTEC

PostPosted: 12/06/2020 6:49 pm    Post subject: Reply with quote

รฟท.เผยผู้โดยสารเพิ่มแตะ3หมื่นคน หลังเพิ่มขบวนรถทางไกล
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 12 มิถุนายน 2563 18:29

รฟท.เผย ภาพรวมผู้โดยสารเดินทางเพิ่ม 43% จาก 18,218 คน เป็น 26,225 คน จากการเปิดเดินรถทางไกล หลังคลายล็อกเฟส 3 โดยมีขบวนรถให้บริการทั่วประเทศทั้งหมด 169 ขบวน (ไป-กลับ) / วัน คาดสุดสัปดาห์ผู้โดยสารเพิ่มเป็น 30,000 คน

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่การรถไฟฯ ได้เปิดให้บริการเดินขบวนรถโดยสารทางไกล ขบวนรถชานเมือง ขบวนรถธรรมดา และขบวนรถท้องถิ่น พร้อมทั้งขยายระยะเวลาการเปิดเดินขบวนรถโดยสารพิเศษออกไปอีก 30 วัน เป็นการเพิ่มเติม เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2563 หลังจากรัฐบาลได้มีมาตรการผ่อนผ่อนคลายการเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัดให้รถโดยสารสาธารณะสามารถเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัดในช่วงเวลาเคอร์ฟิวได้ ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) ในระยะที่ 3 เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกการเดินทางของประชาชนที่มีความจำเป็นต้องเดินทางโดยรถไฟ ทั้งการเดินทางภายในเขตเมือง ระหว่างเมือง และทางไกล ข้ามเขตพื้นที่จังหวัด

สำหรับการเดินทางของประชาชนเมื่อวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันแรกของการเปิดเดินขบวนรถเพิ่มเติม ภาพรวมด้านการโดยสารขบวนรถให้บริการเพียงพอ มีผู้ใช้บริการทั้งสิ้น จำนวน 26,225 คน แบ่งออกเป็น ผู้โดยสารเดินทางเข้ากรุงเทพ จำนวน 13,733 คน และผู้โดยสารเดินทางออกจากกรุงเทพ จำนวน 12,492 คน หรือมีจำนวนเพิ่มขึ้น 43 % เมื่อเปรียบเทียบกับวันที่ 10 มิถุนายน 2563 ที่มีผู้โดยสารเดินทางเพียง 18,218 คน

เส้นทางที่มีผู้ใช้บริการหนาแน่นที่สุด คือ สายตะวันออกเฉียงเหนือ 7,446 คน รองลงมาคือสายใต้ จำนวน 5,804 คน สายเหนือ 5,722 คน สายตะวันออก 4,441 คน และสายแม่กลอง 2,812 คน

ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าในวันนี้ (12 มิ.ย.) จะมีประชาชนเดินทางเพิ่มขึ้น เนื่องจากจะเปิดเดินขบวนรถครบทั้งขาเข้าและขาออก และเป็นวันสุดท้ายของการทำงานก่อนถึงวันหยุดสุดสัปดาห์ โดยจะมีจำนวนผู้โดยสารเดินทางทั่วประเทศประมาณ 30,000 คน

ปัจจุบันมีขบวนรถที่ให้บริการทั้งหมด จำนวน 169 ขบวน (ไป-กลับ) ประกอบด้วย ขบวนรถโดยสารทางไกล จำนวน 11 ขบวน (ไป-กลับ) และขบวนรถชานเมือง และขบวนรถธรรมดา และขบวนรถท้องถิ่น จำนวน 152 ขบวน (ไป-กลับ) และขบวนรถโดยสารพิเศษ จำนวน 6 ขบวน (ไป-กลับ) ที่ขยายเวลาให้บริการเพิ่มอีก 30 วัน (ตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน – 17 กรกฎาคม 2563)
ในด้านมาตรการป้องกันความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 (โควิด – 19) ได้ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคมอย่างเคร่งครัด โดยให้พนักงานด้านปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องจะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า และถุงมือยางและ Face shield ตลอดเวลาที่ให้บริการ การตรวจคัดกรองผู้โดยสารอย่างเข้มข้น การจัดให้มีแอลกอฮอล์เจลบริการอย่างเพียงพอและทั่วถึง ทั้งบริเวณสถานีและบนขบวนรถ การรักษาระยะห่าง Social Distancing ให้มีจุดยืน / นั่ง ให้ชัดเจน ทั้งที่สถานีและขบวนรถ โดยจำกัดการจำหน่ายตั๋วโดยสารสำหรับรถนั่งชั้น 2 - 3 ไว้ที่ 50% ของจำนวนที่นั่งทั้งหมด เมื่อจำหน่ายเต็มตามที่ระบุแล้ว จะไม่จำหน่ายตั๋วอีกรวมทั้งตั๋วไม่มีที่นั่ง (ตั๋วยืน)

สำหรับผู้โดยสารที่เดินทางโดยรถนอนปรับอากาศชั้น 1 และชั้น 2 ได้มีการกำหนดจุดที่นั่งก่อนที่จะมีการปรับเก้าอี้เป็นเตียงนอน ทั้งเตียงบนและเตียงล่าง เพื่อให้มีการรักษาระยะห่าง และการงดจำหน่ายอาหารบนขบวนรถ หากผู้โดยสารที่เดินทางไกลเกินกว่า 3 ชั่วโมง ให้เตรียมอาหารไปรับประทานเอง และจะดำเนินการติดตั้ง แอปพลิเคชั่น (application) “ไทยชนะ” ที่สถานีและบนขบวนรถ (เป็นรายตู้/โบกี้) เพื่อใช้ควบคุมการเข้าออกของผู้โดยสารที่มาใช้บริการผ่าน Check-in และ Check-out จากแอปพลิเคชั่นดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม การรถไฟฯ ขอความร่วมมือผู้โดยสารทำการกรอกรายละเอียดในแบบคำร้องประกอบการซื้อตั๋ว และสำหรับผู้โดยสารที่จะต้องเดินทางข้ามเขตจังหวัด จะต้องกรอกข้อมูลเอกสารรับรองความจำเป็นในการเดินทาง ตามแบบฟอร์ม ต.8/คค./รฟท. และได้รับการตรวจคัดกรอง เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 ฉะนั้น จึงขอให้ผู้โดยสารมาถึงสถานีล่วงหน้าก่อนเวลาเดินทาง เพื่อความสะดวก รวดเร็ว


คนแห่ซื้อตั๋วรถไฟเดินทางข้ามจังหวัด “อีสาน” มากสุด
อสังหาริมทรัพย์
วันที่ 12 มิถุนายน 2563 - 16:11 น.
นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่การรถไฟฯ ได้เปิดให้บริการเดินขบวนรถโดยสารทางไกล ขบวนรถชานเมือง ขบวนรถธรรมดา และขบวนรถท้องถิ่น พร้อมทั้งขยายระยะเวลาการเปิดเดินขบวนรถโดยสารพิเศษออกไปอีก 30 วัน เป็นการเพิ่มเติม เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2563

หลังจากรัฐบาลได้มีมาตรการผ่อนคลายการเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัดให้รถโดยสารสาธารณะสามารถเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัดในช่วงเวลาเคอร์ฟิวได้ ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) ในระยะที่ 3

เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกการเดินทางของประชาชนที่มีความจำเป็นต้องเดินทางโดยรถไฟ ทั้งการเดินทางภายในเขตเมือง ระหว่างเมือง และทางไกล ข้ามเขตพื้นที่จังหวัด สำหรับการเดินทางของประชาชนเมื่อวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันแรกของการเปิดเดินขบวนรถเพิ่มเติม

ภาพรวมด้านการโดยสารขบวนรถให้บริการเพียงพอ มีผู้ใช้บริการทั้งสิ้น จำนวน 26,225 คน แบ่งออกเป็นผู้โดยสารเดินทางเข้ากรุงเทพฯ จำนวน 13,733 คน และผู้โดยสารเดินทางออกจากกรุงเทพฯ จำนวน 12,492 คน เส้นทางที่มีผู้ใช้บริการหนาแน่นที่สุด คือ สายตะวันออกเฉียงเหนือ 7,446 คน รองลงมาคือสายใต้ จำนวน 5,804 คน สายเหนือ 5,722 คน สายตะวันออก 4,441 คน และสายแม่กลอง 2,812 คน มีจำนวนเพิ่มขึ้นร้อยละ 43 เมื่อเปรียบเทียบกับวันที่ 10 มิถุนายน 2563 ที่มีผู้โดยสารเดินทางเพียง 18,218 คน


ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าในวันนี้ (วันที่ 12 มิถุนายน 2563) จะมีประชาชนเดินทางเพิ่มขึ้น เนื่องจากจะเปิดเดินขบวนรถครบทั้งขาเข้าและขาออก และเป็นวันสุดท้ายของการทำงานก่อนถึงวันหยุดสุดสัปดาห์ โดยจะมีจำนวนผู้โดยสารเดินทางทั่วประเทศประมาณ 30,000 คน

ปัจจุบันมีขบวนรถที่ให้บริการทั้งหมด จำนวน 169 ขบวน (ไป-กลับ) ประกอบด้วย ขบวนรถโดยสารทางไกล จำนวน 11 ขบวน (ไป-กลับ) และขบวนรถชานเมือง และขบวนรถธรรมดา และขบวนรถท้องถิ่น จำนวน 152 ขบวน (ไป-กลับ) และขบวนรถโดยสารพิเศษ จำนวน 6 ขบวน (ไป-กลับ) ที่ขยายเวลาให้บริการเพิ่มอีก 30 วัน (ตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน – 17 กรกฎาคม 2563)

ในด้านมาตรการป้องกันความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) ได้ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคมอย่างเคร่งครัด โดยให้พนักงานด้านปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องจะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า และถุงมือยาง และ Face shield ตลอดเวลาที่ให้บริการ การตรวจคัดกรองผู้โดยสารอย่างเข้มข้น การจัดให้มีแอลกอฮอล์เจลบริการอย่างเพียงพอและทั่วถึง ทั้งบริเวณสถานีและบนขบวนรถ



การรักษาระยะห่าง Social Distancing ให้มีจุดยืน/นั่ง ให้ชัดเจน ทั้งที่สถานีและขบวนรถ โดยจำกัดการจำหน่ายตั๋วโดยสารสำหรับรถนั่งชั้น 2 – 3 ไว้ที่ร้อยละ 50 ของจำนวนที่นั่งทั้งหมด เมื่อจำหน่ายเต็มตามที่ระบุแล้ว จะไม่จำหน่ายตั๋วอีกรวมทั้งตั๋วไม่มีที่นั่ง (ตั๋วยืน)

สำหรับผู้โดยสารที่เดินทางโดยรถนอนปรับอากาศชั้น 1 และชั้น 2 ได้มีการกำหนดจุดที่นั่งก่อนที่จะมีการปรับเก้าอี้เป็นเตียงนอน ทั้งเตียงบนและเตียงล่าง เพื่อให้มีการรักษาระยะห่าง และการงดจำหน่ายอาหารบนขบวนรถ หากผู้โดยสารที่เดินทางไกลเกินกว่า 3 ชั่วโมง ให้เตรียมอาหารไปรับประทานเอง และจะดำเนินการติดตั้ง แอปพลิเคชั่น (application) “ไทยชนะ” ที่สถานีและบนขบวนรถ (เป็นรายตู้/โบกี้) เพื่อใช้ควบคุมการเข้าออกของผู้โดยสารที่มาใช้บริการผ่าน Check-in และ Check-out จากแอปพลิเคชั่นดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม การรถไฟฯ ขอความร่วมมือผู้โดยสารทำการกรอกรายละเอียดในแบบคำร้องประกอบการซื้อตั๋ว และสำหรับผู้โดยสารที่จะต้องเดินทางข้ามเขตจังหวัด จะต้องกรอกข้อมูลเอกสารรับรองความจำเป็นในการเดินทาง ตามแบบฟอร์ม ต.8/คค./รฟท. และได้รับการตรวจคัดกรอง เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19

ฉะนั้น จึงขอให้ผู้โดยสารมาถึงสถานีล่วงหน้าก่อนเวลาเดินทาง เพื่อความสะดวก รวดเร็ว ทั้งนี้สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม รวมทั้งกำหนดเวลาต่าง ๆ ได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง


“คลายล็อก4”นั่งรถไฟฯข้ามจว.พุ่ง8,000คน/วัน สายอีสานแน่นสุด
12 มิถุนายน 2563 เวลา 12:05 น.

"คลายล็อก4" การรถไฟฯ สรุปยอดเปิดเดินขบวนรถชานเมือง(เพิ่มเติม) –ทางไกลข้ามจังหวัด ยอดพุ่งเฉลี่ย8,000คนต่อวัน แน่นสุดสายอีสาน

การเปิดเดินขบวนรถทางไกล -เดินรถชานเมือง เพิ่มเติม หลังมีมาตรการผ่อนคลายระยะ 4 ของการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) พบประชาชนเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัดภายใต้เวลาเคอร์ฟิว เพิ่มขึ้นอย่างคึกคัก นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่การรถไฟฯ ได้เปิดให้บริการเดินขบวนรถโดยสารทางไกล ขบวนรถชานเมือง ขบวนรถธรรมดา และขบวนรถท้องถิ่น พร้อมทั้งขยายระยะเวลาการเปิดเดินขบวนรถโดยสารพิเศษออกไปอีก 30 วัน เป็นการเพิ่มเติม เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2563 หลังจากรัฐบาลได้มีมาตรการผ่อนผ่อนคลายการเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัดให้รถโดยสารสาธารณะสามารถเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัดในช่วงเวลาเคอร์ฟิวได้ ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) ในระยะที่ 4 เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกการเดินทางของประชาชนที่มีความจำเป็นต้องเดินทางโดยรถไฟ ทั้งการเดินทางภายในเขตเมือง ระหว่างเมือง และทางไกล ข้ามเขตพื้นที่จังหวัด สำหรับการเดินทางของประชาชนเมื่อวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันแรกของการเปิดเดินขบวนรถเพิ่มเติม ภาพรวมด้านการโดยสารขบวนรถให้บริการเพียงพอ มีผู้ใช้บริการทั้งสิ้น จำนวน 26,225 คน แบ่งออกเป็น ผู้โดยสารเดินทางเข้ากรุงเทพ จำนวน 13,733 คน และผู้โดยสารเดินทางออกจากกรุงเทพ จำนวน 12,492 คน เส้นทางที่มีผู้ใช้บริการหนาแน่นที่สุด คือ สายตะวันออกเฉียงเหนือ 7,446 คน รองลงมาคือสายใต้ จำนวน 5,804 คน สายเหนือ 5,722 คน สายตะวันออก 4,441 คน และสายแม่กลอง 2,812 คน มีจำนวนเพิ่มขึ้นร้อยละ 43 เมื่อเปรียบเทียบกับวันที่ 10 มิถุนายน 2563 ที่มีผู้โดยสารเดินทางเพียง 18,218 คน ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าในวันนี้ (วันที่ 12 มิถุนายน 2563) จะมีประชาชนเดินทางเพิ่มขึ้น เนื่องจากจะเปิดเดินขบวนรถครบทั้งขาเข้าและขาออก และเป็นวันสุดท้ายของการทำงานก่อนถึงวันหยุดสุดสัปดาห์ โดยจะมีจำนวนผู้โดยสารเดินทางทั่วประเทศประมาณ 30,000 คน


