Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวการประมูล จัดซื้อรถจักร รถพ่วงใหม่ของ รฟท. (เริ่มปี 2555)
View previous topic :: View next topic
Author
Message
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44320
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 03/03/2020 9:50 am Post subject:
เตรียมประมูลรถไฟใหม่184คัน1.5หมื่นล.
เดลินิวส์ (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2563
ติดแอร์เย็นฉ่ำรับทางคู่เปิดบริการปี66 แข่งโลว์คอสต์วิ่งวนเป็นลูปออกทุกชม.
รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศ ไทย (รฟท.) แจ้งว่า โครงการจัดหารถไฟโดยสารดีเซลรางปรับอากาศ สำหรับบริการเชิงพาณิชย์ 184 คัน พร้อมอะไหล่ วงเงินกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท ขณะนี้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. แล้ว อยู่ระหว่างเตรียมเสนอกระทรวงคมนาคม สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาอนุมัติโครงการ ก่อนจะเปิดประกวดราคา (ประมูล) ต่อไป รองรับโครงการรถไฟทางคู่ และใช้เดินรถทดแทนรถไฟโดยสาร รุ่นเก่าที่มีอายุการใช้งานมากแล้ว
รายงานข่าวจาก รฟท. แจ้งต่อว่า เบื้องต้นรถไฟโดยสารดีเซลราง เป็นระบบไฟฟ้าคล้ายรถไฟสปินเตอร์ที่ให้บริการอยู่ในปัจจุบัน ใน 1 ขบวนจะมี 4-6 ตู้ แต่ละตู้จะบรรทุกผู้โดยสาร ได้ประมาณ 60-70 ที่นั่ง ใช้เดินรถในระยะทางไม่เกิน 500 กิโลเมตร (กม.) เพื่อแข่งกับการให้บริการของสายการบินต้นทุนต่ำ (โลว์คอสต์) และเป็นรถนั่งอย่างเดียว ไม่เหมาะกับการวิ่งระยะไกล โดยการเดินรถจะวิ่งวนเป็นลูป เช่น กรุงเทพฯนครราชสีมา ระยะทาง 263 กม., กรุงเทพฯ-พิษณุโลก ระยะทาง 389 กม. และกรุงเทพฯ-ชุมพร ระยะทาง 468 กม. เป็นต้น
รายงานข่าวจาก รฟท. แจ้งอีกว่า อยู่ระหว่างออกแบบที่นั่งว่าจะเป็นรถไฟ ชั้น 2 เพียงอย่างเดียว หรือชั้น 1 ด้วย มั่นใจว่ารถไฟใหม่รอบนี้จะสู้กับโลว์คอสต์ได้แน่นอน เพราะทุกอย่างจะดีขึ้น ทั้งสภาพรถ และระยะเวลาเดินทาง ซึ่งจะรวดเร็วมากขึ้น จะมีรถวิ่งทุกชั่วโมง ผู้โดยสารจะทราบเวลาแน่ชัดว่ารถจะมากี่โมง เพราะทางคู่จะไม่มีถนนพาดผ่าน หากเป็นแยกที่ใช้ร่วมกับรถยนต์ จะมีสะพานข้ามทาง หรือทางลอด ผิดกับปัจจุบันทางรถไฟมีกว่า 4 พัน กม. แต่มีถนนพาดผ่านกว่า 2 พัน กม. ทำให้รถไฟจะวิ่งได้เร็วขึ้น เช่น กรุงเทพฯ-นครราชสีมา ประมาณ 3 ชั่วโมง(ชม.) จากเดิม 5.30-6 ชม., กรุงเทพฯ-พิษณุโลก ประมาณ 4.30 ชม. จากเดิม 5.30 ชม. และกรุงเทพฯ-ชุมพร ประมาณ 5.30 ชม. จากเดิม 6.30 ชม.
รายงานข่าวจาก รฟท. แจ้งด้วยว่า คาดว่าเร็วสุดน่าจะได้ใช้รถไฟใหม่ประมาณปลายปี 66 รองรับการเปิด ให้บริการรถไฟทางคู่ระยะ (เฟส) ที่ 1 ได้พอดี เพราะการก่อสร้างงานโยธาจะแล้วเสร็จประมาณปี 64 แต่ต้องใช้เวลาติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณอีกประมาณ 1-2 ปี ส่วนความคืบหน้าโครงการจัดหารถดีเซลรางปรับอากาศ 216 คัน เพื่อทดแทนรถรุ่นเก่าขบวนรถธรรมดา ชั้น 3 ใช้บริการเชิงสังคม โดยเฉพาะรถที่วิ่งเส้นทางชานเมืองและท้องถิ่นนั้น อยู่ระหว่างจัดทำ รายละเอียด.
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
Posted: 05/03/2020 10:31 am Post subject:
แผนการเดินรถ เมื่อ โครงการจัดหารถดีเซลรางปรับอากาศสำหรับบริการเชิงพาณิชย์ รุ่นใหม่ จำนวน 184 คัน พร้อมอะไหล่ ได้สำเร็จเป็นจริงขึ้นมา
วันนี้เห็นข่าวจากหลายๆสำนัก พูดถึงตัวรถไฟดีเซลรางใหม่ 184 ขบวน ว่าใช้ในเส้นทางระยะใกล้-กลาง เช่น กรุงเทพ-นครราชสีมา และ กรุงเทพ-พิษณุโลก
แล้วหลายๆคนก็เอาไปพูดต่อ ซึ่งตามจริงมันเป็นแค่บางส่วนของรถไฟที่ซื้อมา ซึ่งเราซื้อรถไฟมาทั้งหมดถึง 46 ชุด ชุดละ 4 ตู้ มันก็ทำขบวนได้มากกว่าที่สำนักข่าวเอาไปประชาสัมพันธ์แน่นอนครับ
ผมเลยขอเอาข้อมูลที่ผมมี มาย่อยให้ฟังนะครับ ว่ามันมีเส้นทางไหนบ้าง
ปล.เส้นทางอาจจะมีเปลี่ยนภายหลังได้นะครับ
รถไฟดีเซลรางใหม่ (Bi-Mode)
จะแบ่งเป็น 3 ส่วนคือ
1.ส่วนทดแทนรถไฟดีเซลรางเดิม 40 คัน ใช้ 8 ชุด สำรอง 2 ชุด
2.ขบวนด่วนพิเศษสายใหม่ระยะกลาง 88 คัน ใช้งาน 19 ชุด สำรอง 3 ชุด
3.ขบวนด่วนพิเศษสายใหม่ 56 คัน ใช้งาน 12 ชุด สำรอง 2 ชุด
มาดูกันต่อทีละส่วน
1.ส่วนทดแทนรถไฟดีเซลรางเดิม 40 คัน ใช้ 8 ชุด สำรอง 2 ชุด
จะเดินแทนรถไฟเดิม 5 ขบวนคือ
- ขบวน 7/8 กรุงเทพ-เชียงใหม่
- ขบวน 21/22 กรุงเทพ-อุบลราชธานี
- ขบวน 39/40 และ 43/44 กรุงเทพ-สุราษฎร์ธานี
- ขบวน 41/42 กรุงเทพ-ยะลา
2.ขบวนด่วนพิเศษสายใหม่ระยะกลาง 88 คัน ใช้งาน 19 ชุด สำรอง 3 ชุด
จะเดินรถทั้งหมด 40 ขบวน/วัน คือ
- กรุงเทพ-พิษณุโลก 10 ขบวน/วัน
- กรุงเทพ-นครราชสีมา 10 ขบวน/วัน
- กรุงเทพ-ขอนแก่น 6 ขบวน/วัน
- นครราชสีมา-บ้านพลูตาลหลวง 4 ขบวน/วัน
- กรุงเทพ-หัวหิน 2 ขบวน/วัน
- กรุงเทพ-ชุมพร 4 ขบวน/วัน
- กรุงเทพ-สุราษฎร์ธานี 4 ขบวน/วัน
3.ขบวนด่วนพิเศษสายใหม่ 56 คัน ใช้งาน 12 ชุด สำรอง 2 ชุด
จะเดินรถทั้งหมด 12 ขบวน/วัน คือ
- กรุงเทพ-เชียงใหม่ 2 ขบวน/วัน
- กรุงเทพ-หนองคาย 2 ขบวน/วัน
- กรุงเทพ-อุบลราชธานี 2 ขบวน/วัน
- กรุงเทพ-นครศรีธรรมราช 2 ขบวน/วัน
- กรุงเทพ-หาดใหญ่ 2 ขบวน/วัน
- กรุงเทพ-กันตัง 2 ขบวน/วัน
