Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311280
ทั่วไป:13262782
ทั้งหมด:13574062
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 269, 270, 271 ... 389, 390, 391  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44517
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 25/08/2020 7:40 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
Mongwin wrote:
เวนคืน 3 หมื่นไร่กลางกรุง-11 จังหวัด ลุยประมูลสร้าง 'รถไฟฟ้า-ทางคู่' 4 สายใหม่ 4 แสนล.
ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2563


ลิงก์มาแล้วครับ
https://www.prachachat.net/property/news-510987

ขอบคุณครับ Very Happy
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42704
Location: NECTEC

PostPosted: 26/08/2020 10:50 am    Post subject: Reply with quote

สุรพล นาคนคร รายงาน

บทสรุป...การแก้ไขปัญหา การก่อสร้าง สะพานข้ามทางรถไฟ 10 จุด ที่ผ่านเขตเทศบาลเมืองเพชรบุรี
..รูปแบบเดิม การรถไฟวางแผนทำทางข้ามรางฯ แต่ราษฏรไม่ต้องการ ขอให้แก้ไขโดยเสนอ ยกระดับรางสูงขึ้น แต่การรถไฟบอกต้องทำอีไอเอ ปรับแผนและเพิ่มงบประมาณ ไม่ทันการ
..ผู้ตรวจการแผ่นดินเข้ามาเป็นคนกลาง เพื่อประโยชน์ของทุกฝ่าย จึงได้ข้อสรุปดังนี้
...คณะกรรมการรถไฟฯ ได้มีมติเห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหาการก่อสร้างสะพานข้ามทางรถไฟ 10 จุด โดยการคงทางผ่านเสมอระดับ (Level Crossing) พร้อมเครื่องกั้นอัตโนมัติและติดตั้งระบบป้องกันอุบัติเหตุตามมาตรฐานของการรถไฟแห่งประเทศไทย
หมายเหตุ... รายละเอียดติดตามได้ทางนสพ.เพชรภูมิ
ชะรอยที่ออกมาก่อกวนตีรวนโครงการนี้ก็เพราะเจ้าพ่อเมืองเพชรบุรีสั่งให้ทำแน่นอน
https://www.facebook.com/surapol.naknakorn/posts/4967824916576427
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42704
Location: NECTEC

PostPosted: 28/08/2020 5:02 pm    Post subject: Reply with quote

เปิดการใช้งานทางคู่ ฉะเชิงเทรา - คลอง 19 - แก่งคอย วันที่ 31 กรกฎาคม 2563 เวลา 0900 หลังรอมานาน - วันนั้นได้ลงนามสั่งซื้อรถจักร 50 หลังด้วย แต่อย่าลื่มติดตั้งระบบรองรับ ECTS-1 ด้วยนะครับ
https://www.facebook.com/photo?fbid=3331607103552878&set=a.3033691060011152
https://www.facebook.com/photo?fbid=1004732183298503&set=a.153609758410754


Last edited by Wisarut on 31/08/2020 12:35 pm; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44517
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 29/08/2020 5:27 pm    Post subject: Reply with quote

รองชาตรีจี้รัฐออกประทานบัตรเหมืองหินแกรนิตทับสะแก หวั่นกระทบโครงการสร้างรถไฟทางคู่
บ้านเมือง วันเสาร์ ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2563, 17.00 น.

วันที่ 29 สิงหาคม นายชาตรี จันทร์วีระชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ได้นำ พลเอกประสูตร รัศมีแพทย์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางไปตรวจเยี่ยม อ.ทับสะแก อ.บางสะพาน เพื่อติดตามการทำเหมืองหินแกรนิตอุตสาหกรรมของบริษัท ทับสะแกแกรนิต จำกัด โดยตรวจสอบปริมาณหินแกรนิตที่จำเป็นสำหรับการก่อสร้างเส้นทางรถไฟรางคู่เส้นทางจาก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ถึง จ.ชุมพร และหินแกรนิตขนาดใหญ่สำหรับทำเขื่อนกันคลื่นทะเลกัดเซาะชายฝั่งที่หมู่ 2 บ้านทุ่งประดู่ ต.ทับสะแก อ.ทับสะแก ใช้งบ 60 ล้านบาทเป็นโครงการของกรมเจ้าท่าปัจจุบันยังมีปัญหาดำเนินการไม่เสร็จ หลังจากผู้รับเหมาเดิมทิ้งงานนานกว่า 2 ปีและคาดว่าจะต้องใช้งบประมาณปี 2564 ดำเนินการต่อเนื่อง ล่าสุดได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากคลื่นทะเลพัดถล่มบ้านเรือนประชาชนเสียหาย โดยชาวบ้านขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือเร่งด่วน ก่อนการก่อสร้างเขื่อนป้องกันแบบถาวรในอนาคต

“จากการตรวจสัมปทานเหมืองหินแกรนิตในพื้นที่ อ.ทับสะแก ซึ่งหมดสัมปทานนานแล้ว แต่ปรากฎว่าการยื่นขอประทานบัตรใช้เวลานานกว่า 2 ปี อุตสาหกรรมจังหวัดยังไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากอ้างว่าติดขัดการใช้กฎหมายใหม่ของกรมป่าไม้ ขณะที่เหมืองหินใน อ.บางสะพาน ใกล้จะหมดสัมปทานก็จะมีปัญหาในลักษณะเดียวกัน สำหรับเหมืองหินแกรนิตที่ อ.ทับสะแก หากยังไม่เปิดประทานบัตรจะส่งผลกระทบกับการก่อสร้างรถไฟทางคู่ มีปัญหาในระหว่างการก่อสร้าง รวมทั้งการสร้างเขื่อนกันคลื่นที่บ้านทุ่งประดู่ โดยคณะทำงานของที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีได้รวบรวมปัญหาอุปสรรคเพื่อเสนอหน่วยงานในส่วนกลางเร่งรัดแก้ไขปัญหาโดยด่วน เนื่องจากในพื้นที่ภาคใต้มีสัมปทานเหมืองหินแกรนิตเพียง 2 แห่ง ที่ อ.ทับสะแกและ อ.จะนะ จ.สงขลา” นายชาตรี กล่าว.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44517
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 31/08/2020 4:34 pm    Post subject: Reply with quote