ปัจจุบันมีขบวนรถที่ให้บริการทั้งหมด จำนวน 169 ขบวน (ไป-กลับ) ประกอบด้วย ขบวนรถโดยสารทางไกล จำนวน 11 ขบวน (ไป-กลับ) และขบวนรถชานเมือง และขบวนรถธรรมดา และขบวนรถท้องถิ่น จำนวน 152 ขบวน (ไป-กลับ) และขบวนรถโดยสารพิเศษ จำนวน 6 ขบวน (ไป-กลับ) ที่ขยายเวลาให้บริการเพิ่มอีก 30 วัน (ตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน – 17 กรกฎาคม 2563) นายนิรุฒฯ กล่าวต่อว่า ในด้านมาตรการป้องกันความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) ได้ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคมอย่างเคร่งครัด โดยให้พนักงานด้านปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องจะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า และถุงมือยางและ Face shield ตลอดเวลาที่ให้บริการ การตรวจคัดกรองผู้โดยสารอย่างเข้มข้น การจัดให้มีแอลกอฮอล์เจลบริการอย่างเพียงพอและทั่วถึง ทั้งบริเวณสถานีและบนขบวนรถ การรักษาระยะห่าง Social Distancing ให้มีจุดยืน / นั่ง ให้ชัดเจน ทั้งที่สถานีและขบวนรถ โดยจำกัดการจำหน่ายตั๋วโดยสารสำหรับรถนั่งชั้น 2 - 3 ไว้ที่ร้อยละ 50 ของจำนวนที่นั่งทั้งหมด เมื่อจำหน่ายเต็มตามที่ระบุแล้ว จะไม่จำหน่ายตั๋วอีกรวมทั้งตั๋วไม่มีที่นั่ง (ตั๋วยืน) สำหรับผู้โดยสารที่เดินทางโดยรถนอนปรับอากาศชั้น 1 และชั้น 2 ได้มีการกำหนดจุดที่นั่งก่อนที่จะมีการปรับเก้าอี้เป็นเตียงนอน ทั้งเตียงบนและเตียงล่าง เพื่อให้มีการรักษาระยะห่าง และการงดจำหน่ายอาหารบนขบวนรถ หากผู้โดยสารที่เดินทางไกลเกินกว่า 3 ชั่วโมง ให้เตรียมอาหารไปรับประทานเอง และจะดำเนินการติดตั้ง แอปพลิเคชั่น (application) “ไทยชนะ” ที่สถานีและบนขบวนรถ (เป็นรายตู้/โบกี้) เพื่อใช้ควบคุมการเข้าออกของผู้โดยสารที่มาใช้บริการผ่าน Check-in และ Check-out จากแอปพลิเคชั่นดังกล่าว อย่างไรก็ตาม การรถไฟฯ ขอความร่วมมือผู้โดยสารทำการกรอกรายละเอียดในแบบคำร้องประกอบการซื้อตั๋ว และสำหรับผู้โดยสารที่จะต้องเดินทางข้ามเขตจังหวัด จะต้องกรอกข้อมูลเอกสารรับรองความจำเป็นในการเดินทาง ตามแบบฟอร์ม ต.8/คค./รฟท. และได้รับการตรวจคัดกรอง เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 ฉะนั้น จึงขอให้ผู้โดยสารมาถึงสถานีล่วงหน้าก่อนเวลาเดินทาง
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42631
Location: NECTEC

PostPosted: 15/06/2020 10:26 am    Post subject: Reply with quote

ยกเลิกเคอร์ฟิว 5 ทุ่มวันนี้ ‘รถไฟ’ แจ้งกลับมาจอดทุกสถานีตามปกติ
The Bangkok Insight
14 มิถุนายน 2563 เวลา 06:41:29+00:00

รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) แจ้งว่า เนื่องจากรัฐบาลประกาศข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 10) เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2563 ข้อ 1 ให้ยกเลิกการห้ามออกนอกเคหสถานทั่วราชอาณาจักร (เคอร์ฟิว) เพราะเหตุอันเนื่องจากสถานการณ์โควิด – 19 ตั้งแต่เวลา 23.00 น. ของวันนี้ (14 มิ.ย. 63)

ดังนั้น ขบวนรถไฟเชิงพาณิชย์ที่เคยงดจอดในบางสถานีของเส้นทางสายเหนือ สายตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) และสายใต้ ในช่วงเวลาเคอร์ฟิว ตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน 2563 ที่ผ่านมา จะกลับมาจอดตามกำหนดปกติ ตั้งแต่วันนี้ (14 มิ.ย. 63) เป็นต้นไป ดังนี้

สายเหนือ

ด่วนพิเศษ 9 กรุงเทพฯ-เชียงใหม่
ด่วนพิเศษ 10 เชียงใหม่-กรุงเทพฯ

สายตะวันออกเฉียงเหนือ

ด่วนพิเศษ 23 กรุงเทพฯ-อุบลราชธานี
ด่วนพิเศษ 24 อุบลราชธานี-กรุงเทพฯ
ด่วนพิเศษ 25 กรุงเทพฯ-หนองคาย
ด่วนพิเศษ 26 หนองคาย-กรุงเทพฯ

สายใต้

ด่วนพิเศษ 31 กรุงเทพฯ-ชุมทางหาดใหญ่
ด่วนพิเศษ 32 ชุมทางหาดใหญ่-กรุงเทพฯ
ด่วนพิเศษ 37 กรุงเทพฯ-สุไหงโกลก
ด่วนพิเศษ 38 สุไหงโกลก-กรุงเทพฯ
ด่วนพิเศษ 83 กรุงเทพฯ-ตรัง
ด่วนพิเศษ 84 ตรัง-กรุงเทพฯ
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42631
Location: NECTEC

PostPosted: 23/06/2020 7:47 pm    Post subject: Reply with quote

รฟท. เตรียมเปิดเดินขบวนรถไฟเชิงพาณิชย์ (ทางไกลข้ามจังหวัด) อีก 40 ขบวน(รวมขบวนรถพิเศษโดยสาร/ท่องเที่ยว) พร้อมยกเลิกขบวนรถด่วนโควิด 6 ขบวนที่วิ่งให้บริการในปัจจุบัน (ข.9051/9052, 9071/9072 และ 9075/9076) โดยเที่ยวไป ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.63 และเที่ยวกลับตั้งแต่วันที่ 2 ก.ค.63