ผมว่าน่าจะตอบข้อสงสัยของเพื่อนๆ หลายๆคนได้แล้วนะครับ
ส่วนตัวผมคิดว่าเส้นทางที่จะเอาดีเซลรางนี้มาให้ เหมาะสมกับสถานการณ์และจุดแข็งของการรถไฟ จริงๆครับ
https://www.facebook.com/Thailand.Infra/posts/878086735963140
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
Posted: 19/03/2020 6:44 pm Post subject:
บอร์ด ร.ฟ.ท.ยันเดินหน้าตั้งบริษัทลูกสีแดง-ไฟเขียวเซ็นสัญญาซื้อหัวจักร 50 คัน 5.62 พันล้าน
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: พฤหัสบดีที่ 19 มีนาคม 2563 เวลา 18:12
ปรับปรุง: ศุกร์ที่ 20 มีนาคม 2563 เวลา 09:54
บอร์ด ร.ฟ.ท.เดินหน้าบริษัทลูกเดินรถสายสีแดงตามมติ คนร. อัปเกรดเพิ่มทุน แอร์พอร์ตลิงก์ เป็นเร่งขั้นตอนให้ทันเปิดต้นปี 64 เคาะผลประมูลซื้อหัวจักร 50 คัน วงเงิน 6.52 พันล้าน เตรียมเซ็นสัญญาใน 1 เดือน
นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยภายหลังการประชุมบอร์ด ร.ฟ.ท.วันที่ 19 มี.ค. ว่า ที่ประชุมรับทราบผลการเจรจาต่อรองค่าตอบแทนบุคคลที่จะได้รับการเสนอชื่อเป็นผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท.คนใหม่ ตามที่คณะกรรมการเจรจาผลตอบแทนเสนอ และเป็นไปตามขั้นตอนการสรรหา โดยหลังจากนี้ ร.ฟ.ท.จะสรุปผลการสรรหาและค่าตอบแทนเสนอต่อสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กระทรวงการคลังเห็นชอบ จากนั้น ร.ฟ.ท.จะนำเสนอกระทรวงคมนาคม และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า คณะกรรมการสรรหาผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท. ที่มี นายอำนวย ปรีมนวงศ์ กรรมการ ร.ฟ.ท.เป็นประธานนั้น ได้เสนอชื่อนายนิรุฒ มณีพันธ์ อดีตรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายพัฒนาทรัพยากรบุคคลและกำกับกิจกรรมองค์กร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท.เนื่องจากได้รับคะแนนสูงสุด
เร่งอัปเกรดแอร์พอร์ตลิงก์ ตั้งเป็นบริษัทลูกเดินรถสายสีแดง
นอกจากนี้ บอร์ด ร.ฟ.ท.ยังได้เห็นชอบการให้ ร.ฟ.ท.จัดตั้งบริษัทลูกรถไฟสายสีแดง โดยการอัปเกรดบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท.จำกัด (ผู้บริหารการเดินรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ในปัจจุบัน) โดยเพิ่มพันธกิจขอบเขตงาน เพื่อทำหน้าที่ในการเดินรถไฟสายสีแดง ซึ่งเป็นไปตามมติคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) โดยร.ฟ.ท.จะเร่งนำเสนอกระทรวงคมนาคมและ ครม.เพื่อเร่งจัดตั้งต่อไป
ส่วนกรณีที่มีนโยบายให้พิจารณารูปแบบกับการให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุน (PPP) การบริหารการเดินรถสายสีแดงนั้น เนื่องจากขั้นตอน PPP ยังต้องใช้เวลาอีกมาก ซึ่งจะไม่ทันกำหนดการเปิดเดินรถสายสีแดงต้นปี 2564 ประกอบการตั้งบริษัทลูกรถไฟขึ้นมาดำเนินการได้มีการเตรียมความพร้อมทั้งการฝึกอบรมบุคลากร และเตรียมการถ่ายโอนพนักงานจากบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท.จำกัด ไว้บ้างแล้ว อย่างไรก็ตาม ในรูปแบบ PPP ให้เอกชนบริหารการเดินรถนั้น ได้ให้ ร.ฟ.ท.ทำการศึกษาคู่ขนานไปด้วย
สำหรับการบริหารสถานีรถไฟสายสีแดงนั้น นายจิรุตม์กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ร.ฟ.ท.เสนอเปิดประมูลหาเอกชนบริหารสถานีกลางบางซื่อเพียงแห่งเดียว ซึ่งบอร์ดเห็นว่าควรศึกษาแนวทางการบริหารทุกสถานีของสายสีแดง เปิดประมูลเป็นสัญญาเดียวเพื่อเพิ่มความคุ้มค่า ซึ่ง ร.ฟ.ท.อาจจะต้องทำการทดสอบความสนใจของนักลงทุน และเปิดประมูล
เตรียมเซ็นสัญญาซื้อหัวจักร 50 คัน 6.52 พันล้าน
นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท. กล่าวว่า บอร์ด ร.ฟ.ท.ได้เห็นชอบผลการประกวดราคาจัดซื้อหัวรถจักรดีเซลไฟฟ้า น้ำหนักกดเพลา 16 ตันต่อเพลา พร้อมอะไหล่ จำนวน 50 คัน ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ราคากลาง 6,562 ล้านบาท แล้ว โดยอยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียดขั้นสุดท้าย คาดว่าจะลงนามสัญญาได้ภายใน 1 เดือน
ส่วนการบริหารพื้นที่สถานีรถไฟสายสีแดงนั้น จะเร่งสรุปรายละเอียดนำเสนอบอร์ดเพื่อขออนุมัติในการประชุมครั้งหน้า โดยจะเป็นการรวมพื้นที่ทั้ง 13 สถานีเปิดประมูลเป็นสัญญาเดียว
รายงานข่างแจ้งว่า กิจการร่วมค้า SFR ซึ่งประกอบด้วย บริษัท ซานโฟโก อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุดในการประมูลจัดซื้อหัวรถจักร 50 คัน และเจรจาต่อรองอยู่ที่ 6,524 ล้านบาท
//---------------------------------------------
บอร์ดการรถไฟฯ มีมติเห็นชอบ ผลการคัดเลือกเอกชน ดำเนินโครงการจัดซื้อรถจักรดีเซลไฟฟ้า น้ำหนักกดเพลา 16 ตันต่อเพลา พร้อมอะไหล่ จำนวน 50 คัน ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ราคากลาง 6,562 ล้านบาท ซึ่งคณะกรรมการคัดเลือกฯ ได้เสนอให้กิจการร่วมค้า SFR ซึ่งประกอบด้วยบริษัท ซานโฟโก อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (ชื่อเดิมบริษัท ป่าไม้สันติ จำกัด) และ บริษัท ริเวอร์ เอนจิเนียริ่ง จำกัด เป็นผู้ชนะการประมูล ด้วยข้อเสนอด้านราคาต่ำสุด 6,529 ล้านบาท หรือต่ำกว่าราคากลาง 0.50% โดยภายหลังบอร์ดมีมติเห็นชอบครั้งนี้ การรถไฟฯ จะเปิดให้เอกชนรายอื่น สามารถยื่นอุทธรณ์ผลการประมูลได้ภายใน 7 วัน