ทดลองวิ่งทางคู่ใหม่ชุมทางคลองสิบเก้า-ชุมทางแก่งคอย
https://www.facebook.com/100003778163948/videos/1999380653531187/
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44517
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 02/09/2020 8:29 pm    Post subject: Reply with quote

ศก.ทรุด!คมนาคมชะลอทางคู่เฟส2 ดัน”ขอนแก่น-หนองคาย”เส้นเดียวเชื่อมลาว-จีน
เผยแพร่: 2 ก.ย. 2563 19:31 โดย: ผู้จัดการออนไลน์

“คมนาคม” ชะลอรถไฟทางคู่เฟส 2 กว่า 2.73 แสนล.ชี้ศก.ถดถอย ต้องรีวิวผลศึกษา ตัดงานส่วนเกิน หวังลดต้นทุน วางแผนดัน” ขอนแก่น-หนองคาย”นำร่องก่อน ชี้เป็นเส้นยุทธศาสตร์เชื่อม ลาว-จีน คุ้มค่าลงทุนสั่งผนวก ICD หนองคาย ดึงชิพโหมด

นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยภายหลังการประชุมจัดลำดับความสำคัญโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 โดยมีนายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคมเป็นประธาน ว่า ที่ประชุมได้หารือร่วมกับผู้แทน สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ในการขับเคลื่อนโครงการรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 จำนวน 7 โครงการ ระยะทาง 1,483 กม.วงเงินลงทุนรวมกว่า 2.73 แสนล้านบาท ได้แก่ ปากน้ำโพ-เด่นชัย, เด่นชัย-เชียงใหม่, ขอนแก่น-หนองคาย, ชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี, ชุมพร-สุราษฎร์ธานี, สุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา และชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ โดยประชุมเห็นตรงกันว่าสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน และเพดานหนี้สาธารณะที่สูงขึ้น ควรลงทุนเฉพาะโครงการที่จำเป็น และให้จัดลำดับโครงการเพื่อให้สอดคล้องกับกรอบวงเงินงบประมาณและความสามารถในการลงทุนของประเทศ

โดยคำนึงถึงยุทธศาสตร์ชาติ เป้าหมายในการขนส่งสินค้าที่เปลี่ยนโหมดจากถนนสู่ราง ปริมาณผู้โดยสารและสินค้า ความพร้อมของโครงการ การเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อบ้าน (Connectivity) โดย เส้นทางที่จะมีการผลักดันก่อนคือ ขอนแก่น-หนองคาย ระยะทาง 169 กม. มูลค่าโครงการ 26,663.26 ล้านบาท เพราะถือเป็นยุทธศาสตร์ชาติ เนื่องจากเชื่อมต่อกับสปป.ลาว ที่มีเส้นทางรถไฟเชื่อมไปยังประเทศจีนตอนใต้ เปิดบริการใน มี.ค. 2564 นอกจากนี้ยังมีความพร้อมที่สุด เพราะมีการออกแบบแล้ว ได้รับอนุมัติ EIAแล้ว คาดการณ์ปริมาณสินค้าในปี 2580 ที่ 12 ล้านตัน/ปี มีอัตราผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ (EIRR) 19%

ทั้งนี้ให้รฟท.เร่งตรวจสอบแบบรายละเอียด ขอบเขตโครงการ และรวมโครงการ ICD Port ที่ บ้านนาคา จ.หนองคายซี่งมีพิธีการศุลกากร รองรับการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ (Multimodal Transport) ซึ่งอาจจะส่งผลให้มูลค่าโครงการเพิ่มขึ้น และสรุปเสนอกระทรวงคมนาคมโดยเร็ว เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการเสนอครม.ต่อไป
สำหรับอีก 6 เส้นทางที่เหลือที่ประชุมมอบกรมราง ทบทวนการศึกษาเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันทุกปัจจัย โดยจะคาดการณ์ปริมาณสินค้า จำนวนผู้โดยสาร EIRR รวมถึงเหตุผลความจำเป็น ในการดำเนินโครงการ คาดว่าจะทบทวนเสร็จภายใน 3 เดือนหรือในเดือน ธ.ค. 2563

“จะนำข้อมูลเดิมมาดูใหม่ ออกแบบสถานีใหญ่เกินไปหรือ บางสถานีจำเป็นต้องมีหรือไม่ ปรับลดได้หรือไม่ ซึ่งจะมีผลต่อต้นทุนก่อสร้างโครงการที่ลดลง รวมไปถึงการประมาณการณ์จำนวนผู้โดยสารและปริมาณสินค้า ที่ได้รับผลกระทบจากโรค โควิด-19 ”

ส่วน รถไฟทางคู่สายใหม่ 2 เส้นทาง ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติแล้วนั้น ได้แก่ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 323 กม. วงเงินรวม 85,345 ล้านบาท และ สายบ้านไผ่ - มหาสารคาม - ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม ระยะทาง 355 กม. วงเงิน 66,848.33 ล้านบาทนั้น ว่าทั้ง 2 โครงการจะเปิดประมูลได้ภายในกลางปี 2564

สำหรับ รถไฟทางคู่ระยะที่ 2 จำนวน 7 โครงการ มีการวิเคราะห์จัดลำดับความสำคัญโครงการเบื้องต้น ดังนี้