ป.ล. *รอประกาศทางการจากเพจพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทยนะครับ
**คงเหลืออีก 24 ขบวน( เหนือ 4, อีสาน8, ใต้12) เนื่องจากยังคงมีมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมและมีรถโดยสารบางส่วนอยู่ระหว่างซ่อมบำรุง ทำให้ตู้โดยสารไม่เพียงพอที่จะนำมาทำขบวน
*** ข.13/14 ข.51/52 ข.67/68 ข.85/86 ไม่มีรถเสบียงพ่วง
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=3147283038651953&set=a.3033691060011152&type=3&theater
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=3146829768697280&set=a.3033691060011152&type=3&theater
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44335
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 29/06/2020 3:24 pm    Post subject: Reply with quote

Arrow https://www.facebook.com/pr.railway/posts/3626882290659949

ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย
29 มิ.ย. 63

การรถไฟฯ เปิดเดินขบวนทางไกล และขบวนรถนำเที่ยวเพิ่มเติม จำนวน 40 ขบวน ภายหลัง ศบค. ไฟเขียวผ่อนคลายมาตรการในระยะที่ 4 เริ่มเปิดให้บริการ 1 กรกฎาคมนี้

++การรถไฟแห่งประเทศ ประกาศเปิดให้บริการขบวนรถทางไกล ขบวนรถนำเที่ยววันหยุด และขบวนรถพิเศษโดยสารวันหยุดเป็นการเพิ่มเติม จำนวน 40 ขบวน ภายหลังมีการยกเลิกประกาศห้ามประชาชนออกนอกเคหสถานหรือเคอร์ฟิว และการขนส่งสาธารณะข้ามเขตพื้นที่จังหวัด ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 เป็นต้นไป และยกเลิกขบวนรถโดยสารพิเศษที่ให้บริการชั่วคราว ++

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย แจ้งว่า ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เห็นชอบให้ยกเลิกประกาศห้ามประชาชนออกนอกเคหสถานหรือเคอร์ฟิว และการขนส่งสาธารณะข้ามเขตพื้นที่จังหวัด ในการผ่อนปรนมาตรการระยะที่ 4 ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2563 เป็นต้นไป เพื่อเป็นการบรรเทาผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนด้านเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงตามหลักเกณฑ์ขององค์การอนามัยโลกและตามผลการประเมินสถานการณ์ของฝ่ายสาธารณสุข พร้อมทั้งอนุญาตให้กิจการและกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูงกลับมาดำเนินการได้ แต่ยังควบคุมการเดินทางเข้าราชอาณาจักรทั้งทางบก ทางน้ำและทางอากาศ โดยกำหนดให้หน่วยงานที่รับผิดชอบตรวจสอบและกำกับดูแลการขนส่งผู้โดยสารที่เป็นการขนส่งสาธารณะทุกประเภท (รถโดยสารประจำทาง รถปรับอากาศ รถตู้ รถไฟ เรือ เครื่องบิน) โดยผู้ประกอบการต้องจัดระบบและระเบียบต่าง ๆ รวมทั้งให้มีการจอดพักรถ การเว้นที่นั่ง และการจำกัดจำนวนผู้โดยสารในแต่ละเที่ยว ให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าจะมีประชาชนมีความต้องการในการเดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกการเดินทางของประชาชนที่มีความจำเป็นต้องเดินทางโดยรถไฟ ทั้งการเดินทางภายในเขตเมือง ระหว่างเมือง และทางไกล ข้ามเขตพื้นที่จังหวัด การรถไฟฯ จึงได้ประกาศเปิดเดินขบวนรถโดยสารทางไกลเพิ่มเติม จำนวน 40 ขบวน เพื่อให้สอดคล้องตามมาตรการผ่อนคลายการเดินทาง ระยะที่ 4 เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563
เป็นต้นไป สำหรับขบวนรถที่เปิดให้บริการในเส้นทางต่าง ๆ มีดังนี้
1. ขบวนรถโดยสารทางไกล จำนวน 34 ขบวน (ไป-กลับ) ดังนี้
1.1 สายเหนือ
ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 (เที่ยวไป) จำนวน 6 ขบวน
ตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคม 2563 (เที่ยวกลับ) จำนวน 4 ขบวน
1.2 สายตะวันออกเฉียงเหนือ
ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 (เที่ยวไป) จำนวน 9 ขบวน
ตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคม 2563 (เที่ยวกลับ) จำนวน 5 ขบวน
1.3 สายใต้
ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 (เที่ยวไป) จำนวน 7 ขบวน
ตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคม 2563 (เที่ยวกลับ) จำนวน 3 ขบวน
2. ขบวนรถนำเที่ยววันหยุด และขบวนรถพิเศษโดยสารวันหยุด เปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคม 2563
เป็นต้นไป จำนวน 6 ขบวน (ไป-กลับ)
2.1 ขบวนรถนำเที่ยว 909/910 กรุงเทพ-น้ำตก-กรุงเทพ
2.2 ขบวนรถนำเที่ยว 911/912 กรุงเทพ-สวนสนประดิพัทธ์-กรุงเทพ
2.3 ขบวนรถพิเศษโดยสารที่ 997/998 กรุงเทพ-บ้านพลูตาหลวง-กรุงเทพ

นอกจากนี้ ได้ประกาศยกเลิกขบวนรถโดยสารพิเศษที่ได้ขยายระยะเวลาให้บริการผู้ใช้บริการเป็นการชั่วคราว 30 วัน โดยจะประกาศยกเลิกตั้งแต่วันที่ 1 – 17 กรกฎาคม 2563 จำนวน 4 ขบวน (ไป-กลับ) ประกอบด้วย 1. ขบวนรถโดยสารพิเศษที่ 9071 (กรุงเทพ–อุบลราชธานี) ขบวนรถโดยสารพิเศษ 9075 (กรุงเทพ–หนองคาย) ยกเลิกตั้งแต่วันที่ 1–16 กรกฎาคม 2563 และ 2. ขบวนรถโดยสารพิเศษ 9072 (อุบลราชธานี-กรุงเทพ) ขบวนรถโดยสารพิเศษที่ 9076 (หนองคาย-กรุงเทพ) ยกเลิกตั้งแต่วันที่ 1 – 17 กรกฎาคม 2563

การรถไฟฯ ยังคงให้ความสำคัญในด้านมาตรการป้องกันความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) ได้ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคมอย่างเคร่งครัด โดยให้พนักงานด้านปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องจะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ถุงมือยางและ Face shield ตลอดเวลาที่ให้บริการ การตรวจคัดกรองผู้โดยสารอย่างเข้มข้น การจัดให้มีแอลกอฮอล์เจลบริการอย่างเพียงพอและทั่วถึง ทั้งบริเวณสถานีและบนขบวนรถ การรักษาระยะห่าง Social Distancing ให้มีจุดยืน /นั่ง ให้ชัดเจน ทั้งที่สถานีและขบวนรถ โดยจำกัดการจำหน่ายตั๋วโดยสารไว้ที่ร้อยละ 50 ของจำนวนที่นั่งทั้งหมด เมื่อจำหน่ายเต็มตามที่ระบุแล้ว จะไม่จำหน่ายตั๋วอีกรวมทั้งตั๋วไม่มีที่นั่ง (ตั๋วยืน) และการงดจำหน่ายอาหารบนขบวนรถ หากผู้โดยสารที่เดินทางไกลเกินกว่า 3 ชั่วโมง ให้เตรียมอาหารไปรับประทานเอง และจะดำเนินการติดตั้ง แอปพลิเคชั่น (application) “ไทยชนะ” ที่สถานีและบนขบวนรถ (เป็นรายตู้/โบกี้) เพื่อใช้ควบคุมการเข้าออกของผู้โดยสารที่มาใช้บริการผ่าน Check-in และ Check-out จากแอปพลิเคชั่นดังกล่าว สำหรับผู้โดยสารที่มีความประสงค์จะเดินทาง สามารถจองตั๋วล่วงหน้าได้แต่วันที่ 27 มิถุนายน 2563 เป็นต้นไป ทั้งนี้ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม รวมทั้งกำหนดเวลาต่าง ๆ ได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ สถานีรถไฟ หรือเฟซบุ๊ก แฟนเพจ ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42631
Location: NECTEC