อย่างไรก็ดี หากไม่มีการยื่นอุทรณ์ หรือมีกรณียื่นอุทธรณ์แต่ศาลไม่ได้รับฟ้อง การรถไฟฯ คาดว่าจะสามารถลงนามสัญญาร่วมกับเอกชนที่ชนะการประมูลได้ภายในเดือนเมษายนนี้ หลังจากนั้น กิจการร่วมค้า SFR จะต้องส่งมอบหัวรถจักร 20 คันแรกภายใน 415 วัน และส่งมอบอีก 30 ชุดที่เหลือภายใน 900 วัน
หัวรถจักรกลุ่มนี้จะทยอยนำมาให้บริการในเส้นทางรถไฟทางคู่ต่างๆ เอามาทดแทนหัวรถจักรดีเซลที่การรถไฟฯ ใช้มานาน 30-50 ปี และเก่ามาก โดยตัวหัวรถจักรใหม่ก็จะทำให้การเดินรถมีประสิทธิภาพ และตรงเวลามากขึ้น นายวรวุฒิกล่าว
นอกจากนี้ ที่ประชุมบอร์ดเห็นชอบโครงการจัดหารถโบกี้บรรทุกสินค้า (บทต.) จำนวน 965 คัน วงเงินประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งกำหนดให้ใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศและต่างประเทศมาประกอบกันภายในประเทศ โดยหลังจากนี้การรถไฟฯ จะต้องเสนอเรื่องให้กระทรวงคมนาคม สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบตามขั้นตอนต่อไป
https://www.thebangkokinsight.com/313123
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44320
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 20/03/2020 11:07 am Post subject:
บอร์ดรถไฟฯ อนุมัติจัดซื้อหัวรถจักร ลงนาม เม.ย.นี้
กรุงเทพธุรกิจ 20 มีนาคม 2563
บอร์ด ร.ฟ.ท.ไฟเขียว กิจการร่วมค้า SFR คว้าประมูลหัวรถจักร 50 คัน เม็ดเงินกว่า 6.5 พันล้านบาท เตรียมลงนามสัญญา เม.ย.นี้ เสริมทัพบริการทางคู่ ทดแทนหัวรถจักรดีเซล
นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยภายหลังประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ร.ฟ.ท.เมื่อวันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยระบุว่า บอร์ดมีมติเห็นชอบผลการคัดเลือกเอกชน ดำเนินโครงการจัดซื้อรถจักรดีเซลไฟฟ้า (Diesel Electronic Locomotive) น้ำหนักกดเพลา 16 ตันต่อเพลา พร้อมอะไหล่ จำนวน 50 คัน ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ราคากลาง 6,562 ล้านบาท
ซึ่งคณะกรรมการคัดเลือกฯ ได้เสนอให้กิจการร่วมค้า SFR ซึ่งประกอบด้วยบริษัท ซานโฟโก อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (ชื่อเดิมบริษัท ป่าไม้สันติ จำกัด) และ บริษัท ริเวอร์ เอนจิเนียริ่ง จำกัด เป็นผู้ชนะการประมูล ด้วยข้อเสนอด้านราคาต่ำสุด 6,529 ล้านบาท หรือต่ำกว่าราคากลาง 0.50% โดยภายหลังบอร์ดมีมติเห็นชอบครั้งนี้ ร.ฟ.ท.จะเปิดให้เอกชนรายอื่น สามารถยื่นอุทธรณ์ผลการประมูลได้ภายใน 7 วัน
อย่างไรก็ดี หากไม่มีการยื่นอุทรณ์ หรือมีกรณียื่นอุทธรณ์แต่ศาลไม่ได้รับฟ้อง ร.ฟ.ท.คาดว่าจะสามารถลงนามสัญญาร่วมกับเอกชนที่ชนะการประมูลได้ภายในเดือน เม.ย.นี้ หลังจากนั้น กิจการร่วมค้า SFR จะต้องส่งมอบหัวรถจักร 20 คันแรกภายใน 415 วัน และส่งมอบอีก 30 ชุดที่เหลือภายใน 900 วัน เบื้องต้นทราบว่าทางเอกชนจะใช้หัวรถจักรที่ผลิตจากประเทศจีน
หัวรถจักรกลุ่มนี้จะทยอยนำมาให้บริการในเส้นทางรถไฟทางคู่ต่างๆ เอามาทดแทนหัวรถจักรดีเซลที่การรถไฟฯ ใช้มานาน 30-50 ปี และเก่ามาก โดยตัวหัวรถจักรใหม่ก็จะทำให้การเดินรถมีประสิทธิภาพ และตรงเวลามากขึ้น
รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ระบุว่า โครงการประกวดราคาจัดซื้อหัวรถจักรดีเซลไฟฟ้า ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2554 งบประมาณที่นำมาดำเนินการก็เป็นงบประมาณที่ได้รับการอนุมัติมาแล้วตั้งแต่ปี 2554 ดังนั้นหากรวมระยะเวลาดำเนินการตอนนี้ ก็พบว่าเป็นโครงการที่มีความล่าช้ามาก ใช้เวลารวมถึง 9 ปี
สำหรับบริษัท ซานโฟโก อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เป็นเอกชนที่เคยชนะการประมูลโครงการจัดหาหัวรถจักรดีเซลไฟฟ้าจำนวน 20 คัน วงเงิน 3,300 ล้านบาทมาแล้วในปี 2556 โดยครั้งนั้น ใช้หัวรถจักรที่ผลิตจากบริษัท CRRC QISHUYAN ประเทศจีน ขณะเดียวกัน บริษัท ซานโฟโก อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ยังเคยเข้าร่วมประมูลหัวรถจักร เมื่อปี 2559 ภายใต้กลุ่มกิจการร่วมค้าคิวเอส (QS JOINT VENTUER) ซึ่งประกอบด้วย บริษัท ซีอาร์อาร์ซีซิซูเอียน และบริษัท ซานโฟโก อินเตอร์เนชั่นแนล แต่ไม่ผ่านคุณสมบัติ ทำให้ต้องยกเลิกการประมูลออกไป
ส่วนการประมูลในครั้งนี้ มีเอกชนยื่นข้อเสนอ 3 ราย ประกอบไปด้วย 1.บริษัท ซานโฟโก อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (ชื่อเดิมบริษัท ป่าไม้สันติ จำกัด) และ บริษัท ริเวอร์ เอนจิเนียริ่ง จำกัด ผู้ชนะการประมูล 2.บริษัท อิตัลไทยวิศวกรรม จำกัด เป็นผู้ยื่นข้อเสนออันดับ 2 ด้วยราคา 6,542 ล้านบาท หรือต่ำกว่าราคากลาง 0.30% และ 3.กิจการร่วมค้า WIS และ HYN ยื่นข้อเสนอด้านราคาต่ำสุด เพียง 5,019 ล้านบาท หรือต่ำกว่าราคากลางถึง 23.5% แต่ไม่ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติ
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44320
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 22/04/2020 9:17 pm Post subject:
เปิดประมูล รถจักรดีเซลไฟฟ้า 1,670 ล้าน ก.ค.นี้
ฐานเศรษฐกิจ 22 Apr 2020 16:11 น.