1.ขอนแก่น-หนองคาย ระยะทาง 169 กม. มูลค่าโครงการ 26,663.26 ล้านบาท EIRR 18.7% อนุมัติ EIA แล้ว คาดการณ์ปี 2580 มีผู้โดยสาร 16,300 คน มีสินค้า 12.29 ล้านตัน

2. ชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี ระยะทาง 309 กม.วงเงิน 35,839.74 ล้านบาท EIRR 21.8 % อนุมัติ EIA แล้ว คาดการณ์ปี 2580 มีผู้โดยสาร 45,400 คน มีสินค้า 3.06 ล้านตัน

3. ชุมพร-สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 167 กม. วงเงิน 23,384.91 ล้านบาท EIRR 19.9 % อยู่ระหว่างพิจารณา EIA คาดการณ์ปี 2580 มีผู้โดยสาร 66,000 คน มีสินค้า 4.25 ล้านตัน

4.สุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา ระยะทาง 339 กม. วงเงิน 51,823.83 ล้านบาท EIRR 18.07 % อยู่ระหว่างพิจารณา EIA คาดการณ์ปี 2580 มีผู้โดยสาร 54,500 คน มีสินค้า 5.20 ล้านตัน

5.ปากน้ำโพ-เด่นชัย ระยะทาง 285 กม. วงเงิน 56,066.25 ล้านบาท EIRR 13.38 % อยู่ระหว่างพิจารณา EIA คาดการณ์ปี 2580 มีผู้โดยสาร 26,000 คน มีสินค้า 8.90 ล้านตัน

6.ชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 75 กม. วงเงิน 7,941.80 ล้านบาท EIRR 18.18 % อนุมัติ EIA แล้ว คาดการณ์ปี 2580 มีผู้โดยสาร 10,000 คน มีสินค้า 5.90 ล้านตัน

7.เด่นชัย-เขียงใหม่ ระยะทาง 217 กม. วงเงิน 59,992.44 ล้านบาท EIRR 13.20 % อยู่ระหว่างพิจารณา EIA คาดการณ์ปี 2580 มีผู้โดยสาร 13,700 คน มีสินค้า 3.52 ล้านตัน
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42704
Location: NECTEC

PostPosted: 02/09/2020 10:07 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
ศก.ทรุด!คมนาคมชะลอทางคู่เฟส2 ดัน”ขอนแก่น-หนองคาย”เส้นเดียวเชื่อมลาว-จีน
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: พุธที่ 2 กันยายน 2563 เวลา 19:31


เลื่อนลงทุนรถไฟทางคู่เฟส 2 เซ่นพิษโควิด-รัฐถังแตก คาดดันเข้าครม.ปีนี้ได้แค่โครงการเดียว ขอนแก่น-หนองคาย
เศรษฐกิจ
พุธที่ 2 กันยายน 2563 เวลา 18:35 น.

คมนาคมเลื่อนลงทุนรถไฟทางคู่เฟส 2 เซ่นพิษโควิด-รัฐถังแตก คาดดันเข้าครม.ปีนี้ได้แค่โครงการเดียว ขอนแก่น-หนองคาย
เลื่อนรถไฟทางคู่เฟส2 - นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง กระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงผลการประชุมการจัดลำดับความสำคัญโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่เฟส 2 ซึ่งมีนายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการประชุมร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่า ที่ประชุมมีมติให้กรมราง กลับไปทบทวนและจัดลำดับความสำคัญโครงการลงทุนของก่อสร้างรถไฟทางคู่เฟส 2 จำนวน 7 โครงการ ระยะทาง 1,483 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 2.7 แสนล้านบาท ใหม่ทั้งหมด

เนื่องจากเห็นว่าสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันของไทยประสบกับปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขณะที่รัฐบาลเองก็มีภาระหนี้สาธารณะที่สูง ควรจะลงทุนเฉพาะโครงการที่มีความจำเป็นเท่านั้น ประกอบกับผลการศึกษาบางโครงการพบว่ามีอัตราผลตอบแทนทางการเงินต่ำไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน

“จากการพิจารณาเบื้องต้นที่ประชุมเห็นว่า มีความจำเป็นต้องเร่งผลักดันโครงการทางคู่ ขอนแก่น-หนองคาย ก่อน เพราะมีความพร้อมและเป็นยุทธศาสตร์ชาติที่สามารถเชื่อมต่อการเดินทางไปยังจีนตอนใต้และประเทศลาว รวมทั้งยังมีอัตราผลตอบแทนทางเศรษฐกิจที่คุ้มค่าที่ 19% แต่อาจจะต้องไปปรับแบบให้มีการก่อสร้างสถานีรถไฟบรรจุและแยกสินค้ากล่องสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง หรือ Inland Container Depot (ICD) ที่มีสถานีศุลกากรด้วย แทนการก่อสร้างแค่ย่านกองเก็บสินค้า (Container Yard: CY) ตั้งเป้าจะเร่งรัดเสนอโครงการให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติได้ภายในปีนี้ ส่วนอีก 6 โครงการที่เหลือต้องรอผลการศึกษาจากกรมราง ก่อน”


นายสรพงศ์ กล่าวว่า หลักการในการจัดลำดับความสำคัญ กรมราง จะต้องกลับไปจัดลำดับความจำเป็นก่อนหลัง ทบทวน งบประมาณ แบบก่อสร้างว่าสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและรวมทั้งความจำเป็น ซึ่งจะต้องมีการทบทวนตัวเลขคาดการณ์ปริมาณขนส่ง จำนวนผู้โดยสารใหม่ เพราะสภาพเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงไปแล้ว รวมทั้งพิจารณาความพร้อมของแต่ละโครงการด้วย