PostPosted: 30/06/2020 2:07 am    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
Arrow https://www.facebook.com/pr.railway/posts/3626882290659949
การรถไฟฯ เปิดเดินขบวนทางไกล และขบวนรถนำเที่ยวเพิ่มเติม จำนวน 40 ขบวน ภายหลัง ศบค. ไฟเขียวผ่อนคลายมาตรการในระยะที่ 4 เริ่มเปิดให้บริการ 1 กรกฎาคมนี้

ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย
29 มิ.ย. 63



1 ก.ค. รฟท.เปิดเดินรถทางไกล - นำเที่ยวเพิ่ม 40 ขบวน
หน้าข่าวทั่วไป
29 มิถุนายน 2563 เวลา 16:58 น.

รถไฟเพิ่มรถ 40 ขบวนวิ่ง “ทางไกล-นำเที่ยว” เริ่ม 1 ก.ค.นี้
29 มิถุนายน 2563 เวลา 17:37 น.

1 ก.ค.นี้ การรถไฟฯ เปิดเดินรถ "ทางไกล-นำเที่ยว" เพิ่ม 40 ขบวน
29 มิถุนายน 2563 เวลา 18:09

รฟท.เปิดเดินรถทางไกล-นำเที่ยวเพิ่ม 40 ขบวน หลัง ศบค.ไฟเขียวคลายล็อกระยะ 4 ดีเดย์ 1 ก.ค.นี้
29 มิถุนายน 2563 เวลา 16:32

รฟท. เปิดวิ่ง ‘รถไฟทางไกล-รถนำเที่ยว’ เพิ่ม 40 ขบวน ดีเดย์ 1 ก.ค. นี้
29 มิถุนายน 2563

รฟท.เปิดเดินขบวนทางไกล นำเที่ยว 40 ขบวน หลัง ศบค. ผ่อนคลาย 1ก.ค.นี้
ข่าวทั่วไทย
ไทยรัฐออนไลน์
29 มิถุนายน 2563 เวลา 22:54 น.

เฮ! รฟท.เปิดเดินขบวนทางไกล และขบวนรถนำเที่ยวเพิ่มเติมรวม 40 ขบวน หลัง ศบค. ไฟเขียวผ่อนคลายมาตรการในระยะที่ 4 เริ่มเปิดให้บริการ 1 ก.ค.นี้ ย้ำการขนส่งสาธารณะข้ามเขตพื้นที่จังหวัด ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 จำหน่ายตั๋วโดยสารไว้ที่ 50 %ของจำนวนที่นั่งทั้งหมด


เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.63 นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า รฟท.ประกาศเปิดให้บริการขบวนรถทางไกล ขบวนรถนำเที่ยววันหยุด และขบวนรถพิเศษโดยสารวันหยุดเป็นการเพิ่มเติม จำนวน 40 ขบวน ภายหลังมีการยกเลิกประกาศห้ามประชาชนออกนอกเคหสถานหรือเคอร์ฟิว และการขนส่งสาธารณะข้ามเขตพื้นที่จังหวัด ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 เป็นต้นไป และยกเลิกขบวนรถโดยสารพิเศษที่ให้บริการชั่วคราว

รอง ผบช.น. วางแผนรับเปิดเทอม 1 ก.ค.นี้ เน้นระบายรถให้คล่องตัวที่สุด
ปัญหารถบรรทุก (2)
รถไฟฟ้าบีทีเอส ชนคนงานเจ็บ ฝ่าฝืน-เข้าพื้นที่
อย่างไรก็ตามตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เห็นชอบให้ยกเลิกประกาศห้ามประชาชนออกนอกเคหสถานหรือเคอร์ฟิว และการขนส่งสาธารณะข้ามเขตพื้นที่จังหวัด ในการผ่อนปรนมาตรการระยะที่ 4 ตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย.63 เป็นต้นไป เพื่อเป็นการบรรเทาผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนด้านเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงตามหลักเกณฑ์ขององค์การอนามัยโลกและตามผลการประเมินสถานการณ์ของฝ่ายสาธารณสุข พร้อมทั้งอนุญาตให้กิจการและกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูงกลับมาดำเนินการได้ แต่ยังควบคุมการเดินทางเข้าราชอาณาจักรทั้งทางบก ทางน้ำและทางอากาศ

ทั้งนี้ โดยกำหนดให้หน่วยงานที่รับผิดชอบตรวจสอบและกำกับดูแลการขนส่งผู้โดยสารที่เป็นการขนส่งสาธารณะทุกประเภท (รถโดยสารประจำทาง รถปรับอากาศ รถตู้ รถไฟ เรือ เครื่องบิน) โดยผู้ประกอบการต้องจัดระบบและระเบียบต่าง ๆ รวมทั้งให้มีการจอดพักรถ การเว้นที่นั่ง และการจำกัดจำนวนผู้โดยสารในแต่ละเที่ยว ให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าจะมีประชาชนมีความต้องการในการเดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ดังนั้น เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกการเดินทางของประชาชนที่มีความจำเป็นต้องเดินทางโดยรถไฟ ทั้งการเดินทางภายในเขตเมือง ระหว่างเมือง และทางไกล ข้ามเขตพื้นที่จังหวัด การรถไฟฯ จึงได้ประกาศเปิดเดินขบวนรถโดยสารทางไกลเพิ่มเติม จำนวน 40 ขบวน เพื่อให้สอดคล้องตามมาตรการผ่อนคลายการเดินทาง ระยะที่ 4 เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 เป็นต้นไป

สำหรับขบวนรถที่เปิดให้บริการในเส้นทางต่าง ๆ มีดังนี้
1. ขบวนรถโดยสารทางไกล จำนวน 34 ขบวน (ไป-กลับ) ดังนี้ 1.1 สายเหนือ
ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 (เที่ยวไป) จำนวน 6 ขบวน
1. ดพ. 13 กรุงเทพ - เชียงใหม่
2. ด. 51 กรุงเทพ - เชียงใหม่
3. ร. 107 กรุงเทพ - เด่นชัย
4. ร. 108 เด่นชัย - กรุงเทพ
5. ร. 109 กรุงเทพ - เชียงใหม่
6. ร. 111 กรุงเทพ - เด่นชัย

ตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคม 2563 (เที่ยวกลับ) จำนวน 4 ขบวน
1. ดพ. 14 เชียงใหม่ - กรุงเทพ
2. ด. 52 เชียงใหม่ - กรุงเทพ
3. ร. 102 เชียงใหม่ - กรุงเทพ
4. ร. 112 เด่นชัย - กรุงเทพ

1.2 สายตะวันออกเฉียงเหนือ
ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 (เที่ยวไป) จำนวน 9 ขบวน
1. ดพ. 21 กรุงเทพ - อุบลราชธานี
2. ดพ. 22 อุบลราชธานี - กรุงเทพ
3. ด. 67 กรุงเทพ - อุบลราชธานี
4. ด. 75 กรุงเทพ - หนองคาย
5. ร. 133 กรุงเทพ - หนองคาย
ุ6. ร. 135 กรุงเทพ - อุบลราชธานี
7. ร. 139 กรุงเทพ - อุบลราชธานี
8. ร. 140 อุบลราชธานี - กรุงเทพ
9. ร. 145 กรุงเทพ - อุบลราชธานี

ตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคม 2563 (เที่ยวกลับ) จำนวน 5 ขบวน
1. ด. 68 อุบลราชธานี - กรุงเทพ
2. ร. 136 อุบลราชธานี - กรุงเทพ
3. ร. 146 อุบลราชธานี - กรุงเทพ
4. ด. 76 หนองคาย - กรุงเทพ
5. ร. 134 หนองคาย - กรุงเทพ

1.3 สายใต้ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 (เที่ยวไป) จำนวน 7 ขบวน
1. ดพ. 39 กรุงเทพ - สุราษฎร์ธานี
2. ดพ. 44 สุราษฎร์ธานี - กรุงเทพ
3. ด. 85 กรุงเทพ - นครศรีธรรมราช
4. ร. 167 กรุงเทพ - กันตัง
5. ร. 171 กรุงเทพ - สุไหงโกลก
6. ดพ. 915 กรุงเทพ - น้ำตก
7. ดพ. 916 น้้ำตก - กาญจนบุรี
ตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคม 2563 (เที่ยวกลับ) จำนวน 3 ขบวน
1. ด. 86 นครศรีธรรมราช - กรุงเทพ
2. ร. 168 กันตัง - กรุงเทพ
3. ร. 171 สุไหงโกลก - กรุงเทพ
4-5. ดพ. 909/910 กรุงเทพ - น้ำตก - กรุงเทพ
6-7. ดพ. 911/912 กรุงเทพ - สวนสนประดิพัทธื์ - กรุงเทพ
8-9. ดพ. 997/998 กรุงเทพ - พลูตาหลวง - กรุงเทพ
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42631
Location: NECTEC

PostPosted: 03/07/2020 5:47 pm    Post subject: การเดินรถวันเข้าพรรษา 2563 Reply with quote

“วันเข้าพรรษา” การรถไฟฯ พร้อมเดินรถ224ขบวน
หน้าเศรษฐกิจมหภาค / Mega Project
ศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม 2563 เวลา 16:36 น.


“วันเข้าพรรษา” การรถไฟฯ พร้อมเดินรถ224ขบวนรองรับการเดินทางของผู้โดยสารในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา วันที่ 3-8 ก.ค.

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การรถไฟฯ ได้จัดแผนอำนายความสะดวกและความปลอดภัยรองรับการเดินทางของผู้โดยสารในช่วงเทศกาลวันหยุดยาววันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา ระหว่างวันที่ 3 - 8 กรกฎาคม 2562 โดยได้เตรียมเพิ่มตู้โดยสารให้เพียงพอในแต่ละเส้นทางที่ให้บริการในปัจจุบัน ทั้งหมด 224 ขบวนต่อวัน เพื่อให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวก และไม่เกิดปัญหาผู้โดยสารตกค้างตามสถานี



การรถไฟฯ ประเมินว่าในช่วงเทศกาลหยุดยาว 4 วัน จะมีผู้โดยสารใช้บริการรถไฟเดินทางกลับภูมิลำเนา และท่องเที่ยวมากกว่าปกติ หลังจากมาตรการผ่อนคลายของรัฐบาล ดังนั้น จึงได้มีการเตรียมพร้อมในการพ่วงตู้โดยสารในทุกเส้นทางให้สามารถรองรับการเดินทางของประชาชนได้อย่างเพียงพอ โดยประมาณการผู้โดยสารที่เดินทางในวันทำงานสุดท้ายของสัปดาห์ คือวันที่ 3 กรกฎาคม 2563 จำนวนผู้โดยสารขาเข้าและออกประมาณ 55,000 คน นอกจากนี้ ยังมอบนโยบายให้เจ้าหน้าที่การรถไฟฯ เพิ่มความเข้มงวดในการดูแลความปลอดภัยในด้านต่าง ๆ ทั้งด้านพนักงานบริการ ตรวจตราดูแลความเรียบร้อยบนขบวนรถและในสถานี เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ พนักงานรักษาความปลอดภัย เจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟ ประจำตามสถานีที่มีผู้โดยสารใช้บริการเป็นจำนวนมาก เพื่ออำนวยความสะดวก ปลอดภัยระหว่างการเดินทางแก่ผู้โดยสาร และให้มีการตรวจตราห้ามจำหน่ายและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และสารเสพติดบนขบวนรถและบริเวณสถานีรถไฟอย่างเคร่งครัด รวมถึงมีการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในลมหายใจ การตรวจหาสารเสพติดให้กับพนักงานขับรถ เจ้าหน้าที่ประจำขบวนรถ และประจำสถานี ก่อนปฏิบัติหน้าที่


อย่างไรก็ตาม การรถไฟฯ ยังคงให้ความสำคัญในด้านมาตรการป้องกันความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคมอย่างเคร่งครัด โดยให้พนักงานด้านปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องจะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ถุงมือยางและ Face shield ตลอดเวลาที่ให้บริการ การตรวจคัดกรองผู้โดยสารอย่างเข้มข้น การจัดให้มีแอลกอฮอล์เจลบริการอย่างเพียงพอและทั่วถึง ทั้งบริเวณสถานีและบนขบวนรถ การรักษาระยะห่าง Social Distancing ให้มีจุดยืน / นั่ง ให้ชัดเจน

ทั้งที่สถานีและขบวนรถ โดยจำกัดการจำหน่ายตั๋วโดยสารไว้ที่ร้อยละ 50 ของจำนวนที่นั่งทั้งหมด เมื่อจำหน่ายเต็มตามที่ระบุแล้ว จะไม่จำหน่ายตั๋วอีกรวมทั้งตั๋วไม่มีที่นั่ง (ตั๋วยืน) และการงดจำหน่ายอาหารบนขบวนรถ หากผู้โดยสารที่เดินทางไกลเกินกว่า 3 ชั่วโมง ให้เตรียมอาหารไปรับประทานเอง และจะดำเนินการติดตั้ง แอปพลิเคชั่น (application) “ไทยชนะ” ที่สถานีและบนขบวนรถ (เป็นรายตู้/โบกี้) เพื่อใช้ควบคุมการเข้าออกของผู้โดยสารที่มาใช้บริการผ่าน Check-in และ Check-out จากแอปพลิเคชั่นดังกล่าว



นายนิรุฒฯ กล่าวว่า การดำเนินการอำนวยความสะดวกและเพิ่มความปลอดภัยดังกล่าว การรถไฟฯ คาดหวังว่าจะสามารถให้บริการรับส่งผู้โดยสารเดินทางได้ถึงที่หมายได้อย่างสะดวก ปลอดภัยเกิดความสวัสดิภาพตลอดการเดินทาง และสำหรับประชาชนที่ต้องการเดินทางในช่วงเทศกาลหยุดยาว ยังสามารถสอบถามข้อมูลเส้นทาง หรือข้อมูลการจองตั๋วโดยสารเพิ่มเติม ได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเฟซบุ๊ก แฟนเพจ ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42631
Location: NECTEC

PostPosted: 04/07/2020 11:48 pm    Post subject: Re: การเดินรถวันเข้าพรรษา 2563 Reply with quote

Wisarut wrote:
“วันเข้าพรรษา” การรถไฟฯ พร้อมเดินรถ224ขบวน
หน้าเศรษฐกิจมหภาค / Mega Project
วันศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม 2563 เวลา 16:36 น.