ร.ฟ.ท. เตรียมเปิดรับฟังความเห็นร่างทีโออาร์ โครงการปรับปรุงรถจักรดีเซลไฟฟ้า GEA 36 คัน หากไม่มีผู้คัดค้าน เริ่มเปิดประมูลภายในเดือน ก.ค.นี้
นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 20 เม.ย. ที่ผ่านมา รฟท. นำร่างทีโออาร์โครงการจ้างซ่อมปรับปรุงรถจักรดีเซลไฟฟ้า GEA จำนวน 36 คัน ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ราคากลาง 1,670 ล้านบาท ออกประชาพิจารณ์ผ่านเว็บไซต์ ของ รฟท. โดยจะเปิดให้ประชาชนและส่วนที่เกี่ยวข้องแสดงงามคิดเห็นโดยจะเปิดรับฟังความเห็นจนถึง วันที่ 12 พ.ค. นี้ หากไม่มีผู้คัดค้าน คาดว่าภายใน 2 เดือนหรือภายในเดือน ก.ค.นี้จะเปิดประมูลจ้างเอกชนได้และจะประกาศรายชื่อผู้ชนะการประมูลได้ในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งเป็นโครงการเร่งด่วนที่ค้างมานานและต้องเร่งดำเนินการ
สำหรับการพิจารณาผลการยื่นข้อเสนอนั้น รฟท.จะพิจารณาตัดสินโดยใช้เกณฑ์ราคารวม และกรณีที่ผู้ยื่นข้อเสนอราคาที่เสนอราคาต่ำสุด จนคาดหมายได้ว่าอาจจะดำเนินงานตามเอกสารประกวดราคาได้ คณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคา ( รฟท.) ให้ผู้ยื่นข้อเสนอชี้แจงและแสดงหลักฐานที่ทำให้เชื่อว่าสามารถดำเนินงานได้ หากชี้แจงไม่เป็นที่รับฟัง รฟท.มีสิทธิ์ที่จะไม่รับข้อเสนอขงผู้ยื่นรายนั้น โดยผู้ยื่นไม่มีสิทธิ์เรียกร้องค่าใช้จ่ายและค่าเสียหายแต่อย่างใด
สำหรับร่างทีโออาร์โครงการจ้างซ่อมปรับปรุงรถจักรดีเซลไฟฟ้า GEA จำนวน 36 คัน มีรายละเอียดดังนี้ เป็นโครงการที่ จะใช้วิธีประมูลแบบการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) มีราคากลางที่ 1,670 ล้านบาท สำหรับคุณสมบัติของเอกชนที่จะเข้าร่วมเสนอราคาจะต้องมีประวัติผลิตและซ่อมปรับปรุงรถจักรดีเซลไฟฟ้า หรือผลงานซ่อมหนักรถจักรดีเซลไฟฟ้าทั้งคัน โดยรวมสัญญาที่ผ่านมาการตรวจรับแล้วมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 80 ล้านบาท และจะต้องเสนอราคาเป็นเงินบาทซึ่งจะเสนอราคาได้เพียงครั้งเดียวและราคาเดียว โดยจะต้องยืนราคาไม่น้อยกว่า 180 วันนับตั้งแต่วันที่เสนอราคา
ทั้งนี้ต้องวางหลักประกันการเสนอราคาพร้อมกับการเสนอราคาทางอิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 84.60 ล้านบาท สำหรับกรอบระยะเวลาการดำเนินการซ่อมบำรุงและส่งมอบรถให้ รฟท. นั้นกำหนดให้การซ่อมบำรุงต้องแล้เสร็จและส่งมอบให้ รฟท.ครบทั้ง 36 ภายใน1,200 วันนับจากวันที่ รฟท. ได้ส่งมอบรถให้เอกชน โดยรฟท.จะทยอยรับมอบเป็น 12 งวด ซึ่งจะต้องส่งมอบล็อตแรกจำนวน 2คัน ภายใน 6เดือน
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44320
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 01/09/2020 6:04 am Post subject:
สิ้นสุดการรอคอย! รถไฟเซ็นสัญญาซื้อ รถจักรดีเซลไฟฟ้า จากจีน 50 คัน 6.5 พันล้าน
ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 31 สิงหาคม 2563 - 18:52 น.