“การทบทวนโครงการลงทุนทางคู่เฟส 2 อาจจะทำให้บางโครงการต้องเลื่อนออกไปก่อน เพื่อรอเวลาลงทุนที่เหมาะสม แต่จะไม่ใช่การยกเลิกโครงการทั้งหมด กรมราง จะใช้เวลาศึกษาทบทวนและจัดลำดับโครงการราว 3 เดือน ราวปลายปีนี้จะได้ข้อสรุปว่าจะลงทุนโครงการใดก่อนหลัง กลับมาเสนอที่ประชุมอีกครั้งก่อนจะเสนอเข้าบอร์ด รฟท. เสนอต่อมายังกระทรวงคมนาคม หากเห็นชอบ จะเสนอขอความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนที่จะเสนอให้ครม. พิจารณาอนุมัติต่อไป”

สำหรับโครงการรถไฟทางคู่เฟส 2 จำนวน 7 เส้นทาง ได้แก่ ปากน้ำโพ-เด่นชัย, เด่นชัย-เชียงใหม่, ขอนแก่น-หนองคาย, ชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี, ชุมพร-สุราษฎร์ธานี, สุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา และชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์

//---------------------------------

งานเข้า!! กรมรางฯ เลื่อนประมูล 6 รถไฟทางคู่ เฟส 2
เผยแพร่: พุธที่ 2 กันยายน 2563 เวลา 17:24 น.

กรมรางฯ จ่อชะลอ 6 รถไฟทางคู่ เฟส 2 หลังเพดานหนี้สาธารณะพุ่งสูง ดันทางคู่ขอนแก่น-หนองคาย ชงครม.ไฟเขียวภายในปีนี้ หวังเชื่อมรถไฟจีน-ลาว เร่งเดินหน้าศึกษาข้อมูลเพิ่มอีก 3 เดือน

นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทาง (ขร.) เปิดเผยภายหลังการประชุมการจัดลำดับความสำคัญโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 ว่า ปัจจุบันทางกระทรวงคมนาคมเร่งรัดให้ขับเคลื่อนระบบขนส่งทางรางสามารถเพิ่มขีดความสามารถในการเดินรถทั้งโดยสารและขนส่งสินค้า ที่ประชุมมีมติมอบหมายให้ ขร.เป็นผู้รวบรวมข้อมูลศึกษาโครงการรถไฟทางคู่ เฟส 2 ภายในระยะเวลา 3 เดือน (ตุลาคม-ธันวาคม 2564) เพื่อจัดลำดับความสำคัญทั้ง 7 โครงการ ให้รอบคอบ รวมทั้งทบทวนอัตราผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ (EIRR) และอัตราผลตอบแทนทางการเงิน (FIRR) เนื่องจากในปัจจุบันสถานการณ์ทางเศรษฐกิจมีหนี้สาธารณะต่อจีดีพีสูงมาก ซึ่งต้องลงทุนโครงการที่มีความสำคัญและจำเป็นก่อนอันดับแรก ทั้งนี้ที่ผ่านมาทางสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) มีความคิดเห็นให้กระทรวงคมนาคมและ รฟท.จัดลำดับความสำคัญและขับเคลื่อนโครงการรถไฟทางคู่ เฟส 2 ทั้ง 7 โครงการ จำนวน 7 เส้นทาง ระยะทาง 1,483 กิโลเมตร (กม.) วงเงินรวมกว่า 2.71 แสนล้าน ประกอบไปด้วย

1.ช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัย ระยะทาง 285 กิโลเมตร วงเงิน 62,859.74 ล้านบาท
2.ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ ระยะทาง 189 กิโลเมตร วงเงิน 56,837.78 ล้านบาท
3.ช่วงขอนแก่น-หนองคาย ระยะทาง 167 กิโลเมตร วงเงิน 25,842 ล้านบาท
4.ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี ระยะทาง 308 กิโลเมตรวงเงิน 37,527.10 ล้านบาท 5.ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 168 กิโลเมตร วงเงิน 24,294.36 ล้านบาท
6.ช่วงสุราษฎร์ธานี-สงขลา ระยะทาง 321 กิโลเมตร วงเงิน 57,375.43 ล้านบาท
7.ช่วงหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กิโลเมตร วงเงิน 6,661.37 ล้านบาท


“หากดำเนินการศึกษาโครงการรถไฟทางคู่เฟส 2 ทั้ง 7 โครงการแล้วเสร็จจะเสนอต่อกระทรวงคมนาคมเห็นชอบ และเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) หลังจากนั้นจะเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบต่อไป”



สำหรับเกณฑ์การพิจารณาจัดลำดับความสำคัญโครงการรถไฟทางคู่ เฟส 2 ดังนี้ 1.มุ่งเน้นยุทธศาสตร์ชาติในด้านการขนส่งสินค้าเป็นหลักและมีความสามารถเปลี่ยนเส้นทางเดินรถจากระบบขนส่งทางถนนสู่ระบบขนส่งทางราง 2.จำนวนผู้โดยสาร 3.ความพร้อมของโครงการที่เร่งรัดในการขับเคลื่อน 4.ความสามารถในการดำเนินงานขับเคลื่อนในอนาคตที่มีจุดเชื่อมต่อประเทศเพื่อนบ้าน