รถไฟวิ่งวันละ 224 ขบวน หยุดยาว “อาสาฬหบูชา-เข้าพรรษา”
อสังหาริมทรัพย์
วันศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม 2563 เวลา 17:50 น.



นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ได้จัดแผนอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยรองรับการเดินทางของผู้โดยสารในช่วงเทศกาลวันหยุดยาววันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา ระหว่างวันที่ 3 – 8 กรกฎาคม 253 โดยได้เตรียมเพิ่มตู้โดยสารให้เพียงพอในแต่ละเส้นทางที่ให้บริการในปัจจุบัน ทั้งหมด 224 ขบวนต่อวัน เพื่อให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวก และไม่เกิดปัญหาผู้โดยสารตกค้างตามสถานี

โดยประเมินว่าในช่วงเทศกาลหยุดยาว 4 วัน จะมีผู้โดยสารใช้บริการรถไฟเดินทางกลับภูมิลำเนา และท่องเที่ยวมากกว่าปกติ หลังจากมาตรการผ่อนคลายของรัฐบาล จึงได้มีการเตรียมพร้อมในการพ่วงตู้โดยสารในทุกเส้นทางให้สามารถรองรับการเดินทางของประชาชนได้อย่างเพียงพอ



โดยประมาณการผู้โดยสารที่เดินทางในวันทำงานสุดท้ายของสัปดาห์ คือวันที่ 3 กรกฎาคม 2563 จำนวนผู้โดยสารขาเข้าและออกประมาณ 55,000 คน นอกจากนี้ ยังเพิ่มความเข้มงวดในการดูแลความปลอดภัยในด้านต่าง ๆ ทั้งด้านพนักงานบริการ ตรวจตราดูแลความเรียบร้อยบนขบวนรถและในสถานี เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ พนักงานรักษาความปลอดภัย เจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟ ประจำตามสถานีที่มีผู้โดยสารใช้บริการเป็นจำนวนมาก เพื่ออำนวยความสะดวก ปลอดภัยระหว่างการเดินทางแก่ผู้โดยสาร และให้มีการตรวจตราห้ามจำหน่ายและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และสารเสพติดบนขบวนรถและบริเวณสถานีรถไฟอย่างเคร่งครัด รวมถึงมีการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในลมหายใจ การตรวจหาสารเสพติดให้กับพนักงานขับรถ เจ้าหน้าที่ประจำขบวนรถ และประจำสถานี ก่อนปฏิบัติหน้าที่

เพราะยังคงให้ความสำคัญในด้านมาตรการป้องกันความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด – 19) ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคมอย่างเคร่งครัด โดยให้พนักงานด้านปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องจะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ถุงมือยาง และ Face shield ตลอดเวลาที่ให้บริการ การตรวจคัดกรองผู้โดยสารอย่างเข้มข้น การจัดให้มีแอลกอฮอล์เจลบริการอย่างเพียงพอและทั่วถึง ทั้งบริเวณสถานีและบนขบวนรถ การรักษาระยะห่าง Social Distancing ให้มีจุดยืน/นั่ง ให้ชัดเจน

ทั้งที่สถานีและขบวนรถ โดยจำกัดการจำหน่ายตั๋วโดยสารไว้ที่ร้อยละ 50 ของจำนวนที่นั่งทั้งหมด เมื่อจำหน่ายเต็มตามที่ระบุแล้ว จะไม่จำหน่ายตั๋วอีกรวมทั้งตั๋วไม่มีที่นั่ง (ตั๋วยืน) และการงดจำหน่ายอาหารบนขบวนรถ หากผู้โดยสารที่เดินทางไกลเกินกว่า 3 ชั่วโมง ให้เตรียมอาหารไปรับประทานเอง และจะดำเนินการติดตั้ง แอปพลิเคชั่น (application) “ไทยชนะ” ที่สถานีและบนขบวนรถ (เป็นรายตู้/โบกี้) เพื่อใช้ควบคุมการเข้าออกของผู้โดยสารที่มาใช้บริการผ่าน Check-in และ Check-out จากแอปพลิเคชั่นดังกล่าว
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42631
Location: NECTEC

PostPosted: 08/07/2020 12:59 pm    Post subject: Reply with quote

รถไฟสายใต้จากหาดใหญ่ มุ่งขึ้นกรุงเทพฯ คนแน่นทุกขบวน เตรียมกลับมาทำงาน
ข่าวทั่วไทย
ไทยรัฐออนไลน์
อังคารที่ 7 กรกฎาคม 2563 เวลา 15:02 น.

บรรยากาศที่สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ วันสุดท้ายของช่วงหยุดยาว 4 วัน เนืองแน่นไปด้วยผู้ที่เดินทางกลับภูมิลำเนา ขณะที่รถไฟขึ้นไปกรุงเทพฯ ผู้โดยสารแน่นทั้ง 3 ขบวน



เมื่อวันที่ 7 ก.ค.63 บรรยากาศที่สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ จ.สงขลา ในวันหยุดส่งท้ายของวันหยุดยาว วันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา รถไฟทุกขบวนทั้งขบวนท้องถิ่นในเส้นทางภาคใต้ และขบวนรถที่มาจากกรุงเทพฯ มีผู้โดยสารเดินทางหนาแน่น เนื่องจากประชาชนทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนาและกลับจากท่องเที่ยว โดยเฉพาะเส้นทางขึ้นล่องกรุงเทพฯ ซึ่งให้บริการเพิ่มขึ้นเป็น 3 ขบวน มีผู้โดยสารเต็มทุกขบวน

ในขณะที่เจ้าหน้าที่ยังคงมีมาตรการตรวจสอบและคัดกรองผู้โดยสารตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเข้มข้น มีการสแกนคิวอาร์โค้ดและกรอกข้อมูลไทม์ไลน์การเดินทางอย่างละเอียด ซึ่งบางขบวนโดยเฉพาะที่มาจากกรุงเทพฯ ซึ่งมีผู้โดยสารหนาแน่น ผู้โดยสารต้องต่อแถวเพื่อลงทะเบียนไทม์ไลน์ การเดินทางของแต่ละคน แต่ผู้โดยสารทุกคนก็เข้าใจ และให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี.
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44335
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 15/07/2020 3:20 pm    Post subject: Reply with quote