รถไฟเซ็นสัญญา 6.5 พันล้านกลุ่ม ซานโฟโก ริเวอร์เอ็นจิเนียริ่ง ซื้อรถจักรไฟฟ้า 50 คัน ทดแทนของเก่าใช้งานมานาน 44-45ปี
หลังผลักดันมาร่วม10ปีเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2563 นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) เป็นประธานในพิธีลงนามสัญญาซื้อรถจักรดีเซลไฟฟ้า น้ำหนักกดเพลา 16 ตัน/เพลา พร้อมอะไหล่จำนวน 50 คัน มูลค่า 6,525 ล้านบาท ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย กับกิจการร่วมค้าเอสเอฟอาร์ ซึ่งเป็นการร่วมมือกันระหว่างบริษัท ซานโฟโก อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และบริษัท ริเวอร์เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด
โดยรถจักรดังกล่าวได้ผลิตโดย บริษัท CRRC QISHUYAN CO., LTD. ผู้ผลิตรถจักรชั้นนำจากประเทศจีน มีวัตถุประสงค์เพื่อนำมาทดแทนรถจักรเก่าที่ใช้งานมานาน เป็นการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งสินค้าและผู้โดยสาร ตลอดจนช่วยสร้างโอกาสการหารายได้ในอนาคตให้กับการรถไฟแห่งประเทศไทย
นายนิรุฒ เปิดเผยว่า การลงนามสัญญาซื้อรถจักรดีเซลไฟฟ้า น้ำหนักกดเพลา 16 ตัน/เพลา พร้อมอะไหล่จำนวน 50 คันครั้งนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งในแผนการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ และการสร้างรายได้ของการรถไฟฯ
เนื่องจากปัจจุบันการรถไฟฯ มีรถจักรที่มีอายุการใช้งานมาอย่างยาวนาน ซึ่งบางคันมีการใช้งานมานานกว่า 44-45 ปี จนมีการชำรุดและต้องปลดระวางไปจำนวนมาก ส่งผลให้มีรถจักรไม่เพียงพอต่อการให้บริการเดินรถขนส่งผู้โดยสารและสินค้า
และการจัดหาในครั้งนี้เป็นรถจักรและอะไหล่ใหม่ทั้งหมด ซึ่งรถจักรใหม่นี้มีสมรรถนะในการลากจูงขนส่งผู้โดยสารได้ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และการขนส่งสินค้าที่ความเร็ว 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ และเพื่อรองรับโครงการรถไฟทางคู่ที่จะทยอยเปิดใช้งานในอนาคตได้อีกด้วย
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
Posted: 01/09/2020 8:45 pm Post subject:
ทุ่มงบ 6.5 พันล. เซ็นสัญญาซื้อรถจักรดีเซลไฟฟ้า
หน้าเศรษฐกิจมหภาค / Mega Project
อังคารที่ 1 กันยายน 2563 เวลา 16:30 น.
รฟท.ปลื้ม เซ็นสัญญา เอสเอฟอาร์ ซื้อรถจักรดีเซลไฟฟ้า 50 คัน หวังทดแทนรถจักรเดิมเหตุชำรุด-ถูกปลดระวางเพียบ
นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยในฐานะประธานในพิธีลงนามสัญญาซื้อรถจักรดีเซลไฟฟ้า น้ำหนักกดเพลา 16 ตันต่อเพลา พร้อมอะไหล่จำนวน 50 คัน มูลค่า 6,525 ล้านบาท ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย กับกิจการร่วมค้าเอสเอฟอาร์ ว่า สำหรับการร่วมมือกันระหว่างบริษัท ซานโฟโก อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และบริษัท ริเวอร์เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด โดยรถจักรดังกล่าวได้ผลิตโดย บริษัท CRRC QISHUYAN CO., LTD. ผู้ผลิตรถจักรชั้นนำจากประเทศจีน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำมาทดแทนรถจักรเก่าที่ใช้งานมานาน เป็นการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งสินค้าและผู้โดยสาร ตลอดจนช่วยสร้างโอกาสการหารายได้ในอนาคตให้กับการรถไฟแห่งประเทศไทย
เปิดแล้ว! สมาร์ทโฟนจอพับเจน3 Galaxy Z Fold2 5G
ปรีดีลาออก รัฐบาลขาลงแล้ว ขาลงเล่า
สุดปัง เมื่อฮุนไดจับมือวง BTS ปล่อยเพลงใหม่ (มีคลิป)
ขณะเดียวกันการลงนามสัญญาซื้อรถจักรดีเซลไฟฟ้า น้ำหนักกดเพลา 16 ตัน/เพลา พร้อมอะไหล่จำนวน 50 คันครั้งนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งในแผนการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ และการสร้างรายได้ของการรถไฟฯ เนื่องจากปัจจุบันการรถไฟฯ มีรถจักรที่มีอายุการใช้งานมาอย่างยาวนาน ซึ่งบางคันมีการใช้งานมานานกว่า 44-45 ปี จนมีการชำรุดและต้องปลดระวางไปจำนวนมาก ส่งผลให้มีรถจักรไม่เพียงพอต่อการให้บริการเดินรถขนส่งผู้โดยสารและสินค้า
ทั้งนี้การจัดหารถจักรดีเซลไฟฟ้าในครั้งนี้เป็นรถจักรและอะไหล่ใหม่ทั้งหมด ซึ่งรถจักรใหม่นี้มีสมรรถนะในการลากจูงขนส่งผู้โดยสารได้ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และการขนส่งสินค้าที่ความเร็ว 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ และเพื่อรองรับโครงการรถไฟทางคู่ที่จะทยอยเปิดใช้งานในอนาคตได้
9 ปีที่รอคอย! รฟท. ลงนาม กิจการร่วมค้า SFR จัดซื้อหัวรถจักร 50 คัน วงเงิน 6.52 พันล้าน พร้อมผุดไอเดียเล็งนำขบวนรถเก่าแปลงเป็นร้านอาหาร-ร้านกาแฟ สร้างรายได้
31 สิงหาคม 2563
ปิดจ๊อบ 9 ปีที่รอคอย! รฟท. ลงนาม กิจการร่วมค้า SFR จัดซื้อหัวรถจักร 50 คัน วงเงิน 6.52 พันล้าน ทยอยส่งมอบ 20 คันแรก ภายใน 540 วัน ทดแทนหัวรถจักรดีเซลเก่า-เสริมทัพให้บริการทางคู่ ด้าน ผู้ว่า รฟท. ลั่น! ถือเป็นข่าวดี-ประวัติศาสตร์การรถไฟฯ พร้อมเล็งอัพเกรดขบวนรถผู้โดยสาร พ่วงเพิ่มมูลค่าขบวนเก่า ผุดไอเดียนำไปทำร้านอาหาร-ร้านกาแฟ สร้างเอกลักษณ์รถไฟไทย