นายสรพงศ์ กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันที่ประชุมมีความเห็นว่า สถานการณ์ทางเศรษฐกิจในปัจจุบันมีเพดานหนี้สาธารณะที่สูง ทำให้ต้องเร่งรัดในโครงการที่มีความจำในระยะแรก สำหรับโครงการในระยะแรกที่เร่งรัดขับเคลื่อนให้เกิดขึ้นโดยเร่งด่วน คือ โครงการรถไฟทางคู่ เฟส 2 ช่วงขอนแก่น-หนองคาย เป็นโครงการที่มีความพร้อมสูงสุด เนื่องจากมีรายละเอียดและรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมผ่านคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติผ่านการพิจารณาแล้ว รวมทั้งมีอัตราผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ (EIRR) อยู่ที่ 19% ทั้งนี้คาดการณ์ปริมาณสินค้าที่สามารถขนส่งสินค้าอยู่ที่ 12 ล้านตันต่อปี ถึงปี 2580 หลังจากที่มีการก่อสร้างแล้วเสร็จ ซึ่งเป็นเส้นทางที่เชื่อมต่อกับโครงการรถไฟจีน-ลาว ที่จะเปิดให้บริการภายในเดือน ธ.ค. 2564 คาดว่าจะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบได้ภายในปีนี้ ทำให้โครงการรถไฟทางคู่เฟส 2 อีก 6 โครงการต้องชะลอออกไปก่อน
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42704
Location: NECTEC

PostPosted: 02/09/2020 11:13 pm    Post subject: Reply with quote

คมนาคม เขย่าทางคู่เฟส 2 “ขอนแก่น-หนองคาย” เชื่อมลาว-จีน
อสังหาริมทรัพย์
วันพุธที่ 2 กันยายน 2563 เวลา 17:54 น.
กรมรางฯ เร่งทบทวน สภาพัฒน์ตีกลับ 7 เส้นทางรถไฟทางคู่เฟส 2
วันพุธที่ 2 กันยายน 2563 เวลา 18:22 น.


เลื่อนลงทุนรถไฟทางคู่เฟส2 เหตุเจอพิษไวรัสโควิด-19
 เลื่อนลงทุนรถไฟทางคู่เฟส2 เหตุเจอพิษไวรัสโควิด-19 เล่นงาน สั่ง ขร.ทบทวนจัดลำดับความสำคัญด่วน คาดประมูลสายแรก ขอนแก่น – หนองคาย ปี 64 เชื่อมต่อลาว – จีน
พุธที่ 2 กันยายน 2563 เวลา 17.26 น.

ก.คมนาคม สั่งเบรก 7 โครงการรถไฟทางคู่ 2.7 แสนลบ.หลังรัฐแบกภาระหนี้สูง
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย-
พุธที่ 2 กันยายน 2563 เวลา 17:18 น.
  ก.คมนาคมสั่งเบรก 7 โครงการรถไฟทางคู่ เฟส 2 วงเงิน 2.7 แสนล้านบาท หลังรัฐบาลมีภาระหนี้สาธารณะสูง สั่งทบทวนจัดลำดับความสำคัญและความคุ้มค่าการลงทุน

โควิดเป็นเหตุ! “สภาพัฒน์ฯ” ตีกลับรถไฟทางคู่ เฟส 2 จำนวน 7 เส้นทาง หลัง รฟท. เงียบตอบคำถาม ด้าน “กรมรางฯ” เร่งศึกษาทบทวนแผน-จัดลำดับความสำคัญสอดรับสถานการณ์โควิด-19 เน้นความคุ้มค่าการลงทุน วางเป้าศึกษาเสร็จ 3 เดือน พร้อมปักหมุด “ขอนแก่น-หนองคาย” เส้นทางนัมเบอร์วัน ชัดเจนภายใน 1 เดือน สนองยุทธศาสตร์ชาติ-เชื่อม สปป.ลาว

รัฐดึงเงินกู้วิกฤตโควิด ”สภาพัฒน์ฯ” สั่งคมนาคมจัดลำดับใหม่แผนลงทุนรถไฟทางคู่เฟส 2 จำนวน 7 เส้นทาง 2.7 แสนล้าน เร่งช่วงขอนแก่น-หนองคาย 167 กม. ลงทุน 2.6 หมื่นล้าน เชื่อมรถไฟไทย-ลาว-จีน กระตุ้นการค้า ลงทุน 3 ประเทศ

วันที่ 2 กันยายน 2563 นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานประชุมเพื่อพิจารณาการเสนอขออนุมัติโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2

โดยมี นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน รองปลัดกระทรวงคมนาคม นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง ผู้แทนสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) สำนักงบประมาณ (สงป.) และกองยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม เข้าร่วมประชุม

ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาให้ ร.ฟ.ท. เสนอโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น-หนองคาย เป็นโครงการที่มีความสำคัญและจำเป็นต้องเร่งดำเนินการเพื่อขับเคลื่อนระบบเศษฐกิจของประเทศ ให้ สศช. พิจารณาเสนอความคิดเห็นประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.)

โดยกระทรวงคมนาคมได้ส่งเรื่องขออนุมัติโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 จำนวน 7 โครงการ ระยะทางรวม 1,483 กม. วงเงิน 272,219.14 ล้านบาท ประกอบด้วย
ช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัย 285 กม. 62,859.74 ล้านบาท,
ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ 189 กม. 56,837.78 ล้านบาท,
ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี 308 กม. 37,527.10 ล้านบาท,
ช่วงขอนแก่น-หนองคาย 167 กม. 26,663 ล้านบาท,
ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี 168 กม. 24,294.39 ล้านบาท,
ช่วงสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา 321 กม. 57,375.43 ล้านบาท และ
ช่วงชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ 45 กม. 6,661.37 ล้านบาท

เพื่อให้กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และ สศช. พิจารณาเสนอความคิดเห็นประกอบการพิจารณาของครม. ซึ่งสำนักงบประมาณ และ สศช. มีความเห็นให้ ร.ฟ.ท. ส่งข้อมูลเพิ่มเติมในส่วนของข้อมูลแผนการจัดหารถจักรและล้อเลื่อน กลยุทธ์ทางการตลาดของ ร.ฟ.ท. เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน แนวทางการปรับปรุงแบบการบริหารจัดการและระบบโลจิสติกส์