รถไฟ 6 ขบวนสายใต้ ยังไม่เปิดเดินรถ
เนชั่นทีวี 15 ก.ค. 2563

ผู้อำนวยการศูนย์ปฎิบัติการเดินรถภาค 4 เผย 6 ขบวนรถไฟที่ยังไม่เปิดเดินรถสายใต้ กรุงเทพฯ 4 ขบวน และท้องถิ่น 2 ขบวน ขบวนรถโดยสารหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์หยุดยาว

(15 ก.ค.63) นายพงษ์ศักดิ์ บุญสุข ผู้อำนวยการศูนย์ปฎิบัติการเดินรถภาค 4 การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผย "ผู้สื่อข่าว" ถึงขบวนรถไฟสายใต้ที่ยังไม่เปิดเดินรถในขณะนี้ มีจำนวนทั้งสิ้น 6 ขบวน ประกอบด้วย 1.ขบวน 173/174 กรุงเทพฯ-นครศรีธรรมราช-กรุงเทพฯ 2. ขบวน 169/170กรุงเทพฯ-ยะลา-กรุงเทพฯ 3.ขบวน 41/42 กรุงเทพฯ-ยะลา-กรุงเทพฯ 4.ขบวน 45/46 กรุงเทพฯ-ปาดังเบซาร์-กรุงเทพฯ 5.ขบวน 947/948 หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์-หาดใหญ่ และ6.ขบวน949/950 หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์-หาดใหญ่

นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า ในจำนวน 6 ขบวน แยกเป็นขบวนจากกรุงเทพฯจำนวน 4 ขบวน ซึ่งจะเป็นรถไฟสปรินเตอร์ และขบวนรถท้องถิ่นจำนวน 2 ขบวน สำหรับขบวนรถท้องถิ่นหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ที่ยังไม่เปิดเดินรถเนื่องจากประเทศมาเลเซียยังไม่เปิดเดินรถหลังจากที่หยุดเดินรถไฟมาตั้งแต่วันที่ 18 มี.ค.63ที่ผ่านมา จนถึงปัจจจุบัน

"ขบวนรถโดยสารหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ยังไม่เปิดเดินรถ ยกเว้นขบวนรถไฟบรรทุกสินค้าที่เปิดเดินรถเพื่อรองรับการส่งออกสินค้าเท่านั้น" ผู้อำนวยการศูนย์ปฎิบัติการเดินรถภาค 4 กล่าว
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44335
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 16/07/2020 7:41 am    Post subject: Reply with quote

รถไฟโหวงคนหาย1.5ล.รายได้หด166ล.
เดลินิวส์ (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

กลับมาใช้บริการแตะ5หมื่นคน/วัน 22ขบวนทางไกลจอดรอผู้โดยสาร

นายสุภัทร์ วรวัฒนนุทัย รักษาการผู้อำนวยการฝ่ายบริการโดยสารการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่าขณะนี้มีผู้โดยสารมาใช้บริการรถไฟอยู่ที่ประมาณ วันละ 4-5 หมื่นคน จากปกติก่อนเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาด ของโควิด-19 อยู่ที่ประมาณวันละ 7-8 หมื่นคน ผู้โดยสารยังหายไปประมาณวันละ 30,000 คน ส่วนช่วงเทศกาลวันหยุดยาวที่ผ่านมา (วันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา) มีผู้โดยสารใช้บริการประมาณวันละ 6 หมื่นคนจากปกติช่วงเทศกาลจะมี ผู้โดยสารมาใช้บริการวันละประมาณ 1.2 แสนคน สาเหตุที่ผู้โดยสารยังไม่กลับมาสู่ปกตินั้นประชาชนส่วนใหญ่ยังหลีกเลี่ยงการเดินทาง และตามปกติช่วงตั้งแต่เดือน มิ.ย.ส.ค.เป็นช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว (โลว์ซีซั่น) ของ รฟท. อยู่แล้ว

นายสุภัทร์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ รฟท. เปิดเดินขบวนรถโดยสารเชิงพาณิชย์แล้ว 220 ขบวน ยังเหลือขบวนรถโดยสารเชิงพาณิชย์ (ทางไกลข้ามจังหวัด) ที่ยังไม่เปิดเดินรถอีก 22 ขบวน ประกอบด้วย สายเหนือ ด่วนพิเศษ 3 กรุงเทพฯ-ศิลาอาสน์, ด่วนพิเศษ 4 ศิลาอาสน์-กรุงเทพฯ, เร็ว 105 กรุงเทพฯ-ศิลาอาสน์ และเร็ว 106 ศิลาอาสน์-กรุงเทพฯ สายอีสาน เร็ว 141 กรุงเทพฯ-อุบลราชธานี, เร็ว 142 อุบลราชธานีกรุงเทพฯ, ท้องถิ่น 481 หนองคาย-ท่านาแล้ง, ท้องถิ่น 482 ท่านาแล้ง-หนองคาย, ท้องถิ่น 483 หนองคาย-ท่านาแล้ง และท้องถิ่น 484 ท่านาแล้ง-หนองคาย

นายสุภัทร์ กล่าว อีกว่า สายใต้ ด่วนพิเศษ 41 กรุงเทพฯ-ยะลา, ด่วนพิเศษ 42 ยะลา-กรุงเทพฯ, ด่วนพิเศษ 45 กรุงเทพฯปาดังเบซาร์, ด่วนพิเศษ 46 ปาดังเบซาร์-กรุงเทพฯ, เร็ว 169 กรุงเทพฯยะลา, เร็ว 170 ยะลา-กรุงเทพฯ, เร็ว 173 กรุงเทพฯ-นครศรีธรรมราช, เร็ว 174 นครศรีธรรมราช-กรุงเทพฯ, พิเศษโดยสาร 947 ชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์, พิเศษโดยสาร 948 ปาดังเบซาร์-ชุมทางหาดใหญ่, พิเศษโดยสาร 949 ชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์และพิเศษโดยสาร 950 ปาดังเบซาร์-ชุมทางหาดใหญ่

นายสุภัทร์ กล่าวด้วยว่า รฟท. ยังไม่มีกำหนดว่าจะเปิดเดินรถทั้ง 22 ขบวนเมื่อใด เพราะปัจจุบันความต้องการการเดินทางของผู้โดยสารยังน้อยอยู่ส่วนขบวนรถโดยสารที่เปิดให้บริการแล้วนั้น รองรับผู้โดยสารได้อีกมากเพราะสามารถจำหน่ายตั๋วโดยสารสำหรับขบวนรถเชิงพาณิชย์ชั้น 2 และชั้น 3 ได้ทุกที่นั่งแล้ว จากเดิมขายตั๋วโดยสารได้แค่ 50% แต่ยังคงห้ามจำหน่ายตั๋วไม่มีที่นั่ง (ตั๋วยืน) อย่างไรก็ตามเดือน มิ.ย. 63 มีผู้โดยสารใช้บริการรวม 8.52 แสนคน รายได้อยู่ที่ประมาณ 98 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับเดือน มิ.ย. 62 ซึ่งมีผู้โดยสารใช้บริการประมาณ 2.4 ล้านคน และมีรายได้ประมาณ 264 ล้านบาท ทำให้แค่ 1 เดือน รายได้ลดลงประมาณ 166 ล้านบาท ผู้โดยสารลดลง 1.54 ล้านคน.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> เส้นทางรถไฟ, ค่าโดยสาร และเรื่องเกี่ยวกับการเดินรถ All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9  Next
Page 8 of 9

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©