นายนิรุฒ มณีพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า วันนี้ (31 ส.ค. 2563) รฟท. ได้ลงนามจัดซื้อรถจักรดีเซลไฟฟ้า (Diesel Electronic Locomotive) น้ำหนักกดเพลา 16 ตันต่อเพลา พร้อมอะไหล่ จำนวน 50 คัน ร่วมกับกิจการร่วมค้า SFR ซึ่งประกอบด้วยบริษัท ซานโฟโก อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (ชื่อเดิมบริษัท ป่าไม้สันติ จำกัด) และบริษัท ริเวอร์ เอนจิเนียริ่ง จำกัด ในฐานะผู้ชนะการประมูล ด้วยข้อเสนอด้านราคาต่ำสุด 6,529 ล้านบาท จากกลาง 6,562 ล้านบาท หรือต่ำกว่าราคากลาง 0.50%
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวนั้น คณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. มีมติเห็นชอบผลการคัดเลือกเอกชน ผู้ชนะประกวดราคาด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-Bidding) เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นไปตามที่คณะกรรมการคัดเลือกฯ เสนอ โดยหลังจากการลงนามในวันนี้แล้ว กิจการร่วมค้า SFR จะต้องส่งมอบหัวรถจักรทั้งหมดภายใน 915 วัน นับถัดจากวันที่ลงนามในสัญญาซื้อขายหรือวันที่ได้รับหนังสือแจ้งจาก รฟท. แบ่งเป็น 2 งวด ประกอบด้วย งวดแรก 20 คันแรกภายใน 540 วัน และงวดที่ 2 ส่งมอบอีก 30 คันที่เหลือภายใน 915 วัน
การลงนามในวันนี้ ถือเป็นอนาคตและเป็นข่าวดีของการรถไฟฯ โดยเป็นการจัดซื้อล็อตที่ใหญ่ที่สุด ตั้งแต่มีรถไฟไทย นับเป็นอีก 1 ประวัติศาสตร์ที่สำคัญ สำหรับการจัดซื้อในครั้งนี้ เป็นไปตามแผนที่เสนอไว้ 50 คัน เพื่อทดแทนหัวรถจักรดีเซลเก่า ที่ รฟท.ใช้มานาน 30-50 ปี รวมถึงนำมาให้บริการในเส้นทางรถไฟทางคู่ รวมถึงเส้นทางรถไฟอื่นๆ ที่เพิ่มมากขึ้น ช่วยให้การเดินรถมีประสิทธิภาพมากกว่าในปัจจุบัน และจะตรงเวลามากขึ้นด้วย เพราะตอนนี้รถจักรเก่าเสียบ่อย และไม่พอใข้ ถ้ารถจักรไม่สมบูรณ์ ก็ไม่อยากเอาออกมาให้บริการประชาชน เนื่องจากจะเสียเวลา นายนิรุฒ กล่าว
นายนิรุฒ กล่าวต่ออีกว่า เพื่อเป็นการพัฒนาการให้บริการประชาชนนั้น รฟท. อยู่ระหว่างการดำเนินการโครงการจัดหารถดีเซลรางไฟฟ้า จำนวน 184 คัน เพื่อนำมาให้บริการทดแทนรถเก่าที่มีอยู่ ซึ่งในขณะนี้ อยู่ระหว่างการพิจารณาสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ก่อนที่จะดำเนินการตามแผนต่อไป นอกจากนี้ ตั้งแต่ตนเข้ารับตำแหน่งผู้ว่าการ รฟท. รวมถึงนโยบายของกระทรวงคมนาคม ในการพัฒนาการให้บริการ และให้ รฟท. กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง สามารถสร้างรายได้ให้ตนเองได้ โดยในตอนนี้ รฟท. จึงมีแผนในการบริหารจัดการขบวนตู้โดยสาร รวมถึงห้องน้ำระบบปิด เพื่อพัฒนาการให้บริการ
ขณะเดียวกัน รฟท. ยังเตรียมพิจารณาปรับปรุง (รีโนเวท) ขบวนรถเก่า เพื่อนำมาให้บริการ โดยหากพิจารณาแล้วว่า ไม่สามารถปรับปรุงได้แล้วนั้น ตนจึงมีแนวคิดที่จะนำขบวนรถเก่าไปหามูลค่าเพิ่ม โดยการนำไปทำเป็นร้านอาหาร หรือร้านกาแฟ เพื่อสร้างเป็นเอกลักษณ์ที่น่าสนใจของ รฟท. นอกเหนือจากการนำไปตัดบัญชีและจำหน่ายเป็นเศษเหล็ก แต่ต้องมาพิจารณาอีกครั้ง ว่าจะเป็นในรูปแบบใด ทั้งนี้ จึงได้แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาในเรื่องการตัดบัญชีและการหารายได้เพิ่ม โดยมอบหมายให้นายศิริพงศ์ พฤทธิพันธุ์ รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการซ่อมบำรุงรถจักรและล้อเลื่อน รฟท. เป็นประธานคณะทำงาน
รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย ระบุว่า สำหรับการจัดซื้อรถจักรดีเซลไฟฟ้า (Diesel Electronic Locomotive) น้ำหนักกดเพลา 16 ตันต่อเพลา พร้อมอะไหล่ จำนวน 50 คันนั้น เป็นการประกวดราคาจัดซื้อหัวรถจักรดีเซลไฟฟ้าที่ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2554 โดยเป็นงบประมาณที่ได้รับการอนุมัติมาแล้วตั้งแต่ปี 2554 ซึ่งใช้เวลารวมมาแล้วถึง 9 ปี กว่าที่จะมีการลงนามในวันนี้ ถือว่าเป็นโครงการที่มีความล่าช้าเป็นอย่างมาก ขณะที่ ในส่วนของบริษัท ซานโฟโก อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เป็นเอกชนที่เคยชนะการประมูลโครงการจัดหาหัวรถจักรดีเซลไฟฟ้าจำนวน 20 คัน วงเงิน 3,300 ล้านบาทมาแล้วในปี 2556
รฟท.เซ็นแล้ว! ซื้อหัวจักรดีเซลไฟฟ้าจีน 50 คัน 6.52 พันล้าน ส่งมอบล็อตแรกใน 18 เดือน
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: อังคารที่ 1 กันยายน 2563 เวลา 15:38
รฟท.เซ็นสัญญา ซานโฟโก-ริเวอร์เอ็นจิเนียริ่ง ซื้อหัวรถจักรจีน 50 คัน วงเงิน 6,525 ล้านบาทแบบเงียบๆ หลังเปิดประมูลตั้งแต่ปี 59 แต่ต้องยกเลิกหลายครั้งซึ่งเป็นการซื้อในรอบ 7 ปี ต่อจากรถจักร 20 คัน ซึ่งเป็นเอกชนรายเดิม รับมอบอีก 18 เดือน
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ลงนามสัญญาซื้อรถจักรดีเซลไฟฟ้า น้ำหนักกดเพลา 16 ตัน/เพลา พร้อมอะไหล่จำนวน 50 คัน มูลค่า 6,525 ล้านบาท ระหว่าง รฟท. กับกิจการร่วมค้าเอสเอฟอาร์ ซึ่งเป็นการร่วมมือกันระหว่างบริษัท ซานโฟโก อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และบริษัท ริเวอร์เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด โดยรถจักรดังกล่าวได้ผลิตโดย บริษัท CRRC QISHUYAN CO., LTD. ผู้ผลิตรถจักรชั้นนำจากประเทศจีน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำมาทดแทนรถจักรเก่าที่ใช้งานมานาน เป็นการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งสินค้าและผู้โดยสาร ตลอดจนช่วยสร้างโอกาสการหารายได้ในอนาคตให้แก่การรถไฟแห่งประเทศไทย