ซึ่งที่ประชุมในครั้งนี้ ได้พิจารณาผลการจัดลำดับความสำคัญของโครงการฯ โดยพิจารณาจากการเชื่อมโยงโครงข่ายทางรถไฟระหว่างประเทศ/เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน การเชื่อมโยงเมืองศูนย์กลางของภูมิภาค การเชื่อมโยงโครงข่ายทางคู่ปัจจุบัน การเชื่อมโยงเมืองหลักด้านการท่องเที่ยวพบว่า
ลำดับที่ 1 ได้แก่ ช่วงขอนแก่น-หนองคาย
ลำดับที่ 2 ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี
ลำดับที่ 3 ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี
ลำดับที่ 4 ช่วงสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา
ลำดับที่ 5 ช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัย
ลำดับที่ 6 ช่วงชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ และ
ลำดับที่ 7 ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่

ส่วนการพิจารณาเสนอขออนุมัติโครงการใดก่อนหลังนั้น ที่ประชุมมีความเห็นว่า โครงการรถไฟทางคู่นั้นเป็นเครื่องมือในการพัฒนาและขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศ แต่ในขณะนี้ประเทศไทยอยู่ระหว่างการแก้ไขปัญหาผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากเชื้อไวรัส COVID-19 จึงเห็นควรให้สนอโครงการฯ ช่วงขอนแก่น-หนองคาย ก่อน

เนื่องจากเป็นโครงการที่มีความสำคัญและจำเป็นต้องเร่งดำเนินการเพื่อพัฒนาและขับเคลื่อนระบบเศษฐกิจของประเทศ อีกทั้งสามารถเชื่อมโยงระบบโลจิสติกส์จากจีน ลาว และไทย ลงมาถึงแหลมฉบังได้

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้ให้ ร.ฟ.ท. เร่งจัดทำแผนการจัดหารถจักรและล้อเลื่อน กลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน แนวทางการปรับปรุงแบบการบริหารจัดการและระบบโลจิสติกส์ และแผนการใช้ประโยชน์จากโครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 1 และขอให้ สนข. ศึกษาการเชื่อมโยงการคมนาคมขนส่งระหว่างไทย-มาเลเซีย-สิงคโปร์ โดยให้ครอบคลุมยุทธศาตร์ ยุทธวิธี และความมั่นคงของประเทศด้วย
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42704
Location: NECTEC

PostPosted: 03/09/2020 7:29 pm    Post subject: Reply with quote

โควิดเป็นเหตุ! ‘สภาพัฒน์ฯ’ ตีกลับรถไฟทางคู่ เฟส 2 จำนวน 7 เส้นทาง วางเป้าศึกษาเสร็จ 3 เดือน ปักหมุดเส้นทางนัมเบอร์วัน ‘ขอนแก่น-หนองคาย’
วันพุธที่ 2 กันยายน 2563

โควิดเป็นเหตุ! “สภาพัฒน์ฯ” ตีกลับรถไฟทางคู่ เฟส 2 จำนวน 7 เส้นทาง หลัง รฟท. เงียบตอบคำถาม ด้าน “กรมรางฯ” เร่งศึกษาทบทวนแผน-จัดลำดับความสำคัญสอดรับสถานการณ์โควิด-19 เน้นความคุ้มค่าการลงทุน วางเป้าศึกษาเสร็จ 3 เดือน พร้อมปักหมุด “ขอนแก่น-หนองคาย” เส้นทางนัมเบอร์วัน ชัดเจนภายใน 1 เดือน สนองยุทธศาสตร์ชาติ-เชื่อม สปป.ลาว
นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยภายหลังการประชุมการจัดลำดับความสำคัญโครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 จำนวน 7 โครงการ ระยะทาง 1,483 กิโลเมตร (กม.) วงเงินลงทุนรวมกว่า 2.73 แสนล้านบาท โดยมีนายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคมเป็นประธานฯ ว่า ที่ประชุมได้มอบหมายให้ ขร. ไปศึกษา ตรวจสอบ และทบทวนโครงการฯ ใหม่อีกครั้ง พร้อมทั้งพิจารณาผลตอบแทนทางด้านเศรษฐกิจ และปริมาณการขนส่งสินค้าว่า เป็นไปตามสมมติฐานเดิมที่กำหนดไว้หรือไม่ ตามข้อซักถามของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์ฯ) ที่ได้ถามไปยังการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เมื่อช่วง พ.ค. 2563 ที่ผ่านมา เนื่องจากการรถไฟฯ ยังไม่สามารถตอบคำถามได้

ขณะเดียวกัน สาเหตุที่จะต้องมาทบทวนโครงการใหม่นั้น เนื่องจากด้วยสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันหลังเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ประกอบกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP Growth) ติดลบ จึงต้องมาพิจารณาการลงทุนว่า มีความคุ้มค่าจากการลงทุนหรือไม่ การขนส่งสินค้าทางรางสามารถแข่งขันกับโหมดสินค้าอื่นได้หรือไม่ และพิจารณาความจำเป็น รวมถึงการออกแบบสถานีว่าจะต้องมีการปรับลดหรือไม่อย่างไร ทั้งนี้ คาดว่าจะใช้ระยะเวลาศึกษาทบทวนไม่เกิน 3 เดือนนับจากนี้ ก่อนที่จะเสนอมายังที่ประชุมฯ และกระทรวงคมนาคม เพื่อเร่งรัดผลักดันโครงการ จากนั้นจะเสนอไปยังสภาพัฒน์ฯ อีกครั้ง และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป หากโครงการใดต้องมีการเปลี่ยนแปลงงบประมาณ จะต้องเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. ด้วย