ทั้งนี้ รฟท.ได้เปิดประกวดราคาจัดซื้อหัวรถจักรดีเซลไฟฟ้า น้ำหนักกดเพลา 16 ตันต่อเพลา พร้อมอะไหล่ จำนวน 50 คัน ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ราคากลาง 6,562 ล้านบาท โดยทีโออาร์กำหนดให้เอกชนเสนอแผนซ่อมบำรุงพร้อมราคาอะไหล่ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ระยะเวลา 10 ปี กำหนดระยะเวลาส่งมอบไม่เกิน 915 วัน (2 ปีครึ่ง) นับจากวันที่ลงนามสัญญาซื้อขาย หรือวันที่ได้รับหนังสือแจ้งจาก รฟท. โดยกำหนดส่งมอบเป็นงวดๆ งวดที่ 1 จำนวนไม่น้อยกว่า 20 คัน ภายใน 540 วัน งวดที่ 2 จำนวนที่เหลือ ภายใน 915 วัน และรับประกัน 5 ปี
สำหรับการจัดหาหัวรถจักร 50 คันของ รฟท.นั้น ได้มีการเปิดประมูลมาหลายครั้งตั้งแต่ปี 2559 ประมูลจัดซื้อหัวรถจักร 50 คัน วงเงินประมาณ 6.1 พันล้านบาท แต่ต้องยกเลิกประมูล เนื่องจากกลุ่มบริษัทจีนฯ ที่ยื่นซองเพียงรายเดียวไม่ผ่านคุณสมบัติ ต่อมาได้เปิดประมูลจัดซื้อรถจักรดีเซลไฟฟ้า (Diesel Electric Locomotive) น้ำหนักกดเพลา 16 ตัน/เพลา จำนวน 50 คัน อีกครั้ง โดยดำเนินการภายใต้พระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ราคากลาง 6,562.5 ล้านบาท โดยรายที่เสนอราคาต่ำสุดมีปัญหาไม่ผ่านคุณสมบัติเรื่องแบงก์การันตี ซึ่งเอกชนมองว่าไม่ใช่สาระสำคัญ จึงเห็นว่าสามารถยื่นเพิ่มเติมภายหลังได้ ซึ่งคณะกรรมการคัดเลือกฯ รฟท.พิจารณาว่าเป็นเอกสารสำคัญและได้เชิญกิจการร่วมค้าเอสเอฟอาร์ที่เสนอราคาเป็นอันดับสองมาเจรจา โดยได้ข้อสรุปราคาที่ 6,525 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลาง 37.5 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 2556 รฟท.ได้ลงนามสัญญาซื้อขายกับบริษัท ป่าไม้สันติ จำกัด (ปัจจุบันชื่อบริษัท ซานโฟโก้อินเตอร์เนชันแนล จำกัด) ในการจัดซื้อรถจักร 20 คัน มูลค่า 3,300 ล้านบาท ซึ่งผลิต/สร้างโดยบริษัท CRRC QISHUYAN CO.,LTD สาธารณรัฐประชาชนจีน เดิมชื่อ CSR QISHUYAN CO.,LTD ส่งมอบใน 24 เดือน โดย รฟท.ได้ใช้งานตั้งแต่ปี 2558 ซึ่งมีการร้องเรียนปัญหาหัวรถจักรมีความชำรุดบกพร่องมาโดยตลอด ทำให้ไม่สามารถใช้งานได้ครบจำนวนทุกวัน ใช้งานไม่เต็มประสิทธิภาพ ทำให้ รฟท.เสียโอกาส ขาดรายได้ทั้งผู้โดยสารและสินค้า
นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าฯ รฟท. เปิดเผยว่า การลงนามสัญญาซื้อรถจักรดีเซลไฟฟ้า น้ำหนักกดเพลา 16 ตัน/เพลา พร้อมอะไหล่จำนวน 50 คันครั้งนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งในแผนการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ และการสร้างรายได้ของการรถไฟฯ เนื่องจากปัจจุบันการรถไฟฯ มีรถจักรที่มีอายุการใช้งานมาอย่างยาวนาน ซึ่งบางคันมีการใช้งานมานานกว่า 44-45 ปี จนชำรุดและต้องปลดระวางไปจำนวนมาก ส่งผลให้มีรถจักรไม่เพียงพอต่อการให้บริการเดินรถขนส่งผู้โดยสารและสินค้า การจัดหาในครั้งนี้เป็นรถจักรและอะไหล่ใหม่ทั้งหมด โดยหัวรถจักรใหม่นี้มีสมรรถนะในการลากจูงขนส่งผู้โดยสารได้ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และการขนส่งสินค้าที่ความเร็ว 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ และเพื่อรองรับโครงการรถไฟทางคู่ที่จะทยอยเปิดใช้งานในอนาคตได้
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
Posted: 04/09/2020 10:06 pm Post subject:
สรุป Spec รถจักรใหม่ 50 คัน จากรายละเอียดใน TOR ของการรถไฟ ความเร็วสูงสุด 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง หัวรถจักรที่จะเร็วที่สุดในไทย
โครงสร้างพื้นฐาน ประเทศไทย Thailand Infrastructure is feeling excited.
4 กันยายน 2563 เวลา 21:44 น.
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทางการรถไฟ ได้เซ็นสัญญาซื้อรถจักรใหม่ 50 คัน ซึ่งจะมาทดแทนรถไฟเดิมที่ใช้อยู่ มีอายุ มากกว่า 40 ปี ต้องใช้คำว่ากว่าจะผ่านมาได้
โดยรถไฟนี้จะถูกนำมาใช้กับรถไฟโดยสารเป็นหลัก โดยนำหนักโหลดเพลา ไม่เกิน 16 ตัน ซึ่งสามารถเดินรถได้ทั่วประเทศ ต่างจากรถจักร CSR ซึ่งเป็นรถไฟชุดล่าสุดที่นำเข้ามาให้บริการ ซึ่งน้ำหนักโหลดเพลาอยู่ที่ 20 ตัน ซึ่งจะวิ่งได้แต่เฉพาะเส้นทางหลัก และปรับปรุงให้รองรับน้ำหนัก 20 ตันแล้วเท่านั้น
เลยขอมาสรุปรายละเอียดของ Spec หัวรถจักรใหม่ 50 คัน จากรายละเอียด TOR ที่เปิดประมูลมาให้เพื่อนๆ ฟังซะหน่อยครับ
ใครอยากอ่าน TOR ตัวเต็มดูได้ตามลิ้งค์นี้ครับ
http://procurement.railway.co.th/auction/tor/pdf/2562/62662085other-2.pdf
ก่อนอื่นมาดูผู้ชนะการประมูลกันก่อน
โครงการนี้ กิจการร่วมค้าเอสเอฟอาร์ ซึ่งเป็นการร่วมมือกันระหว่างบริษัท ซานโฟโก อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และบริษัท ริเวอร์เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด เป็นผู้ชนะการประมูล
โดยรถจักรจะผลิตโดย บริษัท CRRC QISHUYAN CO., LTD. ผู้ผลิตรถจักรชั้นนำจากประเทศจีน
ซึ่งจากการดูในเว็บไซต์ของ CRRC QISHUYAN จะมีรถไฟที่เคยขาย (บริจาค) ในขนาดราง 1 เมตร ใกล้ๆ บ้านเราคือ หัวรถจักร CKD6D ซึ่งเป็นรุ่นที่ทางจีนบริจาคให้กับกัมพูชา
Spec ของ CKD6D ของกัมพูชา
https://www.crrcgc.cc/en/g5185/s12939/t264435.aspx