นายสรพงศ์ กล่าวต่ออีกว่า จากการพิจารณาโครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 จำนวน 7 โครงการนั้น เบื้องต้นประเมินว่า สายขอนแก่น-หนองคาย ระยะทาง 167 กม. ที่ทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่าจะต้องเร่งขับเคลื่อน เนื่องจากเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์ชาติ เชื่อมต่อกับเส้นทางรถไฟของ สปป.ลาว ในเส้นทางนั้น ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2564 อย่างไรก็ตาม คาดว่า เส้นทางขอนแก่น-หนองคาย จะศึกษาให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน เพื่อเดินหน้าโครงการต่อไป ขณะเดียวกัน จะต้องมีการพิจารณาก่อสร้างสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง โดยมีพิธีการศุลกากรด้วย (ICD Port) ที่บริเวณสถานีรถไฟนาทา จังหวัดหนองคายด้วย เพื่อรองรับการขนส่งสินค้าชายแดนแบบเบ็ดเสร็จ จากเดิมจะเป็นเพียงแค่ย่านกองเก็บสินค้า (CY) เท่านั้น

ขณะที่ อีก 6 เส้นทางที่เหลือนั้น ได้จัดลำดับความสำคัญเบื้องต้นไว้แล้ว คือ สายชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี ระยะทาง 308 กม., สายชุมพร-สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 168 กม., สายสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา ระยะทาง 321 กม., สายปากน้ำโพ-เด่นชัย ระยะทาง 285 กม., สายชุมทางหาดใหญ่–ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กม. และสายเด่นชัย-เชียงใหม่ ระยะทาง 189 กม. ทั้งนี้ ยอมรับว่า บางโครงการอาจจะต้องเลื่อนการดำเนินการออกไปก่อน เพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนา โดยยืนยันว่า ไม่ได้ยกเลิกโครงการแต่อย่างใด

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม ระบุว่า คาดว่าการดำเนินการโครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 จำนวน 7 เส้นทาง วงเงินลงทุนรวมกว่า 2.73 แสนล้านบาทนั้น เบื้องต้นมีแนวคิดที่จะให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุน (PPP) แต่เนื่องจากอัตราผลตอบแทนการลงทุนทางการเงิน (FIRR) ยังไม่มากพอที่จะดึงดูดนักลงทุน จึงต้องไปพิจารณารายละเอียดอีกครั้งต่อไป

โควิดพ่นพิษทำทางคู่เฟส2สะดุดคมนาคมจ่อทบทวนแผนลงทุน

02 กันยายน พ.ศ. 2563 เวลา 19:29 น.

2 ก.ย.63-นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยภายหลังการประชุมการจัดลำดับความสำคัญโครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 จำนวน 7 โครงการ ระยะทาง 1,483 กิโลเมตร (กม.) วงเงินลงทุนรวมกว่า 2.73 แสนล้านบาท โดยมีนายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคมเป็นประธานฯ ว่า ที่ประชุมได้มอบหมายให้ ขร. ไปศึกษา ตรวจสอบ และทบทวนโครงการฯ ใหม่อีกครั้ง พร้อมทั้งพิจารณาผลตอบแทนทางด้านเศรษฐกิจ และปริมาณการขนส่งสินค้าว่า เป็นไปตามสมมติฐานเดิมที่กำหนดไว้หรือไม่ ตามข้อซักถามของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์ฯ) ที่ได้ถามไปยังการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เมื่อช่วง พ.ค. 2563 ที่ผ่านมา เนื่องจากการรถไฟฯ ยังไม่สามารถตอบคำถามได้

สำหรับสาเหตุที่จะต้องมาทบทวนโครงการใหม่นั้น เนื่องจากด้วยสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันหลังเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ประกอบกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP Growth) ติดลบ จึงต้องมาพิจารณาการลงทุนว่า มีความคุ้มค่าจากการลงทุนหรือไม่ การขนส่งสินค้าทางรางสามารถแข่งขันกับโหมดสินค้าอื่นได้หรือไม่ และพิจารณาความจำเป็น รวมถึงการออกแบบสถานีว่าจะต้องมีการปรับลดหรือไม่อย่างไร ทั้งนี้ คาดว่าจะใช้ระยะเวลาศึกษาทบทวนไม่เกิน 3 เดือนนับจากนี้ ก่อนที่จะเสนอมายังที่ประชุมฯ และกระทรวงคมนาคม เพื่อเร่งรัดผลักดันโครงการ จากนั้นจะเสนอไปยังสภาพัฒน์ฯ อีกครั้ง และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป หากโครงการใดต้องมีการเปลี่ยนแปลงงบประมาณ จะต้องเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. ด้วย

นายสรพงศ์ กล่าวต่ออีกว่า จากการพิจารณาโครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 จำนวน 7 โครงการนั้น เบื้องต้นประเมินว่า สายขอนแก่น-หนองคาย ระยะทาง 167 กม. ที่ทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่าจะต้องเร่งขับเคลื่อน เนื่องจากเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์ชาติ เชื่อมต่อกับเส้นทางรถไฟของ สปป.ลาว ในเส้นทางนั้น ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2564 อย่างไรก็ตาม คาดว่า เส้นทางขอนแก่น-หนองคาย จะศึกษาให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน เพื่อเดินหน้าต่อไป ขณะเดียวกัน จะต้องมีการพิจารณาก่อสร้างสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง โดยมีพิธีการศุลกากรด้วย (ICD Port) ที่บริเวณสถานีรถไฟนาทา จังหวัดหนองคายด้วย เพื่อรองรับการขนส่งสินค้าชายแดนแบบเบ็ดเสร็จ จากเดิมจะเป็นเพียงแค่ย่านกองเก็บสินค้า (CY) เท่านั้น