เรามาดูรายละเอียดใน TOR กันครับ
โครงการนี้มีรถไฟทั้งหมด 50 คัน พร้อมอะไหล่
รูปแบบการขับเคลื่อนเป็นรถไฟดีเซลไฟฟ้า (มีเครื่องยนต์ ปั่นไฟ ขับมอเตอร์) ระบบส่งกำลัง AC-DC-AC
รูปแบบแคร่รถจักร Co-Co (เป็นรูปแบบ 6 เพลา ชุดละ 3 เพลา)
ตำแหน่งพนักงานขับรถ (พขร.) อยู่ทางด้านขวาของตัวรถ
สามารถขับในสภาวะสูงสุดของเส้นทางรถไฟได้ เช่น ความชันสูงสุด 25 ใน 1000 , ความสูงสูงสุด 650 เมตร จากระดับน้ำทะเล และสามารถวิ่งบนเส้นทางมาตรฐานของการรถไฟได้
**** ความเร็วสูงสุดของรถไฟ ไม่น้อยกว่า 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง ****
โดยแบ่งมาตรการการทดสอบเป็น 3 รูปแบบ คือ
รถไฟโดยสาร
- ความเร็วไม่น้อยกว่า 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง ที่น้ำหนักโหลด 550 ตัน
- ความเร็วไม่น้อยกว่า 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ที่น้ำหนักโหลด 1000 ตัน
รถไฟสินค้า
- ความเร็วไม่น้อยกว่า 70 กิโลเมตร/ชั่วโมง ที่น้ำหนักโหลด 2100 ตัน
โดยทั้งหมดต้อง สามารถวิ่งบนทางเขาได้ความชันสูงสุด 25 ใน 1000, รัศมีโค้ง 180 เมตร และความสูงสูงสุด 650 เมตร จากระดับน้ำทะเล ที่น้ำหนักโหลด 650 ตัน
- หัวรถจักร มีกล้องบันทึกภาพ ด้านหน้า,ด้านหลัง และ มุมขอพ่วง พร้อมกับบันทึกภาพอย่างต่อเนื่อง เพื่อความปลอดภัย
- ถังน้ำมัน รองรับได้อย่างน้อย 4,500 ลิตร
- ขอพ่วงรถจักรเป็นรูปแบบ มาตรฐาน AAR เป็นขอพ่วงอัตโนมัติ
แล้วโครงการนี้ รวมการจัดซื้อเครื่องจำลองการขับที่ (Simulator) เพื่อใช้สอนและฝึกอบรมการขับขี่รถจักร ของ พขร. ได้อย่างปลอดภัย
https://www.facebook.com/Thailand.Infra/posts/1014581642313648
ส่วนสเปก SDA4 ที่ทีพีไอเอามาใช้ ที่น่าจะเอามาใช้ทำขบวน 50 หลัง
https://www.crrcgc.cc/en/g5185/s12939/t264432.aspx
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
Posted: 20/09/2020 12:32 am Post subject:
รถไฟ ทุ่ม 3.47 หมื่นล้าน ลุยจัดซื้อ รถโดยสาร-แคร่ขนสินค้า รองรับทางคู่ 7 เส้นเฟส 1 แล้วเสร็จปี65
เศรษฐกิจ
18 กันยายน 2563 เวลา 16:26 น.
การรถไฟฯ ทุ่ม 3.47 หมื่นล้าน ลุยจัดซื้อ รถโดยสาร-แคร่ขนสินค้า รองรับทางคู่ 7 เส้นเฟส 1 แล้วเสร็จปี65 หวังปั้นรายได้ขนส่งสินค้าคอนเทนเนอร์
รถไฟ ทุ่ม 3.47 หมื่นล้าน - นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า รฟท. จะเร่งหารายได้ให้มากขึ้นโดยกระจายธุรกิจไปยังการขนส่งสินค้าและพัสดุมากขึ้น เนื่องจากมีรายได้ดีกว่าการขนส่งผู้โดยสาร โดยมีแผนที่จะจัดหารถโบกี้บรรทุกตู้สินค้า (บทต.) หรือแคร่ จำนวน 965 คัน เพื่อนำมาให้บริการขนส่งสินค้าผ่านตู้คอนเทนเนอร์ เพื่อขยายตลาดการขนส่งสินค้าเพิ่มเติม ซึ่งล่าสุด รฟท. ได้หารือกับผู้ประกอบการเกลือ เพื่อทดลองขนส่งเกลือจากจังหวัดนครราชสีมา มายังนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด โดยตั้งเป้าว่าจะมีการขนส่งเหลือราว 4 แสนตันในปีแรกนี้
ขณะเดียวกันการรถไฟฯ เตรียมลงนามความร่วมมือ (MOU) ด้านการขนส่งพัสดุกับไปรษณีย์ไทยในเร็วๆ นี้ ซึ่งการขนส่งประเภทนี้มีอัตรากำไรเบื้องต้น (Margin) มากกว่าการขนส่งสินค้า
นายสุจิตต์ เชาว์ศิริกุล รองผู้ว่า รฟท. เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการจัดหาแคร่สินค้าจำนวน 965 คัน ว่า มีความจำเป็นที่จะต้องเร่งดำเนินการ เพื่อให้ทันกับการก่อสร้างรถไฟทางคู่ 7 เส้นทางที่จะแล้วเสร็จทั้งหมดในปี 2565 เนื่องจากเมื่อทางคู่เสร็จจะมี สถานีเก็บและกระจายตู้สินค้า (CY) เพิ่มจำนวนมากตามแนวเส้นทางคู่ เพื่อรองรับการให้บริการขนส่งสินค้าทางคอนเทนเนอร์
สำหรับโครงการดังกล่าว รฟท. จะใช้เงินลงทุนในการจัดหา ประมาณ 2-2.2 พันล้านบาท โดยขณะนี้ได้นำเสนอเรื่องไปยังกระทรวงคมนาคมให้พิจารณาเห็นชอบแล้ว เห็นชอบจะเสนอขอความเห็นไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตั้งเป้าหมายที่จะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติภายในปีนี้ และเปิดประมูลภายในปี 2564 และเริ่มทยอยรับมอบล็อตแรกในปี 2565
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีผู้ประกอบการเอกชนสนใจใช้บริการขนส่งสินค้าทางคอนเทนเนอร์เป็นจำนวนมาก อาทิ บริษัท ทีพีไอโพลีน มีความต้องการจะขนส่งปูนซีเมนต์มากว่ามากกว่าปีละ 2 ล้านตัน
นอกจากนี้ รฟท. ยังเตรียมที่จะผลักดันโครงการจัดหาที่สำคัญอีก 2 โครงการ ซึ่งเป็นไปตามแผนพัฒนารถไฟ ในช่วงระยะ 5 ปี 2564-68 ได้แก่ โครงการจัดหารถดีเซลรางเชิงสังคม จำนวน 216 คัน วงเงิน 1.62 หมื่นล้าน และโครงการจัดหารถดีเซลรางโดยสารแบบชุดจำนวน 273 ตู้ วงเงิน 9.5 พันล้าน-1.63 หมื่นล้านบาท
โดยในส่วนของรถดีเซลรางโดยสารแบบชุดขณะนี้อยู่ระหว่างรอเสนอให้บอร์ด รฟท. พิจารณาอนุมัติ โดยทั้งสามโครงการข้างต้นนั้น รฟท. จะต้องเร่งดำเนินการโดยเร็ว เพราะเป็นเครื่องมือสำคัญในการเพิ่มรายได้
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
Back to top
You cannot post new topics in this forum You cannot reply to topics in this forum You cannot edit your posts in this forum You cannot delete your posts in this forum You cannot vote in polls in this forum
Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group