อย่างไรก็ตามขณะที่ อีก 6 เส้นทางที่เหลือนั้น ได้จัดลำดับความสำคัญเบื้องต้นไว้แล้ว คือ สายชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี ระยะทาง 308 กม., สายชุมพร-สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 168 กม., สายสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา ระยะทาง 321 กม., สายปากน้ำโพ-เด่นชัย ระยะทาง 285 กม., สายชุมทางหาดใหญ่–ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กม. และสายเด่นชัย-เชียงใหม่ ระยะทาง 189 กม. ทั้งนี้ ยอมรับว่า บางโครงการอาจจะต้องเลื่อนการดำเนินการออกไปก่อน เพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนา โดยยืนยันว่า ไม่ได้ยกเลิกโครงการแต่อย่างใด

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม ระบุว่า คาดว่าการดำเนินการโครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 จำนวน 7 เส้นทาง วงเงินลงทุนรวมกว่า 2.73 แสนล้านบาทนั้น เบื้องต้นมีแนวคิดที่จะให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุน (PPP) แต่เนื่องจากอัตราผลตอบแทนการลงทุนทางการเงิน (FIRR) ยังไม่มากพอที่จะดึงดูดนักลงทุน จึงต้องไปพิจารณารายละเอียดอีกครั้งต่อไป


Last edited by Wisarut on 04/09/2020 1:46 am; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42704
Location: NECTEC

PostPosted: 04/09/2020 1:10 am    Post subject: Reply with quote

คมนาคมชะลอรถไฟทางคู่เฟส 2 มูลค่า 2.73 แสนล.รับเศรษฐกิจหดตัว
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: พฤหัสบดีที่ 3 กันยายน 2563 เวลา 05:57

ผู้จัดการรายวัน360-“คมนาคม” ชะลอรถไฟทางคู่เฟส 2 กว่า 2.73 แสนล.ชี้ศก.ถดถอย สั่งรีวิวผลศึกษา ตัดงานส่วนเกิน หวังลดต้นทุน วางแผนดัน” ขอนแก่น-นองคาย”นำร่องก่อน ชี้เป็นเส้นยุทธศาสตร์เชื่อม ลาว-จีน คุ้มค่าลงทุนสั่งผนวก ICD หนองคาย

นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยภายหลังการประชุมจัดลำดับความสำคัญโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 โดยมีนายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคมเป็นประธาน ว่า ที่ประชุมได้หารือร่วมกับผู้แทน สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ในการขับเคลื่อนโครงการรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 จำนวน 7 โครงการ ระยะทาง 1,483 กม.วงเงินลงทุนรวมกว่า 2.73 แสนล้านบาท ได้แก่ ปากน้ำโพ-เด่นชัย, เด่นชัย-เชียงใหม่, ขอนแก่น-หนองคาย, ชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี, ชุมพร-สุราษฎร์ธานี, สุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา และชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ โดยประชุมเห็นตรงกันว่าสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน และเพดานหนี้สาธารณะที่สูงขึ้น ควรลงทุนเฉพาะโครงการที่จำเป็น และให้จัดลำดับโครงการเพื่อให้สอดคล้องกับกรอบวงเงินงบประมาณและความสามารถในการลงทุนของประเทศ



โดยคำนึงถึงยุทธศาสตร์ชาติ เป้าหมายในการขนส่งสินค้าที่เปลี่ยนโหมดจากถนนสู่ราง ปริมาณผู้โดยสารและสินค้า ความพร้อมของโครงการ การเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อบ้าน (Connectivity) โดย เส้นทางที่จะมีการผลักดันก่อนคือ ขอนแก่น-หนองคาย ระยะทาง 169 กม. มูลค่าโครงการ 26,663.26 ล้านบาท เพราะถือเป็นยุทธศาสตร์ชาติ เนื่องจากเชื่อมต่อกับสปป.ลาว ที่มีเส้นทางรถไฟเชื่อมไปยังประเทศจีนตอนใต้ เปิดบริการใน มี.ค. 2564 นอกจากนี้ยังมีความพร้อมที่สุด เพราะมีการออกแบบแล้ว ได้รับอนุมัติ EIAแล้ว คาดการณ์ปริมาณสินค้าในปี 2580 ที่ 12 ล้านตัน/ปี มีอัตราผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ (EIRR) 19%

ทั้งนี้ให้รฟท.เร่งตรวจสอบแบบรายละเอียด ขอบเขตโครงการ และรวมโครงการ ICD Port ที่ บ้านนาคา จ.หนองคาย ซี่งมีพิธีการศุลกากร รองรับการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ (Multimodal Transport) ซึ่งอาจจะส่งผลให้มูลค่าโครงการเพิ่มขึ้น และสรุปเสนอกระทรวงคมนาคมโดยเร็ว เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการเสนอครม.ต่อไป

สำหรับอีก 6 เส้นทางที่เหลือที่ประชุมมอบกรมราง ทบทวนการศึกษาเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันทุกปัจจัย โดยจะคาดการณ์ปริมาณสินค้า จำนวนผู้โดยสาร EIRR รวมถึงเหตุผลความจำเป็น ในการดำเนินโครงการ คาดว่าจะทบทวนเสร็จภายใน 3 เดือนหรือในเดือน ธ.ค. 2563

“จะนำข้อมูลเดิมมาดูใหม่ ออกแบบสถานีใหญ่เกินไปหรือ บางสถานีจำเป็นต้องมีหรือไม่ ปรับลดได้หรือไม่ ซึ่งจะมีผลต่อต้นทุนก่อสร้างโครงการที่ลดลง”
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 269, 270, 271 ... 389, 390, 391  Next
Page 270 of 391

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©